รีวิวฉบับที่ 314 … แวะมาดูคอนโดในย่านเพลินจิตกันอีกสักแท่งนะครับ Focus เพลินจิต คอนโด Low Rise 8 ชั้น ในซอยสุขุมวิท 2 เยื้องๆกับโรงแรม JW Marriott โครงการมีพื้นที่ติดถนนดวงพิทักษ์ ซึ่งเป็นถนนที่ขนานไปกับทางด่วนเพลินจิต ทำให้เข้า-ออกได้ 2 ด้าน โดย Developer ของโครงการนี้ Focus Construction & Development Plc. สร้างเองขายเอง เพราะเป็นบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างด้วย
Fact @ 3 March 2013
- Focus Ploenchit (โฟกัส เพลินจิต)
- สุขุมวิท 2 – ถนนดวงพิทักษ์ (ขนานทางด่วนเพลินจิต)
- Focus Construction & Development Plc.
- LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 132 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 60% หรือประมาณ 80 คัน (ชั้นใต้ดิน 2 ชั้น เชื่อมกันด้วยลิฟท์จอดรถ)
- ที่ดินประมาณ 1-0-3 ไร่
- 1 Bedroom/2 Bedrooms/Penthouse
- พื้นที่ใช้สอย 34.46 – 124.47 ตร.ม.
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 4.6 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรประมาณ 133,000 บาท
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS เพลินจิต ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS เพลินจิต (E3)
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS นานา ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS นานา (E3)
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
โครงการ Focus เพลินจิต ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 2 จากปากซอยเข้าไปประมาณ 300 เมตร เลยโรงแรม JW Marriott และอาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ที่อยู่ตรงปากซอยพอดี ซึ่งถ้ามองโดยผิวเผินแล้ว ดูจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไรนัก เนื่องจากซอยสุขุมวิท 2 เป็นซอยตันและแคบ และยังเข้า-ออกลำบาก แต่โครงการนี้ ยังมีทางเข้าที่ 2 จากทางถนนดวงพิทักษ์ด้วย ซึ่งเป็นถนนที่เลียบคู่ขนานไปกับทางด่วน เชื่อมถนนพระราม 4 เข้ากับถนนสุขุมวิท ตัดผ่านด้านหลังโรงงานยาสูบ ทำให้ทำเลนี้เป็นทำเลที่เด่นขึ้นมาทันทีเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกัน เนื่องจากลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้ทั้งทางพระรามสี่, สุขุมวิท, และเข้าจากทางลงทางด่วนเพลินจิตฝั่งใต้ได้
(ปล. แผนที่โครงการ Scale ค่อนข้างใหญ่ ทำให้ตัวหนังสือเล็กไปหน่อย ผมเลยขอ Mark ไว้ให้ดูง่ายๆแล้วกัน)
บางคนดูแผนที่โครงการ อาจจะจินตนาการไม่ออก มาดู Google Maps กันบ้าง จะได้เห็นระยะจริงว่าอะไรอยู่ตรงไหนนะครับ (กรอบสี่เหลี่ยมวาดให้ดูแบบคร่าวๆนะ อย่าเอาไปอ้างอิงจริงๆล่ะ)
ภาพข้างบนนี้ แสดง ทางเข้า สู่ตัวโครงการ ซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมด 4 เส้นทางใหญ่ๆด้วยกัน ที่คิดว่าน่าจะใช้กันบ่อยที่สุดคือ (1) เส้นสีแดง จากถนนพระราม 4 (ฝั่งมุ่งหน้าคลองเตยเท่านั้น) เลี้ยวซ้ายเข้าถนนดวงพิทักษ์เลย และที่น่าจะใช้ได้บ่อยพอๆกัน ก็คือ (2) จากทางลงทางด่วนเพลินจิตฝั่งใต้ (สีม่วง) ที่กลับรถเข้าถนนดวงพิทักษ์เช่นเดียวกัน
อีกสองทางคือเข้าจากทางสุขุมวิท เป็นเส้นทางที่ (3) โดยมาจากสี่แยกอโศกมนตรี และ (4) คือมาจากซอยสุขุมวิท 3 หรือ ซอยนานา มาเลี้ยวขวาที่ถนนสุขุมวิทและเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขุมวิท 2 ต่อไป
ส่วนภาพต่อมา จะแสดง ทางออก จากโครงการ ซึ่งจะมีทั้งหมด 2 ทางด้วยกัน คือ (1) ออกไปทางถนนสุขุมวิท (เพลินจิต) เหมาะมากถ้าจะมุ่งหน้าไปทางถนนวิทยุ, ถนนหลังสวน, เซ็นทรัลเวิร์ล, สยาม หรือโซนพระราม 4, สาทร, สีลม เป็นต้น (2) ออกไปทางถนนพระรามที่ 4 สำหรับคนที่จะไปสุขุมวิท ทางอโศก, เอกมัย, พระโขนง, ไปรัชดา, พระราม 3, หรือไปขึ้นทางด่วนไปบางนาก็ได้เหมือนกัน (จะสังเกตว่า ถ้าจะไปสุขุมวิทต้องออกพระราม 4 แต่กลับกัน ถ้าจะไปพระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าหัวลำโพง ต้องออกสุขุมวิทนะจ๊ะ)
ส่วนทางที่ไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่นัก คือ เวลาจะไปขึ้นทางด่วน ไปดินแดง-แจ้งวัฒนะ จะลำบากหน่อย ที่ดีที่สุดคือวิ่งเข้าถนนวิทยุ แล้วไปกลับรถแถวๆ All-Seasons Place แล้วก็วิ่งตรงกลับมาผ่านแยกเพลินจิต เพื่อเลี้ยวขวาเข้าซอยนายเลิศเพื่อที่จะทะลุออกมาขึ้นทางด่วนที่เพลินจิต แต่ก็ต้องฝ่ารถติดพอสมควร ซึ่งเมื่อพูดถึงการจราจรตรงนี้แล้ว ถนนสุขุมวิทช่วงแยกเพลินจิต ก็จะมีปริมาณรถหนาแน่นอยู่เกือบจะตลอดเวลาอยู่แล้ว ในขณะที่ฝั่งพระราม 4 จะคล่องตัวกว่าเป็นส่วนใหญ่ ส่วนถนนวิทยุก็จะรถมากวันธรรมดา แต่มีรถน้อยช่วงเสาร์-อาทิตย์
โครงการ Focus เพลินจิต มีสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ BTS เพลินจิต ซึ่งอยู่ห่างออกไปราวๆ 550 เมตร (สถานีนานา ประมาณ 800 เมตร) ซึ่งระยะนี้ก็เป็นระยะที่มีทั้งคนที่เดินได้และเดินไม่ได้ ทั่วๆไปก็คงจะเดินได้แหละอาจจะใช้เวลาสัก 5-10 นาที ส่วนคนที่บ่นไม่เดินอาจจะแนวใส่ส้นสูง 5 นิ้วออกจากบ้าน พร้อมสูทหนาๆ ที่อาจจะทำให้เหงื่อออกได้เมื่อต้องเจอกับอากาศร้อนๆ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คนจริงๆครับ มีทั้งคนที่เดินและนั่งมอเตอร์ไซค์ แนะนำว่าให้ไปลองเดินดูแล้วถามตัวเองครับ ส่วนสภาพถนนตรงนี้ก็จัดว่าเดินได้ไม่ลำบากนัก ไม่เปลี่ยว มีคนเดินผ่านไปผ่านมาเยอะแยะ แม้ว่าจะต้องลอดใต้ทางด่วน และข้ามทางรถไฟก็ตาม
จากที่ดูแล้ว โครงการนี้คนใช้รถส่วนตัวน่าจะมีเยอะ และเป็นส่วนใหญ่ของคนที่จะเลือกอยู่ทำเลนี้ ในราคาระดับนี้ แต่คนที่เลือกจะนั่งรถไฟฟ้าก็คงจะมีบ้างเช่นกัน เนื่องจากระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้าที่ไม่ได้ไกลมากจนเกินไป
ลองพาขับรถดูดีกว่า พาเข้าจากทางสุขุมวิทจะได้ไม่งงนะครับ เริ่มจาก BTS สถานีอโศกตรงสี่แยกอโศกมนตรีเลย
ตรงนี้ก็ไม่มีอะไรวิ่งตรงๆ ผ่านอาคาร TimeSquare ที่อยู่ด้านซ้ายมือ
ลอดใต้สถานีนานามุ่งหน้าต่อไป
ผ่านโรงแรม Landmark ทางด้านซ้าย…
พอเราวิ่งตรงผ่านสามแยกนานานี้ให้เราชิดซ้ายได้แล้วล่ะครับ (ถ้ามาจากทางซอยนานา เราก็จะมาเลี้ยวขวาที่แยกนี้)
พอถึงซอยสุขุมวิท 2 ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย
เข้าซอยมา ปากซอยเป็นแบบนี้ครับ ซ้ายมือคือโรงแรม JW Marriott ส่วนขวามือคืออาคาร Ploenchit Center
อาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ทางขวามือ
ในซอยมักจะมีรถแท็กซี่มาจอดเรียงรายกันอยู่แบบนี้…ไม่แน่ใจว่ามารอรับผู้โดยสารจากโรงแรม หรือว่าเป็นคิวแท็กซี่ หรืออะไร…
ใกล้จะถึงโครงการแล้ว เราจะเจอโรงแรม Majestic Grand ทางขวามือก่อน
ทางซ้ายมือก็จะเป็นถนนส่วนบุคคล ของโรงแรมราชา ข้างในดูเหมือนจะมีสถานบันเทิงอยู่ด้วย…
ข้างในซอยสุขุมวิท 2 นี้ตอนกลางวันจะมีพวกร้านรถเข็นขายอาหารริมทาง มาจอดเรียงรายกันอยู่ เพื่อรองรับลูกค้าที่เป็นพวกพนักงานออฟฟิศแถวๆนี้ ก็จะมีคนเดินมากินเยอะทีเดียวแหละ ส่วนตอนเย็นๆไม่มีแล้ว
ถึงแล้วครับ โครงการ Focus เพลินจิต ที่ดินของโครงการก็คือที่มีป้าย Billboard ใหญ่ๆ กับบอลลูนสีเหลืองนี่แหละ ด้านหน้าตอนนี้ก็ยังมีรถเข็นขายของอยู่
แปลงข้างๆ เป็นที่ว่างๆอยู่ ยังไม่ได้ทำอะไร เหมือนจะใช้จอดรถเฉยๆ
วิวทางด้านทิศตะวันตก จะเห็นอาคารสำนักงานจากทางฝั่งถนนวิทยุ (และทางด่วน)
ฝั่งตรงข้ามโครงการ Focus มีอาคารกำลังก่อสร้างอยู่
พอมองลึกเข้าไปในซอยก็จะเห็นเป็นแบบนี้ ซอยนี้เป็นซอยตันนะครับ
ต่อมาจะพาไปดูทางเข้าทางด้านถนนดวงพิทักษ์กันบ้าง ที่จะสามารถมุ่งหน้าไปทางพระราม 4 ได้
ทางเข้าของอาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ก็อยู่ฝั่งนี้ด้วย ซึ่งเจ้าของเค้าก็เปิดให้รถทั่วไปสามารถวิ่งผ่านเข้าออกทะลุไปสุขุมวิทซอย 2 ได้
พอเลยมาอีกหน่อยก็จะเจอที่ตั้งของโครงการ Focus เพลินจิต ซึ่งทางเข้า-ออกอีกทางก็จะอยู่ทางด้านนี้
ถ้ายืนหน้าโครงการ มองไปฝั่งตรงข้ามก็จะเห็นทางด่วนแบบนี้ ซึ่งการที่ตั้งอยู่ตรงนี้ หลีกเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ เรื่อง เสียง ฝุ่น ควัน และมลพิษทางอากาศที่จะมากกว่าปกติ
มีรถวิ่งมาจากทางด่วนตลอดเวลา เหมือนรถเบนซ์คันนี้
ตรงนี้ก็คือทางเข้ามาจากทางด่วน ก็จะเห็นว่าเขาเอาแผงกั้นมาบังไว้ ไม่งั้นเราก็คงได้ขึ้นทางด่วนฟรีกันบ่อยเลย 😛
วิ่งตรงต่อไปเรื่อยๆ กำแพงขาวๆสูงๆที่ยาวตลอดทางนี้คือกำแพงของสำนักงงานโรงงานยาสูบ ถนนที่ต่อมาตรงนี้ชื่อ “ถนนกรองทิพย์” (คุ้นๆมั้ย? :D)
พอวิ่งมาจนสุดทางก็จะมาบรรจบที่ถนนพระราม 4 พอดี
ออกมาที่ถนนพระราม 4 แล้วครับ ตอนนี้กลับไปดูที่โครงการกันต่อ
เจาะลึกตัวโครงการ
ก่อนที่จะดูห้องตัวอย่าง ก็จะเล่าให้ฟังถึงรายละเอียดโครงการก่อนนะครับ อย่างแรกที่จะบอกอีกครั้ง คือ เจ้าของโครงการนี้ สร้างเองขายเอง เพราะเป็นทั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในคนเดียวกัน
เริ่มจากตัวโมเดล นีคือด้านข้างของตึกฝั่งทิศเหนือ
ทิศตะวันออก คือ ทางเข้าหลักด้านหน้าโครงการ ฝั่งสุขุมวิทซอย 2 และในทิศเดียวกันนี้ก็ยังเป็นตำแหน่งของสระว่ายน้ำ และ Facilities อื่นๆของโครงการ ซึ่งอยู่ที่ชั้น 8 นั่นเอง
ทิศตะวันตก คือทางเข้าด้านหลัง ฝั่งถนนดวงพิทักษ์ (ที่ดูแล้วอาจจะเป็นทางที่ใช้บ่อยกว่าด้านหน้า) ฝั่งนี้จะอยู่ติดกับทางด่วน และจะมองเห็นวิวที่เป็นอาคารสำนักงานสูงๆ บนถนนวิทยุ
ภาพจำลอง ของสระว่ายน้ำของโครงการ ที่อยู่บนชั้น 8
Floor Plan ชั้น G เป็นลานจอดรถทั้งหมดครับ จะสังเกตว่าทางซ้ายมือจะมีลิฟท์จอดรถ ที่ใช้เวลาจะนำรถไปจอดในชั้นใต้ดิน ซึ่งก็ทำให้ประหยัดพื้นที่ และทำให้มีพื้นที่ในการจอดรถได้ 60% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด แต่ก็ยังไม่ได้เยอะเทียบกับระดับ LUXURY ทั่วไปที่น่าจะอยู่ที่ 70% …
รูปด้านบนนี้ ทิศเหนืออยู่ทางด้านล่างนะครับ ต้องดูแบบกลับหัวหน่อย ตัวตึกเป็นรูปตัว I ธรรมดา วางตัวในแนวเหนือ-ใต้ วิวของตึกนี้ก็คงไม่ได้มีอะไรโดดเด่น แต่ยังดีที่แปลงข้างๆยังไม่ได้มีอะไรสูงๆมาปิดจนอึดอัด เป็นแปลงโล่งๆอยู่ แต่ในอนาคตก็ไม่แน่นะ
โครงการนี้มีลิฟท์ 2 ตัวใช้ร่วมกันทั้งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ก็ประมาณ 66:1 ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่โอเค
ชั้น 2 เป็นชั้นแรกที่มีห้องพักอาศัย ซึ่งก็จะเป็นชั้นที่มี Lobby ส่วนกลางที่ต่อจากชั้น Ground ด้วย ซึ่งที่นี่ก็จะเน้นห้องแบบ 1 Bedroom เป็นหลัก ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 109 ห้องจากทั้งหมด 132 ห้อง คิดเป็นประมาณ 82.5% ของจำนวนยูนิตเลย จำนวนยูนิตเฉลี่ยต่อชั้นอยู่ที่ประมาณ 20-21 ยูนิต (ไม่รวมชั้น 8) ห้องแบบที่มีมากที่สุดก็คือ แบบ A ที่อยู่ทางด้านทิศใต้ กับ แบบ B ที่อยู่ทางด้านทิศเหนือ คนที่ได้ห้องด้านนี้ไปห้องก็จะเย็นหน่อย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำที่ชั้น 8
- ห้องออกกำลังกาย
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว อัตราส่วนลิฟท์ 66:1
- ระบบ CCTV / Access Card
Product Walkthrough
สำหรับสำนักงานขายของโครงการนี้ เค้าเช่าพื้นที่ในอาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ ชั้น 1 ทำเป็นสำนักงานขายนะครับ ซึ่งสร้างความปวดหัวให้กับการชมห้องตัวอย่างพอสมควร @___@” เนื่องจากพื้นที่สำนักงานมันไม่อำนวยแก่การทำห้องตัวอย่างเท่าไรนัก ดังนั้นระหว่างที่ผมอธิบาย แนะนำอย่างสูง ให้เปิด Unit Plan ดูและจินตนาการตามไปด้วยครับ แล้วก็ต้องไปดูของจริงให้เห็นกับตาตัวเองด้วยนะครับ
ห้องที่มีให้ดูเป็นห้อง 1 Bedroom แบบ A1-B ขนาด 34.46 ตารางเมตร ทางด้านทิศใต้นะครับ (ซึ่งจะบอกว่าเป็น Type นี้ก็ฟังดูแปลกๆ เพราะห้องตัวอย่าง Layout หลุดโลกมาก @___@”)
ห้องที่นี่เค้าขายเป็นแบบ Fully-Furnished นะครับ มีเฟอร์นิเจอร์ให้เยอะแยะมาก ไอ้ที่อยู่ใน List นี้เห็นบอกว่ามีเยอะกว่านี้อีกนะ ถ้าจะซื้อ ลองเช็คกับฝ่ายขายของโครงการดูอีกทีนะครับ
เวลาเราไปดูห้องตัวอย่าง ทางเข้าห้องเราต้องเข้าจากทางห้องนอนนะครับ ฟังดูแปลกๆมะ? แต่ฟังไม่ผิดหรอกครับ คือเนื่องจากพื้นที่ในสำนักงานขายมันไม่อำนวย เพราะมันมีเสาอันใหญ่ๆอยู่อันหนึ่ง ทำให้สร้างตาม Layout จริงไม่ได้ เวลาจะ “เข้า” ห้องตัวอย่าง เราต้องไปยืนที่ห้องนอนของห้องตัวอย่าง แล้วจินตนาการว่าเรากำลังเดินเข้ายูนิตนั้นอยู่ครับ
พอเข้ามาแล้ว สิ่งแรกที่เราจะเจอคือ ตู้เก็บรองเท้าหน้าบานเป็นลามิเนตลายไม้ ทางด้านซ้ายในรูปนี้ กับตู้เก็บของสีขาวทางด้านขวา (ของจริงต้องกลับด้านจากซ้ายไปขวา ของในรูปด้วยนะ…เริ่มงงรึยัง?) ส่วนพื้นที่เห็นเป็นพื้นพรมนั่นความจริงเป็นพื้นกระเบื้องที่ต่อเนื่องมาจากส่วนครัวนะครับ แต่พรมนั่นเป็นของสำนักงานขาย
ตู้รองเท้า Built-in ที่ขายมาพร้อมกัน หน้าตาแบบนี้
หลังจากเดินเข้าห้องมาแล้ว เลี้ยวขวา เราก็จะเข้าสู่ส่วนครัวและแพนทรี่ครับ ระยะลูกศรสีฟ้านั่น ของจริงจะใหญ่กว่านี้นะครับ แต่มันติดเสา เลยทำอะไรไม่ได้
ถ้าเรามองครัวจากห้องนั่งเล่น เราก็จะเห็น Space ตำแหน่งของเฟอร์นิเจอร์ ชุดครัวโดยรวมก็จะเป็นแบบนี้ครับ เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้ให้นะครับ
ช่องเก็บของด้านบน หน้าบานเป็นลามิเนตลายไม้
ช่องเก็บของด้านล่าง และช่องวางเครื่องซักผ้า
อ่างล้างมือสแตนเลสแบบมีที่วางภาชนะ ท้อปครัวเป็นหินแกรนิต
หัวก็อกของ Teka ซึ่งหน้าตาธรรมดาไปหน่อย
ชั้นวางเตาไมโครเวฟวางข้างบน ซึ่งสะดวกไม่เท่าวางข้างล่างแน่ๆ
ช่องใส่เครื่องซักผ้าใต้ชุดครัว
เตาไฟฟ้าแบบสองหัวจาก Teka
เครื่องดูดควันแบบดูดอากาศออกไปปล่อยนอกอาคาร
ที่วางตู้เย็นนี่วางตู้เย็นใหญ่หน่อยได้ เพราะไม่มีผนังมากั้น
พื้นครัวเป็นกระเบื้อง 30×60ซม. และที่อยู่ติดกับเป็นพื้นของห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็น Engineering Wood
โต๊ะกินข้าว คั่นอยู่ระหว่างครัวกับห้องนั่งเล่น และอยู่ติดกับทางเข้าห้องนอน (โปรดใช้จินตนาการในการรับชม)
Living Area หน้าตาแบบนี้ ห้องนี้ดีหน่อย ขนาดพื้นที่เท่ากับของจริงนะครับ
แอร์ส่วนนี้เป็นแบบ Conceal Type ฝังฝ้า ซึ่งดรอปและซ่อนไฟให้ดังรูป ความสูงของห้องที่นี่คือ 2.50 เมตรไม่รวมดรอปฝ้า ซึ่งก็ถือว่าเตี้ยไปหน่อยสำหรับระดับราคานี้
เฟอร์นิเจอร์ชุดวางทีวีที่แถมให้ด้วย (วอลเปเปอร์ไม่มีนะ)
ขนาดของชั้นวางทีวีจะดูสั้นๆไปหน่อย วางทีวีแค่ 32 นิ้วก็เต็มเอียดไม่มีที่วางอย่างอื่นแล้ว แต่ตัวนี้ทางโครงการบอกว่า ขนาดของชั้นวางทีวีจะแตกต่างกัน ตามขนาดของห้อง ซึ่งถ้าห้องไหนห้องนั่งเล่นมีพื้นที่กว้างกว่านี้ ชั้นวางทีวีที่ให้ก็จะยาวขึ้น แต่อันนี้ไม่แน่ใจว่ายาวสุดที่เท่าไหร่ ต้องไปเช็คกันเองนะ
โซฟา และ โต๊ะกลาง ที่มีให้
อันนี้ทางโครงการบอกว่ามันคือประตูออกไประเบียงด้านนอก (ระเบียงกว้าง 90 ซม.) แต่ความจริงแล้วผมว่ามันเป็นหน้าต่างนะ เพราะบานกระจกส่วนที่เปิดได้จริงๆเนี่ย เป็นบานเล็กครึ่งเดียวของที่เห็น และอยู่สูงจากพื้นมาตั้ง 90 ซม. สิ่งที่เห็นอยู่นี่เป็นเฉพาะห้องฝั่งทิศใต้ แต่ถ้าเป็นห้องที่อยู่ฝั่งทิศเหนือเนี่ย ประตูกระจกตรงนี้จะเป็นประตูเต็มบาน ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่าทำไมเค้าไม่ทำให้มันเหมือนกัน แล้วจะออกไประเบียงยังไงคร้าบบบ
ข้างๆหน้าต่างของระเบียง จะมีกระจกที่กั้นระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอนอยู่ การที่มีกระจกบานนี้ เพื่อให้แสงธรรมชาติ ส่องผ่านระเบียงทะลุกระจกอันนี้เข้าไปที่ห้องนอนได้
และจุดนี้คือทางเข้าห้องนอนที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น
แต่เวลาไปที่สำนักงานขาย ห้องนอนมันจะอยู่อีกทีนึงนะ
ภาพโดยรวมของห้องนอน มีตู้เสื้อผ้าแบบ 3 ตอน มีโต๊ะเครื่องแป้ง และกระจก
พื้นห้องนอนเป็น Engineering Wood เหมือนห้องนั่งเล่น
โต๊ะข้างเตียงหน้าตาแบบนี้ ให้มาด้วย
เตียงและหัวเตียง (สีเทาติดผนังแบบนี้เลย) ให้มาด้วย ไม่รวมฟูก
ด้านซ้ายที่เป็นกระจกที่ผนังสองบาน บานแรกคือบานที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น (ที่มีสติกเกอร์สีขาวรูปแจกันดอกไม้แปะไว้) ส่วนอีกบานหนึ่งที่เห็นเป็นสีดำ คือบานที่อยู่ติดกับระเบียงด้านนอก เปิดไม่ได้ แต่ให้แสงผ่านเข้ามาที่ห้องนอนได้ ซึ่งสองบานนี้รวมกันก็น่าจะทำให้ห้องสว่างพอจะทำอะไรหลายๆอย่างได้ในตอนกลางวัน (และแน่นอนว่าแสงธรรมชาติพวกนี้จะสะท้อนกระจกเงาของโต๊ะเครื่องแป้งด้วย)
โต๊ะเครื่องแป้ง Built-in
แอร์ห้องนอนเป็นแบบ Wall Type แยกจากห้องนั่งเล่น มีไฟ downlight อยู่ข้างใต้แบบนี้เลย
เข้ามาดูห้องน้ำบ้าง ฟังก์ชั่นมาตรฐานแบบนี้
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler แบบ Softclose ผนังตรงนี้ก่อเป็นที่วางของด้านหลังโถสุขภัณฑ์ด้วย ผนังเป็นกระเบื้อง 30×60 ซม. พื้นเป็นกระเบื้อง 60×60 ซม.
พื้นที่ของสิ่งของในห้องน้ำ ประตูห้องน้ำเปิดเข้าจากซ้ายไปขวา ซึ่งทำให้พื้นที่บริเวณโถสุขภัณฑ์อาจจะดูคับแคบไปหน่อย
ชุดอ่างล้างมือแบบหล่อสำเร็จ พร้อมที่เก็บของใต้ซิงค์
หัวก็อกน้ำของ Kohler
ห้องอาบน้ำเจาะผนังเป็นที่วางอุปกรณ์อาบน้ำ
ชุดฝักบัวแบบ Rain Shower
ด้านในห้องอาบน้ำติดราวแขวนผ้าเช็ดตัวไว้ด้วย…แต่ติดตรงนี้ผ้าเช็ดตัวก็เปียกหมดสิ
ฉากกั้นกระจกแบบ Tempered Glass มีธรณีกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง
Door Stopper ติดไม่ให้ประตูกระจกกระแทกกับผนัง
ฝ้าในห้องน้ำ เจาะช่องและซ่อนหลอดไฟให้ตามนี้
วงกบประตูห้องน้ำให้แบบนี้
และนี่ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการรีวิวโครงการ Focus เพลินจิต ครับ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25/07/2012
- 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 209 เนื้อที่ 34.46 ตารางเมตร ราคา 4.60 ล้านบาท หรือ 133,420 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom ชั้น 7 ห้อง 710 เนื้อที่ 34.46 ตารางเมตร ราคา 4.77 ล้านบาท หรือ 138,559 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom ชั้น 2 ห้อง 216 เนื้อที่ 47.36 ตารางเมตร ราคา 6.47 ล้านบาท หรือ 136,632 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom ชั้น 7 ห้อง 716 เนื้อที่ 47.36 ตารางเมตร ราคา 6.72 ล้านบาท หรือ 141,895 บาทต่อตารางเมตร
- 1 Bedroom ชั้น 3 ห้อง 320 เนื้อที่ 56.96 ตารางเมตร ราคา 7.76 ล้านบาท หรือ 136,206 บาทต่อตารางเมตร
- 2 Bedroom ชั้น 7 ห้อง 712 เนื้อที่ 89.84 ตารางเมตร ราคา 12.8 ล้านบาท หรือ 142,480 บาทต่อตารางเมตร
- Fully Furnished
- จอง 50,000-70,000 บาท (1-Bed) และ 150,000 (2-Bed)
- ทำสัญญา 5-7%
- ค่ากองทุน 500 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 55 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
เจาะลึกรวบยอด
FOCUS เพลินจิต โครงการนี้เป็นอีกโครงการย่านเพลินจิตอีกแห่งหนึ่ง ที่มีจุดเด่นเป็นเรื่องทำเลที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆในละแวกใกล้เคียง โดยตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 2 และมีพื้นที่ติดถนนดวงพิทักษ์ ที่อยู่เลียบคู่ขนานไปกับทางด่วน ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเข้า-ออกโครงการมากขึ้น เพราะมาจากพระราม 4 ก็ได้ สุขุมวิทก็ได้ จากทางด่วนก็ได้ ลักษณะทำเลจะคล้ายๆกับซอยร่วมฤดีที่อยูอีกฝั่งหนึ่งของทางด่วนนั่นเอง แต่การอยู่ใกล้ทางด่วนแม้จะเพิ่มความสะดวก ก็ต้องยอมรับว่าปัญหา มลพิษ เสียง ฝุ่น ควัน ที่มีมากกว่าที่อื่นก็ต้องตามมาด้วยแน่นอน
การเดินทางด้วยรถส่วนตัว ค่อนข้างสะดวก ไปได้ทั้งพระราม 4, สุขุมวิท, วิทยุ, เพชรบุรี และจุดต่างๆในเมืองชั้นใน ปัญหารถติดในเมืองเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ที่อาจจะน่าเป็นห่วงหน่อยคือเรื่องที่จอดรถ ที่มีเพียง 60% ในระดับ LUXURY ที่ควรจะมีถึง 70% เป็นท่ามาตรฐาน เพราะคนที่ซื้อคอนโดระดับนี้น่าจะมีรถขับกันเกือบทุกคน และเรื่องลิฟท์จอดรถที่เมื่อถึงเวลาใช้งานจริงอาจจะต้องดูเรื่องความสะดวกในการนำรถเข้า-ออก ว่าถ้ามีรถออกพร้อมๆกันหลายคันในเวลาเช้า-เย็นจะสามารถบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพได้มั้ย
ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถ ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเค เนื่องจากระยะทางจากรถไฟฟ้า 550 เมตร (300 เมตรถึงปากซอย) เดินไหวบ้างไม่ไหวบ้างแล้วแต่คน นั่งมอเตอร์ไซค์ก็สบายหน่อย (แต่ถ้านั่งเข้าบ้าน ต้องนั่งจากสถานีนานา นะ เพราะจากสถานีเพลินจิตย้อนศรไม่ได้) ทางเดินค่อนข้างสะดวกและปลอดภัย รถแท็กซี่มีเยอะ จอดรอผู้โดยสารจากโรงแรม JW Marriott อยู่แล้ว สถานีเพลินจิตอยู่ห่างสยามแค่ 2 สถานี ห่างจากอโศกก็แค่ 2 สถานี เปลี่ยนสาย BTS หรือ MRT ได้ไม่ยาก
สภาพแวดล้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆโครงการ อุดมสมบูรณ์ ตั้งแต่ร้านค้าริมถนน ไปจนถึงกาแฟ Starbucks และร้านอาหารโรงแรม เพราะตรงนั้นเป็นจุดที่มีอาคารสำนักงานเยอะ ร้านค้าในอาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์ก็มีให้เลือกไม่น้อย พวกมินิมาร์ทเซเว่นมีอยู่แถวๆปากซอยก็ต้องเดินออกมาหน่อย สุดท้ายคืออยู่ติดทางด่วน น่าเป็นห่วงเรื่องมลพิษ
การออกแบบโครงการ จำนวนยูนิตอยู่กับแบบไม่อึดอัด 132 ยูนิตกับอาคาร Low Rise 8 ชั้น ในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่ เป็นห้อง 1-Bed ซะส่วนใหญ่ ถึง 109 ยูนิต ต่อชั้นก็ตกประมาณ 20 ห้อง เทียบกับลิฟท์ 2 ตัวทั้งตึก ก็ถือว่าโอเค ห้องส่วนใหญ่เป็นห้องแคบลึก ฟังก์ชั่นการใช้งาน เช่น ระยะทีวี หรือระยะปลายเตียง อาจจะอึดอัดหน่อย ห้องตัวอย่างทำออกมาไม่ดี ดูลำบาก และมีประเด็นเรื่องระเบียงของห้องฝั่งทิศใต้ ที่มีแต่หน้าต่างออกไปที่ระเบียง ทำให้ออกไปนอกระเบียงลำบาก ใช้งานได้ไม่เต็มที่
วัสดุอุปกรณ์ เป็นแบบ Fully Furnished จัดเฟอร์นิเจอร์มาครบ ทั้ง Built-in และลอยตัว พื้น Engineering Wood, แอร์ฝังฝ้า, ครัวหินแกรนิต, ห้องน้ำ Kohler, เฟอร์นิเจอร์ Built-in วัสดุค่อนข้างโอเค อาจจะมีบางจุดที่ดูด้อยกว่าราคาระดับนี้ไปบ้าง เช่น เตา, ก็อกน้ำ, อ่างล้างมือ แต่รวมๆก็จัดอยู่ในเกณฑ์โอเค ฝ้า 2.50 เมตร ถือว่าเตี้ยไปสำหรับราคานี้
สาธารณูปโภค จัดมาน้อยไปนิด เมื่อเทียบกับคอนโดอื่นๆในคลาสเดียวกัน ไม่มีรถรับส่ง Shuttle Service (แต่อาจจะทำไม่ได้ เมื่อพิจารณาจากเส้นทางการวิ่งของรถ) ที่จอดรถที่ใช้ Car Lift อาจจะก่อให้เกิดคอขวดเวลารถออกหลายๆคันได้
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 138,000 บาทต่อตารางเมตร, 4 มีนาคม 2556
- ทำเล 8.25/10 – อุดมสมบูรณ์ อยู่ใจกลางเมือง, แต่ใกล้ทางด่วน มลพิษเยอะ
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางสะดวก สุขุมวิท พระราม 4, ที่จอดรถ 60% ไม่เยอะสำหรับราคานี้
- ไม่ใช้รถ 8/10 – เข้าซอยไม่ลึก ห่างจากรถไฟฟ้า 550 เมตร แท็กซี่เยอะ
- วัสดุ 7.5/10 – ฝ้าเพดาน 2.50 เมตร, ชุดครัวดูด้อยไปนิด, ให้เฟอร์ครบ
- แบบ 7/10 – ความหนาแน่นเยอะไปหน่อย, ระเบียงใช้งานได้ไม่เต็มที่
- สาธารณูปโภค 7/10 – ได้ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับระดับราคา, ต้องใช้ Car Lift
- LURUXY CLASS
- 7.81 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ Focus เพลินจิต เป็นโครงการที่เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดที่อยู่ใจกลางเมือง ที่ต้องไปไหนมาไหนในช่วงสุขุมวิท-พระราม 4-วิทยุ และเน้นการใช้รถส่วนตัว ใช้รถไฟฟ้าบ้างบางครั้งบางคราว เน้นเฟอร์ครบ งบประมาณระดับ 4-5 ล้านบาทขึ้นไป
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ