รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.152 – รีวิวคอนโด Condolette Pixel สาทร
23 สิงหาคม 2015
รีวิวฉบับที่ 895 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่อีกหนึ่งโครงการของ พฤกษา เรียลเอสเตท Condolette Pixel สาทร กันค่ะ โครงการนี้เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคารและมีอาคารสำหรับจอดรถแยกให้ 1 อาคาร อยู่ในย่านธุรกิจ สามารถเข้าออกได้หลายทางเส้นหลักคือ ถนนสาทรและถนนพระราม 4 ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน พระราม 4 ห่างจาก MRT ลุมพินี ประมาณ 950 ม. MRT คลองเตย ประมาณ 1 กม. ตามมาชมกันเลยค่ะ
Fact @ 15 August 2015
- Condolette Pixel Sathorn (คอนโดเล็ต พิกเซล สาทร)
- บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร 345 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 15 ยูนิต สำหรับอาคาร A
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 29 ยูนิต สำหรับอาคาร B
- ที่จอดรถประมาณ 117 คัน รวมจอดซ้อนคัน 158 คัน คิดเป็น 45%
- ที่ดินประมาณ 3-0-74.8 ไร่
- Studio 22.35 ตารางเมตร
- 1 Bedroom 28.48-37.57 ตารางเมตร
- 2 Bedroom 45.49 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.4 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม.
- สามารถอ่านรายละเอียดรอบสถานีลุมพินี ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ MRT ลุมพินี
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร 1739
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.718887, 100.549468
แผนที่โครงการ CONDOLETTE PIXEL SATHORN ซึ่งตั้งอยู่ใน ซอยศรีบำเพ็ญ สามารถเข้าออกได้หลายทางแต่ทางเข้าหลักสามารถเข้าได้จาก ถนนสาทร และ ถนนพระราม 4 หรือจะเข้าจากทาง ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และ ถนนเชื้อเพลิง ก็ได้ จากการรีวิวครั้งที่แล้วได้เริ่มการเดินทางจาก สถานีรถไฟใต้ดิน MRT ลุมพินี สามารถ “คลิ๊กที่นี่” แต่ในคราวนี้จะขอเดินในเส้นทางที่แตกต่างออกไปบ้างนะคะ จะขอเริ่มเดินทางจาก สถานีรถไฟใต้ดิน MRT คลองเตยแทนค่ะ
พื้นที่โครงการโดยรอบสามารถเดินทางมาสู่โครงการได้หลากหลายวิธี หากใช้รถยนต์สามารถใช้เส้นทางจากถนนพระราม 4 แล้วมาเลี้ยวเข้าซอยสุวรรณสวัสดิ์ ใช้ระยะทางจากปากซอยถึงโครงการประมาณ 600 ม. หรือหากมาจากถนนสาธรใต้ ให้เข้าซอยสาธร 1 จะใช้ระยะทาง 1.1 กม. จากโครงการสามารถเดินทางไปถนนนราธิวาสราชนครินทร์ โดนใช้เส้นทางลัดจากซอยเย็นอากาศ และสามารถขับทะลุมายังถนนเชื่อเพลิงได้
ในส่วนของการใช้ทางด่วน จะมีจุดขึ้นลงทางด่วนที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดบริเวณสี่แยกใต้ด่วนพระราม 4 โดยจะแบ่งเป็น 2 จุด ได้แก่ 1) จุดขึ้นทางด่วนบางนา-ดาวคะนอง ซึ่งจะอยู่ฝั่งถนนพระราม 4 ที่มุ่งหน้าไปทางลุมพีนี 2) จุดขึ้นทางด่วนดินแดง-พระราม 9 แจ้งวัฒนะ ซึ่งจะอยู่ฝั่งถนนพระราม 4 ที่มุ่งหน้าไปทางคลองเตย
ถ้าต้องการมาซื้อของกินของใช้เล็กๆน้อยๆ จะมีแหล่งร้านค้าและร้านสะดวกซื้อห่างออกมาจากโครงการประมาณ 100 ม. หรือจะไป Market Place ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ โดยจะใช้เส้นทางจากซอยเย็นอากาศ รวมทั้งยังสามารถขับลัดไปเข้าสู่ถนนนางลิ้นจี่เพื่อไปมหาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพได้ด้วย
แผนที่ Zoom in เข้ามารอบๆโครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารที่พักอาศัย เช่น บ้านพักอาศัยเดิมในชุมชน เป็นบ้านเดี่ยวและตึกแถว 2-3 ชั้น , คอนโดมิเนียม Low Rise , โรงแรม และอาคารพาณิชย์ ร้านค้าต่างๆ มีพบโรงงาน คลังสินค้าบางส่วน
เส้นทางการเดินทางในวันนี้ หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT กรณีขึ้นที่สถานีคลองเตย สามารถเดินมาที่โครงการได้ โดยเริ่มจากออกจากสถานีโดยใช้ทางออกหมายเลข 1 แล้วเดินตามทางจากถนนพระราม 4 ประมาณ 400 ม. แล้วเลี้ยวซ้ายที่ ซ.สุวรรณสวัสดิ์ ตรงเข้าซอยมาอีก 500 ม. จนมาถึงทางแยกสุดทางให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ซ.ศรีบำเพ็ญ แล้วตรงมาอีกประมาณ 100 ม. จะพบโครงการอยู่ทางขวามือค่ะ
ในส่วนของเส้นทางอีกทางหนึ่งที่สามารถไปทะลุออกถนนเชื้อเพลิงนั้น แนะนำว่าไม่ควรใช้วิธีการเดิน ควรใช้รถโดยสารมากกว่า เนื่องจากซอยที่ไปทะลุถนนเชื้อเพลิงนั้นค่อนข้างเปลี่ยวและไม่ค่อยมีรถสัญจรผ่าน อีกทั้งบริเวณของถนนเชื้อเพลิงเองจะอยู่ใต้ทางด่วนพระราม 4 ซึ่งค่อนข้างมืด ทางเท้าชำรุดแคบและไม่น่าเดิน อีกทั้งยังมีฝุ่นมากมายจากรถยนต์
ออกจากรถไฟฟ้า MRT คลองเตย ให้สังเกตป้ายทางออกหมายเลข 1 ซึ่งจะมาขึ้นทางถนนพระราม 4 ฝั่งของโครงการ จะสามารถเดินตามทางเท้ามายังโครงการได้ค่ะ
ลองเปรียบเทียบระยะทางการเดินจากสถานี MRT ทั้ง 2 สถานี
1. เส้นทางจาก MRTลุมพินี ใช้ทางออก1 ระยะทางประมาณ 1.1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 14 นาที
2. เส้นทางจาก MRTคลองเตย ใช้ทางออก 1 ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 13 นาที
ชื่อเส้นทางที่ต้องผ่านเรียงตามนี้ MRT>ถ.พระราม4>ซ.สุวรรณสวัสดิ์>ซ.ศรีบำเพ็ญ
เดินออกจากสถานีรถไฟฟ้าคลองเตย โดยใช้ทางออกจาก ประตูที่ 1 ก็จะเจอกับถนนพระราม 4
จะมีวินมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาคอยรับส่ง อยู่ด้านหน้าสถานี ส่วนอัตราค่าบริการถ้าไป ซ.สุวรรณสวัสดิ์ จะอยู่ที่ราคา 20 บาท
เส้นทางเดินเท้าบริเวณนี้กว้างขวางเดินสะดวกมาก
เราเดินตามทางเท้ามาเรื่อยๆ ก็จะมาพบกับสี่แยกใต้ด่วนพระราม 4 เป็นสี่แยกใหญ่ เวลาเดินข้ามต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร เราเดินตรงข้ามไปตามเส้นทางม้าลายได้เลยค่ะ
จากสี่แยกใต้ด่วนพระราม 4 หากเลี้ยวซ้ายจะเป็นจุดขึ้นลงทางด่วน ที่มุ่งหน้าไปเส้นบางนา-ดาวคะนองได้
หากเลี้ยวซ้ายช่องทางเดินรถช่องกลาง บริเวณใต้ทางด่วนก็จะมุ่งหน้าไปถนนเชื้อเพลิงค่ะ
ข้ามทางม้าลายสุดท้าย ก็เดินตามทางเดินเท้าต่อมาเลยค่ะ
ลองมองกลับไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นป้ายบอกจุดขึ้นลงทางด่วน ที่จะมุ่งหน้าไปทาง ดินแดง พระราม 9 แจ้งวัฒนะ
เดินมาเรื่อยๆจะเจอร้านขายกาแฟและขนมเค้ก ร้านเล็กๆริมทางร้านนึง ร้านค้าหรืออาคารตึกแถวริมถนนส่วนมากจะปิดไว้ จึงทำให้สภาพรายล้อมริมทางค่อนข้างจะเงียบ ถึงขนาดเป็นกลางวันก็ตาม
เส้นทางเดินช่วงแรกกว้างเดินสะดวกมาก เดินมาได้เพียง 100 เมตร ก็จะมาเจอทางเดินที่แคบลง
ทางซ้ายมือเริ่มมีการล้อมรั้วโครงการใหม่ ชื่อโครงการ The Nest
เดินต่อมาเรื่อยทางเดินเริ่มสวยน่าเดินมีต้นไม้ด้านหน้าสวยงาม บริเวณนี้จะเป็นด้านหน้าของโครงการ Amanta Lumpini
ลองมองเข้าไปโครงการ Amanta Lumpini ถนนด้านหน้าโครงการเลยปรับปรุงมีต้นไม้สวยงามน่าเดิน
ระหว่างเส้นทางจะไม่ค่อยมีร้านค้ามากนัก จนเดินมาใกล้จะถึงซอยสุวรรณสวัสดิ์จึงจะเริ่มพบบ้าง เช่น โรงพยาบาลสัตว์
ร้านค้าอะไหล่มอเตอร์ไซด์ ต่อพรบ. ร้านขายของชำเล็กๆและก็ร้านก๊วยเตี๋ยวรถเข็น บริเวณหน้าปากซอยสุวรรณสสัสดิ์ อยู่แถวทางขึ้นสะพานลอย
มาถึงปากซอยสุวรรณสวัสดิ์ กันแล้วค่ะ จะมีป้ายเขียนชื่อซอยไว้ชัดเจนสังเกตง่าย หรือหากขับรถมาจากเส้นพระราม 4 ก็สังเกตสะพานลอย ผ่านสะพานลอยแรกจากสี่แยกใต้ด่วนพระราม 4 ก็เตรียมเลี้ยวซ้ายกันได้เลย ถ้ามองเลยไปจะเห็น อาคารลุมพีนีทาวเวอร์
ด้านหน้าซอยจะมีพี่วินมอเตอร์ไซด์ ให้บริการอยู่ นี่เรทราคาค่ะ
เข้ามาในซอย เป็นถนนสองเลนสวนกัน ค่อนข้างแคบและไม่มีทางเดินเท้า ต้องใช้ความระมัดระวังเวลาเดินมากๆ
เดินตรงเข้ามาด้านซ้ายจะเจอกับ สุวรรณสวัสดิ์เฮาส์ ด้านขวาฝั่งตรงข้ามเป็นอาคาร 5 ชั้น อาคาร Annix Lumpini
ตรงเข้ามาจะเจอกับสามแยก หากเลี้ยวซ้ายจะเป็น ซอยพระยาพิเรนทร์ ซึ่งเป็นซอยตัน ในที่นี้เราตรงไปต่อเลยค่ะ
จะผ่านย่านชุมชนเล็กๆ เป็นบ้านแถว 3 ชั้น มีร้านค้าของชำเล็กๆ กับร้านขายอาหารตามสั่ง
ตรงเข้ามาเรื่อยๆจนมาถึงทางสามแยก ให้เราเลี่ยวซ้าย เข้าสู่ซอยศรีบำเพ็ญ หากเลี้ยวขวาสามารถไปทะลุออกซอยงามดูพลี ออกไปยังถนนพระราม 4 ได้ รวมระยะทางจากปากซอยทางเข้าซอยสุวรรสวัสดิ์ ถึงสามแยกนี้ก็ประมาณ 500 ม.
พอเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนศรีบำเพ็ญ สองข้างทางเริ่มเจอร้านต่างๆ จะมีร้านอาหารตามสั่ง ร้านทั่วไปริมทางซ้ายขวาเต็มไปหมด รวมถึง 7-11 และ CP Fresh Mart มีคนเดินพลุกพล่านมากขึ้น ซึ่งบริเวณนี้ก็ต้องใช้ความระวัดระวังในการชับรถหรือเดินเท้า เพราะเลยไปเป็นสามแยกมีทางเลี้ยงขวาที่มีรถวิ่งกันค่อนข้างเยอะเพราะเป็นทางลัดไปถนนนางลิ้นจี่ได้
มีทั้งร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา เอทีเอ็ม ร้านอาหาร และจุดตั้งวินมอเตอร์ไซด์ ก็เป็นร้านที่เราใช้งานกันหลักๆในชีวิตประจำวัน จากจุดนี้ถ้าต้องเดินมาจากโครงการก็ประมาณ 100 เมตร ถือว่าไม่ไกลมาก
ลองมองกลับมาอีกด้านจากทางฝั่ง 7-11 จะเห็นร้านอาหารตามสั่ง และอาคารที่มีเสาสีส้มๆอันนั้นเป็นร้านพิซซ่า แต่ดูแล้วน่าจะเปิดในช่วงเวลาเย็นๆมากกว่า
เลยมาเป็นทางสามแยก ตรงไปจะเป็นทางไปโครงการ หากเลี้ยวขวาจะไปซอยเย็นอากาศ สามารถไปทะลุเข้าสู่ถนนนางลิ้นจี่ได้
เส้นทางด้านหน้าโครงการเป็นถนนสองเลนสวนกัน ไม่มีทางเท้า สภาพข้างๆทางจะมี ร้านตัดผม ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ถนนด้านหน้าเส้นนี้รถไม่ค่อยสัญจรผ่านมากนัก ถ้าวิ่งตรงไปสามารถไปทะลุออก ถนนเชื่อเพลิงใต้ทางด่วนได้ค่ะ
มาถึงหน้าโครงการ Condolette Pixel กันแล้วค่ะ ทางเข้าโครงการเชื่อมต่อจากซอยศรีบำเพ็ญ ทางด้านซ้ายมือโครงการจะติดกับอาคารตึกแถว 3 ชั้นครึ่ง และ 4 ชั้นครึ่ง ประมาณ 6 คูหา ขวามือติดบ้านส่วนบุคคล 2 ชั้น ที่ตอนนี้กำลังทำการซ่อมแซมปรับปรุง
หากมองเลยไปหน่อย จะมีโครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 4 – สาทร ซึ่งเป็นโครงการที่สร้างเสร็จและมีผู้อยู่อาศัยแล้ว โครงการเป็น Condo Low Rise สูง 8 ชั้น
ระหว่างโครงการลุมพินี เพลส พระราม 4 – สาทร กับตึกแถว จะมีซอยคั่นกลาง ชื่อซอยแจ๊กเจีย ซึ่งเป็นซอยตัน
ลองเดินเข้ามาในซอยจะเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตเครื่องหอมและคลังสินค้า ระหว่างเดินจะได้กลิ่นหอมเป็นระยะๆ ใครที่เลือกห้องที่ติดกับซอยด้านนี้ ก็จะได้กลิ่นหอมลอยมาตามลมเช่นกัน จากภาพจะเห็นแนวกำแพงของโครงการสูงประมาณ 4 เมตร ดูเรียบร้อยและปลอดภัยดีค่ะ
ฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะเป็นโรงแรม The Tivoli Hotel เป็นโรงแรมไม่ใหญ่มาก สูง 8 ชั้น
บริเวณด้านหน้าโครงการค่ะ จะเป็นถนนสองเลน สวนกันไม่มีทางเดินเท้า ด้านหน้าโรงแรมจะมีที่จอดรถต่างหาก ไม่รบกวนพื้นผิวถนนและการจราจรด้านหน้า
ภาพมุมสูงด้านข้างฝั่งทิศตะวันออก ที่ติดกับซอยแจ็กเจีย จะมองเห็นอาคารข้างเคียง กับพื้นที่ set back ของโครงการที่เว้นไว้โดยรอบโครงการ
ภาพมุมสูงด้านข้างฝั่งทิศตะวันตก ฝั่งนี้จะติดกับโครงการบ้านพักอาศัยเดิมของพื้นที่ค่ะ ส่วนใหญ่เป็นบ้านตึกแถวสูงประมาณ 2-3 ชั้น ถ้าใครเลือกห้องทางฝั่งนี้ ต้องเลือกสูงกว่าชั้น 3 ขึ้นไป ถึงจะเป็นวิวเปิด ไม่โดนบ้านพักอาศัยบังวิวค่ะ
จากภาพแสดงตำแหน่งของอาคารข้างเคียงที่ติดกับโครงการ ตามทิศได้ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดกับอาคารตึกแถว 3-4 ชั้นครึ่ง เลยถัดข้ามถนนไปจะเป็นโรงแรม The Tivoli Hotel
- ทิศตะวันออก ติดกับโครงการลุมพินี เพลท พระราม 4-สาทร และโครงงานผลิตเครื่องหอม คลังสินค้า
- ทิศใต้ ติดกับพื้นที่ว่างเปล่า ไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพของโครงการ
- ทิศตะวันตก ติดกับชุมชนบ้านพักอาศัยเดิมในพื้นที่บางส่วน เป็นตึกแถวสูงประมาณ 2-3 ชั้น
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรงแรมไอบิส สาทร 450 เมตร
- ลุมพินี ทาวเวอร์ 750 เมตร
- คิวเฮ้าส์ ลุมพินี 1.1 กิโลเมตร
- สถานทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน 1.1 กิโลเมตร
- โรงแรมสุโขทัย 1.2 กิโลเมตร
- สวนลุมพินี 1.4 กิโลเมตร
- Market Place ทุ่งมหาเมฆ 1.4 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ 2.7 กิโลเมตร
- Lotus พระราม 3 3.4 กิโลเมตร
มาดู MasterPlan ของโครงการกันก่อน ชั้น G ส่วนของ Facility จะประกอบด้วย Lobby, สวนนั่งเล่น, สระว่ายน้ำ, Fitness, ที่พักอาศัยทั้ง 2 อาคาร และ อาคารจอดรถ โครงการนี้ออกแบบให้มีห้องพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 1 มีโซนที่ติดกับที่จอดรถ, Facility อยู่ตรงกลาง และติดขอบเขตที่ดิน มีการเพิ่มต้นไม้และบ่อรอบๆห้องพักชั้น 1 ทั้งหมดเพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และบริเวณระเบียงจะมีโครงเหล็กเพิ่มให้มากกว่ายูนิตที่อยู่ชั้น 2-8
จากลักษณะของการวางอาคารห้องพักจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เห็นวิวด้านในกับส่วนที่เห็นวิวด้านนอกโครงการ ส่วนที่เห็นวิวด้านนอกถ้าเลือกด้านที่ติดกับ Lumpini วิวจะโดนบังบางส่วนเพราะอาคารสูงเท่ากัน จะมองเห็นโรงงานและได้กลิ่นจากการผลิตเครื่องหอม ด้านข้างอีกด้านฝั่งทิศตะวันตกจะโดนบังวิวด้วยตึกแถว 2-3 ชั้น
ภาพมุมสูงมองเข้าหาด้านหน้าโครงการ
ภาพมุมสูงมองเข้าหาด้านหลังโครงการ
ผังอาคาร A ชั้น 1 ประกอบด้วยส่วนที่ห้องพักอาศัยทั้งหมด 12 units เป็นห้องแบบ studio 1 units ที่เหลือเป็นแบบ 1 bed ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางของอาคารได้แก่ บริเวณ Lobby ทางเข้าอาคาร , ส่วน Office โครงการ, พื้นที่บริเวณโถงลิฟท์ , บันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่ง , ลิฟท์ 2 ตัวต่อ 1 อาคารไม่มีลิฟท์ service ซึ่งถ้าเทียบสัดส่วนของลิฟท์ในอาคาร A 58 : 1 และอาคาร B 114 : 1 ดูต่างกันเกือบครึ่ง การใช้งานลิฟท์ในอาคาร A จึงดูไม่แออัดเท่าไหร่
แนวทางเดินเป็นทางยาวตามรูปทรงของอาคาร ไปยังส่วนพักอาศัย แบ่งการจัดห้องเป็นสองฝั่ง คือฝั่งวิวสระว่ายน้ำของโครงการ จะได้รับแดดช่วงเช้าเนื่องจากห้องหันเอียงไปทางทิศตะวันออก ตกช่วงบ่ายก็จะไม่ร้อนมากเพราะจะไม่โดนแดด อีกฝั่งของอาคารติดฝั่งบ้านพักอาศัย 2-3 ชั้น ฝั่งนี้จะรับแดดช่วงบ่ายแทน
ผังอาคาร A ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องพักอาศัยทั้งหมด 14 units เป็นห้องแบบ studio 3 units ที่เหลือเป็นแบบ 1 bed ในส่วนของพื้นส่วนกลางได้แก่ พื้นที่บริเวณโถงลิฟท์ , บันไดหนีไฟ 2 ตำแหน่งและแนวทางเดินไปยังส่วนพักอาศัย ในชั้นนี้จะพื้นที่ ที่เป็นพื้นที่เพดานสูงของห้อง lobby ที่เป็น double volume สูงขึ้นมาที่ระดับชั้น 2 จึงทำให้จำนวนห้องน้อยกว่า ชั้น 3-8 อยู่ 1 ห้อง
ผังอาคาร A ชั้น 3-8 จะเหมือนกัน ประกอบด้วยห้องพักอาศัยทั้งหมด 15 units เป็นห้องแบบ studio 3 units ที่เหลือเป็นแบบ 1 bed
ผังอาคาร B ชั้น 1 ประกอบด้วยห้องพักอาศัยทั้งหมด 26 units เป็นห้องแบบ studio 8 units เป็นแบบ 1 bed 16 units และแบบ 2 bed 2 units เนื่องจากการวางผังอาคารเป็นตัว L ทำให้มีจำนวนห้องมากกว่าอาคารแรกทำให้ต้องแชร์การใช้พื้นที่ส่วนกลางของอาคารมากกว่าอาคาร A โดยตำแหน่งของโถงทางเข้า Lobby จะอยู่ตรงกลางระหว่าง เส้นแนวตึกทั้ง 2 ด้าน มีลิฟท์โดยสารให้ 2 ตัว อัตราส่วนของลิฟท์อยู่ที่ 114 : 1 ซึ่งมากกว่าอาคาร A เยอะมาก เวลารอขึ้นลงลิฟท์อาจจะแย่งกันใช้งานกันได้ ในส่วนของอาคาร B จะไม่มีการทำ เพดานสูงแบบห้อง lobby แบบอาคาร A และมีจุดบันไดหนีไฟทั้งหมด 3 จุด
สำหรับทิศทางของอาคารนี้มีวิวและทิศทางของแดดในแต่ละช่วงเวลาที่ต่างกัน หากเลือกห้องฝั่งวิวสระว่ายน้ำ ก็จะได้รับแดดในช่วงบ่าย หากเลือกห้องที่อยู่ติดกับซอยแจ็กเจีย ก็จะเห็นวิวเป็นอาคารโครงการลุมพินี เพลส พระราม 4 – สาทร กับโรงงานผลิตเครื่องหอม ซึ่งอย่างที่บอกไว้ว่าจะได้กลิ่นหอมจากการผลิตของโรงงานเป็นระยะในช่วงกลางวัน แต่ถ้าเลือกห้องติดกับพื้นที่ว่างเปล่าจะหันไปทางทิศใต้ซึ่งจะไม่ร้อนเพราะไม่โดนแดดและอากาศถ่ายเทสะดวก
ผังอาคาร B ชั้น 2-8 จะเหมือนกัน ประกอบด้วยห้องพักอาศัยทั้งหมด 29 units เป็นห้องแบบ studio 11 units เป็นแบบ 1 bed 15 units และแบบ 2 bed 3 units จากแปลนผังห้องจะเห็นได้ว่ามีการลากเส้นเป็นรูป 3 เหลี่ยม เส้นนี้คือแนวกันแดดสีขาว ซึ่งมีให้แค่บางห้องเรียกว่าตกแต่งตาม Concept มากกว่าค่ะ
ซุ้มทางเข้าโครงการออกแบบให้มีทางเข้าและออกแยกกัน โดยมี รปภ.คอยตรวจและรับแลกบัตรเข้าออก ในส่วนของการดีไซด์ดูเป็นไปตาม concept ของโครงการคือ การนำรูป Pixel หรือจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ จำนวนมากนำมาเรียงต่อกันจนเกิดเป็นผนังของซุ้มประตูทางเข้า
มีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพผู้เข้าออกโครงการ และมีที่สแกนบัตรเข้าออก เพื่อเพิ่มความสะดวกแก่ลูกบ้านเวลาเข้าออกโครงการ
อาคารจอดรถ 9 ชั้น มีการออกแบบ Façade ด้านข้างเป็นแผงบังแดดให้เข้ากับภาพรวมของโครงการ จากภาพจะยังเห็นว่ายังอยู่ในขั้นตอนระหว่างการติดตั้งอยู่นะคะ
ทางเข้าอาคารจอดรถมี ความสูงอยู่ที่ประมาณ 2.2 เมตร อาคารจอดรถนี้สามารถจอดรถได้ 117 คัน ไม่ซ้อนคันคิดเป็น 34% รวมจอดซ้อนคัน 158 คัน คิดเป็น 45% เรื่องที่จอดรถในอนาคตถ้าลูกบ้านใช้รถกันเยอะอาจมีปัญหาเรื่องที่จอดรถไม่เพียงพอ
จุดบริเวณหัวจ่ายดับเพลิงของโครงการ จะอยู่บริเวณทางเข้าอาคารจอดรถ
บริเวณชั้น 1 ของอาคารจอดรถ จะมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง ไว้บริการ และมีลิฟท์ขึ้นลงไปยังชั้นจอดรถชั้นสูงๆ
พื้นที่สำหรับจอดรถ ชั้น 1
ถนนทางเข้าอาคารจอดรถออกแบบได้เหมาะสมดี ไม่แคบจนเกินไป สามารถขับรถขึ้น-ลง สวนทางกันได้
ถ้าหากวิ่งตรงมาเลี้ยวขวาจะออกมาจากอาคารจอดรถ ซึ่งโครงการได้จัดที่จอดรถไว้โดยรอบโครงการไว้ด้วยเช่นกัน
สังเกตตรงพื้นที่ได้ค่ะ ทางโครงการจะยตีเส้นแบ่งช่องจอดให้เรียบร้อย
ในส่วนของ slope ระนาบทางขึ้นอาคารจอดรถก็ไม่สูงชันมาก ทำให้เลี้ยวขึ้นลงได้ดีขึ้นแต่ถ้ามีรถสวนกันต้องใช้ความระมัดระวังหน่อยนะคะ
จากรูปจะเห็นว่าไม่ควรจอดซ้อนคันนะคะ เพราะจะไม่มีระยะเหลือพอให้รถวิ่งสวนกัน
ขึ้นไปชั้นดาดฟ้ายังมีพื้นที่สามารถจอดรถได้อีก แต่จะไม่มีหลังคาคลุม ใครได้จอดบนนี้ก็ต้องทำใจทนร้อนกันหน่อยค่ะ
กลับลงมาที่ชั้นล่างกันต่อนะคะ เส้นแนวกันแดดสีขาวที่จากผังอาคาร เมื่อดูจากรูปด้านของอาคารจริง จะเห็นว่าจากระยะที่กันแดดที่ทำยื่นออกมานั้นอาจจะสามารถบังแดดได้แค่บางส่วนเท่านั้น ไม่ถึงกับบังแดดทั้งหมด โดยที่เราไม่ใช้ม่านบังแดดช่วยได้ ในกรณีที่ทิศทางแดดสาดเข้ามาแบบเต็มๆ
บริเวณทางเข้า Lobby ของอาคาร A มีการออกแบบให้มีทั้งบันไดและทางลาดขึ้น สามารถเข็นรถเข็นขึ้นได้สะดวก
บริเวณโถงในส่วน Lobby จัดพื้นที่ให้เป็น Double volume ให้ความรู้สึกโปร่งมากขึ้นไม่เหมือน Lobby ที่เป็นแบบชั้นเดียว
ที่นั่งพักคอย ออกแบบโดยใช้เส้นสายที่ต่อเนื่องมาใช้ในการจัดวางเป็นที่นั่ง ประดับผนังด้วนแผ่นกระจกโดยคง concept ของโครงการไว้
ทางเดินเชื่อมไปยังทางเข้าอาคาร B
ทางเข้าอาคาร B (อาคารรูปตัว L) ด้านหน้าทางเข้าจะติดที่สแกนบัตรเข้าออกอาคาร และติดกล้องวงจรปิดเพื่อบันทึกภาพผู้เข้าออก และติดไฟกิ่งไว้ทั้งสองฝั่ง
บริเวณโถงพักคอยอาคาร B จะแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนสำหรับนั่งพักคอยและพื้นที่ mail box ของลูกบ้านภายในอาคาร B
ประตูทางเข้าพื้นที่อาคาร เพื่อไปยังลิฟท์ส่วนกลาง
เรามาลองดูการจัดพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่สีเขียว ของโครงการในส่วนอื่นๆกันค่ะ เริ่มจากทางเดินเข้าสู่พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เป็นทางเดิน slope ด้านข้างปลูกต้นไม้ มีไฟส่องแสงสว่างด้านข้าง
สระว่ายน้ำของโครงการ Condolette Pixel จะตั้งอยู่ตรงกลางของพื้นที่โครงการ เป็นสระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool เป็นสระระบบเกลือ ลึกประมาณ 1.2 ม.
พื้นที่สวนและจุดสำหรับนั่งพักผ่อน ด้านข้างสระว่ายน้ำ
ทางขึ้นสระว่ายน้ำจากทางด้านข้างสระ เป็นทางขึ้นรองนะค่ะ ซึ่งบันไดทางขึ้นนี้ออกแบบการขึ้นลงระดับแตกต่างกัน อาจจะไม่เหมาะกับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ แนะนำให้ไปใช้ทางขึ้นหลักดีกว่าค่ะ โดยต้องเดินอ้อมไปทางด้านหลังของสระว่ายน้ำ
แนวทางเดินด้านข้างสระว่ายน้ำอีกด้านหนึ่ง มีการปลูกแนวพุ่มไม้ริมทางเพิ่มสีเขียวช่วยให้สบายตา
ทางขึ้นสระว่าย ซึ่งเป็นทางขึ้นหลักจะอยู่ด้านหลัง สามารถเดินออกมาจากส่วน Lobby ของอาคาร B แล้วเดินตรงมาใช้สระว่ายน้ำได้เลย แต่ถ้ามาจากอาคาร A ต้องเดินอ้อมมาหรือใช้ทางขึ้นด้านข้างแทน
ด้านข้างทางขึ้นสระว่ายน้ำ จะมีติดข้อกำหนดการใช้สระว่ายน้ำ และป้ายแสดงค่าความเป็นกรด-ด่าง ของน้ำในสระในแต่ละวัน
จัดพื้นที่เป็นพื้น deck ไม้แบบกลางแจ้ง จัดที่นั่งพักผ่อนไว้ให้
ถ้านั่งที่เก้าอี้ในส่วนสระว่ายน้ำ ก็จะมองเห็นวิวภาพรวมภายในโครงการ มองตรงไปถึงอาคารจอดรถและเห็นซุ้มประตูโครงการไกลๆ โครงหลังคาบริเวณสระว่ายน้ำ ให้ร่มเงาได้บางส่วนนะค่ะ แต่ภาพรวมคือเน้นความสวยงามมากกว่า
จุดชำระล้างร่างกายก่อนลงสระว่ายน้ำค่ะ เป็นแบบ Rain Shower พื้นด้านล่างเป็นหินกรวด มีให้ตำแหน่งเดียวนะค่ะ ถ้าคนมาใช้สระว่ายน้ำเยอะๆ เช่น ในช่วงวันหยุด ก็อาจจะต้องยืนรอกันหน่อยค่ะ
ทางเดินลงสระไล่เป็น step โดยไล่สีตามพื้นกระเบื้องของสระว่ายน้ำ ด้านบนที่เห็นเป็นกระเบื้องสีเข้มจะเป็นสระแบบจากุชชี่ ขนาดเล็กๆนะค่ะ ถ้าผู้ใหญ่ลงไปนั่งพร้อมกันซัก 3 คนนี้ก็เริ่มอึดอัดแล้วค่ะ
สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool เป็นสระแบบน้ำล้น
เมื่อเราเดินลงมาจากสระว่ายน้ำ เลี้ยวขวาก็จะเป็นพื้นที่สวน มีที่นั่งพักผ่อน จากตรงนี้จะเห็นห้อง Fitness และ Library ของโครงการ
ส่วน Fitness และ Library พื้นที่ประมาณ 45 ตารางเมตร ทั้งสองส่วนจะตั้งอยู่ในพื้นที่อาคาร B สามารถเข้าใช้งานจากด้านหน้าอาคารได้เลยค่ะ ส่วนของห้องน้ำของ Fitness จะอยู่เลยมาทางด้านข้าง ซึ่งเป็นห้องน้ำธรรมดาไม่มีห้องอาบน้ำให้
ห้องสำหรับออกกำลังกาย ทางโครงการได้จัดอุปกรณ์ไว้ 7 ชิ้น
พื้นที่สำหรับอ่านหนังสือและเป็นที่นั่งพักผ่อน
ขึ้นมาบนอาคารทางเดินไปยังห้องพักในชั้นต่างๆ
มีจุดติดตั้งไฟฉุกเฉินอยู่ระหว่างทางเดินเป็นระยะ
มีช่องหน้าต่าง เพื่อรับแสงธรรมชาติเข้ามาที่สุดทางเดิน
บริเวณโถงลิฟท์ แต่ละอาคารจะมีลิฟท์ 2 ตัว มองตรงไปจะเป็นห้องทิ้งขยะของแต่ละชั้น และทางขวามือจะเป็นป้ายประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆของโครงการเพื่อให้ลูกบ้านได้อ่านกันค่ะ
ด้านหน้าลิฟท์โดยสาร จะมีผังแสดงตำแหน่งทางหนีไฟและมีโทรศัพท์ลิฟท์สำหรับกรณีฉุกเฉิน
ภายในลิฟท์ สามารถจุผู้โดยสารได้ 13 คน น้ำหนักบรรทุกอยู่ที่ 1,000 กิโลกรัม เป็นลิฟท์ของ Kone สังเกตภายในจะมีราวจับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ Infinity Edge Pool เป็นสระระบบเกลือ พื้นที่ประมาณ 7×15 ม. ลึกประมาณ 1.2 เมตร ไม่มีสระเด็ก
- สระจากุชชี่
- Fitness พื้นที่ประมาณ 45 ตารางเมตร วางเครื่องเล่นประมาณ 7 เครื่อง
- สวนหย่อมบริเวณตรงกลางของ 2 อาคาร
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อ/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์ทั้งโครงการ 99.5 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์ อาคาร A 58 : 1
- อัตราส่วนลิฟท์ อาคาร B 114 : 1
- ลิฟท์ขนของ – ไม่มี
- ที่จอดรถช่องจอด 117 คัน ไม่ซ้อนคันคิดเป็น 34% รวมจอดซ้อนคัน 158 คัน คิดเป็น 45%
- มีอาคารจอดรถแยก 1 อาคาร สูง 9 ชั้น และชั้นดาดฟ้าเปิดโล่ง
- ระบบ CCTV / Access Card
ห้องตัวอย่างแบบ Studio ขนาด 22.35 ตารางเมตร มีจำนวนทั้งหมด 114 ยูนิต ห้องขายแบบ Fully Furnished แบ่งโซนพื้นที่เป็น 4 โซน คือ ห้องน้ำ ครัว ห้องนอน และระเบียง เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนครัวซึ่งในส่วนนี้โครงการมี Pantry แบบ Built-in ให้ หันมาทางด้านซ้ายจะเป็นห้องน้ำแยกโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน ในโซนอาบน้ำฝักบัวจะมีประตูบานเปิดใสกั้นไว้ ตรงเข้ามาจะเป็นเตียงนอนขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size มีตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของและที่วาง TV แบบ Built-In ถัดไปเป็นพื้นที่สำหรับวางโซฟาติดทางริมฝั่งหน้าต่างห้อง และมีพื้นที่ระเบียงสำหรับซักล้างค่ะ เนื่องจากขนาดห้องมีพื้นที่ไม่มากนักจึงเหมาะกับการอยู่อาศัยไม่ควรเกิน 2 คน ต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งห้องอย่างระมัดระวังไม่งั้นห้องจะยิ่งดูแคบและอึดอัด ในส่วนของครัวที่จัดมาเป็นครัวเปิดควรหลีกเลี่ยงการประกอบอาหารที่เกิดกลิ่นและควันมากๆ ไม่งั้นกลิ่นกระจายกันทั่วห้องแน่ๆค่ะ
เริ่มจากทางเข้าห้องตัวอย่างกันเลยค่ะ ประตูห้อง ใช้บานประตูสำเร็จรูปลายไม้ ขนาด 0.90 x 2.00 เมตร มือจับประตูแบบก้านโยก และ Digital door lock ประตูหน้าของ Yale
หน้าตาป้ายบอกเลขที่ห้องและตาแมวให้ตามมาตรฐานค่ะ
พื้นทางเข้าสู่ห้องจะมีธรณีประตูกั้นขึ้นมาเล็กน้อย และปิดคิ้วด้วยคิ้วสำเร็จรูปลามิเนตลายไม้ ส่วนพื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตลายไม้สีเดียวกัน
เปิดประตูเข้ามา จะมี door stopper ติดอยู่ที่กำแพงด้านหลังประตู เพื่อป้องกันบานประตูเปิดมากระทบกำแพง ความกว้างทางเข้าสู่ห้องวัดจากชุดครัวถึงผนังส่วนห้องน้ำกว้างประมาณ 1.1 m. พื้นตรงส่วนครัวก็ยังเป็นลามิเนตนะ เวลาทำครัวต้องระวังเรื่องความชื้นด้วย
เข้ามาทางขวามือจะเป็นส่วนของพื้นที่ครัว โครงการจะมีชุดครัวของ Modernform แบบ Build-in ให้ ที่เห็นจะเป็นสีตามนี้เลยค่ะ ชิ้นบนเป็นสีขาว ชิ้นล่างเป็นสีไม้
ชุดตู้ลอยด้านบนเป็นของ Modernform สามารถจัดวางของได้หลากหลายตามการใช้งาน
ชุดเตาพร้อมที่ดูดควัน ของ Franke ส่วน Top ชุดครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ผนังด้านหลังปูกระเบื้องมาให้ด้วย ช่วยให้ง่ายต่อการทำความสะอาด
อ่างล้างจานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกลางไม่ใหญ่มาก อุปกรณ์ก๊อกน้ำของ Franke
เมื่อดึงลิ้นชักของชุดครัวออกมาเป็นชั้นวางอุปกรณ์แบ่งช่องตามการใช้งาน
ชุดครัวของ Modern form ชิ้นล่างเป็นสีไม้ มีบานเปิดภายในเป็นชั้นวางของ ด้านใต้ชุดครัวทางซ้ายมือโครงการมีปลั๊กไฟและก๊อกน้ำมาให้ด้วยค่ะ
ถัดเข้ามาสู่ภายในตัวห้องกันค่ะ มองภาพรวมของห้องกันก่อน ห้องจัดมาให้แบบ Fully Furnished จะเห็นการแบ่งโซนพื้นที่จัดเตียงนอนขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size อยู่กลางห้อง มีตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของและที่วาง TV แบบ Built-In มีแอร์ติดผนังให้ 1 ตัว ถัดไปเป็นพื้นที่สำหรับวางโซฟาริมฝั่งหน้าต่างห้อง และมีการแบ่งพื้นที่สำหรับเป็นระเบียงสำหรับซักล้างค่ะ
ห้องนอนเป็นแบบ studio ใช้วัสดุปูพื้นด้วยพื้นลามิเนตหนา 8 cm. ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.5 ม. ผนังห้องตกแต่งโดยใช้กระจกเงาทำให้ห้องดูกว้างขึ้นเป็นไอเดียนำไปใช้ได้ค่ะ โดยห้องจริงจะไม่มีให้นะค่ะ จะมีแต่ wallpaper ที่มีให้
พื้นที่ด้านหน้าเตียงกับระหว่างชั้นวางทีวีเว้นระยะห่างประมาณ 1.8 เมตร ซึ่งถ้ารวมกับระยะของเตียงนอนอีกประมาณ 2 เมตร รวมเป็น 3.8 เมตร จะเป็นระยะที่เราใช้นอนดูทีวีกันจริงๆ จากระยะนี้เราสามารถเลือกทีวีที่มีขนาดใหญ่ได้ถึง 50″+ เลยค่ะ ข้อเสียของ Layout ห้องนี้คือไม่สามารถวางโซฟาเพื่อดูทีวีได้เพราะมีพื้นที่แคบเกินไป
พื้นที่ทางเดินด้านข้างเตียงนอน เพื่อไปเปิดตู้เสื้อผ้ากว้างประมาณ 60 cm.
พื้นที่ถัดจากตู้เสื้อผ้าสามารถตั้งโต๊ะเครื่องแป้งหรือชั้นวางของได้
ตู้เสื้อผ้าของ Modernfrom แบบบานเลื่อนติดกระจกด้านหน้า มีชั้นวางของด้านบนไว้เก็บของได้
ด้านข้างเตียงอีกฝั่งนึง จะมีพื้นที่กว้างประมาณ 1.2 m. เพียงพอสำหรับตั้งโซฟาขนาดไม่ใหญ่มาก
ในส่วนของวัสดุของผนัง จะเป็นผนังฉาบปูนเรียบติด wallpaper ส่วนฝ้าเป็นยิปซัมบอร์ดฉาบสีเรียบ ชั้นทีวีแบบ Built-in ด้านหน้าเป็นบานเลื่อนสามารถเก็บของด้านในได้
ชั้นวางของแบบ Built-in สามารถวางของชิ้นไม่ใหญ่มากได้
ด้านหลังตู้ทีวี จะมีปลั๊กไฟและช่องเสียบสายโทรศัพท์ ในส่วนของปลั๊กไฟและสวิทช์ไฟใช้ของ Bticino
สำหรับห้อง studio จะมีแอร์ให้ 1 เครื่อง แบบ Split type ของ Daikin
หน้าต่างเป็นบางกรอบอลูมิเนียมสีดำเทา หนา 6 cm. และสูง 1.5 m. รวมวงกบ กระจกบานเปิดเล็กไปหน่อยค่ะ ถ้าไม่เปิดแอร์เปิดแต่กระจกตรงจุดนี้คงไม่ค่อยได้รับลมเท่าไหร่นัก
หน้าต่างบานเปิด มีตัวล็อกด้านล่าง มือจับเป็นแบบก้านโยก
ประตูออกไปส่วนพื้นที่ระเบียงเป็นอลูมิเนียมบานเลื่อนสีดำเทา
มีตัวล็อกกรอบบานประตูแบบก้นหอย
พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิค ผนังฉาบปูนเรียบทาสี พื้นที่ประมาณ 1.8 x 1.8 ม. ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กทำสีดำ พื้นที่ระเบียงขนาดไม่ใหญ่มากสามารถตั้งเครื่องซักผ้าได้ มีก๊อกน้ำให้ 1 จุด แต่ข้อเสียคือจะมีที่ให้ตากผ้าน้อยไปหน่อย
ผนังด้านบนแขวน Compressor แบบเป่าลมร้อนเข้าในระเบียง มีไฟกิ่งให้ 1 ดวง
มาดูห้องน้ำกันต่อค่ะ วัสดุปูพื้นด้วยกระเบื้องเซรามิค ผนังกรุกระเบื้องเซรามิค เช่นกัน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงาของ Mogen
พื้นห้องน้ำลดระดับ 4 cm. ส่วนพื้นมียกธรณีเล็กน้อย พื้นห้องน้ำและธรณีประตูปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 cm.
ชุดโถสุขภัณฑ์ของ MOGEN ชุดอ่างล่างหน้าจาก MOGEN ขนาด 33 x 45 cm.
ชุดอ่างล่างหน้าจาก MOGEN มีช่องเก็บของใต้อ่างล้างมือ มี2ช่อง ช่องเล็กเป็นแบบไม่มีบานประตู
สายชำระและที่แขวนกระดาษทิชชู่
ส่วนอาบน้ำมีบานประตูกระจกมาให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส
พื้นที่อาบน้ำแยกส่วนแห้งและเปียก มีธรณีกั้นสูงขึ้นมาประมาณ 5.5 cm. พื้นที่อาบน้ำขนาด 80 x 90 cm.
อุปกรณ์ชุดอาบน้ำของ Cotto อันนี้โครงการมีให้นะค่ะ กรณีอยากได้น้ำอุ่นก็สามารถติดเครื่องทำน้ำอุ่นเพิ่มได้ค่ะ
อุปกรณ์อื่นในห้องน้ำที่มีให้ เช่น ที่แขวนกระดาษทิชชู , ราวแขวนผ้าติดผนัง , door stopper ติดอยู่ที่กำแพงด้านหลังประตู , พัดลมระบายอากาศ , ปลั๊กไฟแบบป้องกันน้ำให้ 1 จุดและให้ไฟแบบ downlight
ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bed ขนาด 28.48 ตารางเมตร มีจำนวนทั้งหมด 208 ยูนิต ห้องขายแบบ Fully Furnished แบ่งโซนพื้นที่เป็น 5 โซน คือ ห้องน้ำ ครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น และระเบียง เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนรับแขก โดยจะแบ่งพื้นที่โดยมีกระจกกั้นกับส่วนห้องนอน ตั้งเตียงนอนขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size มีตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของและที่วาง TV แบบ Built-In ส่วนครัวจะแบ่งพื้นที่โดยมีประตูบานเลื่อน จัดแบ่งพื้นที่ให้มี Pantry แบบ Built-in ให้ ซึ่งเป็นแบบครัวปิดแล้วช่วยเรื่องกลิ่นได้เยอะเลยค่ะ หันมาทางด้านซ้ายจะเป็นห้องน้ำแยกโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน ในโซนอาบน้ำฝักบัวจะมีประตูบานเปิดใสกั้นไว้ และมีพื้นที่ระเบียงสำหรับซักล้าง
มองจากห้องนั่งเล่นไปยังห้องนอน ตัวห้องใช้วัสดุพื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ในส่วนของวัสดุของผนัง จะเป็นผนังฉาบปูนเรียบติด wallpaper ส่วนฝ้าเป็นยิปซัมบอร์ดฉาบสีเรียบ ระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.5 ม.
จัดแบ่งพื้นที่ห้องนั่งเล่น ไว้กว้างพอสมควร สามารถวางโซฟาแบบ 2 ที่นั่งได้สบายๆ ชุดโซฟาอันนี้โครงการมีให้นะค่ะ แต่โต๊ะตรงกลางอันนี้ไม่ได้ให้ค่ะ
จัดมุมไว้สำหรับตั้งโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง แต่การจัดโต๊ะรับประทานอาหารแบบนี้เหมาะกับการใช้งานจะใช้แบบวางอาหารจานเดียวมากกว่า และนั่งหันหน้าชนกันไม่ได้
ประตูห้อง ใช้บานประตูสำเร็จรูปลายไม้ ขนาด 0.90 x 2.00 เมตร มือจับประตูแบบก้านโยก และ Digital door lock ประตูหน้าของ Yale
ในห้องนั่งเล่น ชั้นทีวีและชั้นวางของ Built-in ด้านหน้าเป็นบานเลื่อนสามารถเก็บของด้านในได้ พื้นที่ถ้านั่งบนโซฟามองไปยังทีวี มีระยะกว้างประมาณ 2.5 เมตร ถ้าใช้ทีวีจอขนาดเล็กแบบห้องตัวอย่าง นี้คงต้องเพ่งสายตากันพอสมควร ยังไงก็เลือกทีวีที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยสัก 50″+ จะได้ดูกันอย่างสบายตา ด้านบนกำแพงฝั่งขวาจะเป็นตำแหน่งของตู้ Breaker ควบคุมระบบไฟฟ้าภายในห้อง
ด้านหลังตู้ทีวี จะมีปลั๊กไฟ , ช่องเสียบสายโทรศัพท์ และสวิทช์ไฟของ Bticino
ประตูเข้าห้องนอนเป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำ ลักษณะการเลื่อนเป็นแบบ 3 บาน มีแอร์ให้สองตำแหน่งคือ ในห้องนอน และห้องนั่งเล่น ส่วนตำแหน่งของ Compressor แอร์ทั้ง 2 เครื่องจะอยู่ที่ระเบียงค่ะ
บานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้อง เป็นกรอบอลูมิเนียมสีดำเทา มีตัวล็อกแบบก้านโยก
ในส่วนของพื้นที่ห้องนอนจะอยู่ด้านในสุดติดกับหน้าต่าง สามารถตั้งเตียง ขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size ได้
เมื่อตั้งเตียงแล้วจะมีระยะด้านข้างทางเดินเหลือด้านละประมาณ 50 cm.
พื้นที่ด้านข้างระหว่างพื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่น กรณีเปิดบานเลื่อนออกจนสุด ก็จะทำให้มีพื้นที่ด้านข้างกว้างขึ้น
ตู้เสื้อผ้าและแอร์ จะได้ของตามแบบในรูปค่ะ โดยห้องแบบ 1 Bed จะมีแอร์ให้ 2 เครื่อง โดยติดภายในห้องนอน 1 เครื่องตามรูป ส่วนอีกเครื่องติดในส่วนห้องนั่งเล่น แอร์ที่ให้เป็นแบบ Split type ของ Daikin ด้านบนผนังด้านขวาเหนือกรอบประตูบานเลื่อน จะเห็นท่อแอร์ที่เดินไปที่ระเบียงที่ติดตั้ง Compressor ซึ่งควรทาสีให้เป็นสีเดียวกับผนังจะดูเรียบร้อยกว่านี้ค่ะ
ลองเปิดลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้ง จะเป็นลิ้นชักเดี่ยว เปิดออกมาจะโล่งๆ สามารถใส่ของเล็กๆน้อยๆได้ ในส่วนของพื้นที่ทางเดินหน้าเตียงตรงหน้าตู้เสื้อผ้าจะกว้างประมาณ 50 cm.และโต๊ะเครื่องแป้งจะกว้างประมาณ 70 cm.
ตู้เสื้อผ้าของ Modernfrom แบบบานเลื่อนติดกระจกด้านหน้า มีชั้นวางของด้านบนไว้เก็บของได้
หน้าต่างเป็นบางกรอบอลูมิเนียมสีดำเทา หนา 6 cm. และสูง 1.5 m. รวมวงกบ
ประตูบานเลื่อนสีขาวมีช่องกระจก ช่วยแยกพื้นที่ห้องครัวให้เป็นสัดส่วนและป้องกันกลิ่นจากการประกอบอาหารเข้ามาใรส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้
รอยต่อระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัวค่ะพื้นห้องครัวเป็นกระเบื้องสีขาว
ชุดครัวของ Modern form แบบ Build-in ชุดครัวนี้จะได้เหมือนๆกันนะค่ะทั้งห้องแบบ studio และ 1 bed
ชุดตู้ลอยของ Modernform สามารถจัดวางของได้หลากหลายตามการใช้งานค่ะ
Top ชุดครัวช้นล่างเป็นหินสังเคราะห์สีขาว แบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นเตา พื้นที่เตรียมอาหารตรงกลาง และอ่างล้างจาน
ชุดเตาพร้อมที่ดูดควัน ของ Franke
อ่างล้างจานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดกลาง อุปกรณ์ก๊อกน้ำของ Franke ลองใส่พวกข้าวของเครื่องใช้ให้ดูเวลาล้าง ขนาดค่อนข้างใหญ่และลึกพอสมควร
ส่วนครัวจะเชื่อมต่อไปยังส่วนระเบียงได้ ข้อดีของการจัดห้องลักษณะนี้คือจะสามารถถ่ายเทและระบายอากาศได้ดี เวลาเตรียมอาหารที่มีควันและกลิ่น
ประตูทางออกระเบียงเป็นบานเลื่อน 1 บาน เลื่อนชิดไปสุดทางด้านขวา ประตูเป็นบานอลูมิเนียมสีดำเทา มีตัวล็อกแบบก้านโยก เหมือนกับส่วนของบานเลื่อนที่กั้นห้องนอนกับห้องนั่งเล่น
พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้องเซรามิค ผนังฉาบปูนเรียบทาสี พื้นที่ประมาณ 1 x 1.6 ม. ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กทำสีดำ ผนังด้านบนแขวน Compressor แบบเป่าลมร้อนเข้าในระเบียง มีไฟกิ่งให้ 1 ดวง ส่วนของคอมแอร์จะมี Fin ระแนงเหล็กบดบังสายตาจากภายนอกเอาไว้ ซึ่งเป็นส่วนนึงของ Facade อาคาร
มีจุดก็อกน้ำให้ 1 ตำแหน่ง ปัญหาเดิมเหมือนห้องที่แล้วคือไม่ค่อยจะมีที่ให้ตากผ้าเลยค่ะ T__T
ในส่วนของห้องน้ำ วัสดุต่างๆจะเหมือนกับห้อง studio เลยค่ะ
พื้นห้องน้ำลดระดับ 4 cm. ส่วนของพื้นห้องน้ำและธรณีประตูปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ชุดอ่างล้างหน้าขนาด 33 x 45 cm. พร้อมกระจกเงาของ Mogen
ชุดโถสุขภัณฑ์ของ MOGEN
ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส
พื้นที่อาบน้ำขนาด 80 x 90 cm. แยกส่วนแห้งและเปียก มีธรณีกั้นสูงขึ้นมาประมาณ 5.5 cm.
อุปกรณ์ชุดอาบน้ำของ Cotto เหมือนกันกับห้องแบบ Studio
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 15 Aug 2015
- Studio เนื้อที่ 22.35 ตร.ม. ราคา 2.4 – 2.82 ล้านบาท หรือ 107,382 – 126,174 บาท/ตร.ม.
- 1 Bed S,L,XL เนื้อที่ 28.48 / 35.69 / 37.57 ตร.ม. ราคา 3.01 – 4.47 ล้านบาท หรือ 105,688 – 118,977 บาท/ตร.ม.
- 2 Bed เนื้อที่ 45.49 ตร.ม. ราคา 5.58 ล้านบาท หรือ 122,664 บาท/ตร.ม.
- Fully Furnished
- เพดานสูง 2.5 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง studio 5,000 บาท / 1 Bed 10,000 / 2 Bed 20,000 (รวมทำสัญญา)
- โอนได้เลยไม่ต้องผ่อนดาวส์ เนื่องจากโครงการสร้างเสร็จแล้ว
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 45 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
Condolette Pixel ถือว่าเป็นทำเลที่อยู่ใกล้ใจกลางเมือง ตั้งอยู่ในพื้นที่ย่านพระราม 4 – สาทร จุดเด่นคือใกล้กับย่านธุรกิจกลางเมืองเพราะอยู่ใกล้อาคารสำนักงาน ที่ตั้งของโครงการเป็นย่านชุมชนเดิมค่อนข้างความหนาแน่น อาคารโดยรอบเป็นอาคารแบบ Low Rise ส่วนในเรื่องสาธารณูปโภลและสาธารณูปการก็มีอยู่พร้อมรอบๆโครงการ ทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ตัวโครงการเข้าซอยไม่ลึกมากและสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ได้จากทั้งสองสถานี คือ ลุมพินี และคลองเตย
เส้นทางเดินทางของโครงการ ถือเป็นจุดเด่นที่สามารถเดินทางไปทะลุยังถนนสายหลักได้ถึง 4 สาย ได้แก่ ถนนสาทร , ถนนพระราม 4 ,ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และ ถนนเชื้อเพลิง แต่ถนนค่อนข้างเล็กเนื่องจากเป็นถนนซอยพื้นผิวจราจรแบ่งเป็นสองเลนสวนทางกัน ไม่มีทางเท้า จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการขับรถ และการเดินเท้าของผู้สัญจรไปมา ปัญหาหลักๆน่าจะเป็นเรื่องรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วน ปริมาณรถที่ใช้ถนนในซอยแถวนี้เป็นทางลัดค่อนข้างเยอะทำให้รถติดหนักเป็นช่วงๆ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถจากปากซอยสุวรรสวัสดิ์เพื่อเข้าสู่โครงการจะใช้ระยะทางประมาณ 600 เมตร แต่ถ้าต้องเดินจาก MRT จากทั้งสองสถานี คือ ลุมพินี และคลองเตย จะใช้ระยะทางรวมประมาณ 1-1.1 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าค่อนข้างไกล ทางที่ดีคือ เมื่อขึ้นมาจาก MRT แล้วอาจเดินจนถึงปากซอยสุวรรณสวัสดิ์แล้วมาต่อวินมอเตอร์ไซด์ก็สามารถลดเวลาและไม่เหนื่อยมากเกินไป หรืออาจจะขึ้นวินมอเตอร์ไซด์จาก MRT เลยก็ได้เพื่อความสะดวก
การออกแบบของโครงการจากที่ดินประมาณ 3-0-74.8 ไร่ จัดวางผังอาคารไว้เต็มพื้นที่ของที่ดิน จัดห้องได้ 345 units ซึ่งก็ไม่ดูหนาแน่นจนเกินไป วางผังโครงการให้พื้นที่ส่วนกลางใช้ร่วมกันตรงกลางของพื้นที่โครงการ มีการแบ่งพื้นที่ทำเป็นอาคารจอดรถที่ออกแบบพื้นที่ใช้งานไม่ว่าเป็นทางขึ้นลงที่ค่อนข้างกว้าง แต่ตอนสวนกันช่วงโค้งระวังหน่อย ถ้าฝนตกก็อาจจะต้องเดินตากฝนเพื่อมาเข้าอาคาร เพราะตลอดแนวทางเดินเป็นแบบเปิดโล่งไม่มีหลังคาให้ ในส่วนของการออกแบบหน้าตาอาคารยังเป็นไปตาม Concept ของโครงการชัดเจน คือการดึงเอา รูปทรงเรขาคณิต เส้น จุดและระนาบ มาใช้ในการออกแบบ
การออกแบบห้อง สำหรับห้องที่มีขนาดพื้นที่ต่ำกว่า 30 ตร.ม.การจัดวางพื้นที่ใช้งานภายในให้จะลงตัวค่อนข้างยาก เนื่องจากพื้นที่เล็กการตอบสนองต่อ Function เลยทำได้น้อย ยกตัวอย่างห้อง Studio 22 ตร.ม. เมื่อวางเตียงขนาด 5 ฟุต ก็แทบจะเต็มพื้นที่แล้วหากต้องการนั่งดูทีวีจะไม่สามารถวางโซฟาเพิ่มลงไปได้เพราะระยะการดูทีวีจะใกล้เกินไปต้องอาศัยการนั่งบนเตียงในการดูแทน ครัวที่ได้ก็จะเป็นครัวเปิดเหมาะกับการทำอาหารเบาๆ แต่ถ้าเป็นห้อง 28 ตร.ม.ก็จะได้ครัวแบบปิด
วัสดุอุปกรณ์ของที่ให้มา ถือว่าอยู่ในระดับดีตามมาตรฐาน ข้อดีคือเป็นโครงการที่ให้เฟอร์นิเจอร์ใช้งานหลักๆภายในห้องครบถ้วน ซึ่งดีกับกลุ่มผู้ซื้อที่ไม่ชอบไปเลือกซื้อเฟอนิเจอร์เข้าห้อง ยิ่งถ้าเทียบโครงการที่เปิดใหม่ในช่วงนี้แล้วถือว่า ได้ของคุ้มค่าแล้วค่ะ ในส่วนของการเก็บงานภายในห้อง การเดินท่อแอร์ไปยัง Compressor ที่ระเบียงควรทาสีให้เป็นสีเดียวกับผนังห้องจะดูเรียบร้อยกว่านี้ Top เคาน์เตอร์ครัวได้หินสังเคราะห์ พื้นห้องได้ลามิเนตส่วนครัวถ้าเป็นครัวปิดถึงจะได้พื้นเป็นกระเบื้อง ชุดครัว Modernform Hob กับ Hood และอ่างล้างจานได้ของ Franke
สาธารณูปโภคของโครงการ Condolette Pixel ถือว่าเป็น Facility พื้นฐานที่โครงการคอนโดทั่วไปค่ะ ซึ่งลองดูจากขนาดและพื้นที่ใช้งานทั้ง สระว่ายน้ำ Fitness และ Library ดูจะเล็กไปหน่อย ส่วนของห้องน้ำของ Fitness ที่อยู่เลยมาทางด้านข้าง เป็นห้องน้ำธรรมดาไม่มีห้องอาบน้ำ จริงๆแล้วน่าจะจัดให้มีห้องอาบน้ำให้สัก 1-2 ห้องก็ยังดี มีส่วนที่เป็นล็อกเกอร์สำหรับเก็บของระหว่างอาบน้ำ จะได้ดูครบและสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ลิฟท์ทั้ง 2 อาคารให้ลิฟท์ 2 ตัวเท่ากัน เมื่อเทียบอัตราส่วนแล้ว ของอาคาร A 58 : 1 และอาคาร B 114 : 1 ดูต่างกันเกือบครึ่ง คนอยู่อาคาร A คนใช้งานกันแบบสบายๆ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 101,000 บาท/ตร.ม., 15 Aug 2015
- ทำเล 8.0 /10 – ทำเลใจกลางเมือง ใกล้แหล่งธุรกิจย่านทำงานสำคัญ มีความอุดมสมบูรณ์ดี แต่พื้นที่ชุมชนค่อนข้างหนาแน่น และเข้าซอยลึก
- เดินทางด้วยรถ 8.0/10 – มีเส้นทางให้เลือกใช้หลายเส้นทางและใกล้กับทางขึ้น-ลงทางด่วน แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนรถจะติ
ดสะสมในซอยเยอะหน่อย และที่จอดรถน้อยไป - ไม่ใช้รถ 7.0/10 – สภาพทางเดินในซอยที่มาจาก MRT ไม่เหมาะกับการเดิน เพราะไม่มีทางเท้าให้เดินต้องเดินตามไหล่ถนนแทน
- วัสดุ 7.5/10 – เป็นวัสดุมาตรฐานทั่วไป ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished พร้อมใช้งานในชีวิตประจำได้เลย แต่ถ้าห้องที่มีขนาดเล็กจะลำบากเรื่องการใช้พื้นที่และการจัดวางของต่างๆในห้อง
- แบบ 7.5/10 – ลักษณะภายนอกโครงการมี Design Concept ชัดเจนทันสมัย น่าอยู่อาศัย แต่ในส่วนของห้องที่มีขนาดเล็ก ก็จะใช้งานจริงได้แต่ค่อนข้างอึดอัด ความหนาแน่นกลางๆ แต่ตึก A จะหนาแน่นน้อยกว่าครึ่งนึงเลย
- สาธารณูปโภค 7.0/10 มีมาให้ครบตามมาตราฐานทั่วไปแต่เล็กไปหน่อย
- UPPER CLASS
- 7.63 / 10.00
BOTTOM LINE
CONDOLETTE PIXEL จัดเป็นโครงการที่เหมาะกับกลุ่มคนที่ทำงานในย่านสาทร, สีลม, พระราม4 หรือต้องการอยู่ในเขตเมือง เหมาะกับกลุ่มผู้อยู่อาศัยประเภทเริ่มสร้างครอบครัวขนาดเล็ก ไม่เน้นเรื่องวิวจากห้องพักมากนัก เน้นการใช้รถเป็นประจำหรือใช้บริการ MRT ในส่วนของเส้นทางขับรถจากโครงการสามารถทะลุไปถนนสายหลักอื่นๆได้หลายสาย ช่วยลดเวลาในการเดินทาง ระดับราคาถือว่าไม่แพงมากในย่านนี้อาจจะซื้อไว้เพื่อการลงทุนหรือซื้อไว้เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 สำหรับคนมีบ้านอยู่รอบนอกกรุงเทพ ที่ไม่อยากเสียเวลากับการเดินทางเข้าเมืองมาทำงาน สำหรับผู้ที่สนใจนคงต้อง มีงบประมาณ 2.4 -5.5 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 17,000-39,000 บาท ลองพิจารณากันดูนะค่ะ
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/