รีวิวฉบับที่ 1030… สวัสดีครับวันนี้ผมจะพาไปชมโครงการที่ชื่อว่า The Ricco Town วัชรพล ต้องขอบอกกก่อนว่าเป็นรีวิวฉบับอัพเดตโครงการสร้างเสร็จสมบูรณ์หลังจากที่เราเคยพาไปชมเมื่อ 2 ปีกว่าที่แล้ว ซึ่งสวนสาธารณะ และ Facility ทั้งหมดก็ครบเรียบร้อยให้เห็นของจริงกันแล้ว อีกทั้งสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ตัวโครงการตั้งอยู่บนซอยร่วมมิตรพัฒนา ใกล้กับห้าแยกวัชรพล และทางขึ้นลงทางด่วนไม่มากนัก ตัวบ้านเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น มีบ้านทั้งหมด 2 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 20.60 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท เอาล่ะไปดูกันเลยดีกว่า
Fact @ 2 March 2016
- The Ricco Town Watcharapol (เดอะ ริคโค้ ทาวน์ วัชรพล)
- บริษัท พูลผลทรัพย์ จำกัด
- MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : เขตบางเขน ซอยร่วมมิตรพัฒนา
- เนื้อที่โครงการ 24-2-39.5 ไร่ จำนวน 245 ยูนิต
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น มีบ้าน 2 แบบ ได้แก่
- Type A ที่ดินเริ่มต้น 20.60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
- Type B ที่ดินเริ่มต้น 20.60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
NEW! เพื่อนๆสามารถเลือกอ่านตามหัวข้อได้โดยกดปุ่มไปยังหัวข้อที่สนใจได้นะครับ
พิกัด : 13.868006, 100.659028
แผนที่จากทางโครงการครับ ตัวโครงการตั้งอยู่ถนนร่วมมิตรพัฒนา ห่างจากห้าแยกวัชรพลประมาณ 1.3 กิโลเมตร ในแผนที่แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้ของโครงการ ที่มีทั้งห้างช้อปปิ้ง คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล วัด สถานศึกษา และใกล้กับทางขึ้นลงทางด่วน
ที่ตั้งของโครงการ The Ricco Town วัชรพล ตั้งอยู่บนซอยร่วมมิตรพัฒนา ห่างจากห้าแยกวัชรพลประมาณ 1.3 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนกรุงเทพตอนเหนือ แถวย่านนี้ต้องบอกว่าเน้นการเดินทางด้วยรถยนต์เป็นหลักนะครับ บริบทของพวกสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็จะกระจายกันอยู่ในย่านวัชรพล และออกมาเกาะเส้นถนนรามอินทราครับ มีทั้งตลาด ร้านค้า ห้าง โรงพยาบาล ครบครันเพราะย่านนั้นเป็นชุมชนหมู่บ้านเยอะมาก ส่วนการเดินทางเข้าออกเมือง ปัจจุบันนี่ใช้ถนนรามอินทราเป็นถนนหลัก และมีทางด่วนเป็นของเสริม ปัจจุบันถนนรัตนโกสินทร์สมโภชน์ เปิดใช้งานแล้วซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระรามอินทราได้เยอะ ด้วยเป็นถนนใหญ่คู่ขนานกับรามอินทรา เชื่อมวัชรพลยิงยาวไปพหลโยธิน(โผล่ตรง Big C) และมีแผนลากไปเชื่อมวิภาวดีรังสิตด้วย… ดีแล้วครับ เพราะตอนนี้ รามอินทราเริ่มจะรับไม่ไหวแล้ว บางวันรถติดมากๆเหมือนกัน
ด้านความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ในซอยร่วมมิตรพัฒนาส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านและที่พักอาศัยแนวราบเกือบทั้งหมดและมีหลายหลังคาเรือนซะด้วยสิ ทำให้ริมถนนจะมีมินิมาร์ท เพิงร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดจินดาให้พิงพึงได้นิดหน่อย ส่วนถ้าขยับออกมานิดนึงจะมีคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง Neighbour Center, Venice Di Iris และในรัศมีไม่ไกลก็มีทั้ง BigC Market, Tesco Lotus ตลาดถนอมมิตร และ Pearnary Mall อยู่ด้วย เรียกว่าสามารถไปจับจ่ายซื้อของได้สบายๆ ถือว่าเป็นโซนอยู่อาศัยที่มีความอุดมสมบูรณ์ดีทีเดียว
พูดถึงเรื่องการเดินทาง โครงการนี้ยังถือว่าอยู่ไม่ไกลกับจุดขึ้นลงทางด่วนนะครับ จุดที่ใกล้ที่สุดคือ “สุขาภิบาล 5” ซึ่งขับไปประมาณ 3.5 กิโลเมตรเท่านั้น สามารถไปได้ทั้งเข้าเมืองและออกเมือง หรือถ้าต้องใช้มอเตอร์เวย์ ก็วิ่งไปห้าแยกวัชรพลออกถนนรามอินทรา ข้ามแยกกม. 8 ไปหน่อยนึงก็ถึงแล้วครับ
การเดินทางในวันนี้ ผมมาจากถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา)มุ่งหน้ามาทางถนนรามอินทรา วิ่งเข้าถนนวัชรพลตามทางไปเรื่อย จนถึง 5 แยกวัชรพล แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนร่วมมิตรพัฒนา แล้ววิ่งตรงไปจนสุดถนน(ประมาณ 1.3 กม.) ก็จะเจอที่ตั้งของโครงการทางขวามือ
ถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา)มุ่งหน้ามาทางถนนรามอินทรา เป็นแหล่งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า แหล่งช้อปปิ้ง และคอมมูนิตี้มอลล์หลากหลายเต็มไปหมด สลับกับพวกโชว์รูมสินค้าต่าง อีกทั้งยังมีบ้านโครงการจัดบ้านแพงๆให้เห็นด้วย
พอดีผมเริ่มมาจากแยกตัดกับถนนลาดพร้าวแล้ววิ่งตรงยาวๆ ก็ผ่าน Home Pro, Tesco Lotus และก็ Central Festivel East Ville ที่พึ่งเปิดไม่นานมานี้
หลังจากนั้นก็ผ่านหน้า The Crystal, The Walk
สังเกตว่าตามริมฟุตบาทและเกาะกลางค่อนข้างปลูกต้นไม้เอาไว้เยอะอยู่นะครับ เห็นโล่งๆแบบนี้ ตอนเย็นเลิกงานนี่เส้นนี้ติดสาหัสเลยละ
หลังจากตรงมาได้ซักระยะแล้ว เราก็จะจามป้าย “วัชรพล” เป็นหลักนะครับ
ขึ้นสะพานข้ามแยกมาแล้ว ยังตามป้ายถนนวัชรพลอยู่นะ ส่วนทางขวามือเป็นทางไปทางด่วนกาญจนาภิเษกต่อ
พอเราม้วมลงมาแล้วจะเป็นถนนรามอินทรา ให้เราชิดซ้ายสุดเอาไว้เลยนะครับ เพราะเดี๋ยวเราจะเลี้ยวซ้ายอีกที(ตามป้าย) เพื่อเข้าสู่ถนนวัชรพล
เลี้ยวเข้ามาที่ถนนวัชรพลแล้ว ช่วงแรกๆตอนต้นค่อนข้างคึกคักฝั่งซ้ายมือจะเจอกับ Tesco Lotus ส่วนขวามือเป็นแนวอาคารพาณิชย์ร้านค้ายาวไปโน้นเลย
เลยโลตัสจะเจอ The Platinium Place มีทั้งธนาคาร ร้านนวด ที่สอนเรียนพิเศษ ร้านอาหารครับ
ถัดไปเป็นเสถียรธรรมสถาน สถานที่ปฎิบัติธรรมในย่านนี้ ข้างในมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อยู่
วิ่งมาจนสุดทางสามแยกเจอกับ บริษัทของ Tv Direct ให้เราเลี้ยวขวา ก็ยังอยู่บนถนนวัชรพลอยู่นะ
เราจะลอดใต้ทางยกระดับนี้ไป เป็นจุดสังเกตให้ไม่หลงอีกอัน
ผ่านตลาดถนอมมิตร ด้านขวามือ เป็นตลาดที่มีของสด ของกินของใช้ขายในราคาไม่แพง เป็นที่พึ่งพิงของคนแถวนี้
ถัดจากตลาดถนอมมิตร มาหน่อยเดียว จะเจอ “Plearnary Mall” คอมมูนิตี้มอลล์ที่มีพวกร้านอาหาร ร้านขายของ ที่เรียนพิเศษ ที่เปิดมาสักพักนึงแล้ว เป็นอีกหนึ่งที่พึ่งพิงของคนย่านวัชรพลนี้อีกแห่ง
เลย Plearnary Mall มาไม่ไกล เราจะโดนบังคับเลี้ยวซ้ายตรงทางโค้งนี้ครับ ขับระวังๆนะ เพราะมักจะมีรถเลี้ยวเข้าออกมาจากด้านขวาตรงหัวโค้งตลอด ชิดซ้ายไว้ก็ดีครับ อ้อ..ทางขวามือเป็นซอยรามอินทรา 65 ที่สามารถไปออกถนนหลักอย่างรามอินทราก็ได้
วิ่งมาสักระยะเราจะเจอกับคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็ก Neighbour Center ทางซ้ายมือ ภายในมีร้านอาหารให้เลือกอยู่พอสมควร มีร้านปลาเผา ซุชิฮานะ ร้านนวด ฯลฯ
เรามาถึงไฟแดงห้าแยกวัชรพลแล้ว รถจะชะลอติดไฟแดงกันเยอะหน่อย ที่ห้าแยกนี้ ทางประหลาดหน่อย เลี้ยวให้ถูกนะ ของเราเลี้ยวขวาเข้าซอยร่วมมิตรพัฒนา ตามลูกศรสีแดง ที่ผมลากให้ดูนะ
ซอยร่วมมิตรพัฒนาเป็นซอยใหญ่ ที่ปากซอยจะดูโล่งๆ ไม่คึกคักเท่าไร แต่ดันไปคึกคักแถวๆกลางซอยถึงปลายซอย เพราะแถวด้านในมันมีหมู่บ้านเยอะ และมีที่ทางให้พัฒนาทำเป็นตลาดเป็นร้านค้า ก็เลยเจริญกว่าปากซอยอย่างที่เห็น
พ้นแนวช่วงปากซอย จะเริ่มมองเห็นเขตชุมชนกลางซอยอยู่ลิบๆ
เข้าเขตกลางซอย แถวนี้มีพวกทาวน์โฮมกึ่งอาคารพาณิชย์ และอาคารพาณิชย์ เปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และทำการค้ากันคึกคัก
ตลาดจินดา ที่เปิดประมาณตี 4 ปิดประมาณ 3 ทุ่ม เป็นที่เน้นของกินเลยนะ ทั้งร้านค้าแผงขายของเยอะแยะคึกคัก รวมถึงร้านขายยา มินิมาร์ท ที่เปิด 24 ชม แถวนี้ เราเดินมาไม่ไหว เพราะอยู่ห่างจากหน้าโครงการมาร่วม 700 เมตร คงต้องขี่จักรยาน หรือนั่งรถมาจะสบายกว่าเยอะ เพราะเชื่อว่า มาตลาดนี่ ต้องได้หิ้วของกินกลับบ้าน ไม่มากก็น้อยนะ ตอนเย็นๆ จะคึกคักมาก พ่อค้าแม่ค้ามาขายของกินกันมากทีเดียว
พอพ้นเขตตลาดกลางซอยที่ค่อนข้างวุ่นวายแนวร้านค้าขายของมา เราจะเจอกับบรรยากาศ ที่เปลี่ยนเป็นคนละเรื่อง เพราะซ้ายขวาของถนนจะเป็นหมู่บ้านล้วนๆ ที่เห็นตรงจุดนี้คือ Noble Geo ด้านซ้ายครับ เยื้องไปข้างหน้าหน่อยขวามือจะเป็นหมู่บ้าน Noble Wana
ข้อดีคือ จากจุดนี้ไปจนถึงปลายซอย จะไม่ค่อยวุ่น และมี รปภ ยืนเฝ้าหน้าหมู่บ้านใครหมู่บ้านมัน ไปตลอด ซอยนี้เป็นซอยตัน จึงไม่มีรถจากที่อื่นวิ่งเข้ามาใช้เป็นทางลัด ความปลอดภัยและความสงบ เลยมากหน่อย เมื่อเทียบกับซอยอื่นๆที่ทะลุทะลวงเชื่อมโยงกันได้ในย่านนี้
ขวามือเป็นทางเข้าหมู่บ้านมัณฑนา วัชรพล-รามอินทรา 1 และ 2 และก็มีหมู่บ้านสิรีนเฮ้าส์อีกด้วย เยอะจริงๆ 😀
เราตรงไปเรื่อยๆนะครับ ไม่ต้องกลัวหลงหรือเลย เพราะโครงการอยู่สุดซอยพอดี ขวามือจะเจอกับโครงการ Proud Place
และก็เจอโครงการ Plex วัชรพลที่จะอยู่เยื้องกับโครงการเราแล้ว
มาถึงทางเข้าโครงการแล้วครับสุดซอยพอดี อยู่ทางขวามือ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ
ผมลองทำแผนที่ขอบเขตของโครงการให้ดู และรวมถึงขอบเขตของโครงการเพื่อนบ้านในซอยร่วมมิตรพัฒนา ว่ามีจำนวนคนอยู่อาศัยในซอยนี้หลายครัวเรือนเช่นกันไม่ต้องกลัวเปลี่ยว โดยด้านหน้าของโครงการทิศเหนือ ตรงข้ามจะเป็นโครงการ Plex วัชรพล และก็มีที่ดินเปล่าผืนใหญ่อยู่ข้างๆ ส่วนทางฝั่งทิศตะวันออกทั้งหมด เป็นที่ดินเปล่าผืนใหญ่มากๆยังไม่มีการพัฒนาใดๆซึ่งอนาคตยังไม่แน่ว่าจะมีโครงการเกิดใหม่ขึ้นอีกรึเปล่า เนื่องจากผืนที่ดินมันมีมากพอทำให้พัฒนาเป็นโครงการขัดสรรขนาดใหญ่ได้ ส่วนด้านท้ายโครงการฝั่งทิศใต้ติดกับรั้วกำแพงโครงการเลยจะเป็นลำรางจรเข้บัว ข้ามไปจะเป็นหมู่บ้านสิรีน เฮ้าส์ สุดท้ายฝั่งทิศตะวันตกติดกันจะเป็นโครงการเพื่อนบ้าน Proud Place วัชรพลนั่นเองครับ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- ตลาดจินดา ประมาณ 800 m.
- Neighbour ประมาณ 1.3 km.
- Plearnary Mall ประมาณ 2.4 km.
- ตลาดถนอมมิตร ประมาณ 2.6 km.
- เสถียรธรรมสถาน ประมาณ 3 km.
- Tesco Lotus ประมาณ 3.3 km.
- Venice Di Iris ประมาณ 3.6 km.
- BigC Market ประมาณ 4 km.
- ตลาดออเงิน, สนง.เขตสายไหม ประมาณ 4.9 km.
- ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ประมาณ 5.4 km
- BigC Extra ประมาณ 6.1 km.
- เซ็นทรัล พลาซา รามอินทรา ประมาณ 7 km.
- แฟชั่นไอส์แลนด์ ประมาณ 7.9 km.
โครงการ The Ricco Town วัชรพล เป็นโครงการทาวน์โฮม 2 ชั้น รวมจำนวนหลังทั้งหมด 245 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 24-2-39.5 ไร่ สามารถเข้า-ออก ได้ทางเดียวคือซอยร่วมมิตรพัฒนา เป็นโครงการที่แล้วเสร็จประมาณ 85% โดยไล่ก่อสร้างจากด้านหน้าที่ติดกับถนนใหญ่ไปจนด้านหลังโครงการที่ติดกันเป็นลำรางจรเข้บัว ในส่วนที่สร้างเสร็จแล้วนั้น โอนกรรมสิทธิ์แล้วก็มีลูกบ้านอาศัยอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง
การวางผังโครงการจากทางเข้าหลักวางตรงกลางโครงการ มีความกว้าง 12 เมตร ถ้าเข้ามาลึกหน่อย ถนนเมนจะลดลงเหลือ 10 เมตร จากป้อมยามมีไม้กระดกระบบอัตโนมัติ พร้อมกล้อง CCTV 2 ตัวในทางเข้าและทางออกโครงการ และบริเวณถนนหลักของโครงการ สองฝั่งเป็นต้นไม้ปลูกยาวตามริมรั้วบ้าน ในส่วนของ Club House และสวนหย่อมใหญ่ จะอยู่กลางโครงการ ทำให้ลูกบ้านทั้งด้านหน้าและด้านหลังใช้ได้สะดวก Club House เป็นอาคารสูงชั้นเดียวยกสูงจากพื้นถนน ซึ่งด้านในประกอบไปด้วย พื้นที่นั่งพักผ่อน, ห้องน้ำชาย-หญิง, Fitness และบริเวณกลางแจ้งจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือคลอรีนที่แบ่งเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ในพื้นที่เดียวกัน อีกฝั่งนึงจาก Club House นั้นเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่(พื้นที่สีเขียวภายในโครงการทั้งหมดประมาณ 1 ไร่)
จากนั้นก็จะเป็นพื้นที่อาศัยส่วนด้านหลัง ความกว้างของซอยมีความกว้าง 9 เมตร ตัวบ้านวางตำแหน่งทิศเหนือและทิศใต้หันหน้าเข้าหาถนนย่อย ภายในซอยมีไฟส่องสว่างตามถนนทั่วถึง ทำให้ไม่มืดหรืออันตรายในช่วงกลางคืน และมีเลขป้ายซอยย่อยบอกระหว่างซอยด้วย
เนื่องจากโครงการเป็นหมู่บ้านที่เปิดขายมาตั้งแต่ปี 2555 ทำให้ยูนิตที่เหลือของโครงการจะเป็นในส่วนของด้านหน้าโครงการ อาจจะดูพลุกพล่านไปบ้าง เพราะมีจำนวนเพื่อนบ้านที่เข้าออกมากกว่าด้านหลัง สำหรับโครงการนี้ที่มียูนิตไม่เยอะนักจึงไม่มีวงเวียนกลับรถ เพราะสามารถกลับรถตามซอยได้ ต่อมาในส่วนของรอบรั้วโครงการที่ติดกับพื้นที่ข้างเคียงมีความสูงประมาณ 2.5 เมตร เป็นกำแพงทึบ
ทางซ้ายมือของซุ้มทางเข้าโครงการ มีป้ายชื่อของโครงการติดอยู่ รอบๆบริเวณจะปลูกเป็นสวนพุ่มไม้เตี้ยๆ
ซุ้มมีหลังคากันฝนฝั่งเดียวคือทางด้านซ้าย(ฝั่งทางเข้า) ตรงกลางเป็นป้อมรปภ.
ป้อมพี่รปภ.ขนาดปานกลางอยู่ประจำกันได้สองคนมาตรฐาน
ด้านข้างป้อมพี่รปภ.มีกล้อง CCTV ส่องคนขับในระยะใกล้ ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการใช้แบบรั้วไม้กระดกระบบอัตโนมัติ โดยการเข้า – ออกเป็นแบบ สติกเกอร์ ส่วนรถที่เป็นแขกลูกบ้านก็จะต้องทำการแลกบัตรกับพี่ยาม แล้วก็จะได้ใบกระดาษมาเพื่อจะต้องแสตมป์และยื่นให้พี่ยามในขาออก ซ้ายมือมีช่องเลนของรถจักรยานยนต์
ด้านข้างของซุ้มทางเข้าโครงการทั้งฝั่งซ้ายและขวา มีทางสำหรับเดินเท้าเข้า-ออกได้
เข้ามาที่โครงการแล้วถนนเมนของโครงการช่วงด้านหน้าจะกว้างประมาณ 12 เมตร ถ้าเข้าไปลึกๆหน่อย ถนนเมนจะลดลงเหลือ 10 เมตร ในส่วนที่สร้างเสร็จแล้วนั้น โอนกรรมสิทธิ์แล้วก็มีลูกบ้านอาศัยอยู่แล้วจำนวนหนึ่ง จะเห็นว่ามีลูกบ้านบางส่วนนำรถมาจอดริมข้างทางที่ถนนเมนแบบนี้ ต้องให้นิติมีการควบคุมดูแลในส่วนนี้ ไม่งั้นช่วงเช้าเย็น เวลารถเข้าออกเยอะๆจะลำบากหน่อย
หันไปทางขวามือเป็นที่ตั้งของ Sale Office บ้านหลังที่สองที่มีรถกอล์ฟจอดอยู่หน้าบ้าน กลุ่มบ้านด้านหน้าโครงการ ชุดนี้ เป็นสำนักงานขายและบ้านตัวอย่างให้ลูกค้าดูครับ ซึ่งเขาทำให้ดูทั้งแบบบ้านเปล่าสภาพเดียวกับที่ลูกค้าจะได้ และ บ้านที่ตกแต่งจัดเต็มให้ดูเป็นไอเดียว่า บ้านแบบนี้แต่งยังไง
หันมาทางซ้ายมือจะเจอกับสวนหย่อมที่ติดกับรั้วกำแพงด้านหน้าโครงการ เราแวะเข้าไปดูกันหน่อย
สวนขนาดไม่ใหญ่มาก มีทางเดินภายในระหว่างสนามหญ้า และเป็นที่ตั้งของศาลพระภูมิให้แก่ลูกบ้านครับ
รอบๆต้นไม้บางส่วนทำเป็นเก้าอี้นั่งแบบนี้
ถนนซอยภายในโครงการกว้างประมาณ 9 เมตร ช่วงต้นๆโครงการก็มีลูกบ้านอยู่อาศัยกันหลายหลังแล้ว
มาถึง Club House ของโครงการซึ่งอยู่ใจกลางโครงการ เป็นอาคารชั้นเดียว การตกแต่งในสไตล์ Modern ใช้ระแนงสีน้ำตาลตกแต่งตัดกับตัวอาคารที่เป็นโทนสีเทาเข้ม โดยรอบมีการตกแต่งด้วยต้นไม้ต่าง มีพื้นที่สีเขียวล้อมรอบ
สระว่ายน้ำเป็นแบบน้ำล้น มีรางระบายอยู่ด้านข้างปิดทับด้วยหินตกแต่ง
ทางขึ้นฝั่งถนนหลักครับ เป็นกระเบื้องหินสลับกับการปูหญ้า Club House จะยกพื้นสูงจากระดับถนนประมาณ 1 เมตร
เข้ามาแล้วทางซ้ายมือจะเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นพักผ่อน โดยรอบๆทำเป็นแบบกึ่งกลางแจ้ง ให้ลมและแสงแดดผ่านมาได้
ด้านข้างจะมีห้องน้ำแยกชายหญิงเอาไว้ให้ใช้
ภายในห้องน้ำ(ชาย) จะมีห้องน้ำ 2 ห้องและห้องอาบน้ำ 1 ห้องครับ มีช่องแสงและระบายอากาศมาให้
สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 20 ม. สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม. แบ่งสระเด็กลึก 3.5 x 4.5 ม. สะเด็กลึก 60 ซม.
ส่วนนี้เป็นส่วนทางลงของสระเด็ก ติดกันเป็นสระผู้ใหญ่คั่นเอาไว้ กระเบื้องสระเป็นโทนสีฟ้าอ่อนเข้มน้ำเงินสลับไปมา
พื้นที่อาบน้ำล้างตัวก่อนลงสระมีให้ 1 จุด เป็น Rain Shower กระกระเบื้องโมเสครอบๆ
ห้องฟิตเนสขนาดไม่ใหญ่มาก อยู่ติดกับสระว่ายน้ำ
ภายในห้องฟิตเนสพื้นปูกระเบื้อง ผนังเป็นกระจกเกือบรอบด้านเพื่อให้ได้รับวิวเต็มที่และดูไม่อึดอัด สามารถเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทได้ วางเครื่องออกกำลังกายไว้ 3 เครื่อง
สำหรับลูกบ้านที่ใช้รถเข็นก็มีทางขึ้นลงอีกฝั่งข้างๆห้องฟิตเนสด้วยนะครับ
เดินออกมาจากส่วน Club House ฝั่งตรงข้มจะเป็นพื้นที่ของสวน ตรงกลางของโครงการ
บริเวณสวนส่วนกลางภายในโครงการ จะมีทางเดินทรายล้างแบบนี้รอบๆทั้งหมด สามารถใช้เป็น jogging track ให้วิ่งรอบๆสวนได้
เข้ามาจะมีส่วนของลานอเนกประสงค์ใช้ทำกิจกรรมเล็กๆได้ และจะเห็นว่าระหว่างทางเดินจะมีไฟส่องสว่างให้
สวนนี้เค้าก็ลงต้นไม้ใหญ่ไว้ตามรอบๆทางเดินให้เยอะพอสมควรนะครับ ต้องรอออกใบเยอะๆกว่านี้คงจะร่มรื่นน่าดู
เดินถัดไปอีกหน่อยจะมีทางไปลานกว้างอีกจุด
ลานกว้างจุดนี้มีเก้าอี้คอนกรีตก่ออยู่หลายจุด เอาไว้สำหรับเป็นที่นั่งเล่นหรือจุดนัดพบก็ได้
คิดว่าถ้ามีไฟตามทางเดินเยอะขนาดนี้ตอนเย็นๆหัวค่ำมาเดินเล่น หรือวิ่งออกกำลังกายก็จะมองเห็นทางได้ชัดอยู่นะครับ 😀
สิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 20 ม. สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 ม. แบ่งสระเด็กลึก 3.5 x 4.5 ม. สะเด็กลึก 60 ซม.
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาดเล็ก ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 3 เครื่อง
- สวนสาธารณะภายในโครงการ ทุกจุกรวมกันประมาณ 1 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate 4 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 ม.
- สติ๊กเกอร์ลูกบ้าน
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- ถนนหลักกว้าง 12,10 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
แบบบ้าน Type A เป็นบ้านแบบ ที่ดินเริ่มต้น 20.60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ตัวบ้านหน้ากว้าง 5 เมตร บ้านที่ขายเป็นแบบบ้านเปล่า (แต่ปัจจุบันมีโปรโมชั่นมีแอร์ให้ 3 เครื่อง ต้องลองสอบถามกับทางเซลล์อีกทีนะครับว่าได้ถึงเมื่อไร)
เมื่อเข้าไปบริเวณแรกส่วนแรกที่จะเจอคือบริเวณที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดได้เต็มที่ 2 คัน จุดนี้ต้องระวังบริเวณเฉลียงทางเข้าหน่อยเวลาถอยรถเข้าบ้าน เมื่อเปิดประตูกระจกบานเลื่อนเข้าไป จะเจอกับส่วนห้องรับแขก ส่วนรับประทานอาหารที่สามารถเปิดประตูบานเลื่อนออกสู่บริเวณซักล้างหลังบ้านได้ และครัวที่ไม่ได้กั้นฉากมาให้ ห้องน้ำชั้นล่างตรงข้ามจะเป็นห้องเก็บของใต้บันได
ชั้น 2 ขึ้นไปจะมี 2 ห้องนอน ที่มีห้องน้ำในตัวทั้งสองห้อง แต่ห้องฝั่งหน้าบ้านเป็นห้องใหญ่ระเบียงด้านหน้าออกไปไม่เดินเล่นไม่ได้นะ แต่เอาไว้ใช้วางคอมแอร์และสำหรับงานซ่อมบำรุง
ชั้น 3 ขึ้นมาถึงจะเป็นห้องว่างเปล่าขนาดใหญ่ บ้านตัวอย่างจัดเป็น Master Bedroom ห้องใหญ่เต็ม Floor พร้อมทั้งมีพื้นที่นั่งเล่นดูทีวี นั่งทำงาน ที่ติดกันเป็นระเบียง ระเบียงค่อนข้างกว้าง สามารถปลูกสวนกระถางได้จริงจัง มีห้องน้ำในตัวอยู่ทางฝั่งหลังบ้านครับ ข้อดีของแปลนบ้านแบบนี้คือได้อารมณ์รู้สึกโปร่งโล่ง สบายตาไม่อึดอัด แต่การอยู่อาศัยจริงถ้ากลางวันอาจจะต้องเปิดแอร์ และด้วยพื้นที่กว้างขนาดใหญ่ที่ไม่มีกั้นฉากเป็นส่วนแบบนี้คงจะต้องเปลืองแอร์เป็นแน่
หน้าตาภายนอกของบ้านตัวอย่าง Type A แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ บ้านนี้เป็นแปลงมุมนะถ้าใครเลือกแปลงมุมจะมีเนื้อที่ดินเยอะหน่อยเหมาะสำหรับปลูกสวนข้างบ้านได้ ตัวบ้านก่อด้วยอิฐมวลเบา ปัจจุบันแบบบ้าน Type A มีการปรับเปลี่ยนโทนสีอาคารเป็นสีเทาแทน(ดูรูปถัดไป)
หน้าตาบ้านเปล่ามาตรฐานของจริงปัจจุบันจะเป็นแบบนี้ ถ้าสังเกตุดีๆนอกจากมีการปรับเปลี่ยนเรื่องของโทนสีภายนอกอาคาร ยังมีอีก 2 จุดด้วยนั่นคือ หน้าต่างที่ชั้น 2 จะมีความสูงเพิ่มมากขึ้น ทำให้ได้แสงส่องได้มากขึ้น และบริเวณระเบียงชั้น 3 เดิมจะเป็นโครงเหล็กโปร่งกันตก ปัจจุบันจะเป็นกระจกนิรภัยแทน นอกจากจะหล่อขึ้นแล้วก็ยังช่วยกรองแสงแดดเพิ่มได้อีกระดับนึงด้วย
มาดูบ้านจริงกันก่อนสักหน่อยเพราะจะได้เห็นทางเข้าบ้านที่มีประตูรั้วซึ่งบ้านตัวอย่างไม่มี
หน้าตาของตู้จดหมายที่มีสลักชื่อโครงการและเลขที่บ้านเอาไว้ ด้านข้างของตัวบ้านจะมีกริ่งและไฟกิ่งส่องสว่างให้
บานประตูเป็นแบบเหล็กโปร่งข้อพับออก 2 ตอน ผมลองเปิดออกให้ดูจะเป็นแบบนี้ ทางเข้าตัวบ้านจะยกสูงขึ้นมาจากถนนซอยภายในโครงการเล็กน้อย และเป็นทางสโลฟ พื้นที่จอดรถจอดได้ 2 คัน
บริเวณที่จอดรถ จะมีไฟส่องสว่างให้ 2 ดวงนะครับประตูทางเข้าเป็นบานกระจกบานเลื่อน วงกบไวนิลสีขาว พื้นส่วนที่วางรองเท้ายกระดับขึ้นไปจากส่วนที่จอดรถ และพื้นบ้านก็ยกไปอีกระดับนึง ช่องแสงด้านซ้ายมือที่เราเห็นเป็นช่องแสงของทางขึ้นบันได จุดนี้ขอแนะนำเพิ่มเติมนิดนึงเรื่องการถอยรถยนต์จอดเข้าบ้านนะครับ ด้วยความกว้างของเฉลียง(พื้นที่วางรองเท้า)จะกว้างแค่ประมาณ 60 ซม. เพราะฉะนั้นเวลาใครถอยรถเข้าต้องเผื่อระยะให้ดีนะครับ
ทางขวามือมีก๊อกน้ำสำหรับงานทั่วไปให้ 1 จุด สังเกตดีๆรอบๆจะมีรางระบายน้ำ ซึ่งสโลปไปออกถึงถนนด้านหน้าบ้าน
เข้ามาในบ้านแล้วจะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่นรับแขกก่อน ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานคือ 2.75 เมตร ตัวพื้นชั้นล่างจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ไซส์ 60 cm. ระยะห่างในการนั่งดูทีวีประมาณ 3 เมตร
หน้าตาบ้านเปล่ามาตรฐานของจริงภายในจะเป็นแบบนี้ จะมีบัวพื้นไม้มาให้ ไฟเพดานของจริงจะได้เป็นโคมซาละเปานะครับ
ด้านขวามือโซนวางโซฟา พื้นที่ค่อนข้างเหลือเยอะ เพราะบ้านตัวอย่างเลือกโซฟาแบบสองที่นั่งมาวาง ซึ่งบ้านหลังนี้สามารถมีสมาชิกภายในครอบครัวได้ 3-5 คน เราสามารถเลือกโซฟาที่ไซส์ใหญ่แบบครอบครัวกว่านี้ได้สบาย หรือใครที่ไม่ชอบเก็บรองเท้านอกบ้านก็สามารถทำตู้ Built-In ที่เก็บด้านข้างใกล้ๆกับประตูทางเข้าก็ได้นะครับ
พื้นที่วางทีวีจะอยู่ระหว่างทางขึ้นบันได กับทางเข้าห้องน้ำ ด้วยระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตร เราสามารถเลือกทีวีไซส์ประมาณ 50 นิ้วขึ้นไป เพื่อเวลาดูทีวีจะได้ไม่ต้องเพ่งนะครับ
ตำแหน่งของห้องเก็บของจะอยู่ใต้บันไดทางขึ้นพอดี (ประตูทางซ้ายมือ) ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นทางเข้าห้องน้ำ
หน้าตาประตูห้องเก็บของเป็นแบบนี้ ภายในเป็นพื้นคอนกรีตขัดมันธรรมดา
ภายในห้องน้ำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ เป็นแบบ Powder Room ไม่สามารถอาบน้ำได้ ตัวพื้นห้องน้ำลดระดับลงมาประมาณ 5 ซม. อ่างหน้าหน้า, สุขภัณฑ์ โครงการเลือกใช้ของ Nahm ส่วนก็อกใช้ของ VRH สังเกตที่ผนังบริเวณนี้จะติดที่แขวนผ้าเช็ดมือให้ด้วย
มุมสุดด้านหลังของบ้านเป็นส่วนของโต๊ะรับประทานอาหาร มีช่องแสงธรรมชาติจากประตูกระจกบานเลื่อนด้านหลังบ้าน ช่วยเพิ่มความสว่างให้กับส่วนนี้ด้วย สำหรับแปลงมุมจะมีหน้าต่างบานเลื่อนด้านข้างบ้านบริเวณนี้ อีกบานหนึ่งอีกด้วย
พื้นที่รับประทานอาหารถ้าเราหันโต๊ะแนวขวางแบบนี้ จะได้โต๊ะแบบสี่ที่นั่ง แต่ถ้าอยากได้โต๊ะแบบที่นั่งเยอะกว่าให้หันเป็นแนวนอนเอาครับ มีพื้นที่เหลือเป็น 6 ที่นั่งยังได้
ด้านหลังทางเดินออกประตูหลังระยะทางเดินยังเหลือกว้างประมาณ เกือบ 1 เมตร
บริเวณครัวนี้จะอยู่ในตัวบ้าน ด้านหลัง ตรงข้ามกับส่วนรับประทานอาหาร ซึ่งโครงการ Built-in เป็นไอเดียให้ดูเป็นตัวอย่าง
ซึ่งบ้านเปล่ามาตรฐานของจริงจะเป็นแบบนี้นะครับ เดินแค่ท่อน้ำดีไว้ให้
ผนังฝั่งหลังบ้านมีหน้าต่างบานเลื่อนช่องแสงเอาไว้ให้ 1 จุด ถ้าจะทำครัวเอง การวางตำแหน่งอ่างล้างจานไว้ติดกับหน้าต่างนี้ถือว่าดีนะ เพราะสามารถระบายความชื้นและอากาศถ่ายเทได้ดี
ทางออกไปยังลานหลังบ้าน ตัวพื้นต่ำกว่าระดับตัวบ้านประมาณ 12 ซม. เวลาเข้า-ออก ก็ระวังสะดุดกันหน่อยนะครับ หรือยังไงถ้าไม่เสียเวลาเราทำสเต็ปเพิ่มอีกขั้นนึงเองเลยก็ได้ครับ
ด้านซ้ายมือบริเวณมุมหลังบ้าน วางแทงค์น้ำ 1,000 ลิตร และเครื่องปั้มน้ำ Hatachi 250w จากตรงนี้มองเห็นกระจกบานเลื่อนเล็กๆ ของครัวด้วย
จากบริเวณลานซักร้านหลัง เงยหน้ามองขึ้นไปด้านบนส่วนนอกอาคาร จะมีไฟส่องสว่างหลอดนีออนให้ดวงนึง และด้านบนเป็นพื้นที่สำหรับวางคอมแอร์
กลับมายังทางขึ้นบันไดชั้น 2 บริเวณส่วนหักมุมของบันได ชานพักเป็นสี่เหลี่ยม ซึ่งจะปลอดภัยกว่าแบบสามเหลี่ยม บริเวณบันไดมีช่องแสงเล็กๆ อยู่ด้วย ช่วยเพิ่มแสงบริเวณบันไดได้ เอาเข้าจริงเปิดไฟช่วยด้วยจะดีกว่านะครับ พื้นบันไดเป็นไม้ประสานแผ่นสำเร็จ พอพ้นชานพักบันไดแรกไปจะมีมือจับกันตกให้ แต่ว่าตรงไฟซ่อนบริเวราวบันไดนี่ไม่ได้ติดให้ครับ
พอขึ้นมาเกือบถึงชั้นสอง จะเจอชานพักอีกจุดนึงแต่รอบนี้ ต้องหั่นเป็นสามเหลี่ยมลดระดับแบบนี้ครับ เวลาเดินขึ้นลง ก็อย่ารีบ ระวังๆหน่อย ส่วนพื้นชั้นบนนี้เป็นลามิเนต 8 mm. โทนสีของพื้นจะเข้มออกแดงเล็กน้อยกว่าพื้นบันได
ก้มลงไปมองรูปแบบชานพักให้เห็นเต็มๆอีกทีครับ
ขึ้นมาแล้วทางซ้ายมือเป็นห้องนอนเล็ก(ติดกับฝั่งหลังบ้าน) และประตูตรงกลางเป็นห้องนอนใหญ่กว่า(ฝั่งหน้าบ้าน) ส่วนทางขวามือเป็นช่องทางเดินขึ้นบันไดไปชั้น 3 เดี๋ยวเราไปดูห้องทางซ้ายมือห้องนอนเล็กกันก่อน
ภายในห้องนอน โครงการจัดวางเป็นห้องนอนเล็กให้ดูตำแหน่งการวางเฟอร์นิเจอร์เป็นไอเดีย เพราะบ้านที่ขายจริงๆ เป็นแบบบ้านเปล่า ภายในห้องวางเตียงไซส์ 3 ฟุตครึ่งเอาไว้ หน้าต่างช่องแสงเป็นกระจกบานเลื่อนขนาดไม่ค่อยใหญ่เท่าไร
ระยะปลายเตียงห่างไปจนถึงผนังประมาณ 1.2 เมตร
ระยะด้านข้างเตียงฝั่งขวาเหลือประมาณ 55 cm. ส่วนฝั่งซ้ายจะเหลือเยอะหน่อย
พื้นที่ฝั่งนี้เหลือพอที่สามารถจะทำตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอ่านหนังสือแบบนี้ได้เลย
ภายในห้องนอนเล็ก มีฟังก์ชั่นพื้นที่อาบน้ำเพิ่มขึ้นมา ขนาดไม่ใหญ่มาก ใกล้ๆกับพื้นที่อาบน้ำจะมีหน้าต่างบานเลื่อนช่องแสงที่สามารถระบายอากาศและความชื้นได้ แต่วัสดุอุปกรณ์เหมือนห้องน้ำชั้นล่างทุกอย่างไม่ขออธิบายซ้ำนะครับ ตัวของห้องน้ำถูกลดระดับลงมาจากห้องนอนประมาณ 5 ซม. ตัวธรณีจบเป็นลามิเนตที่เชื่อมมาจากห้องนอน
ขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.8 x 1.6 เมตร ลดระดับลงมาอีกประมาณ 2 ซม. เราไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำมานะ แนะนำให้ติดเพิ่มเองไปเลยถ้างบเยอะหน่อยก็เป็นกระจกนิรภัยไปเลยครับ ด้านข้างฝักบัวมรพื้นที่วางวบู่ก้อนและชั้นวางกระจกของใช้มาให้
ส่วนชุดฝักบัวเป็นของ VRH แต่หัวฝักบัวเล็กไปหน่อยนะ
ออกจากห้องนอนเล็ก ไปดูอีกห้องนอนฝั่งหน้าบ้านกันบ้าง ห้องนอนนี้ขนาดใหญ่กว่าพอสมควร โดยสามารถวางเตียง King Size ได้เลย
บ้านเปล่าของจริงจะเป็นแบบนี้ครับ
ระยะปลายเตียงเหลือเยอะมาก เดินไปมาได้สะดวก ทางโครงการเลยจัด Built-In ชุดโต๊ะอ่านหนังสือทำงานเต็มผนังไปเลย ห้องนี้ได้แสงสว่างจากธรรมชาติค่อนข้างเยอะดีนะครับ
มุมนี้สามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่ทำตู้เสื้อผ้าได้เลย ถ้าอยากใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด เราสามารถ Built-In ชั้นวางติดผนังเพิ่ม เป็นชั้นวางของได้หมด
ให้ดูระยะด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่ง เราสามารถหาโต๊ะหัวเตียงมาวางได้ทั้งสองฝั่งแบบสบายๆ
หน้าต่างช่องแสงภายในห้องนอน เริ่มจากฝั่งซ้ายมือจะเป็นบานกระทุ้งที่อยู่ติดกับผนัง ส่วนขวามือจะเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน
แอบลองยกผ้าม่านดูจริงๆมุมนี้ เป็นหน้าต่างกระจกเข้ามุมนะครับ ถ้าเราติดตั้งม่านดีๆ เวลานอนเราสามารถเห็นมุมมองที่ดูมีมิติกว้างขึ้น
ด้านนอกเป็นที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์ โดยเวลาออกไปซ่อมบำรุงก็ปีนหน้าต่างบานเลื่อนออกไปนี่ละ บริเวณนี้จะมีระแนงเหล็กบังคอมแอร์จากสายตาหน้าบ้านไว้ส่วนนึง
ห้องน้ำภายในห้องนอนฟังก์ชั่นการใช้งานก็เหมือนๆกันกับห้องก่อนหน้า
พื้นที่อาบน้ำห้องนี้จะกว้างกว่านิดหน่อยประมาณ 0.85 x 1.55 เมตร
ออกจากห้องนอน ซ้ายมือจะเป็นทางเข้าไปบันไดขึ้นชั้น 3 ไม่มีหน้าบานนะครับจะเป็นแบบนี้เลย พอเข้ามาแล้วทางขึ้นช่วงแรกจะเจอกับชานพักบันไดที่หั่นออกเป็นสามเหลี่ยมประมาณ 3 ขั้น หลังจากนั้นถึงจะราวมือจับกันตก
ขึ้นมาเกือบถึงชั้น 3 ชานพักบริเวณทำออกมาได้ดีเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส
ขึ้นมาที่ชั้นบนสุดแล้ว โดยโครงการจัดเป็น Bedroom ขนาดใหญ่ที่เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นที่ติดกันเป็นระเบียง อย่างที่บอกไปตอนต้น ข้อดีคือได้อารมณ์รู้สึกโปร่งโล่ง สบายตาไม่อึดอัด แต่การอยู่อาศัยจริงถ้ากลางวันอาจจะต้องเปิดแอร์ และด้วยพื้นที่กว้างขนาดใหญ่ที่ไม่มีกั้นฉากเป็นส่วนแบบนี้คงจะต้องเปลืองแอร์เป็นแน่ แนะนำว่าให้กั้นฉากเป็นพวกประตูกระจก หรือ ฉากกั้นกระจกทั้งหลายก็ได้ครับเพื่อความสวยงามและประหยัดแอร์ด้วย
พื้นที่การใช้งานของจริงจะเป็นโล่งๆแบบนี้นะครับ ให้เราเลือกจัดฟังก์ชั่นในการวางแปลนมุมการใช้งานได้ตามใจชอบ หรืออยากทำแบบตามไอเดียวบ้านตัวอย่างก็ได้นะ
พื้นที่จากปลายเตียงไปจนถึงผนังกั้นกันตกบันไดมีระยะห่างพอสมควร ถึงขนาดทำเป็นชั้นวางของแบบนี้ก็ยังเดินไปมาได้สบาย
พื้นที่นั่งเล่นที่เชื่อมต่อติดกันกับส่วนเตียงนอน ค่อนข้างกว้าง และได้อานิสงค์แสงธรรมชาติช่างประตูกระจกทางออกไปยังระเบียง
ระยะด้านนี้ถ้าวางโซฟาคงได้แบบ 2 ที่นั่งพอดีๆไม่อึดอัดมาก
ส่วนฝั่งตรงข้ามบ้านตัวอย่างจัดไว้เป็นมุมโต๊ะนั่งทำงานแบบนี้
ประตูกระจกบานเลื่อนเป็นสีเขียวตัดแสง รอบไวนิลสีขาว มองออกไปยังระเบียงพื้นที่ค่อนข้างใหญ่เลยล่ะ
ตัวระเบียงความสูงลดระดับลงประมาณ 6 ซม. เผื่อเวลาฝนตกน้ำขังเล็กน้อยจะได้ไม่กระเด็นเข้ามาในส่วนของตัวบ้าน
ระเบียงนี่กว้างมาประมาณ 1.7 เมตร พื้นที่ระเบียงสามารถทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น จิบชาชิวๆได้ หรือจะทำเป็นสวนกระถางเพิ่มสีเขียวให้แก่สายตาก็ได้นะครับ
กลับเข้ามาในห้อง บริเวณฝั่งใกล้หน้าต่างช่องแสงที่ติดกับผนังหลังบ้าน ยังมีพื้นที่สำหรับวางชั้นตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้ ฝั่งตรงข้ามกันจะเป็นห้องน้ำ
Function โดยรวมเหมือนกับห้องด้านล่าง แต่จะมีผนังยื่นออกมากั้นส่วนอาบน้ำให้นิดหน่อย แต่กระจกกั้นส่วนอาบน้ำแบบครึ่งบานนั้น โครงการไม่ได้ติดตั้งให้นะครับ ขวามือจะมีหน้าต่างบานเลื่อนระบายอากาศ และที่แขวนผ้าเช็ดตัว ตำแหน่งตรงข้ามโถสุขภัณฑ์
ชุดอ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ หัวก๊อกต่างๆเหมือนเดิม
พื้นที่อาบน้ำห้องนี้ค่อนข้างใหญ่กว่าห้องอื่นหน่อยคือประมาณ 0.9 x 1.65 เมตร โดยชุดฝักบัวเหมือนกัน ข้างๆมีที่วางสบู่ก้อนเล็กๆเอาไว้ให้ขวามือ ส่วนทางซ้ายมือมีชั้นวางของใช้กระจก 2 ชั้น ด้านหลังเตรียมสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้แล้ว
แบบบ้าน Type B เป็นบ้านแบบ ที่ดินเริ่มต้น 20.60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ตัวบ้านหน้ากว้าง 5 เมตร บ้าน Type นี้แปลนชั้น 1 และชั้น 2 คล้ายกับ Type A เลยครับ แต่ชั้นสองไม่ได้มีประตูก่อนขึ้นบันไดนะ ส่วนที่แตกต่างจากบ้าน Type A อย่างเห็นได้ชัดอีกอย่างนึง คือ แปลนชั้น 3 จะมี 2 ห้องนอนแทนที่จะเป็น Master Bedroom เหมือน Type A แต่ Master Bedroom ของห้องนี้ย้ายไปอยู่ชั้น 2 แทน(ฝั่งหน้าบ้าน) และห้องนอนชั้น 3 ใช้ห้องน้ำร่วมกันที่โถงทางเดินครับ
บ้านตัวอย่างของ Type B เป็นแปลงมุมเหมือนกัน ซึ่งอยู่ติดกับ Sale Office ด้านหน้าโครงการนั่นเอง โทนสีภายนอกอาคารใช้สีครีมอ่อนกับน้ำตาลกันกัน นอกนั้นหน้าตาภายนอกเหมือนกับ Type A เป๊ะเลย ต่างแค่ฟังก์ชั่นภายใน
ใครที่เลือกซื้อแปลงมุมจ็จะมีพื้นที่จัดสวนด้านข้างบริเวณนี้นะครับ
บริเวณที่จอดรถ จะมีไฟส่องสว่างให้ 2 ดวงนะครับประตูทางเข้าเป็นบานกระจกบานเลื่อน วงกบไวนิลสีขาว พื้นส่วนที่วางรองเท้ายกระดับขึ้นไปจากส่วนที่จอดรถ และพื้นบ้านก็ยกไปอีกระดับนึง เหมือนกันกับหลังแรก ต่างกันที่ว่าหน้าต่างช่องแสงด้านขวามือที่เราเห็นจะเล็กกว่าเท่านั้น
เข้ามาจะเจอกับส่วนของพื้นที่นั่งเล่นรับแขกก่อน ระยะดูทีวีประมาณ 3 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้
บ้านเปล่ามาตรฐานของจริงหน้าตาเช่นนนี้(กลับด้านกับบ้านตัวอย่าง)
พื้นที่วางโซฟา สามารถเลือกจัดหามาวางได้ 3-5 ที่นั่ง ถ้าเอาโต๊ะชั้นวางของด้านข้างออก
มุมนี้ก็มีพื้นที่เหลือพอให้เราทำโต๊ะทำงานเล็กๆได้นะครับ
ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่สำหรับทำชั้นวางทีวี ด้านหลังเป็นส่วนของทางขึ้นบันได บ้านแบบนี้ไม่ได้ทำผนังปิดทึบมาให้เหมือนกับแบบแรก ทางขวามือเป็นทางขึ้นบันได ส่วนซ้ายมือมีห้องเก็บของใต้บันไดและฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำ
ตำแหน่งห้องเก็บของและห้องน้ำเหมือนกับแบบแรก
ภายในห้องน้ำเป็นแบบ Powder Room ไม่มีฟังก์ชั่นพื้นที่อาบน้ำ
ถัดมาโซนรับประทานอาหารที่เชื่อมติดกันกับพื้นที่นั่งเล่น โดยบ้านตัวอย่างวางโต๊ะแบบ 4 ที่นั่งเอาไว้
พื้นที่รอบๆโต๊ะเหลือให้เดินได้ตามปกติครับ ถ้าใครเลือกแปลงมุม ก็จำได้หน้าต่างช่องแสงจากผนังด้านข้างบ้านเพิ่มมาอีกจุด ส่องสว่างบริเวณทานข้าวได้พอดี
ประตูกระจกบานเลื่อนทางออกไปพื้นที่หลังบ้าน
บ้านตัวอย่างเค้าทำครัวให้เป็นครัวเปิด โดยกั้นฉากกระจกวงกบอลูมิเนียมเป็นแบบนี้ เพื่อให้ดูเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น แล้วเวลาประกอบอาหารกลิ่นจะได้ไม่เข้ามารบกวนถึงส่วนพื้นที่นั่งเล่นด้วยครับ เอาไปใช้เป็นไอเดียได้นะ
ครัวบ้านตัวอย่างตำแหน่งไอเดียการทำตู้ เทียบกับบ้านมาตรฐาน
พื้นที่ครัวเนี่ยถ้าเราไม่ทำตู้ชั้นเก็บของ ชั้นวางหมด เราสามารถทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์ เล็กๆแบบนี้ เอาไว้สำหรับเป็นพื้นที่จัดเตรียมอาหาร จัดเตรียมเครื่องดื่มได้
ทางขึ้นบันไดตอนแรก เป็นชานพักสี่เหลี่ยมจตุรัสขึ้นลงได้ง่าย เหยียบได้เต็มเท้า ผนังด้านข้างมีหน้าต่างช่องแสงแบบ Fix บานเล็กๆมาให้
แต่พอขึ้นมาเกือบถึงชั้นสอง ชานพักจะมีกานหั่นซอยเป็นสามเหลี่ยมขั้นๆแบบนี้ เวลาขึ้นลงก็ระวังหน่อยนะครับ
ขึ้นมาชั้นบนแล้ว ประตูทางฝั่งขวามือเป็นส่วนของห้องนอนเล็ก(ชิดหลังบ้าน) ส่วนซ้ายมือเป็น Master Bedroom(ชิดหน้าบ้าน) ทั้งคู่มีห้องน้ำในตัวทั้งคู่ เราไปดูห้องนอนเล็กกันก่อน
บ้านตัวอย่างหลังนี้เค้าไม่ได้จัดห้องนี้เอาไว้เป็นห้องนอนนะครับ เผื่อว่าใครมีจำนวนสมาชิกไม่ถึง เราก็สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานได้ ห้องนี้นั่งเป็นห้องนั่งเล่นทำงานอ่านหนังสือแทน
เลือกพื้นที่ทำโต๊ะทำงานอ่านหนังสือบริเวณหน้าต่างช่องแสงพอดี จะได้อานิสงค์แดดธรรมชาตเวลากลางวัน ส่วนพื้นที่ด้านข้างก็เหลือพอทำเป็นตู้ชั่นเก็บหนังสือได้
ภายในมีห้องน้ำขนาดปานกลางและฟังก์ชั่นใช้งานมาตรฐานครบ ผนังกรุกระเบื้องรอบ มีหน้าต่างช่องแสงระบายอากาศให้ พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 0.8 x 1.6 เมตร
ส่วนห้องนอน Master Bedroom ที่อยู่ฝั่งหน้าบ้านจะเหมือนกับห้องนอน Type A ก่อนหน้าเลย แม้กระทั่งตำแหน่งของบานหน้าต่างต่างๆ
ห้องไซส์นี้สามารถวางเตียง King Size ได้โดยที่มีพื้นที่ด้านข้างหัวเตียงเหลือทั้งสองฝั่งเดินไปมาได้สะดวก
ระยะจากปลายเตียงจนถึงผนังเหลือมาก เราสามารใช้ไอเดียทำเป็นชุดโต๊ะ Built-In แบบนี้ก็เข้าท่าดีครับ
พื้นที่ตรงนี้ถ้าเราอยากเก็บของได้มากขึ้น ก็ให้ Built-In ชั้นวางของที่ผนังเเพิ่มได้อีกนะ มีพื้นที่เหลือใช้ให้คุ้มค่าได้ ส่วนทางขวามือเป็นพื้นที่ทางเข้า Walk in Closet ก่อนทางเข้าห้องน้ำในตัว
ถ้าอยากให้เป็นสัดส่วนเราสามารถทำประตูบานเลื่อนกั้นส่วนของ Walk in closet แบบนี้เป็นไอเดียก็ได้
พื้นที่ทางเข้า Walk in Closet ก่อนทางเข้าห้องน้ำในตัว
ภายในห้องน้ำ Master Bedroom ก็เหมือนกับห้องอื่นๆ ไม่ได้มีอะไรพิเศษเพิ่มขึ้นมา แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานก็มีครบอยู่
มาต่อขึ้นไปชั้นบนสุดกันบ้าง ทางขึ้นบันไดชานพักช่วงแรกจะเป็นแบบสามเหลี่ยม 2-3 ขั้น แต่เริ่มมาก็มีมือราวจับกันตกมาให้
พอขึ้นมาเกือบถึงชั้น 3 ถึงจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบชานพักสี่เหลี่ยมแบบนี้
ขึ้นมาแล้วชั้นนี้จะมีห้องนอน 2 ห้อง โดยทั้งสองต้องออกมาใช้ห้องน้ำร่วมกันที่โถงทางเดินที่เห็น เดี๋ยวพาไปดูห้องนอนที่ชิดกับฝั่งหลังบ้านก่อนครับ
ภายในห้องนอน ขนาดไม่ใหญ่มาก มีหน้าต่างช่องแสงบานเลื่อนมาให้บานเดียว(เล็กไปหน่อยนะ) แต่ระยะจากปลายเตียงเหลือค่อนข้างเยอะอยู่ทำให้เดินไปมาในห้องได้ไม่อึดอัดมาก
โครงการเค้าวางเตียงไซส์ 3 ฟุตครึ่งเอาไว้ให้ จะทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่งเดินไปมาได้ง่าย และวางโต๊ะหัวเตียงได้ด้วย
ผนังอีกด้านมีพื้นที่เหลือ อันนี้เลยเป็นไอเดียวให้ดูซ้ายมือทำเป็นตู้เสื้อผ้าเต็มผนัง ติดกันจะเป็นโซฟานั่งเล่นเล็กๆ และโต๊ะอ่านหนังสือทำงาน
ห้องน้ำด้านนอกที่โถงทางเดิน ก็เหมือนๆกับก่อนหน้าครับ
สุดท้ายห้องนอนฝั่งหน้าบ้าน ห้องนี้จะขนาดใหญ่กว่าพอสมควรเลยวางเตียงแบบ King Size ได้สบาย อีกทั้งหน้าต่างช่องแสงเยอะกว่ามากด้วย
พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งขวา เหลือเฟือ จะสามารถหาชุดโต๊ะเครื่องแป้งมาวางตรงนี้ยังได้
พื้นที่ฝั่งซ้ายชิดกับผนังหน้าบ้านเหลือประมาณ 50 cm.
จากระยะปลายเตียงไปจนถึงผนัง ถ้าเป็นบ้านเปล่ามาตรฐานก็จะโล่งๆนะครับ แต่บ้านตัวอย่างเค้าออกไอเดียโดยการกั้นฉากผนังเป็นสัดส่วนสามารถปิดประตูได้ด้วย ซึ่งด้านหลังของฉากกั้นนี้เป็นตู้เสื้อผ้าครับ
หน้าต่างช่องแสงกระจกบานเลื่อน ที่มองออกไปเหมือนจะมีระเบียง
ซึ่งระเบียงนี้ใช้งานออกไปเดินเล่นไม่นะครับ เอาไว้สำหรับวางคอมแอร์ และงานซ่อมบำรุงแอร์เท่านั้น
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 March 2016
- Type A แปลง M14 (แปลงกลาง) ที่ดิน 20.60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. ราคา 3.39 ล้านบาท หรือ 164,563 บาท/ตร.วา
- Type A แปลง F1 (แปลงมุม) ที่ดิน 30.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. ราคา 4.19 ล้านบาท หรือ 138,741 บาท/ตร.วา
- Type B แปลง H12 (แปลงกลาง) ที่ดิน 20.60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. ราคา 4.49 ล้านบาท หรือ 217,961 บาท/ตร.วา
- Type B แปลง H14 (แปลงมุม) ที่ดิน 40.80 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม. ราคา 4.69 ล้านบาท หรือ 114,950 บาท/ตร.วา
- (ฟรีปั๊มน้ำ, ถังเก็บน้ำบนดิน และเครื่องปรับอากาศ 3 เครื่อง) (สำหรับลูกค้าที่จองและโอนภายในเดือน มี.ค. 59)
- จอง 20,000 บาท และทำสัญญา 30,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
The Ricco Town วัชรพล อยู่สุดซอยร่วมมิตรพัฒนา ซึ่งยังเรียกว่าเป็นทำเลย่านรามอินทรา วัชรพลนะครับ ทำเลแถวนี้ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า มันเหมาะกับคนใช้รถยนต์ส่วนตัว และเป็นทำเลยอดนิยมสำหรับการทำโครงการแนวราบพวกบ้านและทาวน์โฮม สำหรับกรุงเทพตอนเหนือ สิ่งที่เร่งปฏิกิริยาให้มีการมาทำโครงการแถวนี้กันมากคือ ทางด่วนและถนนที่ตัดใหม่ และในอนาคตไกลๆหน่อยจะมีการขนส่งระบบรางเข้ามาเชื่อมอีก ทำให้มีโครงการมาขึ้นมาก เมื่อมีโครงการมีคนมาอยู่กันคึกคักมากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือสิ่งอำนวยความสะดวก เช่นห้าง คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ เริ่มมีความคึกคักและเปิดใหม่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มันยิ่งอยู่สบายมากขึ้นไปอีก แต่ย้ำอีกที..อยู่สบายสำหรับคนมีรถนะ เพราะแต่ละที่แต่ละอย่างกระจายกันอยู่ในพื้นที่ไกลกันพอสมควร และโครงการส่วนมากจะกระจายอยู่ในซอยด้วย
การเดินทางของ The Ricco Town วัชรพลคงเหมือนโครงการในย่านนี้ ที่อาศัย รามอินทรา และเลียบทางด่วนรามอินทราเป็นหลัก มีทางด่วนให้ใช้ใกล้และง่ายประมาณ 3.5 กิโลเมตร และเส้นทางลัดเลาะอย่างสุขาภิบาล 5 ซึ่งปัจจุบันจะมีถนนตัดใหม่ที่พึ่งเปิดให้ใช้หลังจากที่รอกันมานาน นั่นคือถนนรัตนโกสินทร์สมโภชน์วิ่งออกพหลโยธิน หรือต่อไปวิภาวดีได้ เมื่อโครงการตัดถนนเสร็จสมบูรณ์ แต่ถ้าต้องเดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว ก็ต้องใช้ Taxi เข้าไปรับอย่างเดียวเลย ส่วนรถไฟฟ้า ก็รอไปอีกนะครับ ช้าหน่อยแต่คงได้ใช้แน่นอน
ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการ คงต้องพึ่งพาตลาดจินดา และแหล่งค้าขายกลางซอยเป็นหลักแน่ๆ เพราะอยู่ห่างหน้าโครงการมาราว 700 เมตร พอจะขี่จักรยานออกมาซื้อข้าวของเครื่องใช้ หรือของกินได้ ตรงนี้มีมินิมาร์ท เปิด 24 ชั่วโมง 2-3 เจ้า ส่วนของกินนี่ไม่ต้องห่วงมีเยอะมาก แค่ออกไปหน่อยก็มีทั้ง Neighbour, Pearnary Mall, ตลาดถนอมมิตร, Tesco Lotus, BigC Market, Venice Di Iris หรือแต่ถ้าจะไปห้างใหญ่ ก็คงต้องแฟชั่นไอส์แลนด์, พรอมานาร์ด และ เซ็นทรัลพลาซ่ารามอินทรา ที่ตั้งอยู่บนถนนรามอินทราแล้วล่ะครับ
วัสดุ มาตรฐานปานกลางเมื่อเทียบกับราคา พื้นชั้นล่างได้แกรนิตโต้ พื้นห้องน้ำและระเบียงเป็นกระเบื้อง Cotto พื้นห้องนอนเป็นลามิเนต ครัวมีแค่เดินท่อน้ำดีเอาไว้ให้ โคมไฟซาละเปา พื้นบันไดเป็นพื้นไม้สำเร็จรูป บันไดมีราวจับ กรอบกระจกบานเลื่อนไวนิล ประตูห้องและห้องน้ำเป็นประตูไม้ ผนังทาสีขาว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ Nahm สายชำระ Hoy ก๊อกน้ำและฝักบัว VRH แต่ค่อนข้างเล็กกระทัดรัดไปหน่อย และไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำมา
ด้านการออกแบบและพื้นที่ใช้สอย ตัวบ้านหน้ากว้างประมาณ 5 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน ฟังก์ชั่นภายในบ้านจัดมาได้โอเค (Type A)สามารถยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นภายในเองได้ ในห้องน้ำมีพัดลมระบายอากาศหรือหน้าต่างระบายอากาศให้ บ้าน Type A ชั้น 3 มีระเบียงที่กว้างขวางใช้งานได้จริงจัง แต่ติดที่ชั้น 2 ระเบียงออกไปไม่ได้ ส่วนบ้านแบบ Type B มีการกั้นเป็นสัดส่วนมากกว่าเลยออกมาเป็นแบบ 4 ห้องนอน แต่ยังมีจุดด้อยบ้างตรงบันไดทางขึ้นชั้นบนสุดที่ไม่มีช่องแสง และ Step บันไดตรงชานพักที่มีชานพักสามเหลี่ยมอยู่บ้างแต่ก็ยังดีที่มีราวจับมาให้ครับ
ความปลอดภัย แยกเป็นสามประเด็นนะครับ ประเด็นแรก นี่เป็นซอยตันและอยู่สุดซอย ไม่ค่อยจะมีใครมามั่วป้วนเปี้ยนเนียนผ่านไปมาได้ง่ายๆเหมือนซอยที่ทะลุไปได้หลายทางครับ และสองข้างทางไม่เปลี่ยวเพราะหมู่บ้านเพื่อนบ้านที่มี รปภ. อยู่ประจำกันหน้าหมู่บ้านทั้งนั้น ความปลอดภัยในซอยจึงไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง ประเด็นที่สอง รายรอบโครงการจะอยู่ติดหมู่บ้านอื่นด้านนึง ซึ่งปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่อีกด้านนึงติดที่เปล่า ที่ปัจจุบันยังว่าง อันนี้จะเสี่ยงกว่าอยู่ติดหมู่บ้านแน่ๆ ซึ่งรั้วโครงการเป็นคอนกรีตทึบสูง 2.5 เมตร อย่างไรก็ดี ด้วยความ Hot ของทำเลย่านนี้ เชื่อว่าที่ดินเปล่าด้านข้าง(ฝั่งทิศตะวันออก) อนาคตคงได้พัฒนาเป็นหมู่บ้านในที่สุด มันมีมูลค่ามากกว่าปล่อยว่างๆไว้แบบนี้ครับ ประเด็นสุดท้าย ความปลอดภัยภายในโครงการ ตรงซุ้มประตูทางเข้า มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้าออกด้วยสติ๊กเกอร์ลูกบ้าน และมี CCTV อยู่ที่ทางเข้าออก มีรั้วไม้กั้นกระดก อย่างไรก็ดี ผมแนะนำให้ ติด CCTV แบบดูผ่านมือถือได้ที่บ้านตัวเองและระบบสัญญานกันขโมยเพิ่มขึ้นครับ ไม่ได้บอกว่าโครงการไม่ปลอดภัยแต่มันทำให้เราสบายใจมากขึ้นเมื่อออกไปทำงาน
สาธารณูปโภคและพื้นที่สีเขียวของโครงการ จัดต้นไม้มาตั้งแต่หน้าโครงการแล้วครับตั้งแต่รั้วเลย ริมถนนเมนภานในโครงการมีการปลูกต้นไม้เอาไว้ตลอดทาง พื้นที่สีเขียวภายในโครงการรวมแล้วประมาณ 1 ไร่ ใจกลางโครงการจะมี Club House ที่มีทั้งพื้นที่นั่งเล่น, ห้อง Fitness และสระว่ายน้ำที่มีแยกสระเด็กให้ด้วย ก็ถือว่าดีใช้ได้ครับ
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 3.39 – 4.6 ล้านบาท, 2 March 2016
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ใกล้จุดขึ้นทางด่วน อยู่ในย่านชุมชน ไม่ไกลจากตลาด และห้างสรรพสินค้า แต่โครงการอยู่สุดซอย ติดที่ดินเปล่าและเป็นทางตัน
- ความปลอดภัย 7.5/10 – มาตรฐานคือ มีไม้กระดก รปภ.หน้าหมู่บ้าน รั้วรอบโครงการ CCTV ทางเข้า
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.0/10 – มาตรฐานสำหรับทาว์นโฮม 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้างขวาง ใช้งานได้จริง โดยรวมแล้วถือว่าค่อนข้างโอเค
- วัสดุ 7.25/10 – ค่อนข้างมาตรฐาน แต่ฝักบัวในห้องน้ำดูเล็กกระทัดรัดไปนิดนึงและไม่มีฉากกั้นอาบน้ำให้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.0/10 – มีสวนหย่อมภายในโครงการ พื้นที่รวมประมาณ 1 ไร่ และริมถนนเมน
- สาธารณูปโภค 8.0/10 – Club House, สวน, Fitness และ สระว่ายน้ำผู้ใหญ่และเด็ก
- 7.65 / 10.00
- MAIN CLASS
BOTTOM LINE
The Ricco Town วัชรพล เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ที่เหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง มีสมาชิกประมาณ 3-5 คน หรือผู้ที่กำลังสร้างครอบครัว มีรถยนต์ส่วนตัวใช้เดินทางเป็นหลักและสะดวก มักใช้ทางด่วนในการเดินทางอยู่บ่อยครั้ง และมีความอุดมสมบูรณ์ใกล้บ้านพอสมควร เลือกโครงการที่มี Facility และมีมาตรฐาน มีงบประมาณ 3.5 – 4.6 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนชำระประมาณ 24,500 – 32,000 บาท/เดือน
ช่วยกันคอมเม้นท์ แบ่งปันข้อมูลกับเพื่อนๆที่กำลังหาบ้านหน่อยนะครับ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )