รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ Dcon Prime รัตนาธิเบศร์ คอนโด High Rise วิวแม่น้ำเจ้าพระยา บนถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้รถไฟฟ้า ไทรม้า จาก Orrada [รีวิวฉบับที่ 1843]

5 เมษายน 2019

อ่านรีวิวล่าสุด

รูปเปิดลงเว็ป

รีวิวฉบับที่ 1012 … สวัสดีครับวันนี้พาไปรีวิวคอนโด แนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่กำลังจะทดลองเปิดให้ใช้ในเร็ววันนี้แล้วชื่อโครงการว่า Dcon Prime รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโด High Rise ที่สูง 38 ชั้น จาก บริษัท อรดา จำกัด ตัวโครงการอยู่ติดกับสถานี MRT ไทรม้าเลย อยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ช่วงเลยสะพานพระนั่งเกล้ามุ่งหน้าออกเมืองมานิดเดียว ตามมาชมกันเลยครับ

Fact @ 22 January 2016

  • Dcon Prime Rattanathibet (ดีคอน ไพร์ม รัตนาธิเบศร์)
  • บริษัท อรดา จำกัด
  • ECONOMY-MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • โครงการตั้งอยู่ บนถนนรัตนาธิเบศร์ เขตเมืองนนทบุรี
  • คอนโด High Rise 38 ชั้น 1 อาคาร 638 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต
  • ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 22 ยูนิต
  • ที่จอดรถรวมจอดซ้อนคันประมาณ 199 คันคิดเป็น 31%
  • ที่ดินประมาณ 2-1-16 ไร่
  • เริ่มก่อสร้าง : ต้นปี 2559
  • คาดว่าจะแล้วเสร็จ : มกราคม 2561
  • 1 Bedroom 26.58 – 32.50 ตร.ม. 
  • 2 Bedrooms 48.25 – 60 ตร.ม. 
  • ฝ้าเพดานสูง 2.60 เมตร
  • ราคาห้องเริ่มต้น 1.65 ล้านบาท เฉลี่ย 62,500 บาท/ตร.ม.
  • ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 75,000 บาท/ตร.ม.
  • ราคาต่อตารางเมตรสูงสุด 88,500 บาท/ตร.ม.
  • EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
  • เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
  • โทร  : 02-195-8291-3

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ


เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด :13.871124, 100.467146

แผนที่โครงการ

แผนที่จากทางโครงการครับ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่อย่างรัตนาธิเบศร์ และแสดงให้เห็นถึงแนวของรถไฟฟ้าสายสีม่วง และสายสีชมพูในอนาคต ตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ติดสถานีไทรม้าเลย

แผนที่ระยะไกล

Dcon Prime รัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บน ถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ตามชื่อพ่วงท้ายตั้งอยู่ระหว่างจุดสำคัญใหญ่อย่างสะพานพระนั่งเกล้า และก็แยกรัตนาธิเบศร์ตัดกับราชพฤกษ์ ซึ่งถ้าจะเข้าตัวเมืองนนทบุรี ศูนย์ราชการ แยกแคราย ขึ้นทางด่วน ก็ไปทางสะพานพระนั่งเกล้า ส่วนแยกที่ตัดราชพฤกษ์ลงใต้ไปจะเข้าเมืองไปทางบรม, เพชรเกษม, ตากสิน และสาทรได้ ระหว่างทางก็จะเป็นแหล่งรวมร้านอาหารของหวานความเก๋เต็มไปหมด รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ดังๆด้วย ถ้าขึ้นเหนือฝั่งราชพฤกษ์จะไปทางชัยพฤกษ์และบางบัวทอง-บางคูวัดที่ไปสุพรรณบุรีและปทุมธานีได้นั่นเอง

แต่ถ้าอยากจะชิคๆเก๋ไปห้างเปิดใหม่อย่าง Central Westgate บริเวณสามแยกบางใหญ่ ตลาดบางใหญ่ ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากเป็นพิเศษเต็มไปหมดในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดแล้วก็ง่ายเลยนะ ตอนนี้ก็ขับรถหรือนั่งรถเมล์ไปก่อนนะครับ 😀 ส่วนตลาดที่ดังๆในละแวกนี้ก็มีตลาดบางบัวทอง และก็ตลาดเจ้าพระยาที่ตั้งอยู่บนถนนบางกรวยไทรน้อยทั้งคู่เลย แต่ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะรัศมี 3 กิโลเมตรจะไม่มีห้างใหญ่ ตลาดใหญ่นะ จะมีก็แต่ตลาดนัดเล็กๆตามหน้าหมู่บ้าน แล้วก็มินิมาร์ทอย่างพวก 7-11, Family Mart, BigC mini และ Lotus Express

รูปประกอบ-1

ความอุดมสมบูรณ์แหล่งช้อปปิ้ง ห้างร้านค้าใหญ่ นับตั้งแต่ข้ามสะพานพระนั่งเกล้ามาแล้ว ดูจะไม่ค่อยคึกคักเท่าไร ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนอยู่อาศัยแนวราบซะมากกว่า ความนิยมของคอนโดยังไม่ค่อยมากนักเท่ากับช่วงยังไม่ข้ามสะพานพระนั่งเกล้ามา เนื่องจากบริเวณนี้ยังมีที่ดินเปล่าที่ยังไม่ได้พัฒนาอีกมาก ทั้งถนนหลักถนนซอยนั้นมีประกาศที่ดินเปล่าอยู่เยอะ และราคายังไม่สูงมากเท่ากับฝั่งของตัวเมือง อีกหน่อยพอสถานีรถไฟฟ้าเปิดใช้บริการ ก็จะรองรับการเดินทางระบบรางลอยฟ้าเพิ่มขึ้นอีก ตลาดอยู่อาศัยของคอนโดคงจะเพิ่มขึ้นมากกว่านี้

แผนที่รถไฟฟ้า-1

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งจะเปิดให้ “ทดลองใช้ฟรี” ประมาณเดือนพฤษภาคมปีนี้ และคาดว่าจะเปิดให้ใช้จริงตามปกติประมาณเดือนสิงหาคมครับ ตัวโครงการนั้นตั้งอยู่ติดสถานีไทรม้าก็จริง แต่กว่าอยู่กึ่งกลางของสถานีเลย ทำให้ต้องเดินไปขึ้นบันไดสถานีทั้งสองฝั่งซ้ายและขวาในระยะใกล้ๆกันคือประมาณ 120 เมตร แต่ทางโครงการเคลมว่าระยะ 100 เมตรนะครับ

แผนที่รถเมลล์

ส่วนการเดินทางสาธารณะอย่างอื่นนอกจากรถไฟฟ้า รอบๆโครงการไม่มีพี่วินเท่าไร พี่วินจะไปอยู่บริเวณแยกไทรม้า ส่วนรถเมล์ก็ไม่ใกล้ไม่ไกลมากประมาณ 180 เมตร ตรงป้ายซอยตาหรั่งแต่ถ้ามาฝั่งตรงข้ามก็จะไกลขึ้นอีกหน่อย ตัวโครงการติดถนนหลักทำให้เรียก Taxi ได้ง่ายทีเดียว ส่วนสุดท้ายรถตู้เข้าเมืองซึ่งวิ่งผ่านถนนหลักอย่างรัตนาธิเบศร์อยู่แล้วก็สามารถจอดรับขึ้นที่หน้าโครงการได้เลย

แผนที่การเดินทางวันนี้

การเดินทางในวันนี้ ผมมาจากในตัวเมือง วิ่งมาจากถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าออกเมือง ตรงยาวๆเลย ข้ามแยกแครายเปลี่ยนเป็นถนนรัตนาธิเบศร์ ตรงอย่างเดียวผ่านหน้าศูนย์ราชการนนทบุรี เซ้นทรัลรัตนาธิเบศร์ และก็ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า พอลงสะพานมาก็จะเจอ MRT สถานีไทรม้า ให้เราเบี่ยงออกทางขนานไว้เตรียมกลับรถ พอกลับรถมาแล้วให้ชิดซ้ายเอาไว้ ตรงมานิดเดียวก็ถึงตัวโครงการตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างบันไดขึ้นสถานีทั้งสองฝั่ง

ผมมาเริ่มจากถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าขาออกจะไปรัตนาธิเบศร์ ผ่านหน้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วานและจุดขึ้นลงทางด่วนมาแล้ว ก็จะเจอกับแยกแคราย แยกที่ขึ้นชื่อว่าอภิมหารถติดครับ เราชิดเลนขวาขึ้นสะพานข้ามแยกไปเลย

พอลงสะพานข้ามแยกแครายมาแล้วฝั่งตรงข้ามทางขวามือจะเจอกับห้างเอสพลานาดและ Tesco Lotus ครับ

และก็จะเริ่มเห็นรางรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่โค้งมาบรรจบกับถนนรัตนาธิเบศร์

ผ่านสถานีศูนย์ราชการนนทุบรีครับ

สถานีถัดไปคือบางกระสอ (แต่เดิมตอนแรกตั้งว่าสถานีศรีพรสวรรค์) ทางลงสถานีมี BigC ด้วย

หลังจากนั้น จะเห็นห้างหลักของคนแถวนี้คือ เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และ Index Living Mall อยู่ฝั่งตรงข้าม

พอพ้นเซ็นทรัลจะเจอกับสถานีแยกนนทบุรี 1

เราต้ามป้ายบางบัวทองกาญจนาภิเษกเอาไว้ก่อนนะครับ เดี๋ยวจะขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา

เราขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาแล้วนะครับ ทางซ้ายมือเป็นบริเวณที่ตั้งสถานี อยู่สูงน่าดูเลย ระหว่างรอรถไฟฟ้าก็ชมวิวไปเล่นๆ

ช่วงกำลังจะลงสะพานจะเห็นสถานีไทรม้าอยู่ไกลๆ ทางขวามือเป็นคอนโด High Rise Rich Park@เจ้าพระยา สูง 33 ชั้นที่สร้างจะเสร็จแล้ว

พอลงมาแล้วให้เบี่ยงซ้ายออกทางขนานนะครับ

เบี่ยงออกมาเลนขนานแล้ว  จะเจอกับสถานีไทรม้า ทางซ้ายมือเป็นโชว์รูม Izuzu

ผ่านหน้าปั๊ม Esso มุ่งหน้าต่อ

ทีนี้เดี๋ยวจะเจอสะพานข้ามแยกไทรม้า ให้เราชิดซ้ายไว้ไม่ขึ้นสะพาน เพื่อจะกลับรถครับ

กลับรถชิดขวาสุด ถ้าเลยไปนิดหน่อยจะเป็นสี่แยกไฟแดงไทรม้า

พอกลับรถลอดใต้สะพานทางซ้ายมือจะเป็นแนวอาคารพาณิชย์ ที่เป็นพวกร้านต่างๆ

ขับต่อมาอีกหน่อยจะผ่านหน้าโครงการแนวราบ perfect masterpiece

หลังจากนั้นจะเห็นตัวทางขึ้นสถานีไทรม้า ทางซ้ายมือเป็นปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส

ตัวที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจากบันไดทางขึ้นสถานีที่ผ่านมาประมาณ 130 เมตร และบันไดทางขึ้นอีกอัน(ที่เห็นมองตรงไป) ก็ห่างไปประมาณ 120 เมตร เรียกว่าอยู่กึ่งกลางของตัวสถานี

 ด้านหน้าที่ดินโครงการติดถนนตอนนี้เป็น Sale Office หน้าตาแบบที่เห็น อนาคตถ้าโครงการสร้างเสร็จแล้วจะมีการรื้อถอนออกครับ

แผนที่ระยะประชิด**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะครับ

มาดูบริบทโดยรอบกันบ้าง ตัวโครงการ Dcon Prime นั้นตั้งอยู่ติดสถานีไทรม้าก็จริง แต่อยู่กึ่งกลางระหว่างบันไดทางขึ้นลง ห่างไปซ้ายขวาฝั่งละประมาณ 120 เมตร (แต่ทางโครงการเคลมว่าระยะ 100 เมตรนะครับ) ในแผนที่แสดงถึงจุดกลับรถที่ใกล้ที่สุดของโครงการเอาไว้ให้ดูด้วยนะครับ

ฝั่งทิศใต้คือฝั่งที่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์จะเป็นแนวสถานี มองไปไกลอีกนิดนึงก็จะเป็นแนวอาคารพาณิชย์และอพาร์ทเมนท์ที่สูงไม่เกิน 5 ชั้น และก็ D คอนโดรัตนาธิเบศร์ 8 ชั้น ถ้าสูงเกินชั้น 15 ขึ้นไปจะเห็นเป็นแนวบ้านพักอาศัยหมู่บ้านแนวราบและก็ที่ดินเปล่าสีเขียวที่ยังพัฒนาได้อีก ฝั่งทิศตะวันตกเรียกว่าไม่มีอะไรมาบังเลย เป็นวิวเมืองเห็นหลังคาบ้านที่อยู่อาศัยแนวราบธรรมดา ช่วงบ่ายก็จะร้อนเป็นพิเศาหน่อยเพราะได้รับแดดบ่ายเต็มๆ ถัดมาฝั่งทิศเหนือถ้าในระยะประชิดจะเป็นที่ดินเปล่าของคนอื่น มองไกลไปอีกนิดนึงจะเห็นหลังคาบ้านของโครงการลัดดารมณ์ แอบเห็นแม่น้ำเจ้าพระยานิดๆ สุดท้ายทิศตะวันออกฝั่งที่เห็นแม่น้ำเจ้าพระยา แต่จะเรียกว่าเห็นเต็มๆก็ไม่ได้ เพราะมีโครงการรุ่นพี่อย่าง RichPark@เจ้าพระยาที่สูง 33 ชั้นสร้างใกล้จะเสร็จแล้วมาบังเอาส่วนนึงแต่ก็ไม่ได้ติดประชิดกันขนาดนั้นนะห่างกันประมาณ 250 เมตรครับ ใครที่ชอบวิวแม่น้ำเจ้าพระยาคิดว่าฝั่งนี้ก็ยังดีหาตำแหน่งห้องที่หลบๆหน่อยได้

วิวประกอบ

รูปบรรยากาศจำลองโครงการจะเห็นว่าด้านที่โดนอาคารสูงบังมีด้านเดียวอย่างที่บอกไปคือทิศตะวันออก แต่ห่างออกไปประมาณ 250 เมตร

ฝั่งทิศเหนือถ้าในระยะประชิดจะเป็นที่ดินเปล่าของคนอื่น มองไกลไปอีกนิดนึงจะเห็นหลังคาบ้านของโครงการลัดดารมณ์ แอบเห็นแม่น้ำเจ้าพระยานิดๆ

ตะวันออก

ทิศตะวันออกฝั่งที่เห็นแม่น้ำเจ้าพระยา แต่จะเรียกว่าเห็นเต็มๆก็ไม่ได้ เพราะมีโครงการรุ่นพี่อย่าง RichPark@เจ้าพระยาที่สูง 33 ชั้นสร้างใกล้จะเสร็จแล้วมาบังเอาส่วนนึงแต่ก็ไม่ได้ติดประชิดกันขนาดนั้นนะห่างกันประมาณ 250 เมตรครับ ใครที่ชอบวิวแม่น้ำเจ้าพระยาคิดว่าฝั่งนี้ก็ยังดีหาตำแหน่งห้องที่หลบๆหน่อยได้

ใต้

ฝั่งทิศใต้คือฝั่งที่ติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์จะเป็นแนวสถานี มองไปไกลอีกนิดนึงก็จะเป็นแนวอาคารพาณิชย์และอพาร์ทเมนท์ที่สูงไม่เกิน 5 ชั้น และก็ D คอนโดรัตนาธิเบศร์ 8 ชั้น ถ้าสูงเกินชั้น 15 ขึ้นไปจะเห็นเป็นแนวบ้านพักอาศัยหมู่บ้านแนวราบและก็ที่ดินเปล่าสีเขียวที่ยังพัฒนาได้อีก

ตะวันตก

ฝั่งทิศตะวันตกเรียกว่าไม่มีอะไรมาบังเลย เป็นวิวเมืองเห็นหลังคาบ้านที่อยู่อาศัยแนวราบธรรมดา ช่วงบ่ายก็จะร้อนเป็นพิเศาหน่อยเพราะได้รับแดดบ่ายเต็มๆ

  • สามารถทดลองเล่นชมพาโนรามาวิว ได้จากทาง Office Website โครงการ คลิกที่นี่

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

  • ตลาดเจ้าพระยา, ตลาดสดดอนพรหม, ตลาดบางบัวทอง
  • บางใหญ่ไนท์พลาซ่า, ตลาดกลางบางใหญ่
  • Homepro+BigC บางใหญ่
  • Central Plaza Westgate 8.2 กม.
  • Central รัตนาธิเบศร์ + Index Living Mall
  • The Walk, The Crystal, Home Pro (ราชพฤกษ์)
  • รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์
  • โรงพยาบาลการุณเวช รัตนาธิเบศร์
  • อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก

 


เจาะลึกตัวโครงการ

VDO Presentation แนะนำโครงการจากทาง Orrada ครับ สามารถเข้าไปดูประกอบได้

ทางเดินทางเข้าด้านหน้า Sale Office

ด้านข้างตกแต่งด้วยน้ำพุเล็กๆแบบนี้ตลอดทางเดิน

เข้ามาข้างในบรยากาศจะโปร่งโล่งหน่อย เนื่องด้วยว่าเป็น Double Space จะเจอกับโมเดลของโครงการก่อนทางซ้ายมือ และก็ Reception ที่มีเซลล์ให้สอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดตัวโครงการ

ทางขวามือเป็นชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับส่วนผู้มาติดต่อ มีบันไดทางขึ้นไปชั้นบน ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องตัวอย่าง

โมเดลของโครงการสเกลค่อนข้างใหญ่ ครอบไว้ด้วยอะคริลิคใส สูงรวมประมาณ 2 เมตรนิดๆ ห้องฝั่งที่เรามองไปเนี่ยเป็นฝั่งของห้องที่ได้รับวิวทิศตะวันออก

ส่วนฝั่งนี้เป็นห้องแนวทิศตะวันตกที่จะได้รับแดดยามบ่าย ตัวอาคารเป็นรูปตัว L

เริ่มจากทางเข้าโครงการซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางของสถานีไทรม้า แต่เวลาจะเดินไปขึ้นสถานี บันไดทางขึ้นทั้งฝั่งซ้ายและขวาจะอยู่ห่างไปประมาณ 120 เมตร ก็ยังเป็นระยะที่สามารถเดินได้สบายๆ ด้านหน้าโครงการปัจจุบันเป็นอาคาร Sale Office อยู่แต่ถ้าโครงการสร้างเสร็จแล้วจะทำการรื้อถถอนออกตามแบบในโมเดล

การเดินรถเป็นแบบวันเวย์เดินรถรอบอาคาร ตามลูกศร พอเลี้ยวซ้ายเข้ามาแล้วจะเจอทางเข้าอาคารซึ่งเป็นจุด Drop Off บริเวณนี้ด้วย ด้านหน้าตกแต่งด้วยนำ้พุเล็กๆหลายจุด

ซึ่งชั้น 1 นั้นจะมี Lobby และ Facility บางส่วนอย่างห้องอ่านหนังสือ shop ร้านค้า ส่วนด้านหลังเป็นทางเข้า-ออก อาคารในส่วนที่จอดรถซึ่งสูงถึงชั้นที่ 6 ส่วนชั้น 7 ที่เป็นพื้นที่ระหว่างตัว L ของอาคารจะเป็นชั้น Facility อีกจุดนึงซึ่งประกอบไปด้วย สระน้ำตื้น, สระเด็ก และสวนหย่อม

อ้อมมาที่หลังอาคารเดินรถทางเดียวตามปกติ จะเห็นว่าชั้น 1 ก็มีช่องจอดรถสามารถจอดได้

ฝั่งนี้(ทิศตะวันออก) มี Shop ร้านค้า 3 ร้าน ที่เห็นเป็นห้องกระจก

ตัวอาคารจะใช้โทนสีเทาอ่อนเข้มสลับกัน และตัดด้วยสีขาวทำให้ไม่ดูทึบไปหมดทั้งอาคาร ทุกห้องระเบียงจะมีระแนงเหล็กเอาไว้บังคอมแอร์

บริเวณ Facilities โครงการจะอยู่ที่ชั้น 36-38 และชั้นดาดฟ้าของโครงการ โดยชั้น 36 จะมี Facilities ได้แก่ Sky Lounge, ห้องซาวน่า ส่วนชั้น 37 จะมี ห้อง Fitness, สระว่ายน้ำระบบเกลือ(Infinity Edge Pool) กว้าง 6.80 x 23.50 เมตร ลึก 1.2 เมตร และจากุชชี่ ส่วนชั้นบนเป็นสวนลอยฟ้า และมีลานจอดเฮลิคอปเตอร์

ถ่ายมุมสูงให้ดูอีกสักรูปครับ

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกโครงการ

ภาพจำลองบรรยากาศภายนอกโครงการ

ภาพจำลองบรรยากาศภาย บริเวณทางเข้าด้านหน้าโครงการ

MIX_OUTDOOR LOBBY2 - Copy

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ส่วน Outdoor Lobby ทางเข้าด้านหน้า

MIX_LOBBY2

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ Lobby ชั้น 1

MIX_LIBRARY2 - Copy

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ Library ชั้น 1

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ชั้น 7 สวนน้ำตื้น, สระเด็ก, สวนหย่อม

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ชั้น 7 สวนน้ำตื้น, สระเด็ก, สวนหย่อม

LOUNGE_1

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ชั้น 36 Sky Lounge

LOUNGE_2

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ชั้น 37  Sky Lounge

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ชั้น 37 Infinity Edge Pool (ระบบเกลือ)

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ชั้น 37 Infinity Edge Pool (ระบบเกลือ)

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ชั้น 37 Sky Fitness

MIX_FITNESS - Copy

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ชั้น 37 Sky Fitness

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ชั้น 37 Sky Fitness

ภาพจำลองบรรยากาศภายในโครงการ ชั้น 38 Sky Garden

มาดูที่ Master Plan โครงการกันครับ หน้าโครงการตั้งอยู่ติดถนนรัตนาธิเบศร์ เมื่อเข้าโครงการลักษณะการวนรถจะเป็นแบบวันเวย์(ดูตามลูกศร) เลี้ยวซ้ายแล้ววนรอบอาคารมา จะเจอในส่วน Drop Off (จุดรับ-ส่งผู้โดยสาร) รอบๆตกแต่งด้วยน้ำพุ ก่อนที่จะเข้าสู่ภายในอาคาร ในชั้นล่างนี้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ คือด้านหน้าจะเป็น Lobby shopร้านค้า ห้องอ่านหนังสือ ห้องนิติบุคคล ส่วนด้านหลังเป็นทางเข้าที่จอดรถ

ในส่วนภายในอาคารจะเจอกับ Lobby โครงการก่อน ซึ่งมีทั้ง Outdoor และ Indoor ด้านหลัง Lobby จะเป็น Library, ห้องนิติบุคคล และส่วน Shop ร้านค้า 3 unit ส่วนส่วน Mail Box อยู่ติดกับโถงลิฟท์ทางขึ้นอาคาร โดยต้องสแกนเข้าด้วย Key Card โครงการมีจำนวนยูนิตทั้งหมด 638 Unit มีลิฟท์โดยสาร 3 ตัว และ Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์จะอยู่ที่ 212 : 1 ถือว่ามากอยู่เหมือนกันนะครับ

ในชั้น 2  นี้เป็นชั้นจอดรถ แต่แค่ครึ่งชั้นเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่บางส่วนเป็นส่วนของ Double Volume จากโถง Lobby โดยเมื่อจอดรถเสร็จก็สามารถสแกนบัตรเข้าโถงลิฟต์แล้วขึ้นห้องพักตัวเองได้เลย อ้อ ชั้นนี้มีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ด้วยนะครับเป็นช่องจอดประมาณ 40 คัน

ในชั้น 3 – 6 นี้เป็นชั้นจอดรถทั้งชั้นครับ โดยที่จอดรถนั้นมีช่องจอดทั้งหมดประมาณ 140 คันคิดเป็น 22% รวมจอดซ้อนคันเพิ่มอีก 59 คัน คิดเป็น 31%  ด้วยจำนวนที่จอดรถเท่านี้อาจจะไม่เพียงพอเท่าไหร่นะ แต่ก็ยังหักลบไปได้บ้างนิดหน่อยกับความสะดวกในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า

ชั้น 7  นี้เป็นเริ่มเป็นชั้นพักอาศัยทั้งชั้น โถงทางเดินเป็นรูปตัว L ตามทรงอาคาร มีหน้าต่างช่องแสงส่องเข้ามา Corridor ได้ 2 จุด และมีบันไดหนีไฟทั้งหมด 2 จุดเช่นกัน ชั้นนี้มีส่วนของ Facilty อยู่ด้วยมี Pool Garden(สวนน้ำตื้น), สระเด็ก และสวนหย่อมให้สามารถเดินเล่นได้ ซึ่งเมื่อออกมาจากโถงลิฟต์แล้วจะเชื่อมกับทางออกไปส่วนกลางได้เลย สำหรับห้องพักที่อยู่ติดกับส่วนกลางนั้นก็จะได้วิวจากพวกนี้ แต่ก็ต้องแลกกับความส่วนตัวที่ลดลงเวลาใครเดินผ่านไปมาแล้วเราเปิดม่านเอาไว้

ชั้น 8 – 30 เป็นชั้นที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุด โดยความหนาแน่นของจำนวนยูนิตชั้นนี้อยู่ที่ 22 ยูนิต ด้วยจำนวนความหนาแน่นของลิฟท์อยู่ที่ 212 : 1 อาจจะทำให้ลูกบ้านต้องยืนรอต่อคิวขึ้น-ลงลิฟต์นานในช่วงเวลาเร่งด่วน ส่วนลิฟต์ Service ของโครงการมีให้ได้ 1 ตัว ในเรื่องของตำแหน่งโถงลิฟต์วางได้เหมาะสม เพราะอยู่ตรงกึ่งกลางพอดี

ชั้น 31 – 35 เหมือนกันกับชั้นด้านล่าง แต่จะมีห้อง Type 2 Bedroom เพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนยูนิตต่อชั้นลดลงเหลือ 20 ยูนิต

ชั้น 36 เป็นชั้นที่มีห้องพักอาศัยและ Facility ได้แก่ Sky Lounge, ห้องซาวน่า และมีพื้นที่ส่วนนึงเป็นส่วนของห้องงานระบบสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้นบน ความหนาแน่นชั้นนี้อยู่ที่ 10 ยูนิต

ชั้น 37 เป็น Main Facility ที่ประกอบไปด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ(Infinity Edge Pool) กว้างประมาณ 6.8 x 23.50 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีอ่างจากุชชี่, Sky Fitness, Bathroom, พื้นที่นั่งเล่น และมีบันไดทางขึ้นไปชั้นบนดาดฟ้า

ชั้น 38 ชั้นดาดฟ้าเป็น สวนลอยฟ้าโล่งๆ และลานจอดเฮลิคอปเตอร์

 

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • ชั้น 1 : Lobby (Inddor, Outdoor), Shop ร้านค้า 3 ยูนิต, Library
  • ชั้น 7 : Poor Garden สวนน้ำตื้น, สระเด็กขนาด 3.30 x 22.50 เมตร ลึก 50 ซม. และสวนหย่อม
  • ชั้น 36 : Sky Lounge, ห้องซาวน่า
  • ชั้น 37 : สระว่ายน้ำระบบเกลือ(Infinity Edge Pool) กว้างประมาณ 6.8 x 23.50 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีอ่างจากุชชี่, Sky Fitness(ประมาณ 6 เครื่องเล่น), Bathroom, พื้นที่นั่งเล่น
  • ชั้น 38 : สวนลอยฟ้าโล่งๆ และลานจอดเฮลิคอปเตอร์
  • ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว / Service Lift 1 ตัว
  • อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 212 :  1
  • จอดรถช่องจอดประมาณ 140 คันคิดเป็น 22% รวมจอดซ้อนคันเพิ่มอีก 59 คัน คิดเป็น 31%
  • ระบบ CCTV ทั้งหมด ประมาณ 166 ตัว / Access Card

 


Product Walkthrough

plan-A4

ห้องแรกที่จะไปชมกันคือห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 30.07 – 30.10 ตร.ม. เน้นการจัดวางเพื่อให้ฟังก์ชันการใช้งานมีประสิทธิภาพโดยวางตำแหน่งห้องครัวที่ต้องการการระบายอากาศและความชื้นอยู่บริเวณด้านนอกที่มีช่องเปิด แต่ไม่ได้เน้นในเรื่องของการชมวิวจากห้องนั่งเล่น

เข้ามาภายในห้องจะเป็นส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่วางโซฟาทางขวามือ ถ้าเอาแบบเต็มผนังอาจได้แบบ 3 ที่นั่ง แต่ก็จะไม่มีโต๊ะวางข้างๆ บริเวณตรงข้ามเป็นพื้นที่ชั้นวางทีวีและตู้เก็บรองเท้า ห้องนั่งเล่นนี้จะได้รับแสงที่ส่องมาจากทางระเบียงและครัวที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ทำให้แสงส่องเข้ามาได้ และครัวนั้นเป็นครัวปิดในตัวด้วย ทำให้เวลาประกอบอาหารกลิ่นไม่เข้าไปรบกวนในห้อง และสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้แบบ 2 ที่นั่งที่กางเก้าอี้ออกได้ไม่ติดกำแพงเวลาใช้งานจริง ครัวเชื่อมกับพื้นที่ระเบียงอีกทีในส่วนระเบียงซักล้างไม่ได้กว้างมากนัก แต่ยาวพอสมควร สามารถวางเครื่องซักผ้าตำแหน่งจะอยู่ใต้คอมแอร์ 2 ตัวที่แขวนอยู่ ห้องนอนขนาดค่อนข้างกว้าง เดินได้รอบด้านไม่อึดอัด ฝั่งที่ติดกับหน้าต่างช่องแสงได้โต๊ะ Built-In ติดผนังสำหรับอ่านหนังสือทำงานได้ มีห้องน้ำในตัว มีโซนแห้งโซนเปียกชัดเจนมีพัดลมดูดอากาศในตัว

ส่วนรูปแบบการขายของโครงการจะเป็นแบบ Fully Furnished ครับ ได้ทุกอย่าง ยกเว้นทีวี เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และพร๊อพตกแต่งเล็กๆน้อยๆ แอร์ได้นะครับ

ประตูทางเข้าเป็นไม้ MDF ทูโทนสีน้ำตาล มือจับเป็นแบบก้านโยก มีตาแมวมาให้

ด้านในมีตัวล็อคคล้องคออีกชั้น

เข้ามาภายในห้องจะเป็นส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่วางโซฟาทางขวามือ บริเวณตรงข้ามเป็นพื้นที่ชั้นวางทีวีและตู้เก็บรองเท้า ห้องนั่งเล่นนี้จะได้รับแสงที่ส่องมาจากทางระเบียงและครัวที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน ทำให้แสงส่องเข้ามาได้  พื้นในห้องเป็นลามิเนต 8 mm. และความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานคือ 2.60 เมตร

พื้นที่วางทีวีตรงข้ามโซฟา ขนาดไม่ใหญ่มาก ถ้าทำทีวีแขวนผนัง แบบห้องตัวอย่าง ทีวีไซส์ใหญ่สุดได้ประมาณ 50 นิ้ว แต่ก็เหลือเฟือแล้วสำหรับระยะดูทีวีที่กว้างประมาณ 2 เมตร  ส่วนทางซ้ายมือเป็นชุดตู้ Bukit-In ที่เอาไว้สำหรับเก็บรองเท้า หรือของทั่วไปสูงไปจนถึงฝ้าเพดานเลย เฟอร์บิวท์พวกนี้เป็นของ Starmark บานพับปิดเป็น Soft Close ด้วยนะ

สวิทช์คัตเอาท์ไฟอยู่ด้านบนข้างในสุดของชั้นเก็บรองเท้า ของ Bticino

ชุดตู้ชั้นวางทีวี เปิดปิดสองฝั่ง

ที่วางโซฟาทางขวามือ พื้นที่เหลือเลือกสำหรับ 3 ที่นั่งได้ แต่ก็จะไม่มีโต๊ะวางข้างๆ หรือใครอยากจะทำเป็นโต๊ะทำงานอ่านหนังสือเล็กๆเพิ่มก็ได้

พื้นที่ห้องนั่งเล่นนี้จะได้รับแสงที่ส่องมาจากทางระเบียงและครัวที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ทำให้แสงส่องเข้ามาได้ และครัวนั้นเป็นครัวปิดในตัวด้วย ทำให้เวลาประกอบอาหารกลิ่นจะไม่เข้ามารบกวนในห้อง

เข้ามาในส่วนของห้องครัวและรับประทานอาหารพื้นจะเปลี่ยนเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ เพื่องายต่อเวลาทำความสะอาด

ทางซ้ายมือเป็นพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร ขวามือสุดเวลาเปิดประตูมาจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็นกว้างประมาณ 70 ซม.

ชุดครัว Star Mark เช่นกันหน้าตาเช่นนี้ ถ้าห้อง 1 Bedroom ไซส์นี้จะไม่ได้ Hob&Hood นะครับ

ด้านบนมีที่เก็บไมโครเวฟ ถ้าเป็นสุภาพสตรีเวลาอุ่นอาหารเอื้อมหยิบชามก็ระวังหน่อย ที่เก็บของใครอยากได้เพิ่มให้ Built-In หน้าบานเพิ่มด้านบนให้เต็มจนถึงฝ้าเพดานเลยก็ได้ครับ

Top ครัวเป็นฟอไมก้า กันน้ำและความร้อนได้ระดับนึง มีตัวจบกับขอบผนังมาให้ แต่ผนังไม่ได้ติดกระเบื้องมาให้ แนะนำว่าหาติดเพิ่มนะครับถ้าใครทำอาหารกินเองบ่อยๆ จะได้ทำความสะอาดง่ายและเพิ่มความสวยงามด้วย

ชุดซิงก์อ่างล้านจานขนาดปานกลางมาตรฐาน ของ HAFELE

ฟังก์ชั่นชุดตู้ใต้ Top ครัวเป็นแบบนี้ครับ

พื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร และสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้แบบ 2 ที่นั่งที่กางเก้าอี้ออกได้ไม่ติดกำแพงเวลาใช้งานจริง

พื้นที่ครัวนั้นเชื่อมต่อกับระเบียงด้วยประตูกระจกบานเลื่อนบานนี้ ค่อนข้างสูงพอสมควรทำให้ได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามามากในเวลากลางวัน ทำให้พื้นที่ครัวสามารถระบายอากาศและกลิ่นเวลาทำอาหารได้ดีด้วยนะ

พื้นนั้นจะเป็นธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 12 ซม.(รวมวงกบ) บานประตูสามารถเลื่อนเปิดออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง และบานกระจกเป็นสีเขียวแบบตัดแสง ช่วยลดความร้อนที่เข้ามาในห้อง

ตัวล็อคประตูระเบียงเป็นแบบ 2 ชั้นแบบนี้

พื้นที่ระเบียงไม่ได้กว้างมากนักประมาณ 60 ซม. แต่จะออกยาวเสียมากกว่ากว่า

ฝั่งซ้ายมือเป็นที่วางคอมแอร์ 2 ตัว ทางโครงการเค้าแขวนเอาไว้ให้ หันหน้าออกนอกอาคาร และมีระแนงเหล็กบังสายตาเอาไว้จากภายนอก ส่วนขวามือเป็นพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ด้านหลังมีปลั๊กครอบกันน้ำเอาไว้ให้

ไฟกิ่งบริเวณระเบียงให้มา 1 จุด เป็นแบบนี้

กลับเข้ามาในห้องนอนกันบ้าง โครงการนั้นให้เตียงด้วยนะครับ แต่ไม่ได้ให้ฟูที่นอน เตียงนั้นเป็นขนาดไซส์ 5 ฟุตสีลายไม้โอ๊ค

พื้นที่ด้านข้างเตียง(ฝั่งซ้าย)ห่างจากตู้เสื้อผ้าประมาณ 50 ซม. ค่อนข้างกว้าง แต่ไม่สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้เพราะจะติดกับตู้เสื้อผ้าเวลาเปิดใช้งาน  ส่วนทางขวามือระยะเดินจะเหลือมากกว่าเพราะ มีพื้นที่สำหรับโต๊ะอ่านหนังสือ

ระยะทางเดินปลายเตียงห่างจากผนังประมาณ 60 ซม. สามารถเอาทีวีแขวนผนังได้นะครับ โครงการติดตั้งชุดปลั๊กและสายเคเบิลเอาไว้ให้

ฟีลลิ่งเวลานอนดูทีวีก็ตจะประมาณนี้ ระยะดูทีวประมาณ 2.1 เมตร ตำแหน่งของแอร์จะอยู่มุมซ้ายบนของปลายเตียงเช่นนี้ ไม่หันเข้าหาใบหน้าเวลานอน ถือว่าดีนะ

ฝั่งขวาที่โครงการ Built เป็นชุดโต๊ะทำงานเต็มผนังสองฝั่ง เป็นตำแหน่งของหน้าต่างภายในห้องนอนด้วย

ลองเปิดผ้าม่านออกให้ดูรูปแบบหน้าต่างจะ Fix เป็นรูปตัว L แต่สามารถกระทุ้งเปิดออกได้จุดนึง ขนาดหน้าต่างไม่เล็กไม่ใหญ่แสงส่องเข้ามาได้พอสมควรครับ

กลับหลังหันไปมองอีกฝั่งหน้าห้องน้ำจะเป็นชุดโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ติดกันเป็นตู้เสื้อผ้า

ตู้เสื้อผ้ามือจับเป็นอลูมิเนียมยื่นออกมาแบบนี้ ฟังก์ชั่นภายในตู้เสื้อผ้าไม่มีอะไรมาก ขนาดไม่ใหญ่นัก ถ้าเป็นสาวเปรี้ยวรักการแต่งตัวอาจจะต้องยัดๆเยอะหน่อย 😀

ชุดโต๊ะเครื่องแป้งมีลิ้นชักเก็บของมาให้ 1 จุด

เข้ามาในห้องน้ำ ก็มีฟังก์ชั่นใช้งานส่วนแห้งและเปียกชัดเจน พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องผิวด้านไซส์ 30 ซม. สีเทา ผนังรอบๆก็กรุกระเบื้องเอาไว้ให้ มีพัดลมดูอากาศในตัว

ทางเข้าห้องน้ำยกธรณีขึ้นสูงมาหน่อย(ประมาณ 6 ซม.) เวลาทำความสะอาดห้องน้ำไม่ต้องกลัวน้ำกระเด็นออกมาส่วนพื้นลามิเนตห้องนอน แต่เดินเข้า-ออกก็ระวังสะดุดนิดหน่อยครับ

ชุดอ่างล้างมือขนาดไม่ใหญ่มาก ของ Mogen หรือเทียบเท่า สามารถวางของใช้เล็กๆได้ทางขวามือ และมีชุดตู้ใต้อ่าง(ขวามือเป็นที่แขวนผ้าเช็ดมือได้)

สุขภัณฑ์และสายฉีดชำระของ Mogen เช่นเดียวกัน ระยะห่างถือว่ากำลังดีไม่แคบจนเกินไป ด้านข้างมีทีระบายน้ำให้

พื้นที่อาบน้ำที่แยกส่วนเปียกเอาไว้ด้วยฉากกั้นกระจกอาบน้ำ และเป็นธรณีก่อสูงขึ้นมาประมาณ 5 ซม.

ขนาดของพื้นที่อาบน้ำประมาณ 70 x 1.05 เมตร ยืนอาบได้หนึ่งคนไม่แคบไม่กว้าง

ชุดฝักบัวอาบน้ำหน้าตาแบบนี้ของ Mogen มีที่วางสบู่และของใช้มาให้ 2 จุด ด้านหลังมีที่เตรียมสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้แล้ว

ฝักบัวสามารถปรับระดับน้ำได้ ขนาดถือว่ากำลังดี

plan-CM

ห้องตัวอย่างอีกห้องที่จะพาไปดูเป็นห้องแบบ 2 Bedroom Type CM ขนาด 48 ตร.ม. ความสูง 2.60 เมตร ขายแบบ Fully Furnished เหมือนกัน

เข้ามาภายในห้องจะเป็นส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่วางโซฟาทางขวามือ ได้แบบ 3 ที่นั่ง บริเวณตรงข้ามเป็นพื้นที่ชั้นวางทีวีและตู้เก็บรองเท้า ห้องนั่งเล่นนี้จะเชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหารได้รับแสงที่ส่องมาจากทางระเบียงที่ติดกัน ซึ่งระเบียงขนาดไม่ใหญ่มากแต่วางคอมแอร์ไว้ 3 ตัว ติดกันจะเป็นห้องครัวปิดที่กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ทำให้เวลาประกอบอาหารกลิ่นไม่เข้าไปรบกวนในห้อง ห้องน้ำมี 2 ห้องมีฟังก์ชั่นแยกส่วนแห้งและเปียกทั้งคู่ ซึ่งห้องนึงจะอยู่ในส่วนห้องโถง ที่ห้องนอนเล็กต้องเดินออกมาให้ห้องนี้ ส่วนห้องน้ำอีกห้องจะอยู่ในห้อง Master Bodroom ซึ่งมีหน้าต่างช่องแสงมาให้น้อยไปหน่อย

เข้ามาภายในห้องจะเป็นส่วนพื้นที่ห้องนั่งเล่นที่วางโซฟาทางขวามือ ได้แบบ 3 ที่นั่ง ระยะห่างในการดูทีวีประมาณ 2.3 เมตร

มองย้อนกลับไปทางประตูทางเข้า ขวามือจะมีชุดตู้เก็บของเหมือนห้อง 1 Bed แต่ขนาดใหญ่กว่า

ชุดเฟอร์นิเจอร์ Built-Inได้ตามนี้เลยนะครับ ตำแหน่งแอร์จะอยู่ด้านบน

ชุดตู้ชั้นวางทีวีติดผนัง ภายในเก็บของได้ 3 ช่องแบบนี้ เป็น Soft Close

ชุดตู้เก็บรองเท้าขนาดใหญ่กว่า 1 Bed เก็บได้เยอะจุใจคอรองเท้า ด้านบนอาจจะเก็บเป็นของอเนกประสงค์ทั่วไปที่จะใช้เวลาจะออกนอกบ้าน

โซฟาที่ได้เป็นแบบ 3 ที่นั่ง แต่อาจเบียดๆกันหน่อย แต่ถ้ามีแขกมาบ่อยๆ ก็เลือกให้กว้างกว่านี้ก็ได้โดยตัดชุดโต๊ะด้านข้างทางขวาออก

โซนรับประทานอาหารจะอยู่ติดกันกับโซฟา และอยู่ระหว่างกลางระหว่างทางเดินไประเบียง ก็เดินได้ไม่ได้เบียดอะเท่าไร

โครงการให้ชุดโต๊ะนี้ด้วยนะครับ เป็นแบบ 4 ที่นั่ง ผมลองกางเก้าอี้ออกดูทั้ง 4 ตัว ว่าจะใช้งานได้จริงไหม ก็ถือว่าโอเค มีแค่ตำแหน่งขวาบนที่จะเข้าออกยากหน่อย

ประตูกระจกบานเลื่อนออกไประเบียงเหมือนกับของห้อง 1Bed เลย

พื้นที่ระเบียงขนาดไม่กว้างมากนักประมาณ 1.2 x 2.2 เมตร เหล็กกันตกสูงจากพื้นประมาณ 1.1 เมตร

ซ้ายมือเป็นที่วางคอมแอร์ทั้งหมด 3 ตัว โดย 2 ตัวจะแขวนอยู่ด้านบน และอีกตัววางพื้นธรรมดา ลมร้อนหันหน้าเข้าหาตรงๆ แนะนำว่าให้ไปหากริลล์บังคับทิศลมมาติดเพิ่มเพื่อให้หันออกนอกอาคาร แต่ถ้าใครต้องตากผ้าบ่อยใช้แบบนี้ก็ดีนะ ผ้าแห้งไวดี 😀

กลับมาในตัวห้องส่วนที่ติดกับโซนรับประทานอาหารจะเป็นห้องครัว เรามาดูห้องครัวกันก่อน

ครัวที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก 3 ตอน ทำให้แสงส่องเข้ามาได้ และครัวนั้นเป็นครัวปิดในตัวด้วย ทำให้เวลาประกอบอาหารกลิ่นจะไม่เข้ามารบกวนในห้อง เวลาเปิด-ปิดจะเป็นแบบนี้

เข้ามาถึงจะเป็นพื้นที่วางตู้เย็นความกว้างประมาณ 90 ซม.

ตรงข้ามกันจะเป็นชุดเคาน์เตอร์ครัวที่ขนาดใหญ่กว่าห้อง 1 Bed แต่ห้อง Type นี้เอาเครื่องซักผ้ามาอยู่ที่ครัว

ชุดตู้ด้านบนมีแบบทั้งชั้นวางเปิด และหน้าบานปิด มีที่วางไมโครเวฟให้เช่นเดียวกัน

Top ครัวเป็นฟอไมก้าเหมือนกัน อ่างล้างจานขนาดเท่ากัน แต่ดีที่มีพื้นที่เตรียมอาหารมากกว่า

สิ่งที่ดีงานกว่าห้อง Type 1 Bed คือ ห้องนี้จะได้ Hob&Hood มาด้วย เป็นของ HAFELE จ้า

ซึ่งด้านขวามือของ Hob&Hood จะเป็นหน้าต่างช่องแสง สามารถเปิดบานกระทุ้งออกไปเพื่อยช่วยระบายความชื้นและกลิ่นได้

ฟังก์ชั่นชุดตู้ใต้ Top ครัวสามารถเก็บของใช้ทั่วไปได้

พอออกมาจากห้องครัว จะเจอกับเริ่มจากขวามือเป็นห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันระหว่างห้องโถง และห้องนอนเล็ก(ที่อยู่ตรงกลาง) ซ้ายมือเป็นห้อง Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัวครับ เราไปดูห้องน้ำขวามือกันก่อน

ภายในห้องน้ำถึงขนาดจะไม่กว้างมาก แต่จะจัดฟังก์ชั่นการใช้งานมาให้ครบสามส่วน และแยกส่วนแห้งและเปียกเอาไว้ให้ด้วย

ชุดอ่างล้างหน้าเหมือนกันกับห้อง 1 Bed และมีตู้ใต้อ่างมาให้

สุขภัณฑ์อยู่ทางซ้ายมือระยะห่างระหว่างผนังกับฉากกั้นอาบน้ำค่อนข้างแคบนิดหน่อย มีที่แขวนกระดาษทิชชู่ และสายฉีดชำระ

ฉากกั้นกระจกอาบน้ำเป็นแบบเปิดออกด้านข้างแบบนี้ เข้าออกจากบริเวณมุม ส่วนที่ต้องระวังคือเวลาเข้าออกจะสูงนิดหน่อยเพราะมีทั้งธรณีกั้นและขอบของส่วนที่เป็นรางวางกระจก

พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.8 x 0.8 เมตร

ชุดฝักบัวเหมือนกัน

ภายในห้องน้ำได้โคมไฟดาวน์ไลท์ มา 2 ดวง และก็พัดลมดูดอากาศ

ถัดมาดูห้องนอนเล็กกันบ้าง โครงการให้เตียงนอนแบบไซส์ 3 ฟุตมา มีหน้าต่างช่องแสง 2 จุด

เข้ามาถึงจะเจอกับชุดโต๊ะเครื่องแป้งก่อน เหมือนเดิมด้านหลังติดกันเป็นตู้เสื้อผ้า

ชุดตู้เสื้อผ้า ลองเปิดปิดให้ดูครับ จะแอบเห็นทางซ้ายบนเป็นตำแหน่งของที่ติดตั้งแอร์นะครับ หรือว่าอยู่เหนือมุมโต๊ะเครื่องแป้งนั่นเอง

ระยะทางเดินจากปลายเตียงไปจนถึงตู้เสื้อผ้าประมาณ 55 ซม. ส่วนทางขวามือค่อนข้างกว้างประมาณ  1 เมตร สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้

รูปแบบหน้าต่างช่องแสง ลองเปิดมูลี่ให้ดูเป็นแบบนี้ครับ เป็นบานกระทุ้งเปิดออกทั้ง 2 จุด เหมือนกัน ตำแหน่งห้องนี้จะเป็นตำแหน่งห้องมุม ถ้าเราเปิดหน้าต่างออกทั้ง 2 บานจะทำให้ลม Flow เข้าออกได้

มาดูห้องนอน Master Bedroom กันบ้าง เข้ามาถึงซ้ายมือจะเป็นส่วนของห้องน้ำในตัว ตรงกลางห้องเป็นชุดโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ขวามือเป็นที่ตั้งเตียงนอน

ระยะเดินปลายเตียงนอนค่อนข้างแคบแล้ว เหลือประมาณ 35 ซม.เท่านั้น ถ้าใครชอบนอนดูทีวีจริงๆก็สามารถพอยังเอาทีวีแขวนผนังแบบนี้ได้อยู่นะ แต่ไม่แนะให้ติดตั้งชั้นแขวนผนังเพิ่มจะเดินไม่ได้

ระยะห่างจากข้างเตียงไปถึงผนังประมาณ 40 ซม. พอเดินได้ วางโต๊ะหัวเตียงได้พอดี

หน้าต่างช่องแสงภายในห้องเป็นแบบนี้ จะ Fix เป็นรูปตัว L และสามารถกระทุ้งเปิดออกได้ 1 จุด

มองย้อนกลับไปเป็นชุดตู้เสื้อผ้า และประตูทางเข้าห้องน้ำ

ฟังก์ชั่นภายในเหมือนกับห้องก่อนหน้าครับ

ภายในห้องน้ำ มองแวบแรก เดจาวู เหมือนกันกับห้องน้ำ 1 Bedroom Type แรกที่พาไปดูเป๊ะครับ ไม่มีอะไรต่างกันเลยขอไม่อธิบายบางจุดซ้ำนะครับ

พื้นที่อาบน้ำ และ ชุดฝักบัวเหมือนกัน ส่วนพื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.8 x 1.05 เมตร ครับ

 

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ

แปลนอื่นๆ1 แปลนอื่นๆ2

 

นอกจากนี้โครงการยังมีแบบห้องแบบอื่นๆอีกหลายแบบ สามารถเข้าไปดูได้เลย คลิกที่นี่

 

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 22 January 2016

  • 1 Bedroom ชั้น 8   ห้อง 26.58 ตรม. ราคา 1,674,500 บาท หรือ 62,998 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 16 ห้อง 26.58 ตรม. ราคา 1,807,400 บาท หรือ 67,998 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 24 ห้อง 26.58 ตรม. ราคา 1,913,700 บาท หรือ 71,997 บาท/ตร.ม.
  • 1 Bedroom ชั้น 32 ห้อง 26.58 ตรม. ราคา 2,020,000 บาท หรือ 75,996 บาท/ตร.ม.

  • Fully Furnished ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าและพร๊อพแต่งห้อง แต่ได้แอร์
  • ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร
  • Kitchen & Sink
  • Hob & Hood (เฉพาะ 2 Bedroom)
  • จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 30,000 บาท (แบบ 1 Bedroom)
  • จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 50,000 บาท (แบบ 2 Bedroom)
  • ดาวน์ 10 % ผ่อนดาวน์ 26 งวด
  • ค่ากองทุน 400 บาท/ตร.ม.
  • ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ


เจาะลึกรวบยอด

Dcon Prime รัตนาธิเบศร์ เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บน ถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์ ตามชื่อพ่วงท้ายตั้งอยู่ระหว่างจุดสำคัญใหญ่อย่างสะพานพระนั่งเกล้า และก็แยกรัตนาธิเบศร์ตัดกับราชพฤกษ์ ทำเลจะอยู่ในโซนปริมณฑลของกรุงเทพ ซึ่งจะค่อนข้างเงียบสงบได้กลิ่นอายของชานเมือง โครงการข้างเคียงส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรมากกว่า แต่ในอนาคตมีโอกาสที่โครงการแนวคอนโดมิเนียมเกิดมากขึ้น เนื่องด้วยเป็นเมืองที่กำลังขยายตัวและมีห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้นมากมาย รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่กำลังจะเปิดให้ใช้บริการ

ในละแวกใกล้เคียงกับโครงการอาจจะหาของกินยากสักหน่อย แต่ถ้าข้ามไปฝั่งตรงข้ามชุมชนไทรม้านั้นก็จะมีความเป็นชุมชนมากขึ้นสามารถหาของกินได้พอสมควร การเดินทางในปัจจุบันก็ยังคงต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนบุคคลเป็นหลัก ก่อนที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงจะมาถึง แต่ถ้าอยากจะชิคๆเก๋ไปห้างเปิดใหม่อย่าง Central Westgate บริเวณสามแยกบางใหญ่ ตลาดบางใหญ่ ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากเป็นพิเศษเต็มไปหมดในอนาคตถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดแล้วก็ง่ายเลยนะ ตอนนี้ก็ขับรถหรือนั่งรถเมล์ไปก่อนนะครับ 😀 ส่วนตลาดที่ดังๆในละแวกนี้ก็มีตลาดบางบัวทอง และก็ตลาดเจ้าพระยาที่ตั้งอยู่บนถนนบางกรวยไทรน้อยทั้งคู่เลย แต่ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการในระยะรัศมี 3 กิโลเมตรจะไม่มีห้างใหญ่ ตลาดใหญ่นะ จะมี ก็แต่ตลาดนัดเล็กๆตามหน้าหมู่บ้าน แล้วก็มินิมาร์ทอย่างพวก 7-11, Family Mart, BigC mini และ Lotus Express

การเดินทางด้วยรถยนต์จัดว่าสะดวกในช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วน  เวลาขับรถออกจากโครงการไปขาเข้าเมืองนั้นไปได้ง่ายๆตรงอย่างเดียว หรือเข้าไปชั้นในกรุงเทพก็ขึ้นทางด่วนได้แต่ต้องผ่านแยกแคราย ซึ่งต้องหาเวลาเหมาะสมในการผ่านแยกนี้ดีๆ ส่วนจะออกเมืองก็ไปกลับรถบริเวณใต้เชิงสะพานพระนั่งเกล้าและตรงยาวเท่านั้น อีกทั้งโครงการยังอยู่ใกล้กับแยกที่ตัดราชพฤกษ์ลงใต้ไปจะเข้าเมืองไปทางบรม, เพชรเกษม, ตากสิน และสาทรได้ ระหว่างทางก็จะเป็นแหล่งรวมร้านอาหารของหวานความเก๋เต็มไปหมด รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ดังๆด้วย ถ้าขึ้นเหนือฝั่งราชพฤกษ์จะไปทางชัยพฤกษ์และบางบัวทอง-บางคูวัดที่ไปสุพรรณบุรีและปทุมธานีได้นั่นเอง หรือจะโผล่ถนนกาญจนาภิเษกก็ง่ายใหญ่ เรียกว่าอยู่จุดกึ่งกลางระหว่างจะเข้าหรือออกเมืองนั่นเอง จุดที่จะไม่พูดถึงอีกอย่างก็คงไม่ได้คือที่จอดรถโครงการให้มาแค่ 31% รวมซ้อนคัน ซึ่งถือว่าน้อยมาก ถึงแม้จะเป็นคอนโดแนวรถไฟฟ้าระยะใกล้ก็จริง แต่ยังไงก็ยังเป็นชานเมืองอยู่ดี คนแถวนี้ส่วนใหญ่จะมีรถกันเยอะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ ตัวโครงการเป็นคอนโดแนวรถไฟฟ้าอยู่แล้วซึ่งระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าไทรม้า จะอยู่กึ่งกลางสถานีพอดี เดินไปทางขึ้นบันไดทั้งซ้ายและขวาจะอยู่ที่ประมาณ 120 เมตร ถือว่าใกล้มาก และรถไฟฟ้าก็จะเปิดให้ใช้บริการก่อนตัวโครงการจะสร้างตึกเสร็จ ส่วนรถเมล์ก็มีให้ใช้นะการเดินไปขึ้นรถเมลล์ก็ประมาณ 180-300 เมตร ถือว่าไม่ใกล้เท่าไร เพราะเป็นชานเมืองป้ายรถเมล์ห่างกันหน่อย พี่วินแถวหน้าโครงการจะไม่ค่อยมี จะมีแถวสี่แยกไทรม้าโน้น ส่วน Taxi นี่ง่ายที่สุดเพราะติดถนนใหญ่เรียกง่ายมาก สุดท้ายคือรถตู้เข้าเมืองซึ่งวิ่งผ่านถนนหลักอย่างรัตนาธิเบศร์อยู่แล้วก็สามารถจอดรับขึ้นที่หน้าโครงการได้เลย

วัสดุต่างๆในห้องถือว่าได้มาเยอะคุ้มต่าพอสมควรกับราคา เนื่องจากโครงการขายแบบ Fully Furnished ครับ ได้ทุกอย่าง ยกเว้นทีวี เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และพร๊อพตกแต่งเล็กๆน้อยๆ แอร์ได้นะครับ ในห้องพื้นกระเบื้องเคลือบไซส์ 30 ซม.(ห้องน้ำ,ห้องครัว,ระเบียง) พื้นห้องนอนใช้ลามิเนตหนา 8 มม. , บานกระจกต่างๆใช้เฟรมอลูมิเนียมสีเทา กระจกสีเขียวตัดแสง สุขภัณฑ์ในห้องน้ำชุดอ่าง ก๊อก ฝักบัว ทั้งหมเป็นของ Mogen ได้ฉากกั้นกระจกอาบน้ำด้วย ได้เฟอร์ Built-In อาทิเช่นชั้นวางทีวี ตู้เก็บรองเท้า ตู้เสื้อผ้า ชุดครัวท๊อปฟอไมก้า ก๊อกอ่างของ Hafele ถ้าเป็นห้องแบบ 2 Bed จะได้ Hob&Hood ด้วย สรุปคือคุ้มค่าพอสมควร

อัตราความหนาแน่นของ นั้นก็จัดว่าหนาแน่นระดับนึง มีห้องชุดรวมกัน 638 ห้องพัก และ 3 ร้านค้า โดยมีความสูงรวมทั้งสิ้น 38 ชั้น แต่ละชั้นมียูนิตห้องพักสูงสุดที่ 22 ยูนิตต่อชั้น และอัตราส่วนความหนาแน่นของลิฟท์อยู่ที่ 212 ห้องพักต่อลิฟท์โดยสาร 1 ตัว ก็ค่อนข้างแน่นเหมือนกันนะครับ

ตัวภายนอกอาคารทำออกมาได้ร่วมสมัยที่เดี๋ยวนี้นิยมใช้โทนสีเทา แต่ก็ยังมีเสาอ่อนๆอย่างเทาอ่อนและสีขาวมาตัดบ้างไม่ดูทึบเกินไป ส่วนการออกแบบห้องเนื่องด้วยโครงการทำห้องออกมาหลายแบบมาก ถ้ายังไงลองเข้าไปดูแบบอื่นจากในเวปไซต์โครงการได้นะครับ แต่ส่วนตัวผมชอบแปลนห้องของ แบบ 1 Bedroom ห้องแรกที่พาไปดูนะ

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการให้มาเยอะพอสมควรและหลากหลายด้วย ชั้น 1 : Lobby (Inddor, Outdoor), Shop ร้านค้า 3 ยูนิต, Library / ชั้น 7 : Poor Garden สวนน้ำตื้น, สระเด็กขนาด 3.30 x 22.50 เมตร และสวนหย่อม / ชั้น 36 : Sky Lounge, ห้องซาวน่า / ชั้น 37 : สระว่ายน้ำระบบเกลือ(Infinity Edge Pool) กว้างประมาณ 6.8 x 23.50 เมตร ลึก 1.2 เมตร มีอ่างจากุชชี่, Sky Fitness(ประมาณ 6 เครื่องเล่น), Bathroom, พื้นที่นั่งเล่น / ชั้น 38 : สวนลอยฟ้าโล่งๆ หากห้องไหนต้องการชมวิวยังเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาจากชั้นสูงๆก็ต้องขึ้นมาดูกันที่ดาดฟ้านี่แหละครับ

สำหรับคนเลือกเปรียบเทียบคอนโด High Rise ในรอบสถานีไทรม้าซึ่งตอนนี้ก็มีแค่ 2 เจ้าอย่าง Rich Park@เจ้าพระยา ซึ่งราคาเปิดตัวประมาณ 60,000 บาท/ตร.ม. กับ Dcon Prime รัตนาธิเบศร์ ราคาเปิดตัวประมาณ 62,500 บาท/ตร.ม. ทำเลโครงการของ Dcon Prime จะเดินใกล้ทางขึ้นรถไฟฟ้ากว่าอยู่นิดหน่อยประมาณ 80-100 เมตร ส่วนเรื่องของในห้อง Dcon Prime จะได้แบบ Fully Furnished แต่ Rich Park@เจ้าพระยา เป็น Fully Fitted  เรื่องของ Facility ที่ Dcon Prime น่าจะให้มาเยอะกว่าตามคอนโดสมัยใหม่หน่อย ดูแล้วฝั่ง Dcon จะได้เปรียบในสามข้อแรก แต่ว่า Rich Park@เจ้าพระยา นั้นมีจุดเด่นดีกว่าที่วิวฝั่งทิศตะวันออก จะได้วิวของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่เป็นจุดขายที่มากกว่านั้นเอง และอีกเรื่องคือที่จอดรถรวมซ้อนคันประมาณ 40% มากกว่า Dcon Prime ซึ่งให้มา 31% รวมซ้อนคัน ทั้งนี้ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบแล้วว่าเราจะเลือกห้องแบบไหนอยากตกแต่งเองเอาราคาถูกหน่อย เน้นวิว ไม่เน้นวิว แล้วแต่ความต้องการของแต่ละบุคคลที่ไม่เหมือนกันครับ

 

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคา(AVG) 75,000 บาท/ตร.ม., 22 January 2016

  • ทำเล –7.5/10 ติดถนนใหญ่ เข้าออกเมืองสะดวก ชุมชนรอบข้างส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านขาดความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้เคียง ใกล้สถานีรถไฟฟ้า
  • เดินทางด้วยรถ – 7.25/10 เดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าเข้าถึงง่ายเพราะติดถนนใหญ่ไม่ต้องเข้าซอย แต่ที่จอดรถมีให้ไม่มาก อยู่ที่ 31%
  • ไม่ใช้รถ – 8.0/10 เนื่องจากเป็นทำเลที่สิ่งอำนวยความสะดวกน้อยจะไปไหนก็ต้องใช้รถ แต่มีอีกหลายทางเลือกที่จะเข้าถึงโครงการทั้งรถตู้ รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้าจะเปิดให้ใช้ก่อนโครงการสร้างเสร็จ เดินไปรถไฟฟ้า 120 เมตร
  • วัสดุ – 8.5/10 Fully Furnish จัดเต็มให้ครบ เกรดมาตรฐานด้วย ซื้อแค่เครื่องใช้ไฟฟ้ากับฟูกอยู่ได้เลย
  • แบบ – 7.5/10 ผังห้องทำออกมาให้เลือกค่อนหลากหลาย ตัวตึกหนาแน่นไปหน่อย แต่ก็มีทั้งแบบที่ดีและเเบบที่ดูอึดอัดไปบ้าง
  • สาธารณูปโภค – 8/10 ให้มาหลากหลาย แบ่งไว้หลายชั้น จะได้แยกส่วนกันบ้างไม่อึดอัด

  • ECONOMY-MAIN CLASS
  • 7.73 / 10.00

BOTTOM LINE

Dcon Prime รัตนาธิเบศร์ เป็นคอนโดสำหรับคนที่ยังเป็นครอบครัวขนาดเล็ก เลือกคอนโดที่ราคาเบาลงมาจากฝั่งตัวเมืองนนทบุรีแต่ก็ต้องแลกมาด้วยทำเลนอกเมืองออกมาหน่อยที่จะต้องข้ามแม่น้ำก่อนที่จะถึงโครงการ  ได้ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลบ้างและหวังพึ่งพาอาศัยรถไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีจุดเด่นเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและระยะทางที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า มีงบประมาณ 1.65 – 5.3 ล้านบาท หรือกำลังผ่อนประมาณ 11,500 – 37,000 บาท/เดือน

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ

สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )