รีวิวคอนโด Atmoz Oasis Onnut (แอทโมส โอเอซิส อ่อนนุช) ซึ่งตอนนี้สร้างเสร็จและใกล้จะพร้อมให้เข้าอยู่ได้แล้ว ตั้งอยู่ในโซนอ่อนนุชตอนกลางอิงถนนศรีนครินทร์ จึงมีราคาจับต้องได้ง่ายกว่าฝั่งสุขุมวิท เริ่ม 1.79 ล้านบาท ส่วนตัวมองว่ามีประเด็นความน่าสนใจ หรือ Highlights หลายๆอย่างดังนี้ค่ะ
- ส่วนกลางเยอะที่สุดในย่าน เป็นโครงการที่มี Facilities เยอะถึง 45 ฟังก์ชัน กับขนาดพื้นที่รวมมากกว่า 3 ไร่ แต่ก็ต้องแชร์กันใช้กับเพื่อนบ้านเยอะหน่อย 1,108 ยูนิต
- ทำเลติดถนนใหญ่อ่อนนุช ใกล้แยกศรีนุชที่ตัดกับถนนศรีนครินทร์ เดินทางเข้า-ออกเมืองง่าย ซึ่งโครงการใหม่ๆ ในโซนนี้จะขยับเข้าไปในซอยกันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ Atmoz ได้เปรียบในเรื่องการเดินทางค่ะ
- ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานีศรีนุช ระยะทางประมาณ 500 m. และเดินทางด้วยวินมอเตอร์ไซค์, สองแถว, รถเมล์, Taxi และเรือ ได้สะดวกอีกด้วย
- มีแบบห้องให้เลือกเยอะ เป็นครัวปิดทั้งหมด และออกแบบให้ห้องนอนมีขนาดใหญ่
ข้อมูลโครงการ
Atmoz Oasis Onnut (แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช) ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566
ชื่อโครงการ | Atmoz Oasis Onnut (แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอย อ่อนนุช 66/1 ถนน อ่อนนุช เขต สวนหลวง |
ที่ดิน | 10-1-98 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 5 อาคาร |
จำนวนยูนิต | ทั้งหมด 1,110 ยูนิต (แบ่งเป็นห้องพักอาศัย 1,108 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต) |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 36 ยูนิต ที่อาคาร D และ E |
ที่จอดรถ | ประมาณ 38% แบบรวมจอดซ้อนคัน |
เริ่มก่อสร้าง | เดือนมีนาคม ปี 2565 |
สถานะปัจจุบัน | สร้างเสร็จพร้อมอยู่ เดือนธันวาคม ปี 2566 |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.4 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 1.79 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 77,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | 64,000 – 89,000 บาท/ตร.ม. |
เว็บไซต์โครงการ | https://assetwise.co.th/condominium/atmoz-oasis-onnut/?utm_source=Google-Search&utm_medium=Rent&utm_campaign=RSA&gclid=CjwKCAiA0syqBhBxEiwAeNx9N-abZ71fJhkRynj8xOWscCDYGoyTY1_W10GfK99wGYCwGBVZ08C29BoCuzkQAvD_BwE |
Call Center | 02-168-0000 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ติดถนนใหญ่อ่อนนุชฝั่งขาเข้าเมือง และอยู่ใกล้แยกศรีนุชที่เป็นจุดตัดของถนนศรีนครินทร์ เข้า-ออกเมืองง่าย
- ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานีศรีนุช ระยะทางประมาณ 500 m. และยังสามารถเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆได้ง่าย ทั้งวินมอเตอร์ไซค์, รถสองแถว, รถเมล์, Taxi และเรือ
พิกัด Google Maps : 13.713688, 100.647101
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการ Atmoz Oasis Onnut (แอทโมส โอเอซิส อ่อนนุช) ตั้งอยู่ติดถนนอ่อนนุชฝั่งขาเข้าเมือง ถือเป็นโซนที่เริ่มมีการพัฒนาและขยับขยายมาจากทางฝั่งสุขุมวิทที่ค่อนข้างหนาแน่น และมีราคาคอนโดที่ไปไกลแล้วพอสมควร (ประมาณ 100,000 บาท/ตร.ม.) ซึ่งการที่ทำเลขยับออกมาอยู่ตรงนี้ ก็เลยทำให้มีราคาที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้น แต่ยังสามารถเข้า-ออกเมืองไปทางสุขุมวิท-ลาดกระบังได้สะดวก อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับแยกศรีนุช ที่เป็นจุดตัดกับถนนศรีนครินทร์เพียง 350 m. จัดเป็นถนนเส้นหลักที่สามารถเดินทางเข้าเมืองไปยังพระราม 9 – บางกะปิ หรือจะไปทางบางนา – สมุทรปราการก็ได้ค่ะ
โดยใกล้ๆโครงการจะมีตลาด ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารอยู่บ้างนิดหน่อย แต่ถ้าเป็นถนนศรีนครินทร์ที่อยู่ไม่ไกลล่ะก็จะค่อนข้างมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก เต็มไปด้วยห้างใหญ่ๆอย่าง Seacon Square / Paradise Park และตลาดนัดรถไฟ รวมถึงยังมีโรงเรียนนานาชาติ และสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่าง สวนหลวง ร.9 ให้ไปเดินเล่นพักผ่อนกันได้ด้วย หรือถ้าใครที่เน้นใช้ชีวิตไปทางสุขุมวิทก็จะมีซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Big C และ Lotus ที่อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 5 km.
แต่ความน่าสนใจของทำเลโครงการนี้ยังมีอีกอย่างคือ การเดินทางด้วยรถสาธารณะที่ค่อนข้างสะดวก เพราะบนถนนอ่อนนุชเส้นนี้จะมีรถเมล์ และรถสองแถววิ่งผ่านอยู่ตลอด ส่วนบนถนนศรีนครินทร์ก็จะเป็นเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) อีกทั้งยังมีท่าเรือตรงคลองพระโขนงให้ได้ใช้งานอีกด้วย
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง :
โครงการตั้งอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานีศรีนุช ระยะทางประมาณ 500 m. ซึ่งถ้าใครที่ขยันเดินหน่อยก็พอจะสามารถเดินไปถึงได้นะคะ หรืออาจใช้ตัวช่วยอย่างพี่วินมอเตอร์ไซค์ ที่อยู่ตรงซอยข้างๆก็ได้ โดยจะมีราคาประมาณ 20 บาท
ท่าเรือ :
การเดินทางด้วยเรือจะมีท่าเรือตลาดเอี่ยมสมบัติอยู่ใกล้ที่สุด ซึ่งจะอยู่ตรงแถวๆใต้สะพานข้ามคลองพระโขนงพอดี จากโครงการเราสามารถเลี้ยวขวาที่แยกสวนหลวงไปได้เลย มีระยะทางประมาณ 750 m. เท่านั้นค่ะ
ทางด่วน :
สำหรับจุดขึ้นทางด่วนใกล้ที่สุดจะอยู่ตรงถนนมอเตอร์เวย์-พระราม 9 โดยเราสามารถเลือกที่จะเลี้ยวไปได้ทั้ง 2 ทางเลยค่ะ ซึ่งหากเราจะเข้าเมืองไปทางพิเศษศรีรัชก็จะมีระยะทางประมาณ 6.9 km.
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
โครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อ่อนนุช และอยู่ระหว่างซอยอ่อนนุช 66 กับซอยอ่อนนุช 66/1 โดยรอบจึงเป็นชุมชนแนวราบเป็นส่วนใหญ่ และมีอาคาร 8 ชั้นอยู่บ้าง สามารถสรุปได้ดังนี้
- ทิศเหนือ : ติดกับ ถนนอ่อนนุช
- ทิศใต้ : ติดกับ ชุมชนแนวราบ
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ซอยอ่อนนุช 66/1 และมีอาคารสูง 8 ชั้น
- ทิศตะวันตก : ติดกับ ซอยอ่อนนุช 66 และชุมชนแนวราบ
เรามาเดินดูทำเลรอบๆโครงการกันสักหน่อยค่ะ โดยโครงการจะอยู่ติดกับถนนอ่อนนุชแบบนี้เลย เป็นทางที่มุ่งหน้าไปศรีนครินทร์-สุขุมวิท ซึ่งเราจะลองพาเดินไปทางนี้จนถึงรถไฟฟ้าเลยค่ะ
ตรงบริเวณปากซอยอ่อนนุช 66 ที่อยู่ข้างๆโครงการ จะมีทั้งเซเว่น / ตู้ ATM / ร้านข้าวแกง และวินมอเตอร์ไซค์ตั้งอยู่ ซึ่งจากการสอบถามพี่ๆแล้วถ้านั่งไปรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีนุช จะมีค่าโดยสาร 20 บาท
ถ้าใครที่ขยันเดินหน่อย ก็สามารถเดินมาตามทางเท้าริมถนนใหญ่เรื่อยๆได้นะคะ และเมื่อถึงแยกศรีนุชก็ให้เลี้ยวซ้ายมา จะมองเห็นตัวสถานีตั้งอยู่ตรงหน้าแบบนี้เลย
จากสี่แยกเดินมาอีกประมาณ 100 m. ก็จะถึงบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ
อีกฝั่งหนึ่งของโครงการจะอยู่ติดกับซอยอ่อนนุช 66/1 บรรยากาศในซอยดูเงียบสงบและเป็นที่ตั้งของบริษัท Office mate
ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นที่ตั้งของบริษัท อลูเกลซ ขายปลีกส่ง อลูมิเนียม กระจก เเผ่นฝ้า เป็นต้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ตลาดเอี่ยมสมบัติ ~ 550 m.
- Seacon Square ~ 2.3 km.
- Paradise Park ~ 3.6 km.
- Tanya Park ~ 2.5 km.
- BigC Extra ~ 5.2 km.
- Habito Mall ~ 5.4 km.
- Tesco Lotus อ่อนนุช ~ 5.8 km.
- ตลาดอ่อนนุช ~ 5.9 km.
- ตลาดลาดบุญ ~ 8.6 km.
- Pasio ลาดกระบัง ~ 9.5 km.
- Robinson ลาดกระบัง ~ 10.2 km.
โรงพยาบาล
- รพ.อ่อนนุช 39 ~ 950 m.
- รพ.วิภาราม ~ 3.9 km.
โรงเรียน
- วิทยาลัยดุสิตธานี ~ 2.1 km.
- Beaconhouse Yamsaard International School ~ 3.2 km.
- รร. เตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ ~ 4.7 km.
- Wells Int’s School ~ 5.8 km.
- มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ~ 6.1 km.
- Bangkok Christian International School ~ 6.7 km.
- Charter International School ~ 7.5 km.
- Bangkok Prep (Secondary Campus) ~ 9.4 km.
สถานที่ราชการ
- ไปรษณีย์อ่อนนุช ~ 160 m.
- สำนักงานประกันสังคม ~ 5.1 km.
- สำนักงานเขตพระโขนง ~ 5.9 km.
- สำนักงานขนส่ง ~ 5.9 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- มี Facilities เยอะสุดในย่านมากถึง 45 ฟังก์ชัน และมีพื้นที่ส่วนกลางรวมกว่า 3 ไร่
- แต่ละอาคารจะมี Concept ของฟังก์ชันที่ต่างกันออกไปคือ LIVE / ACTIVE / WORK / PLAY และ EAT ซึ่งก็เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์หรือความชอบที่แตกต่างกัน
- วางผังโครงการให้ทุกอาคารโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ห้องที่หันเข้ามาด้านในจะได้รับวิวสวยๆของสวนและสระว่ายน้ำได้
- ใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัวของพื้นที่ส่วนกลาง โดยการทำผนังทึบบังสายตาออกจากที่จอดรถรอบๆ พร้อมกับปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่น สอดคล้องกับ Concept Private Oasis
โครงการ Atmoz Oasis Onnut เป็นกลุ่มคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 5 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 10-1-98 ไร่ และมีเพื่อนบ้าน 1,110 ยูนิต โดยแบ่งเป็นห้องพักอาศัย 1,108 ยูนิต และร้านค้าอีก 2 ยูนิต
โดยจะมีทางเข้าอยู่ติดกับถนนอ่อนนุช และมีอาคารสูง 2 ชั้นที่เรียกว่า The Club ตั้งอยู่ด้านหน้า ทำหน้าที่เป็นทั้งส่วนต้อนรับและส่วนกลางให้ได้ใช้งาน รวมถึงยังมีส่วนช่วยกันความวุ่นวายจากถนนใหญ่ และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ภายในโครงการได้อีกด้วยค่ะ
จาก Master Plan บริเวณรอบนอกและใต้อาคารจะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมดประมาณ 38% แบบรวมจอดซ้อนคัน ส่วนบริเวณกลางโครงการจะเป็น Main Facilities ที่ถูกอาคารพักอาศัยทั้ง 5 โอบล้อมเอาไว้ เลยทำให้ห้องพักที่หันเข้ามาด้านในจะได้เห็นวิวสระว่ายน้ำ และสวนสวยๆไปด้วย
โดยพื้นที่สีเขียวทั้งหมดจะมีอยู่ประมาณ 3 ไร่ เปรียบเสมือน Private Oasis ของย่านอ่อนนุช-พัฒนาการ ซึ่งแค่ส่วนกลางแบบ Outdoor ก็มีให้ใช้งานมากถึง 24 ฟังก์ชันแล้ว รวมถึงแต่ละอาคารก็จะมี Concept ส่วนกลางที่แตกต่างกันออกไป ประกอบด้วย LIVE / ACTIVE / WORK / PLAY และ EAT รวมแล้วก็มีส่วนกลางทั้งหมด 45 ฟังก์ชันเลยทีเดียว
ทางเข้า-ออกโครงการเป็นระบบอัตโนมัติคล้าย Easy Pass บนทางด่วน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องคอยลดกระจกลงมาเพื่อแตะบัตร แต่ถ้าเป็น Visitors ก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามก่อนตามปกตินะคะ
เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้ามาแล้วก็จะเจอกับ Drop-Off ใต้อาคาร A เป็นลำดับแรก ซึ่งจะมี Lobby หลักเป็นพื้นที่ต้อนรับ-พักคอยได้ สำหรับลูกบ้านอาคารต่างๆ ก็สามารถเดินเชื่อมเข้าสวนเพื่อไปยังอาคารของตัวเองได้เลย เป็นการออกแบบเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับบรรยากาศส่วนกลางสวยๆ ก่อนจะเดินขึ้นห้องพักของตัวเอง
หากขับรถเข้ามาก็สามารถไปหาที่จอดใกล้ๆ แต่ละอาคารได้เลย
ส่วนที่จอดรถก็จะมีทั้งแบบที่อยู่ใต้อาคาร และแบบที่จอดกลางแจ้งนะคะ
สำหรับจุดที่เรามองว่าน่าสนใจคือ ระหว่างที่จอดรถและพื้นที่ส่วนกลาง จะออกแบบให้เป็นผนังทึบ เพื่อบังสายตาไม่ให้มองเข้าไปเห็นด้านในได้ ทำให้คนที่มาใช้งานส่วนกลางจะไม่เสียความเป็นส่วนตัว แต่ก็ไม่ลืมที่จะเว้นช่องว่างระหว่างแผ่นผนัง เพื่อให้ลมยังสามารถพัดผ่านได้สะดวก
มาดู Facilities ในแต่ละส่วนของโครงการกันค่ะ เริ่มจากอาคารด้านหน้าสุดคือ The Club ปัจจุบันเป็นทั้งสำนักงานขาย และเป็นหนึ่งใน Facilities ของโครงการด้วย ลักษณะจะเป็นอาคารสีขาวลายหินอ่อนที่ดูทันสมัยและสวยงามดีทีเดียว
The Club เป็นอาคารส่วนกลางขนาดใหญ่ 2 ชั้น ประกอบด้วย Living Area/ Meeting Room/ Courtyard/ Cafe และ Terrace ซึ่งเหมาะที่จะใช้เป็นส่วนรับรองแขก พบปะเพื่อนๆ หรือนั่งทำงานจิบกาแฟชิลๆ อาคารออกแบบให้ผนังส่วนใหญ่เป็นผนังกระจก จึงได้บรรยากาศที่ดูโปร่งโล่งและชมวิวมุมสูงได้ เพราะ Facilities ส่วนใหญ่จะอยู่บนชั้น 2 ค่ะ
ขยับเข้ามาด้านในที่อาคาร A จะมี Lobby แบบฝ้าเพดานสูง ตกแต่งด้วยต้นไม้ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ รวมถึงยังมีผนังกระจกขนาดใหญ่ให้เราได้ชมพื้นที่สีเขียวภายนอกได้ด้วย
จาก Lobby ของอาคาร A จะมีประตูเพื่อเปิดเข้าสู่สวนและสระว่ายน้ำส่วนกลาง ซึ่งถือว่าเป็น Highlights ของโครงการนี้เลย ภายในสวนจะมีมุมพักผ่อนมากมายแบ่งเป็นฟังก์ชันย่อยๆ ได้ถึง 24 ฟังก์ชัน ตอนนี้โครงการใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ 100% แต่วันนี้เราจะพาไปชมส่วนที่พร้อมใช้งานได้แล้วนะคะ
เข้ามาในสวนจะเจอกับ Oasis Courtyard และ Water feature ที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม ทำหน้าที่เป็นส่วนต้อนรับและให้บรรยากาศที่ร่มรื่นผ่อนคลายมากๆ
ขยับเข้ามาด้านในสวนจะเจอกับ Floating Terrace มุมพักผ่อนข้างน้ำพุ เป็นมุมมองเห็นวิวสระได้ทั้งหมด เห็นถึงอาคาร C ที่อยู่ด้านในสุดเลยค่ะ
นอกจากนี้จะมีพื้นที่นั่งเล่นที่ออกแบบไว้ให้มีบรรยากาศที่แตกต่างกัน อย่างบริเวณนี้จะเรียกว่า Private-Amphitheater มีการเล่นระดับของที่นั่งในสวนให้คล้ายอัฒจันทร์
Sunken Lounge พื้นที่นั่งเล่นในสวนที่ออกแบบให้ลดระดับลงกว่าพื้นที่โดยรอบ จะสังเกตว่าระดับของที่นั่งเท่ากับความสูงของพุ่มไม้เพื่อให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น
ถัดมาที่สวนบริเวณด้านในสุดของโครงการ จะเป็นส่วนที่เรียกว่า Hidden Lawn ซึ่งจะมีการแบ่งโซนที่นั่งแยกกันเป็นกลุ่มๆ เหมาะจะมานั่งเล่นพักผ่อนและพบปะกับเพื่อนๆได้
ในส่วนของ Multi-Purpose Lawn จะมีทั้งตาข่ายเปลนอน สำหรับชมวิวในสวนหรือนอนชมดาว และมี Trampoline ให้มาเล่นสนุกกันได้
มาถึงจุดที่เป็น Highlights หลักนั่นก็คือ Oasis Olympic Pool ที่มีความยาว 50 m. สามารถว่ายออกกำลังกายกันแบบจริงๆจังๆได้เลย รอบๆสระก็จะมีการปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่นเอาไว้เต็มไปหมด ให้บรรยากาศแบบรีสอร์ทตามแบบฉบับของ Assetwise
หากไม่ชอบออกกำลังกายหนักๆ ก็สามารถนั่งเล่นริมขอบสระได้ ซึ่งโครงการออกแบบไว้ให้มีมุมนั่งเล่นแช่น้ำอยู่หลายจุดเลยค่ะ
นอกจากนี้จะมี Jacuzzi Pool ที่ยกระดับความสูงขึ้นมา จะเห็นว่ามีการทำเป็นระบบน้ำล้นให้ไหลลงมา เหมือนเป็นน้ำตกเล็กๆ สวยดีทีเดียว ข้างๆ Jacuzzi จะมีพื้นที่ที่เหมาะกับการนั่งสังสรรค์ริมสระ มีชื่อเรียกเก๋ๆ ว่า Sunken Pool Bar Area ถือเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่น่ามาใช้งานร่วมกับเพื่อนๆมากๆ
ต่อไปมาชม Facilities ภายในอาคารกันบ้าง ซึ่งแต่ละฟังก์ชันจะอยู่บริเวณชั้น 1 รอบๆ สวนทั้งหมด ทำให้เข้าใช้งานได้ง่าย เดินเชื่อมจากสวนไปได้เลย
Building A : LIVE
อาคารนี้จะเน้นเป็นพื้นที่ส่วนต้อนรับและรับรองแขก รวมถึงยังสามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนได้อีกด้วย ซึ่งจุดเด่นของฟังก์ชันอาคารนี้คือ Lobby ที่มีความสูงของฝ้าเพดานแบบ Double Volume ขึ้นไปจนถึงชั้น 2 เลยทีเดียว และยังมีการตกแต่งที่สวยงามเป็นพิเศษ เพื่อเป็นหน้าเป็นตาใช้รับแขกได้
อีกฟังก์ชันหนึ่งในอาคาร A ก็คือ Sunken Library ออกแบบให้เป็นพื้นที่ลดระดับทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย รายล้อมไปด้วยชุดโซฟา เหมาะที่จะมานั่งทำงานอ่านหนังสือ และยังสามารถชมวิวสวนด้านนอกจากช่องแสงขนาดใหญ่ได้อีกด้วย
โถงลิฟต์ในแต่ละอาคารจะมีบรรยากาศที่คลีนๆ ดูเรียบร้อยสวยงามดี แต่ละอาคารจะมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ซึ่งต้องใช้ Keycard ในการกดลิฟต์ และเป็นลิฟต์แบบล็อกชั้นเพื่อความปลอดภัยในการอยู่อาศัย
Mailbox ก็จะแยกกันในแต่ละอาคารและวางตำแหน่งไว้ใกล้ลิฟต์เพื่อให้ใช้งานง่าย
Building B : ACTIVE
ตามชื่อ Concept เลยก็คือ จะเน้นฟังก์ชันที่มีการทำกิจกรรมหนักๆ โดยเฉพาะการออกกำลังกาย จึงมี Fitness (GYM) ขนาดใหญ่ รวมถึงยังมี Health Station ซึ่งเป็นจุดดูแลสุขภาพและร่างกายร่วมกับโรงพยาบาลที่กำหนดตามแบบฉบับของ AssetWise อีกด้วย
ภายใน Fitness จะมีเครื่องออกกำลังกายเยอะเลย รองรับทั้งการออกกำลังกายแบบ Weight Training และ Cardio ซึ่งทั้งหมดจะหันหน้าออกไปรับวิวส่วนกลางด้านนอกได้ สามารถออกกำลังกายไปและชมวิวไปได้ด้วยเพลินๆ
Building C : WORK
สำหรับคนที่เน้นพื้นที่ทำงานในคอนโด ก็จะเหมาะกับอาคารนี้มากๆ เพราะเค้าจะมีฟังก์ชันให้เลือกนั่งทำงานหลายแบบเลย ไม่ว่าจะเป็นการนั่งคุยงานชิลๆใน Business Center หรือจะนั่งทำงานแบบมีโต๊ะใน Co-Working Space และยังมีห้องส่วนตัวให้ประชุมจริงจังกันได้อีกด้วย และยังมีฟังก์ชันออกกำลังกายที่ต่อเนื่องมาจากอาคาร B อย่าง Bike Simulator และ Yoga Studio ให้ได้ใช้งานด้วยนะคะ
ภายใน Bike Simulator สามารถแบ่งพื้นที่โซนหนึ่งให้รองรับคลาสปั่นจักรยานได้ โดยจะหันหน้าเข้าหาจอทีวีเหมือนในคลาสตามฟิตเนส และอีกโซนหนึ่งก็จะหันหน้าเข้าหาสระว่ายน้ำและสวน ให้ชมวิวธรรมชาติไปได้แบบเพลินๆ
ถัดมาที่ Yoga Studio จะเป็นห้องโล่งๆที่สามารถมาเปิดคลาสออกกำลังกายร่วมกันแบบส่วนตัวได้
ในส่วนของ Co-Working Space ให้บรรยากาศเหมือนมาทำงานในร้านกาแฟเลยค่ะ โดยจะมีโต๊ะให้เลือกนั่งหลายแบบ และบางจุดก็มีปลั๊กไฟให้ชาร์จแบตได้ด้วย ส่วนที่ชอบที่สุดคือห้องนี้จะสามารถเปิดประตูเชื่อมต่อกับสวนได้ ให้ความรู้สึกที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ยิ่งช่วงหน้าหนาวคงจะเป็นจุดที่น่านั่งรับลมมากๆ เลย
สำหรับ Business Center เป็นห้องแอร์แบบ Indoor ที่มีมุมให้เลือกนั่งทำงานได้หลายจุด ทั้งแบบเป็นกลุ่มและเดี่ยว
ภายใน Business Center จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น Meeting Room 2 ห้อง ซึ่งจะมีประตูปิดเป็นสัดส่วน น่าจะช่วยเก็บเสียงได้ดี เหมาะกับงานประชุมที่ต้องการความเป็นส่วนตัว โดยห้องแรกจะมีโต๊ะขนาดใหญ่ ดูเป็น Formal รองรับการใช้งานประมาณ 8 คน ส่วนอีกห้องหนึ่งจะดูสบายๆ ที่นั่งเป็น Bean Bag รองรับการใช้งาน 4 คนกำลังดีค่ะ
Building D : PLAY
สายบันเทิงและปาร์ตี้เราแนะนำอาคารนี้เลย เพราะจะมีฟังก์ชันเด็ดๆ ให้เราได้ใช้งานอย่าง Play Room และ Karaoke Lounge รวมถึงยังมีโซนออกกำลังกายหนักๆอย่าง Extreme Excersice Studio ที่สายเล่นกล้ามขาลุยพลาดเลยทีเดียว ส่วนห้อง Game Room ก็จะสามารถมาเล่นเกมส์ร่วมกับเพื่อนๆได้
Extreme Exercise Studio จะมีอุปกรณ์ออกกำลังกายอย่างเช่น เชือกออกกำลังกาย TRX, กระสอบทรายซ้อมมวย และ เบาะสำหรับกระโดดสูง เพื่อรองรับการออกกำลังกายในหลายรูปแบบค่ะ
ถัดมาที่ Karaoke Room มีขนาดใหญ่มาก มีพื้นที่ให้ร้องเพลง โชว์ท่าเต้น กันได้แบบกว้างๆ โดยโครงการจะติดตั้งเครื่องคาราโอเกะมาให้ ดูจากพื้นที่แล้วน่าจะใช้งานไม่เกิน 10 คนกำลังดี
อีกห้องหนึ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นในคอนโดทั่วไปสักเท่าไหร่คือ Game Room โดยจะมีเครื่องเกมส์ Play Station ติดตั้งมาให้ พร้อมแว่น VR และจอยเกมส์หลายรูปแบบ ซึ่งจอทีวีที่ให้มาก็มีขนาดใหญ่ น่าจะเป็นห้องที่มีลูกบ้านจองใช้เป็นประจำเลยนะคะเนี่ย
ส่วนกลางอีกห้องหนึ่งในอาคารนี้ก็คือ Play Room หลักๆ จะมีโต๊ะพูลและ Football Table ให้เล่นกัน ระหว่างเล่นก็สามารถชมวิวสระและสวนรอบอาคารไปได้
Building E : EAT
มาถึงกิจกรรมที่หลายๆคนน่าจะชอบนั่นก็คือ “การกิน” ซึ่งเป็นโซนที่เราสามารถมาจัดปาร์ตี้และทำอาหารทานร่วมกับเพื่อนๆที่ Co-Kitchen Space และ Co-Dining Space ตรงนี้ได้ หรือจะมาเปิดคลาสสอนทำอาหาร/ไลฟ์โชว์กันที่ Fine Dining Space ก็ได้อีกด้วย โซนเหล่านี้อาจต้องมีการจองล่วงหน้า และอาจมีค่าใช้จ่าย เช่นเดียวกับห้องคาราโอเกะหรือห้องประชุม แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการจัดการของนิติในอนาคตค่ะ
Co-Kitchen Space เป็นพื้นที่ทานอาหาร รองรับจัดปาร์ตี้แบบ Outdoor และ Semi-Outdoor จึงเป็นโซนจัดปาร์ตี้ ทานข้าวที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด
Co-Dining Space เป็นห้องแอร์ฯ ในอาคารจึงตอบโจทย์การใช้งานได้ทุกฤดู ภายในห้องจะมีพื้นที่ให้เราได้เลือกนั่งทานอาหารกันได้ 2 จุดหลักๆคือ แบบโต๊ะเคาน์เตอร์บาร์ทรงสูง และแบบโต๊ะเก้าอี้ธรรมดาที่หันหน้าออกไปรับวิวสวนด้านนอก
ปิดท้ายด้วย Fine Dining Space ที่มีเคาน์เตอร์ครัว เครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์ทำอาหารเตรียมไว้ให้ใช้งานกันได้ ซึ่งห้องนี้วิวสวยมากด้วยนะคะ ใครที่ชอบถ่าย Tiktok ทำคอนเทนต์ต้องถูกใจแน่ๆ ค่ะ
สำหรับห้องพักอาศัยของแต่ละอาคารจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 – 8 ซึ่งจะมีแค่เฉพาะอาคาร A ด้านหน้าสุดเท่านั้นที่ห้องพักแบบเต็ม Floor จะเริ่มที่ชั้น 3 เพราะชั้น 2 จะมีห้องพักส่วนหนึ่งหายไป เนื่องจากเป็นฝ้าเพดานสูงของ Lobby ชั้นล่าง
โดยแต่ละอาคารก็จะมีจำนวนยูนิตพักอาศัย และความหนาแน่นที่แตกต่างกันออกไป สังเกตได้จากอัตราส่วนลิฟต์ที่ยิ่งน้อยก็จะยิ่งเป็นส่วนตัวมากกว่า หรือไม่ต้องเสียเวลารอลิฟต์นานๆดังนี้
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 99 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 80 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 122 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 126 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก E 126 : 1
ตำแหน่งห้องพักอาศัยที่น่าสนใจ แน่นอนว่าหลายๆคนก็คงกำลังเล็งๆห้องที่หันหน้ารับวิวส่วนกลางด้านในกันอยู่ใช่มั้ยคะซึ่งเราก็ได้ลองสอบถามทางโครงการมาให้แล้วพบว่า ถ้าเทียบในชั้นเดียวกันห้องที่หันเข้ามาด้านใน จะมีราคาสูงกว่าห้องที่หันไปด้านนอกประมาณ 100,000 – 150,000 บาท และส่วนมากก็จะเป็นห้องไซส์ใหญ่ด้วย
สำหรับราคาของแต่ละอาคารมีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยอาคาร C, D จะมีราคาห้องที่สูงกว่าอาคารอื่นประมาณ 50,000 บาท เพราะได้ความสงบเป็นส่วนตัวมากที่สุด และหากเรามาวิเคราะห์ผังห้องกันดีๆแล้ว ก็จะพบตำแหน่งห้องที่น่าสนใจจริงๆ 4 จุดด้วยกันตามนี้เลย
- ห้องสีเหลืองคือ 1 Bedroom Extra เป็นห้องไซส์ใหญ่สุด และจะเห็นว่าห้องส่วนใหญ่ที่หันหน้ารับวิวส่วนกลางด้านในส่วนมากก็จะเป็นห้อง Type นี้เกือบทั้งหมดด้วย แต่สำหรับห้องในกรอบสีแดงเรามองว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด เพราะสามารถมองเห็นวิวส่วนกลางเป็นตอนลึกได้ทั้งหมด
- ห้องสีส้มคือ 1 Bedroom Exclusive ห้องไซส์กลางที่มีเพียงห้องในอาคาร D และ E เท่านั้น ที่จะหันเข้ามารับวิวส่วนกลางด้านใน ซึ่งหากใครกำลังสนใจห้อง Type นี้อยู่ เรามองว่าห้องตำแหน่งในกรอบสีเขียวอาคาร D จะเป็นจุดที่ดีที่สุด เพราะอยู่ติดกับพื้นที่สีเขียว ได้ทั้งความร่มรื่นและเงียบสงบ รวมถึงยังอาจมีราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า 1 Bedroom Extra ที่ไซส์ใหญ่กว่าอีกด้วย
- ห้องสีเทาคือ 1 Bedroom Plus ที่ทั้งโครงการจะมีเพียง 14 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันห้องนี้ได้ขายหมดแล้วนะคะ ถือว่าเป็น Rare Item ของโครงการที่มีน้อยมากๆ
- ห้องสีฟ้าคือ 1 Bedroom ไซส์เล็กสุด ซึ่งจะมีอยู่เฉพาะอาคาร E เท่านั้น และหันออกไปรับวิวนอกโครงการ ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนหรือคนที่มีงบประมาณจำกัด เพราะถือเป็นห้องไซส์เล็ก และราคาเริ่มต้นจับต้องง่ายที่สุดของโครงการเลยก็ว่าได้
วิวที่เราเก็บมาฝากวันนี้ เราถ่ายมาจากห้องตัวอย่างที่ตึก A ชั้น 2 ซึ่งได้วิวสวนแบบเต็มตาเลย แต่หากใครที่มีงบสักหน่อยก็อยากแนะนำให้ขยับขึ้นไปที่ชั้นสูงขึ้นประมาณชั้น 4-7 กำลังดีที่จะได้ความเป็นส่วนตัวจากสายตาของลูกบ้านที่มาใช้งานสระและสวนส่วนกลางค่ะ
ส่วนแปลนอาคารอื่นๆ ถ้าใครอยากดูแบบละเอียดก็สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ
Building A
Building B
Building C
Building D
Building E
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
Outdoor Facilities
- Oasis Courtyard
- Reading Forest
- Bar Station
- Party Terrace
- Trampoline Forest
- Floating Terrace
- Tea Garden Lounge
- Pool Lawn Terrace
- Lawn Dining Terrace
- Oasis Olympic Pool – 50 M.
- Edible Garden
- Outdoor BBQ Area
- Yoga Terrace
- Kids Pool
- Upper Level Jacuzzi Pool with Pool Bar – 1.2 M. Level
- Jacuzzi Pool Bed & Seat
- Sunken Pool Bar Area
- Upper Level Deck for Pool Party
- Net Relax Lounge
- Private-Amphitheater
- Multi-Purposed Lawn
- Sunken Lounge
- Playpark
- Hidden Lawn
Indoor Facilities
The Club
- Meeting
- Courtyard
- Living Area
- CAFÉ
- Terrace
Building A : LIVE
- Lobby A & Reception
- Sunken Library
Building B : ACTIVE
- Fitness – GYM
- Health Station
Building C : WORK
- Bike Simulator
- Yoga Studio
- Co-Working Space
- Meeting Room
- Business Center
Building D : PLAY
- Play Room
- Game Room
- Karaoke Lounge
- Extreme Exercise Studio
Building E : EAT
- Co-Kitchen Space
- Fine Dining Space
- Co-Dining Space
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 110 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 99 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 80 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก C 122 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก D 126 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก E 126 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 38% แบบรวมจอดซ้อนคัน
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card Access
- เข้า-ออกโครงการด้วยระบบอัตโนมัติ (Easy Pass)
แบบห้อง
Highlights :
- มีแบบห้องให้เลือกเยอะ เหมาะกับคนที่มี Lifestyle หรือความต้องการที่แตกต่างกันออกไป
- ทุกห้องจะได้ครัวปิดที่ทำอาหารได้จริงจัง โดยจะมีทั้งแบบที่อยู่ด้านหน้าห้อง และแบบที่อยู่ติดกับระเบียง
- เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนขนาดใหญ่ ซึ่งมีทั้งแบบที่เป็นห้องนอนเดี่ยวๆ เน้นความเป็นส่วนตัวไปเลย หรือจะเป็นห้องนอนกว้างๆกึ่งสตูดิโอ ที่มาพร้อมกับพื้นที่นั่งเล่นและ Walk in Closet ในตัวด้วย
- วัสดุดีเมื่อเทียบกับราคา ขายแบบ Fully Furnished ได้ช่องแสงขนาดใหญ่มาก / Top เคาน์เตอร์หินสังเคราะห์ / พื้นกระเบื้องยางไวนิล / Bluetooth Sound System
แบบห้องของโครงการนี้จะมีอยู่ 4 Type หลักๆด้วยกัน ประกอบด้วย
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 24.1 – 24.8 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25.6 – 26.7 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.8 – 28.5 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.8 ตร.ม.
โครงการขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ โดยมีวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องมาให้ตามนี้ค่ะ
- พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องยาง SPC
- พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิกส์
- พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้
- ผนังฉาบเรียบทาสีขาว
- กรอบบานหน้าต่างอลูมิเนียม MPBB กระจกสีเขียวตัดแสง
- Digital Door Lock
- ตู้เก็บรองเท้า Built-in ที่สูงจากพื้นถึงฝ้า
- โซฟา 2 ที่นั่ง
- ชุดโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง
- Bluetooth Sound System
- เคาน์เตอร์ครัว Built-in
- Hob&Hood
- Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว
- Backsplash กันเปื้อนที่ผนัง
- ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต
- ตู้เสื้อผ้า Built-in
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะใช้ของ COTTO เป็นหลัก
- ฉากกั้นอาบน้ำกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน ยี่ห้อ Shower King
- แอร์ 1 Bedroom 12,000 BTU 1 ตัว / 1 Bedroom Exclusive 9,000 BTU 2 ตัว , 1 Bedroom Extra 9,000 BTU 2 ตัว , 1 Bedroom Plus 9,000 BTU 2 ตัว
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Exclusive 26.1 ตร.ม.
ห้อง Type นี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คนกำลังดี สำหรับเรามีจุดที่น่าสนใจมีอยู่ 4 ประเด็น คือ 1. ห้องน้ำที่สามารถเข้าได้ทั้งจากห้องทานอาหารและจากห้องนอน เข้าถึงได้สะดวก 2. ห้องนอนรวมพื้นที่นั่งเล่นไว้ในห้องเดียวกันทำให้พื้นที่มีขนาดใหญ่ ตอบโจทย์การพักผ่อนที่สามารถนั่งดูทีวีบนโซฟาหรือนอนดูทีวีบนเตียงก็ได้ 3. พื้นที่แต่งตัวแต่งหน้าถูกแยกไว้เป็นสัดส่วนให้บรรยากาศเหมือน Walk-in Closet และ 4. ครัวมีประตูปิดกันกลิ่นควันไม่ให้เข้าไปยังส่วนอื่น แต่ไม่ได้มีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้ต้องอาศัยระบบภายในอาคารแทน
โครงการขายแบบ Fully Furnished จะได้เฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัวตามในลิสต์นี้ รวมถึงวัสดุในห้องน้ำก็จะได้เหมือนห้องตัวอย่างเลยค่ะ
ประตูเข้าห้องจะเป็นไม้บานทึบพร้อมกับติดตั้ง Digital Door Lock มาให้รองรับการใช้งานถึง 5 ระบบทั้ง Password, Apps, Finger Scan, Keycard และ กุญแจ นอกจากนี้ที่พื้นยังมีธรณีประตูเพื่อกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าในตัวห้องด้วยค่ะ
ด้านหลังประตูจะมี Stopper ติดตั้งมาให้เพื่อกันกระแทก
โซนแรกสุดของห้องเป็นห้องครัวและพื้นที่ทานอาหารที่มีประตูปิดเป็นสัดส่วน พื้นครัวปูด้วยกระเบื้องยางไวนิลที่สามารถทนน้ำและความชื้นได้ระดับหนึ่ง
ประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอนเพื่อที่จะสามารถเปิดออกได้กว้าง และเดินผ่านได้สะดวกขึ้น รวมถึงยังทำหน้าที่เป็นช่องแสงให้กับห้องครัวอีกด้วย
ภายในห้องครัวเราจะได้ชุดเคาน์เตอร์ Built-in มาให้เหมือนในห้องตัวอย่าง และเว้นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นด้านข้างไว้เรียบร้อย
เคาน์เตอร์ครัวด้านล่างจะเป็นที่วางไมโครเวฟ, ลิ้นชักเก็บจานชามช้อนส้อม และมีตู้เก็บของใต้ซิงค์ล้างจานไว้ใช้เก็บของเล็กๆ น้อยๆ ได้
มาดูส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง ฝั่งหนึ่งเป็นซิงค์ล้างจาน อีกฝั่งเป็นเตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน และมีพื้นที่ตรงกลางนิดหน่อยสำหรับเตรียมอาหาร …Top เคาน์เตอร์วัสดุเป็น หินสังเคราะห์ ทนต่อความชื้นได้ดีและทำความสะอาดง่าย มาพร้อม Backsplash ด้านหลังตามแบบห้องตัวอย่างเลยนะคะ เวลาปรุงอาหารแล้วกระเด็นก็สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
จุดที่ชอบมากๆก็คือ ใต้เตาไฟฟ้าจะมีลิ้นชักเล็กๆให้เลื่อนออกมาได้แบบนี้ ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ประกอบอาหาร และแก้ปัญหาเรื่องเคาน์เตอร์ครัวมีขนาดเล็กได้ แต่ระวังอย่าวางของที่มีน้ำหนักมากเกินไปนะคะ
เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Teka จะใช้อุ่นอาหารเล็กๆ น้อยๆ หรือ ทำอาหารทานกันในห้องก็ได้ มาพร้อมเครื่องดูดควันระบบหมุนเวียน จึงไม่ได้เหมาะกับการทำอาหารที่มีกลิ่นควันฉุนๆสักเท่าไรนะคะ
ซิงค์ล้างจานของ Teka ขนาดได้มาตรฐาน
ตู้ลอยสำหรับเก็บของด้านบนจะมีหน้าบานปิดเรียบร้อย
ชุดโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่ง เป็นโต๊ะสูงวางเข้ามุมมาพร้อมเก้าอี้บาร์ สามารถใช้เป็นโต๊ะทานข้าวหรือจะใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหารก็ได้
รอบโต๊ะมีพื้นที่ให้ดึงเก้าอี้ออกมานั่งได้สะดวก
เข้ามาที่ห้องนั่งเล่น+ห้องนอน เป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่สุดในห้อง มีหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติและวิวภายนอก ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง ในส่วนฝ้าเพดานสูง 2.4 m. ตามมาตรฐาน
ข้อดีของการรวมพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้พื้นที่มีขนาดใหญ่ ตอบโจทย์การพักผ่อนที่สามารถนั่งดูทีวีบนโซฟาหรือนอนดูทีวีบนเตียงก็ได้ แต่หากอยู่อาศัยกัน 2 คนก็คงจะเหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์คล้ายๆ กัน หากคนนึงเป็นคนนอนแต่หัวค่ำ แต่อีกคนชอบเล่นเกมส์ถึงดึกดื่นก็คงมีเสียงรบกวนกันบ้าง ถ้าไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันห้อง Type นี้จะลงตัวกับการอยู่คนเดียวมากกว่าค่ะ
พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.55 เมตร ติดตั้งทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วกำลังดี
สำหรับชุดโซฟานั้นทางโครงการจะให้มาด้วย มีขนาด 2 ที่นั่งหน้าตาตามแบบในรูปด้านล่างนะคะ
ชั้นวางทีวีที่โครงการติดตั้งมาให้จะเป็นแบบตั้งพื้น มีหน้าบานปิดบางส่วน ภายในจะแบ่งเป็นช่องเก็บของย่อยๆ
ภายในห้องนี้จะมี Bluetooth Sound System ติดตั้งมาให้ โดยจะมีการดีไซน์ให้หน้าจอมีขนาดกระทัดรัด และเสียงเพลงก็จะดังออกจากลำโพงที่ฝังอยู่บนฝ้าเพดาน ทำให้ได้ยินเสียงชัดเจนทั้งห้อง
ภายในห้องนอนกว้างพอสมควรสามารถวางเตียงใหญ่ได้ ซึ่งเราจะได้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมกับช่องเก็บของด้านล่าง 2 ช่อง
ช่องแสงข้างเตียงมีขนาดใหญ่มาก เกือบเต็มผนังเลยค่ะ อีกทั้งยังมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้เปิดระบายอากาศได้อีกด้วย
อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นโซนแต่งตัว ซึ่งอยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำ และมีระเบียงสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้า เรียกว่าโซนนี้เป็น Service ที่ถูกวางไว้ด้านหลังกำแพงทำให้ดูเรียบร้อยค่ะ
พื้นที่แต่งตัวดูเป็นสัดส่วนมาก ซึ่งโครงการจะ Built-in ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่มาให้เหมือนในห้องตัวอย่างเลย ซึ่งหน้าบานด้านหนึ่งจะเป็นกระจกใสทำให้มองเห็นเสื้อผ้าด้านในได้ ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นบานทึบช่วยปิดส่วนที่อาจจะดูไม่เรียบร้อย …และบริเวณด้านข้างตู้จะเหลือพื้นที่ให้เราวางโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติมได้
ภายในตู้ออกแบบมาให้มีราวแขวนเสื้อผ้าและชั้นวางของด้านบน สำหรับพื้นที่ให้ยืนเลือกเสื้อผ้ามีความกว้างประมาณ 80 cm. สามารถใช้งานได้สบายๆเลย ด้านในสุดทางเดินจะเป็นห้องน้ำ สะดวกดีนะคะ พอเราอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้เลย
ห้องน้ำจะมีประตูให้เปิดเข้าได้ 2 ฝั่ง จากทางห้องครัว-ทานอาหาร และจากในห้องนอน
ซึ่งภายในมีการแยกโซนเปียก-แห้งไว้เป็นสัดส่วน
อ่างล้างหน้าจาก COTTO เป็นรุ่นที่มีตู้เก็บของด้านล่าง
สุขภัณฑ์ของ COTTO ตามแบบห้องตัวอย่าง มาพร้อมสายฉีดชำระ
พื้นที่อาบน้ำจะมีการกั้นด้วยฉากกั้นกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน มีน้ำหนักค่อนข้างเบาและใช้งานได้สะดวก
ภายใน Shower Box จะมีฝักบัวอาบน้ำมาให้ และมีช่องวางของ Built-in มาให้ด้วย จึงไม่ต้องติดชั้นวางของเพิ่มให้เกะกะเลยนะคะ พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างประมาณ 1 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ
เนื่องจากห้องน้ำอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีหน้าต่าง โครงการจึงติดตั้งเครื่องดูดอากาศมาให้เพื่อช่วยลดความชื้น
ปิดท้ายด้วยระเบียงห้อง เป็นประตูระเบียงแบบบานเลื่อน 3 ตอนจึงเปิดออกได้กว้าง เข้าออกสะดวก พื้นที่ระเบียงมีขนาด 1.5×1 m. พอสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าได้ สำหรับกรอบประตูจะอยู่บนขอบธรณีที่ยกสูงขึ้นอีกทีนึง ซึ่งขอบธรณีนี้จะช่วยกันน้ำจากภายนอกไม่ให้ไหลเข้าสู่ภายในตัวห้องค่ะ
ข้อดีของระเบียงนี้คือ โครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ทั้ง 2 ตัวไว้ด้านบน ทำให้เราสามารถใช้งานระเบียงได้เต็มที่
1 Bedroom Exclusive 25.8 ตร.ม.
ห้อง Type นี้เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คนกำลังดี เมื่อเข้ามาจะเจอกับ Common Area เป็นลำดับแรก ซึ่งรวมไว้ทั้งพื้นที่นั่งเล่น, ดูทีวีและทานอาหาร และยังคงจุดเด่นที่ห้องน้ำเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน จึงใช้งานได้สะดวก เวลามีเพื่อนมาหาก็เข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนค่ะ
ห้องนอนจะอยู่ด้านในสุด รับวิวและแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ พื้นที่ภายในห้องนอนค่อนข้างกว้างสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ ส่วนที่เราชอบที่สุดคือห้องครัว จัดพื้นที่เป็นครัวปิดเหมาะกับการประกอบอาหารแบบจริงจัง ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควัน เพราะติดกับระเบียงจึงเปิดระบายอากาศได้
เฟอร์นิเจอร์ทั้ง Built-in และลอยตัวจะให้ตามในลิสต์นี้ รวมถึงวัสดุในห้องน้ำก็จะได้เหมือนห้องตัวอย่างเลยค่ะ
พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นชุดโซฟานั่งเล่น ซึ่งเราจะได้โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง กับชั้นวางทีวีมาให้พร้อมใช้งาน มีระยะดูทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 2.55 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้
ข้างโซฟาเราจะได้ชุดโต๊ะทานข้าวแบบ 2 ที่นั่งตามแบบในรูปล่าง จึงสามารถนั่งทานข้าวไปดูทีวีไปได้นะคะ
มาดูด้านหลังประตูกันสักนิด สำหรับห้อง Type นี้จะมีตู้เก็บรองเท้า Built-in สูงจากพื้นถึงฝ้า พร้อมหน้าบานทึบแบบนี้ สามารถเก็บรองเท้าได้ 5 – 6 คู่ หรือของใช้ที่ต้องหยิบบ่อยๆ ก่อนออกจากห้อง
ถัดเข้าไปด้านในจะแยกออกเป็นห้องต่างๆ ซ้ายสุดคือห้องครัวมาพร้อมประตูกระจกบานเลื่อน ช่วยกันกลิ่นควันได้ ตรงกลางเป็นห้องนอนที่มีประตูปิดทึบ ได้ความเป็นส่วนตัวในการพักผ่อน ส่วนทางขวาข้างทีวีเป็นทางเข้าห้องน้ำค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำจะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปที่ภายในแบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-แห้งไว้เรียบร้อย ด้านในติดตั้งวัสดุอุปกรณ์ให้ครบถ้วนเหมือนกับห้องน้ำในห้องแบบแรกเลยนะคะ
มีประตูเข้า-ออก 2 ทาง คือจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน
Shower Box มีขนาดประมาณ 1×0.9 m. ภายในติดตั้งอุปกรณ์อาบน้ำและมีพื้นที่วางของ Built-in ให้ใช้งานได้สะดวก
ประตูกั้นห้องครัวกับห้องนั่งเล่นจะเป็นประตูกระจกสูงจากพื้นเกือบจรดฝ้าเลย ช่วยให้ห้องดูโปร่ง และประตูนี้จะช่วยกันกลิ่นควันจากห้องครัวไม่ให้ไปรบกวนพื้นที่ส่วนอื่น
ประตูห้องครัวเป็นประตูแบบ 3 ตอน จึงเปิดได้กว้างประมาณ 2.8 m. เลย ทำให้เดินผ่านเข้าออกได้สบาย
สำหรับชุดครัวและตู้ Built-in ทางโครงการจะให้มาตามแบบในห้องตัวอย่าง ยกเว้นแค่ตู้เย็นที่ไม่ได้ให้มา แต่จะเว้นพื้นที่ไว้ให้ติดตั้งตู้เย็นขนาดประมาณ 12.2 คิวได้
Gimmick หนึ่งที่ชอบและมีอยู่ในชุดครัวของทุกห้องคือ ลิ้นชักเล็กๆให้เลื่อนออกมาได้แบบนี้ ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ประกอบอาหาร และแก้ปัญหาเรื่องเคาน์เตอร์ครัวมีขนาดเล็กได้ดีทีเดียว แต่ระวังอย่าวางของที่มีน้ำหนักมากเกินไปนะคะ
ส่วนประตูระเบียงก็จะเป็นแบบเลื่อน 3 ตอน เปิดออกได้กว้าง สามารถขนผ้าออกไปซัก/ตากได้สะดวก
ระเบียงมีความกว้างประมาณ 1.3 x 1 m. พอจะวางเครื่องซักผ้าได้แบบพอดีๆ มีท่อน้ำและปลั๊กไฟให้พร้อมใช้งาน
ปิดท้ายด้วยห้องนอนที่จะมาพร้อมฐานเตียงขนาด 5 ฟุต วางไว้ชิดหน้าต่าง จึงสามารถนอนชมวิวได้จากบนเตียงได้เลย
ข้างเตียงจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ เป็นตู้ขนาดใหญ่เหมือนในห้องตัวอย่างเลย ซึ่งจะอยู่ติดกับประตูห้องน้ำพอดี จึงใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวก
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Extra 27.7 ตร.ม.
Type นี้จะจัดแปลนคล้ายๆ ห้องตัวอย่างเมื่อสักครู่นี้ แต่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า ทำให้มีโซนสำหรับแต่งตัวที่เป็นสัดส่วน และพื้นที่อาบน้ำมีขนาดใหญ่ขึ้น ได้ครัวปิดติดระเบียง ทำอาหารได้จริงจัง แต่ห้องน้ำจะเข้าได้จากห้องนอนเท่านั้น จึงเหมาะกับคนที่ไม่ได้มีเพื่อนมาหาบ่อยๆ เพราะหากเพื่อนต้องการเข้าห้องน้ำจะต้องเดินผ่านห้องนอนทำให้เสียความเป็นส่วนตัวได้ค่ะ
รายการเฟอร์นิเจอร์ Built-in และลอยตัวที่โครงการติดตั้งไว้ให้
ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom Extra 27.7 ตร.ม.
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
แบบแปลน
1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 24.1 – 24.8 ตร.ม.
1 Bedroom Exclusive (แบบ B1) ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25.6 – 26.7 ตร.ม.
1 Bedroom Exclusive (แบบ B2) ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25.6 – 26.7 ตร.ม.
1 Bedroom Extra (แบบ C1) ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.8 – 28.5 ตร.ม.
1 Bedroom Extra (แบบ C2) ขนาดพื้นที่ใช้สอย 26.8 – 28.5 ตร.ม.
1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.8 ตร.ม.
ราคา
Atmoz Oasis Onnut (แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช) ณ วันที่ 24 พฤศจิกายน 2566
- 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 24.1 – 24.8 ตร.ม. เริ่ม 1.79 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- จอง 999 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : Atmoz Oasis Onnut (แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช) ตั้งอยู่ในโซนอ่อนนุชตอนกลาง ที่ขยับขยายมาจากทางฝั่งสุขุมวิทมาอิงถนนศรีนครินทร์ จึงสามารถทำราคาออกมาให้หยิบจับง่ายขึ้น ยังคงเข้า-ออกเมืองไปทางสุขุมวิท-ลาดกระบังได้เหมือนเดิมแต่เพิ่มเติมคือ อิงการใช้งานถนนศรีนครินทร์ได้สะดวก ทำให้สามารถเข้าเมืองไปทางพระราม 9 – บางกะปิ หรือจะไปทางบางนา – สมุทรปราการก็ได้
ที่สำคัญคือโครงการอยู่ติด ถนนใหญ่อ่อนนุช ใกล้แยกศรีนุชที่ตัดกับถนนศรีนครินทร์ ซึ่งโครงการใหม่ๆ ในโซนนี้จะขยับเข้าไปในซอยกันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ Atmoz ได้เปรียบในเรื่องการเดินทางค่ะ
ส่วนความอุดมสมบูรณ์ระยะใกล้ก็พอจะมีตลาด ร้านสะดวกซื้อ หรือร้านข้าวแกงข้างอยู่ทางบ้างนิดหน่อย แต่ถ้าเป็นห้างใหญ่ๆก็จะอยู่บนถนนศรีนครินทร์เป็นหลัก มีทั้ง Seacon Square / Paradise Park และตลาดนัดรถไฟ รวมถึงยังมีโรงเรียนนานาชาติหลายแห่งตั้งอยู่ด้วย เหมาะกับทั้งคนที่ตั้งใจจะซื้ออยู่เองและลงทุนปล่อยเช่าค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ : ทางด่วนที่ใช้เข้า-ออกเมืองใกล้ที่สุดคือ ทางด่วนศรีรัช และมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 6 – 7 km. ใช้เวลาประมาณไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ได้ขึ้นแล้วค่ะ และจะมีที่จอดรถประมาณ 38% แบบรวมจอดซ้อนคัน
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : มีให้เลือกใช้งานหลากหลาย โดยโครงการจะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว-สำโรง) สถานีศรีนุช ประมาณ 500 m. พอจะเดินไปไหว หรือจะเรียกพี่วินมอเตอร์ไซค์ก็มีราคาประมาณ 20 บาท นอกจากนี้ก็จะมีรถสองแถว, แท็กซี่ ที่เรียกจากหน้าโครงการได้ง่าย รวมถึงมีท่าเรือตลาดเอี่ยมสมบัติ ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางเลี่ยงรถติดได้อีกด้วยค่ะ
การออกแบบโครงการ : Atmoz Oasis Onnut (แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช) เป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่มีเพื่อนบ้านรวมกว่า 1,108 ยูนิต แต่ก็มีการกระจายความหนาแน่นในการอยู่อาศัยออกเป็น 5 อาคารย่อยด้วยกัน วางผังอาคารที่โอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ เลยทำให้ห้องพักที่หันหน้าเข้ามาด้านใน จะได้วิวสวนและสระว่ายน้ำสวยๆที่ทางโครงการจัดเอาไว้ สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ Private Oasis มากๆ ค่ะ
จุดที่น่าสนใจคือ การที่เค้าออกแบบโดยพยายามคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งโซนการใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ไม่ให้รบกวนกัน และการใช้อาคาร The Club มาช่วยกันความวุ่นวายจากถนนใหญ่ รวมถึงยังมีการใช้ผนังทึบเข้ามาบังสายตาให้พื้นที่ส่วนกลางออกจากโซนจอดรถอีกด้วย
การออกแบบห้องพักอาศัย : มีแบบห้องให้เลือกเยอะถึง 4 แบบ ซึ่งก็มีจุดเด่นหรือเหมาะกับคนที่มี Lifestyle แตกต่างกันออกไป โดยทุกแบบจะได้ “ครัวปิด” ที่สามารถทำอาหารได้จริงจังทั้งหมด ทีนี้ก็ลองเลือกดูว่าเราใช้ครัวมาก-น้อยแค่ไหน เช่น หากใครทำอาหารบ่อยๆก็ควรเลือกเป็นครัวที่ติดกับระเบียง แบบนี้จะระบายอากาศได้ดีมาก เป็นต้น
อีกจุดนึงที่เรามองว่าเค้าให้ความสำคัญเป็นพิเศษก็คือ “ห้องนอน” เพราะเป็นฟังก์ชันที่มีขนาดใหญ่กว่าฟังก์ชันอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด และมีให้เลือกหลายแบบเลยไม่ว่าจะเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยผนังทึบ แบบนี้จะได้ความเป็นส่วนตัวสูงมาก หรือจะเป็นห้องนอนที่รวมเอาพื้นที่โซฟานั่งเล่นและ Walk in Closet เข้ามาด้วย แบบนี้จะได้ในเรื่อง Multi-Function และบรรยากาศห้องกว้างขวาง โดยรวมแล้วก็เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก อยู่ด้วยกัน 1 – 2 คนค่ะ
วัสดุ : ให้มาดีเลยค่ะเมื่อเทียบกับราคา ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบ ขาดแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าก็พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที และวัสดุหลายๆ อย่างก็เลือกมาดีเช่น พวกวัสดุปิดผิวสำคัญๆต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้องยางไวนิลที่ทนน้ำและความชื้นได้ดี / Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์ ที่ทนความชื้นหรือความร้อน และไม่เป็นคราบได้ง่ายๆ รวมถึงยังได้ช่องแสงขนาดใหญ่และ Bluetooth Sound System อีกด้วยค่ะ
สาธารณูปโภค : เป็นจุดชูโรงของโครงการเลย โดยมี Facilities มากถึง 45 ฟังก์ชัน เยอะที่สุดในย่าน หลักๆคือบรรยากาศของสวนที่ร่มรื่นสไตล์รีสอร์ท และสระว่ายน้ำตรงกลางที่ยาวถึง 50 m. อีกทั้งยังมีการเล่นระดับของ Jacuzzi และจุดปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการใช้งานมากขึ้นเยอะเลย
นอกจากนี้แต่ละอาคารก็ยังมี Concept ที่แตกต่างกันออกไป (LIVE / ACTIVE / WORK / PLAY และ EAT) ซึ่งได้ถูกแยกโซนฟังก์ชันเอาไว้ตามกิจกรรมเพื่อไม่รบกวนการใช้งานกัน ไม่ว่าจะเป็นอาคาร A สำหรับส่วนต้อนรับ / อาคาร B สำหรับสายออกกำลังกาย / อาคาร C สำหรับสายทำงานใช้สมาธิ / อาคาร D สำหรับสายปาร์ตี้กับเพื่อนๆ / อาคาร E สำหรับสายกิน รวมถึงยังมี The Club ด้านหน้าสุดที่จะมีทั้งคาเฟ่และพื้นที่นั่งทำงาน ไว้ใช้พบปะกับแขกภายนอกได้สะดวกทีเดียว เทียบกับค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน ถือว่าสมราคา
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 76,500 บาท/ตร.ม., 24 พฤศจิกายน 2566
- ทำเล 8/10 – ติดถนนใหญ่อ่อนนุช พอมีความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆให้พึ่งพิงอยู่บ้าง
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – ใกล้แยกศรีนุช เข้า-ออกเมืองได้หลายทาง มีทางด่วนศรีรัชและมอเตอร์เวย์อยู่ไม่ไกล ที่จอดรถประมาณ 38% รวมซ้อนคัน
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีตัวเลือกเยอะมาก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง 500 m. อีกทั้งยังมีวินมอเตอร์ไซค์ สองแถว และท่าเรือ
- วัสดุ 8/10 – ให้มาดีเมื่อเทียบกับราคา ขายแบบ Fully Furnished พร้อมเข้าอยู่
- แบบ 8/10 – มีแบบห้องให้เลือกเยอะ ได้ครัวปิด ห้องนอนกว้าง มีห้องที่ได้วิวสระและสวน
- สาธารณูปโภค 9/10 – มีมากถึง 45 ฟังก์ชัน ถือว่าให้มาเยอะและหลากหลายที่สุดในย่าน
- MAIN CLASS
- 7.98 / 10.00
Atmoz Oasis Onnut (แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช) เหมาะกับใคร
โครงการ Atmoz Oasis Onnut (แอทโมซ โอเอซิส อ่อนนุช) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดติดถนนใหญ่อ่อนนุช บริเวณช่วงตอนกลางที่อิงศรีนครินทร์ ชอบทำเลที่เดินไปรถไฟฟ้าได้ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีศรีนุช 500 m. และมีตัวเลือกของรถสาธารณะหลากหลาย ชอบโครงการที่มีฟังก์ชันส่วนกลางเยอะ, หลากหลาย ให้บรรยากาศเหมือนอยู่รีสอร์ท มีแบบห้องให้เลือกเยอะ ซึ่งเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 1 – 2 คน ได้ครัวปิดทั้งหมด และห้องนอนมีขนาดใหญ่ วัสดุดีเมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเริ่มต้น 12,530 บาท/เดือน