รีวิวฉบับที่ 1333 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Golden Town บางนา-สวนหลวง ทาวน์โฮม 2 ชั้น ติดถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก จาก Golden Land เป็นทางเลือกของคนที่กำลังมองหาบ้านที่มี 4 ห้องนอน แต่อาจจะมีงบไม่ถึงที่จะหยิบจับบ้านเดี่ยวไหว ตัวบ้านจัดฟังก์ชันลงตัว ในราคา 2 ล้านกว่าๆ ถึง 3 ล้านบาท จะเป็นอย่างไรไปชมกันค่ะ
Fact @ 21 April 2017
- Golden Town Bangna-Suanluang (โกลเด้น ทาวน์ บางนา-สวนหลวง)
- Golden Land Property Development PLC.
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ประเวศ
- เนื้อที่โครงการ 48-0-64.3 ไร่ จำนวน 426 ยูนิต
- ทาวน์โฮมแบบ Kensington 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาท
- ทาวน์โฮมแบบ Winsor 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 2.66 ล้านบาท
- ทาวน์โฮมแบบ Saint James 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.2 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 2.38 ล้านบาท
- เพดานชั้น 1 สูง 2.8 เมตร, ชั้น 2 สูง 2.8-3 เมตร
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 80,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : เดือนกรกฎาคม ปี 2559
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : เดือนธันวาคม ปี 2562
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- สำนักงานขาย : 084-444-9039
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะคะ
พิกัด : 13.683542 , 100.698893
ทำเลของโครงการ Golden Town บางนา – สวนหลวง อยู่บน “เส้นคู่ขนานเลียบวงแหวนกาญจนาฯตะวันออก” ในส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างถนนอ่อนนุช-ลาดกระบังกับถนนบางนา-ตราด ซึ่งถ้ามาจากทางบางนา ก็คือแยกใหญ่ๆ ตรงข้าม MEGA ส่วนถ้ามาจากอ่อนนุชก็คือทางเชื่อมแถวๆ สี่แยกประเวศ ดังนั้น โครงการนี้จึงเข้าออกได้สะดวกจากหลายเส้นทาง
โครงการตั้งอยู่ในเขตประเวศทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเทพฯ ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิและถนนใหญ่บางนา-ตราด จัดว่าเป็นทำเลที่อยู่อาศัยในย่านชานเมืองที่ไม่ห่างจากเมืองมาก สามารถเดินทางไปพระราม 9 ได้ด้วยถนนมอเตอร์เวย์ และไม่ไกลจากถนนอ่อนนุชช่วงสี่แยกประเวศ ทำเลเกาะอยู่กับถนนวงแหวนรอบนอกที่จะวิ่งรอบกรุงเทพและปริมณฑล โดยถนนวงแหวนรอบนอกเองจะมีถนนที่ขนานทั้งสองฝั่ง เรียกว่าถนนเลียบวงแหวนรอบนอกไว้สำหรับเป็นถนนรองที่แยกเข้าพื้นที่รอบข้าง ทั้งมุ่งหน้าไปตัดกับถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุช และฝั่งที่มุ่งหน้าไปตัดกับทางด่วนบูรพาวิถีที่ด้านล่างจะเป็นถนนบางนา-ตราด
ทางเข้าโครงการจะอยู่บนถนนเลียบวงแหวนรอบนอกฝั่งที่มุ่งหน้าไปยังถนนอ่อนนุช ระหว่างถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 30 และซอยกาญจนาภิเษก 46 ไม่ไกลจากโรงเรียนคลองปักหลัก สามารถเดินทางไปยังโครงการได้จากถนนหลากหลายเส้นทั้งทางถนนธรรมดาและทางด่วนที่ต้องจ่ายเงิน แต่ทุกเส้นทางก็จะต้องมาบรรจบที่ถนนเลียบวงแหวนค่ะ
- เส้นทางแรกจากเส้นบางนา-ตราดใต้ทางด่วนบูรพาวิถีเลี้ยวเข้าถนนเลียบวงแหวน
- เส้นทางที่ 2 ถ้ามาจากทางลาดกระบังเลี้ยวซ้ายเข้าสุขาภิบาล 2 ตามทางเลียบวงแหวนไปเรื่อยๆ ผ่านสะพานลอยแล้วเตรียมกลับรถไปอีกฝั่งหนึ่งของถนนวงแหวน ไปฝั่งมุ่งหน้าไปอ่อนนุช
- เส้นทางที่ 3 มาจากถนนกิ่งแก้ว ซอย 25/1 วิ่งตรงไปจนสุดซอยจะทะลุถนนเลียบวงแหวนกลับรถไปอีกฝั่งหนึ่งของถนนวงแหวน ไปฝั่งมุ่งหน้าไปอ่อนนุช
- ส่วนทางสุดท้ายเป็นเส้นทางที่ต้องจ่ายเงินคือเส้นมอเตอร์เวย์ที่จะมีทางโค้งมาลงถนนเลียบวงแหวนฝั่งมุ่งหน้าเส้นบางนา-ตราด แต่ต้องแยกออกไปเลี้ยวนิดหน่อยที่ถนนสุขาภิบาล 2 แล้ว U-turn ใต้ถนนมายังฝั่งมุมหน้าอ่อนนุชซึ่งเป็นฝั่งที่ตั้งโครงการค่ะ
แต่ก็ยังมีตัวช่วยอย่างเส้นทางลัดที่ใกล้กับโครงการ เช่น ถนนนัมเบอร์วัน – ราม 2 ที่เป็นทางลัดจากถนนเลียบวงแหวนฯ มาออกที่ถนนบางนา – ตราด ใกล้ๆ กับ Tesco Lotus ราม 2 ในระยะประมาณ 6 กม. หรือถ้าต้องการไป Mega Bangna ก็กลับรถไปฝั่งตรงข้าม Lotus อีกนิดเดียวค่ะ
เส้นทางลัดอีกเส้นหนึ่งคือ ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 30 ที่ใช้เชื่อมจากถนนเลียบวงแหวนฯ ไปถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ได้ ซึ่งสามารถใช้ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ไปเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์ได้
ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะอย่าง รถรับจ้าง เช่น Taxi รถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง จะหาได้ยากหน่อย แต่ที่ผ่านบ่อยๆ จะเป็นรถสองแถวซึ่งจะจอดที่หน้า 7-11 ที่อยู่ใกล้กับโครงการประมาณ 170 ม. จะมีรถสองแถวสีแดงที่วิ่งระหว่าง ม.ราม 2 – ซีคอนสแควร์ เริ่มวิ่งตั้งแต่ตี 5 ครึ่งถึง 3 ทุ่ม และมีรถสองแถวสีขาวที่วิ่งระหว่าง ม.ราม 2 – แอร์พอร์ตลิ้งค์หัวหมาก เริ่มวิ่งตั้งแต่ตี 5 ครึ่งถึง 2 ทุ่มครึ่ง ด้วยค่าเดินทาง 8 บาท ตลอดสาย
ส่วนรถไฟฟ้า BTS สถานีใกล้เคียงที่สุดคือสถานีอุดมสุขห่างจากโครงการประมาณ 14 กม. และสถานีอ่อนนุชห่างจากโครงการประมาณ 14.9 กม. ถ้าเป็น Airport Link ที่ใกล้สุดจะเป็นสถานีบ้านทับช้างห่างจากโครงการประมาณ 8.2 กม. นอกจากนั้นภายในระยะ 10 กิโลเมตร ก็จะมีสถานที่สำคัญอื่นๆ อีก เช่นโรงเรียนราชวินิต บางแก้ว, ม.รามคำแหง, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง และโรงพยาบาลสิรินธรค่ะ
โครงการตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนรอบนอก ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ภายในพื้นที่ในระยะเดินก็หาได้ยาก การเดินทางหรือการหาของกินของใช้ ลำพังถนนเลียบวงแหวนจะพึ่งพาไม่ได้มาก จึงต้องอาศัยรถส่วนตัวล้วนๆ เพื่อเดินทางไปยังแหล่งความอุดมสมบูรณ์ของถนนรอบๆ สำหรับบนถนนเลียบวงแหวนฯ จะมีแค่ตลาดรอบๆ ม.รามคำแหง 2 (วิทยาเขตบางนา) ได้แก่ ตลาดราม 2 ไนท์บาซาร์, ตลาดนัมเบอร์วัน แต่การจราจรพื้นที่รอบๆ ม.รามคำแหง 2 ค่อนข้างจะหนาแน่นหน่อยนะ ขยับออกมาอีกที่ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 จะมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ให้ไปใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจกันได้ หรือว่าจะเป็นถนนอ่อนนุชที่จะมีสภาพความเป็นชุมชนมากขึ้น มีตลาด มีอาคารพาณิชย์ขายของขึ้นมาหน่อย แต่ถ้าอยากจะช็อปปิ้งแบบจริงจังในห้าง ก็ต้องขับไปยังฝั่งที่ตัดกับถนนบางนา-ตราดที่จะมีทั้ง Mega Bangna และ Central City บางนาค่ะ
เส้นทางที่เราจะพาไปในวันนี้ จะเริ่มจากเซ็นทรัลบางนา ขับตรงไปบนทางคู่ขนานถนนบางนา-ตราด มุ่งหน้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรงไปเรื่อยๆแล้วเลี้ยวเข้าถนนเลียบวงแหวนรอบนอก ผ่านโรงเรียนคลองปักหลักทางซ้ายมือ ถัดไปอีกนิดเดียวก็จะถึงโครงการค่ะ
เริ่มต้นบนถนนบางนา – ตราดวิ่งตรงไปตามป้ายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถนนเส้นนี้เป็นถนนใหญ่ 14 เลน ไป 7 กลับ 7 เลน โดยจะแบ่งเป็นทางคู่ขนานบางนาตราด 3 เลนฝั่งซ้ายสำหรับรถที่ต้องการออกถนนบางนา-ตราด เพื่อเตรียมเลี้ยวเข้าอาคารหรือเลี้ยวเข้าซอยต่างๆ ส่วน 4 เลนฝั่งขวาจะวิ่งตรงยาวๆ จึงเป็นเลนที่รถวิ่งเร็วเป็นส่วนใหญ่ การเดินทางไปโครงการบริเวณนี้สามารถวิ่งอยู่ฝั่งขวาของถนนบางนา -ตราดไปก่อนได้ค่ะ ถ้าขับผ่านปั๊ม Shell ทางซ้ายมือเมื่อไหร่ ก็ค่อยชิดซ้ายเพื่อเตรียมออกเลนคู่ขนานด้านนอกค่ะ
ผ่านหน้าห้างเซ็นทรัลบางนาซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้ง กินข้าว ดูหนังที่สำคัญแห่งหนึ่งของย่านนี้นะคะ ติดกันจะเป็น Big C
วิ่งตรงมาอีกนิดจะเจอ SB Design Square สาขาบางนา ตั้งอยู่ในอาคาร Ample Tower ซึ่งชั้นล่างของตึก (ส่วนที่เป็น Podium) จะเป็น SB ที่ขาย Furniture และของตกแต่งบ้าน ส่วนชั้นบนเป็นอาคารสำนักงานให้เช่าค่ะ
ถัดมาจะเจอ Index Living Mall ซึ่งเป็นที่ขาย Furniture และของตกแต่งบ้านอีกเช่นกันค่ะ
ตรงมาเรื่อยๆจะเจอป้ายไปถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งซ้ายมีจุดสังเกตทางออกคือปั๊ม Shell ให้ชิดซ้ายเพื่อออกทางคู่ขนานค่ะ
ไปตามป้ายถนนกาญจนาภิเษก ให้ชิดซ้ายออกทางคู่ขนานค่ะ
ออกมาที่ทางคู่ขนานก็ยังตรงต่อไปตามป้ายถนนกาญจนาภิเษก ส่วนทางซ้ายเป็นทางเข้าไปมหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 (วิทยาเขตบางนา) ซึ่งบริเวณโดยรอบมหาลัยจะมีตลาดหลายแห่ง เช่น ราม 2 ไนท์บาซาร์, ตลาดนัมเบอร์วัน เส้นทางไปราม 2 นี้สามารถทะลุไปเส้นเลียบวงแหวนกาญจนาฯ ที่เป็นถนนด้านหน้าโครงการได้เหมือนกันนะคะ แต่ถ้าไม่ได้จะเข้าไปเดินตลาดแนะนำว่าใช้เส้นทางหลักที่แนะนำอยู่นี่จะเร็วกว่าค่ะ เพราะเส้นทางที่ผ่านราม 2 นี้การจราจรค่อนข้างหนาแน่นมาก โดยเฉพาะเวลาเร่งด่วน
ตรงมาฝั่งซ้ายจะผ่าน Lotus Extra สาขาราม 2 ส่วนฝั่งขวาจะเป็น Mega Bangna ซึ่งถ้าจะไป Mega Bangna ต้องขึ้นสะพานกลับรถด้านขวานะคะ แต่ถ้าไปโครงการเราจะต้องตรงไปค่ะ
ขับชิดซ้ายมาเรื่อยๆ จะมีทางแยกหลายเส้นทางซึ่งถ้าเลี้ยวผิดไปเส้นอื่นจะต้องไปกลับรถไกลเลยค่ะ…อย่าเลี้ยวผิดน้าา ที่ทางแยกจะมีให้เลือกไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ไปเส้นบางปะอิน, ไปถนนพระราม 2 และไปถนนอ่อนนุช ทางไปโครงการเราเลือกชิดซ้ายสุดไปทางถนนอ่อนนุชค่ะ
เลี้ยวซ้ายเข้ามาบนถนนเลียบวงแหวนจะผ่านร้านอาหาร View Dee เป็นร้านอาหารบรรยากาศชิวๆ บนทะเลสาบ เปิดตอนเย็นๆค่ะ
พื้นที่ละแวกนี้จะมีโครงการเพื่อนบ้านหลายโครงการเลยค่ะ ทั้ง คาซ่า วิลล์, เดอะแกรนด์, Nara Home, Blue Lagoon รวมถึงโครงการด้านซ้ายคือโครงการ Lake View Park ซึ่งด้านหน้าโครงการจะมี Lake View สปอร์ตคลับ ซึ่งนอกจากจะมีกีฬาให้เลือกเล่นแล้วยังมีร้านค้าร้านอาหารและ 7-11 ให้พอเป็นที่พึ่งยามหิวได้ค่ะ
ผ่านสปอร์ตคลับมาจะเจอทางเลี้ยวไปถนนนัมเบอร์วัน – ราม 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดอีกหลายแห่ง ที่ใหญ่หน่อยก็จะมีตลาดราม 2 ไนท์บาซาร์ และตลาดนัมเบอร์วัน และถนนนี้ยังสามารถทะลุไปถนนบางนา – ตราดได้อีกด้วย ถ้าจะไป Mega Bangna หรือ Lotus Extra สาขาราม 2 ก็ใช้เส้นนี้ไปได้
ตรงมาเรื่อยๆจะผ่านโรงเรียนคลองปักหลัก ฝั่งตรงข้ามของโรงเรียนเป็นทางออกจากที่กลับรถ ที่มาจากอีกฝั่งของถนนเลียบวงแหวนค่ะ
ถัดมาไม่ไกลจะผ่าน 7-11 ที่อยู่ใกล้กับสะพานลอย ตรงนี้เป็นจุดที่มาขึ้นรถสองแถว ห่างจากโครงการประมาณ 170 ม. ค่ะ
ถัดมาอีกนิดเดียวก็ถึงหน้าโครงการแล้ว ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปชมโครงการกันเลย ^^
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ บนถนนเลียบวงแหวนรอบนอกกว้าง 2 เลน ไป 1 กลับ 1 เลน มุ่งหน้าถนนสขุมวิท 77 หรือแยกประเวศ ทั้งสองฝั่งถนนเลียบวงแหวนจะเป็นพื้นที่โครงการบ้านพักอาศัยแนวราบซะเป็นส่วนใหญ่ ส่วนแปลงเล็กๆหน่อยก็จะเป็นบ้านพักอาศัยแบบปลูกเองรายย่อย บางแปลงปล่อยว่างเปล่ารอการพัฒนา ถนนฝั่งเดียวกับโครงการจะมีซอยย่อย บางซอยเป็นซอยตัน บางซอยสามารถทะลุไปออกถนนบางนา – ตราด บางซอยเป็นซอยที่สามารถต่อเนื่องกับซอยจากถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 ได้ ที่ดินโดยรอบโครงการติดกับพื้นที่ด้านข้าง ดังนี้
- ทิศเหนือ ด้านหน้าติดกับหมู่บ้าน Blue Lagoon 2 ส่วนที่ดินด้านหลังติดกับที่ดินเปล่าของบุคคลอื่น
- ทิศใต้ ด้านหน้าติดกับที่ดินเปล่าของบุคคลอื่นสลับกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น ส่วนด้านหลังติดกับหมู่บ้านภัคภิรมย์ เนเทีย
- ทิศตะวันออก ติดกับถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษก
- ทิศตะวันตก ติดกับคลองปักหลัก ตรงข้ามเป็นที่ดินของบุคคลอื่น
สำหรับเส้นประสีเหลืองจะเป็นแนวเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ผ่านเข้ามาในโครงการ โครงการจึงทำพื้นที่ส่วนนี้ให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางไม่ได้ทำเป็นบ้านพักอาศัยนะคะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตบางนา ~ 3.2 กม.
- ราม 2 ไนท์บาร์ซาร์ ~ 4.4 กม.
- โรงพยาบาลสิรินธร ~ 6.2 กม.
- สวนหลวง ร.๙ ~ 6.1 กม.
- Lotus Extra สาขาราม 2 ~ 5.9 กม.
- Mega Bangna ~ 6.4 กม.
- โรงเรียนราชวินิต บางแก้ว ~ 8.1 กม.
- Paradise Park ~ 10.5 กม.
- โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส ~ 10.8 กม.
- Seacon Square ~ 11.1 กม.
- ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ~ 11.1 กม.
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พัฒนาการ ~ 11.4 กม.
- Central city บางนา ~ 11.8 กม.
- สนามบินสุวรรณภูมิ ~ 14 กม.
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง ~ 15.4 กม.
โครงการ Golden Town บางนา-สวนหลวง เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 426 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการ 48-0-64.3 ไร่ สามารถเข้าถึงได้ทางเดียวจากถนนเลียบวงแหวนรอบนอกฝั่งมุ่งหน้าถนนอ่อนนุช ปัจจุบันโครงการกำลังก่อสร้างอยู่ แต่ก็มีบ้างบางชุดที่เริ่มทยอยโอนแล้ว รวมถึงส่วนของ Clubhouse ที่เสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งานแล้วเช่นกัน
จากทางเข้าโครงการด้านหน้าที่ถนนวงแหวนรอบนอก เข้ามาจะเจอถนนโครงการกว้าง 16 ม. เป็นถนนส่วนบุคคลของทางโครงการ ตรงทางเข้าไปจะมีป้อมยามตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ทางออก การวางผังของโครงการคือจะมีถนนหลักโครงการที่มีความกว้าง 16 เมตร แล้วมีถนนซอยย่อยแยกออกด้วยความกว้าง 12, 9 ม. Clubhouse และสวนส่วนกลางจะอยู่ตรงกลางค่อนมาทางด้านหน้าโครงการนิดหน่อย แต่ก็เป็นระยะที่ลูกบ้านสามารถเดินมาใช้ได้โดยรอบ
บ้านในโครงการมีการวางตัวบ้านหลักๆ 2 ฝั่งคือฝั่งที่หันไปทางทิศเหนือและฝั่งที่หันไปทางทิศใต้ แบบบ้านทั้ง 3 แบบจะคละๆกันไป บ้านที่หันไปทางเหนือแน่นอนว่าก็จะได้แสงที่ธรรมชาติหน่อย ไม่ค่อยแรงมาก แต่บ้านที่หันหน้าไปทางใต้ก็จะได้แสงที่จ้ากว่า และลมที่แรงกว่าด้วย การเลือกตำแหน่งของบ้านก็จะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบ้าน บางหลังที่อยู่ส่วนหน้าใกล้ทางเข้าก็จะใกล้พื้นที่ส่วนกลางอย่างสวนสาธารณะมากกว่า แต่หลังที่อยู่ส่วนท้ายโครงการก็จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะจะไม่มีเพื่อนบ้านผ่านเข้าออกเยอะ
สำหรับลูกบ้านที่ชอบถนนหน้าบ้านที่กว้างก็เลือกบ้านที่อยู่บนถนนหลัก มีข้อดีที่หน้าบ้านจะค่อนข้างคึกคัก เพราะรถของบ้านในซอยย่อยต้องผ่านบ้านบนถนนหลักตลอด ทำให้บ้านหลังเหล่านี้มักไม่ใช่เป้าหมายแรกๆ ที่ขโมยจะเลือกขึ้น แต่ก็มีข้อเสียจากความคึกคักเพราะทำให้ความสงบในการอยู่อาศัยลดลง ส่วนบ้านที่อยู่ในถนนซอยจะต้องขยับเข้ามาด้านในโครงการอีกหน่อย มีความสงบในการอยู่อาศัยมากกว่าบ้านบนถนนหลัก แต่ก็มีข้อเสียคือหากบ้านทั้ง 2 ฝั่งจอดรถหน้าบ้านจะทำให้ทำให้การขับรถเข้าบ้านลำบากขึ้น
ทางเข้าโครงการ Golden Town บางนา – สวนหลวง เป็นทางตรงไปยังสะพานคอนกรีตข้ามคลองปักหลัก มีระยะจากถนนถึงป้อมยามประมาณ 100 ม. โดยป้อมยามจะอยู่หลังสะพานข้ามคลองนี้ค่ะ
ทางเข้าโครงการ เป็นซุ้มประตูมีทางเข้าออกสองทางแยกกัน โดยมีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลาง
ด้านหน้าทางเข้าโครงการจะมีป้อมยามสำหรับผู้มาติดต่อแลกบัตรเข้า-ออก โดยจะมี รปภ. ประจำอยู่ตลอด ประตูทางเข้าจะอยู่ตรงบริเวณป้อมยามเป็นไม้กระดกกั้นไว้ สำหรับลูกบ้านจะต้องมีสติ๊กเกอร์ติดที่รถเพื่อให้พี่ยามเปิดไม้กระดกให้ ตรงทางเข้านี้จะมีกล้อง CCTV ติดไว้ 2 ตัว โดยจะส่องบริเวณทางเข้าและส่องทะเบียนรถค่ะ
ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยเข้ามาในโครงการ ส่วนแรกจะเป็นถนนหลักของโครงการกว้าง 16 เมตร ซึ่งบริเวณหน้าโครงการทั้ง 2 ฝั่งถนนจะปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ ให้บรรยากาศร่มรื่น
ตรงเข้ามานิดเดียวก็จะเป็นพื้นที่ของสวนส่วนกลาง ซึ่งขนาบด้วยบ้านพักอาศัย 2 ฝั่ง ที่จะได้วิวสวน ส่วนด้านในโครงการที่เห็นรั้วกั้นสีเขียวกั้นอยู่จะเป็นส่วนที่กำลังก่อสร้างในปัจจุบันค่ะ
พื้นที่ภายในสวนส่วนกลางถูกจัดไว้ทั้งไม้ใหญ่และไม้พุ่ม โดยจะมีทางเดินภายในสวนให้สามารถเดินเล่นได้สะดวก แต่น่าจะเหมาะกับการมาเดินเล่นตอนเย็นๆ ที่แดดร่มหน่อยนะคะ
บรรยากาศภายในสวนถูกออกแบบให้มีทางเดินหลายเส้นทาง อย่างทางนี้เป็นทางตรงไปถึงจุดนั่งเล่นในสวนตำแหน่งหนึ่ง
นอกจากการตกแต่งด้วยต้นไม้แล้ว ยังมีงานตกแต่งอย่างกระถางปูนปั้นสวยๆ ได้อารมณ์แบบสวนสไตล์อังกฤษ
เดินเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะมาถึงส่วนของ Clubhouse ได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายเหมือนอยู่รีสอร์ทเลยนะเนี่ย
ข้างๆ สวน มีบ่อทรายและเครื่องเล่นให้คุณน้องๆ หนูๆเล่นสนุกกันด้วยค่ะ
เดี๋ยวจะพาเดินไปตามทางเดินในสวน เพื่อชมบรรยากาศรอบๆ Clubhouse กัน
เดินตามทางเดินในสวนมาเรื่อยๆ ต้นไม้ใหญ่ยังไม่ Set ตัว เลยยังไม่แผ่กิ่งก้านสาขาเพื่อให้ร่มเงานะคะ คงต้องรอกันอีกหน่อย
ตามทางต่อมาเรื่อยๆ ก็จะมาถึงส่วนของบ่อน้ำพุเล็กๆ ที่ทำทางสำหรับเดินเล่นไว้โดยรอบ
ตลอดทางเดินก็จะได้ยินเสียงของน้ำพุ ทำให้บรรยากาศดูชุ่มชื้น ร่มรื่น ดีค่ะ เราก็จะเดินข้ามสะพานวนกลับดู Clubhouse กันต่อนะคะ
ออกมาจากทางเดินรอบ Clubhouse แล้ว เราจะพาเข้าไปดูด้านในอาคารกันต่อ..
สำหรับ Club house จะมีสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้า ส่วนในอาคารใช้เป็นสำนักงานขายอยู่ในปัจจุบัน ส่วนในอนาคตจะกลายเป็นห้อง Fitness นะคะ
ทางเข้า Clubhouse ถูกออกแบบให้มีซุ้มทางเข้า น่ารักๆ แบบนี้ ซึ่งก็มีข้อดีที่ช่วยบังแดด บังฝน ให้กับผู้ที่มาใช้งานด้วย
ผ่านซุ้มทางเข้ามาแล้ว จะมีทางแยกฝั่งซ้ายเป็นทางไปสระว่ายน้ำ หรือตรงไปเป็นทางเข้าสำนักงานขายค่ะ
มาดูฝั่งซ้ายกันก่อน ด้านข้างสระว่ายน้ำมีจัดชุดที่นั่งพักผ่อนเอาไว้ให้หรือจะเอาไว้สำหรับนั่งรอเพื่อนหรือลูกๆเล่นน้ำก็ได้
สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 15 x 8 เมตร ภายในแบ่งพื้นที่เป็นสระเด็กไว้เรียบร้อย
ตัวสระถูกออกแบบให้เป็น Over flow คือแบบน้ำล้น ทำให้มีน้ำไหลออกมาจากสระอยู่เสมอ เป็นม่านน้ำตกเล็กๆ ทำให้มีเสียกน้ำตกอยู่ตลอดเวลาค่ะ
ด้านข้างสระว่ายน้ำมีอาคารห้องน้ำแยกไว้ต่างหาก
แบ่งเป็นห้องน้ำหญิงและชายไว้เรียบร้อย
บรรยากาศภายในห้องน้ำดูโปร่ง โล่ง สะอาดดี
มีทั้งส่วนที่เป็นห้องน้ำและห้องอาบน้ำ พอว่ายน้ำ หรือออกกำลังเสร็จก็มาล้างเนื้อล้างตัวก่อนกลับเข้าบ้านได้
กลับมาที่สำนักงานขาย เป็นห้องที่ดูโปร่งโล่ง จัดชุดโซฟาไว้รับแขก โดยในอนาคตจะปรับเป็น Fitness ค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 15 x 8 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง (ปัจจุบันเป็นสำนักงานขาย)
- สวนภายในโครงการ
- ระบบ CCTV ที่ซุ้มประตูทางเข้า
- รั้วรอบโครงการสูง 2 เมตร
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบรั้วกั้นไม้กระดก
- ถนนหลักกว้าง 16,12 ม. และถนนภายในกว้าง 9,8 ม.
โครงสร้าง
โครงสร้างเป็นเสาเข็ม คอนกรีตเสริมเหล็ก ผนังรับแรง(Bearing wall)
โครงการ Golden Town บางนา – สวนหลวง เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น มีจำนวนบ้านในโครงการทั้งหมด 426 หลัง มีให้เลือก 3 แบบ ดังนี้
- แบบบ้าน Kensington ที่ดินมาตรฐาน 21.1 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. ( 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องพระ, ที่จอดรถ 2 คัน )
- แบบบ้าน Windsor ที่ดินมาตรฐาน 18.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. ( 4 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน )
- แบบบ้าน Saint James ที่ดินมาตรฐาน 16.3 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. ( 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 1 คัน )
ซึ่งเราจะพาไปชมบ้านตัวอย่างที่สร้างเสร็จและตกแต่งแล้วให้ดู 2 หลังคือ แบบบ้าน Kensington และแบบบ้าน Windsor โดยจะเปรียบเทียบกับบ้านมาตรฐานที่ใช้ส่งมอบให้ลูกบ้านด้วยค่ะ
บ้านแบบแรกคือ Windsor เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. บนแปลงที่ดินมาตรฐาน 18.5 ตร.วา เป็นบ้านหน้ากว้าง 5.7 เมตร หน้าบ้านเป็นที่จอดรถสามารถจอดคันใหญ่ได้ 1 คัน เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของห้องนั่งเล่นและห้องอาหาร ห้องน้ำจะอยู่ใต้บันไดมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วยเผื่อในช่วงเวลาเร่งด่วนสามารถลงมาใช้ได้ มีห้องนอนที่ชั้นล่างมา 1 ห้อง ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้ตามความต้องการของเราโดยจะใช้เป็นห้องดูหนัง พักผ่อน ห้องทำงาน หรือห้องครัวปิดก็ได้ หลังบ้านทางโครงการเผื่อพื้นที่ให้สำหรับการต่อเติมทำเป็นครัวและมุมพักผ่อน มีการเดินงานระบบมาให้พร้อมซึ่งทำให้เราสามารถใช้สอยพื้นที่ได้อย่างเต็มที่
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงเล็กๆ ก่อนแจกไปยังส่วนต่างๆ มีห้องนอนใหญ่ 1 ห้องและห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ทุกห้องไม่มีห้องน้ำในตัวต้องออกมาใช้รวมกันที่ห้องน้ำตรงโถงบันได หรือจะลงไปใช้ห้องน้ำชั้นล่างก็ได้ โดยห้องนอนใหญ่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านมีพื้นที่แยกเป็นส่วนพักผ่อนและส่วนสำหรับทำเป็น Walk-in Closet ในห้องมีระเบียงส่วนตัวเล็กๆ พอออกไปยืนสูดอากาศได้
หน้าตาของทาวน์โฮมเป็นสไตล์อังกฤษด้วยโทนสีอบอุ่น หน้าบ้านตกแต่งด้วยหินประดับ สำหรับบ้านจริงที่ส่งมอบให้ลูกบ้านจะมีรั้วกั้นหน้าบ้านมาให้ด้วย
Type นี้จะมีที่จอดรถหน้าบ้าน 1 คัน ซึ่งที่จอดรถของบ้านจริงจะได้เป็นพื้นคอนกรีต สำหรับประตูหน้าบ้านได้เป็นบานเลื่อนกระจกใสสีเขียวตัดแสง มีพื้นที่เฉลียงเล็กๆ หน้าบ้านที่ยกระดับขึ้นจากพื้นหน้าบ้านเล็กน้อย ช่วยกันน้ำกันฝุ่นและสามารถทำเป็นพื้นที่วางรองเท้าหน้าบ้านได้ด้วย
พื้นที่จอดรถมีขนาดประมาณ 5.8 x 2.6 ม. เป็นระยะความลึกที่สามารถจอดรถกระบะได้เลยนะคะ
วัสดุวงกบประตูเป็นอลูมิเนียมอบสีขาว ส่วนลักษณะของมือจับบานประตูเป็นแบบฝังลงบนวงกบประตู มีตัวล็อก 1 ตำแหน่งที่มือจับประตู ภายในของขอบวงกบติดเส้นกำมะหยี่เพื่อช่วยกันเสียง กันฝุ่น ไว้ให้เรียบร้อยดีค่ะ
เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับพื้นที่ทานอาหาร ฝั่งขวาเป็นบันไดทางขึ้น ห้องน้ำและห้องนอน 1 ซึ่งที่บ้านตัวอย่างจัดเป็นห้องดูหนังไว้นะคะ พื้นชั้นล่างเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้สีขาว 60 x 60 cm. ฝ้าเพดานให้มาสูงทีเดียว คือประมาณ 2.8 เมตร ส่วนไฟได้เฉพาะแบบดาวน์ไลท์นะคะ
พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดูทีวีประมาณ 2.7 เมตร สำหรับบ้านแปลงมุมจะมีหน้าต่างบริเวณหลังโซฟาเพิ่มอีกตำแหน่ง ทำให้บ้านดูโปร่งมากขึ้น
เข้ามาที่ด้านในของบ้านเป็นตำแหน่งวางโต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้ 4 ตัว ส่วนทางขวาเป็นห้องนอนเล็กที่เหมาะจะทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุหรือบ้านไหนจะทำเป็นห้องครัวปิดในบ้านก็ได้ และด้านหลังโต๊ะทานข้าวมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปยังพื้นที่หลังบ้าน
พื้นที่รับประทานอาหารจะต่อเนื่องกันกับส่วนของครัวไทยบริเวณหลังบ้าน (ในกรณีที่เราต่อเติม) พอทำอาหารเสร็จก็ยกมาเสริฟได้สะดวก
มาดูที่ห้องนอนฝั่งตรงข้ามโต๊ะทานอาหาร ทางโครงการกั้นห้องไว้ให้เรียบร้อย มีประตูปิดให้เป็นบานประตูสำเร็จรูป HDF หรือ PVC
ซึ่งในบ้านตัวอย่างไม่ได้จัดไว้เป็นห้องนอนนะคะ จะทำเป็นห้องดูหนังแทน ผนังโดยรอบกรุวัสดุดูดซับเสียง และติดม่านไว้โดยรอบ ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียในการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านนะคะ
ด้านหลังโซฟามีหน้าต่างบานเลื่อนอยู่บานหนึ่ง ถ้าจัดเป็นห้องนอน ห้องครัว หรือห้องทำงาน ก็จะได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานนี้
นอกจากนี้ด้านข้างทีวีก็มีหน้าต่างบานเล็กๆ อีกบานหนึ่งเช่นกัน ทำให้ภายในห้องดูโปร่ง โล่ง และหน้าต่างภายในตัวบ้านตำแหน่งนี้ยังทำให้ภายในบ้านดูไม่อึดอัดด้วยค่ะ
สเปคของประตูหลังบ้านจะเป็นประตูบานพับ วัสดุเป็น UPVC หรือ ไฟเบอร์ซีเมนต์ มีความกว้างของช่องทางเดินประมาณ 80 ซม.
พื้นหลังบ้านจะลดระดับลงไปประมาณ 10 ซม.. เพื่อความสะดวกในการใช้งานพื้นที่ซักล้าง ไม่ให้น้ำจากหลังบ้านไหลเข้าสู่ตัวบ้านค่ะ
ส่วนพื้นที่หลังบ้านจะมีความกว้างตามมาตรฐานที่ 2 ม. มีขนาดพอทำครัวไทยขนาดเล็ก-กลางได้ สำหรับการต่อเติมอย่าลืมดูเรื่องข้อกฎหมายด้วยนะคะ สำหรับบ้านตัวอย่างจะตกแต่งไว้เป็นห้องครัวปิด แต่บ้านจริงทางโครงการจะเทปูนขัดเรียบและก่อกำแพงไว้ให้แบบรูปด้านล่าง
โครงการมีทำรางระบายน้ำฝนมาให้ โดยเดินท่อลงในแปลงที่ดินของบ้านแต่ละหลังไว้เรียบร้อยและทำให้เป็นรูปแบบเดียวกันทุกหลัง ทำให้ช่วยลดปัญหาการต่อเติมที่อาจจะมีความคิดเห็นไม่ตรงกันกับเพื่อนบ้านได้นะคะ
กลับเข้ามาในตัวบ้าน มาดูส่วนของห้องน้ำกันต่อ โดยจะอยู่ใต้บันไดข้างๆ ห้องนอนแบบนี้ บ้านจริงเราจะได้บานประตูห้องน้ำเป็นบาน HDF หรือ PVC ที่มีเกร็ดระบายอากาศด้านล่างค่ะ
พื้นห้องน้ำมีการลดระดับลง เพื่อทำให้ระยะของฝ้าเพดานของห้องที่อยู่ใต้บันไดสูงขึ้น และช่วยให้น้ำจากห้องน้ำไม่ไหลออกไปยังส่วนอยู่อาศัยอื่นๆ ด้วย
เข้ามาในห้องน้ำจะเจอกับอ่างล้าหน้าก่อน ถัดเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์ ส่วนพื้นที่ทางขวาทำเป็นพื้นที่อาบน้ำ เรียกว่าจัดฟังก์ชั่นการใช้งานมาให้ครบ ในช่วงเวลาเร่งด่วนสามารถลงมาอาบที่ห้องนี้ได้
ตำแหน่งของอ่างล้างหน้าจะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าบานประตูจะชนอ่างนะคะ เพราะบานประตูเป็นบานเปิดออกจึงไม่ชนกับส่วนอ่างล้างหน้าค่ะ
อ่างล้างหน้าได้ของ Englefield หรือเทียบเท่าด้านบนมีพื้นที่วางของเล็กๆน้อยๆได้
โถสุขภัณฑ์เป็นของ Englefield หรือเทียบเท่า เช่นกัน ที่วางทิชชู่ติดตั้งอยู่บริเวณผนังด้านข้างหยิบใช้งานสะดวก
กำแพงของพื้นที่อาบน้ำทำช่องเอาไว้ให้วางอุปกรณ์อาบน้ำ และมีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศและเป็นช่องรับแสงเข้ามาในห้อง ทำให้ไม่อับชื้น
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 x 1 ม. ไม่กว้างเท่าไหร่แต่ก็พอสำหรับใช้งานได้ แนะนำให้ติดม่านกั้นอาบน้ำเพิ่มเพื่อกันน้ำกระเด็นไปยังพื้นที่ส่วนแห้งรอบๆ แต่ไม่แนะนำให้ติดกระจกในลักษณะ Shower Box เพราะพื้นที่ในห้องค่อนข้างเล็ก จะทำให้เดินไม่สะดวกนะคะ
หน้าตาของอุปกรณ์อาบน้ำที่ได้ค่ะ ฝักบัวอาบน้ำของ Englefield จับได้ถนัดมือดี
มาต่อกันที่โถงบันไดทางขึ้นชั้น 2 สำหรับโครงบันไดจะเป็นบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกตั้งเป็นแผ่นสมาร์ทบอร์ดฉาบเรียบทาสีขาว ส่วนลูกนอนจะเป็นพื้นไม้สำเร็จรูป ความกว้างของพื้นที่เดินอยู่ที่ประมาณ 1 ม.
เนื่องจากพื้นที่บันไดค่อนข้างแคบลูกตั้งของบันไดที่นี่เลยสูงกว่าปกติเวลาเดินขึ้นต้องระวังหน่อยนะคะ แต่ตัวลูกนอนถือว่าเป็นขนาดมาตรฐานค่ะ
ตามแนวบันไดจะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบาน Fix อยู่ 2 ตำแหน่ง ช่วยให้ตัวโถงบันไดไม่มืด และในเวลากลางวันก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเปิดโคมไฟบริเวณบันไดก็ได้ ช่วยประหยัดค่าไฟด้วยค่ะ
ราวกันตกเป็นลูกกรงเหล็กทาสีขาว มือจับเป็นไม้จริงย้อมสีธรรมชาติ บริเวณช่วงโค้งของบันไดจะมีราวกันตกอยู่ตลอด แม้ตัวราวจับด้านบนจะไม่ได้เชื่อมต่อกันได้ตรงแต่ถือว่าดีที่ให้มาตลอดแนวค่ะ
ส่วนชานพักบันไดเป็นแบบบันไดสามเหลี่ยมเข้ามุมซึ่งจริงๆชานพักควรจะเป็นขั้นสี่เหลี่ยมที่มีขนาดใหญ่พอให้ยืนพักได้ แต่เนื่องจากฝ้าสูงและมีพื้นที่บันไดน้อยจึงต้องยอมเปลี่ยนชานพักเป็นบันไดเข้ามุมแทนค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ทางฝั่งขวาเป็นห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ส่วนทางซ้ายเป็นห้องนอนใหญ่ ตรงกลางเป็นห้องน้ำที่ทุกห้องต้องใช้ร่วมกันนะคะ ฝ้าเพดานของชั้นนี้ก็สูงประมาณ 2.8 เมตรเท่ากับชั้นล่าง ส่วนพื้นจะได้เป็นพื้นไม้ลามิเนตค่ะ
มาดูห้องนอน 2 กันค่ะ พื้นที่ภายในห้องหากจัดเตียง 3.5 ฟุต วางชิดผนังฝั่งหนึ่ง จะเหลือพื้นที่ข้างเตียงให้วางตู้เสื้อผ้า ในห้องมีช่องแสงเอาไว้เปิดระบายอากาศได้
พื้นที่ด้านข้างเตียงสามารถวางเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้ได้
สำหรับห้องนอน 3 ขนาดจะเท่าๆ กับห้องนอน 2 เลยค่ะ เหมาะจะวางเตียงขนาด 3.5 ฟุตชิดผนังเช่นกัน
มีระยะระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้าประมาณ 1.00 เมตร สามารถเปิดบานตู้แต่งตัวได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะชนกับเตียง บ้านตัวอย่างใช้เป็นตู้บานเลื่อนซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้
สำหรับห้องน้ำบนชั้น 2 ภายในจัดฟังก์ชั่นกมาให้ครบคือ อ่างล้างหน้า, สุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ ซึ่งทางโครงการก็ได้ติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ มาครบถ้วนเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง
ภายในห้องน้ำไม่ได้กั้นแบ่งโซนเปียกแห้งมาให้ แต่ลูกบ้านสามารถกั้นเพิ่มเติมเองได้ค่ะ
พื้นในห้องน้ำลดระดับลงมาจากพื้นทางเดินบนชั้น 2 เล็กน้อย เพื่อไม่ให้น้ำจากในห้องไหลออกไปเปียกทางเดิน ทำให้ลามิเนตไม่บวมก่อนเวลาอันควร
ห้องสุดท้ายคือห้องนอนใหญ่ที่อยู่ทางหน้าบ้านนะคะ มีขนาดกว้างกว่าห้องนอนทุกๆห้อง คิดเป็นพื้นที่เกือบ 1 ใน 2 ของพื้นที่ชั้นบนเลยทีเดียว
เป็นห้องที่มีความยาวตลอดหน้าบ้าน จึงมีข้อดีที่สามารถกั้นพื้นที่ทำเป็นพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet ได้ช่วยให้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น
อีกฝั่งของห้องที่เหมาะจะกั้นเป็น Walk-in Closet ซึ่งบ้านจริงจะได้เป็นห้องเปล่าโล่งๆ ห้องนี้มีช่องแสงเยอะเหมือนกัน ทำให้ภายในห้องมีแสงธรรมชาติเข้ามายังห้องนอนได้เพียงพอ
ด้านข้างของพื้นที่ Walk-in Closet มีประตูทางออกระเบียง
ตัวประตูเป็นกระจกบานเลื่อน วัสดุได้แบบเดียวกับประตูหน้าบ้าน
พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 0.5 x 1.40 เมตร พอออกไปยืนรับลม เปลี่ยนบรรยากาศได้ค่ะ
บ้านอีกแบบคือ Kensington เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. บนที่ดิน 21.1 ตร.วา การจัดวางผังและพื้นที่ใช้สอยจะคล้ายๆ กับบ้านแบบแรกเลยนะคะ ต่างกันตรงที่ สามารถจอดรถได้ 2 คัน เข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับพื้นที่ต่อเนื่องกันของห้องนั่งเล่นและห้องอาหารเหมือนเดิม แต่พอไม่ต้องร่นระยะให้ที่จอดรถ ตัวบันไดขึ้นชั้น 2 เลยมาอยู่ที่หน้าบ้าน ส่วนห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ใต้บันไดเช่นเดิม Type นี้จะมีห้องนอนที่ชั้นล่างเช่นกัน และมีพื้นที่ซักล้างอยู่หลังบ้านค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินแจกไปยังห้องต่างๆ มีห้องนอนใหญ่ 1 ห้องและห้องนอนเล็ก 2 ห้อง Type นี้จะต่างกับบ้านหลังแรกตรงที่บริเวณโถงทางเดินจะมีชั้นลอยสำหรับทำเป็นห้องพระเพิ่มขึ้นมา และในห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัวและได้ระเบียงที่กว้างขึ้น ทำให้เหลือห้องที่ต้องใช้ห้องน้ำร่วมกันแค่ห้องนอนเล็ก 2 ห้องค่ะ
รูปลักษณ์โดยรวมของตัวบ้านจะมาในสไตล์อังกฤษเช่นเดียวกับแบบแรก ต่างกันหน่อยตรงที่ที่จอดรถจะไม่มีพื้นที่หน้าบ้านยื่นออกมา สามารถจอดรถได้เต็มๆ 2 คัน มีพื้นที่ระเบียงชั้น 2 กว้างขึ้น และ ฝ้าเดานชั้น 2 มีระยะสูงขึ้นค่ะ
พื้นที่จอดรถหน้าบ้านจริงจะได้เป็นคอนกรีตขัดหยาบ พื้นที่ทางเข้าหน้าบ้านจะมีการยกระดับทางขึ้นปูด้วยกระเบื้อง ประตูหน้าบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งบริเวณหน้าบ้านจะติดไฟแบบดาวน์ไลท์เอาไว้ให้เรียบร้อยค่ะ
เข้ามาในตัวบ้านจะคล้ายกับบ้านแบบก่อนหน้าคือจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นรับแขก ถัดไปเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร อีกฝั่งเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 ห้องน้ำ และห้องนอน 1 ส่วนพื้นที่ซักล้างและครัวอยู่ด้านหลังบ้าน พื้นภายในบ้านปูกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสี ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานชั้นล่าง 3.00 เมตร สำหรับบ้านจริงจะได้เป็นบ้านเปล่าๆไม่มีเฟอนิเจอร์ตกแต่งนะคะ
มองย้อนกลับไปทางด้านหน้าบ้าน พื้นที่ส่วนนั่งเล่นวางชุดโซฟาไว้ใหญ่กว่าบ้านหลังแรก เพราะพื้นที่ห้องนั่งเล่นของ Type นี้จะใหญ่กว่า
พื้นที่ส่วนนั่งเล่นดูโปร่ง โล่ง เพราะมีประตูหน้าบ้านเป็นกระจกสูงรับแสงธรรมชาติจากภายนอกได้ดี ส่วนหน้าต่างทางฝั่งขวาจะมีเฉพาะแปลงมุมนะคะ โซฟาที่จัดไว้เป็นตัวอย่างเป็นโซฟา 3 ที่นั่ง และโซฟาเดี่ยวอีก 1 ตัว ซึ่งหากมีสมาชิกมากกว่านี้ พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถวางชุดโซฟาที่ใหญ่กว่านี้ได้
พื้นที่ระหว่างชั้นวางทีวีถึงโซฟามีพื้นที่ทางเดินเหลือค่อนข้างกว้างประมาณ 1.6 x 1.4 ม. เป็นข้อดีของแบบบ้านนี้ ซึ่งเป็นหน้ากว้างที่ค่อนข้างกว้างสำหรับทาวน์โฮมค่ะ
อีกฝั่งเป็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 โดยชานบันไดเป็นตำแหน่งของชั้นวางทีวี ซึ่งมีระยะดูทีวีประมาณ 3.6 เมตร ติดกันกับชั้นวางทีวีเป็นห้องน้ำ และห้องนอน 1 ค่ะ
ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชั่นการใช้งานมาให้ครบทั้ง อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และ พื้นที่อาบน้ำ แต่ไม่ได้กั้นฉากั้นอาบน้ำมาให้ เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างจำกัด สุขภัณฑ์ที่ได้ก็จะเหมือนกับบ้านหลังแรกนะคะ
พื้นที่ทางขวาเป็นตำแหน่งของโถสุขภัณฑ์ ได้ยี่ห้อเดียวกับบ้านหลังแรกเลย
มาถึงส่วนห้องรับประทานอาหาร สามารถตั้งโต๊ะทานอาหารแบบ 4 ที่นั่งได้สบายๆ อีกฝั่งเป็นห้องอเนกประสงค์ ด้านหลังมีบานหน้าต่างสามารถเปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติได้พอสมควร ฝั่งตรงข้ามโต๊ะทานอาหารเป็นห้องนอนในชั้นนี้
ภายในห้องนอนของบ้านตัวอย่างจัดเตียงขนาด 3.5 ฟุตไว้ชิดผนังฝั่งหนึ่ง ทำให้มีพื้นที่เหลือสำหรับวางตู้เสื้อผ้าได้ หรือถ้าต้องการจะตั้งเตียงขนาด 5 ฟุตก็ทำได้นะคะ แต่ก็จะไม่สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ ภายในห้องมีหน้าต่างไว้รับแสงธรรมชาติและเปิดระบายอากาศค่ะ
บ้านตัวอย่างจัดห้องนอนแบบวางเตียงเดี่ยวมา อีกฝั่งของเตียงมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ ทำให้ห้องนี้ฟังก์ชั่นค่อนข้างครบถ้วนในพื้นที่ที่จำกัด
ส่วนปลายเตียงในบ้านตัวอย่างติดชั้นวางของแบบ Built-in เพิ่มเข้ามา ทำให้มีพื้นที่วางของเพิ่มขึ้น หากจะติดทีวีก็สามารถวางบนตู้ได้หรือจะแขวนผนังก็ได้
สำหรับพื้นที่หลังบ้านของ Type นี้สามารถกั้นต่อเติมเป็นครัวได้ ซึ่งทางโครงการเตรียมงานระบบไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ทางโครงการจะก่อกำแพงสูงไว้ให้ในพื้นที่หลังบ้านของทุกหลังเลยนะคะ และทำรางระบายน้ำฝนมาให้ โดยเดินท่อลงในแปลงที่ดินของบ้านแต่ละหลังไว้เรียบร้อยและทำให้เป็นรูปแบบเดียวกันทุกหลัง ทำให้ช่วยลดปัญหาการต่อเติมที่อาจจะมีความคิดเห็นไม่ตรงกันกับเพื่อนบ้าน
กลับเข้ามาในบ้าน จะพาขึ้นไปชมชั้น 2 กันต่อ ซึ่งทางขึ้นจะอยู่ด้านข้างติดกับหน้าประตูทางเข้าบ้านเลย บริเวณโถงบันไดนี้จะได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างบริเวณหน้าบ้าน ทำให้ในตอนกลางวันไม่ต้องเปิดไฟส่วนโถงบันไดก็สามารถเดินขึ้นลงได้สะดวก
ตัวบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีต วัสดุพื้นเป็นแบบเดียวกับบ้านหลังแรก ตลอดแนวบันไดจะมีราวจับตลอดทางเลยนะคะ
ชานพักบันไดเป็นแบบบันไดสามเหลี่ยมเข้ามุมเนื่องจากฝ้าสูงจึงต้องมีขั้นบันไดเยอะขึ้น ทำให้ไม่ได้มีชานพักขั้นสี่เหลี่ยมให้สามารถยืนพักได้นะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ห้องแรกทางขวาสุดคือห้องนอน 2 ถัดมาคือห้องนอน 3 ติดกันเป็นห้องน้ำ และห้องทางฝั่งหน้าบ้านคือห้องนอนใหญ่
ห้องนอนเล็กของบ้านมีขนาดห้องกะทัดรัด หากวางเตียงเดี่ยว 3.5 ฟุต เข้ามุมก็จะเหลือพื้นที่ใช้สอยในห้องที่มากขึ้น
ด้านข้างเตียงสามารถวางตู้เสื้อผ้าได้อีกค่ะ
ห้องนอนเล็กอีกห้องหนึ่งจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยจากห้องแรก ตำแหน่งของห้องนี้อยู่ด้านหลังบ้านเช่นกัน ลักษณะของห้องนี้เป็นแนวยาว สามารถวางเตียงขนาด 3.5 – 5 ฟุตได้ สำหรับห้องแปลงมุมจะได้หน้าต่างทั้ง 2 ด้าน ระบายอากาศได้ดีเหมือนในบ้านตัวอย่าง
ระยะปลายเตียงจริงๆแล้วเหลือพอสมควรแต่ในบ้านตัวอย่าง Built-in เป็นชั้นวางของปลายเตียงซึ่งสามารถใช้เก็บของเล็กๆน้อยๆได้ แต่จะได้ระยะปลายเตียงที่ลดลง
ออกมาที่โถงทางเดิน สำหรับบ้าน Type นี้ฝ้าเพดานชั้น 2 จะสูงกว่าปกติเพราะ มีพื้นที่ชั้นลอยเล็กๆสามารถทำเป็นห้องพระได้
บันไดทางขึ้นไปห้องพระ มีความกว้างประมาณ 75 ซม.ค่ะ
ส่วนพื้นที่ด้านบนมีขนาดประมาณ 2 x 1 ม.
ในส่วนของห้องน้ำชั้น 2 มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบแต่ไม่ได้กั้นฉากกั้นอาบน้ำมาให้ วัสดุและสเปคของสุขภัณฑ์ต่างๆ จะเหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างนะคะ
พื้นที่ภายในห้องไม่ได้แบ่งพื้นที่ส่วนเปียกแห้งไว้นะคะ ซึ่งลูกบ้านสามารถมากั้นให้เป็นสัดส่วนเองได้ด้วยม่านพลาสติก หรือฉากกั้นแบบ Shower Box
เข้ามาดูกันต่อในห้องนอนใหญ่ค่ะ การจัดพื้นที่จะคล้ายๆกับบ้านแบบแรก คือเป็นห้องที่อยู่ทางหน้าบ้าน ได้ห้องกว้างตลอดแนวยาวของบ้าน สามารถกั้นพื้นที่เป็นพื้นที่แต่งตัวแบบ Walk-in Closet ช่วยให้มีความเป็นสัดส่วนมากขึ้น
ภายในห้องนอนใหญ่สามารถวางเตียง ขนาด 5 ฟุต หรือ 6 ฟุต ได้สบายๆ ปลายเตียงมีพื้นที่สำหรับวางชั้นวางทีวี บรรยากาศภายในห้องค่อนข้างโปร่งเพราะมีหน้าต่างหลายบาน จึงสามารถรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี
อีกฝั่งหนึ่งของห้องสามารถจัดเป็นส่วนของ Walk – in Closet ฝั่งขวาเป็นตำแหน่งของห้องน้ำในตัว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับระเบียงห้องค่ะ
ภายในห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ของบ้าน Type นี้จะต่างจากห้องอื่นๆตรงที่มีการแบ่งส่วนแห้งและส่วนเปียกออกเป็นสัดส่วน สามารถติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเองได้ง่าย และสำหรับบ้านหลังมุมจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่นี้ พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 1 x 1 ม.
ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นประตูทางออกไประเบียง
พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1 x 1.8 ม. กว้างกว่าบ้านหลังแรกจึงมีพื้นที่ให้ออกมายืนเปลี่ยนบรรยากาศ และวางราวตากผ้าเล็กๆ ได้
ปลั๊กไฟและช่องรับสัญญาณแบบมาตรฐาน จาก Schneider
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 April 2017
- Kensington แปลงกลาง พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม. ที่ดิน 21.2 ตร.วา ราคา 3 ล้านบาท
- Windsor แปลงกลาง พื้นที่ใช้สอย 110 ตร.ม. ที่ดิน 18.5 ตร.วา ราคา 2.66 ล้านบาท
- Saint James แปลงกลาง พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม. ที่ดิน 16.3 ตร.วา ราคา 2.38 ล้านบาท
- จองและทำสัญญา 30,000 บาท
- ดาวน์ 6-11 งวด งวดละ 10,000 บาท (แล้วแต่หลัง)
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตร.วาละ 80,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 34 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล – ของโครงการ Golden Town บางนา – สวนหลวง ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวนรอบนอกหรือวงแหวนกาญจนภิเษก ฝั่งมุ่งหน้าไปยังถนนสุขุมวิท 77 หรือแยกประเวศ ทำเลที่ตั้งจัดว่าอยู่บริเวณชานเมืองแต่ไม่ได้ห่างจากเมืองมากนัก สามารถเดินทางเข้ามเมืองได้สะดวก แต่ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบวงแหวน ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินไม่มี ต้องใช้รถเป็นหลักในการเดินทาง ไปตลาดที่ใกล้ที่สุด คือ ตลาดโดยรอบมหาลัยรามคำแหง 2 ซึ่งมีซอยทะลุไปได้ ห่างออกไปอีกหน่อยจะมีตลาดและร้านขายอาหารตลอดเส้นอ่อนนุชซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชน ถ้าเป็นรูปแบบศูนยการค้าหรือ Hypermarket ที่ใกล้ที่สุด คือ Lotus Extra สาขาราม 2 และ Mega Bangna ที่มีซอยทะลุไปได้อีกเช่นกัน ถ้าห่างออกไปหน่อยจะมี Cantral บางนา ติดถนนบางนา-ตราด Seacon Square และ Paradise park บนถนนศรีนครินทร์
การเดินทางโดยใช้รถ – สำหรับผู้ที่เดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวถือว่าสะดวกมาก สามารถเข้าถึงโครงการได้จากทั้งถนนแนวราบและทางพิเศษที่ต้องเสียเงิน ได้แก่ มอเตอร์เวย์และทางด่วน ทุกเส้นทางจะสามารถเข้ามายังถนนเลียบวงแหวนรอบนอกได้หมด แต่การจราจรสำหรับเส้นทางเข้าเมืองนั้นเรียกว่ารถติดมาก โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน ส่วนการจราจรขาออกไปยังเส้นบางนา – ตราดยังพอไปได้เรื่อยๆ นอกจากนั้นถนนในละแวกนี้จะมีรถบรรทุกวิ่งเยอะจึงต้องระมัดระวังในการขับรถให้มากขึ้นค่ะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ – สำหรับคนที่ไม่ใช้รถจะเดินทางลำบากหน่อย เนื่องจากไม่ใช่เส้นทางหลัก แท๊กซี่ พี่วิน จะหาได้ยากหน่อย แต่ก็ยังมีรถสองแถวที่วิ่งจากราม 2 ผ่านหน้าโครงการ และไปสุดทางที่ทับช้าง ก็เป็นเส้นทางที่ไปต่อ รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้ง (ARL) ได้ ส่วนรถไฟฟ้า BTS สถานีใกล้เคียงที่สุด คือ สถานีอุดมสุข มีระยะห่าง 14 กม. และสถานีอ่อนนุชที่อยู่บนเส้นสุขุมวิทซึ่งมีระยะห่าง 14.8 กม.
วัสดุ – โครงการถือว่าได้มาตามมาตรฐานนะคะ บ้านมาตรฐานจะได้เป็นบ้านเปล่า ฝ้าเพดานสูง 3.0 ในชั้นล่างและ 3.0-4.0 ในชั้นบน ชั้นล่างปูพื้นด้วยแกรนิตโต้ 60 x 60 ซม. และชั้นบนปูพื้นลามิเนตหนา 8 มม. ระเบียงและห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. ส่วนลานซักล้างเทพื้นคอนกรีตขัดเรียบให้ ได้ดวงโคมแบบดาวน์ไลท์ตรงนี้ถือว่าดี ที่ไม่ให้โคมไฟแบบซาลาเปา และสุขภัณฑ์ห้องน้ำจาก Engfield
การออกแบบ – ได้แรงบันดาลใจมาจากอังกฤษ พื้นที่ส่วนกลางต่างๆ จึงตกแต่งในสไตล์นั้น ซึ่งทำออกมาได้ดี ทำให้บรรยากาศดูเหมือนอยู่ในรีสอร์ท ส่วนการวางผังรวมของโครงการทำออกมาได้ดี โดยทำให้พื้นที่ที่มีเสาไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่านกลายเป็นสวนหย่อมและบ่อน้ำพุส่วนกลาง ซึ่งเพิ่ม Value ให้โครงการได้มากพอสมควร พื้นที่ใช้สอยในบ้านก็จัดมาให้ค่อนข้างลงตัว มีห้องนอนที่ชั้นล่าง ที่เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือจะเปลี่ยนฟังก์ชันให้เหมาะกับแต่ละครอบครัวก็สามารถทำได้หลากหลาย ทั้งห้องดูหนัง ห้องทำงาน หรือห้องครัวปิดก็ได้ หลังบ้านทางโครงการเผื่อพื้นที่ให้สำหรับการต่อเติมทำเป็นครัวและมุมพักผ่อนมาให้ มีการเดินงานระบบมาเรียบร้อยและก่อกำแพงสูงพร้อมเดินรางน้ำมาให้ ทำให้ช่วยลดปัญหาเรื่องการต่อเติมที่อาจจะมีความเห็นไม่ตรงกันกับบ้านข้างเคียงไปได้ อีกทั้งยังมีความพิเศษของบ้านแบบ Kensington ที่ทำชั้นลอยเพิ่มขึ้นมาให้เป็นห้องพระ ก็ถือว่าจัดพื้นที่ใช้สอยได้เต็มที่จริงๆ
สาธารณูปโภค – จัด Clubhouse อยู่ตรงกลางโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านมาใช้งานได้สะดวกและใช้เป็นพื้นที่สำหรับรับรองแขก ส่วนของสวนส่วนกลางจะค่อนมาทางหน้าโครงการเล็กน้อย ก็ช่วยให้โครงการดูร่มรื่นตั้งแต่หน้าโครงการเลยทีเดียว ได้พื้นที่ส่วนกลางที่ให้มาครบครัน ซึ่งเราจะไม่ค่อยเห็นโครงการในระดับนี้ให้มาแบบจัดเต็มขนาดนี้ซักเท่าไหร่ โดยมีทั้ง Clubhouse , ฟิตเนส , สระว่ายน้ำ , สวนหย่อม , ทางเดินเล่นรอบบ่อน้ำพุ ถนนหลักกว้าง 16, 12 เมตร ส่วนถนนย่อยกว้าง 9,8 เมตร ส่วนบริเวณหน้าโครงการจะมีระบบรักษาความปลอดภัยตามระดับโครงการ คือมีไม้กระดกกั้น(ผ่านเข้าออกด้วยสติ๊กเกอร์), รปภ., และ CCTV ค่ะ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 2-3.5 ล้านบาท, 21 April 2017
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนเลียบวงแหวนกาญจานภิเษก ต้องใช้รถในการไปแหล่งความอุดมสมบูรณ์ แต่มี 7-11 ใกล้สุดในระยะ 170 ม.
- ความปลอดภัย 7.5/10 – มีไม้กระดกกั้น, รปภ. 24 ชม., CCTV 5 จุดที่ทางเข้าออก, รั้วรอบโครงการสูง 2.5 ม.
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 9/10 – ถือว่าดีเมื่อเทียบกับราคา จัดฟังก์ชันลงตัว มีห้องนอนที่ชั้นล่าง (แบบ Kensington และ Windsor) ได้ฝ้าเพดานสูงถึง 3 ม.
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – ได้พื้นที่สวนส่วนกลางมาเยอะ ออกแบบ Landscape ดูดีในสไตล์อังกฤษเข้ากับ Clubhouse
- สาธารณูปโภค 9/10 – สวนขนาดใหญ่ พร้อมทางเดินโดยรอบสวนและบ่อน้ำพุ, Clubhouse, สระว่ายน้ำ และในอนาคตมี Fitness ด้วยค่ะ
- 8.18 / 10.00
BOTTOM LINE
Golden Town บางนา-สวนหลวง เหมาะกับคนที่ต้องการขยับขยายครอบครัว ต้องการอยู่อาศัยย่านชานเมืองแบบที่ยังสามารถเดินทางเข้าเมืองทางย่านอ่อนนุช พระราม 9 ได้สะดวก หรือไปทำงานในย่านบางนา สุวรรณภูมิก็สะดวกเช่นกัน เดินทางโดยใช้รถยนต์เป็นหลัก ต้องการโครงการที่มี Facilities ส่วนกลางครบครัน มีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอกับสมาชิกในบ้าน 3-5 คน มีงบประมาณ 2-3.5 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 14,000 – 25,000 บาท
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะคะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )