Mayfair Place Victory Monument 

ต้อนรับรีวิวตัวที่ 2000 แล้ว….กับโครงการ Mayfair Place Victory Monument คอนโด High Rise ตัวใหม่จาก PTF Realty ที่พึ่งจะเปิดตัวไปไม่นานมานี้นะคะ ซึ่งตัวนี้มาเปิดในทำเลย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ-สนามเป้า บนถนนวิภาวดีรังสิต หลังจากที่เคยเปิดแถวอ่อนนุช-ปุณณวิถีไปแล้ว 3 โครงการ จะเป็นอย่างไรติดตามรีวิวนี้กันค่ะ 🙂

Fact @ 25 November 2019

  • Mayfair Place Victory Monument (เมย์แฟร์ เพลส วิคตอรี่ โมนูเม้นท์)
  • PTF Realty Co.,Ltd
  • HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่: ถนนวิภาวดีรังสิต เขตพญาไท
  • ที่ดินประมาณ 1-1-77 ไร่
  • คอนโด High Rise 28 ชั้น 1 อาคาร 194 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 10 ยูนิต
  • ที่จอดรถประมาณ 114 คัน คิดเป็น 59% (ถ้ารวมจอดซ้อนคัน 127 คัน คิดเป็น 65%)
  • เริ่มก่อสร้าง : ปี 2563
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ปี 2565
  • ห้องพักอาศัย

  • 1 Bedroom 33.4 – 34.9 ตร.ม. จำนวน 114 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
  • 2 Bedrooms 55.6 – 73.2 ตร.ม. จำนวน 76 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท
  • Penthouse 127.9 – 131 ตร.ม. จำนวน 4 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 19.9 ล้านบาท

  • ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท
  • ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 140,000 บาท/ตร.ม.
  • ช่วงราคาต่อตารางเมตร ต่ำสุด – สูงสุดประมาณ 129,000 – 160,000 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-248-4999
  • สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ


    เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

    พิกัด Google Maps : 13.765436, 100.548116
    หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

    ที่ตั้งโครงการ Mayfair Place Victory Monument อยู่ติดถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งมุ่งหน้าไปทางดอนเมือง โดยห่างจากแยกดินแดงประมาณ 130 ม. เท่านั้นค่ะ ในแง่ของการเดินทางสำหรับโครงการนี้ส่วนใหญ่จะเน้นเดินทางเป็นลูปวงกลม (เส้นสีน้ำเงินในแผนที่) โดยผ่านซอยพหลโยธิน 2 เพื่อเข้าสู่ถนนพหลโยธิน และมุ่งหน้าเข้าทางอนุสาวรีย์ชัยฯ

    และเมื่อเข้าสู่วงเวียนอนุสาวรีย์ชัยฯ ก็ง่ายแล้วที่จะเดินทางไปย่านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิ่งเข้าพญาไท หรือจะเลี้ยวไปทางดินแดงเพื่อตรงไปแยกพระราม 9 หรือวิ่งข้ามไปฝั่งธนฯ แถวบางพลัดก็ไม่ยากค่ะ แต่ก็ยังเป็นทำเลการเดินทางที่เรายังต้องเผื่อเวลานะคะ เพราะแถวนี้ลดติดพอสมควรเลย

    ส่วนการเดินทางในทำเลนี้จะเหมาะมากกับคนที่เน้นการเดินทางด้วยทางด่วน 2 จุด อย่างทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนศรีรัช วิ่งเข้า-ออกเมืองได้ง่ายเลย ซึ่งก็ถือเป็นจุดเด่นนึงในแง่ทำเลของโครงการนี้เช่นกัน

    ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการระยะใกล้ๆ (แบบเดินไปได้) ไม่ค่อยมีมากนักนะคะ ก็พอจะเห็นริมถนนที่เป็นร้านอาหาร กินดื่มอยู่บ้าง แต่ความอุดมสมบูรณ์คึกคักจริงๆ จะอยู่ฝั่งถนนพหลโยธินเป็นหลัก ดังนั้นในการออกไปกินข้าว ออกไปซื้อของก็จะเน้นใช้รถส่วนตัวจะสะดวกสุดค่ะ

    ซึ่งบนถนนพหลโยธินนั้นไล่ตั้งแต่สนามเป้าไปจนถึงพญาไท เราก็จะเห็นร้านค้า ร้านอาหาร โดยเฉพาะคาเฟ่ เกือบตลอด 2 ฝั่งข้างทาง รวมไปถึงห้าง ศูนย์การค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Century, Center One เป็นต้นค่ะ

    สำหรับโครงการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปี 2565 ซึ่งก็ยังเป็นช่วงเวลาที่รถไฟฟ้าสายสีส้มช่วง ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม ที่เป็นเฟส 2 ของสายสีส้มยังไม่แน่นอนว่าจะแล้วเสร็จไหม ดังนั้นทางโครงการจึงมีบริการ Shuttle Service คอยรับ-ส่งลูกบ้านไปสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ BTS สนามเป้า นะคะ แต่เมื่อรถไฟฟ้าสายนี้แล้วเสร็จให้ใช้บริการแล้ว โครงการ Mayfair Place Victory Monument ก็จะเป็นโครงการที่ด้านหน้าโครงการมีรถไฟฟ้าตัดผ่าน อยู่ระหว่าง 2 สถานีคือ สถานีรางน้ำ และสถานีดินแดงค่ะ

    สำหรับการเดินทางในวันนี้เราเริ่มต้นกันที่ถนนพหลโยธินมุ่งหน้าไปทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนอโศกดินแดงและเมื่อเจอแยกดินแดงให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวิภาวดีรังสิต จากนั้นให้ชิดซ้ายเลยนะคะ เพราะตำแหน่งโครงการอยู่ห่างจากแยกไปประมาณ 130 ม. เท่านั้นเองค่ะ

    Image 1/8
    เริ่มต้นการเดินทางกันที่ถนนพหลโยธิน บริเวณสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

    เริ่มต้นการเดินทางกันที่ถนนพหลโยธิน บริเวณสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

    บรรยากาศและสภาพแวดล้อมโครงการฝั่งด้านหน้าโครงการที่ติดกับถนนใหญ่อย่างวิภาวดีรังสิต และทางด่วนเฉลิมมหานครจะเป็นบรรยากาศรถวิ่งผ่านไปมาตลอดนะคะ ดังนั้นถ้าใครอยากได้ห้องตำแหน่งหน้าอาคารเราแนะนำให้เลือกห้องโซนชั้นสูงหน่อย เพื่อลดทอนเสียง หรือมลภาวะจากท้องถนนได้อีกหน่อยนะคะ แต่ทิศนี้ก็จะมีข้อดีคือได้วิวโปร่งระยะไกลเลยค่ะ

    ส่วนทิศอื่นๆ ก็จัดว่าโอเคเลย เพราะโดยรอบโครงการเป็นอาคารเตี้ยทั้งหมด ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกห้องชั้นเตี้ยสุด (โครงการนี้ชั้นเตี้ยสุดคือชั้น 7) ก็ยังเป็นชั้นที่มีความสูงกว่าอาคารโดยรอบทำให้ได้วิวระยะไกลได้อยู่ค่ะ แต่ทิศที่แนะนำเลยคือทิศตะวันตกเฉียงใต้และเลือกห้องโซนชั้นสูงๆ ก็น่าจะได้วิวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิค่ะ

    สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

    • สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น
    • สวนสันติภาพ
    • อนุสาวรีย์ชัยฯ
    • Center One
    • ร.ร.แม่พระฟาติมา
    • King Power รางน้ำ
    • โรงพยาบาลราชวิถี
    • Century Mall
    • Esplanade
    • ห้างพันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ
    • Central Rama 9
    • G Land Tower


    เจาะลึกตัวโครงการ

    โครงการ Mayfair Place Victory Monument คอนโด High Rise 28 ชั้น จำนวนยูนิต 194 ยูนิต บนเนื้อที่ดินประมาณ 1 ไร่ครึ่ง โดยรูปแบบการวางฟังก์ชันของอาคารนี้ คือ

    • ชั้น 1 : จัดเป็นพื้นที่ต้อนรับ หลักๆ จะเป็นส่วน Lobby และมี Reading + Co-Working Space ไว้สำหรับให้ลูกบ้านมาติดต่อคุยงานกับ Visitor ได้
    • ชั้น 2-6 : เป็นที่จอดรถรูปแบบ Conventional (ช่องจอด) โดยสามารถจอดได้ทั้งหมด 59% แบบไม่รวมซ้อนคันนะคะ
    • ชั้น 7-25 : เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด ซึ่งจะเป็นรูปแบบ Simplex ฝ้าเพดานสูง 3 ม.
    • ชั้น 26 : เป็นชั้นพักอาศัยเช่นกัน แต่จะพิเศษตรงที่ชั้นนี้จะเป็นห้อง Penthouse ทั้งหมด และมีฝ้าเพดานสูงพิเศษ ลักษณะเป็นห้อง Loft ค่ะ
    • ชั้น 27-28 : ชั้น Main Facilities 2 ชั้นเต็ม สามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางพร้อมชมวิวมุมสูงได้เลย

    สำหรับรูปแบบการออกแบบโครงการนี้เน้นความ Modern แต่ก็แฝงความหรูหราไว้ในตัวค่อนข้างชัดเจนนะคะ สังเกตจากการเล่นดีเทลอาคารสีทองบางจุด และจะมีการตกแต่ง Interior ในรูปแบบเดียวกันเช่นกัน ซึ่งเดี๋ยวเราจะได้เห็นในลำดับต่อไป

    สิ่งที่เราเห็นจากโมเดลนี้ ตรงด้านหลังอาคาร หรือฝั่งทิศตะวันตกนั้นคือลักษณะอาคารส่วนนี้จะมีการเว้นพื้นที่ช่องตรงกลางไว้ แต่มีหลังคาด้านบนคลุมอยู่ ซึ่งรูปแบบนี้ข้อดีคือ ทำให้ส่วนโถงลิฟต์ + บันไดหนีไฟ ได้หน้าต่างมีแสงเข้าและระบายอากาศได้ดีเลย ในขณะเดียวกันก็ทำให้ห้องพักอาศัยฝั่งนี้ได้หน้าต่างถึง 3 ทิศด้วยกัน แต่ต้องบอกว่าทิศที่หันเข้าหาช่องว่างตรงกลางนั้นจะไม่ได้วิวในระยะไกลเท่าไหร่นะคะ เพราะหลักๆ จะหันเข้าหาเพื่อนฝั่งตรงข้ามมากกว่า ระยะห่างส่วนนี้ราวๆ 6 ม. ค่ะ

    ส่วน Facilities ด้านบนได้ยก 2 ชั้นไปเต็มๆ ชั้น 27 มีสระว่ายน้ำ, Lounge เป็นหลัก และชั้น 28 มี Spa Room, Recreation Room และ Game Room ค่ะ

    สำหรับรูป Perspective โครงการนะคะ อันนี้จะเป็นหน้าตาโครงการจำลองอาคารเมื่อสร้างเสร็จแล้ว บรรยากาศกลางคืนเปิดไฟก็จะได้อารมณ์ประมาณนี้เลย ส่วนรอบข้างของจริงจะไม่ได้เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดนี้นะคะ แต่จะเป็นอาคารเตี้ยที่ไม่ได้สูงถึงชั้นพักอาศัย ดังนั้นห้องพักอาศัยไม่ว่าจะชั้นเตี้ยปัจจุบันก็จะได้วิวที่โปร่งโล่งอยู่ค่ะ

    บรรยากาศบริเวณหน้าโครงการจุด Drop-off จะอยู่ด้านหน้าเลย จากที่ดูจากแปลนมาเราไม่แน่ใจเรื่องความกว้างของการกลับ-รถเท่าไหร่นะคะ  แต่การวาง Drop-Off ไว้ด้านหน้าแบบนี้เลย ทำให้ตัวอาคารดูโอ่อ่า (Grand) มากขึ้นได้

    บรรยากาศบริเวณ Lobby โครงการ เข้ามาเราจะเจอกับ Counter ตรงกลางก่อน ซึ่งบริเวณนี้เป็นพื้นที่ของ Concierge Service ที่ทางโครงการนี้จะมีให้ด้วยนะคะ แต่ยังไม่ระบุว่าจะเป็นบริษัทไหนที่เข้ามาดูแลส่วนนี้ ส่วนใครที่ไม่รู้จัก Concierge Service นี้คือการบริการดูแลต่างๆ ลักษณะใกล้เคียงกับโรงแรม ที่มีการบริการซักรีด ทำความสะอาด หรือมีรถรับ-ส่ง ประมาณนี้ค่ะ แต่เรายังไม่ทราบว่าทางโครงการจะมีบริการในเรื่องอะไรบ้างนะคะ เพราะรายละเอียดยังไม่ออก แนะนำให้สอบถามทางโครงการเพิ่มเติมได้เลยค่ะ แต่ที่คอนเฟิร์มจากโครงการคือจะไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนะคะ ในส่วนนี้รวมกับค่าส่วนกลางเลยทั้งหมด ซึ่งถ้ารวมกับค่าส่วนกลางได้จริงก็ถือว่าโอเค เพราะค่าส่วนกลางที่นี่คิด 85 บาท/ตร.ม./ เดือน จัดว่าอยู่ในเกณฑ์สูงเหมือนกัน แต่ถ้ารวมเซอร์วิสเหล่านี้ไปด้วยการจ่ายราคาเท่านี้ก็คุ้มค่ามากขึ้น

    ติดกันในบริเวณ Lobby เหมือนกัน จัดให้เป็นพื้นที่นั่งเล่น ด้วยชุดโซฟาขนาดใหญ่และติดกับชุดกระจกแบบ Full Height

    อีกฝั่งนึงแต่อยู่ในพื้นที่ Lobby อีกเช่นกันทางโครงการจัดให้เป็นโซนที่เรียกว่า Reading & Co-Working Space ซึ่งจะจัดให้มีโต๊ะยาวไว้ประชุมงานกันได้เล็กๆ น้อยๆ (ไม่ได้เป็นส่วนตัวนะคะ) และมีโต๊ะติดริมหน้าต่างที่เราสามารถลงมานั่งทำงาน ชมวิวสวนด้านข้างโครงการได้

    มุมนี้เรามองว่าเป็นมุมสำหรับให้ลูกบ้านสามารถนัด Visitor มาคุยงานกันได้ค่ะ

    ถัดขึ้นมาชั้น 27-28 เลยในส่วน Main Facilities จุดเด่นคือสระว่ายน้ำที่ได้แบบ Infinity Edge Pool หันไปทางฝั่งอโศกดินแดง เราว่าบรรยากาศ City View ค่อนข้างดีนะคะ เพราะมีตึกสูงเลยไปถึงตรงแถวแยกพระราม 9 เลย

    สระว่ายน้ำนี้มีขนาด 25 x 7 ม. เป็นขนาดที่เราใช้ออกกำลังกายได้ดีเลยค่ะ และนอกจากนี้ก็จัดพื้นที่ไว้สำหรับสระเด็กและ Jacuzzi ด้วย

    ถัดมาด้านในส่วน Sky Lounge เป็นห้องนั่งเล่นชมวิวมุมสูงชิลๆ ได้เลยค่ะ ห้องนี้ได้วิวถึง 3 ทิศเลยนะคะ

    ถัดขึ้นมาที่ชั้น 28 ห้องแรกคือห้อง Recreation Room หรือเรียกง่ายๆ ว่าห้องสันทนาการก็ได้นะคะ อาจจะไม่ได้แปลตรงตัว แต่เราดูจากการวางฟังก์ชัน ที่มีโต๊ะพลูแล้วก็คิดว่าทางโครงการตั้งใจไว้ให้เรามา Relax เล่นเกมส์ต่างๆ ร่วมกันได้

    อีกฝั่งเป็นห้อง Spa ซึ่งที่นี่จะเตรียมพื้นที่ และเตียงต่างๆ ไว้ให้เรียบร้อย แต่ทางลูกบ้านเองหากต้องการนวดผ่อนคลายก็จะต้องติดต่อคนนวดเองนะคะ อันนี้เป็นข้อมูลที่เราสอบถามโครงการมา ซึ่งเราคิดว่าไหนๆ ทางโครงการจะมี Conceirge Service แล้ว น่าจะมี Contact ไว้ให้ลูกบ้านด้วยก็จะดีนะคะ เพราะจะสะดวกกับลูกบ้านมากกว่า

    ปิดท้ายด้วยบรรยากาศจำลองภายในห้อง Fitness ที่ได้ห้องขนาดใหญ่พร้อมวิวถึง 3 ฝั่งด้วยกัน ให้เราได้ออกกำลังกายเพราะชมวิวมุมสูงได้เต็มที่ค่ะ

    เรามาดู Master Plan กันต่อเลยนะคะ หลักๆ แล้วชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ต้อนรับทั้งหมดเลย ตรงกลางเป็น Lobby และแยกโซนย่อยเป็นพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ทำงาน ถัดมาด้านหลัง Counter เป็นส่วน Mail Box ก่อนจะเข้าสู่โถงลิฟต์ ซึ่งตรงโถงลิฟต์นี้ไม่มี Keycard Access ที่จะต้องสแกนเข้าโถงลิฟต์นะคะ แต่ทางโครงการจะใช้เป็นลิฟต์ล็อกชั้นให้

    **ลิฟต์ล็อกชั้น คือลิฟต์ที่จะต้องใช้ Keycard สแกนก่อนเสมอ และจะสามารถขึ้นได้เฉพาะชั้นห้องพักของตัวเอง และชั้น Facilities เท่านั้น

    ส่วนรอบๆ พื้นที่อาคารนอกจากจัดเป็นสวนริมรั้วแล้ว พื้นที่ใต้อาคารก็ทำเป็นที่จอดรถ ซึ่งจะเน้นเป็นที่จอดรถสำหรับ Visitor เป็นหลัก ส่วนลูกบ้านสามารถขึ้นไปจอดชั้น 2-6 ได้เลย ทางโครงการให้ช่องจอดมาประมาณ 59% ก็ถือว่าไม่น้อยไปเทียบกับทำเลที่คนจะเน้นใช้รถเป็นหลักอยู่แล้ว

    ชั้น 7 – 16 เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด โดยจำนวนยูนิตต่อชั้นถือว่าน้อยนะคะ อยู่ที่ 10 ยูนิต และที่เราว่าดีมากสำหรับโครงการนี้ก็จะเป็นเรื่องอัตราส่วนลิฟต์ที่นี่ 65 :  1 เท่านั้นเองค่ะ ค่อนข้างหาได้ยากนะคะ สำหรับโครงการ High Rise

    อีกจุดเด่นนึงก็จะเป็น Single Corridor ด้วย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดีทีเดียวค่ะ ส่วนที่เราทำลูกศรสีฟ้าเอาไว้คือเป็นช่องแสงที่ให้แสงเข้าถึงโถงทางเดินได้ ซึ่งผังโครงการนี้ก็ทำออกมาได้โอเค มีแสงเข้าถึงและสามารถระบายอากาศตรงโถงได้

    ชั้น 17-25 สิ่งที่แตกต่างไปคือห้องมุมทั้ง 2 มุมฝั่งหน้าอาคารเปลี่ยนจากห้อง 2 Bedroom 1 Bathroom เป็นห้องขนาดใหญ่ขึ้นคือ 2 Bedroom 2 Bathroom ค่ะ

    และขึ้นมาชั้น 26 ชั้นนี้เป็นห้องพิเศษของโครงการ รูปแบบเป็นห้อง Penthouse ทั้งหมด 4 ยูนิตด้วยกัน รูปแบบเป็นห้อง Loft นะคะ จุดเด่นคือทุกห้องไม่มีผนังที่ติดกับเพื่อนบ้านเลย ได้ความส่วนตัวดีมากค่ะ

    ขึ้นมาชั้น 27 ฝั่งหน้าโครงการเป็นสระว่ายน้ำทั้งหมด ส่วนหลังโครงการเป็นสวน ตรงกลางมีห้อง Lounge และอีกฝั่งเป็นห้องน้ำแยกชาย/หญิง ภายในมีห้อง Steam แยกให้ด้วยค่ะ

    ชั้น 28 ยังเป็นชั้นที่เราขึ้นลิฟต์มาได้นะคะ ไม่ใช่ชั้นดาดฟ้า เมื่อขึ้นมาแล้วจะเจอกับห้อง Fitness ก่อนเลย ค่อยแยกเป็นห้อง Recreation Room, Game Room และอีกฝั่งคือห้อง Spa Room

    สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

    • Grand Lobby Lounge
    • Concierge Service
    • Reading & Co-Working Space
    • Game Room
    • Recreation Room
    • Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 25 x 7 ม.
    • Relaxing Bubble Bed & Kid’s Pool
    • Sky Lounge
    • Fitness
    • Spa Room
    • Rooftop Garden
    • Door Man Service
    • WIFI บริเวณ Lobby และ พื้นที่ส่วนกลาง
    • ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
    • อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 65 :  1
    • Service Lift 1 ตัว
    • ที่จอดรถประมาณ 114 คัน คิดเป็น 59% (รวมจอดซ้อนคัน 127 คัน คิดเป็น 65%)
    • Shuttle Service รับ-ส่ง BTS สนามเป้า
    • ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card


    Product Walkthrough

    โครงการนี้มีห้องพักอาศัยให้เลือกหลักๆ 3 รูปแบบด้วยกันนะคะ คือ 1 Bedroom, 2 Bedrooms และ Penthouse แต่จะมีแบบ Layout หลายแบบย่อยลงไปอีกค่ะ โดยเราจะแบ่งให้เห็นเป็น Type ต่างๆ ดังนี้ค่ะ

    1 Bedroom 1 Bathroom

    • TYPE A ขนาด 33.40-33.60 ตร.ม.
    • TYPE B ขนาด 34.90 ตร.ม.

    2 Bedrooms 1 Bathroom

    • TYPE C ขนาด 55.60 ตร.ม.
    • TYPE D ขนาด 58.10 ตร.ม.

    2 Bedrooms 2 Bathrooms

    • TYPE E ขนาด 73.20 ตร.ม.

    Penthouse Loft

    • Penthouse 1 ขนาด 131.50 ตร.ม.
    • Penthouse 2 ขนาด 127.90 ตร.ม.

    Image 1/7
    TYPE A ขนาด 33.40-33.60 ตร.ม.

    TYPE A ขนาด 33.40-33.60 ตร.ม.

    เริ่มต้นกันที่ห้องแรกนะคะ คือห้อง 1 Bedroom Type B ขนาดพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 34.9 ตร.ม. จัดเป็นขนาดห้องที่อยู่สบายสำหรับสมาชิก 1-2 คน ข้อดีคือห้องนี้ได้ห้องนอนขนาดใหญ่ ติดริมหน้าต่าง และเป็นสัดส่วนชัดเจนด้วยประตูทึบ รวมไปถึงยังสามารถจัดฟังก์ชันอื่นๆ มากกว่าเตียงนอนได้  เช่น พื้นที่โต๊ะทำงานด้านข้างได้

    รวมไปถึงมีการทำช่องเก็บของขนาดใหญ่ให้ด้วยบริเวณหน้าประตูทางเข้าห้อง ซึ่งเราสามารถ Built-in ชั้นวางของภายในเองได้เลย เช่น ทำเป็นชั้นวางรองเท้า หรือจะเป็นชั้นเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ได้

    ก่อนเข้าไปดูภายในห้องเราจะให้ดูประตูทางเข้าห้องกันก่อนนะคะ โดยวุสดุประตูจะเป็น HDF ปิดผิวด้วยลามิเนต มีเล่นดีเทลในการเซาะร่องเล็กน้อย

    และตรงประตูทางโครงการก็ได้ติดตั้ง Digital Door Lock จาก Samsung ซึ่งเราสามารถใช้เปิดประตูได้หลากหลายเลย ไม่ว่าจะเป็นใช้กุญแจ Keycard Password และ Finger Scan

    เข้ามาด้านในเราจะเจอกับพื้นที่ครัวที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นและยาวไปถึงระเบียงหน้าต่างเลย ด้วยความที่ไม่มีผนังแยกเป็นโซนครัว โซนนั่งเล่น ทำให้บรรยากาศส่วนนี้โปร่งดี บวกกับความสูงฝ้า 3 ม. ด้วยเลยยิ่งทำให้โปร่งขึ้นไปอีก

    สำหรับพื้นในส่วนครัว ยาวไปถึงพื้นที่นั่งเล่นจะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ลายหินอ่อนตามห้องตัวอย่าง

    สำหรับด้านข้างของประตูทางเข้า จะเป็นพื้นที่เก็บของที่ทางโครงการจัดไว้ให้ ซึ่งสิ่งที่ได้จะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเงาทองตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ ส่วนด้านในทางโครงการจะไม่ได้ Built-in ชั้นวางไว้ให้นะ เราต้องมา Built-in ชั้นเพิ่มเติมเอง ซึ่งเรามองว่าก็โอเคตรงที่เราจะได้ Built-in ชั้นตามฟังก์ชันการใช้งานของเราได้เองเลย

    เช่น บางคนต้องการตู้นี้สำหรับเก็บรองเท้าทั้งหมด เพราะรองเท้าเยอะ หรือบางคนอาจจะเก็บรองเท้าครึ่งนึง อีกครึ่งไว้ใส่ตระกร้าเสื้อผ้าด้านใน ใส่กระเป๋าเดินทางด้านบน ก็ทำได้ทั้งหมด เพราะพื้นที่เก็บของนี้ค่อนข้างใหญ่นะคะ ขนาดจะอยู่ที่ 1 x 1.45 ม.

    ฝั่งตรงข้ามเป็นเคาน์เตอร์ครัว + Island สำหรับเป็นทั้งพื้นที่ทำอาหารและพื้นที่รับประทานอาหารครบชุดเลยค่ะ สิ่งที่ได้ในส่วนนี้คือ ชุดเคาน์เตอร์ครัว, ชั้น Built-in ด้านบน (ไม่รวมเก้าอี้และเครื่องใช้ไฟฟ้า)

    ท็อปครัวได้หินสังเคราะห์ (หินเทียม) ที่กันน้ำกันความชื้นต่างๆ ได้ดี ด้านล่างบานเปิดปิดผิวด้วย Gloosy และได้ Soft Close

    ส่วน Hob & Hood จาก Teka เป็นเตาไฟฟ้า 2 หัวเตาและเครื่องดูดควันอากาศรูปแบบต่อท่อออกด้านนอก (Exhausted) ซึ่งเหมาะกับรูปแบบครัวเปิดนะคะ เพราะการดูดควันแบบนี้จะได้มีประสิทธิภาพกว่าแบบการดูดหมุนเวียน อย่างน้อยช่วยระบายกลิ่นได้เร็ว กลิ่นอาจจะไม่ฟุ้งไปยังพื้นที่นั่งเล่นมากนัก

    ส่วน Sink เป็นหลุมเดี่ยวขนาดมาตรฐานจาก Teka เช่นกันค่ะ

    ด้านบน Built-in ชั้นวางมาให้ค่อนข้างเยอะเลย ด้วยความที่ฝ้าเพดานสูง จึงสามารถทำชั้นวางได้ถึง 2 ชั้นซ้อนกัน ทำให้มีเนื้อที่เก็บของได้เยอะเลย โดยชั้นบนๆ ติดฝ้าเพดานนี้จะค่อนข้างสูงพอสมควร เราสูงประมาณ 160 ซม. เอื้อมไม่ถึงแล้วค่ะ อาจจะต้องใช้เก้าอี้เตี้ยๆ เพื่อปีนไปหยิบของ ดังนั้นของที่เลือกวางควรจะเป็นของที่ไม่ได้หยิบใช้บ่อยมากนัก แต่ชั้นวางของด้านล่าง (ระดับเดียวกับ Microwave) เป็นความสูงที่เปิดได้พอดีๆ เลย

    ส่วนมุมกินข้าวจะได้เป็น Island แบบนี้ส่วนเก้าอี้ควรจะซื้อเป็นเก้าอี้สตูลที่มีความสูงขึ้นมาจากเก้าอี้ธรรมดา หรือเก้าอี้ที่ปรับความสูงขึ้น-ลงได้

    ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่น ในส่วนนี้มีความกว้างประมาณ 2.5 ม. เมื่อวางโซฟา และโต๊ะกลางไปแล้วก็ยังมีพื้นที่ทางเดินอยู่ให้เดินไประเบียงได้ ส่วนระยะสายตาจากโซฟาไปถึงทีวีจะอยู่ที่ประมาณ 2.2 ม. ขนาดทีวีที่เหมาะกับระยะนี้อยู่ที่ 40″- 42″

    ถัดมาที่ระเบียงภายนอก ขนาดอยู่ที่ 2.5 x 0.9 ม. ระเบียงนี้เป็นทั้งระเบียง Service (ซักล้าง+ตากผ้า) และมายืนสูดอากาศได้อยู่นะคะ จุดเด่นของระเบียงนี้คือได้ราวกันตกเป็นกระจก Tempered ทำให้เราได้วิวจากภายนอกดีมากขึ้นและก็สวยกว่ารั้วเหล็กโปร่งทั่วไป

    จริงๆ ด้านข้างตรงนี้ทางโครงการจะมีการเดินท่อและปลั๊กไฟไว้ให้สำหรับวางเครื่องซักผ้านะคะ และด้านบนก็จะเป็นพื้นที่สำหรับแขวน CDU แอร์

    ถัดมาเป็นห้องน้ำฝั่งซ้ายมือ และฝั่งขวาเป็นทางเข้าห้องนอนค่ะ

    เรามาดูห้องน้ำกัน ภายในแยกส่วนเปียกและแห้งไว้ให้เรียบร้อยโดยกั้นด้วยฉากกั้นกระจก

    สำหรับโซนแห้ง สุขภัณฑ์จะมีอ่างล้างมือจาก American Standard พร้อม Built-in ชั้นเก็บของด้านล่างไว้ให้ และโถสุขภัณฑ์จาก American Standard เช่นกัน โดยรวมแล้วสเป็คส่วนนี้ดีสมราคา

    ส่วนบริเวณพื้นที่อาบน้ำจะได้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower พร้อมกับติดตั้งระบบทำน้ำร้อนเดินท่อฝังผนังมาให้เลยค่ะ เงยหน้าไปด้านบนเราจะเห็นว่าห้องน้ำนี้มีการออกแบบซ่อนฝ้า + Indirect Light มาให้ด้วยนะคะ

    เข้ามาภายในห้องนอนกันแล้ว บรรยากาศโปร่งโล่งดีเลย ด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ประมาณ 4.1 x 2.65 ม. เลยทำให้เราจัดพื้นที่ได้มากกว่าวางเตียงนอนอย่างเดียว แต่เป็นได้ทั้งพื้นที่เตียงนอน (วางเตียง 5-6 ฟุตได้) ตู้เสื้อผ้า และพื้นที่โต๊ะเครื่องแป้ง/ทำงาน ขนาดกะทัดรัด

    ส่วนพื้นห้องนอนทางโครงการให้เป็นพื้นยาง SPC ย่อมาจาก Stone Plastic Composite คุณสมบัติก็คือทนความชื้นได้ดี ไม่มีปัญหาเรื่องปลวก

    มุมข้างเตียงเราจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานได้นะคะ ถ้าจะจัดเป็นโต๊ะทำงานเราแนะนำให้ไม่วางโต๊ะข้างเตียงฝั่งนี้นะ จะได้ขนาดโต๊ะทำงานที่ใหญ่มากขึ้น

    ส่วนตู้เสื้อผ้าเราจะได้แบบนี้ในห้องจริงที่ซื้อเลยนะคะ ลักษณะตู้เป็นตู้บานเลื่อนสูงถึงฝ้าเพดาน ด้านในมี Built-in ชั้นวาง ราวแขวนต่างๆ ไว้ให้ และมีไฟอัตโนมัติที่จะเปิดทันทีเมื่อเราเลื่อนบานเลื่อน

    ปิดท้ายด้วยชุดหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ ที่ทางโครงการจัดมาให้จะเป็นกระจกลามิเนตหนา 2 ชั้น ช่วยกันเสียงจากภายนอกได้ดีมากขึ้น

    ถัดมาอีกแบบห้องเป็นห้อง 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 55.6 ตร.ม. จุดเด่นของห้องนี้คือห้องหน้ากว้าง ซึ่งมีความยาวสูงสุดประมาณ 10 ม. เลยนะคะ นอกจากนี้จุดเด่นอีกจุดก็จะเป็นการได้กระจกชมวิวถึง 3 ทิศ (มีทิศนึงที่หันเข้าหาเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามระยะค่อนข้างประชิดนะคะ อาจจะไม่ได้วิวเท่าไหร่นัก แต่ดีกว่าผนังติดกับเพื่อนบ้านนะ)

    ภายในห้องนี้ได้ครัวปิดทำอาหารได้ดี ห้องน้ำก็อยู่ติดผนังนอกอาคาร ข้อดีคือเราสามารถระบายอากาศและความชื้นต่างๆ ได้ดีกว่าพัดลมดูดอากาศทั่วไป และยังได้วิวภายนอกด้วยนะคะ

    ส่วนห้องนอนจัดว่าได้ขนาดใหญ่ทั้ง 2 ห้องเลย สามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้สบายค่ะ

    เข้ามาภายในห้องเราจะเจอกับส่วน Common Area ก่อนนะคะ มุมนี้ค่อนข้างกว้างเลย

    หันไปทางด้านข้างติดๆ กับประตูทางเข้าห้องเป็นทางเข้าครัว ที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกชาดำ และทางเข้าห้องนอนเล็ก

    ภายในห้องครัวกว้างอยู่นะคะ ขนาดประมาณ 2.65 x 2 ม. เคาน์เตอร์ครัวจึงได้ขนาดใหญ่มากขึ้นตามพื้นที่เลย ส่วนสเป็คนั้นเหมือนกับห้องที่แล้วเลยค่ะ

    ส่วนระเบียงภายนอกนี้มีขนาดประมาณ 2 x 1 ม. เป็นทั้งระเบียงมายืนสูดอากาศได้ และระเบียงซักล้างนะคะ

    จุดเด่นของระเบียงนี้ก็เป็นระเบียงกระจกเข้ามุม ที่ทำให้เราได้พื้นที่เปิดโล่งรับวิวได้ดีมากขึ้นค่ะ

     

    เข้ามาภายในห้องนอนเล็ก ที่ไม่ได้ขนาดเล็กตามชื่อเลยนะคะ เพราะเราสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้เลย อย่างในห้องตัวอย่างวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตนะคะ เพราะด้านข้างเลือกวางโต๊ะทำงานขนาดกะทัดรัดอยู่ หากต้องการเตียงขนาดใหญ่ก็จะต้องย้ายโต๊ะทำงานมาตรงส่วนปลายเตียงได้อยู่ค่ะ มีพื้นที่ให้จัดได้พอสมควร

    บริเวณปลายเตียงได้กระจกขนาดใหญ่เข้ามุมด้วย ทำให้บรรยากาศห้องนี้โปร่งมากขึ้น แต่ก็จะไม่เหมาะกับเป็นจุดวางทีวีเท่าไหร่นัก ซึ่งใครไม่เน้นวางทีวีแต่ชมวิว + รับแสงธรรมชาติแทนเราว่าโอเคเลย

    สำหรับตู้เสื้อผ้าทางโครงการ Built-in มาให้เหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ รูปแบบเป็นตู้บานเลื่อน มีกระจกสีชาตรงกลาง และเปิดมาก็จะมีไฟส่องสว่างติดอัตโนมัติ

    เรามาดูส่วน Common Area กันต่อนะคะ พื้นที่ส่วนนี้จริงๆ เราสามารถจัดได้มากกว่า โต๊ะรับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นนะคะ เพราะมีพื้นที่ที่เราสามารถจัดเพิ่มได้อีกบริเวณตรงกลางระหว่างโต๊ะกินข้าวและชุดโซฟา จะวางเป็นโต๊ะทำงานหรือ Built-in ชั้นวางของคั่นกลางเพื่อให้ได้พื้นที่เป็นสัดส่วนมากขึ้นก็ได้

    ส่วนพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่อยู่นะคะ เราสามารถวางโซฟาแบบ 3 ที่นั่งได้เลย และหน้าต่างก็ได้บานใหญ่ด้วยสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานเลยดีทีเดียวค่ะ ส่วนขนาดพื้นที่ตรงนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2.55 x 3.8 ม.

    ฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะกินข้าวนั้นจะมีพื้นที่สำหรับเก็บของให้ด้วย ขนาดจะไม่ได้ใหญ่เท่ากับห้องที่แล้วนะคะ และต้อง Built-in ชั้นวางด้านในเองเช่นเดียวกัน

    ส่วนห้องน้ำเป็นอีกหนึ่ง Highlight ของแบบห้องนี้เลย สเป็ควัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนกับห้องที่แล้วนะคะ ใช้ American Standard เป็นมาตรฐาน

    แต่ห้องน้ำนี้จะสวยกว่าอีกแบบห้องนึงเพราะได้ชุดกระจก+หน้าต่างบานใหญ่ สูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานไปเลยค่ะ อันนี้เปิดรับวิวเต็มที่เลย ซึ่งใครที่ชอบบรรยากาศห้องน้ำที่ได้วิวภายนอกเต็มที่เราแนะนำให้เลือกชั้นสูงๆ นะคะ จะได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทางโครงการก็มี Option ให้เลือก เผื่อบางคน Concern เรื่องความเป็นส่วนตัว อยู่ 3 Option ด้วยกันคือ

    • ติดม่านให้
    • ติดเป็นฟิล์มฝ้า
    • ก่อผนังทึบขึ้นมาเพิ่ม (ก่อภายในห้องน้ำ ซ้อนผนังขนาบกับกระจก เพื่อไม่ให้กระทบกับภาพลักษณ์ด้านนอกอาคาร)

    เข้ามาในห้องนอนใหญ่ ขนาดห้องนี้อยู่ที่ประมาณ 5 x 2.5 ม. ด้วยความยาวถึง 5 ม. เลยทำให้สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ พร้อมกับวางโต๊ะทำงาน/โต๊ะเครื่องแป้งด้านข้างเตียงได้เลย

    และอีกจุดเด่นนึงของห้องนี้คือได้วิวจากทั้ง 2 ฝั่งเลยนะคะ

    และห้องนี้ก็จะได้ตู้เสื้อผ้า Built-in ขนาดใหญ่ด้วยนะคะ สเป็คจะเหมือนกับห้องนอนอีกห้องเลย แต่ได้ขนาดที่กว้างกว่าค่ะ

    **รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

    ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 20 NOVEMBER 2019

    • 1 Bedroom ห้องที่ 7A3 ชั้น 7 ขนาด 33.40 ตร.ม. ราคาก่อนหักส่วนลด 5.099 ล้านบาทราคาพิเศษ 3.9 ล้านบาท หรือ 116,766 บาท/ตร.ม.
    • 1 Bedroom ห้องที่ 25A4 ชั้น 25 ขนาด 33.60 ตร.ม. ราคาก่อนหักส่วนลด 6.048 ล้านบาท ราคาพิเศษ 5.04 ล้านบาท หรือ 150,023 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom ห้องที่ 7C1 ชั้น 7 ขนาด 55.60 ตร.ม. ราคาก่อนหักส่วนลด 8.438 ล้านบาทราคาพิเศษ 6.9 ล้านบาท หรือ 124,100 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom ห้องที่ 10D1 ชั้น 10 ขนาด 58.10 ตร.ม. ราคาก่อนหักส่วนลด 9.227 ล้านบาทราคาพิเศษ 7.5435 ล้านบาท หรือ 129,836 บาท/ตร.ม.
    • 2 Bedroom ห้องที่ 17E1 ชั้น 17 ขนาด 73.2 ตร.ม. ราคาก่อนหักส่วนลด 12.487 ล้านบาทราคาพิเศษ 9.9 ล้านบาท หรือ 135,245 บาท/ตร.ม.

    • รูปแบบการขาย Fully Fitted
    • ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 3 เมตร
    • Kitchen & Sink / ท๊อปหินสังเคราะห์
    • Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
    • Shuttle Service ไป-กลับ BTS สนามเป้า
    • จอง 10,000 บาท
    • ทำสัญญา 4% ของราคาห้อง
    • ดาวน์ 7% ผ่อนดาวน์ 24 งวด
    • ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
    • ค่าส่วนกลาง 85 บาท/ตร.ม./เดือน

    **ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ


    เจาะลึกรวบยอด

    ทำเล : โครงการ Mayfair Place Victory Monument เป็นหนึ่งในหลายโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้แยกดินแดง แต่โครงการนี้จะเป็นโครงการที่ทางเข้าโครงการอยู่ติดกับถนนวิิภาวดีรังสิตนะคะ ซึ่งหากพูดถึงทำเลนี้แล้วก็เรียกว่าเป็นทำเลที่อยู่ระหว่างย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-สนามเป้า และถนนอโศกดินแดง มีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบครบครันนะคะ ส่วนใหญ่จะอิงไปที่ถนนพหลโยธินซึ่งก็จะต้องอาศัยการขับรถจะสะดวกสุดค่ะ

    การเดินทางโดยใช้รถ : ที่ตั้งโครงการนี้ยังคงเป็นทำเลที่เหมาะกับการใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ที่บอกว่า “ยังคง” เนื่องจากในอนาคตถนนเส้นนี้จะมีรถไฟฟ้าตัดผ่านค่ะ และจุดเด่นที่การเดินทางโดยการใช้รถสะดวกนั้นก็เพราะว่าเป็นทำเลใกล้ทางด่วน 2 จุด อย่างด่วนศรีรัช และด่วนเฉลิมมหานครนั่นเองค่ะ

    การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ส่วนใครไม่ใช้รถอาจจะต้องรอเวลาหลังจากโครงการสร้างเสร็จแล้ว 1-2 ปี ก็จะได้มีรถไฟฟ้าใช้กัน แต่จะอยู่เลยระยะเดินง่ายมาหน่อย เพราะจากที่ดูข้อมูลแล้วสถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีดินแดง ตั้งอยู่ตรงบริเวณซอยพหลโยธิน 2 ซึ่งเราลองวัดคร่าวๆ จะอยู่ราวๆ 700 ม.นะคะ

    ซึ่งทางโครงการเองก็มี Service เพิ่มเติมให้คือ Shuttle Service ที่จะรับ-ส่งลูกบ้านไป BTS ใกล้สุดคือ BTS สนามเป้าค่ะ ก็ถือว่าเป็นตัวเลือกในการเดินทางสำหรับลูกบ้านมากขึ้นนะ แต่ใครถนัดเรียกแท็กซี่, Grab ต่างๆ อันนี้ไม่ยากเลยค่ะ เพราะโครงการอยู่ติดถนนใหญ่อยู่แล้ว

    วัสดุ : สำหรับราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการอยู่ที่ 140,000 บาท ซึ่งเมื่อเทียบกับวัสดุที่ได้เรามองว่าโอเคนะคะ ไม่แพงไป แต่ก็ไม่ได้ถูกไปเช่นกัน โดยจุดเด่นๆ ก็คงจะเป็นในเรื่องของฝ้าเพดานสูง 3 ม. ได้หน้าต่างเป็นกระจกลามิเนต 2 ชั้น ห้องน้ำได้ระบบทำน้ำร้อน+Rain Shower ส่วนอื่นๆ ได้มาตรฐานเช่น พื้นแกรนิตโต้, พื้นยาง SPC และครัวท็อปหินสังเคราะห์ พร้อม Sink + Hob&Hood

    การออกแบบ : จุดแข็งของโครงการนี้เรามองว่าเป็นเรื่องการออกแบบที่มีประเด็นน่าสนใจอยู่ คือเรื่อง ความเป็นส่วนตัว เห็นได้จากจำนวนยูนิต 194 ยูนิต ไม่ถึง 200 ยูนิตก็ถือว่าไม่มากนักสำหรับ High Rise และแต่ละชั้นมียูนิตมากสุด 10 ยูนิตเองค่ะ ได้ Single Corridor และอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 65 : 1 ถือว่าน้อยมากนะคะ ปกติเราจะเห็นตัวเลขนี้ใน Low Rise ขนาดเล็กมากกว่า และถ้าโครงการสามารถเพิ่ม Double Access ตรงโถงลิฟต์ชั้นล่างให้มีประตูที่ต้องสแกนบัตรก่อนเข้าสู่ลิฟต์ได้จะดีมากๆ เลยค่ะ

    การออกแบบห้องที่นี่จุดเด่นคือฝ้าเพดานสูง 3 ม. หลายคนที่ชอบความโปร่งโล่งโครงการนี้ตอบโจทย์นะคะ และผังห้องโดยรวมแล้วเรามองว่าจัดมาลงตัวดี ส่วนที่ชอบเป็นพิเศษหน่อยก็คงจะเป็นห้องน้ำในห้องแบบ 2 Bedroom 1 Bathroom ที่ดันไปอยู่ติดกับด้านนอกอาคารทำให้ได้วิวด้วย ระบายอากาศได้ดีด้วยค่ะ ใครชอบห้องนี้เหมือนกันแนะนำให้เลือกห้องชั้นสูงๆ นะคะ จะได้ชมวิวขณะใช้งานได้จริงๆ

    สาธารณูปโภค : ในแง่ Facilities เรามองว่าโครงการจัดมาให้มาตรฐานตามรูปแบบคอนโด High Rise และระดับราคานะคะ หลักๆ คือได้ Facilities 2 ชั้นบนสุดของอาคาร มีสระว่ายน้ำยาว 25 ม. ส่วนเสริมขึ้นมาของโครงการนี้คือจะมี Concierge Service ในโครงการเลย ซึ่งการบริการต่างๆ ทางโครงการบอกว่าจะไม่มีเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่ม โดยจะรวมอยู่ในค่าส่วนกลางทั้งหมดนะคะ ซึ่งเราก็มองว่าโอเคเพราะค่าส่วนกลางที่นี่ค่อนข้างสูงอยู่ที่ 85 บาท/ตร.ม./เดือน ได้เซอร์วิสเพิ่มมาก็ทำให้คุ้มค่ามากขึ้น แต่รายละเอียดของ Concierge Service ยังไม่ได้ระบุว่าจะมีบริการอย่างไรบ้าง แนะนำให้คุณผู้อ่านที่สนใจลองสอบถามจากโครงการเพิ่มเติมนะคะ


    Judgement

    การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

    ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

    เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 140,000 บาท/ตร.ม., 20 November 2019

    • ทำเล 7.75/10 – ติดถนนใหญ่วิภาวดีรังสิต ความอุดมสมบูรณ์ในระยะขับรถ
    • เดินทางด้วยรถ 8/10 – สะดวกเพราะติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน 2 ทางด่วน
    • ไม่ใช้รถ 7/10 – ปัจจุบันไม่ใกล้รถไฟฟ้าแต่มี Shuttle Service ให้ ส่วนอนาคตมีรถไฟฟ้าตัดผ่าน
    • วัสดุ 7.5/10 – ให้วัสดุเกรดเหมาะสมกับราคา และฝ้าเพดานสูง 3 ม.
    • แบบ 7.5/10 – แบบห้องจัดสรรฟังก์ชันลงตัว และตัวโครงการความหนาแน่นน้อย มีความเป็นส่วนตัว
    • สาธารณูปโภค 7.5/10 – ให้มาตรฐานทั่วไปตามราคา ได้ Facilities 2 ชั้นบนสุด

    • HIGH CLASS
    • 7.59 / 10.00

    BOTTOM LINE

    โครงการ Mayfair Place Victory Monument เหมาะกับคนที่เน้นขับรถ ใช้ทางด่วน ชอบคอนโด High Rise แต่ก็ต้องการยูนิตน้อย ความเป็นส่วนตัวสูง อยากได้ห้องโปร่ง ฝ้าเพดานสูง ในราคาเริ่มต้น 3.9 ล้านบาท 


    ติดตามพวกเราได้ที่
    Website : www.thinkofliving.com
    Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
    YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
    Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
    Facebook : ThinkofLiving