รีวิวโครงการ
คิด.เรื่อง.อยู่ Ep.91 – รีวิวคอนโด Giraffe Duplex Living by Daygain Group
17 สิงหาคม 2014
รีวิวฉบับที่ 441 Giraffe Duplex Living คอนโดแบบ Duplex 2 ชั้นทุกยูนิตทั้งโครงการ บนพื้นที่ 11 ไร่ จาก เดย์เกน กรุ๊ป ซึ่งใช้การออกแบบภายในแนวคิดสวนป่าอเมซอน ที่ร่มรื่น ส่วนชื่อยีราฟ มาจากตัวยูนิตแต่ละยูนิต ที่ความสูงจากพื้นถึงเพดาน 5.8 เมตร โดยทำเลโครงการตั้งอยู่บนถนนนครอินทร์ – พระราม 5 เปิด Presale อย่างเป็นทางการไปเมื่อ 5-6 ตุลาคม 2556 ค่ะ
Fact @ 08 October 2013
- Giraffe Duplex Living (ยีราฟ ดูเพล็ก ลิฟวิ่ง)
- บริษัท เดย์เกน กรุ๊ป จำกัด
- SUPER ECONOMY (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด Low Rise 6 อาคาร 2 ชั้น (ความสูง 5 ชั้น )รวม 336 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 100% (1 คัน ต่อ 1 ยูนิต)
- ที่ดินประมาณ 11-2-62 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ 2558
- Duplex แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 60-65 ตารางเมตร
- Duplex แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 77 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.49 ล้านบาท
- ราคาเริ่มต้นต่อตารางเมตรประมาณ 46,000 บาท
- www.giraffecondo.com
- โทร 02-432-6888
จากแผนที่โครงการ Giraffe Duplex Living จะเห็นว่า โครงการตั้งอยู่บนถนนนครอินทร์ เยื้องกับวิทยาลัยราชพฤกษ์ ซึ่งสามารถมาเข้า-ออก ได้หลายเส้นทาง เช่น จากทางสะพานพระราม 5 จากทาง ถนนราชพฤกษ์ เป็นต้น
สำหรับอาหารการกินย่านนี้ มี The Walk คอมมูนิตี้มอล์ บนถนนราชพฤกษ์ ใกล้วงเวียนพระราม 5 ซึ่งแถวนั้นยังมี โฮมโปร เดอะคริสตัล(กำลังดำเนินการก่อสร้าง) และโฮมเวิร์คค่ะ โดยระยะทางจากโครงการไปย่านนี้อยู่ที่ประมาณ 2-3 กิโลเมตรค่ะ
นอกจากนี้ ยังมี Tesco Lotus ใกล้ๆ สะพานพระราม 5 ด้วยค่ะ
Giraffe Duplex Living ตั้งอยู่บนถนนนครอินทร์ บริเวณซอยบ้านตากแดด
- การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว สามารถมาจากด้านราชพฤกษ์ ผ่านวงเวียนพระราม5 มาทางขวามือประมาณ 1.6 กิโลเมตร จะเจอโครงการอยู่ฝั่งซ้ายมือ เยื้องๆ กับวิทยาลัยราชพฤกษ์ค่ะ
- อีกเส้นทางหน่ึงคือ วิ่งทางสะพานพระราม 5 มาประมาณ 3.5 กิโลเมตร จะเห็นโครงการอยู่ฝั่งขวามือ แต่ไม่มี จุดกลับรถนะคะ ต้องไปกลับรถที่วงเวียนพระราม 5 ค่ะ (ถ้าข้ามสะพานพระราม 5 ไป จะเป็นถนนติวานนท์ ซึ่งขับรถไปไม่ไกลจะเจอสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีติวานนท์ค่ะ)
- จากทางถนนรัตนาธิเบศร์เข้ามาทางวงเวียนพระราม 5
- จากทางวงแหวนกาญจนาภิเษกฝั่งตกวันตก หรือทางบางใหญ่ เข้ามาทางวงเวียนพระราม 5 เช่นกัน
(พิกัด Google Maps : 13.823516,100.463641)
สำหรับการเดินทางวันนี้ เราจะพาไปทางราชพฤกษ์ ผ่านวงเวียนพระราม5 นะคะ โดยเริ่มต้นจากสะพานตากสิน ย่านสาทร มุ่งหน้าเพื่อเลี้ยวขวาเข้าเส้นราชพฤกษ์ค่ะ
เจอป้ายนี้ ให้เบี่ยงซ้าย ขึ้นสะพานเพื่อเลี้ยวขวา เข้าถนนราชพฤกษ์นะคะ สังเกตป้ายจะเป็นสีน้ำเงิน บนพื้นทีเขียว เห็นเด่นชัดค่ะ
เมื่อเลี้ยวเข้ามาบน เส้นราชพฤกษ์จะเจอสถานีรถไฟฟ้า ที่กำลังสร้างอยู่ด้วยค่ะ เห็นเป็นโครงสถานีดูดีทีเดียว (01/10/2013)
ถนนราชพฤกษ์เป็นถนนใหญ่ 6 เลนค่ะ รถวิ่งสวนกัน แถมมีทางเบียงออกด้านข้าง ตลอดทั้งเส้นวิ่งได้สบาย เพราะไม่มีไฟแดง ถนนเส้นนี้มีเกาะกลางถนนนะคะ เพราะฉะนั้นเวลาเลือกที่อยู่อาศัยบนถนนเส้นนี้ อย่าลืมดูจุดกลับรถด้วยนะคะ ว่าอยู่ห่างออกไปเท่าไร ต้องกลับไกลหรือไม่ สะดวกเวลาไปไหนมาไหนหรือเปล่า
ขับมาหน่อย จะเจอปั๊มน้ำมันที่เป็นจุดพักรถค่ะ เป็นปั๊มที่ค่อนข้างใหญ่ มี 7-eleven มีร้านอาหาร อยู่ภายในด้วย
เลยปั๊มน้ำมันไปหน่อย จะเจอ The Circle คอมมูนิตี้มอลล์ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ทั้ง Indoor , กึ่ง Indoor และ Outdoor เอาไว้วันว่างๆ มาเดินเล่นกับครอบครัวได้ค่ะ
เลย The Circle มาอีกซักระยะ จะเจอทางแยก เต็มไปด้วยสะพานยกระดับต่างๆ ค่ะ ให้ตรงไปมุ่งหน้าสู่สะพานพระราม 5 ถนนนครอินทร์ ถนนรัตนาธิเบธร์นะคะ ทางซ้ายมือจะไปออกทางเส้นถนนบรมราชชนนี ขนส่งสายใต้ใหม่อยู่ไม่ไกลจากจุดนี้
ใกล้ถึงวงเวียนพระราม 5 จะเป็นแหล่งศูนย์การค้าต่างๆ ค่ะ บริเวณนี้คือ Homeworks แหล่ง Shopping สำหรับคนรักบ้านค่ะ
ภายในยังมี Tops Market, Power Buy ร้านอาหารต่างๆ เช่น MK สุกี้ Yayoi หรือร้านหนังสืออย่าง Se-ed ด้วยนะคะ
ถัดมาข้างทางด้านซ้ายมือจะเห็นศูนย์รถยนต์ต่างๆ เช่น โตโยตา มิตซูบิชิ ซึ่งบริเวณนี้กำลังก่อสร้าง The Crytal ศูนย์การค้าแห่งใหม่ในย่านนี้ค่ะ
ตรงนี้จะมีป้ายบอกทางว่า อีก 1 กิโลเมตร จะทางออกสู่เส้นทางถนนกาญจนาภิเษก และสะพานพระราม 5 ด้วย
ถัดมาติดๆ กันเลยด้านซ้ายมือจะเจอ HomePro ค่ะ ศูนย์เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านอีกแห่งหนึ่ง
ด้านขวามือฝั่งตรงข้ามเยืื้องๆ กัน คือ The Walk ค่ะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง คอมมูนิตี้มอลล์ที่รวมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านเฟอร์นิเจอร์ เอาไว้ สังเกตุว่าการโตของเมืองฝั่งนี้ยังมีอยู่เรื่อยๆบนเส้นถนนราชพฤกษ์นะคะ คอมมูนิตี้มอลล์ ขึ้นไม่ห่างกันเท่าไหร่เลย
ป้ายบอกทางก่อนถึงวงเวียนพระราม 5 อธิบายป้ายกันเล็กน้อย
- ตรงไป เข้าถนนรัตนาธิเบศร์
- เลี้ยวซ้าย เข้าถนนนครอินทร์ฝั่งถนนกาญจนาภิเษก
- เลี้ยวขวา เข้าถนนนครอินทร์ฝั่งสะพานพระราม5 (โครงการต้องเลี้ยวขวาไปทางนี้นะคะ)
ถึงทางแยกให้อยู่เลนกลาง เพื่อวนรอบวงเวียนพระราม 5 ก่อนที่จะเลี้ยวไปทางขวานะคะ ถ้าเข้าซ้ายจะไปตัดกับถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตกวันตกค่ะ
พอวนเข้าวงเวียนพระราม 5 แล้วเราเข้าถนนนครอินทร์ ซึ่งเป็นถนนใหญ่่เช่นเดียวกับถนนราชพฤกษ์นะคะ ตรงไปสามารถข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยสะพานพระราม 5 ได้เลย เราใช้ทางคู่ขนาน ให้ชิดซ้ายเอาไว้ หลังป้าย Billboard ที่มีรูปยีราฟซ้ายมือ บริเวณหน้าทางเข้ามีสะพานลอยคนข้าม ซึ่งระยะทางรวมจากวงเวียนพระราม 5 ประมาณ 1.6 กิโลเมตร แต่ทางเข้าโครงการจะเห็นยากเล็กน้อย ต้องระวังเลยให้ดี เดี๋ยวจะพาไปดูว่าลักษณะทางเข้าเป็นยังไง
โครงการตั้งอยู่ในซอยบ้านตากแดดหรือผู้ใหญ่เปี๊ยก เรียกว่าอยู่ติดกับปากซอยเลยค่ะ ปากซอยจะมีสะพานลอยข้ามไปฝั่งตรงข้ามด้วยค่ะ
ถนนหน้าหน้าโครงการเป็นถนนใหญ่ นครอินทร์ ด้านขวาสุดเป็นคู่ขนานเราจะใช้เส้นนี้เพื่อเข้าโครงการ ภาพจากมุมสูงที่มองย้อนกลับไปทางวงเวียนพระราม 5 ค่ะ สังเกตุว่าบนเส้นถนนนครอินทร์ สภาพซ้ายและขวายังเป็นที่ดินเปล่าซะมาก ความเจริญจะเน้นไปเกาะเส้นราชพฤกษ์ซะมากกว่า ทั้งๆที่ห่างจากวงเวียนมา 1.6 กิโลเมตร
ที่ดินโครงการอยู่ด้านขวามือ หลังแนวกำแพงสีเขียวนะคะ จะเห็นว่าไม่ได้อยู่ติดถนนนครอินทร์สักทีเดียว เพราะมีที่ดินผืนเล็กๆ ของเจ้าของที่ดินเก่าอยู่ด้วยค่ะ มีป้ายโฆษณาตั้งบังอยู่บริเวณที่ดินสามเหลี่ยมชิ้นนี้อีก ซึ่งปัจจุบันที่ดินโครงการนำมาใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานขายค่ะ ทำให้สังเกตุลำบาก แม้จะมีคุณยีราฟยืนสูงกว่า 6 เมตรหน้าทางเข้าก็ตาม
ฝั่งตรงข้ามกับโครงการ ไม่ไกล คือ วิทยาลัยราชพฤกษ์ ค่ะ
การจะข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง ต้้องอาศัยจุดกลับรถ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการค่ะ ประมาณ 450 เมตร เป็นทางกลับรถใต้สะพาน แล้วไปอีกประมาณ 900 เมตร จะถึง วิทยาลัยราชพฤกษ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ
เจาะลึกตัวโครงการ
เล่าแนวความคิดโครงการกันก่อน
พูดถึง ยีราฟ เป็นสัตว์ป่าสี่ขา มีภูมิลำเนาอยู่ที่แอฟริกา เอกลักษณ์โดดเด่นตรงที่คอยาวยืดของมัน ดังนั้นโครงการจึงนำความสูงของเจ้ายีราฟและบรรยากาศถิ่นที่อยู่อาศัย มาเป็นแนวความคิดหลักในการออกแบบโครงการ นำบรรยากาศของสวนป่าอเมซอนโดยปลูกต้นไม้ระหว่างอาคาร ใช้สีสันของวัสดุให้กลมกลืนกับป่า สร้างความร่มรื่นและตรงกลางของระหว่างอาคารจัดเป็นสระว่ายน้ำ เหมือนแม่น้ำอเมซอนตัดผ่าน ในห้องพักของที่นี่ยังมีโถงที่ฝ้าเพดานสูงถึง 5.8 เมตร เหมือนคุณยีราฟนั่นเองที่อาศัยอยู่ในป่า
โมเดลจำลองโครงการด้านถนนนครอินทร์ค่ะ ที่ดินด้านหน้าเป็นที่ดินของเจ้าของเก่าของที่ดินโครงการ ซึ่งซอยด้านขวามือที่เราเห็นรถวิ่งเข้าไปชื่อว่าซอยบ้านตากแดด เป็นซอยทางเข้าโครงการนะคะ ด้านหน้าโครงการอยู่ในซอยนี้ค่ะ
ทางเข้าโครงการมีทางเดียว ซึ่งอยู่บนซอยบ้านตากแดด ค่ะ มีป้อมยามอยูาบริเวณด้านหน้า รั้วรอบโครงการสูงประมาณ 3 เมตร ถนนซอยหน้าโครงการกว้าง 6 เมตร
ส่วนของสระว่ายน้ำระบบเกลือ แยกสระเด็ก- ผู้ใหญ่ ความยาว 70 เมตร และส่วนกลางอื่นๆ เช่น สวนน้ำจำลองบนพื้นที่สีเขียวเปิดโล่ง ห้องฟิตเนส ซึ่งอยู่ระหว่างตึก A B C D ค่ะ สระว่ายน้ำตรงกลางระหว่างตึกคล้ายกับแม่น้ำกลางป่า
หน้าตาอาคาร ชั้น 1 เป็นที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดได้ยูนิตละ 1 คัน แบบ Fixed ที่จอด (ระบุเป็นกรรมสิทธิ์ในโฉนดห้องชุด) ดังนั้น จำนวนที่จอดรถจึงมีทั้งสิ้น 100% หน้าตาของรั้วที่เห็นจากโมเดลเป็นรั้วทึบสลับโปร่งและมีต้นไม้ขั้นเป็นระยะ โดยทั้งหมดสูง 3 เมตร หน้าตา สีสัน ลวดลายของตัวอาคารจะเน้นไปทางสีกลมกลืนกับต้นไม้ใบหญ้า ลวดลายข้างตึกก็ล้อกับต้นไม้เหมือนกัน
ในส่วนของชั้นหนึ่งเป็นพื้นที่จอดรถค่ะ ส่วนพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้นสองเป็นต้นไม้โดย 1 ห้อง = 2 ชั้นค่ะ เพราะเป็น Duplex ทั้งหมด มีส่วนที่เชื่อมกันระหว่างอาคารที่ปลายอาคาร ทั้งหมดเป็นแบบ Single Corridor ค่ะ ระหว่างอาคารสอดแทรกด้วยต้นไม้ให้บรรยากาศร่มรื่นและการถ่ายเทที่ดี ซึ่งต้นไม้ระหว่างอาคารจะอยู่ที่ชั้นสองค่ะ
มาดูที่ผังโครงการดีกว่า จากด้านหน้าโครงการ (ด้านขวามือของภาพ) เป็นถนนนครอินทร์ค่ะ จะเห็นว่าตัวโครงการไม่ได้อยู่ติดถนนสักทีเดียว ด้านหน้ามีผืนดินเปล่า รูปคล้ายสามเหลี่ยม เป็นแนวติดถนนนครอินทร์ค่ะ ซึ่งทราบมาว่า ที่ด้านหน้าบริเวณนี้เป็นที่ดินของเจ้าของเก่าของที่ดินโครงการนะคะ ทำให้เวลาเมื่อขับรถมาเกือบถึงโครงการทำให้ต้องเลี้ยวเข้าโครงการแบบรูปตัว V และมองเห็นได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่
รอบโครงการปัจจุบันด้านหน้าและซ้ายมือติดกับถนนซอย ส่วนด้านอื่นๆยังเป็นพื้นที่เปล่า เต็มไปด้วยต้นไม้ ซึ่งอนาคตไม่แน่ว่าจะเป็นอะไร
โครงการประกอบด้วย 6 อาคารคือ A,B,C,D,E,F โดยสระว่ายน้ำและส่วนกลางต่างๆ จะอยู่ระหว่างอาคาร A,B,C,D ซึ่งจะได้วิวสระว่ายน้ำไปในตัวและช่วยในเรื่องการระบายอากาศด้วยคะ
สำหรับ 6 อาคารนี้ โครงการจัดให้เป็นอาคารที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ 1 อาคาร คือ อาคาร F (อาคารด้านล่างสุดของภาพ ฝั่งขวามือค่ะ) ตามแนวความคิดแบบ ซาฟารีๆของยีราฟ คอนโด
Floor Plan อาคาร A ยูนิตรวม 62 ยูนิต ชั้นล่าง คือชั้น 2, 4 และชั้นบน คือ ชั้น 3, 5 ค่ะ ซึ่งอาคารนี้จะมี ห้อง Type M ขนาด 60 ตารางเมตร (สีชมพู) และ Type L ขนาด 65 ตารางเมตร (สีส้ม ห้องมุมวิวสระน้ำ)ค่ะ
โดยแต่ละอาคารจะมี Lift โดยสาร 2 ตัวนะคะ ซึ่งจะแยกกันอยู่ทางด้านซ้าย และด้านขวาของอาคารค่ะ
Corridor อาคาร จะมีอยู่เฉพาะชั้น 2 และ ชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นล่างของห้องนะคะ ซึ่งจะเป็นแบบ Single corridor แต่จะเชื่อมเข้าหากัน 3 จุด คือ ด้านซ้ายสุด ตรงกลาง และด้านขวามือสุดค่ะ ข้อดีของ โถงทางเดินเดี่ยว ( Single Corridor) โดยทั่วไป คือ แต่ละห้องจะได้ ความเป็นส่วนตัวสูง เหมือนมีโถงทางเดินส่วนตัว เพราะไม่มีห้องที่ตรงข้าม แต่โครงการนี้แม้จะมีโถงทางเดินแบบ Single Corridor แต่ก็มีห้องที่อยู่ตรงข้ามนะคะ แต่ก็จะอยู่ห่างออกไปมากกว่าปกติ ( สังเกตโถงทางเดินจากรูปโมเดลด้านบนนะคะ) มีคอร์ทต้นไม้อยู่ระหว่างทางเดิน Corridor เหมือนกันทุกอาคาร ซึ่งจะปลูกที่ชั้นสอง
Floor Plan อาคาร B คล้ายกับอาคาร A ค่ะ มี 62 ยูนิตเช่นเดียวกัน เพียงแต่เป็นอาคารที่อยู่ตรงข้ามกัน โดยมีสระว่ายน้ำอยู่ระหว่างกลาง 2 อาคารนี้ค่ะ
Floor Plan อาคาร C ยูนิตรวม 58 ยูนิต อาคารนี้มีห้องทุก Type นะคะ ตั้งแต่ Type M ขนาด 60 ตารางเมตร (สีชมพู) Type L ขนาด 65 ตาราเมตร (สีส้ม เป็นห้องมุม) และ Type XL ขนาด 77 ตารางเมตร (สีเขียว อยู่ด้านสระว่ายน้ำ)
รูปแบบโถงทางเดิน และตำแหน่งลิฟท์ คล้ายกับ Floor Plan อาคาร A ค่ะ
Floor Plan อาคาร D คล้ายกับอาคาร C มี 58 ยูนิตเช่นกัน เป็นอาคารฝั่งตรงข้ามอาคาร C มีสระว่ายน้ำ และส่วนกลางอยู่ระหว่าง 2 อาคารนี้ค่ะ
Floor Plan อาคาร E ยูนิตรวม 48 ยูนิต ซึ่งถือว่าเป็นอาคารที่จำนวนยูนิตน้อยที่สุด จึงมีความหนาแน่นน้อยที่สุดในโครงการค่ะ แต่มีเฉพาะยูนิต Type เล็กที่สุด คือ Type M ขนาด 60 ตารางเมตรเท่านั้น ส่วนแปลนอื่นๆ คล้ายอาคารอื่นค่ะ อาคารนี้จะอยู่ด้านในวางในแนวขวางไม่เหมือนอาคารอื่น (ดูจากภาพ Master Plan จะอยู่ฝั่งซ้ายมือสุดของโครงการ)
สุดท้าย Floor Plan อาคาร F ยูนิตรวม 48 ยูนิตเช่นกัน ผังอาคารโดยรวมคล้ายกัน แต่เป็นอาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน ซึ่งอาคารนี้อนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม 2 อาคารนี้ไม่มี Facility อยู่ตรงกลางระหว่างอาคารนะคะ ต้องเดินไปใช้กับอาคาร A B C D
มาดูที่หน้าโครงการกันบ้าง สภาพถนนซอยบ้านตากแดด เป็นถนนคอนกรีต รถวิ่งสวนกันได้ 2 เลน มีไหล่ทาง 1 ข้าง ที่สามารถจอดพักรถได้ ตัวโครงการตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือนะคะ
ภาพนี้ถ่ายจากหน้าสำนักงานขายในซอยบ้านตากแดดค่ะ (ที่ดินโครงการเริ่มจากทางเข้าด้านขวามือ ซึ่งเป็นทางเข้าสำนักงานขายค่ะ ) เมื่อเข้าซอยบ้านตากแดดมานิดเดียวก็จะเจอโครงการแล้วค่ะ เรียกได้ว่า เกือบอยู่หน้าปากซอย ไม่ติดถนนใหญ่ มีที่เป่าลมลายยีราฟอยู่เต็มไปหมด
พอเลี้ยวเข้ามา ด้านหน้ามีรูปปั้นคุณยีราฟซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโครงการอยู่ด้วยนะคะ สูงประมาณ 6 เมตรได้
แปลงที่ดินโครงการ อยู่หลังสำนักงานขายนะคะ ซึ่งที่ดินจะมีสวนมะพร้าว และบ้านคนอยู่ไม่มาก รอบโครงการค่ะ ด้านขวามือเป็นถนนคอนกรีต (ซอยบ้านตากแดด)
หน้าสำนักงานขายมีลูกยีราฟยืนอยู่ด้วย ปูหญ้าเทียมตั้งแต่ข้างนอกเลย
ภายใต้แนวคิดสวนป่าอเมซอนดูร่มรื่นดีค่ะ มีเสียงนกร้อง บรรยากาศสุดแสนอเมซอน พนักงานขายใส่ชุดซาฟารีด้วยนะคะ เข้ามาก็โปร่งด้วยความสูงของฝ้าเพดานคุณยีราฟ
ทัศนียภาพสระว่ายน้ำในสวนป่าจำลองของโครงการ Giraffe Duplex Living ค่ะ
- สระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 70 เมตร 2 สระ
- สวนส่วนกลาง
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร
- CCTV บริเวณจุดสำคัญต่างๆ ภายในโครงการ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
- Access Control Card
Product Walkthrough
สำหรับ Type ห้องของโครงการมีทั้งหมด 3 Type โดยเรียกตามขนาด ได้แก่
- Type M – Two Bedrooms ขนาด 60 ตารางเมตร
- Type L – Two Bedrooms ขนาด 65 ตารางเมตร
- Type XL – Three Bedrooms ขนาด 77 ตารางเมตร
โดยทุกขนาดมี 2 ชั้นและที่เหมือนกันอีกเรื่องคือความสูงของโถงทางเข้าที่สูงถึง 5.8 เมตร เราไปดูผังห้องแต่ละ Type กันเลยนะคะ
Type M – Two Bedrooms ขนาด 60 ตารางเมตร ชั้นล่าง ขนาด 32 ตารางเมตร เข้าไปจะเจอส่วนของนั่งเล่น ขวามือใกล้กับประตูด้านในเป็นตำแหน่งบันไดขึ้นชั้นสองค่ะ ถัดมาจากพื้นที่ห้องนั่งเล่น ใกล้ๆ กันเป็นตำแหน่งโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่ง ตรงข้ามกับส่วนรับประทานอาหารเป็นห้องน้ำค่ะ ถัดมาด้านในสุดของห้องเป็นส่วนของครัวที่อยู่ติดกับพื้นที่ระเบียงด้านนอกค่ะ ซึ่งข้อดีของครัวที่อยู่ติดระเบียงคือ สามารถระบายอากาศออกสู่ด้านนอกได้ พื้นที่ระเบียงเป็นตำแหน่งวางคอมเพลสเซอร์แอร์ค่ะ นอกจากนี้ยังมีห้องนอนเล็กอยู่ด้านในสุดของชั้นล่างอีก 1 ห้อง ซึ่งมีพื้นที่วางทีวีปลายเตียงค่ะ
สำหรับชั้นสอง ขนาด 28 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ทั้งชั้น ซึ่งห้องนี้จะมีห้องน้ำ และระเบียงส่วนตัวค่ะ ขึ้นบันไดมาจะเจอส่วนของห้องอาบน้ำที่เป็นผนังกระจกฝ้าก่อนเลย ค่อนข้าง Sexy มากทีเดียว สำหรับในห้องนอนด้านข้างเตียงจะเห็นว่ามีโต๊ะทำงานที่อยู่ติดระเบียง 1 ตัวค่ะ ซึ่งจะได้รับแสงธรรมชาติอย่างเต็มที่ ปลายเตียงเป็นพื้นที่วางทีวี และตู้เสื้อผ้าค่ะ
Type L – Two Bedrooms ขนาด 65 ตารางเมตร ห้องนี้คล้ายกับห้องที่แล้ว ต่างกันที่ขนาดใหญ่กว่านิดหน่อยค่ะ
Type XL – Three Bedrooms ขนาด 77 ตารางเมตร ชั้นล่าง ขนาด 37 ตารางเมตร ผังห้องคล้ายๆ กับชั้นล่างของห้อง Type อื่นค่ะ แต่ห้องนอนเล็กด้านล่างจะใหญ่กว่า พื้นที่พอวางเตียงแบบ Queen Size-King Size ได้ค่ะ
สำหรับชั้นสอง ของห้อง Type นี้ มี 2 ห้องนอนค่ะ คือ Master Bedroom ฝั่งด้านหลังห้อง ที่มีห้องน้ำ และระเบียงส่วนตัว และห้องนอนเล็กที่อยู่ฝั่งด้านหน้าห้อง ซึ่งมีห้องน้ำในตัวเช่นกัน ไปดูห้องตัวอย่างกันดีกว่า
Type XL – Three Bedrooms ขนาด 77 ตารางเมตร
หน้าห้องจะเห็นว่าแต่ละห้องเป็นแบบ Duplex ทั้งหมด สูง 2 ชั้น โถงทางเดินของทุกยูนิตเป็นแบบ Single Corridor ค่ะ
รูปแบบ Corridor เป็นระแนงเหล็กสีเทาอย่างที่เห็นในภาพค่ะ สังเกตุไหมว่าห้องมีหน้าต่างเยอะมาก ใช้เฟรมสีขาว จริงๆน่าจะใช้สีเทาเข้มหรือดำ จะได้กลืนๆไป
Single Corridor หน้าห้อง สูงโปร่งค่ะ
ประตูทางเข้าหน้าห้อง ใช้สีวัสดุให้อารมณ์อยู่ในป่า
ประตูที่ได้เป็นแบบ Digital Doorlock มือจับเขาควายของ Samsung
พื้นห้องจะยกระดับจากโถงหน้าห้องขึ้นมานิดนึงนะคะ
เหตุผลที่ตั้งชื่อที่นี่ว่า ยีราฟ เพราะว่าเพดานด้านหน้าสูงแบบนี้เลยค่ะ จากพื้นจรดฝ้า ประมาณ 5.8 เมตร ซึ่งเป็นเฉพาะช่วงด้านหน้าเท่านั้นนะคะ ความกว้างเข้ามาจากประตู ที่มีเพดานสูงอย่างนี้ประมาณ 1 เมตรเท่านั้นนะคะ โดยมีหน้าต่างเอาไว้รับแสงธรรมชาติเข้ามาข้างในห้องได้ แต่ระวังเรื่องความร้องก็ติดม่านหรือฟิล์ม
มุมนั่งเล่น ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร ถ้ามีโต๊ะกลางจะเกะกะทางเดินไปหน่อย
สังเกตผนังห้อง เป็นผนังไม่เรียบดังรูปนะคะ ซึ่งเป็นสีทาผนังที่ทำมาจากสาหร่ายทะเล เป็นนวัตกรรมที่ เดย์เกน กรุ๊ป นำมาใช้ เพื่อช่วยลดอุณหภูมืในห้อง ได้ 2-3 องศา ช่วยประหยัดไป และดูดซับกลิ่นค่ะต่างๆ ค่ะ
เข้ามาจะเจอความกว้างห้องชั้นล่างประมาณนี้ค่ะ เพดานชั้นล่างสูงประมาณ 2.4 เมตร ไเป็นฝ้าเรียบธรรมดาไฟที่ได้เป็นแบบ Downlight สี WarmWhite ทางด้านซ้ายมือข้างชั้นวางทีวีเป็นประตูทางเข้าห้องน้ำค่ะ
ห้องน้ำอยู่ใต้บันไดค่ะ สำหรับพื้นห้องน้ำจะทำลดระดับลงไปนิดนึงนะคะ โดยมีตัวจบบริเวณธรณีประตู เป็นตัวจบไม้และหินเทียมสีดำ ส่วนบริเวณนี้เป็นส่วนแห้งจะอยู่ด้านซ้ายมือที่เห็นว่ามีกระจกเทมเปอร์กั้นด้วยค่ะ
พื้นที่ส่วนเปียก ที่ดูไม่กว้างมาก เพราะผนังด้านขวาติดส่วนนของบันไดขึ้นชึ้นสองแล้ว
โถสุขภัณฑ์อยู่ตรงนี้ค่ะ ใต้บันไดพอดี พื้นที่กว้างไม่อึดอัดค่ะ
อ่างล่างหน้า ที่มีชั้นเก็บของอยู่ด้านล่าง ชั้นเก็บของแบบนี้ใส่พวกขวดหรือน้ำยาทำความสะอาดไม่ได้ ใส่ได้ของที่ความสูงประมาณกระดาษทิชชู่
สังเกตว่าก็อกเป็นก็อกสามารถแยกน้ำอุ่นน้ำเย็น แต่ว่าโครงการไม่ได้ติดตั้งระบบมาให้นะคะ ต้องติดเพิ่มเองค่ะ
สุขภัณฑ์ที่นี่ใช้ของ Annwa นะคะ เป็นสุขภัณฑ์นำเข้าจากไต้หวัน
โต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4 ที่นั่ง หน้าห้องครัวค่ะ พื้นที่บนโตีะค่อนข้างน้อยสำหรับ 4 คนนะคะ กินข้าวคนละจานแบบไม่มีกับข้าวก็เต็มแล้ว
ถัดมาด้านหลังห้อง ทำเป็นห้องนอนชั้นล่าง(ซ้ายมือ) และครัวปิดที่มีระเบียงซักล้างด้านนอก (ขวามือ) ในส่วนประตูห้องนอนไม่มีธรณีประตูก่อกั้นนะคะ
ภาพรวมพื้นที่ห้องนอนเล็กชั้นล่าง ซึ่งสามารถวางเตียงขนาด Queen Size – King Size ได้ค่ะ
ด้านข้างเตียงมีกระจกบานเลื่อนเพิ่มแสงธรรมชาติให้ภายในห้องค่ะ ช่องแสง 2 ช่องเล็กด้านล่างเปิดไม่ได้ค่ะ
ข้างเตียงอีกด้าน Built-in ตู้เสื้อผ้าสูงจรดเพดานค่ะ ลวดลายเข้ากับ Theme โครงการดีนะคะ แต่โครงการไม่ได้ให้ค่ะ
ผนังปลายเตียง มีพื้นที่เขวนทีวีค่ะ เป็นพื้นที่โล่ง เรียบ และค่อนข้างใหญ่ สามารถวางทีวีจอใหญ่ๆ ได้เลย เพราะระยะดูทีวีจากเตียงก็ค่อนข้างกว้างค่ะ
ห้องครัวที่ติดอยู่กับห้องนอน เป็นครัวปิด โดยมีกระจกบานสไลด์เปิดได้ด้านเดียวค่ะ
แต่ขนาดพื้นที่โดยรวมค่อนข้างเล็กนะคะ ขยับตัวทำครัวลำบากหน่อย
ตู้เย็นที่ทางโครงการนำมาวางในห้องครัวขนาดใหญ่เกินไปสำหรับพื้นที่ห้องขนาดนี้เลยทำให้ห้องดูแคบ ด้านในสุดติดระเบียงเป็น Built-in เคาท์เตอร์ครัว ซึ่งด้านบน Built- in เป็นตู้ลอยไว้เก็บของด้วย ชุดครัวนี้โครงการ Built-in มาให้นะคะ
ขนาดพื้นที่วางตู้เย็น กว้างประมาณ 70-80 เซนติเมตร
พื้นที่เคาท์เตอร์ครัว มี Sink มาให้ เตาไฟฟ้าต้องหามาติดเพิ่มเติมค่ะ เปิดหน้าต่างด้านข้างเพื่อระบายอากาศก็ได้ ไม่จำเป็นต้องติดเครื่องดูดควัน ซึ่งถ้าติดตั้งคงต้องเอาไว้ด้านซ้ายมือของ Sink ซึ่งจะทำให้พื้นที่สำหรับทำอาหาร หรือวางของด้านบนเคาท์เตอร์น้อยลงค่ะ
ใต้เคาท์เตอร์ มีชั้น Built ไว้วาง Microwave ค่ะ ไม่ได้ใหญ่มากนะคะ เวลาซื้อมาต้องวัดขนาดไปดีๆ เดี๋ยวจะซื้อผิดขนาด ใส่ไม่ได้นะคะ การนำเอา Microwave มาวางไว้ตรงนี้ อาจจะลำบากสำหรับบางคนค่ะ เพราะต้องก้มๆ เงยๆ บ่อยๆ ปวดหลังค่ะ
Sink หลุมเดี่ยว ขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่มีที่พักจาน อย่างนี้เวลาล้างอาจจะลำบากนิดนึงค่ะ เพราะก่อนล้างน้ำเปล่า ไม่รู้จะเอาไว้วางไว้ไหน คงต้องไว้ข้างๆ ก่อนล้างน้ำเปล่านะคะ แนะนำให้ติดที่คว่ำจานแขวนผนังเพิ่มเติมจะได้สะดวกมากขึ้น
ประตูบานเลื่อน จากครัวไปส่วนระเบียงด้านหลัง
พื้นที่ระเบียงโดยรวม เมื่อวางเครื่องซักผ้าแล้ว ตรงนี้โครงการวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดเล็กมาให้ ซึ่งทำให้ดูพื้นที่ตรงนี้ดูเหลือเยอะหน่อย ดูกว้างค่ะ
เหนือเครื่องซักผ้า เป็นตำแหน่งแขวนคอมเพลสเซอร์แอร์ ไม่ได้ติด Grill เป่าลมร้อนออกด้านนอกมาให้ ดังนั้น ลมร้อนจากคอมเพลสเซอร์แอร์จะถูกเป่าเข้าหาผนังระเบียงนะคะ
เตรียมตัวขึ้นไปชั้นสองกันนะคะ จะเห็นว่า พื้นบันได ใช้คนละสีกับพื้นห้อง แต่เป็นลามิเนตเหมือนกันค่ะ
มองไปทางหน้าห้องนะคะ จากตรงนี้จะเห็นความสูงโดยรวมของห้องจากพื้นถึงฝ้าเพดานด้วยค่ะ จุดที่สูงที่สุดอยู่ที่ 5.8 เมตร
มาดูในส่วนของบันไดกันนะคะ จะเห็นว่า ชานพักเป็นรูปสามเหลี่ยม ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินขึ้นเดินลงมากกว่าแบบสี่เหลี่ยมค่ะ อีกเรื่ืองที่สำคัญคือ บันไดนี้ ไ่ม่ได้มีราวจับให้ มีแต่แนวผนังทึบด้านซ้ายขวา อาจจะดูอึดอีดไปหน่อยนะคะ
ขึ้นมาถึงชั้น 2 ปุ๊บ ด้านหน้าเจอนี่เลยค่ะ ” Sexy Bath” อาบแล้วเห็นโปร่งๆ อย่างนี้เลย ตกใจอยู่เหมือนกัน เลยไปถามโครงการมา โครงการแจ้งว่า ตรงนี้จะเป็นทำเป็นกระจกฝ้าให้ ไม่เหมือนห้องตัวอย่างค่ะ …. 🙂
พื้นชั้น 2 เป็นลามิเนตหนา 11 มม. เช่นกัน ลายนี้เลยนะคะ พื้นที่ตรงนี้เป็นโถงหน้าบันได ขวามือเป็นประตูห้องนอนเล็ก ส่วนด้านซ้ายมือเป็นประตูทางเข้าห้อง Master Bedroom ห้องเจ้าของ Sexy Bathroom เมื่อครู่ค่ะ
พื้นที่ห้องนอนเล็กชั้นบน วางเตียง 3 ฟุต หรือ 3 ฟุตครึ่งได้ค่ะ ประตูแต่ละห้อง ไม่มีธรณีประตูนะคะ เวลาเดินรีบๆ จะได้ไม่สะดุด ข้างเตียงมีช่องแสงบานกระจก ที่ได้แสงจากทางหน้าห้องชุดค่ะ ขวามือของช่องแสง Built-in ตู้เสื้อผ้าจรดเพดานค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงอีกด้านแทบไม่มีเลย เดินลำบากทีเดียวค่ะ ประมาณ 20 เซนติเมตร
หัวเตียงเป็นตำแหน่งของห้องน้ำ ซึ่ง Fucntion ต่างๆ เหมือนกับด้านล่างนะคะ
ที่กล่าวไปข้างต้นว่า ห้องนี้สามารถจัดวางเตียงได้แค่ขนาด 3-3.5 ฟุต เพราะด้วยเหตุผลนี้เองค่ะ ไม่เช่นนั้น จะกั้นห้องน้ำเข้า-ออกไม่ได้ค่ะ แต่ว่าห้องน้ำอยู่หัวเตียงนี่ไม่ค่อยมีโครงการไหนทำ นานๆ จะเห็นทีนึงค่ะ เพราะว่าบางคนถือเรื่องนี้นะคะ
พื้นที่ห้องน้ำส่วนแห้ง
พื้นที่ห้องน้ำส่วนเปียก ติดช่องแสงด้านหน้า เป็น Sexy Bath เช่นกันค่ะ โดยหน้าต่างจะหันออกไปบริเวณโถงทางเข้าที่สูงจากชั้นแรก อันนี้ ติดม่านดีกว่าไหมค่ะพี่น้อง ไม่อย่างนั้น ยูยิตตรงกันข้ามอาจจะนั่งลุ้นเอาได้นะคะ
รูปแบบฝักบัวพร้อมที่วางสบู่
พื้นที่ของตำแหน่งวางโถสุขภัณฑ์ตรงนี้ ถึงแม้จะถูกประกบด้วยซ้าย-ขวา เนื่องจากอ่างล้างหน้า และฉากกั้นอาบน้ำ แต่ก็ไม่ได้แคบเกินไปนะคะ พอใช้ได้ค่ะ
ห้องต่อไปเป็นห้อง Master Bedroom ค่ะ ตู้ลายไม้ข้างเตียงที่เห็นจากตรงนี้เป็นตู้เสื้อผ้าข้างเตียงนะคะ
วางเตียงขนาด King Size ในห้องนี้นะคะ
ตู้เสื้อผ้าลายไม้ Built-in ข้างเตียงค่ะ
ข้างเตียงมีพื้นที่พอ Built-in ชั้นวางของหัวเตียงได้ค่ะ ไม่ได้แคบเหมือนห้องที่แล้ว
ปลายเตียง Built-in เป็นโต๊ะทำงานติดผนังค่ะ ส่วนด้านข้างเราจะเห็นประตูทางเข้าห้องน้ำในห้อง Master Bedroom ด้วยนะคะ
พื้นที่ห้องน้ำ ในห้อง Master Bedroom
พื้นที่ห้องอาบน้ำค่ะ เป็น Sexy Bath มองเห็นด้านนอก และด้านนอกก็มองเห็นด้านใน
นี่เป็นช่องแสงในห้องนอน ด้านข้างเตียงนะคะ ด้านซ้ายเป็นหน้่าต่างบานเลื่อน ส่วนด้านขวาเป็นประตูบานเลื่อนที่เชื่อมต่อกับระเบียงค่ะ
พื้นที่ระเบียงส่วนตัวในห้องนอน ตำแหน่งคอมเพลสเซอร์อยู่แขวนอยู่ด้านบนเหมือนกับตำแหน่งวางคอมเพลสเซอร์แอร์ด้านล่างค่ะ
ต่อมาเป็นห้อง Type M – Two Bedrooms ขนาด 60 ตารางเมตร ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ
ยกแปลนห้องมาให้ดูกันอีกครั้งนะคะ ห้องนอนมี 2 ห้อง อยู่ชั้นบน และชั้นล่าง
เปิดประตูห้องเข้ามา ผังห้องคล้ายกับห้องที่แล้วเลยค่ะ คือ ด้านหน้าเป็นส่วนรับแขก ถัดเข้าไปเป็นตำแหน่งวางโต๊ะรับประทานอาหาร ในสุดของห้อง ด้านซ้ายเป็นห้องนอนเล็ก ส่วนด้านขวาเป็นครัวที่เชื่อมต่อกับระเบียงชั้นล่าง เช่นกัน เพียงแต่ห้องนี้จะเล็กกว่า และสั้นกว่าค่ะ
ระยะดูทีวีประมาณ 2 เมตร ผนังด้านหน้าห้อง มีหน้าต่างบานเลื่อนเป็นช่องแสง เวลานั่งดูทีวี หรือนั่งอ่านหนังสือบริเวณนี้ค่ะ
ถัดจากโซฟาเป็นมุมวางโต๊ะรับประทานอาหารค่ะ พื้นที่เล็กกว่าห้องเมื่อครู่ค่อนข้างมาก จึงวางโต๊ะรับประทานอาหารได้แค่แบบ 2 ที่นั่งค่ะ
ถัดมาติดกับโต๊ะรับประทานอาหารเป็นห้องครัว พื้นที่ครัวประมาณเดียวกับห้องที่แล้ว มีครัว Built-in มาให้เช่นกันค่ะ
พื้นที่ระเบียงที่ติดกับห้องครัว วางเครื่องซักผ้าและมีที่ตากผ้าได้
ขึ้นไปชั้นบนนะคะ สีพื้นลามิเนตของบันได ใช้คนละสีกับห้องแบบ 77 ตารางเมตรค่ะ
ขึ้นมาด้านบน เจอห้องน้ำแบบ Sexy Bath อยู่ตรงหน้า ซึ่งเป็นห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ด้านซ้ายมือค่ะ
ฝั่งซ้ายมือของเตียง ตรงนี้จะเห็นว่ามีพื้นที่ข้างเตียง พอจะจัดเป็นโต๊ะทำงานรับแสงธรรมชาติได้สักตัวนะคะ
ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางทีวี และตู้เสื้อผ้าค่ะ
ซึ่งความจริงแล้ว เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้โครงการไม่ได้มีให้นะคะ จะได้เป็นผนังโล่งๆ (ผนังที่ใช้สีซึ่งทำมาจากสาหร่ายทะเล นวัตกรรมเพื่อช่วยลดอุณหภูมืในห้อง 2-3 องศา ช่วยประหยัดไป และดูดซับกลิ่นค่ะต่างๆ ที่กล่าวไว้แล้วข้างต้นค่ะ)
พื้นที่ห้องน้ำในห้องนอน แยกเป็นส่วนเปียกส่วนแห้ง โดยมีฉากกั้นมาให้
มุมตำแหน่งอ่างล้างหน้า ซึ่งอยู่ในมุมที่ดูจะคับแคบไปนิดนะคะ แต่ Function การใช้งานครบเหมือนห้องอื่นๆ ค่ะ
หลังโถสุขภัณฑ์ เป็นกระจกบานเลื่อนระบายอากาศไปด้านหลังห้องค่ะ
พื้นที่ส่วนเปียกของห้องนี้ ค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ กว้างกว่าห้องอาบน้ำอื่นๆ ที่เราพาไปดูเลยล่ะค่ะ
ด้านขวามือมีช่องแสงบานเลื่อน ที่ช่วยเรื่องแสงสว่าง และเรื่องการระบายอากาศในห้องน้ำ
ราคาและเงื่อนไขการขาย (5/10/2013)
- Duplex แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 60 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 46,000 บาท/ตารางเมตร
- Duplex แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 65 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.02 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 51,800 บาท/ตารางเมตร
- Duplex แบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ขนาด 77 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร 51,900 บาท/ตารางเมตร
- Fully Fitted (ได้เฉพาะชุดครัว Built-in, ชุดสุขภัณฑ์, แอร์)
- ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตารางเมตร/เดือน
- เงินกองทุน 500 บาท/ตารางเมตร
- จอง 10,000 บาท
- ทำสัญญา 50,000 บาท
เจาะลึกรวบยอด
Giraffe Duplex Living เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Duplex ทุกยูนิต ระดับ Super Economy ขนาดใหญ่ ในที่ดินไกลเมือง แต่การคมนาคมค่อนข้างสะดวก โดยโครงการตั้งอยู่บนถนนนครอินทร์ แต่ไม่ได้ติดถนนใหญ่สักทีเดียว มีที่ดินเปล่ากั้น จึงหลบเข้าไป ไม่ค่อยโดดเด่นในเรื่องของทำเล สิ่งแวดล้อมโดยรอบในระยะใกล้ของโครงการมีเพียงวิทยาลัยราชพฤษ์ ห่างจากโครงการรวมระยะ U-Turn ก็ประมาณ 1 กิโลเมตร นอกนั้นเป็นพื้นที่ดินว่างเปล่า และบ้านคนเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ
สำหรับเรื่องการเดินทาง ค่อนข้างสะดวกสบายหากมีรถยนต์ส่วนตัว โดยสามารถวิ่งไปพระราม 5 หรือไปถนนติวานนท์ ได้ไ่ม่ยากนัก แต่เส้นถนนนครอินทร์จะมีช่วงติดขัดในเวลาเช้าเย็นสำหรับผู้คนที่ใช้เดินทางเข้าเมืองและออก ดีหน่อยที่มีอุโมงค์ลอดวงเวียนพระราม 5 แล้ว แต่ถือว่าสะดวกในการเดินทาง (ถ้าไม่นับรถติดนะคะ) ส่วนหากต้องการไปถนนราชพฤกษ์ ก็ไม่ยากนะคะ ประมาณ 2-3 กิโลเมตร ก็ถึงแล้ว ซึ่งบริเวณนั้น จะเป็นแหล่งชุมชน มีอาหารการกินให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Walk ,Homework , HomePro ,The Crytal(ที่กำลังก่อสร้าง) ต้องบอกว่าทำเลละแวกนั้น เป็นแหล่งชุมชนที่เป็นบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ ราคาเร่ิมต้นอยู่ที่ประมาณ 4 ล้านบาท ค่ะ
แต่ถ้าอยู่โครงการนี้แล้วไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็ค่อนข้างยากหน่อยนะคะ เพราะว่ารถสาธารณะค่อนข้างหายากทีเดียวค่ะ
ในเรื่องของวัสดุอุปกรณ์ที่โครงการใช้ค่อนข้างมาตรฐาน หน้าตาค่อนข้างดูดี และยังมีผนังสีสาหร่ายที่เป็นนวัตกรรมเพิ่มเข้ามาทำให้บ้านเย็นไม่ร้อนด้วย สำหรับการออกแบบโครงการทำได้ชัดเจนมากค่ะ พยายามนำแนวสวนป่ามาไว้ในโครงการซึ่งสังเกตจากการตกแต่ง ตั้งแต่ตัวอาคารที่มีลวดลายต้นไม้ หรือบริเวณส่วนกลางที่พยายามทำให้เป็นสวนป่าในแบบจำลองค่ะ ซึ่งสามารถทำออกมาได้ดีทีเดียว สำหรับภายในตัวห้อง Function ต่างๆ ก็ครบค่ะ แต่มีบางอย่าง เช่นในห้องน้ำ มี Sexy Bath ที่หลายคนอาจจะไม่ปลื้มในจุดนี้ หรือว่าลิ้นชักใต้อ่างล้างหน้า ซึ่งอาจจะเก็บของได้น้อย วางขวดใหญ่ๆไม่ได้ ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ
เรื่องความปลอดภัย โครงการมี CCTV รปภ. รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร มาตรฐานคอนโดมิเนียมทั่วไปค่ะ
ผมปรับคะแนนใหม่หมดเลยตามบทวิเคราะห์นี้นะครับ
โครงการ Giraffe Duplex Living ทำออกมาเป็นสินค้าแนวใหม่ เป็นคอนโดมิเนียมชานเมืองในทำเลเทียบเท่ากับสินค้าประเภท Town House โดยห้อง 2 Bedrooms ที่ราคา 2.4 ล้าน และ 3 Bedrooms 3.59 ล้าน เทียบกันได้ตรงๆกับทาวน์โฮม 2 และ 3 ชั้น แต่จะได้พื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า Town Home 2 และ 3 ชั้นอยู่ประมาณครึ่งหนึ่ง มีที่จอดรถ 100% Fix ซึ่งคอนเซปท์ตรงนี้ถูก Explore มาก่อนแล้วกับโครงการอย่าง Chambers รามอินทรา ของ SC ASSET แต่จะเพิ่มในส่วนของความเป็น Duplex เข้าไป ให้มีความรู้สึกเหมือนกับเป็นบ้านมากขึ้น ตรงที่มีบันไดสามารถขึ้นลง แยกพื้นที่กันระหว่างชั้น 1 และชั้น 2 ในตัวยูนิต
ด้วยทำเลและสถานที่ตั้ง Giraffe Condo จึงเหมาะกับคนพื้นที่มากกว่าคนที่อยู่อาศัยในเมือง เหมาะสมสำหรับคนที่ทำงานอยู่ในละแวกดังกล่าว หากเป็นคนที่ทำงานอยู่ในเมือง หรืออยู่ต่างถิ่น ผมแนะนำว่าให้มองตัวเลือกอื่นน่าจะเหมาะสมกว่า เช่นถ้าอยู่วงเวียนพระราม 5 ขับรถไปทำงานย่านรัชดา ก็คงจะไม่เหมาะสมเท่าไร เพราะเราก็รู้ดีอยู่แล้วว่าการจราจรฝั่งนี้ค่อนข้างติดขัด โดยเฉพาะในช่วงที่ยังมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง สีน้ำเงิน และสีเขียว ทำให้ช่องทางการจราจรบนถนนสายหลักหลายๆเส้นลดลง ทั้งติวานนท์, จรัญฯ, รัตนาธิเบศร์และราชพฤกษ์ ซึ่งจัดเป็นถนนสายหลักที่จะใช้ข้ามไปฝั่งพระนคร
การอยู่อาศัยแบบทาวน์เฮาส์กับคอนโดมิเนียมนั้นมีข้อแตกต่างที่สำคัญๆอยู่ 2 ข้อด้วยกัน นั่นคือเรื่องของการดูแลรักษาบ้านและเรื่องของสาธารณูปโภคส่วนกลาง ซึ่งแน่นอนว่าหากคุยกันเรื่องความยากง่ายในการดูแลรักษาแล้ว บ้านย่อมดูแลยากกว่าคอนโดแน่ๆ เพราะคอนโดมิเนียมเพียงปัดกวาดเช็ดถูก็สามารถดูแลได้แล้ว ในขณะที่บ้านมีอะไรมากกว่านั้น ทั้งเรื่องปลวก เรื่องพื้นที่ภายนอกบ้าน ดังนั้นสินค้าประเภท Giraffe Condo จึงเหมาะกับคนกลุ่มหนึ่งที่มีเวลาดูแลรักษาบ้านน้อย และมีจำนวนสมาชิกไม่มาก เนื่องจากด้วยราคาที่เท่ากันคอนโดจะได้พื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าสินค้าประเภททาวน์โฮม
ต่อด้วยเรื่องสาธารณูปโภค ที่จัดมา 2 สระว่ายน้ำ ความยาวสระละ 70 เมตร สามารถว่ายน้ำได้อย่างสบาย ออกกำลังกายได้แน่นอน ซึ่งจัดว่าใหญ่มากหากเทียบกับราคา 50,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งโดยหลังๆมานี้คอนโดที่เปิดในปี 2013 สระว่ายน้ำให้ยาว 20 เมตร เราก็ถือว่ายาวกันแล้ว หรือบางโครงการที่อยู่ใน Super Economy Segment มักจะไม่ให้ส่วนกลางอะไรมากมายเสียด้วยซ้ำ ซึ่งเมื่อเทียบกับโครงการทาวน์โฮม 2 และ 3 ชั้นในละแวกเดียวกัน ก็จะไม่มีทั้งสโมสรและสระว่ายน้ำ หรือแม้กระทั่ง Access Card กับเรื่องของความปลอดภัย ทำให้เป็นข้อดีของการอยู่อาศัยบนคอนโดมิเนียม เมื่อเทียบกับทาวน์โฮมนะครับ
วัสดุอุปกรณ์ให้มาแบบมาตรฐานโดยไม่ได้เป็น Fully Furnished สิ่งที่ให้มาก็มีพวกชุดครัว Built-in และสุขภัณฑ์ห้องน้ำ ซึ่งจะไปสะท้อนอยู่ในราคาขาย ถ้าเราจะตกแต่งเพิ่มก็สามารถหาเฟอร์นิเจอร์มาใส่ได้ในราคา 1 แสนบาท ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าคิดว่าน่าจะเอาอยู่ (ยกเว้นว่าเราต้องการเกรดของดีกว่านี้)
เรื่องแบบความสวยงามผมขอข้ามนะครับ แต่เรื่องความหนาแน่นของโปรเจคนี้จัดว่าหนาแน่นน้อย แม้ว่าเราจะเห็นว่ามีหลายๆตึกเรียงต่อกันเป็นตับก็ตาม แต่ด้วยความที่ซอยห้องใหญ่ บนพื้นที่ 11 ไร่ มีเพียง 336 ยูนิต ตึกละประมาณ 58 ยูนิต หรือว่าไร่ละ 33 ยูนิต มีลิฟท์อยู่สองฟากของตัวตึก ฝั่งละ 1 ตัว ทำให้ความหนาแน่นนั้นค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับพื้นที่ดินโดยรวม สวนส่วนกลางที่ได้จึงมีขนาดใหญ่กว่าปกติ แต่ด้วยตึก 5 ชั้น จำนวนเยอะๆ วางอยู่ด้วยกัน ก็อาจจะทำให้ดูทึบ ดูอึดอัดไปบ้าง เป็นธรรมดาของโครงการที่สร้างหลายๆตึกอยู่ในพื้นที่เดียวกันนะครับ
Update ล่าสุด Sep 05,15
โครงการปล่อยสำนักงานขายร้างนะครับ ความคืบหน้าไม่มี ยกเลิกโครงการไปตามระเบียบ…
ด้านหน้าสำนักงานขาย ณ.วันที่ 5 กันยายน 2558 ปล่อยร้าง สภาพเป็นป่า สมกับยีราฟเรียบร้อย
สภาพภายนอกสำนักงานขาย
ปล่อยร้างอย่างที่เห็น
ในสำนักงานขายไม่เหลืออะไรแล้วนะครับ ประตูล็อค
ป้ายโครงการ
ยีราฟตัวโลโก้โครงการยังอยู่นะครับ ยืนเหงาอยู่ตัวเดียวนี่แหละ
ซากป้ายโฆษณา บรรยากาศสวนป่าอเมซอนของโครงการ …
ที่ดินโครงการ ปล่อยรกร้างอย่างที่เห็นนะครับ ยังไม่ได้เริ่มทำอะไร
สภาพที่ดินอีกมุม
Judgement
ไม่มีการให้คะแนนนะครับสำหรับโครงการนี้ เนื่องจากโครงการถูกยกเลิกไปนะตอนนี้…