
รีวิวฉบับที่ 2872 กรกฎาคมปีที่แล้วเราพาเพื่อนๆไปชม Sale Gallery และห้องตัวอย่างของ dcondo sense Bangsean ( ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) คอนโด Low Rise ทำเลตรงข้ามบางแสนโทชิน ติดกับตลาดปาร์คอิน จาก แสนสิริ กันไปแล้วใช่ไหมคะ ในเดือนกรกฎาคมปีนี้โครงการนี้สร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อย พร้อมให้ทุกคนยลโฉมครั้งแรก 19-20 ก.ค. นี้แล้ว บรรยากาศภายในจะเป็นยังไงบ้าง ตามเรามาชมกันเลยค่ะ
- ราคาเริ่มต้นจับต้องได้ง่ายและคุ้มค่าที่สุดในย่าน : 1.59 ล้านบาท ในขณะที่โครงการอื่นๆ ในระดับเดียวกัน มักมีราคาเริ่มที่ 1.79 ล้านบาทขึ้นไป โครงการนี้จึงถือว่ามีราคาเริ่มต้นถูกที่สุด
- ทำเลตรงข้ามบางแสนโทชิน และติดตลาดปาร์คอิน : ใกล้แหล่งอุดมความสมบูรณ์เพียงแค่เอื้อม เดินไปเพียง 100-300 เมตรก็เข้าถึงแหล่งของกินของใช้ได้แล้ว
- รูปแบบการขายหลากหลาย : ปกติโครงการจะขายแบบ Fully Fitted แต่เราสามารถเลือก Option แบบ Fully Furnished + ตกแต่งห้องให้ได้ด้วยนะ แล้วขอกระซิบว่าต่อให้เราเลือกแบบ Fully Furnished ก็ยังได้ราคาน่ารักกว่าโครงอื่นๆอยู่ดีนะ
- ห้อง 1 Type มีแบบให้เลือกเยอะ : จัดฟังก์ชันภายในห้องเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน มีทั้งห้องที่กั้นห้องนอนด้วยกระจกและกั้นด้วยผนังทึบให้เลือก แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน
ข้อมูลโครงการ
dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2568
ชื่อโครงการ | dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | ECONOMY CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยบางแสนสาย 4 เหนือ ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี |
ที่ดิน | 4 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร |
จำนวนยูนิต | อาคาร A 259 ยูนิต / อาคาร B 231 ยูนิต รวม 2 อาคาร 490 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 35 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 146 คัน หรือประมาณ 30% (แบบไม่ซ้อนคัน) |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2567 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | Q2 ปี 2568 (สร้างเสร็จแล้ว พร้อมอยู่ ก.ค. 68) |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | ห้องนอนและห้องนั่งเล่น 2.5 เมตร / ห้องครัว 2.4 เมตร / ห้องน้ำ 2.3 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 1.59 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | ประมาณ 67,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlight
- ทำเลอยู่ท่ามกลางแหล่งอุดมความสมบูรณ์ : ตรงข้ามบางแสนโทชินและอยู่ติดกับตลาดปาร์คอิน นอกจากนี้ยังใกล้กับตลาดปลา,ห้างแหลมทองทำให้ลูกบ้านออกไปหาของกินของใช้ได้ง่าย
- เข้า-ออกได้จากถนนเส้นหลักของบางแสนได้หลายเส้นทาง : ไม่ว่าจะเป็นถนนข้าวหลาม และถนนลงหาดบางแสน ซึ่งถนนทั้ง 2 เส้นนี้เชื่อมต่อไปยังถนนสุขุมวิท ใช้เดินทางเข้า-ออกเมืองชลบุรีได้สะดวก หรือเข้ากรุงเทพฯก็ได้เช่นกัน
- มีรถรับ-ส่งพนักงานจากนิคม : วิ่งผ่านหน้าโครงการ ลูกบ้านไปทำงานได้ง่าย โดยไม่ต้องเรียกรถหรือขับรถยนต์ไปเอง
พิกัด Google Maps : 13.293675635162359, 100.92623225602914
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) ค่ะ
‘บางแสน’ เป็นเมืองที่มีความเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะมีทั้งมหาวิทยาลัยชื่อดัง ที่ทุกคนคุ้นหูอย่างมหาวิทยาลัยบูรพา และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างชายหาดบางแสน , เขาสามมุขและแหลมเทียน นอกจากนี้ยังมีแหล่งงานโดยรอบอีกมากมาย โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น นิคมอมตะ , นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที สิ่งเหล่านี้ทำให้ Deverloper หลายๆเจ้าเข้ามาลงทุน เปิดโครงการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง แหล่งอุดมความสมบูรณ์
dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) ตั้งอยู่ในซอยบางแสนสาย 4 เหนือ ตรงข้ามกับบางแสนโทชิน เดินไปได้ในระยะ 100 เมตร และติดกับตลาดปาร์คอิน แหล่งของกินที่เปิดวันพฤหัสบดี , เสาร์และอาทิตย์ แต่เราอาจจะต้องเดินสักหน่อยนะ เพราะส่วนที่ติดกับโครงการเป็นลานจอดรถของตลาด หากจะเข้าถึงตัวตลาดต้องเดินประมาณ 350 เมตรนะ นอกจากนี้โครงการยังใกล้กับตลาดปลา และห้างสรรพสินค้าที่ดั้งเดิมของชลบุรี อย่างห้างแหลมทองอีกด้วยนะ ทำให้เราไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องปากท้องเลยค่ะ มีของให้กินตลอดเวลาแน่นอน
ร้านสะดวกซื้อที่ใกล้โครงการที่สุดคือเซเว่นอีเลฟเว่น ที่อยู่ติดกับโครงการเลย
รอบๆโครงการมีร้านค้าร้านอาหารอยู่เยอะทีเดียวนะ สะดวกในการออกมาหาของกินได้ตลอด ซึ่งร้านส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่มีการเปิด-ปิดเป็นเวลา ทำให้โซนนี้ดูสงบ ไม่พลุกพล่านเหมือนโซนใกล้มหาวิทยาลัย จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่ากลุ่มคอนโดแคมปัส ใครชอบความสงบ ไม่วุ่นวาย แนะนำให้ลองมาดูคอนโดโซนนี้นะคะ
เส้นทางการเดินทาง
วันที่ไปเยี่ยมชมโครงการ dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) เราเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เลือกใช้ทางด่วนบูรพาวิถี แล้วมาเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท แล้วจึงเลี้ยวไปถนนข้าวหลาม ก่อนจะเข้าซอยโครงการ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ครึ่งเองนะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
ภาพรวมบรรยากาศโดยรอบโครงการ
โครงการ dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) ตั้งอยู่ในซอยบางแสนสาย 4 เหนือ รอบข้างโครงการเป็นอาคารพักอาศัย 3-8 ชั้น , บ้านจัดสรรบ้าน 2 ชั้น ,ร้านสะดวกซื้อ 1 ชั้น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินว่างที่มีทั้งรอการพัฒนา และเป็นลานจอดรถ
ทิศเหนือ : ติดกับ อาคาร 8 ชั้น , ร้านสะดวกซื้อ 1 ชั้น และที่ว่างรอการพัฒนา
ทิศตะวันออก : ติดกับ บ้านจัดสรร 2 ชั้น และที่ว่างรอการพัฒนา
ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนาและลานจอดรถ
ทิศตะวันตก : ติดกับ อาคาร 5 และ 8 ชั้น
บรรยากาศหน้าโครงการ
บรรยากาศด้านหน้าโครงการ ติดกับซอยบางแสนสาย 4 เหนือ ฝั่งมุ่งหน้าไปทางม.บูรพา ฝั่งตรงข้ามมีอาคารพักอาศัย 8 ชั้น สวนด้านข้างเป็นร้านสะดวกซื้อและลานจอดรถของบางแสนโทชิน , ตลาดนัดปาร์คอิน
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- บางแสนโทชิน ~100 เมตร
- ตลาดนัดปาร์คอิน ~350 เมตร
- ห้างแหลมทอง บางแสน ~1.20 กิโลเมตร
- ตลาดปลาบางแสน ~1.40 กิโลเมตร
- ตลาดหนองมน ~2.40 กิโลเมตร
- ตลาดถนนคนเดินบางแสน ~4.00 กิโลเมตร
- ตลาดนัดจตุจักรชลบุรี ~5.60 กิโลเมตร
- บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ชลบุรี 1 ~7.30 กิโลเมตร
- แม็คโคร ชลบุรี ~6.70 กิโลเมตร
- บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ชลบุรี 1 ~7.30 กิโลเมตร
- เซ็นทรัล ชลบุรี ~8.50 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา ~1.80 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสมิติเวชชลบุรี ~9.80 กิโลเมตร
โรงเรียน
- มหาวิทยาลัยบูรพา ~1.70 กิโลเมตร
- โรงเรียนแสนสุข ~2.20 กิโลเมตร
- โรงเรียนสาธิตพิบูลบำเพ็ญ ~3.80 กิโลเมตร
สถานที่อื่นๆ
- หาดบางแสน ~2.00 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- ซุ้มประตูโครงการอยู่ถัดเข้ามาจากถนนหน้าโครงการ : ประมาณ 80 เมตร ช่วยให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และยังเป็น Buffer Zone กรองฝุ่นควันจากถนนไม่ให้เข้ามาให้โครงการด้วย
- โครงการแบ่งเป็น 2 อาคาร ตอบโจทย์คนต่างสไตล์ : อาคาร A เหมาะกับคนชอบความสงบ ส่วนอาคาร B เหมาะกับคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง
- อาคาร B ออกแบบเป็นรูปตัว L : ล้อมส่วนกลาง ทำให้ลูกบ้านอาคารนี้ ได้วิวพื้นที่ส่วนกลางสไตล์รีสอร์ท
ต้องบอกว่านี่คือการกลับมาของแบรนด์ dcondo บนทำเลบางแสน ถัดจาก dcondo Campus Resort Bangsaen ที่สร้างเสร็จประมาณ 10 ปีที่แล้ว ใกล้โซนมหาวิทยาลัย ตอบโจทย์กลุ่มนักศึกษา แต่ dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร บนเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ รวมทั้งหมด 490 ยูนิต จากแสนสิริ ที่ตอบโจทย์คนทำงานโซนนี้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานเอกชน หรือพ่อค้าแม่ค้าของตลาด , พนักงานในนิคมอุตสาหกรรม , คนทำงานในมหาวิทยาลัยและคนที่ทำงานโรงเเรมแถวนี้
โครงการแบ่งออกเป็น 2 อาคาร แบ่งเป็น อาคาร A จำนวน 259 ยูนิต และอาคาร B จำนวน 231 ยูนิต ซึ่งแต่ละอาคารจะตอบโจทย์คนต่างสไตล์กันออกไป แต่ละโครงการจะเหมาะกับใครบ้าง ไปชมกันเลย
Master Plan โครงการ dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน)
จากผังของโครงการ dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) เราจะเห็นว่าโครงการมีทางเข้า-ออก เพียงทางเดียว คือจากซอยบางแสนสาย 4 เหนือ ซึ่งเราจะเห็นว่าทางเข้าโครงการมีความยาวเป็นพิเศษ เพราะว่าแนวเส้นประสีเทาเป็นแนวถนนผังเมืองใหม่ ซึ่งในอนาคตอาจมีพัฒนาเมืองโดยการตัดถนนผ่าน ทางโครงการจึงขยับซุ้มประตูทางเข้าให้พ้นแนวถนนผังเมืองใหม่ โดยส่วนตัวเรามองว่าหากอนาคตมีการตัดถนนผ่านจริงจะส่งผลดีในแง่ของการเดินเข้า-ออกโครงการได้ง่ายขึ้น สะดวกต่อการเดินออกมาร้านสะดวกซื้อหรือตลาดใกล้ๆโครงการมากกว่าเดิม
โครงการเตรียมที่จอดรถไว้ประมาณ 146 คัน หรือ 30% มีทั้งที่จอดกลางแจ้งและที่จอดใต้อาคาร ส่วนเส้นทางเดินรถของโครงการจะต้องผ่านหน้าอาคาร A และไปวนใต้อาคาร B ก่อนจะออกไปทางเดิม หากใครมาส่งลูกบ้าน อาจจะต้องวนรถสักหน่อยนะ อีกหนึ่งอย่างที่เราชอบคือทุกฟังก์ชันส่วนกลาง จะมี Access Control ทำให้คนที่เข้าไปใช้งานได้จะมีเเค่ลูกบ้านเท่านั้น เสริมความปลอดภัยและรักษาความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านด้วยค่ะ
บรรยากาศทางเข้าโครงการ
ทางเข้าโครงการคิดกับถนนในซอยบางแสนสาย 4 เหนือ ซึ่งซุ้มประตูโครงการห่างจากถนนหน้าโครงประมาณ 80 เมตร ช่วยกันเสียงและฝุ่นจากถนนให้เข้ามาในโครงการได้น้อยลง แล้วยังทำให้การจราจรหน้าโครงการไม่ติดขัด เวลามีรถเข้า-ออกโครงการด้วยนะ นอกจากนี้ลูกบ้านยังได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย
โครงการมีทางเท้าให้ 1 ฝั่ง สำหรับเดินเข้า-ออกอย่างปลอดภัยค่ะ ทั้ง 2 ฝั่งข้างทางมีการปลูกต้นไม้ไว้ตลอดแนว สร้างบรรยากาศที่ดีให้โครงการ
ซุ้มประตูโครงการอยู่ชิดอาคาร A
เมื่อมาถึงทางโค้งเราจะเจอกับซุ้มประตูโครงการที่กั้นด้วยไม้กระดก มีการแบ่งฝั่งเข้า-ออกอย่างชัดเจน แต่จะมีเพียงฝั่งละ 1 เลนนะคะ ทำให้เราอาจจะต้องจอดรอสักหน่อย เวลาคันหน้าแลกบัตร โครงการนี้เข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass ส่วน Vistor จะต้องแลกบัตรก่อนนะ นอกจากนี้ยังมีระบบ LIV-24 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมง
ระบบ LIV-24 ของแสนสิริเข้ามาเสริมความปลอดภัย ดังนี้
- VMS : บันทึกข้อมูลของ Visitors ทั้งข้อมูลบุคคลและทะเบียนรถ
- CCTV – VIDEO ANALYTICS : ระบบวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเหตุการณ์ต่างๆ
- REAL-TIME GUARD TOUR : ตรวจสอบสถานะ การเดินตรวจตามจุดของ รปภ. แบบ Real – Time
- Face Scan : ควบคุมบุคคลในการเข้าออกพื้นที่ด้วยระบบสแกนใบหน้า โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง
- DIGITAL FENCE : รับสัญญาณแจ้งเตือนการบุกรุก Digital Fence ที่โครงการ
- INTRUSION ALARM : แจ้งเตือนเมื่อมีการบุกรุก โดย link สัญญาณเตือนอุปกรณ์กันขโมยต่างๆ ภายในตัวบ้านมายัง LIV–24
อาคาร A
สำหรับอาคาร A เป็นอาคารที่มีจำนวนยูนิตมากกว่าอาคาร B คือ 259 ยูนิต เพราะว่ามีห้องพักอาคารเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 อาคารนี้อยู่ด้านหน้าโครงการ ใกล้กับทางเข้า – ออก ทำให้เข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโซนที่อยู่ในกรอบสีน้ำเงิน ใครที่ไม่อยากเดินไกลๆอยู่อาคาร A ได้เลยนะ ส่วนกลางของอาคารนี้จะมี Lobby รองรับลูกบ้าน แล้วยังมีห้องนิติบุคคลอยู่ด้วย ลูกบ้านของอาคารนี้จึงติดต่อนิติได้งานกว่าอาคาร B
อาคาร A จะติดกับถนนหลักของโครงการ มีที่จอดรถทั้งแบบใต้อาคารและกลางแจ้งให้เลือก ซึ่งที่จอดรถใต้อาคารจะมีชายคาคลุมเต็มคัน ไม่ต้องจอดตากแดดฝน แล้วยังสามารถเดินเข้าอาคารได้สะดวกอีกด้วย
โครงการเตรียม Ev Changer ไว้ให้ที่ใต้อาคาร A จำนวน 2 เครื่อง ใครที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นหลัก แนะนำให้อยู่อาคาร จะสะดวกที่สุดค่ะ
ตรงข้ามกับอาคารมีที่จอดรถสำหรับมอเตอร์ไซค์ด้วยนะ
ทางเดินของอาคาร A มีการยกระดับขึ้นมาจากพื้นที่จอดรถเล็กน้อย เพื่อกันฝุ่นและน้ำไหลย้อน โดยทางเข้าอาคารออกแบบเป็น Universal Design มีทางลาดให้ใช้วีลแชร์ได้
ด้านหลังที่จอดรถมีห้องนิติบุคคลอยู่ ลูกบ้านสามารถแวะมาติดต่อได้ง่ายๆ ก่อนขึ้นไปยังห้องพัก ถ้าใครมีเรื่องต้องติดต่อกับทางนิติบ่อยๆ เช่น รับพัสดุต่างๆ แนะนำให้อยู่อาคาร A จะสะดวกมากเลย
อาคาร A ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลางมากนัก แต่ก็ยังมี Lobby ไว้รองรับลูกบ้าน โดยโครงการติดตั้ง Access Control ไว้ทุกประตูของฟังก์ชันส่วนกลาง ลูกบ้านต้องสแกนหน้า หรือใช้ Key card ก่อนขึ้นไปใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง
บรรยากาศภายใน Lobby อาคาร A
Lobby มีขนาดใหญ่ดีทีเดียว มีทั้งพื้นที่นั่งพูดคุยกลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ ลูกบ้านที่อยากมานั่งพักผ่อน เปลี่ยนบรรยากาศ สามารถมาใช้งานได้ หรือใช้เป็นพื้นที่พบปะพูดคุยกับแขก ในกรณีที่ไม่สะดวกให้แขกขึ้นไปบนห้อง
เราชอบที่โครงการออกแบบให้ Lobby เป็นห้องกระจกที่ติดฟิล์มขาวขุ่นไปครึ่งหนึ่ง ทำให้คนภายนอกมองมาไม่เห็น ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัว ขณะนั่งใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง แต่ก็ยังได้แสงธรรมชาติ และเห็นบรรยากาศภายนอกเวลาที่ยืนขึ้น ทำให้ห้องดูไม่อึดอัดค่ะ
ห้องน้ำส่วนกลาง ใน Lobby A
ภายใน Lobby A มีห้องน้ำส่วนกลางให้ใช้งาน ไม่ต้องเดินไปใช้ถึงอาคาร B หรือขึ้นไปบนห้องพัก ภายในห้องน้ำมีขนาดกว้าง วีลแชร์เข้าถึงและหมุนตัวได้สะดวก
ส่วนทางเข้าไปยังอาคาร A มีที่จอดรถสำหรับคนใช้รถเข็นอยู่ใกล้ๆ พร้อมมีทางลาดให้ใช้วีลแชร์ได้สะดวก
บริเวณหน้าประตูมี Access Control ที่ใช้ระบบ Face Scan , Finger Scan หรือ Keycard หมายความว่ามีแต่ลูกบ้านเท่านั้นที่จะผ่านเข้าไปในอาคารได้ค่ะ
เมื่อเข้ามาภายในอาคาร เราจะเจอกับ Mailbox Zone ลูกบ้านแวะเอาจดหมายหรือเอกสารได้ไม่ยากเพราะเป็นทางผ่านไปยังโถงลิฟต์อยู่แล้ว
ตรงข้าม Mailbox Zone เป็น Laundry Room ที่มีทั้งเครื่องซักผ้าและตู้กดน้ำ สำหรับคนที่ไม่อยากออกไปซื้อน้ำที่ร้านสะดวกซื้อ หรือคนที่ไม่ชอบส่งผ้าไปซักด้านนอก ก็ลงมาใช้บริการได้ค่ะ
ถัดเข้ามาเป็นโถงลิฟต์ที่มีขนาดกว้างทีเดียว ให้คนสามารถรอลิฟต์ได้สะดวก อาคาร A มีลิฟต์มาให้ 2 ตัว ซึ่งโครงการนี้มีอัตราส่วนลิฟต์ 1 : 130 ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่สูงนัก แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็แนะนำให้เผื่อเวลารอลิฟต์สักนิดนะคะ
ชั้น 1 มีโซนที่เป็นห้องพักอาศัยอยู่ด้วย แต่มีการแยกสัดส่วนอย่างชัดเจน มีแต่ลูกบ้านที่พักอาศัยในชั้นนี้เท่านั้นที่จะผ่าน Access Control ไปได้
โครงการจัดผังโซนพักอาศัยชั้นนี้เป็นแบบ Single Corridor ซึ่งจะมีห้องพักอาศัยเพียงแต่ฝั่งเดียวเท่านั้น ไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม จึงได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ
ชั้น 2-8 เป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด เรามองว่าชั้นพักอาศัยมีโซนน่าสนใจอยู่ทั้งหมด 3 โซนดังนี้
- โซนกรอบสีน้ำเงิน อยู่ใกล้โถงลิฟต์สะดวกในการขึ้น-ลงอาคารมากที่สุด
- โซนกรอบสีม่วง อยู่ห่างจากถนนหลักของโครงการ ซึ่งมีรถวิ่งเข้า-ออกตลอด ไม่ว่าจะเป็นรถของลูกบ้านอาคาร A หรือ B โซนสีม่วงนี้จึงเงียบสงบกว่าห้องพักที่อยู่ติดถนน
- โซนกรอบสีเขียว เป็นโซนที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูงที่สุด เพราะไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม
อาคาร B
อาคาร B มีทั้งหมด 231 ยูนิต ส่วนที่จอดรถของอาคารนี้จะมีทั้งแบบที่จอดกลางแจ้งและที่จอดรถใต้อาคาร ตัวอาคารเป็นรูปตัว L ล้อมส่วนกลางไว้ ทำให้ลูกบ้านได้วิวสวนและสระว่ายน้ำส่วนกลาง ซึ่งคอนโด Low Rise ก็จะเน้นวิวในโครงการเป็นหลักอยู่แล้วค่ะ Facilities ทั้งหมดของโครงการอยู่ที่ชั้น 1 โดยทุก Facilities จะมี Access Control ช่วยเสริมความปลอดภัยในกับลูกบ้าน ชั้นนี้จะไม่มีห้องพักอาศัยอยู่เลยนะ เป็นการแบ่งแยกพื้นที่ส่วนกลางกับพื้นที่พักอาศัยอย่างชัดเจน ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวนะ
จากอาคาร A จะมีทางเดินลัดเลาะไปยังอาคาร B ได้ โดยทางเดินจะมีทางส่วนที่อยู่ใต้ชายคาและนอกชายคา หากเราอยากเดินไปใช้ส่วนกลาง ในวันที่ฝนตก อาจจะต้องพกร่มมาด้วยนะ
พ้นอาคาร A เราจะเจอกับอาคาร B ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น พร้อมลานจอดรถที่อยู่หน้าอาคาร
บรรยากาศทางเดินไปยังอาคาร B และสวนส่วนกลาง
ทางเดินไปยังอาคาร B มีการจัดสวนไว้ตลอดแนว มองดูแล้วรู้สึกสดชื่นมากเลยนะ พร้อมมีพื้นที่นั่งพักผ่อนให้ลูกบ้านได้มานั่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ
Facility ต่างๆจะเรียงไปตามแนวอาคาร ลูกบ้านจากอาคาร A จึงเดินมาใช้งานได้ง่าย โดยไม่ต้องเข้าไปยังอาคาร B ก่อน
ฟังก์ชันที่แรกที่เราจะเจอคือ ฟิตเนสส่วนกลาง ซึ่งเราต้องสแกนหน้า , สแกนนิ้วหรือใช้ Keycard เพื่อเข้าไปใช้ส่วนกลาง
บรรยากาศภายในห้องฟิตเนส
ห้องฟิตเนสมีขนาดใหญ่วางเครื่องออกกำลังได้ประมาณ 9-10 เครื่อง มีทั้งเครื่องออกกำลังกายแบบ Cardio หรือ Weight training เราสามารถออกกำลังกายไปพร้อมมองวิวสระว่ายน้ำ ช่วยให้การออกกำลังกายไม่น่าเบื่อ นอกจากนี้ภายในฟิตเนสมีกระจกอยู่ทั่วห้อง ทำให้เราสามารถเช็คท่าทางขณะยกเวทได้สบายๆ
บรรยากาศภายใน Co-Working Space
Co-Working Space มีมุมทำงานที่หลากหลาย ทั้งพื้นที่โฟกัสกับงานและพื้นที่นั่งทำงานชิลๆ ตอบโจทย์คนที่ชอบทำงานเป็นกลุ่มหรืองานเดี่ยว ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน เดินมาใช้งานส่วนกลางตรงนี้ได้สบายๆ
บรรยากาศมุมทำงานแบบส่วนตัว
มุมทำงานแบบส่วนตัว อยู่ใกล้กับตู้กดน้ำกดขนมอัตโนมัติ ให้ลูกบ้านมาแวะเวียนเข้ามาหาของกิน หรือน้ำหวานอยู่เรื่อยๆ ไม่ต้องเดินออกไปร้านสะดวกซื้อด้านหน้าโครงการ
นอกจากนี้ภายใน Co-Working Space ยังมีห้องน้ำส่วนกลางให้หนึ่งห้อง มีขนาดกว้างสามารถเข็นวีลเเชร์เข้า-ออกได้ ใช้งานได้สะดวก
บริเวณสวนข้างๆฟังก์ชันส่วนกลางมีมุมพักผ่อนอยู่ด้วย ได้วิวทั้งสวนส่วนกลางและสระว่ายน้ำในเวลาเดียวกัน
ทางเดินแยกไปสระว่ายน้ำและสวนด้านหลัง
บรรยากาศสระว่ายน้ำส่วนกลางของโครงการ
สระว่ายน้ำกลางแจ้งของโครงการถูกยกระดับขึ้นมาจากทางเดิน แล้วโครงการยังปลูกแนวต้นไม้ช่วยบังสายตาจากคนที่อยู่บริเวณที่จอดรถ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวขณะที่ลูกบ้านใช้งานสระว่ายน้ำ ตัวสระเป็นระบบเกลือ มีขนาดประมาณ 23 x 4.6 เมตร ลึก 1.20 เมตร แต่จะไม่มีสระสำหรับเด็กมาให้ หากใครพาเด็กเล็กมาเล่นน้ำ ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดนะคะ สระว่ายน้ำอยู่ทางทิศใต้ของอาคารจึงเหมาะกับการมาว่ายน้ำออกกำลังกายช่วงเย็น เพราะแดดไม่ร้อนมากนัก
ใกล้ๆสระว่ายน้ำมีพื้นที่อาบน้ำล้างตัวมาให้ 1 จุด ซึ่งอยู่ข้างๆห้องน้ำส่วนกลางพอดี ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง เราล้างตัวเสร็จก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลย สะดวกมากๆเลย
บรรยากาศภายในห้องน้ำส่วนกลาง
ห้องน้ำส่วนกลางมีครบทั้งห้องอาบน้ำและห้องสุขาเลย แล้วยังมี Locker ให้ลูกบ้านได้เก็บของส่วนตัวเวลาไปว่ายน้ำหรือเล่นฟิตเนส
สวนส่วนกลาง
ถัดจากสระว่ายน้ำยังมีสวนส่วนกลางอีกหนึ่งจุด ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ แล้วยังมีมุมพักผ่อนใต้ร่มไม้ ให้เรามานั่งพบปะพูดคุย หรือเอาอาหารเครื่องดื่มเล็กๆน้อยๆมานั่งทานสบายๆ ท่ามกลางสวนส่วนกลางที่ให้ความสดชื่นได้ นอกจากนี้ยังมี Sansiri Backyard ให้ลูกบ้านมาเก็บพืชผักไปทำอาหารกินได้
บรรยากาศที่จอดรถใต้อาคาร B
อาคาร B ก็มีที่จอดรถใต้อาคารเช่นกัน มีทั้งแบบที่มีชายคาคลุมเต็มคัน และแบบที่มีชายคาคลุมครึ่งหนึ่ง ที่จอดรถมีแสงธรรมชาติเข้าหลายทิศทาง ทำให้ดูสว่างดีค่ะ
โถงลิฟต์สามารถเข้าได้จากฝั่งสระว่ายน้ำและที่จอดรถ โดยต้องผ่าน Access Control ก่อน จึงมีแต่ลูกบ้านที่พักอาศัยอาคาร B ที่เข้ามาได้ ทำให้ลูกบ้านได้ความเป็นส่วนตัวค่ะ
โถงลิฟต์อาคาร B มีขนาดกว้างพอๆกับโถงลิฟต์อาคาร A เลยค่ะ มีพื้นที่ให้คนยืนรอลิฟต์และเดินผ่านไป-มาในเวลาเดียวกัน
Mailbox Zone ถูกแยกสัดส่วนไว้ชัดเจน ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยดีค่ะ
ถัดมาเป็น Laundry Room ที่มีเครื่องซักผ้าและตู้กดน้ำแบบหยอดเหรียญให้เหมือนกัน ลูกบ้านไม่ต้องเดินไปแชร์กันใช้กับอาคาร A ถือว่าสะดวกมากๆเลย
ลิฟต์ของโครงการ
อาคาร B มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ซึ่งโครงการนี้มีอัตราส่วนลิฟต์ 1 : 116 ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่น้อยกว่ากว่าอาคาร A เพราะมีจำนวนห้องพักอาศัยน้อยกว่า ทำให้ลูกบ้านขึ้น-ลงลิฟต์ได้รวดเร็วและสะดวกกว่า ภายในลิฟต์ดูสว่างดี มีการเสริมความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้อง CCTV ไว้ให้ ลิฟต์มีปุ่มกดภายในลิฟต์มี 2 ชุด แบบความสูงปกติและความสูงสำหรับคนใช้วีลเเชร์
ลูกบ้านที่จะขึ้น-ลงลิฟต์ต้องใช้ระบบ Face Scan , Finger Scan และ Key Card ซึ่งเราจะสามารถไปได้เฉพาะชั้นห้องพักอาศัยของตัวเองเท่านั้น เราจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีลูกบ้านคนอื่นๆเข้ามายังชั้นพักอาศัยของเรา จึงรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย ลิฟต์ตัวหนึ่งมีช่องให้มองเห็นภายในได้ แนะนำให้คนใช้วีลแชร์และเด็กใช้ลิฟต์ตัวนี้ หากเกิดสิ่งผิดปกติ คนภายนอกจะได้เห็นและช่วยได้ทันค่ะ
ชั้น 2-8 ของอาคารเป็นห้องพักอาศัย โดยที่อาคาร B มีทั้งห้อง Type ใหญ่อย่าง 1 Bedroom Plus อยู่ด้วย ซึ่งโซนพักอาศัยของอาคาร B มีโซนน่าสนใจดังนี้
- โซนกรอบสีน้ำเงิน ที่สะดวกในการเดินทางขึ้น-ลงอาคาร เพราะอยู่ใกล้ลิฟต์
- โซนกรอบสีเขียว ได้ความเป็นส่วนตัวเพราะไม่ชนกับทางเข้าของห้องฝั่งตรงข้าม
- โซนกรอบสีเหลือง เป็นโซนที่ได้วิวส่วนกลางชั้น 1 โดยทางโครงการออกแบบให้ห้อง 1 Bedroom Plus อยู่ในโซนนี้ทั้งหมด ได้ Benefit ทั้งเรื่องขนาดห้องและได้วิวที่สวยกว่ามุมอื่นๆ
โถงทางเดินดูสบายตา ประตูห้องจะเยื้องกันเล็กน้อย ทำให้แต่ละห้องได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนหย่อมที่ชั้น 1 พื้นที่ประมาณ 1,592 ตารางเมตร
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 23 x 4.6 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- ห้องออกกำลังกายขนาด 80 ตารางเมตร
- Lobby & Co-working Space
- Mail Room
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 122.5 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 130 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 116 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 146 คันคิดเป็น 30% (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 34.00%)
- Ev changer 2 จุด
- Access Control ใช้ระบบ Face Scan / Finger Scan / Key Card
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Easy Pass / Liv24
แบบห้อง
Highlight
- ออกแบบพื้นที่ภายในห้องเป็นสัดส่วน : โดยการกั้นห้องนอนด้วยกระจก (Type B) และผนังทับ (Type C) ได้ความเป็นส่วนตัว
- มีห้องพักเป็นห้องหน้ากว้างให้เลือก : ทำให้ได้แสงธรรมชาติทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน
- มีรูปแบบการขายให้เลือก : Fully Fitted / Fully Furnished เราสามารถเลือกได้ตามต้องการ
ห้องพักอาศัยในโครงการ dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) ขายแบบ Fully Fitted จะได้เฟอร์นิเจอร์เฉพาะชุดครัวและวัสดุสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ในราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท แต่ทางโครงการก็มี Option ให้เลือกได้เช่นกัน คือ ได้เฟอร์นิเจอร์ครบชุดของ SB Design Square By Sansiri โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเริ่มต้นประมาณ 20,000 บาท
โครงการนี้ถือว่ามีราคาเริ่มต้นที่จับต้องได้ง่ายที่สุดเลย เพราะโครงการเพื่อนบ้านมักมีราคาเริ่มต้น 1.79 ขึ้นไป หมายความว่า ต่อให้เราเลือก Option ที่เพิ่มเฟอร์นิเจอร์แบบครบชุดเข้าไป ก็ยังมีราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดอยู่ดีค่ะ เราจึงมองว่าคอนโดนี้จึงคุ้มค่า คุ้มราคาที่สุด โครงการมีแบบห้องให้เลือกดังนี้
- 1 Bedroom Type A ขนาด 23.25-25.00 ตร.ม
- 1 Bedroom Type B ขนาด 25.00-26.00 ตร.ม
- 1 Bedroom Type C ขนาด 28.25-34.75 ตร.ม
- 1 Bedroom Plus Type D ขนาด 34.00-34.75 ตร.ม.
วัสดุในห้อง
- รูปแบบการขาย Fully Fitted แต่ Option เสริมให้เลือก ดังนี้
-ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเริ่มต้นที่ 20,000 บาท - วัสดุพื้น ส่วนห้องนอน/นั่งเล่น : พื้นลามิเนต ความหนา 8 มิลลิเมตร
- วัสดุพื้น ส่วนระเบียง : กระเบื้อง Porcelain ขนาด 30×30 cm.
- Digital Door Lock ของ Lockman 5 ระบบ Finger Print / Key Card /Application / Pin และ กุญแจ
- เครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อ LG หรือเทียบเท่า
- บานเลื่อนอลูมิเนียมทำสีดำ จาก COLT
ห้องครัว
- ท็อปเคาน์เตอร์หินสังเคราะห์ เคลือบเมลามีน
- Sink & Tap จาก TEKA
- Recirculate Hood จาก TEKA
- Ceramic Hob 2 เตา จาก TEKA
ห้องน้ำ
- อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์จากยี่ห้อ Sosuco
- ฝักบัวจากยี่ห้อ Englefield
- โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Sosuco
- สายชำระยี่ห้อ Englefield (ให้ตอนโอน)
- ฉากกั้นอาบน้ำจากยี่ห้อ Shower King
- วัสดุปูพื้นกระเบื้อง Porcelain ขนาด 30×30 cm.
- วัสดุปูผนังกระเบื้อง Ceramic ขนาด 30×30 cm.
Furniture Package : 1 Bedroom
Furniture Package ที่โครงการให้ตามแบบห้องค่ะ ส่วนในช่วงโปรโมชั่นโครงการจะแถมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องให้เพิ่มเติมด้วย
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ห้องตัวอย่าง 1BM – 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 25 ตารางเมตร :
ห้อง 1 Bedroom Type B เป็นห้องที่ได้รับความสนใจมากทีเดียว มีฟังก์ชันตามมาตรฐานครบครัน คือ 1 ห้องนอน , 1 ห้องนั่งเล่น , 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัวแบบเปิด เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน
- ได้ครัวติดระเบียง : เปิดระบายกลิ่นและอากาศ ขณะทำอาหารในห้องครัวได้
- กั้นห้องนอนด้วยกระจก : ทำให้แสงธรรมชาติ เข้าถึงมายังห้องได้อย่างทั่วถึง
- พื้นที่รับประทานอาหารรวมกับพื้นที่นั่งเล่น : ทำให้เราสามารถทานอาหารพร้อมกับดูทีวีไปพร้อมกันได้
- ห้องน้ำเข้าถึงจากห้องครัว : ทำให้เจ้าของห้องไม่เสียความเป็นส่วนตัว เวลามีแขกมาใช้ห้องน้ำ
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องเป็นประตู HDF เปิดผิวด้วย PVC ลายไม้ ที่ติดตั้งระบบ Digital Door Lock ของ Lockman สามารถเปิดได้ 5 ระบบ คือ Finger Scan , กุญแจ , Keycard , Pin และ Application ทำให้เราสามารถเข้าห้องได้สะดวก แม้ในวันที่ถือของมาเยอะๆ มือไม่ว่างหยิบกุญแจ ก็ยังสามารถเข้าห้องได้ด้วยวิธีอื่นๆ
แต่ยังไงเราก็แนะนำให้พกกุญแจติดตัวไว้ตลอดนะคะ เพราะกรณีที่แบตเตอรี่ของ Digital Door Lock หมด ก็ยังสามารถไขกุญแจเข้าไปได้ ส่วนพื้นห้องพักจะเสมอกับพื้นทางเดินภายนอก เดินเข้า-ออกไม่ต้องกังวลว่าจะสะดุดล้มเลย แลกกับการต้องดูแลเรื่องความสะอาดโซนหน้าห้องสักนิดนะคะ
Common Area เป็นฟังก์ชันแรกที่เราจะเจอเมื่อเดินเข้าห้องมา
สำหรับห้องนี้เปิดมาเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ที่รวมพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารไว้ด้วยกัน บริเวณนี้จะดูสว่างเพราะได้แสงธรรมชาติผ่านประตูบานเลื่อนกระจกของห้องนอน แล้วยังมีความสูงพื้น-ฝ้าที่ 2.5 เมตรอีกด้วย ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานทั่วไปประมาณ 10 เซนติเมตร ทำให้โซนนี้ยิ่งดูโปร่งและโล่งค่ะ
ส่วนตัวเราชอบ Layout ที่จัดให้ Common Area อยู่ด้านหน้าห้องมากเลยนะ เพราะเวลาที่แขกมาบ้าน จะได้ไม่ต้องเดินผ่านส่วนอื่นๆเลย อยู่แต่บริเวณนี้อย่างเดียว เจ้าของห้องจึงคงความเป็นส่วนตัวไว้ได้
บริเวณใกล้ประตูทางออก มีพื้นที่ให้วางตู้เก็บรองเท้า เพื่อให้เราหยิบใส่หรือถอดเก็บได้สะดวก เวลาเข้า-ออกค่ะ สำหรับคนที่เลือกรับ Furniture Packages เพิ่มเติม โครงการจะติดตั้งตู้เก็บรองเท้าแบบ Built-in มาให้เลย สามารถเก็บรองเท้าได้ประมาณ 8 คู่ค่ะ ส่วนบนตู้ยังสามารถวางกุญแจบ้าน , กุญแจรถหรืออุปกรณ์ที่หยิบใช้เวลาออกจากห้องบ่อยๆได้ด้วย เพื่อความสะดวกแล้วยังช่วยป้องกันการลืมของภายในตัว
โซนนั่งเล่นมีขนาดใหญ่พอจะวางโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางขนาดเล็กไว้วางของกินเวลาดูทีวีเพลินๆได้ค่ะ ส่วนระยะดูทีวีของห้องนี้อยู่ที่ 2.6 เมตรเหมาะกับการติดตั้งทีวี 50-55 นิ้ว เพื่อการรับชมที่คมชัดค่ะ
Furniture Packages ที่โครงการให้
กรณีที่เราเลือกรับ Furniture Packages จะได้โซฟา 2 ที่นั่ง , โต๊ะกลางและชั้นวางทีวีจาก SB Design Square By Sansiri ตามนี้เลยนะคะ
โครงการให้แอร์ติดผนังของ LG มาเป็นมาตรฐานเลยค่ะ
ข้างๆโซฟามีมุมทานอาหารเล็กๆ สามารถวางโต๊ะทานข้าว 2 ที่นั่งได้ แนะนำให้จัดโต๊ะแบบเข้ามุมเพื่อประหยัดพื้นที่ การที่พื้นที่ทานอาหารอยู่รวมกับพื้นที่นั่งเล่น ทำให้เราสามารถกินข้าวพร้อมกับดูทีวีไปพร้อมๆกัน
ประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน
สำหรับห้อง Type นี้ กั้นห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เดินเข้า-ออกได้สบาย แล้วยังช่วยให้แสงธรรมชาติผ่านมายัง Common Area ได้ด้วย แต่ถ้าอยู่กัน 2 คน เราแนะนำให้ติดม่านทึบนะเวลาคนหนึ่งนอนแล้ว อีกคนดูทีวีจะได้ไม่รบกวนกันและกัน หรือใครที่มีแขกมาเยี่ยมบ่อยแล้วเขินอาย ไม่อยากให้แขกเห็นพื้นที่ส่วนตัว จะติดเป็นฟิล์มขุ่น เพื่อพรางสายตาแต่ยังได้แสงสว่างอยู่ก็ได้เช่นกัน ส่วนรางประตูบานเลื่อนฝั่งไปกับพื้น เรียบเสมอกัน เราเดินผ่านได้สะดวก ไม่ต้องกลัวสะดุดล้ม
บรรยากาศภายในห้องนอน
ห้องนอนมีขนาดประมาณ 2.6×2.65 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุตพร้อมตู้เสื้อผ้าข้างๆได้สบายๆ แล้วยังมีพื้นที่เดินรอบๆเตียงอีกด้วย ถ้าใครชอบดูทีวีก่อนนอน แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนนะ
ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้มาใน Furniture Packages เป็นตู้บานทึบดูเรียบร้อยดี ภายในมีทั้งราวแขวนเสื้อและกางเกงแยกไว้ชัดเจน ส่วนบนตู้ก็ยังใช้เก็บของชิ้นใหญ่ได้ เช่น กระเป๋าเดินทาง
หน้าต่างบานเลื่อน 2 ตอน
หน้าต่างภายในห้องนอนเป็นบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้อย่างทั่วถึง ห้องนอนเลยดูสว่างมากๆ สำหรับใครที่ไม่อยากให้แสงรบกวนในยามเช้า เพราะชอบนอนพักผ่อน ตื่นสายในวันหยุด แนะนำให้ติดตั้งม่านแบบ Black Out นะ
ห้องครัวเป็นแบบเปิด จึงเหมาะกับการทำอาหารเล็กๆน้อยๆ ไม่จริงจังมากนัก แต่ถ้าใครชอบทำอาหารที่กลิ่นฉุนๆ ควันโขมง แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นเพิ่มเติมนะคะ เพื่อนกันกลิ่นและควันลอยไปยังบริเวณอื่นๆของห้อง
สำหรับห้องครัวมีขนาดประมาณ 1.4 x 2.4 เมตร กว้างพอที่จะให้คนช่วยกันทำอาหาร 2 คน กำลังดี โครงการ Built-in เคาน์เตอร์มาให้เป็นมาตรฐาน ตัวพื้นปูด้วยกระเบื้อง Porcelain ขนาด 30×30 เซนติเมตร เช็ดถูทำความสะอาดได้ง่าย แล้วยังมีพื้นที่ให้เราวางตู้เย็น และตะกร้าผ้าหน้าห้องน้ำได้อีกนะ แต่แนะนำให้ใช้ตะกร้าแบบมีฝาปิด เพื่อไม่ให้กลิ่นควันโดนเสื้อผ้าค่ะ ข้อดีของห้องครัวที่ติดระเบียง คือสามารถเปิดระบายอากาศได้ดี แล้วยังทำให้ห้องครัวดูสว่างอีกด้วย
ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องใส่เครื่องซักผ้า
ด้านล่างเคาน์เตอร์ครัวแบ่งเป็นตู้เก็บของกับช่องใส่เครื่องซักผ้า ใครที่ไม่ชอบส่งเสื้อผ้าไปซักด้านนอก เราสามารถซื้อเครื่องซักผ้ามาติดตั้งได้ ทำให้ใช้งานได้สะดวก
บานเปิดตู้เก็บของเป็นแบบเซาะร่อง พอดีกับมือเวลาจับ ทำให้เราเปิดได้สะดวก
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาคาร เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน
Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ ทนต่อการขีดข่วนเวลาใช้งานและทนความชื้น เคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วนคือส่วนซิงค์ล้างจาน , ส่วนเตรียมอาหารและส่วนทำอาหารที่ให้เตาไฟฟ้าเซรามิคชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันระบบหมุนของ Teka แนะนำให้กรุกระเบื้องที่ Backsplash เพื่อให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ ส่วนซิงค์ล้างจานก็มีความลึกพอให้เราล้างจานได้โดยน้ำไม่กระเด็น
ด้านบนเคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของและช่องวางไมโครเวฟ
ตู้ลอยด้านบนเป็นตู้เก็บของที่มีบานปิดให้เรียบร้อย โดยบานเปิดเป็นแบบกดกระเด้ง ทำให้เราใช้งานสะดวก เวลาทำอาหารแล้วเปิดที่ดูดควันอยู่ อีกฝั่งหนึ่งเป็นชั้นวางของ ที่สามารถใส่ไมโครเวฟได้พอดีเลย เรามองว่าไมโครเวฟที่อยู่ด้านบนนั้น ใช้งานสะดวกกว่าไมโครเวฟที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์ ไม่ต้องก้มลง หรือย่อตัวเพื่อหยิบอาหารค่ะ แลกกับการที่เราต้องระมัดระวัง เวลาอุ่นซุปหรืออาหารที่หกง่าย ควรใช้เป็นถ้วยใหญ่กว่าปริมาณอาหารนะ
ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เราสามารถเดินเข้า-ออกได้สบายๆ แล้วยังได้แสงธรรมชาติจะภายนอกได้เต็มๆ
ระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 1.4×1.1 เมตร โครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ด้านบน เราจึงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ แนะนำให้ติดตั้งราวตากผ้าแบบแขวนเพิ่มเติมนะคะ ส่วนพื้นระเบียงมีการลดระดับลงมาเล็กน้อย เพื่อกันน้ำไหลย้อนค่ะ
ตรงข้ามกับระเบียงเป็นห้องน้ำ ประตูห้องพักเป็น Waterproof Plywood ปิดผิวด้วย Laminate ทนต่อความชื้นได้ดี ทางเข้าห้องน้ำมีธรณีประตูกั้นขึ้นมา เพื่อกันฝุ่นและน้ำไหลย้อน เราสามารถทำความสะอาดห้องน้ำได้อย่างเต็มที่
ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์มาให้ครบครัน
ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียก-แห้งอย่างชัดเจน ใช้งานได้ง่าย ตัวพื้นปูด้วย Porcelain ขนาด 30×30 เซนติเมตร มีชุดสุขภัณฑ์ของ SOSUCO และ ENGLEFIELD มาให้ครบครัน ยกเว้นสายชำระ ที่โครงการไม่ได้ติดตั้งมาให้เลย แต่จะให้มาในวันที่โอนห้องนะคะ
ฉากกั้นอาบน้ำ บานเลื่อน 3 ตอน
โครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำ ที่เป็นบานเลื่อน 3 ตอนของ Shower king มาให้เรียบร้อย เปิดได้กว้างกว่าแบบบานเลื่อน 2 ตอน เดินเข้า-ออกได้สะดวกกว่า ที่บานเปิด-ปิดของฉากกั้นใช้เป็นระบบแม่เหล็ก ทำให้เปิดได้แนบสนิท น้ำไม่รั่วไหลออกมา ส่วนทางเข้า-ออกมีขอบรางของฉากกั้นยกสูงขึ้นมา ป้องกันฝุ่นและน้ำไหลย้อน
ส่วนอาบน้ำ
ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.95×0.9 เมตร อาบน้ำได้สะดวก แล้วยังมีมุมให้เราจัดชั้นวางของได้ด้วยนะ ซึ่งเราจะหยิบจับอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆได้สะดวกมากขึ้น
ห้องตัวอย่าง 1CM – 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอย 28.50 ตารางเมตร :
ห้อง 1 Bedroom Type C เป็นห้องที่มีมากที่สุดในโครงการ มีฟังก์ชันตามมาตรฐานครบครัน คือ 1 ห้องนอน , 1 ห้องนั่งเล่น , 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัวแบบเปิด เหมาะกับการอยู่อาศัย 1-2 คน
- กั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ : ทำให้คนที่อยู่ห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทำกิจกรรมพร้อมกันได้โดยไม่รบกวนซึ่งกันและกัน
- ห้องหน้ากว้าง : ทำให้ทั้งห้องนอนและห้องนั่งเล่นได้แสงธรรมชาติ ห้องจะดูสว่างเป็นพิเศษ
- พื้นที่รับประทานอาหารติดพื้นที่นั่งเล่น : ทำให้เราสามารถทานอาหารพร้อมกับดูทีวีไปเพลินๆ
- ห้องน้ำเข้าถึงได้จากห้องนอน : ลุกมาใช้งานได้สะดวก เวลาดึกดื่นๆ แต่ก็อาจทำให้เสียความเป็นส่วนตัวเล็กน้อย เวลามีแขกมาเยี่ยม
ภายในห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปชมกันเลยค่ะ
ส่วนแรกของห้องพักคือห้องครัวแบบเปิด จึงเหมาะกับคนที่ทำอาหารไม่จริงจังนัก หรือใครที่ชอบทำกับข้าว แนะนำให้ทำฉากกั้นเพิ่มเติม เพื่อกันกลิ่นควันลอยไปยังโซนอื่นๆ ห้องครัวมีขนาดประมาณ 2.4 x 1.3 เมตร กว้างพอที่จะให้คนช่วยกันทำครัว 2-3 คน หรือเวลาที่มีคนทำอาหารอยู่ก็มีพื้นที่ให้อีกคนเดินผ่านได้สบายๆ
ฝั่งหนึ่งโครงการ Built-in เคาน์เตอร์สำหรับทำอาหารไว้ให้ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งมีพื้นที่ให้เราวางตู้เย็นและตู้เก็บของหรือตู้เก็บรองเท้าได้ ตัวพื้นส่วนครัวปูด้วยกระเบื้อง Porcelain ขนาด 30×30 cm. ทำความสะอาด เช็ดถูได้ง่ายค่ะ
ในกรณีที่เราเลือก Option 1 ที่ได้เฟอร์นิเจอร์มาด้วย โครงจะให้ตู้เก็บรองเท้าแบบ Built-in วางรองเท้าได้ประมาณ 8 คู่ เราสามารถหยิบรองเท้าออกมาใช้ได้ง่าย เพราะเป็นทางผ่านเวลาออกจากห้องพอดี และยังเหลือพื้นที่บนตู้สำหรับวางของที่ต้องหยิบใช้บ่อยๆ เวลาเข้า-ออกห้องได้อีก เช่น หมวก , กุญแจรถ
ชุดครัว Built-in ในห้องครัวพร้อมตู้เก็บของด้านล่าง
ใต้เคาน์เตอร์เป็นตู้เก็บของด้านล่าง ที่มีบานเปิดตู้เก็บของเป็นเมลามีน ทนต่อรอยขีดข่วน และความชื้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ใช้งานได้ในห้อง ไม่ต้องส่งเสื้อผ้าไปซักที่อื่น
เคาน์เตอร์ครัวมีทั้งส่วนทำอาคาร เตรียมอาหารและซิงค์ล้างจาน
ห้องครัวให้ Built-in Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ เคลือบเมลามีนแข็งแรงทนความร้อน ทนต่อการขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย บริเวณเคาน์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนทำอาหาร ที่ให้เตาไฟฟ้าเซรามิกชนิด 2 หัวเตาพร้อมที่ดูดควันระบบหมุนเวียนของ Teka จึงเหมาะกับการทำอาหารที่กลิ่นและควันไม่ฟุ้งมากนัก
ส่วน Backsplash เป็นผนังปูนทั่วไป เราแนะนำให้กรุกระเบื้อง เพื่อให้ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนที่สองคือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารขนาดเล็ก ส่วนสุดท้ายคือซิงค์ล้างจานที่มีความลึกพอจะวางหม้อขนาดกลางลงไปได้ ล้างจานได้สะดวก โดยที่น้ำไม่กระเด็นออกมาค่ะ
ตู้เก็บของและชั้นวางของด้านบน
ด้านบนมีตู้เก็บของที่บานเปิดตู้เป็นแบบกดกระเด้ง ใช้งานง่ายและสะดวก เวลาเปิดใช้งานที่ดูดควันอยู่ แล้วยังช่วยกันฝุ่นควันจากการทำอาหารไปเลอะของด้านใน ส่วนอีกฝั่งเป็นชั้นวางของ มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟได้พอดี เรามองว่าการวางไมโครเวฟไว้ด้านบน ใช้งานสะดวกกว่าการวางไว้ด้านล่างเคาน์เตอร์ เพราะไม่ต้องก้มๆเงยๆ หยิบอาหารจากไมโครเวฟ
ถัดมาเป็น Common Area ที่เชื่อมพื้นที่ประทานและห้องนั่งเล่นเข้าด้วยกัน บริเวณนี้อยู่ติดช่องเปิดขนาดใหญ่ มีแสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่และมีความสูงฝ้าอยู่ที่ 2.50 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในห้องโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด
สำหรับห้องนั่งเล่นมีระยะดูทีวีประมาณ 2.50 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวีขนาด 50-55 นิ้ว มีพื้นที่พอที่จะวางโซฟา 2 ที่นั่งกับโต๊ะเล็กๆไว้วางของกินขณะดูทีวี ส่วนพื้นปูด้วยลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ซึ่งแข็งแรงมากกว่าแบบ 4 มิลลิเมตรที่เป็นมาตรฐานทั่วไป
พื้นที่รับประทานอาหารอยู่ใกล้ๆกับพื้นที่นั่งเล่น ทำให้เราสามารถนั่งทานอาหารไปพร้อมกับดูทีวีได้ และชุดโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งที่เราเห็นอยู่เป็น 1 ในชุดเฟอร์นิเจอร์ที่เราจะได้รับ เมื่อเลือกแบบ Fully Furnished
โครงการให้ชุดโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางเล็กๆสำหรับวางน้ำและขนม ขณะนั่งดูทีวี แต่สำหรับครอบครัวที่อยู่กัน 2 คนแล้วอยากนั่งสบายๆหน่อย แนะนำให้ตกแต่งห้องเอง โดยเลือกโซฟาแบบ 3 ที่นั่งนะ
ประตูระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ช่วยให้ห้องได้แสงธรรมชาติหรือเปิดระบายอากาศได้แบบเต็มที่ แล้วยังช่วยประหยัดพื้นที่บริเวณระเบียง
ระเบียงที่มีขนาดประมาณ 2.40 x 0.75 เมตร ซึ่งโครงการติดตั้ง Condensing Unit ของแอร์ด้านบน เราจึงสามารถใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ ถ้าใครซักผ้าเองเราแนะนำให้เลือกติดราวตากผ้าแบบเเขวน เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ใช้งานด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมีธรณีประตูกั้นระหว่างพื้นห้องและพื้นระเบียง เพื่อกันน้ำไหลย้อนและฝุ่นจากภายนอก
บรรยากาศภายในห้องนอน
ห้องนอนมีขนานประมาณ 2.6×3.85 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุตแล้วยังเหลือพื้นที่ปลายเท้าพอให้คนเดินผ่านได้ หากใครที่ชอบดูทีวีก่อนนอน แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบติดผนังเพื่อประหยัดพื้นที่นะ
สำหรับคนที่เลือก Furniture Package จะได้โต๊ะหัวเตียงมาด้วย ใช้เก็บของส่วนตัวและวางโคมไฟได้ เวลาเราเล่นมือถือหรืออ่านหนังสือก่อนนอน ก็สามารถเปิดโคมไฟสะดวกค่ะ
หน้าต่างของห้องนอนเป็นบานเลื่อนสลับขนาดใหญ่ จึงได้แสงสว่างอย่างทั่วถึง ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่ง นอกจากนี้เราสามารถเปิดรับลม หรือระบายอากาศได้อีกด้วย แต่ถ้าใครชอบนอนตื่นสาย ไม่ต้องการให้แสงอาทิตย์มารบกวนยามเช้า แนะนำให้ติดตั้งผ้าม่านแบบ Black Out นะ
ใกล้กับห้องน้ำมีพื้นที่เหลือให้จัดเป็นมุมแต่งตัว ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง เราอาบน้ำเสร็จก็มาแต่งตัวต่อได้เลย
ตู้เสื้อผ้าที่โครงการมีขนาดกลาง เก็บเสื้อผ้าสำหรับ1-2 คนกำลังดีค่ะ ภายในมีราวแขวนเสื้อผ้าแยกเสื้อกับกางเกงมาให้เรียบร้อย ด้านบนยังมีพื้นที่เก็บของชิ้นใหญ่ๆ เช่น กระเป๋าเดินทางได้ด้วย
ปิดท้ายด้วยห้องน้ำ ที่มีบานประตูเป็น Waterproof Plywood เปิดผิวด้วย Laminate ทนความชื้นได้ดี ส่วนพื้นมีธรณีประตูยกสูงขึ้นมากั้นฝุ่นและน้ำไหลย้อน
ห้องน้ำมีชุดสุขภัณฑ์ของ SOSUCO และ ENGLEFIELD มาให้ครบตามมาตรฐาน
ภายในห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งที่ชัดเจน ใช้งานได้ง่าย พร้อมมีชุดสุขภัณฑ์ของ SOSUCO และ ENGLEFIELD มาให้ครบชุด ส่วนสายชำระ โครงการจะให้มาในวันที่โอนห้องนะคะ
โครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำของ Shower king มาให้
โครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำของ Shower King แบบบานเลื่อน 3 ตอนมาให้เรียบร้อย เราชอบที่สามารถเปิดได้กว้างกว่าแบบเลื่อน 2 ตอน จึงเดินเข้า-ออกได้สะดวกกว่า ส่วนขอบฉากกั้นอาบน้ำ เปิด-ปิดด้วยระบบแม่เหล็ก ทำให้ปิดสนิท น้ำไม่รั่วไหลออกมาด้านนอกส่วนอาบน้ำ และโครงการยกธรณีประตูขึ้นช่วยกันไม่ให้น้ำจากพื้นที่ส่วนเปียกกระเด็นออกมาในพื้นที่ส่วนแห้ง
พื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 0.9x 0.95 เมตร
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9×0.95 สามารถอาบน้ำได้สะดวก แล้วยังมีพื้นที่เป็นช่องเล็กๆให้เราจัดเป็นมุมวางของได้ด้วย ทำให้เราหยิบจับอุปกรณ์อาบน้ำได้สะดวกขึ้น
ตัวอย่างห้องตกแต่งพร้อมอยู่
โครงการตกแต่งห้องพร้อมอยู่ในเห็นดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งเราจะได้ครบทั้งเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่สำคัญคือเขาให้พร๊อพของตกแต่งต่างๆมาด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็น หมอน , ผ้าห่ม , ผ้าม่านและอีกหลายอย่าง ตามภาพเลยค่ะ เหมาะกับคนที่อยากประหยัดเวลาในการตกแต่งห้องเอง หรือคนที่อยากลงทุน ก็สามารถปล่อยเช่าได้ทันทีเลยค่ะ เพราะมีทุกอย่างครบแล้ว
ตัวอย่างห้องตกแต่งพร้อมอยู่
โครงการจะทาสีผนังตาม Theme อย่างห้องนี้จะเป็นสีเหลืองค่ะ ทำให้ห้องดูสดใสขึ้นมาทันที หรือใครชอบสีขาวสบายตาแบบเดิม ก็แจ้งโครงการได้เช่นกัน
นอกจากนี้โครงการยังมีห้องแบบอื่น ๆ ให้เลือกสรรอีกนะคะ
1 Bedroom Type A ขนาด 23.25-25.00 ตร.ม
ห้อง Type A มีเฉพาะอาคาร A เท่านั้นนะคะ รองรับการอยู่อาศัยได้ 1-2 คน ห้องแบบนี้จะได้ครัวแบบปิดทำให้ไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นหรือควันจะลอยมารบกวนพื้นที่ส่วนอื่นๆของห้อง ห้องนี้จะไม่มีการกั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่นนะคะ ทำให้ได้พื้นที่เปิดโล่ง ใช้ทำกิจกรรมได้หลากหลาย มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะทำงาน เหมาะกับคนไม่มีแขกมาเยี่ยมบ่อยนัก เพราะไม่แยกพื้นที่ส่วนตัว กับ Common Area ติดกับห้องน้ำเป็นห้องครัว พร้อมพื้นที่แต่งตัว สามารถใช้งานต่อกันได้เลย สะดวกให้การอาบน้ำแต่งตัว
1 Bedroom Plus Type D ขนาด 34.00-34.75 ตร.ม.
ห้อง Type D มีเฉพาะอาคาร B และทุกห้องจะอยู่ในมุมที่เห็นส่วนกลางทั้งหมด และเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดของโครงการ จะได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา เราอาจจัดเป็นห้องนอนรอง ห้องทำงาน หรือใครที่ค้าขายจะทำเป็นห้องสวยๆไว้ไลฟ์ขายของก็ได้นะคะ ข้อดีของห้องนี้ที่เราชอบมากที่สุดคือห้องน้ำอยู่ใกล้ทั้งประตูหลักและห้องนอน ง่ายต่อการเข้าถึงมากๆ ไม่ว่าเราจะกลับมาจากด้านนอกหรือนอนอยู่ก็เดินมาใช้งานห้องน้ำได้อย่างรวดเร็ว
ราคา
dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) ราคา ณ วันที่ 10 กรกฎาคม 2568
- 1 Bedroom ขนาด 23.25-25.00 ตร.ม ราคาเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 25.00-26.00 ตร.ม ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 28.25-34.75 ตร.ม ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท
- 1 Bedroom Plus ขนาด 34.00-34.75 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Fitted แต่ Option เสริมให้เลือก ดังนี้
-ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเริ่มต้นที่ 20,000 บาท - ช่วงโปรโมชั่น ได้เครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.5 เมตร / ฝ้าห้องครัว 2.40 เมตร / ฝ้าห้องน้ำ 2.30 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์ เคลือบเมลามีน
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
- จอง 5,000 บาท สำหรับห้อง Type 1 Bedroom A / จอง 10,000 บาท สำหรับห้อง Type 1 Bedroom B , C และ 1 Bedroom Plus D
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 2 ปีแรก 49 บาท ปีที่ 3 : 55 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
โครงการ dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) ตั้งอยู่ในซอยบางแสนสาย 4 เหนือ ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึง 100-300 เมตรเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นบางแสนโทชิน และตลาดนัดปาร์คอิน ใกล้ถนนสายหลักอย่าถนนข้าวหลามและถนนลงหาดบางแสน ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญของบางแสน แล้วยังเชื่อมต่อไปยังถนนสุขุมวิทได้ด้วย ใช้เดินทางไปทำงานได้ทั้งโซนบางแสน , แหลมฉบัง , ศรีราชา และอมตะนคร ได้ง่าย บรรยากาศรอบๆโครงการมีคนเข้า-ออกเรื่อยๆ ทำให้ไม่เปลี่ยวค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ :
เหมาะกับคนใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทาง โครงการอยู่ใกล้ทั้งถนนข้าวหลามและถนนลงหาดบางแสน ซึ่งเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทที่ใช้เดินทางไปยังเมืองต่างๆของชลบุรีได้ โครงการมีที่จอดรถให้ 146 คัน หรือ 30% ตามมาตรฐานโครงการ มีที่จอดรถทั้งแบบกลางแจ้งและใต้อาคารพร้อม EV Changer เตรียมไว้ให้
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านขายของหรือทำงานในตลาดปาร์คอิน หรือตลาดโทชินสามารถเดินไปทำงานได้เลย โดยโครงการอยู่ภายในซอยที่คนใช้เข้าออกประจำ ทำให้ง่ายในการเรียกรถสาธารณะผ่านแอพพลิเคชัน ไปยังโซนต่างๆของเมือง ส่วนคนที่ได้ Benefit คือคนที่ทำงานในนิคมต่างๆ มีรถที่ทำงานมารับถึงหน้าคอนโดเลยนะ
วัสดุ :
โดยปกติโครงการขายแบบ Fully Fitted แต่เราก็สามารถเลือก Option เพิ่มเติมได้ คือได้เฟอร์นิเจอร์จาก SB Design Square By Sansiri ครบครัน ประตูทางเข้าหลักของห้องให้ Digital Door Lock 5 ระบบ มาให้ด้วย ส่วนพื้นครัวปูกระเบื้องมาให้เหมาะกับการใช้งาน พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนต 8 มิลลิเมตรทนต่อการใช้งาน มากกว่ามาตรฐานทั่วไปที่มักหนา 4-6 มิลลิเมตร แต่ต้องระวังความชื้น ส่วนชุดครัวและห้องน้ำได้เหมือนในห้องตัวอย่าง วัสดุอื่นๆให้ตามมาตรฐานราคานี้
การออกแบบโครงการ :
โครงการนี้เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร โครงการออกแบบให้ Main Facility ทั้งหมดอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคาร B ไม่ปะปนกับโซนพักอาศัย คนในคอนโดจึงได้ความเป็นส่วนตัว โดยที่โครงการออกแบบอาคาร B เป็นรูปตัว L ล้อมส่วนกลางไว้ทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่คอนโด Low Rise มักให้ความสำคัญกันค่ะ อาคาร B จึงตอบโจทย์คนที่ชอบใช้ Facilities ของโครงการและต้องการวิวส่วนกลางที่สวยงาม ส่วนอาคาร A เหมาะกับคนชอบความสงบ ไม่วุ่นวาย ต้องการเข้าถึงอาคารเพื่อพักผ่อนให้ไว้ที่สุด
การออกแบบพื้นที่ใช้สอย :
ห้องในโครงการออกแบบมารองรับการอยู่อาศัยได้ 1 – 2 คน มีรูปแบบห้อง 1 Bedroom ขนาด 23.25-34.75 และ 1 Bedroom Plus ขนาด 34.00-34.75 ตร.ม ฟังก์ชันจัดมาได้เป็นสัดส่วน ห้อง 1 Bedroom มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบรวมพื้นที่พักผ่อนกับพื้นที่นั่งเล่นเข้าด้วยกัน , แบบกั้นห้องนอนด้วยกระจกและกั้นห้องนอนด้วยผนังทึบ เราสามารถเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ Type A ได้ครัวปิดส่วนType B,C,D ได้ครัวแบบเปิด แต่สามารถต่อเติมฉากกั้นเพิ่มได้ เพื่อสะดวกในการทำอาหาร ทุกฟังก์ชันภายในห้องได้รับแสงธรรมชาติอย่างทั่วถึง ส่วนตัวเราชอบรูปแบบห้อง 1 Bedroom Type B เพราะได้ครัวติดระเบียงแล้ว ยังได้ห้องน้ำที่แยกออกมาจากห้องนอน ทำให้ไม่เสียความเป็นส่วนตัว เวลามีแขกมาเยี่ยม
สาธารณูปโภค :
ฟังก์ชันมาตรฐานมีมาให้ครบครันทั้ง Fitness , Co – Working Space , สระว่ายน้ำ และพื้นที่สีเขียวส่วนกลาง โดย Main Facility จะอยู่อาคาร B แต่อาคาร A ก็มี Lobby รับรองลูกบ้านอยู่ ส่วนกลางทั้งหมดแยกโซนจากส่วนพักอาศัยอย่างชัดเจน ทำให้ส่วนพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัว
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 67,000 บาท/ตร.ม., 10 กรกฎาคม 2568
- ทำเล 7.5/10 – ใกล้แหล่งความสมบูรณ์ในระยะเดินได้ ใกล้ถนนใหญ่ 2 เส้น
- เดินทางด้วยรถ 8 /10 – เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัว เดินทางเข้า-ออกได้ง่ายสะดวก
- ไม่ใช้รถ 7/10 – เดินไปหาของกินได้ง่าย หากจะไปโซนอื่นๆของเมืองต้องเรียกรถจากแอพลิเคชัน ถนนเส้นนี้มีรถของนิคมต่างๆผ่านประจำ
- วัสดุ 8.5/10 – ขายแบบ Fully Fitted แต่สามารถเลือก Option เพิ่มเติมได้ คือได้เฟอร์นิเจอร์จาก SB Design Square By Sansiri ครบครัน
- แบบ 8/10 – ฟังก์ชันจัดเป็นสัดส่วน ทุกฟังก์ชันในห้องได้แสงธรรมชาติ
- สาธารณูปโภค 8/10 – ให้มาครบครันน่าใช้งาน แยกส่วนจากโซนพักอาศัยชัดเจน
- ECONOMY CLASS
- 7.75 / 10.00
dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) เหมาะกับใคร
โครงการ dcondo sense Bangsaen (ดีคอนโด เซนส์ บางแสน) เหมาะกับคนที่หาคอนโดราคาที่จับต้องได้ง่ายและคุ้มค่าที่สุดในย่านบางแสน ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ในระยะที่เดินไปได้ แต่ไม่วุ่นวายมากนัก ชอบคอนโด Low Rise เหมาะคนที่ทำงานในพื้นที่ , พนักงานนิคมต่างๆ และนักลงทุนที่อยากซื้อเกร็งกำไรหรือปล่อยเช่า มีงบประมาณเริ่มต้น 1.59 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 11,130 บาท/เดือน
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่