HIGHLIGHTS
- ทำเลใจกลางย่านธุรกิจระหว่างถนนสาทรและถนนสีลม ห่างจาก BTS สุรศักดิ์แค่ 250 เมตร
- ดีไซน์สไตล์ Modern Minimal เรียบ เท่ห์
- ออกแบบห้องโดยเน้นให้แสงเข้าถึงทุกส่วนของห้อง แต่ละห้องจะมีระเบียงและแนวกำแพงยื่นออกมาจากห้องไว้ช่วยบังแดดได้
Fact @ 21 October 2013
- NOBLE REVO Silom (โนเบิล รีโว สีลม)
- Noble Development ., Plc.
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- คอนโด High Rise 32 ชั้น 1 อาคาร 319 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 15 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 160 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 50%
- ที่ดินประมาณ 1 – 2 – 8 ไร่
- คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2559
- ระยะห่างจาก BTS สุรศักดิ์ 250 เมตร
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ แบบ 1 หน้าต่าง 31 – 33 ตารางเมตร
- 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ แบบ 2 หน้าต่าง 34 – 35 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 64 – 65 ตารางเมตร
- ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.4 ล้านบาท
- ราคาต่อตารางเมตรเฉลี่ยประมาณ 125,000 บาท
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS สุรศักดิ์ ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า: BTS สุรศักดิ์
- http://goo.gl/UrqCGZ
- โทร 02-251-9955
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 25/10/2013
- Partly Furnished
- เพดานสูง 2.6 เมตร ยกเว้นห้องน้ำแบบ 2 ห้องนอน จะสูง 2.4 เมตร
- ค่ากองทุน 600 บาทต่อตารางเมตร
- ค่าส่วนกลาง 55 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
- ราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้นที่ประมาณ 110,000 บาทและชั้่นบนสุดจะอยู่ที่ประมาณ 142,000
เรื่องรายละเอียดราคาขอติดไว้ก่อนนะครับเพราะราคาที่แน่นอนจะออกวันที่ 3/11/2556 นี้ ครับถ้าได้มาแล้วจะเอามาลงเพิ่มเติมให้นะครับ
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
Product Walkthrough
แบบห้องของโครงการนี้จะมีแค่ 1 ห้องนอน กับ 2 ห้องนอน ไม่มีห้องแบบ Studio
แบบ 1 ห้องนอน จะมีทั้งหมด 5 แบบ จะเรียงจากปริมาณพื้นที่ใช้สอยน้อยไปมากนะครับ
แบบแรกเป็น 1 ห้องนอน แบบหน้าต่างเดียว(ช่วงเสาเดียว) รูปทรงจะเป็น 4 เหลื่ยมผืนผ้าโดยโซนห้องครัวและห้องน้ำจะอยู่ปากทางเข้าห้อง กำแพงที่กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องรับแขกจะเป็นบานกระจกเต็มพื้นที่ตั้งแต่พื้นยันฟ้าเพดานและไม่มีกรอบประตูด้วย ส่วนนี้ช่วยทำให้แสงสว่างภายในรับแขกมีมากขึ้น การใช้งานห้องจะดูลงตัวดีเพราะแนวทางการเดินภายในห้องจะเป็นเส้นตรง เวลาจะอาบน้ำก็ต้องเดินผ่านห้องรับแขกไป
แบบที่ 2 จะเป็นแบบ 2 หน้า(หรือ 2 ช่วงเสา)ในแบบนี้รูปร่างของห้องจะดูสั้นลงแต่กว้างขึ้น ส่วนที่ติดหน้าต่างเลยคือห้องนอนและห้องรับแขก ห้องน้ำจะเข้าไปอยู่ในห้องนอน ตรงนี้จะสะดวกสำหรับผู้อาศัยเพราะสามารถเข้าห้องน้ำจากห้องนอนได้เลยไม่ต้องผ่านห้องรับแขก แต่เวลามีเพื่อนมาเฮฮาจะเข้าห้องน้ำก็ต้องผ่อนห้องนอนด้วยนะครับ อันนี้ก็แล้วการใช้ชีวิตของละคนแล้วหละครับว่าชอบแบบแรกหรือแบบที่ 2 มากกว่า
แบบที่ 3 จะเหมือนกับที่ 2 เลยแต่จะต่างกันแค่พื้นที่ใช้สอยสังเกตได้ว่าขนาดห้องที่กว้างขึ้นทำให้วางเก้าอี้สำหรับโต๊ะอาหารได้ 4 ตัว
แบบที่ 4 ยังคงเป็นแบบ 2 หน้าต่างแต่มีพื้นที่มากขึ้นได้พื้นที่ทำครัวมากขึ้น
แบบสุดท้ายเป็นแบบ 1 ห้องนอนที่ขนาดใหญ่ที่สุดสามารถทำ Walk-in Closet และโต๊ะทำงานได้
มาดูแปลนห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ กันต่อนะครับ จะมีทั้งหมด 2 แบบและทั้งหมดเป็นยูนิตที่อยู่ช่วงมุมตึกทำให้มีหน้าต่างเข้าถึงเกือบทุกห้อง
แบบแรกจะมีห้องนอน 2 ห้องที่ได้เห็นวิวด้านเดียวกัน และห้องนั่งเล่นจะเห็นวิวอีกด้านนึง ดูเหมือนห้องนี้จะตั้งใจทำให้ห้องน้ำเป็นจุดขายเพราะห้องน้ำจะได้เห็นวิวทั้ง 2 ฝั่งเลย
แบบที่ 2 จะมีห้องน้ำเล็กอยู่ตรงกลางห้องเลยครับ ห้องนอนทั้ง 2 ห้องจะเห็นวิวกันนละด้าน ห้องนอนเล็กและห้องรับแขกจะได้วิวด้านที่เป็นแม่น้ำเจ้าพระยาครับ ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะเห็นวิวด้านถนนสีลม
สำหรับห้องตัวอย่างมีให้ดูแค่ 1 ห้องนอนเท่านั้นและเป็น A9 ที่มีรูปทรงห้องเป็น 4 เหลี่ยมผืนผ้าครับ
ประตูทางเข้าเป็นลายไม้โทนสีเหลือง
รอยต่อระหว่างพื้นหน้าห้องกับในห้องจะเป็นแบบนี้ครับ ส่วนพื้นห้องจะเป็น Engineering Wood ทั้งหมด
ประตูหน้าห้องจะเป็นแบบ Digital Door Lock ของ Hafele ครับ แบบนี้ใช้รหัสกดไม่ได้ แต่จะเป็นแบบ Keycard
ไม่สามารถเรียกว่าเป็น Digital Door Lock ได้เต็มปาก ขอเรียกว่า Key Card Access นะครับ
เข้ามาด้านในจะเจอกับโซนครัวก่อนเลยครับ ด้านใต้ของตู้ Pantry ครัวที่นี่จะเปิดโล่งทำให้เวลายืนทำครัวหรือล้างจานจะสะดวกมากเพราะสามารถยืนชิดเคาน์เตอร์ครัวได้เลย
ชุด Build-in ที่แถมมาให้จะมีแค่ห้องครัวนะครับชิ้นล่างหน้าตาแบบนี้เลยครับมีช่องใส่ของให้3ช่องและ มีที่ว่างไว้ใส่เครื่องซักผ้ากับตู้เย็นแบบพอดีเป๊ะ! ถ้าจะซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า2ชนิดนี้ควรตรวจสอบขนาดให้ดีก่อนไม่งั้นงานเข้าครับ
ลิ้นชักบนด้านขวาจะมีช่องสำหรับใส่ของพวกช้อนส้อมมาให้ครับ ลิ้นชักล่างจะมีตะแกรงไว้กั้นของที่วางได้ความสูงก็ใส่ขวดน้ำ 1.5 ลิตรได้ครับ
ชิ้นบนมีแบ่งเป็น 3 ส่วนโทนสีที่ใช้จะเป็นสีเทาอ่อนๆเน้นให้เข้ากับโทนสีกำแพง
Top เคาน์เตอร์ครัวเป็นหินสังเคราะห์ครับสีขาว
ชุดอ่างล้างจานใช้ของ MEX ครับ
เตาเซรามิค 2 หัวเตาและ Hood ก็ใช้ของ Mex ครับ
มาต่อกันที่ห้องน้ำครับรอยต่อของพื้นห้องจะมีธรณีเป็นหินและพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปประมาณ 2 ซม.ครับ พื้นห้องน้ำเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 ซม.
ห้องน้ำจะมีแบ่งโซนเปียกและแห้งด้วยกระจกขนาดใหญ่ครับ พื้นที่ในโซนเปียก(โซนที่อาบน้ำ)ผู้สูงอายุและเด็กเวลาเดินควรระวังชนกระจกเพราะไม่มีกรอบกระจกอาจจะมองยากซักนิดนึงส่วนระดับพื้นก็ลดลงไปอีกประมาณ 2 ซม.ครับ
ชุดอ่างล้างหน้าของ MOGEN ครับมีตู้อยู่ด้านล่างของอ่างเป็นบ้านเปิด 2 บาน Topเคาน์เตอร์เป็นกินสังเคราะห์เช่นกัน
ตู้กระจกด้านบนไม่แถมให้นะครับ จะให้เป็นกระจกติดไว้เฉยๆ ไม่มีตู้
โถสุขภัณฑ์ของ Kohler หน้าตาดีครับ
ชุดฝักบัวของ Kolher
ถัดจากห้องน้ำจะเป็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนติดกัน แต่ห้องตัวอย่างนี้ใช้การคั่นด้วยกระจกแบบเต็มบานและประตูบานเลื่อนกระจกตั้งแต่พื้นถึงผ้าโดยไม่มีกรอบประตูเลย
รางเลือนของประตูกระจกถูกซ่อนอยู่ในฝ้าเพดานครับ การซ่อนรางเลื่อนแบบนี้ยิ่งทำให้ห้องดูเรียบง่ายขึ้นไปอีกถูกใจคนชอบแนว Minimal แน่นอน
แต่รางเลื่อนเปลือยๆแบบนี้ไม่มีแถมให้นะครับ จะได้เป็นแบบที่มีกรอบเหมือนบานกระจกที่ระเบียง
ชุด Build-in ชั้นวางทีวีไม่ได้แถมมาให้นะครับ ใครชอบแนวเรียบง่ายก็แต่งตามห้องตัวอย่างก็ได้ครับผนังห้องจะเป็นสีนี้เทาๆแบบนี้เลยครับ
ห้องรับแขกวางโซฟาได้ขนาด 2 ที่นั่ง 1 ตัวพอดีๆ กำแพงด้านหลังที่เห็นเป็นลายไม้ไม่ได้แถมนะครับ ลูกบ้านต้องทำเพิ่มเอง
มุมมองจากห้องนอนย้อนไปทางห้องครัวครับ จะเห็นว่าห้องถูกแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน คือ มีทางเดินเป็นเส้นตรงและการใช้งานแต่ละห้องอยู่ด้านซ้ายและขวา
เข้ามาในส่วนของห้องนอนกันบ้าง บริเวณปลายเตียงจะมีที่มากพอจะทำเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดเกินไป
สำหรับยูนิตแบบนี้ห้องนอนจะติดกับหน้าต่างเลยถ้ากลัวห้องนอนจะร้อนก็เลือกห้องที่รับแดดเช้านะครับ
พื้นที่ด้านข้างเตียงเหลือแบบกำลังดีครับไม่แคบไป
บริเวณหังเตียงอีกด้านเหลือที่ว่างเท่าๆกันและช่องเก็บของที่กำแพงต้องทำเพิ่มเองนะครับ เพราะตามแบบห้องจะมีช่องว่างที่หัวเตียงด้านนี้อยู่แล้ว
ตู้เสื้อผ้าไม่มีมาให้นะครับ ถ้าทำตามแบบในห้องตัวอย่างนี้ก็ถือว่าเข้ากับบรรยากาศของห้องได้ดีครับ ตำแหน่งติดตั้ง Air Wall Type จะอยู่ริมซ้ายบนของตู้เสื้อผ้านี้
มาถึงส่วนสุดท้ายของห้องแล้วนั่นคือ ระเบียงที่ติดกับห้องนอนซึ่งมีขนาด…..(โปรดดูรูปต่อไป)
….แคบมากครับ ถ้าใครอยู่ชั้นที่สูงๆแล้วอยากมานั่งชิวๆดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆวิวสวยๆก็คงต้องเปิดหน้าต่างให้สุดแล้วนั่งในห้องแทนครับเพราะวางเก้าอี้ไม่ได้ หน้าที่ของระเบียงนี้น่าจะมีไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์มากกว่าครับ (วางด้านล่างไม่ได้แขวนให้ ทำให้ไม่บังสายตาด้านบน)
พื้นระเบียงลดระดับลงมาจากพื้นห้องแค่นิดเดียวครับ วัสดุพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 60ครับ
ราวระเบียงเป็นเหล็กทำสีดำและมือจับเป็นไม้ สีไม้ที่ใช้เข้ากับโทนสีของอาคารที่เน้นโทนสีเข้มได้ลงตัวดีครับ
ลงทะเบียนรับสิทธิ์จองวันที่ 18-31 ต.ค
วันที่เปิดการขาย 3 พ.ย. ที่โรงแรม The Okura Prestige Bangkok
เจาะลึกตัวโครงการ
ลักษณะอาคารเป็นทรงเหลี่ยมที่เน้นความเรียบง่ายเลยทำให้ตัวอาคารดูมีลักษณะเป็นแท่งตันจะมีจุดเด่นอยู่ที่ชั้นบนสุดที่เป็นศูนย์รวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้เป็นช่องเปิดขนาดใหญ่ การใช้งานอาคารแบ่งเป็น 3 ช่วงด้วยกัน ช่วงแรกคืออาคารจอดรถ ชั้น 2-8 ช่วงที่ 2 คือที่พักอาศัย ชั้น 9-31 แต่จะมีสวนแทรกอยู่ทีชั้น 9, 25, และ 29 ช่วงที่ 3 จะเป็นชั้น Facility ทั้งหมดคือ สระว่ายน้ำ, Fitness, และห้องเอนกประสงค์ อาคารนี้จะมีปัญหาเรื่องวิวอยู่ด้านนึงคือทางทิศใต้เพราะติดกับตึกชาร์เตอร์ สแควร์ แต่ห้องที่มีปัญหาจริงๆถูกแก้ให้หันไปทางอื่นไม่ให้หน้าต่างชนกับตึกชาร์เตอร์ สแควร์แบบตรงๆ ส่วนห้องที่มีปัญหารองลงมาคือห้องบริเวณด้านหน้าชั้นล่างๆเพราะยังไม่พ้นความสูงของตึกข้างแต่ถ้าสูงขึ้นมาสักระยะ(ประมาณชั้น 17 ขึ้นไป)จะพ้นแนวตึกที่บังวิวครับ เอาหละทีนี้เรามาดูแปลนโครงการกันดีกว่าครับโดยผมจะเปรียบเทียบเก่าโครงการเก่า (UNITE) ไปด้วยจะได้เห็นว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
การออกแบบของ NOBLE จะมีเอกลักษณ์ประจำตัวอยู่คือเน้นความเรียบง่ายมากๆโดยรูปแบบของอาคารเป็นแบบ Modern ผสมกับ Minimal โดยใช้รูปทรง 4 เหลี่ยมมาใช้งานในทุกส่วนของอาคารหากดูในรูปจะเห็นได้ว่ารูปด้านของตึกจะมีกำแพงและระเบียงยื่นออกมาตรงๆสามารถช่วยบังแดดได้ส่วนนึง โทนสีที่เห็นจากภายนอกก็จะถูกใช้ไปถึงภายในห้องด้วยเหมือนกัน แนวกำแพงนี้จึงเป็นเหมือนตัวเชื่อมพื้นที่ระหว่างภายนอกและในห้องพัก
ทางเข้า Lobby ของอาคารก็มีลักษณะเดียวกันคือ เรียบง่าย หน้าต่างจะมีขนาดที่ใหญ่มากคือเต็มบานตั้งแต่พื้นยันฝ้าเพดานเลย การทำแบบนี้จะทำให้ตัว Lobby ดูโปร่งขึ้นมาก
ภายใน Lobby ก็ใช้แนวกำแพงเป็นเส้นนำสายตาจากพื้นภายนอกเข้ามาถึงภายในเช่นกัน แต่ขนาดของ Lobby ต้องบอกว่าค่อนข้างเล็กมากนะครับ มีพื้นที่ประมาณห้อง 1 Bedroom เท่านั้นเอง
รูปสวนบริเวณบริเวณด้านหน้าของอาคาร ถ้าโครงการจริงปลูกต้นไม้ได้แน่นและสูงขนาดนี้จะช่วยให้พื้นที่ส่วนนี้น่าใช้งานมากยิ่งขึ้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ทำไว้กั้นความวุ่นวายจากถนนสุรศักดิ์เท่านั้น
รูปจำลองบริเวณสระว่ายน้ำครับ ในสระจะมีแบ่งโซนลึก-ตื้นไว้สำหรับว่ายน้ำ และ นั่งพักผ่อน สระว่ายน้ำมีขนาด 5 x 20 เมตรช่วงลึกสุด 1.4 เมตร ระบบน้ำเกลือ มีการเจาะช่องแสงขนาดใหญ่เป็นวงกลมบริเวณเหนือสระว่ายน้ำทำให้มองเห็น Sky View และลดทอนความแข็งกระด้างของพื้นที่ลงไปได้ด้วย
ของแบบนี้ต้องรอดูของจริงนะครับว่าทำออกมาแล้วแสงเงาจะสวยขนาดไหน
รูปจำลองในห้อง Fitness ซึ่งเป็นห้องที่อยู่บนจุดสูงสุดของอาคารจะเห็นวิวทางทิศเหนือ ทีขนาด 6.2 x 10.8 เมตร ห้องนี้จะเห็นวิวได้ทั้ง 3 ด้านเลยคือทางทิศเหนือ(ถนนสีลม), ทิศใต้(ถนนสาทร) และ ทิศตะวันตก(แม่น้ำเจ้าพระยา) ห้องนี้น่าจะเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของอาคารเวลามีงานเทศกาลสามารถมาดูพลุสวยๆบนนี้ได้สบายๆ
รูปจำลองบริเวณสวนบนอาคารซึ่งทางโครงการไม่ได้ระบุว่าเป็นชั้นไหนแต่ถ้าปลูกต้นไม้ใหญ่ลงดิน(ที่ไม่ใช่ปลูกในกระถาง)คงต้องมีงานระบบและการบำรุงรักษาที่ดีพอ
ทีนี้เรามาดูวิวกันดีกว่าครับว่ายูนิตแต่ละฝั่งของอาคารนะจะเห็นวิวประมาณไหน ขอใช้ผังชั้น 9 มาอธิบายนะครับเพราะมีห้องครบทุกแบบในอาคาร ส่วนชั้นที่อยู่ด้านบนขึ้นไปจำนวนห้องจะน้อยลงแต่ตำแหน่งห้องยังเหมือนเดิม ผมจะใช้รูปที่ทาง Web site หลักทำไว้ให้นะครับ วิวของจริงจะแตกต่างจากในรูปขึ้นอยู่กับตำแหน่งของแต่ละห้องส่วนตำแหน่งของกล้องจะอยู่ด้านที่ติดกับทางด่วนหรือทางทิศตะวันตก ภาพเหล่านี้ผมตั้งใจจะเอามาใช้เป็นตัวอย่าง เริ่มจากด้านที่ไม่มีปัญหาเรื่องวิวทั้ง 3 ด้านเลยนะครับ
ด้าน A ประกอบด้วยห้องแบบ A12, A14 และ B12
ด้าน A ชั้น 9 จะเป็นวิวทางด่วนและตึกฝั่งตรงข้าม อาจมีเสียงรถวิ่งบนทางด่วนแถมให้ครับ
ด้าน A ชั้น 15 จะพ้นทางด่วนแล้วครับแต่ก็ยังไม่เห็นแม่น้ำอยู่ดีครับ
ด้าน A ชั้น 24 เริ่มเห็นแม่น้ำบ้างแล้วและเสียงจากทางด่วนคงลดลงไปได้นิดหน่อยครับ
ด้าน A ชั้น 32 จะเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแต่เป็นวิวของชั้นที่เป็นพื้นที่ Fitness แต่ถ้ามองจากสระว่ายน้ำจะไม่เห็นนะครับเพราะมีกำแพงบังอยู่
ด้าน B ประกอบด้วยห้องแบบ A5-A11, B4 และ B12
ด้าน B ชั้น 9 ด้านนี้อยู่ทางทิศเหนือ จะเห็นทางด่วนและตึก Low Rise ค่อนข้างเยอะและคงได้ยินเสียงรถวิ่งบนทางด่วนพอสมควร
ด้าน B ชั้น 15 ยังคงเห็นทางด่วนในระดับใกล้และตึกสูงบ้างประปราย
ด้าน B ชั้น 24 วิวเริ่มดีขึ้นมาบ้างแล้วครับเริ่มเห็นวิวได้ไกลขึ้น
ด้าน B ชั้น 32 เป็นวิวจากสระว่ายน้ำและ Fitness ครับ
ด้าน C ประกอบด้วยห้องแบบ A3 และ B4
ด้าน C ชั้น 9 จะเจอตึกจองโชว์รูมฮอนด้าครับ
ด้าน C ชั้น 15 จะเห็นแนวรถไฟฟ้า BTS และหลังคาโชว์รูมฮอนด้าแต่ก็ยังไม่พ้นความสูงของตึกด้านนี้
ด้าน C ชั้น 24 ความสูงระดับนี้ขึ้นไปถึงจะเริ่มเห็นวิวที่สวยงามขึ้นนะครับ เพราะด้านนี้เป็นด้านที่หันเข้าเมืองจึงมีตึกสูงค่อนข้างเยอะกว่าด้านอื่นๆและมีตำแหน่งที่ไม่ไกลกันมากนัก
ด้าน C ชั้น 32 ต้องบอกว่าใครชอบวิวเมืองควรเลือกด้านนี้เพราะชั้นบนสุดก็จะยังเห็นอาคารสูงอยู่ดี วิวนี้ยังไม่มีโครงการ Diplomat ขึ้นมาเสริมอีกนะครับ แต่ถ้ามีแล้วคงบังวิวเพิ่มอีกแค่นิดเดียวครับเพราะตำแหน่งที่ขึ้นซ้อนทับกับโรงแรม Mode Sathorn
ด้าน D ประกอบด้วยห้องแบบ A1, A2, A14 และA15 (หน้าต่างยูนิตA15ไม่ได้หันเข้าอาคารชาร์เตอร์ สแควร์แบบตรงๆแต่ด้วยตำแหน่งของห้องทำให้ยังคงเห็นตัวอาคารแบบใกล้ๆอยู่ดี)
ด้าน D ชั้น 9 ด้านนี้ขอหันมุมเฉียงๆหน่อยนะครับจะได้ครอบคลุมวิวหลักของห้องแบบ A1, A2 และ A15 จะเห็นว่าชั้นแรกๆนี้โดนบังเยอะเลยครับ
ด้าน D ชั้น 15 ก็ไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไหร่นะครับยังคงให้ความรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง
ด้าน D ชั้น 24 จะเริ่มดีขึ้นมาบ้างเห็นวิวเยอะขึ้น
ด้าน D ชั้น 32 แล้วก็….ยังเห็นอาคารชาร์เตอร์ สแควร์อยู่ดีครับ ความสูงตึกเท่ากันเลยครับ สรุปคือใครที่ไม่เคยเปิดม่านในห้องเลยหรือไม่ค่อยชอบเปิดม่านสามารถเลือกด้านนี้ได้ครับแต่ถ้าชอบวิวก็เลือกด้านอื่นเลยครับ
จากแปลนชั้น G จะเห็นได้ว่าทางเข้าหลักของการเดินและรถยนต์จะอยู่ด้านข้างของตัวอาคารคือซอยเจริญเวียง ไม่ได้เข้าจากด้านหน้าที่ติดกับถนนสรุศักดิ์โดยตรง พื้นที่ด้านหน้าจะถูกจัดเป็นสวนพักผ่อน รอบๆอาคารจะเป็นถนน 2 เลนแบบ One Way ไว้รับส่งคนและชั้น G จะมี Facility แค่ Lobby เท่านั้น
ที่นี้ถ้าจะเทียบกับโครงการ Unite แล้ว ตัวอาคารมีการร่นระยะจากด้านหน้ามานิดหน่อยส่งผลให้พื้นที่ของUnitมีขนาดเล็กลง
มาต่อกันที่ผังชั้น 9 กันครับซึ่งเป็นชั้นแรกของพื้นที่พักอาศัย ชั้นนี้จะมีสวนแทรกอยู่ตรงส่วนที่เป็นด้านเฉียงของตัวอาคาร หากเปรียบเทียบกับของเก่าแล้วบริเวณที่เป็นลิฟท์และบันไดยังคงเหมือนเดิมแต่ จำนวนยูนิตต่อชั้นเพิ่มขึ้นจาก 12 เป็น 15 ยูนิต พื้นที่ต่อห้องนะน้อยลง ระยะcorridorกว้าง 1.5 เมตร
ต่อมาชั้น 10 – 24 ผังจะคล้ายๆกับชั้น 9 ต่างกันตรงที่ไม่มีพื้นที่สวน จำนวนยูนิตเพิ่มขึ้นเช่นกันจาก 12 เป็น 15 ยูนิต ห้องที่มีปัญหาเรื่องวิวจะเป็นห้อง A1, A2 และ A15
ชั้น 25 จะมีสวนเพิ่มขึ้นมาบริเวณด้านหน้าของอาคาร จำนวนยูนิตลดลงไป 2 ยูนิตเป็น 13 ยูนิตต่อชั้น ตั้งแต่ผังชั้นนี้ไปจนถึงชั้น 30 ผมไม่มีข้อมูลของโครงการเก่า ขอข้ามเรื่องการเปรียบเทียบไปนะครับ
ชั้น 26-28 จะคล้ายกับชั้น 25 แต่ไม่มีสวนอยู่ด้านหน้า
ชั้น 29 มีสวนเพิ่มขึ้นมาเช่นกัน แต่ชั้นนี้จำนวนยูนิตต่อชั้นจะเหลือแค่ 9 ห้อง บรรยากาศจะสงบขึ้นเพราะจำนวนยูนิตมีน้อยมาก
ชั้น 30-31 จะคล้ายกับชั้น 29 แต่ไม่มีสวนอยู่ด้านหน้าอีกเช่นกัน
ชั้น 32 จะเป็นโซน Facility ทั้งหมดโดยส่วนที่เป็นสระว่ายน้ำ และ ห้องเอนกประสงค์ เปรียบเทียบกับโครงการเก่าแล้วสระว่ายน้ำจะอยู่แค่ชั้น31 ส่วนที่แตกต่างคือบริเวณสระว่ายน้ำที่เลื่อนตำแหน่งไปชนกำแพงและย้ายพื้นที่พักผ่อนมาอยู่ฝั่งเดียวทำให้มีพื้นที่กว้างขึ้น อีกส่วนที่เปลี่ยนคือตำแหน่งบันไดที่ถูกย้ายไปอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำ
ห้อง Fitness จะอยู่บนห้องเอนกประสงค์อีกทีมีกระจกทั้ง 3 ด้าน เปรียบเทียบกับโครงการเก่าส่วนที่เปลี่ยนไปคือทางขึ้นห้อง Fitness จะเหลือแค่ทางเดียวคือบันไดจากสระว่ายน้ำ
ตารางเปรียบเทียบระหว่างโครงการเก่า(UNITE)และโครงการใหม่(REVO)
*อัตราส่วนลิฟท์ : ตัวเลขมากขึ้นหมายถึง ปริมาณยูนิตที่ใช้ลิฟท์ต่อ 1 ตัวมากขึ้น
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สวนส่วนกลางบริเวณชั้น G, 9, 25, 29 และ ชั้น 32
- สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool 1 สระ
- ห้องเอนกประสงค์ 1 ห้องขนาดประมาณ 31 ตารางเมตร
- พื้นที่สวนทั้งโครงการกว่า 1,000 ตารางเมตร
- Fitness ขนาด 6.2 x 10.8 เมตร
- ห้องสตีมแยกชายหญิง
- ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว ต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์ 159.5 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถ 160 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน คิดเป็น 50%
- ระบบ CCTV / Access Card
- สายรถเมล์ที่ผ่านถนนสีลม(บริเวณหน้าบ้านสีลม)
15, 76, 77, 115, 163 ,164
ปอ.2, 4, 15, 38, 76
ปอ.พ.1, 2, 12, 17, 20, 21, 27 - สายรถเมล์ที่ผ่านถนนสาทร(สถานี BTS สุรศักดิ์)
17, 77, 106, 115, 116, 149, 173
ปอ. 530, 544
ปอ.พ. 11,18, 24
เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง
พิกัด : 13.71951,100.519537
สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาอีกครั้งกับโครงการคอนโด High Rise ที่ชื่อว่า NOBLE REVO Silom (โนเบิล รีโว สีลม) อยู่ในทำเลธุรกิจสำคัญของกรุงเทพที่มีพื้นที่ว่างเหลือน้อยลงเรื่อยๆ โครงการนี้เป็นการเปิดตัวใหม่จากโครงการเก่าที่ชื่อว่า NOBLE UNITE ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปี 2011 เปิดขายและมีลูกค้ามาจองบ้างแล้ว ต่อมาปีใน 2012 โครงการไม่ผ่าน EIA เพราะพื้นที่สีเขียวที่อยู่บนพื้นดินมีปริมาณไม่เพียงพอทาง NOBLE เลยกลับมาปรับแบบใหม่ให้พื้นที่ส่วนกลางที่เป็นพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้น รูปแบบห้องก็มีการเปลี่ยนแปลงโดยลดขนาดของห้องให้เล็กลงและเพิ่มจำนวนของห้องทำให้ราคาต่อยูนิตลดลง แต่ก็ลดลงในสัดส่วนที่ไม่มากเพราะราคาต่อตารางเมตรขยับตัวตามขึ้นมาเช่นกัน แต่ตัวโครงการใหม่นี้ก็ยังไม่ได้การยืนยันจากทาง NOBLE ว่าผ่าน EIA แล้วนะครับยังไงก็ต้องรอดูกันต่อไป โครงการจะเป็นอย่างไรเราไปดูกันเลยครับ ヾ(^-^)ノ~♪
NOBLE REVO สีลม อยู่ในทำเลที่ตั้งที่เรียกได้ว่าย่านใจกลางธุรกิจเลย เพราะอยู่ระหว่าง ถนนสาทร และ ถนนสีลม ที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานต่างๆและห่างจาก BTS สุรศักดิ์แค่ 250 เมตร สำนักงานขายจะตั้งอยู่บนที่ดินของตัวโครงการเลย เส้นทางการเดินทางด้วยรถยนต์ในบริเวณนี้จะมีปัญหาหลักๆอยู่ 2 อย่างคือหลายเส้นทางเป็น One Way และ รถติดมาก ถนนสาทรเป็นถนนที่มีรายชื่ออยู่ใน 11 ถนนที่รถติดที่สุดในกทม.ด้วยดังนั้นการเดินทางเข้า-ออกโครงการที่สะดวกที่สุดจะหนีไม่พ้น BTS ครับ
จากแผนที่ของจริงจะเห็นได้ว่าหลายๆเส้นทางของกรุงเทพที่เชื่อมต่อมายังสีลมและสาทรเพื่อออกไปฝั่งกรุงธนบุรีทำให้ถนนเส้นนี้มีปัญหาการจราจรอยู่่บ่อยครั้งจาก Web site ของโครงการได้มีการทำแผนที่เข้าถึงโครงการ 6 เส้นทาง ลองดูนะครับว่าต้องวิ่งอ้อมด้านไหนบ้าง ใครที่ไม่ชำนาญทางอาจจะงงๆนิดหน่อยนะครับแต่ถ้าคุ้นเคยแล้วเส้นทางเหล่านี้จะช่วยให้ท่านไปยังจุดหมายปลายทางได้สะดวกขึ้น
ลองเดินดูรอบๆโครงการก่อนนะครับว่ามีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง
รูปจากหน้าโครงการหันหน้าเข้าถนนสุรศักดิ์
ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นอาคารโชว์รูมฮอนด้า
A อาคารชาร์เตอร์ สแควร์ที่อยู่ติดกับโครงการเลยครับ ตึกนี้จะบังวิวไปด้านนึงเลยซึ่งทางโครงการก็รู้อยู่แล้วเลยมียูนิตที่หันออกไปด้านนี้มีน้อยและบางยูนิตมีการหันทิศของหน้าต่างไม่ให้ชนตรงๆกับอาคารนี้ครับ ระยะห่างระหว่างอาคารพักอาศัยกับอาคารชาร์เตอร์ สแควร์ประมาณ 7 เมตร
B ตึก บสก. ที่อยู่เยื้องไปทางด้านซ้ายฝั่งตรงข้ามโครงการ
สภาพถนนในซอยจรูญเวียงทางเข้าหลักของโครงการ จะเป็นถนน 2 เลนแต่วิ่งสวนกันไม่ได้นะครับเป็น One Way ไปออกถนนใต้ทางด่วนด้านหลังโครงการเท่านั้น
ถ้าใครคิดจะเข้าโครงการโดยใช้เส้นทางใต้ทางด่วนเพื่อเลี่ยงรถติดบนถนนสุรศักดิ์ก็ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับคุณต้องไปเข้าถนนสุรศักดิ์เท่านั้น
ฝั่งตรงข้ามของโครงการในซอยจรูญเวียงเป็นบ้านพักอาศัย
สุดซอยจรูญเวียงบังคับเลี้ยวซ้ายเท่านั้นถ้าจะเข้าถนนสาทรก็ขับต่อไปตามทางแต่ถ้าจะไปเส้นทางอื่นนอกจากสาทรให้กลับรถใต้ทางด่วนครับ
ด้านหลังของโครงการจะเป็นคูน้ำนะครับ
จุดกลับรถที่คุณต้องใช้เมื่อออกจากโครงการและจะไปเส้นทางอื่น ระยะทางไม่ไกลครับ
7 eleven ที่ใกล้ที่สุดคือใต้อาคารชาร์เตอร์ สแควร์ ครับ
ซอยสีลม 21 ที่มาเชื่อมกับซอยจรูญเวียงครับเป็น One Way อีกเหมือนกันครับคือวิ่งไปถนนสีลมอย่างเดียวในซอยนี้จะมีโรงเรียนฝึกอาชีพกรุงเทพมหานครอยู่
บริเวณปากซอยสีลม21ที่ตัดกับซอยศรีเวียงจะมีร้านค้าหาบเร่-แผงลอยอยู่พอสมควร
ในซอยศรีเวียงมีโรงเรียนอนุบบาลเปล่งประสิทธิ์อยู่
ปากซอยนี้จะเป็นสถานีตำรวจยานนาวาครับอยู่ใกล้โครงการดีครับรู้สึีกอุ่นใจเมื่อภัยมา
ต่อไปลองเดินจาก BTS สุรศักดิ์ไปโครงการกันครับว่าเส้นทางจะเป็นอย่างไรบ้าง
ใช้ทางออก 1 ลงมาจะเจอ AIA Center ก่อนครับเดินสวนกับทางที่รถวิ่งนะครับจะเจอตึกสำนักงานของบจ. นานมี
ถัดมาจะเจอคุณชาย..เอ๊ย เจอสถานีสำหรับจักรยานให้เช่าของ กทม. ถ้าใครอยากไปที่ไหนที่ใกล้ๆโดยไม่อยากเจอรถติดก็มาใช้บริการได้ครับ ช่วงเสาร์-อาทิตย์ตอนเช้าๆอากาศดีๆรถไม่เยอะก็ขี่สบายครับ
ถัดมาก็เป็นโชว์รูมฮอนด้าครับ
ตรงจุดนี้ทางเดินจะถูกเบี่ยงออกไปหน่อยนะครับ
เดินเข้าถนนสุรศักดิ์มาอีกหน่อยก็ถึงหน้าโครงการครับ
ต่อมาเป็นเส้นทางจากถนนสาทรใต้ครับ ให้เลี้ยวขวาที่แยกซอยประมวลซึ่งทางแยกจะอยู่ก่อนถึงสถานี BTS สุรศักดิ์
ปากซอยประมวลจะเป็นโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ซอยไม่ได้เป็น One way นะครับ
พอเจออาคาร บีซีซี 150 ปี ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย ศรีเวียง
ทางเท้าบริเวณนี้เดินได้สบายๆครับ
แถมมีทางลาดให้จักรยานทุกแยกเลยครับ
ในซอยนี้มีร้านอาหารอยู่บ้างอย่างร้านน่ารักๆนี้ชื่อว่า Pearl Bakery bar ครับ
ถัดมาจะเป็นห้องอาหารไทยชาววัง บุษราคัม
ตรงข้ามเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออโยธยา ณ ท่าสุรวงศ์
ถัดมาจะเจอด้านหลังของตึก บสก. และร้านบ้านส้มตำติดกัน ถ้าอยากกินส้มตำก็เดินมาได้ไม่ไกลครับประมาณ 220 เมตร
สุดทางจะเป็นถนนสุรศักดิ์ครับ
ถ้าใครลงมาจากทางด่วนสีลม ใช้ถนนสีลมก็สามารถเลี้ยวขวาที่แยกสุรศักดิ์ได้ จะต้องเบี่ยงขวาเร็วนิดนึงแต่ระยะทางพอดีๆครับ
ต่อมาเลี้ยวเข้าถนนสุรศักดิ์แล้ว เราก็จะตรงไปจนเกือบสุดทางก็จะเจอโครงการ Noble REVO อยู่ทางขวามือ
ถ้าใครออกจากด้านหลังโครงการ แล้วต้องการวกไปที่ถนนสุรศักดิ์ ก็จะมีซอยทางลัดเล็กๆอยู่เลียบทางด่วน วนกลับไปออกได้
หรือถ้าใครใช้ถนนใต้ทางด่วนก็จะสามารถกลับรถ ไปถนนสุรวงศ์ได้
สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการมีหลากหลายรูปแบบทั้งอาคารสำนักงาน, คอนโด High Rise, โรงแรม, โรงเรียน, โรงพยาบาล และอื่นๆ เรียกว่าครบครันเกือบทุกอย่าง จากภาพด้านบนผมลงตำแหน่งตึกที่อยู่ติดกับที่มาให้ดูครับ ส่วนสถานที่ใกล้เคียงอื่นๆในบริเวณนี้มีเยอะมากมายลองดูตามรายการด้านล่างได้เลยครับ
เจาะลึกรวบยอด
โครงการนี้อยู่ในทำเลธุรกิจหลักของกรุงเทพเลยก็ว่าได้ถูกขนาบด้วยถนนสายสำคัญถึง 2 เส้น ถึงแม้ตัวโครงการจะไม่ได้อยู่ติดถนนสายหลักแต่ตำแหน่งที่ตั้งก็อยู่เกือบปากซอยซอยสุรศักดิ์และห่างจาก BTS สุรศักดิ์ แค่ 250 เมตรเดินได้สบายๆ แต่ทำเลนี้ก็แลกมาด้วยการจราจรที่ติดขัดอย่างมากเพราะอยู่ใกล้กับสะพานสาทรซึ่งเป็นทางเชื่อมไปยังฝั่งธนบุรี เท่านั้นยังไม่พอยังมีโรงเรียนอยู่ใกล้ๆโครงการอีกหลายโรงเรียนทำให้ช่วงเวลาเปิดเทอมถนนในบริเวณจะเป็นอัมพาตกันบ่อยครั้ง ดังนั้นการเดินทางจึงต้องพึ่งพารถไฟฟ้าเป็นหลักจะดีกว่า
ถ้าจำเป็นต้องใช้รถยนต์ก็มีทางเลือกให้ใช้อยู่ค่อนข้างเยอะทีเดียว แต่ต้องระวังเรื่องทิศทางการเดินรถเพราะบริเวณมีเส้นทางที่เป็น One Way เยอะมากช่วงเวลาก่อน-หลังเลิกเรียนก็จะมีการปรับเส้นทาง One Way เพิ่มเติม เรื่องสภาพแวดล้อมก็จะมีตึกสูงบังอยู่ทั้งระยะใกล้และไกลส่วนตึกที่อยู่ติดกับโครงการและบดบังวิวก็จะเป็นตึก Chartered Square ด้านที่ไม่มีตึกบังในระยะใกล้เลยก็คือด้านทิศเหนือหรือด้านทิศตะวันตกที่ติดกับทางด่วนก็ควรจะเลือกชั้นที่สูงๆหน่อยเพื่อจะได้พ้นระยะตึกฝั่งตรงข้ามและลดเสียงรถยนต์จากทางด่วนด้วย เรื่องอาหารการกินจะมีร้านอาหารขนาดเล็กอยู่รอบๆบ้างแต่ถ้าเดินไปทางถนนสีลมจะมีให้เลือกเยอะกว่า
พูดถึงเรื่องวิวถ้าอยากจะได้วิวแม่น้ำ จะต้องเลือกทิศตะวันตก ซึ่งตัวอาคารห่างจากโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 600 เมตร ทำให้มองเห็นแม่น้ำได้ชัดเจนจริงๆที่ชั้นประมาณ 20 ขึ้นไป ซึ่งก็ต้องแลกมาด้วยแดดร้อนๆจากทิศตะวันตกและเสียง ฝุ่น ควันจากทางด่วนที่อยู่ทิศเดียวกัน ดังนั้นถ้าจะให้ปลอดภัยจากมลภาวะก็เลือกชั้นที่สูงที่สุดเท่าที่จะรับราคาได้ครับ
ความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่รอบๆสถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์นั้น คงจะเทียบไม่ได้กับ BTS ศาลาแดง ที่เป็นแหล่งของกินของใช้ครบครัน หรือ BTS ช่องนนทรีย์ ที่มีซอยละลายทรัพย์ เดินทะลุไปคอนแวนต์ได้ และอนาคตที่จะมี Mall ของมหานคร หรือแม้แต่ BTS สะพานตากสินที่มีตลาดบางรักและโรบินสันบางรัก ทำให้การหาของกินของใช้ในบริเวณนี้ทำได้ค่อนข้างยากกว่าทำเลใกล้ BTS อื่นๆ ยกเว้นเพียงซอยเซนต์หลุยส์ที่มีของกินอร่อยๆราคาย่อมเยาหน่อย แต่ก็อยู่ฝั่งตรงข้าม คนละทางลงกับโครงการ Noble REVO นะครับ
การเดินทางด้วยรถจะเรียกว่าสะดวกก็คงพูดได้ไม่เต็มปากเพราะในบริเวณนี้ถนน One Way มันช่างเยอะเหลือเกินแถมการจราจรก็ขึ้นชื่อเรื่องรถติดอยู่แล้ว แต่ด้วยทำเลที่ตั้งทำให้การเข้าออกโครงการทำได้จากหลายเส้นทางเหมือนที่ทาง Web site ของโครงการได้ทำแผนที่การมาโครงการไว้ถึง 6 เส้นทางคือ ถนนเจริญกรุง, ถนนพระราม4, ถนนสีลม, ทางด่วนศรีรัช, สะพานตากสิน และ ถนนเจริญราษฎร์ หากจะเดินทางควรดูสภาพการจราจรเป็นหลักเพราะจะทำให้ช่วยเลี่ยงบริเวณที่รถติดแล้วประหยัดเวลาได้ทีเดียว
ส่วนที่จอดรถให้มา 50% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ถ้ารวมก็น่าจะได้อีก 5-10% ซึ่งไม่แน่ว่าจะพอไหม แต่ก็ได้อานิสงส์จากความเป็นโครงการคอนโดมิเนียมใกล้สถานีรถไฟฟ้า ทำให้คาดเดาได้ว่าน่าจะมีลูกบ้านส่วนหนึ่งใช้การเดินทางด้วย BTS เป็นหลัก
สำหรับคนที่เดินทางโดยไม่ใช้รถยนต์ จะค่อนข้างสะดวกสบายมากถ้าใช้บริการ BTS เพราะเดินไม่ไกลและเส้นทางการเดินก็ไม่เปลี่ยนทางเท้าก็กว้างดี แต่เวลาข้ามถนนหน้าโครงการควรระวังรถที่วิ่งผ่านเพราะรถเกือบทุกคันดูจะเร่งรีบผ่านแยกไฟแดงหน้าโครงการไปให้เร็วที่สุด ควรรอรถติดไฟแดงจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นจะเป็นอันตรายได้นะครับ
คุณภาพวัสดุที่ให้มากับห้องถือว่าอยู่ในระดับค่อนข้างดี แต่ให้มาน้อยไปหน่อยคือมีแค่ชุด Built-in ครัวเท่านั้น ตัววัสดุพื้นก็เป็น Engineering Wood ชุดสุขภัณฑ์ก็จะดูดีขึ้นมาหน่อยเป็นของKolher แอร์ที่ใช้จะเป็น Wall Type ส่วนเรื่องวัสดุส่วนกลางผมยังไม่เห็นของจริงขอข้ามส่วนนี้ไปก่อนนะครับ
การออกแบบก็เป็นสไตล์ของ NOBLE เลย คือ เน้นเรียบง่ายผสมผสานแนว Modern และ Minimal เอาไว้ด้วยกันทำให้ตัวอาคารดูเป็นเหลี่ยมที่ชัดเจนโดยแต่ละห้องจะมีระเบียงและแนวกำแพงยื่นออกมาจากห้องไว้ช่วยบังแดดได้ระดับนึง ลักษณะ Unit จะมีรูปทรง 4 เหลี่ยมผืนผ้ากับจัตุรัสโดยการออกแบบห้องจะเน้นให้แสงเข้าถึงทุกส่วนของห้อง การออกแบบส่วนกลางก็จะเป็นแบบเดียวกันคือเน้นรูปทรง 4 เหลี่ยมมาใช้กับ สวนหย่อม, บริเวณสระว่ายน้ำและ Fitness
Facility นั้นมีมาให้ตามมาตราฐานคอนโดสมัยใหม่ แต่สวนจะมีหลายจุดหน่อยแทรกอยู่ตามชั้นต่างๆของอาคาร สระว่ายน้ำและ Fitness จะมีจุดเด่นที่เรื่องวิวเพราะอยู่ชั้นบนสุดของอาคารทำให้เห็นวิวได้กว้าง เป็นวิวเมืองซะส่วนใหญ่ส่วนวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจะเห็นจากด้านข้างไกลๆหน่อยเพราะทิศของอาคารไม่ได้หันไปทางแม่น้ำโดยตรง
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 125,000 บาทต่อตารางเมตร, 21/10/2013
- ทำเล 8/10 – อยู่ในทำเลใจกลางย่านธุรกิจ แต่มีความอุดมสมบูรณ์ไม่มาก วิวโดนบังไปฝั่งหนึ่งและติดทางด่วนด้านข้าง
- เดินทางด้วยรถ 7/10 – มีเส้นทางให้เลือกหลายเส้นทางแต่มีปัญหาเรื่องทิศทางที่เป็น One Way เยอะทำให้ต้องอ้อมไกลไปหน่อยและการจราจรค่อนข้างหนาแน่น ที่จอดรถ 50-60%
- ไม่ใช้รถ 8.75/10 – สามารถเดินไป BTS ได้แบบสบายๆ แต่การข้ามถนนต้องระวังให้มาก
- วัสดุ 7.5/10 – ใช้พื้น Engineering ห้องน้ำดูโอเค แอร์ Wall Type และมีให้เฉพาะ Built-in ครัว พร้อมท๊อปหินสังเคราะห์และเตาไฟฟ้า
- แบบ 7.75/10 – Modern & Minimal ดีที่ไม่ได้ทำห้องเล็กเหมือน Noble Revolve แต่ระเบียงแคบไปนิดนึงนะ
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – มาตรฐานคอนโดสมัยใหม่ จุดเด่นอยู่ชั้นบนสุด แต่ล็อบบี้ชั้นล่างเล็กไปหน่อย
- HIGH CLASS
- 7.81 / 10.00
BOTTOM LINE
โครงการนี้เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านสีลม-สาทร หรือผู้ปกครองที่ต้องรับ-ส่งบุตรหลานของท่านไปโรงเรียนในละแวกนี้ และเบื่อกับการเข้า-ออกเมืองนั่งอยู่บนรถนานๆ เพราะจะช่วยให้ท่านประหยัดเวลาได้มากเลยทีเดียวเอาเวลาที่ติดบนท้องถนนไปทำอย่างอื่นได้อีกมากมาย
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ
(ノ´ヮ´)ノ*:・゚✧