Kave Town Island คอนโดใกล้ ม.กรุงเทพ และคอมมูนิตี้มอลล์ พร้อมส่วนกลางจัดเต็ม 50 ฟังก์ชัน จาก AssetWise [รีวิวฉบับที่ 2519]

Kave Town Island (เคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์) ณ วันที่ 7 มีนาคม 2567

พิกัด Google Maps : 14.041816, 100.609598
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

Kave Town Island ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ใกล้ ม.กรุงเทพ รังสิต เจาะกลุ่มนักศึกษา หรือ บุคลากรที่ทำงานใน ม.กรุงเทพ รวมถึงนักลงทุนที่ต้องการปล่อยเช่า ซึ่งตัวเลือกการอยู่อาศัยของนักศึกษา หรือบุคลากรที่เรียนและทำงานที่ม.กรุงเทพ นั้นจะมีทั้งคอนโด และหอพักค่ะ โดยจะเกาะกลุ่มกันอยู่ในซอยข้างม.กรุงเทพ รังสิต ชื่อว่าซอยรังสิตภิรมย์ เป็นทำเลที่เดินมามหาลัยได้ง่าย และมีอาหารการกินเยอะค่ะ แต่ก็จะเป็นอาคารที่ทำเป็นห้องให้เช่า ไม่มีที่จอดรถ และไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ มาให้ค่ะ

ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมในโซนนี้ ส่วนใหญ่ก็จะก่อสร้างติดกับถนนพหลโยธินเป็นหลัก ทั้งฝั่งเดียวกับมหาลัย และฝั่งตรงข้ามก็มี สามารถเดินข้ามสะพานลอยมายังมหาลัยได้ โดยข้อดีของโครงการประเภทคอนโดมิเนียม เมื่อเทียบกับหอพักแล้ว จุดที่เราว่าเป็นจุดตัดสินคือเรื่อง คือเรื่องความปลอดภัย และพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการค่ะ

Kave Town Island เป็นคอนโดภายใต้โครงการ KAVE TOWN โครงการ mixed-use ขนาดใหญ่ที่รวมหลายๆ โครงการ ทั้งคอนโดมิเนียม, Community mall, Sport complex ไว้ด้วยกัน โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ช่วงระหว่างถนนรังสิต-นครนายก กับ ถนนคลองหลวง ใกล้ ม.กรุงเทพรังสิตเลยค่ะ อีกทั้งยังอยู่ฝั่งเดียวกับมหาลัย ทำให้สามารถเดินไปเรียนได้ง่ายเลย

การเดินทางโดยใช้รถ ถือว่าสะดวกเลย โครงการอยู่ใกล้ถนนใหญ่อย่าง ถนนพหลโยธิน แต่สำหรับการขับรถไปมหาลัย จะต้องขับรถ U-turn ค่อนข้างไกล และต้องกลับรถหลายรอบเลยค่ะ โดยจะต้องขับรถไป U-turn บริเวณที่ตัดกับถนนคลองหลวงก่อน แล้ววิ่งกลับมา U-turn อีกรอบแถวหน้ามหาลัย ซึ่งเป็นระยะทางทั้งหมด 8.6 กม. แต่ขากลับโครงการก็จะค่อนข้างสะดวกเลย เลี้ยวซ้ายออกจากมหาลัยไปนิดเดียวก็ถึงซอยทางเข้าโครงการแล้วค่ะ

ทางด่วน ตัวช่วยในการเดินทางบนทำเลนี้มีให้เลือกหลายเส้นทางเลยค่ะ สำหรับทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางด่วนอุดรรัถยา ซึ่งจะมีระยะทางประมาณ 7.6 เมตร สามารถเดินทางเข้าเมืองเชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัช ไปทางปากเกร็ด-จตุจักร-พระราม 3 ได้ หรือจะใช้ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ก็จะห่างจากโครงการประมาณ 11 กม. โดยเราจะต้องไปกลับรถตรงแถวๆ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งจะสามารถเข้าเมืองไปทางห้าแยกลาดพร้าว-ดินแดง-เพลินจิตได้ และสุดท้ายคือ ถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอก ซึ่งมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 14.3 กม. สามารถขึ้นได้จากถนนคลองหลวง เข้าเมืองไปทางสายไหม-ลาดกระบัง-บางนา ได้

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ บนถนนพหลโยธินเองก็จะมีรถสาธารณะให้นั่งเข้า-ออกเมืองได้เยอะพอสมควรเลย ทั้งรถเมล์ รถแท็กซี่ และรถสองแถว ซึ่งป้ายรถเมล์ก็จะอยู่ตรงหน้ามหาลัยเลยค่ะ

KAVE Town Island จะเป็นแปลงที่ดินที่อยู่กลางระหว่าง Sport Complex (อยู่ในช่วงกำลังก่อสร้าง)และโครงการรุ่นพี่อย่าง KAVE Town Shift ค่ะ ส่วนระยะทางจากโครงการถึงปากซอยประมาณ 700 เมตร ซึ่งตรงนี้ทางโครงการได้จัดให้มีรถรับ-ส่งที่บริเวณหน้าปากซอยให้ด้วย ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี สามารถเดินไปเรียนมหาลัยต่อได้ใกล้ๆ

สำหรับ ม.กรุงเทพ รังสิต จะมีทางเข้า-ออก 2 จุด บริเวณด้านหน้ามหาลัยจากทางถนนพหลโยธินทั้ง 2 ประตูเลยค่ะ สำหรับประตูที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นประตู 2 ซึ่งห่างจากหน้าปากซอยโครงการในระยะประมาณ 170 เมตรเท่านั้น สำหรับใครที่เรียนอยู่คณะโซนด้านหน้าอย่างคณะมนุษยศาสตร์และการจัดการการท่องเที่ยว ก็จะเดินจากหน้าซอยไปยังคณะได้ในระยะประมาณ 400 เมตร หรือคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะศิลปกรรมศาสตร์ จะอยู่ในระยะประมาณ 700 เมตร ซึ่งก็ยังถือว่าพอเดินได้ค่ะ ส่วนคณะที่อยู่โซนด้านในอาจจะเดินเยอะหน่อย หรือจะใช้บริการพี่วินมอเตอร์ไซค์ก็จะสะดวกกว่านะ

ความอุดมสมบูรณ์สูงหาของกินได้ง่าย ภายในซอยจะมีคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Mingle Mall ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ  Kave town ที่ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านค้า, ร้านอาหาร, Cafe, Food Court, ร้านสะดวกซื้อ และ KAVE Club ซึ่งด้านในจะเป็น Co-Working Space ให้เหล่านักศึกษาสามารถมานั่งทำงาน และติวหนังสือร่วมกับเพื่อนได้ สามารถใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างสะดวกสบาย หมดห่วงเรื่องอาหารการกินไปได้เลย อีกทั้งในอนาคตยังมี Kave sport village อยู่ติดกับโครงการเลย เดินไปใช้งานได้ใกล้ๆ หรือใครอยากแวะอาหารอะไรกินก่อนกลับมายังโครงการก็จะมีซอยรังสิตภิรมย์ที่เป็นย่านหอพักของนักศึกษา ม.กรุงเทพ รังสิต ซึ่งมีร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆ เต็มไปหมดตลอดทั้งซอยเลยเช่นกันค่ะ

ภาพบรรยากาศสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในซอยโครงการค่ะ

บรรยากาศภายใน KAVE Club ที่ด้านในจะเป็น Co-Working Space สามารถมานั่งทำงาน และติวหนังสือร่วมกับเพื่อนๆ ได้ค่ะ

สำนักงานขาย อยู่ตรงข้ามกับ Mingle Mall สังเกตเห็นได้ง่ายเลยค่ะ ภายในมีที่จอดรถให้บริการ พร้อมกับโมเดล และห้องตัวอย่างให้ได้ชมกันถึง 4 แบบเลยนะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

โครงการตั้งอยู่ช่วงกลางซอยทำให้ผู้คนไม่พลุกพล่าน แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยวจนเกินไป เพราะจะมีทั้งคอมมูนิตี้มอลล์และคอนโดโครงการอื่นๆอยู่ด้านหน้าด้วย โดยบริเวณกลางโครงการจะตรงกับแนวเสาไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งพาดผ่านบริเวณลานจอดรถตรงกลาง ไม่ได้อยู่ใกล้อาคารพักอาศัยจนเกินไป ส่วนทิศที่ค่อนข้างโล่งจะเป็นทิศเหนือซึ่งติดกับที่ว่างรอการพัฒนา ส่วนทิศอื่นๆ สามารถสรุปได้ดังนี้

• ทิศเหนือ : ติดกับ พื้นที่ว่างรอการพัฒนา
• ทิศใต้ : ติดกับ หอพักภายในซอยรังสิตภิรมย์ ที่มีความสูงประมาณ 5 – 8 ชั้น
• ทิศตะวันออก : ติดกับ คอนโด KAVE Town Shift สูง 8 ชั้น
• ทิศตะวันตก : ติดกับ Kave Sport Village

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Mingel Mall ~ 600 m.
• ตลาดไท ~ 8.7 km
• Tesco Lotus สาขารังสิต ~ 12.9 km.
• ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ~ 13 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ~ 4.3 km.
• โรงพยาบาล ภัทร-ธนบุรี ~ 6.4 km.

สถานศึกษา

• มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ~ 900 m.
• มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ~ 4 km.

Kave Town Island เป็นคอนโดเฟสสุดท้าย ภายใต้โครงการ KAVE TOWN ซึ่งเป็นโครงการ mixed-use ขนาดใหญ่ที่รวมหลายๆ โครงการ ทั้งคอนโดมิเนียม, Community mall, Sport complex ไว้ด้วยกัน บนทำเลใกล้ ม.กรุงเทพ รังสิต

ซึ่งแบรนด์คอนโด KAVE จาก Asset Wise ถือว่าเป็นแบรนด์คอนโดที่สร้างมาเพื่อเจาะกลุ่มตลาดคอนโดใกล้มหาลัยก็ว่าได้ค่ะโดยจุดเด่นของแบรนด์นี้ คือ เป็นคอนโดบนทำเลใกล้มหาลัย, พื้นที่ส่วนกลางที่ออกแบบมาเพื่อให้นักศึกษาใช้งานโดยเฉพาะ, รูปแบบการขายที่เน้นห้องแบบ Fully Furnised พร้อมเข้าอยู่ในราคารวมที่ไม่สูงมาก ในช่วง 1.5-3 ล้านบาท เพื่อเจาะกลุ่มนักลงทุนที่สามารถลงทุนซื้อคอนโดปล่อยเช่าได้ yeild ดี ด้วยเงินลงทุนไม่สูงมาก

โดยหลังจากโครงการรุ่นพี่อย่าง KAVE Town Space, Kave Town Shift และ KAVE Town Colony ได้รับเสียงตอบรับที่ดี และ Sold Out เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้ก็มาถึงโครงการล่าสุดอย่าง Kave Town Island คอนโดโครงการสุดท้ายของ Kave Town ที่มาพร้อมส่วนกลางที่หลากหลายจัดเต็มกว่า 50 ฟังก์ชัน กระจายตัวอยู่ทั่วโครงการ ในทุกอาคาร สามารถใช้งานได้ไม่มีเบื่อตาม Concept การออกแบบโครงการที่ว่า “365 DAYS HAPPINESS EVERYDAY” ใช้ชีวิตอยู่ภายในโครงการได้อย่างมีความสุข สะดวกสบาย 365 วันเลยค่ะ

Kave Town Island เป็นกลุ่มคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 7 อาคาร มีจำนวนยูนิต ทั้งหมด 1,770 ยูนิต และตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 17 ไร่ครึ่ง มาพร้อมกับส่วนกลางจัดเต็มถึง 50 ฟังก์ชัน ถือเป็นโครงการที่ใหญ่สุด ส่วนกลางเยอะสุดของ Kave town เลยค่ะ ส่วนการวางผังอาคารจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม โดยมีส่วนกลางกระจายตัวอยู่ทุกอาคารอาคารเลย สำหรับลูกบ้านที่นี่สามารถใช้ส่วนกลางได้ทุกจุด โดยที่โซนห้องพักอาศัยจะไม่เสียความเป็นส่วนตัว เพราะมีการกั้นแยกโซนกันชัดเจน ซึ่งจะสามารถจัดกลุ่มอาคารได้ดังนี้

• ANDAMAN BEACH (Building A B F G)
• CARIBBEAN ISLAND (Building C D E)

จากภาพจำลองมุมสูง จะเห็นได้ว่าโซน ANDAMAN BEACH (ฝั่งซ้าย) มีจำนวนอาคารพักอาศัย 4 อาคารเลย ทำให้โซนนี้มีจำนวนยูนิต และส่วนกลางให้ใช้งานเยอะกว่า เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลางแต่ก็ต้องแลกมากับการที่อาจจะมีผู้คนพลุกพล่านสักหน่อยค่ะ ส่วนใครที่อยากได้บรรยากาศที่สงบขึ้นมาหน่อย โซน CARIBBEAN ISLAND (ฝั่งขวา) ก็จะตอบโจทย์มากกว่านะ

Master Plan อย่างที่บอกไปว่าตัวอาคารแบ่งเป็น 2 โซน โดยมีทางเดินรถล้อมรอบ ทำให้สามารถขับรถวนหาที่จอดได้ง่าย ส่วน drop off จะอยู่บริเวณถนนกลาง แยกโซนซ้ายขวา ซึ่งแต่ละอาคารจะมี Lobby เป็นของตัวเอง พร้อมกับมี Delivery Station ที่เป็นจุดส่งของแยกเป็นของแต่ละอาคารชัดเจน เวลาสั่งอาหารมาก็เดินลงมาเอาไปได้ใกล้ๆ สำหรับที่จอดรถภายในโครงการมีประมาณ 535 คัน คิดเป็น 37% (รวมซ้อนคัน) อาจจะดูไม่ได้เยอะมาก แต่ถือว่าโอเคเลย สำหรับคอนโดที่เจาะกลุ่มนักศึกษาบนทำเลใกล้มหาลัย พร้อมมี Shuttle Service รับ-ส่ง ให้เดินไปเรียนต่อได้สบายๆ ค่ะ 

การวางอาคารพักอาศัยของแต่ละโซน ออกแบบให้ตัวอาคารโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ ทำให้ห้องพักอาศัยด้านใน ได้วิวสวนสีเขียว และสระว่ายน้ำสวยๆ ซึ่งห้องพักที่นี่จะ มีให้เลือกตั้งแต่ที่ชั้น 1 – 8 เลยค่ะ ส่วนบรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไร เรามีภาพจำลองบรรยากาศโซนต่างๆ มาให้ชมกันค่ะ แต่เนื่องจากเป็นโครงการใหม่เพิ่งเปิดตัว ภาพส่วนกลางที่เรานำมาจึงยังเป็น Draft อยู่ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ให้ภายหลังค่ะ

มาเริ่มที่ประตูทางเข้าออกโครงการกันค่ะ เป็นประตูทางเข้ารูปทรง Freeform ดูแปลกตา ซึ่งของจริงก็จะมีไม้กั้นกระดกระบบ RFID เปิดอัตโนมัติเหมือน Easy Pass บนทางด่วน ใช้งานได้สะดวกเลย

เมื่อผ่านเข้ามาด้านในก็จะเจอกับโซนอาคาร CARIBBEAN ISLAND ก่อน ส่วนอาคารโซน ANDAMAN BEACH จะอยู่ด้านในซ้ายมือ จากนั้นขับต่อไปอีกหน่อยก็จะเจอ Drop-Off ของอาคารทั้ง 2 โซนเลย สามารถวนรถรับ-ส่ง และวนออกได้ง่ายเลยค่ะ

ANDAMAN BEACH

มาเริ่มกันที่ ANDAMAN BEACH ( Building A B F G ) กลุ่มอาคารฝั่งซ้ายกันเลยค่ะ

• COURT ANDAMAN BEACH เป็นคอร์ทกลางขนาดใหญ่ ภายในมีการจัดเป็นสระว่ายน้ำ
  ชายหาด มีส่วนพักผ่อน และกิจกรรมต่างๆ อยู่หลายจุดเลย
  – ANDAMAN BEACH
  – OCEAN BAR
  – SUN WAVE
  – LET’S SEA ZONE
  – PARADISE VIBES

ภาพบรรยากาศจำลอง บริเวณคอร์ทกลาง ไฮไลต์คือ OCEAN BAR มีลักษณะเป็น Pavilion ตรงกลาง ให้ได้มาพักผ่อนสังสรรค์กับเพื่อนๆได้ อีกทั้งยังอยู่ติดกับส่วนทะเลแหวก ANDAMAN BEACH ยิ่งทำให้ได้บรรยากาศแบบมาพักผ่อนริมชายหาดชิลๆ ดีเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำด้านในซึ่งเป็นระบบเกลือ ตัวสระยาวถึง 53 เมตร ลึก 1.20 เมตร ว่ายน้ำออกกำลังกายได้เลย

• BUILDING A  ส่วนกลางอยู่ตั้งแต่ชั้น 1, 2, 8 และชั้นดาดฟ้าเลยค่ะ โดยส่วนกลางของอาคารนี้จะเน้นเป็น ห้องสำหรับออกกำลังกาย และส่วนพักผ่อนสำหรับดูหนัง ฟังเพลงได้ค่ะ
  – Sharing Lobby
  – Private Klass
  – Sport Club
  – Metaverse Zone
  – Kave Cinema

• BUILDING B ส่วนกลางจะมีอยู่ที่ชั้น 1 และ 2 เน้นเป็นพื้นที่นั่งทำงานร่วมกันได้ขนาดใหญ่หลายจุด
  – Eco Lobby
  – Co- Kitchen Klass
  – Workshop Room
  – Delivery Station

Eco Lobby จากภาพจำลองบรรยากาศจะเห็นได้ว่า Lobby อาคารนี้มีลักษณะเป็นห้องฝ้าเพดานสูง ได้ช่องหน้าต่างกระจกสูงเต็มบานทั้งสองฝั่ง ดูโปร่งโล่งดีเลย ภายในมีชุดโต๊ะเก้าอี้ให้สามารถนั่งพักผ่อน และทำงานได้หลายจุดเลย จะนั่งทำงานคนเดียว หรือทำงานกันเป็นกลุ่มใหญ่ก็ทำได้เลยนะ

Co- Kitchen Klass เป็นห้องฝ้าเพดานสูงเช่นกัน ภายในจัดวางเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้ ให้สามารถนั่งทานอาหารร่วมกันได้ มาเปลี่ยนบรรยากาศนั่งติวหนังสือ ทำงาน พร้อมทานขนมต่างๆร่วมกันได้นะ และจะเห็นได้ว่าทางโครงการได้จัดเตรียมเป็นชุดครัวมาให้ด้วยค่ะ ส่วนรายละเอียดการใช้งานต่างๆ จะเป็นอย่างไร โปรดสอบถามจากโครงการอีกครั้งค่ะ

• BUILDING F ส่วนกลางจะมีอยู่ที่ชั้น 1 และ 2 เน้นเป็นส่วนกลางสำหรับออกกำลังกาย และกิจกรรมปีนผาจำลอง Rock Climbing สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกายเข้าฟิตเนส ห้องพักอาศัยอาคารนี้เหมาะเลยค่ะ
  – Kave Hall Lobby
  – The Large Gym
  – Rock Climbing

The Large Gym เป็นห้องออกกำลังกายขนาดใหญ่ ถ้าดูจากภาพจำลองบรรยากาศ ก็ถือว่าให้เครื่องออกกำลังกายมาค่อนข้างเยอะเลย ภายในเป็นห้องฝ้าเพดานสูง อีกทั้งออกแบบให้เทควิวกลางคอร์ท ทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่งโล่งเหมาะสำหรับการออกกำลังกายดีเลยค่ะ

• BUILDING G  ส่วนกลางจะมีอยู่ที่ชั้น 1, 2, 8 และชั้นดาดฟ้า โดยไฮไลต์ของส่วนกลางอาคารนี้จะเป็น E-Sport Room ที่สามารถมาเล่นเกมร่วมกับเพื่อนๆ เป็นกลุ่มได้สะดวกค่ะ
  – Kave Klass Lobby
  – E-Sport Room
  – Co-Lighting Space
  – Natural Space
  – Kave Stu

E-Sport Room เป็นห้องที่ทางโครงการจัดเป็นคอมพิวเตอร์ไว้ให้หลายจุด สามารถเล่นเกมร่วมกันเป็นทีมได้สบาย ภายในห้องตกแต่งมาได้แฟนซี เหมือนห้องทดลองในหนัง sci-fi เลยนะ

• ROOFTOP A,G นอกจากนั้น พื้นที่ส่วนกลางโซนนี้ ยังมีส่วนกลางชั้นดาดฟ้าให้ใช้งานอีกด้วย โดยจะมีอยู่เฉพาะอาคาร A และ G ซึ่งจะมีทางเชื่อมต่อกัน เดินใช้งานร่วมกันได้ เน้นเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนชมวิว จัดปาร์ตี้สังสรรค์ได้ค่ะ
  – Kave Sky
  – Bar B Q Bar
  – Roof Theater

CARIBBEAN ISLAND

มาต่อกันที่ CARIBBEAN ISLAND (Building C D E ) กลุ่มอาคารฝั่งขวากันเลยค่ะ ฝั่งนี้จะมีจำนวนยูนิต และส่วนกลางน้อยกว่าหน่อย แต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นค่ะ

• COURT CARIBBEAN ISLAND มีขนาดเล็กกว่าโซนก่อนหน้าเล็กน้อย ภายในจัดเป็น สระว่ายน้ำรูปทรง Freeform และพื้นที่สีเขียว โดยที่ภายในจัดให้มีจุดพักผ่อน และทำกิจกรรมอยู่หลากหลายเลยค่ะ
  – CARIBBEAN LAGOON
  – SUNKISSED SEAT
  – TREE FUNNEL
  – SUNSHINE TOWER
  – TUNNEL RING

TREE FUNNEL ดีไซน์สระออกมาเป็น Sunken seat แยกหลายจุด ดูเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ในช่วงบ่ายๆ ก็มานั่งเล่นได้สบาย เพราะมีการดีไซน์เป็น Pavilion หลังคาโปร่งๆ กันแดดได้ระดับหนึ่ง มานั่งเล่นแช่น้ำ สังสรรค์กับเพื่อนได้ชิลๆ เลยค่ะ

ภาพบรรยากาศบริเวณ COURT CARIBBEAN ISLAND ภายในมีสระ รูปทรงอิสระดูแปลกตา พร้อมกับมี TUNNEL RING ที่เป็นซุ้มโค้งเรืองแสงยิ่งทำให้ดูแฟนซี เหมาะกับวัยรุ่นเลยนะ

• BUILDING C ส่วนกลางจะมีอยู่ที่ชั้น 1 และ 2 โดยไฮไลต์ของส่วนกลางอาคารนี้จะเป็น E-Sport Room ที่สามารถมาเล่นเกมร่วมกับเพื่อนๆ เป็นกลุ่มได้สะดวกค่ะ
  – Spiral Lobby
  – Photography Studio
  – Kave Theater
  – Vending Machine
  – E-Library Space
  – Seating Step Conner

Photography Studio จัดเป็นห้องสตูดิโอถ่ายภาพได้ รองรับได้ทั้งนักศึกษาที่เรียนโฟโต้ หรือคนที่ขายของออนไลน์ก็สามารถมาใช้งานถ่ายภาพสินค้ากันได้ค่ะ ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องจะมีอะไรบ้างบทสอบถามโครงการอีกครั้งหนึ่งนะคะ

• BUILDING D ส่วนกลางจะมีอยู่ที่ชั้น 1, 2, 8 และชั้นดาดฟ้า เน้นเป็นส่วนกลางสำหรับการดูแลสุขภาพ และปาร์ตี้สังสรรค์ ซึ่งไฮไลต์ คือ ห้องคาราโอเกะส่วนตัว ถูกใจวัยรุ่นแน่นอนค่ะ
  – Stack Lobby
  – Kave Karaoke
  – Stack Party
  – Body Lab
  – Health Station

Stack Lobby พื้นที่ส่วนต้อนรับอาคารนี้ ถือว่าทำออกมาได้อลังการทีเดียวมีการตกแต่งทั้งผนังและฝ้าเพดานให้มีลักษณะ Freeform ในโทนสีอบอุ่นดูแปลกตาดีเลยนะ

Kave Karaoke ห้องคาราโอเกะส่วนตัว ภายในมีการจัดวางเป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่พร้อมหน้าจอและชุดคาราโอเกะ นัดเพื่อนเพื่อนมาร้องเพลงสังสรรค์กันได้ในโครงการเลยค่ะ

• ROOFTOP D อาคารโซนนี้ก็มีส่วนกลางชั้นนะฟ้าให้ใช้งานเช่นกันค่ะซึ่งจะมีอยู่เฉพาะอาคาร D เน้นเป็นส่วนกลางประเภทออกกำลังกายเบาๆ สามารถขึ้นมายืดเส้นยืดสาย หรือโยคะได้ชิลๆ ค่ะ
  – Yoga Sunset
  – Roof Top Multi Sport
  – Stargazing Seat

• BUILDING E ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้น 1 และ 2 ภายในอาคารมีส่วนกลางให้ใช้งานค่อนข้างหลากหลาย เน้นเป็นห้องทำงาน ห้องประชุม ห้องถ่ายภาพ และห้องออกกำลังกาย
  – Sweet Lobby
  – Meeting Stu
  – Beat Klass Studio
  – Yoga & Relax
  – Youtuber Live Studio
  – Interview Room

Beat Klass Studio เป็นห้องที่ถูกใจสำหรับนักศึกษาสายแดนซ์เลยค่ะ ภายในห้องมีกระจกเงาขนาดใหญ่มาให้เรียบร้อย พร้อมใช้งานเลย สามารถนัดเพื่อนๆ มาซ้อมเต้น ซ้อมทำกิจกรรมต่างๆได้ในโครงการเลยนะ

Youtuber Live Studio เป็นห้องสำหรับรองรับการไลฟ์สด เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่สามารถเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยได้เลยค่ะ ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องจะมีอะไรบ้างโปรดสอบถามโครงการอีกครั้งหนึ่งนะคะ

ชั้นพักอาศัย

ห้องพักอาศัย ของแต่ละอาคารจะมีตั้งแต่ชั้น 1-8 เลย ส่วน Facility จะกระจายอยู่หลายจุด  โดยแต่ละอาคารจะไม่เหมือนกัน มีทั้งชั้น 1, 2, 8 และชั้นดาดฟ้า ซึ่งสำหรับใครที่ชอบใช้ส่วนกลาง ห้องพักในชั้นเดียวกับส่วนกลาง ถือว่าตอบโจทย์เลยค่ะ

อาคาร B

อาคาร F

สำหรับปัจจุบันทางโครงการได้เปิดขายเฉพาะอาคาร B และ F โซน ANDAMAN BEACH ส่วนตำแหน่งห้องแต่ละแบบจะมีความน่าสนใจอะไรบ้างเราสรุปมาให้ดังนี้

• ห้องสีฟ้า – 1 Bedroom Special ขนาด 22.2 – 24.3 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุด ซึ่งจุดที่น่าสนใจคือ ห้องนี้มีให้เลือกทั้งแบบ ที่เทควิวด้านนอก และเทควิวกลางคอร์ทเลยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการต่างๆ มักจะจัดให้เทควิวด้านนอก และมีเฉพาะห้องขนาดใหญ่ที่เทควิวด้านในกันนะ ซึ่งห้องที่เทควิวกลางคอร์ทจะมีไม่กี่ยูนิต ฉะนั้นใครที่สนใจต้องรีบกันหน่อยนะคะ
• ห้องสีน้ำเงิน – 1 Bedroom ขนาด 24.1 – 24.5 ตร.ม. เป็นแบบห้องที่มีเฉพาะตำแหน่งเทควิวกลางคอร์ทเท่านั้น ทำให้ได้วิวค่อนข้างดีเลย ใครที่ชอบบรรยากาศคึกคัก เห็นสระว่ายน้ำ และสวน แนะนำห้องชั้น 1-2 เลยค่ะ
• ห้องสีเขียว – 1 Bedroom Exclusive ขนาด 28.1 – 29.2 ตร.ม. เป็นห้องที่มีให้เลือกทั้งแบบเทควิวด้านนอกและเทควิวกลางคอร์ทเลยเช่นกัน ส่วนห้องที่เราได้วงเส้นประเอาไว้จะเป็นห้องตำแหน่งมุมหรือติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียวได้ความเป็นส่วนตัวดีค่ะ
• ห้องสีเหลือง – 1 Bedroom Plus ขนาด 37.8 – 39.2 ตร.ม. เป็นห้องไซส์ใหญ่สุด มีไม่กี่ยูนิตในแต่ละชั้น ส่วนตำแหน่งก็มีให้เลือกทั้งแบบเทควิวกลางคอร์ด และเทควิวด้านนอกเลยเช่นกัน สำหรับห้องที่เราว่าน่าสนใจก็จะเป็นห้องมุม(ในเส้นประ) มีทั้งติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียว และไม่ติดเพื่อนบ้านเลย อีกทั้งยังอยู่ในตำแหน่งปลายสุดโถงทางเดิน ทำให้ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านหน้าห้อง ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดีเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ANDAMAN BEACH (Building A B F G)

• COURT ANDAMAN BEACH
  – ANDAMAN BEACH
  – OCEAN BAR
  – SUN WAVE
  – LET’S SEA ZONE
  – PARADISE VIBES
• BUILDING A
  – Sharing Lobby
  – Private Klass
  – Sport Club
  – Metaverse Zone
  – Kave Cinema
• BUILDING B
  – Eco Lobby
  – Co- Kitchen Klass
  – Workshop Room
  – Delivery Station
• BUILDING F
  – Kave Hall Lobby
  – The Large Gym
  – Rock Climbing
• BUILDING G
  – Kave Klass Lobby
  – E-Sport Room
  – Co-Lighting Space
  – Natural Space
  – Kave Stu
• ROOFTOP A,G
  – Kave Sky
  – Bar B Q Bar
  – Roof Theater

CARIBBEAN ISLAND (Building C D E)

• COURT CARIBBEAN ISLAND
  – CARIBBEAN LAGOON
  – SUNKISSED SEAT
  – TREE FUNNEL
  – SUNSHINE TOWER
  – TUNNEL RING
• BUILDING C
  – Spiral Lobby
  – Photography Studio
  – Kave Theater
  – Vending Machine
  – E-Library Space
  – Seating Step Conner
• BUILDING D
  – Stack Lobby
  – Kave Karaoke
  – Stack Party
  – Body Lab
  – Health Station
• BUILDING E
  – Sweet Lobby
  – Meeting Stu
  – Beat Klass Studio
  – Yoga & Relax
  – Youtuber Live Studio
  – Interview Room
• ROOFTOP D
  – Yoga Sunset
  – Roof Top Multi Sport
  – Stargazing Seat
• สวนหย่อม ที่ชั้น 1
• สระว่ายน้ำ 2 สระ ระบบเกลือ
• CARIBBEAN LAGOON ขนาด 150 เมตร ลึก 120 เมตร
• SUN WAVE ขนาด 53 เมตร ลึก 120 เมตร
  ห้องออกกำลังกาย
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 126 : 1
• ที่จอดรถประมาณ 535 คัน คิดเป็น 37% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ระบบในการเข้า-ออก (รถยนต์) Access Control
• ระบบในการเข้า-ออก (เดินเข้าออก ขึ้นลงอาคาร) Face Scan พร้อมระบบลิฟต์ล็อกชั้น
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV
• Shuttle Service วิ่งไป-กลับ ปั๊มน้ำมันบางจาก(ติดถนนพหลโยธิน) ส่วนจำนวนรอบการวิ่งรอการจัดสรรจากนิติบุคคลในภายหลัง (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกครั้ง*)

โครงการ Kave Town Island มีแบบห้องให้เลือกเยอะถึง 6 แบบ โดยจะเน้นเป็นห้องที่ออกแบบมาสำหรับนักศึกษา เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย 1 – 2 คนเป็นหลัก หรืออยู่กันแบบรูมเมทแชร์ห้องอยู่ร่วมกันได้สะดวก ดังนี้

• 1 Bedroom Special ขนาด 22.2 – 24.3 ตร.ม. (902 ยูนิต)
• 1 Bedroom ขนาด 24.1 – 24.5 ตร.ม. (388 ยูนิต)
• 1 Bedroom Exclusive ขนาด 28.1 – 29.2 ตร.ม. (351 ยูนิต
• 1 Bedroom Plus ขนาด 37.8 – 39.2 ตร.ม. (123 ยูนิต)
• 1 Bedroom Smart Pool ขนาด 36.3 ตร.ม. (3 ยูนิต)
• 1 Bedroom Extra Pool ขนาด 36.4 ตร.ม. (3 ยูนิต)

ขายแบบ Fully Furnished ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆในห้องมาครบ พร้อมระบบ Home Automation และ Bluetooth Sound System สิ่งที่ต้องหาเพิ่มเติมก็จะมีพวก ชุดเครื่องนอน หมอนฟูก ผ้าม่าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็สามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ หรือปล่อยเช่าได้ทันที

วัสดุภายในห้อง

• พื้นห้อง ปูกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิก >> Living Idea : พื้นไม้ลามิเนต กับ พื้นกระเบื้องยางไวนิล อะไรดีกว่ากัน?
• พื้นระเบียง ปูกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม.
• พื้น และผนัง ห้องน้ำ ปูกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม.
• ผนังทั่วไปเป็น ฉาบเรียบทาสีขาว
• Built-in ครัว ท็อปเป็น หินสังเคราะห์, ชุดอ่างล้างจาน TEKA สี่เหลี่ยม 1 ช่อง, Backsplash กระเบื้องสีขาว
• สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ อ่างล้างหน้า + ก๊อกน้ำ COTTO / โถสุขภัณฑ์ MARVEL / Fitting อื่นๆ จาก Prema / ฉากกั้นอาบน้ำกระจก Shower King / รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานสูง 2.4 ม. ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว
• ปลั๊กและสวิตช์ ยี่ห้อ SIEMENS
• เครื่องปรับอากาศ Wall Type จาก Daikin จำนวน 1-3 เครื่อง ขนาด 9,000-15,000 BTU (แล้วแต่ขนาดห้อง)

Home Automation

• Digital door lock ใช้งานได้ 5 ระบบ Passcode, Finger scan, Mobile app. , Key , Key Card
• Smart Home เปิด-ปิดไฟ และเครื่องปรับอากาศผ่านทาง Application ในโทรศัพท์มือถือ พร้อมมีหน้าจอ Control ภายในห้อง
• Bluetooth Sound System เปิดเพลงฟังผ่านลำโพงที่อยู่บนฝ้าเพดานได้ พร้อมหน้าจอ Control

สำหรับห้องตัวอย่างที่ทางโครงการได้จัดไว้ชมมีถึง 4 แบบเลยค่ะ ซึ่งเราจะพาไปชมห้อง 1 Bedroom Special ขนาด 22.2 – 24.3 ตร.ม. ที่มีจำนวนเยอะที่สุด และห้องใหญ่อย่าง 1 Bedroom Plus ขนาด 37.8 – 39.2 ตร.ม. ที่มีการจัดฟังก์ชันห้องที่อยู่สบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราจะรีวิวห้องนี้กันอย่างละเอียดเลย ส่วนห้อง 1 Bedroom ขนาด 24.1 – 24.5 ตร.ม. และ 1 Bedroom Exclusive ขนาด 28.1 – 29.2 ตร.ม. จะขอลงเป็นแกลเลอรีภาพบรรยากาศภายในห้องตัวอย่าง และบทวิเคราะห์แปลนนะคะ

1 Bedroom Special

1 Bedroom Special ขนาด 22.2 – 24.3 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเริ่มต้นที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุด 902 ยูนิต มีให้เลือกหลายตำแหน่งทั้งเทควิวคอร์ทกลาง หรือเทควิวด้านนอก ส่วนการจัดฟังก์ชันภายในห้องเรามองว่าเหมาะสำหรับ คนที่ชอบใช้ชีวิตนอกบ้าน อยู่มหาลัยเป็นประจำ ไม่ได้อยู่คอนโด หรือต้องนั่งทำงานที่คอนโดมากนัก สามารถอยู่อาศัยได้ 1-2 คน ถ้าหากคำนวณจากราคาเฉลี่ยทั้งโครงการแล้ว ห้องนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 1.554 ล้านบาท แต่สำหรับราคาโปรโมชันตอนนี้ เปิดตัวมาในราคา 1.49 ล้านบาท* ส่วนจุดที่น่าสนใจมีดังนี้

• ห้องครัวปิด กั้นแยกเป็นสัดส่วน โดยห้องครัวอยู่บริเวณหน้าห้อง โดยมีประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กั้นแยกจากส่วนห้องนอน เป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่ห้องนอน
• ห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนครัว แยกเป็นส่วน Service ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ติดกับโถงทางเดินในอาคาร ช่วยเป็น Buffer ลดเสียงจากโถงทางเดินเข้าสู่พื้นที่ห้องนอน จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
• ห้องนอน รวมกับ Living area เป็นห้องขนาด 3.6×3.2 เมตร ภายในสามารถจัดเป็นส่วนห้องนอน + นั่งเล่น + พื้นที่แต่งตัว + พื้นที่ทำงาน ได้เลย แต่สำหรับพื้นที่ทานอาหาร จะต้องมานั่งกินตรงโต๊ะหน้าโซฟาแทน ซึ่งอาจจะหาเป็นโต๊ะกลางที่ปรับความสูงได้ เพื่อให้สะดวกเวลาใช้งานมากยิ่งขึ้นค่ะ
• Bay Window บริเวณห้องนอน เป็นพื้นที่ติดกับหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติเต็มที่ สามารถจัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ พร้อมติดตั้งปลั๊กและไฟดาวน์ไลท์สามารถใช้งานได้สะดวกเลยค่ะ
• Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ และ Built-in หลักๆมาครบเลย สรุปได้ดังนี้

1. ตู้เสื้อผ้า
2. ฐานเตียง 5 ฟุต
3. โซฟา 2 ที่นั่ง
4. ตู้วางทีวี
5. ตู้อเนกประสงค์
6. ชุดครัว

มาเริ่มกันที่ประตูทางเข้าห้องกันก่อนเลยค่ะ ตัวประตูมีขนาด 90×200 ซม. สีแบบนี้เลย พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock ที่สามารถใช้ได้ทั้งหมด 5 ระบบได้แก่ Passcode, Finger scan, Mobile app. , Key , Key Card ได้

เข้าห้องมาแล้วเราจะเจอกับห้องครัวก่อนเลยค่ะ ซึ่งมีข้อดีคือเวลาที่ซื้อของเข้ามาก็สามารถจัดเก็บของในตู้ได้เลย ซึ่งห้องครัวเป็นแบบครัวปิดกั้นแยกชัดเจนจากพื้นที่ห้องนอน เหมาะต่อการทำอาหาร ช่วยกันกลิ่นควันให้ไม่ไปรบกวนยังส่วนต่างๆ โดยฝั่งขวาจะเป็นเคาน์เตอร์ครัว ฝั่งซ้ายเป็นประตูห้องน้ำ จัดให้เป็นส่วน Service ติดกัน ในตำแหน่งที่ติดกับโถงทางเดินในอาคาร ช่วยเป็น Buffer ลดเสียงจากโถงทางเดินเข้าสู่พื้นที่ห้องนอน ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ผนังด้านขวาของประตูทางเข้าติดตั้ง หน้าจอ Control ของระบบ Smart Home สามารถเปิด-ปิดไฟ และเครื่องปรับอากาศผ่านหน้าจอนี้ได้เลยค่ะ หรือจะควบคุมผ่าน Application ในโทรศัพท์มือถือก็ได้เช่นกันค่ะ

ห้องครัวภายในห้องเป็นแบบปิด กั้นแยกจากส่วนห้องนอนด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน เป็นสัดส่วน สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่ห้องนอน และยังทำให้แสงธรรมชาติจากระเบียงสามารถส่องเข้ามายังบริเวณครัวได้ ทำให้ห้องดูโปร่งมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

สำหรับห้องครัวนี้มีขนาด 1.7×1.9 เมตร ส่วนระยะหน้าเคาน์เตอร์อยู่ที่ 1.10 เมตร เดินได้สบาย จะวางชั้นเก็บรองเท้าเล็กๆ เพิ่มเติม ก็ยังได้ค่ะ สำหรับพื้นห้องครัวจะ ปูกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ ที่สามารถทนน้ำ หรือความชื้นได้ค่อนข้างดีทีเดียว

อ่านบทความเพิ่มเติมคลิก >> เปรียบเทียบ 7 วัสดุพื้นลายไม้ภายในบ้าน

ชุดครัวจะได้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I กว้าง 1.1 เมตร  โดยตู้เก็บของด้านล่าง พื้นที่ใต้อ่างล้างจานจะเป็นช่องเก็บขนาดใหญ่ เหมาะกับการเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด และถังขยะสำหรับทิ้งเศษอาหาร ส่วนด้านข้างมี มีลิ้นชักช้อน ส้อม และมีพื้นที่วางไมโครเวฟมาให้ด้วย ช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ ส่วนชั้นวางของด้านบนจะเป็นแบบโปร่งๆ เหมาะกับวางของที่หยิบใช้บ่อยๆ ได้สะดวกเลย ส่วนพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นมีขนาด 0.85×0.60 เมตร วางตู้เย็นขนาดมาตรฐานได้สบายค่ะ

Built-in ครัว ท็อปเป็น หินสังเคราะห์, ชุดอ่างล้างจาน TEKA สี่เหลี่ยม 1 ช่อง พร้อม Backsplash เป็นกระเบื้องสีขาว ทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งตรงนี้จะติดตั้งมาเฉพาะผนังด้านหลังนะ สำหรับใครที่ทำครัวเป็นประจำ แนะนำให้ติดตั้ง Backsplash เพิ่มเติมที่ผนังด้านข้าง และติดตั้งที่ดูควันเพิ่มเติม เพื่อช่วยระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้นนะคะ

มาดูส่วนห้องน้ำกันบ้างค่ะ ภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน โดยประตูทางเข้าห้องน้ำก็จะมีขอบธรณีกั้นพื้นไว้ เพื่อกันไม่ให้น้ำจากห้องน้ำไหลออกมายังพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่นๆ เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนอ่างล้างหน้า ซ้ายมือเป็นโถสุขภัณฑ์ และด้านในสุดเป็นพื้นที่อาบน้ำค่ะ ส่วนวัสดุพื้นและผนังภายในห้องน้ำใช้กระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม. แบบนี้เลยค่ะ

ส่วนอุปกรณ์ และสุขภัณฑ์ต่างๆ ให้มาหลากหลายแบรนด์เลยค่ะ โดยอ่างล้างหน้า + ก๊อกน้ำ จาก COTTO อ่างล้างหน้าเป็นแบบลอยตัวพร้อมมีช่องเก็บของด้านล่าง และหน้าบานทึบปิดมาให้เรียบร้อย สามารถเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ได้ ติดตั้งพร้อมกระจกเงาแบบนี้เลย โถสุขภัณฑ์จาก MARVEL  ส่วน Fitting อื่นๆ จาก Prema

พื้นที่อาบน้ำติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกจาก Shower King มาให้เรียบร้อยเลย เวลาอาบน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะกระเด็นมาเปียกส่วนแห้งค่ะ สำหรับพื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.95×0.60 เมตร ยืนอาบน้ำหมุนตัวได้สบาย ตรงนี้แนะนำให้ติดตั้งชั้นวางของภายในห้องน้ำเพิ่มเติม สำหรับวางสบู่ยาสระผมต่างๆได้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้นนะคะ ส่วนที่อาบน้ำเป็นแบบ Hand shower และมีก๊อกน้ำพื้นมาให้ด้วย พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาเรียบร้อย

ห้องนอน มีขนาด 3.6×3.2 เมตร ภายในสามารถจัดเป็นส่วนห้องนอน + พื้นที่นั่งเล่น + พื้นที่แต่งตัว + พื้นที่ทำงาน ได้เลย เมื่อเข้ามาแล้วจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นด้านข้างเตียงก่อนเลย ซึ่งการจัดเฟอร์นิเจอร์แบบนี้ ทำให้สามารถดูทีวีได้ทั้งนั่งบนโซฟา หรือนอนดูบนเตียงก็ได้ค่ะ สะดวกดี สำหรับระยะตรงนี้จะติดตั้งทีวีขนาด 60 นิ้วเลยค่ะ

โซฟาที่ได้ภายในห้องนี้จะไม่ได้เป็นแบบนี้นะคะ แต่ขนาดค่อนข้างจะใกล้เคียงกันเลย เป็นโซฟา 2 ที่นั่ง สีน้ำตาลอ่อนดูแลรักษาง่าย สำหรับการจัดวางโซฟาจะวางข้างเตียงแบบพอดีกับพื้นที่เลยค่ะ ซึ่งตรงนี้จะกว้างประมาณ 1.4 เมตร และด้วยข้อจำกัดของขนาดพื้นที่ ห้องนี้จึงไม่มีฟังก์ชันสำหรับวางโต๊ะกินข้าวมานะคะ ถ้าจะกินข้าว ก็ต้องมานั่งกินตรงโต๊ะหน้าโซฟาแทน ซึ่งอาจจะหาเป็นโต๊ะกลางที่ปรับความสูงได้ เพื่อให้สะดวกเวลาใช้งานมากยิ่งขึ้นค่ะ

บริเวณผนังด้านข้างโซฟาตรงนี้จะติดตั้งหน้าจอควบคุม Bluetooth Sound System ที่สามารถเปิดเพลงฟังผ่านลำโพงที่อยู่บนฝ้าเพดานได้ ซึ่งตรงนี้สามารถเชื่อมต่อใช้งานร่วมกับ Smart Phone ได้เลยเช่นกันค่ะ สะดวกดีเลยค่ะ

สวิตช์ไฟภายในห้องจะได้ทั้ง 2 แบบเลย แต่หลักๆ จะได้ เป็นแบบสีเทา จาก SIEMENS ส่วนแบบสีขาวเป็นของ Smart Life ควบคุมผ่าน Smart Phone ได้

มาดูฝั่งปลายเตียงกันบ้าง ภายในห้องมาตรฐานจะได้ตู้เสื้อผ้าแบบนี้เลย ส่วนด้านข้างจะได้ ตู้วางทีวี และตู้อเนกประสงค์เพิ่มเติมมาให้ด้วยค่ะ

ตู้เสื้อผ้าที่ได้ภายในห้องมีขนาดกว้าง 1.5 เมตร ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว หน้าบานเป็นแบบทึบ และหน้ากระจกดูโปร่งๆ ตัวบานเป็นแบบเลื่อนสลับ ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ในการเปิด-ปิดได้ ภายในตู้จะมีเฉพาะช่องเก็บกระเป๋าด้านบน และราวแขวนในตู้ ตรงนี้แนะนำให้หาซื้อชั้นเก็บของเล็กๆ มาวางเพิ่มเติมในตู้ เพื่อที่จะได้เก็บชุดชั้นใน และถุงเท้าต่างๆได้เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้นค่ะ

ฐานเตียงที่ได้จะเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต พร้อมออกแบบช่องเก็บของโปร่งๆ ตรงฐานเตียงมาให้ด้วย 2 จุด เป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าเลยค่ะ โดยเตียงจะวางค่อนข้างชิดผนังด้านนอกเลย เหลือประมาณ 30 ซม. เดินได้พอดีๆ ส่วนระยะปลายเตียงถึงตู้เสื้อผ้าจะเหลือค่อนข้างเยอะ ยืนแต่งตัวได้สบายค่ะ

พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่าง ตรงนี้ได้ช่องเปิดขนาดใหญ่เลย ซึ่งตรงนี้จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียง ทำให้ได้ประตูกระจก 3 ตอน เปิดรับลมได้กว้างเลย ส่วนด้านข้างเป็นพื้นที่แบบ Bay Window ซึ่งจะได้หน้าต่างกระจก พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 จุดเปิดระบายอากาศได้สะดวก

Bay Window เป็นพื้นที่ยื่นออกไปขนาด 2×0.95 เมตร สามารถจัด เป็นโต๊ะทำงาน L-shape แบบในห้องตัวอย่างนี้ได้สบายเลยค่ะ หรือหากอยู่ด้วยกัน 2 คนก็สามารถจัดเป็นโต๊ะทำงานที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อย 2 ตัว วางคนละด้านก็ยังได้นะ

ระเบียงขนาด 1.6×0.9 เมตร สามารถวางราวตากผ้าได้ โดยในห้องมาตรฐานจะมีการวางระบบรองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้า และมีปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำมาให้ครบเลย ส่วนวัสดุต่างๆ พื้นระเบียงจะใช้เป็นกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30×30 ซม. สีเทา ทำความสะอาดได้ง่าย มีไฟผนังมาให้ 1 จุด ส่วนด้านบนแขวน Condensing units พร้อมมีระแนงบังสายตามาให้ ดูเรียบร้อยดี

1 Bedroom Plus ขนาด 37.8 – 39.2 ตร.ม.

1 Bedroom Plus ขนาด 37.8 – 39.2 ตร.ม. เป็นห้องใหญ่ที่จัดฟังก์ชันมาได้อยู่สบายมากยิ่งขึ้น อยู่อาศัยได้ 2-3 คนสบายๆ ภายในโครงการมีจำนวนไม่เยอะมาก 123 ยูนิต ถ้าหากคำนวณจากราคาเฉลี่ยทั้งโครงการแล้ว ห้องนี้ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 2.65 ล้านบาทค่ะ สำหรับจุดที่น่าสนใจมีดังนี้

• ห้องหน้ากว้าง ที่จัดให้พื้นที่พักผ่อนอย่างห้องนอน และห้องอเนกประสงค์ อยู่ติดริมหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติ และระบายอากาศได้ดี เหมาะต่อการอยู่อาศัย
• Common area ขนาดใหญ่ ที่รวมเอาพื้นที่ครัว พื้นที่ทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่นเอาไว้ด้วยกัน พร้อมหน้าต่างกระจกบานเลื่อนสูงเต็มบานเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ ทำให้ได้แสงธรรมชาติเยอะ ดูโล่งกว้างค่ะ
• ห้องอเนกประสงค์ ขนาด 2.8×2.7 เมตร ขนาดค่อนข้างใหญ่ เชื่อมต่อได้จาก Common area สามารถปรับเป็นห้องทำงาน หรือเป็นห้องนอนอีกห้องก็ทำได้ค่ะ
• ห้องนอนกั้นแยกเป็นส่วนตัว ภายในห้องสามารถวางเตียง 5 ฟุต โต๊ะทำงาน และ ตู้เสื้อผ้าได้ อีกทั้งอยู่ในตำแหน่งใกล้กับห้องน้ำ สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี
• ห้องน้ำอยู่ติดกับส่วนครัว แยกเป็นส่วน Service อยู่ด้วยกันเลย เข้าใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องผ่านห้องนอน
• Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ และ Built-in ดังนี้

สำหรับห้องนี้ ได้เฟอร์นิเจอร์ และ Built-in เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลย แต่จะได้ตู้อเนกประสงค์ที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อย และโต๊ะกินข้าวพร้อมเก้าอี้ 4 ตัวเพิ่มมาค่ะ

เข้าห้องมาแล้วเราจะเจอกับ Common area ดูโปร่งโล่ง ด้านในฝั่งขวาเป็นห้องอเนกประสงค์ ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นส่วนครัว ห้องนอน และห้องน้ำด้านในสุดค่ะ

ผนังด้านขวาของประตูทางเข้าติดตั้ง หน้าจอควบคุมระบบ Smart Home และหน้าจอควบคุม Bluetooth Sound System มาให้อยู่บริเวณเดียวกันเลยค่ะ ใช้งานได้สะดวกดี

Common area เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่รวมเอาพื้นที่ครัว พื้นที่ทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่นเอาไว้ด้วยกัน พร้อมหน้าต่างกระจกบานเลื่อนสูงเต็มบานเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์ด้านใน ทำให้ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างเยอะ ดูโล่งกว้างค่ะ

พื้นที่ทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นตรงนี้มีขนาด 3.5×2.6 เมตร ค่อนข้างกว้างทีเดียว ภายในห้องมาตรฐานจะไม่ได้เฟอร์นิเจอร์แบบนี้นะคะ แต่จะได้เป็นชุดโซฟา 2 ที่นั่ง และชุดโต๊ะทานอาหาร 4 ที่นั่งแทน

สำหรับพื้นที่ทานอาหาร จะอยู่บริเวณด้านข้างโซฟา สามารถจัดวางโต๊ะชิดผนังด้านหนึ่งโดยมีทางเดินเหลือด้านข้างได้สบายเลยค่ะ

ถัดมาเป็นส่วนนั่งเล่น จัดวางโซฟาชิดผนัง และประตูกระจกบานเลื่อนด้านหนึ่ง และตู้วางทีวีทีวีแล้ว ยังเหลือพื้นที่ทางเดินตรงกลางค่อนข้างกว้าง วางโต๊ะกลางได้สบายเลยค่ะ สำหรับระยะดูทีวีตรงนี้สามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-55 นิ้วได้เลยนะ

ห้องอเนกประสงค์มีขนาด 2.8×2.2 เมตร สามารถจัดเป็นห้องต่างๆได้ตามใจชอบเลย หากอยู่ด้วยกัน 2 คนสามารถจัดเป็นชุดโต๊ะทำงานขนาดใหญ่แยกกัน 2 ฝั่งได้สบาย เป็นสัดส่วน อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นได้โดยตรง สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดีเลย หรือจะจัดเป็นห้องนอนอีกห้องก็ยังได้ สามารถวางเตียง 3.5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าเล็กๆ ได้สบาย แนะนำให้ติดม่าน หรือ Sticker ขุ่นเพิ่มเติม เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะคะ

กลับมาดูส่วนครัวกันบ้าง ตรงนี้มีลักษณะเป็นโถงเล็กๆ แยกเป็นส่วน Service อย่างครัว และห้องน้ำอยู่บริเวณเดียวกันดูเป็นสัดส่วนดี อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับประตูห้องนอน ทำให้ห้องนอนใช้งานร่วมกับห้องน้ำได้ต่อเนื่องกันดีเลยค่ะ

ชุดครัวจะได้เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I กว้าง 1.1 เมตร  ได้เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง และด้านบน พร้อมติดตั้ง Backsplash มาให้ครบเหมือนห้องก่อนหน้าเลยค่ะ ส่วนระยะหน้าเคาน์เตอร์อยู่ที่  1.2 เมตร เดินสวนกันได้สบาย สำหรับใครที่ทำครัวเป็นประจำ แนะนำให้ติดตั้งที่ดูควันเพิ่มเติม เพื่อช่วยระบายอากาศได้ดียิ่งขึ้นนะคะ

สำหรับชุดครัวมีการปรับแก้แบบ หากได้ข้อมูลเพิ่มเติมทางเราจะรีบมาอัพเดทให้นะคะ*

ตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นประตูทางเข้าห้องนอน ส่วนด้านในสุดฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ซึ่งด้านข้างตรงนี้มีพื้นที่เก็บของได้ ซึ่งตรงนี้ภายในห้องมาตรฐานจะไม่ได้เป็นแบบนี้นะ จะได้เป็นชุดตู้เก็บของอเนกประสงค์มาให้แทนค่ะ

ห้องน้ำ แบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน โดยประตูทางเข้าห้องน้ำก็จะมีขอบธรณีกันน้ำไหลย้อนเช่นกัน ส่วนการจัดฟังก์ชันภายใน เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนอ่างล้างหน้า ขวามือเป็นโถสุขภัณฑ์ ส่วนด้านซ้ายเป็นพื้นที่อาบน้ำค่ะ สำหรับวัสดุพื้นและผนังภายในห้องน้ำ ใช้เป็นกระเบื้องเซรามิก 30×30 ซม. ส่วนอุปกรณ์ และสุขภัณฑ์ต่างๆ เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.85×0.85 เมตร พอดีๆ พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกจาก Shower King มาให้ด้วยเช่นกัน สำหรับห้องนี้จะได้ชั้นวางของที่ผนังด้านข้างมาให้ด้วย สามารถวางอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ ได้เป็นสัดส่วนดีค่ะ

มาต่อกันที่ส่วนห้องนอนกันบ้าง เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอเป็นโถงเล็กๆ ก่อน ไม่ได้เปิดไปแล้วเห็นเตียงได้ตรงๆ ได้ความเป็นส่วนตัวดีเลยค่ะ

ห้องนอนมีขนาด 2.5×3.75 เมตร ภายในห้องตัวอย่างวางเตียงกลางห้องแบบมีทางเดินได้โดยรอบสบายๆ พร้อมมีโต๊ะหัวเตียงฝั่งซ้าย และชุดโต๊ะทำงานฝั่งขวาไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ

พื้นที่ปลายเตียง Built-in เป็นตู้เสื้อผ้ามาให้ แบบเดียวกับห้องก่อนหน้าเลย ซึ่งตรงนี้จะมีระยะหน้าตู้เหลือประมาณ 1 เมตร ยืนแต่งตัวได้สบายเลยค่ะ

มาดูที่ผนังด้านข้างเตียงอีกฝั่งกันบ้าง ตรงนี้จะมีพื้นที่แบบ Bay Window และประตูกระจกเชื่อมต่อกับส่วนระเบียงได้ค่ะ

ส่วน Bay Window มีขนาด 2×0.8 เมตร สามารถจัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติมได้สะดวกเลยค่ะ เพราะอยู่ติดริมหน้าต่างได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดี อีกทั้งยังมีหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศเพิ่มเติมได้ด้วย หากจัดเฟอร์เหมือนในห้องตัวอย่างจะเหลือพื้นที่ให้ดึงเก้าอี้เข้า-ออก แบบพอดีๆ หน่อย ซึ่งตรงนี้ใครอยากได้พื้นที่กว้างหน่อยก็สามารถจัดเตียงชิดผนังด้านในได้ค่ะ

ระเบียงขนาด 1.6×0.95 เมตร  มี Condensing units แขวนด้านบน และวางที่พื้นด้านล่าง ตรงนี้หากต้องการวางเครื่องซักผ้า แนะนำให้แขวน Condensing units ที่ผนังทั้งหมดแทนนะคะ สำหรับห้องมาตรฐานบริเวณระเบียงจะมีการวางงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้ามาให้ด้วยเช่นกัน แต่ตัวระเบียงจะมีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด แนะนำให้ใช้เป็นแบบราวตากผ้าติดผนังแทนจะสะดวกกว่า ส่วนวัสดุต่างๆ เป็นแบบเดียวกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

1 Bedroom 

1 Bedroom ขนาด 24.1 – 24.5 ตร.ม. เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องเริ่มต้นขึ้นมาอีกหน่อย อยู่สบายมากยิ่งขึ้น ส่วนการจัดแปลนห้องคล้ายกับแบบเริ่มต้นเลย แต่จะได้ครัวเปิด ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนนั่งเล่น ส่วนห้องนอนจะกั้นแยกจากส่วนนั่งเล่น ด้วยเปิดประตูกระจกบานเลื่อนทำให้ ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นสามารถใช้งานพร้อมกันทั้งสองฟังก์ชันได้เลย สำหรับห้องนี้หากอิงจากราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการแล้ว จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1.7 ล้านบาทค่ะ

1 Bedroom Exclusive

1 Bedroom Exclusive ขนาด 28.1 – 29.2 ตร.ม. เป็นห้องใหญ่ที่มีจำนวนค่อนข้างเยอะเลย สำหรับห้องนี้หากอิงจากราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการแล้ว จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1.97 ล้านบาทค่ะ

จุดเด่นของห้องนี้คือ เป็นห้องหน้ากว้าง ได้ช่องเปิดหลายจุด การจัดฟังก์ชันภายในห้องแยกส่วนพักผ่อน และส่วน Service ชัดเจนเป็นสัดส่วนดี มีห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่สามารถจัดเป็นโซฟานั่งเล่น และพื้นที่ทานอาหารร่วมกันได้สบาย ส่วนห้องนอนจะอยู่ติดริมหน้าต่าง ภายในห้องจะได้ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง และที่พิเศษคือ ห้อง Type นี้จะได้ฐานเตียงเดี่ยว 2 เตียงมาเลย ใช้งานได้สะดวก อยู่กัน 2 คนก็ไม่ต้องกลัวเวลานอนดิ้นแล้วเพื่อนจะตื่นเลยค่ะ

ส่วน Service ก็ได้ครัวแบบปิดติดระเบียง ใช้งาน ร่วมกัน ได้สะดวก เปิดระบายอากาศได้ง่าย ทำอาหารได้จริงจัง อีกทั้งห้องน้ำยังอยู่ใกล้กับส่วนครัว ทำให้เปิดประตูระบายอากาศผ่านครัวและระเบียงได้อีกทางหนึ่งด้วย

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

Kave Town Island ราคา ณ วันที่ 7 มีนาคม 2567

• 1 Bedroom Special ขนาด 22.2 – 24.3 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.49 ล้านบาท*(Promotion)
• 1 Bedroom ขนาด 24.1 – 24.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น N/A ล้านบาท
• 1 Bedroom Exclusive ขนาด 28.1 – 29.2 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น N/A ล้านบาท
• 1 Bedroom Plus ขนาด 37.8 – 39.2 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น N/A ล้านบาท
• 1 Bedroom Smart Pool ขนาด 36.3 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น N/A ล้านบาท
• 1 Bedroom Extra Pool ขนาด 36.4 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น N/A ล้านบาท
• รูปแบบการขาย Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Shuttle Service วิ่งไป-กลับ ปั๊มน้ำมันบางจาก ติดถนนพหลโยธิน (โปรดสอบถามข้อมูลจากทางโครงการอีกครั้ง*)
• จอง + ทำสัญญา แล้วแต่ Type ห้อง เริ่มต้น จอง 5,000 บาท สัญญา 10,000 บาท
• ดาวน์เริ่มงวดละ 1,900 ผ่อนดาวน์ 18 งวด
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 49 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : โครงการตั้งอยู่ใกล้ ม.กรุงเทพ รังสิต ถัดไปจากซอยรังสิตภิรมย์ ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับมหาลัย ทำให้สามารถเดินไปเรียนได้ง่าย อีกทั้งภายในซอยยังมีความอุดมสมบูรณ์สูง มีคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Mingle Mall ซึ่งภายในก็มีร้านค้า ร้านอาหาร ฟู้ดคอร์ท และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ใช้งานครบ ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารการกินเลยค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ : ค่อนข้างสะดวกเนื่องจากโครงการอยู่ใกล้ถนนใหญ่อย่าง ถนนพหลโยธิน แต่สำหรับการขับรถไปมหาลัย จะต้องขับรถ U-turn ค่อนข้างไกล และต้องกลับรถหลายรอบ รวมเป็นระยะทางประมาณ 8.6 กม. แต่ขากลับก็ถือว่าสะดวกมากทีเดียว ออกจากมหาลัยไปนิดเดียวก็ถึงซอยโครงการเลยค่ะ นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่มีทางด่วนให้ใช้เข้า-ออกเมืองได้หลากหลายเส้นทางทั้ง ทางด่วนอุดรรัถยา, ทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์, ถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอก ส่วนที่จอดรถภายในโครงการมีประมาณ 535 คัน คิดเป็น 37% (รวมซ้อนคัน) อาจจะดูไม่ได้เยอะมาก แต่ถือว่าโอเคเลย สำหรับคอนโดที่เจาะกลุ่มนักศึกษาบนทำเลใกล้มหาลัย พร้อมมี Shuttle Service รับ-ส่ง ให้เดินไปเรียนต่อได้สบายๆ ค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : สำหรับการเดินทางไปยัง ม.กรุงเทพ ถือว่าสะดวกสบายเลยค่ะ ถึงแม้โครงการตั้งอยู่ในซอยซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคล ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 700 เมตร แต่ทางโครงการก็ได้จัดให้มีรถรับ-ส่งมาให้ที่บริเวณปากซอย ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษาได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากปากซอย ห่างจากมหาลัยเพียง 170 เมตร เดินได้สบายค่ะ อีกทั้งในซอยบริเวณด้านหน้าโครงการเองก็จะมีวินมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ คอยรับส่งนักศึกษาอยู่ด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่คณะอยู่ไกลหน่อยก็สามารถเรียกใช้บริการกันได้ค่ะ

ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะอื่นๆ บนถนนพหลโยธินเองก็จะมีรถสาธารณะให้นั่งเข้า-ออกเมืองได้เยอะพอสมควรเลย ทั้งรถเมล์ รถแท็กซี่ และรถสองแถว ซึ่งป้ายรถเมล์ก็จะอยู่ตรงหน้ามหาลัยเลยค่ะ

วัสดุ : ขายแบบ Fully Furnished  ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆ ในห้องมาครบ พร้อมติดตั้งแอร์แบบ Wall Type จาก Daikin มาให้ด้วย นอกจากนั้นยังได้ Home Automation และ Bluetooth Sound System มาให้ด้วย สิ่งที่ต้องหาเพิ่มเติมก็จะมีพวก ชุดเครื่องนอน หมอนฟูก ผ้าม่าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ก็สามารถหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ หรือปล่อยเช่าได้ทันที

ส่วนวัสดุต่างๆ ในห้องก็ตามมาตรฐาน พื้นเป็นกระเบื้องยางไวนิลที่ทนความชื้นได้ดี / Top เคาน์เตอร์ครัวหินสังเคราะห์ / สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำได้มาหลากหลายยี่ห้อเลยอ่างล้างหน้า + ก๊อกน้ำ COTTO, โถสุขภัณฑ์ MARVEL, Fitting อื่นๆ จาก Prema พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจก Shower King / ระยะฝ้าเพดาน 2.4 เมตร ตามมาตรฐานคอนโด Low Rise ทั่วไปเลยค่ะ

การออกแบบโครงการ : ถือเป็นโครงการใหญ่สุดของ Kave town เลยค่ะ มีจำนวนถึง 1,770 ยูนิต ส่วนการออกแบบโครงการถือว่าทำออกมาได้ดีเลย เพราะมีการ แบ่งอาคารออกเป็น 2 โซน บวกกับมีการแยก Lobby และ Delivery Station ที่เป็นจุดส่งของ แยกเป็นของแต่ละอาคารชัดเจน เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลจัดการอีกด้วย ส่วนการวางผังอาคารของแต่ละโซนจะออกแบบให้ตัวอาคารโอบล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ ทำให้ห้องพักอาศัยด้านใน ได้วิวสวนสีเขียว และสระว่ายน้ำสวยๆ อีกด้วยค่ะ

การออกแบบห้องพัก : มีให้เลือกถึง 6 แบบ โดยจะเน้นเป็นห้องที่เหมาะสำหรับนักศึกษาอยู่อาศัย 1 – 2 คนเป็นหลัก หรืออยู่กันแบบรูมเมท แชร์ห้องอยู่ร่วมกันได้สะดวก นอกจากนั้นยังมีห้อง 1 Bedroom Plus ที่มีห้องอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ สามารถจัดเป็นห้องทำงาน หรือนอนอีกห้องก็ยังได้ให้เลือกด้วยค่ะ

ส่วนการจัดฟังก์ชันภายในห้องก็ถือว่าลงตัว โดยห้องขนาดเริ่มต้น 2 แบบแรก จะเน้นในส่วนพื้นที่พักผ่อน มีการกั้นแยกห้องนอนได้เป็นสัดส่วนดี เหมาะสำหรับน้องๆ นักศึกษาที่ไม่ได้ทำงานอยู่ห้องมากนัก ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง ทานอาหารที่มหาลัย หรือนอกบ้านเป็นหลัก เพราะไม่มีการจัดส่วน ทานอาหารไว้ให้ แต่สำหรับใครที่ชอบทำงานอยู่ห้องบ่อยๆ ก็สามารถเลือกห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย เพื่อให้สะดวกยิ่งขึ้นได้ ภายในห้องมีส่วนทานอาหาร ที่มีครัวแบบปิดติดระเบียง อีกทั้งยังมีห้องที่ได้เตียงเดี่ยวแยกมาเลยด้วย เหมาะสำหรับการอยู่ร่วมกันเป็นรูมเมทได้สบายเลยค่ะ

สาธารณูปโภค : มีส่วนกลางให้ใช้งานเยอะ หลากหลายจัดเต็มกว่า 50 ฟังก์ชัน  แบ่งเป็น 2 โซน กระจายตัวอยู่ทั่วโครงการ และมีอยู่ทุกอาคาร ทำให้ลูกบ้านสามารถเข้าถึงได้ง่าย และใช้ได้ทุกจุดโดยที่โซนห้องพักอาศัยจะไม่เสียความเป็นส่วนตัว เพราะมีการกั้นแยกโซนกันชัดเจนเป็นสัดส่วน โดยส่วนกลางจะเน้นเป็นฟังก์ชันที่รองรับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น วัยนักศึกษา มีกิจกรรมให้ทำเยอะ ไม่มีเบื่อเลยค่ะ อีกทั้งยังออกแบบมาหลากหลายสไตล์ สวยงามน่าใช้งานดี สามารถใช้ชีวิตอยู่ภายในโครงการได้ครบ ไม่ต้องเสียเวลาออกไปด้านนอกเลยค่ะ สำหรับภาระค่าส่วนกลางอยู่ที่ 49 บาท/ตร.ม./เดือน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 70,000 บาท/ตร.ม., 7 มีนาคม 2567

• ทำเล 8.25/10 – อยู่ฝั่งเดียวกับ ม.กรุงเทพ เดินไปเรียนจากปากซอยได้ หาของกินได้ง่าย
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ใกล้ถนนใหญ่ มีทางด่วนหลากหลาย ใช้เข้า-ออกเมืองได้สะดวก
• ไม่ใช้รถ 7.75/10 – มีรถรับ-ส่งมาหน้าปากซอย มีรถสาธารณะให้เรียก
• วัสดุ 8.75/10 – ขายห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์หลักๆ ครบ + มี Home Automation มาให้ด้วย
• แบบ 8/10 – ยูนิตเยอะแต่มีการแบ่งเป็น 2 โซน เพื่อให้ดูแลได้ง่าย การวางผังโอบล้อมส่วนกลาง ห้องพักจัดฟังก์ชันลงตัว เน้นสำหรับอยู่อาศัย 1 – 2 คน
• สาธารณูปโภค 9.25/10 – ส่วนกลางหลากหลาย จัดเต็มกว่า 50 ฟังก์ชัน ออกแบบมาได้สวยงามน่าใช้งาน

• MAIN CLASS
• 8.25 / 10.00

Kave Town Island เหมาะกับใคร

โครงการ Kave Town Island เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดสำหรับลูกหลานที่เรียนอยู่ ม.กรุงเทพ หรือเป็นบุคลากรที่ทำงานอยู่ในละแวกนี้ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่กำลังมองหาคอนโดเพื่อปล่อยเช่า หาของกินได้ง่าย ไปเรียน หรือไปทำงานได้สะดวก มีรถรับ-ส่งมาหน้าปากซอย เดินไปต่อได้ใกล้ๆ ต้องการห้องพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ ชอบใช้พื้นที่ส่วนกลาง มีงบประมาณ 1.5-3 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนอยู่ที่ 10,500-21,000 บาทต่อเดือน

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc