รีวิวฉบับที่ 1720….สำหรับใครที่มองหาคอนโดใกล้ที่ทำงานใจกลางเมืองอย่างสาทร คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนใหญ่ราคาต่อตารางเมตรสูงเกินแสนบาทต่อตารางเมตรกันไปหมดแล้ว วันนี้จะพาไปชม Blossom Condo @ สาทร-เจริญราษฎร์ กลุ่มคอนโด Low Rise และ โฮมออฟฟิศ ที่ราคาพอหยิบจับได้ ตั้งอยู่บนถนนเจริญราษฎร์ ห่างจากสาทรมาหน่อยแต่เดินทางเข้าถึงแหล่งงานได้สะดวก อีกทั้งยังใกล้ทางด่วนอีกด้วย ส่วนกลางมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่พร้อมสระว่ายน้ำสไตล์รีสอร์ท ในราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท จาก Siamese Asset โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
Fact @ 25 October 2018
- Blossom condo @ Sathorn – Charoenrat (บลอสซั่ม คอนโด แอท สาทร-เจริญราษฎ์)
- บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : สาทร
- โครงการประกอบด้วย 6 อาคาร แบ่งเป็น
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวนห้องพักรวม 776 ยูนิต
- อาคาร A 228 ยูนิต
- อาคาร C 211 ยูนิต
- อาคาร D 197 ยูนิต
- อาคาร E 140 ยูนิต
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.710772, 100.520350
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ Blossom Condo @ สาทร-เจริญราษฎร์ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่เจริญราษฎร์ช่วงที่ใกล้กับถนนจันทน์ เป็นทำเลที่ไม่ไกลจาก BTS สุรศักดิ์มากนักและใกล้กับแหล่งงานใจกลางเมืองอย่างสีลม-สาทรพอสมควร การเดินทางโดยใช้รถถือว่าสะดวกดีเพราะถนนเจริญราษฎร์นี้เป็นถนนที่เชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้หลายทาง ถ้าวิ่งตรงไปทางเหนือจะไปเชื่อมต่อกับถนนสาทร ซึ่งถ้าวิ่งไปทางตะวันออกจะใช้เส้นทางไปยังวงเวียนใหญ่หรือถ้าไปทางตะวันตกจะไปเชื่อมต่อกับถนนถนนพระราม 4ได้ นอกจากนั้นถนนเจริญราษฎร์ยังสามารถวิ่งทะลุไปยังถนนสีลมได้เช่นกัน อีกเส้นทางหนึ่งจากถนนเจริญราษฎร์ถ้าลงใต้มาทางแยกที่ตัดกับถนนจันทร์ตรงไปจะเป็นถนนพระราม 3 หรือถ้าวิ่งเข้าถนนจันทน์ก็จะไปเชื่อมต่อกับถนนนราธิวาสราชนครินทร์ได้ และสำหรับใครที่เร่งรีบทำเลนี้ก็มีทางด่วนให้ใช้อยู่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ
สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถ จะไม่ค่อยสะดวกนักเนื่องจากที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยไม่มีรถประจำทางผ่าน แต่บริเวณด้านหน้าโครงการจะมีวินมอเตอร์ไซค์มาตั้ง จะช่วยให้สะดวกขึ้นในอนาคตค่ะ หรือคนที่ต้องการเรียกรถ Taxi หรือ Grab ก็สามรถเดินออกมายังหน้าซอยเพื่อเรียกได้ ส่วนใครที่ต้องการใช้รถไฟฟ้า สามารถเดินไปขึ้นที่สถานีสุรศักดิ์ได้ แต่อาจจะไกลซักหน่อยค่ะ
ที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจาก BTS สถานีสุรศักดิ์ประมาณ 1.1 กิโลเมตร เป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกลหน่อยสำหรับคนที่ไม่ชอบเดิน แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะทางโครงการมีรถรับ-ส่ง Shuttle Van ให้ที่สถานี BTS สุรศักดิ์ ตามระยะเวลาที่นิติกำหนด ดังนี้
- เวลาออกจากโครงการ 7.00, 8.00, 9.00, 11.00, 13.00, 15.00, 17.00, 18.00 น.
- เวลาถึงสถานีสุรศักดิ์ 7.30, 8.30, 9.30, 11.30, 13.30, 15.30, 17.30, 18.30 น.
หมายเหตุ : รถจะหยุดรอที่สถานีสุรศักดิ์ประมาณ 5-10 นาทีแล้ววิ่งกลับคอนโด
ทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ใกล้กับแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิม ที่มีคนเก่าแก่ในพื้นที่อยู่เยอะพอสมควรและเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์มากๆค่ะ ทำให้มีสถานศึกษา โรงเรียนเก่าที่มีชื่อเสียงอย่าง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, โรงเรียนอัสสัมชันศึกษา, โรงเรียนเซนต์หลุยส์ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีวัดวาอารามมากมาย มีร้านค้าร้านอาหารข้างทางขึ้นชื่อหลายร้าน สามารถหาซื้อของกิน ช้อปปิ้งได้อย่างตลาดแสงจันทร์, ตลาดแก่นจันทร์,Tops Maket , Vanilla Moon (Community Mall ในย่านนี้) เป็นต้น และยังใกล้กับสถานที่เที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง Asiatique The Riverfront อีกด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีสถานพยาบาล สวนสาธารณะ,ลานกีฬา อยู่ในระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตรจากโครงการ ถือว่าค่อนข้างครบครัน แต่ถ้าพูดถึงในระยะเดินจากโครงการออกไปยังย่านของกินนั้นอาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เนื่องจากแถวๆโครงการไม่ได้มีของกินขายเยอะนัก จะมีเป็นร้านอาหารตามบ้านในชุมชนมากกว่าค่ะ
เส้นทางการเดินทางจะเริ่มจากจุดลงทางพิเศษศรีรัช เข้าถนนสีลมและผ่านซอยสุรศักดิ์มาทะลุออกยังถนนสาทร และขับตรงมายังถนนเจริญราษฎร์ขนานกับทางพิเศษศรีรัชจะเจอกับทางเข้าโครงการด้านซ้ายมือไปดูรายละเอียดการเดินทางกันค่ะ
มาเริ่มกันที่จุดลงทางพิเศษศรีรัช ทางออก ต.2-11 ป้ายบอกทางถนนสีลมให้เราชิดซ้ายไว้ค่ะ
ลงจากทางพิเศษมาแล้วให้เราตรงไปสังเกตป้ายเลี้ยวซ้ายไปถนนพระราม 4 ตรงนี้จะชิดซ้ายไว้เลยก็ได้ค่ะ
มาถึงทางแยกมีสัญญาณไฟจราจรให้เลี้ยวซ้าย ตรงนี้เป็นซ้ายผ่านตลอดค่ะเลี้ยวได้เลย
เมื่อมายังถนนสีลมแล้วให้รีบชิดขวา เดี๋ยวเราจะเลี้ยวขวาเข้าซอยสุรศักดิ์ซึ่งค่อนข้างกระชั้นชิดเล็กน้อย
มาถึงทางแยกมีสัญญาณไฟ ให้เลี้ยวขวาเข้าซอยสุรศักดิ์เลยค่ะ
ระหว่างทางที่ซอยสุรศักดิ์ก็จะมีตึก Jewelry Trade Center ด้านในจะมี Bangkok Fashion Outlet อยู่ด้วย
ตรงมาเรื่อยๆจะเจอกับป้ายบอกทางตรงไปยังถนนเจริญราษฎร์ ให้เราตรงไปค่ะ
มาถึงแยกถนนสีลมซ้ายมือเป็นทางไป BTS สุรศักดิ์ ส่วนทางขวามือไปกรุงธนบุรีได้ ให้อยู่ช่องกลางเพื่อจะตรงไปเรื่อยๆค่ะ
ตรงมาจะเจอกับทางแยกทางซ้ายเป็นทางขึ้นทางพิเศษ ให้เราขับตรงไป
มาถึงใต้ทางด่วนให้เราขับตรงไปเรื่อยๆก่อนค่ะ บรรยากาศตรงนี้จะเริ่มเงียบๆไม่วุ่นวายเหมือนใจกลางเมืองแล้ว
เมื่อเราตรงมาอีกจะผ่านซอย เจริญราษฎร์ 3 เป็นจุดสังเกตว่าใกล้ถึงทางเข้าโครงการแล้ว ให้เตรียมตัวชิดซ้าย
ถัดมาอีกนิดจะสังเกตเห็นป้ายโครงการได้ทางซ้ายมือ
เลี้ยวซ้ายที่ป้ายโครงการแล้วขับตามทางต่อไป
เมื่อเข้ามาจนสุดถนนซอยจะเจอกับทางเข้าโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งปัจจุบันกำลังปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านหน้าโครงการอยู่ค่ะ ด้านหน้าโครงการกำลังจะมีป้ายวินมเตอร์ไซค์มาอยู่เป็นตัวเลือกการเดินทางอีกอย่างของคนที่อยู่ที่นี่ด้วยค่ะ
จากโครงการเราสามารถไปยัง BTS สุรศักดิ์ ได้นะคะ ถ้าขี้เกียจเดินก็นั่งพี่วินไปราคาก็ประมาณ 20 บาทเท่านั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรงเรียนเซนต์หลุยส์ – 750 เมตร
- ตลาดแสงจันทร์ – 800 เมตร
- Vanilla Moon – 1.1 กิโลเมตร
- BTS สุรศักดิ์ – 1.1 กิโลเมตร
- โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน – 1.3 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ – 1.4 กิโลเมตร
- โรบินสัน บางรัก – 1.5 กิโลเมตร
- ตลาดบางรัก – 1.7 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ – 2.2 กิโลเมตร
- เอเชียทีค – 3.5 กิโลเมตร
- เซ็นทรัลพระราม 3 – 3.5 กิโลเมตร
- BRT เจริญราษฎร์ – 4.0 กิโลเมตร
ส่วนใหญ่บริเวณแถวนี้ยังเป็นพื้นที่ชุมชนพักอาศัย โดยรอบจะไม่มีอาคารสูงตั้งอยู่เลย ด้านหน้าโครงการทางทิศตะวันตกจะติดกับถนนเจริญราษฎร์ และทางพิเศษศรีรัช ตรงข้ามถนนเป็นอาคารพักอาศัย Low Rise ทางทิศเหนือติดกับชุมชนพักอาศัยความสูงประมาณ 2 ชั้น เป็นชุมชนที่อยู่ใกล้วัดและมัสยิด คนที่อยู่ติดทางทิศนี้อาจจะได้ยินเสียงมัสยิดหรือเสียงจากวัดบ้างบางครั้ง ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเป็นชุมชนพักอาศัยความสูงประมาณ 2 ชั้นเช่นกัน ซึ่งรายละเอียดที่ดินติดกับโครงการด้านทิศต่างๆมี ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดกับ ชุมชนพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น
- ทิศตะวันออก ติดกับ ชุมชนพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น
- ทิศใต้ ติดกับ ชุมชนพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น
- ทิศตะวันตก ติดกับ ถนนเจริญราษฎร์, ทางพิเศษศรีรัช ฝั้งตรงข้ามถนนเป็นอาคารพักอาศัยสูงประมาณ 5 ชั้น
ทิศเหนือ เป็นอาคารพักอาศัย สูงประมาณ 4 ชั้น และถัดไปเป็นชุมชนที่พักอาศัยแนวราบ
ทิศตะวันออก ติดกับถนนรองหน้าโครงการที่กำลังปรับปรุงภูมิทัศน์อยู่และถัดไปเป็นถนนเจริญราษฎร์
ทิศตะวันตก ติดกับชุมชนที่พักอาศัยแนวราบสูง 2-4 ชั้น
โครงการ Blossom Condo @ สาทร-เจริญราษฎร์ เป็นโครงการที่มีทั้ง คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงานและอาคารพาณิชย์ รวมทั้งหมด 6 อาคาร วางอยู่ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลางที่ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนหย่อมขนาดใหญ่ บนพื้นที่ประมาณ 7-1-56.5 ไร่ มีห้องพักรวมทั้งโครงการ 792 ยูนิตเป็นห้องพักอาศัย 776 ยูนิต มีที่จอดรถทั้งหมดประมาณ 390 คันคิดเป็น 49%(ของยูนิตทั้งโครงการ)ไม่รวมจอดซ้อนคัน พื้นที่จอดรวมกันที่ชั้นใต้ดิน โดยทางโครงการจะจัดสรรที่จอดรถให้ และสำหรับผู้มาติดต่อจะมีที่พื้นที่ให้จอดรถโดยเฉพาะ โดยไม่ปะปนกับส่วนของลูกบ้านค่ะ สำหรับคนที่อยู่คอนโดและอาคารสำนักงานด้านหน้า จะสามารถลงมาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ค่ะ แต่สำหรับอาคารสำนักงานจะมีการจำกัดสิทธิ์ว่าใช้ได้กี่คน ซึ่งรายละเอียดจะต้องสอบถามกับทางโครงการอีกทีนะ
โดยอาคารทั้งโครงการจะแบ่งเป็น
- อาคาร A เป็นอาคารพักอาศัย สูง 8 ชั้น จำนวน 228 ยูนิต ที่จอดรถ 83 คัน
- อาคาร B เป็นอาคารสำนักงานสูง 7 ชั้น จำนวน 12+2 ยูนิต ที่จอดรถ 74 คัน
- อาคาร C เป็นอาคารพักอาศัย สูง 8 ชั้น จำนวน 211 ยูนิต ที่จอดรถ 49 คัน
- อาคาร D เป็นอาคารพักอาศัย สูง 8 ชั้น จำนวน 197 ยูนิต ที่จอดรถ 81 คัน
- อาคาร E เป็นอาคารพักอาศัย สูง 8 ชั้น จำนวน 140 ยูนิต ที่จอดรถ 62 คัน
- อาคาร F เป็นอาคารพาณิชย์ สูง 1 ชั้น จำนวน 2 ยูนิต ที่จอดรถ 3 คัน
การวางผังมีแนวความคิดในการนำเอาพื้นที่สีเขียวเปิดโล่งขนาดใหญ่ไว้ตรงกลางกลุ่มอาคาร ให้ทุกๆอาคารนั้นสามารถเห็นพื้นที่ตรงกลางได้ ซึ่งจะมีทั้งสระว่ายน้ำ, Fitness และพื้นที่สวนที่มีต้นไม้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นแม้ในเวากลางวัน รูปแบบตัวอาคารใช้สีโทนเข้ม มีการใช้ Green Wall อยู่บริเวณระเบียงซึ่งจะได้ทุกห้องพักอาศัยเลยค่ะ
มาดูผังโครงการกันบ้าง ทางเข้า-ออกจะมีทางเดียวติดกับถนนเจริญราษฎร์ มีการออกแบบกลุ่มอาคารให้ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลางที่จัดมาใ้เป็นพื้นที่สีเขียวมีไม้ยืนต้นค่อนข้างเยอะทำให้บรรยากาศร่มรื่น โดยเมื่อเข้ามาตอนแรกจะเจอกับอาคาร A ก่อน ซึ่งคนที่อยู่อาคาร A มีข้อดีคือเข้าโครงการมาก็ถึงเลย ไม่ต้องเดินไกล แต่จะเสียความเป็นส่วนตัวหน่อยเนื่องจากมีคนผ่านเข้า-ออกอยู่ตลอดเวลาและจะได้ยินเสียงจากเทวศาสนาบ้างในบางเวลา ถัดมาเป็นทางลาดลงลานจอดรถชั้นใต้ดินซึ่งเชื่อมกันทุกอาคาร สามารถเข้าไปจอดรวมกันได้ไม่ได้ FIX ตำแหน่งช่องจอด ถัดมาคืออาคาร B ซึ่งอยู่ตรงกลางด้านหน้าติดกับถนนเจริญราษฎร์เลย เป็นอาคารสำนักงาน ด้านบนเป็นสำนักงานให้เช่า 12 ยูนิตและด้านล่างเป็นร้านอาหาร ถัดมาอาคาร C สามารถเข้าถึงได้ง่ายรองจากอาคาร A แต่ทางทิศตะวันตกติดกับทางพิเศษศรีรัชห้องที่อยู่ฝั่งนี้อาจจะทำให้มีเสียงรบกวนได้บ้าง อาคาร D อยู่ด้านในสุด ทำให้การเข้าถึงไกลที่สุดและเห็นวิวส่วนกลางน้อยแต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าอาคารอื่นๆ อาคาร E เป็นอาคารที่เห็นพื้นที่ส่วนกลางเยอะที่สุด เป็นส่วนตัวแต่อยู่ด้านในจะต้องเดินไกลหน่อย ทิศอาคารส่วนใหญ่วางผังในแนวทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งจะไม่โดนแดดร้อนทางทิศตะวันตก ยกเว้นอาคาร E และ D จะมีห้องบางส่วนที่โดนค่ะ นอกจากอาคารพักอาศัยแล้วยังมีอาคาร F สูง 1 ชั้น ตั้งอยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยหมู่อาคารต่างๆ อาคารนี้เป็นอาคารพาณิชย์ส่วนกลางที่มีทั้ง Fitness และร้านอาหารที่ให้คนมาเช่า แต่ละอาคารมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปตามผังโครงการ ลูกบ้านต้องเป็นคนตัดสินใจเองแล้วค่ะ ว่าชอบข้อดี-ข้อเสียของอาคารไหน รายละเอียดโครงการจะเป็นยังไง เราไปรับชมพร้อมๆกันเลยค่ะ
ทางเข้า-ออกโครงการ แบ่งเป็น 2 ช่องทางเข้าด้วยระบบ Access Card แตะบัตรเข้า มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยประจำอยู่บริเวณทางเข้า 24 ชั่วโมง ด้านหน้าติดกับอาคาร A เป็นอาคารพักอาศัย (ทางซ้ายมือ)
ผ่านประตูไม้กั้นกระดกเข้ามาแล้วจะเจอกับอาคาร B ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานสูง 7 ชั้น อยู่ด้านหน้าเลย
ถนนทางเข้า-ออกถัดจากรั้วกั้นไม้กระดกเข้ามาจะเป็นถนนกว้าง 2 เลน รถขับสวนกันได้สบายๆ อาคารที่เห็นทางฝั่งซ้ายคืออาคาร B เป็นอาคารพาณิชย์ สูง 7 ชั้นค่ะ
ทางเข้าอาคารสำนักงานด้านหน้าเป็นผนังบานกระจกทั้งหมด ซึ่งถูกดันเข้าไปเพื่อลดความร้อนเข้าสู่อาคาร และเป็นที่หลบแดดและฝนยามฝนตกได้
ด้านในบริเวณชั้น 1 เป็นฝ้าสูงแบบ Double Space หน้างานยังไม่เรียบร้อยนัก
ชั้นล่างของอาคารสำนักงานมีร้านอาหารอยู่ด้วย ปัจจุบันยังไม่ได้เปิดให้บริการค่ะ ยังอยู่ในระหว่างเตรียมการอยู่
ภายในตกแต่งสวยงาม ดูน่าแวะมาทานร้านอาหารที่นี่มากเลยค่ะ คนที่ไม่ใช่ลูกบ้านของโครงการก็สามารถแวะมาทานข้าวที่นี่ได้เช่นกันค่ะ
บรรยากาศด้านในร้านอาหารอีกมุมหนึ่งค่ะ มีที่นั่งค่อนข้างเยอะเลย
ภาพนี้เป็นโถงลิฟต์ อาคาร B ซึ่งเดี๋ยวจะแวะพาไปชมพื้นที่สำนักงานกันสักเล็กน้อย
ขึ้นมาแล้วที่โถงลิฟต์ชั้นบน จะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ซ้าย – ขวา 2 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น โซน B1 พื้นที่ 270 ตารางเมตร และโซน B2 มีพื้นที่ถึง 467.45 ตารางเมตร
เราจะพามาชมห้องสำนักงานตัวอย่างฝั่ง B2 พื้นที่ 467.45 ตารางเมตร กันค่ะ บรรยากาศภายในสำนักงานตัวอย่างแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน กว้างๆได้เลย โดยที่ส่วนแรกเป็นประชาสัมพันธ์และส่วนพักผ่อน
สามารถวางชุดโซฟาใหญ่ๆ รวมถึงส่วนนั่งเล่นได้สบายๆ จะกั้นแบ่งส่วนด้วยบานกระจกก็สามารถทำได้
ด้านในเป็นพื้นที่โล่งกว้าง มีหน้าต่างรอบทิศทางทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ ช่วยการทำงานรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นค่ะ
ถัดมาเราไปดูลานจอดรถกันค่ะว่าเป็นอย่างไร ทางขึ้นลงลานจอดรถจะมีทางเดียวแบบสวนกันอยู่ที่ด้านหน้าโครงการเลย(ก่อนอาคาร B)
เมื่อลงมาแล้วจะเป็นที่จอดรถใต้ดิน 3 ชั้น เชื่อมกันทุกอาคาร รวมที่จอดรถประมาณ 390 คันคิดเป็น 49%(ของยูนิตทั้งโครงการ)
มีลิฟต์จากอาคารพักอาศัยลงมา ทำให้จากลานจอดรถชั้นใต้ดินสามารถเข้าไปยังอาคารพักอาศัยได้เลย
ถัดมาเป็นทางเดินกันบ้าง ภายในโครงการจะมีทางเดินระหว่างอาคารและพื้นที่ส่วนกลางทุกอาคาร เชื่อมกันทั้งหมด บรรยากาศโดยรอบเป็นพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ใหญ่เป็นส่วนมาก ทำให้ดูร่มรื่น
นอกจากบันไดแล้วยังมีทางลาดสำหรับรถเข็นขนของให้ด้วยค่ะ ต่อไปเราจะพาเลี้ยวขวาไปชมพื้นที่ส่วนกลางกัน
พื้นที่ส่วนกลางมีการเล่นระดับจะอยู่สูงจากระดับพื้นถนนประมาณ 1.50 เมตร
ด้านบนเป็นพื้นที่นั่งเล่นหลังอาคาร B จะมีต้นไม้ใหญ่กระจายอยู่ทั่วทั้งโครงการตามแนวความคิดในการออกแบบเน้นพื้นที่สีเขียว
นอกจากนั้นเมื่อหันหลังกลับมาจะเป็นอาคาร A ซึ่งเป็นอาคารพักอาศัย ซึ่งบริเวณระเบียงจะมีฉากกั้นที่ทางโครงการปลูกไม้เลื้อยเป็น Green Wall ตาม Concept ของโครงการที่เน้นความร่มรื่นและช่วยบังตาให้ภายในห้องเป็นส่วนตัวมากขึ้น การดูแลรักษาจะไม่ได้มีระบบรดน้ำแบบอัตโนมัติให้ จะต้องรดเอง ซึ่งเวลารดอาจจะต้องระวังคนที่อยู่ด้านล่างหน่อย ใครที่ไม่ชอบต้นไม้เลื้อยอาจจะใช้เป็นไม้กระถางเล็กๆแขวนแทนได้เช่นกันค่ะ
มาต่อกันที่พื้นที่ส่วนกลางเดินมาอีกเล็กน้อยจะเจอกับอาคาร F ด้านซ้ายมือซึ่งเป็นอาคารของพื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วย Fitness และ ร้านค้า
ซึ่งอาคารนี้จะมีบันไดเชื่อมไปยังพื้นที่จอดรถได้
ทางเข้า Fitness จะอยู่ที่ด้านข้างของบันได
ด้านใน Fitness มีกระจกล้อมรอบ 2 ด้าน อีกฝั่งติดเป็นกระจกเงา ช่วยให้ดูโปร่งและสะท้อนบรรยากาศจากภายนอกเข้ามาในห้อง Fitness ได้ ภายในปูพื้นด้วยลามิเนตลายไม้และไฟโทนสีส้มทำให้ดูอบอุ่น
พื้นที่ค่อนข้างกว้าง สามารถวางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 13 เครื่อง ซึ่งค่อนข้างเยอะทีเดียว
ขณะออกกำลังกายไปก็สามารถมองเห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางได้ ซึ่งบรรยากาศค่อนข้างร่มรื่นและผ่อนคลาย น่าใช้งานสำหรับคนที่ชอบออกกำลังต้องชอบพื้นที่ส่วนนี้แน่ๆเลยค่ะ
ภายในห้อง Fitness ก็มีเครื่องออกกำลังกายที่หลากหลายแตกต่างกันประมาณ 7 ชนิดเลย
ออกมาที่ด้านนอกกันต่อเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำอยู่ตรงกลางเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 6 x 23 เมตร ลึก 1.20 เมตร ล้อมรอบด้วยสวนและพื้นที่นั่งพักผ่อนทั้ง 2 ด้าน
ด้านขวาเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนออกแบบมาให้ความรู้สึกเหมือนระเบียงไม้ที่เชื่อมกับสระว่ายน้ำ มีต้นลีลาวดี เป็นไม้บังสายตาและช่วยกรองแสงแดดในเวลากลางวัน ทำให้บริเวณนี้ไม่ร้อนค่ะ
ตรงนี้ยังมีบันไดเล็กๆเดินลงสระได้เลย อารมณ์เหมือนพักผ่อนที่รีสอร์ท
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่นั่งอาบแดดริมสระสำหรับคนที่ชอบผิวสีแทน มีเก้าอี้นั่งพักผ่อนเห็นวิวร่มรื่นฝั่งตรงข้าม
ด้านหลังเป็นลานสนามหญ้าค่อนข้างกว้าง มีเล่นระดับทำลายบนพื้นด้วยขอบคอนกรีตเพิ่มเส้นสายให้กับสนามหญ้า ใครที่มีเด็กเล็กก็สามารถพามาวิ่งเล่นได้เลยค่ะแต่ต้องระวังพื้นต่างระดับสักหน่อยนะคะ
มีสระว่ายน้ำสำหรับเด็กเชื่อมกับสระผู้ใหญ่ด้วยค่ะ ตรงริมยังมีชานยื่นออกมาให้สำหรับผู้ปกครองที่มาดูแลเด็กๆอย่างใกล้ชิดได้ใช้งานกัน รอบๆพื้นที่สระก็มีไม้พุ่มไม้ยืนต้นล้อมรอบบังสายตาจากด้านนอก
พื้นที่ล้างตัวก่อนลงสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ด้านในที่สุด ติดกับพื้นที่สวนใกล้ๆกับสระเด็ก คนที่เดินมาจากอาคาร D และ E จะใกล้ที่สุดค่ะ
มุมล้างตัวออกแบบเป็นลายไม้เข้ากับพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ทำให้กลมกลืนกับพื้นที่สีเขียวรอบๆด้วยค่ะ
มาดูอีกฝั่งนึงกันบ้าง ทางด้านซ้ายมือเป็นห้อง Fitness ที่เราพาไปดูกันแล้ว เราจะพาเดินข้ามทางเดินลอยน้ำไปยังห้องด้านหน้าซึ่งเป็นร้านอาหารกันค่ะ
เนื่องจากที่ตั้งโครงการไม่ได้อยู่ในแหล่งที่สามารถเดินออกไปหาของกินได้ง่ายนัก ภายในโครงการจึงมีห้องอาหารให้ถึง 2 ร้านด้วยกันค่ะ ร้านแรกอยู่ที่อาคาร B(สำนักงาน) ชั้น 1 และที่อาคาร F นี้อีก 1 ร้านค่ะ เป็นร้านอาหารที่บรรยากาศดีทีเดียว สามารถมองเห็นสวนทางทิศเหนือและสระว่ายน้ำส่วนกลางได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ภาพบรรยากาศด้านหน้าห้องอาคาร อาคาร F มองตรงไปเห็นสวนและอาคาร A
ภาพบรรยากาศสวนทางทิศเหนือของโครงการอยู่ติดกับอาคาร A (ทางขวามือ)
ถัดมาเราจะไปดูทางลงไปยังอาคารพักอาศัยกันบ้าง อาคารด้านหน้าคืออาคาร E มีพื้นชั้น 1 อยู่ระดับต่ำกว่าพื้นที่ส่วนกลางประมาณ 1.5 เมตร
มีการออกแบบทางลาดสำหรับคนที่ใช้รถเข็นได้ใช้งาน ถือว่าคำนึงถึงการใช้งานทุกช่วงวัยเลยค่ะ
ด้านข้างเป็นบันได ลงไปยังด้านหน้าอาคาร E
ถัดไปเราไปดูทางลงไปยังอาคาร D กันบ้าง ทางเดินจะมีการเล่นระดับ และการตกแต่งแตกต่างกัน ทำให้ไม่น่าเบื่อ
มีทั้งทางลาดปูกระเบื้องและทางเดินบนพื้นหิน ไปยังสนามหญ้า
บริเวณนี้เราจะเห็นห้องพักชั้น 1 ซึ่งเป็นห้อง Duplex ของอาคาร E อยู่ด้วยค่ะ แต่มีรั้วและไม้พุ่มกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านให้
ถัดมาเป็นทางลงจากพื้นที่ส่วนกลางไปยังอาคาร C และอาคาร D 2 ข้างทางมีต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบทำให้เดินตอนกลางวันไม่ร้อนมากนักค่ะ
เมื่อลงจากทางเดินมาแล้วด้านซ้ายมือจะเป็นพื้นที่จอดรถสำหรับแขกที่มาติดต่อ
ด้านซ้ายเป็นทางเข้าอาคาร D ซึ่งอาคารที่เปิดขายตอนนี้ก็คืออาคาร C และ อาคาร D เราไปดูผังอาคารกันเลยค่ะ
มาเริ่มที่อาคาร C ชั้น 1 กันก่อน อาคาร C มีทั้งหมด 211 ยูนิต ที่ชั้น 1 จะเป็นห้องแบบ Loft ฝ้าเพดานสูงที่ทางโครงการเรียกว่า Duplex (ฝ้าเพดานสูง 4.40 เมตรและมีชั้นลอย) ทั้งหมด วางผังเป็น Double Corridor ห้องพักหันหน้าเข้าหากัน ประตูห้องเปิดตรงกัน ทำให้ลูกบ้านจะเสียความเป็นส่วนตัวได้ มีทางเข้าและส่วนของระบบลิฟต์อยู่ทางด้านทิศตะวันตก ทำให้คนที่อยู่ห้องทางทิศตะวันออกต้องเดินไปยังลิฟต์ไกลหน่อย ห้องทางทิศตะวันตกจะเดินใกล้กว่าแต่ก็แลกกับอยู่บริเวณใกล้ลิฟต์ก็จะได้ยินเสียงคนเดินผ่านไป-มาบ่อยกว่าห้องอื่นๆ อาคาร C นี้มีอัตราส่วนลิฟต์โดยสารอยู่ที่ 105.5 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นจนเกินไป ทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานในเวลาเร่งด่วนค่ะ
ชั้น 2 – 8 ของอาคาร C มีการวางผังเหมือนกับชั้น 1 คือ Double Corridor ประตูเปิดตรงกันทั้งหมดอาจทำให้เสียความเป็นส่วนตัวได้ ส่วนใหญ่เป็นห้องพักอาศัยแบบ 1 Bedroom มีห้อง 2 Bedroom แค่ชั้นละ 4 ห้องบริเวณมุมอาคารเท่านั้น เป็นห้องที่มีความสูงฝ้าปกติอยู่ที่ 2.5 เมตร (บริเวณดรอป 2.3 เมตร) ห้องทางทิศเหนือจะเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง ทางทิศตะวันออกเห็นด้านข้างของอาคาร D ทิศใต้เห็นชุมชนพักอาศัยสูง 2 ชั้นด้านนอกโครงการ และทิศตะวันตกเห็นทางพิเศษศรีรัช ทิศนี้อาจจะได้ยินเสียงรบกวนจากทางด่วนบ้าง ใครที่กังวลเรื่องเสียงแนะนำให้เลือกห้องทางทิศอื่นจะดีกว่าค่ะ
มาดูที่อาคาร D กันบ้าง อาคานี้มีทั้งหมด 197 ยูนิต ชั้น 1 เป็นห้องแบบ Duplex ความสูงฝ้า 4.4 เมตร มีการวางผังคล้ายรูปตัว L ทำให้ห้องพักบางส่วนเป็น Single Corridor คือประตูห้องไม่หันชนกับห้องตรงข้าม ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น คือห้องทางด้านตะวันออก แต่ก็แลกกับเป็นห้องที่ใกล้กับลิฟต์ที่สุด อาจจะได้ยินเสียงรบกวนบริเวณลิฟต์แทน ห้องทางทิศตะวันตกเป็นห้องที่อยู่ไกลโถงลิฟต์มากที่สุดแต่ก็ได้เสียงรบกวนน้อยที่สุดค่ะ อาคาร D มีอัตราส่วนลิฟท์ที่ 98.5 : 1 ไม่หนาแน่น ทำให้ช่วงเวลาเร่งด่วนไม่ต้องรอลิฟต์นานค่ะ
ชั้น 2 – 8 ของอาคาร D มีการวางผังคล้ายกับชั้นล่าง เน้นห้องแบบ 1 Bedroom มีห้อง 2 Bedroom ชั้นละ 5 ห้องบริเวณมุมอาคาร เป็นชั้นที่มีความสูงฝ้าปกติที่ 2.5 เมตร (บริเวณดรอป 2.3 เมตร) ห้องทางทิศเหนือจะเห็นวิวเป็นอาคาร E และชุมชนพักอาศัยสูง 2 ชั้น ห้องทางทิศตะวันออกและทิศใต้จะเห็นชุมชนพักอาศัยสูง 2 ชั้น และห้องทางทิศตะวันตกจะเห็นอาคาร C ห้องที่มีความเป็นส่วนตัวที่สุดคือห้อง 2 Bedroom ทางทิศเหนือและทิศตะวันตก เพราะว่าอยู่บริเวณมุมอาคารคนเดินผ่านหน้าห้องน้อยและอยู่ห่างจากโถงลิฟต์ค่ะ
ถัดมาเราจะพามาดูในอาคาร D กันค่ะ ที่ชั้น 1 เมื่อเข้ามาแล้วเป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูง 4.4 เมตร มีชั้นจดหมายอยู่ทางด้านซ้ายมือก่อนถึงโถงลิฟต์
โถงลิฟต์ไม่ได้มีประตูกั้น อยู่ติดกับบันไดหนีไฟ แต่ลิฟต์เป็นแบบล็อคชั้นค่ะ
บรรยากาศชั้น 2 บริเวณโถงลิฟต์ ฝ้าเพดานสูง 2.5 เมตรเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว ห้องที่อยู่ด้านหน้าลิฟต์เข้าถึงสะดวก แต่จะไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวค่ะ
บริเวณโถงทางเดินห้องพักอาศัยด้านบนเป็นงานระบบเดินลอยทาสีดำให้ดูเรียบร้อย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby Lounge
- Meeting Room
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 23 เมตร ไม่รวมสระเด็ก, สระผู้ใหญ่ลึก 1.20 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 13 เครื่อง
- สวนหย่อมรอบโครงการ 3,168.55 ตร.ม.
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 79.2 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 114 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B (อาคารสำนักงาน) 6 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 105.5 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 98.5 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก E 70 : 1
- Service Lift n/a ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 390 คันคิดเป็น 49%(ของยูนิตทั้งโครงการ) ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
สำหรับห้องตัวอย่าง ทางโครงการมีห้องตัวอย่างอยู่หลายแบบ แต่เราจะคัดมาให้ชมกัน 2 แบบนะคะ ห้องแรกเป็นห้อง 1 Bedroom แบบ 1A-3 ขนาด 30.21 – 31.85 ตารางเมตร ให้เฟอร์นิเจอร์มาแบบ Fully Furnished (เฉพาะจองภายในปีนี้) เข้ามาจะเจอกับโถงเล็กๆ มีห้องน้ำอยู่ด้านหน้าซึ่งห้องน้ำของที่นี่จะได้เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปทั้งโครงการเลยค่ะ ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นตู้เสื้อผ้า Built-in เข้ามุมพอดี ถัดเข้าไปจะเจอกับห้องนอนก่อน ซึ่งกั้นด้วยกระจกใส 2 ด้าน ทำให้ได้ความโปร่ง โล่ง สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้แต่ก็อาจจะเสียความเป็นส่วนตัวเวลานอน ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวต้องติดม่านเพิ่มค่ะ ฝั่งตรงข้ามกับห้องนอนเป็นครัว แบบครัวเปิดไม่เหมาะกับการทำอาหารที่จริงจังมากนัก เนื่องจากจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นจะกระจายไปทั่วห้อง เหมาะกับการซื้ออาหารมาทานมากกว่า ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหารและส่วนนั่งเล่นที่อยู่ติดระเบียงขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ห้องนั่งเล่น ระเบียงค่อนข้างกว้างสามารถออกไปใช้งานได้จริง มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าให้ค่ะ ทางโครงการมีโปรโมชันสำหรับคนที่จองภายในปีนี้จะได้รายการเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเติม ดังนี้ค่ะ
- โซฟา
- โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้
- ไมโครเวฟ
- โทรทัศน์ 32 นิ้ว
- ตู้เย็น
- เครื่องซักผ้าฝาบน
- ผ้าม่าน
- ฉากกั้นอาบน้ำ
- โต๊ะข้างเตียง
หมายเหตุ : รายการเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวที่ให้แบบจริงหน้าตาไม่เหมือนกับห้องตัวอย่างนะคะ
ภายในห้องตัวอย่างจะเป็นยังไงเรามาชมกันเลยค่ะ เริ่มจากประตูหน้าห้องจะเป็นบานโครงไม้เนื้อแข็ง-ผิวไม้อัดกรุลามิเนตลายไม้ มาตาแมวให้ ด้านหน้าติดเลขที่ห้องทางซ้ายมือ
มือจับเป็นก้านจับสำเร็จรูป กลอนกุญแจ สำหรับคนที่ชอบแบบ Digital Door Lock สามารถซื้อมาติดเพิ่มเติมเองได้ค่ะ
พื้นห้องเป็น Synthetic Floor พื้นวัสดุสังเคราะห์ลายไม้ ยกสูงจากพื้นทางเดินเล็กน้อยทำให้ฝุ่นจากพื้นทางเดินไม่เข้ามาในห้องค่ะ
เมื่อเข้ามาแล้วทางด้านขวามือเป็นห้องน้ำ ด้านซ้ายมือเป็นตู้เสื้อผ้า มีบานเป็นประจกให้ มองตรงไปเห็นส่วนครัวและพื้นที่รับประทานอาหาร ห้องนี้มีความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.50 เมตร และ สำหรับฝ้าเพดานบางส่วนจะมีการดรอปฝ้าลงมาสำหรับงานระบบ ซึ่งจะมีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.3 เมตร
หลังประตูมีกันกระแทกให้ด้วยค่ะ เปิดมาไม่ต้องกลัวชนตู้นะ
เมื่อมองกลับไปยังประตูหน้าห้อง ด้านซ้ายเป็นห้องน้ำ ด้านขวามือเป็นตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนติดกระจกเงาให้ สามารถใช้เป็นกระจกแต่งตัวได้เลยค่ะ เพราะบานค่อนข้างใหญ่ทีเดียว
ภายในตู้เสื้อผ้าแบ่งเป็นฝั่งแขวนและฝั่งเสื้อผ้าพัก มีลิ้นชักเก็บของมาให้ในตัว ด้านบนสามารถเก็บหมอนหรือผ้าห่มได้ ส่วนฝั่งซ้ายบนตู้เสื้อผ้าจะมีแผงควบคุมไฟฟ้าอยู่ ช่องนี้ไม่ควรเอาอะไรไปวางขวางนะคะเผื่อต้องในงานในกรณีฉุกเฉิน
ด้านล่างมีลิ้นชักเก็บของ สำหรับเก็บกระเป๋าหรือเชื้อผ้าชั้นในได้
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป บานประตูเป็นโครงไม้เนื้อแข็งทนชื้น-ผิวไม้อัดพ่นสีขาว มีสวิตช์ไฟเปิดจากด้านนอก
เนื่องจากว่าเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป จึงมีความสูงมากกว่าพื้นห้องประมาณ 5 เซนติเมตร มีข้อดีคือเวลาเกิดปัญหาภายในห้องน้ำสามารถซ่อมในห้องของตัวเองได้สะดวก
ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกั้นกระจกให้(เฉพาะโปรโมชั่น) ห้องน้ำต่อท่อระบายอากาศออกสู่ด้านนอกให้ค่ะ ห้องน้ำจะมีไฟ 2 ดวงบริเวณอ่างล้างหน้าและห้องอาบน้ำ
ได้กระจกที่อ่างล้างหน้าบานสูง ผนังห้องน้ำเป็นวัสดุ PU สังเคราห์ลายไม้ดูอบอุ่น กลิ่นอายแบบญี่ปุ่น
อ่างล้างมือเซรามิคยี่ห้อง Mogen บริเวณอ่างล้างมือมีช่องเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำให้ สำหรับต่อไดร์เป่าผมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆได้
โถสุขภัณฑ์เป็นของ Mogen ได้พร้อมอุปกรณ์ที่แขวนกระดาษชำระ สายชำระ ยี่ห้อ Mogen เช่นกันค่ะ ผนังด้านหลังมีพื้นที่สามารถวางของใช้เล็กๆน้อยๆได้ค่ะ
พัดลมดูดอากาศจะติดมาให้บริเวณผนังห้องน้ำด้านข้างกระจก
ฉากกั้นกระจกเป็นบานเปิดเปลือย มีมือจับสามารถใช้เป็นราวแขวนผ้าขนหนูได้
พื้นห้องอาบน้ำยกขอบสูงไม่ให้น้ำไหลออกมาได้ วัสดุเป็น PU สังเคราะห์ สีขาวมีปุ่มนูนกันลื่น พื้นที่ประมาณ 1.00×0.90 เมตร สามารถอาบได้สบายค่ะ
ฝักบัวติดตั้งมาให้พร้อมระบบต่อเครื่องทำน้ำอุ่น แต่เครื่องทำน้ำอุ่นไม่ได้ให้มานะคะต้องซื้อมาติดตั้งเอง
ฝักบัวเป็นของ Mogen ดีไซน์ทั่วไปจับถนัดมือ
ถัดเข้ามาจะเจอกับห้องนอนและส่วนครัวเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ มีช่องแสงกว้างทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั่วทั้งห้อง
ด้านตรงข้ามกับห้องนอน แบบ 1A-3 นี้จะมีชุดครัวอยู่เยื้องๆกันเลย การจัดผังแบบนี้เพื่อทำให้ส่วนนั่งเล่นและทานข้าวอยู่ติดระเบียง จึงทำให้ครัวไม่เหมาะกับการทำอาหารแบบจริงจรัง จะเหมาะกับการซื้อกับข้าวจากข้างนอกมาอุ่นรับประทานที่ห้องมากกว่า เนื่องจากเป็นครัวเปิดและอยู่ใกล้กับห้องนอนกลิ่นอาจจะกระจายไปทั่วห้องได้
ชุดครัว Built-in มาให้ทุกห้อง มีช่องเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่าง มีช่อสำหรับเครื่องไมโครเวฟ และเว้นที่วางตู้เย็นขนาดกว้าง 0.70 เมตรลึก 0.90 เมตรให้
ชั้นเก็บของด้านบนเป็นบาน Soft Close จาก Index วัสดุบานเป็น ลามิเนต และ PVC มีพื้นที่สำหรับเก็บขวดเครื่องปรุง, อาหารแห้ง, วัตถุดิบการทำอาหารต่างๆได้
เครื่องดูควันที่ติดมาให้เป็นของ Teka ระบบต่อท่ออากาศทิ้งภายนอก ช่วยดูดกลิ่นได้ดีกว่าระบบหมุนเวียนอากาศ
Top เคาน์เตอร์วัสดุเป็นหินเทียม มีความคงทนรอยขีดข่วนและสารเคมีได้ดี ฉากกั้นปิดผนังเคาน์เตอร์ติดเป็นกระจก Tempered ให้ ทำให้ทำความสะอาดง่าย แต่ผนังอีกด้านทางขวาไม่ได้มีให้อาจจะต้องติดเพิ่มเองสำหรับคนที่ต้องการทำอาหารค่ะ
อ่างล้างจานเป็นอ่างลึกก้นอ่างมี Slope ของ Teka
เตาไฟฟ้าได้เป็นเตา 2 หัว จาก Teka เช่นกัน
พื้นที่เตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ครัวมีไม่มากนัก แต่สามรถดึงชั้นด้านล่างเตาไฟฟ้าออกมาเป็นพื้นที่เตรียอาหารได้ ชั้นด้านล่างมีช่องสำหรับเครื่องไมโครเวฟมาให้ สำหรับคนที่ซื้อโปรโมชั่นภายในปีนี้ก็จะได้ไมโครเวฟมาด้วย
พื้นที่ทำอาหารมีระยะระหว่างครัวและฉากกั้นห้องนอนประมาณ 1 เมตร
ห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกเข้ามุม เป็นชุดบานเลื่อนอลูมินั่มกระจกลามิเนต ซึ่งฉากกั้นกระจกทำให้ห้องดูกว้างขึ้นแต่ว่าสำหรับคนที่นอนอยู่อาจจะรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวเท่าไหร่ค่ะ สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ติดม่านด้านในเพิ่มเติมค่ะ
ประตูห้องนอนสามารถล็อคได้ เป็นกลอนแบบกุญแจ
ประตูกั้นบานเลื่อนเข้ามุม 90 องศาต่อกันพอดีค่ะ
รางติดตั้งด้านล่างทำให้บานเลื่อนแข็งแรง มั่นคง แต่อาจจะทำความสะอาดยากสักหน่อยนะคะ
ห้องนอนมีเครื่องปรับอากาศคิดไว้ที่ด้านข้าง ถือว่าเป็นองศาที่ลมพัดผ่านตัวแล้วสบาย พื้นที่ห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ พอดีถ้าต้องการเป็นเตียงคิงไซส์อาจจะทำให้ระยะเดินรอบเตียงแคบและให้ความรู้สึกอึดอัดได้
เมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุตจะเหลือพื้นที่ด้านข้าง ข้างละประมาณ 60 เซนติเมตร วางโต๊ะข้างเตียงได้
ระยะปลายเตียงเมื่อปิดฉากกั้นจะอยู่ที่ประมาณ 40 เซนติเมตรค่ะ
เครื่องปรับอากาศที่ได้เป็นแบบประหยัดไฟเบอร์ 5 ยี่ห้อ York
มาดูที่ส่วนห้องนั่งเล่นกันบ้างค่ะ ห้องนี้เป็นพื้นที่เชื่อมกันระหว่างส่วนรับประทานอาหารและส่วนพักผ่อน ทำให้พื้นที่บรเวณนี้มีขนาดใหญ่ นั่งรับประทานอาหารไปด้วย ดู TV ไปด้วยได้ พื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียงมีประตูเป็นบานกระจกกว้างทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ
พื้นที่ด้านหลังโต๊ะรับประทานอาหารเหลือประมาณ 50-70 เซนติเมตร สามารถเดินผ่านด้านหลังได้สบายค่ะ
ส่วนพื้นที่ดู TV ที่ห้องนั่งเล่น มีระยะประมาณ 2 เมตร วาง TV ขนาดประมาณ 32 นิ้วกำลังพอดีค่ะ
โซฟา สามารถดึงด้านล่างออกมาทำเป็นที่นอนได้ค่ะ
ชุดชั้นวาง TV Built-in เป็นลามิเนตลายไม้ ทำให้รู้สึกอบอุ่น
ชั้นวาง TV มีช่องเก็บของด้านล่างให้ 1 ช่อง สำหรับเก็บหนังสือนิตยาสาร หรือเครื่องเล่นเกมส์ได้
ด้านข้างเป็นพื้นที่สำหรับโต๊ะเขียนหนังสือ หรือโต๊ะเครื่องแป้ง มีลิ้นชักเก็บของมาให้
ด้านบนแบ่งเป็นพื้นที่เก็บของมีบานปิดทางด้านซ้าย และพื้นที่ชั้นตั้งโชว์ของสะสมด้านขวามือ
ฝั่งตรงข้าม เป็นผนังโล่งติดเครื่องปรับอากาศด้านบน สำหรับคนที่ซื้อโปรโมชั่นจะได้ม่านด้วยค่ะ
ถัดไปพื้นที่ระเบียงกั้นด้วยชุดบานเลื่อนกระจกอลูมิเนียมสีชา ช่วยกรองแสงก่อนเข้ามายังห้องทำให้แสงที่เข้ามาเป็นแสงนวนไม่แสบตา
ประตูระเบียงมีระบบล็อคอยู่ตรงกลาง เป็นแบบสับขึ้น-ลง
มือจับดีไซน์เป็นชิ้นเดียวกับบานดูเรียบร้อยสวยงามค่ะ
ระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 1.00 x 2.70 เมตร ใช้งานได้จริงใครที่ชอบต้นไม้ ก็สามรถวางกระถามต้นไม้ตกแต่ง หรือจะใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าก็ค่อนข้างกว้างค่ะ
ระดับของพื้นระเบียงลดระดับต่ำกว่าพื้นห้องเล็กน้อย ทำให้เวลามีฝนตกหรือน้ำขังจะได้ไม่ไหลเข้ามาภายในห้องได้
ด้านข้าง มีระแนงลูกกรงเหล็กกั้นแบ่งพื้นที่วางเครื่องซักผ้า และ Condensing Unit มาให้ แต่พื้นที่วาง Condensing Unit เป็นแบบเป่าลมออกด้านข้างทำให้มีไอร้อนออกมาบริเวณระเบียง สามารถติดระแนงเปลี่ยนทิศทางลมเพิ่มเติมเพื่อให้ลมร้อนเป่าออกด้านนอกได้ค่ะ
บริเวณระเบียงมีโคมไฟ Down Light มาให้ 1 ดวง
อีกห้องนึงที่อยากพามาชมก็คือ ห้อง 2 Bedroom Type 2D-2 ขนาด 72.77 ตารางเมตร ค่ะ เพราะว่าเป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะและจัดพื้นที่การใช้งานได้อย่างลงตัว มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนที่ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวแยกออกจากส่วนพักผ่อนชัดเจน เข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับพื้นที่โถงทางเข้าก่อน บริเวณนี้จะมีห้องซักรีด สำหรับวางเครื่องซักผ้าและโต๊ะรีดผ้าได้ค่อนข้างเป็นสัดส่วนเลย ถัดมาเป็นห้องน้ำ และครัวซึ่งสามารถกั้นเป็นครัวปิดเพื่อทำอาหารจริงจังได้ (ตามแนวเส้นประ) มีพื้นที่รับประทานอาหารขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นติดระเบียง ห้องนอนแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ห้อง Master Bedroom มีห้องน้ำในตัว ได้หน้าต่างกระจกเข้ามุม และห้องนอนอีกห้องเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ 2 เตียง หรือจะวางเป็นเตียงคิงไซส์ก็มีพื้นที่เหลือ ภายในห้องจะเป็นยังไงเราไปดูกันเลยค่ะ
เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนโถงทางเข้าก่อน มีห้องซักรดอยู่ด้านหน้าเลยค่ะ ห้องนี้เป็นห้องความสูงปกติที่ 2.5 เมตรส่วนฝ้าดรอปสูง 2.3 เมตร
เมื่อมองกลับไปที่ประตู บริเวณด้านหน้านี้เหมาะกับการทำ Built-in ชั้นเก็บของ สำหรับเก็บรองเท้า กระเป๋า จะได้หยิบใช้งานสะดวกก่อนออกจากห้องค่ะ
ห้องซักรีดถูกแบ่งเป็นสัดส่วนมีข้อดีคือ เครื่องซักผ้าจะมีอายุการใช้งานมากขึ้นถ้าเทียบกับตั้งไว้ที่ระเบียงอาจจะโดนแดดโดนฝนบ่อยๆ มีพื้นที่สำหรับเก็บ ตากใส่ไม้แขวน และพื้นที่รีดผ้าเป็นสัดส่วน ขนาดห้องนี้ประมาณ 1.50×1.90 เมตร
ถักมาจะเห็นส่วนครัวอยู่ทางซ้ายมือ และห้องน้ำอยู่ทางขวามือค่ะ
ประตูห้องน้ำจะแตกต่างกับประตูห้องอื่นๆ ตรงที่ประตูห้องอื่นเป็นวัสดุโครงไม้เนื้อแข็ง-ผิวไม้อัดกรุลามิเนตลายไม้ ส่วนห้องน้ำเป็นโครงไม้เนื้อแข็งทนชื้น-ผิวไม้อัดพ่นสีขาว มีขนาดแคบกว่าเล็กน้อย
ห้องน้ำเป็นแบบสำเร็จรูปเช่นกัน ในห้องตัวอย่างนี้ไม่ได้มีฉากกั้นให้แต่ถ้าซื้อโปรโมชั่นก็จะได้ฉากกั้นห้องอาบน้ำในห้องนี้ด้วยค่ะ
อ่างล้างหน้าและกระจกเหมือนกับห้อง 1 Bedroom เป็นของ Mogen
ห้องน้ำมีพื้นที่การใช้งานที่กว้าง นั่งได้สบาย ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบจาก Mogen เช่นกันค่ะ
ส่วนห้องอาบน้ำมีพัดลมดูดอากาศติดผนังมาให้ พร้อมเดินระบบเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ ผนังด้านข้างฝักบัวมีส่วนที่ยื่นออกมาสามารถใช้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้
พื้นห้องอาบน้ำยกขอบสูง วัสดุเป็น PU สังเคราะห์ สีขาวมีปุ่มนูนกันลื่น พื้นที่ประมาณ 1.00×0.90 เมตร พื้นที่ใกล้เคียงกับห้องน้ำของ 1 Bedroom เลยค่ะ
ชุดครัวเป็นชุดเดียวกับห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ มีชั้นเก็บของด้านบนและล่างมาให้แต่แตกต่างกันตรงที่ห้องนี้สามารถวางตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่กว่านี้เช่น ตู้เย็น 2 บานเปิดได้ค่ะ
ชุดครัวมีช่องเก็บของและ ลิ้นชักสำหรับเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารมาให้เหมือนกัน
แต่มีความแตกต่างกันที่สีของ Top หินเทียมห้องนี้เป็นสีดำ ผนังกระจก Tempered ก็เป็นสีเทาดำเช่นกันค่ะ ผนังด้านข้างห้องนี้ไม่ได้ติดมาให้ ควรจะติดเพิ่มเติมเองจะทำให้ทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น
อุปกรณ์ภายในครัวทั้งเครื่องดูดควัน อ่านล้างจาน และเตาไฟฟ้าจาก Teka สำหรับเครื่องไปโครเวฟจะได้สำหรับคนที่จองภายในโปรโมชั่นค่ะ
ถัดมาจะเห็นเป็นพื้นที่ส่วนนั่งเล่นติดกับะเบียงซึ่งมีขนาดค่อนข้างกว้าง มีทางเข้าห้องนอนทั้งสองห้องอยู่ทางขวามือ
พื้นที่รับประทานอาหารสามารวางเป็นโต๊ะ 4-6 ที่นั่งได้
ห้องนั่งเล่นของห้อง 2 Bedroom จะได้ชั้นวาง TV เฉพาะชั้น่าง สำหรับชอบตู้เก็บของด้านบนแนะนำให้ทำ Built-in เพิ่มเติมค่ะ ห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียงมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดแบบเดียวกับห้อง 1 Bedroom ไปยังระเบียง
สำหรับห้องนี้มีระยะดู TV 3.5 เมตร สามารถวาง TV ได้ตั้งแต่ 46 นิ้วขึ้นไปเลยค่ะ ตรงกลางสามารถวางโต๊ะน้ำชาแล้วยังมีพื้นที่เหลือเดินโดยรอบได้
ชั้นวาง TV มีช่องเก็บของด้านล่าง 6 ช่อง ช่องกลางเป็นแบบไม่มีบานปิดสำหรับวางเครื่องรับสัญญาณ TV , เครื่องเล่น DVD หรือใครที่ชอบเล่นเกมส์กวางไว้ชั้นนี้ได้เลย จะได้ไม่เปลืองพื้นที่ด้านบน
ตำแหน่งเครื่องปรับอากาศเป็นแบบติดผนังอยู่ฝั่งด้านหลังโซฟา
พื้นที่ห้องนั่งเล่นติดกับระเบียงประตูเป็นบานกระจกอลูมิเนียมใช้กระจกลามิเนตเหมือนกับห้องของ 1 Bedroom ค่ะ
พื้นที่ของระเบียงห้องนี้กว้าง 1.00×2.70 เมตร สามารถวางกระถางต้นไม้ เอาเก้าอี้ออกมานั่งเล่น และใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าใช้งานได้จริงค่ะ
อีกฝั่งเป็นที่ตั้ง Condensing Unit แบบแขวน 3 ตัว ปล่อยลมร้อนออกด้านข้างมีประตูระแนงเหล็กกั้นให้ แนะนำให้ติดแผงเปลี่ยนทิศทางลมเพิ่มเติมช่วยให้อากาศร้อนไม่สะสมอยู่บริเวณระเบียงค่ะ
มาดูห้องนอนกันบ้าง ทางเข้าห้องนอนแบ่งเป็น 2 ฝั่งเราจะไปดูฝั่งห้องขวากันก่อนนะคะ
ห้องทางขวามือเป็นห้องนอนขนาดใหญ่มีพื้นที่ประมาณ 4.40×3.90 เมตร มีตู้เสื้อผ้ามาให้สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ 2 เตียงหรือเตียงขนาดคิงไซส์ได้ 1 เตียงค่ะ
ถ้าวางเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต จะเหลือพื้นที่ด้านข้างทางซ้ายติดกับตู้เสื้อผ้า 1.25 เมตร มีพื้นที่แต่งตัวได้สบาย ทางด้านขวามีระยะ 0.60 เมตรสามารถเดินได้รอบ และวางโต๊ะข้างเตียงขนาดเล็กได้ค่ะ
พื้นที่ปลายเตียงสามารถวางโซฟาขนาดเล็กได้ มีระยะเหลือประมาณ 2.30 เมตร
มีช่องแสงธรรมชาติเข้าได้ อาจจะไม่สว่างมากนักแต่เพียงพอต่อห้องนอนค่ะ มีช่องเปิดระบายอากาศได้ 1 ช่อง
พื้นที่ส่วนปลายเตียงสามารถ Built-in ชั้นวาง TV เพิ่มเติมได้ค่ะ
ฝั่งด้านซ้ายของเตียงมีตู้เสื้อผ้ามาให้ มีตำแหน่งติดเครื่องปรับอากาศอยู่บริเวณปลายเตียง ทำให้นอนได้สบายเนื่องจากลมเย็นไม่โดนตัวโดยตรงค่ะ
ตู้เสื้อผ้าสามารถเปิดได้ 2 ฝั่ง หน้าบานป็นกระจก สะดวกในการแต่งตัว ด้านบนมีช่องสามารถใช้เก็บหมอน,ผ้าห่มได้
ด้านล่างมีลิ้นชักมาให้ 3 ชั้น ไว้ใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆค่ะ
มาดูห้องนอนทางด้านซ้ายกันบ้าง ห้องนี้เป็น Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวพื้นที่ห้องประมาณ 3.85 x3.40 เมตร มีช่องเปิดเป็นแนวยาวเข้ามุมทำให้รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มาก
เมื่อตั้งเตียงขนาด 5 ฟุตจะมีพื้นที่ด้านข้างขวาระหว่างเตียงกับห้องน้ำประมาณ 1.20 เมตร ด้านซ้ายประมาณ 0.70 เมตร สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้
มีระยะปลายเตียงเหลือประมาณ 1.80 เมตร สามารถตั้งเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้
ทางฝั่งปลายเตียงได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดเดียวกับห้องนอนทางฝั่งขวา ด้านข้างตู้เสื้อผ้ามีช่องสายไฟสามารถติดตั้ง TV ได้ ด้านบนเป็นพื้นที่ติดเครื่องปรับอากาศ
ตู้เสื้อผ้าสามารถเปิดได้ 2 ฝั่งมีช่อเก็บของอยู่ทางด้านขวา หน้าบานเป็นกระจกสะดวกในการแต่งตัว
หน้าต่างเป็นบานยาวกรอบอลูมิเนียม กระจกลามิเนต เข้ามุมรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้มาก
ได้สวิตช์ ไฟและเต้ารับจาก Panasonic
ห้องน้ำในห้องนอน Master Bedroom เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน เข้ามาแล้วมีอ่างล้างหน้าอยู่ทางด้านซ้ายมือ แยกส่วนกับโถสุขภัณฑ์ ผนังปิดผิวด้วยวัสดุ PU สังเคราะห์
พื้นห้องน้ำสูงกว่าพื้นห้องเนื่องจากเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป ยกขอบ PU เล็กน้อยไม่ให้น้ำจากภายในห้องไหลออกไปยังห้องนอนได้
อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์จาก Mogen พื้นที่โถสุขภัณฑ์กว้างประมาณ 0.8 เมตร สามารถนั่งได้สบาย
ส่วนห้องอาบน้ำมีความแตกต่างจากห้องน้ำด้านนอกเนื่องจากมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ มีระบบรองรับเครื่องทำน้ำอุ่น ส่วนผนังมีส่วนเว้าเข้าไปสามารถใช้ตั้งอุปกรณ์อาบน้ำได้
พื้นที่ห้องอาบน้ำแบ่งเป็นพื้นที่ยืนอาบประมาณ 1.20×0.86 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่อาบได้สบาย
ส่วนอ่างอาบน้ำเป็นอ่างสำหรับแช่แบบสไตล์ญี่ปุ่นพื้นที่อ่างอาบน้ำขนาด 1.20×0.70 เมตร สำหรับคนที่ตัวใหญ่หน่อยอาจจะนั่งแล้วอึดอัดเล็กน้อย
ฝักบัวได้แบบเดียวกับห้องน้ำอื่นๆ ดีไซน์ทั่วไปจาก Mogen
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25 October 2018
- 1 Bedroom อาคาร D ชั้น 3 ห้อง D307 เนื้อที่ 29.96 ตร.ม. ราคา 2.79 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่นพร้อม Furniture) หรือ ราคาเฉลี่ย 93,124 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedroom อาคาร D ชั้น 3 ห้อง D302 เนื้อที่ 73.42 ตร.ม. ราคา 6.59 ล้านบาท หรือ ราคาเฉลี่ย 89,757 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedroom อาคาร D ชั้น 2 ห้อง D206 เนื้อที่ 77.16 ตร.ม. ราคา 6.89 ล้านบาท หรือ ราคาเฉลี่ย 89,295 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Furnished (เฉพาะจองภายในปีนี้)
- ฝ้าเพดานสูง 2.30(ส่วนฝ้าดรอป),2.50(ส่วนฝ้าไม่ดรอป) เมตร, ห้อง Duplex สูง 4.75 เมตร(ส่วนชั้นลอย 2.10 เมตร)
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- Shuttle Van ไปกลับ BTS สุรศักดิ์
- จองและทำสัญญา 50,000 บาท
- ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล
Blossom Condo @ สาทร-เจริญราษฎร์ ตั้งอยู่ติดถนนเจริญราษฎร์เชื่อมต่อกับถนนหลักได้หลายทาง ทางเหนือเชื่อมกับถนนสาทรไปยังวงเวียนใหญ่หรือพระราม4 ได้ อีกเส้นทางลงใต้มาทางถนนจันทร์เชื่อมต่อไปยังถนนเจริญกรุงและถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ไปออกถนนพระราม3 ได้ ทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ใกล้กับแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยดั้งเดิม ที่มีคนเก่าแก่ในพื้นที่อยู่เยอะพอสมควรและเป็นทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์มากๆค่ะ ทำให้มีสถานศึกษา โรงเรียนเก่าที่มีชื่อเสียงอย่าง โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน, โรงเรียนอัสสัมชันศึกษา, โรงเรียนเซนต์หลุยส์ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีวัดวาอารามมากมาย มีร้านค้าร้านอาหารข้างทางขึ้นชื่อหลายร้าน สามารถหาซื้อของกิน ช้อปปิ้งได้อย่างตลาดแสงจันทร์, ตลาดแก่นจันทร์,Tops Maket , Vanilla Moon (Community Mall ในย่านนี้) เป็นต้น และยังใกล้กับสถานที่เที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง Asiatique The Riverfront อีกด้วย นอกจากนั้นก็ยังมีสถานพยาบาล สวนสาธารณะ,ลานกีฬา อยู่ในระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตรจากโครงการ ถือว่าค่อนข้างครบครัน แต่ถ้าพูดถึงในระยะเดินจากโครงการออกไปยังย่านของกินนั้นอาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เนื่องจากแถวๆโครงการไม่ได้มีของกินขายเยอะนัก จะมีเป็นร้านอาหารตามบ้านในชุมชนมากกว่าค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ
การเดินทางโดยใช้รถสามารถเดินทางได้ค่อนข้างสะดวก เนื่องจากอยู่ติดกับถนนเจริญราษฎร์ ซึ่งสามารถไปออกยังถนนสาทร ที่เป็นแหล่งเชื่อมต่อไปยังอาคารสำนักงานต่างๆได้ และเดินทางไปยังฝั่งกรุงธนบุรีหรือวงเวียนใหญ่ได้สะดวก ส่วนใหญ่การจราจรไม่ได้หนาแน่นมากทำให้ไม่เสียเวลาในการเดินทางมากนัก อีกหนึ่งอย่างที่ควรคำนึงถึงการเดินทางโดยใช้รถคือจำนวนลานจอดรถภายในโครงการ ซึ่งมีประมาณ 390 คันคิดเป็น 49%(ของยูนิตทั้งโครงการ) สามาถใช้รวมกันได้ทุกอาคารรวมถึงอาคารพาณิชย์ที่เป็นพื้นที่สำนักงานให้เช่าทำให้อาจจะต้องแย่งกันจอดรถบ้าง แต่ทางนิติบุคคลจะให้สิทธิกับลูกบ้านของคอนโดก่อนค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถจากโครงการ ไม่มีรถประจำทาผ่านด้านหน้า แต่สามารถเดินทางโดยการนั่งรถ Shuttle Van ของโครงการไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ ตามระยะเวลาที่กำหนดได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือใครที่ไม่อยากรอก็สามารถนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างด้านหน้าโครงการแทน (ปัจจุบันยังไม่มีบริการแต่นิติบุคคลกล่าวว่าจะมีในเร็วๆนี้ค่ะ) ในส่วนการเดินโครงการอยู่ในซอยลึกประมาณ 250 เมตรภายในซอยไม่ค่อยมีความคึกคักเท่าไหร่ ไม่แนะนำให้เดินในเวลากลางคืนค่ะ
วัสดุ
โครงการให้มาแบบ Fully Furnish นอกจากจะได้เคาน์เตอร์ครัวของ Teka และห้องน้ำสำเร็จรูปชุดสุขภัณฑ์ Mogen และเครื่องปรับอากาศ แล้วจะได้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเช่น โซฟา, โต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้, ผ้าม่าน, ฉากกั้นอาบน้ำ, โต๊ะข้างเตียง, ไมโครเวฟ, โทรทัศน์ 32 นิ้ว, ตู้เย็น และเครื่องซักผ้าฝาบนด้วย ถือว่าถ้าซื้อช่วงโปรก็เก็บกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ส่วนวัสดุภายในห้องจะเป็นพื้น Synthetic Floor พื้นวัสดุสังเคราะห์ลายไม้ ผนังฉาบเรียบทาสี ประตูหน้าต่างบานเลื่อนกระจกอลูมินั่มเป็นกระจกลามิเนต
การออกแบบ
การออกแบบวางผังของโครงการมีจุดเด่นคือพื้นที่สีเขียวส่วนกลางที่มีกว่า 3,000 ตารางเมตร ทุกอาคารสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียวส่วนกลางได้ มีอาคารพาณิชย์อยู่ด้านหน้าแบ่งส่วนพื้นที่คอนโดที่เป็นส่วนตัวแยกกับอาคารสำนักงาน แต่ใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน การออกแบบอาคารแต่ละหลังจัดวางให้ห้องพักอาศัยเป็นแบบ Double Corridor ส่วนใหญ่เปิดประตูตรงกันทำให้ไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวมากนัก
การออกแบบห้องพัก 1 Bedroom ประมาณ 30.00 ตารางเมตร เน้นพื้นที่การใช้งานห้องนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหารและพื้นทีระเบียงกว้างสามารถใช้งานได้จริง แต่ตัวส่วนห้องนอนเป็นผนังกระจกทำให้ไม่มีความเป็นส่วนตัวมากนักอาจจะต้องติดม่านเพิ่มเติม พื้นที่ครัวเป็นแบบครัวเปิด ไม่สามารถกั้นปิดได้เหมาะกับคนที่ไม่ทำอาหารจริงจังนัก ห้อง 2 Bedroom ประมาณ 73.00 ตารางเมตร จัดพื้นที่การใช้งานค่อนข้างลงตัวมีห้องซักรีดแยกมาให้ พื้นที่ครัวสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้ มีพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารกว้างลงตัว ห้อง Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวมีอ่างสำหรับแช่น้ำให้
สาธารณูปโภค
สาธารณูปโภคส่วนกลางมีพื้นที่สีเขียวเยอะ มีสระว่ายน้ำส่วนกลางสไตล์รีสอร์ท ระบบเกลือขนาด 6 x 23 เมตร ไม่รวมสระเด็ก ลึก 1.20 เมตร และห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 13 เครื่อง สามารถออกกำลังกายพร้อมมองวิวพื้นที่ส่วนกลางด้านนอกได้ มีร้านอาหารภายในโครงการ 2 แห่ง ที่อาคาร B และอาคาร F โครงการมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร อัตราส่วนลิฟต์ทั้งหมด 79.2 : 1 ถือว่าไม่หนาแน่นมากทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานในเวลาเร่งด่วนพื้นที่ส่วนกลางต้องใช้กับส่วนที่เป็นอาคารสำนักงาน ทางโครงการต้องคุมจำนวนคนและความปลอดภัยให้ดีค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคา AVG 90,000 – 140,000 บาท/ตร.ม., 25 October 2018
- ทำเล 7.25/10 – ติดถนนเจริญราษฎร์บริเวณใต้ทางพิเศษศรีรัช มีทางไปถนนสายสำคัญได้หลายสาย
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เดินทางสะดวก ใกล้ทางด่วน มีที่จอดรถ 49%
- ไม่ใช้รถ 7.0/10 – ห่างจาก BTS สุรศักดิ์ประมาณ 1 กิโลเมตร มีรถ Shuttle Van รับ-ส่งให้
- วัสดุ 7.5/10 – Fully Furnish วัสดุตามมาตรฐาน
- แบบ 7.5/10 – ทำได้ดี มีการวางผังให้ล้อมรอบพื้นที่ส่วนกลาง ห้องผังวางผังได้ดี เน้นครัวเปิด
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ มีสระว่ายน้ำ และฟิตเนสใช้ร่วมกับสำนักงาน
- UPPER CLASS
- 7.34 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ Blossom Condo @ สาทร-เจริญราษฎร์ เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้แหล่งงานย่านสาทร-สีลม ใกล้ทางด่วน ที่ราคาอยู่ในระดับที่จับต้องได้ง่าย ยอมเดินทางไกลออกมาเล็กน้อย ไม่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวมากนัก ชอบพื้นที่สีเขียว ห้องพักเน้นความโปร่ง มีงบประมาณ 2.79 – 7 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 19,530 – 42,000 บาท/เดือน