รีวิวฉบับที่ 1684 … สวัสดีค่ะ ตั้งแต่เริ่มทำรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ตัดผ่านเส้นจรัญสนิทวงศ์มาจนใกล้จะได้ใช้งานกันแล้ว โครงการในรัศมีรถไฟฟ้าก็ขึ้นกันมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Chateau in Town จรัญสนิทวงศ์ 96/2 แม้อยู่ในซอยและไกลเกินระยะเดินง่ายของ MRT บางอ้อไปหน่อยแต่มีรถ Shuttle Service รับ-ส่งลูกบ้านฟรีนะคะ ในราคาโปรโมชั่นตอนนี้เริ่ม 1.99 ล้านบาท ใครงบไม่มากแต่อยากได้คอนโดในละแวกนี้ พร้อมให้ Fully Furnished มาดูกันค่ะ

 

Fact @ 16 กันยายน 2018

  • Chateau in Town Charansanitwong 96/2 (ชาโตว์ อินทาวน์ จรัญสนิทวงศ์ 96/2)
  • บริษัท พระยาพาณิชย์พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ในเขต : ซอยจรัญสนิทวงศ์ 96/2 แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด
  • คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร และอาคาร Club House ยูนิตทั้งหมด 406 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 30 ยูนิตที่อาคาร A
  • ที่จอดรถประมาณ 141 คันคิดเป็น 34.7% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ที่ดินประมาณ 2-3-16 ไร่
  • แล้วเสร็จ : ปลายปี 2560
  • 1 Bedroom 29.85 – 37.5 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 37.4 – 47.6 ตร.ม.
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท (ห้องโปรโมชั่น)
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 93,000 บาท/ตร.ม.
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • Call Center : 02-468-9000

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.807660, 100.512817

ทำเลโครงการ Chateau in Town จรัญสนิทวงศ์ 96/2 ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 96/2 ตามชื่อโครงการ ซอยนี้เป็นซอยชุมชนซึ่งตรงไปในสุดก็จะอยู่ติดริมแม่น้ำค่ะ บรรยากาศเงียบสงบมากกว่าถนนใหญ่พอสมควร บรรยากาศในโซนนี้เดิมเป็นชุมชนเก่าแก่ ความอุดมสมบูรณ์มีร้านอาหาร ร้านค้าขายตามตึกแถวราคาย่อมเยา

จุดเด่นหลักของย่านนี้มีอยู่ 3 อย่างด้วยกันคือ โรงพยาบาลยันฮี ที่ติดกับสถานีบางอ้อ จัดเป็นโครงการพยาบาลขนาดใหญ่ในย่านและใกล้กับโครงการประมาณ 1 กม.ค่ะ อย่างที่ 2 คือกฟผ. หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ ซึ่งมีพนักงานรัฐวิสาหกิจพอสมควร และสุดท้ายคือ สะพานพระราม 7 ที่เชื่อมเข้าสู่พระนคร ช่วงวงศ์สว่าง ประชาชื่น

หากอิงจากแหล่งจากและสถานที่สำคัญในย่านแล้ว โครงการค่อนข้างตอบโจทย์ทั้งบุคคลากรโรงพยาบาลยันฮีและพนักงานการไฟฟ้านะคะ เนื่องจากโรงพยาบาลอยู่ระยะไม่ไกลห่างไปประมาณ 1 กม. เน้นต่อรถ หรือนั่งวินมอเตอร์ไซค์ก็ถึง อีกทั้งทางโครงการเองมีการจัดบริการ Shuttle Service ซึ่งเส้นทางการวิ่งจะรับ-ส่งลูกบ้านที่สถานีบางอ้อ (หน้าโรงพยาบาลยันฮี) และกฟผ. แบบไม่มีค่าใช้จ่าย จึงตอบโจทย์ความสะดวกในการเดินทางของพนักงานทั้ง 2 สถานที่นี้ค่ะ

การเดินทางหลักๆ ของโครงการเน้นอิงถนนจรัญสนิทวงศ์เป็นหลัก ซึ่งซอยฝั่งเลขคู่นี้วิ่งตรงไปยังบางอ้อ-บางพลัดได้สะดวก หรือหากจะวิ่งเข้าฝั่งพระนครก็ไม่ยากมาก เพราะอยู่ไม่ไกลจากสะพานพระราม 7 แต่ต้องอาศัยไปกลับรถช่วงโรงพยาบาลยันฮีนะคะ นอกจากนี้คอนโดในทำเลช่วงต้นจรัญฯ นี้ ที่สำคัญคือความสะดวกในการใช้ทางด่วนศรีรัช – วงแหวนรอบนอก ที่ด่านอยู่ไม่ไกลมากนักทั้งฝั่งขาเข้าเมืองและออกเมืองค่ะ รวมแล้วห่างประมาณ 3.1 – 3.6 กม. ถือเป็นระยะที่ขับรถได้สะดวก ในส่วนของที่จอดรถซึ่งเป็นส่วนนึงของความสะดวกในการใช้รถเช่นกัน ให้มา 34.7% ถือว่าให้มาไม่มากนะคะ เมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ย 93,000 บาท/ตร.ม. ที่เป็นเรทราคาไม่ต่างจากโครงการ High Rise ติดถนนจรัญฯ เลย ซึ่งมีการเดินทางที่สะดวกกว่าอยู่แล้ว ประกอบกับทำเลที่อยู่ในซอยมีรถสาธารณะผ่านไม่มาก เน้นเดินหรือนั่งมอเตอร์ไซค์ไปหน้าปากซอย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถของโครงการนี้จะเหมาะกับการเดินทางแบบต่อรถนะคะ เพราะจากโครงการออกมายังสถานีบางอ้อ ที่เป็นสถานี MRT ที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ประมาณ 1 กม. ซึ่งเป็นระยะที่ไกลกว่าระยะเดินง่ายไปพอสมควรค่ะ ทางโครงการจึงแทนที่มาให้ด้วย Shuttle Service ที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายแทน (แต่หากส่งมอบให้นิติบุคคลเมื่อไหร่ จะมีการตกลงกันภายในลูกบ้านอีกที ไม่แน่นอนเสมอไปว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายนะคะ)

การเดินทางในวันนี้เริ่มต้นที่ถนนวงศ์สว่างช่วงตัดกับถนนกรุงเทพ-นนทบุรี วิ่งตรงขึ้นสะพานพระราม 7 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์วิ่งตรงมาอีกหน่อย แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยจรัญสนิทวงศ์ 96/2 เข้าซอยประมาณ 140 ม. ก็จะเห็นโครงการฝั่งขวามือแล้วค่ะ

เริ่มต้นที่ถนนวงศ์สว่างเตรียมเบี่ยงซ้ายขึ้นสะพานยกระดับช่วงระหว่างจุดตัดกับถนนกรุงเทพ-นนทบุรีนะคะ

จากนั้นขับตรงไปเรื่อยๆ ขึ้นสะพานพระราม 7 ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยากัน

เมื่อลงสะพานมาแล้วให้เบี่ยงขวาไปตามป้าบถนนจรัญสนิทวงศ์นะคะ

เลี้ยวเข้ามาถนนจรัญสนิทวงศ์กันแล้ว ให้เริ่มเบี่ยงซ้ายได้เลยค่ะ สังเกตป้ายสีฟ้าขนาดใหญ่ของโครงการนะคะ

ตรงมาอีกหน่อยก็ถึงซอยจรัญสนิทวงศ์ 96/2 แล้วนะคะ ให้เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ

บรรยากาศภายในซอยสองฝั่งข้างทางเป็นบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่นะคะ มีความคึกคักในระดับชุมชนค่ะ สำหรับเลนถนนถือว่าค่อนข้างแคบหน่อยนะคะ และไม่มีทางเท้าเดินได้ง่าย แต่บรรยากาศไม่เปลี่ยวนะคะ

ตรงเข้าจากหน้าปากซอยมาประมาณ 140 ม. ก็จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งขวามือแล้วค่ะ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

บรรยากาศและสภาพแวดล้อมโครงการเป็นชุมชนพักอาศัยแนวราบเป็นส่วนใหญ่ และมีที่ดินว่างสลับกันไปค่ะ ทำให้ได้ความเงียบสงบในระดับชุมชน แต่ไม่เปลี่ยวมากนัก

  • ทิศเหนือ : ติดซอยจรัญสนิทวงศ์ 96/2 และบ้านพักอาศัย
  • ทิศตะวันออก : ติดถนนในซอยและที่ดินเปล่า
  • ทิศใต้ : ติดบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น
  • ทิศตะวันตก : ติดบ้านพักอาศัยสูง 1-2 ชั้น

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์ 2.9 กม.
  • Big C วงศ์สว่าง 4.9 กม.
  • สยามยิปซี Market 5.8 กม.
  • เซ็นทรัลพลาซ่าปิ่นเกล้า 6.2 กม.
  • FoodLand จรัญสนิทวงศ์ 7.6 กม.
  • Big C ติวานนท์ 7.6 กม.
  • ตลาดบางขุนศรี 9.5 กม.
  • พิพิธภัณฑ์เด็ก 10 กม.

  • โรงพยาบาลยันฮี 1 กม.
  • โรงพยาบาลศิริราช 7.8 กม.
  • โรงพยาบาลศรีธัญญา 8.6 กม.

  • ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 4.1 กม.
  • รร.โยธินบูรณะ 4.6 กม.
  • รร.สตรีนนทบุรี 4.5 กม.

 


เจาะลึกตัวโครงการ

โครงการ Chateau in Town จรัญสนิทวงศ์ 96/2 ภายในมีอาคาร Low Rise 2 อาคาร จำนวนยูนิต 406 ยูนิต บนเนื้อที่ 2 ไร่กว่า รูปแบบโครงการมาในสไตล์ Modern เน้นโทนสีเทาอ่อน-เข้ม และตัดด้วยสีเหลืองเพิ่มความสดใส

ก่อนเข้ามาดูภายในโครงการจะขออธิบายส่วน Master Plan กันก่อนนะคะ โดยชั้นล่างสุดออกแบบให้เป็นที่จอดรถเป็นหลัก ซึ่งเน้นจอดรถใต้อาคารทำให้รถได้อยู่ในร่มไม่โดดแดดโดนฝนมากนักค่ะ จำนวนที่จอดรถมีช่องจอด 141 คันคิดเป็นประมาณ 34.7% ไม่รวมซ้อนคัน ซึ่งถือว่าไม่เยอะมากเมื่อเทียบกับราคา แต่ด้วยทำเลที่สามารถเดินทางไปขึ้น MRT บางอ้อได้ไม่ยากมาก อาจจะเพียงพอในการใช้งานได้ค่ะ

นอกจากที่จอดรถแล้ว ยังมีพื้นที่สวนส่วนกลางซึ่งจัดให้มีพื้นที่นั่งเล่นและสนามเด็กเล่นขนาดกะทัดรัดด้วยค่ะ ส่วนทางขึ้นอาคาร A และ B ในชั้นนี้จะมีเพียง Lobby ขนาดกะทัดรัดซึ่งเปิดมาเจอส่วนลิฟต์โดยสารเลยค่ะ

มาดูบรรยากาศภายในโครงการกันต่อนะคะ เริ่มจากทางเข้าโครงการจะเข้า-ออกด้วยไม้กั้นอัตโนมัติ เปิด-ปิดด้วยระบบ Keycard Access ค่ะ สำหรับระบบการเข้า-ออกนี้ถือเป็นมาตรฐาน แต่สิ่งที่แปลกคือการเข้า-ออกในเลนเดียว ทำให้การสัญจรไม่สะดวกมากนักนะคะ อาจจะต้องพึ่งพาการจัดการการสัญจรจากรปภ.เป็นพิเศษ

เข้ามาให้เลี้ยวซ้ายไปทางอาคาร B ก่อน ลักษณะการเดินรถจะเป็นแบบ One Way นะคะ

นอกจากทางเดินรถแล้วด้านข้างออกแบบให้เป็น Jogging Track โดยใช้ทางเป็นสีส้มสดใสชัดเจน Jogging Track นี้จะวนรอบโครงการนะคะ ถือว่ามีระยะพอสมควรสามารถออกกำลังกายได้อยู่

ตรงมาอีกหน่อยเจอทางแยกสามารถเลี้ยวขวาไปจอดได้นะคะ

ตรงไปอีกหน่อย จะเห็น Lobby ของอาคาร B ฝั่งขวามือค่ะ แต่เราจะตรงไปดูบรรยากาศส่วนที่จอดรถและสวนส่วนกลางกันก่อน ค่อยขึ้นไปดูบรรยากาศภายในอาคารกันนะคะ

บริเวณที่จอดรถที่อยู่ในร่มแบบนี้ข้อดีนอกจากการกันแดดกันฝนได้พอสมควรแล้ว พื้นที่ยังมีความโปร่งโล่งลมพัดผ่านได้ดีมากกว่าอยู่ภายในอาคารจอดรถ

ด้านข้างรอบรั้วโครงการปลูกต้นไม้สูงพร้อมจัดสวนหย่อมให้ดูร่มรื่นสวยงาม

ถัดมาอีกหน่อยเจอส่วน Lobby อาคาร A ซึ่ง Lobby นี้จะมีขนาดเล็กกว่า Lobby B อยู่หน่อยนะคะ

ถัดมาดูบรรยากาศบริเวณสวนส่วนกลางกันนะคะ นอกจากสวนแล้วยังมีการจัดพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor ไว้หลายจุด เพื่อให้ลูกบ้านได้ออกมานั่งเล่นได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังเชื่อมกับอาคาร Club House ที่ยกขึ้นมาชั้น 2 เพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นดีกว่าการวาง Facilities หลักไว้บนดิน (On Ground)

มีการทำ Sunken Seat ขนาดใหญ่ เหมาะกับไว้ให้นั่งเล่นช่วงเช้าๆ หรือเย็นๆ

ด้านข้างมีสนามเด็กเล่นขนาดกะทัดรัดออกแบบให้เป็นบ่อทรายและเครื่องปีนป่าย เพิ่มความแข็งแรงให้เด็กๆ ได้

นอกจากพื้นที่นั่งเล่นแล้วยังมีพื้นที่จัด Sculpture ด้วยค่ะ โดยรวมแล้วถือว่าโอเค

สำหรับอาคาร Club House ชั้นล่างออกแบบให้เป็นที่จอดรถในร่มแทนนะคะ ซึ่งก็ถือว่าใช้พื้นที่โครงการได้เต็มที่ดี

บันไดเข้าสู่ส่วน Club House ใช้บันไดนี้ทางเดียวนะคะ เพราะ Club House นี้ไม่ได้เชื่อมทางเข้า-ออกกับอาคารพักอาศัยค่ะ

ชั้นบนเป็นส่วนสระว่ายน้ำกลางแจ้ง และห้อง Fitness ซึ่งอยู่ตรงกลางโครงการ ล้อมรอบด้วยอาคารพักอาศัยทั้ง 2 อาคาร

สระว่ายน้ำที่นี่ออกแบบเป็นแบบ Freeform มีขนาดประมาณ 10 x 14 ม. ถือว่ามีขนาดพอสมควรสามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้ และบรรยากาศที่ล้อมด้วยอาคารพักอาศัยนี้ มีทั้งข้อดีและข้อด้อยนะคะ ในแง่ดีคือเรื่องของแดด เพราะมีอาคารช่วยบังแดดได้ทุกทิศ ทำให้ในช่วงบ่ายตัวสระอยู่ในร่มเงาอาคาร ไม่ร้อนมาก (ยกเว้นตอนเที่ยงตรงนะคะ) และห้องที่หันเข้าหาด้านในอาคาร ได้วิว Facilities อีกด้วยค่ะ ในข้อด้อยก็มีเช่นกัน เพราะด้วยตำแหน่งที่อยู่ตรงกลาง ห้องพักอาศัยได้วิว ก็ทำให้คนใช้ Facilities อาจรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวได้ด้วย

เข้ามาที่ภายใน Fitness กันต่อนะคะ บรรยากาศโปร่งโล่งพอสมควรเลยค่ะ เพราะล้อมรอบด้วยกระจกเงา และกระจกใสหันเข้าหาสระว่ายน้ำ ภายในวางเครื่องออกกำลังกายให้เยอะนะคะ ทั้งลู่วิ่ง เครื่องปั่นจักรยานและอื่นๆ อีกรวม 11 เครื่อง

ลงมาชั้นล่างติดกับส่วน Lobby มีบริการห้องน้ำส่วนกลางไว้ให้ แยกชาย/หญิง

ภายในแบ่งเป็นพื้นที่อ่างล้างมือและห้องน้ำ แต่ไม่ได้มีห้องอาบน้ำให้นะคะ ลูกบ้านที่ว่ายน้ำเสร็จต้องขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องตัวเองแทน ซึ่งไม่สะดวกมากนักค่ะ

เข้ามาภายในส่วน Lobby ของทั้ง 2 อาคาร จะต้องมี Keycard Access เพื่อความปลอดภัยนะคะ โดยเราจะพาไปดูอาคาร B กันค่ะ เปิดเข้ามา ฝั่งขวามือเป็นห้องนิติบุคคล ตรงไปเป็น Mail Box และฝั่งซ้ายคือส่วนโถงลิฟต์ค่ะ

บรรยากาศภายใน Mail Box จัดตู้จดหมายเป็นสัดส่วนดี บรรยากาศโปร่งโล่ง

สำหรับโถงลิฟต์นี้ได้กระจกเข้ามุมจึงทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่งมากขึ้น มีวางเก้าอี้สตูลให้นั่งคอย สำหรับผู้เข้ามาติดต่อ หรือแขกของลูกบ้านได้เล็กน้อย

และมีมุมสำหรับรถเข็น ที่ทางโครงการจัดให้ลูกบ้านได้ใช้สำหรับขนของใหญ่หรือหนักเข้าห้องได้ง่านมากขึ้น ทั้งนี้ใช้แล้วต้องกลับมาเก็บที่เดิมด้วยนะคะ

สำหรับลิฟต์แต่ละอาคารให้มา 2 ตัวต่ออาคาร คิดอัตราส่วนลิฟต์ต่ออาคารอยู่ที่ 98:1 ซึ่งถือว่าให้มามาตรฐานทั่วไปค่ะ ไม่หนาแน่นเกินไป

ลิฟต์จะไม่ได้เป็นลิฟต์ล็อกชั้นนะคะ ส่วนปุ่มกดเป็นระบบสัมผัสกดได้ง่าย

สำหรับชั้น 2 นี้จะเป็นชั้นเริ่มต้นพักอาศัยทั้งหมดนะคะ จนไปถึงชั้น 8 เลยค่ะ มีการจัดวางผังแบบเดียวกัน สำหรับอาคาร A และมีการจัดวางจะใกล้เคียงกันนะคะ คือวางตึกเป็นรูปตัว L ส่วนสิ่งที่แตกต่างกันหลักๆ คือ ทิศของอาคาร และจำนวนยูนิต

อาคาร A เป็นอาคารที่เน้นหันไปทางทิศตะวันตกและทิศใต้เป็นหลัก ดังนั้นห้องพักอาศัยอาคารนี้แนะนำให้เลือกห้องวิวสระว่ายน้ำภายในนะคะ เพราะโดนแดดน้อยกว่า ทำให้ห้องไม่ร้อนมากนัก ส่วนจำนวนยูนิตมากกว่าอาคาร B เล็กน้อยค่ะ ส่วนใหญ่อาคารนี้จะมีโปรโมชั่นจัดห้องราคาพิเศษอยู่ ใครมองหาห้องในโครงการนี้แต่อยากได้งบไม่มาก ลองสอบถามเซลล์สำหรับราคาห้องพักอาคาร A นะคะ

อาคาร B จุดเด่นคือชั้นบนได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา มีจำนวนยูนิตน้อยกว่า โถงลิฟต์ขนาดใหญ่มากขึ้น และทิศทางแดดเน้นหันออกไปทางทิศเหนือและทิศตะวันออก ซึ่งเป็นทิศที่หันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยานั่นเองค่ะ

สำหรับชั้น 3-8 การจัดวางผังเหมือนกันกับชั้น 2 เลยนะคะ เราจะมาเจาะลึกวิเคราะห์กันที่ตัวห้องกันต่อ สำหรับห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงกว่าห้องอื่นๆ เพราะมีเพียงผนังด้านเดียวที่ติดกับห้องเพื่อนบ้านคือ ห้อง 2 Bedroom ขนาด 45 ตร.ม. (สีเทา) หมายเลข 08 (เส้นประสีเหลือง) แต่จะด้อยกว่าห้องมุมอาคารฝั่งด้านนอกตรงที่มีด้านนึงประชิดกับอาคารตรงข้าม และห้องที่ได้ความเป็นส่วนตัวเพราะมีผนังด้านเดียวติดกับเพื่อนบ้านคือห้อง 1 Bedroom สีม่วงหมายเลข 07 (เส้นประสีน้ำเงิน)

ขึ้นมาดูบรรยากาศภายในอาคารชั้นพักอาศัยกันนะคะโดยเมื่อขึ้นลิฟต์มาก็จะเจอส่วนโถงทางเดินหน้าลิฟต์ก่อนก่อนจากนั้นแยกโถงทางเดินแยกเป็น 2 ฝั่ง ค่ะ ซึ่งโถงทางเดินหน้าลิฟต์ของอาคาร B นี้จะมีพื้นที่กว้างขวางกว่าอาคาร A นะคะ

บรรยากาศโถงทางเดินกว้างขวางพอสมควรค่ะ แต่ข้อเสียของโถงก็มีเพราะเป็นโถงที่ไม่มีช่องเปิดตรงปลายอาคารเลย (สังเกตจากแปลน) ทำให้การระบายอากาศและแสงสว่างเข้ามาภายในโถงได้ยากมากขึ้น

ขึ้นมาบนชั้นดาดฟ้าจะขึ้นจากบันไดหนีไฟนะคะ หากใครไม่อยากขึ้นบันไดหลายชั้นสามารถกดลิฟต์ขึ้นมาชั้น 8 และเดินต่ออีกชั้นเพียงขึ้นชั้นดาดฟ้าได้ค่ะ บนชั้นดาดฟ้าของทั้ง 2 อาคารตกแต่งเป็นสวนพร้อมพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor ให้ลูกบ้านได้ขึ้นมานั่งเล่นสูดอากาศพร้อมชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วยค่ะ

ชุดโต๊ะเก้าอี้ไว้สำหรับนั่งเล่นแบบ Outdoor มีไว้ให้หลายชุดเลยค่ะ สามารถรองรับลูกบ้านได้ระดับนึง

ปิดท้ายด้วยวิวที่หันไปเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาจากชั้นดาดฟ้านะคะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ขนาด 10 x 14 เมตร
  • ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 11 เครื่อง
  • สวนและพื้นที่นั่งเล่น Outdoor ชั้นดาดฟ้า
  • ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 101.5 :  1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก A  105 : 1
  • อัตราส่วนลิฟท์ตึก B 98 : 1
  • ที่จอดรถประมาณ 141 คันคิดเป็น 34.7% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • ระบบ CCTV / Access Card

 


Product Walkthrough

ห้องพักอาศัยที่นี่มีแบบให้เลือกค่อนข้างหลากหลายทีเดียวค่ะ โดยจะแบ่งเป็น 1 Bedroom และ 2 Bedroom เป็นหลัก รูปแบบการขายมาตรฐานคือ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์จากทาง CMC เอง ทั้งนี้ก็จะมีรูปแบบการขายแบบอื่นๆ ด้วยขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นที่ทางโครงการจัดตามช่วงเวลานั้นๆ อย่างตอนที่เราได้เข้าไปรีวิว ทางโครงการเองก็มีรูปแบบการขายที่เพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ด้วย (มีอยู่ไม่กี่ยูนิต) หรือในกรณีที่ลูกค้าไม่ต้องการเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานที่โครงการจัดให้จะได้รับส่วนลด 30,000 บาทแทนค่ะ

 

  • 1 Bedroom 29.85 – 37.5 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 37.4 – 47.6 ตร.ม.

เริ่มต้นกันที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 29.25 ตร.ม. จัดเป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการนะคะ ห้องไซส์นี้สามารถอยู่ด้วยกัน 2 คนกำลังดีค่ะ ในการจัด Layout ห้องนี้ทำได้เป็นสัดส่วนดี แยกฟังก์ชันการใช้งานชัดเจน เริ่มต้นจากเข้าห้องมาเจอห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหาร บริเวณนี้ได้แสงธรรมชาติจากกระจกส่วนโต๊ะเครื่องแป้งภายในห้องนอน ทำให้พื้นที่สว่างมากขึ้น แต่ไม่ได้เน้นเห็นวิวภายนอกเท่าไหร่นะคะ วิวภายนอกจะได้เห็นจากภายในห้องนอน ซึ่งชุดบานหน้าต่างที่นี่จัดมาให้ขนาดใหญ่เต็มผนังดีค่ะ

ห้องครัวและห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วนชัดเจนจากห้องนอนและห้องนั่งเล่นโดยการกั้นด้วยประตูบานเลื่อน ทำให้ครัวเป็นลักษณะครัวปิด ติดระเบียงเหมาะกับการทำอาหารมากขึ้น ส่วนห้องน้ำแยกโซนเปียกและแห้งด้วยการกั้นฉากกั้นกระจกให้เรียบร้อยค่ะ สะดวกในการใช้งานดี

 

เข้าไปดูบรรยากาศภายในห้องจริงกันต่อนะคะ เริ่มต้นจากประตูที่นี่ใช้วัสดุเป็น HDF ปิดผิวด้วย Wallpaper สีเทาเรียบๆ กลอนประตูให้เป็น Digital Door Lock จาก Sifeti ซึ่งจากสามารถเปิดเข้าห้องได้ทั้งหมด 3 ทางด้วยกัน คือใช้ Keycard, Password และกุญแจ ส่วนพื้นบริเวณทางเข้าห้องปิดขอบด้วยไม้สำเร็จรูปทั่วไป พื้นภายในใช้ลามิเนตค่ะ

ด้านในติดตั้ง VDO Door Phone ให้เป็นมาตรฐานในทุกห้อง ซึ่งลูกบ้านสามารถติดต่อกับแขกได้โดยตรง พร้อมทั้งสามารถกดเปิดประตูให้แขกเข้าสู่โถงลิฟต์ด้านล่างเพื่อขึ้นมาที่ห้องได้เลย โดยไม่ต้องลงไปรับด้วยตนเองค่ะ

เข้ามาภายในห้องนั่งเล่นกันก่อนนะคะ บริเวณนี้ทางโครงการจัดชุดเฟอร์นิเจอร์มาให้ดูเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ ยกเว้นของตกแต่งทั้งหมด บรรยากาศภายในห้องไม่โปร่งโล่งมากนักเพราะมีชุดกระจกให้ 1 จุดไม่เต็มพื้นที่ผนัง แสงธรรมชาติเข้ามาได้ระดับนึงค่ะ หากอยากให้บริเวณนี้สว่างมากขึ้นก็ต้องพึ่งพาแสงสว่างจากดวงโคมเสริมด้วยนะคะ แต่ด้วยเนื้อที่ช่องแสงที่ให้มาเท่านี้ ทำให้มีพื้นที่ผนังในการฟังก์ชันมากขึ้นอีกหน่อย ผนังบริเวณนี้จึงสามารถ Built-in ชั้นวางของต่างๆ เพิ่มได้อีกค่ะ

สำหรับพื้นที่นั่งเล่นนี้ชุดเฟอร์นิเจอร์ที่ได้เป็นโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง (ไม่รวมหมอน) และโต๊ะกลางแบบกลมนะคะ ด้านข้างโซฟายังเหลือพื้นที่อีกหน่อยที่สามารถวางโต๊ะข้างโซฟาเพิ่มเติมได้ค่ะ

ส่วนชุดโต๊ะรับประทานอาหารจะได้เป็นขนาดสำหรับ 2 ที่นั่ง หันหน้าชนเข้าผนัง พร้อมเก้าอี้ 2 ตัว ตามรูปด้านบนเลยค่ะ

สำหรับชั้นวางทีวีได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in เป็น HDF ปิดผิวด้วยลามิเนต ด้านบนติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้

ถัดเข้ามาภายในห้องนอน ลักษณะห้องนอนเป็นบานเปิดแทนที่ประตูบานเลื่อนที่เรามักเห็นในห้อง 1 Bedroom ทั่วไป ซึ่งสำหรับใครที่ชอบความเป็นสัดส่วน และเป็นส่วนตัว บานเปิดแบบนี้จะตอบโจทย์มากกว่าค่ะ ส่วนกระจกนี้ได้เป็นกระจกเข้ามุมนะคะ อย่างที่บอกว่าช่วยให้รับแสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่นั่งเล่นได้มากขึ้น แต่หากห้องนอนต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นจะติดฟิล์มฝ้าหรือผ้าม่านเพิ่มเติมก็จะช่วยได้ค่ะ

ภายในห้องนอนถือว่าได้ขนาดใหญ่โปร่งโล่งดีค่ะ ซึ่งผังห้องนี้ให้ความสำคัญกับพื้นที่ห้องนอนพอสมควร ฐานเตียงที่ได้ขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size มาพร้อมบานหน้าต่างที่ได้เต็มผนัง และสูงเกือบจะถึงพื้นเลย ทำให้ภายในห้องนี้โปร่งโล่งมากขึ้น

รอบเตียงมีความกว้างของทางเดินพอสมควรให้เดินได้ง่ายนะคะ

ด้านข้างของเตียง Built-in โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้ามาให้เป็นมาตรฐาน โดยใช้วัสดุ HDF มาประกอบ เฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดนี้จาก CMC ที่มีโรงงานผลิตเองค่ะ

โต๊ะเครื่องแป้งมีลิ้นชักไว้เก็บของ ไม่ Soft Close

ตู้เสื้อผ้าขนาดตามพื้นที่สูงจากพื้นถึงฝ้า ภายใน Built-in ราวแขวนเสื้อ มีชั้นวางของด้านข้าง แต่พื้นฝั่งราวแขวนเสื้อเปิดเป็นพื้นห้องเลยแบบนี้ดูไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นะคะ ส่วนบานประตูเป็นบานเลื่อนกรุกระจกเงาให้มีพื้นที่ส่องกระจกดูการแต่งตัวได้

ถัดมาที่ห้องครัวกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนเดินรางด้านบน

การเดินรางด้านบนทำให้พื้นไม่มีธรณีที่เดินแล้วสะดุดนะคะ ส่วนวัสดุพื้นครัวเปลี่ยนเป็นแกรนิตโต้ที่เหมาะกับการทำครัวมากขึ้น เพราะตัววัสดุนี้ทำความสะอาดง่าย รวมไปถึงมีความคงทนในการใช้งาน

ชุดครัวที่ได้ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ ประกอบด้วย เคาน์เตอร์ครัว Back Splash ผนังด้านหลังครัวที่กรุด้วยกระเบื้องโมเสค และชั้น Built-in ด้านบน สำหรับวัสดุท็อปครัวนี้ใช้เป็นหินแกรนิต หน้าบานปิดผิวด้วยเมลามีนสีดำเงา ไม่มี Soft Close ด้านข้างเคาน์เตอร์เว้นพื้นที่ว่างไว้สำหรับวางตู้เย็นขนาดเล็ก-กลางได้กำลังดี

ด้านล่างเคาน์เตอร์ตรงกลางเว้นช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้านะคะ บานเปิดด้านล่างมีลิ้นชักให้ 3 ลิ้นชักไว้เก็บถ้วยชาม ช้อนส้อมต่างๆ และด้านล่าง Sink สามารถเก็บอุปกรณ์ครัวที่ใหญ่ขึ้นมาได้เช่น หม้อ กะทะ เป็นต้น

Sink ล้างจานหลุมเดี่ยวจาก Schön

Hob & Hood จาก Schön  ลักษณะเตาเป็นแบบหัวเซรามิก 2 หัวค่ะ

ชั้น Built-in ด้านบนให้มาเต็มผนัง สามารถเก็บของได้เยอะพอสมควร ใช้พื้นที่ผนังได้เต็มที่ดี

ทางเดินกว้างประมาณ 90 ซม. ถือว่ามีระยะกว้างพอสมควรให้เดินและใช้งานบริเวณครัวได้สะดวก

ติดกันเป็นส่วนระเบียงซักล้างนะคะ กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน

ขนาดระเบียงอยู่ที่ประมาณ 1.5 . x 0.9 ม. ถือเป็นขนาดที่พอจะใช้งานได้ระดับนึงค่ะ ไม่เล็กมากเกินไป วัสดุปูพื้นใช้กระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. รอบข้างเว้นช่องไว้สำหรับระบายน้ำได้ ซึ่งดูไม่สวยงามเท่ากับการปูกระเบื้องเต็มพื้นที่แล้วทำพื้นแบบ Slope (ทางลาด) เพื่อระบายน้ำแทนนะคะ ส่วนราวกันตกให้เป็นสแตนเลสและกระจก ดูสวยงามมากว่าเหล็กโปร่งพ่นสีค่ะ

CDU เครื่องปรับอากาศจัดมาให้เป็นแบบแขวนเป่าลมร้อนเข้าผนังด้านข้างของห้อง หากไม่อยากให้ลมร้อนเป่าเข้าบริเวณระเบียงนี้โดยตรงแนะนำให้ติดกริลล์เบี่ยงทิศทางลมได้นะคะ

มาดูภายในห้องน้ำกันต่อ เริ่มจากบานประตูใช้ประตูสำเร็จรูป กลอนแบบลูกบิดที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันมากแล้วนะคะ สำหรับคอนโดระดับราคาเฉลี่ย 93,000 บาท/ตร.ม.

ภายในห้องน้ำลดระดับพื้นลงเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อนได้ดี วัสดุปูพื้นใช้กระเบื้องสีดำผิวด้านเล็กน้อยกันลื่นได้ระดับนึงค่ะ

การจัดวางฟังก์ชันเป็นสัดส่วนแยกส่วนเปียกและแห้งชัดเจนด้วยฉากกั้นกระจก Tempered แบบ Frameless ส่วนผนังฝั่งโซนแห้งกรุด้วยกระจกเงาเต็มบานสูงถึงฝ้าเพดานให้สามารถส่องกระจกได้เต็มที่และช่วยให้ห้องน้ำดูโปร่งมากขึ้นด้วย

ส่วนแห้งประกอบด้วยอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จาก Nahm ด้านหลังทำ Low Wall ไว้ให้สำหรับวางของใช้จุกจิกได้ดีค่ะ

พื้นที่อาบน้ำยกธรณีเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน ขนาดพื้นที่ภายในประมาณ 0.8 x 1.1 ม. ถือขนาดกะทัดรัดแต่ไม่แคบจนเกินไปค่ะ

ฝักบัวได้ 2 แบบ คือ Rain Shower และสายอ่อน จาก Schön

ห้องโปรโมชั่นพิเศษ

ทางโครงการมีจัดห้องโปรโมชั่น ซึ่งห้องนี้จะได้การตกแต่งแบบเต็มที่มากขึ้นอย่าง ของตกแต่ง ถ้วยจาน เครื่องใช้ไฟฟ้าและผ้าม่านค่ะ ซึ่งเราถ่ายมาให้ดูว่าห้องนี้จะมีอะไรให้เพิ่มเติมบ้างในทีละส่วนนะคะ

อย่างบริเวณพื้นที่นั่งเล่นมีเพิ่มเติมให้ในส่วนของหมอนข้าง 2 ใบ พรม และถ้วยชาม

ได้ทีวีขนาด 43″ จาก Sharp

ห้องนอนได้ฟูกและชุดเครื่องนอนตามรูปเลยค่ะ พร้อมกับผ้าม่านทั้งแบบโปร่งและแบบทึบ

ภายในครัวเพิ่มเติมให้ในส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างตู้เย็นจาก Hitachi, ไมโครเวฟจาก Electrolux และอุปกรณ์ครัวเล็กน้อยอย่างกะทะ หม้อ ต่างๆ ที่ตกแต่งไว้ในห้องตัวอย่าง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 16 กันยายน 2018

  • 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. ราคา 2,717,680 – 2,867,320 บาท คิดเป็นราคาต่อตาราเมตรประมาณ 93,713 – 98,873 บาท
  • 2 Bedroom ขนาด 44 ตร.ม. ราคา 3,506,120 – 4,365,970 บาท คิดเป็นราคาต่อตาราเมตรประมาณ 79,684 – 99,226 บาท

  • Fully Furnished
  • ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood
  • Shuttle Bus ไปกลับ MRT บางอ้อ และ กฟผ.
  • จอง n/a บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


เจาะลึกรวบยอด

ทำเล

โครงการ Chateau in Town จรัญสนิทวงศ์ 96/2 เป็นโครงการ Low Rise ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 96/2 ตามชื่อโครงการ ลึกเข้าไปประมาณ 140 ม. ซึ่งทำเลในย่านนี้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นชุมชนดั้งเดิมอยู่ทั้งหมด ความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ อยู่ในระดับชุมชนไม่หวือหวา และค่าครองชีพไม่สูงมากนัก ศูนย์กลางของย่านนี้ที่รู้จักกันดีคือ โรงพยาบาลยันฮี และกฟผ.

แต่ต้องบอกเพิ่มเติมว่าทำเลนี้หลังจากรถไฟฟ้าได้มีการก่อสร้างจนปัจจุบันใกล้จะได้ใช้กันแล้วนั้นก็มีโครงการที่เกิดขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าสายนี้มากมาย ที่อยู่ติดถนนจรัญสนิทวงศ์เลย ใกล้รถไฟฟ้าและเป็น High Rise หากพูดในเชิงทำเลโครงการก็จะยังไม่ใช่จุดเด่นที่กินขาดในเรื่องนี้ค่ะ แต่ต้องบอกว่าหากใครที่ชอบความสงบ เป็นส่วนตัวมาหน่อย ยอมแลกกับการอยู่ในซอยย่อย โครงการนี้ก็จะตอบโจทย์ค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ

การใช้รถเน้นการเดินทางบนถนนจรัญสนิทวงศ์ วิ่งไปทางบางพลัดจะสะดวกที่สุด และอยู่ไม่ไกลจากสะพานพระราม 7 ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้การเดินทางเข้าฝั่งพระนครไปทางวงศ์สว่าง ประชาชื่น ค่อนข้างสะดวกค่ะ ขณะเดียวกันก็มีทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ สามารถวิ่งเข้า-ออกเมืองได้ง่ายมากขึ้น ส่วนที่จอดรถ 34.7% ไม่รวมซ้อนคัน เรายังมองว่าให้มาไม่มากเมื่อเทียบกับราคาที่จ่ายไปค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถหากเทียบกับโครงการที่มีราคาขายและทำเลใกล้เคียงกัน โครงการนี้ยังไม่จัดว่ามีจุดเด่นในแง่การเดินทางโดยไม่ใช้รถนะคะ เพราะอยู่ในซอยย่อย ต้องอาศัยต่อรถ หรือเดินมาหน้าปากซอยเพื่อขึ้นรถสาธารณะต่างๆ ส่วนรถไฟฟ้าสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือ MRT บางอ้อ มีระยะห่างประมาณ 1 กม. ถือว่าเกินระยะเดินได้ง่ายมากพอสมควร ต้องอาศัยต่อมอเตอร์ไซค์ไปขึ้นรถไฟฟ้าจะตอบโจทย์ที่สุดแทน แต่ทางโครงการก็มีการเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้มากขึ้น ด้วยการจัด Shuttle Service รับ-ส่งลูกบ้านไป MRT บางอ้อ โรงพยาบาลยันฮี และกฟผ.

วัสดุ

รูปแบบโครงการขายแบบ Fully Furnished ซึ่งใช้ชุดเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดจาก CMC เป็นมาตรฐาน ซึ่งหากเทียบกับราคาเฉลี่ย 93,000 บาท/ตร.ม. แล้ว น่าจะให้เกรดวัสดุที่ดีกว่านี้ได้อีกนะคะ ทั้งงาน Built-in และเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ส่วนที่ชอบคือชุดบานหน้าต่างในห้องนอนที่ได้ขนาดใหญ่เต็มผนัง VDO Door Phone และห้องน้ำที่ให้ฉากกั้นกระจก พร้อม Rain Shower ค่ะ

การออกแบบ

รูปแบบโครงการเป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร ล้อมรอบ Main Facilities ตรงกลาง ทำให้ห้องพักอาศัยด้านในได้วิวจากสระว่ายน้ำด้วย ซึ่งจะเหมาะกับอาคาร A เนื่องจากห้องฝั่งภายนอกเป็นทิศที่รับแดดพอสมควรทั้งทิศตะวันตกและทิศใต้ ส่วนอาคาร B มีจุดเด่นคือหันหน้าออกไปในทิศไม่โดนแดดช่วงบ่ายมากนัก และห้องฝั่งด้านในก็ได้อาคาร A ช่วยบังแดดให้ได้บางช่วงเวลาด้วยค่ะ รวมไปถึงชั้นดาดฟ้าที่สามารถขึ้นมาชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้

ห้อง 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. เรามองว่าจัดมาได้เป็นสัดส่วนและน่าสนใจ เด่นที่ฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน ทั้งห้องนอนได้ประตูบานปิด ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าบานเลื่อนกระจก และห้องครัวแบบปิดที่เหมาะกับการทำอาหารมากขึ้น สุดท้ายคือห้องน้ำกั้นส่วนเปียกและแห้งชัดเจนด้วยฉากกั้นกระจกเป็นมาตรฐาน

สาธารณูปโภค

สาธารณูปโภคให้มามาตรฐานไม่พิเศษ โดยมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนส่วนกลาง ทั้งนี้หากใครที่ซื้อห้องราคาขายตามโปรโมชั่น ตกต่อตารางเมตร 67,000 – 68,000 ตร.ม.นั้นก็จะถือว่าให้มามาตรฐานค่ะ แต่ด้วยราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 93,000 ตร.ม.แล้ว และยังเทียบกับโครงการข้างเคียงเพิ่มเติมอีก เรามองว่าโครงการยังให้มาน้อยไปนะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา 93,000 บาท/ตร.ม., 16 กันยายน 2018

  • ทำเล 7 /10 – อยู่ในซอยย่อย ทำเลชุมชน มีความสงบเป็นส่วนตัวมากกว่าคอนโดติดถนนใหญ่
  • เดินทางด้วยรถ 7/10 – เดินทางสะดวกบนถนนจรัญสนิทวงศ์ ทางด่วนศรีรัช และสะพานพระราม 7
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – ลึกจากถนนใหญ่ 140 ม. และห่างจากรถไฟฟ้าสถานีบางอ้อ ประมาณ 1 กม.
  • วัสดุ 6/10 – Fully Furnished ครบก็จริง แต่น่าจะได้เกรดดีกว่านี้เมื่อเทียบกับราคา
  • แบบ 7.5/10 – แบบห้อง 1 Bedroom จัดฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วน ลงตัว
  • สาธารณูปโภค 6.5/10 – มาตรฐานทั่วไป แต่เทียบราคาและโครงการเพื่อนบ้านควรได้มากกว่านี้

  • MAIN CLASS
  • 6.85 / 10.00

BOTTOM LINE

โครงการ Chateau in Town จรัญสนิทวงศ์ 96/2 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดมิเนียมในย่านจรัญฯ – สะพานพระราม 7 อยากได้บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัว เน้นขับรถเองเป็นหลัก ใช้ทางด่วนศรีรัชสะดวก ใช้ MRT บางครั้งเป็นตัวเลือกในการเดินทาง ชอบห้องฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ ในราคาประมาณ 2.7 – 4.3 ล้านบาท