
เปิดตัวโครงการ The Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) บ้านแฝดและทาวน์โฮม ทำเลใกล้ BTS แบริ่งและ MRT ศรีแบริ่ง แล้วยังไม่ไกลจากโรงเรียนนานาชาติชื่อดังหลายแห่ง ผู้ปกครองไปรับ-ส่งลูกหลานได้สบายๆ สำหรับ Highlights ที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย
- ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย : โครงการห่างจาก BTS แบริ่งเพียง 2.4 กิโลเมตร และยังไม่ไกลจาก MRT สายสีเหลือง สถานีศรีแบริ่ง ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง ใช้งานได้สะดวก
- ใกล้โรงเรียนนานาชาติชื่อดังมากมาย : ในระยะ 1-3 กิโลเมตรจากโครงการ มีสถานศึกษาชื่อดัง และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง เช่น St. Joseph Bangna School , St. Andrews International School , Bangkok Patana School และ La Salle School ผู้ปกครองสามารถไปรับ-ส่งได้สบายๆ
- ยูนิตน้อยเพียง 16 ยูนิต : ซึ่งถือว่าจำนวนเพื่อนบ้านน้อยมากนะคะ ลูกบ้านจึงได้ความเป็นส่วนตัว
- ได้พื้นที่ใช้สอยเทียบเท่าบ้านเดี่ยว : มีทั้งชั้นลอยและดาดฟ้าให้ใช้งานด้วยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
รีวิว The Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2568
| ชื่อโครงการ | The Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) |
| ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท อาเวีย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด |
| SEGMENT CLASS | UPPER-HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 ) |
| โครงการตั้งอยู่ | ซ.แบริ่ง 15 ต.สำโรงเหนือ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 10270 |
| ที่ดิน | 1-2-47.8 ไร่ |
| จำนวนยูนิต | 16 ยูนิต |
| ประเภทบ้าน |
|
| ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 200,000 บาท |
| เริ่มก่อสร้าง | กันยายน ปี พ.ศ. 2567 |
| คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ธันวาคม ปี พ.ศ. 2570 |
| เว็บไซต์โครงการ | คลิกที่นี่ |
| โทร | 094 480 6111 |
| Line | ถ้ามี |

ทำเลที่ตั้ง
Highlight
- ใกล้รถไฟฟ้า BTS แบริ่ง : เพียง 2.4 กิโลเมตร เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทาง
- ใกล้โรงเรียนนานาชาติชื่อดังมากมาย : ในระยะ 1-3 กิโลเมตรจากโครงการ มีสถานศึกษาชื่อดัง และโรงเรียนนานาชาติหลายแห่ง เช่น St. Joseph Bangna School , St. Andrews International School , Bangkok Patana School และ La Salle School ผู้ปกครองสามารถไปรับ-ส่งได้สบายๆ
พิกัด Google Maps : 13.655372800690301, 100.61793028349554
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
The Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) ตั้งอยู่ตรงไหน
โครงการตั้งอยู่ในซอยลาซาล 15 ห่างจากถนนแบริ่งหรือซอยสุขุมวิท 107 ประมาณ 280 เมตรเท่านั้น ซึ่งสามารถเชื่อมต่อไปยังถนนเส้นหลักได้ถึง 2 เส้น คือถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ ทำให้เรามีหลายเส้นทาง ให้เลือกเดินทางมากขึ้น หากวันใดถนนเส้นหนึ่งรถติด ก็เลี่ยงไปใช้ถนนอีกเส้นได้ นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่งและ MRT ศรีแบริ่งด้วยนะ เรียกได้ว่าโครงการนี้เป็น ‘บ้านบนทำเลคอนโด’ เลยค่ะ
ซอยลาซาล 15 เป็นซอยตัน ภายในซอยจะมีเพียงแค่ชุมชนบ้านพักอาศัย , อาคารพาณิชย์และโรงงาน ทำให้คนที่เข้า-ออกซอยนี้จะเป็นคนเดิมๆที่ชุมชนคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว เวลามีคนภายนอกเข้ามา คนในชุมชนก็จะรู้กัน ถือปลอดภัยระดับหนึ่งเลยนะ
ทาวน์โฮมและบ้านแฝดโซนแบริ่ง ราคาเท่าไหร่?
ราคาทาวน์โฮมหรือบ้านแฝดโซนนี้มีทั้งแบบที่เป็นจัดสรร และไม่จัดสรรให้เลือก แล้วก็หลากหลายราคาเลยค่ะ แต่ถ้าโซนที่ใกล้กับรถไฟฟ้าไม่เกิน 3 กิโลเมตร ก็จะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 10 กว่าล้านบาทเลย แลกกับการได้พื้นที่ใช้สอยเทียบเท่าบ้านเดี่ยวและโลเคชั่นที่สามารถไปใช้รถไฟฟ้าได้ไม่ยาก
จากโครงการสามารถเข้าถึงแหล่งความอุดมสมบูรณ์ได้สะดวกมากๆ เพราะในระยะ 1-3 กิโลเมตร จะมี Community Mall อย่าง Summer Lasalle , DADFA Community mall , Lasalle’s Avenue ที่มีร้านค้าร้านอาหารดังๆมาเปิดมากมาย รวมถึงซูเปอร์มาเก็ตอย่าง Villa Maket ซึ่งมีสินค้าจากต่างประเทศหรือคุณภาพดีๆให้เลือกเยอะ
หากใครอยากจะช้อปปิ้งก็มี Central บางนา อยู่ใกล้ที่สุด และในอนาคตจะมี Bangkok Mall เปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้เรามีที่เดินเล่นซื้อข้าวของหรือ Hang Out ได้สะดวก ส่วนเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยใกล้กับโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง รวมถึงโรงเรียนนานาชาติด้วยค่ะ เช่น St. Joseph Bangna School , St. Andrews International School , Bangkok Patana School และ La Salle School ผู้ปกครองจึงสามารถไปรับ-ส่งลูกหลานได้สบายๆ
จากโครงการสามารถไปใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีแบริ่งได้ เพียง 2.4 km.
อีกหนึ่งข้อดีของโครงการ The Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) คือใกล้รถไฟฟ้าสาย BTS สถานีแบริ่งประมาณ 2.4 กิโลเมตร ซึ่งหาได้ยากมากๆเลยนะคะ ที่จะมีบ้านใกล้ไม่เกิน 3 กิโลเมตรจากรถไฟฟ้าสายหลัก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางให้ลูกบ้านใช้เดินทางเข้าเมืองไปโซนเอกมัย , อโศกได้ โดยไม่ต้องเสียเวลารถติด
ส่วน MRT สายสีเหลือง สถานีศรีแบริ่งห่างจากโครงการประมาณ 3 กิโลเมตร ลูกบ้านสามารถใช้เดินทางไปศรีนครินทร์ , บางกะปิและลาดพร้าวได้ด้วย
เวลาจะเดินทางไปใช้งานรถไฟฟ้าก็สามารถเรียกรถมารับ หรือให้คนที่บ้านไปส่งที่สถานีก็ได้ค่ะ ยิ่งใครจะเข้าเมืองไปทางสุขุมวิทหรือศรีนครินทร์อยู่แล้ว ยิ่งแวะส่งสมาชิกในบ้านขึ้นรถไฟฟ้าง่ายเลย เพราะสถานีรถไฟฟ้าเป็นทางผ่านอยู่แล้ว ส่วนขากลับทั้ง 2 สถานีจะมีพี่วินและ Taxi จอดรถอยู่เยอะพอสมควร จึงกลับเข้าบ้านได้ง่ายมากเลย
สำหรับใครที่ต้องการเดินทางออกนอกเมืองไปชลบุรี , ฉะเชิงเทรา สามารถใช้ทางด่วนบูรพาวิถีฝั่งไปชลบุรี ที่ห่างออกไป 5.7 km.
โครงการ The Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) อยู่ไม่ไกลจากทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนบูรพาวิถีมากนัก ลูกบ้านสามารถเดินทางไปโซนต่างๆของเมืองได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นโซนพระราม 4 , พระราม 9 หรือจะเดินทางออกนอกเมืองไปทางชลบุรี , ฉะเชิงเทรา ซึ่งทางด่วนทั้ง 2 จุดห่างจากโครงการประมาณ 5.7 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ The Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) ส่วนใหญ่เป็นอาคารพักอาศัย 1-3 ชั้น , บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น , ร้านตกแต่งรถยนต์ , โรงพิมพ์ 4 ชั้นและที่ดินว่างเปล่าที่เรามองว่ามีโอกาสพัฒนา แต่ที่ด้านหลังโครงการเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล แล้วดูจะขนาดพื้นที่ เรามองว่าคงไม่สามารถทำเป็นโครงการจัดสรรใหม่ได้ แต่อาจเป็นทำบ้านพักอาศัยเพิ่มเติมได้อยู่ค่ะ ส่วนที่ว่างด้านหน้าโครงการตอนนี้เป็นลานจอดรถของไซต์งานโครงการอยู่ค่ะ
- ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ ร้านตกแต่งรถยนต์ และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น
- ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น และที่ว่างรอการพัฒนา
- ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับ โรงพิมพ์ 4 ชั้น , บ้านพักอาศัย 3 ชั้น และที่ว่างรอการพัฒนา
- ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัย 1-2 ชั้นและที่ว่างรอการพัฒนา
บรรยากาศหน้าโครงการ
ด้านหน้าโครงการเป็นที่ว่างรอการพัฒนา ที่ตอนนี้ใช้เป็นที่จอดรถสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาชมโครงการ และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ส่วนด้านข้างโครงการคือโรงพิมพ์ 4 ชั้น และร้านตกแต่งรถยนต์
ส่วนบรรยากาศภายในซอยโครงการเป็นอาคารพาณิชย์ 1-3 ชั้น , บ้านพักอาศัย 1-3 ชั้น และที่ว่างรอการพัฒนา โดยช่วงต้นซอยจะยังมีที่ว่างอยู่เยอะ อาจถูกพัฒนาเป็นโครงการจัดสรรในอนาคตได้นะ
บรรยากาศหน้าปากซอยโครงการ
หน้าปากซอยโครงการทั้งฝั่งซ้ายและขวามีร้านสะดวกซื้อ อย่าง Cj More และ Big C mini อยู่ด้วย ลูกบ้านสามารถแวะซื้อข้าวของก่อนกลับเข้าบ้านได้ไม่ยาก เพราะเป็นทางผ่านอยู่แล้ว
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Lasalle’s Avenue ~ 1.7 km.
- Summer Lasalle ~ 3.1 km.
- DADFA Community mall ~ 3.1 km.
- JAS URBAN ~ 3.7 km.
- Foodland ศรีนครินทร์ ~ 3.9 km.
- Bitec บางนา ~ 4.6 km.
- Big C ศรีนครินทร์ ~ 4.6 km.
- Makro ศรีนครินทร์ ~ 4.7 km.
- Central บางนา ~ 5.4 km.
- True Digital Park ~ 6.7 km.
- Mega บางนา ~ 11.4 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลศิครินทร์ ~ 4.6 km.
- โรงพยาบาลสินแพทย์ ศรีนครินทร์ ~ 7 km.
- โรงพยาบาลปิยะมินทร์ ~ 12.7 km.
โรงเรียน
- St. Joseph Bangna School ~ 1.7 km.
- St. Andrews International School ~ 2.1 km.
- Bangkok Patana School ~ 2.2 km.
- La Salle School ~ 2.8 km.
- Thai-Singapore International School ~ 5.1 km.
- Montessori Academy Bangkok International School ~ 5.5 km.
- Berkeley International School ~ 5.6 km.
- International Community School ~ 7.5. km.
- Raffles International College Bangkok ~ 8.4 km.
การเดินทาง
- BTS แบริ่ง ~ 2.4 km.
- MRT ศรีแบริ่ง ~ 3 km.
- ทางด่วนบูรพาวิถี ~ 5.7 km.
- ทางด่วนเฉลิมมหานคร ~ 7.7 km.
รายละเอียดโครงการ
Highlight
- ยูนิตน้อยเพียง 16 ยูนิต : ซึ่งถือว่าจำนวนเพื่อนบ้านน้อยมากนะคะ ลูกบ้านจึงได้ความเป็นส่วนตัว
- บ้านทุกหลังอยู่ติดถนนหลักของโครงการ : ทำให้เข้า-ออกโครงการได้สะดวก
- โครงการเอาสายไฟลงดินทั้งหมด : ให้บรรยากาศโครงการที่ดูเรียบร้อยสะอาดตา
The Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) เป็นโครงการบ้านแฝดและทาวน์โฮม 3.5-4.5 ชั้น บนที่ดินประมาณ 1-2-47.8 ไร่ มีเพื่อนบ้านเพียง 16 ยูนิต เมื่อเทียบกับโครงการเพื่อนบ้านระดับเดียวกัน ที่มักมี 30 ยูนิตขึ้นไป โครงการนี้ถือว่ามีจำนวนยูนิตน้อยเป็นอันดับต้นๆเลยนะ ลูกบ้านจึงได้ความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษ จากการวางผังของโครงการ เรามองว่าน่าสนใจทีเดียว แบ่งออกเป็นประเด็นได้ดังนี้
- บ้านทุกหลังติดถนนหลักของโครงการ ทำให้เข้า-ออกโครงการได้สะดวก
- บ้านในโซนกรอบสีเหลือง อยู่ใกล้ซุ้มประตูโครงการมากที่สุด เข้า-ออกโครงการได้ง่าย แล้วยังใกล้หูใกล้ตารปภ. ของโครงการด้วย ทำให้หมดห่วงเรื่องความปลอดภัย
- บ้านในโซนกรอบสีน้ำเงิน อยู่ติดกับที่ว่างรอการพัฒนาอยู่ ทำให้ได้วิวแบบเปิดโล่งที่ชั้นดาดฟ้า
ซุ้มประตูโครงการอยู่ลึกเข้าไปจากถนนสาธารณะเล็กน้อย พอให้มีพื้นที่ในการจอดรถรอประตูรั้วโครงการเปิด โดยไม่ขวางทางคนที่เข้า-ออกซอยโครงการ สำหรับซุ้มประตูของโครงการจะใช้เป็นระบบ Remote control กับประตูรั้วเหล็กบานเลื่อนไฟฟ้า ลูกบ้านจะสามารถใช้รีโมทเปิดประตูได้เลย ส่วนแขกต้องแลกบัตรก่อนนะ ส่วนซุ้มประตูมีการแยกฝั่งเข้า-ออกได้อย่างชัดเจน ใช้งานร่วมกันทั้งลูกบ้านและ Visitor ที่เข้ามาติดต่อโครงการ
เมื่อเข้ามาภายในโครงการ เราจะเห็นโซนทาวน์โฮมก่อนเป็นอันดับแรก ส่วนบ้านแฝดจะอยู่ด้านหลังโครงการนะ ข้อดีของโครงการคือบ้านทุกหลังติดถนนหลักของโครงการ ทำให้เราเข้า-ออกโครงการได้สะดวก และโครงการยังเอาสายไฟลงดิน ทำให้เราไม่เห็นสายไฟภายในโครงการ บรรยากาศของโครงการจึงดูสะอาดสบายตาดีค่ะ
เนื่องจากจำนวนเพื่อนบ้านน้อย เพียง 16 ยูนิตเท่านั้น ทำให้เราต้องแชร์ค่าส่วนกลางกับเพื่อนบ้านจำนวนไม่เยอะ จึงมีค่าส่วนกลางประมาณ 160 บาท/ตร.ว./เดือน
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 11 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.4 เมตรและต่อระแนงเพิ่ม 3 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 8 ม.
- Remote control
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วสแตนเลสรางเลื่อนระบบมอเตอร์ไฟฟ้า
- เดินสายไฟร้อยท่อลงดินทั้งโครงการ
แบบบ้าน
Highlight
- ได้พื้นที่ใช้สอยเทียบเท่าบ้านเดี่ยว : มีทั้งชั้นลอยและดาดฟ้าให้ใช้งานด้วยค่ะ
- จอดรถได้ 3 คัน ตั้งแต่แบบบ้าน Type แรก : โดยทั่วไปบ้านแบบแรกในระดับราคานี้ มักจะจอดรถได้ 2 คัน แต่โครงการนี้แค่บ้าน Type เล็กสุดก็จอดรถได้ 3 ดันแล้วค่ะ
- ตกแต่งผนังหน้าบ้านด้วยวีเนียร์ลายหิน : ซึ่งเป็นวัสดุมี Texture ช่วยให้ตัวบ้านมีมิติมากขึ้น
บ้านในโครงการThe Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) เป็นโครงการบ้านแฝดและทาวน์โฮม 3.5 – 4.5 ชั้น ที่มีพื้นที่ใช้สอยเทียบเท่าบ้านเดี่ยวเลยนะ ตั้งแต่ 275-542 ตารางเมตร เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเยอะๆ รองรับสมาชิกในครอบครัว 4-6 คน กำลังดีเลยค่ะ ในราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาท
ตัวบ้านออกแบบออกมาได้ค่อนข้างโดดเด่น ภายนอกตกแต่งด้วยวีเนียร์ลายหินสีเทาเข้ม และด้านหน้าบ้านมีการยื่นผนังบางส่วนออกมา เป็นจังหวะๆ ทำให้บ้านดูมีมิติและเคร่งขรึมในเวลาเดียวกัน ช่วยให้บ้านดูน่าสนใจมากขึ้น โครงการมีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบดังนี้
ทาวน์โฮม Type B-C
- ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 ม. ที่ดินเริ่มต้น 24-35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ - ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 ม. ที่ดินเริ่มต้น 24-43 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ - บ้านแฝด 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 9 ม. ที่ดินเริ่มต้น 50-53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 542 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / ลิฟต์โดยสาร
สรุปวัสดุภายในห้อง
- โครงสร้างแบบ Conventional
- หลังคา Flat Slab พื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก ทำกันซึม PU
- ผนังฉาบเรียบทาสี / ผนังตกแต่งกรุแผ่นวีเนียร์ลายหิน
- ที่จอดรถแบบลงเสาเข็ม ปูด้วยคอนกรีตพิมพ์ลาย Stamp Concrete
- ลานซักล้าง ลงเสาเข็ม ปูพื้นกระเบื้องเซรามิค 60×60 cm.
- พื้นชั้น 1 : กระเบื้องเซรามิค 60×60 cm.
- พื้นชั้น 2,3 : พื้นไม้ลามิเนต อินโนวา หนา 8 mm.
- บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้/ พื้นไม้ลามิเนต อินโนวา หนา 8 มม./ราวบันได สแตนเลส
- Type 4.5 ชั้น ความสูง 2.4 ,Type 3.5 ชั้น ความสูง 2.8
- กล้องวงจรปิด 4 จุด
- ระบบ Magnetic Sensor 8 จุด ที่ประตู-หน้าต่าง ชั้น 1-2
- ระบบ Motion Sensor 1 จุด บริเวณหน้าบ้าน
- สุขภัณฑ์ KOHLER
- ติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อนภายในห้องน้ำชั้น 3 และชั้น 4 Stiebel Eltron
- ระบบไฟ 3 เฟส 30(100)
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
บ้านตัวอย่าง : ทาวน์โฮม Type A
ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 ม. ที่ดินเริ่มต้น 24-43 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ
ชั้น 1 : บริเวณหน้าบ้านสามารถจอดรถแบบซ้อนคันได้ 3 คันสบายๆ โดยรถคันที่อยู่ด้านในจะมีชายคาคลุมเต็มคัน แต่ 2 คันที่จอดซ้อนด้านนอกจะมีบางส่วนที่อยู่นอกชายคา แนะนำให้ต่อเติมชายคาเพื่อบังแดดบังฝน
ส่วนทางเข้า-ออกบ้านหลักๆจะมี 2 ทาง ทางแรกคือประตูหลักบริเวณที่จอดรถหน้าบ้าน ส่วนประตูรองคือประตูบริเวณหลังบ้าน จริงๆทั้ง 2 ประตูนี้จะอยู่ค่อนข้างใกล้กันนะ เพียงแต่ประตูด้านหน้าบ้านเจ้าของบ้านจะใช้เป็นหลักเพราะใกล้ที่จอดรถ ส่วนประตูหลังบ้านจะเป็นแม่บ้านใช้เป็นหลัก เพราะติดกับลานซักล้าง
ฟังก์ชันหลักของบ้านจะเริ่มต้นที่ชั้น 2 ชั้นแรกมีเพียงห้องน้ำไว้รองรับแขก หรือให้แม่บ้านใช้เท่านั้น สำหรับเรามองว่าเป็นข้อดี เพราะชั้น 1 เป็นชั้นที่คนมองเข้ามาเห็นได้ง่าย การยกฟังก์ชันต่างๆไปไว้ด้านบน ช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้เจ้าของบ้าน
ชั้น 2 : เป็นชั้นแรกที่เริ่มมีฟังก์ชันจริงจังๆ คือเป็น Common Area ที่รวมพื้นที่นั่งเล่น , พื้นที่รับประทานอาหารและห้องครัวแบบเปิดไว้ด้วยกัน ช่วยให้การใช้งานต่อเนื่องมากขึ้น พื้นที่ตรงนี้เป็น Double Volume ที่ทำให้บ้านโปร่งโล่ง
ชั้นลอย : เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ แต่เรามองว่าสามารถกั้นเป็นห้องเพิ่มเติมได้ ใช้เป็นห้องทำงานได้
ชั้น 3 : เป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ทั้งชั้น มีขนาดใหญ่พอจะแบ่งเป็นโซนนั่งเล่น , โซนพักผ่อนที่อยู่หน้าบ้าน ทำให้ได้แสงธรรมชาติเต็มๆ และ Walk-in Closet , Master Bathroom ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะอยู่ด้านหลังบ้าน
ชั้น 4 : เป็นพื้นที่พักผ่อนของสมาชิกในครอบครัว ประกอบไปด้วยห้องนอนรองทั้ง 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัวใช้งานได้สะดวก และห้องอเนกประสงค์ที่สามารถจัดเป็นห้องนอนเล็กๆได้อีก โดยห้องนอนรอง 1 และห้องอเนกประสงค์จะอยู่ฝั่งด้านหน้าบ้าน เหมาะกับคนที่ชอบให้แสงธรรมชาติเข้าห้อง ส่วนห้องนอนรอง 2 อยู่ด้านหลังบ้านเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว และชอบนอนตื่นสายๆไม่อยากให้แสงแดดมารบกวนยามเช้า
ชั้นดาดฟ้า : มีพื้นที่ว่าง สามารถจัดเป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจได้
ที่จอดรถบริเวณหน้าบ้าน
พื้นที่จอดรถหน้าบ้านสามารถจอดรถได้ 3 คัน แบบซ้อนคัน โดยช่องด้านในมีความกว้างประมาณ 4.5 เมตร ทำให้เราจอดรถคันใหญ่ได้สบายๆ บริเวณนี้มีชายคาคลุมเต็มคัน เราไม่ต้องจอดรถตากแดดตากลมเลยค่ะ ส่วนช่องด้านนอกมีความกว้างประมาณ 5.7 เมตร สามารถจอดรถได้ 2 คัน แต่จะมีบางส่วนที่อยู่นอกชายคา แนะนำให้ทำชายคาเพิ่มเติม หรือใครอยากใช้เป็นพื้นที่ระเบียงชั้น 2 แนะนำให้ทำเป็นพื้นที่ใช้งานแบบ Outdoor ไปเลยแบบบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ
ส่วนพื้นปูด้วย Stamp Concrete สีเทา แข็งแรงคงทน โครงการลงเสาเข็มบริเวณที่จอดให้เท่าตัวบ้านเลยนะ ไม่ต้องกังวลเรื่องการทรุดตัวของบ้าน บริเวณที่จอดรถ โครงการเตรียมระบบไว้ให้เพื่อรองรับการติดตั้ง EV Charger 1 เครื่อง และยังให้กล้องวงจรปิดมา 1 ตัวอีกด้วย
พื้นที่ด้านข้างบ้าน
บ้านตัวอย่างเป็นแปลงมุมจึงมีพื้นที่ด้านข้างบ้านเหลือเยอะ โครงการจึงทำเป็นสระว่ายน้ำให้ดูเป็นไอเดียนะคะ
จริงๆบริเวณนี้จะไม่กั้นประตูกระจกไว้นะ เป็นพื้นที่เปิดโล่งให้เราจอดรถซ้อนกันได้ แต่บ้านตัวอย่างกั้นเป็น Garage ไว้ให้เป็นไอเดีย สามารถใช้จอดรถคันโปรด หรือรถที่เป็นของสะสมได้
ภายใน Garage สามารถจอดรถได้ 1 คัน แล้วยังมีพื้นที่เหลือให้ทำเป็นชั้นวางของ ตู้เก็บของเก็บรองเท้าด้านข้างด้วยนะ เวลาเราออกจากบ้านก็มาสวมรองเท้าแล้วออกไปได้เลย ใช้งานได้สะดวก หรือใครมีของสะสมชิ้นใหญ่ๆ อยากจะเอามาตั้งโชว์บริเวณนี้ก็ได้นะ เพราะเป็นทางเข้าบ้านที่แขกทุกคนต้องผ่านอยู่แล้ว
หากใครมีรถส่วนตัวไม่ถึง 3 คัน จะทำพื้นที่ตรงนี้เป็นฟิตเนสส่วนตัวก็ได้นะ เพราะโครงการไม่มีฟิตเนสส่วนกลาง จะได้ไม่ต้องออกไปใช้บริการฟิตเนสด้านนอก ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ แล้วยังได้ความเป็นส่วนตัว จะมาออกกำลังกายตอนไหนก็ได้
ด้านข้างที่จอดรถมีห้องเก็บของ ขนาดประมาณ 0.9 x 1.5 เมตร ใช้เก็บของชิ้นใหญ่ได้ เช่น กระเป๋าเดินทางได้
เปรียบเทียบทางเข้าบ้านระหว่างบ้านตัวอย่างกับบ้านมาตรฐาน
สำหรับประตูหลักทางเข้าบ้านจะเป็นประตูกระจก ทำให้บ้านดูโปร่งโล่งมากขึ้น ตัวประตูหลักติดตั้ง Digital Door Lock ที่รองรับได้ทั้ง Pin Code , Keycard , กุญแจ ใช้งานได้สะดวก แม้ว่าจะเป็นประตูกระจกแต่ก็ไม่ต้องกลัวเสียความเป็นส่วนตัวนะ เพราะชั้นนี้จะยังไม่มีฟังก์ชันหลัก ที่สมาชิกในบ้านใช้งานเป็นประจำค่ะ
สำหรับบ้านตัวอย่าง โครงการเอาแผงประตูหลักออกแล้วใช้ประตู Garage เป็นทางเข้า-ออกแทน ทำให้บ้านยิ่งดูโปร่งโล่งค่ะ
เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้านเราจะเจอโถงทางเดิน ที่ได้รับแสงธรรมชาติเต็มๆ เพราะด้านหลังบ้านมีประตูกระจกและหน้าต่างบานใหญ่ ทำให้มุมนี้ดูไม่อึดอัดและโล่งดีค่ะ
ห้องน้ำชั้น 1
ห้องน้ำชั้น 1 มีชุดสุขภัณฑ์ให้ครบครัน แต่ไม่ได้แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้ แต่ก็มีทั้งโซนสุขาและส่วนอาบน้ำ ที่ดูจากขนาดแล้วไม่น่าจะทำฉากกั้นได้ เราเลยมองว่าห้องน้ำนี้ออกแบบไว้รองรับแม่บ้าน หรือแขกที่ไม่สนิทนัก เช่น พนักงานแวะเอาเอกสารมาให้เจ้าของบ้านเซ็นต์แล้วต้องการใช้ห้องน้ำ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้เจ้าของบ้าน ไม่ให้คนงานไปใช้ห้องน้ำปะปนกับสมาชิกในบ้าน
ประตูด้านหลังบ้านเป็นประตูกระจกบานเลื่อน เดินเข้า-ออกได้สะดวก หากเราจัดพื้นที่ด้านหลังบ้านให้เป็นสวน ก็สามารถมองออกไปเห็นได้ด้วยนะคะ
ด้านหลังบ้านมีพื้นที่ประมาณ 5.7 x 2.75 เมตร เดิมทีโครงการจะให้มาเป็นลานซักล้าง ที่ลงเสาเข็มไว้ในเทาตัวบ้านเลย ไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นทรุด แต่ถ้าใครชอบทำสวนหรือนั่งเล่นสูดอากาศ จะทำเป็นมุมพักผ่อนหรือสวนหย่อมก็ได้นะ
เปรียบเทียบบันไดทางขึ้นชั้น 2 ระหว่างบ้านตัวอย่างกับบ้านมาตรฐาน
บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นแนวยาวรูปตัว I มีความกว้างประมาณ 0.9 เมตร พอให้คนเดินสวนกันได้ โครงสร้างบันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ พร้อมราวจับสแตนเลสตลอดทางใช้งานได้สะดวก
ชั้น 2
สำหรับบ้านตัวอย่าง โครงการต่อเติมระเบียงบริเวณชั้น 2 ออกไป ทำให้เมื่อเราขึ้นมาชั้น 2 เราจะเห็นประตูที่เปิดออกไปยังนอกระเบียง
จริงๆพื้นที่ตรงนี้จะถูกเจาะพื้นเปิดโล่ง มองลงไปเห็นที่จอดรถ แต่บ้านตัวอย่างต่อเติมพื้นระเบียงไว้เป็นไอเดีย สำหรับคนที่ชอบมานั่งตากอากาศชิลๆนอกบ้าน
ผนังภายนอกตกแต่งด้วยวีเนียร์ลายหิน มี Texture เหมือนจริง ช่วยเพิ่มความน่าสนใจและมิติให้กับตัวบ้านมากขึ้น
บรรยากาศบริเวณ Common Area
ชั้น 2 เป็น Common Area แบบ Open Plan ที่รวมพื้นที่นั่งเล่น , พื้นที่รับประทานอาหารรวมถึงห้องครัวแบบเปิดไว้ด้วยกัน พื้นที่บริเวณนี้จะเป็น Double Volume สูงประมาณ 5.3 เมตร แล้วยังติดกับหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงเกือบถึงฝ้าเพดานชั้น 3 อีกด้วย ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูโปร่งโล่งมากขึ้น บริเวณนี้เราสามารถแขวน Chandelier ที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้เลยนะ เพราะมุมนี้เป็นมุมต้อนรับแขก เป็นหน้าตาให้เจ้าของบ้านด้วยค่ะ ส่วนพื้นของชั้น 2 ปูด้วยพื้นไม้ลามิเนตอินโนวาหนา 8 มิลลิเมตร ซึ่งจะทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้ดีกว่าลามิเนตทั่วไป
บรรยากาศโซนพื้นที่นั่งเล่น
เริ่มจากพื้นที่นั่งเล่นมีขนาดใหญ่พอจะสามารถวางโซฟารูปตัว L 4-5 ที่นั่งพร้อมอาร์มแชร์และโต๊ะกลางสำหรับวางขนมของกินตอนดูทีวี เนื่องจากโซนนั่งเล่นมีระยะดูทีวีประมาณ 2.85 เมตร แนะนำให้ติดตั้งทีวีขนาด 60-70 นิ้ว เพื่อการรับชมที่คมชัดค่ะ
บรรยากาศโซนรับประทานอาหาร
โซนรับประทานอาหาร รองรับโต๊ะขนาด 8 ที่นั่งได้สบายๆ แล้วยังมีพื้นเหลือรอบโต๊ะให้เดินผ่านไปมาได้สะดวก เราชอบที่โซนรับประทานอาหารอยู่ติดกับโซนนั่งเล่น ทำให้เราสามารถกินข้าวไปพร้อมดูทีวีไปด้วยได้ค่ะ นอกจากนี้พื้นที่รับประทานอาหารยังเชื่อมต่อกับครัวเปิด เราสามารถเตรียมอาหาร เสิร์ฟอาหารได้สะดวก ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง
ถัดจากพื้นที่รับประทานอาหาร เป็นครัวแบบเปิด จึงเหมาะกับการทำอาหารเล็กน้อยๆไม่จริงจังมากนัก พื้นที่บริเวณนี้สามารถทำ Built-in เคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L พร้อม Island ตรงกลางได้ด้วย เราสามารถมาช่วยกันทำอาหารได้ 3-4 คนเลยค่ะ
Powder Room
ห้องน้ำชั้นนี้เป็นแบบ Powder Room ไม่มีส่วนอาบน้ำ จะมีให้เฉพาะโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้า ที่เหมือนกับชั้นล่างเลยค่ะ
สำหรับบันไดขึ้นไปชั้นลอยจะแตกต่างจากบันไดชั้น 1 เล็กน้อย เพราะปูด้วยลามิเนต อินโนวาหนา 8 มิลลิเมตร แทนกระเบื้อง เพื่อให้ดูเข้ากับพื้นชั้น 2
ชั้นลอย
เมื่อขึ้นมาถึงชั้นลอย ระดับสายตาเราจะตรงกับ Chandelier พอดีเลย เวลาเราเดินอยู่หรือใช้งานพื้นที่ชั้นนี้ ก็จะมองเห็น Chandelier ตลอดเวลาเลยค่ะ
พื้นที่อเนกประสงค์บนชั้นลอย
สำหรับพื้นที่อเนกประสงค์มีขนาดใหญ่พอสมควร แต่ราวกันตกในบ้านมาตรฐานจะเป็นราวสแตนเลสนะคะ หากใครต้องการความเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน แนะนำให้ทำฉากกั้นกระจกเพิ่มเติม เพื่อให้พื้นที่ยังคงดูโปร่งโล่ง ถ้าติดแอร์ก็ช่วยกั้นไม่ให้แอร์ไหลออกไปโซนอื่นๆด้วย เป็นการประหยัดค่าไฟไปในตัว
เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้แยกตัวออกมาจากฟังก์ชันอื่นๆ จึงเหมาะกับการทำเป็นพื้นที่ทำงานที่ต้องใช้สมาธิ หรือห้องที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เช่น ห้องเล่นดนตรี , ห้องดูหนัง
ชั้น 3
สำหรับชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom ทั้งชั้นเลยค่ะ
บรรยากาศภายใน Master Bedroom
Master Bedroom ใหญ่พอจะแบ่งเป็นโซนนั่งเล่นและโซนพักผ่อนได้ โดยโซนนั่งเล่นสามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งพร้อมอาร์มแชร์และโต๊ะกลางสำหรับวางน้ำวางขนม เวลานั่งดูทีวีได้ ส่วนระยะดูทีวีจะอยู่ที่ 2.35 เมตร เหมาะกับการติดตั้งทีวี 55 นิ้วนะคะ ส่วนพื้นที่พักผ่อนวางเตียง 6 ฟุตได้แล้วยังเหลือพื้นที่รอบๆเตียงให้เดินได้สบายๆ
หน้าต่างบานใหญ่ภายในห้องนอน
Master Bedroom อยู่ด้านหน้าบ้าน และมีหน้าต่างบานใหญ่อยู่ รวมถึงหน้าต่างเข้ามุมบริเวณข้างเตียงด้วย ทำให้ห้องนี้ได้แสงธรรมชาติเต็มๆ ห้องจึงดูสว่างเป็นพิเศษ ส่วนใครที่ชอบนอนตื่นสายๆ ไม่อยากให้แสงธรรมชาติมารบกวนตอนเช้า แนะนำให้ติดม่านแบบ Blackout นะคะ
อีกฝั่งหนึ่งของ Master Bedroom ที่อยู่ด้านหลังบ้าน เหมาะจะทำเป็น Walk-in Closet เพราะอยู่หน้าห้องน้ำพอดี ทำให้การใช้งานต่อเนื่อง เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้า 2 ฝั่งพร้อม Island ตรงกลาง สำหรับเก็บเครื่องประดับต่างๆ หากใครซื้อบ้านแปลงมุม แนะนำให้วางโต๊ะเครื่องแป้งติดริมหน้าต่างนะคะ จะได้แสงธรรมชาติ ช่วยให้แต่งหน้าทำผมง่ายขึ้น
บรรยากาศภายใน Master Bathroom
ห้องน้ำใน Master Bedroom มีขนาดใหญ่มาก แยกส่วนเปียกส่วนแห้งอย่างชัดเจน ภายในมีชุดสุขภัณฑ์ให้ครบครันเลยค่ะ Master Bedroom จะต่างจากห้องน้ำอื่นๆตรงที่ได้อ่างอาบน้ำแบบ Stand Alone และอ่างล้างมือแบบ His&Her มาด้วย
อ่างล้างหน้าแบบ His and Her
โครงการให้อ่างล้างมือแบบ His&Her สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน ใต้อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของ โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่อง 2 ช่องฝั่งซ้าย-ขวาใช้เก็บพวกอุปกรณ์อาบน้ำและอุปกรณ์ทำความสะอาดได้ ส่วนช่องกลางเหมาะกับการเก็บของใช้เล็กๆน้อยๆที่ไม่อยากให้เปียก เช่น สำลี , ทิชชู
อ่างอาบน้ำแบบ Stand alone ของ Kohler
ความพิเศษของ Master Bedroom คือมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวมาให้ด้วย วางอยู่ติดกับกระจกฝ้าบานใหญ่ ทำให้ห้องน้ำดูสว่างแต่ยังคงความเป็นส่วนตัวเวลาอาบน้ำไว้ได้
พื้นที่อาบน้ำ
พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.9 x 1.4 เมตร สามารถหมุนตัวอาบน้ำได้สบายๆ พร้อมติดตั้ง Rain Shower และ Hand Shower มาให้ นอกจากนี้โครงการยังให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วยเหมือนบ้านตัวอย่างเลยค่ะ แนะนำให้ติดตั้งชั้นวางของเพิ่มเติม สำหรับวางสบู่ , แชมพู จะได้ใช้งานได้สะดวกนะคะ
ชั้น 4
สำหรับชั้น 4 เป็นพื้นที่พักผ่อนของสมาชิกภายในบ้าน ประกอบไปด้วยห้องนอนรอง 2 ห้องและอีก 1 ห้องอเนกประสงค์
ห้องอเนกประสงค์
ห้องอเนกประสงค์มีขนาดประมาณ 2.7 x 3.2 เมตร ในบ้านตัวอย่างจัดให้เป็นห้องทำงาน แต่จริงๆเรามองว่าห้องนี้สามารถจัดเป็นห้องนอนขนาดเล็กได้เลยนะ เพราะดูจากขนาดสามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้สบายๆ แม้ว่าห้องจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนะ แต่ได้ฝ้าสูงถึง 3.5 เมตร ห้องจึงยังดูโปร่งอยู่
ห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 1 มีขนาดใหญ่กว่าห้องอเนกประสงค์มาหน่อย ประมาณ 2.85 x 3.5 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุต พร้อมทำ Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งด้านหน้าห้องน้ำได้ด้วย แต่ถ้าใครอยากประหยัดพื้นที่มากขึ้น แนะนำให้วางเตียงชิดหน้าต่างหรือไม่ก็ใช้เป็นเตียง 3.5 ฟุตแทน หากใครชอบดูทีวีก่อนนอน แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนนะคะ
หน้าต่างบานกระทุ้ง
หน้าต่างส่วนใหญ่ของบ้านจะเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง สามารถเปิดระบายอากาศแล้วยังกันฝนสาดได้ดีกว่าหน้าต่างบานเลื่อน หรือบานเปิดค่ะ
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 เป็นแบบ Jack and Jill สามารถเข้า-ออกได้ 2 ฝั่ง คือทางฝั่งห้องนอนรองและด้านนอกที่ใกล้กับห้องอเนกประสงค์ ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ชัดเจน และให้สุขภัณฑ์ของ Kohler มาครบครัน
โครงการให้ฉากกั้นอาบน้ำมาด้วย
สำหรับส่วนอาบน้ำมีขนาดประมาณ 1.4×0.9 เมตร ยืนอาบน้ำได้สบายๆ เราชอบที่ต่อให้เป็นห้องน้ำรอง แต่โครงการก็ยังให้ฉากกั้น พร้อมติดตั้ง Rain Shower และ Hand Shower มาด้วยนะ ซึ่งปกติโครงการทั่วๆไปจะให้ของมาครบเซตแต่ Master Bedroom เท่านั้น
หน้าต่างในห้องน้ำจะเป็นกระจกฝ้า ให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ แต่คนใช้งานพื้นที่อาบน้ำไม่รู้สึกเขินอายค่ะ ส่วนตัวหน้าต่างเป็นแบบบานกระทุ้งเช่นเดียวกับห้องนอน
ห้องนอนรอง 2
ห้องนอนรอง 2 มีขนาดใหญ่รองลงมาจาก Master Bedroom แต่จะอยู่โซนหลังบ้าน จึงสงบมากกว่า ภายในห้องนอนสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ พร้อมเหลือพื้นที่ให้เรา Built-in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งไว้ด้านข้างเตียง หากใครชอบดูทีวีก่อนนอน แนะนำให้ติดตั้งทีวีแบบแขวนเพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่นะคะ
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2
ห้องน้ำในห้องนอนรอง 2 มีขนาดพอๆกับห้องน้ำในห้องนอนรอง 1 เลย แล้วยังให้ชุดสุขภัณฑ์มาเหมือนๆกัน เพียงแต่ห้องน้ำนี้จะอยู่ภายในห้องนอนรอง 2 เลย ไม่ต้องแชร์กับใคร จึงได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าค่ะ
สำหรับบันไดขึ้นชั้นดาดฟ้าจะเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องสีเทาแทน ทนแดดทนความชื้นมากกว่าไม้ลามิเนต เหมาะกับการใช้งานชั้นดาดฟ้าค่ะ
ชั้นดาดฟ้า
โถงบริเวณชั้นดาดฟ้ามีประตูเปิดออกไปด้านนอก ส่วนพื้นชั้นดาดฟ้ามีธรณีประตูกั้นอยู่ ป้องกันน้ำไม่ให้ไหลย้อน
บริเวณชั้นดาดฟ้า โครงการจะให้มาเป็นพื้นที่โล่งๆนะ แต่โครงการจัดมุมนี้ให้เป็นพื้นที่พักผ่อน เผื่อไว้เป็นไอเดีย เหมาะกับการมานั่งพักผ่อน หรือจัดปาร์ตี้เล็กๆกับเพื่อน หรือใครชอบมานั่งทำงาน จิบไวน์นอกบ้าน แนะนำให้ทำชายคาเพิ่มเติม ซึ่งควรปรึกษาวิศวกรโครงสร้างก่อนนะคะ
วิวจากชั้นดาดฟ้า
วิวจากดาดฟ้าของบ้าน 4.5 ชั้น ซึ่งสูงกว่าอาคารโดยรอบ ทำให้เราได้วิวแบบเปิดโล่งค่ะ
ราคา
The Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) (ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2568)
ราคาผ่อนต่อเดือนยกตัวอย่างจาก ดอกเบี้ย 4% ระยะเวลาผ่อน 30 ปี*
สามารถคลิกดูอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันได้ที่ >> อัปเดต! ดอกเบี้ยบ้าน 2568 ทุกธนาคาร
- ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 ม. ที่ดินเริ่มต้น 24-35 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 275 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 13.9 ล้านบาท
– ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 66,360 บาท
– ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 3,840 บาทต่อเดือน - ทาวน์โฮม 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 6 ม. ที่ดินเริ่มต้น 24-43 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 15.9 ล้านบาท
– ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 75,909 บาท
– ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 3,840 บาทต่อเดือน - บ้านแฝด 4.5 ชั้น หน้ากว้าง 9 ม. ที่ดินเริ่มต้น 50-53 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 542 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ / 5 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน / ลิฟต์โดยสาร
– ราคาเริ่มต้น 32.9 ล้านบาท
– ราคาผ่อนต่อเดือนเริ่มต้นประมาณ 157,070 บาท
– ค่าส่วนกลางเริ่มต้น 8,000 บาทต่อเดือน - ค่าจอง 100,000 บาท
- ทำสัญญา 500,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 200,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 160 บาท/ตร.วา/เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
Tips : แนะนำการขอสินเชื่อกับธนาคาร
เกณฑ์การพิจารณาการขอสินเชื่อจากธนาคาร ควรมีเงื่อนไขตรงกับข้อไปนี้ค่ะ
- มีรายรับชัดเจน สม่ำเสมอ(ไม่ผันผวน) ต่อเนื่องนานกว่า 6 เดือน และสามารถตรวจสอบได้
- ควรมีภาระหนี้รวมทั้งหมด (ทั้งบ้าน รถยนต์ บัตรเครดิต และอื่นๆ) ไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
- มีรายได้ต่อเดือนมากกว่าค่าผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน 3 เท่าขึ้นไป
หากต้องการผ่อนบ้านให้หมดไว แนะนำให้โปะเพิ่มประมาณ 10% ของงวดผ่อน จะช่วยลดระยะเวลาผ่อนลงได้ 4 – 7 ปี (ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ย) และควร Refinance หรือ Retention เพื่อให้ดอกเบี้ยลดลงทุกๆ 3 ปี ทั้งนี้อย่าลืมเผื่อค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าและตกแต่ง*ก่อนเข้าอยู่เพิ่มเติมด้วยนะคะ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
>>โปะบ้านหมดไว คำนวณได้เอง
>>โอนบ้านจบ อย่าใช้เงินหมด! ค่าใช้จ่ายแฝงเพียบ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการตั้งอยู่ในซอยแบริ่ง 15 ซึ่งเป็นซอยตัน ซึ่งภายในซอยก็จะมีอาคารพาณิชย์และชุมชนบ้านพักอาศัยอยู่บ้าง ทำให้คนที่เข้า-ออกซอยมักจะเป็นคนที่คนพื้นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่แล้ว รู้สึกถึงความปลอดภัยค่ะ ปากซอยโครงการเป็นถนนแบริ่งหรือซอยสุขุมวิท 107 ที่เชื่อมต่อไปยังถนนหลักได้ถึง 2 เส้น คือถนนสุขุมวิทและถนนศรีนครินทร์ ลูกบ้านจึงสามารถเลือกเส้นทางในการเดินทางได้ จากโครงการเข้าถึงโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง อย่าง St. Joseph Bangna School , St. Andrews International School , Bangkok Patana School และ La Salle School ในระยะ 1-3 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ผู้ปกครองไปรับ-ส่งง่ายมากๆ นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากแหล่งอุดมความสมบูรณ์ เพราะในระยะ 1-3 กิโลเมตร จะมี Community Mall อย่าง Summer Lasalle , DADFA Community mall , Lasalle’s Avenue ลูกบ้านออกมาหาของกินของใช้ได้ง่าย
ที่สำคัญเลยคือเรื่องของการเดินทาง เพราะโครงการใกล้ทางด่วนเฉลิมมหานครและทางด่วนบูรพาวิถี ใช้เดินทางไปยังโซนพระราม 4 , พระราม 9 และชลบุรีได้ นอกจากนี้จุดเด่นของโครงการ คือใกล้รถไฟฟ้าถึง 2 สาย สายแรกคือรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน สถานีแบริ่งห่างจากโครงการ 2.4 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปโซนเอกมัย , อโศกได้ สายที่ 2 คือรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีศรีแบริ่งอยู่ห่างออกไป 3 กิโลเมตร ใช้เดินทางไปศรีนครินทร์ , บางกะปิและลาดพร้าวได้ค่ะ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : โครงการนี้ถือว่ามีระดับความปลอดภัยตามมาตรฐานโครงการทั่วไป เข้า-ออกโครงการใช้ระบบ Remote control พร้อมติดตั้ง CCTV บริเวณ Main Gate และจุดต่างๆในโครงการทั้งหมด 11 จุด
ส่วนตัวบ้านโครงการให้กล้องวงจรปิด 4 จุด พร้อมติดตั้ง Magnetic Sensor 8 จุด ที่ประตู-หน้าต่าง ชั้น 1-2 นอกจากนี้ยังมี Motion Sensor 1 จุด บริเวณที่จอดรถหน้าบ้านด้วยนะ
การออกแบบโครงการ : โครงการมีเพียงบ้าน 16 ยูนิต ถือว่าจำนวนน้อยเป็นอันดับต้นๆในโซนนี้ ลูกบ้านจึงได้ความเป็นส่วนตัว ลูกบ้านได้อยู่ในสังคมระดับเดียวกัน โครงการออกแบบบ้านทุกหลังติดกับถนนหลักของโครงการ ทำให้เข้า-ออกโครงการได้สะดวก
การออกแบบโครงการบ้าน : บ้านในโครงการมีให้เลือก 3 แบบ คือทาวน์โฮมและบ้านแฝด ที่ได้พื้นที่ใช้สอยเทียบเท่าบ้านเดี่ยวเลย ที่สำคัญคือทาวน์โฮมในโครงการนี้ได้ที่จอดรถ 3 คันตั้งแต่บ้าน Type แรกเลยนะ เมื่อเทียบกับบ้าน Type เริ่มต้นของโครงการเพื่อนบ้าน ที่นี่ถือว่าให้มาเยอะกว่าโครงการอื่นๆ ส่วนฟังก์ชันภายในบ้านมี 3-4 ห้องนอน / 4-7 ห้องน้ำ / 3-5 ที่จอดรถ เหมาะกับการอยู่ 4-6 คน
เราชอบที่โครงการยกเอา Common Area ไปไว้ชั้น 2 ทำให้เจ้าของบ้านได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้โครงการยังเตรียมพื้นที่บนชั้นดาดฟ้า ไว้รองรับการจัดแต่งเป็นมุมพักผ่อนของสมาชิกในบ้านอีกด้วย
วัสดุ : ตัวบ้านใช้โครงสร้างแบบ Conventional รองรับการต่อเติมในอนาคต ที่จอดรถและลานซักล้างด้านหลังบ้านลงเสาเข็มไว้ให้เท่าตัวบ้านเลยค่ะ โดยรวมโครงการเลือกใช้วัสดุได้เหมาะกับการใช้งาน และเหมาะสมกับระดับราคานี้
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : โครงการไม่ได้มีสวนส่วนกลาง แต่มีการปลูกบ้านไม้แซมไว้บ้าง โดยรวมแล้วบรรยากาศภายในโครงการดูเรียบร้อยดีค่ะ
สาธารณูปโภค : โครงการไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลางมากนัก ใช้ถนนตรงกลางร่วมกัน มีป้อมรปภ.ตรงทางเข้า-ออกใช้ด้วยกัน
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 13.9-32.9 ล้านบาท, 11 ธันวาคม 2568
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย
- ความปลอดภัย 7.5/10 – เข้า-ออกโครงการโดยใช้ Remote control พร้อมติดตั้ง CCTV ทั้งโครงการ , ตัวบ้านมี Magnetic Sensor และ Motion Sensor
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – จัดฟังก์ชันเป็นสัดส่วน แยกโซนการใช้งานดี
- วัสดุ 7.5/10 – มาตรฐานของระดับนี้ โครงสร้างรองรับการต่อเติมในอนาคต
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 6/10 – บรรยากาศภายในโครงการดูเรียบร้อยดี
- สาธารณูปโภค 5/10 – ไม่เน้น Facility ส่วนกลาง
- 7.38 / 10.00
The Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) ดีไหม?
โครงการThe Park Lane 15 Sukhumvit – Bearing (เดอะ พาร์คเลน 15 สุขุมวิท – แบริ่ง) เหมาะกับครอบครัวที่กำลังมองหาทาวน์โฮมหรือบ้านแฝด มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเยอะเทียบเท่าบ้านเดี่ยว ใกล้โรงเรียนนานาชาติ St. Andrews International School , Bangkok Patana School ชอบโครงการที่ใกล้รถไฟฟ้าทั้งสายสีเขียวและสายสีเหลือง ประมาณ 2-3 กิโลเมตร ไม่เน้นใช้ Facility ส่วนกลาง เหมาะกับครอบครัวพ่อแม่ลูก 4-6 คน มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 13.9 ล้านบาท
ตัวอย่างโครงการทาวน์โฮมบ้านแฝดโซนแบริ่ง
Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!
โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ
เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่

