รีวิวฉบับที่ 1887 … Pleno พระราม9 – กรุงเทพกรีฑา เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ตั้งอยู่บนถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นทำเลที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังย่านพระราม9 ได้สะดวก ไม่ไกลจากแอร์พอร์ตลิ้งค์และทางด่วน และยังมี Clubhouse และส่วนกลางให้ใช้ครบครัน ในราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท ใครสนใจลองอ่านรีวิวกันดูค่ะ ^^
Fact @ 13 June 2019
- Pleno Rama 9 Krungthep Kreetha (พลีโน่ พระราม9 – กรุงเทพกรีฑา)
- บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ : ในซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1 , ถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก)
- เนื้อที่โครงการ 10-1-96.40 ไร่ จำนวน 113 ยูนิต
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 106.86 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท - ความสูงจากพื้นถึงฝ้าชั้น 1 – 2.67 เมตร / ชั้น 2 – 2.70 เมตร
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 69,000 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง ปี n/a
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ปี n/a
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1623
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.749103 , 100.707211
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
Pleno พระราม9 – กรุงเทพกรีฑา ตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1 บนถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ช่วงที่ใกล้กับถนนศรีนครินทร์–ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก ใช้เส้นทางเชื่อมต่อกับถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ได้ง่าย ถนนเส้นนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่าถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า เป็นถนนขนาดใหญ่ที่กำลังก่อสร้างอยู่คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณต้นปีหน้าค่ะ ปัจจุบันได้มีการเปิดใช้แล้วบางส่วนการจราจรยังไม่หนาแน่นนัก สามารถขับรถจากโครงการไปยังรามคำแหงได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ถ้าถนนเส้นกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่นี้สร้างเสร็จทั้งเส้น จะทำให้สามารถเดินทางไปยังถนนศรีนครินทร์และถนนรามคำแหงได้สะดวกมากๆเลยค่ะ
นอกจากนั้นทำเลนี้ยังสามารถเข้ามอเตอร์เวย์ได้ง่าย ซึ่งเป็นทางเข้าเมืองไปยังย่านพระราม9 ที่เป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงานชื่อดังและเต็มไปด้วยศูนย์การค้า และใช้เส้นทางออกไปยังชลบุรีได้สะดวก เหมาะสำหรับคนที่ทำงานอยู่แถวพระราม9 หรือต้องเดินทางไปยังชลบุรีบ่อยๆ จากโครงการยังสามารถไปยังถนนร่มเกล้าที่เป็นถนนเชื่อมต่อกับมีนบุรีไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ ซึ่งจากโครงการไปสนามบินในเวลาไม่เร่งด่วน 15 นาทีก็ถึงทางเข้า Gate ได้แล้วค่ะ ส่วนทางด่วนที่อยู่ใกล้ๆเลยก็คือทางด่วนวงเเหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก (ทางด่วนวงเเหวนกาญจาภิเษก) ที่ใช้เส้นทางไปยังโซนบางนาได้อีกด้วย
ทำเลนี้นอกจากจะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวแล้วก็ยังมีรถสาธารณะบริการผ่านหน้าโครงการด้วย และอีกหนึ่งตัวเลือกคือมีสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ๆคือ Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้างและสถานีลาดกระบังค่ะ
เนื่องจากอยู่ในทำเลที่มีความเป็นส่วนตัวสูง จะมีแหล่งความอุดมสมบูรณ์สำหรับหาของกินแบ่งเป็น 4 โซนใกล้ๆ โซนแรกที่ใกล้ที่สุดจะอยู่บน ถนนพัฒนาชนบท 3 จะมีร้านอาหารประเภทร้านสเต็ก, ร้านบะหมี่หมูแดง, ข้าวมันไก่, ร้านอาหารอีสานหลายร้าน และตลาดขนาดไม่ใหญ่อยู่ 2 จุด มีร้านสะดวกซื้ออยู่บ้าง เช่น 7-Eleven (ในซอยนี้มีถึง 3 แห่ง) และ Tesco Lotus Express เป็นต้น ในปัจจุบันมีร้านค้าเข้ามาเปิดมากขึ้นเนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาดูการแสดงที่ Vanessa Cabaret เป็นจำนวนมาก แต่ของกินแถวนี้ก็ยังมีไม่มากนัก
ส่วนใหญ่คนแถวนี้จึงมักไปโซนเคหะร่มเกล้ากันค่ะ แถวเคหะร่มเกล้าจะมีตลาดสดขนาดใหญ่คือตลาดเกรียงไกร และเลยไปหน่อยก็จะเจอกับ Big C Market ตรงนี้มีธนาคารหลายสาขา และร้านอาหารอย่าง KFC, Pizza Hut, สเต็กลุงใหญ่ อยู่ด้วยค่ะ ระหว่างเส้นทางก็มีร้านอาหารอยู่ประปรายตลอดทั้งเส้น มีสวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ สามารถมาวิ่งออกกำลังกายได้ไม่ไกลจากโครงการเลย ถัดไปสองข้างทางจะมีร้านบุฟเฟ่ต์ประเภทชาบู ปิ้งย่างราคาไม่แพงอยู่หลายร้านเลย วิ่งที่สวนเสร็จแล้วก็แวะทานก็ได้เลย ส่วนโซนที่สามเป็นโซนถนนร่มเกล้า ซึ่งตลอด 2 ข้างทางก็มีร้านอาหาร เช่น Burger King, วราภรณ์ซาลาเปา, หมูกะทะ เป็นต้น และมีตลาดเปิดใหม่อย่าง Runway 3119 เป็นตลาดนัดเครื่องบินค่ะ ตลาดนัดรถไฟเราคงคุ้นชินกันแล้วลองแวะมาตลาดเครื่องบินที่อยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิกันบ้าง อีกโซนถ้าขับรถออกมาหน่อยบริเวณถนนรามคำแหงก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร Community mall อย่าง The Paseo Town รามคำแหง สัมมากรเพลส มี ท็อปส์ มาร์เก็ต สุขาภิบาล3 , Golden Place และ Makro ให้จับจ่ายใช้สอยกันค่ะ
นอกจากเรื่องของกินแล้ว แถวนี้ยังมีสถานศึกษาอย่าง โรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า, โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า อยู่บริเวณถนนร่มเกล้า ถ้าเลยไปหน่อยก็จะถึงสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง หรือถ้าไปยังโซนฝั่งกรุงเทพกรีฑาก็จะมีโรงเรียนนานาชาติ Heathfield , Brighton college และเป็นทางไปยังมหาวิทยาลัยรามคำแหงด้วย เรื่องของสุขภาพในทำเลนี้สามารถไปยังโรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 7 ได้สะดวกค่ะ
การเดินทางในวันนี้ เรามาจากทางพระราม9 มุ่งหน้าไปยังชลบุรีโดยใช้ถนนกรุงเทพ-ชลบุรี (สายใหม่) และทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์ เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนกรุงเทพกรีฑา (ตัดใหม่) แล้วไปกลับรถเพื่อเปลี่ยนเลนไปฝั่งตรงข้าม ขับตรงไปอีกหน่อยก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ
เริ่มต้นการเดินทางที่ The Nine พระราม 9 โดยใช้เส้นทางมาจากพระราม 9 มุ่งหน้าไปทางถนนกรุงเทพ-ชลบุรี (สายใหม่) หรือมอเตอร์เวย์
ขับตรงไปตลอดตามป้ายบอกทางถนนศรีนครินทร์-ชลบุรี แล้วจึงเริ่มเข้าสู่ทางพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรี (สายใหม่)
สังเกตป้ายบอกทางออก ถนนกรุงเทพกรีฑา ให้เบี่ยงซ้ายออกเพื่อวิ่งต่อบนทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์
จากนั้นให้ขับตรงต่อไปตามทางเรื่อยๆ อีกประมาณ 6.3 กิโลเมตร
ตรงมาซักระยะให้สังเกตป้ายบอกทางจุดกลับรถ ถนนร่มเกล้า ลาดกระบัง บริเวณหน้า 7-11 ให้เตรียมตัวเบี่ยงขวาเพื่อกลับรถก่อนขึ้นสะพาน
กลับรถใต้สะพาน เพื่อเปลี่ยนเส้นทางไปยังถนนฝั่งตรงข้าม ซึ่งตรงนี้กำลังทำทางอยู่ผิวถนนอาจจะขรุขระเส้นทางไม่สะดวกเท่าที่ควร ในอนาคตเมื่อแล้วเสร็จทางจะดีขึ้นค่ะ
กลับรถอีกครั้งแบบโค้งหักศอก เพื่อวิ่งตรงต่อไปยังทางถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า จุดตรงนี้ค่อนข้างอันตราย ต้องระมัดระวังกันด้วยนะคะ ถ้าเป็นในช่วงเวลาเร่งด่วนของวันอย่างตอนเช้า 8.00-9.00 น. รถจะค่อนข้างเยอะแนะนำให้ไปกลับรถภายในซอยจะดีกว่าค่ะ
เมื่อกลับรถสำเร็จแล้ว ให้ขับตรงต่อไปขึ้นมาบนสะพาน และเมื่อลงสะพานมาก็จะเจอที่ตั้งโครงการอยู่ทางขวามือ ให้เลี้ยวเข้าไปได้เลย ซึ่งทางเข้าจะเป็นทางเข้าร่วมกับของ 3 โครงการบ้านของ AP
ด้านหน้าทางเข้าโครงการจะเป็นซุ้มประตูลายหินอ่อนสีขาวสำหรับโครงการบ้านพักอาศัยทั้ง 3 โครงของ AP ประกอบด้วย โครงการบ้านกลางเมือง The Edition พระราม9-กรุงเทพกรีฑา, โครงการบ้านกลางเมือง พระราม9-กรุงเทพกรีฑา และโครงการ Pleno พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา ซึ่งทั้ง 3 โครงจะใช้ทางเข้าร่วมกันค่ะ
พอเข้ามาด้านใน ถนนภายในนี้คือซอยกาญจนาภิเษก 23 ซึ่งเป็นถนนทางเข้าหลัก โดยทาง AP ได้จัดตกแต่งไว้อย่างสวยงาม และเปิดให้คนภายนอกสามารถสัญจรผ่านเพื่อไปเชื่อมต่อกับถนนซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1 ทางด้านหลังได้ค่ะ ซึ่งถนนเส้นนี้จะมีสะพานข้ามคลองทับช้างบนด้วย
เมื่อลงสะพานมาก็จะเจอกับวงเวียนน้ำพุ ซึ่งอยู่ด้านหน้าซุ้มประตูทางเข้าของโครงการทั้ง 2 ประกอบด้วย ทางด้านซ้ายคือบ้านกลางเมือง The Edition พระราม9-กรุงเทพกรีฑา ทางด้านขวาคือโครงการบ้านกลางเมือง พระราม9-กรุงเทพกรีฑา ส่วนโครงการ Pleno พระราม9 – กรุงเทพกรีฑา จะต้องเลี้ยวซ้ายไปยังถนนด้านในอีกทีค่ะ
พอเลี้ยวซ้ายตามป้ายมาก็จะเจอกับรั้วกั้นไม้กระดกที่จะเปิดทางไปยังซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1 จากนั้นให้เราเลี้ยวขวาแล้วตรงไปเรื่อยๆค่ะ
พอเลี้ยวขวามาจะเจอกับถนนยาวๆ ให้เราขับตรงจนสุดทางแล้วเลี้ยวขวาเพื่อมุ่งหน้าไปยังโครงการ
พอเลี้ยวขวามาก็จะถึงโครงการ Pleno พระราม9 – กรุงเทพกรีฑา แล้วค่ะ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
โครงการ Pleno พระราม9 – กรุงเทพกรีฑา ตั้งอยู่บนบริเวณเดียวกันกับโครงการ บ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา และ บ้านกลางเมือง พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา การเข้าถึงโครงการจากถนนกาญจนาภิเษกสามารถใช้ได้ 2 เส้นทาง ทั้งจากซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1 ซึ่งทางนี้ถ้ามาจากถนนใหญ่จะผ่านซุ้มประตู (อันแรก) เดียวกันกับอีก 2 โครงการที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น พอถึงโครงการของเราก็จะมีซุ้มประตูทางเข้าอยู่อีกจุดหนึ่ง ส่วนอีกซอยที่สามารถใช้เข้าถึงได้ก็คือซอยกาญจนาภิเษก 23 ค่ะ สภาพแวดล้อมรอบๆโดยรวมแล้วยังคงเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ บรรยากาศเงียบสงบ สรุปแต่ละทิศของโครงการจะติดกับสถานที่ต่อไปนี้
- ทิศเหนือ – ติดกับชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบ
- ทิศตะวันออก – ติดกับคลองแม่จัน
- ทิศใต้ – ติดกับที่ดินเปล่า
- ทิศตะวันตก – ติดกับโครงการบ้านกลางเมือง The Edition พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา และ บ้านกลางเมือง พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น (รวมระยะกลับรถ)
- Heathfield International School – 7 กิโลเมตร
- สัมมากรเพลส รามคำแหง – 7.3 กิโลเมตร
- แม็คโคร ฟูดเซอร์วิส สาขารามคำแหง – 7.3กิโลเมตร
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า – 9.3 กิโลเมตร
- The Paseo Town รามคำแหง – 9.6 กิโลเมตร
- ท็อปส์ มาร์เก็ต สุขาภิบาล3 – 10 กิโลเมตร
- Golden Place สาขาสะพานสูง – 10.6 กิโลเมตร
- Brighton college International School – 10.7 กิโลเมตร
- Fashion Island – 10.9 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ – 12.3 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลรามคำแหง – 12.7 กิโลเมตร
- The Promanade – 15.4 กิโลเมตร
- The Nine – 16.6 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลพระราม 9 – 18.3 กิโลเมตร
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
ถ้าเราดูจาก Master Plan ของโครงการนี้ บริเวณทางเข้าหลักจะมีซุ้มประตูที่มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ซุ้มประตูนี้จะเป็นส่วนหนึ่งกับ Clubhouse ที่อยู่ด้านหน้าโครงการ โดย Clubhouse นี้จะมีให้ใช้ครบครันทั้ง สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ สวนหย่อมที่มีพื้นที่นั่งพักผ่อนและสนามเด็กเล่น การนำพื้นที่ส่วนกลางมาไว้ด้านหน้าแบบนี้มีข้อดีคือทำให้ส่วนพักอาศัยด้านในมีความสงบ เวลาจะใช้พื้นที่ส่วนกลางลูกบ้านต้องออกมาใช้บริเวณด้านหน้าโครงการซึ่งทำให้อยู่ในความดูแลของนิติบุคคลและพี่ๆรปภ. อีกทั้งยังสามารถนัดเพื่อนๆมาพบปะพูดคุยบริเวณ Clubhouse ได้โดยไม่ต้องผ่านเข้าไปในส่วนพักอาศัยให้เสียความเป็นส่วนตัวอีกด้วย
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของบ้านพักอาศัยในรูปแบบทาวน์โฮม 2 ชั้นทั้งหมด ซึ่งมีการจัดผังแบ่งเป็นซอยย่อย วางตัวบ้านในแนวทิศเหนือ-ใต้ช่วยให้บ้านไม่โดนแดดร้อนในตอนบ่าย และยังเป็นทิศที่สามารถรับลมได้ดีอีกด้วย สำหรับบ้านโซนที่อยู่ด้านหน้าสุดจะมีข้อดีคือบ้านถูกจัดวางให้หันหน้าล้อมรอบสวนหย่อม ฝั่งตรงข้ามจึงไม่ติดกับบ้านหลังไหนเลย มองออกมาก็จะเจอกับวิวสวนและพื้นที่ส่วนกลาง แต่อาจจะเป็นโซนคึกคักหน่อยเพราะจะมีรถผ่านตลอดทั้งวัน เนื่องจากเป็นโซนที่ใกล้กับทางเข้าออก ส่วนบ้านหลังที่อยู่ด้านในจะเป็นซอยย่อย วางผังเป็นบล็อกๆ ด้านในสุดของแปลงที่ดินจะติดกับคลองแม่จันซึ่งจะมีสวนอยู่ด้านหลังอีก 1 จุด บ้านหลังที่อยู่ด้านในจะเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวแต่อาจจะแลกกับระยะทางที่ไกลจากทางเข้าหลักหน่อยค่ะ ขนาดที่ดินของแต่ละแปลงจะไม่เท่ากันนะคะ มีหลังที่ได้ที่ดินเยอะหน่อยซึ่งทำให้เราได้พื้นที่หลังบ้านที่มากขึ้น โดยขนาดที่ดินเริ่มต้นของโครงการนี้อยู่ที่ 17.5 ตร.วาค่ะ
เรามาเดินชมโครงการกันดีกว่า เริ่มจากซุ้มประตูด้านหน้าโครงการถูกออกแบบมาในสไตล์โมเดิร์นเน้นโทนสีขาวและมีการตกแต่งด้วยระแนงไม้ รูปฟอร์มมีการผสมกันระหว่างเส้นโค้งและเส้นตรง พร้อมติดชื่อโครงการตัวใหญ่ทำให้ดูเด่นทีเดียว
บริเวณหน้าฝั่งที่ดินกับถนนจะมีการจัดสวนเล่นระดับ ดูสวยงามและร่มรื่นตั้งแต่ก่อนเข้าไปภายในโครงการ
ระบบรักษาความปลอดภัยหน้าโครงการจะมีพี่ๆรปภ.ดูแลความปลอดภัยให้ 24 ชั่วโมง รั้วกั้นไม้กระดก และ CCTV โดยทางเข้าออกจะแบ่งเป็น 2 ทางชัดเจน ถ้าเป็นลูกบ้านจะผ่านไม้กระดกเข้าไปด้วยระบบ Easy Pass ส่วนถ้าเป็นผู้มาติดต่อต้องแลกบัตรบริเวณนี้ค่ะ
ทางเข้าออกกั้นด้วยรั้วกั้นไม้กระดกซึ่งควบคุมผ่านระบบ Easy Pass คือไม่ต้องเปิดกระจกออกมาแตะบัตรเวลาแดดร้อนหรือฝนตก สะดวกดีค่ะ และมีระบบกล้อง CCTV คอยตรวจจับทั้งหน้าคนขับและทะเบียบรถด้านล่างเพื่อความปลอดภัย รวมถึงภายในโครงการก็ยังมีกล้องอยู่อีกกว่า 16 ตัวด้วยค่ะ
เมื่อเข้ามาด้านในก็จะเป็นส่วนพักอาศัย โดยทางฝั่งขวาด้านหน้าสุดจะเป็นบ้านตัวอย่างและ Sale Gallery ส่วนทางฝั่งซ้ายคือ Clubhouse และสวนหย่อม สำหรับถนนหลักของโครงการนี้ถือว่าค่อนข้างกว้างนะคะ ประมาณ 12 เมตร สามารถสัญจรได้สะดวก
ถัดจากซุ้มประตูมาจะมีพื้นที่สำหรับจอดรถมอเตอร์ไซค์และจักรยาน ตรงนี้ดีมากๆเพราะลูกบ้านสามารถขับรถมาจอดเพื่อมาใช้พื้นที่ส่วนกลางหรือออกไปข้างนอกได้ ไม่ต้องกังวลว่าจอดแล้วจะโดยรถเฉี่ยวชน เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นสัดส่วนพอสมควร มีการจัดสวนโดยรอบกั้นโซนแยกต่างหากเลยค่ะ
Sale Gallery ของอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการเลย เดี๋ยวเราค่อยพามาชมบ้านตัวอย่างกันนะคะ
พอเข้าโครงการมาทางฝั่งซ้ายจะเป็น Clubhouse ซึ่งภายในประกอบด้วย สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และ ด้านหน้าเป็นสวนหย่อมให้ลูกบ้านออกมาใช้ร่วมกันได้ค่ะ
บริเวณ Clubhouse จะมีสวนหย่อมขนาดใหญ่ให้สามารถมาใช้นั่งพักผ่อนหรือเดินเล่นได้
สวนหย่อมจะมีม้านั่งอยู่รอบๆ สามารถมานั่งพักผ่อนชมสวนได้ ซึ่งก็มีการปลูกไม้ยืนต้นเอาไว้เป็นร่มเงา ในอนาคตเมื่อต้นไม้เติบโตจะให้ร่มเงาได้มากกว่านี้ค่ะ
นอกจากนั้นยังมีสนามเด็กเล่น ที่มีเครื่องเล่นซึ่งจะมีบางส่วนที่ปูพื้นยางช่วยลดการบาดเจ็บจากการหกล้มของเด็กๆหรือผู้สูงอายุได้ดีเลยค่ะ
มองย้อนกลับไปจะเห็นว่า Clubhouse ถูกดีไซน์ให้เป็นส่วนหนึ่งของซุ้มประตูทางเข้า
ทางขึ้นไป Clubhouse มีการออกแบบให้มีทางลาดสำหรับรถเข็นของผู้พิการหรือผู้สูงอายุ ด้วย ถือเป็นการออกแบบตามหลัก Universal Design ทำให้คนทุกวัยสามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางนี้ร่วมกันได้อย่างเต็มที่
สระว่ายน้ำของโครงการเป็นระบบเกลือ แบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่ขนาด 4 x 10.54 เมตร ลึก 1.20 เมตร และมีส่วนที่เป็นจากุชชี่ด้วย
ส่วนสระเด็กจะมีขนาด 2 x 2.50 เมตร ลึก 0.50 เมตร เชื่อมต่อกับสระผู่ใหญ่เลย
ข้างๆสระจะมีม้านั่งให้มานั่งเล่นนอนเล่นพักผ่อน หรือใครที่เอาลูกหลานมาเล่นน้ำก็มานั่งดู+วางของบริเวณนี้ได้ค่ะ ซึ่งพอมองออกไปก็จะเห็นพื้นที่สีเขียวของสวนหย่อมที่อยู่ด้านหน้า
อีกฝั่งจะมีห้องน้ำชาย-หญิงแยกกันเป็นสัดส่วน พอว่ายน้ำเสร็จก็มาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวก
หน้าห้องน้ำมีเสื้อชูชีพและห่วงยางบริการไว้ให้ สำหรับลูกบ้านที่ว่ายน้ำยังไม่เก่งมายืมใช้ได้นะคะ
ภายในห้องน้ำมีให้ใช้ครบทั้งอ่างล้างหน้า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ
อ่างล้างหน้ามีมาให้ 2 อ่างพร้อมกระจกส่องหน้า
บรรยากาศภายในห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ
ข้างๆห้องน้ำเป็นฟิตเนสและสำนักงานนิติบุคคลค่ะ
ภายในห้องฟิตเนสวางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 6 เครื่อง มีครบทั้งคาร์ดิโอและเวท เครื่องเล่นส่วนใหญ่จะวางหันออกไปทางผนังกระจกที่มองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำค่ะ
ถัดจากพื้นที่ส่วนกลางมาก็จะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมด โดยจะมีบ้านโซนที่อยู่ด้านหน้าที่จะวางล้อมรอบสวนหย่อม ทำให้ฝั่งตรงข้ามบ้านไม่ติดกับบ้านหลังอื่นๆ มีระยะและมุมมองที่กว้าง สามารถมองเห็นวิวสวนได้ค่ะ
ส่วนบ้านที่อยู่ด้านในจะถูกแบ่งเป็นซอยย่อยหันหน้าชนกัน โดยมีถนนย่อยกว้าง 9 เมตรค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณหน้าโครงการประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ แบ่งเป็นสระผู้ใหญ่ ขนาด 4 x 10.54 เมตร ลึก 1.20 เมตร / สระเด็กลึกขนาด 2 x 2.50 เมตร ลึก 0.50 เมตร / พร้อมโซนจากุชชี่
- ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 16 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- Key Card Access ระยะไกล
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
Pleno พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา จะมีแบบบ้านเพียงแบบเดียวนะคะ เป็นบ้านขนาด 106.86 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ตั้งอยู่บนที่ดินมาตรฐาน 17.5 ตร.วา มีจำนวนทั้งหมด 113 ยูนิต
ระบบโครงสร้างของที่นี่เป็นแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก (Tunal wall form) คำศัพท์นี้อาจจะไม่คุ้นเคยกันเท่าไหร่ อธิบายง่ายๆคือระบบนี้จะเป็นระบบโครงสร้างที่เทคอนกรีตผนังรับน้ำหนักและพื้นพร้อมกัน ทำให้การก่อสร้างทำได้เร็ว และจะไม่มีเสาภายในตัวบ้าน ผนังจะเป็นผนังที่รับน้ำหนักจึงไม่สามารถที่จะทุบหรือปรับเปลี่ยนในภายหลังได้ ส่วนที่จอดรถและลานซักล้างด้านหลัง โครงสร้างพื้นจะเป็น Slab on Ground ค่ะ
มาเริ่มดูที่แปลนกันก่อนนะคะ แบบของ Pleno พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา จะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นที่มีหน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 106.86 ตร.ม. แบ่งเป็น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ฟังก์ชันการใช้สอยภายในบ้านจะเเบ่งออกตามนี้ค่ะ
ชั้น 1 สามารถจอดรถได้ 2 คันด้วยหน้ากว้าง 5.5 เมตร เป็นขนาดที่สามารถจอดคันใหญ่ 1 คัน (เช่นรถกระบะ รถ SUV) และคันเล็กแบบ Eco car ได้สบายๆ เข้ามาภายในตัวบ้านจะเจอกับบันไดทางขึ้นชั้น 2 อยู่ติดกับประตูทางเข้าเลย ทำให้คนที่กลับบ้านมาดึก อยากขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้นบนก็สามารถขึ้นไปได้ทันที พื้นที่ชั้น 1 ทั้งหมดจะต่อเนื่องกันทั้งหมด เป็น Common area ที่จัดได้ตามสะดวกเป็นพื้นที่นั่งเล่น รับประทานอาหาร หรือจะทำเป็นห้องครัวก็ได้ (มีการเตรียมระบบเอาไว้ให้ แต่ไม่มีการกั้นพื้นที่ค่ะ) มีพื้นที่ฝั่งบันไดที่ถูกจัดเป็นห้องน้ำและห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ พื้นที่หลังบ้านจะเป็นลานซักล้างซึ่งถ้าครอบครัวไหนชอบทำอาหารก็อาจจะทำเป็นครัวไทยด้านนอกได้
ชั้น 2 จะเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด แบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องอยู่ฝั่งด้านหลังบ้านและห้อง Master Bedroom 1 ห้องวางอยู่หน้าบ้าน โดยทั้ง 3 ห้องจะใช้ห้องน้ำร่วมกันที่บริเวณกลางบ้านตรงกับบันไดทางขึ้นบ้านค่ะ ที่ห้อง Master Bedroom จะมีระเบียงเล็กๆเอาไว้วาง CDU แอร์นะคะ ไม่ใช่ระเบียงสำหรับใช้งาน แต่ข้อดีก็คือห้องนี้จะได้ช่องแสงจากหน้าต่างฝั่งหน้าบ้านทั้งแผง ทำให้ดูโปร่งโล่งมากๆ มีมุมสำหรับทำเป็น Walk-in Closet เป็นสัดส่วน โดยรวมแล้วการจัดฟังก์ชั่นเหมาะสำหรับครอบครัวที่จำนวนสมาชิกไม่มาก เน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องที่กว้าง เดี๋ยวเราลองไปดูตัวบ้านจริงกันเลยดีกว่าค่ะ
ตัวบ้านจะดีไซน์ออกมาในรูปแบบโมเดิร์นเน้นโทนสีขาวและเทาเป็นหลัก รูปทรงอาคารภายรวมจะดูเป็นกล่องที่ดูเรียบๆ ไม่มีกันสาดอะไรติดตั้งมาให้ค่ะ ด้วยความที่ภายในบ้านจะได้ความสูงที่ค่อนข้างมากและด้านหน้าที่มีการใช้เส้นแนวตั้งในการออกแบบทำให้ตัวบ้านดูสูงดีค่ะ
รั้วหน้าบ้านจะเป็นแบบบานเปิดพับได้สุดทั้ง 2 ฝั่ง วัสดุเป็นเหล็กกล่องสีดำ ไม่หนักนะคะ ใช้งานได้สะดวก
บริเวณด้านหน้าบ้านจะมีกริ่งและตู้จดหมายแขวนไว้ที่รั้วใช้เป็นเลขที่บ้านไปในตัว และจะมีถังขยะวางไว้ให้แบบนี้ทุกบ้าน
สำหรับโครงการนี้ไม่ได้ให้กันสาดมาด้วยนะคะ แต่สามารถซื้อเพิ่มเติม (แบบในรูป) จากทางโครงการได้ โดยทางโครงการจะกำหนดให้ใช้กันสาดในลักษณะนี้หรือถ้าอยากต่อเติมหลังคาแบบโครงเหล็กก็ต้องผ่านการอนุมัติจากทางโครงการก่อน ทั้งนี้เพื่อความสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อยค่ะ
ก่อนจะเข้าไปในตัวบ้านมาดูประตูทางเข้ากันก่อนค่ะ ทางเข้าจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง กรอบบานเป็นอลูมิเนียม Powder coat เปิดได้ทางเดียวนะคะ มีบาน Fixed ด้านข้างด้วย ทำให้แสงสว่างสามารถเข้าไปในตัวบ้านได้มากขึ้น บริเวณด้านข้างทางเข้า เราสามารถจัดวางตู้วางรองเท้าชิดผนังได้ หรือใครอยากให้บ้านดูเรียบร้อยหน่อยก็ทำเป็น Built-in ไปเลยก็ดีค่ะ
มือจับและตัวล็อคเราจะได้แบบในภาพนี้ค่ะ
และด้านในบ้านจะมีตัวล็อคมาให้อีก 1 ชั้นเพื่อความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้น
เข้ามาภายในชั้น 1 จะเป็นพื้นที่โล่งต่อเนื่องกันไปตั้งแต่หน้าบ้านไปถึงหลังบ้านเลย ทางซ้ายมือจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 มีห้องเก็บของใต้บันได และห้องน้ำค่ะ พื้นที่บริเวณนี้สามารถจัดวางฟังก์ชันได้ตามใจเลย
พอเข้าบ้านมาส่วนแรกจะจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นรับแขกอยู่ติดกับทางเข้าบ้าน ทำให้มีแสงสว่างส่องเข้ามาได้เยอะทีเดียว ระยะดูทีวีตรงนี่อยู่ที่ประมาณ 4.2 เมตร สามารถวางทีวีขนาด 55″-60″ ได้สบายๆ
ถ่ายมาเทียบกันให้ดูว่า ตรงพื้นที่วางทีวีในบ้านมาตรฐานจะมีประตูห้องเก็บของอยู่ด้วยนะคะ ถ้าใครอยากตกแต่งบ้านให้ดูสวยงาม มุมนี้ก็สามารถดีไซน์ให้เป็นส่วนหนึ่งของผนังชั้นวางทีวีได้
ประตูห้องเก็บของนี้เปิดบานเปิดออกมีกลอนล็อคอยู่ด้านนอก ภายในสามารถเปิดไฟได้ด้วย
ขนาดห้องเก็บของสามารถใส่เครื่องมือ เครื่องใช้ในการทำความสะอาดบ้าน หรือกระเป๋าใหญ่ๆได้ค่ะ
ถัดเข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและครัว บริเวณนี้ถ้าเป็นแปลงมุมก็จะได้ความสว่างจากช่องแสงที่อยู่ด้านข้าง ส่วนห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ทางฝั่งซ้ายค่ะ
พื้นที่บริเวณนี้เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่นเลยนะคะ ในบ้านมาตรฐานเป็นห้องโล่งๆดังนั้นเราสามารถจัดฟังก์ชั่นได้ตามใจเราเลย
ในบ้านตัวอย่างจัดพื้นที่ด้านนอกให้เป็นเฉลียงสำหรับนั่งเล่นพักผ่อน
เนื่องจากบ้านหลังนี้เป็นแปลงมุมและมีพื้นที่ด้านข้างบ้านจึงสามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นและจัดสวนได้แบบนี้
สำหรับห้องน้ำจะอยู่ฝั่งเดียวกับบันได เป็นห้องน้ำที่มีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วยแยกส่วนเปียกส่วนแห้งทำธรณีมาให้ครบ แต่ต้องไปหาฉากกั้นอาบน้ำมาติดเพิ่มเองนะ ผนังกรุกระเบื้องเซรามิคมาให้โดยรอบ
โดยห้องน้ำจะมีการลดระดับจากพื้นห้องอื่นๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ช่วยกันไม่ให้น้ำไหลไปโดนส่วนอื่นๆและช่วยให้สะดวกต่อการซักล้างด้วยค่ะ
จุดที่แตกต่างกันของห้องน้ำในบ้านตัวอย่างและบ้านมาตรฐานก็คือกระจกเงาส่องหน้า ซึ่งของที่เราจะได้มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น โดยด้านล่างจะมี Low wall หรือผนังเตี้ยๆที่สามารถใช้วางของใช้ได้เล็กๆน้อยๆได้ทั้งแนวเลยค่ะ
สำหรับสุขภัณฑ์ทั้งอ่างล้างหน้าและโถได้เป็นของ American Standard
พื้นที่อาบน้ำมีกั้นธรณีมาให้ สามารถอาบน้ำได้สะดวกแต่ไม่ได้ติดตั้งฉากกั้นมาให้นะคะ เราสามารถหามาติดตั้งเองได้ไม่ยาก
พื้นที่อาบน้ำส่วนนี้มีขนาดอยู่ที่ 1.20 x 0.80 เมตร เป็นระยะที่ใช้งานหมุนตัวได้สะดวกค่ะ
ที่ผนังมีติดตั้งฝักบัวมาให้ จะได้เป็นสายอ่อน ระบบน้ำธรรมดา
จับถนัดมืออยู่ค่ะ ของยี่ห้อ American Standard
ไฟในห้องน้ำได้แบบซาลาเปา ติดตั้งมาให้ 2 จุดทั้งส่วนเปียกและส่วนแห้ง ให้ความสว่างได้ทั่วถึงค่ะ
เดี๋ยวเราจะพาไปดูในส่วนของครัวค่ะ ตำแหน่งที่ทางโครงการวางไว้ให้จะติดกับหน้าต่างหลังบ้านพอดี สามารถเปิดระบายอากาศได้ ในบ้านมาตรฐานจะมีงานระบบน้ำและไฟฟ้าเอาไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งเราสามารถออกแบบให้มีเคาน์เตอร์ครัวชิดผนังได้
งานระบบที่ทางโครงการให้มานะคะ
ส่วนในบ้านตัวอย่างได้ต่อเติมครัวเอาไว้หลังบ้าน ของจริงที่เราได้จะเป็นเหมือนภาพด้านล่าง พื้นที่หลังบ้านแต่ละแปลงจะได้ไม่เท่ากันนะคะ ซึ่งถ้าใครได้ที่ดินเยอะหน่อยก็จะมีพื้นที่หลังบ้านเยอะขึ้น
บ้านมาตรฐานจะมีปั๊มน้ำ แท้งค์น้ำมาให้ครบตามมาตรฐาน พื้นที่หลังบ้านนี้การใช้งานและการจัดพื้นที่ใช้สอยจะแล้วแต่แต่ละครอบครัวเลยค่ะ บางคนชอบทำครัวก็ทำครัวไทยอยู่ด้านนอก บางคนชอบจัดสวนก็ทำสวยสวยๆ เอาเก้าอี้ออกมานั่งเล่นพักผ่อนได้
เดี๋ยวเราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2 ของบ้านกันต่อนะคะ บันไดทางขึ้นจะอยู่ติดกับประตูทางเข้าบ้านเลยค่ะ ถ่ายเทียบกันให้ดูว่าบ้านตัวอย่างมีการก่อผนังขึ้นไปเพิ่มเติม โครงสร้างของบันไดนี้เป็นโครงเหล็กฉาบเรียบทาสี ลูกนอนเป็นไม้ยางพาราอัดประสานค่ะ
พอขึ้นมาจะเจอชานพักสำหรับเปลี่ยนทิศทางของบันได ตรงนี้ชานพักเป็นสี่เหลี่ยมเดินสะดวกอยู่
พอขึ้นมาอีกหน่อยจะเจอกับชานพักอีกจุดหนึ่งที่เป็นแบบสามเหลี่ยม ตรงนี้ต้องระวังนิดนึงถ้าเดินเร็วๆอาจจะมีสะดุดได้นะคะ
ขึ้นมาชั้นบน พื้นชั้น 2 จะถูกเปลี่ยนเป็นไม้ลามิเนตสีใกล้เคียงกับลูกนอนบันได
มองย้อนกลับไปจะเห็นว่าโถงบันไดมีความสูงพอสมควร สามารถซื้อโคมไฟสวยๆมาตกแต่งเพิ่มความสว่างได้นะคะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงเล็กๆก่อนจะแจกไปยังห้องนอน 3 ห้องและห้องน้ำอีก 1 ห้องที่ต้องใช้ร่วมกัน ในช่วงเวลาเร่งรีบ สามารถเดินลงไปใช้งานห้องน้ำชั้นล่างได้
หน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่มุมเล็กๆมุมหนึ่ง เราชอบบ้านตัวอย่างที่ทำเป็นไอเดียชั้นวางของ ดูเป็นการใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าดีค่ะ
เรามาดู Master Bedroom กันค่ะ ห้องนี้จะอยู่ทางด้านหน้าของบ้าน ได้ความกว้างเต็มหน้าบ้านเลย คือ 5.5 เมตร จุดที่เราชอบของห้องนี้ก็คือช่องแสงจากหน้าต่างที่มีมาให้ตลอดทั้งแนวผนัง ช่วยให้ห้องนี้ดูโปร่งโล่งมากๆ สว่าง และระบายอากาศได้ดี
ข้างเตียงมีพื้นที่เหลือสามารถวางได้ทั้งโต๊ะข้างเตียงและ Daybed อีก 1 ตัว เอาไว้นั่งอ่านหนังสือชิลล์ๆ
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งก็มีพื้นที่เหลือเยอะพอสมควร ในบ้านตัวอย่างจึงจัดมุมนี้เป็น Walk-in Closet
ส่วนปลายเตียงก็มีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านได้สบายๆ
มุมนี้สามารถทำเป็น Walk-in Closet ได้นะคะ ในบ้านมาตรฐานจะมีตำแหน่งของแอร์ให้ต้องพิจารณากันด้วย ถ้าอยากได้ตู้เสื้อแบบในบ้านตัวอย่าง อาจจะต้องย้ายแอร์ไปติดที่อื่นนะ
ตัวอย่างการจัด Walk-in Closet ซึ่งมีทั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ มุมนี้จะได้แสงสว่างจากหน้าต่างซึ่งเพียงพอมากๆกับการใช้แต่งตัว
พื้นที่ส่วนนี้จะติดกับหน้าต่างภายนอกจะเป็นระเบียง แต่ระเบียงนี้ไม่ได้เอาไว้ให้เดินออกไปใช้งาน แต่จะเอาไว้สำหรับวาง Condensing Unit ของแอร์ภายในบ้านค่ะ
ในส่วนของห้องน้ำชั้น 2 นั้น ดีไซน์และวัสดุจะเหมือนกันกับห้องข้างล่างเลยค่ะ มีความแตกต่างกันที่กระจกเงาส่องหน้าเหมือนเดิม
สุขภัณฑ์ต่างๆจะได้ของ American Standard เหมือนเดิม เช่นเดียวกับวัสดุพื้นและผนังที่เป็นกระเบื้องเซรามิค
พื้นที่อาบน้ำแยกเป็นส่วนเปียกชัดเจนแต่ต้องหาฉากกั้นอาบน้ำมาติดค่ะ เดี๋ยวนี้มีให้เลือกหลายแบบ ถ้างบน้อยหน่อยจะติดเป็นม่านพลาสติกก็ได้นะ
สำหรับห้องนอนเล็กนั้นจะมีหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศทั้ง 2 ห้องนะคะ ห้องนี้บ้านตัวอย่างเป็นแปลงมุมก็จะมีหน้าต่างถึง 2 ฝั่งด้วยกัน
ส่วนอีกห้องหนึ่งก็ขนาดพอๆกัน วางเตียง 3.5 ฟุตแล้วจะเหลือพื้นที่รอบๆเอาไว้สำหรับวาง ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานได้ เหมาะกับการทำเป็นห้องนอนลูกหรือถ้าใครอยากจะปรับเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่นก็ได้ค่ะ
ปลั๊กและสวิทช์ที่ทางโครงการให้มาเป็นของ bitchino ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 13 June 2019
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17.5 ตร.วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย 106.86 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาแปลงมาตรฐานเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท - จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 10,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 69,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 73 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 1 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : Pleno พระราม9 – กรุงเทพกรีฑาตั้งอยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1 บนถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก ช่วงที่ใกล้กับถนนศรีนครินทร์–ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) สามารถเดินทางเข้า-ออกเมืองย่านพระราม9 ได้สะดวก ใช้เส้นทางเชื่อมต่อกับถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ได้ง่าย และยังสามารถใช้เส้นทางออกไปยังชลบุรีได้สะดวก และยังสามารถไปยังถนนร่มเกล้าที่เป็นถนนเชื่อมต่อกับมีนบุรีไปยังสนามบินสุวรรณภูมิได้ ส่วนทางด่วนที่อยู่ใกล้ๆก็คือทางด่วนวงเเหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก (ทางด่วนวงเเหวนกาญจาภิเษก) ที่ใช้เส้นทางไปยังโซนบางนาได้
สำหรับความอุดมสมบูรณ์จะอยู่ในระยะที่ต้องใช้รถส่วนใหญ่ แบ่งเป็น 4 โซนใกล้ๆ โซนแรกที่ใกล้ที่สุดจะอยู่บน ถนนพัฒนาชนบท 3 , เคหะร่มเกล้ากัน , ถนนร่มเกล้า และบริเวณถนนรามคำแหง ซึ่งจะมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ตลาด Community mall นอกจากเรื่องของกินแล้ว แถวนี้ยังมีสถานศึกษาอย่าง โรงเรียนสารสาสน์วิเทศร่มเกล้า, โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า อยู่บริเวณถนนร่มเกล้า ถ้าเลยไปหน่อยก็จะถึงสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง หรือถ้าไปยังโซนฝั่งกรุงเทพกรีฑาก็จะมีโรงเรียนนานาชาติ Heathfield , Brighton college และเป็นทางไปยังมหาวิทยาลัยรามคำแหงด้วย เรื่องของสุขภาพสามารถไปยังโรงพยาบาลรามคำแหง, โรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 7 ได้สะดวกค่ะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการมีทางเข้า-ออกแค่ทางเดียวเพื่อความปลอดภัย มีป้อมรปภ. อยู่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าและมี รปภ. คอยดูแลตลอด 24 ชม. ประตูแบบรั้วกั้นไม้กระดกระบบ Easy Pass และมีระบบ CCTV ที่ Main Gate ถ่ายทั้งหน้าคนขับและทะเบียนรถ รวมถึงภายในโครงการรวมแล้ว 16 จุด ความสูงรั้วรอบโครงการ 2.5 เมตร
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย : การวางผังโครงการทำออกมาได้ดีทั้งการนำเอาพื้นที่ส่วนกลางออกมาไว้ด้านหน้า ซึ่งจะช่วยให้ภายในส่วนพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัว มีการวางตัวบ้านโซนที่อยู่ด้านหน้าให้ล้อมรอบพื้นที่สวนหย่อม ทำให้บ้านโซนนี้ไม่หันติดกับบ้านฝั่งตรงข้าม ตัวบ้านจัดฟังก์ชั่นได้ลงตัวเหมาะกับการใช้งานของครอบครัวขนาดเล็ก 3-4 คน ที่ชอบคือช่องแสง โดยเฉพาะห้องนอนใหญ่ที่ได้หน้าต่างทั้งแนวช่วยให้บ้านดูโปร่งโล่ง ถึงแม้ว่าจะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ออกแบบห้องน้ำได้ดี มีพื้นที่ใช้สอยที่ไม่อึดอัด
วัสดุ : ให้มาตามมาตรฐานของโครงการในระดับนี้ พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ 60×60 ส่วนพื้นชั้นบนเป็นไม้ลามิเนต ประตูหน้าต่างใช้กรอบบานเป็นอลูมิเนียมขอบ Powder coat กระจกเขียวตัดแสง ภายในห้องน้ำได้American standard พร้อมกรุกระเบื้องมาให้โดยรอบ ลานซักล้างและที่จอดรถโครงสร้างเป็นแบบ Slab on Ground ค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : สภาพโครงการโดยรวมแล้วดูเรียบร้อยดี มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อยู่ 1 จุดบริเวณ Clubhouse และมีแทรกอยู่รอบๆโครงการ ระหว่างบล็อกบ้าน เป็นทั้งจุดกลับรถ ใช้เป็นส่วนพักผ่อนได้ เนื่องจากโครงการนี้มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ จึงถือว่าพอเพียงต่อการใช้งาน
สาธารณูปโภค : มีให้ใช้ครบครันทั้ง Clubhouse ซึ่งภายในประกอบด้วย สระว่ายน้ำที่แบ่งออกเป็นสระผู้ใหญ่และสระเด็ก พร้อมจากุชชี่ ฟิตเนสวางเครื่องออกกำลังกายได้ประมาณ 6 เครื่องและ ด้านหน้าของ Clubhouse จัดเป็นสวนหย่อมที่มีสนามเด็กเล่นและพื้นที่นั่งพักผ่อนให้ลูกบ้านออกมาใช้ร่วมกันได้ค่ะ รวมๆแล้วน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานของลูกบ้าน
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 3 – 5 ล้านบาท, 13 June 2019
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1 เดินทางเข้ามอเตอร์เวย์ได้สะดวก ต้องอาศัยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก
- ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, รปภ.หน้าหมู่บ้าน, Key card Access ระยะไกล รั้วกำแพง 2.5 ม.
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – จัดฟังก์ชันลงตัว เหมาะสำหรับสมาชิก 3-4 คน
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของโครงการระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.5/10 – มีพื้นที่สีเขียวเพียงพอต่อจำนวนยูนิต สภาพโครงการดูดี
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – ครบครันเพียงต่อต่อการใช้งาน ดีไซน์ออกมาดูดีน่าใช้งาน
- 7.60 / 10.00
BOTTOM LINE
Pleno พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กที่กำลังหาบ้านที่เดินทางใช้มอเตอร์เวย์สะดวก ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก ชอบโครงการที่มียูนิตน้อย มีส่วนกลางมาให้ใช้ครบครัน ชอบบ้านที่โปร่งโล่ง ช่องแสงเยอะ มีงบประมาณ 3-6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 21,000 – 42,000 บาท
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving
