The Honor Yothinpattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) บ้านเดี่ยว 3 ชั้น Private Pool Villa ในซอยโพธิ์แก้ว 3 ใกล้ CENTRAL EASTVILLE จาก AssetWise [รีวิวฉบับที่ 2659]

The Honor Yothinpattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) ณ วันที่ 1 มกราคม 2567

พิกัด Google Maps : 13.804096096071907, 100.63319618224125
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

Highlight

• เชื่อมต่อถนนหลักได้ 4 เส้นทาง คือ ถนนเลียบด่วนรามอินทรา(ประดิษฐ์มนูธรรม), ถนนนวมินทร์, ถนนเกษตรนวมินทร์ และถนนลาดพร้าว
• ใกล้แหล่ง Lifestyle หลากหลายทั้งบนถนนเส้นเลียบด่วนรามอินทรา และถนนลาดพร้าว เดินทางเข้าเมืองได้สะดวก
• ใกล้ทางพิเศษฉลองรัช ประมาณ 4.7 กิโลเมตร

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

โครงการ The Honor Yothinpattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) ตั้งอยู่ในซอยโพธิ์แก้ว 3 สามารถเดินทางเข้าสู่โครงการได้ 4 เส้นทาง คือ ถนนเลียบด่วนรามอินทรา(ประดิษฐ์มนูธรรม), ถนนนวมินทร์, ถนนเกษตรนวมินทร์ และถนนลาดพร้าว เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกด้วยทางด่วนบนเส้นเลียบด่วนรามอินทรา เชื่อมเข้าไปยังย่านพระราม9 – เอกมัยทองหล่อ – สุขุมวิท ก็สะดวก และยังเป็นทำเลที่ดูมีทีท่าว่าจะพัฒนาไปได้อีกในอนาคต เพราะมีการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเหลืองอยู่ไม่ไกลด้วยค่ะ

ทำเลนี้ใกล้แหล่ง Lifestyle และความอุดมสมบูรณ์ย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้าอย่าง CDC, Central Eastville, คอมมูนิตี้มอลล์ อย่าง The Crystal, CDC, The Walk, Chic Republic นอกจากนั้นรอบๆ นี้ยังมีร้าน Cafe ให้ Hangout กันแบบครบเครื่อง ในระยะใกล้ๆ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ซอยโพธิ์แก้ว 3 เป็นซอยที่มีความคึกคักมีรถยนต์สัญจรได้สะดวกเนื่องจากสามารถเชื่อมต่อถนนใหญ่ได้ถึง 4 เส้นทาง ด้านหน้าโครงการเป็นถนน 2 เลนขับรถสวนกันได้แต่ไม่ถือว่าเป็นถนนที่กว้างนักนะคะ สภาพแวดล้อมรอบๆ โครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น มีที่ดินเปล่าและโกดังสินค้าอยู่บ้างค่ะ

• ทิศตะวันออก ติดกับ – ซอยโพธิ์แก้ว 3 ฝั่งตรงข้าม เป็นสนามฟุตบอลหญ้าเทียม
• ทิศใต้ ติดกับ – โครงการบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น และคลังสินค้า
• ทิศตะวันตก ติดกับ – คลองตาเหน่ง ฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัย 1 – 2 ชั้น
• ทิศเหนือ ติดกับ – โครงการบ้านพักอาศัยสูง 2 ชั้น

ทิศตะวันตกด้านหน้าโครงการติดซอยโพธิ์แก้ว3 ฝั่งตรงข้ามเป็นสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ชอบ เอฟ.ซี.ค่ะ

บรรยากาศด้านหน้าโครงการบริเวณซอยโพธิ์แก้ว 3

บรรยากาศด้านหน้าโครงการบริเวณซอยโพธิ์แก้ว 3

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Chic Republic ~ 3.4 km.
• Crystal Design Center (CDC) ~ 3.7 km.
• The Crystal ~ 4.2 km.
• Central Festival Eastville ~ 4.9 km.
• The Walk ~ 5.2 km.
• Tesco Lotus เลียบด่วนรามอินทรา ~ 5.3 km.
• HomePro ~ 5.3 km.
• Index Living Mall ~ 5.6 km.

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์ ~ 4.7 km.
• คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา ~ 9.8 km.
• โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 12.3 km.
• โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ~ 13.9 km.

โรงเรียน

• Regent’s International School ~ 9.2 km.
• Singapore International School of Bangkok (SISB) ~ 9.5 km.
• KIS International School ~10.2 km.
• Shrewsbury International School Bangkok City Campus ~ 13.2 km.

Highlight

• มี 2 Clubhouses คือ The Social Club & The Residential Club หลากหลายฟังก์ชันและได้ความเป็นส่วนตัวสูง พื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 2,000 ตร.ม.
• พื้นที่สวนขนาดใหญ่กลางโครงการ (Oasis) เป็นทัศนียภาพที่สวยงามให้กับลูกบ้าน พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สวนสาธารณะรวม 4,800 ตร.ม.
• มี Concierge Service ตอบโจทย์ Living Fulfillment มีบริการที่อำนวยความสะดวก Special needs or Events และ Emergency Services เช่น การปฐมพยาบาลและใช้เครื่อง AED, Concierge Service สามารถช่วยดับไฟได้
• บ้านพักอาศัยเพียง 106 ครอบครัว ถือว่าไม่หนาแน่น ยังได้ความสบายและเป็นส่วนตัวค่ะ

โครงการ The Honor Yothinpattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) เป็นบ้านแบรนด์ใหม่ Top สุดจาก AssetWise ที่ทำออกมาสำหรับกลุ่ม Luxury Segment เป็นบ้าน Pool Villa สไตล์ Modern Tropical ราคาเริ่มต้น 40 – 60 ล้านบาท ที่มีจุดเด่นจัดเต็มทั้งพื้นที่ส่วนกลางและ Service ที่บ้านราคา 100 ล้านบาทยังไม่มีค่ะ

ก่อนจะไปชมบรรยากาศภายในโครงการ เรามาแวะดูผังกันสักนิดค่ะ จุดเด่นของโครงการ The Honor Yothinpattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) เลยก็คือพื้นที่ส่วนกลางที่มีให้แบบจัดเต็ม แบ่ง Clubhouse ออกเป็น 2 อาคาร เพื่อให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกบ้านในโครงการ โดยที่แต่ละอาคารยังคงมีฟังก์ชันหลากหลายให้ใช้งานพื้นที่รวมกว่า 2,000 ตารางเมตร

โดยอาคารด้านหน้าโครงการเป็น Cluhouse ที่มีชื่อว่า The Social Club ใช้สำหรับรองรับแขก จัดปาร์ตี้ กิจกรรมสังสรรค์กับเพื่อนๆ จากภายนอกโครงการ สามารถนัดพูดคุยธุระ หรือเอาไว้พักคอยก่อนออกเดินทางได้ มีฟังก์ชันภายใน ดังนี้

• The Honor Lounge
• Social Lounge
• Fine Dinning Room
• Dining Outdoor Terrace
• Entertainment Lounge
• Library Lounge
• Wine Club
• Cigar Room
• Meeting Room
• Car Spa Lounge

ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการมีประตูทางเข้าหลักแบบ Double Gate โดยประตูแรกจะต้องผ่านเจ้าหน้าที่รปภ. เพื่อเข้ามาใช้งาน The Social Club และจะมีประตูรั้วเลื่อนกั้นอีกชั้นหนึ่งก่อนเข้าไปภายในส่วนพักอาศัยค่ะ

เมื่อเข้ามาด้านในแล้วจะแบ่งเป็นถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนซอยกว้าง 9 เมตร ซึ่งเป็นความกว้างมาตรฐานรถยนต์สามารถวิ่งสวนกันได้สะดวก บ้านในเฟสแรก (สีเทาอ่อน) เป็นยูนิตที่หันหน้าเข้าหาถนนหลักและพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดค่ะ ใครที่ชอบบ้านวิวดีๆ แนะนำเป็นเฟสนี้เลยค่ะ อาคาร Clubhouse ด้านในมีชื่อว่า The Residential Club จะอยู่ติดกับสวนขนาดใหญ่ ภายในมีฟังก์ชันเหมาะกับการออกกำลังกายและพักผ่อนสบายๆ มีความเป็นส่วนตัว ดังนี้

• Retreat Swimming Pool 5 x 25 m.
• Senior Pool with Jacuzzi
• Kids Pool
• Sunken Seat
• Kids Club
• Private Chef’s Table Space
• Residence Lounge
• Co-Working Space
• Meeting Room
• Multi Purpose Room
• High Tea Pavilion
• Private Spa Therapy
• Spa Retreatment
• Salon
• The Gym

อีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการนี้ที่ไม่เหมือนใครก็คือเป็นโครงการบ้านพักอาศัยแนวราบที่มีบริการ Concierge & Butler Service ให้กับลูกบ้านด้วยค่ะ โดย Concierge จะดูแลจัดการจองการเดินทางต่างๆให้ ไม่ว่าจะเป็น Private Jet, yacht, Limousine หรือการจัดงานวันเกิด สั่งดอกไม้หรือของขวัญ บริการ Spa at Home รวมถึงเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจเป็นที่ปรึกษาด้าน Cigar & Wine ได้อีกด้วยค่ะ

นอกจากนั้นยังมี Butler Service เป็นผู้ช่วยจัดการเรื่องต่างๆให้ เหมือนกับในโรงแรมหรู ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเรื่อง Food Delivery ที่ปรึกษาด้านการท่องเที่ยว ดูแลสัตว์เลี้ยง ฯลฯ และที่สำคัญมีการอบรมด้านการปฐมพยาบาลและกู้ชีพเบื้องต้นค่ะ

บรรยากาศตั้งแต่ด้านหน้าโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลยค่ะ

ด้านหน้าโครงการติดถนนโพธิ์แก้ว เข้ามาแล้วจะเจอกับโถงทางเข้าขนาดใหญ่ มีพื้นที่จอดรถ 2 ฝั่ง จอดได้ 8 คัน สำหรับแขกที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการค่ะ จากนั้นจะต้องผ่าน Main Gate รั้วเลื่อนแยกทางเข้า-ออกชัดเจน มีเจ้าหน้าที่ รปภ. ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ลูกบ้านสามารถขับเข้าได้เลยโดยการสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ (License Plate)

เมื่อผ่าน Main Gate เข้ามาแล้วก็จะเจอกับที่จอดรถอีกจุดหนึ่ง รองรับรถยนต์ได้ประมาณ 6 คัน สำหรับลูกบ้านที่ขับรถออกมาใช้งาน The Social Club ค่ะ

The Social Club เป็นอาคาร Clubhouse 2 ชั้นขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับรองรับแขก จัดปาร์ตี้ กิจกรรมสังสรรค์กับเพื่อนๆ

ด้านหน้ามีจุด Dropoff ขนาดใหญ่คอยต้อนรับ รองรับแขกได้เป็นอย่างดี

ด้านหลัง The Social Club เป็นพื้นที่จอดรถในร่มและ Car Spa ให้ลูกบ้านสามารถนำรถมาล้างได้ที่นี่ โดยไม่ต้องขับออกไปหาร้าน Car Care ไกลๆ ข้อดีคือเราสามารถพักผ่อนใน Clubhouse รอ หรือกลับไปรอที่บ้านก็สะดวกค่ะ

ทางเดินเข้าสู่อาคาร The Social Club

เข้ามาแล้วจะเจอกับโถงต้อนรับก่อนจะแยกไปยังห้องต่างๆ

ห้องแรกคือพื้นที่ Social Lounge เหมาะกับการพูดคุยธุระกับแขก หรือเป็นพื้นที่นัดพบกันก่อนออกเดินทาง

เข้ามาด้านในจะเจอกับ The Honor Lounge เป็นพื้นที่พักผ่อนที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เหมาะกับการพักผ่อน ที่ต้องการความสงบ มาเปลี่ยนบรรยากาศนั่งทำงาน หรือคุยธุระส่วนตัวได้ที่นี่ค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางตกแต่งด้วยสีสันสดใสแต่ยังคงสไตล์ Luxury เข้ากับการตกแต่งภายในอาคาร

อาคาร Clubhouse รองรับผู้ใช้งานได้ทุกเพศทุกวัยนะคะ มีลิฟต์โดยสารให้ใช้งาน ขึ้นมาชั้น 2 แล้วจะมีฟังก์ชันแยกเป็น 2 ส่วน ฝั่งขวาสำหรับพูดคุยธุระหรือทำงานที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว และฝั่งซ้ายสำหรับจัด Private Party อาจจะมีคนเยอะและเสียงครึกครื้นกว่าพื้นที่อื่นๆ ค่ะ

ฝั่งขวาของอาคาร The Social Club มีห้อง Library Room สำหรับมานั่งทำงาน อ่านหนังสือหรือให้เด็กๆมาติวหนังสือกับเพื่อนๆได้ค่ะ โดยด้านในจะมีที่นั่งแบ่งเป็นกลุ่มๆ ภายในมี Meeting Room ใช้งานได้ถึง 10 คน

ถัดมาเป็นห้อง Wine Club ที่มีตู้เก็บไวน์ สามารถเก็บได้มากกว่า 300 ขวด มีมุมบาร์สำหรับนั่งชิมไวน์ ด้านในเป็นพื้นที่ Cicar Room กั้นด้วยม่านเพื่อความเป็นส่วนตัว ให้ลูกบ้านสามารถมานั่งพูดคุยธุระกันได้ค่ะ

ฝั่งซ้ายเป็นพื้นที่จัดปาร์ตี้ กิจกรรมวันเกิด หรือสังสรรค์กันในครอบครัวค่ะ โดยจะมีห้อง Entertainment ร้องเพลงคาราโอเกะได้ เชื่อมต่อกับพื้นที่ Fine Dining Room และบาร์ สามารถเชิญเชฟจากภายนอกมาทำอาหารให้ทานได้ โดยทางโครงการมีห้องครัวรองรับไว้ให้ด้วย

นอกจากนั้นยังมีพื้นที่ Semi-Outdoor ด้านนอกสามารถจัดกิจกรรมต่างๆ รองรับคนได้เยอะมากขึ้น ใครที่ชอบจัดงานสังสรรค์เป็นประจำอยู่แล้วพื้นที่ส่วนกลางโครงการนี้ก็ตอบโจทย์ทีเดียวค่ะ

ถัดไปก่อนจะสู่โซนพักอาศัยจะต้องผ่าน Gate ที่ 2 ลูกบ้านสามารถผ่านเข้าได้เลยผ่านการสแกนป้ายทะเบียนค่ะ เป็นการคัดกรองรถยนต์ที่ผ่านเข้า-ออกเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย

ถนนหลักภายในโครงการกว้าง 12 เมตร (ถนนซอยกว้าง 9 เมตร) รถยนต์ขับผ่านสวนกันได้สะดวก

เข้ามาด้านในโครงการจะเจอกับอาคาร Clubhouse อีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า The Residential Club ค่ะ เป็นพื้นที่ส่วนกลางสำหรับลูกบ้านโดยเฉพาะ โดยจะเน้นพื้นที่ออกกำลังกายและพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ

ทางเข้า The Residential Club ดูโอ่อ่าเรียบหรู ลูกบ้านสามารถนำรถมาจอดและใช้งาน Clubhouse ได้ค่ะ

เดินเข้ามาด้านในจะเจอกับ High Tea Pavilion  ที่แยกออกมาอย่างเป็นส่วนตัว เหมาะกับการมานั่งจิบน้ำชายามบ่ายหรือมานั่งเล่นเปลี่ยนบรรยากาศ

ใกล้ๆกันเป็นพื้นที่ Private Chef’s Table ที่ลูกบ้านสามารถเรียกเชฟมาทำอาหารให้รับประทานได้แบบเป็นส่วนตัว มีที่นั่งรองรับได้ 8 คนค่ะ

ถัดมาเป็นพื้นที่ Co-Working Space เหมาะกับการมานั่งทำงานในบรรยากาศสบายๆ หรืออ่านหนังสือชิลๆค่ะ

ห้องแต่ละห้องมีการออกแบบให้เว้นระยะห่างกัน ทำให้บรรยากาศค่อนข้างโปร่งสบาย ไม่อึดอัด และได้ความเงียบสงบเหมาะกับการพักผ่อนมากขึ้น

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มาออกกำลังกายก็สามารถพาน้องๆ มานั่งเล่นพักคอยที่ห้อง Kids Club ได้นะคะ ห้องนี้จะอยู่ใกล้ๆกับสระว่ายน้ำ ให้เด็กทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งวัน

บรรยากาศภายในห้องน้ำ The Residential Club มีตู้ Locker และห้องอาบน้ำให้ใช้งานค่ะ

ชั้น 2 มีพื้นที่ Multi Purpose Room สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ มีที่นั่งทำงานที่จริงจังมากขึ้น มีโต๊ะทำงานทั้งแบบกลุ่มใหญ่และกลุ่มย่อยแยกเป็นส่วนตัว 2 ห้อง

ถัดมาเป็นพื้นที่ผ่อนคลายและดูแลตัวเองโดยจะมีพื้นที่ Private Salon 2 โซน ให้ลูกบ้านพาช่างตัดผมส่วนตัวมาให้บริการได้ นอกจากนั้นด้านในยังมีพื้นที่ Private Spa Therary สำหรับนวดตัวพร้อมห้องน้ำในตัวด้วยค่ะ

อีกหนึ่งฟังก์ชันที่ไม่ค่อยพบในบ้านแนวราบนั่นก็คือ Private Onsen ค่ะ โดยที่นี่ทำบรรยากาศออกมาได้น่าใช้งาน พาครอบครัวมาออนเซ็นพร้อมกันได้ 2 – 4 คนค่ะ

ถัดมาเป็น The Gym ที่มีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ แบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้น 1 เป็นพื้นที่ออกกำลังกายมีเครื่องเล่น Cardio และ Weight Training หลากหลาย ชั้นบนเป็น Studio สำหรับซ้อมเต้น หรือจัดคลาสเรียนแบบส่วนตัวได้

Retreat Swimming Pool ของที่นี่เป็นระบบน้ำแร่ ขนาดประมาณ 5 x 25 เมตร สามารถว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกายได้จริง ด้านข้างมีพื้นที่ Senior Pool With Jacuzzi ให้แช่น้ำพร้อมมองวิวสวนไปด้วยค่ะ

ด้านข้างอาคาร Clubhouse มีทางเดินเชื่อมต่อไปยังสวนได้

เดินลงมาแล้วจะเจอกับพื้นที่ลานกลางแจ้งเหมาะกับการนั่งพักผ่อนในยามเช้าหรือช่วงเย็นในวันที่อากาศเย็นสบาย บรรยากาศดีได้ยินเสียงน้ำพุทำให้โซนนี้มีชีวิตชีวามากขึ้นค่ะ

ที่นั่งริมสวนมองเห็นได้ทั้งวิวพื้นที่สีเขียวและวิวสระว่ายน้ำเลย

บรรยากาศภายใน Honor Park เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อยู่ด้านในโครงการ เมื่อนับรวมกับพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดแล้วมีพื้นที่กว่า 4,800 ตร.ม. เลยทีเดียวค่ะ นอกจากจะเป็นพื้นที่พักผ่อนหรือออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นทัศนียภาพที่ร่มรื่นสวยงามให้กับบ้านในเฟสแรกด้วยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse 2 แห่ง The Social Club & The Residential Club
• The Social Club

• The Honor Lounge
• Social Lounge
• Fine Dining Room
• Dining Outdoor Terrace
• Entertainment Lounge
• Library Lounge
• Wine Club
• Cigar Room
• Meeting Room
• Car Spa Lounge

• Retreat Swimming Pool 5 x 25 m.
• Senior Pool with Jacuzzi
• Kids Pool
• Sunken Seat
• Kids Club
• Private Chef’s Table Space
• Residence Lounge
• Co-Working Space
• Meeting Room
• Multi-Purpose Room
• High Tea Pavilion
• Private Spa Therapy
• Spa Retreatment
• Salon
• The Gym

• Magnetic Sensor ชั้น 1-3
• Shock Sensor ชั้น 1
• Digital Door Lock
• VDO Door Phone

Highlight

• แบบบ้าน Modern Tropical Residence with Private Pool Villa มีสระว่ายน้ำส่วนตัวและลิฟต์โดยสารทุกยูนิต
• พื้นที่ดินขนาดใหญ่ 60 – 175 ตร.วา แบบบ้าน 3 แบบ พื้นที่ใช้สอย 455 – 710 ตร.ม. พร้อมห้องแม่บ้านทุกยูนิต
• ออกแบบโดยเน้นพื้นที่อเนกประสงค์ทำให้สามารถจัดฟังก์ชันได้ยืดหยุ่น
• มีระเบียง Semi-Outdoor ส่วนตัวขนาดใหญ่หลายจุด เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตทั้งภายในและภายนอกบ้าน
• ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว และสามารถวางเตียงขนาดใหญ่ 6 ฟุตได้สบายๆ
• ตัวบ้าน Timeless Design ไม่เก่าไปตามกาลเวลา ให้สามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

โครงการ The Honor Yothinpattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) มีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ ซึ่งเราจะพาไปรีวิวเจาะลึกกันที่บ้านหลังเริ่มต้นและหลังกลางกันค่ะ ส่วนหลังใหญ่ที่สุดเราจะพาไปชมในรายการ The Sneak ติดตามได้ในวันศุกร์ 12 มกราคมที่จะถึงนี้นะคะ

• Privileged Portrait (พริวิเลจ พอร์ตเทรต)
  บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 455 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาท
• Privileged Pride (พริวิเลจ ไพรด์)
  บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 564 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาท
• Privileged Legend (พริวิเลจ เลเจนท์)
  บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 710 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน / 8 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 5-6 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 60 ล้านบาท

วัสดุและโครงสร้างบ้าน

• โครงสร้างบ้าน : ก่ออิฐฉาบปูน (พื้นชั้น 1 เทคอนกรีตเสริมเหล็ก, พื้นชั้น 2,3 โครงสร้าง Posttension Slab)
• พื้นที่จอดรถ : ลงเสาเข็มสั้น / วัสดุปูพื้น ทรายล้างสลับกระเบื้อง
• พื้นลานซักล้าง : เทคอนกรีตเสริมเหล็ก / วัสดุปูพื้น กระเบื้อง
• พื้นภายในบ้าน : วัสดุปูพื้นชั้น 1 กระเบื้อง / วัสดุปูพื้นชั้น 2,3 ไม้สัก
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : สุขภัณฑ์ KOHLER / ก๊อกน้ำ Gessi, Grohe / ฝักบัว Grohe / ฉากกั้นอาบน้ำ I-spa (ตามมาตรฐานโครงการ) / อ่างอาบน้ำ Kasch (มีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นในห้อง Master Bedroom)
• โครงสร้างบันได : คอนกรีตเสริมเหล็ก /  ลูกตั้งและลูกนอน ปิดผิวด้วยไม้มะค่า
• ประตูหน้าต่าง : กรอบบานอลูมิเนียม Tostem / บานประตูหน้าบ้านไม้สัก / บานห้องน้ำ บานไม้กรุผิว Laminate / บานห้องนอน บานไม้กรุผิว Laminate
• ลิฟต์โดยสาร : จาก Mitsubishi

บ้านหลังแรกที่เราพามาชมเป็นบ้าน Type กลาง ที่มีชื่อว่า Privileged Pride เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 564 ตร.ม. 5 ห้องนอน 7 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาท

ชั้น 1

• จอดรถได้ 4 คัน
• มีพื้นที่ Foyer และพื้นที่เก็บของด้านหน้า ทำเป็นชั้นวางรองเท้าขนาดใหญ่ได้
• ด้านหน้าบ้านมี Guest Room พร้อมห้องน้ำในตัวแยกสัดส่วนชัดเจนจากตัวบ้าน เหมาะกับทำเป็นห้องทำงานหรือห้องออกกำลังกาย
• พื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ มีโถงสูง Double Volume เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร และ Pool Terrace เปิดวิวโปร่งโล่งด้านข้างมองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนตัว
• ห้องครัวมีประตูกั้นเป็นสัดส่วน อยู่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารเพื่อให้ยกอาหารมาเสิร์ฟได้สะดวก
• มีพื้นที่อเนกประสงค์ ข้างๆ พื้นที่รับประทานอาหาร สามารถทำเป็นมุมบาร์เล็กๆ หรือมุมอ่านหนังสือส่วนตัวที่มองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำ
• ห้องแม่บ้านเข้าจากด้านข้างบ้าน เชื่อมต่อกับครัวไทย มีห้องน้ำในตัวรองรับแม่บ้านได้ 1 คน

ชั้น 2

• โถงบันไดชั้น 2 โปร่งกว้าง มองลงไปเชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น
• มีห้องอเนกประสงค์ 1 ห้อง สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตาม Lifestyle ของเจ้าของบ้าน
• ทั้งมด 3 ห้องนอน มีห้องน้ำในตัวทุกห้องใช้งานได้สะดวกพร้อมกับได้ความเป็นส่วนตัวสูง
• ห้องนอน 3 เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ที่แบ่งพื้นที่ภายในเป็นสัดส่วน แยก Walk-in Closet ชัดเจน พร้อมระเบียงขนาดใหญ่ สามารถปลูกไม้ยืนต้นขนาดเล็กได้
• ห้องนอน 4 เป็นห้องขนาดรองลงมาที่มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ
• ห้องนอน 5 หรือห้อง Family Room สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นห้องเด็กๆ หรือห้องสำหรับสัตว์เลี้ยง ฯลฯ

ชั้น 3

• มี 1 ห้องอเนกประสงค์ และ 2 ห้องนอน
• ห้องอเนกประสงค์ เหมาะกับการทำเป็นห้องทำงาน, ห้องเก็บของสะสม หรือเป็นห้องพระขนาดใหญ่ได้
• Master Bedroom มีขนาดใหญ่ เหมือน Penthouse เข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่น เชื่อมต่อกับระเบียง Semi-Outdoor ขนาดใหญ่
• ห้องนอนมีพื้นที่กว้าง โปร่งสบาย สามารถทำมุมนั่งเล่นเล็กๆอีกจุดนึงได้
• ภายใน Master Bedroom สามารถกั้น Walk-in Closet ได้เป็นสัดส่วน มีพื้นที่กว้าง วาง Island ตรงกลางและพื้นที่สำหรับตู้เซฟด้านหลัง
• ห้องน้ำใน Master Bedroom มีอ่างอาบน้ำ แยกอ่างล้างหน้าแบบ His & Her อยู่ 2 ฝั่ง แบ่งสัดส่วนชัดเจน
• ห้องนอน 2 เป็นห้องที่มีขนาดใกล้เคียงกับห้องนอน 4 ฟังก์ชันภายในครบ มีห้องน้ำในตัว

ที่จอดรถในร่มสามารถจอดได้ 4 คัน โครงสร้างเป็นพื้นคอนกรีตลงเสาเข็มสั้น ปูพื้นด้วยทรายล้างสลับกระเบื้อง มีฝ้าเพดานสูงจอดรถคันใหญ่ได้ โดยไม่ทำให้หน้าบ้านอึดอัด พร้อมระบบไฟฟ้ารองรับการติดตั้ง EV Charger

บ้านทุกหลังจะมีพื้นที่ด้านข้างเป็น Pool Terrace ให้นั่งเล่นพักผ่อน มีระแนงบังสายตาบริเวณที่จอดรถ ระแนงสามารถเปิด-ปิดเพื่อปรับทัศนียภาพได้ค่ะ

ประตูทางเข้าหลักของบ้านเป็นบานไม้สักดูสวยงาม ติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ รองรับหลากหลายระบบ ไม่ว่าจะเป็น สแกนลายนิ้วมือ สแกนใบหน้า QR Coad หรือ Card และเป็น VDO Door Phone ให้คนในบ้านมองเห็นได้ว่าใครมาค่ะ

เข้ามาภายในบ้านแล้วจะเจอกับโถงต้อนรับ (Foyer) เป็นการแบ่งโซนให้คนในบ้านยังได้ความเป็นส่วนตัวเวลามีใครเดินเข้า-ออก บริเวณนี้ยังสามารถ Built-in ชั้นวางรองเท้าและตู้เก็บของเพิ่มเติมได้

บรรยากาศบริเวณโถงต้อนรับ (Foyer) จะมีห้องน้ำ Powder Room และ Guest Room อยู่ทางด้านขวามือค่ะ

การที่ออกแบบ Powder Room อยู่ด้านหน้าแบบนี้มีข้อดีคือ แยกสัดส่วนจากในตัวบ้านชัดเจน เวลามีแขกไปใครมาเข้าห้องน้ำก็ไม่รบกวนคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น และเวลากลับมาบ้านก็สามารถล้างมือได้สะดวก

Guest Room จะอยู่บริเวณด้านหน้า เหมาะกับการทำเป็นห้องทำงาน ห้องเก็บของสะสม หรือห้องสำหรับน้องๆสัตว์เลี้ยงได้ ภายในมีห้องน้ำและพื้นที่อาบน้ำในตัว รองรับการทำเป็นห้องนอนได้ค่ะ

Highlight ของชั้น 1 จะอยู่ที่พื้นที่นั่งเล่นค่ะ มีการออกแบบ Double Volume สูงถึง 7 เมตร ทำให้บรรยากาศภายในโปร่งโล่ง เปิดรับวิวด้านข้างมองออกไปเห็นสระว่ายน้ำส่วนตัวได้ พร้อมชุดประตูหน้าต่างบานใหญ่เกือบเต็มผนัง จาก Tostem รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ

ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาได้ 5 – 6 ที่นั่งสบายๆ พร้อมระยะดู TV ที่กว้างถึง 3.5 เมตร สามารถวาง TV ขนาด 65 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นเป็นจุดศูนย์กลางของบ้านเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ทำให้ตัวบ้านมีความกว้างโปร่งสบาย

บรรยากาศบริเวณโถง Double Volume แนะนำให้ติดตั้งเป็นม่านอัตโนมัติเพื่อความสะดวกในการเปิด-ปิดค่ะ

VDO Door Phone จะอยู่ที่ห้องนั่งเล่น สามารถดูได้ว่าใครอยู่ที่หน้าบ้านค่ะ ด้านข้างเป็นระบบรักษาความปลอดภัย มี Magnetic Sensor ที่ชั้น 1-3 และ Shock Sensor ที่ชั้น 1

พื้นที่รับประทานอาหารจะเชื่อมต่อมาจากห้องนั่งเล่น นอกจากนั้นยังมีพื้นที่อเนกประสงค์ด้านข้าง มีช่องแสงมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้ สามารถวางโต๊ะ 8 – 10 ที่นั่งพร้อม Pantry ได้สบายๆ เลยค่ะ

พื้นที่อเนกประสงค์ข้างๆ เหมาะกับการทำเป็นมุมพักผ่อนจิบน้ำชาส่วนตัว หรือมุมทำงาน, มุมอ่านหนังสือได้ค่ะ ตรงนี้มีช่องแสงทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้สว่างและมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้

ห้องครัวจะอยู่ฝั่งเดียวกับบันได มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นมาให้เพื่อความเป็นสัดส่วน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ยกอาหารมาเสิร์ฟได้สะดวก

ส่วนโถงบันไดจะมีบันไดโอบล้อมลิฟต์โดยสาร ซึ่งส่วนใหญ่บ้านที่มีลิฟต์มักออกแบบพื้นที่แบบนี้นะคะ เพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ใต้บันไดอีกข้างหนึ่งก็คือ Powder Room นั่นเอง

ห้องครัวเป็นครัวปิดมีขนาดประมาณ 3.2 x 4.35 ซึ่งถือว่ากว้างทีเดียวค่ะ สามารถ Built-in เคาน์เตอร์ได้ทั้ง 2 ฝั่ง ด้านหลังมีประตูบานเลื่อนเชื่อมต่อกับลานซักล้าง ซึ่งทำให้ห้องครัวได้รับแสงสว่างพร้อมเปิดระบายอากาศได้

ลิฟต์ที่ทางโครงการติดตั้งมาให้ เป็นลิฟต์มาตรฐานจาก Mitsubishi ภายในติดกระจกเพื่อให้ดูโปร่งไม่แคบจนเกินไป สามารถขึ้นได้พร้อมกันประมาณ 3 คนค่ะ

ส่วนบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกตั้งและลูกนอนปิดผิวด้วยไม้มะค่า

ขึ้นมาที่ชั้น 2 แล้วจะเจอกับโถงบันไดที่ค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ สามารถวางโซฟานั่งพักผ่อน หรือเป็นโซนโต๊ะเขียนหนังสือของเด็กๆได้

จากโถงบันไดชั้น 2 มองลงไปเห็นบรรยากาศห้องนั่งเล่นด้านล่าง

เราไปดูห้องนอนฝั่งหน้าบ้านทั้ง 2 ห้องกันก่อนนะคะ

เริ่มที่ห้องนอน 3 เป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในชั้น 2 ภายในแบ่งเป็น 3 ฟังก์ชัน คือ พื้นที่พักผ่อนที่สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ ปลายเตียงกว้าง วางม้านั่งและชั้นวาง TV เพิ่มเติมได้ ห้องนอนเชื่อมต่อกับระเบียงเหมาะกับการออกไปชมวิวยามเย็น

พื้นที่ Walk-in Closet สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าได้ 2 ฝั่งเชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวก ใครที่ชอบความเป็นสัดส่วนก็สามารถกั้นประตูปิดโซน Walk-in Closet ได้

ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจนได้ชุดสุขภัณฑ์ จาก KOHLER  ก๊อกน้ำจาก Gessi, Grohe พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ I-spa และระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น

ถัดมาห้องนอนที่ 5 เป็นห้องนอน Junior ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องน้องหมาค่ะ แต่สามารถปรับเป็นห้องอื่นๆ ได้ตามความต้องการของเจ้าของบ้านเลย ภายในห้องนี้ก็มีห้องน้ำในตัว ใช้งานได้สะดวกค่ะ

ทางฝั่งหลังบ้านเป็นห้องนอน 4 สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ เหลือพื้นที่ด้านข้างวางโต๊ะทำงานได้ มีพื้นที่ Built-in ตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำในตัวเช่นกันค่ะ

ถัดมาเป็นห้องอเนกประสงค์ ในแปลนคือห้อง The Gym ส่วนในบ้านตัวอย่างมีการตกแต่งเป็นห้องคาราโอเกะ หรือ Party Room สำหรับสังสรรค์กันในครอบครัว ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 3.2 x 5 เมตร ปรับเปลี่ยนได้หลากหลายฟังก์ชัน

บรรยากาศบริเวณโถงบันไดชั้น 3

ขึ้นมาที่ชั้น 3 แล้วเรามาดูห้องทางฝั่งหลังบ้านกันก่อนนะคะ ทางโครงการตกแต่งห้องอเนกประสงค์เป็นห้องพระ มีพื้นที่ประมาณ 3 x 4.9 เมตร ซึ่งค่อนข้างใหญ่ที่เดียว แต่จะมีช่องแสงไม่เยอะเท่ากับห้องอื่นๆ สามารถปรับเป็นห้องหนังสือหรือห้องเก็บของสะสมก็น่าสนใจเช่นกันค่ะ

ข้างๆ ห้องพระหรือห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอน 2 ห้องนี้ในบ้านตัวอย่างมีการตกแต่งเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่สำหรับ Master Bedroom แต่จริงๆแล้วสามารถทำเป็นห้องนอนได้เลย โดยจะมีผังคล้ายกับห้องนอน 4 ที่ชั้น 2 เลยค่ะ

มาถึงห้อง Master Bedroom แล้วค่ะ ห้องนี้จะมีความพิเศษคือได้พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ เข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นก่อน ขนาดห้องประมาณ 3.8 x 4.2 เมตร สามารถวางโซฟา 3-4 ที่นั่งได้เลย หรือใครชอบออกกำลังกายก็เหมาะกับการทำเป็น Fitness ส่วนตัวค่ะ

ห้องนั่งเล่นจะมีระเบียงขนาดใหญ่ เหมาะกับการวางเครื่องออกกำลังกาย Outdoor หรือจะตกแต่งเป็นพื้นที่พักผ่อนสำหรับเล่นโยคะ หรือนั่งอ่านหนังสือในยามเช้าได้

เข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่พักผ่อนของ Master Bedroom ซึ่งมีขนาดใหญ่ทีเดียวค่ะ สามารถแบ่งเป็นพื้นที่วางเตียงนอน พื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่นั่งทำงานด้านข้างได้

ถัดมาเป็นโซน Walk-in Closet สามารถวาง Island ตรงกลางได้ เชื่อมต่อกับห้องน้ำใช้งานได้สะดวก ใครที่ชอบความเป็นสัดส่วนก็กั้นปิดเป็นโซนแต่งตัวแยกกับห้องนอนเพื่อไม่ให้ฝุ่นจากผ้า หรือความชื้นจากในห้องน้ำเข้าสู่ห้องนอนได้นะคะ

ห้องน้ำใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่ ได้อ่างล้างหน้า His & Her แยกคนละฝั่งสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน สุขภัณฑ์จาก KOHLER ก๊อกน้ำ Gessi, Grohe ฝักบัว Grohe ฉากกั้นอาบน้ำ I-spa และอ่างอาบน้ำจาก Kasch พร้อมระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นเฉพาะห้อง Master Bedroom ค่ะ

บ้านหลังถัดมาที่เราจะพามาชมก็คือ บ้าน Type เริ่มต้น ที่มีชื่อว่า Privileged Portrait บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 455 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ1 ห้องแม่บ้าน  3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาทค่ะ

ชั้น 1

• จอดรถได้ 3 คัน
• พื้นที่ Foyer พื้นที่เก็บของ และห้อง Powder Room อยู่ด้านหน้าบ้าน ไม่รบกวนพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร
• พื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร และ Pool Terrace เปิดวิวด้านข้างมองเห็นวิวสระว่ายน้ำส่วนตัว
• ห้องครัวมีประตูกั้นเป็นสัดส่วน อยู่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารเพื่อให้ยกอาหารมาเสิร์ฟได้สะดวก อีกฝั่งเชื่อมต่อกับลานซักล้างสามารถเปิดประตูระบายอากาศได้ดี
• มีพื้นที่อเนกประสงค์ ด้านข้างพื้นที่รับประทานอาหาร สามารถทำเป็นมุมบาร์เล็กๆ หรือมุมอ่านหนังสือส่วนตัวที่มองออกไปเห็นวิวสระว่ายน้ำได้คล้ายกับบ้าน Type กลาง
• ห้องแม่บ้านเข้าจากด้านข้างบ้าน มีห้องน้ำในตัวรองรับแม่บ้านได้ 1 คน

ชั้น 2

• เป็นพื้นที่ของห้อง Master Bedroom ทั้งหมด เหมือน Penthouse ขนาดใหญ่ ตรงกลางเป็นพื้นที่นั่งเล่น เชื่อมต่อกับระเบียงออกไปมองเห็นวิวสระว่ายน้ำได้
• ด้านหน้าบ้านคือพื้นที่ส่วนพักผ่อน วางเตียงแล้วยังเหลือพื้นที่ด้านข้างทำเป็นห้องทำงาน หรือพื้นที่นั่งเล่นที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นได้
• ด้านหลังบ้านเป็นพื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ วาง Island ตรงกลางได้ เชื่อมต่อกับห้องน้ำ
• ห้องน้ำใน Master Bedroom มีอ่างอาบน้ำ แยกอ่างล้างหน้าแบบ His & Her อยู่ 2 ฝั่ง แบ่งสัดส่วนชัดเจนเช่นกัน

ชั้น 3

• มี 2 ห้องนอน 1 Family Area และ 1 ห้องอเนกประสงค์
• โถงบันไดมีพื้นที่ Family Area เชื่อมต่อกับระเบียง Semi-Outdoor ขนาดใหญ่ สามารถปรับเป็นพื้นที่ออกกำลังกายได้ทั้ง Indoor และ Outdoor
• ห้องนอน 2 มีขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าบ้าน แบ่งฟังก์ชันภายในได้ชัดเจน ทั้งพื้นที่วางเตียงนอน Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว
• ห้องนอน 3 อยู่ทางด้านหลังบ้าน มีระเบียงและห้องน้ำส่วนตัว
• ห้องอเนกประสงค์อยู่ด้านหลังบ้าน มีระเบียงส่วนตัว สามารถทำเป็นห้องทำงานหรือห้องพระได้

บ้าน Type นี้มีที่จอดรถในร่มจอดได้ 3 คันค่ะ โครงสร้างเป็นพื้นคอนกรีตลงเสาเข็มสั้น ปูพื้นด้วยทรายล้างสลับกระเบื้อง พร้อมระบบไฟฟ้ารองรับการติดตั้ง EV Charger มีระแนงบังสายตาบริเวณที่จอดรถ ระแนงสามารถเปิด-ปิดเพื่อปรับทัศนียภาพได้

ประตูทางเข้าหลักเป็นบานไม้สัก ติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ รองรับการใช้งานได้หลายระบบ ไม่ว่าจะเป็น สแกนลายนิ้วมือ สแกนใบหน้า QR Coad หรือ Card และเป็น VDO Door Phone เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น

เข้ามาภายในบ้าน Type นี้จะไม่ได้มีโถงสูง Double Volume นะคะ แต่ยังคงได้ความโปร่งสบายจากฝ้าเพดานที่สูงประมาณ 3.2 เมตร และเปิดมุมมองฝั่งสระว่ายน้ำด้วยประตูหน้าต่างบานใหญ่ การวางผัง Common Area คล้ายกับบ้าน Type กลางค่ะ

เข้ามาแล้วฝั่งขวามือจะเป็นพื้นที่เก็บของและห้อง Powder Room

พื้นที่เก็บของสามารถทำเป็นชั้นวางรองเท้าได้ โดยไม่รบกวนสายตาจากพื้นที่ Common Area ส่วนห้อง Powder Room อยู่ทางด้านหน้าบ้านใช้งานได้สะดวก

ในบ้านหลังนี้ก็มีห้องนั่งเล่นเป็นจุดศูนย์กลางของบ้านเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร และส่วนอื่นๆค่ะ

ห้องนั่งเล่นสามารถวางโซฟาได้ 4 – 5 ที่นั่งสบายๆ พร้อมระยะดู TV ประมาณ 3.2 เมตร สามารถวาง TV ขนาด 605 นิ้วขึ้นไปได้เลย

บ้านทุกหลังจะมีพื้นที่ Pool Terrace ด้านข้าง เหมาะกับการทำเป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ หรือทำปิ้งย่าง บาร์บีคิวร่วมกันในครอบครัวค่ะ

พื้นที่รับประทานอาหารเชื่อมต่อมาจากห้องนั่งเล่น วางโต๊ะ 6 – 8 ที่นั่งพร้อม Pantry ได้

ด้านข้างเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ทางโครงการตกแต่งเป็นบาร์ให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ ซึ่งมุมนี้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือพื้นที่ออกกำลังกายได้

ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องครัว มีการออกแบบเป็นครัวปิดกั้นเป็นสัดส่วน แต่ยังเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ ภายในมีพื้นที่ประมาณ 2.2 x 3.25 เมตร Built-in เคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L ได้ นอกจากนั้นยังมีช่องแสงขนาดใหญ่ทำให้ครัวสว่างและสามารถเปิดระบายอากาศได้เต็มที่

ลิฟต์โดยสารมาตรฐาน จาก Mitsubishi ภายในติกระจกเพื่อให้ดูโปร่งมากขึ้น ส่วนบันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกตั้งและลูกนอนปิดผิวด้วยไม้มะค่า

ชั้น 2 เป็นชั้นของห้อง Master Bedroom ทั้งชั้นเลยค่ะ ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวสามารถกั้นประตูปิดเพื่อให้พื้นที่ทั้งชั้นนี้เป็น Penthouse ได้เลย

เข้ามาภายใน Master Bedroom จะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อนเช่นกันค่ะ ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 3.15 x 4.40 เมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างกว้างเลย สามารถวางโซฟา 3 – 4 ที่นั่ง หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นมุมทำงาน หรือห้องหนังสือขนาดใหญ่ได้

ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อออกไปยังระเบียง โดยจะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและวิวด้านหน้าบ้านได้ค่ะ

พื้นที่พักผ่อนของ Master Bedroom มีขนาดประมาณ 4.2 x 5.45 เมตร สามารถแบ่งเป็นพื้นที่วางเตียงนอนและพื้นที่นั่งเล่นกว้างๆ ด้านข้างได้ นอกจากนั้นยังมีระเบียงส่วนตัวให้ได้ออกไปสูดอากาศยามเช้าด้วยค่ะ

ยังไม่หมดเท่านั้น ภายใน Master Bedroom ยังมีพื้นที่ด้านข้างประมาณ 3 x 4 เมตร ซึ่งสามารถปรับเป็นพื้นที่นอนของลูกน้อย หรือเป็นโซนทำงานส่วนตัวแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ ถือว่ายืดหยุ่นมากๆเลย

ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำ ข้อดีคือฝุ่นและความชื้นเข้าไปยังห้องนอนได้น้อยค่ะ โซนนี้มีขนาดใหญ่กินพื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของชั้น 2 เลยค่ะ

Walk-in Closet สามารถวาง Island ตรงกลางและ Built-in ตู้เสื้อผ้าทั้ง 2 ฝั่งได้ มีทางเดินเชื่อมต่อกับห้องน้ำ สามารถออกมาแต่งตัวได้สะดวก

ห้องน้ำใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่ ได้อ่างล้างหน้า His & Her แยกคนละฝั่งสามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน ได้สุขภัณฑ์จาก KOHLER ก๊อกน้ำ Gessi, Grohe ฝักบัว Grohe ฉากกั้นอาบน้ำ I-spa และอ่างอาบน้ำจาก Kasch พร้อมระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น

ขึ้นมาที่ชั้น 3 กันบ้างค่ะ ชั้นนี้มี 2 ห้องนอน 1 Family Area และ 1 ห้องอเนกประสงค์

เรามาดู Family Area กันก่อนค่ะ ห้องนี้จะมีพื้นที่ติดระเบียง Semi-Outdoor ขนาดใหญ่ เหมาะกับการทำเป็นพื้นที่ออกกำลังกายได้ทั้ง Indoor และ Outdoor ค่ะ

ถัดมาเป็นห้องนอน 2 อยู่ทางฝั่งด้านหน้าบ้าน มีขนาดใหญ่ภายในแบ่งเป็น 3 ฟังก์ชัน คือ พื้นที่พักผ่อนที่สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ ปลายเตียงกว้าง วางม้านั่งและชั้นวาง TV เพิ่มเติมได้ ห้องนอนเชื่อมต่อกับระเบียงสามารถเปิดประตูให้อากาศถ่ายเทได้

พื้นที่ Walk-in Closet แยกเป็นสัดส่วนสามารถกั้นประตูปิดโซนนี้ได้ ส่วนห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจนได้ชุดสุขภัณฑ์ จาก KOHLER ก๊อกน้ำจาก Gessi, Grohe พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ I-spa และระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ค่ะ

ส่วนทางด้านหลังบ้านจะเป็นพื้นที่ของห้องนอน 3 และห้องอเนกประสงค์ค่ะ

ห้องนอนที่ 3 ในบ้านตัวอย่างตกแต่งเป็นห้องทำงานให้ดูค่ะ แต่จริงๆแล้วมีพื้นที่ 3.4 x 4.1 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้เช่นกันค่ะ นอกจากนั้นยังมีห้องน้ำในตัวด้วย

ติดกับห้องนอน 3 เป็นห้องอเนกประสงค์ มีพื้นที่ประมาณ 1.95 x 3.25 เมตร เหมาะกับการทำเป็นห้องทำงาน, ห้องเก็บของสะสมส่วนตัว หรือใครที่มีเสื้อผ้าเยอะ ก็สามารถใช้เป็นห้อง Walk-in Closet ขยายออกมาจากห้องนอนได้เช่นกันค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

The Honor Yothinpattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) ราคา ณ วันที่ 1 มกราคม 2567

• Privileged Portrait (พริวิเลจ พอร์ตเทรต)
  บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 455 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาท
• Privileged Pride (พริวิเลจ ไพรด์)
  บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 75 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 564 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 4 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 50 ล้านบาท
• Privileged Legend (พริวิเลจ เลเจนท์)
  บ้านเดี่ยว 3 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 90 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 710 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 6 ห้องนอน / 8 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 5-6 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 60 ล้านบาท
• จอง 500,000 – 1,000,000 บาท (ตามแบบบ้าน)
• ทำสัญญา 1,000,000 – 2,000,000 บาท (ตามแบบบ้าน)
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 300,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 69 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

โครงการ The Honor Yothinpattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) ตั้งอยู่ในซอยโพธิ์แก้ว 3 สามารถเดินทางเข้าสู่โครงการได้ 4 เส้นทาง คือ ถนนเลียบด่วนรามอินทรา(ประดิษฐ์มนูธรรม), ถนนนวมินทร์, ถนนเกษตรนวมินทร์ และถนนลาดพร้าว เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกด้วยทางด่วนบนเส้นเลียบด่วนรามอินทรา เชื่อมเข้าไปยังย่านพระราม 9 – เอกมัยทองหล่อ – สุขุมวิทสะดวกค่ะ

ใกล้แหล่ง Lifestyle และความอุดมสมบูรณ์ย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้าอย่าง CDC, Central Eastville, คอมมูนิตี้มอลล์ อย่าง The Crystal, CDC, The Walk, Chic Republic และสถานที่ ให้ Hangout หลายแห่ง

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

ประตูทางเข้าโครงการแบบ Double Gate โดยประตูแรกจะต้องผ่านเจ้าหน้าที่รปภ. เพื่อเข้ามาใช้งาน The Social Club และจะมีประตูรั้วเลื่อนกั้นอีกชั้นหนึ่งก่อนเข้าไปภายในส่วนพักอาศัยและ The Residential Club เข้า-ออกด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนรถยนต์ (License Plate) CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 32 จุด พร้อมรั้วสูง 3+2 เมตร

ตัวบ้านมีระบบรักษาความปลอดภัยครบครันไม่ว่าจะเป็น Magnetic Sensor ให้ที่ชั้น 1-3, Shock Sensor ชั้น 1, Digital Door Lock และ VDO Door Phone

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

การออกแบบผังของโครงการเน้นความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านโดยแบ่ง Clubhouse ออกเป็น 2 อาคาร อาคารแรก The Social Club ใช้สำหรับรองรับแขก จัดปาร์ตี้ กิจกรรมสังสรรค์กับเพื่อนๆจากภายนอกได้ ส่วน The Residential Club เป็นพื้นที่ออกกำลังกายและพักผ่อนสบายๆ มีความเป็นส่วนตัวสูงเฉพาะลูกบ้านในโครงการ ตกแต่งภายในมีความหรูหรา แต่ละฟังก์ชันน่าใช้งาน โดยบ้านพักอาศัยเฟสแรกเปิดขายยูนิตที่ติดถนนหลักและพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

การออกแบบตัวบ้าน Timeless Design ไม่เก่าไปตามกาลเวลาสไตล์ Modern Tropical Residence พร้อม Private Pool Villa ฟังก์ชันภายในครบครัน เน้นพื้นที่อเนกประสงค์ทำให้สามารถจัดฟังก์ชันได้ยืดหยุ่น มีห้องน้ำในห้องนอนทุกห้อง และระเบียง Semi-Outdoor ส่วนตัวขนาดใหญ่หลายจุด เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตทั้งภายในและภายนอกบ้าน จอดรถได้สูงสุด 6 คัน รองรับแม่บ้านอยู่ประจำได้ 1-2 คน

วัสดุ :

โครงสร้างบ้านเป็นก่ออิฐฉาบปูน ทำให้มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยภายใน ให้เข้ากับ Lifestyle เจ้าของบ้านมากขึ้น จุดเด่นคือเป็นบ้านราคาเริ่มต้น 40 ล้านบาทที่ให้สระว่ายน้ำส่วนตัวและลิฟต์โดยสาร จาก Mitsubishi ทุกยูนิต ประตูหน้าต่างกรอบบานอลูมิเนียม Tostem, บานประตูหน้าบ้านไม้สัก สุขภัณฑ์ KOHLER ก๊อกน้ำ Gessi, Grohe ฝักบัว Grohe ฉากกั้นอาบน้ำ I-spa อ่างอาบน้ำ Kasch มีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็นในห้อง Master Bedroom พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยครบ โดยรวมถือว่าให้มาค่อนข้างดีเลยค่ะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

จุดเด่นหนึ่งของโครงการก็คือพื้นที่สีเขียวที่มีขนาดใหญ่อยู่กลางโครงการ (Oasis) เป็นทัศนียภาพที่สวยงามให้กับลูกบ้าน พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สวนสาธารณะรวมถึง 4,800 ตร.ม. สภาพโครงการมีความเรียบร้อยเนื่องจากไม่มีเสาไฟฟ้าเป็นระบบสายไฟใต้ดินทั้งหมดค่ะ

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางก็เป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมากๆของโครงการนี้ค่ะ เนื่องจากมีให้ถึง 2 Clubhouses คือ The Social Club สำหรับสังสรรค์หรือนัดพูดคุยธุระกับบุคคลภายนอกได้ และ The Residential Club ที่มีความสงบและเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านโดยเฉพาะ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางที่ไม่เหมือนใคร เช่น Wine Club, Cigar Room, Car Spa, Salon, Private Spa Therapy, Private Chef’s Table Space เป็นต้น รวมแล้วกว่า 25 ฟังก์ชัน พื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 2,000 ตร.ม. เทียบกับโครงการในระดับใกล้เคียงกันถือว่าโครงการนี้ให้พื้นที่ส่วนกลางมาเยอะทีเดียวค่ะ

Judgement

The Honor Yothinpattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) เป็นโครงการที่จัดอยู่ในกลุ่ม Super Luxury Class ที่มีราคาขายระดับ 40 – 60 ล้านบาทขึ้นไป ปัจจัยในการเลือกซื้อนอกจากจะต้องดูเรื่องความคุ้มค่าทางการเงินแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆอีกที่สำคัญ เช่น ความชอบส่วนบุคคล อารมณ์ และความรู้สึกส่วนตัวของผู้ซื้อ ที่ต้องนำมาใช้ประกอบการพิจารณา ปัจจัยดังกล่าวมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าแก่โครงการนะคะ

The Honor Yothinpattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) เหมาะกับใคร

โครงการ The Honor Yothinpattana (ดิ ออเนอร์ โยธินพัฒนา) เหมาะกับครอบครัวที่มองหาบ้านในทำเลย่านเลียบด่วนรามอินทรา เดินทางไปทางด่วนและเชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้สะดวกหลายเส้นทาง หาของกินได้ไม่ยาก ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์แต่ก็ยังเป็นพื้นที่ที่มีความสงบ ชอบพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย บรรยากาศดีน่าใช้งาน มีใช้บริการ Concierge Service บ้าง ชอบบ้านที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์คนทุก Generation ชอบบ้าน Pool Villa มีพื้นที่พักผ่อนเยอะ จอดรถได้ 3 – 6 คัน มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้น 40 – 60 ล้านบาทค่ะ