รีวิวโครงการ
รีวิวตึกเสร็จ MAESTRO 19 รัชดา 19 – วิภา คอนโด Low Rise ในซอยรัชดาภิเษก 19 (โชคชัยร่วมมิตร) ห่าง MRT รัชดาภิเษก 650 เมตร จาก Major Development [รีวิวฉบับที่ 2015]
22 ธันวาคม 2019
รีวิวฉบับที่ 1360 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการใหม่จาก Major Development กับ MAESTRO 19 รัชดา19-วิภา เป็นคอนโด Low Rise ตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษก19 หรือ วิภาวดีรังสิต16 (โชคชัยร่วมมิตร) ซอยลัดที่เชื่อม 3 ถนนใช้ลัดเลาะไปออกถนนลาดพร้าวฝั่งเลขคู่ได้ด้วย ห่าง MRT สถานีรัชดาภิเษกประมาณ 650 เมตร ออกแบบภายใต้ Concept Industrial Elegance มี Facilities ครบครัน สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ราคาเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท ตามไปชมกันค่ะ
Fact @ 3 June 2017
- MAESTRO 19 Ratchada19 – Vipha (มาเอสโตร 19 รัชดา 19 – วิภา)
- บริษัท เมเจอร์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ดินแดง
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น + 1 ชั้นใต้ดิน 4 อาคาร จำนวน 560 ยูนิต
- คลับเฮาส์ 3 ชั้น 1 อาคาร
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 20 ยูนิต
- ที่จอดรถไม่รวมจอดซ้อนคันประมาณ 344 คันคิดเป็น 61.5% รวมจอดซ้อนคัน 63%
- ที่ดินประมาณ 5-1-3.4 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : ต.ค. 2560
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ก.ย. 2562
- 1 Bedroom 29.00-38.00 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus 42 ตร.ม.
- 2 Bedrooms 59.00 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตร ห้องน้ำ/ห้องครัว สูง 2.20 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท (ณ.วันเปิดตัวโครงการ)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ n/a บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : อยู่ระหว่างดำเนินการ
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-116-1111
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด : 13.796926, 100.569634
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ MAESTRO 19 รัชดา19-วิภา ตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษก19 หรือ ซอยวิภาวดี16 ที่มีชื่อเรียกว่า ซอยโชคชัยร่วมมิตร ห่างจากหน้าปากซอยประมาณ 650 เมตร ซอยนี้จะมี MRT รัชดาภิเษกอยู่หน้าปากซอยเลยและเป็นที่รู้จักกันดีของคนในย่านนี้เพราะสามารถใช้เส้นทางลัดเชื่อมได้ 3 ถนน ทั้งถนนรัชดาภิเษก ถนนวิภาวดีรังสิต และ ถนนลาดพร้าว บรรยากาศโดยรวมคึกคักโดยเฉพาะช่วงกลางซอย มีรถวิ่งผ่านตลอดเวลา เพราะฉะนั้นในแง่ของ การเดินทางโดยใช้รถ จึงถือว่าค่อนข้างสะดวก คนแถวนี้นิยมใช้หนีรถติดได้ ไม่ต้องไปผ่านบริเวณแยกรัชดาฯ -ลาดพร้าว นอกจากนั้นทำเลนี้ยังสามารถเดินทางไปฝั่งรัชดาภิเษก-พระราม9 ที่เป็นแหล่งรวมของอาคารสำนักงาน หรือจะเชื่อมต่อไปอโศก สุขุมวิทก็สะดวกค่ะ สำหรับทางด่วนจากโครงการเราสามารถออกมาทางฝั่งถนนวิภาวดีรังสิตแล้วตรงไปขึ้นทางด่วนดินแดงที่ทางขึ้นจะอยู่บริเวณใกล้ๆกับม.หอการค้าได้ค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ สามารถใช้ MRT สถานีรัชดาภิเษกเพื่อเชื่อมต่อไปยังสถานีอื่นๆได้ โดยทางโครงการจะมีบริการรถรับ -ส่ง (Shuttle service) จากโครงการไปถึงรถไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายของลูกบ้าน และเนื่องจากเป็นซอยลัดจึงมีรถผ่านตลอดเวลาหาเรียกแท็กซี่ได้ง่าย ส่วนรถรับส่งสาธารณะอื่นๆในซอยนี้จะมีรถกะป้อด้วย วิ่งรับส่งตลอดทั้งวันระหว่างหน้าปากซอยทางฝั่งรัชดาภิเษก19 และ วิภาวดีรังสิต16 ค่าโดยสาร 7 บาทตลอดสาย ช่วงกลางคืนหลังสามทุ่มปรับเป็น 10 บาท โดยสามารถเหมาไปยังที่ต่างๆได้ค่ะ ก็สะดวกและประหยัดดี
ความอุดมสมบูรณ์ ในซอยนี้ถือว่าดีใช้ได้เลยทีเดียว ช่วงต้นซอยรัชดาภิเษก19 จะมี 7-11 ขนาดใหญ่และร้านอาหารตามสั่งรองรับคนที่เดินกลับบ้านและเด็กๆโรงเรียนปัญจทรัพย์ ถัดเข้าไปตั้งแต่ช่วงกลางซอยเป็นต้นไปจนถึงหน้าปากซอยวิภาวดีรังสิต16 จะคึกคักเป็นพิเศษมีครบทั้งร้านค้า ร้านอาหารอร่อยๆขึ้นชื่อหลายร้าน ร้านนั่งชิล ร้านขายขนมก็เยอะทั้งขนมไทยและร้านขนมเค้กน่ารักๆ นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีร้านหมอฟัน , ร้านถ่ายรูป ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 , Tesco Lotus Express และอื่นๆที่ตอบรับต่อการอยู่อาศัย สามารถนั่งรถกะป้อหรือขับรถมาจอดหาอะไรทานได้สะดวก สำหรับสถานที่สำคัญโดยรอบ แหล่งช้อปปิ้งก็จะมี เซ็นทรัล ลาดพร้าว , เซ็นทรัลพระราม 9 , UNION MALL , ตลาดนัดสวนจตุจักร , สวนลุมไน้ท์บาซาร์ รัชดาภิเษก , เอสพลานาด , ตลาดนัดรถไฟ , ตลาด อ.ต.ก , ตลาดการบินไทย เป็นต้น ใกล้แหล่งงานทั้งในย่านรัชดาฯ-พระราม 9 อย่าง ตลาดหลักทรัพย์ (SET) , AIA , UNILEVER , TRUE , เมืองไทยภัทร , GLAND และบนถนนวิภาวดีรังสิตอย่าง การบินไทย , ไทยรัฐ , อาคารซันทาวเวอร์ , อาคารเล้าเป้งง้วน 1 เป็นต้น นอกจากนั้นยังใกล้กับสวนจตุจักร , สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) สวนสาธารณะ ขนาดใหญ่ของคนย่านนี้ไปใช้พักผ่อน ออกกำลังกายได้
เรามาดูเส้นทางลัดกันหน่อย อย่างที่บอกไปว่าโครงการตั้งอยู่ในซอยที่สามารถลัดเลาะเชื่อมต่อได้ 3 ถนน ถ้ามาจากถนนรัชดาภิเษกก็เข้าได้จากซอย รัชดาภิเษก19 ตรงมาหน่อยจะมีทางแยกถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางไปโครงการ หรือ ถนนวิภาวดีรังสิต16 (โชคชัยร่วมมิตร) สุดซอยจะเป็นถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งเลขคู่ ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นทางไปออกซอยลาดพร้าว 18 , 20 , 26 ลัดไปหลังการบินไทยได้ สามารถเลี่ยงรถติดบริเวณแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าวในเวลาเร่งด่วนได้ มีบางเวลาที่รถในซอยนี้จะค่อนข้างติดเช่นเวลาเร่งด่วนและก่อน-หลังเลิกเรียน ที่ยกตัวอย่างเป็นเส้นทางที่ใช้กันประจำ จริงๆแล้วยังมีเส้นทางอื่นอีก ถือเป็นความสะดวกและจุดเด่นของทำเลนี้ค่ะ
จากโครงการเราสามารถเดินไปขึ้น MRT สถานีรัชดาภิเษกได้ทั้ง Exit1 และ Exit2 ในอนาคตจะมีสถานีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายในบริเวณใกล้เคียงเกิดขึ้นใหม่ ได้แก่ สถานีพหลโยธิน ซึ่งจะกลายเป็น Interchange กับ BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยาย “หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต” ที่เริ่มมีการก่อสร้างแล้ว แผนสร้างเสร็จในปี 2562 และเปิดให้บริการในปี 2563 (ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะทันแผนต้องรอดูกันต่อไป) วิ่งผ่านบนถนนพหลโยธิน นอกจากนั้นทางฝั่ง BTS สายสีเหลือง “ลาดพร้าว-สำโรง” น่าจะเตรียมตัวเริ่มก่อสร้างประมาณปีหน้า จะทำให้ MRT สถานีลาดพร้าวจะกลายเป็น Interchange อีกเช่นกัน ตั้งอยู่ช่วงหน้าอาคารจอดแล้วจรบนถนนรัชดาภิเษก เราสามารถนั่ง MRT เชื่อมต่อไปยังสถานี Interchange เหล่านี้ได้สะดวกค่ะ
การเดินทางในวันนี้เราเริ่มจากบริเวณหน้าเซ็นทรัลพระราม 9 บนถนนรัชดาภิเษกวิ่งตรงมาเรื่อยๆ ผ่านศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานต่างๆ มาเลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก19 หรือ ซอยวิภาวดีรังสิต16 (ซอยโชคชัยร่วมมิตร) โครงการจะอยู่ในซอยนี้ ห่างจาก MRT รัชดาภิเษกประมาณ 650 เมตรค่ะ
การเดินทางในวันนี้เราจะเริ่มจากบริเวณแยกพระราม 9 ขับตรงมาเรื่อยๆทางฝั่งขวาจะเป็นเซ็นทรัลพระราม 9 ศูนย์การค้าใหญ่ในย่านนี้ ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นอาคารฟอร์จูนทาวน์ซึ่งเป็นทั้งสำนักงานและแหล่งขายอุปกรณ์ไอที มีร้านค้า ร้านอาหาร Tesco Lotus อยู่ชั้นล่าง แวะหาอะไรทานได้
ตรงต่อมาเราจะผ่านซอยรัชดาภิเษก 3 อยู่ทางฝั่งซ้ายมือ ซึ่งใช้เป็นทางลัดไปถนนประชาสงเคราะห์ได้ ถัดไปเป็นอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแห่งใหม่
และจะผ่านอาคารสำนักงาน AIA , เอสพลานาด รัชดาภิเษก Communitymall ที่ด้านหลังมีตลาดนัดรถไฟ รัชดาฯ ตลาดนัดยามเย็นบรรยากาศชิลๆ มีสินค้ามากมายหลายชนิด ทั้งเสื้อผ้า และ ของกิน ถัดไปตึกสูงๆเป็นอาคาร RS Tower
ขับต่อมาอีกทางฝั่งซ้ายจะเจอบิ๊กซีรัชดาฯแหล่งจับจ่ายใช้สอยของสดของแห้งของคนย่านนี้ ตอนช่วงเย็นๆค่อนข้างคึกคัก ส่วนทางฝั่งขวาที่ลูกศรชี้เป็นอาคาร Cyber World ค่ะ
ตรงมาจนเกือบถึงแยกเทียมร่วมมิตรทางฝั่งซ้ายจะเจอกับ Community mall อีกแห่งหนึ่งคือ The Street แหล่งกินดื่ม พักผ่อน เปิด 24 ชม. เราจะตรงไปเรื่อยๆนะคะตามป้ายลาดพร้าว
เราวิ่งลงอุโมงค์ตามป้ายลาดพร้าว มุ่งหน้าไปทางแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว เรื่อยๆนะคะ
ตรงมาเรื่อยๆบนถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าไปทางแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว พอเราสังเกตเห็นบุญถาวร สาขารัชดาภิเษก ให้เตรียมชิดซ้ายค่ะ
พอถึงตรงนี้แสดงว่าใกล้ถึงโครงการแล้ว เราซูมแผนที่ให้ดูซักหน่อย พอเห็นบุญถาวรให้เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยรัชดาภิเษก19 พอเข้าซอยแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีเข้าซอยวิภาวดีรังสิต16 หรือ ซอยโชคชัยร่วมมิตร ตรงมาอีกหน่อยก็จะถึงโครงการค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยบริเวณโรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค จะต้องข้ามสะพานและตรงต่อไป
จากนั้นตรงมาอีกหน่อยก็จะเจอกับ MRT สถานีรัชดาภิเษกทางออก 1 ค่ะ เราจะขึ้นมาทางออกนี้ก็ได้เดินไปอีกนิดเดียวก็จะถึงกับซอยรัชดาภิเษก19
เราจะเลี้ยวเข้าไปในซอยรัชดาภิเษก19 ค่ะ จุดสังเกตคือบริเวณหน้าปากซอยจะมี MRT สถานีรัชดาภิเษก และ อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงานอยู่ด้านหน้า
อีกฝั่งหนึ่งของบริเวณหน้าปากซอยจะมี MRT รัชดาภิเษกทางออก 2 ทั้ง 2 ทางออกระยะทางถึงหน้าปากซอยพอๆกันค่ะ ทางออก 2 เดินใกล้กว่าหน่อย ระหว่างทางช่วงเช้า-เย็น จะมีร้านค้าประเภทรถเข็นมาวางอาหารขายให้แวะซื้อได้
เข้ามาในซอยทางฝั่งขวาคือคอนโด The Kris Express 2 เป็น Low Rise ทางฝั่งซ้ายคือค่ายมวยจิตติยิม สุดทางจะเป็น 7-11 ในซอยนี้จะมีรถกะป้อวิ่งรับส่งตลอดทั้งวันระหว่างหน้าปากซอยรัชดาภิเษก19 และ วิภาวดีรังสิต16
ตรง 7-11 จะมีทางแยกค่ะ ถ้าเราเลี้ยวขวาจะเป็นทางไปซอยลาดพร้าวฝั่งเลขคู่ซอย 18 , 20 , 26 ส่วนถ้าเลี้ยวไปทางซ้ายจะเป็นทางไปซอยวิภาวดีรังสิต16 (โชคชัยร่วมมิตร) ที่โครงการตั้งอยู่ค่ะ
เลี้ยวซ้ายมาช่วงต้นซอยจะเป็นอาคารพาณิชย์และอพาร์ทเม้นท์ สุดทางที่เห็นเป็นตึกสีเหลืองๆคือโรงเรียนปัญจทรัพย์
พอถึงแยกหน้าโรงเรียนปัญจทรัพย์ บริเวณนี้ช่วงเช้าและเย็นจะติดหน่อยเพราะผู้ปกครองมาส่งลูกไปโรงเรียน รอบๆจะมีร้านอาหารอยู่พอสมควร เราเลี้ยวขวาไปตามทางกันเลยค่ะ
พอเลี้ยวมาจะเริ่มเป็นที่อยู่อาศัยประเภทตึกแถว สลับกับอพาร์ทเม้นท์ไปเรื่อยๆ มีร้านค้า ร้านอาหารแทรกตัวอยู่ชั้นล่างตลอดทาง อย่างเช่นร้านที่ป้ายสีเหลืองๆนี้ คือ ร้านละเลียด เป็นร้านเบเกอรี่ พวกขนมเค้กกับเครื่องดื่มอร่อยทีเดียว
ถัดมาอีกหน่อยจะเจอกับ Family mart และ อพาร์ทเม้นท์บ้านธันวาที่มีร้านชาบูอยู่ชั้นล่าง
ตรงมาอีกนิดทางฝั่งขวาที่เป็นพื้นที่โล่งๆ ตอนช่วงเย็นบางวันจะมีตลาดนัดขายอาหารเยอะอยู่เหมือนกัน จากโครงการเดินมาได้ไม่ไกล
ถัดมาจะมี Tesco Lotus Express และ 7-11 ที่มีร้านกาแฟอยู่ชั้นบน บริเวณนี้จะมีอพาร์ทเม้นท์อยู่เยอะเหมือนกัน
ขับมาอีกหน่อยทางฝั่งซ้ายจะเป็นเต็นท์ขายอาหาร จากตรงนี้ถัดไปอีกไม่ไกลก็จะถึงโครงการแล้วค่ะ
ตรงมาอีกหน่อยเราจะเจอกับโครงการอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ บริเวณตรงข้ามกับซอยวิภาวดรังสิต16/25
สำนักงานขายเป็นอาคารชั้นเดียวตั้งอยู่บริเวณที่ตั้งของโครงการเลย
บรรยากาศภายในสำนักงานขายค่ะ ออกแบบมาคล้ายๆกับ Lobby ของโครงการ เดี๋ยวเราจะพาไปชมสภาพแวดล้อมและความอุดมสมบูรณ์ในซอยกันก่อนนะ ค่อยย้อนกลับมาดูห้องตัวอย่างกันค่ะ
ถัดจากโครงการเข้าซอยมาหน่อยก็จะเป็นช่วงกลางซอยที่คึกคักมากๆ มีครบทั้งร้านค้า ร้านอาหารอร่อยๆขึ้นชื่อหลายร้าน ร้านนั่งชิล ร้านสะดวกซื้อและอื่นๆที่ตอบรับต่อการอยู่อาศัย สามารถนั่งรถกะป้อหรือขับรถเข้ามาจอดหาอะไรกินได้
ช่วงกลางซอยจะเจอกับ 7-11 อีกจุดหนึ่ง ในซอยนี้จะมี 7-11 อยู่ทั้งต้นซอย กลางซอย และท้ายซอย สามารถใช้เป็นจุดบอกทางรถกะป้อได้นะ
ติดๆกันเลยก็มี Tesco Lotus Express ข้างๆมีร้านอาหารตามสั่งอยู่ร้านนี่อร่อยใช้ได้แต่ที่นั่งน้อยไปหน่อยเน้นสั่งกลับไปทานที่บ้านมากกว่า ฝั่งตรงข้ามมีร้านข้าวหมูแดง ข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด มีร้านอาหารรถเข็นมาขายอยู่เป็นระยะๆ ถัดไปจนถึงปากซอยฝั่งถนนวิภาวดีรังสิตก็จะเป็นร้านค้าสลับกับร้านอาหารแบบนี้ไปตลอดค่ะ
เราขับมาจนสุดซอยก็จะเจอกับถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเราสามารถใช้เส้นทางไปขึ้นทางด่วน ไปดินแดง อนุสาวรีย์ หรือ กลับรถเพื่อไปสวนจตุจักรได้ค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ MAESTRO 19 รัชดา19-วิภา ส่วนใหญ่เป็นตึกแถวที่ชั้นล่างเปิดเป็นร้านค้า อาคารพาณิชย์ อพาร์ทเม้นท์ และในซอยเป็นชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบ มีคอนโดมิเนียมบ้างส่วนใหญ่สร้างมานานแล้ว แต่ละด้านของที่ดินจะติดกับ
- ทิศเหนือ – ติดกับถนนซอยวิภาวดีรังสิต16 ฝั่งตรงข้ามจะตรงกับซอยวิภาวดีรังสิต16/23 และ 16/25 ที่หน้าปากซอยเป็นอาคารพาณิชย์และตึกแถว
- ทิศตะวันออก – ติดกับอาคารพาณิชย์ อพาร์ทเม้นท์ และ ชุมชนแนวราบ
- ทิศใต้ – ติดกับชุมชนแนวราบ ถัดไปเป็นคลองบางซื่อ
- ทิศตะวันตก – ติดกับแนวทาวน์เฮ้าส์และสนามฟุตบอลในร่ม
ทิศเหนือ หรือฝั่งตรงข้ามโครงการติดกับถนนซอยวิภาวดีรังสิต16 ซึ่งเป็นถนน 2 เลน ฝั่งตรงข้ามจะตรงกับซอยวิภาวดีรังสิต 16/23 และ 16/25 มีอาคารพาณิชย์และตึกแถวสูงประมาณ 4-5 ชั้น
ทิศตะวันออก ติดกับอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น อพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้น และ ชุมชนแนวราบที่อยู่ในซอย เดินไปไม่ไกลจะเจอกับเต็นท์ ขายอาหารด้วย
ทิศตะวันตก ติดกับแนวทาวน์เฮ้าส์สูง 2 ชั้น และตึกแถวสูง3-4ชั้น ถัดไปเป็นสนามฟุตบอลในร่ม
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- MRT รัชดาภิเษก ~ 650 เมตร
- BigC Extra ลาดพร้าว ~ 2.3 กิโลเมตร
- Union Mall ~ 3.1 กิโลเมตร
- Central ลาดพร้าว ~ 3.7 กิโลเมตร
- The Street รัชดา~ 3.9 กิโลเมตร
- Esplanard รัชดาภิเษก ~ 4.2 กิโลเมตร
- ฟอร์จูน ทาวน์ ~ 5.4 กิโลเมตร
- Central พระราม 9 ~ 5.6 กิโลเมตร
- สวนจตุจักร ~ 5.6 กิโลเมตร
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ~ 7.3 กิโลเมตร
- อาคาร AIA ~ 7.4 กิโลเมตร
โครงการ MAESTRO 19 รัชดา19-วิภา เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น + 1 ชั้นใต้ดิน 4 อาคาร จำนวน 560 ยูนิต พร้อมทั้งคลับเฮาส์ 3 ชั้น อยู่ตรงกลางอีก 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 5-1-3.4 ไร่ ออกแบบภายใต้ Concept Industrial Elegance ดีไซน์ให้ความรู้สึกเท่ห์แต่ก็ยังคงความหรูหรา คือผสมความเป็น Industrial วัสดุอิฐ เหล็ก เข้ากันกับสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่เน้นความสมมาตรและรูปทรงเรขาคณิต วางผังอาคารให้เกิดการไหลเวียนอากาศ โดยวางอาคารทั้ง 4 หันเข้าหากันในลักษณะ Interlock ทำให้เกิด Space ตรงกลางเป็นพื้นที่พักผ่อน มีช่องระหว่างอาคาร ลมจึงสามารถพัดผ่านระหว่างอาคารได้ดี และทางโครงการยังอนุญาตให้สามารถนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงได้ โดยมีพื้นที่รองรับให้พาลงมาเดินเล่น ภายใต้กฎข้อบังคับที่ชัดเจน ซึ่งรายละเอียดต่างๆต้องสอบถามกับทางโครงการอีกทีนะคะ ก่อสร้างแบบ Conventional หรือแบบดั้งเดิมซึ่งมีข้อดีคือแข็งแรงกว่า กันเสียงได้ดี และ สามารถเจาะติดตั้งอะไรเล็กๆน้อยๆในห้องได้ค่ะ
ตัวอาคารทั้ง 4 เป็น Low Rise สูง 8 ชั้นเท่ากันทั้งหมด ทางเข้า-ออกมีอยู่ทางเดียวติดกับถนนซอยวิภาวดีรังสิต16 (โชคชัยร่วมมิตร) ที่จอดรถสามารถจอดได้ทั้งรอบๆอาคาร ชั้นล่างและชั้นใต้ดิน รวมๆแล้วไม่รวมจอดซ้อนคันประมาณ 344 คันคิดเป็น 61.5% รวมจอดซ้อนคัน 63% พื้นที่ส่วนกลางมีอยู่ทั้งในอาคารเช่น Lobby และห้องซักรีด บนชั้นดาดฟ้าจะมี Roof Top BBQ Garden รอบๆอาคารจัดเป็นสวนพักผ่อน , ลานสันทนาการ และ พื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ ส่วนอาคาร Club House จะอยู่ตรงกลางระหว่างทั้ง 4 อาคารให้ลงมาใช้ร่วมกัน ทำให้บรรยากาศภายในอาคารค่อนข้างเป็นส่วนตัว ชั้นล่างของ Club House จะมี Lobby และ สำนักงานนิติบุคคล ที่ชั้น 2 มี Co-working space , Library area , Steam & Sauna , สระว่ายน้ำ พร้อม Sunken Cozy Lounge ชั้น 3 มี ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง และ พื้นที่เล่นโยคะ
จากทางเข้าหน้าโครงการ มองเข้าไปด้านในจะเห็น Clubhouse มีประตูกั้นอยู่ ต้องเดินผ่านอาคารหรือประตูที่น่าจะต้องใช้คีย์การ์ดถึงจะผ่านเข้าไปได้
ด้านหน้าอาคารฝั่งขวาเป็นพื้นที่จอดรถจักรยาน สวนหย่อมและพื้นที่นั่งพักผ่อน
ส่วนทางฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่จอดรถสำหรับผู้มาติดต่อและทางไปที่จอดรถในอาคาร มีกั้นด้วยรั้วไม้กระดกซึ่งลูกบ้านต้องใช้คีย์การ์ดในการผ่านเข้าไปค่ะ
ในแต่ละอาคารผังจะคล้ายๆกัน การเลือกว่าเราจะเอาอาคารไหนนอกจากแบบห้องแล้วจะต้องดูที่วิวและตำแหน่งห้องด้วย อาคาร A และ อาคาร D อยู่ด้านหน้าโครงการใกล้กับถนนซอยและทางเข้าออก เดินไม่ไกล ถัดเข้าไปด้านในโครงการจะเป็นอาคาร B และ C ซึ่งจะได้ความสงบและเป็นส่วนตัวมากกว่า แต่ละอาคารสามารถลงมาใช้ Facilities ที่อยู่ตรงกลางได้
ส่วนชั้นดาดฟ้าของทุกอาคารก็จะมี Rooftop BBQ Garden ให้ออกมาสูดอากาศพักผ่อนกันด้วยค่ะ
ถัดเข้ามาด้านใน ตรงกลางระหว่างอาคารทั้ง 4 เป็น Clubhouse ให้ลูกบ้านทุกอาคารลงมาใช้ร่วมกัน เดินลงมาใช้ในระยะที่พอๆกัน การเอาส่วนกลางไว้ชั้นล่างจะช่วยทำให้ส่วนพักอาศัยมีความสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้น
บริเวณหน้า Clubhouse จะมีสวนหย่อมให้เราออกมานั่งเล่นพักผ่อนกันด้วยค่ะ โดยมีการออกแบบให้ดูสมมาตร (Symmetry) และใช้รูปฟอร์มเรขาคณิตตามสไตล์ยุโรป
Club House เป็นอาคาร 3 ชั้น ชั้นล่าง มีที่จอดรถ , Lobby , สำนักงานนิติบุคคล ชั้น 2 มี Co-working space & Library area , Steam & Sauna และเดินเชื่อมต่อออกมาที่สระว่ายน้ำ แบบ Outdoor ได้ โดยสระเป็นระบบเกลือขนาด 25 x 6 เมตร มีที่นั่งพักผ่อนริมสระด้วย (Sunken Cozy Lounge) ชั้น 3 มีห้องออกกำลังกายและพื้นที่เล่นโยคะ
เรามาดูภาพจำลองบรรยากาศกัน เริ่มจากส่วน Lobby ตกแต่งได้เข้ากับ Concept ฝ้าเพดานสูง โปร่ง ติดโคมไฟ chandelier อลังการดี มีที่นั่งทั้งแบบโซฟาและโต๊ะยาวๆรองรับการใช้งานหลายรูปแบบ ตรงกลางมีบันไดวนขึ้นไปที่ส่วน Co-working space และ Library area
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับส่วนของ Co-working space และ Library area มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น สามารถลงมาใช้พื้นที่อ่านหนังสือ นัดประชุม หรือ ทำงานได้ ในพื้นที่ส่วนกลางนี้จะมี Free Wi-Fi ให้ด้วย
บริเวณชั้น 2 จะมีสระว่ายน้ำด้วย โดยตัวสระจะอยู่นอกอาคารเป็น Outdoor ขนาด 25 x 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีสวนหย่อมปลูกอยู่รอบๆเพื่อความร่มรื่น
ภาพจำลองบรรยากาศของสระว่ายน้ำค่ะ โดยริมสระจะมีที่นั่งพักผ่อนมาให้ด้วย
ชั้น 3 เป็นห้องออกกำลังกายและพื้นที่เล่นโยคะ มองออกมาเห็นเป็นวิวสระว่ายน้ำแบบนี้ค่ะ
มาดู Master Plan ของโครงการกัน ทางเข้าออกมีทางเดียวอยู่ติดกับถนนซอยโชคชัยร่วมมิตร เข้ามาจะแยกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งขวาเป็นพื้นที่จอดจักรยาน สวนหย่อม และพื้นที่นั่งพักผ่อน ฝั่งซ้ายเป็นทางไปที่จอดรถจะมีไม้กระดกกั้นอยู่ อาคารพักอาศัยมีอยู่ 4 อาคาร A , D อยู่ด้านหน้า B , C อยู่ด้านหลัง ล้อมรอบอาคาร Clubhouse 3 ชั้นอยู่ ซึ่งด้านหน้าของ Clubhouse จะเป็นสวนหย่อม ส่วนด้านในเป็น Facilities หลักต่างๆรวมถึงสำนักงานนิติบุคคลด้วย (Retreat Garden) ที่จอดรถสามารถจอดได้รอบๆอาคาร ใต้ตึกชั้นล่าง และชั้นใต้ดิน รวมๆแล้วจอดแบบไม่รวมซ้อนคันประมาณ 344 คันคิดเป็น 61.5% เข้ามาในอาคารพักอาศัยจะมี Lobby แยกของใครของมันอยู่อีกจุดหนึ่ง มีลิฟท์อาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการเท่ากับ 70 : 1 อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ มีจัดสวนหย่อมรอบๆอาคารค่ะ
การวางผังอาคารได้รับการออกแบบมาให้มีช่องเปิดที่ลมสามารถพัดผ่านเข้ามายังพื้นที่ด้านในได้ ทำให้เกิดการหมุนเวียนอากาศหรือ ventilation flow นอกจากนั้นยังมีการออกแบบให้ได้รับแสงแดดไม่มากไม่น้อยเกินไปตลอดทั้งปี
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ผังของอาคารพักอาศัยทั้ง 4 จะคล้ายๆกันเลยค่ะ ตัวอาคารเป็นรูปตัว U หางสั้น แบ่งห้องพักออกเป็นฝั่งด้านในที่เห็นวิวพื้นที่ส่วนกลางและฝั่งด้านนอก ห้องขนาด 29 ตร.ม.จะจัดให้อยู่ตรงช่วงกลางของอาคาร บริเวณมุมเป็นห้องใหญ่ ขนาดตั้งแต่ 1 ห้องนอน 35.5 ตร.ม. – 2 ห้องนอน 59.00 ตร.ม. ห้อง 1 ห้องนอน Plus 42 ตร.ม. อยู่ฝั่งด้านในอาคารที่เห็นวิวเป็น Clubhouse และสระว่ายน้ำ มียูนิตต่อชั้นสูงสุด 20 ยูนิต ส่วนผังชั้นอื่นๆก็คล้ายกับชั้นนี้ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้นดาดฟ้า จะมี Roof Top BBQ Garden มาให้ทุกอาคาร ของใครของมัน ไม่ต้องแย่งกันค่ะ ^^
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
อาคาร Club House
- ชั้นล่าง
- Lobby
- สำนักงานนิติบุคคล
- Co-working space / Library area
- Steam & Sauna
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 25 x 6 เมตร ลึก 1.2 เมตร
- ที่นั่งริมสระว่ายน้ำ (Sunken Cozy Lounge)
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- พื้นที่เล่นโยคะ
อาคารพักอาศัย
- ชั้นล่าง
- Lobby
- ห้องซักรีด (Laundry Room)
- สวนพักผ่อน (Retreat Garden)
- ลานสันทนาการ (Courtyard)
- ทางเดินออกกำลัง (Jogging Track)
- พื้นที่สำหรับเลี้ยงสัตว์ ( Pet Area)
- Roof Top BBQ Garden (equipment provided )
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 70 : 1
- Service Lift : ไม่มี
- ที่จอดรถไม่รวมจอดซ้อนคันประมาณ 344 คันคิดเป็น 61.5% รวมจอดซ้อนคัน 63%
- บริการรถรับส่ง (Shuttle Service)
- Free Wi-Fi ในพื้นที่ส่วนกลาง
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องชุดในโครงการแบ่งออกเป็น 2 ประเภทได้แก่ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน วางผังเป็นห้องหน้ากว้าง 5-12 เมตร ออกแบบด้วยแนวคิด FUNCTIONAL FLEXIBILITY ให้ห้องสามารถปรับเปลี่ยนได้ โดยห้องแบบ 1 ห้องนอนมีการออกแบบให้มีประตูบานเลื่อนที่สามารถปรับได้ตาม function การใช้งาน (HYBRID SLIDING DOOR) และมี Layout ให้เลือกหลายแบบ ส่วนแบบ 2 ห้องนอน หน้ากว้าง 12 เมตร เป็นห้องตำแหน่งมุมของโครงการ มีความเป็นส่วนตัวและสามารถเห็นวิวที่เปิดโล่งของสวน
สำหรับห้องตัวอย่างที่เราจะพาไปชมมีอยู่ 2 แบบค่ะ 1 ห้องนอน 29 ตร.ม. และ 1 ห้องนอน 33 ตร.ม. ขายแบบ Fully Fitted ที่พิเศษหน่อยคือนอกจากจะได้ Items มาตรฐานอย่าง ชุดครัว สุขภัณฑ์ แอร์ แล้ว ทางโครงการก็มีตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของมาให้ด้วยค่ะ
ห้องแรกที่เราจะพาไปชมคือ 1 ห้องนอน 29 ตร.ม. เข้าห้องมาจะเจอกับครัวก่อน ทางโครงการมีประตูบานเลื่อนมาให้ สามารถเลื่อนมาปิดเพื่อครัวเป็นครัวปิด เป็นสัดส่วนมากขึ้นได้ ฝั่งตรงข้ามครัวมีตู้เก็บของ+ตู้รองเท้า พอเข้าห้องมาก็เอาของมาเก็บได้สะดวก ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่ที่ต่อเนื่องกันของห้องนั่งเล่นและห้องนอน มีช่องแสงทั้งจากประตูบานเลื่อนไประเบียงบริเวณด้านข้างโซฟา และ หน้าต่างบานใหญ่ฝั่งข้างเตียง ทำให้ได้พื้นที่ที่โปร่งโล่ง ได้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องเยอะ แต่จะไม่มีประตูกั้นแบ่งห้องให้ เหมาะกับอยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อนสนิท ที่ต้องการพื้นที่ห้องที่เปิดโล่ง เชื่อมต่อถึงกันค่ะ
ประตูทางเข้าเราจะได้ตามแบบนี้เลยค่ะ มี Digital Door Lock มาให้ด้วย
Digital Door Lock ได้ของ Hafele ค่ะ
เข้ามาในห้องจะเจอกับครัวก่อน ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับห้องนอน พื้นทุกห้องได้เป็นลามิเนตหนา 8 mm. ฝ้าเพดานสูง 2.45 เมตรค่ะ
กลับหลังหันมามองฝั่งหน้าห้อง จะเห็นว่าฝั่งตรงข้ามครัวจะมีตู้เก็บของอยู่ซึ่งทางโครงการก็มีแถมให้ด้วยนะคะ
เคาน์เตอร์ครัวได้ทั้งตู้ล่างและตู้บน ขนาดพอเหมาะกับการใช้งาน 1-2 คน ได้ Sink , Hob , Hood ครบแต่ไม่ได้มีไมโครเวฟให้นะ วัสดุตู้เป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยเมลามีนลายไม้ Top เป็นหินquartz สีดำ ได้แผ่นกระเบื้องกันเปื้อนด้านหลังด้วย
ตู้ล่างเปิดออกมาเก็บของได้แบบนี้ ใต้อ่างล้างจานมีถังขยะมาให้ด้วย
ตู้บนแบ่งเป็นชั้นเอาไว้เก็บของได้อีก สามารถเปิดไฟเพิ่มความสว่างเวลาใช้งาน
อ่างล้างจานหลุมเดียวของ Hafele เป็นแบบไร้ขอบวาง Top หินทับด้านบน
เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Hafele เช่นกัน เหมาะกับการอุ่นอาหารกินง่ายๆในคอนโดค่ะ
เครื่องดูดควันก็เป็นของ Hafele
ตู้เก็บของฝั่งตรงข้ามกับครัว จะมีขนาดเท่ากับที่บานตู้เปิดออกมานะคะ ส่วนที่เกินมาทางฝั่งซ้ายเป็นผนังตกแต่งให้ดูกลมกลืนกันเฉยๆ ตรงกลางตู้เป็นช่องสำหรับวางของโชว์ หรือ พวกกุญแจบ้าน
ตู้บนและตู้ล่างเปิดออกมาเก็บของได้ตามนี้ค่ะ วัสดุเป็นเมลามีนลายไม้เช่นเดียวกับเคาน์เตอร์ครัว
มีตู้เก็บรองเท้ามาให้อยู่ฝั่งหน้าห้อง โดยตู้รองเท้านี่ถือว่าสำคัญมากๆเพราะช่วยให้ห้องเราดูเป็นระเบียบมากขึ้นและช่วยลดฝุ่นที่จะมาจากรองเท้าเวลาที่เราถอดทิ้งไว้ด้วยค่ะ
ถัดเข้ามาด้านในห้องจะเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันของพื้นที่นั่งเล่นและส่วนนอนหลับพักผ่อน ระยะดูทีวีประมาณ 2.10 เมตร หลังห้องผนังเป็นช่องแสงทั้งแผง เข้ามาจึงรู้สึกว่าห้องสว่างและโปร่งค่ะ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆในห้องนี่ทางโครงการไม่ได้แถมให้นะคะ
พื้นที่นั่งเล่นนั้นทางฝั่งซ้ายจะมีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนครัว ส่วนทางฝั่งขวาเป็นประตูกระจกบานเลื่อนทางออกไประเบียง
ทางออกไประเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบนี้ค่ะ เวลานั่งพักผ่อนอยู่ก็ดูวิวไปด้วยได้
โดยระเบียงเราจะได้ตามแบบนี้เลย สามารถใช้ซักล้างและวางเครื่องซักผ้าได้
ระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค มีการลดระดับเพื่อกันน้ำจากฝนและการซักล้างค่ะ
ราวกันตกระเบียงเป็นผนังก่อทึบบางส่วนมีช่องเปิดตรงกลางติดตั้งกรอบและราวอะลูมิเนียมตามแบบนี้ ทำให้เราใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่มากขึ้น ของจริงจะไม่มีกระจกใสกั้นมาให้นะ เป็นช่องเปิดโล่งเลย
ถัดเข้าไปด้านในเป็นส่วนนอนพักผ่อน เตียงอยู่ต่อจากชุดโซฟาไปแบบนี้ ถ้านั่งดูซีรีย์แล้วง่วงก็กระโดดขึ้นเตียงได้เลยสะดวกดี
ห้องตัวอย่างห้องนี้วางเตียง 5 ฟุต ซึ่งมันจะเหลือพื้นด้านข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะทำงานได้อีก ถ้าใครอยากได้เตียงใหญ่ๆ 6 ฟุตก็พอวางได้อยู่นะ ของจริงผนังเป็นทาสีไม่มีตกแต่งหัวเตียงให้นะ ทางฝั่งขวาเป็นทางไปห้องน้ำ
ห้องตัวอย่างห้องนี้วางเตียง 5 ฟุต สำหรับใครที่อยากจะขยับขยายเลือกเตียงเป็น King size ก็ลองเอาระยะไปจัดดูนะ
ปลายเตียงในห้องตัวอย่างวางห่างจากโซฟาพอประมาณ ถ้าใครอยากจะวางชิดไปเลยก็ได้
เรามายืนอยู่หน้าห้องน้ำแล้วถ่ายย้อนกลับไปจะเห็นว่าห้องดูโปร่งเพราะพื้นที่มันเชื่อมต่อถึงกันและได้ความสว่างจากช่องแสงด้วย
ช่องแสงทั้งจากประตูบานเลื่อนและหน้าต่างข้างเตียงค่ะ
หน้าต่างข้างเตียงมีบานนึงเป็นบานกระทุ้ง เอาไว้เปิดรับลม ส่วนบานอื่นๆเป็นแบบ Fix ค่ะ
ประตูทางเข้าห้องน้ำเป็นบานเลื่อน ซึ่งอีกฝั่งหนึ่งจะมีบานเลื่อนที่กั้นห้องครัวเลื่อนมาปิดตู้เสื้อผ้าพอดี ดีไซน์ของบานเลื่อนมีการแบ่งช่องเป็นตารางได้อารมณ์ Industrial หน่อยๆเข้ากับ Concept ของโครงการค่ะ
ตู้เสื้อผ้าที่โครงการให้ แบ่งช่องมาให้ครบทุกฟังก์ชั่น ทั้งช่องใหญ่สำหรับเก็บกระเป๋าหรือของชิ้นใหญ่ ราวแขวนเสื้อทั้งแบบเสื้อเชิ้ตและเดรสยาว มีลิ้นชักสำหรับพับเก็บเสื้อผ้าหรือของใช้ส่วนตัว ชั้นด้านบนเอาไว้เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ค่ะ
มีลิ้นชักมาให้ 3 ชั้น สำหรับเก็บเสื้อผ้าแบบพับแยกเป็นสัดส่วน
ถัดมาเป็นห้องน้ำ เราจะได้ทุกอย่างตามนี้ วัสดุมีทั้งกระเบื้องแกรนิตโต้และเซรามิคคละกันไป ไม่ได้ให้ของตกแต่งและฝ้าเพดานจะเป็นเรียบๆไม่มีซ่อนไฟค่ะ
อ่างล้างหน้าได้แบบมีตู้เก็บของด้านล่าง กระจกก็ได้เป็นกลมๆพร้อมกระเบื้องด้านหลังดีไซน์แบบนี้เลย
ตู้ด้านล่างเปิดออกมาเก็บของได้ ทั้งชุดนี้เป็นของ LAVENZ หรือเทียบเท่า ซึ่งตัวตู้ทำจากไม้พิเศษ “HMR” ลดอัตราการขยายตัวของเนื้อไม้ ทนทานต่อวัสดุที่ใช้ทำตู้ทั่วๆไป อ่างล้างหน้าเลือกที่ผลิตจาก “Solid Coated” ที่ผ่านการเคลือบผิวให้เงา แข็งแรง และทนทานจากการใช้งาน
ภายในตู้ทางโครงการเผื่อพื้นที่เอาไว้ให้สำหรับติดตั้งระบบทำน้ำร้อน
โถสุขภัณฑ์เป็นของ Hafele ผนังด้านหลังกระเบื้องเราก็ได้ลายนี้ค่ะ
อีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำมีฉากกั้นเป็นบานเลื่อนกรอบอะลูมิเนียมดีไซน์พิเศษแบบ 3 ตอนมาให้ แยกการใช้งานเป็นสัดส่วน ไม่ต้องกลัวน้ำจะกระเด็นมาโดนส่วนแห้ง
พื้นที่อาบน้ำมีธรณียกสูงขึ้นมาสำหรับกันน้ำค่ะ
พื้นที่อาบน้ำข้างๆมีช่องสำหรับวางของใช้ สบู่ แชมพูมาให้
ฝักบัวก็เป็นของ Hafele ค่ะ
อีกห้องหนึ่งเป็น 1 ห้องนอน 33 ตร.ม. ห้องนี้ขนาดกว้างขึ้นมาหน่อย เข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันระหว่าง ครัว ส่วนรับประทานอาหาร และ นั่งเล่น ข้างๆโซฟาเป็นทางออกไปที่ระเบียง ห้องน้ำห้องนี้อยู่บริเวณฝั่งหน้าห้องเข้าได้ 2 ทางทั้งจากบริเวณห้องครัวและในห้องนอน เป็นฟังก์ชั่นที่ดีสำหรับในกรณีที่อยู่กัน 2 คนหรือมีเพื่อนมาก็ให้เข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องเดินผ่านห้องนอน ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนจะมีประตูบานเลื่อนกั้นแยกพื้นที่เป็นสัดส่วนและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ห้องนอนวางเตียงได้ประมาณ 5 ฟุต มีพื้นที่วางโต๊ะทำงานอยู่ข้างๆ หน้าห้องน้ำจัดพื้นที่เป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Walk-in Closet ค่ะ
เข้าห้องมาจะเจอกับครัวก่อน ห้องนี้เป็นครัวเปิด ขนาดเคาน์เตอร์ใหญ่กว่าห้องก่อนหน้า มีโต๊ะทานอาหารอยู่ในชุดนี้เลย ถัดเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับระเบียง ทางฝั่งซ้ายเป็นทางไปห้องนอนและห้องน้ำ วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆเหมือนกับห้องก่อนหน้าค่ะ
มองย้อนกลับไปที่ฝั่งหน้าประตู บริเวณหน้าห้องนี้จะเป็นส่วนครัวและทานข้าวแยกเป็นสัดส่วนดี
เคาน์เตอร์ครัววัสดุตู้เป็นโครงไม้ปิดผิวด้วยเมลามีนลายไม้ Top เป็นหินquartz สีดำ ได้แผ่นกระเบื้องกันเปื้อนด้านหลัง เปิดออกมาเก็บของได้ตามภาพ
ได้อ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ของ Hafele ตามนี้ ได้ช่องใส่ไมโครเวฟ แต่ไม่ได้แถมไมโครเวฟนะ
โต๊ะทานข้าวจัดได้ประมาณ 2 ที่นั่งค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับครัวจะมีทางเข้าห้องน้ำด้วย โดยด้านหลังเคาน์เตอร์ครัว ข้างๆโต๊ะทานข้าวจะมีช่องใส่เครื่องซักผ้าอยู่
บริเวณด้านหน้าห้องน้ำ ทางโครงการมีตู้เก็บของหรือตู้เก็บรองเท้ามาให้ ด้านบนสามารถวางของโชว์หรือถ้าเราอยากเพิ่มพื้นที่ใช้สอยก็สามารถติดตั้งชั้นเพิ่มเพื่อทำเป็นชั้นวางของได้
ตู้ด้านล่างใช้เป็นตู้เก็บรองเท้าได้ค่ะ
ถัดเข้ามาด้านในเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับห้องนอน ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร ตั้งอยู่ติดกับทางออกไประเบียง ด้านหลังเป็นประตูบานเลื่อนสามารถเลื่อนมากั้นเพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้ แต่ถ้าอยากได้พื้นที่เปิดโล่งเชื่อมต่อถึงกันก็เลื่อนเปิดประตูออกค่ะ
อุปกรณ์มือจับของประตูบานเลื่อนค่อนข้างแข็งแรง
พื้นที่นั่งเล่นจะเชื่อมต่อกับครัวแบบนี้
ข้างๆโซฟาเป็นทางออกไประเบียง กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนคู่ กรอบบานอะลูมิเนียม
พื้นที่ระเบียง ออกแบบมาคล้ายๆกับห้องก่อนหน้าค่ะ ที่บริเวณผนังด้านนอกอาคารจะมีก่อทึบบางส่วน ไม่ได้เป็นราวกันตกเพียวๆ ทำให้เราได้พื้นที่ที่เสมือนเป็น Semi Outdoor ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น
พื้นที่ระเบียง ปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค 30 x 30 เซนติเมตร เรียงสลับลายตามภาพ
ถัดจากโซฟาไปเป็นห้องนอน ในห้องตัวอย่างวางเตียงไว้ขนาด 5 ฟุตแล้วด้านข้างทั้งสองฝั่งยังมีพื้นที่เหลือ ทางด้านซ้ายเป็นทางไปห้องน้ำค่ะ
พื้นที่ระหว่างห้องนอนและนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกันประมาณนี้ เราสามารถนอนดูทีวีได้เลย ถ้าเราจะหลับหรืออยากได้ความเป็นส่วนตัวก็เลื่อนบานเลื่อนมาปิดค่ะ
ข้างเตียงมีหน้าต่างช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องได้ดี ดีไซน์เดียวกันกับห้องก่อนหน้าค่ะ คือมีบานกระทุ้งอยู่ 1 บาน และผนังด้านหลังโต๊ะทำงานก็เป็นหน้าต่างบาน Fix อีกจุดหนึ่งด้วย
ข้างเตียงทั้งสองฝั่งมีระยะเหลือ วางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ
ปลายเตียงมีระยะห่างระหว่างเตียงและโซฟาพอสมควรค่ะ เดินผ่านได้สะดวก
อีกฝั่งหนึ่งเป็นทางไปห้องน้ำ หน้าห้องน้ำมีตู้เสื้อผ้า 2 ตู้อยู่ตรงข้ามกัน ถ้าอยู่กัน 2 คนก็แบ่งตู้กันได้เลย ไม่ต้องแย่งกันค่ะ
ตู้เสื้อผ้าฝั่งนี้จะเป็นแบบที่ทางโครงการตกแต่งในห้องตัวอย่างเท่านั้น แต่ของจริงจะเป็นบานทึบค่ะ
ตู้เสื้อผ้าที่เราจะได้หน้าตาจะเป็นประมาณนี้ค่ะ หน้าบานเป็นเมลามีนลายไม้ ข้างในมีครบทั้งลิ้นชักและราวแขวนผ้า
ห้องน้ำแบ่งออกเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียกเป็นสัดส่วน กั้นด้วยฉากกั้นอาบน้ำ วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆเหมือนกันห้องก่อนหน้าค่ะ
จากพื้นห้องจะลดระดับลงมาเล็กน้อย ส่วนพื้นที่อาบน้ำนั้นจะมีธรณีกั้นอยู่
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าและกระจกส่องหน้าดีไซน์และยี่ห้อเดียวกัน
โถสุขภัณฑ์ต่างๆได้ของ Hafele ส่วนอ่างล้างมือเป็นของ LAVENZ (หรือเทียบเท่า)ค่ะ
ห้องน้ำสามารถเข้าได้ทั้ง 2 ทางทั้งจากห้องครัวและห้องนอนค่ะ
ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเลื่อน 3 ตอน พอเปิดออกมาแล้วจะได้พื้นที่ช่องเปิดขนาดกว้างขึ้นกว่าแบบ 2 ตอน ดีไซน์เป็นแบบเดียวกันกับห้องแรก
พื้นที่อาบน้ำ กว้างพอสมควร ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ค่ะ
ฝักบัวเป็นของ Hafele มีช่องสำหรับวางของพวกแชมพู สบู่อยู่ข้างๆค่ะ
เรามาดูแปลน Type อื่นๆกันต่ออีกนิดค่ะ 1 ห้องนอน 38 ตร.ม. เข้ามาเป็นห้องนั่งเล่น ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำที่เข้าได้ทั้ง 2 ทางจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน ถัดเข้าไปด้านในเป็นครัวและโต๊ะอาหารแบบ 4 ที่นั่ง มีระเบียงอยู่ด้านหลัง อีกฝั่งหนึ่งของห้องเป็นห้องนอนที่มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงาน
1 ห้องนอน 42 ตร.ม. ห้องนี้จะมีห้องอเนกประสงค์เพื่อเข้ามาด้วย สำหรับใครที่อยากได้ห้องอีกห้องสำหรับทำเป็นห้องนอน ห้องทำงาน หรือ ห้องเก็บของเป็นต้น ถัดเข้ามาเป็นครัว โต๊ะทานข้าวแบบ 4 ที่นั่ง ห้องนั่งเล่นที่เชื่อมต่อกับระเบียง ระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อน หน้าห้องน้ำมีตู้เสื้อผ้า 2 ตู้อยู่ตรงข้ามกัน มีห้องน้ำที่เข้าได้ทั้ง 2 ทางค่ะ
สุดท้ายคือ 2 ห้องนอน 59 ตร.ม. เข้าห้องมาเป็นพื้นที่ครัว ทานอาหาร และ นั่งเล่นอยู่ด้วยกัน เชื่อมต่อกับพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ พื้นที่เหมาะสำหรับครอบครัวทำกิจกรรมร่วมกันในบริเวณนี้ ห้องนอนจัดให้แยกออกไป 2 ฝั่ง ห้องนอนเล็กอยู่ติดกับห้องน้ำที่ต้องใช้ร่วมกัน ส่วนห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัวค่ะ ปลายเตียงมีพื้นที่เหลือค่อนข้างเยอะสามารถวางโต๊ะทำงานหรือ Daybed นั่งพักผ่อนได้อีก
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 3 June 2017
- 1 Bedroom เนื้อที่ 29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.80 ล้านบาท (รอ Update ข้อมูลจากทางโครงการ)
- Fully Fitted
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- Shuttle Bus ไปกลับ MRT รัชดาภิเษก
- จอง 20,000 บาท จอง 20,000บาท
- ทำสัญญา 50,000 บาท
- ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล MAESTRO 19 รัชดา19-วิภา ตั้งอยู่ในซอยรัชดาภิเษก19 หรือ ซอยวิภาวดี16 ที่มีชื่อเรียกว่า ซอยโชคชัยร่วมมิตร มี MRT รัชดาภิเษกอยู่หน้าปากซอย และเป็นซอยที่รู้จักกันดีของคนในย่านนี้ว่าสามารถใช้เป็นเส้นทางลัดเชื่อมได้ 3 ถนน ทั้งถนนรัชดาภิเษก ถนนวิภาวดีรังสิต และ ถนนลาดพร้าว ที่อยู่อาศัยในซอยนี้ส่วนใหญ่เป็นตึกแถว มีอพาร์ทเม้นท์เยอะมากๆ คอนโดในซอยนี้จะมีคอนโดเก่าที่สร้างมานานแล้ว ส่วนโครงการใหม่จะอยู่อีกฝั่งหนึ่งค่อนไปทางลาดพร้าวมากกว่า บรรยากาศโดยรวมคึกคักโดยเฉพาะช่วงกลางซอยมีรถผ่านตลอดเวลา ความอุดมสมบูรณ์ ในซอยนี้ถือว่าดีใช้ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงกลางซอยไปจนถึงท้ายซอยฝั่งวิภาวดีรังสิตจะคึกคักเป็นพิเศษมีครบทั้งร้านค้า ร้านอาหารอร่อยๆขึ้นชื่อหลายร้านและร้านอื่นๆรองรับต่อการอยู่อาศัย ใกล้แหล่งช้อปปิ้งอย่าง เซ็นทรัล ลาดพร้าว , เซ็นทรัลพระราม 9 , UNION MALL , ตลาดนัดสวนจตุจักร , สวนลุมไน้ท์บาซาร์ รัชดาภิเษก , เอสพลานาด , ตลาดนัดรถไฟ , ตลาด อ.ต.ก , ตลาดการบินไทย แหล่งงานทั้งในย่านรัชดาฯ-พระราม 9 อย่าง ตลาดหลักทรัพย์ (SET) , AIA , UNILEVER , TRUE , เมืองไทยภัทร , GLAND และบนถนนวิภาวดีรังสิตอย่าง การบินไทย , ไทยรัฐ , อาคารซันทาวเวอร์ เป็นต้นนอกจากนั้นยังใกล้กับสวนจตุจักร และ สวนรถไฟอีกด้วย
การเดินทางโดยใช้รถ ซอยนี้เป็นซอยที่สามารถลัดเลาะเชื่อมต่อได้ 3 ถนน ถ้ามาจากถนนรัชดาภิเษกก็เข้าได้จากซอย รัชดาภิเษก19 ตรงมาหน่อยจะมีทางแยกถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นทางไปโครงการ หรือ ถนนวิภาวดีรังสิต16 (โชคชัยร่วมมิตร) ซึ่งสุดซอยจะเป็นถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งเลขคู่ ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นทางไปออกซอยลาดพร้าว 18 , 20 , 26 ลัดไปหลังการบินไทยได้ สามารถเลี่ยงรถติดบริเวณแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าวในเวลาเร่งด่วนได้ดี มีบางช่วงเวลาที่รถในซอยนี้จะติดบ้างเช่นเวลาเร่งด่วนและก่อน-หลังเลิกเรียน ซึ่งถือเป็นความสะดวกและจุดเด่นของทำเลนี้ค่ะ นอกจากนั้นทำเลนี้ยังสามารถเดินทางไปฝั่งรัชดาภิเษก-พระราม9 ที่มีอาคารสำนักงานเยอะๆ หรือจะเชื่อมต่อไปอโศก สุขุมวิทก็สะดวกค่ะ สำหรับทางด่วนเราสามารถออกมาทางถนนวิภาวดีรังสิตแล้วตรงไปขึ้นทางด่วนดินแดงที่ทางขึ้นจะอยู่บริเวณใกล้ๆกับม.หอการค้าได้ ที่จอดรถไม่รวมจอดซ้อนคันได้ประมาณ 344 คันคิดเป็น 61.5% รวมจอดซ้อนคัน 63% ถือว่าเยอะพอสมควรค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ สามารถใช้ MRT สถานีรัชดาภิเษกที่ห่างจากโครงการประมาณ 650 เมตรเพื่อเชื่อมต่อไปยังสถานีอื่นๆได้ โดยทางโครงการจะมีบริการรถรับ -ส่ง (Shuttle service) จากโครงการไปถึงรถไฟฟ้าเพื่อความสะดวกสบายของลูกบ้าน และเนื่องจากเป็นซอยลัดจึงมีรถผ่านตลอดเวลาหาเรียกแท็กซี่ได้ง่าย ส่วนรถรับส่งสาธารณะอื่นๆในซอยนี้จะมีรถกะป้อด้วย วิ่งรับส่งตลอดทั้งวันระหว่างหน้าปากซอยทางฝั่งรัชดาภิเษก19 และ วิภาวดีรังสิต16 ค่าโดยสาร 7 บาทตลอดสาย ช่วงกลางคืนหลังสามทุ่มปรับเป็น 10 บาท โดยสามารถเหมาไปยังที่ต่างๆได้ค่ะ ก็สะดวกและประหยัดดี
ความอุดมสมบูรณ์ ในซอยนี้ถือว่าดีใช้ได้เลยทีเดียว ช่วงต้นซอยรัชดาภิเษก19 จะมี 7-11 ขนาดใหญ่และร้านอาหารตามสั่งรองรับคนที่เดินกลับบ้านและเด็กๆโรงเรียนปัญจทรัพย์ ถัดเข้าไปตั้งแต่ช่วงกลางซอยเป็นต้นไปจนถึงหน้าปากซอยวิภาวดีรังสิต16 จะคึกคักเป็นพิเศษมีครบทั้งร้านค้า ร้านอาหารอร่อยๆขึ้นชื่อหลายร้าน ร้านนั่งชิล ร้านขายขนมก็เยอะทั้งขนมไทยและร้านขนมเค้กน่ารักๆ นอกจากร้านอาหารแล้วยังมีร้านหมอฟัน , ร้านถ่ายรูป ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 , Tesco Lotus Express และอื่นๆที่ตอบรับต่อการอยู่อาศัย สามารถนั่งรถกะป้อหรือขับรถมาจอดหาอะไรทานได้สะดวก สำหรับสถานที่สำคัญโดยรอบ แหล่งช้อปปิ้งก็จะมี เซ็นทรัล ลาดพร้าว , เซ็นทรัลพระราม 9 , UNION MALL , ตลาดนัดสวนจตุจักร , สวนลุมไน้ท์บาซาร์ รัชดาภิเษก , เอสพลานาด , ตลาดนัดรถไฟ , ตลาด อ.ต.ก , ตลาดการบินไทย เป็นต้น ใกล้แหล่งงานทั้งในย่านรัชดาฯ-พระราม 9 อย่าง ตลาดหลักทรัพย์ (SET) , AIA , UNILEVER , TRUE , เมืองไทยภัทร , GLAND และบนถนนวิภาวดีรังสิตอย่าง การบินไทย , ไทยรัฐ , อาคารซันทาวเวอร์ , อาคารเล้าเป้งง้วน 1 เป็นต้น นอกจากนั้นยังใกล้กับสวนจตุจักร , สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) สวนสาธารณะ ขนาดใหญ่ของคนย่านนี้ไปใช้พักผ่อน ออกกำลังกายได้
วัสดุ ให้ตามมาตรฐานค่อนข้างได้ทางดี พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 mm. กระเบื้องแกรนิตโต้ เซรามิค ขายแบบ Fully Fitted ที่พิเศษหน่อยคือนอกจากจะได้ ชุดครัว สุขภัณฑ์ แอร์ แล้ว ทางโครงการก็มีตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของมาให้ด้วยค่ะ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน อ่างล้างจาน และสุขภัณฑ์เป็นของ Hafele ค่อนข้างดี ฉากกั้นอาบน้ำและประตูบานเลื่อนต่างๆดีไซน์ได้สวย
การออกแบบ ทำได้ดีมี Concept Industrial Elegance ดีไซน์ให้ความรู้สึกเท่ห์แต่ก็ยังคงความหรูหรา คือผสมความเป็น Industrial วางผังอาคารให้เกิดการไหลเวียนอากาศ โดยวางอาคารทั้ง 4 หันเข้าหากันในลักษณะ Interlock ทำให้เกิด Space ตรงกลางเป็นพื้นที่พักผ่อน มีช่องเปิดที่ลมสามารถพัดผ่านเข้ามายังพื้นที่ด้านในได้ ทำให้เกิดการหมุนเวียนอากาศหรือ ventilation flow นอกจากนั้นยังมีการออกแบบให้ได้รับแสงแดดไม่มากไม่น้อยเกินไปตลอดทั้งปี และทางโครงการยังอนุญาตให้สามารถนำสัตว์เลี้ยงแสนรักมาเลี้ยงได้ ในห้องพักมีการออกแบบให้มีประตูบานเลื่อนที่สามารถปรับได้ตาม function การใช้งาน และมี Layout ให้เลือกหลายแบบ
สาธารณูปโภค มีครบครันทั้งพื้นที่จอดจักรยาน สวนหย่อม และพื้นที่นั่งพักผ่อน Clubhouse 3 ชั้นที่หน้าของ Clubhouse จะเป็นสวนหย่อม ชั้นล่าง มีที่จอดรถ , Lobby , สำนักงานนิติบุคคล ชั้น 2 มี Co-working space & Library area , Steam & Sauna และเดินเชื่อมต่อออกมาที่สระว่ายน้ำ แบบ Outdoor ได้ โดยสระเป็นระบบเกลือขนาด 25 x 6 เมตร มีที่นั่งพักผ่อนริมสระด้วย (Sunken Cozy Lounge) ชั้น 3 มีห้องออกกำลังกายและพื้นที่เล่นโยคะ เข้ามาในอาคารพักอาศัยจะมี Lobby แยกของใครของมันอยู่อีกจุดหนึ่ง มีลิฟท์อาคารละ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการเท่ากับ 70 : 1 อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ มีจัดสวนหย่อมรอบๆอาคารค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคาประมาณ 95,000-100,000 บาท/ตร.ม., 3 June 2017
- ทำเล 7.5/10 – อยู่ในซอยรัชดาฯ19/วิภาวดีฯ16 (โชคชัยร่วมมิตร) เป็นซอยลัด อุดมสมบูรณ์ ใกล้ MRT รัชดาภิเษก
- เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – สะดวกสามารถใช้ซอยลัด เข้า-ออกได้หลายเส้นทาง เชื่อมต่อเข้าเมืองได้
- ไม่ใช้รถ 7.75/10 – สามารถเดินไปขึ้น MRT ได้ในระยะ 650 เมตร เรียกรถแท็กซี่ กะป้อได้สะดวก มี shuttle bus รับ-ส่ง
- วัสดุ 7.50/10 – ให้ตามมาตรฐานค่อนข้างไปทางดี
- แบบ 8.75/10 – ออกแบบได้สวย มีConcept มีการวางผังที่ดี โดยเฉพาะส่วนห้องพัก
- สาธารณูปโภค 8.50/10 – ครบครัน ตกแต่งสวยน่าใช้ มี Clubhouse 3 ชั้น แยกออกมาต่างหาก
- HIGH CLASS
- 7.80 / 10.00
เนื่องจากราคาที่ได้มาเป็นราคาเริ่มต้นช่วงเปิดตัวโครงการ ยังไม่ทราบราคาทั้งหมด หากใครซื้อถูกหรือแพงกว่านี้สามารถบวกลบคะแนนเองได้นะคะ หากทางเราได้ข้อมูลครบแล้วจะมา Update กันอีกทีค่ะ
BOTTOM LINE
MAESTRO 19 รัชดา19-วิภา เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านรัชดาฯ-ลาดพร้าว เดินทางไปทำงานหรือสถานที่ต่างๆด้วย MRT สะดวก ชอบซอยลัด และทำเลที่มีความอุดมสมบูรณ์หาของกินง่าย ชอบใช้ Facilities และ เหมาะกับคนที่ต้องการเลี้ยงสัตว์ในคอนโด มีงบประมาณ 2.8 ล้านขึ้นไป
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )