Aspire Onnut Station คอนโด High Rise ติดถนนสุขุมวิท ใกล้ BTS อ่อนนุช 200 ม. พร้อมส่วนกลางวิวโค้งน้ำบางกระเจ้า จาก AP [รีวิวฉบับที่ 2469]

Aspire Onnut Station (แอสปาย อ่อนนุช สเตชั่น) ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565

พิกัด Google Maps : 13.707866, 100.599751
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ Aspire Onnut Station โดยโครงการตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าเมือง บริเวณใกล้ ซอยสุขุมวิท 50 ซึ่งเป็นทำเลที่เราจะไม่ค่อยเห็นคอนโด High Rise เปิดตัวใหม่เท่าไรนัก

สำหรับที่ดินใจกลางเมืองติดถนนสุขุมวิท ถือเป็นที่ดินที่มีมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันคอนโดส่วนใหญ่ที่ติดถนนสุขุมวิทในโซนนี้ มักจะถูกออกแบบมาให้อยู่ในระดับ Super Luxury ตามศักยภาพของราคาที่ดิน ฉะนั้นสำหรับใครอยากได้คอนโดติดถนนสุขุมวิทในราคาจับต้องได้ไม่ยากนัก ก็อาจจะต้องเป็นทำเลที่ขยับออกมายังชานเมืองสักหน่อย ซึ่งปัจจุบันความเจริญก็เริ่มขยายออกมามากขึ้น รวมถึงการเปิดใช้งานของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย ยิ่งทำให้ทำเลสุขุมวิทตอนปลายนี้คึกคักมากทีเดียว

Aspire Onnut Station เป็นคอนโดติดถนนสุขุมวิท ที่สามารถเดินไป BTS อ่อนนุชได้ในระยะ 200 เมตร ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ 135,000 บาท/ตร.ม. ในขณะที่ถ้าขยับเข้าเมืองไปเพียง 1-2 สถานี สำหรับคอนโดที่ยังมีขายอยู่ ทั้งที่ติดถนนสุขุมวิทหรือเข้าซอยไปหน่อยไม่ไกลจากรถไฟฟ้าก็จะมีราคาเฉลี่ยสูงขึ้นถึง 170,000 – 200,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นไป แต่ถ้าเป็นคอนโดที่ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 ในระยะที่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้ามากนักก็จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100,000-140,000 บาท/ตร.ม.

Aspire Onnut Station เป็นคอนโดติดถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าเมือง ทำให้สามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่าย สามารถใช้ถนนสุขุมวิทวิ่งตรงเข้าเมืองไปเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศกได้สะดวก หรือจะใช้ถนนพระราม 4 ไปสีลม-สาทร สามย่านก็ง่าย แต่อย่างที่รู้กันว่าการจราจรในโซนนี้ค่อนข้างหนาแน่น ทำให้ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางสักหน่อยค่ะ

ทางด่วน ตัวช่วยในการเดินทางบนทำเลนี้มี 2 สาย คือทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร

• ทางพิเศษฉลองรัช สามารถใช้เดินทางไปพระราม 9 แจ้งวัฒนะ เอกมัยรามอินทรา โดยจุด ขึ้นทางด่วน ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กม. โดยวิ่งไปบนถนนสุขุมวิท แล้วกลับรถแถว BTS พระโขนงก่อน จึงเลี้ยวซ้ายเพื่อขึ้นทางด่วน ส่วนจุดลงทางด่วนจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 ใกล้กับโครงการเลยค่ะ
• ทางพิเศษเฉลิมมหานคร สามารถใช้เดินทางไปเชื่อมต่อทางด่วนศรีรัชเพื่อไป สาทร สีลมได้ง่าย หรือจะวิ่งตรงไปถ.พระราม 3, ถ.พระราม 2, หรือดาวคะนองก็สะดวก โดยจุดขึ้นทางด่วนอยู่ ห่างจากโครงการประมาณ 3 กม. วิ่งไปบนถนนสุขุมวิทเลี้ยวซ้ายออกถนนพระราม 4 เมื่อถึงแยกกล้วยน้ำไทก็เลี้ยวซ้ายเพื่อไปออก ถนนริมทางรถไฟปากน้ำก็จะถึงจุดขึ้นทางด่วนแล้วค่ะ ส่วนจุดลงทางด่วนจะอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 ใกล้กับโครงการเช่นกันค่ะ

ใกล้ BTS อ่อนนุช เพียง 200 เมตร สามารถเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าได้สบาย สำหรับ  BTS อ่อนนุช เป็นรถไฟฟ้าสายสุขุมวิท (สีเขียวอ่อน)ที่สามารถใช้เดินทางเข้าเมืองได้ง่าย ไปโซนเอกมัย-ทองหล่อเพียง 2-3 สถานี หรือจะใช้เดินทางไปยังแหล่งงานโซนอโศกก็ประมาณ 10 นาทีเท่านั้นค่ะ หรือจะนั่งไปเพลินจิต ชิดลม หรือสยาม ก็ต่อเดียวเท่านั้นค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ บนทำเลโซนอ่อนนุชถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงมากค่ะ เนื่องจากเป็นทำเลที่มีคนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อยู่เยอะ ที่ใกล้ๆโครงการเลยจะมี Lotus’s สุขุมวิท 50 ที่ใกล้เพียง 200 เมตร เรียกได้ว่าเดินไปชอปปิ้ง หรือซื้ออาหารข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆ ได้สะดวกเลย อีกทั้งฝั่งตรงข้าม Lotus’s สุขุมวิท 50 มี Century Movie plaza ที่มีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ อยู่เยอะเลย แวะฝากท้องก่อนกลับบ้านได้เลยค่ะ นอกจากนั้นโซนนี้ก็ยังมีตลาด, Community mall, คาเฟ่และร้านอาหารอยู่ค่อนข้างเยอะ หาของกินของใช้ได้ง่าย และมีราคาที่ไม่สูงเท่าโซนเอกมัย-ทองหล่อ ที่ห่างไปเพียง 2-3 สถานีค่ะ

ทั้งยังเป็นทำเลที่ใกล้สถานศึกษาเอกชนชื่อดังอย่าง Wells International School, รร.นานาชาติ Bangkok Prep,  ม.กรุงเทพ และใกล้โรงพยาบาลอย่าง รพ.กล้วยน้ำไท, รพ.สุขุมวิท เรียกว่ารายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยครบครันเลยค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจากที่ตั้งโครงการเพื่อพาเดินไปยัง BTS อ่อนนุชซึ่งมีระยะทางประมาณ 200 เมตรค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการในปัจจุบันไม่ได้มีตึกสูงในระยะประชิด โดยทิศเหนือจะเป็นสำนักงานประปาที่มีแทงก์น้ำเก่าสูงประมาณ 12 ชั้น อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 เมตร และทางทิศใต้จะเป็นที่ดินเปล่า ซึ่งในอนาคตมีโอกาสที่จะเป็นตึกสูงได้ ส่วนทิศที่ค่อนข้างโล่งจะเป็นทิศตะวันตกซึ่งในชั้นสูงๆ จะได้วิวคุ้งน้ำบางกระเจ้า และทิศตะวันออกซึ่งติดกับถนนสุขุมวิท และแนวรถไฟฟ้าซึ่งสูงประมาณ 3-4 ชั้น แต่ในชั้นสูงๆ ทิศนี้จะได้ City View ค่ะ

• ทิศเหนือ : ติดกับ สำนักงานประปาสูง 7 ชั้น และ Apartment 5 ชั้น
• ทิศใต้ : ติดกับ ที่ดินเปล่า และโรงแรมสูง 33 ชั้น
• ทิศตะวันออก : ติดกับถนนสุขุมวิท และแนวรถไฟฟ้า
• ทิศตะวันตก : ติดกับที่ดินเปล่า และคอนโด 8 ชั้น

สำนักงานขาย

พิกัด : 13.705961, 100.598813
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

สำนักงานขายตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 ติดกับถนนในซอยเลยค่ะ ถ้าเดินทางด้วยรถส่วนตัวสามารถจอดได้ที่ลานจอดในซอยเหลือสุขด้านหลังสำนักงานขายได้เลย แต่ถ้าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสามารถลง BTS อ่อนนุช ทางออก 2 เดินต่ออีก 250 เมตร ก็ถึงสำนักงานขายแล้วค่ะ และจากสำนักงานขายก็ไม่ไกลจากที่ตั้งโครงการ ประมาณ 300 เมตร สามารถเดินไปสำรวจบรรยากาศรอบๆ ได้ค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Lotus’s สุขุมวิท 50 ~ 200 m.
• Century the Movie Plaza ~ 350 m.
• บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า อ่อนนุช ~ 400 m.
• เดอะ ฟิลล์ สุขุมวิท ~ 600 m.
• Gateway เอกมัย ~ 2.1 km.
• Major cineplex สุขุมวิท ~ 2 .4km.

โรงพยาบาล

• รพ.กล้วยน้ำไท ~ 1.7 km.
• รพ.สุขุมวิท ~ 2.5 km.

โรงเรียน

• Wells International School ~ 1.5 km.
• รร.นานาชาติเซนต์ แอนดรูวส์ กรุงเทพฯ ~ 1.7 km.
• ม.กรุงเทพ ~ 2.4 km.
• BANGKOK PREP SECONDARY CAMPUS ~ 3.7 km.

Aspire Onnut Station เป็นคอนโดภายใต้แบรนด์ ‘Aspire’ น้องเล็กสุดจาก AP ที่มีทั้งคอนโด High rise และ Low rise มีทั้งโครงการที่อยู่ใกล้และไม่ใกล้รถไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะมีราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 70,000-80,000 บาท/ ตร.ม.

สำหรับ Aspire Onnut Station ครั้งนี้มาในทำเลติดถนนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินได้ง่าย ใกล้ห้าง ความอุดมสมบูรณ์สูง ในแง่ของทำเลที่ตั้ง ถือว่ามีความโดดเด่นกว่าคอนโด Aspire โครงการอื่นๆ รวมถึงมี Facility จัดเต็มกว่า 4,700 ตร.ม. ที่หลักๆจะเน้นไปที่ส่วนกลางชั้นสูงได้วิวดี เห็นโค้งน้ำบางกระเจ้า จึงทำให้โครงการนี้เปิดขายด้วยราคาที่สูงกว่า Aspire โครงการอื่นๆ เฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 135,000 บาท/ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท

Aspire Onnut Station ตั้งอยู่บนที่ดินเกือบ 3 ไร่ เป็น คอนโด High Rise  สูง 37 ชั้น  และอาคารจอดรถยนต์สูง 8 ชั้น พื้นที่ส่วนกลางจัดเต็มรวมกันกว่า 4,700 ตร.ม ไฮไลต์ คือส่วนกลางชั้น 36-37 และชั้นดาดฟ้า เรียกว่า TRIPLE Rooftop Facilities ส่วนกลางเชื่อมต่อ 3 ชั้น เทควิวมุมสูงเห็นโค้งน้ำบางกระเจ้า และ City View ทางทิศตะวันออก ส่วนการจัดวางฟังก์ชันต่างๆ ในแต่ละชั้นของโครงการมี ดังนี้

อาคารพักอาศัย สูง 37 ชั้น แยกชั้นส่วนกลางและชั้นพักอาศัยออกจากกันชัดเจนได้ความเป็นส่วนตัว

• ชั้น 1 : THE OASIS / THE DROP OFF / THE PICK UP / THE ASPIRE COMMON / LOBBY LOUNGE / WAITING LOUNGE / THE MAIL ROOM / THE PARLOUR / THE CO-OP SOCIETY / THE DESK
• ชั้น 2 – 35  : ชั้นพักอาศัย
• ชั้น 36 : THE PRODUCTIVE HUB / THE MEETING / THE CLOUD / THE BREATHING HUB / SKY LOUNGE
• ชั้น 37 : THE GYM / THE PEAK / THE AQUA / THE JACUZZI
• ชั้น Rooftop : THE SKY RIVER / THE SKY CITY

อาคารจอดรถยนต์ สูง 8 ชั้น โดยที่ชั้นดาดฟ้าจะเป็นพื้นที่สวน ภายในมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวใช้งานได้สะดวก

• ชั้น 1 – 8 : ชั้นจอดรถ
• ชั้น Rooftop : THE DECK GARDEN

อีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจของส่วนกลางที่นี่คือ ส่วนกลางอย่าง Fitness และ ห้องประชุมต่างๆ สามารถจองใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง รองรับการใช้ชีวิตของคนเมืองที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นได้ดีเลยค่ะ

Master Plan ทางเข้า-ออกมีเพียงจุดเดียว ทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาความปลอดภัย สำหรับรถยนต์เข้า-ออกด้วยระบบสแกนแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีไม้กันกระดก ส่วนคนที่เดินเข้า-ออกโครงการจะใช้ระบบ Face Scan เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่สีเขียว THE OASIS สร้างความรู้สึกผ่อนคลายก่อนเข้าโครงการ จากนั้นเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วน drop off ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้อาคาร กันแดดกันฝน ใช้งานได้สะดวก

ถนนภายในโครงการเป็นแบบทางเดินรถสวนกัน สำหรับคนที่ต้องการขับรถไปเก็บยังที่จอดจะเจอกับป้ายแสดงสถานะ จำนวนช่องจอดที่ว่างของ Automatic parking และที่อาคารจอดรถก่อนเลย สำหรับ Automatic parking จะอยู่บริเวณอาคารพักอาศัย มีจำนวน 2 ช่องจอด สูง 17 ชั้น สามารถจอดได้ 86 คัน ส่วนอาคารจอดรถแบบปกติจะเป็นอาคารจอดรถ 8 ชั้น ภายในมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัวใช้งานได้สะดวก สามารถจอดได้ 196 คัน รวมทั้งหมดเป็น 282 คัน คิดเป็น 40.51%  ถือว่าโอเคเลยสำหรับคอนโดที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าและติดถนนใหญ่ ใช้รถสาธารณะได้ง่ายนะคะ

ส่วนการจัดฟังก์ชันด้านใน  เข้ามาจะเจอกับโซนต้อนรับ THE ASPIRE COMMON และ LOBBY LOUNGE ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ THE PARLOUR เป็นพื้นที่แยกเป็นโซนนั่งทำงาน นั่งประชุม หรือมีโซนที่จัดให้สามารถนั่งทานอาหารได้ ซึ่งเชื่อมต่อกับ THE PICK UP จุดรับอาหารจาก Rider เลยค่ะ ส่วนโซนด้านในก็จะมีพื้นที่นั่งทำงานที่จริงจังขึ้นมาหน่อย THE CO-OP SOCIETY และ THE DESK ส่วนโถงลิฟต์จะอยู่ถัดเข้ามาด้านในใกล้ๆ กับ Mail room สามารถหยิบพัสดุก่อนขึ้นห้องได้สะดวกเลย  สำหรับใครที่จอดรถไว้ Automatic parking ทางโครงการได้จัดเป็น WAITING LOUNGE ไว้ให้นั่งรอรถในอาคารได้ด้วยค่ะ

THE OASIS พื้นที่สีเขียวด้านหน้าโครงการ ที่มีการลงไม้ยืนต้นไม้พุ่มต่างๆ รวมถึงมีการออกแบบเป็นทางเดิน Softscape ช่วยให้ผู้ที่เดินเข้าออกโครงการได้รู้สึกผ่อนคลาย

THE ASPIRE COMMON พื้นที่ต้อนรับโซนแรก ซึ่งจะมีเคาน์เตอร์พนักงานคอยอำนวยความสะดวกอยู่ด้วยค่ะ ส่วนการตกแต่งภายในห้องใช้วัสดุสี Earth tone สบายตาตัดกับ เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันสดใส ช่วยให้บรรยากาศภายในห้องดูคึกคักสดชื่น

LOBBY LOUNGE พื้นที่ต้อนรับโซนถัดมา ทางโครงการจัดวางเป็นเฟอร์นิเจอร์สำหรับนั่งพักผ่อนเอาไว้หลายจุดเลยค่ะ

THE PARLOUR เป็นเหมือนห้องนั่งเล่น ที่มีโซนสำหรับนั่งชิล นั่งทำงาน รวมถึงโซนที่สามารถนั่งทานอาหารได้เล็กๆ น้อยๆได้ด้วย ใครเบื่อๆ สามารถมานั่งชิลภายในห้องนี้ได้ทั้งวันเลยค่ะ

THE CO-OP SOCIETY  เป็นห้องประชุม ที่ภายในห้องมีหน้าจอขนาดใหญ่ ทำให้สามารถพรีเซนต์งานในห้องได้สะดวก สำหรับห้องนี้ต้อง booking ก่อนใช้งานนะคะ ส่วนด้านข้างซ้ายมือในภาพจะเป็น THE DESK ห้องทำงานแยกเดี่ยวส่วนตัวค่ะ

ชั้นพักอาศัย ภายในโครงการนี้ จะแยกกับชั้นส่วนกลางอย่างชัดเจนทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว โดยห้องพักจะเริ่มที่ชั้น 2-35 โดยที่ยูนิตต่อชั้นสูงสุดอยู่ที่ 22 ยูนิต ลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว เป็นระบบ Face scan อัตราส่วนลิฟต์โดยสารอยู่ที่ 232 : 1 ซึ่งค่อนข้างสูงแต่ว่าทางโครงการใช้เป็นลิฟต์ความเร็วสูง ทำให้ลดเวลาในใช้งาน ไม่ต้องรอนานค่ะ

ส่วนการจัดผังชั้นพักอาศัยเป็นแบบ Double corridor มีห้องพักอาศัยทั้ง 2 ฝั่ง โดยที่โถงลิฟต์จะอยู่ช่วงกลางอาคาร ออกมาแล้วแยก corridor ซ้ายขวา ไม่ต้องเดินไกล อีกทั้งมีช่องหน้าต่าง ที่สุดทางเดินทั้งสองฝั่ง ทำให้บรรยากาศบริเวณโถงทางเดิน ได้แสงธรรมชาติ เปิดระบายอากาศได้ ไม่อับชื้น โดยห้องพักอาศัยส่วนใหญ่จะเทควิวทิศเหนือ-ใต้ โดยที่แต่ละห้องจะมีจุดที่แตกต่างกันดังนี้

• 1 Bedroom  27 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ มีให้เลือกตั้งแต่ชั้น 2 – 36 เทควิวทางทิศใต้ทั้งหมด
• 1 Bedroom 30.5-32 ตร.ม. มีให้เลือกตั้งแต่ชั้น 2 – 36 จะเทควิวทางด้านทิศเหนือทั้งหมด
• 1 Bedroom Plus มีให้เลือกตั้งแต่ชั้น 2 – 36 เป็นห้องมุม ได้ช่องเปิด 2 ด้าน รับแสงได้เยอะระบายอากาศได้ดี อยู่ในตำแหน่งเทควิวทางด้านทิศตะวันออกทั้งหมด ในชั้นสูงๆ จะได้ City View
• 2 Bedroom 2 Bathroom เทควิวทางทิศตะวันตก โดยห้องจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 9 เป็นต้นไป ทำให้สามารถเทควิวโค้งน้ำบางกระเจ้าได้ อีกทั้งเป็นห้องมุมได้ช่องเปิด 2 ด้าน รับแสงได้เยอะระบายอากาศได้ดี

TRIPLE Rooftop Facilities  ประกอบไปด้วยชั้น 36-37 และชั้นดาดฟ้า เป็นพื้นที่ส่วนกลางเต็ม Floor ได้วิวมุมสูงเห็นโค้งน้ำบางกระเจ้า และ City view ได้โดยรอบ

ชั้น 36 ประกอบไปด้วยพื้นที่ service ใต้สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งการที่มีห้องนี้ก็ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำรั่วซึมไปยังห้องพักอาศัยได้ค่ะ สำหรับพื้นที่ส่วนกลางชั้นนี้จะเน้นเป็นพื้นที่นั่งเล่น นั่งทำงานรูปแบบต่างๆ ทุกห้องได้วิวมุมสูง โดยจะมีห้อง THE PRODUCTIVE HUB เป็นห้องนั่งเล่นห้องทำงานขนาดใหญ่ ด้านในสุดมี THE MEETING สามารถใช้ประชุมหรือทำงานร่วมกันกับเพื่อนได้เป็นส่วนตัว ซึ่งต้อง booking ผ่าน Smart World นะคะ นอกจากนั้นยังมีเป็นพื้นที่ SKY LOUNGE และ THE BREATHING HUB ที่สามารถนั่งเล่นนั่งพักผ่อนได้เช่นกัน เป็นห้องที่มีขนาดเล็กกว่า แต่จะได้วิวโค้งน้ำบางกระเจ้าค่ะ

THE PRODUCTIVE HUB เป็นห้องนั่งเล่นห้องทำงานขนาดใหญ่ ภายในห้องจัดวางเป็น โซฟาพร้อมโต๊ะทำงานเอาไว้หลายชุด ในตำแหน่งอยู่ติดกับสวนได้ City View บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ

SKY LOUNGE จัดเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ที่สามารถนั่งได้เป็นกลุ่ม  ภายในห้องที่ได้หน้าต่างกระจกสูงเต็มบานแบบเข้ามุม ทำให้บรรยากาศภายในห้องนี้ดูโปร่งโล่ง เทควิวได้กว้างเลย

ชั้น 37 ประกอบไปด้วยส่วนกลางหลักๆ อย่างห้องออกกำลังกาย THE GYM และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งออกแบบมาให้เป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ อยู่ในตำแหน่งที่สามารถเทควิวโค้งน้ำบางกระเจ้าได้กว้าง ภายในสระแบ่งเป็นโซนTHE AQUA สำหรับใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้ยาวๆ และโซน THE JACUZZI สำหรับใช้แช่น้ำเพื่อผ่อนคลาย ซึ่งการแบ่งเป็นโซน ตามลักษณะการใช้งานแบบนี้ก็ช่วยให้ ผู้ใช้งานไม่ขวางทาง และไม่ชนกันสามารถใช้งานได้สะดวก

สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ เทควิวโค้งน้ำบางกระเจ้าและพระอาทิตย์ตกได้พร้อมกัน เป็นสระระบบเกลือ ขนาด 8.5×21 เมตร ลึก 1.20 เมตร ซ้ายมือจะเป็นโซน THE AQUA  สามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริงจังเลยค่ะ ส่วนขวามือจะเป็นโซน THE JACUZZI  ใช้นั่งแช่น้ำชมวิวเพื่อผ่อนคลาย นอกจากนั้นด้านข้างสระยังมีพื้นที่ pool terrace ให้มานั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกดินได้ด้วยค่ะ

THE GYM เป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ อยู่ติดสระว่ายน้ำ ได้บรรยากาศดีทีเดียว ภายในเป็นห้องฝ้าเพดานสูง และได้กระจกสูงเต็มบาน ทำให้ห้องนี้ดูโปร่งโล่งเหมาะสำหรับการออกกำลังกายเลย สำหรับห้องนี้มีจุดที่น่าสนใจ คือการแบ่งพื้นที่ออกกำลังกายเป็นโซนโดยมี partition กั้นไว้ ให้สามารถออกกำลังกายเป็นส่วนตัวคนเดียว หรือเป็นคู่ได้ ซึ่งตรงนี้จะต้อง booking ผ่าน Smart World ก่อนค่ะ

ชั้น Rooftop จะเป็นพื้นที่สวนทั้งหมด ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ THE SKY RIVER เทควิวทิศตะวันตก เห็นโค้งน้ำบางกระเจ้า และ โซน THE SKY CITY เทควิวทิศตะวันออก ได้ City view ภายในสวนมีการทำเป็น step หลายระดับ เพื่อให้สามารถนั่งชมวิวได้โดยไม่บางกัน  สำหรับค่าส่วนกลางที่นี่อยู่ที่ 50 บาท/ตร.ม./เดือน ทำให้มีภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ประมาณ 1350-2650 บาท/เดือน (ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง)

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1

• THE OASIS
• THE DROP OFF
• THE PICK UP
• THE ASPIRE COMMON
• LOBBY LOUNGE
• WAITING LOUNGE
• THE MAIL ROOM
• THE PARLOUR (โซนห้องประชุมต้อง booking ผ่าน Smart World)
• THE CO-OP SOCIETY (ต้อง booking ผ่าน Smart World)
• THE DESK

ชั้น 36

• THE PRODUCTIVE HUB
• THE MEETING (ต้อง booking ผ่าน Smart World)
• THE CLOUD
• THE BREATHING HUB
• SKY LOUNGE

ชั้น 37

• THE GYM (โซน Private ต้อง booking ผ่าน Smart World)
• THE PEAK
• THE AQUA
• THE JACUZZI

ชั้น Rooftop

• THE SKY RIVER
• THE SKY CITY

• สวนหย่อมที่ชั้น 1, 36, 37, ชั้นดาดฟ้า และที่อาคารจอดรถ ชั้นดาดฟ้า
• สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 8.5×21 เมตร ลึก 1.20 เมตร พร้อมโซน Jacuzzi
• มีการแบ่งสระเด็ก ลึก n/a เมตร ขนาดประมาณ n/a เมตร
• ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 16 เครื่อง
• ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 232 :  1 (ลิฟต์ความเร็วสูง)
• Service Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถประมาณ 282 คันคิดเป็น 40.51% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Face Scan / KATSAN

Aspire Onnut Station มีแบบห้องให้เลือกหลักๆ อยู่ 3 แบบ โดยที่ทุกแบบได้ครัวปิด กั้นแยกเป็นสัดส่วนสามารถทำอาหารได้จริงจัง สำหรับสัดส่วนห้องจะเน้นไปที่ 1 Bedroom ขนาด 27ตร.ม. และ ขนาด 30.50 ตร.ม. มีให้เลือกหลากหลายแบบแปลน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัยทำงาน อาจจะต้องการขยับขยายแยกออกมาอยู่คนเดียว หรืออยู่กันเป็นคู่รัก นอกจากนั้นมีแบบ 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom 2 Bathroom ที่จะเหมาะกับกลุ่มคนกำลังเริ่มต้นครอบครัวด้วยค่ะ

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 27-32 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม.
• 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 53 ตร.ม.

ส่วนรูปแบบการขายของโครงการเป็นแบบ Fully Fitted ดังนี้

• Built-in ครัว ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood ยี่ห้อ Teka
• สุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cotto + ฉากกั้นอาบน้ำกระจก
• เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง (1-3 ตัว แล้วแต่ Type ห้อง)

วัสดุภายในห้อง

• Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ จาก Kaadas
• พื้นห้องนั่งเล่น ห้องนอน พื้นไม้ลามิเนต
• พื้นครัว กรุกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม.
• พื้น และผนังห้องน้ำ ปูกระเบื้องแกรนิตโต ขนาด 60×60 ซม.
• ผนังทั่วไป ฉาบเรียบทาสีขาว
• เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน, อ่างล้างจาน 1 หลุม  จาก Teka / Backsplash (ผนังหลังเคาน์เตอร์ครัว) กระเบื้อง ขนาด 60×60 ซม.
• พื้นระเบียง กระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 ซม.
• สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำของ Cotto พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก Temper
• วัสดุกรอบบานประตู-หน้าต่าง อะลูมิเนียม Poder coat สีดำ
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.5 m
• ปลั๊กและสวิตช์ จาก SIEMENS

ห้องตัวอย่างวันนี้เราจะพาไปชมจะเป็นห้องเริ่มต้น 1 Bedroom ขนาด  27 ตร.ม. และ 1 Bedroom ขนาด 30.5 ตร.ม. ซึ่งเป็นห้อง 2 แบบที่มีจำนวนมากสุดในโครงการ ภายในห้องจะเป็นอย่างไร ไปชมกันค่ะ

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 27 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 27 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการนี้ อยู่ในตำแหน่งเทควิวทิศใต้ทั้งหมด ซึ่งได้ลมค่อนข้างดี ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท ส่วนการจัดฟังก์ชัน มีจุดที่น่าสนใจ ดังนี้

• ห้องนอนขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับ พื้นที่ Living area ที่สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น+พื้นที่ทานอาหารได้ รวมถึงมีมุมที่สามารถ Built in เป็น Walk in closet ได้ยาว 2.3 เมตร
• ห้องครัวปิด กั้นแยกเป็นสัดส่วน โดยห้องครัวอยู่บริเวณหน้าห้อง โดยมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นแยกจากส่วนห้องนอน เป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่ห้องนอน
• ห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนครัว แยกเป็นส่วน Service ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ติดกับโถงทางเดินในอาคาร ช่วยเป็น Buffer ลดเสียงจากโถงทางเดินเข้าสู่พื้นที่ห้องนอน จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

สำหรับห้องมาตรฐาน ประตูห้องจะเป็นแบบบานทึบ ขนาด 90 x 200 ซม. พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ จาก Kaadas

เข้าห้องมาแล้วเราจะเจอกับห้องครัวก่อนเลยค่ะ ซึ่งมีข้อดีคือเวลาที่ซื้อของเข้ามาก็สามารถจัดเก็บของในตู้ได้เลย ซึ่งห้องครัวเป็นแบบครัวปิดกั้นแยกชัดเจนจากพื้นที่ห้องนอน เหมาะต่อการทำอาหาร ช่วยกันกลิ่นควันให้ไม่ไปรบกวนยังส่วนต่างๆ

โดยฝั่งขวาจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ฝั่งซ้ายเป็นประตูห้องน้ำ จัดให้เป็นส่วน Service ติดกันอยู่ในตำแหน่งที่ติดกับโถงทางเดินในอาคาร ช่วยเป็น Buffer ลดเสียงจากโถงทางเดินเข้าสู่พื้นที่ห้องนอน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ชุดครัวจะได้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I กว้าง 1.2 เมตร จะไม่ได้ชั้นวางของด้านขวามือนะคะ ในห้องมาตรฐานจะเป็นพื้นที่ว่าง กว้าง 35 ซม. สามารถวางเป็นชั้นวางของเล็กๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเก็บของเหมือนในห้องตัวอย่างได้ค่ะ

โดยชั้นวางของด้านบน เป็นทั้งแบบหน้าบานทึบ และแบบชั้นวางของโปร่งๆ เหมาะกับวางของที่หยิบใช้บ่อยๆ ได้สะดวก และมีพื้นที่วางไมโครเวฟมาให้ ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ค่ะ ส่วนตู้เก็บของด้านล่าง พื้นที่ใต้อ่างล้างจานจะเป็นช่องเก็บขนาดใหญ่ เหมาะกับการเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด และถังขยะสำหรับทิ้งเศษอาหาร ส่วนด้านข้างมี มีลิ้นชักช้อน ส้อม และช่องเก็บของด้านล่างมาให้เรียบร้อย

เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน และ อ่างล้างจาน 1 หลุม จาก Teka ด้านหลังเคาน์เตอร์ติดตั้ง Backsplash เป็นกระเบื้อง ขนาด 60×60 ซม. ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมมีปลั๊กบนเคาน์เตอร์มาให้เรียบร้อย

พื้นห้องครัวทางโครงการจะปูกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม. มาให้ทำความสะอาดง่ายและทนต่อน้ำและคราบมันได้ดี ส่วนระยะทางเดินหน้าเคาน์เตอร์ตรงนี้จะกว้าง 1.10 ม. เดินผ่านไป-มาได้สบาย ส่วนระยะด้านข้างเคาน์เตอร์จะกว้างประมาณ 72 ซม. สามารถวางตู้เย็นขนาด 9 คิว ได้พอดีๆค่ะ

มาดูส่วนของห้องน้ำกันบ้างค่ะ ภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน จัดวางฟังก์ชันเป็นแนวยาวเรียงลำดับการใช้งาน ส่วนประตูทางเข้าห้องน้ำก็จะมีขอบธรณีกั้นพื้นไว้ เพื่อกันไม่ให้น้ำจากห้องน้ำไหลออกมายังพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่นๆ ส่วนวัสดุพื้นและผนังภายในห้องน้ำใช้กระเบื้องแกรนิตโต  ลายหินอ่อนโทนสีครีมแบบให้ห้องตัวอย่างเลย ดูสวยงาม สบายตา

ภายในห้องติดตั้งกระจกเงา แบบมีชั้นวางของด้านในหลายช่อง สามารถวางของชิ้นเล็กๆได้เยอะ เก็บของได้เป็นระเบียบเรียบร้อยดีค่ะ

อ่างล้างหน้าที่ได้ กว้างประมาณ 0.55 เมตร ตัวอ่างเป็นแบบลอยตัวเชื่อมต่อกับผนัง Low Wall วางของได้ พร้อมมีช่องเก็บของด้านล่าง และหน้าบานทึบปิดมาให้เรียบร้อย สามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ได้ ส่วนอุปกรณ์ และสุขภัณฑ์ต่างๆ จาก COTTO ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกมาให้เรียบร้อย เวลาอาบน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะกระเด็นมาเปียกส่วนแห้งเลยค่ะ สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.85×1.00 เมตร มีช่องว่างเล็กๆ ด้านข้างซ้ายมือ ขนาดประมาณ 30×45 ซม. พื้นที่ตรงนี้เราสามารถหาซื้อชั้นวางของภายในห้องน้ำมาวางเพิ่มเติมได้นะคะ ส่วนที่อาบน้ำเป็นแบบ Hand shower ด้านข้างมีชั้นวางของเล็กๆ สามารถวางสบู่ ยาสระผมได้บ้าง และมีการเดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาเรียบร้อย

ห้องครัวนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนอน ด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน นอกจากช่วยกันกลิ่นควันจากในครัวแล้ว ยังทำให้แสงธรรมชาติจากระเบียงสามารถส่องเข้ามายังบริเวณครัวได้ ทำให้ห้องดูโปร่งค่ะ

ห้องนอนมีขนาดค่อนข้างกว้าง เป็นห้องนอนที่รวมเอาพื้นที่ Living area เอาไว้ด้วยกัน  โดยพื้นที่ตรงนี้หน้ากว้าง 4.3 เมตร สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น+พื้นที่ทานอาหารได้ ภายในห้องเชื่อมต่อกับระเบียง ด้วยกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้ภายในห้องได้แสงธรรมชาติเยอะ บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่ง สำหรับวัสดุที่ใช้ภายในห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต ผนังทั่วไปฉาบเรียบทาสีขาว ระยะฝ้าเพดานที่ 2.5 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาวนะคะ

ส่วนระยะจากหน้าตู้เสื้อผ้าจนถึงผนังข้างเตียง จะกว้างประมาณ 4.4 เมตร ภายในห้องตัวอย่างจัดเป็นโซฟาสองที่นั่งแบบลอยตัว พร้อมโต๊ะทำงานด้านหลัง และเตียง 5 ฟุต วางแบบลอยตัว พอมีทางเดินได้พอดีๆโดยรอบ

ในห้องตัวอย่างจัดโต๊ะทำงานวางชิดกับโซฟา ซึ่งตรงนี้เราสามารถเปลี่ยนเป็นชุดโต๊ะรับประทานอาหาร สามารถวางเก้าอี้ 2 ที่นั่ง แบบหันมาทางทีวีได้ โดยพื้นที่หลังโต๊ะจะเหลือค่อนข้างกว้าง สามารถเลื่อนเก้าอี้เข้าออกได้สะดวกเลย สำหรับห้องมาตรฐานผนัง หลังคอนโซลทีวี และผนังที่ปลายเตียงจะเป็นผนังทึบนะคะ

อีกฝั่งหนึ่งของ Living area มีมุมที่สามารถ Built in เป็น Walk in closet ได้ด้วยค่ะ

ในห้องมาตรฐานตรงนี้จะเป็นช่องโล่ง กว้าง 2.3 เมตร สามารถ built-in เป็น Walk in closet ได้เต็มผนัง ซึ่งตรงนี้แนะนำให้ประตูตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อน เหมือนในห้องตัวอย่าง เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้พื้นที่ในการเปิดตู้เยอะนะคะ

เตียงนอนถูกวางอยู่ในจุดใกล้หน้าต่าง ทำให้ได้แสงเยอะ โดยหน้าต่างตรงนี้ ตรงกลางจะเป็นบานกระจกติดตายด้านข้างเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถเปิดระบายอากาศรับลมได้ ภายในห้องตัวอย่างจัดวางเตียงค่อนข้างชิดกับริมหน้าต่าง เหลือที่ว่างประมาณ 30 ซม. พอจะเดินได้ เพื่อให้สะดวกเวลาทำความสะอาดหรือเปลี่ยนผ้าปูที่นอน

พื้นที่สำหรับวางเตียงนอนตรงนี้มีขนาดหน้ากว้าง 2.6 เมตร ลึก 1.4 เมตร เมื่อวางเตียงแล้วจะเหลือพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 0.5 เมตร สามารถเดินได้พอดีๆสำหรับผนังที่ปลายเตียงตรงนี้จะเป็นผนังทึบนะคะ

ระเบียงมี ขนาด 1.7×1.4 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้า และราวตากผ้าได้ ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ทำความสะอาดได้ง่าย ภายในห้องมาตรฐาน ด้านข้างจะเป็นผนังทึบ และมีการวางงานระบบต่างๆ รองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ให้ด้วยนะคะ

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 32 ตร.ม.

1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 30.5 ตร.ม. เป็นอีกแบบห้องที่มีสัดส่วนค่อนข้างเยอะ โดยจะเป็นห้อง 1 Bedroom ที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้นมาอีกหน่อย ส่วนตำแหน่งห้องนี้จะเทควิวทิศเหนือทั้งหมด ซึ่งเป็นทิศที่ค่อนข้างร่ม เหมาะต่อการอยู่อาศัย ส่วนการจัดฟังก์ชัน มีจุดที่น่าสนใจ ดังนี้

• ห้องครัวปิด ติดระเบียง สามารถทำอาหารมีกลิ่นได้เต็มที่โดยไม่ต้องกลัวกลิ่นฟุ้งกระจาย เพราะสามารถเปิดระบายอากาศผ่านทางระเบียงได้
• ห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วน มีห้องนอนแยกส่วนกับห้องนั่งเล่น สามารถใช้พื้นที่พร้อมกันได้ 2 ฟังก์ชันโดยไม่รบกวนกันได้ นอกจากนั้นยังมีข้อดีตรงที่ไม่เปลืองแอร์ด้วยนะ
• Living area ขนาดใหญ่ ที่รวมเอา พื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ทานอาหารเอาไว้ด้วยกัน และยังเชื่อมต่อกับห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ยิ่งทำให้ห้องดูโล่งกว้างค่ะ

เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนของ Foyer เล็กๆ กว้างประมาณ 1.55 เมตรโดยผนังด้านขวามือจะเหมาะสำหรับเป็นชั้นรองเท้าและชั้นเก็บของต่างๆได้ โดยพื้นที่ ตรงนี้จะเชื่อมต่อกับ Living Area ด้านใน ส่วนซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำค่ะ

ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน จัดวางฟังก์ชันเป็นแนวยาวเรียงลำดับการใช้งานเหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ ประตูทางเข้าห้องน้ำก็จะมีขอบธรณีกั้นพื้นไว้ เพื่อกันไม่ให้น้ำจากห้องน้ำไหลออกมายังพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่นๆ ส่วนวัสดุพื้นและผนังภายในห้องน้ำใช้กระเบื้องแกรนิตโต  ลายหินอ่อนโทนสีครีมเหมือนกันเลยค่ะ

ภายในห้องน้ำติดตั้งกระจกเงาแบบมีชั้นวางของด้านใน อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัวเชื่อมต่อกับผนัง Low Wall พร้อมมีช่องเก็บของด้านล่าง ส่วนอุปกรณ์ และสุขภัณฑ์ต่างๆ จาก COTTO ค่ะ

ที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.85×1.0 เมตร ติดตั้งที่อาบน้ำแบบ Hand shower และที่วางสบู่เล็กๆมาให้ พร้อมฉากกั้นกระจก ภายในห้องมีการเดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยค่ะ

เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Living Area  มีขนาดหน้ากว้าง 3.9 เมตร และลึกประมาณ 2.65 เมตร ค่อนข้างกว้าง ภายในห้องตัวอย่างจัดเป็นชุดโซฟาฝั่งซ้าย และคอนโซลวางทีวีฝั่งขวา ซึ่งระยะดูทีวีตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-55 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ

สำหรับวัสดุที่ใช้ภายในห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต ผนังทั่วไปฉาบเรียบทาสีขาว ระยะฝ้าเพดานที่ 2.5 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีขาวนะคะ

ในห้องตัวอย่างจัดเป็นโซฟายาวเต็มผนังใช้งานร่วมกับ Dinning table ตรงนี้เราสามารถเปลี่ยนเป็นโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งพร้อมกับชุดโต๊ะรับประทานอาหารตัวเล็ก วางแบบชิดผนังด้านซ้ายเพื่อให้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้นได้ค่ะ

พื้นที่ Living Area จะเชื่อมต่อกับห้องนอนและห้องครัวด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสูงเต็มผนัง ช่วยทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ บรรยากาศภายในห้องไม่มืดทึบค่ะ

มาดูที่ส่วนห้องนอนกันก่อนค่ะ ห้องนี้มีขนาดหน้ากว้าง 2.4 เมตร และลึกประมาณ 3.5 เมตร ภายในห้องมีหน้าต่างหนึ่งจุด เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

การจัดฟังก์ชันภายในห้องตัวอย่างจัดวางเป็นเตียงขนาด 5 ฟุตวางใกล้กับริมหน้าต่างโดยเหลือช่องว่างให้พอเดินได้ประมาณ 30  ซม. เพื่อให้พื้นที่ด้านข้างเตียงด้านในจะได้ใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ ส่วนพื้นที่ปลายเตียงจะเหลือประมาณ 30 ซม. เช่นกันค่ะ

พื้นที่ด้านข้างเตียงค่อนข้างกว้าง ภายในห้องตัวอย่างนี้ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าที่ผนังหัวเตียง ยาวประมาณ 1.5 เมตรได้เลยค่ะ

มาดูกันที่ส่วนของห้องครัวกันบ้างค่ะ ห้องครัวเป็นแบบครัวปิด สามารถทำอาหารได้จริงจังโดยไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะไปรบกวนยังส่วนอื่นๆ อีกทั้งยังอยู่ติดระเบียง ได้แสงเยอะ ค่อนข้างสว่าง และสามารถเปิดระบายอากาศได้สะดวกเลยค่ะ

สำหรับห้องครัวนี้มีขนาด 1.3×2.0 เมตร ภายในห้องจัดวางเคาน์เตอร์ครัวไว้ ฝั่งติดระเบียง ส่วนตู้เย็นจะอยู่ในตำแหน่งติดประตูด้านใน ถือว่าเป็นตำแหน่งที่สะดวก เมื่ออยู่ในห้องนั่งเล่นก็สามารถเดินมาหยิบของกินในตู้เย็นได้ง่ายค่ะโดยพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นกว้างประมาณ 67 ซม. จะสามารถวางตู้เย็น 9 คิวได้พอดีๆ

ชุดครัวจะได้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I กว้าง 1.2 เมตร Top หินสังเคราะห์ ติดตั้งอ่างล้างจาน 1 หลุม เป็นแบบมีที่ปิดมาให้ด้วย ทำให้เราสามารถขยายพื้นที่วางของหรือพื้นที่ประกอบอาหารได้กว้างมากขึ้น พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว และเครื่องดูดควันแบบหมุนเวียนจาก Teka ส่วนตู้เก็บของด้านล่าง มีพื้นที่ใต้อ่างล้างจานจะเป็นช่องเก็บขนาดใหญ่ ด้านข้างมีลิ้นชักเก็บช้อน ส้อม และช่องเก็บของด้านล่างมาให้เช่นกัน ส่วนระยะทางเดินหน้าเคาน์เตอร์เหลือประมาณ 73 ซม. เดินได้พอดีๆค่ะ

ส่วนตู้เก็บของด้านบน เป็นทั้งแบบหน้าบานทึบ และชั้นวางของโปร่งๆ เหมาะสำหรับวางของที่หยิบใช้บ่อยๆ และมีพื้นที่วางไมโครเวฟมาให้ด้วย ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ค่ะ

ระเบียงมีขนาด 1.4×1.5 เมตร สามารถวางเครื่องซักผ้า และราวตากผ้าได้ ส่วนพื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมมีการวางงานระบบต่างๆ รองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ให้ อีกทั้งโครงการได้ติดตั้ง Condensing Units ไว้ด้านบน ทำให้มีพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่ และไม่โดนไอร้อน

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

แปลนห้อง 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 27-32 ตร.ม.

แปลนห้อง 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม.

แปลนห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 53 ตร.ม.

Aspire Onnut Station ราคา ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565

• 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 27-32 ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus พื้นที่ใช้สอย 35 ตร.ม.
• 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 53 ตร.ม. 

• ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท
• ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 135,000 บาท/ตร.ม.
• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
• จอง 1 Bedroom 10,000 บาท / 1 Bedroom Plus 20,000 บาท / 2 Bedrooms 50,000 บาท
• ทำสัญญา 30,000 – 50,000 บาท
• ดาวน์ 8% ผ่อนดาวน์ 28-33 งวด (Balloon 4 งวด)
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 50 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

เป็นคอนโดที่ติดถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าเมือง อย่างที่เราทราบกันว่าคอนโดบนถนนสุขุมวิทมักจะเป็นคอนโดที่มีมูลค่าสูงมากเมื่อเทียบกับคอนโดที่อยู่ในซอย ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในโซนนี้ถือว่าสูงมาก มีครบทั้งห้าง ร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด Community mall จัดเป็นคอนโดที่อยู่บนทำเลที่เดินทางสะดวกทั้งรถส่วนตัว และรถสาธารณะ มีแหล่งอาหารการกินที่หลากหลาย หาของกินได้ง่ายเลยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

ตัวโครงการตั้งอยู่ฝั่งขาเข้าเมือง ทำให้เดินทางด้วยรถสะดวกเลย สามารถใช้ถนนสุขุมวิทวิ่งตรงเข้าเมืองไปเอกมัย ทองหล่อ พร้อมพงศ์ อโศก ได้ง่าย หรือจะใช้ถนนพระราม 4 ไปสีลม-สาทร สามย่านก็สะดวก ส่วนทางด่วนก็มีทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานครให้ใช้งาน ซึ่งที่ตั้งโครงการไม่ไกลจากจุดขึ้น-ลงทางด่วน แต่อาจจะต้องกลับรถสักหน่อยค่ะ ส่วนที่จอดรถให้มา 40.51% ถือว่าโอเคสำหรับคอนโดที่ใกล้รถไฟฟ้า และติดถนนหลัก ใช้รถสาธารณะได้ง่ายค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

เป็นคอนโดที่ใกล้ BTS อ่อนนุชเพียง 200 เมตร สามารถเดินไปใช้รถไฟฟ้าได้ง่ายส่วนรถสาธารณะรูปแบบอื่นๆ อย่างวินมอเตอร์ไซค์ รถเมล์ Taxi ก็สามารถเรียกใช้บริการได้ง่าย เนื่องจากอยู่ติดถนนสุขุมวิทที่คึกคักตลอดทั้งกลางวัน-กลางคืน ทำให้สามารถเรียกใช้บริการกันได้ที่หน้าโครงการเลยค่ะ

วัสดุ :

ตัวห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully fitted ค่ะ ภายในห้องได้วัสดุมาตรฐานตามระดับราคา พื้นเป็นลามิเนต ผนังกับฝ้าเพดานก็ฉาบเรียบทาสี  ได้ครัวที่ Built-in ท็อปหินสังเคราะห์ พร้อมเตาไฟฟ้า 2 หัว, เครื่องดูดควันแบบหมุนเวียน, อ่างล้างจาน 1 หลุม จาก Teka ส่วน Backsplash เป็นกระเบื้องขนาด 60×60 ซม. ส่วนภายในห้องน้ำสุขภัณฑ์ต่างๆ เป็นของ Cotto ค่ะ นอกจากนี้ก็จะได้แอร์ติดผนัง 1-3 ตัว แล้วแต่แบบห้องด้วยค่ะ

การออกแบบ :

การออกแบบโครงการแยกชั้นส่วนกลาง และชั้นพักอาศัยออกจากกันชัดเจน  ทำให้ห้องพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัว ถึงแม้ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่จะเทควิวทางทิศเหนือ-ใต้ จะมีเฉพาะห้องขนาดใหญ่ 2 Bed 2 Bath ที่จะเทควิวโค้งน้ำบางกระเจ้าได้ แต่ทางโครงการก็ได้ออกแบบให้ Facility หลักๆอยู่ 3 ชั้นบนสุดเพื่อให้ลูกบ้านได้ใช้งานและได้ชมวิวได้อย่างเต็มที่

การออกแบบห้องพักอาศัย แยกโซนพักอาศัยและโซน Service ชัดเจน ได้ครัวปิดทุกแบบ กั้นแยกเป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารได้จริงจัง โดยจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ขนาด 27-32 ตร.ม. ที่มีให้เลือกหลากหลายแบบแปลน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัยทำงาน อยู่คนเดียวหรืออยู่กันเป็นคู่รัก นอกจากนั้นมีแบบ 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom 2 Bathroom ที่จะเหมาะกับกลุ่มคนกำลังเริ่มต้นครอบครัวด้วยค่ะ

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางให้มาครบครัน รวมกันประมาณ 4,700 ตร.ม. จุดเด่นคือ TRIPLE Rooftop Facilities ส่วนกลาง 3 ชั้นบนสุดเต็มพื้นที่ ได้วิวมุมสูงเห็นโค้งน้ำบางกระเจ้า และ City View โดยรอบ นอกจากนี้ยังมีมีพื้นที่ส่วนกลางอย่าง Fitness และ ห้องประชุมต่างๆ ที่สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น อีกทั้งส่วนกลางหลายๆ จุดก็สามารถ booking ผ่าน แอปพลิเคชันได้ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะใช้งานชนกับเพื่อนบ้านคนอื่นๆ ส่วนพื้นที่สีเขียวภายในโครงการก็ให้มาหลายจุดกระจายอยู่ตามชั้นส่วนกลางต่างๆ รวมถึงชั้นดาดฟ้าอาคารจอดรถก็มีสวนให้ใช้งานได้เช่นกันค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 135,000  บาท/ตร.ม.,  30 พฤศจิกายน 2565

• ทำเล 8/10 – ติดถนนสุขุมวิท โซนอ่อนนุช
• เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ติดถนนสุขุมวิทฝั่งขาเข้าเมือง ไปพระราม 4 เอกมัยง่าย ที่จอดรถ 40.51%
• ไม่ใช้รถ 8.25/10 – ใกล้ BTS อ่อนนุช 200 ม. เรียกรถสาธารณะง่าย
• วัสดุ 7/10 – Fully fitted  ให้มาตามมาตรฐาน
• แบบ 7.5/10 – ได้ครัวปิดทุกแบบ มีแบบให้เลือกหลากหลาย
• สาธารณูปโภค 8.5/10 –  จัดเต็ม 4,700 ตร.ม. พร้อมส่วนกลาง 3 ชั้นบนสุดวิวโค้งน้ำบางกระเจ้า

• UPPER  CLASS
• 7.8125 / 10.00

Aspire Onnut Station เหมาะกับใคร

โครงการ Aspire Onnut Station เหมาะสำหรับคนที่มองหาที่อยู่อาศัยกลางเมือง เดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้า และรถส่วนตัว หาของกินง่าย ทำงานแถวพระราม 4 หรือใช้ชีวิตในโซนพร้อมพงษ์ ทองหล่อ เอกมัย  ชอบโครงการที่มี Facilities จัดเต็มเน้นชมวิวได้หลายจุด โดยมีงบ 4-5 ล้านสำหรับอยู่ 1-2 คน หรือว่างบ 5-8 ล้านสำหรับครอบครัวเริ่มต้น 2-3 คน มีกำลังผ่อนต่อเดือน 25,000-56,000 บาทขึ้นไป

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc