NIA by Sansiri คอนโด High Rise ใกล้ BTS สถานีพระโขนงและอ่อนนุช และทางด่วน เชื่อมต่อ T77 จาก แสนสิริ [รีวิวฉบับที่ 2604]

NIA by Sansiri (เนีย บาย แสนสิริ) ณ วันที่ 12 กันยายน 2566

พิกัด Google Maps : 13.71470352007264, 100.59988085337245
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการค่ะ

NIA by Sansiri ตั้งอยู่ฝั่งสุขุมวิท 71 อีกฝั่งหนึ่งของ T77 โดยมีทางด่วนคั่นอยู่ตรงกลาง แต่สามารถเชื่อมต่อไปยัง T77 เพื่อออกถนนอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) ได้เช่นกัน ข้อดีของฝั่งนี้คือสามารถเข้าไปยังเอกมัย – ทองหล่อได้สะดวกมากๆ และอยู่ใกล้ทางด่วนฉลองรัช ที่เชื่อมต่อทางด่วนได้หลายเส้นทาง

จุดเด่นทำเล

• ใกล้รถไฟฟ้า 2 เส้นทาง ห่างจากสถานีพระโขนงประมาณ 1.2 กิโลเมตร และสถานีอ่อนนุช 1.5 กิโลเมตร มี Shuttle Service รับ-ส่ง BTS อ่อนนุชและ T77
• ความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ Habito Mall, โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ, เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า อ่อนนุช, โลตัส อ่อนนุช ทั้งหมดสามารถเดินทางด้วย Shuttle Service ได้ อีกทั้งยังใกล้แหล่ง Lifestyle ย่านเอกมัย – ทองหล่อได้สะดวก
• ใกล้ทางด่วน ห่างจากจุดขึ้นทางด่วนฉลองรัชเพียง 200 เมตร
• มีซอยย่อยลัดเลาะออกได้หลายเส้นทาง ใช้ถนนสุขุมวิท 71 เชื่อมต่อเอกมัย – ทองหล่อ, ถนนรามคำแหง และถนนสุขุมวิทได้สะดวก ผ่าน T77 ออกไปย่านอ่อนนุช พัฒนาการ – ศรีนครินทร์ได้ง่าย
• ใกล้ T77 สามารถไปเดินเล่น วิ่งออกกำลังกาย ชมสวนและบึงสาธารณะใน T77 ได้ ในระยะห่างเพียง 450 เมตร

สำหรับคนที่มองหาคอนโดในเมืองใกล้สุขุมวิท รถไฟฟ้า เชื่อมต่อทองหล่อ-เอกมัยได้ง่าย แต่มีงบประมาณที่จำกัด โครงการ NIA by Sansiri ถือว่าเป็นคอนโดที่ตอบโจทย์นะคะ โดยโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท 2 สถานี อ่อนนุชและพระโขนง ใกล้ถนนสุขุมวิท ในราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท โดยไม่ต้องขยับออกไปไกลถึงบางนา – สมุทรปราการค่ะ

สถานีพระโขนง : เป็นสถานีที่อยู่ใกล้กับโครงการมากกว่า ระยะห่างประมาณ 1.2 กม. เดินทางผ่านชุมชนพักอาศัยในซอยปรีดี พนมยงค์ 2 และถนนสุขุมวิท 71 คนที่ชอบเดินสามารถเดินได้ แต่อาจจะไกลสักหน่อย มีวินมอเตอร์ไซค์สามารถเรียกใช้งานได้

สถานีอ่อนนุช : อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.6 กม. เป็นสถานีที่มีความคึกคักสูง เนื่องจากอยู่ติดกับ Lotus’s และ Century อ่อนนุช สถานีนี้ถ้าเดินอาจจะไกลสักหน่อย แต่โครงการมีรถ Shuttle Service รับ – ส่งผ่านเส้นทาง T77 ให้บริการด้วยค่ะ

รอบๆโครงการ NIA by Sansiri ในระยะใกล้ๆ อาจจะถือว่าไม่ได้คึกคักมากนัก เนื่องจากทำเลอยู่ในย่านบ้านพักอาศัย และใกล้ทางด่วนนะคะ แต่ทำเลนี้มีข้อดีคือสามารถเดินทางลัดเลาะออกมาในย่านอ่อนนุช ย่านสุขุมวิท 71 ทองหล่อ-เอกมัยได้สะดวก ซึ่งเป็นย่านที่มีสาธารณูปโภคและสาธารณูปการครบครัน ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าและบริการ, Hypermarket และ Community Mall ให้ได้จับจ่ายใช้สอย อย่างเช่น Big C Extra ที่อยู่ห่างออกไปเพียง 1.3 กิโลเมตร Habito Mall ที่อยู่ใน T77 เองห่างจากโครงการแค่ 400 เมตรเท่านั้น ที่มีทั้ง Cafe และ Co-Working Space

นอกจากนั้นยังมี Lotus’s และ Century The Movie Plaza อ่อนนุช ซึ่งมีทั้งร้านค้า โรงภาพยนตร์ และโรงแรม เป็นแหล่งบันเทิงดูหนังที่ใกล้โครงการที่สุดค่ะ หรือใครอยากเดินทางเข้าเมืองไปหน่อยย่านเอกมัยซึ่งห่างไปเพียง 2 สถานี ก็มีที่ให้เดิน Shopping อย่าง Gateway เอกมัย, Major เอกมัย รวมถึงเดินเล่นท้องฟ้าจำลองได้

สาธารณูปโภคและสาธารณูปการอื่นๆนอกเหนือจากห้างสรรพสินค้าแล้ว ย่านนี้ยังมีทั้งสำนักงานเขต, สำนักงานประปา, สถานีตำรวจ, สถานีดับเพลิง รวมถึงโรงเรียน และโรงพยาบาล ถือว่ามีครบสำหรับการอยู่อาศัย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ NIA by Sansiri ส่วนใหญ่เป็นอาคารพักอาศัยแนวราบ ทำให้มองเห็นวิวได้รอบด้าน ไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิดนะคะ ทางทิศตะวันตกสามารถเห็นวิวเอกมัย – ทองหล่อได้กว้าง ส่วนทิศตะวันออกมองเห็นวิว T77 และฝั่งถนนอ่อนนุชได้ค่ะ

โครงการมีทางเข้า-ออกอยู่ทางฝั่งทิศตะวันออก ติดกับถนนเลียบทางด่วนฉลองรัช ซึ่งทางโครงการได้มีการเลือกใช้กระจกกันเสียง ช่วยลดเสียงรบกวนจากทางด่วนไปได้เยอะพอสมควรเลยค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ บ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น
• ทิศตะวันออก ติดกับ ทางพิเศษฉลองรัช ฝั่งตรงข้ามเป็น T77
• ทิศใต้ ติดกับ พื้นที่สีเขียวและคอนโด High Rise
• ทิศตะวันตก ติดกับ ชุมชนพักอาศัยสุขุมวิท 71 , บ้านพักอาศัยสูงประมาณ 2 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• ฮาบิโตะ มอลล์ (Habito Mall) ~ 400 เมตร
• ดับเบิลยู ดิสทริค ~ 1 กิโลเมตร
• เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า อ่อนนุช  ~ 1.5 กิโลเมตร
• โลตัส อ่อนนุช ~ 1.5 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ~ 1.8 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลสุขุมวิท ~ 1.8  กิโลเมตร

โรงเรียน

• โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ ~ 800 เมตร
• โรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส ~ 1.8 กิโลเมตร
• โรงเรียนนานาชาติเวลล์ ~ 1.9 กิโลเมตร

การเดินทาง

• ทางด่วนฉลองรัช ~ 200 เมตร
• รถไฟฟ้า BTS พระโขนง ~ 1.2 กิโลเมตร
• รถไฟฟ้า BTS อ่อนนุช ~ 1.5 กิโลเมตร

‘NIA’ ชื่อพ้องเสียงกับคำว่า ‘Near’ ที่หมายถึง ‘ใกล้‘ ด้วยแนวคิด One step closer แค่ใกล้…ก็ได้เปรียบ เป็นที่มาของชื่อโครงการที่ใกล้ทั้งความอุดมสมบูรณ์บนถนนสุขุมวิท และการเดินทางที่ครบครัน ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าคอนโดในเมืองติดถนนสุขุมวิท เริ่มต้นเพียง 2.79 ล้านบาท

NIA by Sansiri (เนีย บาย แสนสิริ) เป็นคอนโดในซีรี่ย์ One of a Kind Project ที่แสนสิริทำออกมาในแบรนด์ NIA ที่เดียว และจะไม่มีที่ไหนใช้ชื่อซ้ำอีก ทำเลอยู่ใกล้กับ T77 ที่เป็นโครงการขนาดใหญ่ของแสนสิริ บนที่ดินกว่า 41 ไร่ติดถนนสุขุมวิท 77 ที่ประสบความสำเร็จ มีผู้เช่าชาวไทย,ชาวต่างชาติและผู้อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก จาก T77 ด้านหลังสามารถเดินเชื่อมต่อออกมาที่โครงการ NIA by Sansiri ได้ในระยะทางประมาณ 400 เมตรเท่านั้นเองค่ะ

Concept ของโครงการ NIA by Sansiri เป็นคอนโด High Rise สูง 19 ชั้น จำนวนยูนิต 419 ห้อง มีการออกแบบโดยนำเอาเอกลักษณ์ของ ‘บ้านสุขุมวิท’ ในทำเลรอบๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ดีไซน์ออกมาเป็นแนว ‘Mid-Century’ ทำให้บรรยากาศไม่ดูเป็นคอนโดจ๋าๆ มีลักษณะของความเป็นบ้าน เช่น มีพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้า, กรอบอาคารโค้งมนเหมือนบ้านสุขุมวิท มีสีน้ำตาลหรือเทาอ่อนมาทำให้อบอุ่นขึ้นค่ะ

โดยตัวอาคารโดดเด่นด้วยสีเหลืองและสีน้ำเงินเข้ม ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ยุค 60’s และพื้นที่ส่วนกลางสีสันสดใสในทุกๆ Facility ที่ชั้น 1, 4 และ Rooftop มองเห็นวิวทองหล่อแบบ Panorama

การจัดฟังก์ชันภายในอาคาร

• ชั้น 1 – พื้นที่ส่วนกลาง : Lobby Lounge, Co-Working Space, Garden พื้นที่พักผ่อน Outdoor 3 จุด, EV Charge, Mail Box, Juristic Room, ที่จอดรถ
• ชั้น 2 – 3 ที่จอดรถ
• ชั้น 4 – ห้องพักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลาง : Swimming Pool, Gym , Laundry, ห้องน้ำส่วนกลาง
• ชั้น 5 – 19 ห้องพักอาศัย
• ชั้น Rooftop – พื้นที่ส่วนกลาง : Sansiri Backyard, พื้นที่นั่งเล่นชมวิว Panorama, Outdoor Recreation

ชั้น 1 

โครงการ NIA by Sansiri มีทางเข้า-ออกทางเดียว ติดซอยปรีดี พนมยงค์ 2 (เลียบทางด่วนฉลองรัช) เข้ามาในโครงการแล้วจะเป็นเส้นทางเดินรถแบบ Two Way แต่วนรถแบบ One Way รอบลานจอดรถใต้อาคารด้านหน้า เพื่อไปยังจุด Drop off ค่ะ  สามารถรับ-ส่งคนเข้าสู่ Lobby ได้เลย ส่วนคนที่ต้องการจอดรถ จะมีทางขึ้นอยู่ด้านหลังอาคารจอดได้ทั้งชั้น 1 ถึงชั้น 3

พื้นที่ภายในอาคารชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดเลย มีพื้นที่สีเขียวแบ่งเป็น 3 จุด คือ ด้านน้าโครงการ ด้านข้าง และสวนด้านหลังค่ะ บรรยากาศสวนมีความร่มรื่น คล้ายสวนในบ้าน

Facilities ที่ชั้น 1 จะเหมาะกับการนั่งทำงาน รองรับ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ที่ทำงานที่บ้านกันมากขึ้น โดยจะมีทั้งห้อง Co-Working Space บรรยากาศคล้าย Co-Kitchen สามารถนำเครื่องดื่มและอาหารมานั่งทานได้ รวมถึงพื้นที่พักผ่อนอย่าง Lobby Lounge ให้มานั่งอ่านหนังสือ หรือพูดคุยธุระกับแขกได้

ชั้น 2 -3 เป็นชั้นจอดรถแบบ Conventional ช่องจอดปกติ ถือว่าจอดง่ายมากค่ะ เพราะมีเพียงแค่ 2 ชั้น วนรถไม่เยอะ มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางขึ้นห้องพักอาศัยได้สะดวก (ไม่ต้องเดินไกลเลย) ซึ่งทางโครงการมีที่จอดมาให้ 156 คัน หรือคิดเป็นประมาณ 37% ถือว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เพราะทางโครงการมี Shuttle Service รับส่งที่ BTS อ่อนนุช ด้วยค่ะ

ด้านหน้าโครงการ NIA by Sansiri จะเห็นว่าโครงการเลือกใช้สีน้ำตาล ให้ความรู้สึกอบอุ่นตามแนวคิด ‘บ้านสุขุมวิท’ ให้ลูกบ้านรู้สึกเหมือนกับอยู่บ้าน

ทางเข้า-ออก อยู่ติดกับถนนเลียบทางด่วนฉลองรัช มีรั้วบานเลื่อนกั้นปิด เข้าไปด้านในแล้วจะมีไม้กั้นกระดกสำหรับเข้าบริเวณที่จอดรถอีกชั้นนึงค่ะ

พื้นที่สีเขียวในโครงการจะแบ่งเป็น 3 จุด สวนด้านหน้าโครงการจุดแรกให้ความรู้สึกเงียบสงบ และเป็นส่วนตัว บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ของโครงการและที่ดินข้างเคียง ด้านในสุดเป็นพื้นที่นั่งเล่น มองไปยังทางด่วนได้

มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรถ Shuttle Service รับ-ส่ง ไปยัง BTS อ่อนนุช เริ่มตั้งแต่ 7.00 น. บริการทุกชั่วโมง โดยเส้นทางเดียวกับโครงการใน T77 ค่ะ

ทางเข้าที่จอดรถจะต้องผ่านไม้กั้นกระดก ช่วยคัดกรองความปลอดภัยอีกขั้นหนึ่งค่ะ ส่วนคนที่มารถ Taxi หรือจอดรับ-ส่งอย่างเดียวสามารถเลี้ยวขวาไปยัง Drop off ได้เลย

บริเวณใต้อาคารด้านหน้ามีที่จอดรถสำหรับผู้ใช้รถเข็น และที่จอดชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) ให้ลูกบ้านใช้งานด้วย

โถงทางเข้าอาคารสูง Double Volume มีความโอ่อ่า มีพื้นที่นั่งด้านข้างสำหรับนั่งพักคอย เหมือนกับเป็นชานพักหน้าบ้านพักอาศัยค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ให้ออกมากินลมชมวิวอากาศธรรมชาติภายนอกได้ มีตกแต่งด้วยโทนสีสดใส ตามแนวคิด Mid-Century มีลูกเล่นไม่น่าเบื่อค่ะ

ทางโครงการมีที่จอดรถสำหรับ Delivery แยกเป็นสัดส่วน อยู่ใกล้กับ Lobby Lounge ทำให้รับ-ส่งของได้สะดวก ลูกบ้านไม่ต้องรอนานค่ะ

ออกมาดูสวนจุดที่ 2 กันบ้างค่ะ บริเวณนี้อยู่ด้านข้างอาคารจะมีพื้นที่นั่งเล่น Outdoor เป็นโซนๆ ให้ลูกบ้านนั่งเล่นพักคอย และปิกนิคทานของว่างตรงนี้ได้นะ

นอกจากนั้นยังมีที่นั่ง Semi Outdoor อีกจุดหนึ่งเป็นเหมือนที่นั่งริมระเบียง เรียกได้ว่าโครงการนี้เขาให้พื้นที่นั่งพักผ่อนมาเยอะที่เดียวค่ะ สามารถเลือกที่นั่งได้แบบเป็นส่วนตัว เหมาะสมกับจำนวนยูนิต

มาถึงด้านหลังโครงการเป็นพื้นที่สีเขียวจุดที่ 3 บริเวณนี้เดินเข้ามาแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกับอยู่ในสวนหลังบ้านเลย

ในสวนด้านหลังโครงการจะมีเคาน์เตอร์บาร์ และโต๊ะรับประทานอาหาร Outdoor ให้ลูกบ้านออกมาเปลี่ยนบรรยากาศทานข้าวในสวนบริเวณนี้ได้ค่ะ

พระเอกของโซนนี้คือ ‘ต้นจามจุรี’ เป็นต้นไม้ใหญ่ดั้งเดิมบนที่ดินแปลงนี้ ที่ทางโครงการคงไว้ ทำให้บรรยากาศดูร่มรื่น ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนหลังบ้านจริงๆ

ด้านในสุดก็มีชุดเก้าอี้นั่งเล่นอีกจุดหนึ่ง สามารถมานั่งอ่านหนังสือ พูดคุยโทรศัพท์ได้

ดูสวนด้านนอกกันมาครบแล้ว เรามาดูพื้นที่ส่วนกลางด้านในกันบ้างค่ะ

บรรยากาศภายในห้อง Lobby Lounge มีมุมโซฟาและที่นั่งแบ่งเป็นสัดส่วนให้ลูกบ้านเลือกใช้งานได้แบบเป็นส่วนตัว มีการตกแต่งด้วยสีสันจัดจ้าน สไตล์ Mid-Century โอ่อ่าด้วยฝ้าเพดานที่สูงโปร่งมองเห็นวิวสวนด้านนอกได้ค่ะ

ส่วนห้อง Co-Working Space ตรงนี้จะมีเคาน์เตอร์บาร์ และโต๊ะนั่งทำงาน ได้ฟีลแบบนั่งในคาเฟ่ สามารถกดเครื่องดื่มจากตู้ Vending มานั่งจิบได้ ให้ลูกบ้านเปลี่ยนบรรยากาศจากทำงานที่ห้องออกมาที่ส่วนกลางค่ะ

โครงการมีตู้เต่าบินให้ลูกบ้านออกมาซื้อเครื่องดื่มได้ค่ะ

โถงทางเดินด้านในเขาก็มีที่นั่งมาให้นะ ทำให้บรรยากาศไม่ดูโล่งจนเกินไป มีความเป็นบ้านดูอบอุ่น ส่วน Mail Room ทางโครงการก็ทำออกมาได้มีลูกเล่นสวยงาม

บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์ชั้น 1 ตกแต่งสวยทีเดียวค่ะ มีลิฟต์โดยสารมาให้ 2 ตัว Service Lift 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์โดยสารต่อห้องพักอาศัย 210 : 1 ถือว่าค่อนข้างเยอะ แต่อาคารไม่สูงมากนักทำให้ไม่ต้องรอลิฟต์นานค่ะ

เข้าลิฟต์มาแล้วเป็นระบบสแกนใบหน้า ซึ่งจะช่วยเรื่องความปลอดภัยของลูกบ้านได้ดีทีเดียวค่ะ

ชั้น 4

เป็นชั้นเริ่มต้นของห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง ตัวอาคารวางผังเป็นรูปตัว L โถงทางเดินแบบ Double Corridor แบ่งโซนห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางชัดเจน (ใช้ Key Card ในการเข้าโซนพักอาศัย) มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางทำให้เดินไปยังปีกอาคารทั้ง 2 ฝั่งได้ง่ายไม่ซับซ้อน มีจำนวนยูนิตต่อชั้นประมาณ 19 ยูนิต ลิฟต์โดยสารมี 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 210 :  1

ห้องพักอาศัยส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom M 28.75 – 29.00 ตร.ม. (สีเหลืองส้ม) และห้อง 1 Bedroom S พื้นที่ใช้สอย 22.75 – 23.25 ตร.ม. (สีครีม) เห็นวิวชุมชนพักอาศัยในซอยสุขุมวิท 71 ทั้ง 2 ฝั่ง มีห้องใหญ่ 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom อยู่ที่มุมอาคารอย่างละ 1 ยูนิต

Facilities ที่ชั้น 4 เป็นโซนออกกำลังกาย ประกอบด้วย Gym และ สระว่ายน้ำ พร้อมห้องอาบน้ำส่วนกลาง และห้อง Laundry ให้ลูกบ้านนำผ้ามาซัก หรือกรอกน้ำดื่มได้สะดวกไม่ต้องลงไปถึงชั้นล่าง บรรยากาศภายในจะเป็นอย่างไรเราไปชมกันค่ะ

ชั้น 4 ที่มีทั้งพื้นที่ส่วนกลางและห้องพักอาศัยจะแยกจากกันชัดเจน โดยลูกบ้านจะต้องสแกนบัตรก่อนเข้าโถงทางเดินค่ะ

ชั้นนี้มีห้อง Laundry มีเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และตู้กดน้ำแบบหยอดเหรียญให้บริการ ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องเดินลงไปชั้นล่างบริเวณที่จอดรถอากาศร้อนๆและมีกลิ่นควันค่ะ

ห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย- หญิง และห้องสำหรับผู้ใช้รถเข็น, ผู้สูงอายุมาให้ด้วย ด้านในมีตู้ Locker และพื้นที่อาบน้ำ ลูกบ้านที่มาออกกำลังกายหรือมาว่ายน้ำก็สามารถอาบน้ำแต่งตัวก่อนกลับห้องได้เลย

ห้อง Fitness เองก็มีสีสันจัดจ้านไม่แพ้ Facility อื่นๆ มีเครื่องออกกำลังกายมาให้ครบครันทั้ง Weight Training และ Cardio แม้ว่าจะอยู่ชั้น 4 แต่ก็สามารถมองเห็นวิวชุมชนพักอาศัยในย่านสุขุมวิท 71 ได้กว้าง เพราะไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิดมาบังวิวเลยค่ะ

สระว่ายน้ำเป็นสระแบบ Outdoor อยู่บริเวณทิศตะวันออกของโครงการสามารถมองลงไปเห็นโรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ และโครงการใน T77 ได้

สระว่ายน้ำเป็นสระระบบเกลือ ขนาด 5 x 22 เมตร ลึก 1.20 เมตร สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้จริง

ข้างๆ สระว่ายน้ำก็มีมุมนั่งเล่นมาให้หลายจุดทีเดียวค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่มาว่ายน้ำ ก็สามารถมานั่งชมวิว นั่งอ่านหนังสือได้เช่นกันค่ะ

ชั้น 5 – 19 

เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด โดยมีห้องพักอาศัยสูงสุด 27 ยูนิตต่อชั้น เป็นห้อง 1 Bedroom M 28.75 – 29.00 ตร.ม. (สีเหลืองส้ม) 12 ยูนิต และห้อง 1 Bedroom S พื้นที่ใช้สอย 22.75 – 23.25 ตร.ม. (สีครีม) 10 ยูนิต มีห้องใหญ่ 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom อยู่ที่มุมอาคาร

อาคารวางผังเป็นรูปตัว L โถงทางเดินแบบ Double Corridor มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลางทำให้เดินไปยังปีกอาคารทั้ง 2 ฝั่งได้ไม่ไกล

บรรยากาศบริเวณโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัย มีช่องเปิดระบายอากาศที่โถงทางเดิน และได้แสงธรรมชาติเข้ามาทำให้ภายในดูสว่างและไม่อับค่ะ

บรรยากาศภายในโถงทางเดินชั้นพักอาศัย (ที่มีรองเท้าอยู่ด้านหน้าคือห้องตัวอย่างค่ะ)

ชั้นดาดฟ้า

พื้นที่ Rooftop เกือบทั้งอาคารสามารถใช้งานได้ทั้งหมดเลยค่ะ โดยจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน Outdoor สำหรับชมวิว มองเห็นวิวเมืองฝั่งเอกมัย – ทองหล่อได้ นอกจากนั้นยังมี Sansiri Backyard ที่เป็นเหมือน Signature ของโครงการแสนสิริ ให้ลูกบ้านมาปลูกผักสวนครัว และเก็บไปทำอาหารได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ

ออกมาจากโถงลิฟต์แล้วเราจะเห็นพื้นที่นั่งเล่น Outdoor มองไปทางฝั่งเอกมัย-ทองหล่อแบบนี้ในภาพเลยค่ะ

Sansiri Backyard เป็นพื้นที่ปลูกผักสวนครัวที่มีให้ลูกบ้านใช้งานเกือบทุกโครงการของแสนสิริ โดยจะมีผักสวนครัวหลากหลายชนิด ให้แวะเวียนกันมาช่วยกันปลูก ดูแล และเก็บเกี่ยวไปปรุงอาหารรับประทานได้ไม่เสียค่าใช้จ่าย ด้านข้างมีพื้นที่นั่งพักผ่อน และอ่างล้างมือมาให้ด้วยนะ

จุดชมวิวชั้น Rooftop แม้จะอยู่สูงประมาณชั้นที่ 20 แต่ก็สามารถมองเห็นวิวเมืองรอบๆ ได้ 180 องศา เพราะส่วนใหญ่เป็นวิวชุมชนแนวราบในซอยสุขุมวิท 71 ไม่มีอาคารสูงอยู่ในระยะประชิดค่ะ

ทางโครงการมีที่นั่งแบบ Outdoor มาให้ 2 จุด สามารถพูดคุยธุระหรือมานั่งเล่นถ่ายภาพทำ Content กันได้

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• ชั้น 1 – พื้นที่ส่วนกลาง
  – Lobby Lounge
  – Co-Working Space
  – Garden พื้นที่พักผ่อน Outdoor 3 จุด
  – EV Charge
  – Mail Box
  – Juristic Room
  – ที่จอดรถ
• ชั้น 2 – 3 ที่จอดรถ
• ชั้น 4 – ห้องพักอาศัย และพื้นที่ส่วนกลาง
  – Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 5 x 22 เมตร ลึก 1.20 เมตร
  – Gym ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 10 เครื่อง
  – Laundry
  – ห้องน้ำส่วนกลาง
• ชั้น 5 – 19 ห้องพักอาศัย
• ชั้น Rooftop – พื้นที่ส่วนกลาง
  – Sansiri Backyard
  – พื้นที่นั่งเล่นชมวิว Panorama
  – Outdoor Recreation
• อินเตอร์เน็ตไร้สายสำหรับพื้นที่โถงต้อนรับ บริเวณสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และพื้นที่สันทนาการ
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 210 :  1
• Service Lift 1 ตัว
• ที่จอดรถประมาณ 156 คันคิดเป็น 37%
• ที่จอดรถคนพิการ, ที่จอดรถมอเตอร์ไซค์
• จุดบริการชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ  CCTV / Key Card
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง

NIA by Sansiri (เนีย บาย แสนสิริ) เป็นคอนโดในย่านพระโขนง – อ่อนนุช ที่มีห้องพักอาศัยขนาดใหญ่ อย่างห้อง 1 Bedroom Plus, 2 Bedroom  48 – 55 ตร.ม. ให้เลือก โดยส่วนใหญ่คอนโดในทำเลนี้มักจะมีแต่ห้องเริ่มต้น 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยประมาณ 22 – 35 ตร.ม. ดังนั้นใครที่ชอบห้องพื้นที่ใช้สอยเยอะหน่อย อยู่กัน 2 คนสบายๆ หรือจะเป็นครอบครัวเริ่มต้น 3 คน โครงการนี้ก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียวค่ะ

แบบห้องในโครงการ NIA by Sansiri มีทั้งหมด 5 แบบ ดังนี้

• 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S) พื้นที่ใช้สอย 22.75 – 23.25 ตร.ม.
• 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (M) พื้นที่ใช้สอย 28.75 – 29.00 ตร.ม.
• 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 34.75 – 35.25 ตร.ม.
• 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 48 ตร.ม.
• 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 51.25 – 54.50 ตร.ม.

ห้องมาตรฐานจะมีรูปแบบการขายเป็น Fully Fitted มีชุดครัวและห้องน้ำให้ค่ะ แต่สำหรับคนที่อยากปล่อยเช่า ทางโครงการมีแพ็กเกจขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ด้วยค่ะ ช่วยประหยัดเวลาในการเลือกซื้อมาติดตั้งเอง

ในห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกหรือใกล้กับทางด่วน โครงการได้อัปเกรดกระจกหน้าต่างภายในห้อง เพื่อช่วยลดเสียงรบกวนจากถนนด้านหน้ามาให้ค่ะ ถือว่าค่อนข้างเงียบเลย

แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S) พื้นที่ใช้สอย 22.75 – 23.25 ตร.ม. เป็นแบบที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการค่ะ ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท เหมาะกับคนที่ชอบความคุ้มค่า อยู่คนเดียวสบายๆ ไม่ต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะ ชอบห้องที่กั้นเป็นสัดส่วน

• ครัวแบบปิด อยู่ด้านหน้าห้องสามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนพื้นที่พักผ่อน  กั้นแยกด้วยประตูกระจก ช่วยกั้นความเป็นส่วนตัวจากโถงทางเดินหน้าห้องให้ไม่สามารถมองเห็นมุมพักผ่อนด้านในได้ค่ะ
• ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นกระจกมาให้เรียบร้อย
• ได้ความโปร่งโล่ง มีพื้นที่นั่งเล่นเชื่อมต่อกับเตียงนอนอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นวิวภายนอกได้ และมีแสงธรรมชาติเข้ามาทั่วถึงทั้งห้องค่ะ
• มีระเบียง สามารถตากผ้า เปิดหน้าต่างระบายอากาศได้มากขึ้น

ด้านหน้าประตูทางเข้าห้องพักอาศัยลายไม้ดูสวยงาม ติดตั้ง Digital Door Lock มาให้จาก Kaadas รองรับทั้ง สแกนลายนิ้วมือ Key Card และตั้ง Password ค่ะ

เข้ามาจะเจอกับส่วนครัวก่อนเลยค่ะ เป็นพื้นที่ครัวปิดสามารถทำอาหารได้จริง กลิ่นไม่ฟุ้งกระจายภายในห้องมากนัก ซึ่งการที่ครัวอยู่ด้านหน้าห้องก็มีข้อดีเหมือนกันนะ เวลาที่เราซื้อของเข้ามาก็สามารถจัดเก็บในตู้ได้เลย ไม่ต้องหิ้วของเดินผ่านห้องนั่งเล่น และห้องครัวด้านหน้ายังเป็นเหมือนห้องกั้นพื้นที่ส่วนตัวทางด้านใน เวลาเปิดประตูอยู่คนข้างนอกที่เดินผ่านมาก็จะมองไม่เห็นด้านในห้องของเราด้วยค่ะ

พื้นห้องครัวทางโครงการเลือกใช้วัสดุกระเบื้องทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย และทนน้ำ ทนรอยขีดข่วนได้ดี

เคาน์เตอร์ครัวเป็นตัว I พร้อมเว้นที่ด้านข้างสำหรับวางตู้เย็นได้ โดยเคาน์เตอร์จะมีตู้เก็บของทั้งชั้นบนชั้นล่างมี Backsplash กันเลอะมาให้ด้วยค่ะ ชั้นวางของด้านบนมี 2 ฝั่ง เป็นแบบไม่มีบานปิด เอาไว้วางของที่หยิบใช้บ่อยๆ เครื่องปรุง ขนมต่างๆ และมีบานปิดอีก 1 ช่องสำหรับวางของกระจุกกระจิกค่ะ

ส่วนด้านล่างจะมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้ามาให้ค่ะ ทำให้เราไม่ต้องเอาเครื่องซักผ้าไปวางที่ระเบียง ซัก ตากผ้าได้ไม่ต้องกลัวยุงกัด ส่วนด้านข้างเป็นช่องเก็บของใหญ่ใต้อ่างล้างจาน เอาไว้วางถังขยะได้นะคะ

Top เคาน์เตอร์เป็นหินเทียม มีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันมาให้ 1 จุด จาก TEKA สามารถทำอาหารรับประทานเองแบบง่ายๆ ได้ และด้านบนเหนืออ่างล้างจานมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟมาให้ใช้งานพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวในห้องมาตรฐานจะไม่ได้ Built-in ตู้เก็บของมาให้นะคะ เราสามารถเลือกของตกแต่ง หรือ Built-in แบบที่ชอบได้เอง โดยทางโครงการออกแบบให้เป็นผนังเว้า สามารถวางตู้ได้เรียบร้อยสวยงามค่ะ

ภายในห้องน้ำจะกรุด้วยกระเบื้องโทนสีครีม เพิ่มลูกเล่นด้วยกระเบื้องลายสีน้ำเงินบริเวณที่อาบน้ำให้ดูมีสีสันมากขึ้น ภายในแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน สุขภัณฑ์ที่ได้จะมีกระจกเงาเปิดเก็บของด้านในได้ อ่างล้างหน้าสี่เหลี่ยมติดตั้งแบบลอยตัว และโถสุขภัณฑ์ จาก Bath line

ส่วนอาบน้ำมีฉากกั้นมาให้เรียบร้อยค่ะ ช่วยให้น้ำไม่กระเด็นออกมาเปียกส่วนแห้งเวลาอาบน้ำ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งเองด้วยนะ มีพื้นที่อาบประมาณ 0.85 x 1.25 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ มีฝักบัวสายอ่อน และช่องวางของด้านในผนังมาให้ พร้อมเดินงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้แล้วค่ะ

ห้องครัวจะมีประตูบานเลื่อนกระจก กรอบอะลูมิเนียมแบบ 3 ตอน เปิดได้กว้าง ช่วยทำให้กลิ่นไม่เข้ามารบกวนภายในห้องตอนทำอาหาร และยังได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ครัวได้อีกด้วยค่ะ

เข้ามาภายในห้องแล้วจะเป็นพื้นที่พักผ่อนค่ะ แบ่งเป็นโซนนั่งเล่น และเตียงนอน แบ่งฟังก์ชันภายในห้องได้ครบแม้จะมีพื้นที่ไม่เยอะนัก เหมาะกับอยู่คนเดียวสบายๆ หรือจะอยู่กัน 2 คนก็ยังได้ค่ะ

พื้นห้องปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม. ภายในห้องมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.60 เมตร ซึ่งเป็นความสูงปกติของห้องพักอาศัยทั่วไป ภายในห้องรับแสงธรรมชาติเข้ามาจากหน้าต่างเยอะทีเดียวค่ะ

พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟา 2 ที่นั่งได้ สามารถวางโต๊ะน้ำชาเล็กๆ หรือโต๊ะกลางเพิ่มเติมได้สบายๆ ค่ะ ระยะดู TV ของห้องนี้ประมาณ 3.25 เมตร เหมาะกับ TV ขนาดประมาณ 40 – 50 นิ้วขึ้นไปได้เลย

พื้นที่วางเตียงนอนจะเหมาะกับเตียงขนาด 5 ฟุต (แบบในห้องตัวอย่าง) ตั้งอยู่ชิดกับหน้าต่างนอนมองเห็นวิวภายนอกและบริเวณระเบียงได้ บรรยากาศดูโปร่งสบาย

ฝั่งตรงข้ามในห้องมาตรฐานจะเป็นพื้นที่โล่ง เราสามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าและติดตั้ง TV แบบในห้องตัวอย่างเพื่อใช้งานพื้นที่ให้คุ้มค่าค่ะ

ประตูระเบียงเป็นบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน เปิดระบายอากาศภายในห้องได้ Condensing Units จะถูกยกไปไว้ด้านบนเพื่อให้มองเห็นวิวและใช้พื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ และช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ระเบียง

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ขนาดระเบียงกว้าง 1.10 x 1.40 เมตร สามารถวางกระถางต้นไม้ตกแต่ง หรือราวแขวนผ้าได้ โดยไม่ต้องเสียพื้นที่วางเครื่องซักผ้าที่ระเบียงค่ะ

แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (M) พื้นที่ใช้สอย 28.75 – 29.00 ตร.ม. ก็เป็นแบบที่มีจำนวนเยอะเช่นกันค่ะ โดยห้องนี้จะเหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว อยู่ 1 – 2 คน แยกห้องนอนออกมาเป็นสัดส่วน และมีพื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้น

• ครัวแบบเปิด เชื่อมต่อกับห้องนั่งเล่น ข้อดีคือได้ความโปร่ง กว้าง แต่ก็อาจจะไม่เหมาะกับการทำอาหารจริงจัง ที่มีกลิ่นมากนัก
• พื้นที่ Common Area กว้าง สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ มุมนั่งเล่นอยู่ติดระเบียงมองเห็นวิวด้านนอก และรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่
• ระเบียงกว้าง ออกไปใช้งานได้จริง
• ห้องนอนขนาดใหญ่แยกเป็นสัดส่วน มีห้องน้ำในตัว เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว
• ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นกระจกมาให้

สำหรับห้องนี้เข้ามาแล้วก็จะเจอกับครัวก่อนค่ะ แต่จะเป็นครัวแบบเปิด เชื่อมต่อกับ Common Area แบ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และระเบียง ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่ง รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้ทั่วถึง

ข้อดีของครัวที่อยู่ด้านหน้าห้องคือเวลาที่ซื้อของเข้ามาก็สามารถจัดเก็บของในตู้ได้เลย ไม่ต้องหิ้วของมีกลิ่น หรือเลอะเทอะเดินผ่านห้องนั่งเล่น และพื้นที่ครัวด้านหน้าห้องยังเป็นเหมือนห้องกั้นพื้นที่ส่วนตัวทางด้านใน เวลาเปิดประตูคนข้างนอกที่เดินผ่านมาก็จะมองไม่เห็นด้านในค่ะ

โดยพื้นห้องครัวทางโครงการจะปูกระเบื้องแกรนิตโต้มาให้ทำความสะอาดง่ายและทนต่อน้ำและคราบมันได้ดี

ชุดครัวจะได้เหมือนกับในห้องตัวอย่างเลยค่ะ เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว I มี Backsplash ทำความสะอาดง่าย ชั้นวางของด้านบนมี 2 ฝั่ง เป็นแบบไม่มีบานปิด เอาไว้วางของที่หยิบใช้บ่อยๆ และมีบานปิดอีก 1 ช่องสำหรับวางของกระจุกกระจิก

ส่วนด้านล่างจะมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าทำให้เราไม่ต้องเอาเครื่องซักผ้าไปวางที่ระเบียงช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องซักผ้า ส่วนด้านข้างเป็นช่องเก็บของใหญ่ใต้อ่างล้างจานค่ะ

Top เคาน์เตอร์เป็นหินเทียม มีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันมาให้ 1 จุด จาก TEKA สามารถทำอาหารรับประทานเองแบบง่ายๆ ได้ และด้านบนเหนืออ่างล้างจานมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟมาให้ด้วย

ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวในห้องมาตรฐานเป็นพื้นที่โล่ง ไว้สำหรับวางตู้เย็นค่ะ และมีพื้นที่เหลือสามารถวางตู้เก็บของเพิ่มเติมได้

เข้ามาภายในห้องเป็นพื้นที่ Common Area สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร แยกกับมุมนั่งเล่นดู TV ได้ โดยจะเชื่อมต่อกับระเบียง ทำให้แสงสว่างเพียงพอ และเราสามารถมองเห็นวิวภายนอกไปด้วยได้ค่ะ

พื้นภายในห้องจะปูด้วยลามิเนตลายไม้หนา 8 มม. ให้ความอบอุ่น สบายเท้ามากขึ้น

มีพื้นที่วางโต๊ะรับประทานอาหารประมาณ 1.25 เมตร วางโต๊ะ 2 ที่นั่งได้พอดีๆ บริเวณนี้หากใครที่ต้องทำงานที่บ้าน ก็สามารถจัดเป็นมุมโต๊ะทำงานอเนกประสงค์ไปด้วยก็ได้นะคะ

พื้นที่ห้องนั่งเล่นมีขนาดประมาณ 1.90 x 2.30 เมตร วางโซฟา 2 ที่นั่งได้พอดีๆ

พื้นที่นั่งเล่นมีระยะดู TV อยู่ที่ประมาณ 2.00 เมตร สำหรับใครที่เป็นคอซีรีส์ ชอบดูหนังฟังเพลงที่อยู่ห้อง ก็สามารถเลือก TV ขนาดใหญ่ 46 นิ้วขึ้นไปได้เลยค่ะ

ประตูทางออกไประเบียงเป็นบานเลื่อนเปิด 3 ตอน มี Condensing Units แขวนอยู่ด้านข้าง ตากผ้าแล้วแห้งได้เร็วเลยค่ะ แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบให้ลมร้อนออกมาที่ระเบียง แนะนำให้ติดแผงเปลี่ยนทิศทางลมนะคะ

ระเบียงมีพื้นที่ประมาณ 1.00 x 2.40 เมตร ซึ่งค่อนข้างกว้างทีเดียวค่ะ สามารถวางกระถางต้นไม้ตกแต่ง หรือทำราวตากผ้าเล็กๆได้ พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ทำความสะอาดง่าย

มาดูห้องนอนกันบ้างนะคะ ภายในห้องนอนมีความเป็นส่วนตัวเพราะเป็นผนังทึบแยกจาก Common Area ชัดเจน ภายในมีช่องแสงให้มองเห็นวิวและเปิดระบายอากาศได้

ห้องนอนมีพื้นที่ประมาณ 2.50 x 3.85 เมตร ไม่รวมตู้เสื้อผ้า สามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่เดินปลายเตียงพอดีๆ ใครที่อยากดู TV ในห้องนอนแนะนำเป็น TV แบบติดผนังค่ะ ด้านข้างมีพื้นที่วางโต๊ะหัวเตียงหรือโคมไฟเพิ่มเติมได้

ห้อง Type นี้มีห้องน้ำเข้าได้จากห้องนอน ข้อดีคือใช้งานได้สะดวกอาบน้ำออกมาแต่งตัวได้เลย แต่ถ้ามีแขกมาที่ห้องแล้วต้องการเข้าห้องน้ำ แขกจะต้องเดินผ่านห้องนอนทำให้เสียความเป็นส่วนตัวไปสักหน่อยค่ะ

ภายในห้องน้ำมีการเลือกใช้กระเบื้องโทนสีครีม ดูนวลตา แบ่งส่วนเปียก-ส่วนแห้งชัดเจน พื้นห้องน้ำจะลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อยทำให้เวลาล้างห้องน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะไหลออกมาเปียกด้านนอก

สุขภัณฑ์ที่ได้จะมีกระจกเงาเปิดเก็บของด้านในได้ อ่างล้างหน้าสี่เหลี่ยมติดตั้งแบบลอยตัว และโถสุขภัณฑ์ จาก Bath line ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.95 x 1.10 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ มีช่องที่ผนังด้านข้างวางของได้ ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้ พร้อมเดินระบบเครื่องทำน้ำอุ่นมาเรียบร้อยแล้วค่ะ

ห้องอาบน้ำแยกส่วนชัดเจนพร้อมฉากกั้นกระจกมาให้หน้าตาแบบในห้องตัวอย่าง เวลาอาบน้ำไม่ต้องกังวลว่าน้ำจะกระเด็นมาเปียกส่วนแห้งเลยค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

สำหรับคนที่ชอบพื้นที่ใช้สอยเยอะหน่อย แนะนำห้อง 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 34.75 – 35.25 ตร.ม. ค่ะ เพราะมีห้องอเนกประสงค์ ให้สามารถทำเป็นห้องนอนลูกน้อย หรือเป็นห้องทำงานส่วนตัวแยกจากพื้นที่อื่นๆได้ค่ะ

• ครัวแบบเปิด แต่สามารถกั้นกระจกเพื่อแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นได้ค่ะ
• พื้นที่ Common Area กว้าง สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารได้ มุมนั่งเล่นอยู่ติดระเบียงมองเห็นวิวด้านนอก และรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่
• ระเบียงยาว ออกไปใช้งานได้จริง มองเห็นวิวได้กว้างขึ้น
• ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นกระจกมาให้
• ห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว
• มีห้องอเนกประสงค์ สามารถทำเป็นห้องนอนเล็ก วางเตียง 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าได้ หรือปรับเป็นห้องทำงานก็ดีค่ะ

ห้อง  1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 34.75 – 35.25 ตร.ม. อีกแบบเป็นห้องสำหรับคนที่ชอบพื้นที่นั่งเล่น เชื่อมต่อกับ Pantry ห้องนอนติดระเบียง สามารถออกไปชมวิวหรือปลูกต้นไม้ตกแต่งระเบียงได้

• ครัวแบบเปิด เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่น และรับประทานอาหาร
• พื้นที่ Common Area มีโถงทางเดินตรงกลาง แบ่งพื้นที่แบ่งโซนไปยังห้องนอน Common Area และห้องน้ำ
• ระเบียงยาว ติดกับห้องนอนใหญ่ และห้องอเนกประสงค์ ใช้งานได้แบบเป็นส่วนตัว
• ห้องน้ำแบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นกระจกมาให้
• ห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว
• มีห้องอเนกประสงค์ สามารถทำเป็นห้องนอนเล็ก วางเตียง 3.5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าได้ หรือปรับเป็นห้องทำงานก็ได้เช่นกันค่ะ

สำหรับคนที่ชอบพื้นที่ใช้สอยเยอะๆ อยู่กันเป็นครอบครัว 3 – 4 คน เหมาะกับห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 51.25 – 54.50 ตร.ม. ค่ะ ข้อดีของห้องนี้เป็นห้องที่แบ่งพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ได้พื้นที่ครัวปิดขนาดใหญ่ ทุกพื้นที่สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้

• ห้องครัวแบบปิดขนาดใหญ่ สามารถทำอาหารได้จริง และเป็นพื้นที่ Buffer ระหว่างพื้นที่ส่วนตัวและโถงทางเดินหน้าห้องพักอาศัย
• เข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่ Common Area สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่ง เชื่อมต่อกับพื้นที่นั่งเล่นและระเบียง ได้รับแสงธรรมชาติและมองเห็นวิวจากภายในห้องได้
• มุมนั่งเล่นกว้างอยู่ติดหน้าต่างมองเห็นวิวด้านนอก และรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่
• พื้นที่ระเบียง ออกไปใช้งานได้จริง
• ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง อยู่โซนเดียวกัน ได้ความสงบเป็นส่วนตัว
• ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่กว้าง วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ เชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนตัว
• ห้องนอนที่ 2 ก็ค่อนข้างกว้าง วางเตียง 3.5 – 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าได้เช่นกัน
• ห้องน้ำ เข้าได้จากพื้นที่โถงทางเดินภายในห้อง อยู่ในโซน Private ใกล้กับห้องนอนค่ะ

อีกห้องสำหรับอยู่กันเป็นครอบครัว มีสมาชิก 3 – 4 คน คือห้อง 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 51.25 – 54.50 ตร.ม. แบบหน้ากว้างค่ะ ข้อดีของห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้าง แบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ห้องนอน 2 ฝั่ง ได้ความเป็นส่วนตัวสูง เข้าห้องน้ำได้สะดวกทั้ง 2 ห้องนอนค่ะ

•  ห้องนี้จะมีพื้นที่ Common Area อยู่ตรงกลาง สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหาร 4 ที่นั่ง เชื่อมต่อกับ Pantry ได้ ซึ่งจะเหมาะกับทำอาหารเบาๆ กลิ่นไม่แรง เนื่องจากเป็นครัวแบบเปิดเช่นกันค่ะ
• มุมนั่งเล่นกว้างอยู่ติดหน้าต่างมองเห็นวิวด้านนอก และรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่
• ระเบียงมีขนาดใหญ่ ออกไปใช้งานได้จริง เชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหารทำให้มองเห็นวิวภายนอกได้
• ห้องนอนแบ่งเป็น 2 ฝั่ง สามารถเข้าห้องน้ำได้จากห้องนอนทั้ง 2 ห้อง ได้ความสะดวกสบายมากขึ้น
• ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่กว้าง วางเตียง 6 ฟุต แบ่งโซนตู้เสื้อผ้าเป็นสัดส่วน เชื่อมต่อกับห้องน้ำส่วนตัว
• ห้องนอนที่ 2 ก็ค่อนข้างกว้าง วางเตียง 6 ฟุต และตู้เสื้อผ้าได้เช่นกัน
• ห้องน้ำในห้องนอนรองเป็นแบบ Double Access เข้าได้จากส่วนกลางและห้องนอน แบ่งส่วนเปียก-แห้งชัดเจน มีฉากกั้นกระจกมาให้แล้วค่ะ

NIA by Sansiri (เนีย บาย แสนสิริ) ราคา ณ วันที่ 12 กันยายน 2566

• 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (S) พื้นที่ใช้สอย 22.75 – 23.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.79 ล้านบาท
• 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ (M) พื้นที่ใช้สอย 28.75 – 29.00 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท
• 1 ห้องนอน 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 34.75 – 35.25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท
• 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 48 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท
• 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 51.25 – 54.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.29 ล้านบาท

• รูปแบบการขาย Fully Fitted มีแพ็คเกจ พร้อมเฟอร์นิเจอร์
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.6 เมตร
• Kitchen & Sink หน้าบานตู้ : กรุเมลามีน / วัสดุ ท้อปเคาร์เตอร์ : หินเทียม
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ TEKA
• มีรถ Shuttle Bus ไปกลับ BTS อ่อนนุช ผ่าน T77
• ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง
  ปีแรก : 59 บาท/ตร.ม./เดือน
  ปีที่ 2 : 66 บาท/ตร.ม./เดือน
  ปีที่ 3 : 69 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล :

NIA by Sansiri ตั้งอยู่ฝั่งสุขุมวิท 71 สามารถเชื่อมต่อไปยัง T77 เพื่อออกถนนอ่อนนุช (สุขุมวิท 77) ได้ ข้อดีของฝั่งนี้คือสามารถเข้าไปยังเอกมัย – ทองหล่อได้สะดวกมากๆ และอยู่ใกล้ทางด่วนฉลองรัช ที่เชื่อมต่อทางด่วนได้หลายเส้นทาง

มีความอุดมสมบูรณ์สูง ใกล้ Habito Mall, โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ, เซ็นจูรี่ เดอะมูฟวี่พลาซ่า อ่อนนุช, โลตัส อ่อนนุช ทั้งหมดสามารถเดินทางด้วย Shuttle Service ได้ อีกทั้งยังใกล้แหล่ง Lifestyle ย่านเอกมัย – ทองหล่อค่ะ

การเดินทางโดยใช้รถ :

การเดินทางโดยใช้รถยนต์ถือว่าสะดวก เนื่องจากในซอยปรีดี พนมยงค์ 2 เองมีซอยย่อยลัดเลาะออกได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขุมวิท 71 เชื่อมต่อเอกมัย – ทองหล่อ, ถนนรามคำแหง และถนนสุขุมวิทได้สะดวก ผ่าน T77 ออกไปย่านอ่อนนุช พัฒนาการ – ศรีนครินทร์ได้ง่าย และใกล้ทางด่วน ห่างจากจุดขึ้นทางด่วนฉลองรัชเพียง 200 เมตรเท่านั้นเอง

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ :

โครงการอยู่ห่างจากสถานีพระโขนงประมาณ 1.2 กิโลเมตร และสถานีอ่อนนุช 1.5 กิโลเมตร มี Shuttle Service รับ-ส่ง BTS อ่อนนุช หรือจะเรียกรถรับ-ส่ง ผ่าน Application ก็ทำได้สะดวกเช่นกันค่ะ

วัสดุ :

ห้องมาตรฐานจะมีรูปแบบการขายเป็น Fully Fitted มีชุดครัวและห้องน้ำ เฟอร์นิเจอร์ครัวกรุเมลามีน วัสดุท้อปเคาร์เตอร์เป็นหินเทียม อุปกรณ์จาก TEKA และห้องน้ำจาก Bath Line ถือว่าได้มามาตรฐานตามระดับราคานี้ค่ะ

ถ้าใครต้องการห้องพร้อมอยู่ แบบมีเฟอร์นิเจอร์ครบทางโครงการเขามีแพ็คเกจขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ให้เลือกด้วยนะ

การออกแบบ :

NIA by Sansiri เป็นคอนโดในซีรี่ย์ One of a Kind Project ที่แสนสิริทำออกมาในแบรนด์ NIA ที่เดียว และจะไม่มีที่ไหนใช้ชื่อซ้ำอีก ออกแบบโดยนำเอาเอกลักษณ์ของ ‘บ้านสุขุมวิท’ ในทำเลรอบๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ ดีไซน์ออกมาเป็นแนว ‘Mid-Century’ มีลักษณะของความเป็นบ้าน เช่น มีพื้นที่นั่งเล่นด้านหน้า, กรอบอาคารโค้งมนเหมือนบ้านสุขุมวิท มีสีน้ำตาลหรือเทาอ่อนมาทำให้อบอุ่นขึ้น ตัวอาคารโดดเด่นด้วยสีเหลืองและสีน้ำเงินเข้ม ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก ยุค 60’s และพื้นที่ส่วนกลางสีสันสดใสในทุกๆ Facility

ห้องพักอาศัยมีห้องขนาดใหญ่ อย่างห้อง 1 Bedroom Plus, 2 Bedroom 48 – 55 ตร.ม. ให้เลือก โดยส่วนใหญ่คอนโดในทำเลนี้มักจะมีแต่ห้องเริ่มต้น 1 Bedroom พื้นที่ใช้สอยประมาณ 22 – 35 ตร.ม. ถือว่าหลากหลาย ภายในจัดฟังก์ชันลงตัว แยกห้องนอนเป็นสัดส่วน ได้ครัวปิด (บางแบบ) เหมาะกับทั้งคนที่อยู่คนเดียว เป็นคู่รัก หรือครอบครัว 3-4 คนก็สามารถเลือกห้องที่เหมาะกับความต้องการได้

สาธารณูปโภค :

พื้นที่ส่วนกลางแบ่งเป็น 3 ส่วน ชั้น 1 สำหรับนั่งพักผ่อน ทำงาน หรือพูดคุยธุระได้ มี Lobby Lounge, Co-Working Space, Garden พื้นที่พักผ่อน Outdoor 3 จุด, EV Charge, Mail Box ชั้น 4 เป็นโซนออกกำลังกาย ประกอบด้วย  Swimming Pool, Gym , Laundry, ห้องน้ำส่วนกลาง และชั้นดาดฟ้าสำหรับเดินเล่นรับลมชมวิว มี Sansiri Backyard, พื้นที่นั่งเล่นชมวิว Panorama, Outdoor Recreation ถือว่าพอดีๆ บรรยากาศเหมือนกับอยู่บ้านค่ะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 120,000 บาท/ตร.ม., วันที่ 12 กันยายน 2566

• ทำเล 7.75/10 – ใกล้เอกมัย-ทองหล่อ มีความอุดมสมบูรณ์สูงในระหว่างทาง Shuttle Servive เดินทางสะดวก
• เดินทางด้วยรถ 8.25/10 – ใกล้ทางด่วนฉลองรัช เพียง 200 เมตร
• ไม่ใช้รถ 7.75/10 – ไม่ไกลจาก BTS 2 สถานี พระโขนงและอ่อนนุช มีรถรับ-ส่ง
• วัสดุ 7.75/10 – มาตรฐานตามระดับราคานี้
• แบบ 8/10 – ออกแบบสไตล์ Mid-Century โดยมี บ้านสุขุมวิท จากทำเลโดยรอบเป็นแรงบันดาลใจ
• สาธารณูปโภค 7.75/10 – ฟังก์ชันครบ บรรยากาศเหมือนบ้าน

• UPPER CLASS
• 7.85 / 10.00

NIA by Sansiri (เนีย บาย แสนสิริ) เหมาะกับใคร

โครงการ NIA by Sansiri (เนีย บาย แสนสิริ) เป็นโครงการที่เน้นเรื่องความคุ้มค่า ไม่ได้มีราคาถูกที่สุด แต่อยู่ในทำเลใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย อยู่ใกล้เมืองมากกว่า ในราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่าคอนโด High Rise ติดถนนใหญ่ในเมือง ประมาณ 30% สามารถเดินออกมาหาของกิน ไปแหล่งความอุดมสมบูรณ์ได้สะดวก มีรถรับ – ส่ง BTS อ่อนนุช และ T77 และเป็นคอนโด High Rise มองเห็นวิวเมืองกว้าง โปร่งสบายตา พร้อม Rooftop Facility ซึ่งหาไม่ได้ในคอนโด Low Rise ค่ะ

เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใกล้รถไฟฟ้า BTS ที่ยังไม่เลยอ่อนนุช (หลังจากสถานีอ่อนนุชจะเสียค่ารถไฟฟ้าส่วนต่อขยายเพิ่ม 15 บาท) เข้าถึงย่าน Lifrstyle ทองหล่อ – เอกมัยได้สะดวก มีสมาชิก 1 – 2 คน หรือเป็นครอบครัว 3 – 4 คนก็มีห้องพักอาศัยที่ตอบโจทย์ ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.79 ล้านบาท* หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 16,500 – 42,000 บาท/เดือนขึ้นไป