รีวิวฉบับที่ 416 … Collezio สาทร – พิพัฒน์ (คอลเลซิโอ สาทร – พิพัฒน์) เป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่จากค่าย Major Development บนทำเลดี ติดซอยพิพัฒน์ตรงข้ามสถานทูตเบลเยี่ยม ใกล้ถนนสาทรและ BTS ช่องนนทรี ในระยะ 300 เมตร … ซึ่งจริงๆแล้วโครงการนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เปิดตัวโครงการตั้งแต่ปี 2009 ผ่านไป 4 ปี ฝ่าฟันอุปสรรคทั้งเรื่องการขออนุญาตและการก่อสร้างจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์ พร้อมเข้าอยู่ในช่วงต้นปี 2013 ที่ผ่านมานะครับ
Fact @ 29 August 2013
- Collezio สาทร – พิพัฒน์
- Major Development ., Plc.
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 95 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 14 ยูนิต
- ที่จอดรถ 61 คัน ที่ชั้น G, B1, B2 คิดเป็น 64% ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 1ไร่กว่า
- สร้างเสร็จปี 2556
- Studio ไม่มี
- 1 Bedroom 40.5 – 43 ตารางเมตร
- 2 Bedrooms 62 ตารางเมตร
- 3 Bedrooms+ ไม่มี
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 4.1 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 100,000 – 150,000 บาท
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS ช่องนนทรี ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS ช่องนนทรี
- http://www.majordevelopment.co.th
- โทร 02-392-1111
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
Collezio สาทร – พิพัฒน์ ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ใกล้กับทำเลธุรกิจหลักที่สำคัญของกรุงเทพฯ นั่นก็คือช่วงสาทร-สีลม-นราธิวาสฯ ในระยะเดินไป BTS ช่องนนทรีที่ 300 เมตร โครงการนี้เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ขนาดเล็กมียูนิตเพียง 95 ห้องครับ
เราเริ่มกันจากต้นถนนสาทร ถ้าใครอยู่นอกเมืองก็สามารถขับรถมาลงทางด่วนสีลม เพื่อเข้าถนนสาทรเหนือได้
เราก็วิ่งไปเรื่อยๆเลย จนมาถึงสี่แยกสาทรตัดกับนราธิวาสฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจของถนนสายนี้
ตัวโครงการจะอยู่เลยสี่แยกไปนะครับ วิ่งตรงผ่านสี่แยกแล้วเดี๋ยวก็ต้องชิดซ้ายแล้ว เพราะซอยพิพัฒน์ห่างจากสี่แยกนิดเดียว
โครงการนี้สามารถเข้าได้ 2 ทาง ทางแรกก็คือซอยทางซ้ายมือในภาพนี้ ตรง 7-11 นะครับ เรียกว่าซอยสาทร 8 แต่จะเป็นซอยที่แคบกว่า เดินทางเข้าได้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไร
ดังนั้นให้เราวิ่งไปอีกนิด ผ่านตึก The MET ทางขวาและตึกแสงทองและโรงแรม Evergreen ธานีทางซ้ายไป
เราก็จะมาถึงสามแยกพิพัฒน์หรือสาทรซอย 6 ซึ่งจะขับรถเข้าได้ง่ายกว่ามาก
ทางซ้ายมือคือโรงแรม Evergreen ติ่มซำที่นี่อร่อยดีนะ ส่วนทางขวาคือ Meet The Legend ที่สาวๆ ดารา ไฮโซ ชอบมาฝึกมวยไทยกัน
วิ่งตรงเข้าไปอีกหน่อยก็จะถึงทางแยกให้บังคับเลี้ยวซ้าย … ถ้าเลี้ยวขวาจะไปตึก Q.House คอนแวนต์ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานครับ
หน้าตาซอยพิพัฒน์เป็นย่านชุมชนที่อยู่อาศัย ไม่ค่อยมีร้านค้า ดังนั้นดึกๆจะเงียบและเปลี่ยวพอควร เดินคนเดียวมืดๆในซอยนี้ไม่แนะนำนะครับ แต่ถ้าเป็นฝั่งที่เข้าจากถนนนราธิวาส ก็ยังพอได้อยู่นะ
เราวิ่งตรงมาเรื่อยๆ จะผ่านสามแยกที่สามารถทะลุไปยังถนนสีลมบริเวณธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่ได้
รั้วสีครีมด้านหน้าเป็นสถานทูตเบลเยี่ยมครับ
วิ่งมาอีกนิดก็จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ
สถานทูตเบลเยี่ยมอยู่ฝั่งตรงข้าม
หน้าโครงการเป็นถนนสองเลนอย่างที่เห็น
ถ้าใครไม่เคยอยู่แถวนี้อาจจะงงได้นะครับ เพราะซอยพิพัฒน์เป็นซอยทางลัดหลัก เชื่อมต่อถนนสาทร สีลม ซอยคอนแวนต์ และนราธิวาสฯเข้าด้วยกัน ซึ่งจัดว่าเป็นจุดเด่นของทำเลนี้ … ผมจะพาไปดูทางเข้าทางออกจากหลายๆเส้นทางกันครับ
เริ่มด้วยจากการเดินเท้าไปยัง BTS ช่องนนทรี ทางเดินที่ใกล้ที่สุดวัดเป็นระยะทางได้ 315 เมตร
แปลงที่ดินจากด้านข้างนะครับ
เดินออกไปซอยหลักก่อน
โรงแรม Furama Exclusive
พอถึงซอยหลักแล้วก็ให้เลี้ยวซ้าย ไปทางตึก Trinity
ก่อนถึงตึกก็จะเจอโรงแรม GLOW
Trinity Complex ด้านหลังเป็นซอยละลายทรัพย์
โรงแรมใหม่กำลังสร้างอยู่
Quad สีลม ที่เราเคยมารีวิวไปแล้ว
ซอยนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า นราธิวาสราชนครินทร์ซอย 3 นะครับ
ร้านอาหารตามโรงแรมด้านหน้า ทำให้ซอยนี้ไม่เปลี่ยวในยามค่ำคืน พอโรงแรมที่ก่อสร้างอยู่ด้านหลังเปิด ก็จะมีสีสันตอนกลางคืนจนไปถึง GLOW แถวนั้นได้เลย
หน้าปากซอยมี 7-11 … แต่ไม่ต้องเดินมาถึงนี่นะครับ ถ้าไป 7-11 ตรงปากซอยสาทร 8 จะเดินใกล้กว่ามากๆๆ (100 เมตร บวกลบ)
ถ้าขับรถ วิ่งสวนได้จริงครับ แต่จะเห็นว่า มันไม่ได้เข้าง่ายๆนะ ซอยมันแคบ
โอเคเรา Fast Forward กลับไปที่หน้าโครงการ แล้วไปอีกทางกันบ้าง ออกซอยพิพัฒน์ 2 เพื่อไปยังถนนสีลม
ทางขวาที่เห็นคือ Silom City Resort คอนโดเก่าแล้วแต่ก็ยังสภาพดีอยู่
ตรงนี้เป็นสี่แยกที่ตัดกับซอยพิพัฒน์ 2 ทางแยกที่มาจากถนนคอนแวนต์นะครับ
แต่ว่าเลี้ยวขวาไปโรงเรียนเซนต์โยไม่ได้นะ เพราะว่ามันเป็นถนน One Way
ถ้าเราตรงไปเรื่อยๆก็สามารถไปออกธนาคารกรุงเทพและถนนสีลมได้
เจอ 7-11 อีกแล้ว มีทุกปากซอยที่เป็นทางเข้า-ออก
หน้าปากซอยสีลม 3
เจอธนาคารกรุงเทพสำนักงานใหญ่อยู่ทางซ้ายครับ
เจาะลึกตัวโครงการ
Collezio ปัจจุบันสร้างเสร็จแล้วนะครับ เป็นตึกขนาดเล็ก 95 ห้อง 8 ชั้น + 1 ดาดฟ้า และ + 2 ใต้ดิน มีที่จอดรถ 61 คัน เพียงพอ 64% แบบไม่รวมจอดซ้อนคัน จัดเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลสงบๆ ไม่พลุกพล่าน แต่ใจกลางเมือง
หน้าตาตึกเป็นโทนสีม่วงเข้มตัดกับสีทองตุ่นๆ ซึ่งเป็นโทนที่ทำออกมาแล้วสวยดีนะครับ
ทางเข้าตรงนี้จัดเป็นจุดด้อยของโครงการนะครับ ที่จำกัดความสูงอยู่ที่ 2.10 เมตร ทำให้รถที่สูงมากๆหรือจะแบกของใส่ตู้เข้าไปไม่สามารถเข้าโครงการได้ แต่ถ้าเป็นรถบ้านทั่วๆไป จนถึง SUV อย่างพวก Toyota Fortuner, Honda CRV, Mercedes GL ก็สามารถผ่านเข้าไปได้สบายๆครับ
เนื่องจากเพดานชั้น G ค่อนข้างต่ำมาก โครงการจึงไม่สามารถทำฝ้าลงมาได้ ไม่เช่นนั้นจะดูอึดอัดสุดๆ สายไฟและท่องานระบบทั้งหลายจึงต้องปล่อยให้เป็นอย่างที่เห็นครับ
การรักษาความปลอดภัยด้านหน้ากั้นด้วยแผงเหล็กติดล้อเลื่อน ที่ต้องให้ รปภ. ออกมาช่วยเลื่อนให้เวลาจะเข้าออก และมีกล้องวงจรปิด ที่เห็นในภาพด้านขวาบนนะครับ
หน้าตาทางเข้า Lobby ของ Collezio นะครับ
ทางลงที่จอดรถชั้นใต้ดิน มีที่จอดรวมทั้งหมด 61 คัน
ภายใน Lobby ทำออกมาค่อนข้างใช้ได้ แต่จะเป็นมุมเล็กๆ สองสามมุม
ทางเดินจาก Lobby ไปยังลิฟท์
บริเวณโถงพักคอยและ Reception ด้านหลังเป็นออฟฟิศของ Major และนิติในอนาคต
Mailbox อยู่ก่อนทางขึ้นลิฟท์
ห้องน้ำที่ Lobby
ทางเดินไปลิฟท์
โดยรวมของ Lobby ชั้น G ถือว่าเล็กไปหน่อยละครับ อะไรๆจะดูเล็กไปหมด เพราะที่ดินของตัวโครงการมีจำกัด ไหนจะต้องแบ่งเอาพื้นที่ไปจอดรถอีก ถ้าให้เลือกผมก็ยอมลด Lobby ลงหน่อย ไปทำที่จอดรถให้มีมากขึ้นจะดีกว่า
ตัวลิฟท์ค่อนข้างโอเคนะครับ ใหญ่ และตกแต่งได้สวยงาม เป็นลิฟท์ล็อคชั้น
โถงลิฟท์ เปิดออกมาสามารถออกได้สองทาง คือสระว่ายน้ำและสวน/ฟิตเนส
แม้ว่าชั้น G จะมีขนาด Lobby และ Facility ที่จำกัด แต่ทาง Collezio ก็ได้ใช้พื้นที่ทั้งหมดของช้ันดาดฟ้า (ชั้น 9) ทำเป็นส่วนกลางขนาดใหญ่เต็มฟลอร์ ซึ่งในความเห็นของผมก็พอที่จะทดแทน Lobby และส่วนโถงต้อนรับด้านล่างได้นะครับ
โดยปกติแล้วคอนโด 8 ชั้น จะไม่สามารถกดลิฟท์ขึ้นมาชั้นดาดฟ้าได้ จะต้องกดมาชั้น 8 แล้วเดินขึ้นบันได แต่ทาง Collezio สามารถทำให้กดลิฟท์มาชั้น 9 ได้เลย ซึ่งเป็นข้อดีในการขึ้นมาใช้สวนสาธารณะ สระว่ายน้ำและฟิตเนสบนชั้นนี้ ซึ่งเป็นที่มาของเพดานชั้นล่างที่ต่ำกว่าปกติครับ
มุมนั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจ ต้นไม้เขียวๆ ดูแล้วสบายตา
มุมสระว่ายน้ำบนดาดฟ้า โอเคนะครับ
มี Background เป็นตึกสำนักงานต่างๆย่านใจกลางเมือง
มุมนั่งพักผ่อนข้างสระ
บริเวณทางขึ้นลง มี Jacuzzi อยู่ทางซ้ายด้วย
ปุ่มกดเปิดปิด Jacuzzi สามารถกดได้เองเลย
ห้องน้ำและห้องอาบน้ำมีให้ แต่ขนาดไม่ใหญ่
ห้อง Fitness ทำออกมาโดยรวมใช้ได้ มีเครื่องเล่น 5 ชิ้น
วิ่งบนสายพานได้มุมนี้ครับ
เปิดจากฟิตเนสต่อเนื่อง เชื่อมออกไปเป็นพื้นที่นั่งเล่นริมสวนเมื่อครู่
ต่อมาเราจะเดินไปชมห้องตัวอย่างกันบ้าง ถ่ายให้ดูวัสดุตามทางเดินและโถงลิฟท์ครับ
ทางเดินเป็นกระเบื้องสองสี ตัดของสแตนเลส ดูแล้วใช้ได้
บันไดหลักที่ใช้หนีไฟหรือเดินขึ้นลง ก็ทำออกมาโอเค น่าใช้ ไม่ได้เป็นปูนเปลือยไม่น่าเดินแบบหลายๆโครงการ
ตัวตึกเป็นแบบนี้ครับ แปลงสี่เหลี่ยมผืนผ้า
- ทิศเหนือ ด้านหน้ามีวิวสถานทูตเบลเยี่ยม
- ทิศใต้ ด้านหลังเป็นถนนสาทร
- ทิศตะวันออก เป็นบ้านเก่าของท่านอภิสิทธิ์ ซึ่งต่อไปก็สามารถขึ้นเป็นตึกสูงได้นะครับ
- ทิศตะวันตก เป็นบ้านพักอาศัย
ดูจาก Floor Plan แล้ว มีห้องอยู่ประมาณ 14 ยูนิตต่อชั้น โดยห้องมุมซ้ายบนและขวาล่างจะเป็นห้อง 2 Bedrooms ขนาด 62 ตารางเมตร ที่เหลือจะเป็น 1 Bedroom ทั้งหมด ขนาด 40 – 43 ตารางเมตร
ห้อง 2 Bedrooms มีเพียง 14 ห้องเท่าน้ัน (2 x 7 floors)
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำชั้น 9 (ดาดฟ้า)
- ห้องออกกำลังกายชั้น 9
- สวนหย่อมรอบโครงการและที่นั่งพักผ่อนชั้น 9
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 1:47 ล็อคชั้น
- Service Lift ไม่มี
- ที่จอดรถ 61 คัน คิดเป็น 64%
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
เดี๋ยวผมจะพาไปชมสัก 3-4 ห้องนะครับ ห้องแรกเป็นห้องตัวอย่าง ซึ่งจะลงรายละเอียดเยอะกว่าห้องอื่นๆหน่อย
แปลนห้องนะครับ แบ่งส่วนเป็น Living Area, Bedroom และ ห้องน้ำ โดยมีครัวเป็นแบบครัวเปิด
กรอบวงกบลึกดีครับ มีหินสังเคราะห์กั้นฝุ่นจากทางเดินไม่ให้เข้าห้องด้วย
บานประตูเป็นผิวลามิเนตสีอ่อน มือจับเขาควายมี Dead Bolt แต่ไม่ได้เป็น Digital Doorlock
เปิดประตูเดินเข้าไป จะเห็น First Impression แบบนี้นะครับ ห้อง 1 Bedroom ขนาด 40.5 ตารางเมตร
เพดานสูง 2.6 เมตร (2.4 เมตรในส่วนของครัว) พื้นเป็น Veneer / Engineering Floor
ส่วนโต๊ะทานข้าวและโซฟาหน้าประตู วางแอบๆไว้หน่อย
ถ้าอยู่จริงๆ ผมแนะนำให้ดันโซฟาไปชิดหน้าต่างมากกว่านี้ ย้ายโคมไฟไปไว้ที่อื่น โต๊ะทานข้าวจะได้มีพื้นที่เยอะกว่านี้ นั่งกินได้สบายๆ
ีนี่ครับมุมนี้สามารถขยายได้
โซฟาและโต๊ะกลาง สามารถดันไปทางขวาได้อีกเยอะเลย
อ่อ ที่นี่ขายเป็นแบบ Fully Fitted นะครับ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ต่างๆให้
ส่วนที่ผมชอบของห้องนี้ก็คือครัวครับ ให้มาค่อนข้างเยอะและครบครัน เข้ามุมรูปตัว L
บางห้องจะมีเสาอยู่ข้างๆครัว ทำให้เข้ามุมตัว L แบบต่อเนื่องไม่ได้ ครัวจึงแบ่งออกเป็นสองชิ้้น
อีกชิ้นหนึ่งต่อเชื่อมกับส่วนของ Console TV เชื่อมกันเลย
ท๊อปครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว เตาไฟฟ้าสองหัวของ FRANKE รุ่นเซรามิก
Hood แบบดูดออกไป ปล่อยข้างนอกได้ ของ FRANKE เช่นกัน
ตู้ครัวบานต่างๆสามารถเปิดออกมาได้เป็นแบบนี้ มีพื้นที่ใช้สอยเต็มที่
เป็นของ STARMARK
ชั้นวางช้อนส้อมต่างๆ
ครัวอีกแผงหนึ่งก็เปิดมาได้แบบนี้เช่นกัน
สวิทช์ไฟของ Schneider เซ็ตได้เป็น Mood
ให้ดูสีพื้น Engineering Floor กันชัดๆ
ระเบียงของห้องนั่งเล่นนะครับ เดี๋ยวค่อยๆเดินไปดูนะ
กรอบหน้าต่างสีเทาเข้ม อลูมิเนียมเนื้อค่อนข้างดี
วิวด้านหลังตึก … มองแล้วไม่งามเท่าไร แต่ว่าเป็นมุมเดียวที่มองเห็นถนนสาทรเลยนะครับ ผ่านหลังคาบ้านสีเขียวๆหลังนั้นไป
ระเบียงที่นี่ทำออกมาดี ตรงที่ทำเป็นระเบียง 2 ชั้น มีพื้นที่ภายนอกเอาไว้วาง Compressor พื้นที่ภายในเอาไว้ใช้งาน ตากผ้า ฯลฯ ทำให้ไม่ต้องไปวุ่นวายกับลมร้อนของคอมฯแอร์ครับ
ฝ้าภายนอก หลอดไฟ LED Downlight
ขนาดของระเบียง ไม่ได้กว้างมากนะครับ ประมาณ 80 ซม.
ระยะดูทีวีครับ
เราเปิดประตูเข้าไปดูห้องนอนกันบ้าง สเปคประตูดรอปลงหน่อยนะครับ เป็นบานเงาๆด้านซ้าย ไม่มีปิดผิวลามิเนต
แอร์ทั้งหมดให้เป็นแบบ Conceal Type
ไฟ Downlight ให้ตามที่เห็น มีบางช่วงดรอปฝ้าลงมา เป็นส่วนของ Service นะครับ
ห้องนอนจะเล็กกว่าห้องนั่งเล่นอยู่พอควร ยูนิตนี้ให้ความสำคัญกับห้องนั่งเล่นมากกว่า
เล็กกว่าห้องนั่งเล่นแต่ไม่ได้ความว่าแคบนะครับ พื้นที่ออกมาโอเค
มีระยะปลายเตียงให้วางช้ันหรือแขวนทีวีได้
หน้าต่างบานใหญ่ริมเตียง
แอร์ฝังฝ้า มีช่องทางเดินไปยังห้องน้ำ ซึ่งเป็นมุมแต่งตัว วางตู้เสื้อผ้าพอดี
ทางขวาเป็นประตูทางออกไปยังห้องนั่งเล่นนะครับ
หน้าตาตู้เสื้อผ้า ที่เป็นมาตรฐานให้ทุกห้องนะครับ
เรามาดูห้องน้ำกันบ้าง
พื้นดรอปลงไป มีสแตนเลสทริมขอบ และหินสังเคราะห์วางกันไม่ให้ความชื้นออกมาโดนแผ่นไม้
อ่างล้างหน้าชุดนี้ของ Mogen มีช่องวางของและมีพื้นที่วางของรอบข้างค่อนข้างเยอะ มีตู้มาให้เสร็จสรรพ
หัวก๊อกสวยๆของ Grohe พร้อมกับปลั๊กที่โกนหนวด
สุขภัณฑ์ของ Toto สวยงาม
พัดลมดูดอากาศตัวใหญ่เลย ของ Mitsubishi
ชุดฝักบัวอาบน้ำของ Grohe
ตกแต่งพื้นด้วยกระเบื้องลายโมเสก สวยงาม
กระจกแบบ Tempered Frameless
หัวฝักบัวก็สวยงาม ใหญ่ ใช้งานได้ดี ปรับระบบได้
พื้นห้องอาบน้ำดรอปลงมาอีกนิดนึงด้วย
รางม่านไม่มีให้ แต่เตรียมหลืบม่านไว้ให้
เรามาดูห้อง 41/53 กันบ้างครับ เป็นห้องที่เห็นวิวสถานทูตเบลเยี่ยมเต็มๆ
แปลนจะคล้ายๆกับห้องเดิม มีกระจกตรงห้องนอนยื่นออกมาหน่อยเท่านั้น
ห้องมาตรฐานเป็นแบบนี้นะครับ
วิวตรงระเบียงมองออกไปจะเป็นยอดไม้สีเขียวๆ
ตัวล็อค Fitting ต่างๆ
วิวสวนใจกลางเมือง ดีครับ นานๆมีทีนะ
ชุดครัว
ห้องนอน
กระจกเข้ามุมนิดๆ โค้งหน่อยๆ
ซอยพิพัฒน์ครับ
มองย้อนไปทางสาทร 6
เห็นธนาคารกรุงเทพลิบๆ
ห้องสุดท้ายที่จะพาไปดูคือห้องแบบ 2 Bedrooms 41/90
แปลนของห้อง 2 Bedrooms นะครับ แบ่งให้ห้องนอนใหญ่กว่าห้องนอนเล็ก มีห้องน้ำกลางแบ่งกันใช้ระหว่างห้องนอนเล็กและ Living Area
เปิดประตูเข้าไป จะพบว่าห้องนั่งเล่นได้ขนาดใหญ่พอควร
ชุดครัวก็ดูดีขึ้น
ถ้าวางโซฟาอย่างเดียวระยะดูทีวีไม่มีปัญหาแน่นอน แต่ถ้าต้องวางโต๊ะกินข้าวตัวใหญ่ๆ ก็ไม่แน่นะ
ตู้เก็บของด้านหน้า
ห้องน้ำเหมือนเดิม
แต่ที่ดีคือห้องนี้เป็นห้องมุม ดังนั้นจะได้รับแสงจากสองด้าน ห้องน้ำเองก็เช่นกัน จะได้รับแสง ระบายอากาศตามธรรมชาติ ไม่อับ
ห้องนอนแรกนะครับ
มีส่วนที่เป็นวิวสถานทูตเช่นกัน
ตู้เสื้อผ้าและแอร์ฝังฝ้าเช่นเดิม
ห้องนอนสอง เป็นห้องนอนที่ใหญ่กว่ากันนิดหน่อย มีแนวระเบียงอยู่ด้านนอก ได้วิวสถานทูตเช่นกัน
สุดท้ายระเบียงห้อง 2 Bedrooms ก็จะใหญ่กว่าห้องธรรมดาทั่วไปครับ
ใบราคานะครับ มีตั้งแต่ห้องราคา 100,000 – 120,000 และกระโดดไปถึง 160,000 เลย ตั้งราคาห่างกัน 50% ถึงกับมึน
ผมเลยไม่ค่อยแน่ใจ ลองจิ้มๆห้องพวก 150,000 – 160,000 แล้วต่อราคาดู >_> ปรากฏว่าต่อได้ ลงมาเหลือ 120,000 กว่าๆ
นอกจากใบราคาเสนอซื้อ ยังมีใบราคาเสนอเช่าด้วย อันนี้ยังไม่ได้ต่อราคานะครับ คิดห้องละ 25,000 วางก่อน 3 เดือน 75,000 บาท
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25/07/2012
- Fully Fitted
- เพดานสูง 2.6 เมตร (ครัว 2.4 เมตร)
- จอง 50,000 – 100,000 บาท
- คอนโดพร้อมโอน
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 40 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน จ่าย 18 เดือนล่วงหน้า
เจาะลึกรวบยอด
Collezio สาทร – พิพัฒน์ ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง แต่ไม่ได้ติดถนนใหญ่ อยู่ในซอยพิพัฒน์ซึ่งเป็นซอยหลักที่สามารถทะลุถนนสำคัญๆได้ถึง 4 เส้น สาทร, คอนแวนต์, สีลมและนราธิวาสฯ โดยตัวโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าประมาณ 315 เมตร ซึ่งอยู่ในระยะเดินที่เหมาะสม เป็นคอนโด Low Rise พร้อมอยู่ที่เรียกว่ามีทำเลดีตึกหนึ่งเลยละครับ
หากมองในแง่ของการเดินทางด้วยรถยนต์ การที่มีทางเข้าออกหลายเส้นทางอย่างซอยพิพัฒน์ ก็จะทำให้เดินทางได้สะดวก ไม่ว่าจะมาจากเส้นไหน อีกอย่างถนนสาทรช่วงต้นก่อนที่จะถึงแยกสาทร-นราธิวาสนั้น เป็นช่วงที่มีการจราจรหนาแน่นน้อยกว่า รถติดน้อยกว่า แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ติดเลยนะครับ เพราะเวลาเร่งด่วนช่วงเลิกงานนั้น รถยนต์จากทุกอาคารสำนักงานก็ต้องระบายออกมาสู่ถนนสาทรเพื่อตรงไปเข้าถนนพระราม 4 ทำให้มีปัญหาด้านการจราจรเช่นกัน
สำหรับที่จอดรถของโครงการ Collezio นั้น ให้มาอยู่ที่ 64% ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอเท่าไรสำหรับโครงการระดับนี้ แต่ด้วยความที่ตัวโครงการอยู่ใกล้รถไฟฟ้าและใกล้จากย่านอาคารสำนักงานในระยะที่เดินเท้าไปมาได้ ก็จะทำให้ความต้องการการใช้ที่จอดรถลดลงไปโดยอัตโนมัติ
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า พี่วิน หรือรถ Taxi สามารถทำได้สะดวก เดินไปเพียง 300 เมตรเศษ แต่พอตกกลางคืนอาจจะเปลี่ยวหน่อย แนะนำว่าไม่ควรเดินเท้านะครับ เพราะซอยที่เป็นที่ตั้งของโครงการน้ันไม่ใช่ซอยหลัก แต่เป็นซอยแยกอีกทีหนึ่ง แสงไฟจากพวกโรงแรมที่อยู่บริเวณปากซอยนราธิวาสฯ 3 คงจะมาไม่ถึง เพราะในตัวซอยย่อยนั้นเป็นที่ตั้งของสถานทูตเบลเยี่ยมด้วย ความคึกคักจะลดลงไปเยอะครับ
วัสดุอุปกรณ์ต่างๆทำออกมาได้ดี เรียกว่าเป็นจุดเด่นของโครงการนี้ ทั้งแอร์ฝังฝ้า, สุขภัณฑ์ของ Toto และ Grohe, พื้น Engineering Floor, ครัวหินสังเคราะห์ชุดใหญ่ของ STARMARK, Hob และ Hood ของ FRANKE รวมถึงฉากกั้นอาบน้ำที่เป็นกระจก Tempered Glass แบบ Frameless
แบบห้องออกแบบมาค่อนข้างนานแล้วตั้งแต่ปี 2008 – 2009 ดังนั้นฟังก์ชั่นต่างๆ กับพื้นที่อาจจะใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ ต่างจากคอนโดสมัยใหม่ที่ออกแบบในปี 2012 – 2013 แต่ด้วยความที่ออกแบบมานานแล้วทำให้พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างใหญ่ ห้องหลวม บนพื้นที่ 40 ตารางเมตรขึ้นไป ต่างจากห้องสมัยปัจจุบันที่ออกแบบมาแคบกว่านี้ อยู่ที่ 20 – 30 ตารางเมตร
สาธารณูปโภคชั้น G อาจจะต้องผิดหวังหน่อยกับ Lobby ที่ถือว่าเล็ก ด้วยขนาดของที่ดินที่เล็ก แต่ทางโครงการก็แก้ตัวให้โดยให้พื้นที่ชั้นดาดฟ้า ชั้น 9 เป็นสาธารณูปโภคเต็ม Floor มีทั้งสระว่ายน้ำ, สวนสาธารณะ, ที่นั่งพักผ่อน และฟิตเนส จัดว่าครบครันเมื่อเทียบกับขนาดของโครงการและจำนวนห้องเพียง 95 ยูนิต
สุดท้ายคือเรื่องของอัตราความหนาแน่นต่างๆ ซึ่งโครงการนี้จัดว่าอยู่สบายระดับหนึ่ง ลิฟท์ 1 ตัวต่อห้องเพียง 47 ห้อง และมียูนิตต่อชั้นไม่เกิน 14 ห้อง โอเคละครับ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 120,000 บาทต่อตารางเมตร, 29/08/2013
- ทำเล 8.5/10 – ซอยพิพัฒน์ ไม่ติดถนนใหญ่แต่อยู่ใจกลางเมือง
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เข้าออกง่าย มีทางลัดเลาะเยอะ รถติดบางเวลา ที่จอดรถน้อยไปนิด
- ไม่ใช้รถ 8.5/10 – เดินทางสะดวก ไปรถไฟฟ้า 300 เมตร หรือขึ้น BRT ได้เลย
- วัสดุ 8.5/10 – จัดว่าดีเมื่อเทียบกับราคา
- แบบ 7/10 – ค่อนข้างมาตรฐาน
- สาธารณูปโภค 7/10 – มีให้ครบครันที่ชั้นดาดฟ้า แต่ Lobby ค่อนข้างเล็ก
- HIGH CLASS (2010)
- 8.13 / 10.00
BOTTOM LINE
Collezio เป็นโครงการขนาดเล็ก Low Rise ที่อยู่ใจกลางเมืองย่านสาทร ไม่ติดถนนใหญ่แต่ไปไหนมาไหนได้สะดวก เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่กลางเมือง ต้องการคอนโดพร้อมอยู่ มีงบประมาณ 4 – 5 ล้านบาทครับ
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ