รีวิวฉบับที่ 2117 …  สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่กันแล้วนะครับ สำหรับ IDEO รัชดา-สุทธิสาร คอนโด High Rise 24 ชั้น ห่างจาก MRT สุทธิสารประมาณ 450 เมตร ภายในออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้ชีวิตตลอด 24 ชั่วโมง มีทั้งส่วนกลางที่เปิดตลอด การจัดผังที่ได้ความเป็นส่วนตัว รวมไปถึงมีรูปแบบห้องให้เลือกหลากหลายที่มากับเฟอร์นิเจอร์พร้อมเข้าอยู่ ในราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท ลองเข้าไปชมรายละเอียดกันเลยครับ

ข้อมูลโครงการ

20 August 2020

  • Ideo Ratchada-Sutthisan (ไอดีโอ รัชดา-สุทธิสาร)
  • บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)
  • UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 ได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนสุทธิสารวินิจฉัย เขตดินแดง
  • ที่ดินประมาณ 1-3-97 ไร่
  • คอนโด High Rise 24 ชั้น 410 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 24 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 182 คัน คิดเป็น 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
  • เริ่มก่อสร้าง :  Q4 2561
  • Studio ขนาด 28.5 – 29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาด 33.50 – 34.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 1 Bath ขนาด 46 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.59 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 2 Bath ขนาด 56.50 – 71.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท
  • ฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท / หรือตร.ม.ละ 104,912 บาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม.
  • ว็บไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-316-2222

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.789802, 100.570066
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการครับ

ทำเลโครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนสุทธิสารวินิจฉัย ช่วงระหว่างถนนรัชดาและถนนวิภาวดีรังสิต สามารถเข้าออกได้ทั้งสองทาง ใกล้แหล่งงานสำคัญทั้งพวกแนวอาคารสำนักงานบนถนนวิภาวดีรังสิต หรือจะไปพระราม 9, อโศก ทางถนนรัชดาภิเษกก็ไม่ได้ยากเลย มีซอยย่อยเป็นตัวเลือกในการลัดเลาะไปยังถนนใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติด การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจึงจัดว่าสะดวกเหมือนกันครับ ทางโครงการให้พื้นที่จอดรถมาประมาณ 182 คัน คิดเป็น 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ก็จัดว่าไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป เพราะอย่าลืมว่าเรามีรถไฟฟ้าในระยะเดินนะครับ

สำหรับรถไฟฟ้าจะเป็นสถานีสุทธิสารที่มีระยะห่างออกไปประมาณ 450 เมตร ซึ่งสามารถเดินได้ไม่ไกลจนเกินไป (หรือใครที่ไม่อยากเดิน ทางโครงการก็มี Shuttle Van รับส่งให้นะครับ แต่รายละเอียดต้องรอนิติบุคคลอีกทีนะครับ) การเดินทางด้วยรถไฟฟ้านี้ค่อนข้างสำคัญเพราะสามารถเชื่อมต่อแหล่งงานสำคัญของกรุงเทพฯได้ง่ายทั้งรัชดาฯ, พระราม 9, อโศก, สีลม ได้ง่าย

ขอบคุณรูปภาพจริง https://metro.bemplc.co.th/MRT-System-Map

นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆได้ง่ายอีกด้วยครับ เช่น

  • ห่างออกไป 2 สถานี จะสามารถ interchange กับรถไฟฟ้าสายสีส้มได้ที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
  • ห่างออกไป 4 สถานี จะสามารถ interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ที่สถานีห้าแยกลาดพร้าว
  • ห่างออกไป 5 สถานี จะสามารถ interchange กับรถไฟฟ้าสายสีเขียวได้ที่สถานีสุขุมวิท
  • ห่างออกไป 6 สถานี จะสามารถ interchange กับรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ที่สถานีเตาปูน

ส่วนรถประจำทางก็มีวิ่งตลอดแนวถนนสุทธิสารเลย และเรียกแท็กซี่หรือพี่วินได้ไม่ยาก เพราะมีจุดประจำพี่วินอยู่ที่ใกล้โครงการประมาณ 20-30 เมตร เท่านั้น ทำให้สามารถเดินทางได้ค่อนข้างหลากหลาย

สำหรับถนนสุทธิสารวินิจฉัยเป็นถนนที่มีคนสัญจรตลอดทั้งวัน เนื่องจากอยู่ระหว่างถนนใหญ่ทั้ง 2 เส้น เป็นย่านที่อยู่อาศัยแนวราบเป็นหลัก ด้านในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย ส่วนด้านนอกฝั่งที่ติดกับถนนใหญ่จะเป็นตึกแถวตลอด 2 ข้างทาง ที่ด้านล่างทำเป็นร้านค้าพาณิชย์ ทำให้ย่านนี้มีความอุดมสมบูรณ์ตลอดทั้งเส้น หาของกินได้ง่าย ในปัจจุบันจะมึตึกสูงให้เห็นกันบ้างแล้ว ถือว่าเป็นย่านที่น่าสนใจเลยทีเดียว ในระยะเดินจะมี 7-eleven ห่างจากโครงการประมาณ 20-30 เมตร และแนวร้านอาหารฝั่งตรงข้ามโครงการ

ถ้าออกมาหน่อยบนถนนรัชดาภิเษกมีอยู่เยอะแยะเลยครับ โดยเฉพาะทางโซนพระราม 9 จะมีทั้งเซ็นทรัลพระราม 9, ห้างฟอร์จูนทาวน์, Esplanade, Big C, The Street, และตลาดรถไฟ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งธุรกิจที่สำคัญ มีอาคารสำนักงานเยอะแยะเลยทีเดียว ทั้ง G Tower, อาคารตลาดหลักทรัพย์, AIA, ตึก RS เป็นต้น หรือถ้าใครชอบใช้ถนนลาดพร้าวก็จะมีความอุดมสมบูรณ์บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์ และอาคารสำนักงานอื่นๆอีกมากมาย ส่วนตามเส้นทางรถไฟฟ้าบนถนนพหลโยธินของทำเลนี้นี่ไม่พูดถึงไม่ได้ มีอาคารสำนักงานอยู่เต็มไปหมดตลอดทั้งเส้น เรียกได้ว่าเป็นทำเลคนทำงานในเมืองโดยแท้เลยครับ

เส้นทางการเดินทาง

เริ่มต้นการเดินทางในวันนี้ด้วยรถสาธารณะอย่าง MRT สถานีสุทธิสาร ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในการเดินทางหลักของโครงการเลย เพราะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 450 เมตร อยู่ในระยะที่สามารถเดินได้ ไม่เหนื่อย ไม่ไกลจนเกินไป โดยจะเริ่มที่ให้ออกมาทางประตูทางออกหมายเลข 1 จากนั้น เดินไปประมาณ 50 เมตร ทางแยกรัชดา-สุทธิสาร เลี้ยวขวาเข้าซอยสุทธิสารวินิจฉัย เดินตรงต่อไปเรื่อยๆ อีกประมาณ 400 เมตร จะเจอตัวโครงการอยู่ทางขวามือครับ ลองไปดูภาพบรรยากาศกันเลย

Image 1/6
เริ่มต้นที่สถานี MRT สุทธิสาร ให้มองหาประตูทางออกหมายเลข 1 จากนั้นก็ขึ้นไปด้านบนเลยครับ

เริ่มต้นที่สถานี MRT สุทธิสาร ให้มองหาประตูทางออกหมายเลข 1 จากนั้นก็ขึ้นไปด้านบนเลยครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูพื้นที่รอบๆโครงการกันบ้าง โครงการมีขนาดพื้นที่ประมาณ เกือบ 2 ไร่ ติดถนนสุทธิสารวินิจฉัย ด้านข้างฝั่งทิศตะวันตกและทิศเหนือติดคลองห้วยขวาง ส่วนอีกฝั่งเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ 1-2 ชั้นครับ จะมีซอยใกล้เคียงอย่างซอยจิ๊ปดำริห์ที่ใช้เป็นเส้นทางลัดเลาะไปทะลุถนนรัชดาฯได้ ส่วนบริบทโดยรอบส่วนใหญ่ริมถนนสุทธิสารจะเป็นอาคารตึกแถว 3-4 ชั้น ซะเป็นส่วนใหญ่ ด้านในซอยย่อยจะเป็นพื้นที่พักอาศัยแนวราบ ไม่มีตึกสูงในระยะประชิด และห้องพักอาศัยของโครงการจะเริ่มที่ชั้น 6 ขึ้นไปครับ ทำให้ได้วิวโล่งทุกฝั่ง ถนนหน้าโครงการจะเป็น 2 เลน มีรถผ่านไปมาตลอดทั้งวัน มีทางเดินเท้ายกระดับด้านข้างให้เดินได้ ลองไปชมบรรยากาศกันครับ

ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นแนวอาคารตึกแถว 3-4 ชั้น ยาวเลยครับ จะเปิดเป็นร้านค้าร้านอาหารให้เห็นตลอดแนว

เดินต่อไปทางถนนวิภาวดีรังสิต จะมีแนวทางเดินยาวเข้าไปครับ มีทางเดินกว้างประมาณ 1 – 1.5 เมตร

จะมีสะพานข้ามคลองห้วยขวางเล็กๆตรงนี้ ฝั่งตรงข้ามมีอาคาร 4-5 ชั้นครับ พร้อมทั้งร้านค้าร้านอาหารให้มาฝากท้องกันได้ง่ายๆ

ตรงนี้จะมีคลองห้วยขวาง แอบส่งกลิ่นเบาๆ แต่ไม่ได้เข้าไปรบกวนภายในโครงการนะครับ

เดินข้ามมาอีกหน่อยจะมีแนวอาคารสำนักงาน 4-5 ชั้น ครับ ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบเรื่องวิวนัก เพราะห้องพักอาศัยเราเริ่มที่ชั้น 6 ขึ้นไปครับ

ลองไปดูฝั่งถนนรัชดาฯกันบ้าง มีแนวทางเดินหน้าโครงการ สภาพดูดีทีเดียว

ฝั่งตรงข้ามมีแนวอาคารตึกแถว 4 ชั้น เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร

ตรงมานิดหน่อยจะมีซอยจิ๊ปดำริห์ใช้ลัดไปถนนรัชดาได้ ฝั่งตรงข้ามมี 7-eleven

ตรงนี้จะมีพี่วินให้บริการด้วยนะครับ สำหรับใช้ไป MRT สุทธิสารก็ง่ายเลย ซึ่งจริงๆแล้วทางโครงการเองก็มีรถรับส่งฟรีให้นะ แต่มีจุดนี้เป็นตัวเลือกเสริมในเวลาฉุกเฉินก็สะดวกขึ้นไปอีก

มาดูวิวบนอาคารกันบ้าง

ทิศตะวันตกจากชั้น 12A – เป็นฝั่งทางเข้าออกโครงการ ที่ติดกับถนนสุทธิสาร ทำให้จะมีรถวิ่งผ่านและเป็นฝั่งที่ค่อนข้างคึกคักที่สุด วิวที่ได้จะค่อนข้างโล่งครับ เพราะฝั่งตรงข้ามเป็นอาคารตึกแถว 3-4 ชั้น ส่วนห้องพักอาศัยของเราเริ่มที่ชั้น 6 ก็สูงเลยขึ้นมาเยอะแล้ว

ทิศเหนือจากชั้น 12A – ติดกับคลองห้วยขวาง และบ้านพักอาศัยแนวราบ มีอาคาร 24 ชั้น ในระยะประมาณ 220 เมตร (วัดจาก Google Map) ซึ่งค่อนข้างไกล ไม่ได้ส่งผลอะไรมาก

ทิศตะวันออกจากชั้น 12A – ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบและซอยจิ๊ปดำริห์ ถัดไปก็เป็นอาคารตึกแถว 3-4 ชั้น สูงไม่เกินนี้ ระยะไกลจะมีอาคาร 26 ชั้น ในระยะประมาณ 400 เมตร (วัดจาก Google Map) ซึ่งค่อนข้างไกล ไม่ได้ส่งผลอะไรกับวิวมากแล้วครับ

ทิศใต้จากชั้น 12A – ติดกับคลองห้วยขวาง และอาคารสำนักงาน 4-5 ชั้น เห็นแนวถนนสุทธิสาร วิวระยะไกลจะเห็นตึกสูงบนถนนวิภาวดีรังสิตไกลๆครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • MRT สุทธิสาร ~ 450 m.
  • ตลาดห้วยขวาง ~ 1.8 km.
  • มหาวิทยาลัยหอการค้า ~ 2 km.
  • Big C Extra ลาดพร้าว ~ 3.3 km.
  • Esplanade ~ 3.6 km.
  • Big C Supercenter สะพานควาย ~ 3.8 km.
  • Central ลาดพร้าว ~ 4 km.
  • Big C Extra รัชดา ~ 4 km.
  • Central พระราม 9 ~ 4.2 km.
  • Fortune Tower ~ 4.2 km.
  • The Street รัชดา ~ 4.3 km.
  • Union Mall ~ 4.7 km.
  • ตลาดนัดจตุจักร ~ 5.3 km.

รายละเอียดโครงการ

ตัวโครงการของที่นี่ออกแบบมาในแนวคิด “Evole Your 24” คือการตอบโจทย์การใช้ชีวิต 24 ชั่วโมงนั่นเอง ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างของตัวโครงการที่ออกแบบให้มีการรองรับการใช้งาน 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ทำเลที่เลือกอยู่ในย่านนี้อย่างที่บอกไปตอนแรก นอกจากนั้นยังมีส่วนพื้นที่ภายในโครงการอีกหลายส่วนที่ออกแบบมารองรับการอยู่อาศัยแบบ 24 ชั่วโมงต่างๆ รวมไปถึงฟังก์ชันเสริมต่างๆที่เพิ่มขึ้นมาในยุค New Normal ดังนี้

  • การออกแบบผังโครงการ – เริ่มที่จะมีการแยกชั้นพื้นที่ส่วนกลางออกเป็นหลายส่วนเพื่อกระจายจำนวนผู้ใช้ และแยกโซนจากพื้นที่พักอาศัยอย่างชัดเจนไม่รบกวนกัน (ในกรณีที่มีคนออกมาใช้ส่วนกลางตอนกลางคืนก็ไม่รบกวนส่วนห้องพักอาศัย) อีกทั้งยังวางโถงทางเดินในโครงการแบบที่ได้ Single Corridor ทุกห้อง ทำให้เวลาเข้าออกห้องตอนไหนก็ไม่รบกวนเพื่อนบ้าน
  • พื้นที่ส่วนกลาง – ที่นี่ออกแบบให้มีพื้นที่ส่วนกลางบางส่วนสามารถรองรับการใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง เช่นส่วนของห้องออกกำลังกาย ภายในห้องขนาดใหญ่ แยกโซนออกเป็นหลายส่วน และที่ชอบคือมีการลงชื่อเผื่อให้มีรปภ.ทราบว่ามีผู้ใช้งาน จากนั้นจะได้มีการดูแลความปลอดภัยและคอยช่วยเหลือให้ตลอดเวลาด้วย
  • การออกแบบพื้นที่ภายในห้อง – มีแบบห้องให้เลือกหลายแบบ แถมบางส่วนภายในห้องก็ถูกคิดและคำนึงถึงรูปแบบการใช้งานแบบ 24 ชั่วโมง เช่นการเลือกวางพื้นที่โต๊ะทำงานไว้ริมหน้าต่าง และเปิดรับช่องแสงให้มากกว่าปกติสำหรับการทำงานหลายช่วยเวลา, มีพื้นที่ระเบียงที่กว้างสำหรับการจิบกาแฟยามเช้าได้ และมีทั้งห้องที่วางห้องนอนไว้ตรงกลางห้อง หรือริมหน้าต่างให้เลือกด้วย
  • ปรับตัวยุค New Normal – ตัวโครงการมีการเพิ่มฟังก์ชันต่างๆตามยุคนี้ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 คือการฆ่าเชื้อและการลดการสัมผัสในจุดต่างๆของโครงการ

สำหรับผังโครงการในชั้น 1 จะไม่มีห้องพักอาศัยนะครับ จะเริ่มต้นที่ชั้น 6 เข้าออกด้วยระบบรั้วกั้นไม้กระดกอัตโนมัติแบบ Easy Pass จากนั้นก็วนรถภายในแบบเดินรถสวนกันตามแนวสีส้มในรูปนะครับ สำหรับขึ้นที่จอดรถภายในอาคารด้านใน สำหรับ Visitor ก็จอดหลังแนวอาคารเลยนะครับ

สำหรับพื้นที่ภายในชั้นนี้จะเน้นไปที่ส่วนรับรองและต้อนรับ ทั้งส่วน Main Lobby ที่มีพื้นที่รับรองแยกส่วนหลายแบบ มีส่วนห้อง Juristic, Mail Room, Meeting Room, Multi Purpose, Garden, Parcel Room, Laundry และ พื้นที่รับอาหาร Delivery ลองเข้าไปชมกันครับ

เข้ามาด้านในพื้นที่โครงการจะเป็น Drop Off พื้นเป็นคอนกรีตพิมพ์ลาย จากนั้นให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปจอดรถภายในอาคารด้านในได้เลยครับ

จะมีพื้นที่จอดรถเล็กน้อยให้ด้วย ตรงเข้าไปเลยครับ จะมีสวนหน้าโครงการเล็กๆ คอยรับสายตาอยู่

ด้านในจะมีป้อม รปภ. ที่คอยดูแลการเข้าออก เข้าออกด้วยระบบ Access Control แบบ Easy Pass

ด้านในจะมีพื้นที่ขึ้นจอดรถภายในตัวอาคารที่ชั้น 1-5 ครับ

เป็นแนวพื้นที่จอดรถแบบฝั่งเดียวรอบตัวโถงลิฟต์ เข้าออกง่ายดีไม่ซับซ้อน

วนกลับลงมาที่ด้านล่าง เข้าไปดูภายในอาคารกันครับ

เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับส่วนของ Main Lobby ที่ตกแต่งมาค่อนข้างสวยงาม มีพื้นที่ภายในแยกออกเป็นหลากส่วน มี Free Wi-Fi ให้ใช้งาน

ส่วนแรกเป็นพื้นที่ลดระดับสำหรับรับวิวสวนภายนอก ได้แสงธรรมชาติอย่างเต็มที่

มาพร้อมแนวที่นั่งแบบโค้ง ได้ความรู้สึกที่แตกต่างไปอีกแบบ

ด้านในก็มีแนวกระจกเชื่อมกับห้องประชุมด้วย สำหรับรับแสงเข้าห้องประชุมและได้การเชื่อมต่อกัน

ด้านในจะเป็นพื้นที่โถงใหญ่ตรงกลาง ซึ่งจะมีส่วนห้อง Meeting Room

ภายในเป็นห้องขนาดใหญ่ที่มีส่วนประตูปิดกั้นแยกส่วนให้ ได้ความเป็นส่วนตัว แต่ยังได้แสงจากภายนอกด้วยนะครับ

ถัดไปทางไปโถงลิฟต์จะมีตู้เย็นให้ ตรงนี้จะเป็นพื้นที่สำหรับนำผักสวนครัวที่ทางโครงการปลูกที่ชั้นดาดฟ้ามาแจก ลูกบ้านสามารถมาหยิบไปใช้ประกอบอาหารได้ตลอดเลยนะครับ

ด้านในจะมีส่วนของห้อง Mail Box และ Parcel Room พร้อมพื้นที่นั่งเล่นให้ด้วย

ห้อง Mail  Box ไม่ใหญ่นัก เพราะมีเพียง 410 ยูนิต รวมอยู่จุดเดียวก็ใช้งานได้ง่ายดีครับ

ส่วนอีกห้อง Parcel Room เป็นส่วนของห้องที่มีเครื่อง UV Sterilizer สำหรับรับของที่นำมาฆ่าเชื้อทำความสะอาดด้วยรังสี UV-C เข้ากับยุค New Normal ครับ

ก่อนจะเข้าไปโถงลิฟต์เดินเข้าไปดูพื้นที่ภายในที่เหลือกันก่อนครับ ตรงนี้จะมีจอที่เอาไว้ประกาศและบอกข่าวสารแก่ลูกบ้าน เป็นจุดที่สังเกตได้ง่าย

ด้านในมีห้องน้ำตรงกลาง ห้อง Laundry ทางซ้ายมือ และห้องรับพัสดุจาก Grab & Get ครับ

ส่วนของห้องนี้จะทำให้ไม่ต้องมีคนแปลกหน้าไปเข้าถึงหรือนั่งรอในส่วน Lobby เหมาะกับยุค New Normal อย่างดีเลย

เป็นช่องสำหรับส่งอาหารโดยที่ไม่ต้องสัมผัสตัวกัน

ส่วนด้านล่างจะมีเครื่องสำหรับทำความสะอาดด้วยรังสี UV อีกด้วย

ส่วนโถงลิฟต์ของที่นี่ก็ตกแต่งมาค่อนข้างสวยงามเลย เข้าออกด้วยระบบ Face Scan ลดการสัมผัส เหมาะกับยุค New Normal อีกแล้วภายในจะมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ครับ ทำให้มีอัตราส่วนลิฟต์ทั้งโครงการอยู่ที่ 1 : 133 การใช้งานหนาแน่นอยู่เหมือนกันครับ

ขึ้นมาต่อที่ชั้น 6 ซึ่งจะเป็นชั้นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการ จะมีห้องพักอาศัยรวมอยู่ด้วย 14 ยูนิต ที่มีการแยกส่วนกันชัดเจน ไม่รบกวนกัน ทุกห้องจะได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor โดยจะวางห้องขนาดใหญ่ 2 Bedroom ไว้ที่มุมอาคารฝั่งทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ส่วนห้องอื่นๆจะเป็นห้อง 1 Bedroom

พื้นที่ส่วนกลางชั้นนี้จะประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20 x 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร พร้อมพื้นที่ริมสระ มีส่วนของห้องน้ำแยกชายหญิง และ Fitness ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ลองไปชมภาพจริงกันครับ

โถงลิฟต์ของชั้น 6 จะแยกประตูออกเป็น 2 ฝั่ง ทั้งส่วนพื้นที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้แยกความเป็นส่วนตัวออกจากกันอย่างชัดเจน ใช้เป็นระบบ Face Scan เช่นเดิมครับ

เปิดประตูออกมาที่พื้นที่ส่วนกลาง จะเจอกับส่วนของสระว่ายน้ำก่อนเลย บริเวณนี้ตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหิน และใช้วัสดุผิวเงาปิดผิวฝ้า ทำให้สะท้อนกับสระว่ายน้ำ ดูไม่อึดอัด มีพื้นที่ริมสระรับรองให้ตั้งแต่เข้าถึง

อีกฝั่งจะเป็นพื้นที่ล้างตัว และทางขึ้นลงสระว่ายน้ำ

มีเตียงสำหรับนอนพักผ่อนในน้ำ ผู้ติดตามหรือใครที่ไม่ได้อยากเปียกเยอะก็สามารถใช้งานได้

พื้นที่ล้างตัวแบบ Rain Shower ค่อนข้างใหญ่ ใช้งานได้สะดวกดีครับ

ด้านในของสระจะมีพื้นที่สีเขียวตกแต่งให้ด้วย เป็นพื้นที่นั่งเล่นที่มีน้ำพุในโซน Jacuzzi สำหรับผ่อนคลายและคอยสร้างบรรยากาศ จึงจัดเป็นสระที่สามารถใช้งานได้ทั้งว่ายออกกำลังกายและนั่งพักผ่อนเลย ตรงนี้ข้อดีคือเป็นสระที่มีหลังคา ทำให้สามารถใช้งานได้จริงทุกช่วงเวลา ทั้งแดดแรงและฝนตกก็ไม่ต้องกลัวเลยครับ

มาดูข้างๆกับส่วนพื้นที่ภายในอาคารกันบ้าง เป็นห้องออกกำลังกายทางซ้ายมือ ด้านในเป็นห้องน้ำแยกชายหญิงครับ

ส่วนห้องออกกำลังกายที่นี่จะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ซึ่งจะมีให้ลงชื่อกับพนักงานเพื่อให้นิติบุคคลทราบว่ากำลังมีผู้ใช้งานจะได้ดูแลและช่วยเหลือได้ตลอดเวลา อีกจุดเด่นของพื้นที่นี้คือเปิดรับวิว 3 ฝั่ง ทำให้ได้ช่องแสงเยอะและดูโปร่งโล่งมากๆ

มีพื้นที่สำหรับ Cardio ดูวิวภายนอก

ด้านในเป็นเครื่องออกกำลังกายแบบ Weight Machine สำหรับออกกำลังกายแบบเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ภายในนี้จะตกแต่งด้วยสีส้มที่ช่วยให้ความรู้สึกที่ดู Active เหมาะกับการออกกำลังกาย

ด้านในมีส่วนแบ่งกั้นด้วยแนวประตูบานหมุน ซึ่งจะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นคลาสอออกกำลังกายได้ ทั้งจะเต้น จะ Body Weight หรือ Yoga Fly ก็สามารถเล่นกันได้ด้านในเลยครับ

ทางโครงการก็เตรียมอุปกรณ์และทำมุมต่างๆไว้สำหรับรองรับการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ มีแนวกระจกช่องแสงขนาดใหญ่ 2 ฝั่ง ที่ช่วยเป็นแสงให้กับทั้งห้อง Fitness นี้เลย

ออกมาดูส่วนห้องน้ำกันต่อครับ เป็นห้องน้ำที่แยกชายหญิงไว้ให้ ซึ่งภายในก็มีหลากหลายฟังก์ชันมาอำนวยความสะดวกครบเหมือนกัน

เป็นห้องน้ำทรงโค้งให้ดูไม่น่าเบื่อและเข้ากับรูปฟอร์มของห้อง Fitness ซึ่งอยู่ติดกัน ขนาดอาจจะไม่ใหญ่นัก แต่ก็มีสัดส่วนเหมาะสมกับการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ใช้งานได้ประมาณ 4-5 คนพร้อมกัน

มีส่วนอ่างล้างหน้า 2 อ่างมาพร้อมแนวกระจก และล็อคเกอร์ให้ 8 ตู้ ไม่ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องครับ

ส่วนด้านในจะมีส่วนอาบน้ำและห้องน้ำให้พร้อมใช้งาน

ขึ้นมาต่อกันที่ด้านบนครับ ชั้นนี้จะไม่มีลิฟต์ขึ้นมาถึง ต้องเดินขึ้นมาจากชั้น 24 โดยชั้นนี้จะเป็นพื้นที่สวนซะส่วนใหญ่ มีลานกิจกรรมตรงกลางให้สำหรับออกกำลังกาย เดินเล่น หรือทำกิจกรรมกลุ่มกันได้

โดยหลักๆแล้ว ทางโครงการจะมีแนวคิดในการให้ลูกบ้านขึ้นมาปลูกผักสวนครัวและสามารถนำไปประกอบอาคารได้ ซึ่งจะทำพื้นที่ไว้ให้ หรือในกรณีที่ไม่อยากต้องดูแล ก็มีคนดูแลให้นะครับ จะมีแจกให้ทานที่ตู้เย็นชั้น 1 ก่อนถึงโถงลิฟต์นะครับ

เดินขึ้นมาจะเจอกับแปลงผักก่อนเลย มีแนวทางเดินให้สามารถเดินไปชมได้ด้วยนะครับ

ผมว่าเป็นมุมถ่ายรูปชิคๆ ได้ด้วยนะ ได้บรรยากาศชาวไร่ชาวสวนไปอีกแบบ

ด้านในจะมีลานกิจกรรมที่จะเปิดเป็นพื้นที่ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมร่วมกันได้

อีกฝั่งด้านในก็จะเป็นมุมนั่งเล่นท่ามกลางสวนและแนวต้นไม้

อีกฝั่งก็จะมีกระถางแยกเป็นกลุ่มๆแต่ละประเภทพืชผักสวนครัวครับ มีป้ายปักไว้ให้ในแต่ละชนิด

ส่วนด้านในก็เช่นกัน มีพื้นที่ผักให้เลือกทั้งหมดมากกว่า 10 ชนิดได้เลยนะ

โดยเหล่าพืชผักสวนครัวจะประกอบไปด้วย เล็บครุฑ, พริกขี้หนู, ผักชีลาว, สะระแหน่, ตะไคร้หอม, กะเพราแดง, กะเพราเขียว, โรสแมรี่, มะกรูด, มะนาว นำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเลยล่ะครับ

หรือใครที่ชอบรับวิวกว้าง ทางโครงการก็ไม่ลืมนะครับว่าอยู่บนชั้นดาดฟ้า จัดพื้นที่สวนรับวิวให้ด้วย สำหรับมาเดินเล่น สูดอากาศรับลมกันได้เต็มที่

มาดูชั้นพักอาศัยกันบ้างที่ชั้น 8-17 ที่เป็น Typical Floor Plan ของโครงการนี้ โถงลิฟต์และโถงทางเดินจะยังคงเหมือนเดิม โดยชั้นนี้จะมีทั้งหมด 24 ยูนิต เน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom เกือบทั้งหมด มีเพียงห้องมุมฝั่งทิศตะวันออกและทิศตะวันตกที่เป็นห้อง 2 Bedroom ขนาด 56.50-57.50 ตร.ม. ส่วนห้องมุมฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของโครงการอย่างห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom 1 ห้องอเนกประสงค์ ขนาด 71.50 ตร.ม. ส่วนไฮไลท์จะอยู่ที่ห้องมุมฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่เป็นห้อง 1 Bedroom ที่ใหญ่ที่สุดในโครงการขนาด 34.5 ตร.ม. ที่จะได้ช่องแสงภายในถึง 2 ฝั่ง จุดเด่นคืออยู่ตำแหน่งมุม ได้ช่องแสงหน้าห้องและได้ความเป็นส่วนตัวด้วย

ขึ้นมาที่ชั้น 18 สิ่งที่เปลี่ยนไปคือห้องโซนฝั่งทิศใต้ ที่จากเดิม 6 ยูนิต จะเปลี่ยนเป็นห้อง 2 Bedroom ทั้งหมด 3 ยูนิต ซึ่งแต่ละแบบห้องก็มีเพียงแค่ที่ชั้นนี้เท่านั้นนะครับ ทำให้จำนวนยูนิตต่อชั้นเหลืออยู่ที่ 21 ยูนิต

มาต่อกันที่ชั้น 20 ความพิเศษคือได้แนวสวนทางฝั่งทิศใต้ และทำให้ห้องในแนวนี้หายไป จำนวนยูนิต/ชั้นก็ลดลงเหลือเพียง 18 ยูนิต ห้องที่น่าสนใจคือห้องทางฝั่งทิศใต้ซึ่งจะได้เป็นห้องมุมรับวิวสวน ทั้งห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 55 ตร.ม. ทางฝั่งทิศตะวันออกเฉียงใต้ และห้อง 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 46 ตร.ม. ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ โดยทั้งสองห้องนี้จะมีเพียงแค่ 1 ยูนิต/ชั้น และมีแค่ที่ที่ชั้น 20, 21 เท่านั้น

ขึ้นมาที่ชั้น 21 ก็จะเหมือนกับชั้น 20 เลย แต่จะไม่มีพื้นที่สวนให้ ซึ่งห้องที่โดดเด่นก็ยังคงเป็น 2 ห้องมุม ทางฝั่งทิศใต้ เพราะก็ยังเป็นห้องมุมวิวสวนอยู่ดี แถมยังอยู่สูงขึ้นจึงจะได้ความเป็นส่วนตัวจากสวนมากยิ่งขึ้นด้วยครับ

ขึ้นมาที่ชั้น 23-24 จะมีพื้นที่ภายในชั้นลดลง ซึ่งห้องมุมฝั่งทิศใต้จะหายไปครับ เหลือเพียง 16 ยูนิต/ชั้น เท่านั้น ได้ความเป็นส่วนตัวที่สุด

โถงลิฟต์ในแต่ละชั้นจะหน้าตาประมาณนี้ครับ เพราะเป็นลิฟต์ล็อคชั้นอยู่แล้วจึงไม่ต้องมีแนวฉากกั้นอะไรเพิ่ม แต่ถ้าเป็นชั้นที่มีพื้นที่ส่วนกลาง ก็จะมีแนวกระจกกั้น เข้าออกด้วยระบบ Face Scan นะครับ

ส่วนโถงทางเดินจะเป็น Single Corridor ทั้งหมด ได้ความเป็นส่วนตัวสูง มีช่องแสงให้ที่สุดแนวทางเดิน

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1 : Lobby, Juristic, Mail Room, Meeting Room, Multi Purpose, Garden, Parcel Room, Laundry, พื้นที่รับอาหาร Delivery
  • ชั้น 1-5 : พื้นที่จอดรถ
  • ชั้น 6 – 24 : ห้องพักอาศัย
  • ชั้น 6 : สระว่ายน้ำ, ห้องออกกำลังกายเปิดตลอด 24 ชั่วโมง, ห้องน้ำแยกชายหญิง
  • ชั้น 20 : Pocket Garden
  • ชั้นดาดฟ้า : Rooftop Garden
  • Give And Grow (แจกผักที่ปลูกภายในโครงการให้ลูกบ้าน)
  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว
  • Service Lift 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 133 :  1
  • ที่จอดรถประมาณ 182 คันคิดเป็น 44% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
  • Shuttle Van รับส่ง MRT สุทธิสาร
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Access Card / Face Scan

แบบห้อง

โครงการที่นี่ปกติจะขายในรูปแบบ Fully Fitted นะครับ แต่ปัจจุบันมี Promotion ที่จะขายแบบ Fully Furnished แถมเฟอร์นิเจอร์ให้ด้วยครบเลย โดยวัสดุภายในห้องจะเริ่มตั้งแต่ได้พื้นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Downlight ทั้งห้อง ส่วนครัวจะได้ Top หินสังเคราะห์ อ่างล้างจานและเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก TEKA ได้ผนัง Backsplash เป็นกระจกสีชา-ดำ, ชา-เทา หน้าบานต่างๆเป็นเมลามีนและลามิเนต ส่วนห้องน้ำจะได้อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ จาก American Standard ได้กระจกเงา ฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอน และ Hand Shower หน้าต่างภายในห้องจะเป็นกระจกลามิเนตกรอบบานอลูมิเนียม แถมเครื่องปรับอากาศ Daikin ขนาด 12,300 BTU. มาให้ด้วย ลองเข้าไปชมภายในห้องกันเลยครับ

ห้องแรกของเราเป็น 1 Bedroom ขนาด 34 ตร.ม. เป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ โดยจะมีรูปแบบห้องอีกแบบที่คล้ายกันคือสลับตำแหน่งห้องนั่งเล่นกับห้องนอนให้เป็นตัวเลือกด้วย จุดเด่นของห้องรูปแบบนี้คือแบ่งกั้นสัดส่วนภายในห้องมาให้อย่างดี ได้ครัวปิดที่สามารถประกอบอาหารได้อย่างเต็มที่ ได้ห้องนั่งเล่นที่มีระยะดูทีวีกว้าง ทำให้สามารถจัดได้หลากหลาย วางทีวีขนาดใหญ่และโต๊ะกลางได้สบายๆ ส่วนห้องนอนก็มีมุมวางโต๊ะทำงานมาให้ พร้อมกระจกเข้ามุมที่ทำให้รับแสงได้มากยิ่งขึ้น พื้นที่ระเบียงก็สามารถใช้งานได้กว้าง เพราะวางเครื่องซักผ้าไว้ในส่วนครัวไปแล้วครับ ไปดูภายในห้องกันเลย

เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับห้องที่มีฝ้าเพดานสูง 2.65 เมตร ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้ภายในค่อนข้างดูโล่งและสว่าง ส่วนแรกของห้องนี้จะเป็นส่วนของ Foyer ก่อนเข้าพื้นที่ภายใน ประกอบไปด้วยห้องน้ำและห้องครัว

ที่ชอบคือพื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ซึ่งจะเหมาะกับการเป็นพื้นของส่วนครัวและหน้าห้อง เพราะมีคุณสมบัติมืที่เป็นผิวมันทำความสะอาดได้ง่าย มีรอยต่อน้อยลดพื้นที่สะสมเชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่างๆ

ด้านข้างประตูจะมีชั้นวางของและชั้นวางรองเท้ามาให้ ตรงนี้สำคัญนะครับ เพราะรองเท้าเป็นสิ่งที่นำพาสิ่งสกปรกเข้าห้องได้ง่าย ถ้าไม่มีพื้นที่จัดเก็บที่เป็นระเบียบ จะทำให้ห้องรกและสกปรกได้ง่ายเลย หน้าตาที่จะได้จะเป็นตู้ลามิเนตลายไม้แบบนี้เลยนะครับ

ฝั่งตรงข้ามมีชุดครัวยาวตลอดแนวเลย หน้าบานเป็นเมลามีนทั้งชั้นเก็บของด้านบนและด้านล่าง ให้มาเยอะเลยครับ

ตรงกลางจะได้เคาน์เตอร์ปิดผิวด้วยหินสังเคราะห์ ผนังด้านหลังเป็นกระจกชาทอง หรือชาเทานะครับ ส่วนอ่างล้างจานจะได้แบบสเตนเลสหลุมเดี่ยว และเตาไฟฟ้า 2 หัวพร้อมเครื่องดูดควันออกภายนอกทั้งหมดจาก TEKA แบรนด์ดังจากประเทศสเปน

อีกฝั่งของประตูห้องน้ำมีตู้วางของและพื้นที่วางเครื่องซักผ้าให้ ข้อดีคือใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องไปใช้ที่ระเบียง และทำให้พื้นที่ระเบียงมีพื้นที่ใช้สอยมากยิ่งขึ้นด้วย ส่วนด้านบนจะได้ช่องเก็บของที่มีบานปิดมาให้ด้วย

มาดูภายในห้องน้ำกันต่อเลยครับ จะตกแต่งด้วยกระเบื้องสี Earth Tone  ดูเข้ากับ Built-in ภายในห้อง และเลือกตกแต่งได้ง่าย

เป็นห้องน้ำขนาดเล็ก แต่ใช้งานได้สะดวก เพราะเลือกวางตำแหน่งอุปกรณ์ได้ดี มีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งอย่างชัดเจน

ให้แนวอ่างล้างมือมายาวแบบเป็นเคาน์เตอร์เลย สามารถวางของด้านข้างได้เยอะ ก็อกน้ำเป็นของ American Standard ส่วนอ่างล้างหน้าเป็น Customized พร้อมกระจกเงาบานใหญ่

สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำจะได้ของ American Standard หรือเทียบเท่า

ส่วนอาบน้ำจะได้ฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอนมาให้ ข้อดีคือสามารถเปิดได้กว้างกว่าแบบ 2 ตอน และดีกว่าแบบบานเปิดตรงที่ไม่ต้องเสียพื้นที่วงสวิงของประตูด้วย

พื้นที่ภายในค่อนข้างกว้าง สามารถอาบน้ำหมุนตัวร้องเพลงได้สบายๆ แต่ที่ผนังมีแค่ชั้นวางสบู่เล็กๆ ไม่ได้มีพื้นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้  อาจจะต้องแขวนหรือวางชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำเพิ่มเองนะครับ

เข้าไปภายในห้องกันต่อเลยครับ จะเป็นประตูบานเลื่อน 3 ตอน สูงถึงฝ้าเลย ทำให้สามารถเปิดได้กว้างและแสงสามารถส่องเข้ามาถึงพื้นที่หน้าห้องได้ทั่วถึง

เข้ามาภายในจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่น พื้นเปลี่ยนเป็นลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนนี้ก็มีพื้นที่กั้นแบ่งกับห้องนอนภายในให้ด้วยเช่นกัน

จุดเด่นของห้องนั่งเล่นของห้องนี้คือมีระยะดูทีวีเท่ากับแนวหน้ากว้างห้องเลย ทำให้สามารถวางทีวีขนาดใหญ่ได้ วางโต๊ะกลางได้หลากหลาย หรือจะใช้เป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ก็ได้เลย

เพราะพื้นที่ตรงนี้มีขนาดกว้าง สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ตลอดแนว หรือจะวางเป็นแบบ Sofabed ก็สามารถนอนได้ 2 ห้องเลยนะครับ

ด้านในจะเป็นพื้นที่โล่งตลอดแนว สามารถทำชั้นวางของ ชั้นวางทีวีแบบในห้องตัวอย่างได้เลยนะครับ

ด้านในมีแนวกระจกบานเลื่อนกั้นแบ่งส่วนห้องนอนให้ด้วย เป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ถึงจะเปิดได้ไม่กว้างเท่าแบบ 3 ตอน แต่มีกรอบบานน้อยกว่า ทำให้ดูไม่รกและสบายตากว่า และให้มาแบบที่สูงถึงฝ้าเลย ทำให้ได้แสงเข้ามาภายในห้องได้เต็มที่ แต่จะแบ่งความเป็นส่วนตัวได้ยากหน่อย เพราะไม่มีพื้นที่ด้านบนเหลือให้ติดผ้าม่าน (ในกรณีที่มีแขกมาจะเสียความเป็นส่วนตัวของห้องนอนไปบ้าง) แนะนำให้ใช้เป็นฟิล์มติดกระจก หรือผ้าม่านที่แขวนจากฝ้า หรือมู่ลี่ครับ

ภายในห้องนอนขนาดค่อนข้างกว้างเลยล่ะครับ มีพื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งหรือทำโต๊ะทำงานได้สบายๆ พร้อมแนวกระจกที่ให้มาเยอะกว่าปกติ

พื้นที่ภายในห้องนอนขนาดกว้าง วางเตียง 5 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่เดินได้รอบๆสบาย วางโต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่ง และมีพื้นที่ให้ออกไปใช้งานระเบียงได้สะดวก

ที่ฝั่งปลายเตียงจะได้แนวตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มาด้วย พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งด้านข้างเลย หน้าตาแบบนี้เลยนะครับ

เป็นตู้บานเปิดข้อดีคือสามารถเปิดหลายๆบานพร้อมกันได้ (ถ้าแบบบานสไลด์จะต้องเปิดทีละฝั่ง) แต่ข้อเสียคือต้องใช้พื้นที่หน้าตู้เยอะกว่าบานสไลด์ แต่ก็มีพื้นที่ส่วนนี้รองรับ ไม่มีปัญหาอะไรครับ

ด้านในห้องจะได้ช่องแสงเยอะกว่าปกติ เพราะนอกจากจะได้บานเลื่อนกระจกที่ออกไประเบียงแล้ว ด้านข้างยังได้แนวกระจกมาอีก 2 ด้าน ทำให้ได้แสงเวลาใช้งานโต๊ะเครื่องแป้ง และเข้าสู่ภายในห้องได้เยอะมากยิ่งขึ้น

ส่วนระเบียงของห้องนี้จะได้ค่อนข้างกว้าง วางโต๊ะชุดกาแฟเล็กๆ หรือปลูกต้นไม้ทำสวนเล็กๆได้เหมือนกันนะครับ ได้แนวระเบียงกันตกที่ดูโล่ง และช่วยให้ลมผ่านไปมาได้ดี ด้านในมีพื้นที่แขวน Condensing Unit พร้อมแนวระแนงปิดให้เรียบร้อย

มาต่อกันที่ห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 56.50 ตร.ม. จุดเด่นของห้องนี้คือเป็นห้องตำแหน่งมุม หน้ากว้าง ทำให้พื้นที่หลักๆอย่าง ห้องนั่งเล่นและห้องนอนทั้ง 2 ได้ช่องเปิดภายในห้อง ได้วิวและแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ ส่วนวางผังห้องก็จัดพื้นที่แบบแบ่งโซนความเป็นส่วนตัวไว้เป็นอย่างดี ทีเดียว โดยจะมีส่วนแรกของห้องเป็นครัวเปิด ทำให้ดูโล่ง เข้ามาด้านในเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่และระเบียง ด้านในมีห้องน้ำที่ใช้สำหรับส่วนนี้และห้องนอนรอง ส่วนด้านในของห้องจะเป็นห้องนอนรอง และห้องนอนหลักที่มีห้องน้ำในตัว ยิ่งไปกว่านั้นภายในห้องนอนหลักยังรับแสงถึง 2 ฝั่ง และได้พื้นที่ Walk-in Closet แบบกั้นสัดส่วนมาให้ด้วย ลองเข้าไปชมภายในกันเลยครับ

เริ่มมาจะเป็นแนวประตูทางเข้าห้อง ที่เปิดเข้ามาจะเจอส่วนตู้วางของและชั้นวางรองเท้า ครัว ที่เหมือนกับห้อง 1 Bedroom เมื่อสักครู่นี้เลย หน้าบานต่างๆจะเป็นเมลามีน ได้เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ ผนังด้านหลังเป็นกระจกสีชาดำ, ชาเทา อ่างล้างจากสเตนเลสแบบหลุมเดี่ยว และเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก TEKA มาให้ครบ ตรงนี้ด้านล่างจะวางเครื่องซักผ้าไว้ใต้เคาน์เตอร์ด้วย ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่ระเบียงใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น แต่พื้นเขาไม่ได้ให้เป็นกระเบื้องมาให้ แนะนำว่าถ้ามีสิ่งสกปรกหรือน้ำหกก็ให้รีบเช็ดและทำความสะอาดนะครับ

อีกข้อดีของการที่เปิดประตูเข้ามาแล้วไม่เห็นห้องนั่งเล่นเลย ทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แต่พื้นที่ครัวส่วนนี้จะไม่ได้กั้นเป็นครัวปิดมาให้นะครับ สำหรับครอบครัวที่ชอบประกอบอาหารก็สามารถปิดกั้นเป็นครัวปิดเองแบบห้องตัวอย่างได้ไม่ยากครับ

เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ Living Room ซึ่งจะรวมทั้งส่วนนั่งเล่นและรับประทานอาหารไว้ด้วยกัน จุดเด่นคือได้แนวกระจกใหญ่มาให้ ทำให้พื้นที่ภายในห้องค่อนข้างสว่าง แถมยังสามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้

ผนังจะสามารถทำชั้นวางของหรือโต๊ะทำงานได้ด้วย มีพื้นที่กว้างให้ตกแต่งเองได้เยอะเลย หรือจะเอาไอเดียห้องตัวอย่างไปใช้ก็ได้นะครับ

ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่วางโซฟาและโต๊ะรับประทานอาหาร จริงๆตรงนี้ก็มีพื้นที่เยอะที่สามารถจัดออกมาได้หลากหลายรูปแบบ

สำหรับห้องตัวอย่างเลือกใช้ชุดโต๊ะ 4 ที่นั่งและโซฟา ผมว่าแอบรู้สึกแน่นและอึดอัดไปหน่อย อาจจะลองเปลี่ยนรูปแบบชุดโต๊ะรับประทานอาหารให้เก้าอี้เล็กกว่านี้ก็พอช่วยได้ครับ

ส่วนระเบียงของห้องนี้จะอยู่ที่ห้องนี้ครับ เป็นบานสไลด์ 2 ตอน เปิดได้กว้าง และรับแสงได้เยอะ

พื้นที่ด้านนอกไม่ต้องวางเครื่องซักผ้าก็มีขนาดค่อนข้างกว้างเลย ออกมายืนรับลมชมวิวได้สบายๆ

เข้ามาต่อที่ด้านในจะมีห้องน้ำหลักของห้องนี้ ซึ่งมีตำแหน่งอยู่กลางห้องเลย เข้าได้ง่ายจากทุกพื้นที่

ลักษณะภายในมีขนาดพอๆกับของห้องก่อนหน้านี้ครับ รวมถึงแนวทางการตกแต่งและได้อุปกรณ์ต่างๆเหมือนกันด้วย

เป็นห้องน้ำขนาดไม่ใหญ่ที่แบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกได้ดีเหมือนกัน

ได้อ่างล้างหน้าที่ทำหน้าที่เป็นเคาน์เตอร์ และโถสุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ชำระล้างจาก American Standard ทั้งหมด

ส่วนอาบน้ำได้ฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอนมาให้เช่นเดิม ภายในเป็น Hand Shower นะครับ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำก็มีขนาดประมาณเดิมครับ อาบได้แบบไม่อึดอัดจนเกินไป แต่อาจจะต้องวางชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำเพิ่มนะครับ หรือไม่ก็ต้องแขวนเอานะ

มาต่อที่ห้องนอนรอง เป็นห้องนอนรองที่มีขนาดวางเตียง 3.5 ฟุตได้ หรือจะวางเตียง 5 ฟุตก็ได้ แต่อาจจะทำให้ห้องดูแคบไปหน่อย เพราะเขา Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ และเป็นตู้แบบหน้าบานเปิดด้วย (ต้องใช้พื้นที่หน้าตู้)

อีกไอเดียคือแบบห้องตัวอย่างก็ดีครับ เป็นกึ่ง ๆ Sofabed ที่ใช้นอนเล่นอ่านหนังสือ หรือจะนอนจริงจังก็ได้ มาพร้อมแนวโต๊ะทำงานด้วย

ด้านในมีตู้เสื้อผ้ามาให้ พร้อมช่องแสงที่ช่วยให้ทั้งห้องสว่างแบบไม่ต้องเปิดไฟเลยในตอนกลางวัน

ต่อไปเป็นห้องสุดท้ายที่อยู่ด้านในสุด คือห้องนอนหลักนั่นเอง อาจจะเป็นห้องที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่นัก แต่มีรายละเอียดที่น่าสนใจอยู่หลายจุดเลย ลองเข้าไปชมกันครับ

ส่วนแรกคือมีห้องน้ำในตัวมาให้ อาจจะไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าห้องน้ำด้านนอกนัก แต่ก็จัดว่าได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ขนาดภายในก็ใช้งานได้สบายๆ ไม่อึดอัดจนเกินไป

มาด้วยอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์จาก American Standard เช่นเดิม

ส่วนอาบน้ำกั้นฉากกั้นอาบน้ำ 3 ตอนมาให้ พร้อม Hand Shower ขนาดพอๆกันกับห้องน้ำด้านนอกเลยครับ

ส่วนตัวห้องนอนเองก็มีจุดเด่นที่ได้ช่องแสงขนาดใหญ่ถึง 2 ฝั่ง เพราะเป็นห้องมุมอาคาร ได้วิวและแสงอย่างเต็มที่ แต่ถ้าจะติดทีวีนอนดูหนัง ต้องติดที่เสามุมห้องแทนนะครับ

ข้างห้องน้ำฝั่งทางเข้าจะมีประตูกระจกขาวขุ่นมาให้ด้วย พร้อมพื้นที่ด้านข้างที่เอาไว้ทำโต๊ะเครื่องแป้งแบบห้องตัวอย่างได้เลย

ภายในประตูกระจกขาวขุ่นบานสไลด์จะเป็นส่วน Walk-in Closet ซึ่งมีพื้นที่ภายในสำหรับใช้งานได้คนเดียวแบบสบายๆ เดินเลือกเสื้อผ้าภายในได้เลย

ส่วนแนวตู้เขาก็ Built-in มาให้แบบนี้เลยนะครับ รวมถึงไฟต่างๆก็ติดตั้งมาให้ครบเลย พร้อมใช้งาน

Image 1/4
โซฟาพร้อมโต๊ะกลาง

โซฟาพร้อมโต๊ะกลาง

ส่วนของเฟอร์นิเจอร์ที่จะได้จริงก็จะมีหน้าตาประมาณนี้ครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

ราคา

20 August 2020

  • Studio ขนาด 28.5 – 29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท
  • 1 Bedroom ขนาด 33.50 – 34.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 1 Bath ขนาด 46 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.59 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 2 Bath ขนาด 56.50 – 71.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท

  • รูปแบบการขาย Fully Furnished (PromotionX)
  • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.65 เมตร
  • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
  • Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
  • มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ MRT สุทธิสาร
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา n/a บาท
  • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ

บทสรุป

ทำเล : ที่ตั้งโครงการอยู่ในซอยสุทธิสารวินิจฉัยทะลุออกได้ทั้งรัชดาและวิภาวดีฯ ทำให้ที่ตัวเลือกในการเดินทางที่ค่อนข้างหลากหลาย อิงความอุดมสมบูรณ์โดยรอบได้ง่าย ในระยะเดินจะมี 7-eleven ห่างจากโครงการประมาณ 20-30 เมตร และแนวร้านอาหารฝั่งตรงข้ามโครงการ ถ้าขยับออกมาหน่อยบนถนนรัชดาภิเษกมีอยู่เยอะแยะเลยครับ โดยเฉพาะทางโซนพระราม 9 จะมีทั้งเซ็นทรัลพระราม 9, ห้างฟอร์จูนทาวน์, Esplanade, Big C, The Street, และตลาดรถไฟ หรือถ้าใครชอบใช้ถนนลาดพร้าวก็จะมีความอุดมสมบูรณ์บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว, ยูเนี่ยนมอลล์ เรียกว่ามาจากทางไหนก็แวะซื้อของกินของใช้เข้าบ้านได้สะดวกจริงๆ

การเดินทางโดยใช้รถ : อย่างที่บอกไปว่าทะลุออกได้ทั้งรัชดา-วิภาวดีฯ ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางสูง แถมยังมีซอยย่อยข้างโครงการอย่างจิ๊ปดำริห์เป็นตัวเลือกในการลัดเลาะไปยังถนนใหญ่เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติด การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจึงจัดว่าสะดวกเหมือนกันครับ ทางโครงการให้พื้นที่จอดรถมาประมาณ 182 คัน คิดเป็น 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ก็จัดว่าไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป เพราะอย่าลืมว่าเรามีรถไฟฟ้าในระยะเดินนะครับ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :  โครงการเราจัดเป็นหนึ่งในคอนโดในแนวรถไฟฟ้า เพราะใกล้กับสถานีสุทธิสารที่มีระยะห่างออกไปประมาณ 450 เมตร ซึ่งสามารถเดินได้ไม่ไกลจนเกินไป แถมทางโครงการก็มี Shuttle Van รับส่งให้ด้วย ส่วนรถประจำทางก็มีวิ่งตลอดแนวถนนสุทธิสารเลย และเรียกแท็กซี่หรือพี่วินได้ไม่ยาก เพราะมีจุดประจำพี่วินอยู่ที่ใกล้โครงการประมาณ 20-30 เมตร เท่านั้น

วัสดุ : โครงการที่นี่ปกติจะขายในรูปแบบ Fully Fitted นะครับ แต่ปัจจุบันมี Promotion ที่จะขายแบบ Fully Furnished แถมเฟอร์นิเจอร์ให้ด้วยครบเลย โดยวัสดุภายในห้องจะเริ่มต้นแต่ได้พื้นลามิเนตหนา 8 มม. ผนังและฝ้าฉาบเรียบทาสี ให้ไฟ Downlight ทั้งห้อง ส่วนครัวจะได้ Top หินสังเคราะห์ อ่างล้างจานและเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อออกภายนอกจาก TEKA ได้ผนัง Backsplash เป็นกระจกสีชา-ดำ, ชา-เทา หน้าบานต่างๆเป็นเมลามีนและลามิเนต ส่วนห้องน้ำจะได้อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ จาก American Standard ได้กระจกเงา ฉากกั้นอาบน้ำแบบ 3 ตอน และ Hand Shower หน้าต่างภายในห้องจะเป็นกระจกลามิเนตกรอบบานอลูมิเนียม แถมเครื่องปรับอากาศ Daikin ขนาด 12,300 BTU. มาให้ด้วย

การออกแบบ : โครงการที่นี่ออกแบบจากแนวคิดเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิต 24 ชั่วโมง ซึ่งก็จะออกแบบส่วนต่างๆภายในอาคารให้สอดคล้อง เช่น มีพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดให้ใช้งานได้ 24 ชั่วโมง และในส่วนของการออกแบบผังโครงการ จะเน้นไปที่ความเป็นส่วนตัว เพราะเมื่อเปิด 24 ชั่วโมง ก็ทำให้ความส่วนตัวในบางส่วนต้องเสียไป โดยจะมีการแยกชั้นพื้นที่ส่วนกลางออกเป็นหลายส่วนเพื่อกระจายจำนวนผู้ใช้ และแยกโซนจากพื้นที่พักอาศัยอย่างชัดเจนไม่รบกวนกัน อีกทั้งยังวางโถงทางเดินในโครงการแบบที่ได้ Single Corridor ทุกห้อง ทำให้เวลาเข้าออกห้องตอนไหนก็ไม่รบกวนเพื่อนบ้าน อีกอย่างที่ชอบคือเขาปรับตัวเข้าสู่ยุค New Normal ได้ดี โดยการเพิ่มฟังก์ชันต่างๆ เช่น การฆ่าเชื้อและการลดการสัมผัสในจุดต่างๆของโครงการ

ส่วนการออกแบบห้องก็มีแบบห้องมาให้เลือกหลายแบบ รองรับหลายกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom 1 Bathroom และ 2 Bedroom 2 Bathroom แถมยังมีผังหลายแบบให้เลือกด้วย นอกจากนั้นพื้นที่ภายในห้องหลายๆส่วนก็ถูกคิดและคำนึงถึงรูปแบบการใช้ชีวิตแบบ 24 ชั่วโมง เช่นการทำระเบียงขนาดใหญ่ไว้ให้สำหรับใช้งานได้จริง พื้นที่นั่งทำงานที่รับแสงได้เยอะกว่าปกติ สำหรับทำงานได้หลากหลายช่วงเวลา เป็นต้น

สาธารณูปโภค : อาจจะไม่ได้ให้มาเยอะแบบอลังการงานสร้างนัก แต่ก็ตอบโจทย์จำนวนผู้ใช้ 410 ยูนิตได้ดีทีเดียวนะ เริ่มตั้งแต่มีส่วนรับรอง ที่เป็นพื้นที่นั่งทำงานอ่านหนังสือไปด้วยได้ การรับส่งพัสดุและอาหารก็มีการใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่นการฆ่าเชื้อ การมีห้องสำหรับรับของเพื่อไม่ต้องให้ผู้ส่ง(คนนอก)เข้ามานั่งภายใน Lobby และลดการ มีชั้น 6 ที่เป็น Main Facilities ไม่ได้วิวสูงมากนัก แต่ก็เน้นการใช้งานจริง เช่น สระว่ายน้ำที่ทำแบบ Semi-Outdoor สามารถใช้งานได้หลายช่วงเวลา ห้องน้ำแยกชายหญิง และห้องออกกำลังกายที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนของสวนรับวิวมุมสูงก็มีให้ที่ชั้น 20 และชั้นดาดฟ้า ซึ่งจะเป็นสวนปลูกพืชผักสวนครัวที่ให้ลูกบ้านภายในนำไปบริโภคกันได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนั้นก็มีรถ Shuttle Service รับส่งที่ MRT สุทธิสารให้ด้วย

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 110,000 บาท/ตร.ม., 20 August 2020

  • ทำเล 7.75/10 – บนถนนสุทธิสาร ทะลุออกรัชดา-วิภาฯง่าย มีความอุดมสมบูรณ์หาของกินสะดวก
  • เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – มีซอยลัดเลาะ เข้าออกได้หลายทาง ที่จอดปานกลาง
  • ไม่ใช้รถ 7.75/10 – 450 ม. จาก MRT สุทธิสาร มี shuttle service เรียกรถ Taxi, มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ได้ง่าย
  • วัสดุ 7.75/10 – วัสดุส่วนใหญ่มาตรฐานระดับราคานี้ แต่ได้ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่
  • แบบ 7.75/10 – ออกแบบตามแนวคิดได้ดี ได้ความเป็นส่วนตัว มีการปรับตัวตามยุค ใส่ใจรายละเอียด
  • สาธารณูปโภค 7.75/10 – ไม่มากไม่น้อย เหมาะสมกับจำนวนยูนิต ดูดีน่าใช้งาน มีเปิด 24 ชั่วโมง

  • UPPER CLASS
  • 7.71 / 10.00

BOTTOM LINE

IDEO รัชดา-สุทธิสาร เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดติดถนนสุทธิสารวินิจฉัย ไม่ไกลจากแยกรัชดา-สุทธิสาร เดินทางด้วยรถสะดวก รถไฟฟ้าก็มีเป็นทางเลือกที่ดี ทำงานหรือใช้ชีวิตกลางคืนบ่อยๆ กลับห้องไม่เป็นเวลา (โครงการเน้นรองรับ 24 ชั่วโมง) เน้นความเป็นส่วนตัว ส่วนกลางหลัก ๆ พอใช้งาน และมีส่วนที่เปิด 24 ชั่วโมงให้ใช้ ได้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมอยู่ ในงบประมาณ 3 – 7 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 21,000 – 50,000 บาท/เดือน


ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving