รีวิวโครงการ

คิดเรื่องอยู่ Ep.579 : นครทอง ลีฟวิ่ง บางนา – เทพารักษ์

21 สิงหาคม 2021

อ่านรีวิวล่าสุด

วันนี้จะพาไปชมโครงการใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในโซนเทพารักษ์กับ นครทอง ลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นที่ทางนครทอง กรุ๊ป ออกมาทำตลาด โดยมีโปรดักส์ที่แตกต่างจากเพื่อนๆ อย่างทาวน์โฮมแฝดมาให้เลือกด้วยค่ะ เราคิดว่าโครงการมีความน่าสนใจ ดังนี้

  • โครงสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน : จึงสามารถทุบต่อเติมได้สะดวก ต่างจากทาวน์โฮมส่วนใหญ่ในยุคนี้ที่นิยมใช้โครงสร้าง Precast จึงไม่สามารถทุบได้
  • การออกแบบบ้าน : จากที่เราไปเดินดูมาครบทุกแบบแล้ว เราคิดว่าแบบบ้านที่โครงการนี้ทำออกมาแตกต่างจากโครงการอื่นเลยคือ DUO D-Light Plus เป็นทาวน์โฮมแฝด จึงได้พื้นที่สวนข้างบ้านเพิ่มขึ้นมา และเป็นทาวน์โฮมที่มีผนังติดกับข้างบ้านแค่ฝั่งเดียว / ทุกแบบบ้านในโครงการจะมีความลึกของตัวบ้านที่ทำให้เราสามารถกั้นห้องครัวปิดไว้ในบ้านได้เลย ไม่ต้องต่อครัวหลังบ้านเพิ่มก็ได้ และมีแบบบ้านที่มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างให้เลือกด้วยค่ะ
  • จำนวนยูนิต : เมื่อเทียบกับโครงการรอบๆ แล้ว ที่นี่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะนัก เพียง 160 หลัง ในขณะที่เพื่อนบ้านส่วนใหญ่มีจำนวนยูนิตเยอะถึง 300 – 400 หลังเลยนะคะ
  • การวางผังโครงการ : แต่ละซอยมีจำนวนบ้านไม่เยอะนักสูงสุดแค่ 10 หลังเท่านั้น และทุกซอยเป็นซอยตันทั้งหมด ทำให้ได้ความสงบในการอยู่อาศัยค่ะ

ข้อมูลโครงการ

Nakornthong Living Bangna-Theparak (นครทองลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์) ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2564

 ชื่อโครงการ   Nakornthong Living Bangna-Theparak (นครทองลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท นครทองเฮ้าส์ แอนด์ เรียลเอสเตท จำกัด
 SEGMENT CLASS   MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 )
 โครงการตั้งอยู่   อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
 ที่ดิน  18-0-22.2 ไร่
 จำนวนยูนิต  จำนวน 160 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • DUO D-Light Plus ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 30.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 135.65 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน/ 1 ห้องอเนกประสงค์ / ชั้นลอย / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท
  • D-Light Plus ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 22.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 135.56 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน/ 1 ห้องอเนกประสงค์ / ชั้นลอย / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท
  • D-Light ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 18.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.8 – 3.6 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      40,000 บาท
 เริ่มก่อสร้าง   เดือนกันยายน ปี 2563
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   N/A
 เว็บไซต์โครงการ  https://www.nakornthong.co.th/project-de.php?id=14
 โทร  087-678-9296
 Call Center  02-388-0548-9

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.590246, 100.684548
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ นครทอง ลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ ค่ะ

โครงการ นครทอง ลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ เป็นโครงการที่อยู่ในระดับราคา 2-3 ล้านปลายๆ ที่ขยับขยายออกมาจาก Hub ใหญ่บางนา-ตราด ตรงเมกา บางนา ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ใครหลายคนที่อยากได้ทาวน์โฮมในราคาหยิบจับไหว ทำงานหรือใช้ชีวิตในโซนเทพารักษ์ แพรกษา บางพลีเป็นหลัก และยังใกล้กับตัวช่วยในการเดินทางอย่างวงแหวนกาญจนาภิเษกและทางด่วนบูรพาวิถีค่ะ

โครงการตั้งอยู่บนถนนคลองอาเสี่ยคลองกันยา 3034 (ตามชื่อใน Google Map) ซึ่งจุดเด่นของซอยนี้คือสามารถเข้าออกได้จากถนนหลัก 3 เส้นทางทั้งจากทางถนนเทพารักษ์, ถนนแพรกษาและถนนตำหรุ-บางพลี ซึ่งถนนทั้ง 3 เส้นนี้เป็นถนนหลักที่วิ่งเข้าถนนสุขุมวิท, ถนนบางนา-ตราด, ถนนกิ่งแก้วได้ จึงมีทางเลือกในการเดินทางหลากหลาย ทะลุออกไปโซนสำโรง บางปู บางพลี ได้ครบหมด แต่ก็จัดเป็นโซนที่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักนะคะ และในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีเทพา ห่างจากโครงการประมาณ 10 กิโลเมตรด้วยค่ะ

ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ ห้างใหญ่ที่ใกล้ๆ ก็จะเป็นเมกา บางนา ที่นอกจากจะมีของกิน ของใช้ ร้านอาหารแล้วก็ยังมี IKEA อยู่ด้วยเช่นกัน เรียกว่าค่อนข้างครบเลยทีเดียว ขยับใกล้โครงการเข้ามาหน่อยก็จะมี Homepro สุวรรณภูมิที่ภายในมี Lotus ขนาดใหญ่ หรือถ้าจะดูละแวกโครงการก็จะพวกตลาดนัด ส่วนโรงเรียนและโรงพยาบาลในละแวกก็มีให้เลือกพอสมควรค่ะ

การเดินทางมาโครงการในวันนี้เราใช้เส้นทางวงแหวนมาลงที่ถนนเทพารักษ์เลย พอเห็นโรงพยาบาลบางนา 5 ทางฝั่งขวาก็ให้กลับรถ จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยกรุงสยามวิลล่า หรือซอยที่ดินไทยก็ได้ค่ะ ตามทางมาเรื่อยๆ ก็ถึงโครงการแล้ว มีระยะทางจากวงแหวนฯ ประมาณ 7.6 km.

Image 1/8
เริ่มเดินทางจากเส้นวงแหวนฯ ลงมาถนนเทพารักษ์

เริ่มเดินทางจากเส้นวงแหวนฯ ลงมาถนนเทพารักษ์

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สรุปสภาพแวดล้อมรอบโครงการ นครทอง ลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ ในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าและหมู่บ้านพักอาศัย แต่ในซอยจะมีพวกรถบรรทุกวิ่งกันคึกคักหน่อย เพราะซอยนี้มีโกดังเยอะ และเป็นทางลัดเลาะไปถนนแพรกษา ไปออกถนนตำหรุ-บางพลีได้ โดยรวมจึงไม่ได้มีประเด็นอะไรในการพักอาศัยนะคะ

บรรยากาศบริเวณหน้าโครงการที่ติดกับถนนซอยก็เป็นที่ดินเปล่าซะส่วนใหญ่ แต่ถนน 2 เลนสวนกันไปกลับ ก็ทำให้ต้องเผื่อเวลาเดินทางบ้าง

ส่วนซุ้มประตูโครงการจะขยับไปอยู่ด้านใน ซึ่งช่วยลดความพลุกพล่านและมลภาวะจากถนนได้ และยังช่วยเรื่องความปลอดภัยอีกด้วยนะคะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / Community Mall / ตลาด

  • ตลาดสุธาวี ~ 3.9 กิโลเมตร
  • ตลาดสดบางพลี ~ 5.2 กิโลเมตร
  • Big C บางพลี ~ 5.3 กิโลเมตร
  • ตลาดโบราณบางพลี ~ 5.6 กิโลเมตร
  • ตลาดนัดชุมชนบ้านเอื้ออาทรขจรวิทย์ ~ 5.9 กิโลเมตร
  • ตลาดเทพประทาน (หนามแดง) ~ 6.9 กิโลเมตร
  • ตลาดหมู่บ้านเด่นชัย ~ 7.6 กิโลเมตร
  • Market Village สุวรรณภูมิ โฮมโปร ~ 8.7 กิโลเมตร
  • Lotus สุวรรณภูมิ ~ 8.7 กิโลเมตร
  • เมกา บางนา ~ 11.5 กิโลเมตร
  • Robinson สมุทรปราการ ~ 14.2 กิโลเมตร

โรงพยาบาล / สถานพยาบาล

  • รพ. บางพลี ~ 5.1 กิโลเมตร
  • รพ. บางนา 5 ~ 5.7 กิโลเมตร
  • รพ. จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ~ 6.8 กิโลเมตร
  • รพ. สินแพทย์ เทพารักษ์ ~ 7.8 กิโลเมตร
  • รพ. จุฬารัตน์ 1 สุวรรณภูมิ ~ 10.2 กิโลเมตร

สถานศึกษา / โรงเรียน

  • รร. สุวรรณภูมิเทคโนโลยีและบริหารธุรกิจ เซาธ์อีสท์บางกอก ~ 1.7 กิโลเมตร
  • รร. ปทุมคงคา สมุทรปราการ ~ 2 กิโลเมตร
  • รร. คลองบางกระบือ ~ 5 กิโลเมตร
  • รร. วัดบางพลีใน ~ 6.3 กิโลเมตร
  • รร. เตรียมปริญญานุสรณ์ ~ 7.6 กิโลเมตร
  • รร. สารสาสน์วิเทศ สมุทรปราการ ~ 7.8 กิโลเมตร
  • รร. นานาชาติไทย-จีน ~ 7.8 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ~ 12.8 กิโลเมตร
  • รร. ราชวินิต บางแก้ว ~ 13.1 กิโลเมตร
  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา ~ 15.4 กิโลเมตร

อื่นๆ

  • นิคมอุตสาหกรรมบางปู ~ 8.2 กิโลเมตร
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 22.2 กิโลเมตร
  • รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีเทพา ~ 10 กิโลเมตร (โครงการในอนาคต)

รายละเอียดโครงการ

โครงการ นครทอง ลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ แตกต่างจากโครงการอื่นอย่างไร?

  • จำนวนยูนิต : เมื่อเทียบกับโครงการรอบๆ แล้ว ที่นี่มีจำนวนยูนิตไม่เยอะนัก เพียง 160 หลัง ในขณะที่เพื่อนบ้านส่วนใหญ่มีจำนวนยูนิตเยอะถึง 300-400 หลังเลยนะคะ
  • การวางผังโครงการ : แต่ละซอยมีจำนวนบ้านไม่เยอะนักสูงสุดแค่ 10 หลังเท่านั้น และทุกซอยเป็นซอยตันทั้งหมด ทำให้ได้ความสงบในการอยู่อาศัยค่ะ

มาดูที่ตัวโครงการ นครทอง ลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ เป็นโครงการประเภททาวน์โฮม ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 18 ไร่เศษ โดยมีบ้านรวมทั้งหมด 160 หลัง ที่ดินของโครงการจะอยู่ติดถนนซอยแค่ทางเข้า ช่วยลดความวุ่นวายจากบริเวณถนนลงมาได้ พื้นที่อยู่อาศัยภายในโครงการจริงๆ จึงได้ความสงบมากขึ้น และเนื่องจากแปลงที่ดินเป็นทรงยาวทำให้โครงการวางตำแหน่งสวนส่วนกลางไว้ 2 ส่วน คือบริเวณหน้าโครงการ และด้านในสุดของโครงการ เพื่อกระจายให้ลูกบ้านทั้งหมดเข้าถึงสวนได้สะดวก

การวางผังโครงการนี้จะเน้นเรื่องความสงบ เป็นส่วนตัวในการพักอาศัย โดยจัดให้ทุกซอยเป็นซอยตัน และจำนวนยูนิตแต่ละซอยก็ไม่เยอะเพียง 6 – 10 หลังเท่านั้น ส่วนตัวบ้านจะหันทางทิศเหนือและใต้โดยบ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ไม่ค่อยแรงมาก ส่วนบ้านที่หันไปทางใต้จะได้แสงที่มากกว่าและได้ลมที่แรงกว่าด้วยเช่นกัน

แบบบ้านของโครงการมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ แต่ละแบบจะมีฟังก์ชันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของบ้าน การเลือกบ้านก็ขึ้นอยู่กับความต้องการในการใช้สอยและความชอบค่ะ

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการดู Homey ด้วยลักษณะของระแนงไม้ เป็นแบบมีหลังคาคลุมกันแดดกันฝนได้

รักษาความปลอดภัยด้วยไม้กั้นกระดก เข้า-ออกแบบใช้ Keycard สแกนบัตรระยะใกล้นะคะ

ส่วนในเวลากลางคืนก็จะมีประตูเลื่อนเพื่อเพิ่มระดับรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง พร้อม CCTV ติดตั้งไว้ที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ และภายในโครงการทั้งหมด 16 จุด

ผ่านซุ้มโครงการเข้ามาจะเป็นถนนหลักวิ่งตรงเข้าไปด้านใน อย่างที่เกริ่นไว้แล้วว่าโซนพักอาศัย ตัวบ้านต่างๆ จะเขยิบเข้าไปด้านใน ไม่ติดถนนโดยตรงนะคะ

เมื่อเข้ามาภายในโครงการ อันดับแรกเราจะเจอกับสำนักงานขาย ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นสำนักงานนิติบุคคล ข้างอาคารมีช่องจอดรถเตรียมไว้ให้ ถ้าลูกบ้านที่อยู่ด้านในจะมาติดต่อก็ขับรถมาจอดได้เลย

สำหรับสวนส่วนกลางจะมี 2 ตำแหน่งค่ะ สวนด้านหน้าจะอยู่ติดกับสำนักงานขาย ภายในสวนมีทั้งต้นไม้ใหญ่และไม้พุ่มที่ช่วยให้ร่มเงาและสร้างบรรยากาศ

สวนส่วนนี้มีขนาดประมาณ 127 ตร.วา ไม่ใหญ่นักแต่ก็พอให้ออกมายืดเส้นยืดสายได้ หรือหากอยากเดินเล่นสวนกว้างๆ กว่านี้ก็จะมีตำแหน่งที่ด้านหลังโครงการขนาดประมาณ 300 ตร.วา ค่ะ แต่วันนี้ไม่ได้พาไปชมสวนด้านหลังนะคะเพราะกำลังก่อสร้างอยู่ค่ะ

ถนนหลักในโครงการนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 9 – 12 m. ตามมาตรฐาน ต้องมาลุ้นกันว่าจะมีการจัดไม้พุ่มตามแนวถนนเพื่อให้บรรยากาศดูร่มรื่นมากขึ้นมั้ยนะคะ

ส่วนถนนรองในซอยย่อยอยู่ที่ 8.5 m. ดูเป็นส่วนตัวทีเดียว เพราะซอยนี้จะมีบ้านเพียงแค่ 6 หลังค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด รวมประมาณเกือบ 1 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 16 จุด
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.1 m.
  • ถนนหลักกว้าง 12 m. ถนนรองกว้าง 9 m. และถนนภายในกว้าง 8.5 m.
  • Key Card Access ระยะใกล้
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก

แบบบ้าน

แบบบ้านโครงการ นครทองลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ มีทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

  • DUO D-Light Plus ทาวน์โฮมแฝด 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 m. ที่ดินมาตรฐาน 30.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 135.65 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / ชั้นลอย / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  • D-Light Plus ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 m. ที่ดินมาตรฐาน 22.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 135.56 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 1 ห้องอเนกประสงค์ / ชั้นลอย / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ **ตัวบ้านเหมือนกับแบบ DUO D-Light Plus เลยค่ะ แต่แบบนี้จะไม่มีที่ดินข้างบ้านและผนังบ้านทั้ง 2 ฝั่งจะติดกับเพื่อนบ้าน
  • D-Light ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 m. ที่ดินมาตรฐาน 18.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ

แบบบ้านโครงการ นครทองลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ มีจุดเด่นอะไรบ้าง?

  • โครงสร้างแบบก่ออิฐฉาบปูน – หรือที่เรียกว่า Conventional จึงสามารถทุบต่อเติมได้สะดวก ต่างจากทาวน์โฮมส่วนใหญ่ในยุคนี้ที่นิยมใช้โครงสร้าง Precast จึงไม่สามารถทุบได้
  • พื้นที่ใช้สอยเยอะ – ทุกแบบบ้านในโครงการจะมีความลึกของตัวบ้านที่ทำให้เราสามารถกั้นห้องครัวปิดไว้ในบ้านได้เลย และบ้านแบบ D-light Plus และ DUO D-Light Plus ยังมีห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นล่างกั้นมาให้เรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ
  • มีแบบบ้านให้เลือกเยอะถึง 3 แบบ – จากที่เราไปเดินดูมาครบทุกแบบแล้ว เราคิดว่าแบบบ้านที่โครงการนี้ทำออกมาแตกต่างจากโครงการอื่นเลยคือ DUO D-Light Plus เป็นทาวน์โฮมแฝด จึงได้พื้นที่สวนข้างบ้านเพิ่มขึ้นมา และตัวบ้านไม่ได้ติดกันเป็นแถวยาว จึงได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาด้วยค่ะ

โครงสร้าง

  • ตัวบ้าน : โครงสร้างแบบ Conventional
  • ที่จอดรถ : ลงเข็ม 6 เหลี่ยมลึก 4 m. ปูพรม
  • พื้นที่หลังบ้าน : ใช้คานร่วมกับตัวบ้าน ไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ให้


แบบ D-Light Plus

ทาวน์โฮมแบบ D-Light Plus บ้านหน้ากว้าง 5.7 m. จอดรถได้ 2 คัน ฟังก์ชันภายในบ้านจะมีห้องนอน 3 ห้อง และมี 1 ห้องอเนกประสงค์ที่ชั้นล่าง จะจัดเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุก็ได้ ห้องน้ำของบ้านนี้มีทั้งหมด 3 ห้อง ใช้อาบน้ำได้ทุกห้อง ภายในแบ่งโซนเปียกแห้งไว้ให้เรียบร้อย ตัวบ้านมีความลึกเป็นพิเศษทำให้สามารถกั้นห้องครัวปิดไว้ในตัวบ้านได้เลยนะคะ

ชั้นบนจะมีฟังก์ชันพิเศษเพิ่มขึ้นมาเป็นพื้นที่ชั้นลอยขนาดกระทัดรัด ที่ดูเหมาะสำหรับวางโต๊ะหมู่บูชา หรือนั่งทำงานอดิเรกเล็กๆ น้อยๆ ได้ค่ะ บนชั้นนี้เค้าให้ความสำคัญกับห้องนอนใหญ่ ได้ห้องกว้างมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนรองก็ถือว่าอยู่ได้สบายไม่อึดอัด รองรับครอบครัวที่มีสมาชิก 2 – 5 คน ในราคาเริ่มต้น 3 ล้านกว่าๆ

หน้าตาบ้านออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์น ใช้โทนสีเทา-ขาว เป็นหลัก สิ่งที่แตกต่างจากโครงการส่วนใหญ่คือหลังคาที่สูงเป็นพิเศษ จึงช่วยลดความร้อนในตัวบ้านได้ดีกว่าทาวน์โฮมทั่วไป

ความเก๋ของหน้าตาบ้านที่นี่เห็นจะมาจากเจ้าระเบียงเฉียงส่วนนี้ที่ทำให้ดูไม่เหมือนใคร และเราเห็นดีเทลที่น่าสนใจอีกอย่างคือมีระแนงใต้หลังคาที่ช่วยระบายความร้อนด้วยค่ะ

พื้นที่จอดรถหน้าบ้านจะลงเสาเข็ม 6 เหลี่ยมลึก 4 m. ปูพรมไว้ให้ จึงช่วยชะลอการทรุดตัวได้ ขนาดของที่จอดรถเราวัดมาให้แล้ว กว้าง 5.4 m ลึก 5.5 m. สามารถจอดได้จอดรถได้ 2 คัน จอดรถกระบะได้ แต่หากเป็นรถรุ่นที่มีความยาวเป็นพิเศษ แนะนำให้มาลองจอดดูก่อนนะคะ

ถึงแม้ว่าเสาเข็มบริเวณหน้าบ้านจะไม่ได้ลงไว้ลึกเท่าตัวบ้าน แต่โครงการก็ตัด Joint แยกพื้นที่จอดรถออกจากตัวบ้านให้เรียบร้อย ช่วยป้องกันไม่ให้บ้านทรุดตัวนะคะ

หน้าบ้านจะมีห้องเก็บของขนาดใหญ่ เหมาะกับใช้เก็บพวกสายยางรดน้ำต้นไม้ อุปกรณ์ทำสวน อุปกรณ์ซ่อมรถต่างๆ

นอกจากนี้ในห้องเก็บของยังติดตั้งจุดเติมน้ำยาฉีดปลวกไว้ให้ด้วย ซึ่งโครงการเดินระบบท่อไว้ให้แล้ว เวลาช่างฉีดปลวกมาก็สามารถเติมน้ำยาได้สะดวกไม่ต้องเดินเข้าตัวบ้านเลยค่ะ

ดีเทลอีกอย่างนึงที่น่าสนใจก็คือ กระจกแบบ Bay Window บานใหญ่ ทำให้เปิดรับวิวได้กว้าง แต่จะมีเฉพาะบ้านแปลงมุมนะคะ

สำหรับแปลง Standard จะมีมาให้เฉพาะประตูกระจกบานเลื่อน ใช้กระจกเขียวจึงช่วยลดความจ้าของแสงที่ผ่านเข้ามาและยังช่วยลดความร้อนด้วย ประตูเลื่อนเปิดได้ฝั่งเดียวแต่ก็มีพื้นที่ให้เดินผ่านเข้าออกได้กว้างแบบคนตัวใหญ่เดินผ่านได้สบาย และทำให้เราสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ชิดกับฝั่งที่เป็นบาน Fixed ได้เลยนะคะ

เข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นเป็นลำดับแรก ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและครัวที่ติดกับลานซักล้างด้านหลังบ้าน

สำหรับบ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์ ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ได้ฝ้าหลุมและไฟ LED พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานของชั้นนี้จะอยู่ที่ 2.8 m.

ห้องนั่งเล่นสามารถวางชุดโซฟาแบบ 3 – 4 ที่นั่ง และวางโต๊ะกลางได้โดยไม่ขวางทางเดิน พื้นที่ในห้องนั่งเล่นนี้จะได้แสงธรรมชาติค่อนข้างมากจากประตูกระจกบานใหญ่ด้านหน้าบ้าน จึงดูสว่างและอบอุ่น

ถัดไปเป็นพื้นที่รับประทานอาหารจะได้แสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างด้านหลังบ้าน แต่เนื่องจากตัวบ้านค่อนข้างลึก นั่นทำให้แสงเข้ามาถึงกลางบ้านได้น้อยลง ถ้าชอบบ้าน Type นี้เราเชียร์เป็นแปลงมุมเพราะจะได้แสงธรรมชาติผ่านหน้าต่างข้างบ้านเหมือนบ้านตัวอย่างด้วยค่ะ

พื้นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งกำลังดี หากเป็นแปลงมุมก็จะได้วิวสวนด้วย

ด้านในสุดของบ้านทางโครงการเดินระบบไว้ให้พร้อมสำหรับต่อเติมเป็นครัวได้สะดวก ดูจากพื้นที่แล้วสามารถกั้นเป็นครัวปิดได้เลยนะคะ หรือจะทำผนังกั้นบางส่วนเหมือนในบ้านตัวอย่างก็ได้ เป็นข้อดีของบ้านนี้ที่ทำให้เราประหยัดงบต่อเติมครัวด้านหลังไปได้นะคะ

ภายในครัวจะมีหน้าต่างไว้ให้เปิดระบายกลิ่นควันกันได้

ลานซักล้างด้านหลังบ้านจะใช้โครงสร้างคานเดียวกับตัวบ้าน แต่ไม่ได้ลงเสาเข็มไว้ให้ ถามว่าการต่อเติมจะต้องลงเสาเข็มมั้ย ก็ขึ้นอยู่กับว่าต่อเติมแบบไหน โครงสร้างมีน้ำหนักมากเท่าไหร่ กรณีนี้แนะนำให้ปรึกษาวิศวกรของโครงการก่อนต่อเติมนะคะ

ตำแหน่งของห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่บริเวณกลางบ้านติดกับห้องอเนกประสงค์เลย หากเราใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุ อากงอาม่าก็สามารถเดินมาเข้าห้องน้ำได้สะดวก

สำหรับห้องอเนกประสงค์จะจัดเป็นห้องทำงานตามแบบในบ้านตัวอย่างก็ดูเข้ากับยุค Work From Home ได้ดีนะคะ หรือถ้าจัดเป็นห้องนอนก็มีพื้นที่กว้างพอให้สามารถวางเตียงเดี่ยวได้ ครอบครัวไหนมีผู้สูงอายุก็แนะนำให้เลือกบ้านแบบนี้ค่ะ

ขยับมาดูห้องน้ำกันต่อ ภายในจัดฟังก์ชันมาครบสามารถใช้อาบน้ำได้ ดีตรงที่ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็สามารถแบ่งสมาชิกในบ้านมาอาบที่ชั้นล่างได้ ซึ่งโครงการติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ให้ครบเหมือนบ้านตัวอย่าง ยกเว้นพวกของตกแต่งนะคะ

ส่วนที่เรามองว่าเป็นข้อดีอีกอย่างหนึ่งของบ้านนี้คือ ห้องน้ำทุกห้องจะแบ่งระดับพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งไว้ชัดเจน และพื้นที่อาบน้ำก็สามารถใช้งานได้จริง อย่างในห้องนี้มีขนาดประมาณ 0.9 x 0.9 m. หากในอนาคตอยากทำฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มก็ทำได้นะคะ

อ่างล้างมือขนาดกะทัดรัดจาก Cotto ด้านข้างก๊อกน้ำมีพื้นที่ให้วางของใช้ในห้องน้ำได้อีกเล็กน้อย ส่วนก๊อกน้ำของ Mogen ค่ะ

โถสุขภัณฑ์ได้แบบ 2 ชิ้นจาก Mogen มาพร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายฉีดน้ำ

พื้นที่อาบน้ำจะติดตั้งฝักบัวมาให้ตามมาตรฐานโครงการ มีชั้นวางสบู่ให้ และเดินระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นไว้รอค่ะ

ตัวบันไดเป็นแบบโครงสร้างเหล็ก ก็แอบเสียดายนิดนึงที่ไม่ได้ให้เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กนะคะ และเนื่องจากฝ้าเพดานที่สูงถึง 2.8 m. ทำให้ชานพักต้องซอยขั้นเพิ่ม จึงมีชานพักบางช่วงที่ไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตามที่ควรจะเป็นทั้งหมด เวลาใช้งานเดินขึ้นลงต้องระวังกันหน่อย

สำหรับข้อดีของบันไดที่นี่คือ มีราวบันไดฝั่งหนึ่งให้จับได้ตลอดทาง

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ส่วนแรกที่เราชอบก็คือ พื้นที่อเนกประสงค์เล็กๆ บนชั้นลอย ที่มีบันไดให้เดินขึ้นไปได้สะดวก เป็นกิจจะลักษณะ โดยฝ้าเพดานบริเวณนี้สูงถึง 3.6 m. ทำให้โถงทางเดินชั้น 2 ดูโปร่งโล่งดีนะ

พื้นที่อเนกประสงค์นี้มีขนาด 2 x 5 m. เหมาะกับใช้วางโต๊ะหมู่บูชา หรือจะมานั่งทำงานอดิเรกก็ขึ้นอยู่กับ Lifestlye ของแต่ละคนเลย

เราลองยืนอยู่บนชั้นลอยก็สามารถยืดตัวได้เต็มที่นะคะ เพราะเราสูงแค่ 155 m. แฮร่!! หรือคนสูง 180 m. ก็ยืนได้จริง เพราะฝ้าเพดานให้มาถึง 2 m. เลยทีเดียว มองลงมาจะเห็นห้องนอนด้านหลังบ้าน 2 ห้อง ที่ต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันนะคะ

ภายในห้องนอนเล็กมีขนาดห้องเหมาะสำหรับเด็กหรือวัยรุ่นที่ไม่ได้มีของใช้มากมายนัก คือมีพื้นที่เพียงพอให้วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต + ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือ ถือว่าครบถ้วน ห้องจริงที่ได้จะเป็นห้องเปล่าตามรูปล่างเราสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ตามใจเราได้เลย สำหรับพื้นในชั้น 2 จะปูด้วยกระเบื้องยาง SPC ลายไม้ ที่มีคุณสมบัติทนน้ำได้ดีกว่าพื้นลามิเนตแบบปกติค่ะ

ภายในห้องมีหน้าต่างบานเลื่อน จึงเปิดระบายอากาศได้และทำให้แสงธรรมชาติสามารถเข้ามาภายในห้องได้มาก แต่ตำแหน่งหน้าต่างจะตรงกับบ้านตรงข้ามพอดี ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของบ้านทาวน์โฮมนะคะ

ภายในห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งมีพื้นที่พอๆ กับห้องแรก มีหน้าต่างที่สามารถเปิดระบายอากาศได้เหมือนกัน

ห้องน้ำส่วนกลางบนชั้น 2 จะมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าห้องน้ำชั้นล่างจึงใช้งานได้สะดวก ซึ่งจะใช้แชร์ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง

ภายในให้ฟังก์ชันการใช้งานครบวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้ในห้องน้ำก็จะมีสเปคเหมือนห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

ส่วนที่เราชอบคือมีการลดระดับเพื่อแยกโซนพื้นที่อาบน้ำอย่างเป็นสัดส่วน ซึ่งห้องนี้จะมี Low Wall (ผนังเตี้ยๆ รูปล่างขวา) ไว้ติดตั้งระบบน้ำ ซึ่งขอบของผนังส่วนนี้เราสามารถใช้วางอุปกรณ์อาบน้ำได้ตลอดแนวเลยค่ะ

ปิดท้ายบ้าน Type นี้ด้วยห้องนอนใหญ่ที่ได้พื้นที่ฝั่งหน้าบ้านทั้งหมด

พื้นที่ห้องมีขนาดที่สามารถใช้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ ซึ่งหากวางติดผนังฝั่งหนึ่งก็จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้ทำเป็นมุมนั่งเล่นอีกนะ

ห้องจริงที่ได้จะเป็นห้องเปล่าตามแบบในรูปล่าง ซึ่งบานหน้าต่างที่เค้าให้มานั้นก็จัดว่าเป็นบานใหญ่ดี ใช้เปิดระบายอากาศได้สะดวก

จะเห็นว่าปลายเตียงมีพื้นที่เหลือเยอะอยู่นะคะ สามารถวางโซฟาปลายเตียงเพิ่มได้ หรือหากอยากได้โต๊ะทำงานในห้องนอนก็มีพื้นที่ให้วางเพียงพอ

พูดถึงฟังก์ชันนอกจากพื้นที่วางเตียงนอนแล้ว ปลายเตียงเค้าจะกั้นแบ่งโซนสำหรับทำ Walk-in Closet มาให้ด้วย ซึ่งจะอยู่หลังผนังติดทีวีนะ

ภายใน Walk-in Closet เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้เต็มฝั่งหนึ่งของผนังได้เลย ซึ่งโซนนี้ก็จะมีแสงธรรมชาติผ่านเข้ามาจากทั้งระเบียงและหน้าต่าง จึงสามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งไว้ในนี้ได้เหมาะทีเดียว เพราะคุณสาวๆ จะได้ใช้แสงธรรมชาติในการแต่งหน้าค่ะ

ติดกับ Walk-in Closet จะมีระเบียงให้เราออกไปตากผ้าขนหนู และยืนรับลมได้ ซึ่งประตูเป็นบานเลื่อนกระจก จึงทำให้ห้องดูโปร่งขึ้นด้วย

ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.6 x 1 m. พอให้วางราวตากผ้าได้ หรือถ้าอยากประหยัดพื้นที่แนะนำเป็นราวแขวนติดผนังก็เหมาะดีค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งของ Walk-in Closet จะอยู่ติดกับห้องน้ำเลย เวลาอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้สะดวก

ห้องน้ำนี้จัดว่ามีขนาดใหญ่สุดในบ้าน และดูน่าใช้งานมากที่สุดเพราะเค้าติดตั้ง Shower Box มาให้เรียบร้อยแล้ว

วัสดุอุปกรณ์มาครบ เป็นสเปคเดียวกับห้องน้ำอื่นๆ และมีที่นั่งอาบน้ำเพิ่มขึ้นมาในห้องนี้ด้วยค่ะ

Shower Box เป็นกระจกทั้งบานทำให้ห้องน้ำดูไม่อึดอัด ส่วนพื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.85 x 0.8 m.

อีกดีเทลหนึ่งที่โครงการคิดมาให้คือ การติดตั้งแอร์แบบเดินท่อขึ้นไปด้านบนและเดินท่อยาวไปวางตำแหน่งติดตั้ง Condensing Unit ที่หลังบ้าน เพื่อให้หน้าบ้านดูคลีนสะอาดตาค่ะ แต่ระบบนี้ตามที่เราเคยรู้มาเค้ามีข้อจำกัดตรงเสียงการทำงานที่จะดังกว่าระบบปกติสักหน่อยนะคะ


แบบบ้าน DUO D-Light Plus

บ้าน Type นี้จะเหมือนกับ D-Light Plus ที่เพิ่งพาไปชมมาเลยนะคะ แต่พอเติมคำว่า Duo เข้ามาด้านหน้า นั่นหมายความว่าแบบบ้านนี้จะเป็นทาวน์โฮมแฝด มีพื้นที่สวนข้างบ้าน และมีผนังส่วนที่ติดกับข้างบ้านเพียงฝั่งเดียว ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็มีราคาที่บวกขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 5 แสนบาทค่ะ

หน้าตาของบ้านแบบ DUO D-Light Plus จะเป็นคู่ๆ ติดกันแค่ 2 หลังแบบนี้ และมาในสไตล์โมเดิร์นเหมือนบ้านแบบแรกค่ะ


แบบบ้าน D-Light

ถัดมาดูทาวน์โฮมแบบ D-Light กันต่อนะคะ แบบนี้จะจอดรถได้ 1 คัน ฟังก์ชันภายในบ้านมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เหมาะกับครอบครัวขยาย พ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกัน 3-4 คน แต่ก็ยังคงจุดเด่นของโครงการไว้คือ สามารถกั้นครัวในบ้านได้เลย ไม่ต้องกั้นครัวหลังบ้านเพิ่มก็ได้ค่ะ

หน้าตาของแบบบ้าน D-Light จะดู Homey ขึ้นด้วยดีเทลระแนงไม้สีน้ำตาล จุดที่น่าสังเกตคือ ความสูงเป็นพิเศษของหลังคาที่เหนือจากฝ้าชั้น 2 ขึ้นไป ก็จะช่วยลดความร้อนเข้าตัวบ้านได้เช่นกัน

ที่จอดรถของบ้านหลังนี้ถึงแม้ว่าจะจอดได้ 1 คัน แต่ช่องจอดก็มีความลึกกว่าบ้านแบบแรก โดยแปลงมาตรฐานมีจะความลึกของที่จอดรถประมาณ 5.6 m. ทำให้จอดกระบะคันยาวขึ้นได้ แต่มีหลังคาคลุมที่จอดรถแค่เท่าตัวบ้าน ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นตำแหน่งที่เห็นว่าลูกบ้านส่วนใหญ่ต่อเติมหลังคาออกมากันมากที่สุด

ห้องเก็บของด้านหลังโรงรถก็ยังมีขนาดใหญ่เหมือนบ้านแบบแรก ทำให้เก็บของได้เยอะ

พื้นที่หน้าบ้านอีกฝั่งจะเป็นประตูเข้าบ้าน โดยมีพื้นที่สวนหน้าบ้านให้จัดเพิ่มเติมได้ ก็จะช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวภายในบ้าน

ประตูของบ้านนี้จะเป็นกระจกบานเลื่อนแบบเปิดได้ 2 ฝั่ง มีพื้นที่ให้เดินผ่านเข้าออกได้กว้างแบบคนตัวใหญ่เดินผ่านได้สบาย

เข้ามาด้านในส่วนแรกจะเจอกับพื้นที่รับแขกก่อน ถัดเข้าไปจึงเป็นพื้นที่สำหรับทานอาหาร และห้องอเนกประสงค์ที่ติดกับพื้นที่ด้านหลังบ้าน ส่วนวัสดุที่ได้จะเหมือนกับบ้านแบบแรกเลยค่ะ

พื้นที่รับแขกสามารถวางชุดโซฟาแบบ 3 – 4 ที่นั่ง หากเป็นบ้านหลังมุมจะได้พื้นที่หลังโซฟาเพิ่มมาเหมือนในบ้านตัวอย่างค่ะ

และบ้านหลังมุมจะได้ช่องหน้าต่างแบบ Bay Window มาอีก 2 บาน เจ้าหน้าต่างนี้เองที่ทำให้พื้นที่ด้านในตัวบ้านสว่างด้วยแสงธรรมชาติ

มองผ่าน Bay Window ออกไปก็จะได้วิวสวนข้างบ้านพอดีค่ะ

ถัดเข้ามาเป็นพื้นที่อเนกประสงค์กลางบ้าน ที่เราสามารถจัดเป็นมุมนั่งทำงานได้ แต่จะไม่ได้เป็นห้องกั้น ดูเป็นสัดส่วนเหมือนห้องแบบแรกนะคะ

ปกติแล้วพื้นที่ถัดจากโซฟาของทาวน์โฮมส่วนใหญ่เรามักจะเห็นเป็นตำแหน่งของโต๊ะทานอาหาร ซึ่งพอมีพื้นที่อเนกประสงค์แบบนี้ก็ทำให้บ้านดูไม่อึดอัดขึ้นนะคะ

ถัดเข้ามาโซนด้านในสุดเป็นโซนครัวที่เชื่อมต่อกับโต๊ะทานอาหาร สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้แบบไม่อึดอัด

ส่วนที่เราชอบคือหน้าต่างด้านหลังโต๊ะทานอาหารที่จะได้มาเป็นหน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาเพิ่มในบ้านที่เป็นปัญหาคลาสสิคของทาวน์โฮมได้

หากเป็นทาวน์โฮมหลังมุมก็จะมีประตูบานเลื่อนสำหรับเปิดออกไปสวนข้างบ้านด้วยค่ะ

ครัวของบ้าน Type นี้ก็ยังคงจุดแข็งที่สามารถกั้นเป็นครัวปิดในบ้านได้เลย ช่วยลดงบประมาณในการต่อเติมครัวหลังบ้านไปได้ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ทางซ้ายมือนะคะ

ส่วนตัวรู้สึกว่าดีนะที่ห้องน้ำชั้นล่างมีพื้นที่อาบน้ำ เผื่อในช่วงเร่งรีบก็ยังแบ่งสมาชิกลงมาอาบน้ำได้ ภายในห้องน้ำจัดฟังก์ชันมาครบ ติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ครบถ้วนเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก

ส่วนที่เราชอบคือมีการลดระดับโซนอาบน้ำมาให้ชัดเจน จึงต้องให้คะแนนเพิ่มสำหรับการเก็บดีเทลส่วนนี้นะคะ

สำหรับลานซักล้างด้านหลังบ้านจะใช้โครงสร้างคานร่วมกับตัวบ้านแทนการลงเสาเข็มมาให้ การต่อเติมจึงต้องปรึกษาวิศวกรอีกทีนะคะ

บันไดของบ้านนี้จะอยู่บริเวณกลางบ้าน ติดกับช่องหน้าต่างเล็กๆ ทำให้บริเวณบันไดสว่างขึ้นในตอนกลางวัน ถึงแม้ไม่เปิดไฟก็สามารถเดินขึ้นลงได้ค่ะ

โครงบันไดเป็นโครงเหล็กเช่นเดียวกับบ้านแบบแรก ลักษณะเป็นบันไดเป็นรูปตัว U และเนื่องจากฝ้าเพดานที่ค่อนข้างสูงถึง 2.8 m. ทำให้ชานพักต้องซอยขั้นเพิ่มจะไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมตามที่ควรจะเป็นทั้งหมด เวลาใช้งานเดินขึ้นลงต้องระวังหน่อยนะคะ

ขึ้นมาชั้น 2 จะมีห้องนอนเล็ก 2 ห้องอยู่ทางหลังบ้าน และห้องนอนใหญ่จะได้พื้นที่ฝั่งหน้าบ้านทั้งหมด โดยทุกห้องต้องแชร์ห้องน้ำร่วมกันค่ะ

ห้องนอนเล็กห้องนี้เราของเรียกว่าเป็นห้องสำหรับลูกคนโปรดละกัน เพราะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่ง สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็กวัยรุ่นที่ของใช้ยังไม่เยอะนักได้เพียงพอ ภายในมีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้เต็มที่

ส่วนที่เราชอบคือ ห้องนี้จะมีมุมสำหรับ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ทำให้เฟอร์นิเจอร์ดูลงตัว ไม่เปลืองพื้นที่

ห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งทางโครงการตกแต่งไว้เป็นห้องทำงาน เป็นอีกไอเดียสำหรับครอบครัวไหนที่มีลูกเพียงคนเดียวก็สามารถเปลี่ยนฟังก์ชันเป็นห้องทำงานได้ เข้ากับยุค Work From Home แบบนี้ แต่หากจะจัดเป็นห้องนอนเด็ก ก็สามารถวางเตียง 3.5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้อยู่นะคะ

ภายในห้องน้ำชั้นบนจัดฟังก์ชันการใช้งาน และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ไว้ครบเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง จะต่างกันตรงที่มีขนาดใหญ่กว่า

มีการลดระดับโซนอาบน้ำมาให้เป็นกิจจะลักษณะ

ส่วนที่เป็น Highlight ของห้องน้ำนี้คือ มีช่องประตูช่วยรับแสง+เปิดระบายความชื้น และมีพื้นที่ให้สามารถออกไปตากผ้าเช็ดตัว ได้ด้วย แต่ดีเทลนี้จะมีเฉพาะบ้านแปลงมุมนะคะ

ปิดท้ายด้วยห้องนอนใหญ่ ซึ่งจะได้พื้นที่ในส่วนหน้าบ้านทั้งหมด ขนาดของห้องสามารถใช้วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงวางโต๊ะข้างเตียงได้

บริเวณวางเตียงนอนจะมีช่องหน้าต่างอยู่ 3 บาน แต่จะเป็นบานเล็กๆ เพื่อให้เหมาะกับการพักผ่อน ส่วนปลายเตียงจะทำเป็นผนังทึบไว้สำหรับติดตั้งทีวี

ดีเทลของโต๊ะหัวเตียงน่ารักๆ ที่เราสามารถตกแต่งตามบ้านตัวอย่างได้นะคะ

ดูจากขนาดห้องแล้วจะมีพื้นที่อีกฝั่งให้ Built-in ทำ Walk-in Closet ได้

และมีระเบียงอยู่ติดกับ Walk-in Closet ด้วย ทำให้บริเวณนี้ได้แสงธรรมชาติแบบเต็มที่

ระเบียงมีขนาด 0.8 x 2.37 m. พอให้ออกไปยืนรับลม หรือวางกระถางต้นไม้เพื่อสร้างบรรยากาศร่มรื่นให้กับห้องนอนได้นะคะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคา

Nakornthong Living Bangna-Theparak (นครทองลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์)

  • DUO D-Light Plus ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 m. ที่ดินมาตรฐาน 30.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 135.65 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน/ 1 ห้องอเนกประสงค์ / ชั้นลอย / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 3.89 ล้านบาท
  • D-Light Plus ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 m. ที่ดินมาตรฐาน 22.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 135.56 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน/ 1 ห้องอเนกประสงค์ / ชั้นลอย / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท
  • D-Light ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 m. ที่ดินมาตรฐาน 18.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
  • Promotion ทุกแบบบ้านรับส่วนลด 300,000 บาท (สอบถามรายละเอียดกับทางโครงการ)
  • จอง 5,000 บาท
  • ทำสัญญา 35,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 40,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
โครงการ นครทองลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ ตั้งอยู่ในซอยคลองอาเสี่ยคลองกันยา 3034 (ชื่อตาม Google map) ข้อดีของซอยนี้คือ เชื่อมถนนหลักได้ถึง 3 เส้นทางคือ ถนนเทพารักษ์, ถนนแพรกษา และถนนตำหรุ-บางพลี ซึ่งถนนทั้ง 3 เส้นนี้เป็นถนนหลักที่วิ่งเข้าถนนสุขุมวิท, ถนนบางนา-ตราด, ถนนกิ่งแก้วได้ จึงมีทางเลือกในการเดินทางหลากหลาย นั่นทำให้สามารถเดินทางไปในโซนสำคัญๆ ของย่านนี้ได้หมดทั้งโซนสำโรง บางปู บางพลี แต่ก็จัดเป็นโซนที่ต้องใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลักนะคะ

พูดถึงตัวช่วยในการเดินทางก็ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษกและทางด่วนบูรพาวิถี แถมในอนาคตยังมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีเทพา ห่างจากโครงการประมาณ 10 กิโลเมตรด้วยค่ะ

ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์ในละแวกโครงการก็จะพวกตลาดนัด หากขยับออกจากโครงการมาหน่อยก็จะมี Homepro สุวรรณภูมิที่ภายในมี Lotus ส่วนห้างใหญ่ก็จะเป็นเมกา บางนา ที่นอกจากจะมีของกิน ของใช้ ร้านอาหารแล้วก็ยังมี IKEA อยู่ด้วยเช่นกัน เรียกว่าค่อนข้างครบเลยทีเดียว

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
เป็นไปตามมาตรฐานโครงการทาวน์โฮม รักษาความปลอดภัยด้วยไม้กั้นกระดก เข้า-ออกแบบใช้ Keycard สแกนบัตรระยะใกล้ และในเวลากลางคืนก็จะมีประตูเลื่อนเพื่อเพิ่มระดับรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง พร้อม CCTV ติดตั้งไว้ที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ และภายในโครงการทั้งหมด 16 จุด มีรปภ. ดูแล 24 ชั่วโมง

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
หัวข้อนี้นับเป็นจุดชูโรงของโครงการนครทองลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ เลยค่ะ ตั้งแต่การออกแบบโครงการที่เน้นความเป็นส่วนตัวกับจำนวนเพื่อนบ้าน 160 ยูนิต ในขณะที่โครงการส่วนใหญ่ในละแวกนี้มีจำนวนยูนิตเยอะถึง 300 – 400 หลังเลยนะคะ นอกจากนี้ยังออกแบบให้แต่ละซอยมีจำนวนบ้านไม่เยอะนักแค่ 6 – 10 หลังเท่านั้น และทุกซอยเป็นซอยตันทั้งหมด ทำให้ได้ความสงบในการอยู่อาศัยค่ะ

สำหรับตัวบ้านที่นี่จะมีโปรดักส์ที่ทำออกมาแตกต่างจากที่อื่น คือแบบบ้าน DUO D-Light Plus เป็นทาวน์โฮมแฝด จึงได้พื้นที่สวนข้างบ้านเพิ่มขึ้นมา และเป็นทาวน์โฮมที่มีผนังติดกับข้างบ้านแค่ฝั่งเดียว นอกจากนี้ยังมีดีเทลต่างๆ ที่เรามองว่าน่าสนใจ เช่น

  • ทุกแบบบ้านในโครงการจะมีความลึกของตัวบ้านที่ทำให้เราสามารถกั้นห้องครัวปิดไว้ในบ้านได้เลย ไม่ต้องต่อครัวหลังบ้านเพิ่มก็ได้
  • มีแบบบ้านที่มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างให้เลือก
  • ห้องน้ำทุกห้องแบ่งโซนเปียกแห้งไว้ชัดเจน บางห้องกั้น Shower Box มาด้วย
  • มีแบบบ้านที่มีพื้นที่อเนกประสงค์บนชั้นลอยเพิ่มเข้ามาให้เลือก
  • หลังคาสูงช่วยลดความร้อนเข้ามาในตัวบ้าน
  • มีหลายๆ จุดที่ใช้หน้าต่างบานใหญ่ ช่วยลดปัญหาแสงธรรมชาติเข้าไม่ถึงกลางบ้าน เป็นต้น

วัสดุ :
เมื่อเปรียบเทียบกับราคาแล้วเรามองว่ามีทั้งส่วนที่ต้องชมและส่วยที่แอบเสียดายนะคะ เริ่มจากโครงสร้างแบบ Conventional ที่ทำให้ทุบต่อเติมได้สะดวก ต่างจากทาวน์โฮมส่วนใหญ่ในยุคนี้ที่นิยมใช้โครงสร้าง Precast จึงไม่สามารถทุบได้ และสิ่งที่โดดเด่นกว่าโครงการอื่นๆ และเรียกว่าแทบไม่เคยเห็นโครงการอื่นใช้กันก็คือพื้นชั้นบนของแบบบ้าน D-light Plus และ DUO D-Light Plus ที่เลือกใช้เป็นพื้นกระเบื้องยาง SPC ซึ่งทำให้ Mood & Tone ของบ้านดูอบอุ่นมากขึ้นกว่าการใช้กระเบื้องแกรนิตโต้ แต่ยังคงมีคุณสมบัติในเรื่องของการกันน้ำ กันปลวกได้ และการเลือกใช้หน้าต่างในบ้านหลังมุมที่เป็นแบบ Bay Window ส่วนเรื่องที่เสียดายคือ โครงสร้างบันไดที่น่าจะให้มาเป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็กอีกสักนิดนะคะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : บรรยากาศดูเรียบร้อยไม่ได้หวือหวา มีสวนที่หน้าโครงการทำให้บรรยากาศดูร่มรื่นขึ้น ความกว้างของถนนได้ตามมาตรฐาน แต่โครงการบางส่วนยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อยดี จึงยังไม่เห็นภาพรวมทั้งหมดนะคะ

สาธารณูปโภค : มีสวน 2 ตำแหน่งที่ด้านหน้าและหลังโครงการขนาดรวมๆ ประมาณ 1 ไร่ นั่นทำให้เค้าเก็บค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา ก็ถือว่าสมเหตุสมผลนะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 2-3 ล้านปลายๆ, 11 สิงหาคม 2564

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยแต่เข้าออกถนนหลักได้หลายเส้นทางทั้งถนนเพทพารักษ์, ถนนแพรกษา และถนนตำหรุ-บางพลี
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, Keycard Access, CCTV, รปภ. 24 ชั่วโมง
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – เน้นความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย เก็บรายละเอียดตัวบ้านได้ดี
  • วัสดุ 8/10 – คละกัน บางอย่างได้ดีเกินระดับราคา บางอย่างแอบเสียดายค่ะ
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7/10 – ดูเรียบร้อยไม่ได้หวือหวา คะแนนอาจมีการปรับขึ้นเมื่อโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์นะคะ
  • สาธารณูปโภค 7/10 – สวนส่วนกลาง 2 ตำแหน่งรวมประมาณ 1 ไร่ ค่าส่วนกลางสมราคา
  • 7.53 / 10.00

นครทองลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ เหมาะกับใคร

โครงการ นครทองลีฟวิ่ง บางนา-เทพารักษ์ เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในย่านเทพารักษ์ แพรกษา บางพลี สำโรง อยากอยู่บนทำเลที่มีความสงบแต่ก็สามารถเชื่อมถนนใหญ่ได้ เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2-5 คนที่มองหาบ้าน 2 ชั้น 3-4 ห้องนอน เน้นพื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะ มีห้องชั้นล่างสำหรับรองรับผู้สูงอายุ อยากอยู่ทาวน์โฮมที่มีสวนข้างบ้าน มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 2.79-3.89 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 20,000 – 27,000 บาท


ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc