รีวิวโครงการ

บ้าน 4 ห้องนอน ใกล้ทางด่วนฉลองรัช 8-20 ล้าน | ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 | คิดเรื่องอยู่ EP.754

17 มีนาคม 2024

อ่านรีวิวล่าสุด

ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 (Laddarom Chatuchot 15) เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน ออกแบบดีไซน์ใหม่ สไตล์ Modern French ถึง 5 แบบบ้าน เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางและใหญ่หรือมีผู้สูงอาศัยอยู่ด้วย เน้นใช้ทางด่วนในการเดินทางเข้าเมืองเป็นประจำ ในราคาเริ่มต้น 8.59 – 18 ล้านบาท จะมีจุดเด่นที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง ติดตามอ่านต่อกันได้เลยค่ะ

  • ทำเล : เป็นโซนเงียบสงบเหมาะกับการอยู่อาศัย ใกล้ทางด่วนฉลองรัชและวงแหวนกาญจนาฯ ในอนาคตมีถนนตัดใหม่ ช่วยให้เดินทางง่ายมากขึ้น ใกล้ตลาดออเงิน, Big C Food Place สุขาภิบาล, ตลาดวงศกรสายไหม และโรงพยาบาล CGH สายไหม
  • แบบบ้าน : เหมาะกับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ หรืออยู่อาศัยกับผู้สูงอายุ มีแบบบ้านให้เลือกถึง 5 แบบ เป็นบ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน ดีไซน์ใหม่สไตล์ Modern French ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะ 196 – 398 ตร.ม. มีห้องนอนชั้นล่างในบ้านทุกแบบ
  • ส่วนกลาง : ให้มาครบที่ต้องใช้งานทั้ง Indoor และ Outdoor บรรยากาศโดยรวมร่มรื่นน่าใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่ชอบพื้นที่นั่งพักผ่อนและเดินเล่น
  • ความโปร่งของบ้าน : ความสูงของชั้น 1 และ 2 อยู่ที่ 2.7 เมตร ออกแบบใช้กระจกบานใหญ่และสูง ทำให้ได้ความโปร่งสบาย รวมถึงออกแบบห้องน้ำชมสวนแบบ Outdoor Shower เป็นช่องแสงทำให้ได้แดดส่องเข้ามาภายในห้องน้ำ

ข้อมูลโครงการ

ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 (Laddarom Chatuchot 15) ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2566

 ชื่อโครงการ   ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 (Laddarom Chatuchot 15)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   UPPER – HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ซอยจตุโชติ 15 ถนนจตุโชติ แขวงออเงิน เขตสายไหม
 ที่ดิน   59-2-40.5 ไร่
 จำนวนยูนิต    จำนวน 212 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • Belle บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 196 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 8.59 ล้านบาท
  • Cherie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 228 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 10.09 ล้านบาท
  • Celine บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 268 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 11.60 ล้านบาท
  • Eleanor บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 355 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 14.80 ล้านบาท
  • Helene บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 109 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 398 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 18.00 ล้านบาท

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   2.7 เมตร (ชั้น 1 มีดรอปฝ้าบริเวณพื้นที่นั่งเล่นอีก 15-30 ซม.)
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      N/A บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   ปี 2570
 เว็บไซต์โครงการ   คลิกที่นี่
 โทร   093-720-1992
 Call Center   1388

 

ทำเลที่ตั้ง

Highlights

  • ตัวโครงการอยู่ในซอยจตุโชติ 15 ลึกเข้ามาจากถนนจตุโชติประมาณ 350 เมตร
  • ใกล้ทางด่วนฉลองรัช ทั้งด่านสุขาภิบาล 5 และด่านจตุโชติ ในระยะ 4.5 กิโลเมตร
  • กลับรถได้สะดวก ถนนด้านหน้าโครงการมี 2 เลน เดินรถไป – กลับ ไปเส้นสุขาภิบาล 5 ได้ง่าย ถนนจตุโชติช่วงหลังมี 1 เลน ต้องไปกลับรถตรงวงแหวนกาญจนาภิเษก
  • ถนนตัดใหม่ส่วนต่อขยายของถนนเทพรักษ์ เชื่อมตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิต ไปจนถึงถนนนิมิตใหม่
  • ใกล้แหล่งอุดมสมบูรณ์ทั้งโซนสุขาภิบาล 5 และสายไหม-ลำลูกกา เช่น ตลาดออเงิน, Big C Food Place สุขาภิบาล, ตลาดวงศกรสายไหม และโรงพยาบาล CGH สายไหม เป็นต้น

พิกัด Google Maps : 13.901046495790425, 100.67767202293734
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 (Laddarom Chatuchot 15) ตั้งอยู่ในย่านวัชรพล-สายไหม บนซอยจตุโชติ 15 ตัวโครงการอยู่ห่างจากถนนจตุโชติประมาณ 350 เมตร ซึ่งย่านนี้ถือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งที่สามารถเข้าเมืองได้ง่าย เพราะใกล้ทางด่วนถึง 2 สาย ทั้งทางด่วนฉลองรัช และถนนกาญจนาภิเษก จึงสะดวกสบายสำหรับคนที่เน้นใช้ทางด่วนในการเดินทางไปทำงานในเมืองเป็นประจำค่ะ อีกทั้งในอนาคตกำลังมีโครงการถนนตัดใหม่ส่วนต่อขยายในอนาคตของถนนเทพรักษ์ ที่หากทำเสร็จแล้วก็จะเชื่อมทำเลตั้งแต่ถนนวิภาวดีรังสิต ไปจนถึงถนนนิมิตใหม่ได้เลยทีเดียว (ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเวนคืนที่ดิน)

สำหรับความอุดมสมบูรณ์หลักๆจะอยู่แถวสุขาภิบาล 5 ถนนสายไหม และถนนคู้บอนค่ะ ซึ่งเราก็สามารถขับรถไปจับจ่ายใช้สอยได้สะดวก ถ้าใครถนัดหรือเน้นใช้ชีวิตไปทางโซนสายไหม-ลำลูกกา ก็สามารถใช้ทางคู่ขนานกาญจนาตรงไปถึงได้เลย หรือถ้าเป็นย่านสุขาภิบาล 5 เราก็สามารถกลับรถตรงหน้าปากซอยได้สะดวกเลย รวมถึงเรายังสามารถขับเลียบทางคู่ขนานมายังคู้บอนได้อีกด้วย ถือเป็นจุดศูนย์กลางที่แยกออกไปยังโซนต่างๆได้หลากหลายเลยทีเดียว

สำหรับถนนจตุโชติช่วงต้น ที่เริ่มจากถนนสุขาภิบาล 5 ไปบริเวณก่อนถึงซอยจตุโชติ 17 จะเป็นช่องถนนที่มี 2 เลน เดินรถไป – กลับ ส่วนถนนช่วงหลังตั้งแต่ซอยจตุโชติ 17 ไปถึงทางคู่ขนานกาญจนาจะบีบเหลือถนนเลนเดียว

ข้อดีของที่ตั้งโครงการนี้คือสามารถกลับรถบริเวณปากซอยจตุโชติ 15 ได้เลย ไปทั้งโซนสุขาภิบาล 5 และสายไหม-ลำลูกกาและคู้บอน ทำให้มีตัวเลือกในการอยู่อาศัยและการเดินทางมากกว่า และใกล้ทางด่วนทั้ง 2 ด่านในระยะ 4.5 กม. ในขณะที่โครงการบนถนนจตุโชติที่อิงไปทางคู่ขนานกาญจนาก็จะใกล้กับทางด่วนและความอุดมสมบูรณ์โซนสายไหม-ลำลูกกาและคู้บอนมากกว่า แต่ถ้าจะมาโซนสุขาภิบาล 5 และใช้ทางด่วนฉลองรัช ก็จะต้องขับไปกลับรถใต้ทางด่วนบริเวณวงแหวนกาญจนา และขับต่อมาอีก จึงจะมีความยุ่งยากในการเดินทางอยู่นิดหน่อยเหมือนกันค่ะ

หลายๆคนอาจจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่พอเราไปอยู่อาศัยไปเรื่อยๆ ขับรถไปทำงานหรือซื้อข้าวทุกวัน การมีตัวเลือกของการเดินทางและแหล่งความอุดมสมบูรณ์ก็จะทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายขึ้นค่ะ อย่างเวลารถติดก็เดินทางไปเส้นอื่นได้ หรือเบื่อของกินแถวนี้แล้ว ก็ยังไปจับจ่ายใช้สอยบริเวณอื่นที่ใกล้ๆกันได้นั่นเอง

เส้นทางขึ้น – ลงทางด่วน

อย่างที่เราได้บอกไปก่อนหน้านี้นะคะ โครงการนี้อยู่ใกล้ทางด่วนฉลองรัชถึง 2 ด่านด้วยกัน จึงสะดวกมากๆสำหรับใครที่ขับรถและใช้ทางด่วนในการเดินทางบ่อยๆค่ะ

Image 1/2
การเดินทางจากโครงการไปขึ้นทางด่วน

การเดินทางจากโครงการไปขึ้นทางด่วน

ถนนกาญจนาภิเษก : ด่านจตุโชติ

ทางขึ้นทางด่วน : จากปากซอยจตุโชติ 15 ให้เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนจตุโชติ ขับตรงไป 1.3 กิโลเมตร แล้วเบี่ยงขวาเพื่อกลับรถใต้ทางด่วน จากนั้นขับตรงไปอีก 650 เมตร เพื่อขึ้นทางด่วนได้เลยค่ะ

ทางลงจากทางด่วน : เมื่อลงจากทางด่วน ขับตรงไปประมาณ 900 เมตร แล้วเลี้ยวขวาลอดใต้สะพาน จากนั้นขับตรงไปแล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนจตุโชติ เมื่อเข้าถนนจตุโชติแล้วขับไปอีก 150 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยจตุโชติ 15 โดยโครงการตั้งอยู่ด้านในค่ะ

Image 1/2
การเดินทางจากโครงการไปขึ้นทางด่วน

การเดินทางจากโครงการไปขึ้นทางด่วน

ทางด่วนฉลองรัช : ด่านสุขาภิบาล 5

ทางขึ้นทางด่วน : จากปากซอยจตุโชติ 15 ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนจตุโชติ ขับตรงไป 1.7 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่ถนนสุขาภิบาล 5 จากนั้นขับตรงไปอีก 1.7 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาเพื่อเตรียมขึ้นทางด่วน ขับตรงไป 270 เมตร ให้เลี้ยวซ้าย และขับตรงไปขึ้นทางด่วนได้เลยค่ะ

ทางลงจากทางด่วน : เมื่อลงจากทางด่วน ขับตรงไปประมาณ 500 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุขาภิบาล 5 จากนั้นขับตรงไปอีก 1.7 กิโลเมตร ให้เลี้ยวขวาเข้า เพื่อเข้าถนนจตุโชติ จากนั้นขับตรงต่อไป 1.7 กิโลเมตร จะเจอป้ายซอยจตุโชติ 15 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย โครงการตั้งอยู่ด้านในค่ะ

เราได้เก็บภาพบรรยากาศจากปากซอยจตุโชติ 15 ไปถึงด้านหน้าโครงการมาให้ด้วยนะคะ

Image 1/5
จะเห็นป้ายซอยจตุโชติ 15 อยู่ด้านหน้าซอยเลย ส่วนถนนด้านหน้าโครงการมี 2 เลน ไป-กลับ ทำให้เรากลับรถได้ง่ายๆเลยค่ะ

จะเห็นป้ายซอยจตุโชติ 15 อยู่ด้านหน้าซอยเลย ส่วนถนนด้านหน้าโครงการมี 2 เลน ไป-กลับ ทำให้เรากลับรถได้ง่ายๆเลยค่ะ

 

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 (Laddarom Chatuchot 15) ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าและที่พักอาศัยแนวราบทั้งแบบบ้านจัดสรรและไม่จัดสรรค่ะ โดยตัวโครงการจะอยู่ด้านในซอย มีคนและรถยนต์สัญจรผ่านไปมาไม่ค่อยเยอะ ส่วนร้านค้าจะอยู่ตามแนวถนนใหญ่ค่ะ ดังนั้นบรรยากาศภายในซอยจะค่อนข้างเงียบสงบหน่อย เวลาจะไปจับจ่ายใช้สอยหรือกินข้าวตอนกลางคืนก็แนะนำให้ขับรถไปดีกว่านะคะ แต่สำหรับในเรื่องการพักผ่อนและอยู่อาศัย จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบและไม่ชอบความวุ่นวายค่ะ

  • ทิศเหนือ ติดกับ คลองและหมู่บ้าน
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่าและที่พักอาศัยแนวราบ
  • ทิศใต้ ติดกับ ที่ดินเปล่าและที่พักอาศัยแนวราบ
  • ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่า

บรรยากาศด้านหน้าโครงการเมื่อมองไปทางด้านซ้าย ติดกับที่ดินเปล่า

บรรยากาศด้านหน้าโครงการเมื่อมองไปทางด้านขวา ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • ตลาดออเงิน ~ 2.3 กิโลเมตร
  • Big C Food Place สุขาภิบาล 5 ~ 3.0 กิโลเมตร
  • ตลาดวงศกรสายไหม ~ 6.2 กิโลเมตร
  • เพลินนารี่มอลล์ ~ 7.3 กิโลเมตร
  • Max Value คู้บอน ~ 7.9 กิโลเมตร
  • Fashion Island รามอินทรา ~ 10.1 กิโลเมตร
  • The Promenade ~ 10.1 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาล CGH สายไหม ~ 6.0 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลอินทรารัตน์ ~ 10.1 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาล CGH พหลโยธิน ~ 10.6 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ~ 10.9 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ~ 4.8 กิโลเมตร
  • โรงเรียนสารสาสน์วิเทศ สายไหม ~ 4.9 กิโลเมตร
  • โรงเรียนอนุบาลจารุวรรณ ~ 7.1 กิโลเมตร
  • โรงเรียนโสมาภาพัฒนา ~ 8.9 กิโลเมตร

รายละเอียดโครงการ

Highlights

  • โครงการสไตล์ Modern French ออกแบบโครงการดีไซน์ใหม่จาก Q House
  • พื้นที่สวนส่วนกลางขนาด 2 ไร่ บริเวณตรงกลางโครงการ ลูกบ้านใช้งานได้ทั่วถึง
  • ฟังก์ชันส่วนกลางเน้นการพักผ่อน บริเวณ Clubhouse มี Co – Working Space 2 ห้อง, Glass House และ พื้นที่นั่งพักกลางแจ้ง
  • บ้านส่วนใหญ่หันหน้าทางทิศเหนือ-ใต้ และทิศตะวันออก รับลมได้ดี แดดร้อนยามบ่ายไม่เข้าด้านหน้าบ้านโดยตรง

ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 (Laddarom Chatuchot 15) เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern French ซึ่งเป็นดีไซน์ใหม่จาก Q House ที่ปัจจุบันจะมีอยู่เพียง 2 โครงการ คือโครงการนี้ และลัดดารมย์ ราชพฤกษ์ตัดใหม่ค่ะ ซึ่งออกแบบโครงการได้บรรยากาศความคลาสสิกแบบร่วมสมัย ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า ไปถึงอาคาร Clubhouse และตัวบ้านเลยค่ะ

สำหรับแบรนด์ลัดดารมย์จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Upper – High Class ราคาอยู่ที่ 7 – 30 ล้านบาท การออกแบบแต่ละโครงการจะมีความ Modern ผสมผสานเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ได้ที่ดินขนาดใหญ่ เน้นทำเลที่เข้าเมืองได้สะดวก จำนวนยูนิตไม่เยอะมาก จึงเหมาะกับคนที่ต้องการสังคมเพื่อนบ้านระดับหรู มีพื้นที่ส่วนกลางออกแบบหรูหรา ฟังก์ชันครบครันค่ะ

โครงการนี้มีจำนวนทั้งหมด 212 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 59 ไร่ครึ่ง โดยภาพรวมจัดเป็นโครงการขนาดกลาง ตั้งอยู่ภายในซอยจตุโชติ 15 เข้ามาจากถนนจตุโชติ 350 เมตร ซึ่งภายในโครงการยังมีบางส่วนที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง แต่ก็มีบ้านที่เปิดขาย สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ ทั้งบริเวณด้านหน้าโครงการ โซนใกล้ Clubhouse และโซนด้านขวาค่ะ

เรามาเริ่มกันที่ Master Plan กันก่อนเลยนะคะ จะเห็นว่าที่ดินโครงการแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ โซนด้านหน้าโครงการ, ด้านขวาและด้านซ้ายค่ะ มีถนนตรงเข้ามาที่ซุ้มประตูทางเข้า-ออกของโครงการ บริเวณซุ้มประตูทางเข้าหลักจะมี รปภ.ประจำอยู่ตลอด 24 ชม. และแบ่งทางเข้า-ออกฝั่งละ 2 เลน ถือว่าออกแบบทางเข้า-ออกที่มีขนาดใหญ่ ทำให้รถเข้า-ออกได้สะดวก บริเวณถนนมีการจัดสวนและปลูกต้นไม้โดยรอบ ดูร่มรื่นและนำสายตาเข้าสู่ด้านในของโครงการได้ดีเลยค่ะ

เมื่อเข้ามาด้านในพื้นที่โครงการจะเจอกับบ้านบริเวณด้านหน้าโครงการ และมีพื้นที่สวนส่วนกลางและอาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการ เป็นเหมือนมุมต้อนรับ มองเห็นได้ชัดเจนจากถนนหลักภายในโครงการค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการจัดไว้ไม่รบกวนพื้นที่ส่วนบ้านพักอาศัยที่อยู่ด้านใน รวมถึงลูกบ้านแต่ละโซนในโครงการก็สามารถมาใช้งานได้ง่าย บริเวณด้านหลัง Clubhouse ก็มีที่จอดรถจัดเตรียมไว้ให้ประมาณ​ 3 คัน สำหรับลูกบ้านที่สะดวกขับรถมาจอดเพื่อเข้าใช้ส่วนกลางค่ะ

ภายใน Clubhouse ประกอบด้วย Lobby, Co – Working Space, Glass House, สระว่ายน้ำระบบเกลือแบ่งเป็นสระผู้ใหญ่และสระเด็ก รวมถึงมีห้องออกกำลังกายด้วยค่ะ ส่วนพื้นที่สวนสีเขียวเป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่ มาเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ตกแต่งด้วยไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่รอบสวน พร้อมศาลานั่งเล่น และมี Jogging Track พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง รวมถึงสนามเด็กเล่นด้วยค่ะ

การวางผังของโครงการจะเน้นวางหน้าบ้านหันออกในแนวทิศเหนือ ใต้และตะวันออก ซึ่งเป็นทิศที่ไม่โดนแดดในช่วงเช้าและบ่ายโดยตรง ทำให้หน้าบ้านไม่ร้อน และเป็นทิศที่ได้ลมดี มีลมพัดผ่านรับลมตลอดปี

สำหรับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวมากหน่อย เราจะมองเป็นบ้านโซนด้านซ้ายและโซนด้านขวาที่มีพื้นที่ยื่นออกมาด้านทิศใต้ ที่จัดเป็นกลุ่มที่มีเพื่อนบ้านในซอยเพียง 4 – 6 หลัง ก็จะได้ความเป็นสงบและเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ ส่วนตำแหน่งบ้านที่น่าสนใจอีกตำแหน่งคือ บ้านด้านหน้าโครงการที่มีทั้งบ้านหันเข้าหาถนนหลักและกลุ่มบ้านที่อยู่ในซอยเดียวกันน้อย ถึงแม้ว่าจะมีรถขับผ่านตลอด  แต่ก็จะใกล้กับทางเข้า – ออกโครงการ รวมถึงเข้าใช้พื้นที่ส่วนกลางได้สะดวกกว่าด้วยค่ะ

 

เริ่มจากถนนด้านหน้าโครงการก่อนเข้าสู่ตัวโครงการกันเลยค่ะ สำหรับซุ้มประตูทางเข้าโครงการมีระยะร่นจากถนนหลักระยะประมาณ 350 เมตร ทำให้รถสามารถต่อแถวเข้า – ออกได้สะดวก ทำให้การจราจรไม่ติดขัดตรงถนนด้านหน้าโครงการค่ะ รวมถึงแบ่งทางเข้า – ออกโครงการเป็น 2 ช่อง แยกไว้อย่างชัดเจน

มีจัดสวนทั้งไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวถนน รวมถึงมีทางเดินด้านข้างถนนที่ยาวต่อเนื่องไปจนถึงตัวซุ้มประตูทางเข้าโครงการเลยค่ะ ส่วนทางด้านซ้ายจะมีป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่ มองเห็นได้ชัดเจน เมื่อขับเข้าซอยมาค่ะ

ซุ้มประตูทางเข้าโครงการมีขนาดใหญ่มองเห็นได้ชัดเจนจากถนนเลยค่ะ ออกแบบสไตล์ Modern French มีการย่อมุมอาคาร ใช้หน้าต่างบานใหญ่ ใช้กรอบสีเข้มเพื่อตัวตัดกับสีขาว – เทาของซุ้มประตูได้ดีเลยค่ะ ส่วนทางด้านซ้ายจะมีทางเข้าไปส่วนของบริเวณพักขยะของโครงการค่ะ

ประตูทางเข้า – ออกโครงการเป็นรั้ว รั้วเหล็กรางเลื่อนไฟฟ้า แยกใช้งานเป็น 2 ฝั่ง ด้านละ 2 ช่องทาง โดยจะมีป้อม รปภ. อยู่ตรงกลาง และมีการแบ่งช่องแยกการใช้งานระหว่างลูกบ้านและแขก สำหรับแขกที่มาติดต่อจะต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ในช่องทางขวาค่ะ ส่วนลูกบ้านสามารถขับผ่านได้เลย

นอกจาก รปภ. ที่คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ก็มีระบบ CCTV คอยบันทึกตรงซุ้มทางเข้าและบริเวณส่วนกลาง รวมถึงระบบ Keycard Access และ Video Door Phone ควบคุมการเข้า – ออกด้วยค่ะ

มีประตูสำหรับคนเดินทางด้านข้างให้เลือกใช้งานได้ และเพิ่มความปลอดภัยในโครงการด้วย Video Door Phone ที่ทาง รปภ. จะติดต่อไปหาลูกบ้าน เพื่อยืนยันว่าเป็นแขกของลูกบ้านจริงๆนั่นเองค่ะ

เมื่อผ่านเข้ามาในพื้นที่ภายในโครงการจะเจอกับถนนหลักกว้าง 16 เมตร ที่ปลูกต้นไม้ตลอดเส้นทาง นำสายตาเข้าสู่ด้านในของโครงการ ที่มี Clubhouse เป็นเหมือนมุมต้อนรับ มองเห็นได้ชัดเจนจากถนนหลักค่ะ

ส่วนถนนในซอยจะมีความกว้างอยู่ที่ 9 เมตร สามารถขับรถสวนกันได้สบายค่ะ

เมื่อตรงจากถนนหลักเข้ามาเรื่อยๆจะเจอกับพื้นที่สวนส่วนกลางและอาคาร Clubhouse ค่ะ จะเห็นว่ามีต้นไม้สีเขียวปลูกอยู่รอบพื้นที่ส่วนกลางนี้เลยค่ะ ทำให้ได้บรรยากาศร่มรื่นดีเลยค่ะ

อาคาร Clubhouse ออกแบบได้กลิ่นอายบรรยากาศแบบคลาสสิกร่วมสมัย มีการย่อมุมอาคาร เน้นใช้โทนสีขาว – เทา ส่วนด้านหน้าอาคาร Clubhouse จะเป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่ ซึ่งสีเขียวของพื้นที่สวนตัดกับสีของตัวอาคาร ทำให้ตัวอาคารดูโดดเด่นมากขึ้นด้วยค่ะ

โดยรอบสนามหญ้าที่นอกจากจะประดับตกแต่งด้วยไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่แล้ว ยังมีทางเดินรอบสวน สำหรับวิ่ง Jogging ได้ด้วย ซึ่งมีระยะอยู่ที่ 350 เมตรค่ะ

ออกแบบทางเดินตัดสนามหญ้าไปยังตัวอาคาร Clubhouse โดยตกแต่งพื้นที่ด้านข้างทางเดินด้วยไม้พุ่ม เพื่อเน้นแนวทางเดินให้ชัดเจนขึ้น

เมื่อเดินลัดสนามหญ้ามาแล้ว จะมีทางเดินแยกไปทางด้านหน้า Clubhouse และทางเดินไปทางด้านหลังอาคารค่ะ แต่จะสังเกตเห็นว่ามีทางลาด ที่แยกออกมาจากทางที่เดินไปด้านหลังอาคารด้วยนะคะ

นอกจากจะมีบันไดเป็นทางขึ้น – ลงบริเวณด้านหน้าอาคารแล้ว ได้ออกแบบทางลาดรองรับวีลแชร์สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้พิการบริเวณด้านข้างด้วยค่ะ ทำให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่รองรับผู้ใช้งานได้หลากหลายตามหลัก Universal Design ที่ดีค่ะ  ลูกบ้านก็สามารถพาผู้ที่ใช้วีลแชร์มาใช้งานส่วนกลางร่วมกันได้ด้วยนั่นเอง

เมื่อเข้ามาภายใน Clubhouse จะตกแต่งทั้งพื้นและผนังเป็นสีขาว และใช้เส้นสีดำในการตกแต่งเป็นลายพื้นและผนัง รวมถึงกรอบประตูและหน้าต่างด้วย เพื่อช่วยให้รู้สึกว่าพื้นที่ภายในไม่ได้กว้างมากจนเกินไป

สำหรับโถงต้อนรับนี้ออกแบบเป็น Double Volume Space ให้ความโปร่งและโอ่อ่าของอาคาร มีห้อง Co – Working Space และ Glass House อยู่บริเวณด้านข้าง 2 ฝั่ง และมีบันไดขึ้นไป Fitness บนชั้น 2 ค่ะ

เราจะพามาดู Co – Working Space ห้องแรกที่อยู่ทางด้านขวากันก่อนเลย จะอยู่ติดกับประตูทางเข้ามาจากทางลาดรองรับวีลแชร์ และบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะ

ทางโครงการได้ใช้พื้นที่ส่วนนี้เป็นสำนักงานขายในปัจจุบันค่ะ ซึ่งพอปิดการขายโครงการแล้วก็จะเป็น Co – Working Space ค่ะ มีการติดตั้งโคมไฟระย้าขนาดใหญ่ เพิ่มความหรูหรา เรามองว่าห้องนี้เหมาะกับการใช้รองรับแขกได้จริงจัง ดูเป็นหน้าเป็นตาดีเลยค่ะ มีการจัดมุมโซฟาไว้หลายรูปแบบด้วยค่ะ

ตกแต่งด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทั้ง 2 ด้าน เพื่อรับวิวสวนด้านข้างและวิวสีเขียวของสนามหญ้าด้านหน้าอาคารค่ะ ด้านข้างจะมีประตูกระจกบานใหญ่เชื่อมไปบริเวณ Glass House ที่เป็นมุมพักผ่อนอีกมุม เป็นจุดเด่นของส่วนกลางโครงการนี้ด้วยค่ะ

Glass House จะออกแบบเป็นห้องกระจก และมีหลังคาจั่วเหมือนกับต่างประเทศเลยค่ะ ภายในห้องจะมีมุมโต๊ะนั่งและโซฟา เปิดรับวิวสวนทั้ง 3 ด้าน ให้ความรู้สึกผ่อนคลายดีมากเลย

สำหรับ Glass House จะเป็นพื้นที่ตรงกลาง เชื่อมระหว่าง Co – Working Space และพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งค่ะ ทางด้านข้างของ Glass House จะมีประตูกระจกเปิดไปพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งได้

สำหรับพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งนี้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีร่มเงาของต้นไม้โดยรอบช่วยให้นั่งใช้งานอยู่บริเวณนี้ได้นานขึ้น จะได้บรรยากาศการนั่งพักผ่อนแบบเป็นกันเองด้วยค่ะ

แต่เราแอบเสียดายที่ไม่มีทางขึ้นจากสวนด้านข้าง ทำให้เราต้องเดินผ่าน Co – Working Space และ Glass House เพื่อเข้ามาบริเวณนี้ค่ะ แต่ก็คิดกลับกันว่าพื้นที่นี้ก็จะเป็นเหมือนมุมนั่งเล่นลับในสวนนั่นเองค่ะ

ต่อมาเราพาออกมาตรงโถงต้อนรับใหม่ แล้วเดินไป Co – Working Space ห้องที่ 2 ที่อยู่อีกฝั่งกันค่ะ ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับประตูสำหรับเดินออกไปสระว่ายน้ำด้านนอกค่ะ

 เรามองว่าบรรยากาศภายในห้องนี้เหมาะกับการมานั่งเล่นและทำงานค่ะ จะมีโซฟายาวพร้อมโต๊ะเล็กๆ และชุดโซฟาริมหน้าต่างด้วยค่ะ ซึ่งก็ออกแบบเป็นกระจกบานใหญ่ทั้ง 2 ด้าน เพื่อเปิดรับวิวสวนได้เต็มที่เลย ส่วนทางด้านในสุดจะเป็นประตูกระจกเปิดไปสระว่ายน้ำ ทำให้สำหรับพ่อแม่ที่มานั่งดูแลลูกๆเล่นน้ำ ก็สามารถมานั่งรอเย็นๆภายในห้องนี้ได้ด้วย

นอกจากมุมนั่งเล่นที่นอกจากจะเป็นโซฟาแล้ว ยังมีมุมนั่งแบบบาร์ด้วยค่ะ สำหรับคนที่มานั่งทำงานหรือพักผ่อนกันเป็นกลุ่มค่ะ

นอกจากจะเดินผ่าน Co – Working Space ที่เราพาไปดูเมื่อกี้นี้เพื่อไปสระว่ายน้ำแล้ว ก็จะมีประตูบริเวณโถงต้อนรับ สำหรับเดินออกไปสระว่ายน้ำได้ด้วยค่ะ ซึ่งโถงประตูนี้จะมีห้องน้ำสำหรับผู้พิการหรือผู้สูงอายุอยู่ทางด้านข้างโถงค่ะ

สำหรับประตูห้องน้ำนี้ก็จะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก  สามารถเปิด – ปิดประตูได้ง่าย ออกแบบระดับพื้นเรียบเสมอกัน ไม่ต้องกังวลเรื่องการสะดุดล้ม

ภายในห้องน้ำจะมีขนาดใหญ่ สำหรับผู้ที่นั่งวีลแชร์ ก็สามารถเข็นรถเข้ามาภายในห้องได้ มีติดตั้งราวจับ เพื่อให้สามารถจับยึดเวลาลุก – นั่งและใช้งานได้สะดวกค่ะ

ด้านบนประตูจะมีติดป้ายบอกทางด้วยนะคะ ว่าเป็นประตูที่เดินไปห้องน้ำและสระว่ายน้ำค่ะ

เดินออกมาด้านนอกจะเป็นแนวทางเดินเชื่อมต่อไปสระว่ายน้ำ และมีห้องน้ำแบ่งชาย – หญิงอยู่ทางด้านข้างค่ะ

ประตูห้องน้ำเป็นแบบผลักเข้าด้านใน เมื่อเข้ามาภายในห้องน้ำ จะมีทั้งส่วนล็อกเกอร์เก็บของ อ่างล้างมือ ห้องน้ำและห้องอาบน้ำค่ะ

อ่างล้างมือมีอยู่ 3 อ่าง และมีพื้นที่วางของเคาน์เตอร์กว้าง ส่วนล็อกเกอร์เป็นการเปิด-ปิดด้วยกุญแจ มีช่องขนาดใหญ่ สามารถเก็บกระเป๋า เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนชุด และอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆได้

สำหรับห้องน้ำส่วนกลางจะมีอยู่ 4 ห้อง และมีห้องอาบน้ำ 1 ห้องค่ะ ซึ่งจริงๆเราก็สามารถกลับไปเปลี่ยนชุดให้เรียบร้อยที่บ้านได้เหมือนกันนะคะ ยิ่งสำหรับคนที่บ้านใกล้ Clubhouse ก็เดินกลับไปเปลี่ยนชุดได้สะดวกเลยค่ะ

พอเดินตามทางเดินมาเรื่อยๆแล้วจะเจอกับสระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมพื้นที่อาบน้ำล้างตัวสำหรับก่อนและหลังเล่นน้ำ อยู่ทางด้านข้างสระว่ายน้ำ เป็นฝักบัวแบบ Rain Shower 2 จุดค่ะ

สระว่ายน้ำของโครงการ มีขนาด 8 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร จะเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ว่ายน้ำได้จริงจัง มองเห็นพื้นที่สวนของโครงการขณะใช้งานไปพร้อมกัน รวมถึงปลูกต้นไม้อยู่ 2 ฝั่งของสระว่ายน้ำ เมื่อต้นไม้โตเต็มที่แล้วก็จะให้ร่มเงาและความร่มรื่น ช่วยให้สามารถใช้งานสระว่ายน้ำได้นานขึ้นด้วยค่ะ หากมาใช้งานในตอนกลางวันอาจจะร้อนหน่อย แต่พอตกเย็นก็มาว่ายน้ำเล่นได้สบายๆค่ะ

มีแบ่งแยกสระเด็ก ลึก 0.6 เมตร อยู่ใกล้กับพื้นที่นั่งเล่นข้างสระว่ายน้ำค่ะ และด้านข้างพื้นที่นั่งเล่นออกแบบเป็นร่องพื้นโรยหินสีขาว สำหรับซับน้ำกระเด็นและไหล ขณะเล่นน้ำและขึ้น – ลง จากสระค่ะ

พื้นที่นั่งพักผ่อนแบบ Semi Outdoor ข้างสระว่ายน้ำ โดยจะชุดที่นั่งใกล้กับบริเวณสระเด็ก คุณพ่อและคุณแม่จึงสามารถมานั่งดูแลลูกๆขณะเล่นน้ำได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงได้วิวสระว่ายน้ำและสวนเขียวด้วยค่ะ

สำหรับพื้นที่ส่วนนี้จะมีประตูที่เชื่อมไปยัง Co – Working Space ที่เราพาไปชมก่อนหน้านี้ค่ะ ผู้ปกครองก็เลยสามารถไปนั่งรอเย็นๆด้านในระหว่างรอเด็กๆเล่นน้ำได้นั่นเอง

ถัดมาเราพามาดูชั้น 2 ของ Clubhouse กันค่ะ จะเป็น Fitness และห้องนิติบุคคลที่อยู่ด้านในสุด สำหรับรับช่วงต่อในการดูแลโครงการในอนาคตค่ะ

ภายใน Fitness มีเครื่องออกกำลังกายหลากหลายประเภททั้ง Weight Training และ Cardio รวมถึงถึงมีที่ชกมวยด้วยค่ะ ส่วนบริเวณด้านข้างที่หันไปด้านหน้าโครงการจะมีระเบียงเปิดออกไปรับวิวได้

บริเวณเครื่องลู่วิ่งและปั่นจักรยาน จะหันไปรับวิวสระว่ายน้ำด้านล่าง และมีฉากกระจกกั้นระหว่างเครื่องออกกำลังกายแต่ละเครื่อง ก็จะได้ระยะห่างของแต่ละเครื่องกว้างขึ้น เพิ่มความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อยเวลามีลูกบ้านคนอื่นมาใช้งานพร้อมกันค่ะ ส่วนผนังอีกด้านจะเป็นกระจกเงา ทำให้พื้นที่ห้องดูกว้างขึ้นและเช็กความถูกต้องของท่าออกกำลังกายต่างๆได้

พื้นที่ระเบียงข้าง Fitness มีขนาดใหญ่ ได้วิวสวนและสระว่ายน้ำด้านล่าง รวมถึงสามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศภายใน Fitness ด้วย

จากระเบียงมองไปด้านล่างได้วิวสนามหญ้าสีเขียวขนาดใหญ่ บริเวณด้านหน้า Clubhouse มีออกแบบราวกันตกสีดำ ป้องกันความปลอดภัยและเพิ่มลูกเล่นให้หน้าตาของ Clubhouse มีมิติ ดูน่าสนใจ

ต่อจะเป็นห้องนิติบุคคลที่อยู่บริเวณด้านในของชั้น 2 หันไปด้านหน้าอาคาร จะมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดเข้าไปด้านในและออกแบบพื้นยกระดับ มีบันไดเดินขึ้นไปค่ะ สำหรับปัจจุบันได้ใช้พื้นที่ส่วนนี้ทำเป็นห้องประชุม แต่ในอนาคตจะเปลี่ยนการใช้งานเป็นห้องนิติบุคคลที่ช่วยในการดูแลและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านในโครงการค่ะ

ต่อมาเราพามาดูบรรยากาศพื้นที่สวนส่วนกลางกันค่ะ ซึ่งทางโครงการออกแบบเป็นสนามหญ้ากว้าง มีทางเดินรอบสวนใช้เป็น Jogging Track ระยะ 350 เมตร ปลูกต้นไม้เพื่อความร่มรื่นและสดชื่น ล้อมรอบพื้นที่สวน

พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง สำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเป็นการออกกำลังกายท่ามกลางพื้นที่สวนสีเขียวบ้าง ยิ่งเวลามาออกกำลังกายตอนเช้าก็จะได้ความบรรยากาศกลิ่นสดชื่นดีเลยค่ะ

Pavilion ศาลานั่งพักผ่อนริมสวนแบบ Semi Outdoor ตกแต่งด้วยไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่รอบศาลาค่ะ

พื้นที่ภายในศาลา จะตั้งเก้าอี้นั่งหันไปทางสนามหญ้าที่เห็นเป็นแนวยาว ออกแบบพื้นที่เปิดโล่ง ได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งสบายๆริมสวนค่ะ

Play Land พื้นที่สนามเด็กเล่น สำหรับให้เด็กๆมาเล่นและออกกำลังกายกันค่ะ โดยใช้ไม้พุ่มล้อมพื้นที่สนามเด็กเล่นไว้ ช่วยกันให้เด็กๆไม่วิ่งออกไปบริเวณอื่นค่ะ

บริเวณรอบสระว่ายน้ำที่นอกจากจะมีต้นไม้ใหญ่แล้ว มีไม้พุ่มที่มีดอกไม้ เพิ่มสีสันสดใสให้กับพื้นที่สวนสีเขียวด้วยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
  • สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 8 x 25 เมตร ลึก 1.2 เมตร
  • แบ่งสระเด็ก ลึก 0.6 เมตร
  • Lobby
  • Co-Working Space
  • Glass Room
  • ห้องออกกำลังกาย
  • พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 2 ไร่
  • Play Land สนามเด็กเล่น
  • Jogging Track ระยะประมาณ 350 เมตร
  • Pavilion ศาลานั่งพักผ่อน
  • เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 3 – 4 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ประตูรั้วโครงการแบบรั้วเหล็กรางเลื่อน
  • ระบบในการเข้า-ออกโครงการ : Keycard Access / Video Door Phone

แบบบ้าน

Highlights

  • แบบบ้านสไตล์ Modern French โทนสีขาว แบบคลาสสิกร่วมสมัย
  • บ้าน 4 ห้องนอนและมีขนาดที่ดินใหญ่ในทุกแบบบ้าน
  • โครงสร้างบ้านเป็นแบบก่ออิฐมวลเบา สามารถทุบและต่อเติมได้
  • พื้นที่ Open Plan ขนาดใหญ่ เชื่อมทั้งพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่กินข้าว รวมถึงมุม Pantry
  • ห้องครัวแบบปิด กันกลิ่นและควันลอยเข้าไปติดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน
  • Master Bedroom มีขนาดใหญ่และโปร่งโล่ง มีห้องน้ำในตัว ใช้งานสะดวก
  • ระเบียงส่วนตัว ที่ Master Bedroom และ ห้องนอนรอง 1 ในทุกแบบบ้าน

สำหรับรูปแบบบ้านในโครงการ ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 (Laddarom Chatuchot 15) เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ทั้งหมด 5 แบบบ้าน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • Belle บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 196 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 8.59 ล้านบาท
  • Cherie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 228 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 10.09 ล้านบาท
  • Celine บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 268 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 11.60 ล้านบาท
  • Eleanor บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 355 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 14.80 ล้านบาท
  • Helene บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 109 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 398 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 18.00 ล้านบาท

วัสดุในบ้าน

  • หลังคาทรงปั้นหยา ใส่แผ่นสะท้อนความร้อนบริเวณใต้หลังคา จาก SCG
  • โครงสร้างบ้านแบบ Conventional ก่ออิฐมวลเบา ผิวฉาบเรียบทาสี
  • พื้นส่วนที่จอดรถ Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน พื้นเป็นทรายล้าง
  • ลานซักล้าง Slab on Ground พื้นปูกระเบื้อง ขนาด 40 x 40 เซนติเมตร
  • พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ลายหินอ่อนสีขาว ขนาด 80 x 80 เซนติเมตร
  • พื้นชั้น 2 : ลามิเนตลายไม้ หนา 12 มม.
  • ห้องครัวมี Built-in เคาน์เตอร์ครัว Top กระเบื้อง พร้อมหน้าบาน, ตู้เก็บของ อ่างล้างจานและพัดลมดูดอากาศ
  • วัสดุผนังห้องครัว ปูกระเบื้องตามมาตรฐาน
  • สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก American Standard
  • บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้ยางประสานสำเร็จรูป
  • วัสดุกรอบบานหน้าต่าง UPVC สีขาว จาก AMIGO
  • ไฟดาวน์ไลท์ แบบ Warm White
  • ให้สวนมาตรฐาน ปูสนามหญ้า ไม้พุ่ม และต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น
  • แอร์แบบ Wall Type จำนวน 3 เครื่อง จาก Mitsubishi หรือเทียบเท่า ติดตั้งที่ห้องนอน ชั้น 2

เทคโนโลยีในบ้าน

  • ประตูทางรั้วด้านหน้าบ้าน ระบบอัตโนมัติ (เปิดผ่านรีโมท)
  • Digital Door Lock จำนวน 1 ตัวที่ประตูบ้านทุกหลัง (ใช้ได้ 3 ระบบ คีย์การ์ด , กดรหัสและสแกนลายนิ้วมือ)
  • สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง
  • IP Camera / Wifi Camera จำนวน 1 ตัว บริเวณที่จอดรถ
  • นวัตกรรมเติมอากาศภายในตัวบ้าน พร้อมกรองฝุ่น 2.5 PM (Q Health Plus)
  • ระบบ Home Automation
  • ระบบไฟฟ้า 1 เฟส (30/100) รองรับการติดตั้ง EV Charger ได้

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

สำหรับวันนี้เราพาไปเจาะลึกรายละเอียด 2 แบบบ้านกัน ได้แก่ Belle ที่เป็นบ้านเริ่มต้นของโครงการและ Cherie แบบบ้านที่มีจำนวนเยอะสุดของโครงการกันค่ะ นอกจากนั้นเราได้เก็บภาพบรรยากาศบ้านตัวอย่างของ Celine มาให้ชมกันด้วยนะคะ


Belle

เราจะมาเริ่มกันที่บ้านเดี่ยว Belle ที่เป็นแบบบ้านเริ่มต้นของโครงการกันนะคะ โดยมีขนาดที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 196 ตร.ม. และมีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

ออกแบบตัวบ้านสไตล์ Modern French เน้นสีขาวและครีม หลังคาเป็นทรงปั้นหยาที่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเราที่สามารถกันแดด กันฝนได้ดี รวมถึงใส่แผ่นสะท้อนความร้อนบริเวณใต้หลังคา จาก SCG เน้นออกแบบช่องแสงขนาดใหญ่หลายจุด และบริเวณชั้น 2 มีออกแบบเป็นเหมือนระเบียงยื่นออกมา ทำให้นอกจากจะเป็นพื้นที่ใช้สอยแล้ว ยังทำให้หน้าตาบ้านมีลูกเล่น ดูสวยงาม

โครงสร้างบ้านทั้งโครงการเป็นแบบ Conventional ก่ออิฐมวลเบา ผิวฉาบเรียบทาสี ซึ่งมีข้อดีที่นอกจากความแข็งแรง ทนทานแล้ว ยังสามารถทุบหรือต่อเติมเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของเรามากขึ้นได้ค่ะ

ประตูรั้วบ้านเป็นโครงเหล็กบานเลื่อนระบบอัตโนมัติที่เปิดผ่านรีโมท โดยจะเลื่อนไปซ่อนอยู่ที่ผนังด้านข้าง และออกแบบให้เป็นซี่ๆ ดูโปร่งไม่อึดอัด

ชั้น 1

  • ที่จอดรถ 2 คันในร่ม
  • โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีซุ้มชายคากันแดดและฝน เป็นพื้นที่วางร่มและถอดเก็บรองเท้าได้สะดวก
  • พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่กินข้าว
  • พื้นที่ Common Area มีประตูเปิดออกไปสวนด้านข้างได้
  • ห้องครัวแบบปิด มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้
  • ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุ หรือปรับเป็นห้องทำงานได้
  • ห้องน้ำชั้น 1 มีส่วนพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกันได้
  • ห้องเก็บของใต้บันได บริเวณด้านหลังบ้าน

ชั้น 2

  • Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีพื้นที่นั่งเล่นในห้อง พร้อม Walk – in Closet และห้องน้ำภายในห้อง
  • Master Bedroom มีระเบียงส่วนตัว
  • Master Bathroom มีพื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน)
  • ห้องนอนรองสามารถวางเตียง 3.5 ฟุต และ 5 ฟุตได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าด้านข้าง
  • ห้องน้ำส่วนกลาง มีประตูเปิดได้ 2 ทาง สำหรับห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง
  • ห้องน้ำส่วนกลาง มีออกแบบพื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน)
  • ห้องนอนรอง 1 มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่

ด้านหน้าบ้านมีติดตั้งโคมไฟ กริ่ง กล่องไปรษณีย์ รวมถึงถังขยะที่เปิดทิ้งได้จากด้านใน และออกแบบช่วยพรางตาให้หน้าบ้านดูเรียบร้อย

สำหรับแบบบ้านเริ่มต้นนี้ จะจอดรถได้ 2 คันในร่ม และพื้นที่จอดรถเป็นแบบ Slab on Beam ลงเสาเข็มเท่ากับตัวบ้าน เทพื้นเป็นทรายล้าง

นอกจากนั้นทางโครงการก็ได้ติดตั้ง IP Camera และโคมไฟเปิด – ปิด อัตโนมัติมาให้ เพิ่มความปลอดภัยให้ตัวบ้านมากขึ้นด้วยค่ะ

ทางโครงการได้จัดสวนตามมาตรฐานมาให้ทั้งปูสนามหญ้า ลงไม้พุ่ม และต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น เหมือนรูปด้านล่างเลยค่ะ ทางโครงการก็ได้ตกแต่งสวนของบ้านตัวอย่างเป็นมุมนั่งเล่นหน้าบ้าน ตั้งเก้าอี้ชิงช้าและลงต้นไม้เพิ่ม ก็ทำให้ดูเป็นมุมที่ร่มรื่น น่านั่งเล่นดีเลยค่ะ

ส่วนบริเวณพื้นที่สวนรอบบ้านก็จะมีปูสนามหญ้าและลงต้นไม้มาบ้างแล้ว ซึ่งใครชอบจัดสวน ก็ซื้อต้นไม้มาลงเพิ่ม ให้บรรยากาศร่มรื่นกับตัวบ้าน แต่สำหรับคนที่ไม่มีค่อยมีเวลาดูแลสวนเท่าไหร่ ก็ปูเป็นพื้นกระเบื้องและใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นข้างบ้านได้เหมือนกันค่ะ

บริเวณประตูทางเข้าบ้านจะมีหลังคาเป็นซุ้มโถงทางเข้าที่กันแดดกันฝน ออกแบบเชื่อมต่อมาจากหลังคาที่จอดรถ ทำให้แสงแดดไม่ส่องเข้าบ้านตรงๆค่ะ

พื้นที่ชานบ้านด้านหน้ามีขนาดประมาณ 2.0 x 4.3 เมตร เชื่อมกับพื้นที่จอดรถ ซึ่งเราก็สามารถตั้งชั้นวางรองเท้า ที่เก็บร่ม และวางของก่อนเข้าบ้านได้ด้วยค่ะ

ประตูเข้าบ้านเป็นประตูกระจกบานผลัก ติดตั้ง Digital Door Lock ที่สามารถใช้งานได้ 3 ระบบ ทั้งคีย์การ์ด, กดรหัสและสแกนลายนิ้วมือ ก็สะดวกมากๆสำหรับคนที่ชอบลืมบัตรเวลาออกจากบ้านค่ะ

นอกจากนั้นก็มีติดตั้งระบบ Magnetic Sensor บริเวณประตูและหน้าต่างทั้งชั้น 1 และ 2 ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและวางใจมากขึ้น เวลาที่เราไปทำงานหรือเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศหลายวันค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในบ้าน จะเจอกับพื้นที่ Common Area ที่เป็นพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่กินข้าว โดยออกแบบเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันขนาดใหญ่ ขนาด 5.0 x 7.6 เมตร ซึ่งการออกแบบพื้นที่แบบนี้คือทำให้บ้านดูโปร่งโล่งและมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน หรือก็คือเราสามารถตกแต่งและจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ตามความชอบของเรา ส่วนครัวและห้องน้ำจะแยกอยู่อีกฝั่งหนึ่งค่ะ

สำหรับพื้นชั้น 1 จะปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ลายหินอ่อนสีขาว ขนาด 80 x 80 เซนติเมตร ทำให้บ้านดูสว่าง ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.7 เมตร ค่ะ และมีดรอปฝ้าบริเวณพื้นที่ Common Area อีกประมาณ 15-30 เซนติเมตรค่ะ แต่ว่าไม่ได้มีการซ่อนไฟมาให้แบบบ้านตัวอย่างนะคะ เราจะได้เป็นเพียงไฟดาวน์ไลท์ แบบ Warm White ค่ะ

บริเวณพื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่ง พร้อมโซฟาด้านข้างได้สบายๆ รวมถึงสามารถตั้งโต๊ะกลางและโต๊ะเล็กๆด้านข้างได้ด้วย ซึ่งขนาดเราตั้งโต๊ะกลางแล้วก็ยังมีพื้นที่ทางเดินผ่านเข้า – ออกได้สะดวกด้วยค่ะ

ส่วนผนังอีกด้านทางโครงการตั้งเป็นชั้นวางของมา ก็จะได้ความโล่งๆ สบายตา แต่สำหรับเราคงทำ Built – in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของแบบเต็มผนังเลยค่ะ เพราะนอกจากจะใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น เก็บของสะสมแล้ว ยังเป็นจุดดึงดูดสายตาและต้อนรับเมื่อเข้าภายในตัวบ้านด้วย โดยจะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 4.2 เมตร ทำให้สามารถวางทีวีขนาดใหญ่ถึง 75 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ

พื้นที่กินข้าวสามารถตั้งโต๊ะ 6 ที่นั่งได้สบายๆ เหลือพื้นที่รอบโต๊ะกว้าง และมีประตูกระจก 2 ตอน สำหรับเปิดออกไปสวนด้านข้างได้จากพื้นที่กินข้าวค่ะ

พื้นที่ Common Area นี้มีช่องแสงขนาดใหญ่จากทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลังบ้าน ทำให้บ้านดูมีความโปร่งสบายดีเลยค่ะ รวมถึงได้วิวสวนสีเขียวจากสวนด้วย

บริเวณชั้น 1 จะมี Video Door Phone สำหรับติดต่อกับป้อม รปภ. ด้านหน้าโครงการ โดยทาง รปภ. จะ Video Call มาที่บ้านเราเวลามีแขกมาขอเยี่ยม หรือเราโทรไปแจ้งเวลาแขกเดินทางมาถึงโครงการค่ะ ก็จะช่วยในเรื่องการคัดกรองและความปลอดภัยภายในโครงการนั่นเอง

นอกจากนั้นยังมี Q Health Plus นวัตกรรมเติมอากาศภายในตัวบ้าน โดยจะดันอากาศภายในบ้านออกไปตามช่องกรอบประตู – หน้าต่าง และดึงอากาศบริสุทธิ์เข้าตัวบ้าน พร้อมกับกรองฝุ่น 2.5 PM และเราก็สามารถเปลี่ยนฟิลเตอร์กรองอากาศได้เองเลย ซึ่งก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปค่ะ

ตอนนี้เราพามาดูอีกฝั่งของบ้านกันค่ะ จะเป็นส่วนของห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว และบันไดขึ้นชั้น 2 ค่ะ

เราจะพาไปดูห้องนอนชั้นล่างกันก่อนนะคะ มีขนาดอยู่ที่ 3.0 x 4.0 เมตร และมีช่องแสงอยู่ทั้ง 2 ด้าน ซึ่งเรามองห้องนี้เหมาะทำเป็นห้องทำงานมากกว่า หรือปรับเป็นห้องเล่นของเล่นสำหรับเด็กอย่างที่ทางโครงการได้ตกแต่งไว้เป็นไอเดียก็ได้เหมือนกัน

Image 1/2
Built - in เป็นลิ้นชักเก็บของและมุมนั่งริมหน้าต่าง

Built - in เป็นลิ้นชักเก็บของและมุมนั่งริมหน้าต่าง

ถัดมาเป็นห้องน้ำที่มีขนาดอยู่ที่ 1.5 x 2.4 เมตร มีออกแบบแยกส่วนเปียกและแห้ง พร้อมพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วย แต่ว่าไม่ได้มีฉากกั้นกระจกมาให้นะคะ ลูกบ้านจึงต้องไปติดตั้งเพิ่มกันเอง ซึ่งก็ทำให้สามารถอาบน้ำได้พร้อมกันทั้ง 3 ห้องเลยค่ะ

สำหรับสุขภัณฑ์ในห้องน้ำจะได้เหมือนกับในรูปเลยค่ะ สิ่งที่เราชอบในห้องน้ำนี้คือกระจกขนาดใหญ่และมีความยาวตั้งแต่อ่างล้างมือไปถึงโถสุขภัณฑ์ ทำให้เราสามารถส่องกระจกได้เต็มตาดี โดยเฉพาะเวลาหมุนตัว ดูข้างหลังค่ะ

สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะมาจากแบรนด์ American Standard ทั้งหมดเลย ทั้งก๊อกน้ำ อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ ซึ่งเราก็มีจุดที่ชอบอีกจุดคือขอบผนังด้านหลังอ่างล้างมือ ที่พอไม่ได้ออกแบบเป็นเคาน์เตอร์แล้ว ทำให้ไม่มีพื้นที่วางของอย่างเจลล้างมือหรือครีมล้างหน้าเลย ซึ่งพอเราก่อผนังมา ก็ทำให้เรามีพื้นที่วางของเล็กๆน้อยๆเพิ่มได้ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.8 x 1.5 เมตร ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนจากแบรนด์ American Standard  พร้อมเดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเรียบร้อยค่ะ

ต่อมาเป็นห้องครัว ที่ทางโครงการได้ปูผนังห้องเป็นกระเบื้องสีขาวตามมาตรฐาน มีหน้าต่างเปิดระบายอากาศและมีประตูเปิดออกไปลานซักล้างด้านหลังบ้าน

ใครที่ทำอาหารจริงจัง มีอุปกรณ์ทำอาหารเยอะ ก็จะมีช่องเก็บของบริเวณใต้เคาน์เตอร์ และเราก็สามารถ Built – in หรือตั้งชั้นวางของบริเวณด้านข้างห้องเพิ่มได้ค่ะ

ทางโครงการได้ Built-in มาให้ด้วย เป็นเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L ที่ Top กระเบื้องสีดำ พร้อมหน้าบาน, ตู้เก็บของ, อ่างล้างจานและพัดลมดูดอากาศมาให้ค่ะ

เราจึงต้องเผื่อเงินสำหรับซื้อเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันมาติดตั้งเองค่ะ แต่ถ้าใครอยากจำกัดงบหน่อย ก็ไม่ต้องซื้อเครื่องดูดควันแล้วใช้เปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อระบายกลิ่นและควันอาหารแทนค่ะ

Image 1/3
เคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการ Built - in มาให้

เคาน์เตอร์ครัวที่ทางโครงการ Built - in มาให้

อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดี่ยว และมีพื้นที่ตากจานชามด้านข้าง รวมถึงมีพื้นที่บนเคาน์เตอร์กว้าง จึงสามารถวางของและเตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ได้สะดวก

เคาน์เตอร์ครัวด้านนี้ใช้ติดตั้งเตาไฟฟ้าได้ ใกล้กับประตูเปิดออกไปลานซักล้าง โดยประตูนี้ก็จะมีช่องหน้าต่างกระจกเหมือนในรูปเลยค่ะ ส่วนด้านบนก็มีพัดลมดูดอากาศมาให้ด้วยค่ะ

จากห้องครัวจะมีบันไดเดินลงไป 1 ขั้น และคั่นด้วยหินก่อนถึงพื้นลานซักล้าง ขนาด 1.6 x 2.4 เมตร ซึ่งจะเป็นพื้นแบบ Slab on Ground ปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาล ขนาด 40 x 40 เซนติเมตร

พื้นด้านหลังบ้านจะโรยเป็นหินกรวด และมีห้องเก็บของอยู่ทางด้านขวา ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้บันไดค่ะ

เราพากลับเข้ามาภายในบ้านแล้วจะขึ้นไปชั้น 2 กันค่ะ สำหรับโครงสร้างของบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้างประมาณ 1 เมตร ด้านข้างมีราวจับไม้สำเร็จรูป ปูลูกตั้งและลูกนอนด้วยไม้ประสาน ลูกนอนกว้างประมาณ 25 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม. เดินได้สบาย

รวมถึงออกแบบหน้าต่างสูงตรงโถงบันได ได้แสงธรรมชาติเข้ามาช่วยให้โถงบันไดไม่มืด ทางโครงการก็ได้ติดตั้งโคมไฟด้านข้างมาให้แล้วด้วย แต่ก็สามารถติดโคมไฟแบบห้อยยาวเพิ่มได้ค่ะ

สีของบันไดจะเข้ากันกับพื้นชั้น 2 ที่ปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม. ก็ทำให้ได้ความรู้สึกอบอุ่นเหมาะกับการพักผ่อนมากขึ้น ตรงข้างๆบันไดชั้น 2 มีพื้นที่ตั้งโต๊ะวางของเล็กๆได้ค่ะ

สำหรับความสูงของชั้น 2 อยู่ที่ 2.7 เมตร เท่ากับความสูงของชั้น 1 เลยค่ะ เดี๋ยวเราจะพาไปดู Master Bedroom ที่มีขนาดห้องประมาณพื้นที่ครึ่งนึงของชั้น 2 กันก่อนนะคะ

ตรงหน้าห้อง Master Bedroom จะติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic Sensor ภายในบ้านไว้ด้วย รวมถึงภายในห้องจะมี Q Health Plus นวัตกรรมเติมอากาศภายในตัวบ้านพร้อมกับกรองฝุ่น 2.5 PM และทางโครงการจะให้แอร์แบบ Wall Type ติดตั้งบริเวณห้องนอนด้านบน จำนวน 3 เครื่อง จาก Mitsubishi หรือเทียบเท่าค่ะ

เข้ามาภายใน Master Bedroom มีขนาด 4.5 x 7.9 เมตร จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง โดยฝั่งด้านหน้าบ้านจะเป็นพื้นที่เตียงนอน ส่วนพื้นที่ด้านหลังบ้านจะเป็น Walk – in Closet และห้องน้ำค่ะ

พื้นที่เตียงนอนและมุมนั่งทำงานข้างเตียง จะมีพื้นที่ประมาณ​ 4.5 x 4.8 เมตร ซึ่งทางแบบบ้านมาตรฐานก็จะออกแบบดรอปฝ้ามาให้ด้วยนะคะ ก็จะได้ความสูงห้องเพิ่มขึ้นมาหน่อย รวมถึงสามารถออกแบบซ่อนไฟได้ ดูสวยงามดีเลยค่ะ

เราสามารถตั้งเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ มีพื้นที่รอบเตียงเหลือกว้าง หรือใครอยากวางโซฟานั่งบริเวณปลายเตียงเพิ่มได้เหมือนกันค่ะ

บริเวณตรงผนังฝั่งปลายเตียงจะมีพื้นที่เว้นช่องว่างมาให้ เราก็สามารถทำ Built – in เป็นโต๊ะพร้อมลิ้นชักเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นไอเดียได้ค่ะ หรือจะทำเป็น Built – in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของเต็มผนังได้เลยค่ะ

บริเวณพื้นที่ข้างหัวเตียง ตั้งเป็นโต๊ะวางโคมไฟ หนังสือหรือมือถือได้ทั้ง 2 ฝั่ง รวมถึงมีพื้นที่ด้านข้างทำเป็นมุมทำงานหรือนั่งเล่นข้างเตียงภายในห้องได้เลยค่ะ อย่างทางโครงการก็ได้มีทำ Built – in ชั้นวางของข้างๆโต๊ะทำงานไว้สำหรับเก็บเอกสารทำงานได้ค่ะ สำหรับช่องแสงบริเวณนี้จะมีจากข้างหัวเตียงทั้ง 2 ข้างและด้านข้างที่เป็นประตูกระจกเปิดออกไประเบียงส่วนตัวค่ะ

สำหรับ Master Bedroom จะมีระเบียงส่วนตัวภายในห้องขนาดประมาณ 1.2 x 3.8 เมตร ที่หันไปทางด้านหน้าบ้าน และกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ทำให้เราได้ทั้งแสงธรรมชาติและวิวด้านนอกถึงแม้จะอยู่บนเตียงด้วยนั่นเอง

เราสามารถเอาเก้าอี้ไปตั้งทำเป็นมุมนั่งเล่นหรือจะปลูกต้นไม้เล็กๆ เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน เวลามองจากภายในห้องนอนออกไประเบียงแล้วเจอต้นไม้สีเขียวก็ทำให้ดูสบายตาและรู้สึกผ่อนคลายดีค่ะ สำหรับราวกันตกเป็นโครงเหล็กสีดำ ตัดกับสีขาวของตัวบ้าน ทำให้หน้าบ้านดูมีลูกเล่นดี และออกแบบให้เป็นซี่ๆ ดูโปร่งไม่อึดอัดค่ะ

กลับเข้ามาใน Master Bedroom กันต่อ เราจะพาไปดูฝั่ง Walk – in Closet และห้องน้ำกันค่ะ

พื้นที่ Walk – in Closet จะมีขนาดประมาณ 2.0 x 3.1 เมตร ซึ่งพอเราทำ Built – in ตู้เสื้อผ้าเป็นตัว I แล้ว จะมีพื้นที่ยืนแต่งตัวได้สบายๆประมาณ​ 1.4 เมตรเลยค่ะ สำหรับบริเวณโต๊ะแต่งหน้า บ้านตัวอย่างจะติดกับช่องหน้าต่างที่เปิดรับแสงธรรมชาติ ถ้าใครอยากได้กระจกแจ่งหน้าอาจจะวางเป็นกระจกอันเล็กๆแบบในบ้านตัวอย่างหรือเราสามารถออกแบบเป็นกระจกเงาที่เลื่อนไปซ่อนด้านข้างของตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ

Master Bathroom มีขนาด 1.8 x 2.7 เมตร แบ่งแยกพื้นที่แห้งและเปียก ปูพื้นกระเบื้องเซรามิกสีครีม รวมถึงมีพื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) ซึ่งก็เป็นจุดที่สร้างความน่าสนใจให้กับโครงการนี้ด้วยค่ะ เดี๋ยวเราจะพาไปดูส่วนอื่นของห้องน้ำกันก่อน แล้วจะมาเล่าให้ฟังว่าน่าสนใจยังไงนะคะ

สำหรับ Master Bathroom มีก่อเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือพร้อมพื้นที่วางของด้านหลัง สำหรับตั้งของตกแต่งและอุปกรณ์อาบน้ำต่างๆได้ค่ะ

สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำก็มาจากแบรนด์ American Standard ทั้งหมดเลย ทั้งก๊อกน้ำ อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ เหมือนกับห้องน้ำชั้นล่างเลยค่ะ แต่จะแตกต่างที่มีช่องเก็บของด้านล่างอ่างล้างมือสำหรับเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำได้ค่ะ

อย่างที่ได้บอกไปว่า Master Bathroom จะมีพื้นที่อาบน้ำภายในห้องแล้ว ยังมี Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) ด้านนอกด้วยค่ะ ซึ่งภายในห้องน้ำจะมีฉากกั้นกระจกมาให้ด้วยนะคะ

พื้นที่อาบน้ำนี้มีขนาด 0.9 x 1.8 เมตร ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและ Rain Shower จากแบรนด์ American Standard ค่ะ และทางโครงการได้เดินสายรองรับเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยแล้ว ลูกบ้านก็สามารถไปติดตั้งเพิ่มกันได้นะคะ

คราวนี้เราพามาดูห้องน้ำชมสวนที่ออกแบบเป็น Outdoor Shower กันค่ะ ซึ่งถ้าพูดในเรื่องการใช้งานแล้ว เราก็ได้พื้นที่อาบน้ำเพิ่มขึ้น แต่จริงๆแล้วยังได้ในเรื่องการระบายอากาศ ลดความชื้นและเชื้อราในห้องน้ำด้วยการออกแบบเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ทำให้ได้แดดที่ส่องเข้ามาในห้องน้ำมากกว่าหน้าต่างแบบบานกระทุ้งในห้องน้ำทั่วไปนั่นเองค่ะ

พื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) มีขนาด 0.9 x 2.7 เมตร ทางโครงการได้ติดตั้ง Rain Shower และก๊อกน้ำ และโคมไฟด้านข้างไว้ รวมถึงก่อกำแพงด้านข้างสูง 1.9 เมตร ช่วยให้สามารถอาบน้ำได้อย่างสบายใจ หรือใครที่ยังรู้สึกกังวลอยู่ก็สามารถปิดด้านบนด้วยแผ่นหลังคาแบบขุ่น ก็ทำให้ยังได้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องน้ำได้อยู่ค่ะ

เรามองว่านอกจากจะเป็นพื้นที่อาบน้ำแล้ว ก็สามารถทำเป็นมุมปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในห้องน้ำ หรือจะใช้เป็นพื้นที่สำหรับตากผ้าต่างๆ ก็มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมถึงใช้เป็นพื้นที่อาบน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงได้เช่นกันค่ะ

หลังจากเราพาไปดู Master Bedroom กันแล้ว กลับมาที่โถงชั้น 2 จะมีพื้นที่ที่เว้นช่องไว้ให้อยู่ระหว่างห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง ก็สามารถทำเป็นชั้นวางของหรือสำหรับตั้งโต๊ะไหว้พระได้ค่ะ เดี๋ยวเราจะพาไปดูห้องนอนรอง 1 ฝั่งด้านซ้าย ที่หันหน้าบ้านกันก่อนนะคะ

ห้องนอนรอง 1 มีขนาด 3.4 x 4.6 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้ บริเวณพื้นที่ปลายเตียงก็ทำเป็น Built – in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นไอเดียได้เลย

บริเวณหัวเตียงก็มีพื้นที่สามารถตั้งโต๊ะวางของทั้ง 2 ฝั่งได้สบายๆเลย

ห้องนอนรอง 1 นี้ ก็มีพื้นที่ระเบียงส่วนตัวเหมือนกัน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนสูง 2 ตอน สามารถเปิดออกไปทั้ง 2 จุด ทำให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามาภายในห้อง รวมถึงได้วิวด้วยค่ะ

ระเบียงของห้องนี้มีขนาด 1.9 x 3.9 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าระเบียงส่วนตัวใน Master Bedroom ด้วยค่ะ

พื้นที่ระเบียงนี้ สามารถตั้งโต๊ะและเก้าอี้ทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งได้แบบสบายๆเลย

จากภายในห้องนอนรอง 1 จะมีประตูเข้าไปห้องน้ำส่วนกลางสำหรับใช้ร่วมกันได้ค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางนี้ก็ออกแบบมีประตูเข้าออก 2 ทาง เชื่อมต่อกับห้องนอนรอง 1 และ 2 นั่นเองค่ะ ทำให้สามารถเข้าใช้ห้องน้ำได้สะดวกจากในห้องนอนเลย ไม่ต้องเดินออกไปที่โถงด้านนอกเพื่อเข้าใช้งานค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางนี้ มีขนาด 1.5 x 2.45 เมตร ออกแบบแบ่งแยกพื้นที่แห้งและเปียก รวมถึงมีพื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) ด้วยค่ะ

ทางโครงการเลือกใช้ก๊อกน้ำ อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ American Standard ทั้งหมด เหมือนกับห้องน้ำอื่นๆเลยค่ะ และมีก่อขอบผนังด้านหลังอ่างล้างมือเป็นพื้นที่วางของได้ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 0.9 x 1.5 เมตร ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนจากแบรนด์ American Standard และมีฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ด้วยนะคะ

สำหรับห้องน้ำส่วนกลางก็มีออกแบบห้องน้ำชมสวนแบบ Outdoor Shower ด้วยเหมือนกัน กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามา ลดความอับชื้นและเชื้อราในห้องน้ำ รวมถึงเปิดเพื่อระบายอากาศได้ด้วยค่ะ

แต่ว่าพื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) มีขนาด 0.5 x 1.5  เมตร ซึ่งจะมีพื้นที่เล็กกว่า ใน Master Bathroom และทางโครงการก็ติดตั้งเพียงก๊อกน้ำมาให้ ถึงแม้เราจะติดตั้งฝักบัวเพิ่มเอง แต่ด้วยพื้นที่อาบน้ำก็มีพื้นที่ค่อนข้างแคบไป

ดังนั้นพื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) ของห้องน้ำส่วนกลางนี้ จึงไม่ได้มีไว้สำหรับอาบน้ำโดยเฉพาะ แต่ออกแบบเพื่อให้แดดส่องเข้ามาและระบายอากาศมากกว่า แต่ว่าเราก็ปรับพื้นที่ใช้เป็นมุมต้นไม้ หรือพื้นที่ตากผ้าแทนได้ค่ะ

พอเดินจากห้องน้ำออกไป ก็เชื่อมกับห้องนอนรอง 2 ค่ะ ซึ่งมีขนาด 3.0 x 3.3 เมตร มีพื้นที่ที่เล็กลงกว่าห้องนอนรอง 1 จึงแนะนำว่าวางเป็นเตียง 3.5 ฟุต ก็จะได้มีพื้นที่ด้านข้างสามารถตั้งโต๊ะและตู้เสื้อผ้าได้ ส่วนช่องแสงก็มีทั้ง 2 ด้าน ทำให้ห้องดูสว่าง ไม่อึมครึมค่ะ

สำหรับตู้เสื้อผ้าก็สามารถเลือกใช้ตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปหรือทำ Built – in ตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะแต่งหน้าได้นะคะ ส่วนผนังด้านข้างก็ติดเป็นชั้นวางของเล็กๆเพิ่มเติมได้ตามความชอบเลยค่ะ


Cherieต่อมาเราพาไปดู Cherie ที่เป็นแบบบ้านจำนวนเยอะสุดในโครงการกันค่ะ โดยเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 228 ตร.ม. มีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ สิ่งที่แตกต่างกับแบบบ้าน Belle คือ สามารถจอดรถได้ 3 คัน, Foyer พื้นที่ต้อนรับ, Family Area บนชั้น 2 และห้องนอนทุกห้องบนชั้น 2 มีห้องน้ำในตัวค่ะ รวมถึงได้พื้นที่ใช้สอยในแต่ละฟังก์ชันเพิ่มขึ้นค่ะ

แบบบ้านนี้จะมีหน้ากว้างที่กว้างกว่าแบบบ้าน Belle นอกจากจะมีประตูทางเข้าหลักแล้ว ยังมีประตูรองที่เข้าจากพื้นที่จอดรถได้ค่ะ

ชั้น 1

  • ที่จอดรถ 3 คันในร่ม
  • โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีซุ้มชายคากันแดดและฝน เป็นพื้นที่วางของได้สะดวก
  • มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารอง
  • Foyer พื้นที่ต้อนรับ สามารถตั้งชั้นวางรองเท้าและที่นั่งใส่รองเท้าได้
  • พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่กินข้าว
  • พื้นที่ Common Area มีประตูเปิดออกไปสวนด้านข้างได้
  • ห้องครัวแบบปิด ทำเป็นครัวไทยได้
  • ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุ หรือปรับเป็นห้องทำงานได้
  • ห้องน้ำชั้น 1 มีส่วนพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกันได้
  • ห้องเก็บของใต้บันได บริเวณด้านหลังบ้าน

ชั้น 2

  • Family Area พื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัว
  • ห้องนอนทุกห้อง มีห้องน้ำในตัว
  • Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีพื้นที่นั่งเล่นในห้อง พร้อม Walk – in Closet และห้องน้ำภายในห้อง
  • Master Bathroom มีพื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน)
  • ระเบียงส่วนตัวภายใน Master Bedroom
  • ห้องนอนรอง สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ และวางตู้เสื้อผ้าด้านข้างได้
  • ห้องนอนรอง 1 มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่
  • ห้องน้ำ มีออกแบบพื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน)

ออกแบบหลังคาเป็นซุ้มโถงประตูทางเข้าบ้าน ทำให้แสงแดดไม่ส่องเข้าบ้านตรงๆ สามารถกันแดดและฝนได้ดี

พื้นที่ชานบ้านมีขนาดประมาณ 1.2 x 4.2 เมตร มีพื้นที่ตั้งชั้นวางรองเท้า ที่เก็บร่ม และวางของก่อนเข้าบ้านได้ค่ะ

ประตูทางเข้าบ้านมีอยู่ 2 ทางด้วยกัน โดยประตูทางเข้าหลักที่เข้าไปส่วนของพื้นที่นั่งเล่น จะติดตั้ง Digital Door Lock ที่สามารถใช้งานได้ 3 ระบบ ทั้งคีย์การ์ด, กดรหัสและสแกนลายนิ้วมือ ส่วนประตูทางเข้ารอง จะเข้าจากพื้นที่จอดรถไปส่วนพื้นที่ Foyer และมีติดตั้งระบบ Magnetic Sensor บริเวณประตูและหน้าต่างทั้งชั้น 1 และ 2 ด้วยค่ะ

เราพาเข้ามาจากประตูทางเข้าหลักกันนะคะ เมื่อเข้ามาภายในบ้านแล้ว จะเจอเป็นพื้นที่แบบ Open Plan ที่เชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 4.2 x 8.0 เมตร ทำให้บ้านดูโปร่งโล่ง ซึ่งก็จะเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่กินข้าวค่ะ

ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานของชั้น 1 อยู่ที่ 2.7 เมตร และมีดรอปฝ้าอีกประมาณ 15-30 เซนติเมตรค่ะ รวมถึงปูพื้นชั้น 1 ด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ลายหินอ่อนสีขาว ขนาด 80 x 80 เซนติเมตร ทำให้บ้านดูสว่างดีเลยค่ะ

บริเวณพื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่ง พร้อมโซฟาด้านข้าง ตั้งโต๊ะกลางและโต๊ะเล็กๆด้านข้างได้สบายๆ ส่วนผนังก็ทำ Built – in ชั้นวางทีวีและชั้นวางของแบบเต็มผนังได้ โดยจะมีระยะดูทีวีอยู่ที่ 3.9 เมตร ทำให้สามารถวางทีวีขนาดใหญ่ถึง 75 นิ้วขึ้นไปได้ค่ะ

ถัดจากพื้นที่นั่งเล่น เป็นบริเวณพื้นที่กินข้าวที่สามารถตั้งโต๊ะ 6 ที่นั่งได้สบายๆ เหลือพื้นที่รอบโต๊ะกว้าง และด้านข้างมีประตูกระจก 2 ตอน เปิดออกไปเดินเล่นที่สวนด้านข้างบ้านได้ค่ะ

สำหรับโครงการนี้ ก็ออกแบบเน้นช่องแสงขนาดใหญ่ทั้ง 3 ด้าน ทำให้นอกจากจะทำให้บ้านได้แสงธรรมชาติแล้ว ยังได้วิวสวนสีเขียวด้วย

ต่อมาเราจะพาไปดูอีกฝั่งของบ้านกันที่เป็นส่วนของพื้นที่ต้อนรับ ห้องนอน ห้องน้ำและห้องครัวค่ะ

สำหรับบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเพิ่มพื้นที่นั่งแบบบาร์และ Built – in ตู้เก็บรองเท้า พร้อมที่นั่งใส่รองเท้ามาให้เป็นไอเดียกัน แต่ว่าแบบบ้านมาตรฐานของโครงการจะได้มาตามรูปด้านบนเลยนะคะ

พื้นที่ Foyer มีความกว้างประมาณ 2.2 เมตร และมีประตูทางเข้าออกเชื่อมกับพื้นที่จอดรถ หากใครที่ใช้ประตูนี้เป็นทางเข้าหลักและมีรองเท้าหลายคู่ ก็ทำ Built – in ตู้เก็บรองเท้า ได้เต็มผนังเลย ส่วนพื้นที่นั่งแบบบาร์ก็เปลี่ยนเป็นตั้งโซฟาสำหรับนั่งใส่รองเท้าแทน ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ทางเข้าออกนี้เป็นหลัก ก็สามารถปรับเป็นพื้นที่นั่งทำงานได้เช่นกันค่ะ ส่วนด้านข้างก็จะมี Video Door Phone สำหรับติดต่อกับป้อม รปภ. ด้านหน้าโครงการนะคะ

ถัดจากพื้นที่ Foyer จะเป็นพื้นที่ของห้องนอน ห้องน้ำและห้องครัวค่ะ โดยเราจะพาไปดูห้องนอนชั้นล่างกันก่อนนะคะ

Image 1/4
บรรยากาศห้องนอนชั้นล่าง

บรรยากาศห้องนอนชั้นล่าง

ห้องนอนมีขนาด 3.3 x 4.0 เมตร สามารถตั้งเตียง 5 – 6 ฟุตได้ มีพื้นที่ด้านข้างตั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้า ออกแบบช่องแสงมาจาก 2 ด้าน ทำให้ห้องดูไม่อึมครึม ซึ่งเราก็สามารถปรับห้องนี้ตามการใช้งานได้ อย่างห้องเล่นสนุกของเด็กหรือห้องทำงานได้ค่ะ

ห้องน้ำมีขนาด 1.5 x 2.4 เมตร ตกแต่งเหมือนห้องน้ำชั้นล่างของแบบบ้าน Belle มีแบ่งแยกส่วนเปียกและแห้ง พร้อมพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกันได้ แต่ไม่มีฉากกั้นกระจกมาให้ แต่ก็สามารถติดตั้งเพิ่มกันเองได้

ทางโครงการเลือกใช้สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำเหมือนห้องน้ำอื่นเลยค่ะ ทั้งก๊อกน้ำ อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ จะมาจากแบรนด์ American Standard ออกแบบขอบผนังมีพื้นที่วางของเล็กๆน้อยๆได้ด้วย

พื้นที่อาบน้ำ ขนาด 0.8 x 1.5 เมตร ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนจากแบรนด์ American Standard เหมือนกัน และได้เดินระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยด้วยค่ะ

ห้องครัวขนาด 2.4 x 3.95 เมตร ทางโครงการให้ Built-in เป็นเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L ที่ Top กระเบื้องสีดำ พร้อมหน้าบาน, ตู้เก็บของ, อ่างล้างจานและพัดลมดูดอากาศมาให้ และปูผนังห้องครัวเป็นกระเบื้องสีขาวตามมาตรฐาน 

มีพื้นที่บนเคาน์เตอร์กว้าง วางของและเตรียมอาหารบนเคาน์เตอร์ได้สะดวก อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดี่ยว และมีพื้นที่ตากจานชามด้านข้าง มีช่องเก็บของหลายช่องบริเวณใต้เคาน์เตอร์ เดินระบบท่อน้ำสำหรับติดตั้งเครื่องซักผ้าได้ และมีหน้าต่าง พร้อมพัดลมดูดอากาศ ช่วยระบายกลิ่นและควันในห้องครัวค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวด้านนี้ใช้ติดตั้งเตาไฟฟ้าได้ ส่วนประตูด้านข้างจะเปิดออกไปลานซักล้าง โดยประตูนี้ก็จะมีช่องหน้าต่างกระจกเหมือนในรูปค่ะ

พื้นลานซักล้าง ขนาด 1.6 x 2.6 เมตร ซึ่งจะเป็นพื้นแบบ Slab on Ground ปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาล ขนาด 40 x 40 เซนติเมตร

พื้นด้านหลังบ้านจะโรยเป็นหินกรวด และมีห้องเก็บของอยู่ทางด้านขวา ซึ่งเป็นพื้นที่ใต้บันไดค่ะ

ต่อมาเราจะพาขึ้นไปชั้น 2 กันค่ะ สำหรับบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้างประมาณ 1 เมตร ปูลูกตั้งและลูกนอนด้วยไม้ประสาน ลูกนอนกว้างประมาณ 25 ซม. ลูกตั้งสูง 18 ซม. เดินได้สบาย ด้านข้างมีราวจับไม้สำเร็จรูปตลอดทาง

ออกแบบหน้าต่างสูงตรงโถงบันได ได้แสงธรรมชาติเข้ามาช่วยให้โถงบันไดไม่มืดทึบค่ะ สีของบันไดจะเข้ากันกับพื้นชั้น 2 ที่ปูด้วยลามิเนตหนา 12 มม. และมีพื้นที่ข้างๆบันไดสามารถตั้งโต๊ะวางของเล็กๆได้

โถงชั้น 2 มีขนาด 2.2 x 5.7 เมตร ทำให้มีมุม Family Area ที่เป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัว ก็จะได้ความเป็นกันเองมากขึ้น มีติดตั้งอุปกรณ์สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic Sensor บริเวณหน้าห้อง Master Bedroom สำหรับความสูงจากพื้นถึงเพดานของชั้น 2 อยู่ที่ 2.7 เมตร เท่ากับความสูงของชั้น 1 ค่ะ

ทางบ้านตัวอย่างได้ตกแต่งเป็นมุมโต๊ะทำงาน พร้อมโซฟาแบบ Bay Window ก็เป็นอีกไอเดียที่เราสามารถนำไปปรับใช้กันได้ค่ะ

ต่อมาเราพาไปดู Master Bedroom กันค่ะ มีขนาด 4.2 x 8.9 เมตร แบ่งพื้นที่ออกเป็นพื้นที่เตียงนอน ที่อยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน ส่วนพื้นที่ด้านหลังบ้านจะเป็น Walk – in Closet และห้องน้ำค่ะ

ซึ่งทางบ้านตัวอย่างก็ได้ตกแต่งและทำ Built – in ไว้อย่างสวยงามให้เป็นไอเดีย สามารถนำไปตกแต่งตามกันได้ค่ะ โดยแบบบ้านมาตรฐานของโครงการจะได้ตามภาพด้านบนเลยนะคะ

บริเวณพื้นที่เตียงนอนจะมีขนาดประมาณ​ 4.2 x 7.1 เมตร ทำมุมนั่งทำงานข้างเตียงได้ โดยเราสามารถตั้งเตียงนอนขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ มีพื้นที่รอบเตียงเหลือกว้าง อย่างบ้านตัวอย่างได้วางโซฟานั่งบริเวณปลายเตียงเพิ่ม ก็ยังมีพื้นที่เหลืออีกกว้าง เดินผ่านได้สบาย

ด้านข้างเตียงนอนจะมีประตูกระจก 2 ตอน เปิดออกไประเบียงส่วนตัวได้ โดยระเบียงมีขนาดประมาณ 0.8 x 1.2 เมตร หันไปทางด้านหน้าบ้าน

พื้นที่ระเบียงไม่ได้กว้างมากนัก แต่ก็สามารถมายืนชมวิว หรือทำเป็นมุมปลูกต้นไม้เล็กๆได้ค่ะ

เราจะพาไปดูฝั่ง Walk – in Closet และห้องน้ำกันค่ะ ซึ่งบ้านตัวอย่างได้ทำ Built – in ตกแต่งผนังทั้ง 2 ด้าน เป็นชั้นวางของให้เป็นไอเดียนำไปปรับใช้กันได้ค่ะ

พื้นที่ Walk – in Closet ทำ Built – in ตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัว I และมีพื้นที่ยืนแต่งตัวกว้างประมาณ​ 1.5 เมตรเลยค่ะ ส่วนใครที่อยากจะติดตั้งกระจกส่องคู่กับโต๊ะแต่งหน้า ก็สามารถทำเป็นกระจกเงาที่เลื่อนไปซ่อนอยู่ด้านข้างตู้เสื้อผ้าได้นะคะ

Master Bathroom มีขนาด 1.8 x 2.7 เมตร แบ่งแยกพื้นที่แห้งและเปียก ปูพื้นกระเบื้องเซรามิกสีครีม รวมถึงมีพื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) ด้วยเหมือนกัน

สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำทั้งก๊อกน้ำ อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์ มาจากแบรนด์ American Standard เหมือนกับห้องน้ำอื่นเลยค่ะ ส่วนด้านล่างอ่างล้างมือก็มีช่องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำได้ด้วยค่ะ

Master Bathroom จะมีพื้นที่อาบน้ำภายในห้องที่ทางโครงการได้ติดตั้งฉากกั้นกระจกมาให้แล้ว และพื้นที่อาบน้ำอีกบริเวณคือ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) ด้านนอกค่ะ

พื้นที่อาบน้ำ มีขนาด 0.9 x 1.8 เมตร ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและ Rain Shower จากแบรนด์ American Standard ค่ะ และได้เดินสายรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อยค่ะ

พื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) มีขนาด 0.9 x 2.7 เมตร ที่นอกจากจะเป็นพื้นที่อาบน้ำแล้ว ยังออกแบบเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน ทำให้ได้แดดที่ส่องเข้ามา ช่วยในเรื่องการลดความชื้นและเชื้อราในห้องน้ำ รวมถึงการระบายอากาศด้วยค่ะ

นอกจากนั้นเราสามารถปรับพื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) ทำเป็นมุมปลูกต้นไม้ พื้นที่สำหรับตากผ้า หรือใครที่มีสัตว์เลี้ยงก็ใช้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่อาบน้ำให้กับน้องๆได้ค่ะ

ทางโครงการได้ติดตั้ง Rain Shower และก๊อกน้ำ และโคมไฟด้านข้างไว้ รวมถึงก่อกำแพงด้านข้างสูง 1.9 เมตร มาให้ค่ะ

เราจะพาไปดูห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องกันต่อนะคะ ซึ่งห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องก็มีห้องน้ำในตัว พร้อมพื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) เหมือนกันค่ะ

เมื่อเปิดประตูเข้าห้องนอนรอง 1 มาจะเจอกับห้องน้ำและพื้นที่เตียงนอนเลยค่ะ เราจะพาไปดูพื้นที่เตียงนอนกันก่อนนะ

ห้องนอนรอง 1 มีขนาด 3.2 x 4.0 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ บริเวณพื้นที่ปลายเตียงก็ทำเป็น Built – in โต๊ะทำงานยาวเหมือนที่ทางบ้านตัวอย่างตกแต่งให้เป็นไอเดียได้เลย

บริเวณพื้นที่ข้างหัวเตียงก็สามารถตั้งโต๊ะเล็กๆทั้ง 2 ฝั่ง สำหรับวางโคมไฟหรือของต่างๆได้ค่ะ บริเวณด้านข้างเตียงนอนจะมีประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอนเปิดออกไปพื้นที่ระเบียงส่วนตัวได้

พื้นที่ระเบียงของห้องนอนรอง 1 มีขนาดประมาณ 1.75 x 3.8 เมตร ทำเป็นมุมนั่งเล่นหรือมุมต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ห้องนอน เวลานั่งอยู่ภายในห้องแล้วมองออกไปเห็นต้นไม้สีเขียว ก็ทำให้ผ่อนคลายดีค่ะ

พื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่กว้างประมาณ 1.6 เมตร สำหรับตั้งตู้เสื้อผ้าได้ แต่สำหรับใครที่มีเสื้อผ้าเยอะ แบ่งพื้นที่ทำ Built – in โต๊ะทางด้านซ้าย มาทำเป็นตู้เสื้อผ้ารูปตัว L ได้ค่ะ ก็จะได้พื้นที่เก็บเสื้อผ้าเยอะขึ้น ส่วนพื้นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าเดิมก็เปลี่ยนเป็นโต๊ะวางของอย่างกระเป๋า หรือกุญแจ เพื่อเตรียมตัวก่อนออกจากห้องค่ะ

ห้องน้ำของห้องนอนรอง 1 มีขนาด 1.5 x 2.4 เมตร ออกแบบแบ่งแยกพื้นที่แห้งและเปียก รวมถึงมีพื้นที่แบบ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) ค่ะ

ก๊อกน้ำ อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ American Standard เหมือนกับห้องน้ำอื่นๆเลยค่ะ และมีก่อขอบผนังด้านหลังอ่างล้างมือเป็นพื้นที่วางของ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.8 x 1.5 เมตร ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนจากแบรนด์ American Standard และมีฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้ด้วย

ออกแบบพื้นที่แบบ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามา ลดความอับชื้นและเชื้อราในห้องน้ำ รวมถึงเปิดเพื่อระบายอากาศได้

พื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) มีขนาด 0.9 x 1.5 เมตร ทางโครงการไม่ได้ติดตั้งฝักบัวมาให้ แต่เราก็สามารถติดตั้งเพิ่มเองได้ หรือใครที่ไม่ได้อยากได้พื้นที่อาบน้ำเพิ่ม ก็ใช้เป็นมุมต้นไม้ หรือพื้นที่ตากผ้าได้นะคะ

ห้องนอนรอง 2 มีการออกแบบเหมือนห้องนอนรอง 1 เลยค่ะ เปิดประตูเข้าห้องมาเจอห้องน้ำและพื้นที่เตียงนอน

ห้องนอนรอง 2 จะมีขนาดห้องเล็กลงมานิดหน่อย อยู่ที่ 2.7 x 4.0 เมตร ได้ช่องแสง 2 ด้าน และถ้าใครอยากได้พื้นที่รอบเตียงกว้างหน่อย สำหรับตั้งโต๊ะและตู้เสื้อผ้า ก็เลือกวางเป็นเตียงขนาด 3.5 ฟุตค่ะ

บริเวณข้างหัวเตียงมีพื้นที่ไม่มากนัก ตั้งโต๊ะวางโคมไฟได้เพียงด้านเดียวค่ะ

สำหรับพื้นที่ปลายเตียงก็ทำเป็นโต๊ะนั่งทำงานได้ ส่วนผนังด้านข้างก็สามารถติดชั้นวางของเพิ่มได้นะคะ ส่วนพื้นที่ด้านหน้าห้องน้ำจะมีพื้นที่ตั้งตู้เสื้อผ้าได้เหมือนกับห้องนอนรอง 1 เลย แต่ด้วยขนาดของห้องนอนรอง 2 ที่เล็กกว่า จึงเหมาะกับคนที่ไม่ได้มีของใช้ส่วนตัวเยอะมากค่ะ

ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2 เหมือนห้องนอนรอง 1 เลยค่ะ มีขนาด 1.5 x 2.4 เมตร ออกแบบแบ่งแยกพื้นที่แห้งและเปียก รวมถึงมีพื้นที่แบบ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) ค่ะ

สุขภัณฑ์ในห้องน้ำทั้งก๊อกน้ำ อ่างล้างมือ และโถสุขภัณฑ์จากแบรนด์ American Standard เหมือนกับห้องน้ำอื่นๆเลยค่ะ และด้านหลังอ่างล้างมือมีพื้นที่สำหรับวางของ

ขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.8 x 1.5 เมตร พร้อมติดตั้งฝักบัวสายอ่อนจากแบรนด์ American Standard และมีฉากกั้นกระจกอาบน้ำมาให้

พื้นที่แบบ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 2 ตอน เพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามา ลดความอับชื้นและเชื้อราในห้องน้ำ รวมถึงเปิดเพื่อระบายอากาศได้

พื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) มีขนาด 0.9 x 1.5 เมตร ที่เราสามารถติดตั้งฝักบัวอาบน้ำเพิ่มเองได้ หรือใช้เป็นมุมต้นไม้และพื้นที่ตากผ้าค่ะ


Celineเราได้เก็บภาพบรรยากาศบ้านตัวอย่างของ Celine มาให้ชมกันด้วยนะคะ ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 268 ตร.ม. มีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ

ตั้งแต่การออกแบบของแบบบ้านนี้ไปจนถึงบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการ จะมีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ เหมือนกันเลย รวมถึงห้องนอนชั้นล่างที่ออกแบบมารองรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ มีการติดตั้งราวจับในห้องน้ำและกริ่งขอความช่วยเหลือภายในห้องน้ำและหัวเตียงนอนค่ะ

ชั้น 1

  • ที่จอดรถ 3 คันในร่ม
  • โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีซุ้มชายคากันแดดและฝน เป็นพื้นที่วางของได้สะดวก
  • มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารอง
  • Foyer พื้นที่ต้อนรับ สามารถตั้งชั้นวางรองเท้าและที่นั่งใส่รองเท้าได้
  • ห้องเก็บของบริเวณใต้บันได
  • พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่กินข้าวและมุม Pantry
  • พื้นที่ Common Area มีประตูเปิดออกไปสวนด้านข้างได้
  • ห้องครัวแบบปิด ทำเป็นครัวไทยได้
  • มุม Pantry สำหรับเตรียมอาหารง่ายๆได้
  • ห้องน้ำชั้น 1 เป็นแบบ Powder Room
  • ห้องนอนชั้นล่าง สำหรับผู้สูงอายุ มีกริ่งสำหรับขอความช่วยเหลือ และมีห้องน้ำในตัว
  • ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง ออกแบบพื้นแบบลาดและมีที่จับยึดเวลาลุก – นั่ง
  • ห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้าน อยู่บริเวณด้านหลังบ้าน

ชั้น 2

  • Family Area พื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัว
  • ห้องนอนทุกห้อง มีห้องน้ำในตัว
  • Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีพื้นที่นั่งเล่นในห้อง พร้อม Walk – in Closet และห้องน้ำภายในห้อง
  • Master Bathroom มีอ่างอาบน้ำและพื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน)
  • ระเบียงส่วนตัวภายใน Master Bedroom
  • ห้องนอนรอง สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ และวางตู้เสื้อผ้าด้านข้างได้
  • ห้องนอนรอง 1 มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่
  • ห้องน้ำของห้องนอนรอง 1 มีออกแบบพื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน)

Image 1/10
พื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่

พื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่

บรรยากาศภายในบ้านบริเวณชั้น 1 รูปแบบบ้าน Celine

Image 1/13
Family Area ตรงโถงชั้น 2

Family Area ตรงโถงชั้น 2

บรรยากาศภายในบ้านบริเวณชั้น 2 รูปแบบบ้าน Celine

ใครอยากจะดูบรรยากาศภายในบ้าน Celine เพิ่มเติม
สามารถรับชมกันได้ที่นี่ >> https://wp.me/p1YZB1-3GXN


Eleanorแบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 355 ตร.ม. มีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ

สิ่งที่แบบบ้านนี้แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกับแบบบ้าน Celine คือ มีมุม Pantry ใหญ่กว่า และได้ Green Room ที่เป็นพื้นที่ยื่นออกมาด้านข้างเยอะขึ้น สามารถมองเห็นสวนได้ทั้ง 3 ด้าน

รวมถึงห้องน้ำทุกห้องได้พื้นที่แบบ Outdoor Shower และ Master Bathroom ก็มีอ่างล้างมือแบบ His & Her และอ่างอาบน้ำ ออกแบบแยกห้องสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำด้วย นอกจากนั้นระเบียงส่วนตัวของ Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก เห็นชัดได้จากด้านหน้าบ้านเลยค่ะ

ชั้น 1

  • ที่จอดรถ 3 คันในร่ม
  • โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีซุ้มชายคากันแดดและฝน เป็นพื้นที่วางของได้สะดวก
  • มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารอง
  • Foyer พื้นที่ต้อนรับ สามารถตั้งชั้นวางรองเท้าและที่นั่งใส่รองเท้าได้
  • ห้องเก็บของบริเวณใต้บันได
  • พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่กินข้าว มุม Pantry และ Green Room
  • พื้นที่ Common Area มีประตูเปิดออกไป Terrace และสวนด้านข้าง
  • ห้องครัวแบบปิด ทำเป็นครัวไทยได้
  • มุม Pantry สำหรับเตรียมอาหารง่ายๆได้ ออกแบบกระจกเข้ามุม
  • ห้องน้ำชั้น 1 เป็นแบบ Powder Room
  • ห้องนอนชั้นล่าง สำหรับผู้สูงอายุ มีกริ่งสำหรับขอความช่วยเหลือ และมีห้องน้ำในตัว
  • ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง ออกแบบพื้นแบบลาดและมีที่จับยึดเวลาลุก – นั่ง
  • ห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้าน อยู่บริเวณด้านหลังบ้าน

ชั้น 2

  • Family Area พื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัว
  • ห้องนอนทุกห้อง มีห้องน้ำในตัว
  • Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีพื้นที่นั่งเล่นในห้อง พร้อม Walk – in Closet และห้องน้ำภายในห้อง
  • Master Bathroom ขนาดใหญ่ มีอ่างล้างมือแบบ His & Her และอ่างอาบน้ำ ออกแบบแยกห้องสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ รวมถึงมีพื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor Shower
  • Master Bedroom มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่
  • ห้องนอนรอง สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ และวางตู้เสื้อผ้าด้านข้างได้
  • ห้องนอนรอง 1 มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่
  • ห้องน้ำของห้องนอนรอง มีออกแบบพื้นที่ Outdoor Shower


Heleneแบบบ้านสุดท้ายในโครงการและมีขนาดใหญ่ที่สุด คือ Helene ที่เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 109 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 398 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ รวมถึงออกแบบพื้นที่ Double Volume ตรงบริเวณ Foyer ด้วยค่ะ

ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มีขนาดใหญ่เกือบ 400 ตร.ม. จึงทำให้แต่ละฟังก์ชันได้พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ด้วย อย่างพื้นที่ Common Area ที่นอกจากจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่กินข้าว มุม Pantry และ Green Room แล้ว ยังมี Tea Corner ข้างๆมุม Pantry เพิ่มขึ้นมาค่ะ

ส่วนชั้น 2 ตรงบริเวณระเบียงของห้องนอน 1 มีขนาดใหญ่มาก สามารถต่อเติมเป็นห้องได้เลย รวมถึง Master Bedroom พร้อม Walk – in Closet ขนาดใหญ่ และ Master Bathroom ที่นอกจากจะมีอ่างล้างมือแบบ His & Her ออกแบบแยกห้องสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ รวมถึงมีพื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor Shower แล้ว ก็ยังมีพื้นที่สำหรับตั้งอ่างอาบน้ำด้วยค่ะ

ชั้น 1

  • ที่จอดรถ 3 คันในร่ม
  • โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีซุ้มชายคากันแดดและฝน
  • ชานบ้านขนาดใหญ่ มีออกแบบทางลาดรองรับวีลแชร์
  • มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารอง
  • Foyer พื้นที่ต้อนรับ สามารถตั้งชั้นวางรองเท้าและที่นั่งใส่รองเท้าได้
  • ห้องเก็บของบริเวณใต้บันได
  • พื้นที่ Double Volume บริเวณพื้นที่นั่งเล่น
  • พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่กินข้าว มุม Pantry และ Green Room
  • พื้นที่ Common Area มีประตูเปิดออกไป Terrace และสวนด้านข้าง
  • ห้องครัวแบบปิด ทำเป็นครัวไทยได้
  • มุม Pantry ออกแบบกระจกเข้ามุม มีพื้นที่ขนาดใหญ่ วางชุดโซฟาได้
  • ห้องน้ำชั้น 1 เป็นแบบ Powder Room
  • ห้องนอนชั้นล่าง สำหรับผู้สูงอายุ มีกริ่งสำหรับขอความช่วยเหลือ และมีห้องน้ำในตัว
  • ห้องน้ำในห้องนอนชั้นล่าง ออกแบบพื้นแบบลาดและมีที่จับยึดเวลาลุก – นั่ง
  • ห้องนอนและห้องน้ำแม่บ้าน อยู่บริเวณด้านหลังบ้าน

ชั้น 2

  • Family Area พื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่
  • ห้องนอนทุกห้อง มีห้องน้ำในตัว
  • Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีพื้นที่นั่งเล่นในห้อง พร้อม Walk – in Closet และห้องน้ำภายในห้อง
  • Master Bathroom ขนาดใหญ่ มีอ่างล้างมือแบบ His & Her และอ่างอาบน้ำ ออกแบบแยกห้องสุขภัณฑ์และห้องอาบน้ำ รวมถึงมีพื้นที่อาบน้ำแบบ Outdoor Shower
  • Master Bedroom มีระเบียงส่วนตัว
  • ห้องนอนรอง สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ และวางตู้เสื้อผ้าด้านข้างได้
  • ห้องนอนรอง 1 มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่
  • ห้องน้ำของห้องนอนรอง มีออกแบบพื้นที่ Outdoor Shower

 

ราคา

ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 (Laddarom Chatuchot 15) ราคา ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2566

  • Belle บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 196 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 8.59 ล้านบาท
  • Cherie บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 59 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 228 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 10.09 ล้านบาท
  • Celine บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 268 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 11.60 ล้านบาท
  • Eleanor บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 355 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 14.80 ล้านบาท
  • Helene บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 109 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 398 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 18.00 ล้านบาท
  • ค่าจอง 100,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา 300,000 บาท
  • ค่าส่วนกลาง 25 บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
**วัสดุและอุปกรณ์บางรายการอาจเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม โดยใช้วัสดุอุปกรณ์คุณภาพหรือเทียบเท่า
**ข้อมูลมูลระยะของพื้นที่ เป็นการวัดจากหน้างาน อาจจะมีการคลาดเคลื่อน

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

ตัวโครงการ ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 (Laddarom Chatuchot 15) อยู่ในซอยจตุโชติ 15 ลึกเข้ามาจากถนนจตุโชติประมาณ 350 เมตร สามารถกลับรถตรงถนนใหญ่ได้สะดวก และเดินทางเข้า-ออกเมืองได้ง่าย เหมาะกับคนที่เน้นใช้ทางด่วน เพราะใกล้ทางด่วนฉลองรัชทั้งด่านสุขาภิบาล 5 และด่านจตุโชติ รวมถึงขับไปตรงถนนวงแหวนกาญจนาฯได้ด้วย รวมถึงมีโครงการถนนตัดใหม่ส่วนต่อขยายในอนาคตของถนนเทพรักษ์ ซึ่งจะทำให้การเดินทางของย่านนี้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น

สำหรับความอุดมสมบูรณ์หลักของทำเลจะอยู่ในโซนสุขาภิบาล 5 และสายไหม-ลำลูกกา เช่น ตลาดออเงิน, Big C Food Place สุขาภิบาล, ตลาดวงศกรสายไหม และโรงพยาบาล CGH สายไหม เป็นต้น รวมถึงตามแนวถนนจตุโชติก็มีร้านค้าร้านอาหารเรียงอยู่ประปรายเหมือนกันค่ะ แต่ภาพรวมของทำเลที่มีโครงการจัดสรรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แนวโน้มในอนาคตของทำเลก็จะคึกคักตามไปด้วยค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ทางเข้า – ออกด้วยระบบ Keycard Access และ Video Door Phone มีแบ่งทางเข้า-ออกเป็น 2 ช่องทางเพื่อความสะดวกของลูกบ้าน พร้อมกล้อง CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังได้ระบบ Emergency Alarm สัญญาณแจ้งเหตุฉุกเฉินสำหรับบ้านทุกหลังเลยค่ะ

นอกจากนั้นยังได้ Digital Door Lock, IP Camera บริเวณที่จอดรถ, สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic Sensor บริเวณประตูหน้าต่างชั้น 1 -2 ของบ้านทุกหลัง รวมถึงมีระบบ Home Automation ด้วยค่ะ

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

ออกแบบโครงการดีไซน์ใหม่ในสไตล์ Modern French ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า ไปถึงอาคาร Clubhouse ให้ความรู้สึกหรูหรา และน่าประทับใจ ช่วยทำให้ภาพรวมของโครงการน่าอยู่อาศัย เน้นบรรยากาศความเป็นธรรมชาติและฟังก์ชันการพักผ่อน มีการจัดวางผังโครงการแยกโซนส่วนกลางและที่อยู่อาศัย ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวดี บ้านส่วนใหญ่วางในทิศเหนือ ใต้ และตะวันออก ที่ไม่ต้องปะทะแดดโดยตรงค่ะ

การออกแบบภายในบ้านเดี่ยวมีการจัดฟังก์ชันได้ลงตัว ได้ห้อง 4 ห้องนอน / 3-5 ห้องน้ำ / 2-3 ที่จอดรถ โดยแบบบ้านหลังใหญ่ 3 แบบ จะได้ห้องแม่บ้านเพิ่มมาด้วย รองรับการอยู่อาศัยทั้งครอบครัวแบบพ่อแม่ลูก ไปจนถึงครอบครัวขนาดใหญ่พร้อมผู้สูงอายุอยู่อาศัยด้วยค่ะ มี Master Bedroom ขนาดใหญ่และโปร่ง ห้องครัวแบบปิด ห้องน้ำออกแบบมีพื้นที่ Outdoor Shower (ห้องน้ำชมสวน) ด้วย

วัสดุ :

โครงสร้างบ้านเป็นแบบก่ออิฐมวลเบา ที่สามารถทุบและต่อเติมได้ รวมถึงทางโครงการได้ลงเสาเข็มทั้งตัวบ้านและพื้นที่จอดรถ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องบ้านทรุดตัว โครงการขายแบบ Fully Fitted เป็นบ้านเปล่า เราต้องมาซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเอง พื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ส่วนชั้น 2 เป็นพื้นไม้ลามิเนต ได้ Built-in เคาน์เตอร์ปูนในครัว Top กระเบื้อง พร้อมหน้าบานตู้ครัว และซิงค์ล้างจาน ได้ห้องน้ำสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ของ American Standard และโครงการให้ประตูหน้าบ้านติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ พร้อมระบบ Home Automation และ Q Health Plus นวัตกรรมเติมอากาศภายในตัวบ้าน พร้อมกรองฝุ่น 2.5 PM ค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

สวนหย่อมขนาดประมาณ 2 ไร่ บริเวณด้านหน้า Clubhouse ประกอบด้วยสนามหญ้า ศาลานั่งพัก พื้นที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง และสนามเด็กเล่นพร้อมเครื่องเล่นเสริมสร้างพัฒนาการสำหรับเด็ก บรรยากาศโดยรวมค่อนข้างร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่ล้อมสวนหย่อม รวมถึงมีต้นไม้ปลูกไว้ตลอดแนวถนน 2 ฝั่ง ทั้งไม้พุ่มขนาดเล็กและต้นไม้ขนาดใหญ่ สามารถมาเดินเล่นพักผ่อนสบายๆค่ะ

สาธารณูปโภค :

Clubhouse และพื้นที่สวนขนาดใหญ่ อยู่บริเวณกลางโครงการ โดยฟังก์ชันส่วนกลางเน้นบรรยากาศการพักผ่อนและเดินเล่น บริเวณอาคาร Clubhouse ประกอบไปด้วย Co – Working Space 2 ห้อง, Glass House, พื้นที่นั่งพักกลางแจ้ง, สระว่ายน้ำระบบเกลือพร้อมสระเด็ก และ Fitness บริเวณชั้น 2 มองเห็นวิวสวนและวิวสระว่ายน้ำ และออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานร่วมกันได้ทุกวัย ทั้งทางลาดสำหรับรถเข็นขึ้น-ลงได้ง่ายค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 8.59 – 18 ล้านบาท, 3 ตุลาคม 2566

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ตัวโครงการเข้าจากถนนจตุโชติมา 350 เมตร ใกล้ทางด่วนฉลองรัชและวงแหวนกาญจนาภิเษก
  • ความปลอดภัย 7.75/10 – รั้วกั้นแบบรั้วเหล็กรางเลื่อน รปภ.หน้าหมู่บ้าน เข้า-ออกระบบ Easy Pass , Video Door Phone, CCTV ในโครงการ , สัญญาณกันขโมย Magnetic Sensor, IP Camera และ Digital Door Lock ในทุกยูนิต
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – ออกแบบสวยมีเอกลักษณ์น่าอยู่ เน้นพื้นที่ใช้สอย จัดสรรฟังก์ชันได้ดี แบบบ้านให้เลือกเยอะ
  • วัสดุ 7.75/10 – โครงสร้างแบบก่ออิฐมวลเบา และลงเสาเข็มทั้งตัวบ้านและพื้นที่จอดรถ ส่วนวัสดุอื่นๆเป็นไปตามมาตรฐาน
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – พื้นที่สวนขนาด 2 ไร่ ใช้งานเข้าถึงง่าย บรรยากาศร่มรื่น มีการปลูกไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ตลอดแนวถนน
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีฟังก์ชันหลักๆให้ใช้งานครบ Clubhouse, สระว่ายน้ำ, Fitness และเน้นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน
  • 7.89 / 10.00

ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 (Laddarom Chatuchot 15) เหมาะกับใคร

โครงการ ลัดดารมย์ จตุโชติ 15 (Laddarom Chatuchot 15) เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ที่ชอบบ้านสไตล์ Modern French แบบคลาสสิกร่วมสมัย กำลังมองหาบ้าน 2 ชั้น 4 ห้องนอน ที่มีห้องชั้นล่างสำหรับรองรับผู้สูงอายุ ในราคาคุ้มค่า ได้ขนาดที่ดินและพื้นที่ใช้สอยในบ้านเยอะเมื่อเทียบโครงการอื่น ทำเลเดินทางสะดวกไปใช้ทางด่วนได้ง่าย ส่วนกลางจัดมาให้ครบเน้นพื้นที่นั่งพักผ่อนและเดินเล่น บรรยากาศดีน่าใช้งาน มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 8.59 – 18 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 51,600-126,000 บาท


ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชันคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ

ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น

Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่