SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) คอนโดห้องฝ้าเพดานสูง ใกล้ BTS ราชเทวี 140 เมตร จาก Sansiri [รีวิวฉบับที่ 2620]

SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2566

พิกัด Google Maps : 13.754229 , 100.532180
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) ตั้งอยู่ติดถนนพญาไท ระหว่าง BTS ราชเทวี กับ BTS พญาไท ใกล้กับแยกราชเทวีซึ่งถือเป็นทำเลใจกลางเมืองสุดๆเลยก็ว่าได้ เพราะใกล้สยาม ใกล้สถาบันศึกษา และโรงพยาบาลหลายชั้นนำแห่งเลย รวมถึงการเดินในย่านนี้ก็สะดวกสบาย มีตัวเลือกให้ใช้งานหลากหลาย ทั้งการใช้ถนนหนทาง ทางด่วน รถไฟฟ้า รวมถึงการเดินทางด้วยเรือก็ทำได้ไม่ยากเลย

สำหรับภาพรวมของคอนโดใหม่ในย่านราชเทวี ส่วนใหญ่ที่เปิดขาย จะอิงอยู่บนถนนเพชรบุรีกันหมดเลย ในขณะที่  SHUSH Ratchathewi ตั้งอยู่ติดกับถนนพญาไท ซึ่งทำให้จุดเด่นของที่นี่ คือการเดินไปใช้รถไฟฟ้า BTS ได้ใกล้มาก และยังสามารถไปได้ถึง 2 สถานีด้วย คือ BTS ราชเทวี 140 เมตร และ BTS พญาไท 250 เมตร ซึ่งพญาไทเองก็เป็น Interchange กับ ARL ที่เป็นอีกตัวเลือกถ้าเวลาเราจะไปสนามบินสุวรรณภูมิก็สะดวกแบบเดินไปได้

การเดินทางโดยใช้รถ ถือว่าสะดวกสบาย เพราะติดถนนใหญ่อย่างถนนพญาไท โดยอยู่ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกพญาไท ทำให้เดินทางมุ่งตรงไปฝั่งอนุสาวรีย์ชัยฯ พญาไท อารีย์ ได้ง่ายตรงยาวๆเลย หรือจะวิ่งไปฝั่งสามย่าน สีลม ไปถนนพระราม 4 ก็ได้ นอกจากนี้ยังตัดผ่านถนนสำคัญอีกหลายสาย เช่น ถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 1 (เชื่อมต่อกับสุขุมวิท) ซึ่งหากจะขับไปสยาม สามารถกลับรถได้ที่แยกพญาไท แต่หากมาจากประตูน้ำ(ถนนเพชรบุรี) จะไปยังโครงการ สามารถไปกลับรถได้ที่ใต้สะพานหัวช้างค่ะ ซึ่งอาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางหน่อย เพราะอย่างที่รู้กันว่าย่านนี้การจราจรหนาแน่นใช้ได้เลยค่ะ

ส่วนทางด่วน ตัวช่วยในการเดินทางย่านนี้ก็จะมีทางด่วนศรีรัช ใช้เดินทางไปโซนจตุจักร บางซื่อ หรือ ดินแดง พระราม 9 ได้สะดวก อีกทั้งไม่ไกลจากทางด่วนเฉลิมมหานคร ใช้ไปฝั่ง พระราม 3 บางนาได้ไม่ยากเลยค่ะ

คอนโดใกล้รถไฟฟ้า อย่างที่บอกไปนะคะว่าโครงการตั้งอยู่ระหว่าง BTS ราชเทวี กับ BTS พญาไท ซึ่งถือเป็นจุดที่เราได้เปรียบเรื่องตำแหน่งที่ตั้งมากกว่าโครงการในทำเลนี้นะคะ โดยโครงการใกล้ BTS ราชเทวี ประมาณ 140 เมตร เท่านั้น แต่ต้องเดินข้ามถนนใหญ่ ซึ่งต้องใช้เวลาเพื่อเดินหรือยืนรอรถสักหน่อย ส่วน BTS พญาไทจะห่างออกไป 400 เมตร แต่ไม่ต้องข้ามถนน ถือว่าเป็นระยะที่เดินไปได้สบายทั้ง 2 สถานีเลย สามารถเลือกใช้ได้ตามสะดวกเลยค่ะ

นอกจากนั้นยังเป็นทำเลที่ใกล้ Airport Rail Link ซึ่งจะอยู่บริเวณเดียวกับ BTS พญาไทเลย เดินเชื่อมกันได้ง่ายไม่ต้องข้ามถนน ซึ่งเลือกเดินทางด้วย ARL จะสะดวกสำหรับใช้เดินทางไปยังสุวรรณภูมิ เผื่อวันไหนรีบเร่ง หรือการจราจรติดขัด ก็จะสามารถช่วยควบคุมเวลาได้ค่ะ

ในอนาคต บนถนนเพชรบุรีก็มีแผนการสร้างรถไฟฟ้าด้วยเช่นกัน โดยจะเป็น MRT สายสีส้ม ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้เริ่มสร้างเลยค่ะ ตรงนี้อาจจะใช้เวลานานหลายปีก็เป็นได้ ส่วนรถสาธารณะอื่นๆ ก็ใช้ได้สะดวกเพราะตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ซึ่งคึกคักตลอดวัน ทำให้เรียกใช้บริการรถ Taxi, พี่วินมอเตอร์ไซค์ ได้ที่หน้าโครงการเลยค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ ของย่านราชเทวีถือว่าครบครันเลยค่ะ มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ Hostel ดีๆ อยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีแหล่ง Hang out ในเวลาค่ำคืน อย่าง CoCo Walk ที่เต็มไปด้วยบาร์จำนวนมาก นอกจากนั้นอีกจุดเด่นของย่านราชเทวีคือ ใกล้สยาม และพญาไท เพียง 1 สถานีเท่านั้น แต่ใครที่ชอบเดินหน่อยก็สามารถเดินได้ค่ะ

คอนโดใกล้สยาม และพญาไท ถือเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของย่านราชเทวีก็ว่าได้ สำหรับ ‘สยาม’ ถือเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์ และความคึกคักสูงสุด ใจกลางเมือง เต็มไปด้วยศูนย์การค้า เรียงกันมาตั้งแต่ Central World จนมาถึง MBK รวมกันตลอดถนนพระราม 1 ก็มีถึง 5 ศูนย์การค้า นอกจากนั้นยังมี Lifestyle Mall ที่รวมร้านอาหาร หรือจะเป็นร้าน Stand Alone อีกมากมายโดยรอบ อีกทั้งเป็นแหล่งสถานศึกษาใกล้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และโรงเรียนสาธิตจุฬา

ส่วน ‘พญาไท’ จะเป็นย่านที่เต็มไปด้วยโรงเรียนกวดวิชา อาคารสำนักงาน คอนโดมิเนียม เรียงรายกันไปตลอดทั้งแนว รวมถึงเป็นจุด Interchange กับ Airport Link ทำให้มีคนในย่านนี้ค่อนข้างเยอะ ความอุดมสมบูรณ์สูง นอกจากนั้นก็ไม่ไกลจากประตูน้ำ ซึ่งเป็นอีกซนที่คึกคักตลอด เป็นแหล่ง shopping ที่มีห้างขายส่งเสื้อผ้าดังอย่าง Platinum, Paladium และแหล่งซื้อขายอุปกรณ์ IT อย่าง ห้างพันธุ์ทิพย์อีกด้วย

เส้นทางการเดินทาง

การเดินทางวันนี้จะเริ่มจาก BTS ราชเทวีทางออก 3 จากนั้นข้ามแยกราชเทวี แล้วเดินต่อไปก็ถึงโครงการแล้วค่ะ ส่วนบรรยากาศและสภาพแวดล้อมโดยรอบ จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลย

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) ตั้งอยู่ติดถนนพญาไทใกล้แยกราชเทวี ที่อยู่ในผังเมืองเขตสีแดง ซึ่งเป็นโซนพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยหนาแน่นสูงมาก และการที่เป็นทำเลใจกลางเมืองชั้นใน แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมรอบโครงการ ก็จะมีตึกสูงอยู่เหมือนกัน ซึ่งตึกสูงเหล่านี้มันก็คือสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่ใกล้ๆด้วยนั่นเองค่ะ โดยสรุปแต่ละทิศได้ดังนี้

• ทิศเหนือ วิวหันไปทางแยกพญาไท มองออกไปจะเห็นคอนโดสูง 31 ชั้น ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร
• ทิศใต้ ใกล้กับอาคารสำนักงาน Spring tower สูง 27 ชั้น ห่างไปประมาณ 13.2 เมตร ตัวอาคารของโครงการฝั่งนี้คาดว่าน่าจะโดนบังไปประมาณ 70-80% โดยส่วนของห้องพักที่อยู่พ้นจากความสูงของตึก spring tower น่าจะอยู่ใกล้ๆ ชั้น 30 เป็นต้นไป
• ทิศตะวันออก วิวทิศนี้จะเป็นฝั่งที่อยู่ติดกับถนนพญาไท ซึ่งถ้าใครอยู่ชั้นล่างๆ หน่อยก็จะเห็นแนวรถไฟฟ้า BTS วิ่งผ่าน และอาจมีเสียงจราจรรบกวนนิดหน่อยเวลาออกไปโซนระเบียง ส่วนฝั่งตรงข้ามถนนพญาไทห่างออกไปประมาณ 100 เมตร จะมีคอนโดสูง 41 ชั้น  สูงพอๆกับโครงการ ชูช์ ราชเทวี
• ทิศตะวันตก จะเป็นทิศที่ได้แดดช่วงบ่ายเยอะหน่อย แต่ก็ได้วิวเปิดโล่งที่สุดด้วย ใกล้ๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นอาคารแนวราบที่อยู่ในซอย แต่ถ้าขยับออกไปอีกหน่อยจะเห็นคอนโด High rise ที่อยู่ห่างไปประมาณ 250 เมตร

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Siam Discovery ~ 1.8 km.
• Siam Center ~ 1.8 km.
• MBK ~ 2 km.
• Bangkok Art and Culture Centre ~ 2 km.
• Siam Paragon ~ 2.2 km.
• Central World ~ 2.6 km.
• Gaysorn Village ~ 2.7 km.

โรงพยาบาล

• Phyathai 1 Hospital ~ 1.5 km.
• Phyathai 2 Hospital ~ 2 km.
• Police General Hospital ~ 2.6 km.

โรงเรียน

• Triam Udom Suksa School ~ 2.7 km.
• Chulalongkorn University ~ 3.6 km.

สถานที่อื่นๆ

• Jim Thompson Museum ~ 2.5 km.
• Supachalasai Stadium ~ 2.6 km.

SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) เป็นคอนโดแบรนด์ใหม่จากแสนสิริ ที่แค่ชื่อแบรนด์ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยโดย SHUSH ถ้าออกเสียงจะเป็น “ชูช์ ” ที่บ่งบอกถึงความเงียบ สื่อถึงความ “Quiet Luxury” หรูหราแบบไม่ตะโกน โดยจะเป็นคอนโด Segment บนๆ เช่นเดียวกันกับ The Monument มีแค่ 2 แบรนด์ที่สูงกว่าก็คือ Khun By Yoo และ 98 Wireless 

ซึ่งครั้งนี้ SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) มาในทำเลใจกลางเมือง ย่านราชเทวี  สะดวกสบายใกล้สยาม มาในรูปแบบคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น มีจำนวนยูนิต 383 ยูนิต บนที่ดินเกือบ 2 ไร่ พร้อมที่จอดรถส่วนใหญ่เป็น Automatic parking สามารถจอดได้ 58% ห้องพักอาศัยเน้นเป็นห้องฝ้าเพดานสูง (Loft) 4.5 เมตร ประมาณ 90% และห้องปกติ (Simplex) ประมาณ 10% โดยปัจจุบันผ่าน EIA เรียบร้อยแล้วค่ะ

การจัดฟังก์ชันส่วนกลางภายในโครงการสรุปได้ดังนี้

• ชั้น 1 : THE GALLERIA LOBBY / GRAB AND GO / PUBLIC W.C. / GROUND GARDEN & OUTDOOR RECREATION AREA
• ชั้น 2 : LAUNDRY
• ชั้น 3 : THE REFLECTION AMPHITHEATER
• ชั้น 24 : THE RELAXING LOUNGE / THE SOCIAL LOUNGE / THE STUDY LOUNGE / THE EXECUTIVE ROOM 1 AND 2 / THE ENTERTAINMENT ROOM / POCKET GARDEN
• ชั้น 25 : THE LUMINA POOL & SKY GARDEN / THE ACTIVE CLUB / PUBLIC W.C. / INFRARED SAUNA
• ชั้น 32 และ ดาดฟ้า : POCKET GARDEN & SANSIRI BACKYARD

ส่วนบรรยากาศภายในโครงการจะเป็นอย่างไร เรามีภาพจำลองบรรยากาศโซนต่างๆ มาให้ชมกันด้วย แต่เนื่องจากเป็นโครงการใหม่เพิ่งเปิดตัว ภาพส่วนกลางบางส่วนที่เรานำมาจึงยังเป็น Draft อยู่ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลังค่ะ**

Master Plan : ทางเข้าออกโครงการแยกเป็นทางคนเดิน และทางรถชัดเจน ได้ความปลอดภัยดี จัดการได้ง่าย สำหรับคนใช้รถส่วนตัวเมื่อเลี้ยวเข้ามาแล้วจะเจอกับป้อม รปภ. ด้านซ้ายมือก่อน ทางเดินรถภายในโครงการส่วนใหญ่เป็น Two Way ไม่ได้วนรอบอาคาร โดยที่จอดรถส่วนใหญ่เป็นแบบ Auto parking มีทั้งหมด 222 คัน หรือประมาณ 58% ซึ่งถือว่าโอเคนะคะสำหรับโครงการที่เดินไปรถไฟฟ้าได้สบาย สำหรับช่อง Lift รถยนต์จะมีทั้งหมด 3 จุดคือ 2 จุดด้านล่าง และ 1 จุดด้านบนซึ่งเป็นระบบ Turn table ซึ่งรองรับรถไซส์ใหญ่อย่าง Toyota Alphard และ Toyota Vellfire ได้เลยค่ะ ส่วนระบบ EV CHARGER ก็มีทั้งแบบ AC / DC ดังนี้

• DC Fast charge อยู่ที่ชั้น 1 จำนวน 2 Slot ชาร์จไฟได้สูง 120 kW
• AC หรือกระแสสลับ 7kW อยู่ใน Auto parking โดยใช้ Power Plug เสียบชาร์จกับฐาน Plate ที่จอดรถได้เลย (หากคันไหนชาร์จเต็มแล้ว จะสลับคันตามคิวมาชาร์จต่อได้เลยอัตโนมัติ)

ภายในอาคาร : ส่วนแรกเมื่อเข้ามาเราจะเจอกับ THE GALLERIA LOBBY เป็นพื้นที่ต้อนรับขนาดใหญ่ ซึ่งใช้เป็น Waiting area สำหรับคนที่นั่งรอ Auto parking ด้วยเช่นกัน โดยเขาจะมีหน้าจอแสดงสถานะรถให้เราดูอยู่ภายในอาคารเลยด้วยสะดวกดีค่ะ นอกจากนั้นอีกจุดที่น่าสนใจคือฟังก์ชัน GRAB AND GO ที่เขาจะออกแบบเป็นตู้เก็บอุณหภูมิไว้ให้ เวลาสั่งอาหารมาก็จะสดใหม่ไม่ต้องกลัวอาหารจะเย็นชืดค่ะ สำหรับโถงลิฟต์ จะแยกไปอยู่โซนด้านในเป็นสัดส่วนเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านได้ดี ส่วนชั้น 2 จะเป็นห้องบริการซักผ้า และออฟฟิศนิติบุคคลค่ะ

พื้นที่สีเขียวกระจายหลายจุด : เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจคือที่นี่มี พื้นที่สีเขียวกระจายอยู่หลายจุด ตั้งแต่ชั้น 1 ที่จะเป็นสวนด้านหน้าโครงการ คอยต้อนรับลูกบ้านหรือผู้แขกผู้มาเยือน แถมยังทำหน้าที่เป็น Buffer ที่ลดทอนเสียง กับฝุ่นควันจากรถบนถนนพญาไทหน้าโครงการอีกด้วย หรืออย่างที่ชั้น 3 จะมีสวนที่ภายในมีที่นั่งให้ลูกบ้านมานั่งผ่อนคลาย จะเห็นวิวพื้นที่สีเขียวชั้น 1 ต่อเนื่องกัน นอกจากนี้ สวนจะถูกกระจายไว้ที่ชั้นต่างๆ ในชั้นบนๆที่ออกไปชมวิวชั้นสูงได้ ซึ่งถ้านับทั้งหมดแล้วจะมีถึง 8 ชั้นด้วยกันเลย ก็จะทำให้ลูกบ้านมีตัวเลือกในการออกไปใช้ได้หลายจุดเลยนะ

เริ่มกันที่ด้านหน้าโครงการ จะเห็นได้ว่าเขาออกแบบ ให้รั้ว ดูโค้งเว้า นุ่มนวล พร้อมมีการใช้รั้วต้นไม้ และลงไม้ยืนต้นในหลายส่วน เป็นการสร้างบรรยากาศสีเขียวร่มรื่นให้กับโครงการ เวลามองมาจากด้านนอกก็จะสวยงาม ร่มรื่น สร้างมูลค่าให้กับโครงการได้มากยิ่งขึ้น

GROUND GARDEN & OUTDOOR RECREATION AREA เป็นสวนด้านหน้าโครงการที่มีการออกแบบ Landscape โดยใช้เส้นสาย Freeform โค้งเว้าสวยงาม ซึ่งลูกบ้านที่เดินเข้าออกโครงการจะผ่านส่วนนี้ทุกครั้ง ช่วยสร้างความสดชื่นผ่อนคลายได้ดีเลย พร้อมมีการ ออกแบบเป็นพื้นที่นั่งเล่น ให้พอจะออกมานั่งพักผ่อนหย่อนใจกันได้ด้วย

THE GALLERIA LOBBY เป็นส่วนต้อนรับ ที่สามารถมองออกไปรับชมสวนด้านหน้าโครงการได้ เอาไว้เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อน หรือรับรองแขกของลูกบ้าน ซึ่งการออกแบบโครงการจะใช้ คอนเซปต์ “Museum of art , Gallery of Life” มีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และการตกแต่งหลายอย่างจาก Designer ชื่อดังระดับโลก

และเสริมความหรูหราด้วยการใส่ chandelier ขนาดใหญ่ที่ทำมาจากแก้ว สีใส สีอำพัน ส่วนพื้นมีการทำ Pattern ด้วยหินอ่อน Green Verde ที่มีลวดลายสวยงามโทนสีเขียว ตัดกับวัสดุสีขาว-เทา เพิ่มความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น โดยบริเวณนี้จะมีเคาน์เตอร์ Concierge Service คอยบริการอยู่ด้วยทุกวันตั้งแต่ 8.00-20.00 น.

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ และการตกแต่งที่ใช้จาก Designer ชื่อดังจะมีทั้งโซฟา, อาร์มแชร์, งานศิลปะนูนต่ำ Large Panel ที่มาตกแต่งผนัง, Sculpture ขนาดใหญ่สูง 3 เมตร ให้มาสอดคล้องกับ Lobby ที่ฝ้าเพดานสูงโปร่ง ซึ่งแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์ความสวยงามที่แตกต่างกันไป แต่เมื่อมาประกอบกันอยู่ในห้องนี้ก็ดูลงตัว สวยงามดีเลยค่ะ

Concierge Service ถือเป็นอีกหนึ่งบริการจากโครงการที่เราว่าน่าสนใจ โดยเขาจะมีพนักงานที่คอยอำนวยความสะดวกต่อลูกบ้าน ทั้งบริการซักรีด , เรียกทำความสะอาดห้อง , นำพัสดุมาส่งที่ Mailbox ส่วนตัวที่มีแยกทุกชั้นพักอาศัย , จองงานจัดเลี้ยงต่างๆ ในฟังก์ชันส่วนกลางเป็นต้น

ชั้น 3 : เป็นชั้นพักอาศัยชั้นแรก ที่จะมีพื้นที่ส่วนกลางอย่าง THE REFLECTION AMPHITHEATER ออกแบบเป็นที่นั่งแนวยาวลด Step พร้อมสวนเล็กๆให้ลูกบ้านมานั่งผ่อนคลายกันได้

THE REFLECTION AMPHITHEATER ออกแบบเป็นที่นั่งพักผ่อน พร้อมสวนเล็กๆให้ลูกบ้านมานั่งผ่อนคลาย ซึ่งตรงนี้จะเห็นพื้นที่สีเขียวที่ชั้น 1 ต่อเนื่องกันด้วย ความน่าสนใจด้านบนฝ้าเพดานมีการ Cladding ด้วยวัสดุที่สะท้อนมุมมองได้ เหมือนกับเราจะเห็นมุมมองจากสวนจากชั้นนี้ และสวนด้านล่างเพิ่มขึ้นได้ด้วย

ขยับกันมาที่ชั้น 24-25 จะเป็นชั้นของส่วนกลางหลักๆ ทั้งหมด ซึ่งการจัดส่วนการเอาไว้ชั้นสูงๆ แน่นอนว่าจะต้องได้เรื่องของวิวมุมสูงที่สวยงาม บรรยากาศดี และอีกหนึ่งข้อดีคือแม้เราจะไม่ได้อยู่ห้องชั้นบนๆ แต่เราก็ยังสามารถเห็นวิวมุมสูงของโครงการได้ จากพื้นที่ส่วนกลาง

ชั้น 24 : ส่วนกลางชั้นนี้เน้นเป็น พื้นที่รองรับการทำงานและการพักผ่อน มีทั้ง THE STUDY LOUNGE และ THE SOCIAL LOUNGE พื้นที่นั่งทำงานร่วมกัน นอกจากนั้นยังมีห้องประชุม THE EXECUTIVE ROOM 1 AND 2 ที่สามารถเปิดรวมพื้นที่ร่วมกันได้ รองรับการจัดประชุมกลุ่มใหญ่ ได้เลย สำหรับพื้นที่พักผ่อนก็จะมี THE RELAXING LOUNGE และมีห้อง THE ENTERTAINMENT ROOM ที่ภายในสามารถมานั่งดูหนัง หรือสังสรรค์กันได้ โดนห้องนี้ ออกแบบมาให้เก็บเสียงได้ด้วย ไม่ต้องกลัวจะรบกวนยังลูกบ้านคนอื่นๆเลยค่ะ

THE STUDY LOUNGE เป็นห้องที่สามารถนั่งทำงาน หรือนั่งพักผ่อนชิลๆได้ ภายในจะเอาไว้ทั้งโต๊ะทำงานแบบกลุ่มและชุดโซฟาขนาดใหญ่ และที่สำคัญด้านข้างมีการ กั้นแยกเป็นห้องทำงานส่วนตัวเล็ก แยกไว้ 3 ห้อง จะประชุมออนไลน์ หรือทำงานที่ต้อง Focus หน่อยก็สะดวกค่ะ

THE RELAXING LOUNGE เป็นห้องรับรองขนาดใหญ่ ภายในตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ที่สำคัญห้องนี้จะอยู่ติดกับสวน ทำให้ได้ บรรยากาศที่ร่มรื่นผ่อนคลาย มองออกไปเห็นวิวมุมสูงไปด้วยพร้อมกัน

POCKET GARDEN สวนรับวิวมุมสูงที่ให้เราออกมา สูดอากาศนั่งชมวิวชิลๆกันได้ บริเวณนี้มีการจัดเป็นสวน และพื้นที่นั่งเล่นไว้ให้ครบเลย

THE SOCIAL LOUNGE เป็นห้องรับรองที่มีความ Private ขึ้นมาอีกหน่อยมีการกั้นผนังแยกโซนตากส่วนอื่นเล็กน้อย เป็นห้องมุมอาคารพอดี จึงเทควิวได้กว้าง ภายในมีการจัดเป็นที่นั่งไว้หลายรูปแบบ จะมานั่งเล่นพักผ่อนหรือมานั่งพูดคุยธุระต่างๆก็เหมาะเลยค่ะ

ชั้น 25 : เป็นชั้นส่วนกลางที่รองรับการออกกำลังกายไว้ เต็ม Floor เลยค่ะ ทั้งสระว่ายน้ำ THE LUMINA POOL  ห้องออกกำลังกาย THE ACTIVE CLUB ขนาดใหญ่ ห้องน้ำแยกชายหญิงที่ภายในมี INFRARED SAUNA ซึ่งจะเป็นระบบที่มีความชื้นในอากาศน้อยกว่าดีต่อร่างกายมากกว่าระบบทั่วไป รวมถึงมีสวน ให้ออกไปสูดอากาศกันได้ด้วยเช่นกัน

THE LUMINA POOL สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 4.5×25 เมตร ใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริงจังโดยสระจะมีทั้งส่วนที่เป็น Outdoor เปิดโล่งและก็โซน Semi Outdoor แบบกึ่งกลางแจ้งที่สามารถใช้งานช่วงเวลากลางวันหรือไม่โดนฝนได้ นอกจากนั้นยังมีการดีไซน์ผนังและฝ้าเพดานที่โดดเด่นมากทั้งรูปทรง และ Lighting เส้นสาย Free form โฉบเฉี่ยวดูหรูหราสวยงาม

นอกจากนั้นที่น่าสนใจคือ สระที่นี่ใช้เป็นระบบโอโซน ที่สามารถบำบัดน้ำ กำจัดเชื้อโรคได้เร็ว การระคายเคืองเวลาว่ายน้ำน้อยกว่าพวกคลอรีนหรือระบบเกลือ แถมระบบน้ำดีของที่นี่ใช้ระบบ HYDRO SMART /Water system ทั้งในห้องพัก และส่วนกลาง เพื่อลดการเกิดตะกอน หรือตะกรันซึ่งจะเป็นคราบขาวติดอุปกรณ์ในห้องน้ำ ทำให้เพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำ

ชั้น 32 และ ดาดฟ้า : POCKET GARDEN & SANSIRI BACKYARD เป็น 2 ชั้นบนสุดของอาคารนี้ ที่จะเป็นส่วน Service ต่างๆ ของอาคาร และพื้นที่สวน ซึ่งจากแปลนจะเห็นได้ว่ามีการออกแบบด้วยเส้นสายโค้งเว้า เหมือนกันกับสวนอื่นๆ ดูเป็นเรื่องราวเดียวกันดี ในช่วงแดดร่มๆ ตอนเช้า หรือช่วงเย็นพระอาทิตย์ใกล้ตก มานั่งเล่น ชมวิวเมืองสวยๆกันได้ค่ะ

ชั้นพักอาศัย

SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 เป็นต้นไป รูปแบบห้องที่นี่กว่า 90% จะเป็น ห้อง loft ฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร ที่ชั้น 3-22 ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 10% จะเป็นห้อง simplex ที่ฝ้าเพดาน สูง 2.7 เมตร ที่ชั้น 23-24 และ 26-31 ซึ่งจะได้วิวที่สูงกว่า

การวางผัง จัดให้โถงลิฟต์อยู่ตรงกลางอาคาร ที่ออกแบบมาให้มีทางเข้าออก 2 ทาง ทำให้ไม่มีห้องไหนที่เดินไกลจนเกินไป โถงทางเดิน single corridor คือไม่มีห้องฝั่งตรงข้าม เปิดประตูมาไม่ต้องเจอกับเพื่อนบ้าน ได้ความเป็นส่วนตัว แต่ก็แลกมากับทางเดินจะไม่มีหน้าต่างเปิดรับแสงหรือระบายอากาศ ต้องอาศัยการเปิดไฟอย่างเดียว และทุกชั้นจะมี mail box เป็นของตัวเอง สะดวกตอนรับจดหมาย ไม่ต้องลงไปชั้น 1 และเป็น mail box ไซส์ใหญ่พอให้แขวนเสื้อผ้า หรือ พัสดุไซส์กลางได้

สำหรับการจัดห้องพักอาศัยโซน Loft มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

• สีเขียว : 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่โฉนด 28.50 – 28.75 ตร.ม. เป็นห้องไซส์เริ่มต้นของโครงการ ที่จะเทควิว ทิศใต้ทั้งหมด ซึ่งวิวทิศนี้จะใกล้กับอาคาร Spring tower 13.2 เมตร ทั้งหมด ดังนั้นห้องทิศนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้เน้นวิวมากนักนะคะ
• สีฟ้า : 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่โฉนด 34.25 – 35.50 ตร.ม.  เป็นห้องที่ ฟังก์ชัน คล้ายกันกับแบบเริ่มต้น แต่ห้องจะมีขนาดใหญ่กว่า อยู่สบาย ห้องนี้มีให้เลือกทั้งทิศ ตะวันตกและทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่ค่อนข้างโล่ง ไม่มีอาคารในระยะประชิดค่ะ
• สีเหลือง : 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่โฉนด 41.75 – 46.75 ตร.ม.ห้องไซส์ใหญ่ที่ส่วนใหญ่จะเป็นห้องมุมที่ได้กระจกเข้ามุม เทควิวได้กว้าง มีให้เลือกทั้งฝั่งทิศตะวันตกที่ได้วิวค่อนข้างโล่ง และฝั่งทิศตะวันออกซึ่งติดกับถนนพญาไท ตรงข้ามเป็นคอนโดสูงห่างออกไปประมาณ 100 เมตร ไม่ได้ประชิดมากนัก แต่ชั้นล่างๆ อาจจะใกล้กับแนวรถไฟฟ้าสักหน่อยค่ะ

ส่วนห้องพักอาศัยที่เป็นแบบ Simplex โครงการจะวางไว้ชั้นบนๆ ตั้งแต่ชั้น 23 เป็นต้นไป ที่น่าสนใจคือ ชั้น 24 ที่จะมีแค่ 3 ห้อง และสามารถเชื่อมโยงกับส่วนกลางที่เป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อนที่ชั้นนี้ได้ใกล้ๆเลย ส่วนห้องไซส์ใหญ่สุดอย่างห้อง 3 bedroom (สีครีม) จะมีเพียงแค่ 3 ห้องในโครงการ ที่จะรวมอยู่ที่ชั้น 31 ชั้นเดียวเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• ชั้น 1 : THE GALLERIA LOBBY / GRAB AND GO / PUBLIC W.C. / GROUND GARDEN & OUTDOOR RECREATION AREA
• ชั้น 2 : LAUNDRY
• ชั้น 3 : THE REFLECTION AMPHITHEATER
• ชั้น 24 : THE RELAXING LOUNGE / THE SOCIAL LOUNGE / THE STUDY LOUNGE / THE EXECUTIVE ROOM 1 AND 2 / THE ENTERTAINMENT ROOM / POCKET GARDEN
• ชั้น 25 : THE LUMINA POOL & SKY GARDEN / THE ACTIVE CLUB / PUBLIC W.C. / INFRARED SAUNA
• ชั้น 32 และ ดาดฟ้า : POCKET GARDEN & SANSIRI BACKYARD
• สวนหย่อมที่ชั้น 1, 3, 23, 24, 25 , 30, 32 และ ดาดฟ้า
• สระว่ายน้ำระบบ โอโซน ขนาด 4.5×25 เมตร
• Wifi Internet ทุกพื้นที่ส่วนกลางในอาคาร
• ห้องออกกำลังกาย
• ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 127.7 : 1
• Service Lift 1 ตัว
• ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV
• Concierge Service ทุกวันตั้งแต่ 8.00-20.00 น. : บริการซักรีด / เรียกทำความสะอาดห้อง / นำพัสดุมาส่งที่ Mailbox ส่วนตัวที่มีแยกทุกชั้นพักอาศัย / จองงานจัดเลี้ยงต่างๆ เป็นต้น
• ที่จอดรถประมาณ 222 คันคิดเป็น 58% แบ่งเป็นที่จอดแบบปกติ 6 คัน และ Auto Parking 216 คัน (รองรับรถ Sedan / SUV / Supercar บางรุ่น / รถ Toyota Alphard และ Toyota Vellfire)
• EV CHARGER ทั้งแบบ AC / DC
  – DC Fast charge อยู่ที่ชั้น 1 จำนวน 2 Slot ชาร์จไฟได้สูง 120 kW
  – AC หรือกระแสสลับ 7kW อยู่ใน Auto parkingโดยใช้ Power Plug เสียบชาร์จกับฐาน Plate ที่จอดรถได้เลย (หากคันไหนชาร์จเต็มแล้ว จะสลับคันตามคิวมาชาร์จต่อได้เลยอัตโนมัติ)
• ระบบน้ำดี + HYDRO SMART / Water system ในห้องพัก และส่วนกลาง เพื่อลดการเกิดตะกอน หรือตะกรันซึ่งจะเป็นคราบขาวติดอุปกรณ์ในห้องน้ำ ทำให้เพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำ

SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) เป็นคอนโดที่โปรดักส์ส่วนใหญ่กว่า 90% เน้นเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร ดูโปร่งโล่ง นอกจากนั้นอีกหนึ่งข้อดีสำหรับห้องฝ้าเพดานสูง คือเวลาจ่ายค่าส่วนกลาง จ่ายเฉพาะพื้นที่ชั้นล่างตามโฉนดเท่านั้นอีกด้วย

โดยห้องฝ้าเพดานสูง (LOFT) จะอยู่ตั้งแต่ชั้น 3-22 ในราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท ส่วนห้องแบบปกติ (Simplex) จะเริ่มที่ชั้น 23 เป็นต้นไป ซึ่งจะได้วิวที่สูงกว่า มีราคาเริ่มต้นที่ 7.6 ล้านบาท ส่วนรูปแบบห้องก็มีตั้งแต่ 1-3 Bedroom เหมาะสำหรับอยู่กัน 1-2 คนได้สบายๆ หรืออยู่กันเป็นครอบครัวเริ่มต้นก็ได้เช่นกันค่ะ

Loft : ชั้น 3-22

– 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่โฉนด 28.50 – 28.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 40.75 – 41.25 ตร.ม.
– 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่โฉนด 34.25 – 35.50 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 49.00 – 50.50 ตร.ม.
– 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่โฉนด 41.75 – 46.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 62.75 – 75.75 ตร.ม.

Simplex : ชั้น 23-24 และ 26-31

– 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 31.25 – 57.25 ตร.ม.
– 2 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 60.00 ตร.ม.
– 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 70.25 – 89.50 ตร.ม.
– 3 Bedroom 3 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 97.00 – 117.25 ตร.ม.

วัสดุภายในห้อง

รูปแบบการขายของที่นี่เป็นแบบ Fully Fitted ที่ได้ชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ ตู้เก็บรองเท้า ตู้เสื้อผ้า ชั้นเก็บของใต้บันได และแอร์ฝังฝ้า ค่อนข้างครบเลยค่ะ นอกจากนั้นยังมี Option Furniture Package จาก DMHOME ไซส์เริ่มต้น 260,000 บาทขึ้นไป (รายละเอียดต่างๆโปรดสอบถามโครงการอีกครั้ง*) ส่วนวัสดุต่างๆ ภายในห้องสรุปได้ดังนี้

• Digital Door Lock 5 ระบบ จาก Philips
• ระยะฝ้าเพดาน 4.5 ม.ในแบบห้องฝ้าเพดานสูง (Loft) โดยชั้นลอยฝ้าสูง 2.25 ม. ส่วนห้องนอนชั้นล่างฝ้าสูง 2.20 ม. / แบบห้องปกติ (Simplex) ระยะฝ้าเพดาน 2.7 ม.
• พื้นห้อง Engineering Wood 14 mm. หน้ากว้าง 5 นิ้ว
• พื้นครัว – กระเบื้องพอร์ซเลน
• พื้นระเบียง – กระเบื้องเซรามิก
• ฉาบเรียบทาสี
• แอร์ฝังฝ้า (Concealed Type)
  – ห้อง Loft > Living : 4 way cassette / Bedroom : 1 way cassette
  – ห้อง Simplex > Living : Conceal type / Bedroom : 1 way cassette
• ชุดครัว Top & Backsplash กระเบื้องลายหินอ่อนแผ่นใหญ่ / หน้าบานลามิเนตผิวซาติน (เคาน์เตอร์ล่าง) และกระจกลอน Ribbed Glass (ชั้นเก็บของด้านบน) / เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ดูดควัน และไมโครเวฟ Built-in จาก Smeg / อ่างล้างจาน Franke
• ตู้เก็บรองเท้า Built-in ด้านใน Fitting HAFELE
• ตู้เสื้อผ้า Built-in ด้านในมีตู้เซฟ (ให้เฉพาะ Master Bedroom ที่ชั้นลอยของห้อง Loft )
• ห้องเก็บของใต้บันได Built-in เป็นชั้นเก็บไว้ให้
• ห้องน้ำสุขภัณฑ์ TOTO Washlet และ KOHLER
• ปลั๊กและสวิตช์ ART DNA
• วงกบกรอบบานอะลูมิเนียม จาก Reynaers Aluminium แบรนด์ชั้นนำจากประเทศเบลเยียม พร้อมกระจก Insulated + Low-E กระจก 3 ชั้น แบบมี Gap อากาศตรงกลาง มีคุณสมบัติกันความร้อนจากรังสี UV กันเสียง กันละอองน้ำได้ดี

1 Bedroom 1 Bathroom  (Loft)

1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่โฉนด 34.25 – 35.50 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 49.00 – 50.50 ตร.ม. เป็นห้องขนาดเริ่มต้นที่จัดฟังก์ชันมาได้ลงตัวสามารถอยู่อาศัย 1 – 2 คนได้สบายๆ สำหรับห้อง Type นี้มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10.6 ล้านบาท ส่วนจุดเด่นจะมีอะไรบ้าง เราขอสรุปดังนี้

• ห้องหน้ากว้าง Lay-out ห้องเป็นทรงจัตุรัส ทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่ง เทควิวได้กว้าง
• ครัวแบบปิด ทำอาหารได้โดยที่กลิ่นไม่ไปรบกวนยังส่วนอื่นๆ ได้เคาน์เตอร์ครัวฝั่งหนึ่ง และได้ตู้เก็บรองเท้า และเก็บของอีกฝั่งหนึ่งมาด้วยครบเลย
• ห้องนั่งเล่น ฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร ดูโอ่โถง พร้อมหน้าต่างกระจกสูง รับแสงธรรมชาติได้ทั่วถึงชั้นลอย
• Bay window จัดวางโต๊ะทำงานริมหน้าต่างได้จริงจัง รองรับการทำงานที่บ้านได้สะดวก
• ชั้นลอย กั้นเป็นห้องนอนชัดเจน ได้ความเป็นส่วนตัวดี พร้อมมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทำให้ดูโปร่งไม่อึดอัด

เริ่มกันที่ประตูทางเข้าห้องกันก่อนเลยค่ะ ในห้องมาตรฐานจะได้เป็นประตูบานทึบขนาด 2.1×0.9 ม. พร้อมมีการทำผนังหลอกด้านบน ยิ่งทำให้ประตูดูสูงใหญ่ มาพร้อม Digital Door Lock 5 ระบบ จาก Philips หน้าตาแบบนี้เลย

เข้าห้องมาจะเจอกับห้องครัวก่อนเลยค่ะ เคาน์เตอร์ครัวอยู่ขวามือ ส่วนซ้ายมือเป็นตู้เก็บรองเท้า โดยระยะหน้าเคาน์เตอร์ ถึงตู้เก็บของเหลือประมาณ 1.7 เมตร กว้างทีเดียว เดินสวนกันได้สบาย โดยครัวเป็นแบบปิดกั้นแยกเป็นสัดส่วน ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 4 ตอน สามารถทำอาหารได้โดยไม่มีกลิ่นไปรบกวนในส่วนอื่นๆ อีกทั้งยังทำให้ได้แสงธรรมชาติเยอะ และดูโปร่งโล่งมากขึ้นอีกด้วย

ผนังขวามือด้านข้างประตูทางเข้าติดตั้งสวิตช์ไฟไว้ใกล้ๆ เข้าห้องมาเปิดได้สะดวกดี โดยปลั๊กและสวิตช์ ภายในห้องจะเป็นแบบเรียบๆ ดูโมเดิร์นจาก ART DNA

เคาน์เตอร์ครัวกว้าง 1.8 เมตร ได้ทั้งตู้ด้านบน และล่าง แบบในรูปเลย โดย Top และ Backsplash ครัวเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนแผ่นใหญ่สวยงาม ทนความชื้นได้ดี ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนพื้นก็ใช้เป็นกระเบื้องพอร์ซเลน เหมาะกับห้องครัวดูแลทำความสะอาดได้ง่าย

เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง มีพื้นที่เก็บของและลิ้นชักต่างๆ โดยใต้อ่างจะมีส่วนถังขยะติดกับฝาบาน เปิดหน้าบานออกก็มีการเลื่อนตัวถังขยะออกมาด้วย ง่ายต่อการใช้งาน พร้อม Built-in ไมโครเวฟมาให้ด้วยช่วยประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ไปได้เยอะ

ด้านบนเป็นตู้เก็บของมีหลายช่อง แบ่งเก็บของได้ค่อนข้างหลากหลาย หน้าบานปิดทั้งหมดดูเรียบร้อยดี แต่เวลาจะใช้งานหยิบซอสต่างๆ จะต้องเปิดบ่อยหน่อยค่ะ โดยวัสดุหน้าบานเป็นกระจกลอนสวยงาม ดูโปร่ง พร้อมติดตั้ง Solf-Close เวลาเปิดปิดเสียงไม่ดัง

ส่วนอุปกรณ์ครัวจะได้อ่างล้างจานจาก Franke ส่วนเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ดูดควัน และไมโครเวฟ Built-in จาก Smeg นอกจากนั้นยังมีการออกแบบให้มีช่องสำหรับใส่ทิชชู ด้านบนอ่างล้างจานมาให้ด้วย ใช้งานได้สะดวก  ไม่ต้องกลัวเปียก แถมยังประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์ได้ดีค่ะ

มาดูฝั่งตู้เก็บรองเท้ากันบ้าง ทางโครงการ Built-in มาแบบเต็มผนังเลย เป็นตู้รองเท้าบานเปิดคู่ หน้าบานเป็นกระจก ยืนส่องก่อนออกจากบ้านได้สะดวกเลย ภายในเป็นชั้นวางรองเท้าที่เขาดีไซน์มาให้หมุนได้ ทำให้วางรองเท้าได้ 2 ฝั่ง เก็บได้เยอะ และหาได้ง่ายเลยค่ะ นอกจากภายในยังยังมีช่องเก็บของช่องยาวๆ ที่สามารถเก็บพวก ไม้กวาด เครื่องดูดฝุ่น หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดต่างๆ ได้พอดีเลยด้วย

ด้านข้างเว้นช่องสำหรับติดตั้งตู้เย็นขนาดกว้าง 75 ซม. ซึ่งเวลาวางตู้เย็นแล้วจะล้ำออกมาตัวตู้เล็กน้อย ส่วนด้านบนตู้เย็นก็มีชั้นเก็บของมาให้ด้วย เหมาะสำหรับเก็บอาหารแห้งต่างได้สะดวกค่ะ

ถัดมากันที่ส่วนห้องนั่งเล่นกันบ้าง ส่วนนี้ฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร ดูโอ่โถง สำหรับ Space ตรงนี้เรามองว่าเป็นสัดส่วนที่ดูโปร่งดีค่ะ ไม่รู้สึกว่าสูงชะลูดเกินไป อีกทั้งยังติดโคมระย้าสวยๆ เพิ่มความน่าสนใจให้กับห้องของเราได้ด้วยค่ะ มาพร้อมหน้าต่างกระจกสูงบานใหญ่ ได้แสงธรรมชาติทั่วทั้งห้อง แถมเทควิวได้กว้างเลยนะ

พูดถึงหน้าต่างกันสักหน่อย โดยหน้าต่างทั้งของในห้อง และในโครงการใช้เป็นวงกบกรอบบานอะลูมิเนียม จาก Reynaers Aluminium แบรนด์ชั้นนำจากประเทศเบลเยียม พร้อมกระจก Insulated + Low-E กระจก 3 ชั้น แบบมี Gap อากาศตรงกลาง มีคุณสมบัติกันความร้อนจากรังสี UV กันเสียง กันละอองน้ำได้ดี Reflect ความร้อนได้ถึง 67 % เลยค่ะ

พื้นที่ตรงนี้มีขนาดหน้ากว้าง 4.7 เมตร ลึก 3 เมตร สามารถจัดเป็นโซฟานั่งเล่น +โต๊ะทานอาหาร + โต๊ะทำงานริมหน้าต่างได้ในตัว เหลือทางเดินโดยรอบสบายๆ

ในห้องตัวอย่างพื้นที่ส่วนแรกจัดวางเป็นโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลาง แบบมีทางเดินเหลือด้านหน้ากว้างเลย โดยระยะโซฟาตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-60 นิ้วได้ค่ะ

Bay window เป็นพื้นที่ริมหน้าต่าง กว้างประมาณ 2.5 เมตร ลึก 1.1 เมตร จัดวางโต๊ะทำงานจริงจังได้เลย รองรับการทำงานที่บ้านได้สะดวก ได้บรรยากาศดีทีเดียวเลยค่ะ

มองกลับเข้ามาจะเห็นได้ว่า Space ส่วนนี้เชื่อมต่อกับชั้นลอยด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ที่ภายในห้องมาตรฐานจริงจะได้บานสูงกว่าห้องตัวอย่างอีก 10 ซม. ถึงฝ้าเลยด้วยค่ะ ช่วยให้ห้องดูโปร่งดีเลยค่ะ สำหรับห้องนี้จะใช้พื้น Engineer Wood ซึ่งถือว่าให้มาดี มีความทนทานสูง เกิดรอยขีดข่วนได้ยาก ส่วนผนังฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

ส่วนแอร์ที่ได้จะเป็นแบบฝังฝ้า (Concealed Type) ที่มีคุณสมบัติกรอง PM 1.0 กำจัดไวรัสแบคทีเรีย ลดสารก่อภูมิแพ้ได้ในตัว และคอนโทรลผ่าน Application ได้ จาก Samsung เลย โดยส่วนฝ้าเพดานสูงจะได้แบบ 4 way กระจายลม 4 ทิศทาง ส่วนในห้องนอนจะได้เป็นแบบ 1 way มานะคะ

ถัดจากโซฟานั่งเล่นจัดเป็น โต๊ะทานอาหารวางชิดกันสักหน่อย ใช้เป็นโต๊ะวงรี 2 ที่นั่ง ดูสวยงามแปลกตา ใช้เป็นไอเดียในการตกแต่งห้องได้ค่ะ โดยจากพื้นที่ตรงนี้ซ้ายมือจะเชื่อมต่อไปยังระเบียง ขวามือเป็นห้องน้ำนะคะ

หากเราจัดโต๊ะทานอาหารแบบนี้จะเหลือพื้นที่โดยรอบกว้างเลย เดินผ่านไปมาได้สะดวก ตรงนี้เราสามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะ 4 ที่นั่ง เผื่อเวลามีแขกมาร่วมทานอาหารด้วยก็ยังได้ค่ะ

ระเบียงขนาด 1.8×1.1  เมตร ใช้ออกมายืนชมวิว หรือสูดอากาศด้านนอกกันได้ หรือจะตากผ้าก็เพียงพอสำหรับเสื้อผ้า 1-2 คนค่ะ โดยเป็นพื้นกระเบื้องกระเบื้องเซรามิก ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมราวกันตกกระจก สวยงาม ไม่บดบังวิว

พื้นที่ระเบียงส่วนหนึ่งทางโครงการออกแบบ เป็นระแนงบังสายตาที่เปิดปิดได้ ด้านในมีขนาด 1.2×1.1 เมตร วางเครื่องซักผ้า อบผ้าได้สบาย ส่วนด้านบนแขวน Condensing units ซึ่งการดีไซน์ออกมาเป็นแบบนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ แถมยังทำให้ตัวอาคารดูเรียบร้อยเมื่อมองจากภายนอกด้วยค่ะ

ส่วนของห้องน้ำก็จะมีขอบธรณีประตูสูงจากพื้นเล็กน้อยเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลออกมายังส่วนอื่นๆ ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน การจัดวางฟังก์ชันเป็นแนวยาวเรียงลำดับการใช้งาน อ่างล้างมือ, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำพร้อมฉากกั้นกระจก เป็นตำแหน่งที่ใช้งานง่ายดี

ความน่าสนใจคือห้องนี้ออกแบบเป็น Mirror on Mirror เป็นกระจกเต็มผนังชุดหนึ่ง เพื่อให้ห้องดูกว้าง และมี Smart Mirror อีกชุดที่เปิดให้แสงสว่าง และกดไล่ฝ้าได้ในตัว พร้อมช่องเสียบปลั๊กด้านข้างครบ สะดวกเวลาแต่งหน้า ทำผมดีค่ะ

อ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังในเคาน์เตอร์ ด้านล่างออกแบบเป็นลิ้นชักเก็บของที่มีช่องมาให้ด้วย เก็บของได้เยอะ ดูเรียบร้อย ส่วนสุขภัณฑ์ TOTO Washlet พร้อมรีโมตด้านข้างใช้งานได้สะดวกสบาย

ด้านในสุดเป็นห้องอาบน้ำขนาด 1×1.4 เมตร อาบน้ำหมุนตัวสบาย โดย Fitting ต่างๆ ของส่วนนี้จะใช้เป็นสีดำ ตัดกับพื้น และผนังที่ใช้โทนสีสว่างดูน่าสนใจ ที่อาบน้ำได้แบบ Rain Shower และ Hand shower พร้อมติดตั้ง ฉากกระจกกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ภายในห้องน้ำอาจจะต้องติดตั้งชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำเพิ่มเติมสักหน่อยนะคะ เพื่อความสะดวกยิ่งขึ้น

บันไดภายในห้องเป็นแบบทึบ ส่วนบันไดมีขนาดกว้าง 1 เมตร บันไดช่วงแรกจะเป็นสามเหลี่ยมก่อน โดยแต่ละขั้นค่อนข้างลึก เดินได้ไม่ยาก ในห้องมาตรฐานบันไดจะปิดผิวด้วย  Engineering Wood สีเดียวกับพื้น ส่วนราวกันตกใช้เป็นกระจกดูโปร่ง แบบนี้เลย

บันไดมีการออกแบบพื้นที่ใต้บันไดเป็นพื้นที่เก็บของที่มีบานทึบปิดดูเรียบร้อย ด้านใน Built-in เป็นชั้นวางของมาให้ด้วยแบบนี้เลย พร้อมทั้งมีช่องที่ติดตั้งราวแขวนเสื้อผ้ามาให้ด้วย ถือเป็นการใช้พื้นที่บันไดได้อย่างคุ้มค่าเลยค่ะ

เมื่อขึ้นมาแล้วส่วนแรกจะเป็นโถงเล็กๆ  ขนาด 1×1.3 เมตร ที่เราสามารถจัดวางโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ พร้อมเก้าอี้สตูลแบบในห้องตัวนี้ได้เลยค่ะ

ห้องนอนมีขนาด 4×2.6 เมตร ภายในห้องวางเตียง 6 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้สบาย โดยด้านข้างเตียงเหลืองประมาณ 1 เมตร ส่วนปลายเตียงเหลือประมาณ 40 ซม. พอดีๆค่ะ

แอร์ที่ได้ในชั้นลอย เป็นแอร์ฝังฝ้า (Concealed Type) แบบ 1 way จาก Samsung หน้าตาแบบนี้เลยค่ะ

ปลายเตียงเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ทำให้ดูไม่อึดอัดเลย แถมมีช่องหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 2 จุด เปิดระบายอากาศได้ค่ะ สำหรับห้องนี้ระยะฝ้าเพดานจะอยู่ที่ 2.25 เมตร

ตู้เสื้อผ้าเราจะได้แบบนี้เลยค่ะ ขนาดกว้าง 1.65 เมตร เต็มผนัง พร้อมชั้นวางของโปร่งๆด้านข้างแบบนี้เลยด้วย

ตู้เป็นแบบบานเปิด 4 ตอน หน้าบานเป็นกระจกใช้แต่งตัวได้สะดวก ภายในตู้เสื้อผ้าจะมีลิ้นชักสำหรับชุดชั้นใน ราวแขวนกางเกง และช่องเก็บกระเป๋าเดินทางได้เลย เป็นสัดส่วนดีค่ะ

ที่พิเศษคือภายในตู้ มีเซฟซ่อนไว้ในตัว ไซส์ประมาณ A4 ใส่พวกเครื่องประดับ นาฬิกาต่างๆ ได้เลยค่ะ โดยตู้นี้จะให้เฉพาะ Master Bedroom ที่ชั้นลอยของห้อง Loft เท่านั้นนะคะ

2 Bedroom 2 Bathroom (Loft)

2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่โฉนด 41.75 – 46.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 62.75 – 75.75 ตร.ม. เป็นห้อง Loft ไซส์ใหญ่ที่มีราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท ฟังก์ชันจัดให้มี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ใช้งานได้สะดวก เหมาะสำหรับอยู่อาศัย 2-3 คน หรืออยู่กันเป็นพ่อแม่ลูกได้สบาย ส่วนจุดที่น่าสนใจของห้องนี้จะมีอะไรบ้าง สรุปได้ดังนี้

• ห้องมุมหน้ากว้าง ส่วนพักผ่อนหลักๆ อย่างห้องนั่งเล่น ห้องนอนติดกับหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ได้แสงธรรมชาติ เทควิวได้กว้าง อีกทั้งได้ความเป็นส่วนตัวดี เพราะเป็นห้องมุมติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียว
• ห้องนั่งเล่น ฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร ดูโอ่โถง พร้อมหน้าต่างกระจกสูง รับแสงธรรมชาติได้ทั่วห้อง
• ครัวเปิด อยู่บริเวณเดียวกับห้องนั่งเล่น ข้อดีคือทำให้ห้องดุโปร่ง แต่จะเหมาะสำหรับครอบครัวที่ไม่ได้ทำอาหารเป็นประจำ ใช้อุ่น หรือทำอาหารเบาๆเป็นหลัก
• Bay window จัดวางโต๊ะทำงานริมหน้าต่างได้จริงจัง รองรับการทำงานที่บ้านได้สะดวก
• 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ สะดวกในช่วงเวลาเร่งด่วน มีห้องน้ำให้ใช้เพียงพอ
• ห้องน้ำชั้นล่างแบบ Double access คือมี 2 ประตูเข้าได้ทั้งจากส่วนห้องนั่งเล่น และจากห้องนอนชั้นล่างเลย เข้าถึงได้สะดวกทั้งสองส่วน
• ชั้นลอย กั้นเป็นห้องนอนใหญ่ และห้องน้ำ ใช้งานได้สะดวกสามารถอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยได้ใกล้ๆ ใช้งานได้สะดวก

เมื่อเข้าห้องมาส่วนแรกเราจะเจอกับโถงทางเดินแจกตรงไปยังห้องนั่งเล่น โดยซ้ายมือส่วนแรกเข้าจะทำเป็นตู้รองเท้าซ่อนในผนังไว้ให้ ถัดไปจะเป็นโถงบันไดขึ้นไปชั้นลอย ซึ่งการจัดตำแหน่งบันไดไว้ตรงนี้ทำให้ใช้งานได้สะดวกดี เวลารีบๆแต่งตัวเสร็จ ก็หยิบรองเท้าออกจากห้องได้ง่ายดีไม่ต้องเดินไกล

ตู้เก็บรองเท้าในห้องนี้ได้แบบซ่อนในผนัง ชั้นวางรองเท้าด้านในหมุนได้ วางรองเท้าได้ 2 ฝั่งแบบเดียวกับห้องก่อนหน้าเลย ส่วนหน้าบานก็เป็นกระจก ยืนส่องเช็กความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านได้สะดวก

เข้ามาส่วนนั่งเล่น ออกแบบเป็นห้องฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร สามารถติดโคมระย้าสวยๆบ่งบอกตัวตนของเจ้าของห้องเพิ่มเติมได้เลย มาพร้อมหน้าต่างกระจกสูงบานใหญ่ ได้ทั้งแสงธรรมชาติ และวิวเลยค่ะ

ห้องนี้มีขนาดประมาณ 3×4.3 เมตร ในห้องตัวอย่างจัดเป็นโซฟาขนาดใหญ่ พร้อม Armchair และโต๊ะกลาง ที่รองรับได้ 5-6 คนเลยค่ะ ตรงนี้เราสามารถจัดเป็นโซฟาไซส์ 3 ที่นั่ง แล้ววางโต๊ะทานอาหาร 4 ที่นั่งด้านหลังโซฟาได้ด้วยเช่นกัน แต่ต้องวางชิดกันสักหน่อยค่ะ

มองกลับมาในห้องด้านบนจะเห็นได้ว่าเขาใช้ผนังกระจกกั้นชั้นลอยทั้งหมดเลย ทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด และยังช่วงให้แสงส่องไปยังส่วนต่างๆได้เยอะดีเลยค่ะ

ผนังฝั่งนี้เขาจะเว้นผนังเข้าไปประมาณ 30 ซม. เพื่อให้ Built in เป็นชั้นวางทีวี และชั้นเก็บของในผนังเพิ่มเติมได้ หรือเราจะทำเป็นผนังซ่อนที่สามารถเลื่อนเปิด ปิดเหมือนในห้องตัวอย่างก็ดูเรียบร้อยดีค่ะ

ครัวที่ได้ในห้องนี้จะเป็นครัวแบบเปิด อยู่บริเวณเดียวกับห้องนั่งเล่น ข้อดีคือทำให้ห้องดุโปร่ง แต่จะเหมาะสำหรับครอบครัวที่ไม่ได้ทำอาหารเป็นประจำ ใช้อุ่น หรือทำอาหารเบาๆเป็นหลัก โดยเคาน์เตอร์ครัวมีขนาดกว้าง 1.7 เมตร ค่อนข้างกว้างเลย โดยเราได้ทั้งตู้ด้านบน และล่าง ส่วนวัสดุต่างๆ เหมือนกันกับห้องก่อนหน้าค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวด้านบนมีพื้นที่เตรียมอาหารได้เยอะ ส่วนวัสดุ และอุปกรณ์ครัวต่างๆ เหมือนกันกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

ระเบียงห้องนี้มีขนาด 1.95×1 เมตร ตากผ้าได้เยอะ ด้านข้างเป็นระแนงบังสายตาที่เปิดปิดได้เช่นเดียวกัน ด้านในมีขนาด 1×1.2 เมตร วางเครื่องซักผ้า อบผ้าได้สบาย ส่วนด้านบนจะแขวน Condensing units ดูเรียบร้อยเป็นสัดส่วนเลยค่ะ

ถัดเข้ามาโซนด้านใน จะเป็นห้องนอนชั้นล่าง ซึ่งกั้นแยกจากส่วนห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ให้ห้องตัวอย่างจัดเป็นห้องทานอาหารให้ดูเป็นตัวอย่างดูเชื่อมโยงกับพื้นที่นั่งเล่นได้ดีเลย แต่หากจะจัดเป็นห้องนอนแนะนำให้ติดม่านบังสายตา เหลือ Sticker ขุ่นด้านในเพิ่ม เพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ

บริเวณหน้าห้องนอนตรงนี้จะมีพื้นที่ Bay window เล็กๆที่วางชั้นเก็บของโชว์ของโปร่งเพิ่มเติมได้ หรือจะวางเป็นโต๊ะทำงานได้เช่นกัน โดยพื้นที่ตรงนี้มีขนาดกว้าง 1.2 เมตร ลึกประมาณ 1 เมตร พอดีค่ะ

ห้องนอนชั้นล่างมีขนาด 3.6×2.5 เมตร ในห้องตัวอย่างทำเป็นห้องทานอาหารรองรับได้ 4 ที่นั่งวางกลางห้องได้สบาย ตรงนี้จะเปลี่ยนเป็นโต๊ะ 6 ที่นั่งก็ยังได้ค่ะ แต่สำหรับใครจะจัดเป็นห้องนอน ห้องนี้ก็สามารถวางเตียง 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้สบายค่ะ

ภายในห้องจะได้บานกระจก 2 ด้าน ทั้งจากห้องนั่งเล่น และจากผนังภายนอก ทำให้เปิดรับลม ระบายอากาศได้ดี แถมยังทำให้ห้องดูโปร่งเลย

บริเวณหน้าห้องน้ำจะเป็นโถงเล็กๆ หลบมุม เป็นประตูห้องน้ำฝั่งขวา และตรงกลางเป็นพื้นที่เก็บของใต้บันได พื้นที่เยอะทีเดียวเก็บของได้เยอะ เก็บพวกกระเป๋าเดินทางได้เลยค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างนี้จะเป็นแบบ Double access คือมี 2 ประตูเข้าได้ทั้งจากส่วนห้องนั่งเล่น และจากห้องนอนชั้นล่างเลย เข้าถึงได้สะดวกทั้งสองส่วนเลยค่ะ ภายในห้องน้ำแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน การจัดวางฟังก์ชันเป็นแนวยาวเรียงลำดับการใช้งาน

สำหรับวัสดุต่างๆเหมือนกันกับห้องก่อนหน้าเลย เพียงแต่โถสุขภัณฑ์ จะเป็นแบบธรรมดา มีเพียงห้องน้ำชั้นลอยที่จะได้ TOTO Washlet ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.15×1.35  เมตร ยืนอาบน้ำหมุนตัวได้สบาย Fitting ต่างๆ ใช้เป็นสีดำทั้งหมดเช่นกัน ที่อาบน้ำได้แบบ Rain Shower และ Hand shower พร้อมติดตั้ง ฉากกระจกกั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย แนะนำให้ติดตั้งชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำเพิ่มเติมเพื่อความสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ

บันไดภายในห้องนี้จะได้เป็นแบบโถงบันไดชัดเจน ขนาบด้วยผนังสองฝั่ง โดยบันไดมีขนาดกว้าง 1 เมตร ตรงยาวเดินได้สะดวก วัสดุปิดผิวเป็นแบบนี้เลยค่ะเข้ากับสีพื้นทีเดียว พร้อมติดตั้งราวกันตกมาให้ด้วยครบเลย

ด้านบนโถงบันได ดีไซน์เป็นช่องแสงกระจกบาน Fixed ใหญ่ ทำให้ยังคงได้แสงธรรมชาติดี ไม่ต้องเปิดไปเวลาใช้งานตอนกลางวันค่ะ

เมื่อขึ้นมาแล้วเจอกับโถงเล็กๆก่อน ซึ่งจะแจกตรงไปยังห้องนอนใหญ่ ส่วนซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ซึ่งอยู่ข้างประตูห้องนอนพอดีใช้งานได้ต่อเนื่องกันเลยค่ะ

บริเวณโถง ตรงข้ามกับประตูห้องน้ำบริเวณนี้จะเหลือที่ว่าง ให้สามารถจัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ พร้อมเก้าอี้สตูลได้เลย โดยตรงนี้จะมีพื้นที่กว้างประมาณ 1 เมตร ลึก 30 ซม. แนะนำให้ Built in เป็นแบบโปร่งๆเหมือนในห้องตัวอย่างเพื่อจะได้ดูไม่อึดอัดค่ะ

สิ่งที่น่าสนใจคือชั้นลอยของห้อง Type นี้มีห้องน้ำด้วยค่ะ เป็นห้องน้ำแบบมีทั้งส่วนแห้งและส่วนอาบน้ำมาด้วย ซึ่งปกติแล้วเราจะไม่ค่อยเห็นห้องน้ำชั้นลอยกันแบบนี้เท่าไรนะคะ ใช้งานได้สะดวกสบายดีเลยค่ะ

โดยห้องน้ำเป็นแบบสำเร็จรูป แต่จะมีการลดระดับพื้นให้ต่ำกว่าพื้นห้องนอนเล็กน้อย เหมาะสมต่อการใช้งาน ป้องกันน้ำไหลมายังส่วนอื่นได้ดี แถมการใช้เป็นห้องน้ำสำเร็จยังช่วยลดปัญหาการรั่วซึมได้ดีเลยด้วยค่ะ สำหรับการจัดฟังก์ชันในห้องน้ำเหมือนกันกับห้องก่อนเลย เพียงแต่จะได้โถสุขภัณฑ์แบบ TOTO Washlet พร้อมรีโมตควบคุมใช้งานได้สะดวกกว่าค่ะ

ห้องนอนใหญ่มีขนาด 3.7×3.6 เมตร ภายในห้องสามารถวางเตียง 5-6 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้า และที่นั่งพักผ่อนปลายเตียงได้สบาย ภายในห้องได้ช่องกระจกหลายด้านดูโปร่ง ทั้งจากด้านข้างที่ปิดรับลมด้านนอกได้เลย และที่ปลายเตียงสามารถเปิดเพื่อ Flow ลมไปยังส่วนนั่งเล่นได้ด้วย

ข้างเตียง บริเวณใกล้กับประตูทางเข้าห้อง จัดวางเป็นตู้เสื้อผ้าไว้ให้ซึ่งใช้งานร่วมกับห้องน้ำหน้าห้องได้สะดวกดีเลย โดยตู้เสื้อผ้าในห้องมาตรฐานเราจะได้แบบเดียวกับห้องก่อนหน้านะคะ เป็นตู้ที่มีบานเปิด 4 ตอน หน้าบานเป็นกระจกภายในตู้มีลิ้นชัก ราวแขวนกางเกง  ช่องเก็บกระเป๋าเดิน และตู้เซฟด้วยในตัวเช่นกันค่ะ

ในห้องตัวอย่างวางเป็นเตียง 5 ฟุต จะมีทางเดินเหลือด้านข้างประมาณ  0.65 เมตร ส่วนปลายเตียงจะเหลือ 1.7 เมตร ซึ่งค่อนข้างกว้างเลยค่ะ

พื้นที่ปลายเตียง เราสามารถเปลี่ยนเป็นวางโต๊ะทำงานโปร่งๆ เพิ่มเติม ได้เลย หรือใครชอบนอนดูทีวี จะวางเป็นชั้นวางทีวีเพิ่มเติมก็ยังได้ แนะนำให้เลือกเป็นแบบโปร่งๆเช่นกัน เพื่อที่จะยังคงได้ความโล่งจากหน้าต่างกระจกอย่างเต็มที่ ส่วนการเลือกใช้ทีวี ด้วยระยะตรงนี้สามารถติดตั้งขนาด 55-60 นิ้วได้ค่ะ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ห้องฝ้าเพดานสูง (Loft)

– 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่โฉนด 28.50 – 28.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 40.75 – 41.25 ตร.ม.
– 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่โฉนด 34.25 – 35.50 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 49.00 – 50.50 ตร.ม.
– 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่โฉนด 41.75 – 46.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 62.75 – 75.75 ตร.ม.
Simplex

ห้องแบบปกติ (Simplex) 

– 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 31.25 – 57.25 ตร.ม.
– 2 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 60.00 ตร.ม.
– 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 70.25 – 89.50 ตร.ม.
– 3 Bedroom 3 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 97.00 – 117.25 ตร.ม.

SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) ราคา ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2566

• Loft
  – 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่โฉนด 28.50 – 28.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 40.75 – 41.25 ตร.ม.
  ราคาเริ่มต้น 8.99 ล้านบาท
  – 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่โฉนด 34.25 – 35.50 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 49.00 – 50.50 ตร.ม.
  ราคาเริ่มต้น 10.6 ล้านบาท
  – 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่โฉนด 41.75 – 46.75 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอย 62.75 – 75.75 ตร.ม.
  ราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท
• Simplex
  – 1 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 31.25 – 57.25 ตร.ม. 
  – 2 Bedroom 1 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 60 ตร.ม. 
  – 2 Bedroom 2 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 70.25 – 89.5 ตร.ม. 
  – 3 Bedroom 3 Bathroom พื้นที่ใช้สอย 97 – 117.25 ตร.ม. 

• รูปแบบการขาย Fully Fitted พร้อมครัว ตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.7 เมตร ในแบบห้องปกติ (Simplex) / 4.5 เมตร ในแบบห้องฝ้าเพดานสูง (Loft)
• Kitchen & Sink / ท็อปกระเบื้องลายหินอ่อนแผ่นใหญ่
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ Smeg
• มี Option Furniture Package ไซส์เริ่มต้น 260,000 บาทขึ้นไป (รายละเอียดต่างๆโปรดสอบถามโครงการอีกครั้ง*)
• ค่ากองทุน 800 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 85 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) ตั้งอยู่บนถนนพญาไทที่เป็นทำเลใจกลางเมืองใกล้กับสยาม ที่มีความหลากหลายสูงมาก ทั้งชุมชนเดิม สถานศึกษา โรงพยาบาล สถานที่ทำงาน และโรงแรมอยู่ในละแวกนี้ จึงเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบายทั้งเรื่องการเดินทาง และการหาอาหารการกิน

การเดินทางโดยใช้รถ : ตั้งอยู่ติดถนนพญาไทฝั่งมุ่งหน้าไปทางอนุสาวรีย์ฯ ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่สามารถวิ่งไปได้ทั้งสามย่าน สีลม ไปถนนพระราม 4 ได้ และไปยังโซนอารีย์ สะพานควาย ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังตัดผ่านถนนสำคัญอีกหลายสาย เช่น ถนนเพชรบุรี ถนนพระราม 1 (เชื่อมต่อกับสุขุมวิท) และตั้งอยู่ไม่ไกลจากทางด่วนศรีรัช และทางพิเศษเฉลิมมหานคร จึงมีตัวเลือกไปได้หลายเส้นทางค่ะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ถือเป็นจุดโดดเด่นหนึ่งของโครงการก็ว่าได้ เพราะใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สองสถานีแบบเดินไปได้สะดวกสบาย คือ BTS ราชเทวี และ BTS พญาไท นอกจากนั้นตรงสถานีพญาไทยังเป็นจุด  interchange หรือเปลี่ยนสายไปยัง Airport Rail Link วิ่งเข้าสนามบินสุวรรณภูมิได้ง่าย นอกจากนี้อนาคตบนถนนเพชรบุรีก็จะมี MRT ตัดผ่าน มีสถานีราชเทวีอยู่ไม่ไกล จะเรียกว่าใกล้กับรถไฟฟ้าหลายสายก็ไม่ผิดค่ะ ส่วนการใช้ระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆก็สะดวกสบาย อย่าง รถประจำทาง วินมอเตอร์ไซค์ หรือจะเรียก Taxi ก็ง่าย และมีท่าเรือ(อยู่ตรงสะพานหัวช้าง) เผื่อใครอยากไปยังผ่านฟ้าเที่ยวพระบรมมหาราชวังก็ไปได้เลยค่ะ

วัสดุ : รูปแบบการขาย Fully Fitted พร้อมครัว  และ ตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า ที่มีการออกแบบให้เหมาะสมต่อการใช้งาน อย่างชั้นวางรองเท้าภายในจะหมุนได้ และเก็บรองเท้าได้สองฝั่งเก็บได้เยอะ ส่วนตู้เสื้อผ้าก็จะมีเซฟด้านในมาให้เลย

สำหรับวัสดุในห้องก็ ถือว่าให้มาดีสมราคา ทั้งพื้น Engineering Wood ส่วนพื้นครัว ห้องน้ำ เป็นกระเบื้องพอร์ซเลน / ประตู หน้าต่างวงกบกรอบบานอะลูมิเนียม จาก Reynaers Aluminium แบรนด์ชั้นนำจากประเทศเบลเยียม พร้อมกระจก Insulated + Low-E กระจก 3 ชั้น กันความร้อนได้ดี / ชุดครัว Top & Backsplash กระเบื้องลายหินอ่อนแผ่นใหญ่  เตาแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ดูดควัน และไมโครเวฟ Built-in จาก Smeg และอ่างล้างจาน Franke / ห้องน้ำสุขภัณฑ์ TOTO Washlet และ KOHLER พร้อม smart mirror เปิดไฟ และไล่ฝ้าได้ในตัว / รวมถึงติดตั้งแอร์ฝังฝ้าแบบ Conceal Type ให้เป็นมาตรฐานด้วยค่ะ

การออกแบบ : รูปแบบห้องที่นี่กว่า 90% จะเป็น ห้อง Loft ฝ้าเพดานสูง 4.5 เมตร ที่ชั้น 3 – 22 ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 10% จะเป็นห้อง simplex ที่ฝ้าเพดาน สูง 2.7 เมตร ที่ชั้น 23 เป็นต้นไป ซึ่งได้วิวที่สูงกว่า ส่วนรูปแบบห้องก็มีตั้งแต่ 1-3 Bedroom เหมาะสำหรับอยู่กัน 1-2 คนได้สบายๆ หรืออยู่กันเป็นครอบครัวเริ่มต้นก็ได้เช่นกันค่ะ

ห้องพักที่นี่การจัดฟังก์ชันลงตัว มีให้เลือกทั้งแบบครัวปิด และเปิด สามารถเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์เลย สำหรับห้อง Loft มีจุดที่น่าสนใจคือ ในห้องจะได้หน้าต่างกระจกสูงถึงฝ้า ได้แสงธรรมชาติทั่วถึง ชั้นลอยมีการกั้นห้องด้วยกระจกมาให้เรียบร้อย ได้ความเป็นส่วนตัวและไม่เปลืองแอร์ โดยห้อง 2 Bedroom 2 Bathroom ไซส์ใหญ่จะได้ห้องน้ำที่ชั้นลอยมาด้วยใช้งานได้สะดวกสบายเลยค่ะ

สาธารณูปโภค : มีให้ใช้งานครบครัน เพียงพอกับจำนวนยูนิตภายในโครงการ เริ่มกันที่ชั้น 1 ส่วนต้อนรับขนาดใหญ่ที่มีการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ และการตกแต่งหลายอย่างจาก Designer ชื่อดังระดับโลก และเสริมความหรูหราด้วยการใส่ chandelier ขนาดใหญ่ และพื้นมีการทำ Pattern ด้วยหินอ่อน Green Verde ที่มีลวดลายสวยงามเพิ่มความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

และไฮไลต์คือส่วนกลางชั้น 24-25 ที่รวมส่วนกลางหลักๆ เอาไว้ทั้งหมด ข้อดีคือแม้เราจะไม่ได้อยู่ห้องชั้นบนๆ แต่เราก็ยังสามารถเห็นวิวมุมสูงของโครงการได้ จากพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งนอกจากส่วนกลางหลักๆอย่างสระว่ายน้ำ และฟิตเนส ขนาดใหญ่แล้วยังมี  พื้นที่รองรับการทำงาน ประชุม พักผ่อนสังสรรค์ ต่างๆครบ

และที่สำคัญคือมี Concierge service คอยบริการอยู่ด้วยที่ Lobby ทุกวันตั้งแต่ 8.00-20.00 น. ทั้งบริการซักรีด , เรียกทำความสะอาดห้อง , นำพัสดุมาส่งที่ Mailbox ส่วนตัวที่มีแยกทุกชั้นพักอาศัย , จองงานจัดเลี้ยงต่างๆ ในฟังก์ชันส่วนกลาง เป็นต้น

ส่วนอีกประเด็นที่น่าสนใจคือที่นี่มีพื้นที่สีเขียวกระจายอยู่หลายจุด ตั้งแต่ชั้น 1 ที่จะเป็นสวนต้อนรับ ที่พอจะนั่งเล่นพักผ่อน และเป็น Buffer ที่ลดทอนเสียง กับฝุ่นควันจากถนนได้ นอกจากนี้สวนจะถูกกระจายไว้ที่ชั้นต่างๆ อีกหลายชั้น ซึ่งในชั้นบนๆที่ออกไปชมวิวชั้นสูงได้ด้วย ทำให้ลูกบ้านมีตัวเลือกในการออกไปใช้ได้หลายจุดเลยนะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 245,000 บาท/ตร.ม., 3 ตุลาคม 2566

• ทำเล 8.75/10 – ใกล้สยาม ความอุดมสมบูรณ์สูง
• เดินทางด้วยรถ 8.5/10 – ติดถนนพญาไท ใกล้แยกราชเทวี ฝั่งมุ่งหน้าไปทางอนุสาวรีย์ฯ
• ไม่ใช้รถ 8.5/10 – ใกล้ BTS ราชเทวี 140 ม. และ BTS พญาไท 250 ม. ไป ALR ง่าย
• วัสดุ 8/10 – Fully Fitted ได้เฟอร์บางส่วน วัสดุอื่นๆให้มาดี
• แบบ 8.5/10 – ฟังก์ชันลงตัวเป็นสัดส่วน ห้องโปร่ง อยู่สบาย
• สาธารณูปโภค 9/10 – ครบครันสวยงาม พร้อมมี Concierge Service

• HIGH CLASS
• 8.5625 / 10.00

SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) เหมาะกับใคร

SHUSH Ratchathewi (ชูช์ ราชเทวี) เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดใจกลางเมือง อาจเป็นผู้ประกอบการหรือพนักงานออฟฟิศ คุณหมอ ผู้ปกครองที่มีลูกเรียนอยู่แถวนี้ ที่มองหาคอนโดใกล้แหล่งงาน หรือ สถานศึกษาในโซน สยาม ราชเทวี ชอบรูปแบบห้องฝ้าเพดานสูง อยู่สบายทั้ง 2 ชั้น หรือห้องปกติ Simplex อยู่กัน 1-2 คนได้สบายๆ ไปจนถึงอยู่กันเป็นครอบครัวเริ่มต้น ชอบส่วนกลางที่เน้นรายละเอียด วัสดุตกแต่งดูเรียบหรู มีงบประมาณในช่วง 8-15 ล้านบาท ขึ้นไป

ส่งท้ายปีด้วยโปรโมชั่นคอนโดใกล้แนวรถไฟฟ้าและสินเชื่อพิเศษกับงาน Living Expo 2023 อย่าลังเลจนพลาดเป็นเจ้าของคอนโดราคาดีๆ

ลงทะเบียนรับฟรี หนังสือและโพย ที่จะพลิกทุกวิธีการหาบ้านเดิมๆให้ตรงใจและประหยัดเวลามากขึ้น

Living Expo 2023 วันที่ 23 – 26 พฤศจิกายน 2566 ชั้น 1 สยามพารากอน
ลงทะเบียนเลย คลิกที่นี่