รีวิวโครงการ

คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.522 – รีวิวคอนโด Knightsbridge Space สุขุมวิท-พระราม4

19 กันยายน 2020

อ่านรีวิวล่าสุด

รีวิวฉบับที่ 2113 …  KnightsBridge Space สุขุมวิท – พระราม 4 เป็นคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ จาก Origin ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 4 ช่วงใกล้กับถนนสุขุมวิท เหมาะกับคนที่ต้องการใช้รถไฟฟ้า เพราะห่างจากสถานีพระโขนงประมาณ250 เมตร ถือว่าเดินไม่ไกล โครงการนี้ห้องพักอาศัยเค้าทำออกมาเป็นห้องแบบฝ้าเพดานสูงมีชั้นลอย (LOFT) ทั้งหมดเลยค่ะ และภายในห้องยังได้พื้นที่ครัวปิดและห้องนอนเป็นสัดส่วน ในราคาเริ่มต้น 4.29 ล้านบาท ไปชมรายละเอียดกันเลยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4) ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2563

 ชื่อโครงการ  KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4 (ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4)
 ชื่อผู้ประกอบการ  บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS  UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2020 )
 โครงการตั้งอยู่  ถนนพระรามที่ 4 เขต คลองเตย
 ที่ดิน  1-2-45.2 ไร่
 ประเภทคอนโด  High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร
 จำนวนยูนิต  380 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต
 ยูนิตต่อชั้นสูงสุด   18 ยูนิตต่อชั้น (สูงสุด 9 ยูนิตต่อโซน)
 ที่จอดรถ  n/a คัน คิดเป็น 60 %
 เริ่มก่อสร้าง  Q1 ปี 2564
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ  Q1 ปี 2567
 ประเภทห้องพัก
  • 1 Bedroom LOFT Innovative Plan ขนาด 24-27 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 35 – 39 ตารางเมตร)
  • 1 Bedroom LOFT Universal Plan ขนาด 34.90 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 48.50 ตารางเมตร)
  • 2 Bedroom LOFT Superior House Plan (1 Bath) ขนาด 34.70 – 34.9 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 43 ตารางเมตร)
  • 2 Bedroom LOFT Suite House Plan (2 Bath) ขนาด 46 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 61 ตารางเมตร)
  • 2 Bedroom LOFT Penthouse Plan (2 Bath) ขนาด 58.60 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น n/a ตารางเมตร)

 ฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร (ชั้น 1 ประมาณ 2.05 เมตร / ชั้นลอย ประมาณ 2.00 เมตร)
 ราคาเริ่มต้น 4.xx ล้านบาท (1 Bedroom LOFT : Innovative Plan) / หรือตร.ม.ละ 122,000 บาท (รวมพื้นที่ชั้นลอย)
 ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ  ประมาณ 140,000 บาท/ตร.ม. (รวมพื้นที่ชั้นลอย)
 ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด)  n/a
 EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม)  อยู่ระหว่างการประเมิน
 เว็บไซต์โครงการ www.park.co.th/knightsbridge-space-rama9
 Call Center 063-196-0333

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มค่ะ

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.713234, 100.591576
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

ทำเลพระราม 4 เป็นทำเลเก่าแก่ที่มีผู้คนอยู่อาศัยมายาวนาน ปัจจุบันก็มีความเจริญมีอาคารพาณิชย์และอาคารสำนักงานมากขึ้น อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับแหล่งธุรกิจอย่างสาทร สีลม สุขุมวิทชิดลม เอกมัย เป็นต้น การเดินทางในทำเลนี้จึงค่อนข้างครบครัน ทั้งรถไฟฟ้า รถประจำทาง วินมอเตอร์ไซค์ แท็กซี่ ก็เรียกใช้บริการได้ง่าย

โครงการ KnightsBridge Space สุขุมวิท – พระราม 4 มีทางเข้า-ออกอยู่ติดกับถนนพระรามที่ 4 ช่วงใกล้กับถนนสุขุมวิท ทำให้อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้าสถานีพระโขนง ระยะเดินเพียง 250 เมตรค่ะ เดินได้สบายๆเลย ในเรื่องของการเดินทางด้วยรถยนต์ในทำเลนี้เหมาะกับการใช้ถนนทั้งเส้นพระรามที่ 4 ไปยังคลองเตย สวนลุมพินี สีลม สาทร ได้ง่าย และถนนเส้นสุขุมวิทไปทางเอกมัย ชิดลม สยาม หรือออกเมืองไปทางอ่อนนุช บางนาได้

สำหรับใครที่ใช้ทางด่วน ทำเลนี้ถือว่าเดินทางสะดวกมากๆค่ะ สามารถขึ้นทางด่วนได้ 2 เส้นทาง คือ ทางพิเศษฉลองรัช ห่างจากโครงการประมาณ 1.8 กิโลเมตร ทางขึ้นอยู่ตรงสะพานข้ามคลองพระโขนง เลยสุขุมวิท 71 ไปเล็กน้อย และอีกเส้นทางคือทางพิเศษฉลองรัช ออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายเข้าแยกกล้วยน้ำไท ขึ้นทางพิเศษฉลองรัช ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรเท่านั้น

แต่ก่อนความเจริญสูงสุดของถนนสุขุมวิทจะอยู่ที่ พร้อมพงษ์ ทองหล่อ และมาสิ้นสุดที่เอกมัย จากนั้นก็จะกระโดดข้ามไปอ่อนนุชเลย ในย่านพระราม4 ความอุดมสมบูรณ์ของทำเลแต่เดิมจะเป็นช่วงตลาดคลองเตย และ K Village แต่ปัจจุบันนี้ก็มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนะคะ มี Community Mall อย่าง Summer Hill และ W District ที่เต็มไปด้วย ร้านอาหาร ร้านกาแฟ Supermarket และ ฟิตเนส ในระยะที่เดินไปได้สบายๆ (ไม่เกิน 300 เมตร) สามารถแวะจับจ่ายใช้สอย หรือหาของกินกันก่อนกลับบ้านได้ง่าย

เลยทำให้ทำเลนี้กลายเป็นอีกย่านที่คึกคักและสะดวกสบาย เหมาะแก่การอยู่อาศัยมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ Developer หลายๆเจ้า เริ่มให้ความสนใจมาเปิดโครงการในทำเลนี้กันอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าเรามองทำเลเพื่อนบ้านอย่างเอกมัย-ทองหล่อ ก็เป็นย่านที่มีราคาค่อนข้างสูง ส่วนอ่อนนุชที่เคย Hot มาก่อนหน้านี้ตอนนี้ ก็เริ่มหนาแน่นมากขึ้นแล้วเหมือนกัน ดังนั้นย่านพระโขนงจึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ของคนที่อยากได้ทำเลที่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก เดินทางสะดวก และอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การอยู่อาศัย

นอกจากนั้นยังใกล้กับ ซอยสุขุมวิท 71 ซอยเอกมัย ทองหล่อ ที่มี Community Mall, Hyper Market อย่าง Max Valu , Makro Food Service, Big C ให้เลือกเยอะเลย ในทำเลถนนพระราม 4 เองจะมีร้านอาหารอยู่ข้างทางบ้างแต่ส่วนใหญ่จะเปิดตอนกลางคืนค่ะ อีกจุดหนึ่งคือโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทซึ่งจะมีโรงอาหารของโรงพยาบาล ร้านกาแฟ Amazon ร้านสะดวกซื้อ 7-eleven เป็นต้น

การเดินทางเริ่มจากสถานีรถไฟฟ้า BTS พระโขนง ระยะทางประมาณ 250 เมตร เป็นระยะที่เดินได้สบายและมีทางเท้าจนถึงโครงการเลยค่ะ แต่อาจจะอากาศร้อนสักหน่อยถ้าเดินในตอนกลางวัน บรรยากาศจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยค่ะ

เส้นทางการเดินทาง

Image 1/17
เริ่มจากสถานีพระโขนง ในเราออกทางออกที่ 4 ค่ะ

เริ่มจากสถานีพระโขนง ในเราออกทางออกที่ 4 ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ KnightsBridge Space สุขุมวิท – พระราม 4 ในระยะใกล้ๆส่วนใหญ่เป็นอาคารแถวดั้งเดิมสองข้างทางถนนพระรามที่ 4 แต่ในระยะใกล้เคียงก็จะมีทั้งอาคารพาณิชย์ ที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงหลายแห่ง ทำให้บรรยากาศทำเลค่อนข้างคึกคัก มีคนเดินอยู่ตลอดโดยเฉพาะช่วงเวลาเช้า-เย็น

วิวที่ได้จะเป็นวิวเมือง มองเห็นได้รอบทิศทาง ยกเว้นทางทิศตะวันออกจะเจอกับอาคารสูงที่ใกล้ที่สุดคือ คอนโดมิเนียมสูง 17 ชั้น ระยะห่างประมาณ 45 เมตร ในชั้น 20 ขึ้นไปจากโครงการสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตกและทิศใต้ได้ค่ะ

  • ทิศเหนือ –ติดกับ ถนนพระรามที่ 4
  • ทิศใต้ – ติดกับ บ้านพักอาศัย สูง 2 ชั้น
  • ทิศตะวันออก – ติดกับ ซอยภูมิจิตร
  • ทิศตะวันตก – ติดกับ อาคารพักอาศัยสูง 2 ชั้น

บรรยากาศช่วงต้นซอยภูมิจิตร ที่ติดกับโครงการทางทิศตะวันออก สามารถเรียกวินมอเตอร์ไซค์ได้สะดวกค่ะ

บรรยากาศด้านในซอยภูมิจิตร ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบสูง 2-3 ชั้น

ด้านหลังโครงการทางทิศใต้ เป็นอาคารพักอาศัยสูง 2-3 ชั้น

ฝั่งตรงข้ามกับโครงการทางทิศตะวันออก เป็นอาคารที่อยู่อาศัย 2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ 

  • Summer Hills / Summer hub ~ 180 m.
  • BTS พระโขนง ~ 250 m.
  • W District ~ 300 m.
  • รพ.กล้วยน้ำไท ~ 550 m.
  • รพ.สุขุมวิท ~ 1.1 km.
  • Gateway เอกมัย ~ 1.2 km.
  • BTS เอกมัย ~ 1.2 km.
  • Major สุขุมวิท ~ 1.5 km.
  • Big C อ่อนนุช ~ 1.6 km.
  • Park Lane ~ 1.9 km.
  • Big C เอกมัย ~ 2.1 km.
  • สวนเพลิน มาร์เก็ต ~ 2.2 km.
  • Emporium & EmQuartier ~ 3.3 km.
  • Terminal 21 ~ 4.6 km.
  • สวนลุมพินี ~ 5.6 km.

รายละเอียดโครงการ

โครงการ KnightsBridge Space สุขุมวิท – พระราม 4 เป็นคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 380 ยูนิต และร้านค้า 1 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1-2-45.2 ไร่ มีทางเข้า-ออกติดถนนพระราม 4

ตัวอาคารออกแบบด้วยแนวคิด Form of Light For Living ได้แรงบันดาลใจจากการตกกระทบและหักแหของแสง โดยการยื่นกระจกออกมาเพิ่มมุมมองให้กับห้องพักอาศัย และทำให้รูปทรงของอาคารมีมิติมากขึ้น ซึ่งทาง Origin ได้เคยทำมาไว้ที่ห้องมุมของโครงการ Park Origin จุฬา – สามย่านและได้รับผลตอบรับดี โครงการนี้จึงนำมาใช้ภายในห้องหลักๆเกือบทุกยูนิตเลยค่ะ

โครงการ KnightsBridge Space สุขุมวิท – พระราม 4 ด้านหน้าจะติดกับถนนพระราม 4 เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่สวนแบ่งออกเป็น 3 โซน เพื่อเพิ่มความร่มรื่นและเป็นมุมพักผ่อนก่อนจะเข้าไปยังด้านในโครงการ ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ส่วนพักคอย และสวนเป็นหลักค่ะ

ชั้น 2-7 จะเป็นชั้นจอดรถทั้งหมด  รอบๆอาคารไม่มีอาคารสูงในระยะประชิด ส่วนใหญ่อาคารข้างเคียงมีระดับต่ำกว่าชั้นพักอาศัยที่เริ่มต้นในชั้น 8 ยกเว้นทิศตะวันออกที่จะเจอกับโครงการ สุขุมวิท พลัส สูง 17 ชั้นในระยะประมาณ 45 เมตรค่ะ

ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 8 ไปจนถึงชั้น 27 และคั่นด้วย Sky Facilities เชื่อมต่อกัน 2 ชั้น (ชั้น 28 – 29) มองเห็นวิวได้รอบด้าน ฝั่งด้านหน้าโครงการมองเห็นวิวเมืองบนถนนสุขุมวิท มองไปทางเอกมัยและด้านหลังอาคารตั้งแต่ชั้น 20 เป็นต้นไปสามารถมองเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาได้ค่ะ ถัดมาที่ชั้น 30 – 32 จะเป็นชั้นพักอาศัย และ Rooftop

รูปด้านอาคารทิศเหนือ, ทิศตะวันออก, ทิศใต้ และ ทิศตะวันตก ตามลำดับ

รูปร่างอาคาร KnightsBridge Space สุขุมวิท – พระราม 4 ในแต่ละด้าน

ทางเข้า-ออกของโครงการอยู่ติดถนนพระรามที่ 4 บรรยากาศด้านหน้าอาคารเป็นพื้นที่สีเขียว 3 โซน ช่วยเพิ่มความร่มรื่น เข้ามาแล้วจะเป็นทางเดินรถทางเดียว วนรอบอาคารทวนเข็มนาฬิกา มีทางเข้าที่จอดรถระบบ Auto Parking ด้านหลังอาคาร และจุด Drop Off ด้านข้างอาคารค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 8 มีพื้นที่สวนเชื่อมต่อกับชั้นพักอาศัย ออกมาชมวิวถนนพระราม 4 และมองเห็นรถไฟฟ้า BTS พระโขนงได้

ด้านหลังอาคารเป็นทางเข้าที่จอดรถระบบอัตโนมัติ รองรับได้ประมาณ 60% ถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะพอสมควร เนื่องจากที่ตั้งของโครงการมีตัวเลือกการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ไปยัง BTS พระโขนงได้สะดวก ประมาณ 250 เมตรซึ่งเป็นระยะที่เดินได้สบายไม่เหนื่อยค่ะ

มาดูผังชั้น 1 กันบ้างค่ะ สำหรับเส้นทางการเดินรถภายในโครงการเราได้กล่าวไปแล้วคือเป็นทาง One way มีทางเข้าช่องจอดรถระบบอัตโนมัติด้านหลังโครงการ และมีจุด Drop Off ที่ด้านข้างทิศตะวันตกของอาคาร ซึ่งมีการออกแบบรองรับวิถีชีวิตแบบ New Normal ในยุคนี้ด้วยการทำทางเข้าแบบ Touchless Entrance ไม่ต้องสัมผัสกับอะไรเลยค่ะ สำหรับคนที่เดินเข้ามาจากถนนพระราม 4 จะสามารถเข้าประตูทางเข้าไปยังส่วน Lobby ด้านหน้าได้เลย

พื้นที่สีเขียวด้านหน้าโครงการแบ่งออกเป็น 3 โซน ดังนี้

  • Secret Garden : มุมนั่งเล่นที่มีความเป็นส่วนตัว
  • Relaxing Courtyard : มุมพักผ่อนสำหรับออกมาเดินเล่น มี Water feature สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
  • Reflection Pavilion : มุมนั่งประชุม หรือทำงานท่ามกลางพื้นที่สีเขียว สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศนั่งทำงานในห้องเบื่อๆ ก็มาใช้งานได้ค่ะ

เข้ามาด้านในอาคารจะเป็นพื้นที่ Sensation Hallway (Lobby) พักคอย และมีพื้นที่ Car Waiting Lounge สำหรับคนที่นั่งรอรถอยู่ใกล้ๆกันค่ะ ด้านใจมีห้อง Business Center สำหรับ นั่งประชุม คุยงาน-ธุรกิจ และสามารถจดทะเบียนธุรกิจได้ด้วยค่ะ

บรรยากาศภายใน Sensation Hallway (Lobby) จะมีการตกแต่งด้วยเส้นแสงโค้ง ทำให้พื้นที่ดูมีมิติเคลื่อนไหว ภายใน Lobby สามารถมองออกไปเห็นวิวพื้นที่สีเขียว ผ่านผนังกระจกตลอดทั้งแนว ร่วมกับมีฝ้าเพดานที่สูงทำให้ดูโปร่ง สบายค่ะ ภายในมีการจัดที่นั่งรองรับสำหรับคนหลายกลุ่ม ได้ความเป็นส่วนตัว

ชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่ชั้น 8 มีห้องพักอาศัยรวม 17 ยูนิต ตัวอาคารถูกออกแบบให้มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางจึงทำให้ทั้ง 2 ฝั่งเป็นโถงทางเดินแบบ Single Corridor มีประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์กับทางเดินหน้าห้องพักอาศัยทำให้ห้องพักได้ความเป็นส่วนตัวและมีความปลอดภัย โดยทางโครงการให้ลิฟต์มา 3 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 126 : 1 ถือว่าพอดีๆ กับโครงการที่เป็นอาคารสูงค่ะ

ห้องพักของโถงทางเดินฝั่งทิศใต้จะมีทั้งหมด 9 ยูนิต และห้องทางทิศเหนือมีฝั่งละ 4 ยูนิตเท่านั้นค่ะ ชั้น 8 นี้ยังมีพื้นที่สีเขียวให้ออกมาเดินเล่นพักผ่อน และเป็นวิวให้กับห้องพักอาศัยทางฝั่งทิศเหนือได้อีกด้วยนะ

ชั้น 9 – 27 เป็น Typical Floor Plan มีจำนวน 18 ยูนิต แบ่งเป็นฝั่งละ 9 ยูนิต ได้ความเป็นส่วนตัวสูง ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่จะมีการออกแบบกระจกยื่นออกมาเพิ่มมุมมองให้เห็นทัศนียภาพได้มากขึ้น และทำให้รูปทรงของตัวอาคารมีมิติค่ะ โดยจะมีห้องที่เป็นกระจกเรียบอยู่แค่ ชั้นละ 4 ยูนิต ทางฝั่งทิศตะวันออกและตะวันตกเท่านั้น ห้องขนาดใหญ่จะอยู่ที่มุมอาคารฝั่งทิศใต้ ซึ่งทางโครงการคาดว่าชั้นที่ 20 ขึ้นไปสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ค่ะ

ชั้น 28 เป็นชั้น Sky Sport Arena จะเน้นเป็นห้องออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ ทั้ง Yoga Studio แยกเป็นสัดส่วน, Aroma Stream สำหรับผ่อนคลายหลังออกกำลังกาย, Weight Training Area, Sphere Bike Battle ห้องปั่นจักรยาน และ Table Tennis ให้มาเล่นกับครอบครัว ชั้นนี้จะมีบันไดเชื่อมต่อกับชั้น 29 ที่เป็นชั้นสระว่ายน้ำค่ะ

ชั้น 28 ภายในออกแบบให้เป็นห้องออกกำลังกายแบบ Indoor มีเครื่องออกกำลังกายหลากหลาย ฝ้าเพดานสูง โปร่ง มองเห็นวิวฝั่งได้กว้างรอบด้าน และมีทางเชื่อมต่อไปยังชั้น 29 ได้

ชั้น 29 เป็นชั้น Facilities ที่เน้นการพักผ่อน แบ่งเป็นห้องต่างๆ ดังนี้

  • Sky River Lounge : ห้องนั่งพักผ่อนชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
  • Private Working Room : ห้องสำหรับคนที่ชอบนั่งทำงานเป็นส่วนตัว
  • Trade Room : ห้องที่มีหน้าจอมอนิเตอร์ สำหรับคนที่สนใจเทรดหุ้น
  • Meeting Room : ห้องประชุม สามารถจองใช้งานเป็นกลุ่มได้
  • Soul Massage & Therapy : ห้องนวดผ่อนคลาย สามารถจ้างหมอนวดขึ้นมาใช้บริการในห้องนี้ได้โดยไม่ต้องพาไปที่ห้องส่วนตัวค่ะ
  • Oxygen Lounge : ห้องพักผ่อน มีเครื่องผลิตออกซิเจนให้เพียงพอที่ร่างกายได้รับแล้วจะสดชื่น

ถัดมาลงบันไดมาเล็กน้อยจะเจอกับสระว่ายน้ำ ระบบโอโซน สามารถฆ่าเชื้อได้ดีและไม่เป็นอันตรายกับผิวหนัง ตัวสระเป็น Infinity Edge Pool ขนาด 25.00 x 5.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร มีมุม Aqua Seat View และโซน Jacuzzi แยกเป็นสัดส่วน

บรรยากาศภายในห้อง Sky River Lounge มีการตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแสงเช่นกัน เน้นการใช้ลายหินโทนสีขาว และมีการเล่นแสงระยิบระยับเป็นฉากด้านหลัง มีช่องแสงขนาดใหญ่มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้

บรรยากาศบริเวณ สระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool ระบบโอโซน จะมีมุมนั่งเล่นภายในน้ำมองเห็นวิวเมืองทางทิศเหนือ และมุม Jacuzzi แยกออกมาไม่รบกวนกันค่ะ

ชั้น 30 – 32 เป็นชั้นห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 7 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้น ซึ่งห้องส่วนใหญ่จะอยู่ทางทิศใต้ ทำให้สามารถมองเห็นวิวเมืองและแม่น้ำเจ้าพระยาได้ ส่วนห้องที่อยู่ทิศเหนือจะเป็นห้องขนาดใหญ่ 1 ยูนิตค่ะ โดยที่ชั้น 32 จะแตกต่างจากชั้นอื่นตรงที่มีทางขึ้น Rooftop ค่ะ ซึ่งไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย ทางโครงการมีประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์และทางเดินหน้าห้องพักอาศัยมาให้เรียบร้อย

ชั้น Rooftop มีการเล่นระดับเล็กน้อย ซึ่งชั้นดาดฟ้าจะมีพื้นที่สำหรับวิ่ง Skyline garden & jogging track ขึ้นมาอีกหน่อยจะเป็นพื้นที่ชมวิว Urban View Point และ Outdoor Sky Dinning ขึ้นมาจัดปาร์ตี้ได้ค่ะ

บรรยากาศจำลองบริเวณ Rooftop ทางฝั่งทิศตะวันตก มองเห็นวิวเมืองได้รอบ และที่ Highlight แลยก็คือวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยานั่นเองค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1

  • สวนหย่อม แบ่งเป็น 3 โซน Secret Garden, Reflection Pavilion และ Relaxing Courtyard
  • Business Center
  • Sensation Hallway (Lobby)
  • Car Waiting Lounge

  • ชั้น 28 (Sky Sport Arena)
    • Yoga Studio
    • Aroma Stream
    • Weight Training Area
    • Sphere Bike Battle
    • Table Tennis

  • ชั้น 29 (Sky Sport Arena)
    • สระว่ายน้ำ Infinity Edge Pool ระบบ โอโซน ขนาด 25.00 x 5.00 เมตร ลึก 1.20 เมตร
    • Aqua Seat View
    • Jacuzzi
    • Sky River Lounge
    • Private Working Room
    • Trade Room
    • Meeting Room
    • Soul Massage & Therapy
    • Oxygen Lounge

  • Rooftop
    • Skyline garden & jogging track
    • Sky Cliff
    • Outdoor Sky Dinning
    • Urban View Point

  • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
  • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 126 :  1
  • Service Lift 1 ตัว
  • ที่จอดรถประมาณ n/a คันคิดเป็น 60% ( Auto Parking )
  • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card
  • แบบห้อง

    แบบห้องภายในโครงการ KnightsBridge Space สุขุมวิท – พระราม 4 จุดเด่นของโครงการนี้คือ ห้องพักอาศัยที่เป็นห้อง LOFT ฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตรทั้งหมดทุกยูนิตเลยค่ะ โดยจะแบ่งออกเป็น

    • 1 Bedroom LOFT

    • Type : Innovative Plan ขนาด 24 – 27 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 35 – 39 ตารางเมตร)
    • Type : Universal Plan ขนาด 34.90 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 48.50 ตารางเมตร)

  • 2 Bedroom LOFT
    • Type : Superior House Plan (1 Bath) ขนาด 34.70 – 34.9 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 43 ตารางเมตร)
    • Type : Suite House Plan (2 Bath) ขนาด 46 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 61 ตารางเมตร)
    • Type : Penthouse Plan (2 Bath) ขนาด 58.60 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น n/a ตารางเมตร)

    ภายในห้องพักอาศัยจะได้เป็น Fully Fitted ที่มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in เพิ่มเข้ามาให้ดังนี้

    • ชุดครัว พร้อมเตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน และไมโครเวฟ จาก Teka
    • สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ประกอบ จาก KASCH
    • Smart Mirror
    • ตู้เก็บของ ตู้รองเท้าด้านหน้าห้อง
    • ชั้นวาง TV
    • ตู้เสื้อผ้าในห้องนอน
    • ฐานเตียง 5 ฟุต
    • ห้องเก็บของใต้บันได

    ห้องตัวอย่างห้องแรกเป็นห้อง Type เล็ก ที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการค่ะ ได้วิวเมืองฝั่งถนนพระรามที่ 4 และวิวเมืองฝั่งถนนสุขุมวิท 1 Bedroom LOFT  Innovative Plan ขนาด 27 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 39 ตารางเมตร) เป็นห้องตอนลึก จัดพื้นที่การใช้งานโดยมีห้องครัวและห้องน้ำอยู่ด้านหน้า ส่วนของ Common Area อยู่ติดกับหน้าต่างได้วิวกว้าง แต่จะมีขนาดที่กะทัดรัด

    ห้องครัวและห้องน้ำจอยู่ด้านหน้าห้องค่ะ ได้เป็นครัวปิดเหมือนกันทุกยูนิต เข้ามาภายในจะเจอกับส่วนนั่งเล่น สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 2 ที่นั่งได้ ได้ช่องแสงกระจกเข้ามุมสูงทำให้ห้องดูโปร่ง สว่างมากขึ้น มีพื้นที่เก็บของใต้กับไดมาให้ค่ะ ส่วนชั้นบนเป็นห้องนอนแยกออกมาเป็นสัดส่วนเพราะมีประตูกั้นมาให้แล้วค่ะ

    ห้องนี้เหมาะกับอยู่ 1 – 2 คน ต้องการพื้นที่กะทัดรัดแต่สามารถจัดพื้นที่การใช้งานได้ครบ ชอบช่องแสงกว้าง รับแสงธรรมชาติและมองเห็นวิวได้เยอะ มีห้องนอนแยกเป็นส่วนตัวค่ะ

    ประตูทางเข้าห้องพักอาศัยติดตั้ง Digital Door Lock มาให้จาก Home Shield รองรับการใช้งานได้หลายระบบ ทั้ง Smart Phone , ลายนิ้วมือ, ตั้งรหัส , RF Card และกุญแจ ตัว Digital Door Lock ดีไซน์โค้งมน สีดำเรียบหรูพร้อมมือจับเข้ากันดีค่ะ

    ภายในห้องจะได้พื้นที่ครัวคล้ายกับห้อง 2 Bedroom เลย โดยจะมีที่นั่งฝั่งซ้ายมือ ฝั่งขวาเป็นเคาน์เตอร์ครัวและทางเข้าห้องน้ำค่ะ

    เริ่มจากฝั่งซ้ายเป็นชั้นวางของและพื้นที่นั่งใส่รองเท้ามาให้ ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้านข้างมีช่องสำหรับวางตู้เย็นค่ะ

    พื้นที่เคาน์เตอร์ครัวมีTop เป็นหินเทียมมีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย ชุดครัวจะได้เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน(ระบบดูดอากาศออกด้านนอก) อ่างล้างจาน และไมโครเวฟ จาก Teka ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานค่ะ

    ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย  พร้อม Smart Mirror เปิดเพลง ดูหนังขณะใช้ห้องน้ำได้ อ่างล้างหน้า , สุขภัณฑ์ และ Hand Shower & Rain Shower เหมือนกับห้องอื่นๆ จาก KASCH

    เมื่อเข้ามาในห้องแล้วมองไปยังห้องครัว กั้นปิดด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดเชื่อมต่อพื้นที่ได้กว้างกว่าประตูแบบ 2 ตอนและทำให้ห้องครัวเป็นครัวปิดทำอาหารจริงจังได้ค่ะ

    เข้ามาภายในห้องนี้เป็นพื้นที่ Common Area มีพื้นที่วางชุดโต๊ะรับประทานอาหารได้ 2 ที่นั่งสบายๆ

    ใต้บันไดมีพื้นที่เก็บของมาให้ ใส่ของชิ้นใหญ่ได้ ช่วยบรรเทาปัญหาที่เก็บของน้อยในคอนโดมิเนียมไปได้ค่ะ

    พื้นที่นั่งเล่นจะได้ความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 4.20 เมตร พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนัง เป็นช่องแสงที่มีการหักมุม เพิ่มองศาในการมองเห็นวิว แต่อาจจะเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ามุมได้ยากนิดหนึ่งนะคะ

    ภายในห้องมาตรฐานจะได้ Built-in ชั้นวาง TV มาให้ มีช่องเก็บของด้านล่างมาให้ 6 ช่อง

    ส่วนพื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้อง Ceramic มาให้ทำความสะอาดง่าย วางกระถางต้นไม้ประดับห้องได้นะคะ

    ชั้นลอยมีการกั้นกระจกมาให้แบ่งเป็นสัดส่วน เวลานอนเปิดเครื่องปรับอากาศที่ชั้นบนก็จะไม่เปลืองไฟ และได้ความเป็นส่วนตัวด้วยค่ะ

    ขึ้นมาบนชั้นลอย มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ประมาณ 2.00 เมตร จะเป็นของห้องนอนอย่างเดียวเลยค่ะ ซึ่งห้องมาตรฐานมีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้แล้ว

    ด้านข้างมีตู้เสื้อผ้า Built-in พร้อมลิ้นชักเก็บเครื่องประดับมาให้ด้วยค่ะ

    ห้องนอนจะมีความโปร่งเนื่องจากมีช่องแสงขนาดใหญ่ แสงธรรมชาติเข้ามาได้มากและมองเห็นวิวได้กว้างเช่นกันค่ะ

    มุมมองจากชั้นลอยมองลงไปยัง Common Area ด้านล่าง

    ห้องที่ 2 ที่เราพามาชมคือ ห้อง 1 Bedroom LOFT Universal Plan ขนาด 34.90 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 48.50 ตารางเมตร) จุดเด่นของห้องนี้อยู่ที่พื้นที่ Common Area ที่ค่อนข้างกว้าง สามารถจัดพื้นที่การใช้งานได้ยืดหยุ่น เข้ามาภายในห้องจะมีส่วนครัวและห้องน้ำอยู่ด้านหน้า ฝั่งด้านในติดกับช่องแสงจะเป็นพื้นที่พักผ่อนทั้งหมดค่ะ

    ห้องครัวได้เป็นครัวปิดสามารถทำอาหารได้ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่น เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Common Area ที่สามารถจัดเป็นมุมรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และพื้นที่ทำงานได้ ซึ่งบริเวณนี้จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาเยอะทีเดียว จากช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนังเลยค่ะ ใครที่ชอบห้องเห็นวิวได้เยอะ น่าจะถูกใจเลย

    ทางขึ้นชั้นลอยจะอยู่ติดกับห้องน้ำ ขึ้นมาแล้วเจอกับห้องนอน มีความเป็นส่วนตัวเพราะมีประตูกั้นให้เรียบร้อย พร้อมกับมีห้อง Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วน เหมือนตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่เราเข้าไปแต่งตัวข้างในได้เลย ห้องนี้จะเหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวหรืออยู่ไม่เกิน 2 คน ชอบพื้นที่ Common Area กว้าง ปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานบ่อยๆ เป็นต้น

    เมื่อเข้ามาในห้องแล้วจะเจอกับส่วนครัว ซึ่งเป็นพื้นที่ครัวปิดสามารถทำอาหารจริงจังได้ มีข้อดีคือเวลาเราซื้อของกินต่างๆมาก็สามารถเก็บได้สะดวก ไม่ต้องเดินผ่านส่วนอื่นๆในห้องค่ะ บริเวณครัวจะมีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ประมาณ 2.05 เมตร ปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เหมาะกับห้องครัว ทำความสะอาดง่าย

    เรามาดูฝั่งเคาน์เตอร์ครัวกันก่อนนะคะ ฝั่งนี้จะมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้ามาให้ด้วย ทำให้ใช้งานง่าย ไม่ต้องนำไปวางที่ระเบียงช่วยให้มีพื้นที่ใช้งานที่ระเบียงมากขึ้นด้วยค่ะ และมีช่องเก็บของมาให้ทั้งด้านบนและด้านล่างเลย

    ตัวเคาน์เตอร์จัดพื้นที่มาค่อนข้างลงตัว ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ วัสดุ Top เป็นหินเทียมมีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย ไม่มี Backsplash ติดตั้งมาให้นะคะ แนะนำให้ติดเพิ่มเติมเวลาทำอาหารจะได้ไม่เลอะผนังด้านหลังค่ะ

    ชุดครัวจะได้เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันระบบดูดออกด้านนอกช่วยดูดกลิ่นได้ดี มีอ่างล้างจาน และไมโครเวฟ จาก Teka มาให้ครบชุดเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ

    นอกจากนั้นยังมีการออกแบบรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่คำนึงการใช้งานจริงด้วย ถ้าพื้นที่เตรียมอาหารไม่พอ ก็สามารถดึงลิ้นชักด้านบนสุดออกมาเพื่อเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหาร ไว้วางวัตถุดิบ หรือหั่นผัก ผลไม้ได้

    ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่วางตู้เย็น และชั้นวางของ แบ่งเป็น 2 ตู้สามารถแยกการใช้งานได้ชัดเจน อย่างเช่น ตู้หนึ่งเป็นรองเท้า อีกตู้เป็นชั้นวางกระเป๋า มีช่องวางของเล็กๆ สำหรับแขวนกุญแจ หรือของที่หยิบใช้บ่อยๆได้

    เข้ามาภายในห้องจะปูด้วยพื้นลามิเนตลายไม้ กรอบของบานเลื่อนประตูจะเป็นแบบฝังพื้นทำให้ค่อนข้างเรียบ เดินแล้วไม่เจ็บเท้าค่ะ

    เมื่อเข้ามาในห้องแล้วมองไปยังห้องครัว กั้นปิดด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เปิดเชื่อมต่อพื้นที่ได้กว้างกว่าประตูแบบ 2 ตอนค่ะ

    เข้ามาภายในห้องนี้เป็นพื้นที่ Common Area กว้างตามแนวคิดการออกแบบ Universal Plan ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถจัดพื้นที่การใช้งานได้ยืดหยุ่น

    มีพื้นที่วางชุดโต๊ะรับประทานอาหารได้ 4 ที่นั่งสบายๆ

    ส่วนพื้นที่นั่งเล่นจะได้ความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 4.20 เมตร พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนัง เป็นช่องแสงที่มีการหักมุม เพิ่มองศาในการมองเห็นวิวได้คล้ายกับเป็นห้องมุมของอาคารเลย โดยห้องนั่งเล่นจะมีพื้นที่ประมาณ 3.00 x 3.40 เมตร สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งและ TV ขนาดใหญ่ 40 นิ้วได้ค่ะ

    ภายในห้องมาตรฐานจะได้ Built-in ชั้นวาง TV มาให้ มีช่องเก็บของด้านล่างมาให้ 6 ช่องเลย

    ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ ที่สามารถจัดแบ่งได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยเลยค่ะ ใครที่ชอบทำงานที่ห้อง ก็จัดเป็นมุมทำงาน โชว์ของสะสมหรือผลงานส่วนตัวได้ พื้นที่บริเวณนี้กว้างประมาณ 2.00 x 2.40 เมตร

    นอกจากนั้นยังมีห้องเก็บของใต้บันไดมาให้ เก็บของขนาดใหญ่ที่นานๆจะใช้สักครั้งนึง อย่างเช่น กระเป๋าเดินทาง ถุงกอล์ฟ หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆได้ ช่วยลดปัญหาที่เก็บของไม่พอไปได้เลยค่ะ

    เชื่อมต่อกับช่องแสงของห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่ระเบียงค่ะ

    พื้นระเบียงจะลดระดับลงจากพื้นห้องเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้อง Ceramic มาให้ทำความสะอาดง่าย พร้อมราวกันตกระแนงสีดำ และช่วงบังสายตาเวลาติดตั้ง Condensing Units ได้

    ระเบียงกว้างประมาณ 0.65 เมตร ออกมายืนใช้งาน ตากผ้า หรือวางกระถางต้นไม้เพิ่มสีเขียวให้กับภายในห้องได้ แต่จะไม่เหมาะกับคนที่ชอบมานั่งชมวิวที่ระเบียงเท่าไรนักนะคะ

    จุดเด่นของห้อง Loft ในโครงการนี้คือชั้นลอยที่กั้นกระจกมาให้แบ่งเป็นสัดส่วน เวลานอนเปิดเครื่องปรับอากาศที่ชั้นบนก็จะไม่เปลืองไฟด้วยค่ะ

    ห้องน้ำจะอยู่ติดกับครัว เข้าทางด้านในห้องใกล้กับทางขึ้นบันไดค่ะ

    ภายในห้องน้ำตกแต่งโทนสีครีม แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย

    กระจกเงาจะได้เป็นบานใหญ่ยาวไปจนชิดกับส่วนอาบน้ำเลยค่ะ และเป็น Smart Mirror สามารถเปิดเพลง ดูหนัง Youtube , Netflix ตอนแปรงฟัน อาบน้ำได้ ด้านหลังเป็นช่องเก็บของเล็กๆมาให้ 2 ช่อง มีช่องเสียบสาย USB สำหรับชาร์จโทรศัพท์ขณะเข้าห้องน้ำให้ด้วยค่ะ

    โถสุขภัณฑ์ทางโครงการเลือกใช้แบบติดลอยตัวทำให้ทำความสะอาดพื้นได้สะดวก เป็นสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวมีปุ่มกดอยู่ด้านบนผนัง Low Wall ดูดีทีเดียวค่ะ

    ส่วนอาบน้ำกันบานเปิดกระจกมาให้ ช่วยให้แบ่งส่วนเปียกชัดเจน น้ำไม่กระเด็นมาเลอะด้านนอกค่ะ

    ห้องอาบน้ำค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ มีพื้นที่ประมาณ 1.20 x 1.00 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ สามารถวางของในช่องที่ผนังได้ และมี Hand Shower & Rain Shower มาให้ด้วย

    บันไดทางขึ้นมีราวจับติดตั้งมาให้ ตัวบันไดกว้าง 0.80 เมตร ลูกตั้งสูง 22 เซนติเมตร ลูกนอนยาว 27 เซนติเมตร ซึ่งค่อนข้างแคบกว่าบันไดบ้านปกติเล็กน้อย และเนื่องจากตัวลูกตั้งค่อนข้างสูงจะทำให้ระยะก้าวไม่เยอะค่ะ

    ขึ้นมาแล้วจะเป็นของห้องนอนอย่างเดียวเลยค่ะ มีขนาดประมาณ 3.30 x 3.40 เมตร ซึ่งห้องมาตรฐานมีฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้แล้ว มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ประมาณ 2.00 เมตร

    ห้องนอนมีกระจกบานใหญ่ที่ได้แสงธรรมชาติเข้ามาจากช่องแสงขนาดใหญ่ที่ห้องนั่งเล่นค่ะ และมีช่องเปิดระบายอากาศได้

    มุมมองจากชั้นลอย มองลงไปยัง Common Area ด้านล่าง

    เตียงนอนมีพื้นที่เหลือด้านข้างวางโต๊ะหัวเตียงได้ค่ะ

    ด้านข้างเตียงจะมีปลั๊กไฟและช่องเสียบ USB มาให้ชาร์จโทรศัพท์ได้สะดวกค่ะ

    ฝั่งปลายเตียงมีพื้นที่ติดตั้ง TV และมีห้อง Walk-in Closet มาให้ ทำให้ห้องนอนไม่มีฝุ่นจากเสื้อผ้า และได้แยกพื้นที่เก็บของออกเป็นสัดส่วนไปเลยค่ะ

    ภายใน Walk-in Closet มี Built-in มาให้แบบในห้องตัวอย่างเลยค่ะ เป็นตู้เสื้อผ้าแบบไม่มีบานหยิบเลือกได้ง่าย มีช่องเก็บเครื่องประดับแยกมาให้ ยืนแต่งตัวด้านในได้เลย

    ห้องสุดท้ายคือ ห้อง 2 Bedroom LOFT Suite House Plan (2 Bath) ขนาด 46 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 61 ตารางเมตร) เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่เกือบที่สุดภายในโครงการเลยค่ะ จุดเด่นของห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้าง ได้ช่องแสงยาวเกือบเต็มพื้นที่ แบ่งห้องนอนออกเป็น 2 ห้องชัดเจน และมีความเป็นส่วนตัวสูง ให้ความรู้สึกคล้ายกับอยู่บ้าน

    ห้องนี้เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนครัวก่อนเช่นกันค่ะ ได้เป็นครัวปิดทำอาหารมีกลิ่นได้ ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่ Common Area สำหรับนั่งรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น มีห้องน้ำพร้อมพื้นที่อาบน้ำมาให้เรียบร้อย ส่วนห้อง Master Bedroom จะได้เป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.00 เมตร มี Walk-in Closet เชื่อมต่อกับห้องน้ำ และมีระเบียงส่วนตัวอยู่ในห้องเลย นอกจากนั้นยังมีพื้นที่นั่งเล่นริมหน้าต่างเข้ามุม เห็นวิวได้กว้างเช่นกัน

    ขึ้นมายังชั้นลอยจะเจอกับพื้นที่อเนกประสงค์ก่อน สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นส่วนตัว ห้องทำงาน หรือเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องได้เลยค่ะ ส่วนห้องนอนเล็กจะอยู่ฝั่งซ้ายมือมีประตูกั้นชัดเจน ภายในมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้เรียบร้อย

    ห้องนี้เหมาะกับครอบครัวเริ่มต้น หรืออยู่กัน 2 คนขึ้นไป ชอบพื้นที่ Common Area ไว้ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวได้ ได้ช่องแสงขนาดใหญ่เกือบตลอดทั้งแนว มองเห็นวิวได้แบบพาโนรามา และต้องการห้อง Master Bedroom ที่มี่ Walk-in Closet, ห้องน้ำ และระเบียงส่วนตัว

    ห้อง 2 Bedroom เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวก่อนเช่นกันค่ะ ภายในห้องครัวได้เป็นครัวปิดมีประตูบานเลื่อนกันชัดเจน เนื่องจากห้องครัวของห้องนี้จะมีความลึกมากกว่าห้องแรกที่เราพาไปชม ทำให้มีพื้นที่วางตู้เย็นอยู่ฝั่งเดียวกันกับเคาน์เตอร์ครัวค่ะ

    พื้นที่เคาน์เตอร์ครัวจัดมาให้เหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลย โดยจะมีTop เป็นหินเทียมมีความทนทาน ทำความสะอาดง่าย แนะนำให้ติดตั้ง Backplash เพิ่มเติมเวลาทำอาหารจะได้ไม่เลอะผนังด้านหลังค่ะ

    ชุดครัวจะได้เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน(ระบบดูดอากาศออกด้านนอก) อ่างล้างจาน และไมโครเวฟ จาก Teka  ติดตั้งมาให้ค่ะ

    มีพื้นที่วางเครื่องซักผ้า และช่องเก็บของต่างๆทั้งด้านล่างและด้านบนมาให้เรียบร้อย

    ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางของและพื้นที่นั่งใส่รองเท้ามาให้ ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆ ที่จะต้องมีพื้นที่นั่งใส่รองเท้า วางของต่างๆ ซึ่งทางโครงการถือว่าใส่ใจในรายละเอียดพอสมควรเลยค่ะ

    มีช่องเก็บของแบ่งเป็น 2 ฝั่ง วางรองเท้า กระเป๋า และเก็บร่มได้ พร้อมกับช่องเล็กๆ สำหรับแขวนกุญแจ หรือของที่หยิบใช้บ่อยๆเช่นกัน

    พื้นที่นั่งยังมีช่องเก็บของทั้งด้านบนและด้านล่างมาให้เพิ่มเติม สำหรับห้อง 2 Bedroom ที่มีจำนวนผู้อยู่อาศัยมากขึ้น อาจจะเก็บของไม่พอค่ะ

    เข้ามาส่วน Common Area ฝ้าเพดานสูง 4.20 เมตร พื้นปูด้วยลามิเนตลายไม้ เหมาะกับการจัดเป็นพื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น บริเวณนี้จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่กว้างตลอดทั้งแนวผนัง ทำให้ห้องสว่าง และมองเห็นวิวได้เต็มที่เลย

    พื้นที่รับประทานอาหารสามารถวางได้ถึง 4 ที่นั่งค่ะ แต่ถ้าใครอยู่กันแค่ 2 คนจัดเป็นโต๊ะ 2 ที่นั่งแบบในห้องตัวอย่างก็จะทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น

    ส่วนพื้นที่นั่งเล่น วางโซฟา 2-3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้ พื้นที่ Common Area รวมมีขนาดประมาณ 4.50 x 2.80 เมตรค่ะ

    จากส่วน Common Area มองกลับไปจะเจอกับชั้นลอยที่เป็นพื้นที่นั่งเล่นส่วนตัวอีกจุดหนึ่ง หรือจะปรับเป็นห้องทำงาน ห้องนอนอีกห้องก็ได้เช่นกันค่ะ ส่วนชั้นล่างติดกับห้องครัวเป็นห้องน้ำ ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องนอน Master Bedroom นั่นเอง

    ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ ตกแต่งโทนสีครีม แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย แต่ห้องน้ำด้านนอกจะไม่ได้ Smart Mirror นะคะ จะมีในห้องน้ำของห้อง Master Bedroom แทน

    อ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์จาก KASCH

    ส่วนอาบน้ำกันบานเปิดกระจกมาให้ มีพื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้าง ยืนอาบได้สบายๆ สามารถวางของในช่องที่ผนังได้ พร้อม Hand Shower & Rain Shower

    มาถึงห้อง Master Bedroom มีขนาดประมาณ 3.30 x 2.70 เมตร พร้อมช่องแสงเข้ามุมขนาดใหญ่ ภายในห้องมีระเบียงและห้องน้ำส่วนตัว

    ห้องนอนมีฐานเตียง 5 ฟุตมาให้ เหลือพื้นที่ด้านข้างเดินได้สบายๆ มีพื้นที่วางของตกแต่งหรือโซฟาตัวเล็กๆ ด้านข้างได้

    พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.75 x 1.20 เมตร ใช้งานได้จริง ปูพื้นด้วยกระเบื้อง Ceramic ทำความสะอาดง่าย มีโคมไฟผนังติดตั้งมาให้ค่ะ

    ฝั่งปลายเตียงสามารถติด TV แบบแขวนผนังได้ ด้านข้างเป็นพื้นที่ Walk-in Closet เป็นสัดส่วนเชื่อมต่อกับห้องน้ำ สามารถกั้นประตูปิดส่วน Walk-in Closet แยกไปเลยก็ได้นะคะ

    ด้านในมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ พร้อมลิ้นชักเก็บเครื่องประดับ พื้นที่ใต้บันไดยังใช้เป็นช่องเก็บของเพิ่มเติมได้ด้วยค่ะ

    ห้องน้ำในห้อง Master Bedroom ตกแต่งโทนสีครีม แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้ง

    กระจกเงาจะได้เป็นบานใหญ่ พร้อม Smart Mirror เปิดเพลง ดูหนังขณะใช้ห้องน้ำได้  อ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์ ได้เหมือนกับห้องอื่นๆ จาก KASCH

    ส่วนอาบน้ำกันบานเปิดกระจกมาให้ ช่วยให้แบ่งส่วนเปียกชัดเจน มีพื้นที่อาบน้ำกว้างประมาณ 1.20 x 1.00 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ สามารถวางของในช่องที่ผนังได้ และมี Hand Shower & Rain Shower มาให้ค่ะ

    บันไดเป็นโครงสร้างเหล็กกว้างประมาณ 0.80 เมตร ลูกตั้งสูง 22 เซนติเมตร ลูกนอนยาว 27 เซนติเมตร มีราวจับติดตั้งมาให้

    สวิตช์ไฟภายในห้องเป็นแบบ Touch screen ดีไซน์เรียบๆ ดูสวยงาม

    ขึ้นมาที่ชั้นลอยจะแบ่งเป็น 2 ฟังก์ชันการใช้งาน ฝั่งขวามือเป็นพื้นที่นั่งเล่น มีขนาดประมาณ 2.00 x 3.70 เมตร สามารถปรับเปลี่ยนเป็นมุมทำงาน หรือเป็นห้องนอนเล็กอีก 1 ห้องได้เลยค่ะ

    บริเวณนี้จะมีตู้เก็บของ Built-in มาให้อีก 1 จุดค่ะ ใช้วางของตกแต่ง เก็บของสะสมต่างๆได้

    พื้นที่นั่งเล่นชั้นลอยมองออกไปเห็นวิวด้านนอกได้กว้างเลยค่ะ บริเวณนี้จะมีความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ประมาณ 2.00 เมตร พื้นปูด้วยลามิเนตเหมือนกับชั้นล่าง

    มุมมองจากชั้นลอยมองลงไปยัง Common Area ด้านล่าง

    ฝั่งซ้ายมือเป็นห้องนอนเล็ก มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นเป็นสัดส่วนมาให้

    ห้องนอนเล็กมีขนาดประมาณ 2.80 x 2.50 เมตร มีฐานเตียงขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ค่ะ ห้องนี้จะได้ช่องแสงไม่เยอะนะคะ มีด้านข้าง 1 จุด และผนังที่เชื่อมกับชั้นลอยเป็นกระจกใสค่ะ

    ห้องนี้ขนาดจะค่อนข้างกะทัดรัดสักหน่อย จะไม่มีพื้นที่วางโต๊ะข้างเตียงนะคะ ใครที่อยู่กันแค่ 2 คนก็สามารถเปลี่ยนเป็นห้องทำงานส่วนตัว หรือสำหรับครอบครัวเริ่มต้นก็เหมาะจะใช้เป็นห้องนอนของเด็กค่ะ

    ตู้เสื้อผ้า Built-in เป็นบานเลื่อน 2 ตอน กระจกสีชามองเห็นเสื้อผ้าด้านในได้ พร้อมกับลิ้นชักเก็บของมาให้ด้วยค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคา

    20 August 2020

    • Innovative Plan ขนาด 27 ตารางเมตร (รวมชั้นลอยเป็น 39 ตารางเมตร) ราคาเริ่มต้น 4.xx ล้านบาท หรือประมาณ 122,000 บาท/ตร.ม.

    • รูปแบบการขาย Fully Fitted
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 4.20 เมตร
    • Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
    • Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
    • จอง n/a บาท
    • ทำสัญญา n/a บาท
    • ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
    • ค่ากองทุน 750 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

    บทสรุป

    ทำเล :

    KnightsBridge Space สุขุมวิท – พระราม 4 ตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 4 ช่วงใกล้กับถนนสุขุมวิท เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้า ทำเลมีความคึกคักหาของกินง่าย มี Community Mall อยู่ในระยะเดินไปได้สะดวก เช่น Summer Hill, W District ซึ่งมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ, Tops Market ให้เลือกซื้อของ อีกทั้งยังใกล้กับทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง อย่างเอกมัย ทองหล่ออีกด้วยค่ะ

    การเดินทางโดยใช้รถ :

    โครงการตั้งอยู่บนถนนพระรามที่ 4 ซึ่งเป็นถนนใหญ่ ใช้เดินทางไปยังสีลม สาทร ได้ง่าย มีเส้นทางลัดเลาะเลี่ยงรถติดไปยังถนนสุขุมวิท หรือถนนเลียบทางรถไฟสายเก่าปากน้ำได้ ทำเลนี้ยังอยู่ใกล้กับถนนสุขุมวิท ใช้เข้าเมืองไปทางชิดลม สยาม หรือออกเมืองไปทางอ่อนนุช บางนาก็สะดวก นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากทางด่วน 2 เส้นทางคือทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรค่ะ ซึ่งโครงการรองรับพื้นที่จอดรถ Auto Parking มาให้ประมาณ 60% ถือว่าไม่น้อยค่ะ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์สะดวกทีเดียวค่ะ เนื่องจากโครงการอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีพระโขนงระยะทางประมาณ 250 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เดินได้สบาย ระหว่างทางก็มีร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกซื้อก่อนกลับบ้านกันด้วย บนถนนพระรามที่ 4 เองก็สามารถใช้บริการรถประจำทาง รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์ได้ง่าย

    วัสดุ :

    โครงการมีรูปแบบการขายแบบ Fully Fitted พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องลามิเนตลายไม้ ส่วนครัวและห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต  ผนังและฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี มีเฟอร์นิเจอร์ Built-in ชั้นเก็บของ, ชั้นวาง TV , ตู้เสื้อผ้าและฐานเตียงมาให้ ห้องน้ำได้ชุดสุขภัณฑ์ จาก KASCH พร้อมกระจก Smart Mirror, ชุดครัวได้ เตาไฟฟ้า, เครื่องดูดควัน และไมโครเวฟ จาก Teka ชุดปลั๊กข้างเตียงและในห้องน้ำที่มีช่องเสียบ USB ถือว่าให้มาคุ้มค่าราคาค่ะ

    การออกแบบ :

    การออกแบบโครงการดึงจุดเด่นด้านกระจกเข้ามุมมาจากที่ Park Origin ทำให้รูปทรงอาคารดูมีมิติ และเปิดรับวิวได้มากขึ้น การวางผังอาคารออกแบบให้มีแกนลิฟต์อยู่ตรงกลาง ได้โถงทางเดินแบบ Single Corridor พร้อมประตูกั้นระหว่างโถงลิฟต์และโถงทางเดินทำให้ห้องพักอาศัยได้ความเป็นส่วนตัวสูง ห้องพักอาศัยเริ่มต้นที่ชั้น 8 มองเห็นวิวได้รอบด้าน และจัดพื้นที่ส่วนกลางให้อยู่ชั้น 28-29 เชื่อมต่อกัน 2 ชั้น และมองเห็นวิวได้รอบด้าน รวมถึงเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ค่ะ

    ห้องพักอาศัยเป็นห้องฝ้าเพดานสูง (LOFT) ทั้งหมด ฝ้าสูง 4.20 เมตร ทุกห้องจะได้พื้นที่ครัวปิด มีห้องนอนกั้นเป็นสัดส่วนชัดเจน ได้ความเป็นส่วนตัว ห้องพักอาศัยเกือบทั้งหมดจะได้กระจกเข้ามุม เปิดมุมมองได้กว้างขึ้นคล้ายกับเป็นห้องมุม มีให้เลือกทั้งห้องตอนลึก และห้องขนาดใหญ่หน้ากว้าง ตั้งแต่ 35 – 60 ตารางเมตรขึ้นไป เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ภายในห้องมีการออกแบบคำนึงถึงการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ใส่ใจในรายละเอียดดี

    สาธารณูปโภค :

    สาธารณูปโภคของโครงการให้มาหลากหลายทีเดียวค่ะ เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิตที่ 380 ยูนิต ชั้น 1 เป็นพื้นที่โถงพักคอยขนาดใหญ่ มีสวน 3 จุด และ Facilities หลักจะถูกยกไปยังชั้น 28-29 เป็นโซนออกกำลังกาย, สระว่ายน้ำระบบโอโซน ความยาวฮาร์ฟโอลิมปิค และมีพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน ประชุม แยกเป็นสัดส่วน มองเห็นวิวได้กว้าง นอกจากนั้นที่ชั้นดาดฟ้า ยังมีเส้นทางวิ่ง จุดชมวิวและมุมให้จัดปาร์ตี้กันได้อีกด้วยค่ะ ทางโครงการให้ลิฟต์มา 3 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 126 : 1 ถือว่าพอดีๆ กับโครงการที่เป็นอาคารสูงค่ะ


    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 140,000 บาท/ตร.ม., 20 August 2020

    • ทำเล 8/10 – มีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินง่าย
    • เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ทางเข้า-ออกติดถนนพระรามที่ 4  ใกล้ทางด่วน มีที่จอดรถมาให้ 60 %
    • ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ใกล้รถไฟฟ้าสถานีพระโขนง 250 เมตร
    • วัสดุ 8/10 – ให้มาค่อนข้างดี สมราคา
    • แบบ 8.75/10 – ออกแบบโครงการดี ได้ Single Corridor ห้องพักอาศัยจัดพื้นที่ลงตัว
    • สาธารณูปโภค 7.75/10 – มีความหลากหลาย มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้

    • HIGH CLASS
    • 8.08/ 10.00

    BOTTOM LINE

    KnightsBridge Space สุขุมวิท – พระราม 4 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดมิเนียมทำเลพระราม 4 ที่เน้นใช้งานรถไฟฟ้าได้สะดวก ใกล้ทางด่วน ชอบห้องพักอาศัยแบบฝ้าเพดานสูง  มีช่องแสงขนาดใหญ่ มองเห็นวิวได้กว้าง พื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ มีงบประมาณ 4 – 10 ล้านบาท หรือประมาณ 28,000 – 70,000 บาท/เดือน


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving