…วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวต่างประเทศกับโครงการ สิริ เพลส พระราม 2 – วงแหวน ซึ่งเป็นหนึ่งในซีรีย์ Dream Destination จาก แสนสิริ โดยคราวนี้เค้ามาในคอนเซ็ปต์ “อัมสเตอร์ดัม” เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร โดยจุดเด่นที่น่าสนใจของโครงการจะมีดังนี้ครับ
- บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลางและ Facade ของทาวน์โฮม ตกแต่งมาในสไตล์เมืองอัมสเตอร์ดัม เหมือนได้จำลองสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมาไว้ภายในโครงการ
- ทำเลบนถนนพระราม 2 ใกล้จุดกลับรถเข้าเมืองได้ง่ายเพียง 500 m. ปัจจุบันมีถนนกาญจนาภิเษกให้ใช้ และอนาคตก็จะมีทางด่วนใหม่ พระราม 3 – ดาวคะนอง ให้ตรงเข้าเมืองได้สะดวกมากขึ้นประมาณ 2 – 3 km.
- ทาวน์โฮมฟังก์ชันยืดหยุ่น มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง สามารถจัดเป็นห้องนอนได้ 3 – 4 ห้อง พร้อมดีไซน์ช่องแสง Skylight เพิ่มความสว่างโปร่งโล่งให้กับภายในบ้าน
ข้อมูลโครงการ
Siri Place Rama 2 – Wongwaen (สิริ เพลส พระราม 2 – วงแหวน) ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2565
ชื่อโครงการ | Siri Place Rama 2 – Wongwaen (สิริ เพลส พระราม 2 – วงแหวน) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนน พระราม 2 อำเภอ เมืองสมุทรสาคร |
ที่ดิน | 24-0-53.37 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 252 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | ชั้น 1 สูง 2.65 เมตร / ชั้น 2 สูง 2.7 เมตร / ห้องนอนใหญ่สูง 3.7 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 50,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2564 |
วันเปิดขาย Pre-sale | กรกฎาคม ปี 2565 |
เว็บไซต์โครงการ | https://www.sansiri.com/townhome/siri-place-rama2/th/ |
Call Center | 1685 |
#PRESALE 9-10 ก.ค.นี้ สำหรับคนที่สนใจโครงการนะครับ รับโปรเพิ่มสูงสุด 300,000 บาท* เฉพาะวันงาน คลิกลงทะเบียน http://siri.ly/mlf3gn2
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ระหว่างความอุดมสมบูรณ์ของโซนมหาชัย และโซนพระราม 2
- ใกล้จุดกลับรถเข้าเมืองเพียง 500 m. สามารถไปขึ้นกาญจนาภิเษกได้ไม่ยาก
- อนาคตมีทางด่วนใหม่ให้ใช้เข้าเมืองได้สะดวกมากขึ้น (มอเตอร์เวย์สาย บางขุนเทียน – เอกชัย – บ้านแพ้ว และทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอก) ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2 – 3 km.
- โครงการอยู่ภายในซอยหมู่บ้านที่เป็นถนนภาระจำยอมขนาดใหญ่ มีความเงียบสงบ เหมาะแก่การอยู่อาศัย แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยวเกินไป เพราะมีรถผ่านเข้า-ออกตลอด
พิกัด Google Maps : 13.583684, 100.351234
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
โครงการตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ในเขตจังหวัดสมุทรสาคร โดยจะตั้งอยู่ระหว่างความอุดมสมบูรณ์ของโซนพระราม 2 และโซนมหาชัยพอดี มีทั้งตลาดสดขนาดใหญ่ ตลาดปลาที่ขายส่งอาหารทะเลสดๆ รวมถึงซูเปอร์มาเก็ตและห้างเซ็นทรัล ให้เราเดินช้อปปิ้งกันได้สบายๆ ในระยะประมาณ 10 km.
และหากมองในเรื่อง “ราคา” ของบ้านแนวราบบนถนนพระราม 2 ที่เริ่มต้นไม่ถึง 3 ล้านแบบนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวครับ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวที่ราคาสูงขึ้นมาหน่อย หรือหากเป็นระดับราคาเดียวกัน ก็มักจะอยู่บนถนนเส้นรองในละแวกนี้มากกว่านั่นเอง
ส่วนในเรื่องการเดินทางก็นับว่าสะดวกพอสมควร โดยปัจจุบันจะมีถนนกาญจนาภิเษกให้ขับเข้าเมืองได้ และถึงแม้ว่าที่ตั้งโครงการจะอยู่ทางฝั่งที่มุ่งหน้าไปมหาชัยก็จริง แต่ก็จะมีจุดกลับรถอยู่ใกล้ๆให้ใช้งานได้ง่าย รวมถึงตอนนี้ก็กำลังก่อสร้างทางด่วนเส้นใหม่บนถนนพระราม 2 เพื่อเชื่อมต่อตรงเข้าสู่ตัวเมืองพระราม 3 – ดาวคะนอง ได้สะดวกมากขึ้นอีกด้วยครับ
จุดกลับรถ :
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่ผมค่อนข้างชอบของทำเลตรงนี้ เพราะบริเวณหน้าปากซอยประมาณ 60 m. จะมีทางแยกให้ขึ้นสะพานข้ามคลองตรงไปมหาชัยได้เลย พร้อมกับสามารถชิดซ้ายเพื่อกลับรถเข้าเมืองไปทางพระราม 2 ในระยะเพียง 500 m. เท่านั้น นับว่าเป็นทำเลที่จะเข้าหรือออกเมืองก็ทำได้สะดวก
และถ้าเป็นจุดกลับรถอีกฝั่งที่มาจากทางมหาชัย ก็อาจต้องไปกลับรถไกลสักนิดนึงครับ โดยมีระยะห่างจากปากซอยประมาณ 4.1 km.
ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :
สำหรับทางพิเศษปัจจุบันที่ใกล้ที่สุดจะเป็น “ถนนกาญจนาภิเษก” ซึ่งมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 11.7 m. สามารถขับเข้าเมืองไปทางสมุทรปราการ-ศรีนครินทร์-บางนา หรือจะไปทางบางใหญ่-นนทบุรีก็ได้
โดยอนาคตบนถนนพระราม 2 ก็จะมีการเชื่อมต่อระหว่างมอเตอร์เวย์สายบางขุนเทียน – เอกชัย – บ้านแพ้ว และทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอก ที่ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จประมาณช่วงปี 2568 ซึ่งจุดขึ้น-ลงทางโครงการแจ้งว่าจะอยู่ห่างออกไปประมาณ 2 – 3 km.
การเดินทางไปยังโครงการ :
การเดินทางวันนี้ผมมาจากถนนกาญจนาภิเษกครับ ซึ่งก็ให้ลงตรงถนนพระราม 2 ตามป้ายบอกทางที่มุ่งหน้าไปสมุทรสาคร จากนั้นก็ขับรถตรงมาเรื่อยๆประมาณ 8.2 km. ก็จะเลี้ยวเข้าสู่ซอยของหมู่บ้านกานดาที่เป็นซอยค่อนข้างใหญ่ แล้วขับเข้ามาในซอยประมาณ 1 km. ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ด้านในสุดครับ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
เนื่องจากทำเลอยู่ภายในซอยที่ร่นระยะเข้ามาจากถนนใหญ่พอสมควร บริบทโดยรอบจึงค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะแก่การอยู่อาศัย แต่ก็ไม่เปลี่ยวมากจนเกินไปครับ เพราะภายในก็มีหมู่บ้านดั้งเดิมขนาดใหญ่อยู่แล้ว เลยมีรถผ่านเข้า-ออกอยู่ตลอดเวลา
อีกทั้งถนนภาระจำยอมเส้นนี้ก็ค่อนข้างกว้าง ซึ่งใช้งานร่วมกันระหว่างหมู่บ้านกานดาและโครงการของแสนสิริทั้งหมด (รวมถึงหมู่บ้านอื่นๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย) โดยตอนเย็นๆผมเห็นมีคนมาวิ่งออกกำลังกาย ตรงบริเวณริมถนนซอยนี้กันเยอะพอสมควร ส่วนที่ดินติดกับโครงการสามารถสรุปได้ดังนี้
- ทิศเหนือ : เป็นทางเข้าหลักของโครงการ ติดกับถนนซอยภาระจำยอม และ Siri Park ที่เป็นสวนสาธารณะใช้งานร่วมกันของแสนสิริ
- ทิศใต้ : ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา (ในอนาคต)
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ที่ว่างรอการพัฒนา (ในอนาคต)
- ทิศตะวันตก : ติดกับ ที่ว่าง
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- ตลาดสดมหาชัย ~ 4.3 km.
- Porto Chino ~7 km.
- Makro สมุทรสาคร ~ 7.7 km.
- เซ็นทรัลมหาชัย ~ 9 km.
- Lotus’s พระราม 2 ~ 10 km.
โรงพยาบาล
- รพ.สมุทรสาคร ~ 12 km.
- รพ.นครธน ~ 12 km.
- รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล ~ 16 km.
โรงเรียน
- รร.อัสสัมชัญ แคมปัส พระราม 2 ~ 6 km.
- รร.สารสาสน์วิเทศบางบอน ~ 12 km.
- ม.เทคโนโลยี พระจอมเกล้าธนบุรี ~ 21 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- บรรยากาศพื้นที่ส่วนกลาง ตกแต่งในสไตล์เมือง “อัมสเตอร์ดัม” เหมือนเราได้ไปท่องเที่ยวและใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศ
- จัดพื้นที่ส่วนกลางอยู่บริเวณด้านหน้าเป็นส่วนต้อนรับ ให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศก่อนเข้าสู่โครงการ
- ผังโครงการในเฟสแรกมีความเป็นส่วนตัวดี ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่อยู่ในซอยที่มีเพียง 6 ยูนิต รวมถึงบ้านติดถนนหลักก็ไม่ต้องหันหน้าชนกันใครเลย
- เฟสใหม่ในอนาคตจะมีสวนให้ใช้งานอีกจุดหนึ่ง เป็นการกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน รวมถึงบ้านใกล้สวนก็จะเน้นหลังใหญ่สุดเป็นหลักด้วยครับ
โครงการ สิริ เพลส พระราม 2 – วงแหวน เป็นหนึ่งในซีรีย์ Dream Destination จาก แสนสิริ ที่ได้มีการจำลองบรรยากาศเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศต่างๆมาไว้ในโครงการ ซึ่งตอนนี้ก็ได้เปิดตัวให้เราได้ชมกันมาแล้ว 4 ประเทศคือ
กรุงโตเกียวจากประเทศญี่ปุ่น / นิวยอร์กซิตี้จากสหรัฐอเมริกา / ปารีสจากประเทศฝรั่งเศส และล่าสุดกับโครงการนี้ก็คือ อัมสเตอร์ดัมจากประเทศเนเธอร์แลนด์ (ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจมีคอนเซ็ปต์ใหม่ๆเกิดขึ้นอีกก็ได้ ซึ่งก็ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ)
“อัมสเตอร์ดัม” เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ไม่เหมือนใคร เพราะไม่ใช่เมืองที่มีตึกสูงระฟ้ามากมาย แต่เป็นเมืองริมคลองเล็กๆที่มีบรรยากาศสุดโรแมนติก และมีสถาปัตยกรรมบ้านเมืองที่เป็นเอกลักษณ์
อีกทั้งยังมีชื่อเสียงมาจากแนวป้องกันน้ำดัตช์ หรือ Stelling van Amsterdam ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO และเป็นเมืองแห่งศิลปะที่มี พิพิธภัณฑ์แวนโก๊ะห์ (Van Gogh Museum) อีกด้วยครับ
ก่อนอื่นผมอยากพาทุกคนมาชม “สวน” ที่อยู่ริมถนนภาระจำยอมก่อนที่จะถึงตัวโครงการกันครับ ซึ่งเค้าทำบรรยากาศออกมาได้สวยงามน่าใช้งานดีมากๆ และยังเป็นจุดที่ผมชอบที่สุดอีกด้วย
โดยสวนแห่งนี้มีชื่อว่า “Siri Park” เป็นพื้นที่ใช้งานร่วมกันของโครงการแสนสิริทั้งหมด ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ส่วนกลางโครงการ Siri Place แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์เป็นพื้นที่ส่วนต้อนรับ หรือจะมาเดินเล่นและวิ่งออกกำลังกายตอนเย็นๆได้ อีกทั้งยังมีการจัดบรรยากาศได้สวยงาม สอดคล้องไปกับคอนเซ็ปต์โครงการที่เป็นฟีลเมือง “อัมสเตอร์ดัม” ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
เพราะอย่างที่ทราบกันแล้วว่า “อัมสเตอร์ดัม” เป็นเมืองริมน้ำและมีคลองมากมาย ดังนั้นทางแสนสิริจึงได้จัดเป็นสวนที่มีผืนน้ำขนาดใหญ่ไว้เป็นส่วนต้อนรับ เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศก่อนจะเข้าสู่ตัวโครงการ
แถมยังมีการจำลองสะพานข้ามคลอง ที่มีทางลอดข้างใต้สำหรับเรือไว้เหมือนของจริงอีกด้วย ซึ่งการล่องเรือชมเมืองก็ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยม ของการไปเที่ยวเมืองอัมสเตอร์ดัมเลยครับ ขอบอกเลยว่าบรรยากาศคือโรแมนติกสุดๆ
ถัดเข้ามาด้านในสุดของถนนภาระจำยอม เราก็จะเจอกับทางเข้าโครงการแบบนี้ครับ
Master Plan ของโครงการเฟสแรก ด้านหน้าสุดจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ประกอบด้วย อาคาร Clubhouse และสวนสาธารณะ เป็นเหมือนส่วนต้อนรับของโครงการ ทำให้มีบรรยากาศทางเข้าสวยงาม โดยที่คนในเฟสด้านในก็อาจต้องขับรถยนต์หรือปั่นจักรยาน เพื่อมาใช้งาน Facilities ที่อยู่ด้านหน้าไกลสักหน่อย ทำให้บ้านในเฟสแรกมีความน่าสนใจตรงที่ สามารถมาใช้งานส่วนกลางได้ง่าย และไม่ต้องขับรถเข้าไปลึกด้วยนั่นเอง
ซึ่งถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ผมก็แนะนำเป็นทาวน์โฮมที่อยู่ในซอยย่อย เพราะจะมีเพื่อนบ้านเพียง 6 ยูนิตเท่านั้น ส่วนบ้านที่อยู่ริมถนนหลักก็แน่นอนว่า อาจมีรถขับผ่านไป-มาหน้าบ้านเยอะสักหน่อย แต่จะได้ความเป็นส่วนตัว จากมุมมองหน้าบ้านที่ไม่ต้องหันหน้าชนกับใครเลยนั่นเองครับ
นอกจากนี้เรายังแอบเห็นว่า บริเวณตรงกลางโครงการจะมีการทำสวนสาธารณะเพิ่มอีกจุดหนึ่งด้วย เป็นการกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน และเพิ่มพื้นที่สีเขียวไปด้วยในตัว โดยลูกบ้านในแต่ละเฟสก็จะสามารถมาเดินเล่น และพักผ่อนในสวนตรงนี้กันได้สะดวกมากขึ้น (…ซึ่งบ้านที่หันหน้าเข้าสวนส่วนมากจะเป็นหลังใหญ่สุด และบ้านที่อยู่ในซอยเฟสหลังๆจะเป็นหลังเล็กครับ)
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการแบ่งทางเข้า-ออกชัดเจน ตกแต่งด้วยสีสันสดใส ขาว-แดง-น้ำเงิน ซึ่งเป็นสีประจำธงชาติของเนเธอแลนด์นั่นเองครับ
โดยรูปร่างหอคอยทรงสูงและลานกว้างๆแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงจัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งชาติ เป็นที่ระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 2 (ถ้ามีรูปปั้นพี่สิงห์ตั้งอยู่ด้วยล่ะก็ใช่เลยครับ)
ทางเข้าจะแยกกันระหว่างลูกบ้านด้านซ้าย และ Visitor ด้านขวาติดกับป้อม รปภ.
โดยหากเป็นลูกบ้านจะสามารถขับผ่านเข้า-ออกได้เลย ด้วยระบบ RFID หรือสัญญาณ Bluetooth แบบ Easy Pass บนทางด่วน ส่วนถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องติดต่อแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ก่อนตามปกติครับ
อีกทั้งยังมี LIV-24 ที่เป็นระบบดูแลความปลอดภัยโดยศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชม. จากแสนสิริ ผ่านทางกล้องวงจรปิดในพื้นที่ส่วนกลาง และรายงานผ่าน Application บนโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย
ระบบสังเกตการณ์และระบบรักษาความปลอดภัยรอบโครงการ (Security Monitoring)
- CCTV-VIEDOANALYTICS ระบบวิเคราะห์ความเคลื่อนไหว
- REAL-TIME GUARD TOUR ตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตามจุดของ รปภ.
- VISITOR MANAGEMENT SYSTEM (VMS) ระบบบันทึกข้อมูลผู้มาติดต่อ, ทะเบียนรถยนต์ และเวลาเข้าและออก
- Digital Fence
เข้ามาด้านในเราจะเจอกับถนนหลักกว้าง 12 m. พร้อมกับบ้านตัวอย่างและสำนักงานขายในโซนแรก ซึ่งอีกหนึ่งความน่าสนใจของทาวน์โฮมโครงการนี้ก็คือ หน้าตาและสีสันของตัวบ้านจะเป็นการ Random หรือสุ่มทั้งหมดเลย
ทำให้มีความสนุกสนานไม่น่าเบื่อ และเวลาซื้อบ้านนอกจากจะเลือกในตำแหน่งแปลงที่ถูกใจแล้ว ก็อาจต้องดูในเรื่องของสีและ Facade ให้ดีๆด้วยนะครับ เพราะเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงในภายหลังได้นั่นเอง
ซ้ายมือจะเป็นสวนเล็กๆที่เป็นส่วนต้อนรับ และเพิ่มความสดชื่นให้กับโครงการได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะมีศาลาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วย อนาคตอาจนำเก้าอี้มาวางเพิ่มเติม เพื่อให้มานั่งเล่นพักผ่อนกันได้นะครับ
โดยลักษณะของสวนและศาลาแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงวอนเดลปาร์ค (Vondelpark) ที่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งผู้คนก็มักจะนิยมไปเดินเล่น ปั่นจักรยานริมทะเลสาบ และนั่งปิกนิกกันในสวนแห่งนี้ครับ
ส่วนทางด้านขวาของซุ้มประตูทางเข้าจะเป็นอาคาร Clubhouse โดยลักษณะจะเป็นเหมือนบ้านโรงนาและกังหันลมเลยใช่มั้ยครับ ซึ่งหากใครเคยไปเที่ยวที่เนเธอแลนด์ ก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากคล้ายแบบนี้ก็คือ หมู่บ้านกังหันลมซานส์ สคานส์ (Zaanse Schans) เป็นบ้านสไตล์วินเทจที่อยู่ในแถบชนบทนอกตัวเมือง ตั้งอยู่ริมน้ำและรายล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าสีเขียวสวยงาม
บริเวณด้านหน้าอาคาร Clubhouse ถูกจัดเป็นสวนเล็กๆ และมีสระว่ายน้ำตั้งอยู่ด้วย
เข้ามาภายในอาคารส่วนแรกทางขวามือ จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi-Outdoor ที่เราสามารถมานั่งพักผ่อนหลังออกกำลังกาย หรือจะมานั่งตากลมชิลๆตรงนี้ก็ได้ครับ เพราะเป็นช่องลมที่มีลมพัดผ่านเย็นสบายแทบจะตลอดเวลาเลย
นอกจากนี้ก็จะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังสวนที่อยู่ด้านหลัง Clubhouse ได้ด้วย
ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับผืนน้ำด้านหน้าโครงการก่อนหน้านี้นั่นเองครับ โดยจะมีการจำลองเป็นลักษณะเหมือนท่าเรือยื่นออกไป ให้เราได้มายืนถ่ายรูปสวยๆ หรือจะมาลอยกระทงกันก็ได้
กลับเข้ามาในอาคารอีกครั้ง โดยห้องกระจกด้านซ้ายมือจะเป็นห้อง Fitness และมีห้องนิติบุคคลที่อยู่ข้างๆด้วย
ภายในมีอุปกรณ์ไม่เยอะมากนัก แต่ก็มีให้ใช้งานครบ รายล้อมไปด้วยกระจกเลยทำให้รู้สึกโปร่งโล่งดี
และเราก็สามารถออกกำลังกายไป พร้อมกับชมวิวสวนและสระว่ายน้ำด้านนอกไปด้วยแบบนี้ได้ครับ
ต่อมาเราจะไปดูทางด้านซ้ายของอาคาร Clubhouse กันบ้างครับ ซึ่งจะมีทางเดินในร่มเชื่อมต่อกันได้แบบนี้
ตรงกลางเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือแบบกลางแจ้ง ขนาดประมาณ 6 x 16 m. พอจะว่ายออกกำลังกายได้อยู่ครับ พร้อมกับมีจุดนั่งพักผ่อนอยู่ทางด้านข้างแบบนี้
โดยวิวของสระนี้ก็จะมองเห็นพื้นที่สีเขียวที่อยู่รอบๆได้ และถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้กับซุ้มประตูที่เป็นทางเข้า-ออกก็จริง แต่จะไม่ได้รู้สึกว่าเสียความเป็นส่วนตัวมากนัก เพราะมีกำแพงและแนวรั้วต้นไม้พรางสายตาเอาไว้ เลยช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่มาใช้งานได้นั่นเอง
ส่วนอีกด้านของสระก็จะมีการแบ่งเป็นสระน้ำตื้นสำหรับเด็กเอาไว้ด้วย แนะนำให้ผู้ปกครองอาจต้องคอยดูน้องๆดีๆนิดนึง เพราะถ้าเค้าปีนขึ้นไปเล่นบนขอบสระก็อาจเกิดอันตรายได้ครับ
ส่วนจุดล้างตัวก่อนลงสระจะอยู่ทางด้านซ้ายของ Fitness ตรงนี้ครับ
และด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง แต่จะไม่ได้มีห้องให้อาบน้ำนะครับ ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกลับไปอาบที่บ้านแทนนะ
ด้านข้างของสระว่ายน้ำจะมีทางลาดสำหรับผู้ใช้รถวีลแชร์ หรือรถเข็นเด็กให้ใช้งานได้สะดวกครับ
และระหว่างทางเดินเราจะเห็นได้ว่า เค้าปลูกพวกไม้ดอกไว้เยอะมาก ซึ่งก็มักจะอยู่ตามริมน้ำเป็นส่วนใหญ่ ทั้งบริเวณข้างสระว่ายน้ำตรงนี้ หรือจะเป็นริมน้ำที่อยู่ตรงสวนด้านหน้าโครงการก็ด้วย
เพราะที่อัมสเตอร์ดัมจะมีตลาดที่มีชื่อเสียงมากๆก็คือ ตลาดขายดอกไม้ (Bloemenmarkt) ซึ่งเป็นตลาดดอกไม้ลอยน้ำเพียงแห่งเดียวบนโลกที่มีความสวยงามมาก ถ้าใครอยากซื้อดอกไม้ไปเซอร์ไพรส์แฟนก็มาหาที่นี่ได้เลยไม่ผิดหวัง และไฮไลท์ก็คือ “ดอกทิวลิป” ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์นั่นเอง
เมื่อลงมาตามทางลาดเราจะเจอกับ Siri Backyard ที่อยู่ด้านข้างครับ
ภายในเป็นแปลงสำหรับปลูกพืชผักสวนครัว โดยลูกบ้านสามารถมาเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อนำไปประกอบอาหารกันได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการจัดการของนิติบุคคลในอนาคตอีกทีด้วยนะ
และนี่คือก็บรรยากาศของส่วนกลางทั้งหมด ให้ความรู้สึกเหมือนผมได้พาไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ของอัมสเตอร์ดัมมาหลายแห่งเลยใช่มั้ยครับ ซึ่งหากใครไม่อยากเสียเงินค่าตั๋วเครื่องบินไปถึงต่างประเทศ ก็ลองเข้ามาสัมผัสบรรยากาศที่นี่ได้เลยนะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse
- Swimming Pool 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 16 เมตร พร้อมสระเด็ก
- Fitness (ห้องออกกำลังกาย)
- Siri Backyard (แปลงปลูกผักสวนครัว)
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด ขนาดประมาณ 200 ตร.ม. และ 2 งาน
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 5 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร และ Digital Fence
- ถนนหลักกว้าง 8 ม. และถนนภายในกว้าง 12 ม.
- Key Card Access ระยะไกล ระบบ RFID เปิดอัตโนมัติด้วยสัญญาณ Bluetooth แบบ Easy Pass บนทางด่วน
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก แยกทางเข้า-ออกลูกบ้านและ Visitor
- LIV-24 มาตรฐานแสนสิริ
แบบบ้าน
Highlights :
- มีบ้านให้เลือก 3 แบบ 3 ขนาด เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง
- ฟังก์ชันยืดหยุ่น มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง สามารถปรับเป็นห้องทำงาน WFH หรือห้องนอนผู้สูงอายุเพิ่มก็ได้ ตาม Lifestyle ของแต่ละครอบครัว
- มีช่องแสง Skylight บนฝ้าเพดาน ทั้งตรงโถงบันไดและห้องน้ำชั้นบน รวมถึงยังมีการเจาะช่องแสงตรงผนังกลางบ้าน เพื่อทำเป็นกระจกเข้ามุม ช่วยเพิ่มความสว่างและโปร่งโล่งภายในบ้านได้เป็นอย่างดี
- ห้องนอน Master Bedroom ได้ฝ้าเพดานสูง 3.7 m. และมีหน้ากว้างเท่ากับตัวบ้าน สามารถจัดแบ่งหรือดีไซน์ฟังก์ชันได้หลากหลาย
แบบบ้านของโครงการนี้จะก่อสร้างด้วยระบบ Precast หรือผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่หล่อสำเร็จรูปมาจากโรงงาน มีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นผนังรับน้ำหนักด้วย ภายในบ้านจึงไม่มีเสามาเกะกะการจัดวางเฟอร์นิเจอร์
แต่ก็จะทุบ/เจาะได้ยากกว่าผนังทั่วไปอยู่พอสมควร ดังนั้นเราจึงต้องปรึกษาช่างประจำโครงการ ก่อนจะทำการต่อเติมใดๆด้วยนะครับ โดยบ้านของโครงการนี้จะมีทั้งหมด 3 แบบ ซึ่งชื่อของบ้านแต่ละหลังก็จะมาจากชื่อ “คลอง” ที่อยู่ในเมืองอัมสเตอร์ดัมนั่นเองครับ ประกอบด้วย
- Single (ซิง-เกล) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 16.25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 99 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ที่จอดรถ - Rokin (โร-คิน) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 111 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Amstel (อัมส-เทล) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 19.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
- Amstel (อัมส-เทล) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 19.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
วันนี้เราจะพามาชมแบบบ้านหลังใหญ่สุดกันครับ โดยแปลนชั้น 1 นอกจากจะมีที่จอดรถ 2 คันสบายๆ และ Common Area ขนาดใหญ่แล้ว ยังมีความน่าสนใจตรงห้องอเนกประสงค์ด้านหลัง ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเป็นอะไรก็ได้ตาม Lifestyle ของผู้พักอาศัย เช่น หากใครเป็นครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย ก็อาจทำเป็นห้องนอนชั้นล่าง หรือไม่ก็ทำเป็นห้องทำงานช่วง WFH แบบนี้ก็ได้นะครับ โดยแลกกับฟังก์ชันครัวที่เราอาจต้องต่อเติมเพิ่มที่หลังบ้านแทน
ส่วนแปลนชั้น 2 จะมีห้องนอน 3 ห้อง แบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่อยู่โซนด้านหลังบ้าน และใช้งานห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอก ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางด้านหน้า พร้อมกับมีห้องน้ำส่วนตัวให้ได้ใช้งานด้วย จึงทำให้เป็นบ้านที่สามารถรองรับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง อาศัยร่วมกัน 3 – 5 คนได้สบายๆ หรืออาจเป็นคนที่ต้องการห้องเยอะๆ เพื่อไว้ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตามต้องการที่หลากหลายก็ได้ครับ
เริ่มกันที่บริเวณหน้าบ้านจะมีขนาดกว้าง 5.5 m. สามารถจอดรถ 2 คันได้สบายๆ ซึ่งเค้าจะลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้านมาถึงบริเวณใต้ชายคานี้เท่านั้น ส่วนที่เหลือก็จะเป็นโครงสร้าง Slab on Ground หรือวางคานกับพื้นเลยนั่นเอง และถ้าใครต้องการจอดรถในร่มแบบทั้งคันล่ะก็ สามารถต่อเติมหลังคาเพิ่มเติมเองได้นะครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม :
ทางเข้าบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่เป็นลายตารางแบบนี้เลยครับ กรอบอลูมิเนียมสีดำ Powder Coat พร้อมกับตัวล็อคแบบ 2 ชั้น และกระจกเขียวตัดแสง
รวมถึงอีกด้านของตัวบ้านก็จะมีช่องเก็บของใต้บันไดเล็กๆ ที่มีหน้าบานปิดเรียบร้อยดี เอาไว้เก็บพวกอุปกรณ์ทำสวน หรืออุปกรณ์ล้างรถได้ครับ
เข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่นหน้าบ้านไปจนถึงโต๊ะทานอาหารและครัวหลังบ้าน โดยฝ้าเพดานชั้นนี้จะสูง 2.65 m. และปูพื้นด้วยกระเบื้องยาง SPC ที่เป็นลายไม้ธรรมชาติสวยงาม แถมยังทนทานต่อน้ำหรือความชื้นดีอีกด้วย
เริ่มที่บริเวณพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้าบ้าน สามารถใช้โซฟาชุดใหญ่ได้สบายๆ หรือจะเป็นโซฟารูปตัว L ไว้นอนดูทีวีชิลๆก็ได้ โดยมีระยะทีวีประมาณ 4 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ
และผนังฝั่งตรงข้ามที่ใช้สำหรับวางหรือติดทีวีได้นั้น จะเป็นช่องว่างที่อยู่ระหว่างบันไดและห้องน้ำ โดยผมวัดความกว้างได้ประมาณ 1.3 m. ดังนั้นหากเราต้องการวางหรือติดทีวีบริเวณนี้ ก็จะสามารถใช้ขนาดได้ไม่เกิน 50 นิ้วครับ
ส่วนห้องน้ำที่อยู่ติดกันจะมีขนาดประมาณ 1.2 x 1 m. ใช้งานร่วมกันระหว่างพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง พร้อมกับมีพัดลมดูดอากาศบนฝ้าเพดานเรียบร้อยดี
ภายในมีสุขภัณฑ์จาก Bathline มาให้ครบพร้อมใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และยังมี Hand Shower หรือส่วนอาบน้ำเตรียมไว้ให้ เพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนของอเนกประสงค์ชั้นล่างเป็นห้องนอนได้ด้วยนั่นเอง
ถัดเข้ามาในบ้านจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 ที่นั่งได้สบายๆ โดยจะอยู่ติดกับประตูกระจกหลังบ้านที่เชื่อมต่อไปยังส่วนครัวได้ครับ
และที่เห็นอยู่ทางด้านซ้ายมือจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ที่ทำการเจาะผนังเข้ามุมเป็นกระจกแบบนี้ ซึ่งช่วยลดความอึดอัดของผนังกลางบ้าน และทำให้โปร่งโล่งมากขึ้นได้เป็นอย่างดีเลยนั่นเอง
ภายในมีขนาดกว้างประมาณ 2.5 x 2.75 m. ซึ่งเราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตาม Lifestyle ของครอบครัวเลยครับ อย่างบ้านตัวอย่างนี้เค้าก็จัดเป็นห้องทำงานอดิเรก หรือถ้าใครมีผู้สูงอายุก็ยังสามารถวางเตียง 3.5 ฟุต และทำเป็นห้องนอนเพิ่มก็ยังได้
อีกด้านหนึ่งของห้องจะมีช่องกระจกเข้ามุมตรงผนังที่เราเห็นกันก่อนหน้านี้ ซึ่งจะช่วยรับแสงจากบริเวณหน้าบ้านเข้ามา ทำให้ภายในห้องสว่างและโปร่งโล่งมากขึ้น รวมถึงเรายังสามารถส่องดูได้ว่ามีใครมาหาบ้างหรือเปล่า โดยไม่ต้องเสียเวลาเปิดประตูออกไปดูเองได้อีกด้วย
หลังบ้านของจริงเราจะได้เป็นพื้นคอนกรีตโล่งๆแบบนี้ ซึ่งจะมีการลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้าน และได้กำแพงสูง 2.5 m. สามารถรองรับการต่อเติมเป็นครัวไทยได้สบายมาก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นจะทรุดตัวง่ายๆเลยครับ เพียงแค่เพิ่มหลังคาและเคาน์เตอร์ครัวอีกหน่อยก็พร้อมใช้งานได้เลย
ซึ่งบ้านตัวอย่างก็ได้ต่อเติมหลังคา และทำเป็นครัวปิดมาให้ดูเป็นไอเดีย ทำให้เราสามารถมาใช้งานพื้นที่ตรงนี้ได้ตลอดเวลา ไม่ต้องกลัวแดดกลัวฝนอีกต่อไป โดยแบ่งออกเป็นโซนทำอาหารและโซน Laundry ที่ใช้งานต่อเนื่องกันได้
บันไดด้านหน้าบ้านจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้างประมาณ 1 m. พร้อมมีราวกันตกให้จับตลอดเส้นทาง ซึ่งเวลาใช้งานจริงก็อาจต้องระวังตรงขั้นบันไดสามเหลี่ยมกันสักหน่อยด้วยนะ
อีกทั้งบนฝ้าเพดานยังมีการทำเป็นช่อง Skylight เพื่อให้แสงได้ส่องลงมาในตอนกลางวัน เลยทำให้บริเวณโถงบันไดสว่างและใช้งานได้ดี โดยไม่ต้องพึ่งการเปิดไฟตลอดเวลาเลยครับ
ขึ้นมาบนชั้น 2 พื้นจะเปลี่ยนเป็นไม้ลามิเนต และได้ฝ้าเพดานสูง 2.7 m. พร้อมกับมีประตูห้องทั้ง 4 แยกออกไปเป็นสัดส่วน
เริ่มจากห้องแรกทางซ้ายมือจะเป็นห้องนอนเล็กสุด มีความกว้างประมาณ 3 x. 2.7 m. เหมาะที่จะเป็นห้องนอนลูกคนเล็ก หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวก็อาจทำเป็นห้องพระ/ห้องทำงานก็ได้นะ
ติดกันจะเป็นห้องนอนที่ 2 ซึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นมาประมาณ 2.6 x 4 m. สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ พร้อมกับแบ่งเป็นโซนวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะแต่งหน้าตรงปลายเตียงได้ด้วย
ถัดมาจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ตรงกลางบ้านครับ แต่ก็มีความสว่างและโปร่งโล่งดีเลยทีเดียว เพราะเค้าจะทำช่องแสง Skylight ขนาดใหญ่บนฝ้าเพดานมาให้แบบนี้ด้วย
โดยขนาดพื้นที่จะกว้างประมาณ 1.25 x 1.6 m. ใช้งานร่วมกันระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้ง หรือถ้าใครอยากแบ่งฟังก์ชันให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น ก็อาจติดเป็นม่านพลาสติกเพิ่มได้ครับ
สุขภัณฑ์ภายในยังคงเป็นของ Bathline ประกอบด้วยอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และ Hand Shower โดยมาพร้อมกับ Junction Box สำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่น และเราก็อาจติดชั้นวางสบู่เพิ่มเติม เพื่อให้หยิบจับสะดวกมากขึ้นได้ด้วยนะ
สุดท้ายคือ Master Bedroom ที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งจะมีขนาดใหญ่และกว้างเท่ากับตัวบ้านอยู่ที่ 3.4 x 5.4 m. รวมถึงยังได้ฝ้าเพดานสูงถึง 3.7 m. จึงมีความสูงโปร่งมากๆอีกด้วย
ขวามือนอกจากจะเป็นที่วางเตียงนอน 5 – 6 ฟุตได้สบายๆแล้ว บริเวณผนังปลายเตียงเรายังสามารถเพิ่มตู้และทีวีได้อีกด้วยนะ ซึ่งถึงแม้ว่าอาจไม่ได้ตรงตำแหน่ง Center กับเตียงพอดีๆ แต่ก็พอจะใช้การได้ดีอยู่ครับ
อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นโซนแต่งตัวหน้าห้องน้ำ ซึ่งของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆนะครับ
โดยบ้านตัวอย่างก็ได้ Built-in กั้นฟังก์ชันทำเป็น Walk-in Closet ที่เป็นสัดส่วนมาให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งเราสามารถออกมาจากห้องน้ำเพื่อแต่งตัวได้เลย แถมยังเลื่อนม่านปิดเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้อีกด้วย
ภายในห้องน้ำจะมีฟังก์ชันสุขภัณฑ์ และช่องแสง Skylight ครบเหมือนเดิมเลยครับ เพียงแต่สำหรับห้องนี้จะมีการแยกส่วนยืนอาบน้ำให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้างประมาณ 1.3 x 1.45 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ
และพื้นที่ยืนอาบน้ำจะกว้างประมาณ 90 x 80 cm. ให้เราได้ยืนอาบพอดีๆตัว โดยที่พื้นจะมีขอบกันน้ำสูงขึ้นมานิดหน่อย ซึ่งเราอาจติดม่านพลาสติกหรือฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นเปียกไปทั่วทั้งห้องได้นะ
ส่วนภาพบ้านเปล่ามาตรฐานจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
- Single (ซิง-เกล) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 16.25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 99 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ที่จอดรถ
พามาชมหลังเล็กสุดของโครงการกันบ้าง ซึ่งนอกจากราคาที่จับต้องได้ง่ายแล้ว ยังมีความน่าสนใจตรงห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ที่ทำให้มีจำนวนฟังก์ชันห้องเยอะไม่แพ้บ้านหลังกลางเลยครับ และแน่นอนว่าเรายังสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันตาม Lifestyle ของครอบครัวได้อีกด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบมากๆคือ การเจาะช่องแสงที่มุมผนังตรงกลางบ้านหลายจุด ซึ่งจะช่วยทำให้บ้านสว่างมากขึ้น และลดความอึดอัดลงได้เป็นอย่างดี
ส่วนแปลนชั้น 2 เราจะได้ห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ห้อง พร้อมกับมีห้องน้ำส่วนตัวให้ใช้งานทั้งคู่อีกด้วย จึงเป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 2 – 3 คน และเน้นความเป็นส่วนตัวของห้องนอนขนาดใหญ่ ลูกอยู่ได้ตั้งแต่เล็กยันโต รวมถึงมีห้องอเนกประสงค์ให้ใช้งานได้หลากหลาย โดยแลกกับที่จอดรถที่อาจมีเพียงคันเดียวเท่านั้นนะ
บริเวณหน้าบ้านจะกว้าง 5.2 m. ซึ่งมีระบบโครงสร้างเหมือนเดิม สิ่งที่เปลี่ยนไปคือช่องจอดรถได้เพียงคันเดียว กว้างประมาณ 2.5 m. สามารถใช้งานและเปิดประตูรถกว้างทั้ง 2 ฝั่งได้สบายๆเลยครับ
เข้ามาภายในเราจะเจอกับ Common Area ที่เชื่อมต่อกันตั้งแต่พื้นที่นั่งเล่นหน้าบ้าน ไปจนถึงโต๊ะทานอาหารและครัวหลังบ้าน โดยพื้นจะยังคงได้เป็นกระเบื้องยาง SPC ลายไม้สวยงาม และฝ้าเพดานสูง 2.65 m. แต่ที่เห็นว่ามีช่องหน้าต่างด้านข้างด้วยแบบนี้ ก็เป็นเพราะหลังนี้เป็นแปลงมุมนะครับ
เริ่มจากบริเวณพื้นที่นั่งเล่นหน้าบ้าน จะมีระยะดูทีวีกว้างประมาณ 2.2 m. สามารถใช้ทีวีขนาด 40 – 50 นิ้วได้ แต่จุดเด่นที่น่าสนใจก็คือ กระจกเข้ามุมตรงผนังทางขวามือ ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน ซึ่งจะช่วยลดความอึดอัดภายในบ้านลงได้ และยังทำให้มีบรรยากาศที่สว่างโปร่งโล่งมากขึ้นอีกด้วย
ส่วนบริเวณกลางบ้านก็จะมีพื้นที่เหลือ เนื่องมาจากเป็นแปลนบ้านที่ค่อนข้างลึก จึงทำให้มีพื้นที่กลางบ้านเหลือเยอะ ให้เราสามารถหาตู้หรือชั้นวางของมาวางเพิ่มเติม หรือจะขยายโต๊ะทานอาหารและขนาดโซฟาให้ใหญ่ขึ้นกว่านี้อีกก็ได้ครับ
ด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร ที่จะอยู่ติดกับครัวและลานซักล้างหลังบ้าน ซึ่งถ้าเป็นบ้านแปลงมุมเราก็จะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ด้านข้างด้วยแบบนี้
อีกด้านหนึ่งจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ใต้บันได และติดกันก็จะเป็นห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างครับ
โดยทางเข้าห้องน้ำจะมีพื้นลดระดับลงไป 1 ขั้น เพื่อที่เวลาใช้งานห้องน้ำจะสามารถยืนได้เต็มความสูงนั่นเอง (ประมาณ 1.9 m.)
ภายในเราจะได้สุขภัณฑ์ต่างๆครบ เป็นของ Bathline เช่นเดิม โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างประมาณ 1.55 x 1.8 m. ใช้งานร่วมกันระหว่างโซนเปียกและโซนแห้ง รวมถึงยังมีช่องหน้าต่างที่เปิดระบายอากาศได้ด้วยครับ
ส่วนห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ข้างๆ จะมีขนาดประมาณ 2.5 x 2.8 m. สามารถปรับฟังก์ชันเป็นอะไรก็ได้ตามต้องการเหมือนหลังที่แล้วเลยครับ อย่างบ้านหลังนี้เค้าก็จัดเป็นห้องเรียนหนังสือ/ห้องทำการบ้านของน้องๆมาให้ดูเป็นไอเดียด้วย
อีกด้านหนึ่งก็จะเป็นผนังกระจกเข้ามุม ที่ช่วยทำให้ห้องนี้สว่างและโปร่งโล่งมากขึ้นเหมือนเดิมครับ
ส่วนหลังบ้านของจริงก็จะเป็นพื้นที่คอนกรีตโล่งๆเหมือนหลังที่แล้ว ซึ่งเราก็สามารถต่อเติมเป็นครัวหรือ Laundry ได้เองตามต้องการ
ต่อมาเราจะพาขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 กันบ้างครับ ซึ่งตัวบันไดก็จะตั้งอยู่บริเวณกลางบ้านเลย
และแน่นอนว่าตรงบันไดก็จะมีช่อง Skylight ที่ช่วยให้แสงส่องผ่านเข้ามาได้ในตอนกลางวัน ทำให้โถงบันไดสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟตลอดเวลาครับ
เริ่มกันที่ห้องนอนเล็กซ้ายมือฝั่งด้านหลังบ้านก่อนครับ ภายในกว้างประมาณ 3.4 x 3.8 m. ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่ดีทีเดียว โดยเราสามารถทำเป็นห้องนอนลูกให้อยู่ได้ตั้งแต่เล็กยันโต และใช้เตียงใหญ่ขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ
ส่วนอีกด้านก็จะเป็นโซนแต่งตัวและตู้เสื้อผ้า ซึ่งจะอยู่ติดกับห้องน้ำส่วนตัวแบบนี้เลย
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันมาตรฐานครบ ขนาดประมาณ 1.55 x 1.7 m. ใช้งานร่วมกันระหว่างพื้นที่ส่วนเปียกกับส่วนแห้ง หรือเราอาจติดม่านพลาสติกเพิ่มก็ได้ รวมถึงมีช่องหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศด้วยครับ
สุดท้ายคือ Master Bedtoom ที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเราก็จะได้เป็นห้องฝ้าเพดานสูง 3.7 m. เหมือนบ้านหลังใหญ่เลยครับ พร้อมกับความกว้างเท่ากับตัวบ้านอยู่ที่ 5.1 x 2.9 m.
โดยหากเป็นสิริเพลสโครงการเก่าๆ เราก็คงเคยได้เห็นไอเดียการทำห้องนี้เป็นชั้นลอย เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยกลายเป็นห้องสไตล์ Loft หรือจะทำเป็นพื้นที่ต่างระดับไว้เก็บของใต้พื้นแบบญี่ปุ่นก็ดี ซึ่งล้วนแต่เป็นไอเดียการแต่งบ้านที่น่าสนใจทั้งนั้นเลย
บ้านตัวอย่างหลังนี้เค้าจัดฟังก์ชันมาแบบง่ายๆให้ดูกันครับ โดยทางขวาของเตียงจะเป็นพื้นที่แต่งตัวและตู้เสื้อผ้า ซึ่งอาจอยู่คนละฝั่งกับห้องน้ำสักหน่อย ทำให้เวลาใช้งานต้องเดินผ่านเตียงมาก่อนนั่นเอง
ปลายเตียงจะเป็นผนังทึบที่สามารถติดทีวีแขวนผนัง เพื่อนอนดูบนเตียงแบบสบายๆได้ และติดกันก็จะเป็นทางเข้าห้องน้ำครับ
ซึ่งพื้นที่รอบเตียงก็จะเหลือกว้างประมาณ 70 cm. ให้สามารถเดินผ่านได้แบบสบายๆ และขึ้น-ลงเตียงได้สะดวก
ภายในห้องน้ำจะแบ่งพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจน โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้างประมาณ 1.5 x 1.35 m. มาพร้อมกับช่องแสง Skylight บนฝ้าเพดานเช่นเดิม ส่วนถ้าเป็นหลังแปลงมุมแบบนี้ ก็จะมีช่องหน้าต่างด้านข้างให้ระบายอากาศได้ด้วย
พื้นที่อาบน้ำด้านในกว้างประมาณ 1.5 x 0.75 m. สามารถยืนใช้งานได้พอดีๆ ซึ่งเราอาจต้องไปติดม่านหรือฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเองนะครับ โดยที่ผนังก็จะมีการเจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำมาให้พร้อมใช้งาน
ส่วนภาพบ้านเปล่ามาตรฐานจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
- Rokin (โร-คิน) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 111 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
สำหรับบ้านหลังกลางนี้จะมีความน่าสนใจอยู่ที่ จำนวนที่จอดรถได้ถึง 2 คัน (ของพ่อแม่คันหนึ่ง + ของลูกคันหนึ่ง) และมี Common Area บริเวณชั้น 1 ที่เชื่อมต่อกันเป็นรูปตัว L ขนาดใหญ่บริเวณด้านหลังบ้าน ทำให้มีความกว้างเท่ากับตัวบ้านและโปร่งโล่งดีมากๆเลยครับ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่เราอาจกั้นฟังก์ชัน เพื่อทำเป็นห้องชั้นล่างเพิ่มเติมเองก็ได้อีกด้วย (ทำเป็นผนังเบา และเว้นส่วนทางเข้าห้องน้ำไว้สักนิดหน่อยเป็นใช้ได้)
ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง โดยแบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่อยู่ทางด้านหลังบ้าน และใช้งานห้องน้ำร่วมกันที่ด้านนอก ซึ่งหากใครมีลูกแค่คนเดียวอยู่แล้ว ก็อาจปรับอีกห้องเป็นห้องพระหรือห้องทำงานก็ได้ ส่วนห้องนอนใหญ่ที่อยู่หน้าบ้านจะมีห้องน้ำส่วนตัว ทำให้บ้านหลังนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง เน้นพื้นที่ใช้งานร่วมกันที่ชั้นล่าง ให้มีขนาดใหญ่และกว้างขวางเป็นพิเศษนั่นเองครับ
ส่วนภาพบ้านตัวอย่างและเปล่ามาตรฐานจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคา
สิริ เพลส พระราม 2 – วงแหวน ราคา ณ วันที่ 24 พฤษภาคม 2565
- Single (ซิง-เกล) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 16.25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 99 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 1 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท - Rokin (โร-คิน) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 17.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 111 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 3.09 ล้านบาท - Amstel (อัมส-เทล) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 19.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 128 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท - จอง 5,000 บาท
- ทำสัญญา 5,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 50,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 59 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ระหว่างโซนมหาชัยและโซนพระราม 2 ซึ่งโครงการแนวราบบนถนนเส้นนี้ ที่ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 3 ล้านบาท นับว่าหายากมากๆ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวที่มีราคาสูงไปซะหมด จึงทำให้ทาวน์โฮมแห่งนี้มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
และนอกจากนี้ยังมีจุดเด่นเรื่องการเดินทางที่เข้าเมืองได้ไม่ยาก เพราะมีจุดกลับรถใกล้ๆเพียง 500 m. และมีถนนกาญจนาภิเษกให้ใช้ รวมถึงอนาคตก็จะมีทางด่วนสายใหม่ พระราม 3 – ดาวคะนอง ที่คาดการว่าจะเปิดใช้งานตอนปี 2568 ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการเพียง 2 – 3 km. อีกด้วยครับ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : มีซุ้มประตูเข้า-ออกแค่ทางเดียว พร้อมกับป้อม รปภ. ที่ดูแลตลอด 24 ชม. ซึ่งถ้าเป็นลูกบ้านก็จะขับผ่านด้วยระบบ RFID หรือสัญญาณ Bluetooth เหมือนกับ Easy Pass บนทางด่วน อีกทั้งยังมีกล้อง CCTV / รั้วรอบโครงการ / Digital Fence และ LIV-24 ที่เป็นมาตรฐานความปลอดภัยจากแสนสิริ
การออกแบบโครงการ : เป็นหนึ่งในซีรีย์ Dream Destination ที่ได้จัดบรรยากาศออกมาในคอนเซ็ปต์ “อัมสเตอร์ดัม” เมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งการวางผังโครงการจะให้ส่วนกลางทั้งหมดอยู่ทางด้านหน้า ทำหน้าที่เป็นทั้งส่วนต้อนรับและช่วยเสริมสร้างบรรยากาศได้ดี
ส่วนผังบ้านเฟสแรกก็จัดได้ความเป็นส่วนตัวครับ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ในซอยย่อยจะมีเพื่อนบ้านเพียง 6 หลังเท่านั้น และบ้านที่อยู่ติดถนนหลักก็จะไม่ต้องหันหน้าชนกับใครเลย อีกทั้งบ้านโซนนี้ก็ยังอยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนกลาง เลยทำให้มาใช้งาน Facilities ได้ไม่ยาก และตัวบ้านจะมีการ Random หรือสุ่มหน้าตาสีสันของตัวบ้านไปเรื่อยๆ ทำให้บรรยากาศภายในโซนพักอาศัยดูไม่น่าเบื่ออีกด้วยครับ
การออกแบบพื้นที่ใช้สอย : มีบ้านให้เลือก 3 แบบ 3 ขนาด ซึ่งจุดเด่นคือฟังก์ชันที่ค่อนข้างยืดหยุ่น เพราะบ้านทุกหลังจะมีห้องหรือพื้นที่อเนกประสงค์บริเวณชั้นล่าง ที่เราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงานช่วง WFH แบบนี้ หรือจะจัดเป็นห้องนอนผู้สูงอายุเพิ่มอีกสักห้องก็ได้ ทำให้บ้านโครงการนี้สามารถจัดได้ 3 – 4 ห้องนอน รองรับสมาชิกได้ 3 – 5 คน
และจุดที่ผมชอบมากๆอีกอย่างก็คือ “ช่องแสง” ซึ่งบริเวณกลางบ้านเราจะเห็นว่า เค้ามีการทำผนังกระจกเข้ามุม เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับพื้นที่กลางบ้าน รวมถึงยังมีช่อง Skylight บนฝ้าเพดาน ทั้งบริเวณโถงบันไดและห้องน้ำชั้นบน จึงช่วยให้บ้านสว่างมากขึ้นในตอนกลางวันโดยไม่ต้องพึ่งการเปิดไฟตลอดเวลาเลยครับ
วัสดุ : ให้มาตามมาตรฐาน โครงสร้างบ้านเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กหรือ Precast ซึ่งบริเวณพื้นที่จอดรถหน้าบ้านจะไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้นะครับ แต่จะมีในส่วนของหลังบ้านแทน พร้อมกับได้กำแพงที่สูง 2.5 m. เพื่อรองรับการต่อเติมครัวได้สบายๆ ส่วนประตูหน้าต่างจะได้กรอบอลูมิเนียม Powder Coat สีดำ และกระจกเขียวตัดแสง พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องยาง SPC ลายไม้ที่ทนน้ำได้ดี และมีชุดสุขภัณฑ์ของ Bathline ครบพร้อมใช้งาน
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบบรรยากาศของสวน และผืนน้ำบริเวณด้านหน้า ซึ่งช่วยทำให้ได้บรรยากาศที่สวยงามและสดชื่นดี รวมถึงบริเวณริมถนนหลักของโซนพักอาศัยด้านใน ก็จะมีการปลูกต้นไม้ประดับเอาไว้ด้วย คาดว่าจะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโครงการได้เป็นอย่างดี แต่อาจต้องรอชมของจริงตอนสร้างเสร็จอีกทีว่าจะเป็นอย่างไรบ้างนะครับ
สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ ประกอบด้วยพื้นที่สวนสาธารณะ 2 จุด สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และพื้นที่นั่งเล่นในอาคาร Clubhouse ซึ่งถือว่าทำบรรยากาศในสไตล์ของเมืองอัมสเตอร์ดัมออกมาได้ค่อนข้างน่าใช้งานดี แต่หากเทียบกับจำนวนเพื่อนบ้าน 252 ยูนิต อาจดูน้อยไปสักหน่อยครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 2.59 – 3.59 ล้านบาท, 24 พฤษภาคม 2565
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ใกล้จุดกลับรถและทางด่วนใหม่ในอนาคต
- ความปลอดภัย 8.25/10 – ระบบ RFID / CCTV / Digital Fence และ LIV-24
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ฟังก์ชันยืดหยุ่น มีห้องอเนกประสงค์จัดได้ 3 – 4 ห้องนอน พร้อมช่องแสง Skylight เพิ่มความสว่างและโปร่งโล่ง
- วัสดุ 8/10 – โครงสร้าง Precast ลงเสาเข็มหลังบ้าน รองรับการต่อเติมครัวไทย
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.25/10 – พื้นที่สวน 2 จุด พร้อมต้นไม้กระจายตัวอยู่ตามจุดต่างๆ
- สาธารณูปโภค 8.25/10 – บรรยากาศในคอนเซ็ปต์เมืองอัมสเตอร์ดัม ฟังค์ชันครบ แต่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต
- 7.99 / 10.00
สิริ เพลส พระราม 2 – วงแหวน เหมาะกับใคร
โครงการ สิริ เพลส พระราม 2 – วงแหวน เหมาะกับคนที่มองหาทาวน์โฮมบนถนนพระราม 2 ใกล้ทางด่วนและเข้า-ออกเมืองได้ไม่ยาก โดยเป็นโครงการที่จัดบรรยากาศส่วนกลางมาในคอนเซ็ปต์เมืองอัมสเตอร์ดัม ให้ความรู้สึกเหมือนเราได้ไปเที่ยวพักผ่อนที่เมืองนอก มีส่วนกลางให้ใช้งานครบ ฟังก์ชันบ้านยืดหยุ่น มีห้องอเนกประสงค์ให้ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ สามารถจัดได้ 3 – 4 ห้องนอน รองรับครอบครัวขนาดเล็ก-กลางได้สบายๆ มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 2.59 – 3.59 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 18,000 – 25,000 บาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc