รีวิวฉบับที่ 1143 … สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชม Supreme Legend คอนโด Low Rise ในซอยอมร จาก สุพรีม ทีม Developerเจ้าถิ่นในย่านนี้ โดยโครงการนี้จัดว่าเป็นของแปลกและพิเศษเพราะมีกลุ่มลูกค้าเฉพาะตัวเป็นกลุ่มครอบครัวที่มองหาบ้านในเมือง หรือ คนที่อยากได้ห้องขนาดใหญ่ 121 ตร.ม.ขึ้นไป ซึ่งการออกแบบ Product ก็จะแตกต่างกับคอนโดทั่วๆไป เค้าจะทำออกมาเป็นแบบไหนตามไปชมกันดีกว่าค่ะ
Fact @ 2 August 2016
- Supreme Legend Condominium (สุพรีม เลเจ้นด์ คอนโดมิเนียม)
- บริษัท สุพรีม ทีม จำกัด
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ใน : ซอย อมร ถนน นางลิ้นจี่ เขต ยานนาวา
- คอนโด Low Rise 7 ชั้น 2 อาคาร 71 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 8 ยูนิต ที่ชั้น 4 – 7 อาคาร B
- ที่จอดรถประมาณ 127 คันคิดเป็น 178 % ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 4-1-72.7 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : เมษายน ปี 2016
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ไตรมาสที่ 1 ปี 2018
- 2 Bedrooms 121 – 157 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท
- 3 Bedrooms 301 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 38.8 ล้านบาท
- 3 Bedrooms Duplex 208 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น n/a ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.45 – 2.65 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 14.9 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 123,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด n/a บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-679-8128
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะคะ
พิกัด : 13.711236, 100.549086
แผนที่จากทางโครงการค่ะ จะเห็นว่า Sales Gallery กับ SITE อยู่คนละที่กันนะคะ โดยที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอย อมร ส่วนสำนักงานขายจะอยู่บนถนน เย็นอากาศ ติดกับ โรงเรียนอนุบาลบ้านสานฝัน กับ Sathorn Plus on the pond
Supreme Legend ตั้งอยู่ในซอยอมรค่อนมาทางฝั่งถนนพระราม 3 มากกว่า จัดเป็นทำเลในเมืองที่เน้นการเดินทางด้วยรถเพราะอยู่ลึกเข้ามาในซอย โดยซอยนี้สามารถใช้เส้นทางไปลัดออกถนนต่างๆได้หลากหลาย ทั้งถนนเย็นอากาศ ถนนนางลิ้นจี่ ถนนสาทร ถนนพระราม4 ถนนจันทน์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มีทั้งอาคารสำนักงาน และโรงเรียนชื่อดัง แต่ถ้าใช้เส้นทางออกมาทางถนนนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ ถนนพระราม 3 การจราจรจะติดขัดน้อยกว่า สำหรับสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยชุมชนเก่าในละแวกนี้ มีคอนโด Low Rise และอพาร์ตเมนต์แทรกตัวอยู่บ้าง บรรยากาศค่อนข้างสงบกว่าช่วงต้นซอย ส่วนบริเวณโดยรอบทำเลนี้จะว่าไปก็ใกล้กับย่านธุรกิจย่านสาทร สีลม อโศก สามารถเดินทางไปได้สะดวกแต่จำเป็นที่จะต้องใช้รถ ข้อดีคือใกล้กับทางขึ้นและลงทางด่วน มีเส้นทางลัดเลาะภายในซอยเยอะ และโครงการก็จัดที่จอดรถมาให้พอเพียง สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถจะต้องเรียกมอเตอร์ไซค์ออกไปหน้าปากซอยเพื่อต่อรถสาธารณะอื่นๆ หรือเรียกแท็กซี่ที่ผ่านมาในซอยเอาค่ะ
รอบๆโครงการในช่วงที่อยู่ในซอยจะค่อนข้างเงียบ สิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าดูพื้นที่โดยรอบอย่างที่บอกไปว่าทำเลนี้ใกล้กับย่านธุรกิจย่าน สีลม สาทร พระราม4 และอีกฝั่งจะเป็นทางออกไปถนนพระราม 3 สถานที่สำคัญรอบๆโครงการส่วนใหญ่จึงจะเป็นอาคารสำนักงานต่างๆเช่น คิวเฮ้าส์ ลุมพินี เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ สาทร ซิตี้ทาวเวอร์ เป็นต้น ส่วนศูนย์การค้าจะใกล้กับ Silom Complex เซ็นทรัลพระราม 3 มี Community mall คือ The Up พระราม 3 และ De’ Forest นอกจากนั้นยังมีตลาดนางลิ้นจี่ แม็คโคร และ Tesco Lotus ให้คุณแม่บ้านจับจ่ายใช้สอย นอกนั้นก็จะเป็นโรงเรียน โรงพยาบาล และ สถานทูต ส่วนสวนสาธารณะจะมีสวนลุมพินี และ สวนเบญจกิติในบริเวณใกล้ๆ ซึ่งรวมๆแล้วก็ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร
สำหรับทางลงทางด่วน ที่ใกล้กับโครงการที่สุดจะอยู่บนถนนพระราม 3 พอลงมาจะต้องไปกลับรถแล้วเข้าโครงการจากพระราม 3 ซอย 77 และจะมีอยู่อีกจุดบนถนนพระราม 4 บริเวณใกล้ๆกับจุดตัดกับถนนสาทร ส่วนทางขึ้นทางด่วนจากโครงการจะต้องตรงมาออกถนนนางลิ้นจี่ เลี้ยวเข้าถนนรัชดาภิเษกตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอทางขึ้นทางด่วน และทางขึ้นทางด่วนอีกจุดจะอยู่บริเวณใกล้ๆกับทางลงทางด่วนบนถนนพระราม 4 มีทั้งที่ไปพระราม 9 – แจ้งวัฒนะ และ บางนา – ดาวคะนอง
การเข้าถึงโครงการนั้นสามารถเข้าได้หลายทางค่ะ แล้วแต่ใครจะมาจากทางไหน เช่น
- เส้นทางที่ 1 ถนนพระราม 3 – สามารถเข้าถึงได้จากถนนพระราม 3 ถ้าลงทางด่วนบริเวณถนนพระราม 3 ช่วงช่องนนทรี – นางลิ้นจี่ เส้นทางนี้เป็นทางที่เข้าถึงโครงการได้ใกล้ที่สุด โดยต้องไปกลับรถมาเข้าพระราม 3 ซอย 77
- เส้นทางที่ 2 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ – สามารถมาจากทางถนนนราธิวาสฯ เลี้ยวเข้าถนนจันทน์เก่า แล้วทะลุข้ามแยกมาซอยอมรได้ ตรงไปเรื่อยๆก็จะถึงโครงการ
- เส้นทางที่ 3 ถนนสาทร – ถ้ามาจากในเมืองทางฝั่งสาทร สามารถใช้เส้นทางลัดเลาะมาถึงโครงการได้ เช่นเข้าซอยสาทร 1 ทะลุมาถนนเย็นอากาศ ทางนี้จะผ่านสำนักงานขายด้วย และเลี้ยวเข้
าซอยเย็นอากาศ 3 สุดแยกเลี้ยวซ้ายเข้าซอยอมรโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือ
การเดินทางในวันนี้จะพาไปดูเส้นทางที่ใช้ทางด่วน และ ไม่ใช้ทางด่วน โดยเริ่มจากเส้นทางที่ 1 คือใช้ทางด่วน เราจะวิ่งตามป้ายดาวคะนองมาลงทางออก ถนนพระราม 3 (ช่องนนทรี – นางลิ้นจี่) ตรงตามทางมาเรื่อยๆไปกลับรถเข้าพระราม 3 ซอย 77 เข้าซอยมาประมาณ 250 เมตรก็จะถึงที่ตั้งโครงการ
สำหรับใครที่ใช้ทางด่วน ให้วิ่งตามป้ายดาวคะนองมาลงที่ทางออก พระราม 3 (ช่องนนทรี – นางลิ้นจี่)
พอลงจากทางด่วนมา ตรงมาซักระยะให้ชิดขวาแล้วกลับรถ ถ้าตรงไปจะเป็นทางไปสาธุประดิษฐ์ และ ถนนตก
พอกลับรถมาเราจะวิ่งไปถามถนนพระราม 3 ตามป้ายคลองเตย
ตรงมาเรื่อยๆตามถนนพระราม 3 ไปเลี้ยวเข้า พระราม 3 ซอย 77
พระราม 3 ซอย 77 หน้าปากซอยจะมี 7-11 และวินมอเตอร์ไซค์อยู่ ในซอยนี้จะเป็นซอยที่ใช้ลัดเลาะไปออกซอยอมรและถนนเย็นอากาศได้ ช่วงต้นซอยที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านแนวราบ บรรยากาศเงียบสงบ
จากหน้าปากซอยเข้าไปประมาณ 250 เมตรก็จะถึงโครงการค่ะ โดยถ้าเข้าจากทางนี้โครงการจะอยู่ทางด้านขวามือ
ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งเป็นทางที่ เข้ามาจากในเมืองสำหรับใครที่ทำงานแถวๆถนนสาทร โดยจะเข้าซอยสาทร 1 ทะลุมาเข้าถนนเย็นอากาศ โดยสำนักงานขายก็จะอยู่บนถนนเส้นนี้ ติดกับ โรงเรียนอนุบาลบ้านสานฝัน กับคอนโด Sathorn Plus on the pond จากนั้นตรงไปเลี้ยวเข้
เริ่มจากถนน พระราม 4 บริเวณ MRT ลุมพินี ตรงไปเรื่อยๆเพื่อเลี้ยวเข้าถนน สาทรที่แยกข้างหน้า
พอถึงแยกที่ด้านซ้ายเป็น อาคารคิวเฮ้าส์ ลุมพินี ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาทร
พอเข้าถนนสาทร ตรงมาอีกหน่อย เราจะเลี้ยวเข้าซอย สาทร 1
ตรงเข้ามาช่วงต้นซอยจะค่อนข้างคึกคักมีพนักงานออฟฟิศเดินลงมาทานข้าวกันค่อนข้างเยอะ เพราะปากซอยเป็นอาคารสำนักงาน เข้ามาหน่อยทางฝั่งขวาเป็นสถานเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก พอถัดเข้าไปในซอยจะเป็นบ้านพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ บรรยากาศจะสงบกว่าช่วงต้นซอย
ตรงเข้ามาเรื่อยพอเจอแยกนี้ เราจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยงามดูพลี บริเวณแยกต่างๆในซอยการจราจรจะค่อนข้างติดขัดโดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งด่วน
ตรงมาเรื่อยๆและมาเลี้ยวขวาอีกทีเพื่อเข้าซอยศรีบำเพ็ญ จุดสังเกตคือจะมีโรงแรม ibis Bangkok Sathorn อยู่
ตรงเข้ามาอีกจนถึงแยกนี้เราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนเย็นอากาศ บริเวณนี้จะคึกคักขึ้นมาหน่อยมีร้านขายอาหาร และ 7-11
พอเข้าถนนเย็นอากาศมา บรรยากาศจะเงียบสงบกว่าช่วงต้นซอย เราตรงมาเรื่อยๆจนเห็นคอนโด Sathorn Plus on the pond แสดงว่าใกล้ถึงโครงการแล้ว
ถัดจากคอนโด Sathorn Plus on the pond มาก็จะเป็นสำนักงานขายของโครงการค่ะ ส่วนที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอยอมรถัดเข้าไปด้านในอีก
บรรยากาศด้านหน้าสำนักงานขายบนถนนเย็นอากาศค่ะ
ภายในสำนักงานขาย ตอนนี้มีห้องตัวอย่างให้ชมกันแล้วซึ่งเดี๋ยวเราค่อยกลับมาดูกัน
จากสำนักงานขายเราจะตรงต่อไปที่โครงการ โดยเลี้ยวเข้าซอยเย็นอากาศ 3
ตรงมาจนสุดซอยพอเราเห็นร้านล้างรถยนต์ที่กำแพงสีน้ำเงิน แยกนี้จะตัดกับซอยอมร ให้เราเลี้ยวไปทางซ้าย
พอเข้าซอยอมรมาช่วงก่อนถึงโครงการจะเป็นคอนโด และอพาร์ทเมนท์สูงประมาณ 8 ชั้นทั้งสองฝั่ง
ตรงเข้ามาเรื่อยๆ บริเวณทางโค้งติดกับคอนโด Resortaจะเป็นที่ตั้งของโครงการ Supreme Legend ค่ะ
โครงการตั้งอยู่ในซอยอมร บนพื้นที่ 4-1-72.7 ไร่ สภาพแวดล้อมโดยรอบส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยแนวราบ และ ตึกแถว บรรยากาศค่อนข้างเงียบเป็นส่วนตัว ท้ายซอยเป็นทางไปออกถนนพระราม 3 ในซอยจะมีคอนโด Low Rise สูง 7 – 8 ชั้นขึ้นอยู่บ้าง โครงการมีพื้นที่ด้านต่างๆติดกับ
- ทิศเหนือ – ติดกับบ้านพักอาศัย 1 – 2 ชั้น
- ทิศตะวันออก – ติดกับบ้านพักอาศัย และ คอนโด Low Rise
- ทิศใต้ – ติดกับถนนซอยอมร ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1- 2 ชั้น ร้านล้างรถยนต์ และ ร้านอาหาร
- ทิศตะวันตก – ติดกับคอนโด Resorta เป็นคอนโด Low Rise
ทิศตะวันออก ติดกับบ้านพักอาศัยแนวราบสูง 1 – 2 ชั้น ถนนนี้ถ้าตรงไปจนถึงท้ายซอยจะเป็นทางไปออกถนนพระราม 3
ทิศใต้ ติดกับถนนซอยอมร ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นบ้านพักอาศัยสูง 1- 2 ชั้น ร้านล้างรถยนต์ และร้านอาหาร
ฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นร้านอาหารชื่อ Slow Life เป็นอาคารชั้นเดียวขายอาหารประเภทตามสั่งและสเต็ก
ทิศตะวันตก ติดกับคอนโด Resorta เป็นคอนโด Low Rise ด้านหน้ามีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ ฝั่งตรงข้ามเป็นอพาร์ตเมนท์
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Garden International school ~ 1.1 กิโลเมตร
- โรงเรียนอนุบาลบ้านสานฝัน ~ 1.1 กิโลเมตร
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ ~ 1.9 กิโลเมตร
- โรงแรมไอบิส สาทร ~ 2 กิโลเมตร
- Crescent International school~ 2.1 กิโลเมตร
- คิวเฮ้าส์ ลุมพินี ~ 2.7 กิโลเมตร
- โรงแรมสุโขทัย ~ 2.9 กิโลเมตร
- สวนลุมพินี ~ 3.4 กิโลเมตร
- สถานทูตสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ~ 3.5 กิโลเมตร
- โรงพยาบาล BNH ~ 4.2 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ~ 4.4 กิโลเมตร
Supreme Legend เป็นคอนโดที่เน้นกลุ่มครอบครัว หรือ คนที่อยากได้ห้องใหญ่ๆขนาด 121 ตร.ม.ขึ้นไป มีความเป็นส่วนตัวเนื่องจากมีห้องพักแค่ 71 ยูนิต โดยตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น 2 อาคาร อาคาร A จะมีแค่ห้อง 2 ห้องนอน ส่วนอาคาร B จะมีทั้ง 2 , 3 ห้องนอน และ ห้อง Duplex ชั้นล่างเข้ามาจะเจอกับพื้นที่สวน ซึ่งทางโครงการจะเน้นเก็บต้นไม้ใหญ่ของเดิมเอาไว้ ที่จอดรถจะอยู่ใต้อาคารทั้งสอง เนื่องจากทำเลเน้นการเดินทางโดยใช้รถ ที่จอดเค้าก็จัดมาให้มาเต็มที่ซึ่งถือว่าดี คือได้ 127 คัน หรือ 178% แบบไม่รวมซ้อนคัน โดยจะได้ที่จอดแบบ FIX ลงพื้นที่ในโฉนดทุกยูนิต ห้อง 3 ห้องนอนและห้อง Duplex จะได้ FIX 3 คัน Lobby จะแยกของใครของมัน ห้องพักจะอยู่ตั้งแต่ชั้น 2 – 7 ส่วน Facilities อยู่ด้านหลังอาคาร A มีให้ตามมาตรฐานคือ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ ห้องเอนกประสงค์ Steam & Sauna
สำหรับแนวคิดในการออกแบบของโครงการนี้คือ Shades of Living เป็นการออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ เน้นพื้นที่สีเขียวและเก็บต้นไม้เดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด มีการตกแต่งโดยใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติเช่นไม้ มีการใช้ระแนงทำลวดลายเป็นร่มเงาของไม้ ใช้ตกแต่งตัวอาคารและในห้องพัก
เรามาดูโมเดลกันค่ะ โครงการจะอยู่ในซอยอมร มีทั้งหมด 2 อาคาร A และ B เข้าไปด้านในจะเจอกับสวนหย่อมก่อน ซึ่งทางโครงการจะเก็บต้นไม้ใหญ่ของเดิมไว้ให้เยอะที่สุด ถัดเข้าไปจึงเป็น Drop off และ Lobby แยกอาคารกัน ที่จอดรถจะอยู่ชั้นล่างของอาคารทั้งสอง
อาคาร A จะมีเฉพาะห้องแบบ 2 ห้องนอน จากมุมมองด้านหน้าอาคารฝั่งซ้ายเป็นห้องแบบ 157 ตร.ม. ฝั่งขวา 127 ตร.ม. สังเกตบริเวณโถงบันไดจะมีการนำเอาฟอร์มของกิ่งก้านต้นไม้มาใช้ตกแต่งด้านนอกอาคาร ตาม Concept ของโครงการ
ด้านหลังอาคาร A ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ส่วนที่ยื่นออกมาของชั้น 2 เป็น Facilities ส่วนห้องพักอาคารนี้จะเป็นแบบ 2 ห้องนอนทั้งหมดแต่ละห้องจะได้ระเบียงขนาดค่อนข้างใหญ่
พื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านหลังอาคาร A มี ฟิตเนส สระว่ายน้ำที่มีทั้งสระเด็ก และ สระผู้ใหญ่อยู่ด้านนอก ส่วนห้องเอนกประสงค์ ห้องน้ำ และ Steam & Sauna อยู่ในอาคาร ซึ่งรวมๆแล้วถือว่ามีมาให้พอสมควร ตามมาตรฐาน แต่เนื่องจากโครงการนี้มีจำนวนยูนิตน้อยจึงคิดว่าน่าจะพอเพียง
ส่วนอาคาร B ก็จะมีที่จอดรถอยู่ใต้อาคารเช่นกัน อาคารนี้จะไม่มี Facilities ห้องพักจะมีทั้งห้องแบบ 2 ห้องนอน 3 ห้องนอน และ Duplex โดยห้อง 3 ห้องนอนจะเป็นห้องมุมอยู่ฝั่งด้านหน้าอาคาร
ส่วนห้อง Duplex จะอยู่ในชั้น 4 – 7 ฝั่งด้านหลังอาคาร
ภาพจำลองบรรยากาศบริเวณทางเข้า จะเห็นว่ามีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหน้าเลย มีการจัดสวนและใช้ลวดลายของร่มเงาไม้มาใช้ตกแต่ง
เข้ามาในโครงการ เราจะเจอกับพื้นที่สวน ซึ่งจะมีต้นไม้ใหญ่ที่ทางโครงการเก็บเอาไว้เพื่อให้ความร่มรื่น
ถัดเข้ามาบริเวณด้านหน้า Lobby จะมีการเล่นระดับของผนังและวัสดุทำให้ดูมีมิติ Lobby จะแยกอาคาร A และ B
สระว่ายน้ำจะอยู่ชั้น 2 ของอาคาร A เป็นสระระบบเกลือ ขนาด 6 x 24 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.4 เมตร มี Jacuzzi ด้วย
มาดูกันต่อที่ Master plan ของโครงการค่ะ พอเข้ามาในโครงการก็จะเจอกับสวนหย่อมอยู่ตรงกลาง ก่อนจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งขวาเป็นอาคาร A ส่วนฝั่งซ้ายเป็นอาคาร B Lobby ของทั้งสองอาคารจะอยู่แยกกัน ชั้นล่างของแต่ละอาคารจะมีที่จอดรถโดยจะจอดได้แบบ FIX คัน 178%
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะแบ่งเป็นห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางอยู่กันคนละฝั่ง เพราะฉะนั้นเวลามีคนมาใช้พื้นที่ส่วนกลางจะไม่มารบกวนส่วนของห้องพักมากนัก ส่วนกลางประกอบด้วยฟิตเนส สระว่ายน้ำ สระเด็ก Jacuzzi ห้องเอนกประสงค์ ห้องน้ำ และ Steam&Sauna แยกชาย หญิง
ชั้นต่อๆมาจะเป็นส่วนของห้องพักทั้งหมด เราจะมาดูกันทีละอาคารเริ่มจากอาคาร A ก่อนนะคะ อาคารนี้จะมีแต่ห้อง 2 ห้องนอนล้วนๆ มีความหนาแน่นอยู่ที่ 6 ห้องต่อชั้นถือว่าค่อนข้างเป็นส่วนตัว ห้องขนาด 157 ตร.ม.จะมีทางเข้าแยกออกไปอยู่อีกฝั่งซึ่งจะทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีก แต่ละห้องจะได้ระเบียงที่ค่อนข้างกว้างทั้งหมด มีลิฟต์โดยสารอยู่ 1 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ของอาคารนี้เท่ากับ 33:1
ส่วนอาคาร B จะมีห้องผสมกันระหว่าง 2 , 3 ห้องนอน และ Duplex มีความหนาแน่นอยู่ที่ 8 ห้องต่อชั้น ห้อง 3 ห้องนอนจะเป็นห้องหัวมุมทางฝั่งด้านหน้าโครงการซึ่งแยกออกมาอยู่ด้านนี้ห้องเดียว ทำให้ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ส่วนห้อง Duplex จะอยู่ทางทิศเหนือชั้น 4 – 7 อาคารนี้มีลิฟต์โดยสารอยู่ 2 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์เท่ากับ 19 : 1
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Lobby
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 6 x 24 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.4 เมตร
- Jacuzzi
- Spacious casual seating area
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง
- Multipurpose room
- Separate Male and Female shower and locker room
- Separate Male and Female sauna and steam room
- สวนหย่อมรอบโครงการ
- ลิฟต์โดยสารอาคาร A 1 ตัว , อาคาร B 2 ตัว
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 24 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 33 : 1
- อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 19 : 1
- Service Lift อาคารละ 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 127 คันคิดเป็น 178% ไม่รวมจอดซ้อนคัน (FIX คันทุกยูนิต , 3 ห้องนอน – Duplex FIX 3 คัน)
- Proximity card
- Security system / CCTV / Access Card
สำหรับห้องตัวอย่างทางโครงการทำมาให้ดูมีห้องเดียว คือห้องแบบ 2 ห้องนอน เฟอร์นิเจอร์ให้แบบ Fully – fitted คือให้เฉพาะประตูแบบ 2 ชั้นพร้อม Digital Door Lock , ชุดครัว , สุขภัณฑ์ , เครื่องทำน้ำร้อน และ แอร์แบบ VRF
ห้องที่จะพาไปชมคือ ห้อง 2 ห้องนอน 130 ตร.ม. เนื่องจากโครงการนี้มีกลุ่มลูกค้าพิเศษที่เน้นขนาดใหญ่ การจัดพื้นที่ใช้สอยจึงจัดออกมาให้อารมณ์เหมือนบ้านคือมีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอต่อการใช้งาน ไม่เล็กและอึดอัดเหมือนคอนโดในเมือง เข้าห้องมาจะเจอกับโถงยาวๆก่อน พื้นที่ในห้องจะแบ่งแยกซ้าย ขวา ทางฝั่งขวาเป็น Public Zone คือพื้นที่ครัว ห้องรับแขก ห้องทานข้าว ส่วน Private Zone คือห้องนอนล้วนๆ การแบ่งพื้นที่แบบนี้จะทำให้ฝั่งห้องนอนเป็นส่วนตัวมากขึ้น ถ้าใครอยากดูหนังฟังเพลงเสียงดัง หรือ มีแขกมาก็มาใช้พื้นที่ทางฝั่งขวาค่ะ ห้องครัวของห้องนี้เป็นครัวปิดที่ได้เคาน์เตอร์ 2 ฝั่ง สามารถทำอาหารได้เต็มที่ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นมากนัก ถัดจากครัวไปเป็นพื้นที่ซักล้างเอาไว้ตากผ้า ถัดไปจะเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันของห้องรับแขกและห้องทานข้าว โดยจะมีระเบียงขนาดใหญ่ตรงส่วนนี้ด้วย อีกฝั่งหนึ่งของห้องจะเป็นโซนห้องนอนประกอบด้วย ห้องนอนเล็กซึ่งสามารถวางเตียง Queen Size ได้ ไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องออกมาใช้ห้องน้ำรวมข้างนอกที่อยู่ด้านหน้าห้องเลย เดินไม่ไกล ส่วนห้องนอนใหญ่เป็นห้องที่มีระเบียงอีกห้องหนึ่ง ขนาดระเบียงค่อนข้างกว้างและมีห้องน้ำในตัว เราไปดูห้องจริงกันค่ะ
ประตูทางเข้าจะได้เป็นประตู 2 ชั้นคือประตูด้านหน้าที่มีเจาะช่องเป็นลวดลายคล้ายๆต้นไม้เป็นบานเลื่อนเอาไว่เลื่อนปิด (และเปิดประตูด้านใน ) สำหรับกรณีที่อยากระบายอากาศแต่ก็ยังอยากให้มีความเป็นส่วนตัวอยู่ ส่วนบานชั้นในเป็นบานโครงการปิดผิวด้วย Veneer
มือจับหน้าห้องเป็น Digital Door Lock ยี่ห้อ Miwa แบบที่ต้องมีรีโมทอยู่ใกล้ๆจึงจะกดเปิดประตูได้
ตัวล็อคเป็นแบบล็อค 2 ชั้น อุปกรณ์มือจับค่อนข้างแข็งแรง
บริเวณทางเข้าระหว่างพื้นทางเดินกับพื้นในห้องเก็บงานรอยต่อด้วยไม้สีเดียวกับพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ในห้อง
พอเข้าห้องมาจะเจอกับโถงยาวๆ แบ่งพื้นที่ใช้สอยของห้องเป็น 2 ฝั่ง ห้องนี้ถ้าเราเข้ามาแล้วหันไปทางขวาจะเป็นทางไปห้องครัว พื้นที่ทานข้าว และ รับแขก ห้องนี้ให้แบบ Fully – Fitted เพราะฉะนั้นจะได้เป็นห้องโล่งๆ ไม่ได้แต่ง Built-in ให้แบบนี้นะคะ พื้นเป็นไม้เอ็นจิเนียร์หน้าไม้ Oak ผนังฉาบเรียบติดไฟดาวน์ไลท์เป็นไฟ LED ทั้งหมด
เดินถัดจากโถงมาทางฝั่งซ้ายเราจะเจอกับห้องครัว ถัดเข้าไปในห้องตัวอย่างจะจัดเป็นพื้นที่ทานข้าว ที่ต่อเนื่องกับพื้นที่นั่งเล่น รับแขก ถ้ามองการใช้งานถือว่าการจัดพื้นที่มีความต่อเนื่อง คือถ้าเราทำอาหารเสร็จก็ยกออกมาเสริฟที่โต๊ะได้สะดวก
บริเวณหน้าห้องครัว ห้องตัวอย่างมีทำเคาน์เตอร์เล็กๆเอาไว้พักอาหารก่อนเสริฟ และ ด้านหลัง Built เป็นตู้เก็บของ (ของจริงไม่ได้ให้นะ) เราดูไว้เป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้
ในครัวพื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ระหว่างรอยต่อเก็บความเรียบร้อยด้วยไม้ตามภาพ
ในครัวเป็นครัวปิดสามารถทำอาหารต้ม ผัด แกง ทอด ได้เต็มที่ เคาน์เตอร์ครัวเป็นของ RCD มีอยู่ 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายมีอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้า ส่วนฝั่งขวามีช่องวางตู้เย็นและตู้สำหรับเก็บของ ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ซักล้าง พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm.
เคาน์เตอร์ฝั่งซ้ายที่มีอ่างล้างจานและเตาไฟฟ้า วัสดุของเคาน์เตอร์เป็นโครงไม้กรุลามิเนต Top เป็นหินสังเคราะห์ของ Silestone มีผนังกันเปื้อนด้านหลังให้ด้วยวัสดุเป็นหินแบบเดียวกับ Top
ด้านล่างของเคาน์เตอร์ฝั่งที่เป็นอ่างล้างจานมีปูด้วยแผ่นฟอยล์กันความชื้น
ลิ้นชักเปิดออกมา มีช่องสำหรับเก็บของพร้อมชั้นวางของด้านใน และ ชั้นวางช้อน ส้อม
อ่างล้างจานเป็นแบบหลุมเดียวขนาดค่อนข้างใหญ่ของ Teka
เตาไฟฟ้าเป็นแบบเซรามิค 4 หัวของ Küppersbusch
เครื่องดูดควันเป็นแบบดูดกลิ่นออกไปภายนอกห้องยี่ห้อ Küppersbusch เช่นกัน
อีกฝั่งจะได้เคาน์เตอร์แบบนี้สามารถใช้เก็บของได้ และมีช่องใส่ตู้เย็นและเตาอบ แต่ไม่ได้ให้เครื่องใช้ไฟฟ้านะ
ถัดจากครัวไปเป็นพื้นที่สำหรับซักล้าง กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนกรอบบาน Aluminium Powder Coat
พื้นที่ซักล้างมีขนาด 2.43 x 1.80 เมตร เป็นพื้นที่สำหรับเอาไว้ใช้ตากผ้า รีดผ้าได้ มีช่องระบายอากาศติดระแนงให้แบบนี้
ระหว่างพื้นทั้ง 2 ส่วนนี้มีธรณีก่อขึ้นมาเพื่อกันน้ำในกรณีซักล้างสูงประมาณ 15 cm.
มือจับเป็นแบบมาตรฐาน ค่อนข้างแข็งแรง
ถัดจากครัวมาจะเป็นพื้นที่ต่อเนื่องกันของพื้นที่ทานข้าว และ พื้นที่นั่งเล่นรับแขก บริเวณนี้มีหน้าต่างอยู่ทั้ง 2 ด้านจึงทำให้ห้องดูโปร่งและมีอากาศถ่ายเทดี ฝ้าเพดานของห้องสูง 2.65 เมตร แต่ส่วนที่มี Drop ลงมาจะสูง 2.45 เมตร
ชุดหน้าต่างด้านหลังโต๊ะทานข้าวเป็นบานเลื่อนเปิดออกไปด้านข้างทั้งสองฝั่งได้แบบในภาพ ส่วนด้านนอกเป็นบานเลื่อนระแนงไม้สำหรับไว้เลื่อนปิดเวลาต้องการความเป็นส่วนตัว หรือ เลื่อนเปิดเพื่อรับลมและวิวได้
ด้านบนเป็นรางเลื่อนซ้อนกันแบบนี้
ห้องรับแขกจะอยู่ติดกับส่วนของระเบียง ซึ่งประตูตรงระเบียงเป็นบานเลื่อนขนาดค่อนข้างใหญ่ ทำให้มีแสงเข้ามาในห้องบริเวณนี้ค่อนข้างเยอะช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้น ระยะดูทีวีของห้องนี้เหลือเยอะสามารถดูทีวีได้ในระยะที่ถนอมสายตาได้สบายๆ
แอร์ของโครงการนี้ให้แบบ VRF (Variable Refrigerant Flow) เป็นระบบปรับอากาศที่ใช้คอยล์ร้อน 1 ตัว สามารถติดตั้งคอยล์เย็นได้หลายตัว ซึ่งคอยล์เย็นสามารถทำงานได้อิสระคือไม่ต้องเปิดพร้อมกันก็ได้
ประตูทางออกไประเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน กรอบบานเป็น Aluminium Power Coat พื้นที่ระเบียงมีขนาดค่อนข้างกว้างประมาณ 1.75 x 4.05 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องลายไม้สีใกล้เคียงกับพื้นไม้ในห้อง
ระหว่างพื้นระเบียงและห้องรับแขกจะยกสูงขึ้นประมาณ 15 cm.
ตรงส่วนของคอยล์ร้อนแอร์มีทำเป็นระเเนงกั้น มีตัวล็อคไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยแบบนี้
ฝั่งตรงข้ามห้องรับแขก มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะอาหาร ถ้าเลี้ยวขวาจะเป็นทางไปห้องนอน
จากมุมนี้ ตรงสุดทางเดินไปจะเป็นห้องนอนใหญ่
ส่วนทางฝั่งขวาของห้องนอนใหญ่จะเป็นทางไปห้องนอนเล็ก และ ห้องน้ำ
ห้องนอนเล็กเป็นห้องที่ไม่มีห้องน้ำในตัว จะต้องออกมาใช้ห้องน้ำที่อยู่บริเวณหน้าห้องซึ่งใช้เป็นห้องน้ำแขกด้วย
ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา กระเบื้องพื้นและผนังเป็นแกรนิตโต้ขนาด 40 x 80 cm. มีทั้งส่วนแห้งและส่วนเปียก
กระจกส่องหน้าบริเวณด้านบนโถสุขภัณฑ์ทำเป็นตู้เล็กๆเปิดออกมาเก็บของได้ ซึ่งทางโครงการก็ให้มาแบบนี้เลย
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าด้านล่างเป็นตู้เปิดออกมามีพื้นที่เก็บของได้ค่อนข้างเยอะ
อ่างล้างหน้าเป็นของ TOTO แบบฝังอยู่ใต้ Top เคาน์เตอร์หินแกรนิตสีดำ
โถสุขภัณฑ์เป็นของ TOTO ด้านหลังเป็นผนังก่อขึ้นมาเพื่อเดินงานระบบ ด้านบนสามารถใช้วางของเล็กๆน้อยๆได้ ที่แขวนทิชชู่ติดอยู่ด้านข้างหยิบใช้งานสะดวก
ปุ่มกดเป็นแบบ 2 ปุ่ม ติดตั้งอยู่ด้านหลังบริเวณผนังที่ก่อออกมา
พื้นที่อาบน้ำมีกระจกกั้นมาให้ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ
ระหว่างส่วนแห้งกับส่วนเปียกมีธรณีก่อขึ้นมากันน้ำประมาณ 5 cm. พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 95 x 180 cm.
ชุดฝักบัวเป็นของ Grohe มีระบบทำน้ำร้อนมาให้ ด้านข้างมีชั้นหินแกรนิตเอาไว้วางของใช้พวกสบู่ แชมพู
ซูมฝักบัวของ Grohe ค่ะ
ถัดจากห้องน้ำมาเป็นห้องนอนเล็ก ซึ่งขนาดก็ไม่ได้เล็กเหมือนคอนโดในเมืองทั่วๆไป สามารถวางเตียงได้แบบ Queen Size ถึงแม้จะไม่มีระเบียงแต่มีบานหน้าต่างที่เลื่อนเปิดรับลมได้
ทางฝั่งซ้ายของเตียงมีระยะเหลือ 110 cm. ทางฝั่งขวาเหลือ 65 cm.
ปลายเตียงพอวางโต๊ะแบบห้องตัวอย่างแล้วมีระยะจากเตียงถึงโต๊ะประมาณ 90 cm. เป็นระยะที่เดินผ่านได้สบายๆ
ด้านข้างเตียงมีพื้นที่สำหรับวางตู้เสื้อผ้าได้ทั้งแนวแบบนี้
ปลายเตียงห้องตัวอย่างจัดเป็นมุมทำงาน วางโต๊ะยาวตลอดทั้งแนว
มาต่อกันที่ห้องนอนใหญ่ ห้องนี้เข้ามาในห้องตัวอย่างกั้นโซนโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าด้วยผนังกระจกที่โค้งๆตามในภาพ ส่วนห้องจริงจะเป็นห้องโล่งๆให้เราไปจัดพื้นที่ใช้สอยได้เองค่ะ
พอเดินเข้าไปในส่วนที่กั้นเป็นโซนแต่งตัว ทางเข้าห้องน้ำก็จะอยู่ทางฝั่งนี้ด้วย
ภายในห้องน้ำการตกแต่งและใช้วัสดุคล้ายๆห้องก่อนหน้า แบ่งออกเป็นส่วนแห้งและส่วนเปียกเหมือนกัน
เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าห้องนี้จะได้ขนาดยาว 177 cm. ยาวกว่าห้องน้ำแขก ด้านล่างเป็นตู้เปิดออกมาเก็บของได้ค่อนข้างเยอะและมีช่องระบายอากาศในตู้ไม่ให้อับชื้นด้วย
อ่างล้างหน้าของ TOTO เป็นทรงสี่เหลี่ยมแบบวางบน Top เคาน์เตอร์
พื้นที่ตรงโถสุขภัณฑ์ค่อนข้างกว้าง ด้านข้างจะมีตู้เอาไว้วางของใช้
พื้นที่อาบน้ำกั้นด้วยกระจกนิรภัยให้แบบนี้
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 90 x 160 cm. พื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ผิวด้าน
ส่วนฝักบัวเป็นของ Grohe เช่นกัน
มาถึงในโซนห้องนอน ห้องนี้วางเตียงขนาด King Size ห้องนี้มีระเบียงออกไปยืนสูดอากาศได้
ข้างเตียงมีระยะเหลือสำหรับทำเป็นโต๊ะข้างเตียงเอาไว้วางของใช้หรือโคมไฟได้ทั้งสองฝั่ง
ปลายเตียงมีระยะจากเตียงถึงตู้ประมาณ 180 cm.
ข้างเตียงเป็นทางออกไประเบียงกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนทั้งแนวผนังทำให้มีแสงเข้าห้องนี้ค่อนข้างเยอะ
ระเบียงห้องนี้ค่อนข้างกว้างมีขนาด 4.05 x 1.10 เมตร สามารถใช้พื้นที่ได้เต็มไม่ต้องเสียพื้นที่ให้คอยล์ร้อนของแอร์ เพราะเป็นะบบ VRF ใช้คอยล์ร้อนรวมกันได้ สามารถเอาชุดเก้าอี้ออกไปนั่งสูดอากาศได้
หน้าตาของปลั๊กและสวิทซ์เป็นแบบเรียบๆ สีขาวของ schneider ค่ะ
ห้องอีกแบบที่น่าสนใจซึ่งไม่มีห้องตัวอย่าง คือห้องแบบ 3 ห้องนอนพื้นที่ 301 ตร.ม.เข้าห้องมาจะเจอกับโถงก่อน ถัดมาด้านในแปลนจะแบ่งเป็นพื้นที่เป็น Public Zone คือส่วนนั่งเล่น รับแขก ทานข้าว และ ส่วนครัว สำหรับใช้ทำกิจกรรมร่วมกันและถ้ามีแขกมาก็จะใช้พื้นที่ตรงส่วนนี้ พื้นที่ส่วนรับแขกและทานข้าวจะต่อเนื่องกับระเบียงขนาดใหญ่ ครัวมีทั้ง Pantry สำหรับเตรียมอาหารและครัวปิดสำหรับทำกับข้าวแบบจริงจัง มีแยกห้องน้ำแขกมาให้ในโซนนี้ และมีห้องแม่บ้าน+ห้องน้ำแม่บ้านด้วย ส่วนอีกฝั่งเป็น Private Zone คือห้องนอนล้วนๆ 3 ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำและระเบียงในตัว ในห้องนอนใหญ่จะมี Walk-in Closet และอ่างอาบน้ำเพิ่มเข้ามา และได้ระเบียงค่อนข้างกว้างเป็น L shape การจัดพื้นที่รวมๆจะออกแนวเป็นเหมือนบ้านมากกว่าคอนโดเพราะได้พื้นที่ขนาดใหญ่และFunction ต่างๆค่อนข้างครบ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 August 2016
- 2 Bedroom อาคาร A ชั้น 2 ห้อง A5-CX1 เนื้อที่ 127 ตร.ม. ราคา 15.7 ล้านบาท หรือ 123,622 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom อาคาร B ชั้น 3 ห้อง B3-C3 เนื้อที่ 121 ตร.ม. ราคา 15.15 ล้านบาท หรือ 125,206 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.45 – 2.65 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 500,000 บาท
- ผ่อนดาวน์ 18 งวด งวดละ 160,000 บาท
- ค่ากองทุน 800 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 48 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
Supreme Legend เป็นโครงการพิเศษที่เน้นลูกค้าเป็นกลุ่มครอบครัว หรือ คนที่อยากได้ห้องขนาดใหญ่ เพราะฉะนั้นลูกค้ากลุ่มนี้จะค่อนข้างมี Budget ระดับหนึ่ง ดังนั้นทำเลจึงไม่จำเป็นต้องอิงกับแนวรถไฟฟ้าสามารถใช้รถเป็นหลักได้ โดยโครงการนี้ตั้งอยู่ในซอยอมร ในย่านนางลิ้นจี่ – เย็นอากาศ ถือว่าเป็นทำเลใจกลางเมืองแบบต้องต่อรถ คือสามารถเดินทางเข้าเมืองในย่านสีลม สาทร อโศก พระราม 4 ได้สะดวกแต่ต้องใช้รถในการเข้าถึง ข้อดีที่เป็นจุดเด่นของทำเลคือใกล้ทางด่วนและมีที่จอดรถให้ถึง 178% และให้แบบ FIX คัน ห้อง 3 ห้องนอนและ Duplex ให้ FIX 3 คันทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอด ส่วนสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนบ้านพักอาศัยแนวราบเดิมจึงบรรยากาศค่อนข้างสงบ มีคอนโด Low Rise มาขึ้นอยู่บ้างแต่จะเน้นห้องขนาดเล็กมากกว่า ถ้ามองพื้นที่โดยรอบจะเป็นย่านธุรกิจที่มีอาคารสำนักงานต่างๆเช่น คิวเฮ้าส์ ลุมพินี เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ สาทร ซิตี้ทาวเวอร์ ส่วนศูนย์การค้าจะใกล้กับ Silom Complex และ เซ็นทรัลพระราม 3 นอกจากนั้นยังมีตลาดนางลิ้นจี่ แม็คโคร และ Tesco Lotus โรงเรียน โรงพยาบาล และ สถานทูต สวนสาธารณะขนาดใหญ่ ซึ่งรวมๆแล้วก็ถือว่าเป็นทำเลมีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร
การเดินทางโดยใช้รถสามารถใช้เส้นทางไปลัดออกถนนต่างๆได้หลากหลาย ทั้งถนนเย็นอากาศ ถนนนางลิ้นจี่ ถนนสาทร ถนนพระราม4 ถนนจันทน์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มีทั้งอาคารสำนักงาน และโรงเรียนชื่อดัง แต่ถ้าใช้เส้นทางออกมาทางถนนนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ ถนนพระราม 3 การจราจรจะคล่องตัวกว่า และสามารถไปขึ้นทางด่วนได้สะดวก ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถจะค่อนข้างลากหน่อย เพราะโครงการเข้าซอยมาค่อนข้างลึก ต้องเรียกมอเตอร์ไซค์ออกไปหน้าปากซอยเพื่อต่อรถสาธารณะอื่นๆ หรือเรียกแท็กซี่ที่ผ่านมาในซอยเอาค่ะ
วัสดุให้ค่อนข้างดีตามมาตรฐานคอนโด High Class พื้นให้พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ ในห้องครัวและห้องน้ำก็เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ให้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fully-Fitted คือ ชุดครัวของ RCD พร้อม Soft Close , สุขภัณฑ์ และ แอร์ มีจุดที่ค่อนข้างชอบคือ ประตูแบบ 2 ชั้นพร้อม Digital Door Lock และให้แอร์แบบ VRF ที่ใช้คอยล์ร้อน 1 ตัว ควบคุมคอยล์เย็นได้หลายตัวซึ่งทำให้ไม่ต้องเสียพื้นที่ตรงระเบียงทุกระเบียงให้กับคอยล์ร้อนของแอร์ สุขภัณฑ์ให้ของ TOTO และ Grohe มีฉากกั้นอาบน้ำ และ ระบบทำน้ำร้อนมาให้
สำหรับการออกแบบโครงการนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี มีการวางแนวความคิดและนำมาใช้ตกแต่งในส่วนต่างๆของอาคารได้ดี แนวคิดในการออกแบบของโครงการนี้คือ Shades of Living เป็นการออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติโดยใช้ร่มเงาของต้นไม้ มีการเน้นพื้นที่สีเขียวโดยเก็บต้นไม้เดิมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด การตกแต่งจะเน้นใช้วัสดุที่มาจากธรรมชาติหรือทดแทนธรรมชาติเช่นไม้ หิน มีการใช้ระแนงทำลวดลายเป็นร่มเงาของไม้ตกแต่งตัวอาคารและในห้องพัก และในห้องเน้นให้มีพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ในออกมาสูดอากาศและปลูกต้นไม้ได้ การวางผังห้องทำได้ดีคือมีการแบ่งPublic และ Private Zone ให้ห้อง ทำให้เวลาอยู่อาศัยจริงๆในส่วนของห้องนอนจะค่อนข้างเป็นส่วนตัว การแบ่งห้องพักในอาคารห้อง 3 ห้องนอนและ Duplex จะแยกออกมาอยู่ในอาคาร B ซึ่งไม่มีส่วน Facilities ทำให้เป็นส่วนตัวกว่า
สาธารณูปโภคจัดมาให้ตามมาตรฐานทั่วไป ไม่ได้มีมากเป็นพิเศษแต่น่าจะพอเพียงต่อการใช้งาน คือมีสวนหย่อมที่เน้นเก็บต้นไม้ใหญ่ของเดิมเอาไว้ Lobbyแยกอาคาร ชั้น 2 ของอาคาร A จะมี ฟิตเนส สระว่ายน้ำที่มีทั้งสระผู้ใหญ่ สระเด็ก และ Jacuzzi นอกจากนั้นยังมีห้องเอนกประสงค์ ห้องน้ำ และ Steam&Sauna ค่าส่วนกลางของโครงการนี้คือ 48 บาท/ตร.ม. ซึ่งก็อยู่ในระดับกลางๆค่อนข้างสูงไปนิด ต้องดูการบริหารของนิติบุคคลในระยะยาวอีกที
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 120,000 บาท/ตร.ม., 2 August 2016
- ทำเล 7.75/10 – ทำเลเงียบสงบ แต่เมื่อเทียบกับราคายังค่อนข้างสูงอยู่ และเหมาะกับคนเฉพาะกลุ่มที่ชอบทำเลในเมืองแต่ Privacy สูง
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางเข้าเมืองสะดวก มีเส้นทางลัดเลาะออกถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วน
- ไม่ใช้รถ 7/10 – ค่อนข้างลำบากหน่อยเพราะต้องเข้าซอยลึก
- วัสดุ 7.25/10 – ให้ของค่อนข้างดี เฟอร์นิเจอร์เป็นแบบ Fully – Fitted
- แบบ 8.5/10 – ออกแบบมาได้เหมาะสำหรับคนเฉพาะกลุ่ม พื้นที่ใช้สอยจัดเต็มและคงแนวความคิดไว้อย่างดี
- สาธารณูปโภค 7.25/10 – ได้ครบตามมาตรฐาน แต่ด้วยขนาดพื้นที่จำกัดจึงไม่ได้ใหญ่มากค่ะ
- HIGH CLASS
- 7.63 / 10.00
BOTTOM LINE
Supreme Legend เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดอารมณ์บ้าน ที่มีห้องขนาดใหญ่และมีความ Private สูง เพื่อนบ้านน้อยๆ เน้นใช้รถส่วนตัวเป็นหลัก ทำเลเข้าออกเมืองสะดวก ชอบพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ไม่เน้นพื้นที่ส่วนกลางมากนัก อยากได้ที่จอดรถแบบ Fix คัน มีงบประมาณระดับ 15 ล้านบาทขึ้นไป
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )