รีวิวโครงการ
รีวิวตึกเสร็จ IKON สุขุมวิท 77 คอนโด Low Rise ในซอยสุขุมวิท 81 จาก V Property [รีวิวฉบับที่ 2136]
10 ตุลาคม 2020
รีวิวฉบับที่ 1889 … ใครที่ผ่านไปมาย่านอ่อนนุช น่าจะเคยเห็น Sale Gallery โครงการ IKON สุขุมวิท 77 กันมาบ้างแล้วนะคะ วันนี้เรามีโอกาสได้เข้าไปดูรายละเอียดโครงการและเก็บมารีวิวกัน ซึ่งจากที่ไปดูเราว่าผังห้องและวัสดุน่าสนใจทีเดียว จะเป็นอย่างไรเราไปอ่านกันค่ะ 🙂
Fact @ 19 June 2019
- IKON Sukhumvit 77 (ไอคอน สุขุมวิท 77)
- บริษัท วี พร๊อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ซอยสุขุมวิท 81 ถนนสุขุมวิท เขตสวนหลวง
- ที่ดินประมาณ 3-3-55 ไร่
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 3 อาคาร 442 ยูนิต และร้านค้า – ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 24 ยูนิตที่อาคาร A
- ที่จอดรถประมาณ 50% รวมซ้อนคัน (แบ่งเป็น Automatic Parking และ Convertional)
- เริ่มก่อสร้าง : Q1 2562
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ตุลาคม 2563
- Studio 23-26 ตร.ม. (Sold Out)
- 1 Bedroom 27-32 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus 34-35 ตร.ม.
- 2 Bedroom 34 ตร.ม. (Sold Out)
- 2 Bedroom 43-47 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.15 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ AVERAGE ประมาณ 93,000 บาท/ตร.ม.
- ช่วงราคาต่อตารางเมตร ต่ำสุด – สูงสุดประมาณ 85,000 – 103,000 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1298
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด Google Maps : 13.710257, 100.608120
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
ที่ตั้งโครงการ IKON สุขุมวิท 77 อยู่ในซอยที่สามารถลัดออกได้ทั้ง 2 ทาง คือจากซอยสุขุมวิท 81 และซอยอ่อนนุช 10 ทำให้การเดินทางค่อนข้างสะดวกนะคะ ถึงแม้จะไม่ได้ติดซอยใหญ่หรือถนนใหญ่ เพราะจะเข้าจากถนนสุขุมวิทก็ได้ หรือจะเข้าผ่านสุขุมวิท 77 (ถนนอ่อนนุชก็ได้เช่นกันค่ะ
โดยเราจะขอเจาะลึกใน 2 ซอยที่เข้าถึงโครงการได้กันนะคะ
- ซอยสุขุมวิท 81 : เป็นซอยหลักในการเข้าถึงโครงการนะคะ และจะสะดวกสำหรับใครที่เดินทางมาจากสุขุมวิทเพราะในซอยนี้รถติดน้อยกว่าซอยใหญ่อย่างสุขุมวิท 77 รวมไปถึงระยะห่างจากโครงการมาหน้าปากซอยก็ไม่มาก ขับรถไม่ลึก หรือจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์เข้าได้ง่าย อยู่ที่ 1.2 กม. (นับจากประตูทางเข้า-ออกโครงการ) และพอออกมาหน้าปากซอยก็จะเจอกับห้าง Century อ่อนนุช ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็น Tesco Lotus อ่อนนุชเลยด้วยค่ะ
- สุขุมวิท 77 (ถนนอ่อนนุช) : ถนนอ่อนนุชเป็นถนนที่เรารู้จักกันดีในเรื่องความคึกคัก ของกิน ตลาดสด Community Mall และ Hyper Market ขนาดใหญ่อย่าง Big C ช่วงต้นๆ ซอยถือว่าเด่นมากๆ ในแง่ความอุดสมบูรณ์นะคะ และเดิมที่เส้นนี้ก็เป็นพื้นที่ชุมชนมานานแล้วด้วย รวมไปถึงปัจจุบันก็มีคอนโดมิเนียมเปิดติดถนนนี้เยอะทีเดียว ความคึกคักจริงมีมากกว่าซอยสุขุมวิท 81 เป็นธรรมดา นอกจากนี้ถนนเส้นนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ศรีนครินทร์ หรือจะตรงไปทางประเวศ ลาดกระบังก็ง่าย
ซึ่งถ้าจะเข้าโครงการมาทางสุขุมวิท 77 ก็สามารถแวะซื้อของใช้ ของกินต่างๆ ได้ แต่ที่ด้อยกว่าสุขุมวิท 81 คือเรื่องรถที่ค่อนข้างหนาแน่น และระยะทางที่ไกลกว่าเล็กน้อย เพราะต้องเข้าผ่านซอยอ่อนนุช 10 อีกที รวมระยะก็จะราวๆ 1.5 กม.
ส่วนการใช้ทางด่วนเข้า-ออกโครงการนี้ก็ถือว่าไม่ไกลนะคะ เพราะสามารถเลือกใช้ทางด่วนฉลองรัชได้ โดยมีจุดขึ้นที่ซอยสุขุมวิท 50 และตรงด่านพระโขนง ส่วนจุดลงที่ใกล้สุดก็จะเป็นตรงซอยสุขุมวิท 50 และอีกจุดคือตรงสุขุมวิท 62 ค่ะ
สำหรับใครที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัว โครงการนี้เราก็มองว่าสะดวกในการเข้า-ออกอยู่นะ เพราะถ้าเราทะลุออกมาจากสุขุมวิท 81 เลยก็จะถึง BTS อ่อนนุช ซึ่งถึงแม้ว่าจะหลุดระยะเดินใกล้และเดินง่ายไปแล้ว แต่ทางโครงการก็มีเพิ่ม Service ส่วนนี้โดยให้ Shuttle Van Service รับ-ส่ง ลูกบ้านไป BTS อ่อนนุช โดยคิวแรกจะเริ่มที่เวลา 6 โมงเช้าเลย
เรื่องความอุดมสมบูรณ์เราได้เกริ่นไปแล้วก่อนหน้านี้คือโซนติดถนนสุขุมวิท ช่วงต้นซอยสุขุมวิท 81 และช่วงต้นซอยสุขุมวิท 77 ที่จะเป็น Community Mall, Hyper Market และตลาดสด แต่ที่จะเพิ่มเติมและใกล้กับโครงการมากจริงๆ คือ Community Mall ที่กำลังใกล้จะเปิดกันแล้วอย่าง People Park Community Mall ที่ด้านหน้าอยู่ติดกับถนนสุขุมวิท 77 นะคะ แต่มีทางเข้า-ออกด้านหลังที่เชื่อมเข้ากับอ่อนนุช 10 อยู่ และอยู่ใกล้กับทางเข้า-ออกโครงการเลย เป็นระยะที่เดินได้สบายๆ
ภายใน People Park นี้ที่เราลองแวะเข้าไปเดินดูๆ มาส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารแบรนด์ แฟรนไชน์ต่างๆ ค่อนข้างครบเลย หลักๆ อย่าง Starbucks, MK เป็นต้น
สำหรับการเดินทางในวันนี้เราเริ่มต้นจากบริเวณถนนสุขุมวิทช่วงปากซอยสุขุมวิท 71 จากนั้นขับตรงมาเพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าสุขุมวิท 77 และวิ่งตรงยาวๆ เจอสี่แยกที่ให้เลี้ยวเข้าซอยอ่อนนุช 10 แล้วขับตามทางมาประมาณ 250 ม. จะเห็น Sale Gallery โครงการแล้วค่ะ
เริ่มต้นเส้นทางบนถนนสุขุมวิทบริเวณพระโขนงก่อนข้ามคลองพระโขนงไปยังอ่อนนุชนะคะ
ขับตรงขึ้นสะพานมาฝั่งซ้ายมือจะเห็นจุดขึ้นทางด่วนฉลองรัช ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางด่วนที่ใกล้กับโครงการ
ขับข้ามสะพานมาแล้วให้ชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุช
บรรยากาศช่วงตอนต้นของถนนอ่อนนุชส่วนใหญ่เป็นตึกแถวเรียงรายกันไป มีความคึกคักสูงทั้งร้านค้าและร้านอาหาร ราคาย่อมเยา
บรรยากาศบนทางเท้าจะมีร้านขายของทั้งของกินของใช้ ให้เลือกจับจ่ายกันตลอดแนวเส้นทาง
ถัดมาหน่อยเราจะเห็น Big C Extra เป็น Hyper Market ขนาดใหญ่ไว้ให้ซื้อของใช้ ของสด กับมาทำอาหารที่บ้านได้
เยื้องๆ กันเป็นตลาดสดอ่อนนุช ตลาดขนาดใหญ่ในย่านนี้และนับว่าใกล้กับโครงการมากที่สุดนะคะ
ด้านในตลาดก็มีขายทั้งอาหารสด อาหารแห้ง แบบตลาดสดทั่วไปค่ะ โดยตลาดนี้จะเปิดขายตั้งแต่เช้าไปจนถึงช่วงเย็นๆ เลย
จากนั้นขับตรงมาผ่านวัดมหาบุศย์วัดชื่อดังในย่านนี้เลย
และผ่าน People Park Community Mall ฝั่งขวามือ
จากนั้นขับตรงมาเราจะเห็นสี่แยกเล็กๆ ที่ทางซ้ายจะเป็นทางลัดเชื่อมเข้าถนนพัฒนาการ ส่วนฝั่งขวามือคือซอยอ่อนนุช 10 ที่เราจะเลี้ยวกันนะคะ แต่สำหรับใครที่ไม่ได้อยากรอจังหวะรถเพื่อเลี้ยวเข้าซอย 10 เลย สามารถไปเลี้ยวเข้าซอยอ่อนนุช 12 และลัดเข้าซอย 10 อีกทีได้นะคะ เราว่าสะดวกกว่า
แต่สำหรับรีวิวนี้เราจะเลี้ยวเข้าซอยอ่อนนุช 10 กันนะคะ ช่วงต้นซอยนี้บรรยากาศจะมีร้านค้าร้านอาหาร ใต้ตึกแถวประปราย สุดทางตรงก่อนเลี้ยวซ้ายตามทางมี 7-11 อยู่นะคะ และน่าจะเป็น 7-11 ที่ใกล้โครงการมากที่สุด
เลี้ยวซ้ายมาแล้วขับตรงตามทางมาหน่อย สังเกตฝั่งขวามือเป็นทางเข้า-ออกที่จอดรถ People Park ค่ะ จริงๆ แล้วถ้าใครมาจากสุขุมวิท 77 หรืออยากจะออกไปสุขุมวิท 77 แบบไม่ต้องหาจังหวะไฟแดงตรงแยกที่เราผ่านมาเมื่อสักครู่นี้ลัดเข้าทาง People Park ก็น่าจะได้นะคะ สามารถแวะซื้อกาแฟ Starbucks ได้ด้วย
จากทางเข้า-ออก People Park ตรงมานิดเดียว บริเวณจุดเลี้ยวในซอยจะเห็นทางเข้า-ออกโครงการแล้วค่ะ
เรามาดูตัวที่ดินโครงการนี้จะเป็นที่ดินที่ด้านยาวอยู่ขนาบกับถนนเลย และทรงที่ดินไม่ค่อยลึกมาก ดังนั้นการจัดรูปแบบอาคารจึงเป็นแบบเรียงอาคารตามความยาวที่ดินเลย ทำให้หน้าห้องพักจะเน้นหันไปในทิศตะวันออก-ตะวันตกเป็นหลักนะคะ อย่างห้องทิศตะวันออกจะดีหน่อยเพราะได้วิวฝั่ง Facilities ส่วนห้องฝั่งทิศตะวันตกของอาคาร A และครึ่งนึงของอาคาร B จะไม่โดนบล็อกวิว ส่วนอีกครึ่งของอาคาร B และอาคาร C ทั้งหมดจะติดกับอาคารจอดรถของโครงการเพื่อนบ้านที่มีความสูงชั้นพอๆ กัน ดังนั้นเรื่องวิวจะไม่ได้นะคะ เพียงแต่อาคารนี้เป็นอาคารจอดรถ ก็จะไม่ได้เสียความเป็นส่วนตัวมากเท่ากับอยู่ติดกับห้องพักฝั่งตรงเลย
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- People Park
- Habito Mall
- 7-11 ซอยปรีดีพนมยงค์ 2
- Big C Extra
- ตลาดอ่อนนุช
- โลตัสอ่อนนุช
- Century อ่อนนุช
- โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท
- Gateway เอกมัย
- โรงพยาบาลสุขุมวิท
โครงการ IKON สุขุมวิท 77 เป็นหมู่อาคาร Low Rise รวม 3 อาคาร จำนวนยูนิตทั้งหมด 422 ยูนิต บนเนื้อที่ดิน 3-3-55 ไร่ ลักษณะการออกแบบจะเป็นสไตล์ Modern เน้นโทนสี+รูปทรงเรียบง่ายนะคะ ส่วนการวางอาคารหากดูจากรูปนี้แล้วจะเห็นว่าทางโครงการจะเน้นวางอาคารไว้ล้อมรอบ Facilities ตรงกลาง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 โซนหลักๆ ด้วยกันนะคะ คือ โซนสวน และโซนสระว่ายน้ำ+Club House เดี๋ยวเราไปดูรายละเอียดกันต่อใน Master Plan
เริ่มต้นจาก Facilities โซนสระว่ายน้ำ จะอยู่บริเวณส่วนอาคาร B และ C ประกอบด้วย Club House ด้านหน้าโครงการและ สระว่ายน้ำที่อยู่ด้านใน ซึ่งการวางสระว่ายน้ำไว้ตรงกลางระหว่าง Club House และอาคารพักอาศัย ช่วยให้บริเวณสระว่ายน้ำมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นนะคะ สำหรับอีกโซนจะเป็นโซนสวนที่อยู่ติดกับอาคาร A และสังเกตตำแหน่งของอาคารจะอยู่ด้านในห่างจากทางเข้า-ออกหลักของโครงการมากสุดบวกกับได้สวนด้านหน้าด้วย จึงทำให้อาคาร A ค่อนข้างเด่นในเรื่องของความเป็นส่วนตัวกว่าอีก 2 อาคารนะคะ
ในส่วนทางเข้า-ออกโครงการนี้หลังจากเลี้ยวเข้ามาแล้ว จะเห็น Lobby อยู่ด้านซ้ายมือ ซึ่ง Lobby นี้ทางโครงการออกแบบให้เป็น Lobby ที่ใช้ร่วมกันทั้ง 3 อาคารเลยนะคะ ส่วนตรงมาด้านใน ชั้นล่างใต้อาคารทุกอาคารออกแบบให้เป็นที่จอดรถทั้งหมดรูปแบบที่จอดจะเป็น Convertional และมีการทำ Automatic Parking เพิ่มมาให้ด้วยนะคะ โดยลิฟต์รถจะอยู่ระหว่างอาคาร A และ B (รอยประสีดำ) รวมทั้ง 2 รูปแบบแล้วจะมีจำนวนที่จอดราว ~50% รวมซ้อนคัน ซึ่งถือว่าให้มาพอสมควรสำหรับโครงการในย่านนี้ที่มีรูปแบบ+ราคาที่ใกล้เคียงในเช่นเดียวกันค่ะ
เรามาเริ่มดู Facilities ตั้งแต่หน้าโครงการนี้ก็คือ Club House ที่ทางโครงการทำเป็น Sale Gallery ปัจจุบัน รูปแบบจะเป็นอาคารกระจก 2 ชั้น ที่มีตกแต่ง Facade ระแนงสีขาวให้ดูหวือหวามากขึ้น
ด้วยความที่ส่วน Club House เสร็จแล้วเราจะพาไปดูของจริงข้างในกันนะคะ
สำหรับในชั้นล่างนี้ปัจจุบันที่เราบอกว่าจะเป็น Sale Gallery แต่ในอนาคตจะปรับให้เป็น Fitness นะคะ ซึ่งความน่าสนใจของ Facilities ที่นี่คือการเปิดให้บริการตลอด 24 ชม.เลยนะคะ ซึ่งแตกต่างจากโครงการอื่นๆ ที่ทางโครงการจะเปิด-ปิดเป็นเวลา
สำหรับชั้นบนปัจจุบันทางโครงการจัดให้มีหลายโซนด้วยกัน เริ่มต้นก็จะเป็นโซน Boxing มาพร้อมกระสอบทรายเลย ซึ่งตรงนี้ท่าจะให้เหมาะกับการใช้งานมากขึ้นสามารถปูพื้นยางนุ่มๆ ลดแรงกระแทกนะ
ถัดมาจะเป็นโต๊ะสนุกเกอร์ให้มาเล่นได้
และขยับไปด้านในสุดจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน ซึ่งวางให้เป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ค่ะ ส่วนหลังฉากด้านหลังเป็นทางเข้าห้องน้ำแยกหญิง/ชาย
หันกลับมาดูภาพรวมบรรยากาศ Club House ชั้นบนอีกรอบจะเห็นว่ารูปแบบกระจก 2 ฝั่งแบบนี้ทำให้ได้ความโปร่งโล่งดีทีเดียวนะคะ ซึ่งในอนาคตวิวฝั่งขวาจะเป็นสระว่ายน้ำในโครงการค่ะ
บรรยากาศโซนด้านหลัง Club House ที่จัดให้เป็นสระว่ายน้ำ ด้านข้างมีการทำพื้นที่สำหรับนั่งเล่น และจัดสวนให้ดูร่มรื่น ซึ่งตรงนี้เรามองว่าแม้จะเป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง แต่ด้วยความที่มีอาคารขนาบ 2 ฝั่งก็ช่วยบังแดดได้อยู่นะคะ
จุดเด่นของสระนี้คือวัสดุที่ใช้เป็นหินอ่อน White Carrara และขนาดที่ใช้ออกกำลังกายได้จริง 5 x 20 ม. รวมไปถึงทำจุด Buble Jet สำหรับนวดผ่อนคลายด้วยค่ะ
สุดท้ายของรูป Perspective จะเป็นบริเวณ Amphitheater ลักษณะเป็นโซนสวน+พื้นที่พักผ่อนในสวน รวมไปถึงด้านข้างก็ทำทางเดินไว้สำหรับเดินเล่นหรือ Jogging Track ในตัวค่ะ
เรามาดู Floor Plan ชั้น 2 ก็จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมดแล้วนะคะ เพราะส่วน Facilities ได้แยกโซนและอาคารไว้ชัดเจนแล้ว ดังนั้นโซนอาคารพักอาศัยก็จะเป็นส่วนตัวมากขึ้น ในชั้นนี้จำนวนยูนิตของอาคาร A และ B จะน้อยกว่าชั้นอื่นๆ เพราะมีบางส่วนแบ่งไปทำเป็นชั้นจอดรถแบบ Automatic Parking
ส่วนชั้น Typical Floor Plan เลยจะเป็นชั้น 3-6 นะคะ หากสังเกตทุกอาคารจะเลือกห้องขนาดใหญ่หันเข้าทาง Facilities ทั้งหมดนะ และห้องขนาดเล็กจะหันไปทางด้านหลังโครงการหรือทิศตะวันตกนะคะ สำหรับเราห้องที่ตำแหน่งค่อนข้างดีคือห้องที่หน้าห้องหันไปทางความยาวของสวน หรือสระว่ายน้ำ เพราะจะได้วิวเต็มที่มากกว่านะ
พูดถึงเรื่องความหนาแน่นอีกหน่อย แต่ละอาคารจำนวนยูนิตต่อชั้นจะอยู่ที่ประมาณ 19-24 ยูนิต ซึ่งก็ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ และอัตราส่วนลิฟต์รวมอยู่ที่ประมาณ 73.6 : 1 ซึ่งก็จัดว่าไม่หนาแน่นนะ รอลิฟต์ไม่นานมากไม่ต้องแย่งกันใช้
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1 (On Ground) และ Club House 24 ชม.
- สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 20×5 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย
- Co-Working Space
- Amphitheater (Open-Aired Working Zone Private Pavillion)
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 73.6 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 50% รวมซ้อนคัน (แบ่งเป็น Automatic Parking และ Convertional)
- Shuttle Van Service (รับ-ส่ง BTS อ่อนนุช)
- ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card
ตัวโครงการนี้มีแบบบ้านอยู่หลาย Type เลยนะคะ เริ่มตั้งแต่ Studio ขนาด 23 ตร.ม. ไปจนถึง 2 Bedroom ขนาด 47 ตร.ม. โดยส่วนใหญ่เน้นเป็นแพ็กเกจกะทัดรัด อย่าง 1 Bedroom ขนาด 28 และ 31.5 ตร.ม. ราคาราวๆ 2 ล้านปลายถึง 3 ล้านกลางๆ ซึ่งที่นี่ขายพร้อมแพ็กเกจ Furniture ค่อนข้างครบหมดแล้วนะคะ ทำให้ไม่ต้องเผื่องบสำหรับตกแต่งมากด้วย
โดยชุด Furniture และวัสดุจัดว่าได้เกรดมาตรฐานสมราคาดี ที่เด่นๆ ที่เราชอบก็อย่างเช่น
- ชุดครัว + ท็อปหินสังเคราะห์ + เครื่องใช้ไฟฟ้า (Hob & Hood) จาก TEKA
- Digital Door Lock
- ตู้เสื้อผ้า Built-in สูงเท่าฝ้าเพดาน + หน้าบานกระจกสีชา
- ได้ Rain Shower เพิ่มมาด้วย
1 Bedroom ขนาด 28.78 ตร.ม. แปลนห้องนี้เราค่อนข้างชอบในเรื่องของการใช้งาน (Functional) และความเป็นสัดส่วนแต่ละโซน สิ่งที่เรามองว่าโดดเด่นของห้องนี้คือ ห้องครัวที่มีขนาดทางเดินค่อนข้างกว้าง และจัดพื้นที่รับประทานอาหารไว้ภายในได้เลย ดังนั้นเรื่องการทำครัวและกินข้าวจะจบในพื้นที่เดียว กลิ่นอาหารต่างๆ ไม่ออกไปฟังก์ชันอื่นๆ
ส่วนระเบียงห้องนี้ก็เป็นอีกจุดที่เราชอบ เพราะได้ขนาดใหญ่พอสมควรเลยตอบโจทย์การใช้งานจริง จะตากผ้า หรือซักล้างต่างๆ ได้ ส่วนห้องนอนที่นี่ออกแบบให้เป็น Master Bedroom ซึ่งหมายถึงมีห้องน้ำในตัวเลย ใครที่ชอบความสะดวกในการเข้า-ออกห้องน้ำจากห้องนอนก็จะชอบ ในขณะเดียวกันหากต้องต้อนรับเพื่อนๆ มาห้องและให้เพื่อนเข้าห้องน้ำก็จะต้องเข้าผ่านห้องนอนเช่นกันนะ ในกรณีนี้จะมีบางคนที่ซีเรียสและไม่ซีเรียสก็สามารถข้ามประเด็นนี้ได้ค่ะ
เรามาเริ่มดูที่หน้าทางเข้าห้องกันเลยค่ะ ประตูที่นี่จะใช้เป็น HDF ปิดผิวด้วยลามิเนตมาตรฐาน
ที่มีเพิ่มเติมขึ้นมาคือ Digital Door Lock จาก Sciener ที่จะให้มาเป็นมาตรฐาน ซึ่งการใช้งานนี้จะครอบคลุมไปถึงการเปิด-ปิดผ่าน Application ได้ด้วยนะคะ
เข้ามาภายในห้องเป็นบรรยากาศภายในพื้นที่นั่งเล่น ที่เชื่อมโยงไปยังส่วนครัว เพราะด้วยความที่ห้องกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก จึงทำให้แสงธรรมชาติสามารถเข้ามาถึงภายในพื้นที่นั่งเล่นได้ดี บรรยากาศจึงดูโปร่งโล่ง ส่วนฝ้าเพดานที่นี่ให้มามาตรฐานนะคะ คือได้ 2.4 ม.
สำหรับพื้นที่นั่งเล่นนี้เฟอร์นิเจอร์ที่ได้คือ 2 ชิ้นด้วยกันคือ ชุด Built-in วางทีวี+ชั้นวางรองเท้า และชุดโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง ที่สามารถดึงเบาะออกมานอนเล่นได้ ส่วนระยะทีวีในห้องนี้จะอยู่ราวๆ 1.8 ม. ด้วยระยะนี้สามารถเลือกวางทีวีขนาด 32″ จะกำลังดีค่ะ
และพื้นที่ด้านข้างโซฟาที่ห้องมาตรฐานจะเว้นว่างไว้ เราสามารถจัดฟังก์ชันเพิ่มเหมือนอย่างห้องตัวอย่าง คือโต๊ะทำงาน หรือจะเป็นชั้นวางของต่างๆ ก็ได้ค่ะ
สำหรับชั้นวางทีวี+ชั้นวางรองเท้าและชั้นวางของด้านบน จะได้แบบ Built-in ทั้งหมด รูปแบบบานเปิดเป็น Soft Close ปิดผิวด้วยลามิเนต
สำหรับที่ประตูบานเลื่อนกระจกจะได้เป็นแบบ 3 ตอน และความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน ข้อดีคือเปิดช่องทางเดินได้กว้างขึ้น และได้แสงธรรมชาติเข้าถึงภายในได้ดี
สำหรับพื้นห้องครัวจะเปลี่ยนจากการปูด้วยไวนิล เป็นแกรนิตโต้แทน เพื่อให้เหมาะกับการทำครัวมากขึ้น เพราะตัวพื้นกระเบื้องเองจะทนความชื้นและทำความสะอาดง่ายกว่า ส่วนพื้นที่ของครัวเราค่อนข้างชอบนะ เพราะได้ขนาดกว้าง ขนาดวางโต๊ะเก้าอี้ไปแล้วยังมีพื้นที่ให้เดินได้สะดวกราวๆ 1.2 ม. เลย
มาดูบรรยากาศภายในครัวจะเห็นชัดมากขึ้นว่าค่อนข้างโปร่งโล่งดีนะคะ หลักๆ ได้แสงจากฝั่งระเบียงเข้ามาด้วย และอีกข้อดีของตำแหน่งครัวที่ติดระเบียงคือ การระบายอากาศ+ความชื้น ซึ่งเรามองว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้งาน ดังนั้นแปลนนี้จึงตอบโจทย์ได้ดีสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร
สำหรับโต๊ะและเก้าอี้จะได้ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ คือท็อปโต๊ะเป็นกระจก Temper และเก้าอี้สีขาวพลาสติกทรง Modern
สำหรับชุดครัวที่นี่ให้มาครบชุด (เคาน์เตอร์+ชั้น Built-in ด้านบน) สิ่งที่ไม่ได้ในห้องมาตรฐานจะมีแค่ Microwave Built-in และตู้เย็นนะคะ นอกนั้นได้ตามนี้หมด
เรามาดูที่เคาน์เตอร์ครัวนี้ท็อปจะเป็นหินสังเคราะห์สีขาว บานเปิดได้ Soft Close ทั้งหมด ปิดผิวลามิเนตเป็นมาตรฐาน และภายใน Built-in ถังขยะมาให้ใช้งานได้สะดวกและไม่เกะกะทางเดินด้วยค่ะ ส่วนผนังตรงบริเวณเคาน์เตอร์ครัวจะกรุกระเบื้องลายหินอ่อนมาให้เป็นมาตรฐานเช่นกัน ซึ่งในแง่การใช้งานค่อนข้างดี เพราะ เลอะก็ทำความสะอาดง่าย
ส่วนด้านบนจะได้ Sink ล้างจานจาก Teka แบบหลุมเดี่ยว
ส่วน Hob & Hood จะได้จาก Teka เช่นกัน โดยเตาเป็นแบบ 2 หัวและ Hood ใช้ระบบหมุนเวียน
ด้านบนลองเปิดมาดูภายในชั้นเก็บของสามารถจุของได้เยอะเลยนะคะ ที่เราชอบคือในชั้นบนของ Hood ปกติพอเหลือพื้นที่ไม่มากบางที่ก็จะไม่ได้ทำชั้นวางของไว้ให้ แต่ที่นี่ทำมาให้ด้วย ถึงจะมีพื้นที่ไม่มากแต่เราก็สามารถเก็บของเล็กๆ ต่างๆ ได้มากขึ้น
ส่วนระเบียงที่เราเคยเกริ่นว่าเป็นอีก Highlight ห้องที่เราชอบ ด้วยความยาวระเบียงค่อนข้างยาว ทำให้มีพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าด้านล่าง CDU แอร์ได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่สำหรับซักล้าง ตากผ้า รวมไปถึงจะออกมายืนสูดอากาศชมวิวก็ได้อยู่นะ
เราเข้ามาภายในห้องนอนกันต่อนะคะ หลังจากเปิดประตูมาเราจะเห็นพื้นที่ตู้เสื้อผ้าก่อนเลย ซึ่งตรงนี้จะเป็นพื้นที่แบ่งออกเป็น 2 โซน ซ้าย-ขวาด้วย อย่างซ้ายมือคือพื้นที่เตียงนอน ส่วนขวามือเป็นห้องน้ำในห้องนอนค่ะ เดี๋ยวเราไปดูบรรยากาศห้องนอนกันก่อนนะ
สำหรับโซนเตียงนอนจะแบ่งพื้นที่การวางฟังก์ชัน หลักๆ 2 ฟังก์ชันคือตู้เสื้อผ้า และเตียงนอน
สำหรับตู้เสื้อผ้าเป็นแบบ 2 บานเปิดด้วยกระจกสีชาและภายในจัดฟังก์ชันต่างๆ ทั้งลิ้นชัก และราวแขวนเสื้อ สวยทีเดียวเลย
ส่วนเตียงนอนที่นี่จะไม่ได้ให้เตียงมาเป็นมาตรฐานนะคะ ถ้าเอาจากในห้องมาตรฐานจะเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต ซึ่งเรามองว่ากำลังดี แต่ถ้าใครชอบนอนเตียงใหญ่ๆ 6 ฟุตก็ยังวางได้นะคะ แต่จะไม่มีพื้นที่ให้วางโต๊ะข้างเตียงเหมือนห้องตัวอย่างนะ
ด้านข้างเตียงได้ชุดหน้าต่างขนาดโอเคนะ ไม่เล็กไปสำหรับ Low Rise ช่วยให้แสงเข้ามาได้ดี รวมไปถึงหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดรับลมได้ระดับนึงค่ะ
เข้ามาภายในห้องน้ำมีการแบ่งโซนโดยแยกเป็นโซนเปียกและแห้งชัดเจน เพราะกั้นกลางด้วยฉากกั้นกระจกแบบ Temper
สำหรับโซนแห้งจัดให้เป็นโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือ โดยโถสุขภัณฑ์จะเป็น Kohler ส่วนอ่างล้างมือเป็น Cotto พร้อม Built-in ชั้นวางของด้านล่างให้
ส่วนพื้นห้องน้ำยกขอบธรณีขึ้นเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อน ส่วนขนาดพื้นที่ประมาณให้มากำลังดีอาบได้สบายๆ
ฝักบัวที่นี่จะให้ทั้ง 2 รูปแบบคือ Hand Shower และ Rain Shower จาก Englefield
ส่วนที่เราชอบคือการที่โครงการทำช่องสำหรับวางแชมพู ครีมอาบน้ำต่างๆ ค่อนข้างลึกเลย ทำให้วางของได้เยอะขึ้น อย่างเรามองว่าตอบโจทย์สาวๆ ที่มีพวกครีมต่างๆ ค่อนข้างเยอะ และเราก็ไม่ต้องทำชั้นวางของเพิ่มด้วย
1 Bedroom ขนาด 31.5 ตร.ม. สำหรับแปลนห้องนี้จะมีความแตกต่างจากห้องที่แล้วอยู่นะคะ โดยจุดเด่นคือเรื่องความโปร่งโล่ง ถ้าใครชอบบรรยากาศโปร่งๆ ได้วิวภายนอกจากพื้นที่นั่งเล่นก็จะตอบโจทย์มากกว่าห้องที่แล้วที่เด่นเรื่องฟังก์ชันเป็นหลักนะคะ เพราะหากสังเกตจากแปลนจะเห็นว่าส่วน Common Area เชื่อมถึงกันทั้งหมด เช่น ครัว พื้นที่รับประทาน และพื้นที่นั่งเล่น โดยวางพื้นที่นั่งเล่นติดกับระเบียงและได้วิวภายนอก ผนวกกับห้องนอนกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกจึงช่วยให้ห้องนอนดูกว้างขึ้น ซึ่งที่แลกมาก็คือความเป็นสัดส่วนนะคะ เพราะจะไม่ได้ห้องนอนปิดชัดเจน
เรามาดูภายในห้องนอนนี้ มุมที่เด่นๆ ก็คือมุมทำงานติดริมหน้าต่าง และตู้เสื้อผ้ารูปแบบ Walk-in Closet ที่แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง แยกกันใช้ได้เลยสำหรับใครที่อยู่กัน 2 คน
เข้ามาในห้องเป็นส่วน Common Area เชื่อมพื้นที่ตั้งแต่ครัว พื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่น โดยสำหรับครัวจะเป็นครัวเปิดนะคะ เน้นทำอาหารเบาๆ มากกว่าทำอาหารหนักเหมือนห้องที่แล้ว แต่ถ้าใครอยากจะทำประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่ม เพื่อปรับเป็นครัวปิด จริงๆ สามารถทำได้นะคะ แต่พื้นที่รับประทานอาหารจะต้องขยับออกมา ซึ่งก็จะไปกินพื้นที่ตรงทางเข้า-ออกประตูห้องนอนหน่อย
ส่วนพื้นโซนครัวจะปูด้วยแกรนิตโต้ให้เช่นเดียวกับห้องที่แล้วนะคะ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในครัว
จากประตูห้องหันมาฝั่งขวามือจะได้ตู้เก็บรองเท้าเป็นมาตรฐานนะคะ ท็อปก็ใช้เป็นหินสังเคราะห์เช่นเดียวกับเคาน์เตอร์ครัวเลย
ถัดมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งได้โต๊ะกินข้าว เก้าอี้ 2 ตัวเหมือนห้องที่แล้ว และดูจากรูปนี้จะเห็นชัดกว่ารูปก่อนหน้านะคะ สำหรับใครที่จะทำครัวปิด ให้ทำประตูบานเลื่อนตรงบริเวณขอบพื้นระหว่างพื่นที่นั่งเล่นและครัว และขยับเก้าอี้ไปอีกหน่อยซึ่งจะไปกินทางเข้า-ออกประตูหน่อยอย่างที่บอกต่อมา
ส่วนเคาน์เตอร์ครัวได้สเป็คเดียวกับห้องที่แล้วนะคะ แต่มีขนาดกะทัดรัดลงมาหน่อยจากห้องที่แล้ว
ถัดมาในส่วนพื้นที่นั่งเล่นตรงนี้ได้บรรยากาศโปร่งโล่งมากสุดเพราะด้านข้างติดกับระเบียงกระจกและด้านหลังก็ติดกับประตูกระจกด้วย
ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่ได้ชุดโซฟาจะเหมือนห้องที่แล้ว มีแตกต่างตรงชั้นวางทีวีที่ขนาดใหญ่กว่า
ส่วนระเบียงเป็น Highlight ของแปลนนี้อีกจุดนึงเพราะลักษณะระเบียงจะเป็น Double Skin คือสามารถเลือกใช้งานแบบ Indoor ก็ได้หรือจะเป็น Outdoor ก็แค่เปิดหน้าต่างบานเลื่อนส่วนนอกสุดได้เลย จึงค่อนข้างเหมาะกับการใช้งานที่หลากหลายนะคะ
ด้านข้างก็จัดพื้นที่วาง CDU แอร์ไว้เป็นสัดส่วนแยกโซนชัดเจนเลย เพื่อไม่ให้มารบกวนพื้นที่ระเบียง
ถัดมาในส่วนห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกนี้ข้อดีคือความโปร่งภายในห้องมีเยอะมากกว่าประตูบานทึบและจากเตียงนอนเองก็สามารถนอนดูทีวีจากพื้นที่นั่งเล่นได้เลย ส่วนใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นสามารถติดตั้งม่านหรือติดฟิล์มฝ้าเพิ่มเติมได้นะคะ
ภายในห้องนอนบริเวณเตียงที่ทางโครงการจัดมาให้ดูจะเป็นขนาด 5 ฟุตนะคะ แต่หากใครอยากได้ขนาดใหญ่ 6 ฟุต สามารถวางได้สบายๆ เลยเช่นกัน
ด้านข้างของเตียงนี้ เป็นอีกมุมห้องที่น่าสนใจเพราะสามารถจัดฟังก์ชันเพิ่มได้ เช่น พื้นที่ทำงานติดหน้าต่าง
อีกฝั่งจะเป็น Walk-in Closet ก่อนทางเข้าห้องนะคะ โดยห้องนี้จะแยกตู้เสื้อผ้าออกเป็น 2 ฝั่งเลย ดังนั้นก็จะสะดวกสำหรับใครอยู่กัน 2 คน จะได้แยกตู้เสื้อผ้ากันได้ชัดเจน
ลักษณะตู้เสื้อผ้าจะใช้สเป็คเหมือนห้องที่แล้วนะคะ แต่มีความกว้างตู้น้อยลงมาหน่อยเล็กน้อย ซึ่งถ้าบวกกัน 2 ตู้ก็จะถือว่าให้มาเยอะกว่าห้องที่แล้วระดับนึงนะ
เข้ามาภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็น 2 โซนเหมือนเดิม ฝั่งเปียกและฝั่งแห้ง แต่แยกการใช้งานด้วยฉากกั้นกระจกชัดเจน
พื้นที่ในห้องน้ำนี้มีขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้วตามขนาดของห้องทั้งหมดนะคะ จะสังเกตได้ชัดเจนเลยคือพื้นที่อาบน้ำกว้างระดับนึง อาบน้ำได้สบายๆ ส่วนสเป็ควัสดุให้มาเหมือนกันค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 19 June 2019
- Studio ขนาด 25-26 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.15 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 28 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.6 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.8 ล้านบาท
- 1 Bedroom ขนาด 31.5 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.1 ล้านบาท
- 2 Bedroom ขนาด 43-47 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท
- รูปแบบการขาย Fully Furnished
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.40 เมตร
- Kitchen & Sink / ท๊อปหินสังเคราะห์
- Hob & Hood / ของยี่ห้อง TEKA
- มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ BTS อ่อนนุช
- จอง + ทำสัญญา
- คนไทย 20,000 / 50,000
- ต่างชาติ 50,000 / 30% ของราคาขาย(+เงินจอง)
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล : โครงการ IKON สุขุมวิท 77 เป็นคอนโด Low Rise ในซอยย่อยที่มีทำเลน่าสนใจตรงที่ศักยภาพซอยนี้สามารถลัดออกได้ทั้งจากถนนสุขุมวิท ผ่านสุขุมวิท 81 หรือจะเข้าสุขุมวิท 77 โดยออกจากซอยอ่อนนุช 10 ก็ได้ ซึ่งทั้ง 2 ซอยอย่างสุขุมวิท 81 และสุขุมวิท 77 ก็มีข้อดีต่างกันไป กรณีข้อดีของสุขุมวิท 81 คือเป็นซอยที่รถไม่ติดเท่ากับสุขุมวิท 77 วิ่งมาจากสุขุมวิทก็เข้าคอนโดได้ไม่กี่นาที หรือออกมาจากโครงการมาที่หน้าปากซอยสุขุมวิท 81 ก๋็มี BTS และห้าง Century อ่อนนุช รวมไปถึง Tesco Lotus ฝั่งตรงข้าม
สำหรับสุขุมวิท 77 มีข้อดีเด่นมากๆ คือเรื่องความอุดมสมบูรณ์ จะเลือกเข้าโครงการผ่านถนนเส้นนี้ก็สามารถแวะซื้อของกินของใช้ได้ง่าย รวมไปถึงใกล้ๆ โครงการในระยะเดินเลยก็จะมี Community Mall อย่าง People Park ด้วยค่ะ
การเดินทางโดยใช้รถ : ถ้าใครใช้รถที่นี่จัดว่าสะดวกค่ะ เพราะนอกจากมีเส้นทางลัด 2 ทางแล้ว ที่จอดรถที่โครงการให้มา ถ้าเทียบกับคอนโดในย่านนี้และราคาใกล้เคียงกันเรามองว่า 50% รวมซ้อนคัน ก็ถือว่าให้มาพอสมควรนะคะ
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ต้องบอกว่าโครงการนี้ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินได้นะคะ แต่การต่อรถเพื่อไปขึ้น BTS จากโครงการถือว่าสะดวก เพราะมีตัวเลือกแรกคือ ทางโครงการจัด Shuttle Van Service ไว้ให้คอยบริการรับ-ส่งลูกบ้านไป BTS อ่อนนุชอยู่แล้ว หรือจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์หน้าปากซอย และใกล้ๆ โครงการก็ไม่ยากเช่นกัน ดังนั้นถ้าใครไม่ซีเรียสในการต่อรถอีก 1 ต่อเพื่อไปใช้รถไฟฟ้า โครงการนี้ก็โอเคเลยนะคะ เพราะราคาคอนโด High Rise ติดสุขุมวิท และใกล้ BTS อ่อนนุชเลยจะมีเรทราคาที่สูงกว่า
วัสดุ : ด้วยความเห็นส่วนตัวเราค่อนข้างชอบวัสดุที่ทางโครงการให้มานะ จัดว่าโอเคในระดับราคานี้ รูปแบบจะเป็น Fully Furnished ได้ครบทุกอย่างยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้า (ไมโครเวฟ ตู้เย็น) และเตียง นอกนั้นที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ Built-in + ลอยตัว ได้หมด ชุดครัวได้ท็อปหินสังเคราะห์, Hob & Hood จาก TEKA, พื้นไวนิลและแกรนิตโต้ ส่วนสุขภัณฑ์จาก Kohler, Cotto และ Englefield
การออกแบบ : และอีกจุดที่เราว่าน่าสนใจคือแบบห้องที่เราได้พาไปดูทั้ง 2 Type มีจุดเด่นและความน่าสนใจต่างกันไป แต่ทั้ง 2 แบบต่างมี Highlight ในตัวเอง อย่าง 1 Bedroom ขนาด 28.78 ตร.ม. เด่นในเรื่องการจัดวางพื้นที่ลงตัวและเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ครัวปิดทำอาหารได้ดี ครัวติดระเบียงระบายความชื้นและกลิ่นอาหาร ระเบียงขนาดใหญ่ใช้งานได้จริง รวมไปถึงตัวห้องนอนที่กั้นไว้เป็นสัดส่วนมีความเป็นส่วนตัว
อีกแบบคือ 1 Bedroom ขนาด 31.5 ตร.ม. ห้องนี้เด่นเรื่องความโปร่งโล่ง ใช้กระจกเยอะ ซึ่งตรงระหว่างห้องนอนและ Common Area เปลี่ยนเป็นกั้นด้วยฉากกั้นกระจกแทน ทำให้แสงเข้าถึงภายในห้องเต็มที่ดี ส่วนระเบียงเป็นแบบ Double Skin จะทำระเบียงเป็น Indoor ก็ได้หรือจะเป็น Outdoor ใช้งานปกติทั่วไปก็สามารถเลือกใช้งานให้เหมาะสมได้ค่ะ
สาธารณูปโภค : ปิดท้ายที่ Facilities โครงการ มี Gimmick อยู่ที่ทางโครงการตั้งใจทำโซนนี้ให้เปิดตลอด 24 ชม. เพื่อให้ลูกบ้านสามารถเข้ามาใช้งานได้ทุกเวลาที่ตัวเองต้องการ ซึ่งเรามองว่าโซนที่เปิด 24 ชม. แล้วน่าจะมีคนมาใช้จริงก็คือ Co-Working Space ส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจก็จะเป็นสระว่ายน้ำของโครงการนี้กรุด้วยหินอ่อน White Carrara สวยงามพร้อมกับขนาดสระ 5 x 20 ม.
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 93,000 บาท/ตร.ม., 19 June 2019
- ทำเล 7.5/10 – อยู่ในซอยย่อยใกล้ Community Mall ส่วนการเข้าถึงโครงการสามารถเข้าได้ทั้ง 2 เส้น สุขุมวิท 77 และสุขุมวิท 81
- เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – สะดวก มีตัวเลือกให้ลัดเลาะได้ และที่จอดรถรวมซ้อน 50%
- ไม่ใช้รถ 7.25/10 – หลุดระยะเดินไป BTS แต่มี Shuttle Service บริการรับ-ส่ง
- วัสดุ 8/10 – ให้แบบ Fully Furnished ครบจบ และเกรดสมราคา
- แบบ 8/10 – ถือว่าจัดมาลงตัว น่าสนใจ และทุกฟังก์ชันใช้งานได้จริง เช่น ระเบียงขนาดใหญ่ หรือระเบียงแบบ Double Skin
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – เปิด 24 ชม. มีให้มาครบ บรรยากาศดูน่าใช้งาน
- UPPER CLASS
- 7.63 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการ IKON สุขุมวิท 77 เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในย่านอ่อนนุช เน้นใกล้สุขุมวิท 77 แหล่งของกินและเดินทางไปสุขุมวิทสะดวก จะต่อรถไปต่อ BTS ไม่ยาก ราคาไม่แรงมากอยู่ในงบ 2-4 ล้านได้ ให้ Furniture ครบไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเองมากนัก
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving