โครงการ THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) คอนโดพร้อมอยู่ โครงการใหม่ล่าสุด บนทำเลใกล้สาทร ใกล้ทางด่วน เดินทางสะดวก ความอุดมสมบูรณ์ครบ ยูนิตน้อยเป็นส่วนตัว โครงการมาพร้อมสไตล์โดดเด่นทั้งส่วนกลางและห้องพักอาศัย ที่จัดมาให้ครบแบบพร้อมอยู่ ปัจจุบันราคาเริ่มต้นที่ 2.2x ล้านบาท* โดยมี Highlights ของโครงการ ดังนี้
- ทำเล : คอนโดใกล้สาทร ย่านชุมชนมีความอุดมสมบูรณ์สูง หาของกินของใช้ง่าย เดินทางสะดวกประหยัดเวลาในการเดินทางเข้าเมืองไปทำงานย่านสาทร อีกทั้งยังสามารถขับรถไปเชื่อมต่อถนนสำคัญหลายเส้นทาง ถนนสาทร ถนนสาธุประดิษฐ์ ถนนเจริญกรุง ถนนพระราม 3 และยังอยู่ระหว่างทางด่วนศรีรัช และทางด่วนเฉลิมมหานคร หรือไปใช้รถไฟฟ้าสถานีสุรศักดิ์ ให้เลือกใช้งานได้
- ราคา : คอนโด Low Rise อยู่ในโซนถนนจันทน์ มีห้องหลายขนาดที่ราคาเข้าถึงง่าย เริ่มต้นที่ 2 ล้านกว่าบาทเท่านั้น ถ้ามีงบประมาณต่ำกว่า 3 ล้านบาท และอยากได้คอนโดที่ใกล้สาทร โครงการนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ
- ห้องพักอาศัย : ได้ความเป็นส่วนตัวเพราะยูนิตน้อย แต่มีห้องให้เลือกหลายแบบ หลายขนาด ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้หลากหลาย ทั้งแบบ Studio , 1 Bedroom ไปจนถึงห้องแบบ 2 Bedroom อยู่แบบครอบครัวได้ มี Personal storage ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของให้ทุกห้อง จัดฟังก์ชันในห้องได้ลงตัว แบ่งโซนการใช้งานเป็นสัดส่วน และมีห้องที่มีครัวแบบปิดให้ทำอาหารแบบจริงจังได้
- ส่วนกลาง : จัดมาให้ครบน่าใช้งาน แยกส่วนกับชั้นพักอาศัยไว้เรียบร้อย แบ่งโซนแยกการใช้งานได้ดี ใช้ Auto Door ในจุดเข้า-ออกต่างๆเป็น Touchless condo เข้า-ออกได้โดยไม่ต้องสัมผัส ใช้งานได้อย่างปลอดภัยตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน
ข้อมูลโครงการ
THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) ณ วันที่ 1 เมษายน 2567
ชื่อโครงการ | THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท ธนาแลนด์ จำกัด |
SEGMENT CLASS | MAIN CLASS (รายละเอียดของ Segment คอนโดปี 2023 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ซอยจันทน์ 43 (ซอยวัดไผ่เงิน) ระหว่างแยก 15 และ 17 |
ที่ดิน | 1 – 0 – 67 ไร่ |
ประเภทคอนโด | Low Rise 8 ชั้น + ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น รวม 1 อาคาร |
จำนวนยูนิต | 154 ยูนิต |
ยูนิตต่อชั้นสูงสุด | 23 ยูนิต |
ที่จอดรถ | 68 คัน (44%) ไม่รวมจอดซ้อนคัน |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2564 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | สร้างเสร็จสมบูรณ์ และจดทะเบียนอาคารชุดเรียบร้อย |
ประเภทห้องพัก |
|
ฝ้าเพดานสูง | 2.45 เมตร |
ราคาเริ่มต้น | 2.2x ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการ | 91,000 บาท/ตร.ม. |
ช่วงราคาต่อตารางเมตร(ต่ำสุด-สูงสุด) | 86,000 – 94,000 บาท/ตร.ม. |
EIA (ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) | ผ่านแล้ว |
เว็บไซต์โครงการ | www.thanaland.co.th/ธนาแอสทรา |
Call Center | 02 212 2221 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัดโครงการ Google Maps : 13.7029921 , 100.520242
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการ THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์)
THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) ตั้งอยู่ในซอยจันทน์ 43 หรือเรียกอีกชื่อว่าซอยวัดไผ่เงิน แม้จะเป็นซอยย่อยแต่ก็เรียกได้ว่าเป็นซอยย่อยที่ใหญ่คนใช้งานกันอยู่เสมอ เพราะเป็นซอยที่เชื่อมต่อได้ทั้งถนนจันทน์และถนนสาธุประดิษฐ์ ทำให้มีความคึกคักสูง มีรถสองแถวผ่าน มีโรงเรียน วัดสำหรับชาวพุทธ โบสถ์สำหรับชาวคาทอลิก ร้านค้าร้านอาหารตลอดสองข้างทางภายในซอย และมี Community mall อยู่ภายในซอยที่มีชื่อว่ากรีนเพลส ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งโครงการ สามารถเดินมาจากโครงการแวะซื้อของกินของใช้ได้สะดวกมากๆ
ถนนจันทน์ถือเป็นโซนชุมชนดั้งเดิมขนาดใหญ่ มีผู้คนอยู่อาศัยมากมาย รูปแบบที่อยู่อาศัยมักจะเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์แบบเก่า อยู่อาศัยไปด้วยทำมาค้าขายไปด้วย ทำให้เรื่องการหาอาหารการกินทำได้ไม่ยาก ด้วยทำเลที่ค่อนข้างใกล้ใจกลางย่านธุรกิจอย่างสาทร ทำให้เป็นอีกโซนที่มีคอนโดเกิดขึ้นรองรับความต้องการทางด้านที่อยู่อาศัยของคนที่ทำงานย่านสาทรนั่นเอง
ในแง่การเดินทางทำเลนี้เป็นทำเลที่ถือว่าสะดวกในการเดินทางมาก สามารถลัดเลาะไปยังถนนสาทร ถนนสาธุประดิษฐ์ ถนนเจริญกรุง ถนนพระราม 3 และยังอยู่ระหว่างทางด่วนศรีรัชและทางด่วนเฉลิมมหานคร เลือกใช้ได้หลายเส้นทาง ซึ่งจุดนี้เองก็เป็นข้อดีของโครงการนี้ด้วย เนื่องจากโครงการคู่แข่งรอบๆจะอยู่บนทำเลที่เข้าถึงการเดินทางที่สะดวกได้ไม่เท่า THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์)
ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์ ถ้ามองในแง่อาหารการกิน บนถนนจันทน์เอง และภายในซอยวัดไผ่เงินก็ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก มี Community mall ให้จับจ่าย มีร้านอาหารแนว Street food หลากหลายให้เลือกกินได้ไม่ซ้ำ เรียกได้ว่าหากินได้สบายกว่าคอนโดใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่ข้ามไปยังฝั่งธนหลายๆสถานี ในส่วนสถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานที่ทำงานส่วนใหญ่ก็จะอยู่บริเวณสาทรเป็นหลัก ซึ่งทำเลนี้ก็นับว่าใกล้ นั่งรถสองแถว 8 บาท ก็ไปยังรถไฟฟ้าเซนต์หลุยส์หรือสุรศักดิ์ได้เลย
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บรรยากาศภายในซอยจันทน์ 43 หรือว่าซอยวัดไผ่เงินถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์สูง มีคนอยู่อาศัย เข้า-ออกภายในซอยตลอด สภาพอาคารส่วนใหญ่จึงเป็นอาคารพาณิชย์ที่เป็นที่อยู่อาศัยภายในตัว
รอบๆที่ตั้งของ THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) เรียกได้ว่าอยู่ติดถนนถึง 3 ด้าน แม้จะไม่ใช่ถนนใหญ่แต่มีประโยชน์ในการทำให้ตัวอาคารของโครงการไม่ได้อยู่ใกล้กับอาคารอื่นในระยะประชิดมาก พอมีระยะให้หายใจไม่ใช่เปิดหน้าต่างมาก็เจอเพื่อนบ้านได้
เรามาดูว่าแต่ละด้านของที่ดินติดกับอะไรบ้าง
- ทิศเหนือ : ติดกับ อาคาร 5 ชั้น
- ทิศใต้ : ติดกับ ถนนซอยวัดไผ่เงิน
- ทิศตะวันออก : ติดกับ ถนนซอย เลยถัดไปเป็นโรงเรียน
- ทิศตะวันตก : ติดกับ ถนนซอย เลยถัดไปเป็นอาคารสูง 3-4 ชั้น และบ้านพักอาศัย
ตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการ เป็นอาคาร 2 ชั้น ส่วนมากเปิดเป็นร้านค้าต่างๆ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ตลาด/ศูนย์การค้า
- กรีนเพลส ~ 140 เมตร
- วนิลามูน ~ 1.3 กม.
- เซ็นทรัลพระราม 3 ~ 2.4 กม.
- โรบินสันบางรัก ~ 3 กม.
- เทสโก้ โลตัส พระราม 3 ~ 3.5 กม.
- เอเชียทีค ~ 3.6 กม.
- โฮมโปร พระราม 3 ~ 3.6 กม.
โรงพยาบาล
- รพ. เซนต์หลุยส์ ~ 2.6 กม.
- รพ. BNH ~ 4.2 กม.
- รพ. เลิดสิน ~ 4.4 กม.
โรงเรียน
- รร.เบญจวรรณศึกษา ~ 40 เมตร
- รร.พระแม่มารี ~ 600 เมตร
- รร.นานาชาติ Shrewsbury ~ 2.7 กม.
- รร.กรุงเทพคริสเตียน ~ 3 กม.
- รร.อัสสัมชัญ ~ 4.1 กม.
อื่นๆ
- ทางด่วนเฉลิมมหานคร ~ 2.3 กม.
- ทางด่วนศรีรัช ~ 2.4 กม.
- BRT ถนนจันทน์ ~ 2.4 กม.
- BTS เซนต์หลุยส์ ~ 2.5 กม.
- BTS สุรศักดิ์ ~ 3 กม.
- BTS ช่องนนทรี ~ 3.6 กม.
รายละเอียดโครงการ
THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) เป็นคอนโด Low Rise 1 อาคาร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 1 ไร่นิดๆ รวม 154 ยูนิต จัดเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มากมียูนิตไม่เยอะ ทำให้เป็นโครงการที่ไม่หนาแน่นและได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย และสามารถดูแลจัดการได้ง่าย สำหรับโครงการนี้มีแนวความคิดในการออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจากประกายดาวในยามค่ำคืน พ้องกับชื่อโครงการที่ว่า แอสทรา(Astra) ซึ่งเป็นภาษาละตินแปลว่าดวงดาว ซึ่งดีไซน์ของอาคารทั้งภายในและภายนอกอาคารจึงนำเอา Prism มาใช้แทนประกายดาว และถูกออกแบบให้ดู Luxury Modern ขึ้นมา ช่วยเพิ่มบรรยากาศในการอยู่อาศัยมากขึ้น
สำหรับที่ดินของโครงการจะมีรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ลึกเข้าไปจากถนนหลัก(ซอยจันทน์ 43 หรือซอยวัดไผ่เงิน) ที่ดินโครงการนี้จะมีถนนซอยขนาบด้านข้างถึง 3 ฝั่ง โดยเปิดทางเข้า-ออกโครงการอยู่ฝั่งเดียวคือถนนจันทน์ 43 ซึ่งเป็นถนนหลัก โดยตัวอาคารจะมีผังเป็นรูปตัว U ด้านแคบติดถนนใหญ่ และยาวลึกเข้าไป มี court หรือช่องว่างตรงกลางอาคาร ที่จะทำเป็นพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ
ที่ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางและที่จอดรถเป็นหลัก โดยที่จอดรถจะเป็นแบบ on ground หรือจอดในซองปกติ มีที่จอดรถทั้งหมด 2 ชั้น ชั้น1 และชั้นใต้ดิน รวมที่จอดรถทั้งหมดจะมี 68 คันหรือประมาณ 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน จุดที่น่าสนใจคือจะมี Car wash & Tire Inflation หรือจุดล้างรถและเติมลมยาง ที่ลูกบ้านในโครงการสามารถมาใช้งานได้ง่ายด้วยตนเอง ปกติแล้วจะไม่ค่อยเห็นฟังก์ชันแบบนี้ในโครงการคอนโดอื่นๆ ถือว่าทางโครงการคิดเรื่องการใช้งานที่สะดวกกับลูกบ้านมาดีมากๆ
นอกจากที่จอดรถและก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆอีก คือ Prism Foyer โถงต้อนรับสูงแบบ Double volume และ Garden trail เป็นสวนทางเดินออกกำลังกายเล็กๆข้างอาคารให้มาใช้งาน เพิ่มบรรยากาศพื้นที่สีเขียวให้กับโครงการ
บรรยากาศทางด้านหน้าของโครงการตอนกลางคืน โครงการมีการออกแบบแสงและวัสดุตกแต่งต่างๆ ทั้งป้ายชื่อโครงการและแสงที่สะท้อนสีทองจากตัวอาคารทำให้ดูโดดเด่นในเวลากลางคืนมากยิ่งขึ้น
ทางเข้าหลักของโครงการจะอยู่ติดกับซอยจันทน์ 43 มีป้ายชื่อโครงการบอกไว้ชัดเจน ทางเข้ารถกับทางเดินคนจะเข้าทางเดียวกัน
เริ่มที่บริเวณทางเข้าโครงการจะมีรปภ. คอยช่วยอำนวยความสะดวก ติดไม้กระดกอัตโนมัติสำหรับลูกบ้านสามารถเข้า-ออกได้สะดวก และมีกล้อง CCTV คอยบันทึกการเข้า-ออกไว้
ติดกับทางเข้าที่จอดรถ จะมีประตูหลักเข้าสู่พื้นที่ด้านในของตัวอาคาร โดยการเข้ามาภายในอาคารก็จะมีระบบประตูทางเข้าที่เปิด-ปิดอัตโนมัติเพื่อสร้างให้คอนโดนี้เป็น Touchless condo เข้า-ออกได้โดยไม่ต้องสัมผัส ใช้งานได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
เลยถัดเข้ามาด้านในที่จอดรถจะมีประตูเข้าพื้นที่ด้านในโครงการอีก 1 ตำแหน่ง โดยจะเชื่อมต่อกับบริเวณโถงลิฟต์ เพื่อให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น หากต้องขนของจากรถเข้ามาด้านในสามารถเลือกใช้ประตูนี้ได้เลย ไม่ต้องเดินผ่านส่วน Prism Foyer หรือโถงต้อนรับ ทางด้านหน้า
เข้ามาที่บริเวณโถงลิฟต์ก็จะมีระบบประตูทางเข้าที่เปิด-ปิดอัตโนมัติเพื่อสร้างให้คอนโดนี้เป็น Touchless condo เข้า-ออกได้โดยไม่ต้องสัมผัสเช่นกัน
Car wash - Tire Inflation
Car wash & Tire Inflation หรือจุดล้างรถและเติมลมยาง ที่ลูกบ้านในโครงการสามารถมาใช้งานได้ง่ายด้วยตนเอง
เมื่อเข้ามาด้านในสุดของพื้นที่โครงการจะมีทางลงไปชั้นจอดรถใต้ดิน ส่วนทางด้านของจะเป็น Garden trail ที่จะมีแนวยาวมาจากทางด้านโครงการมาถึงทางด้านหลัง ให้เราได้มีพื้นที่สีเขียวในโครงการไว้เดินเล่นพักผ่อนได้
บริเวณด้านข้างของโครงการจะมีทางเดินลัดเลาะรอบ Foyer มายังสวน Garden trail ที่อยู่ข้างอาคารได้ ตรงนี้จะเห็นว่าทางโครงการได้ออกแบบให้ทั้งตัวอาคารและ Landscape มีเหลี่ยมมุมต่างๆ เหมือนกับรูปทรงของ Prism ด้วย Garden Trail ด้านข้าง ลูกบ้านสามารถมาเดินเล่นผ่อนคลายใกล้ชิดธรรมชาติที่บริเวณนี้ได้
เข้ามาภายในอาคารจะเจอกับ Prism Foyer หรือโถงต้อนรับที่สูง 2 ชั้น (double volume) โทนการตกแต่งพื้นที่โซนนี้จะเลือกใช้โทนสี Rose gold และ Deep space blue ในการออกแบบ ให้เหมือนอยู่ในห้วงอวกาศ และเลือกใช้โคมระย้ารูปทรงเหมือน Aurora ในการตกแต่งด้วย
ต่อเนื่องกับส่วนที่เป็น Foyer เราจะเจอกับ Lobby จัดไว้เป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อน ที่มีความสูงระดับปกติให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นส่วน Mail Box ซึ่งตำแหน่งจะอยู่ใกล้กับโถงลิฟต์ จึงสะดวกต่อการใช้งาน ก่อนลูกบ้านจะขึ้นไปชั้นพักอาศัย สามารถมาดู Mail Box ของตนเองได้สะดวก ก่อนขึ้นไปห้องของตัวเอง
เข้ามาก็จะเป็นโถงลิฟต์ของโครงการ โดยจะมีลิฟต์โดยสารให้ใช้งาน 2 ตำแหน่ง ซึ่งภายในลิฟต์ก็ใช้ระบบ Touchless condo เข้า-ออกได้โดยไม่ต้องสัมผัส เช่นกัน
ผังชั้นใต้ดินจะเป็นที่จอดรถทั้งหมด โดยลิฟต์โดยสารจะลงมาถึงชั้นใต้ดินเลย ทำให้คนที่จอดรถชั้นนี้สามารถใช้ขึ้นห้องพักอาศัยได้เลย โดยตัวลิฟต์จะเป็นระบบลิฟต์ล็อคชั้น ต้องใช้ Keycard scan ในการขึ้นไปยังชั้นพักอาศัย
สำหรับที่จอดรถชั้นใต้ดินจะเป็นทางลาดเอียง ออกแบบให้สามารถขับรถสวนทางกัน ขึ้น-ลง ได้สะดวก
ลงมาด้านล่างออกแบบที่จอดรถไว้สองฝั่ง สามารถถอยรถเข้า-ออก ช่องจอดได้สะดวก โดยโครงการจะเปิดไฟสว่างไว้ตลอดใช้งานได้ง่าย
ที่จอดรถชั้นใต้ดิน
จากที่จอดรถชั้นใต้ดิน จะมีประตูเข้าพื้นที่ด้านในโครงการอีก 1 ตำแหน่ง โดยจะเชื่อมต่อกับบริเวณโถงลิฟต์ เพื่อให้สะดวกในการใช้งานสามารถขึ้นไปชั้นพักอาศัยได้เลย
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นชั้นของที่พักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการ พื้นที่ส่วนกลางจะประกอบไปด้วย Co-working space, Fitness, Living lounge สระว่ายน้ำที่มีทั้งสระปกติ สระเด็กและ jacuzzi โดยที่ชั้นนี้จะมีห้องน้ำห้องอาบน้ำและ sauna รองรับคนที่มาใช้งานส่วนกลางต่างๆด้วย
สระว่ายน้ำจะอยู่กลางแจ้ง ตัวอาคารที่เป็นรูปตัว U จะโอบล้อมสระว่ายน้ำเอาไว้ ซึ่งตัวสระนี้ก็จะเป็นวิวหลักให้กับห้องพักอาศัยของโครงการ
สระว่ายน้ำที่นี่จะเป็นระบบเกลือ ขนาด 8×20 เมตร พร้อมสระเด็กและ jacuzzi ด้วยขนาดถือว่ายาวกว่า สระว่ายน้ำของโครงการ Low Rise 1 อาคารขนาดเล็กทั่วไป สามารถใช้ว่ายน้ำออกกำลังกายได้ ส่วนพื้นที่โดยรอบตัวสระจะมีแนวไม้พุ่มรอบๆตัวสระอยู่ ตรงนี้ก็จะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับคนที่มาใช้สระว่ายน้ำ
ติดกับสระว่ายน้ำจะจัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนริมสระ ช่วงบ่ายของวันจะได้แนวร่มจากตัวอาคารพอดี สามารถมาว่ายน้ำได้สบายๆ แดดไม่ร้อน
ติดกับสระว่ายน้ำจะเป็นห้องน้ำ-อาบน้ำ ส่วนกลางของโครงการ แบ่งการใช้งานชาย-หญิง ไว้ให้เรียบร้อย ว่ายน้ำเสร็จก็เดินมาใช้งานได้สะดวก
ห้องน้ำชาย
ภายในมีห้องน้ำชายจะแบ่งโซนการใช้งานมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และ Locker เตรียมไว้ให้ครบ และด้านในสุดจะมีห้องซาวน่าไว้ให้ใช้งานอีกด้วย
ห้องน้ำหญิง
ภายในมีห้องน้ำหญิง จะแบ่งโซนการใช้งานมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มีเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า และ Locker เตรียมไว้ให้ครบ และด้านในสุดจะมีห้องซาวน่าไว้ให้ใช้งานเช่นกัน
ถัดเข้ามาด้านในตัวอาคารจะเป็นส่วน Living Lounge จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนในชั้นนี้ ซึ่งจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่าโซน lobby ชั้น 1 ที่มีคนเดินผ่านเข้า-ออกไปมา โดยพื้นที่ตรงนี้ก็ออกแบบมาดูสวยงาม ได้วิวสระว่ายน้ำด้วย มานั่งเล่นหรือเอางานมานั่งทำ เอาหนังสือมานั่งอ่าน หยิบมือถือมานั่งเล่นตรงนี้ได้
มีที่นั่งให้เลือกใช้งานได้ โดยภายในจะเน้นความโปร่งโล่งโดยใช้กระจกกั้นพื้นที่แบ่งโซนการใช้งาน ได้แสงธรรมชาติจากสระว่ายน้ำทางด้านข้างในเวลากลางวัน
ถัดมาเป็นส่วน Ignite fitness ห้องออกกำลังกายที่ถือว่าเป็นฟังก์ชันมาตรฐานของทุกคอนโดมิเนียม ภายในมีการจัดเครื่องเล่นให้เลือกใช้หลายประเภทให้เลือกใช้งานตามความชอบได้
ภายใน Ignite fitness มีเครื่องออกกำลังกายครบ พื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้างใช้งานได้สะดวก
มุมมองจาก Ignite fitness จะมองลงมาเห็นส่วน Lobby ที่ชั้น 1 ของโครงการได้
ถัดมาเป็นส่วน Co-Working & Meeting Space จะเป็นมุมทำงานที่เป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น มานั่งทำงานที่ต้องการสมาธิได้ หรือว่าจะติดต่อทางนิติบุคคลของจองห้องเพื่อประชุมกลุ่มก็รองรับ
ห้อง Co-Working & Meeting Space จะมีโซฟาและที่นั่งให้เลือกใช้งานกระจายตัวอยู่หลายจุด รอบห้องจะกั้นด้วยผนังกระจกช่วยให้ได้แสงธรรมชาติจากภายนอก ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งน่าใช้งานมากขึ้น
มุมมองจาก Co-Working & Meeting Space จะมองลงมาเห็นส่วน Lobby ที่ชั้น 1 ของโครงการได้เช่นกัน
บริเวณโถงลิฟต์ชั้น 2 จะแยกไปโซน Facilities ของโครงการได้ ออกจากลิฟต์มาจะเห็นสระว่ายน้ำได้เลย ส่วนอีกฝั่งของโถงลิฟต์จะเป็นประตูเชื่อมไปส่วนห้องพักอาศัยโดยจะมีระบบ Access Control ผ่านเข้า-ออกอาคารเพื่อความปลอดภัย มีการแยกโซนกันอย่างชัดเจน
ชั้น 3-7 จะเป็นห้องพักอาศัยเป็นหลัก โดยทุกชั้นพักอาศัยนั้นจะมี Personal storage เป็นฟังก์ชันใหม่ที่ไม่เคยเจอในโครงการไหนมาก่อน ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เป็นเหมือนห้อง Locker ส่วนตัวที่เราจะมีกุญแจส่วนตัว ช่องเก็บของส่วนตัวของเราเท่านั้น เป็นพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมนอกเหนือจากห้องพักอาศัยของเรา
ในส่วนของห้องพักอาศัย ตัวอาคารนั้นจะออกแบบให้มีผังเป็นรูปตัว U ซึ่งตัวห้องก็จะมีสองฝั่งขนาบทางเดินที่เป็นรูปตัว U เช่นกัน โดยห้องที่หันหน้าเข้ากลางโครงการจะได้วิวสระว่ายน้ำ ซึ่งก็มีแบบห้องทั้งที่เป็น Studio, 1 Bedroom และ 2 Bedroom ให้เลือก เช่นเดียวกับห้องที่หันออกนอกโครงการ โดยผังห้องของโครงการนี้ถือว่ามีแบบให้เลือกหลากหลายมากตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของแต่ละคนได้ เช่น ห้องที่ได้ครัวปิด หรือ ห้องที่ได้ครัวเปิด ห้องหน้ากว้าง อยู่คนเดียวก็ได้ หรืออยู่เป็นครอบครัวก็ได้ จุดที่น่าสนใจคือโดยทั่วไปตำแหน่งห้องที่วิวดีมักจะเป็นห้องขนาดใหญ่ของโครงการ แต่ที่ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์ จะมีห้อง studio ที่ได้วิวสระว่ายน้ำด้วย เรียกว่างบไม่มากอยากได้วิวสวยๆก็มีให้เลือก
ในชั้นพักอาศัยแต่ละชั้นจะมีการแบ่งโซนเพื่อทำเป็น Locker ส่วนตัวที่ โดยโครงการจะมีกุญแจส่วนตัวให้แต่ละห้อง ใช้งานเป็นช่องเก็บของส่วนตัวของเราเท่านั้น เป็นพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมนอกเหนือจากห้องพักอาศัยของเรา
Personal Storage เป็นพื้นที่เก็บของที่เราสามารถเอาข้าวของชิ้นใหญ่อย่างเช่นกระเป๋าเดินทางมาเก็บไว้ตรงนี้ได้เลย
จากบริเวณโถงลิฟต์จะเชื่อมต่อมาตามแนวทางเดินในส่วนพักอาศัย โดยแนวทางเดินจะเป็นทางยาวโดยมีห้องพักขนานอยู่ทั้งสองด้าน ติดไฟทางเดินแบบ Downlight มีหน้าต่างช่วงเวลากลางวันจึงไม่ต้องเปิดไฟ สามารถเปิดเพื่อให้ลมพัดผ่านถ่ายเทอากาศบริเวณนี้ได้ มีทางหนีไฟ และติดอุปกรณ์ตรวจจับควัน กริ่งสัญญาณแจ้งเตือนฉุกเฉิน และอุปกรณ์ระบบ Sprinkle ไว้ให้เรียบร้อย
ในส่วนของชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของโครงการ นอกจากห้องพักอาศัยแล้วยังมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานเช่นกัน โดยมีอยู่ 2 ฟังก์ชันคือ Lunar garden และ Sky bar
Sky bar เป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบมีหลังคาปกคลุมและมีเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นเคาน์เตอร์ยาวเหมือนอยู่ roof top bar หยิบเครื่องดื่มจากห้องมานั่งชิลล์กับเพื่อนตรงนี้ได้
Sky bar
Sky bar
บรรยากาศของ Sky bar ยามค่ำคืน ทางโครงการมีการประดับไฟตกแต่งไว้เพื่อความสวยงาม เราสามารถขึ้นมาชมวิวเมืองมุมสูงโดยรอบตอนกลางคืนได้
Lunar garden หรือว่าสวนชมจันทร์ เป็นพื้นที่นั่งเล่นดาดฟ้าที่สามารถมานั่งชมจันทร์ในยามค่ำคืนได้
บริเวณโดยรอบ Lunar garden ทางโครงการจะจัดที่นั่งไว้ให้เลือกนั่งพักผ่อนไว้หลากหลาย สามารถขึ้นมาใช้งานได้ทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืนก็จะได้บรรยากาศและความรู้สึกที่แตกต่างกันไป
ภาพวิวมุมสูงจากชั้นดาดฟ้าของโครงการ สามารถมองเห็นวิวเมืองโดยรอบไม่มีอาคารสูงมาบดบังทัศนียภาพ สามารถมองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ และในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ เราจะมองเห็นพลุจากที่นี่ได้ด้วยเช่นกัน
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
ชั้น 1
- Lobby : Prism Foyer โถงสูง 2 ชั้น สไตล์ Luxury Modern
- Garden + Garden trail (ทางเดินออกกำลังกายในสวน)
- Car wash (จุดล้างรถ)
- Tire Inflation (จุดเติมลมยาง)
ชั้น 2
- Co-working & Meeting Space (พื้นที่ทำงานพร้อม WIFI)
- Starlight Pool (สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 8×20 เมตร พร้อมสระเด็กและ Jacuzzi)
- Ignite Fitness
- Living Lounge
- Shower room & Sauna (ห้องอาบน้ำและห้องซาวน่า ชาย-หญิง)
ชั้น 8
- Sky bar
- Lunar garden (สวนชมจันทร์)
อื่นๆ
- Personal Storage ที่เก็บของส่วนตัวขนาดใหญ่ทุกยูนิต
- ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร แบบไร้สัมผัส
- อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 77 : 1
- ที่จอดรถประมาณ 68 คัน (44%) ไม่รวมซ้อนคัน
ระบบรักษาความปลอดภัย
- Keycard access ควบคุมการเข้า-ออกอาคารและลิฟต์
- พนักงานรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงและ CCTV
- Smoke detector และ Heat detector
- Fire alarm system สัญญาณเตือนอัคคีภัย
- ตู้ดับเพลิงพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิง
แบบห้อง
โครงการ THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) เป็นโครงการที่มีการออกแบบห้องให้เลือกเยอะมาก ค่อนข้างหลากหลายให้เลือกอยู่อาศัย ตั้งแต่ Studio , 1 Bedroom และ 2 Bedroom เราสามารถเลือกให้เหมาะกับจำนวนผู้อยู่อาศัย ขนาดครอบครัว ไปจนถึงไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน รูปแบบการขายจะเป็น Fully Fitted ที่มี Built-in ชั้นวางรองเท้า ตู้เสื้อผ้า ครัวมาให้ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ตัวอื่นๆ ทางโครงการจะมีโปรโมชันตามช่วงเวลา ให้สอบถามโครงการอีกครั้งนะคะ
รายการวัสดุที่ให้ภายในห้อง
- พื้น SPC (Stone Plastic Composite) เป็นพื้นไม้สำเร็จรูป มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทานกว่าพื้นลามิเนตทั่วไป
- ผนังฉาบเรียบทาสี
- ไฟ LED Downlight
- Top เคาน์เตอร์ครัวกรุหินแกรนิต
- หน้าบานชุดครัวเป็นไม้ pb กันน้ำ
- เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานของ Teka (เครื่องดูดควันใช้ระบบกรองกลิ่น)
- ห้องน้ำกรุพื้นและผนังด้วยกระเบื้องเซรามิค
- สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Cotto
- ปลั๊กไฟ และ สวิตช์ ของ Schneider
- Built-in ตู้รองเท้าและตู้เสื้อผ้า (ขึ้นอยู่กับรูปแบบห้อง)
- Promotion : แถมเฟอร์นิเจอร์ แบบ Built-in และแบบลอยตัวภายในห้อง (ระยะเวลาโปรโมชัน ตามโครงการกำหนด)
- Promotion : พิเศษช่วงสงกรานต์ 2567 แถมเครื่องใช้ไฟฟ้า 5 อย่าง ประกอบด้วย ทีวี ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องปรับอากาศ เครื่องทำน้ำอุ่น (เครื่องปรับอากาศ PANASONIC NANOE-G ระบบ Inverter กรองฝุ่น PM 2.5 ขนาด BTU ขึ้นอยู่กับรูปแบบห้อง)
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
1 Bedroom Type 1BW ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29.00-29.95 ตร.ม. เป็นห้องที่เหมาะกับอยู่อาศัย 1-2 คน ได้สบายๆ ภายในแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน จุดเด่นของห้องนี้คือการใช้การกั้นห้องนอนและส่วนห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ เป็นการช่วยแบ่งโซนการใช้งาน แต่ยังได้แสงธรรมชาติสว่างกระจายทั่วห้องทำให้ได้บรรยากาศที่สว่างโปร่งโล่งมากขึ้น อีกอย่างคือห้องนี้จะเน้นให้ความสำคัญกับส่วนพักผ่อนที่ต้องการความใช้งานต่อเนื่องกัน จากห้องนอนจะเชื่อมต่อไปส่วน Walk in closet และห้องน้ำของตัวห้องได้สะดวกและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนนั่งเล่น ทานอาหาร จะอยู่โซนใกล้กับส่วนครัว ซึ่งออกแบบเป็นครัวเปิด มีระยะให้ใช้งานครัวได้สะดวก ให้พื้นที่ระเบียงมีขนาดเหมาะกับการใช้งาน สำหรับตั้งเครื่องซักผ้า ตากผ้า และแขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศได้
เริ่มจากประตูทางเข้าห้องเป็นประตูไม้สำเร็จรูปพร้อมตาแมว และมือจับล็อคตามมาตรฐาน โดยพื้นห้องจะยกระดับสูงจากพื้นแนวทางเดินด้านนอกเล็กน้อยช่วยป้องกันฝุ่นละอองต่างๆจากพื้นเข้ามาในห้อง
เข้ามาด้านในตัวห้องจะเป็นพื้นที่ครัวที่เชื่อมต่อยาวไปถึงห้องนั่งเล่นของตัวห้อง ตัวห้องค่อนข้างโปร่งโล่งเพราะได้แสงธรรมชาติจากประตูบานเลื่อนกระจกส่องเข้ามาถึงด้านใน ปูพื้นด้วยพื้น SPC ลายไม้ (Stone Plastic Composite) เป็นพื้นไวนิลที่เกิดจากการผสมกันระหว่างหินปูนบดอัดเข้ากับพลาสติก ทำให้แข็งแรง ทนน้ำได้ดีมากขึ้น ป้องกันการลุกลามของไฟ และที่สำคัญคือ ปลวกหรือแมลงไม่กินอีกด้วย ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 m.
เมื่อเข้ามาด้านในบริเวณด้านหลังประตูจะติด Door Stopper ไว้ที่พื้นด้านล่างเพื่อป้องกันประตูเปิดแล้วชนกับชุดตู้ด้านข้าง เป็นตู้ Built-in ที่สูงจากพื้นถึงฝ้า มีหน้าบานปิดให้เรียบร้อย สามารถเก็บรองเท้าหรือของอื่นๆได้
ชุดตู้ Built-in
ความน่าสนใจของชุดตู้ Built-in ที่โครงการให้มาคือรายละเอียดฟังก์ชันในการเก็บของ ด้านบนเป็นชั้นวางของได้ 2 ระดับ มีที่สำหรับแขวนร่มไว้ให้ด้านใน ถัดมาเป็นช่องแบบเปิดโล่งให้วางของที่ต้องหยิบใช้เป็นประจำก่อนออกจากห้อง พร้อมที่แขวนพวงกุญแจ ด้านล่างเป็นชั้นวางรองเท้า โดยจะมีช่องระบายอากาศอยู่ทางด้านล่างไว้ให้ด้วย ถือว่าออกแบบมาให้ครบในการใช้งาน
โครงการจะให้ชุดครัวมาตราฐานแบบ Built In แบ่งพื้นที่ด้านข้าง ด้านบนทำเป็นตู้เก็บของทั้งหมดเรียกว่าใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า โดยมีระยะให้ยืนทำครัวกว้างประมาณ 1.45 m. ใช้งานได้สะดวก และมีพื้นที่ส่วนครัวให้วางตู้เย็นทางด้านข้างได้
ชุดครัวแบบ Built-in ตามแบบห้องตัวอย่าง
ส่วนครัวได้ชุดครัวแบบ Built-in ออกแบบมาให้พอดีกับขนาดของส่วนครัว มีช่องเก็บของให้ใช้งานหลากหลาย มีหน้าบานตู้ปิดให้เรียบร้อย ได้ชุดครัว ท็อปเคาน์เตอร์กรุหินแกรนิต ที่มีคุณสมบัติ มีความแข็งแรง และสามารถทนต่อความร้อนได้ดี ส่วนอ่างล้างจาน อุปกรณ์ก็อก ของ และ Hob&Hood ของ Teka ผนังด้านหลังกรุกระเบื้องโมเสค ลวดลายสวยงาม สามารถเช็ดทำความสะอาดหลังใช้งานครัวได้ง่าย
ตรงข้ามกับส่วนครัวจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร เชื่อมต่อไปส่วนนั่งเล่น พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างยืดหยุ่นในการใช้งาน เราสามารถจัดในแบบที่ชอบได้
ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟา 2-3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะรับแขกได้ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.7 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″ กำลังดี
ฝั่งตรงข้ามกับชุดโซฟา ทางโครงการจะมีชั้นวาง TV และที่วางของเฉพาะชิ้นล่าง มาให้พร้อมใช้งาน ตามในแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ
โครงการใช้บานเลื่อนกระจกเลื่อนเปิดออก 2 ฝั่ง ได้แสงจากหน้าต่างผ่านเข้ามาได้ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น กรอบจะเป็นอลูมิเนียมสีดำปกติ และใช้เป็นกระจกใสเราสามารถติดม่านเพิ่มเติมหากต้องการใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้
เข้ามาด้านในสุดจะเป็นห้องนอนพื้นที่ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงใช้งานได้สะดวก การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี
โดยภายในห้องนอนจะได้หน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ได้แสงธรรมชาติ พร้อมบานกระทุ้งกระจก 2 ฝั่ง สำหรับเปิดระบายอากาศรับลมได้เต็มที่
ส่วนบริเวณฐานเตียงด้านหนึ่งยังมีพื้นที่ให้เก็บของข้างใต้ได้อีก
ระยะด้านข้างเตียง
มีระยะระหว่างด้านข้างเตียงฝั่งประตูบานเลื่อนกว้างประมาณ 55 cm. ส่วนระยะริมฝั่งหน้าต่างกว้างประมาณ 55 cm. สามารถเดินรอบเตียง และขึ้นเดียว เปิดหน้าต่างได้สะดวก ส่วนระยะทางเดินระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 60 cm. แนะนำให้ติดทีวีไว้ที่ผนัง จะช่วยให้มีพื้นที่เดินได้สะดวกมากขึ้น
จากห้องนอนจะมีประตูเชื่อมไปอีกฝั่งของตัวห้องเป็นส่วน Walk in closet และห้องน้ำ ให้ใช้งานได้เป็นส่วนตัวและต่อเนื่องกัน
โดยจะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแบบนี้ ช่วยแบ่งโซนการใช้งานให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น เป็นประตูแบบแขวนไว้ด้านบน จึงไม่มีรางบนพื้นมาทำให้เดินสะดุดหรือเก็บฝุ่น
Walk-in Closet
เข้ามาจะเป็นส่วน Walk-in Closet สำหรับวางตู้เสื้อผ้า และทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ มีหน้าบานกระจกติดที่ตู้ให้ใช้งานดูความเรียบร้อยตอนแต่งตัว ตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าจะอยู่หน้าทางเข้าห้องน้ำพอดี ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องกัน มีระยะให้ใช้งานค่อนข้างกว้างประมาณ 1 m.
ถัดมาจะเป็นพื้นที่สำหรับวางชุดโต๊ะเครื่องแป้ง ตำแหน่งจะอยู่ใกล้บานเลื่อนกระจกพอดี ทำให้ได้แสงธรรมชาติเวลาแต่งหน้าด้วยค่ะ ส่วนประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องด้านในและพื้นที่ระเบียงจะได้แบบบานเลื่อน 3 ตอน เวลาเปิดใช้งานจะช่วยให้เปิดใช้งานได้กว้างมากกว่าแบบ 2 ตอน การเลือกใช้กระจากบานเลื่อนกระจกจะทำให้ห้องดูไม่มืดทึบ มีความโปร่งโล่งมากขึ้น
ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้อง ผนังฉาบปูนทาสี พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.42 x 1 m. พื้นที่สามารถตั้งเครื่องซักผ้า ใช้เป็นพื้นที่ซักล้างและตากผ้าเล็กๆ ส่วนฝ้าเพดานระเบียงจะไว้แขวน Condensing air ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงได้ ที่ Condensing air จะติดกริล เบี่ยงพัดลมแอร์ให้ลมร้อนออกไปนอกอาคารเวลาใช้งานระเบียงจะได้ไม่โดนลมร้อนตรงๆ
ส่วนห้องน้ำจะอยู่ทางด้านในของตัวห้อง ถัดจากส่วน Walk in closet
ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง สามารถใช้งานได้สะดวกมีการแบ่งโซนไว้ชัดเจนดี วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ โดยทางเข้าจะลดระดับลงมาเล็กน้อย เก็บงานทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในให้เรียบร้อย
ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ
โครงการติดตั้งชุดอ่างล้างหน้า และส่วนอุปกรณ์ก็อกน้ำ ของ Cotto มีพื้นที่ให้วางของเหนืออ่างได้ ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ Cotto เช่นกัน และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ ที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระไว้ในระยะที่หยิบใช้งานได้สะดวกไว้ให้พร้อมใช้งาน
ส่วนอาบน้ำ
ด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำมีพื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 1.1 x 0.8 m. พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ฝักบัว จาก Cotto แต่จะไม่ติดฉากกั้นอาบน้ำมาให้ อาจหาม่านอาบน้ำแบบในห้องตัวอย่างมาใช้ หรือจะติดเป็นฉากกั้นกระจกเพิ่มเองได้ โครงการจะมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้ (สอบถามโปรโมชันอีกครั้ง) ส่วนเพดานห้องน้ำของจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีพร้อมติดไฟแบบดาวน์ไลท์ และพัดลมดูดอากาศให้พร้อมใช้งาน
1 Bedroom Type 1BK ขนาดพื้นที่ใช้สอย 29.00-29.98 ตร.ม. ขนาดเหมาะกับอยู่อาศัย 1-2 คน กำลังดี ภายในแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วนชัดเจน ใช้การกั้นห้องนอนและส่วนห้องนั่งเล่นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้ได้บรรยากาศที่สว่างและโปร่งโล่งดี แถมยังมีห้องครัวปิดที่อยู่ติดกับระเบียง เปิดระบายอากาศได้ง่าย จึงเหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารทานเอง พื้นที่ในครัวมีพื้นที่สามารถใช้งานได้สะดวก ประตูทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ภายในห้องครัว ซึ่งเราสามารถเปิดเชื่อมต่อกับประตูระเบียง เพื่อระบายอากาศ/กลิ่น/ความชื้นได้ตลอดเวลา โดยแยกจากพื้นที่โซนพักผ่อนส่วนอื่นในห้องได้อย่างเป็นสัดส่วน พื้นที่ระเบียงมีขนาดเหมาะกับการใช้งาน สำหรับตั้งเครื่องซักผ้า ตากผ้า และแขวน Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศได้
เข้ามาด้านในตัวห้องส่วนแรกจะเป็นพื้นที่ของห้องนั่งเล่น ตัวห้องค่อนข้างโปร่งโล่งได้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาถึงด้านใน ปูพื้นด้วย SPC ภายในห้องจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 m.
เมื่อเข้ามาด้านในบริเวณด้านหลังประตูจะติด Door Stopper ไว้ที่พื้นด้านล่างเพื่อป้องกันประตูเปิดแล้วชนกับชุดตู้ด้านข้าง เป็นตู้ Built-in ที่สูงจากพื้นถึงฝ้า มีหน้าบานปิดให้เรียบร้อย สามารถเก็บรองเท้าหรือของอื่นๆได้
ถัดเข้ามาจะเป็นส่วนห้องนั่งเล่นสามารถตั้งชุดโซฟา 2 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะรับแขกได้ ส่วนระยะห่างจากโซฟาถึงตำแหน่งติดตั้งทีวี อยู่ที่ประมาณ 2.7 m. ในระยะประมาณนี้เราสามารถเลือกทีวีขนาด 40″- 45″ กำลังดี
ตรงข้ามกับชุดโซฟา ทางโครงการจะมีชั้นวาง TV และที่วางของเฉพาะชิ้นล่าง มาให้พร้อมใช้งาน ตามในแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ
ถัดจากส่วนนั่งเล่นจะเป็นส่วนรับประทานอาหาร ที่จะเชื่อมต่อกันสามารถวางชุดโต๊ะแบบ 2 ที่นั่งได้ พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างยืดหยุ่นในการใช้งาน และยังมีพื้นที่เหลือว่างอีกเยอะ เราสามารถจัดในแบบที่ชอบได้
เข้ามาด้านในห้องโครงการใช้บานเลื่อนกระจกเลื่อนแบบ 3 ตอน ได้แสงจากหน้าต่างผ่านเข้ามาได้ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น กรอบจะเป็นอลูมิเนียมสีดำปกติ และใช้เป็นกระจกใสเราสามารถติดม่านเพิ่มเติมหากต้องการใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้นได้
เข้ามาด้านในสุดจะเป็นห้องนอนพื้นที่ภายในสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วเหลือพื้นที่รอบเตียงใช้งานได้สะดวก การวางตำแหน่งห้องนอนลักษณะนี้ จะมีข้อดีตรงตำแหน่งห้องนอนจะอยู่ฝั่งริมติดหน้าต่าง ทำให้สามารถเปิดรับลมและแสงธรรมชาติได้ดี
โดยภายในห้องนอนจะได้หน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ได้แสงธรรมชาติ พร้อมบานกระทุ้งกระจก 2 ฝั่ง สำหรับเปิดระบายอากาศรับลมได้เต็มที่
ด้านข้างเตียงจะมี Built-in ตู้เสื้อผ้า เน้นพื้นที่เก็บของ เก็บเสื้อผ้า ข้าวของได้ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน แบ่งช่องเก็บของให้เลือกใช้งานได้หลากหลายดี และมีพื้นที่หน้าตู้เสื้อผ้าให้ใช้งานได้สะดวกยืนแต่งตัว และวางชุดโต๊ะเครื่องแป้งได้
ส่วนบริเวณฐานเตียงด้านหนึ่งยังมีพื้นที่ให้เก็บของต่างๆได้
ส่วนระยะทางเดินระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 60 cm. แนะนำให้ติดทีวีไว้ที่ผนัง จะช่วยให้มีพื้นที่เดินได้สะดวกมากขึ้น
ถัดมาเป็นส่วนครัวปิด มีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแบบนี้ ทำให้ช่วยป้องกันกลิ่น/ควันจากการทำอาหาร ไม่ให้ลอยฟุ้งเข้ามาในห้องได้ โดยจะเป็นประตูแบบแขวนไว้ด้านบน จึงไม่มีรางบนพื้นมาทำให้เดินสะดุดหรือเก็บฝุ่น
โครงการออกแบบพื้นที่ครัวปิดขนาดเหมาะกับการใช้งาน ตำแหน่งครัวอยู่ติดกับระเบียง ซึ่งเราสามารถเปิดประตูเพื่อระบายกลิ่น/ควันออกไปภายนอกโดยตรงได้เลย จึงเป็นแบบห้องที่เหมาะกับคนชอบทำอาหารจริงจังได้ มีระยะให้ใช้งานค่อนข้างกว้างประมาณ 1 m.
ชุดครัวแบบ Built-in ตามแบบห้องตัวอย่าง
ส่วนครัวได้ชุดครัวแบบ Built-in ออกแบบมาให้พอดีกับขนาดของส่วนครัว มีช่องเก็บของให้ใช้งานหลากหลาย หน้าบานตู้ปิดให้เรียบร้อย ได้ชุดครัว ท็อปเคาน์เตอร์กรุหินแกรนิต ที่มีคุณสมบัติ มีความแข็งแรง และสามารถทนต่อความร้อนได้ดี ส่วนอ่างล้างจาน อุปกรณ์ก็อก ของ และ Hob&Hood ของ Teka ผนังด้านหลังกรุกระเบื้องโมเสค ลวดลายสวยงาม สามารถเช็ดทำความสะอาดหลังใช้งานครัวได้ง่าย
ประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างส่วนครัวและพื้นที่ระเบียงจะได้แบบบานเลื่อน 3 ตอน เวลาเปิดใช้งานจะช่วยให้เปิดใช้งานได้กว้างมากกว่าแบบ 2 ตอน การเลือกใช้กระจากบานเลื่อนกระจกจะทำให้ได้แสงธรรมชาติ ห้องดูไม่มืดทึบ มีความโปร่งโล่งมากขึ้น
ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้อง ผนังฉาบปูนทาสี พื้นที่ระเบียงมีขนาดประมาณ 1.5 x 1.1 m. พื้นที่สามารถตั้งเครื่องซักผ้า ใช้เป็นพื้นที่ซักล้างและตากผ้าเล็กๆ ส่วนฝ้าเพดานระเบียงจะไว้แขวน Condensing air ช่วยประหยัดพื้นที่ระเบียงได้ ที่ Condensing air จะติดกริล เบี่ยงพัดลมแอร์ให้ลมร้อนออกไปนอกอาคาร
ส่วนห้องน้ำจะอยู่ทางด้านในของตัวห้อง ถัดจากส่วนครัว
ภายในห้องน้ำจัดแบ่งการใช้งานส่วนเปียกและส่วนแห้ง สามารถใช้งานได้สะดวกมีการแบ่งโซนไว้ชัดเจนดี วัสดุปูพื้นและผนังเป็นกระเบื้องทั้งหมด ให้ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา และให้สุขภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำครบ โดยทางเข้าจะลดระดับลงมาเล็กน้อย เก็บงานทำขอบตัวจบระหว่างพื้นห้องน้ำและพื้นที่ห้องด้านในให้เรียบร้อย
ชุดสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ
โครงการติดตั้งชุดอ่างล้างหน้า และส่วนอุปกรณ์ก็อกน้ำ ของ Cotto มีพื้นที่ให้วางของเหนืออ่างได้ ถัดมาเป็นชุดโถสุขภัณฑ์ เป็นของ Cotto เช่นกัน และติดตั้งอุปกรณ์อื่นๆ ได้แก่ ที่ใส่กระดาษชำระและสายชำระไว้ในระยะที่หยิบใช้งานได้สะดวก ด้านในสุดเป็นส่วนอาบน้ำมีพื้นที่ส่วนอาบน้ำประมาณ 1.4 x 0.8 m. พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ฝักบัว จาก Cotto ส่วนเพดานห้องน้ำของจะเป็นฝ้าฉาบเรียบทาสีพร้อมติดไฟแบบดาวน์ไลท์ และพัดลมดูดอากาศให้พร้อมใช้งาน
1 Bedroom Type 1E ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.00 ตร.ม. เป็นแปลนห้องที่แตกต่างจากห้องอื่นๆ เพราะเป็นรูปตัว L อยู่มุมอาคาร สามารถแบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วนคือห้องนอน+ห้องน้ำ มีผังที่ยาว ได้ตู้เสื้อผ้าที่ใหญ่มาก ห้องนอนมีระเบียงส่วนตัว มีหน้าต่าง 2 ฝั่งระบายอากาศได้ดี และห้องน้ำก็ได้หน้าต่างเช่นกัน ส่วนพื้นที่อื่นๆเช่นครัว กินข้าว นั่งเล่นจะรวมกัน แต่ก็ยังสามารถกั้นแบ่งให้เป็นครัวปิดได้ในอนาคตได้
1 Bedroom Type 1E ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.00 ตร.ม.
แบบแปลน
นอกจากห้องตัวอย่างที่พาไปดูแล้วโครงการ THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) ก็ยังมีผังห้องให้เลือกเยอะมาก ทั้ง Studio, 1 Bedroom, 2 Bedroom แต่ละแบบก็มี Layout ที่หลากหลายและมีตำแหน่งที่มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
Studio Type
ห้องขนาดเริ่มต้นของที่นี่จะเป็น Studio ขนาด 24-25 ตร.ม. ตำแหน่งที่น่าสนใจคือห้องที่อยู่ใกล้โถงลิฟต์ เป็นห้องขนาดเริ่มต้นที่ได้วิวสระว่ายน้ำของโครงการ ซึ่งในโครงการทั่วไปที่เคยเห็นมักจะเอาวิวที่ดีที่สุดไปให้ห้องขนาดใหญ่ จุดนี้เป็นข้อดีของโครงการเลย
ฟังก์ชันภายในห้องจะเป็นห้อง Studio แนวยาว ทุกฟังก์ชันเชื่อมต่อกันหมด(ยกเว้นระเบียงและห้องน้ำ) เหมาะกับการอยู่คนเดียวเป็นหลัก แนะนำว่าถ้าใครชอบทำอาหารกินเองบ่อยๆให้ลองหาประตูบานเลื่อนกระจกกั้นแยกโซนครัวออกจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น เพื่อที่เวลาทำอาหารกลิ่นควันจะได้ไม่ลอยไปทั่วห้อง
1 Bedroom Type
สำหรับห้อง 1 Bedroom จะมีให้เลือกเยอะมาก มีถึง 6 แบบ
1B เป็นแบบที่มีเยอะที่สุดในโครงการค่ะ ขนาด 29-30 ตร.ม. แต่เป็นผังที่แยกการใช้งานออกเป็นสัดส่วนดีมาก เข้าห้องมาจะเจอกับครัวและพื้นที่กินข้าว ถัดเข้าไปด้านในก็จะเป็นห้องนอนและส่วน living มีพื้นที่ walk-in closet ขนาดใหญ่แยกออกไปหน้าห้องน้ำด้วย
2 Bedroom Type
โดยทั่วไปในโครงการ Low Rise หลายๆที่มักจะเน้นขายห้องขนาดเล็กเป็นหลัก แต่โครงการ THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) จะมีห้องขนาดใหญ่ 2 ห้องนอนอยู่ด้วย มีให้เลือกถึง 6 แบบได้แก่ แบบ SP, SK มีอย่างละยูนิตเป็นยูนิตพิเศษใกล้สระว่ายน้ำและยูนิตที่ติดกับ Rooftop ชมจันทร์ เหมาะกับครอบครัวเริ่มต้น อยู่กัน 2-4 คน แต่ละแบบจะมีผังและจุดเด่นอะไรบ้าง เลื่อน gallery ทางด้านล่างดูได้เลย
2 Bedroom ห้องนี้จะเป็นห้องที่ได้วิวสระว่ายน้ำค่ะ โดยผังจะเป็น 2 Bedroom ที่แยกพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน ห้องนอนมิดชิดได้ความเป็นส่วนตัว ห้องน้ำที่ต้องใช้ร่วมกันจะเข้าจากโถงกลางห้อง นอกจากนี้ก็ได้ครัวปิดทำอาหารได้เต็มที่ จุดที่ควรคำนึงคือห้องนอนรองจะเป็นห้องนอนปิดที่ไม่มีหน้าต่างอาจจะมืดทึบไปหน่อยสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศโปร่งโล่ง
ราคา
THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) ราคา ณ วันที่ 1 เมษายน 2567
- Studio Type 1A ขนาด 24-25 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.2x ล้านบาท หรือประมาณ 91,xxx บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Type 1B ขนาด 29-30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.6x ล้านบาท หรือประมาณ 91,xxx บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Type 1C ขนาด 34 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 3.2x ล้านบาท หรือประมาณ 94,xxx บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom Type 2A ห้อง 2 Bedroom ขนาด 45 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 4.3x ล้านบาท หรือประมาณ 93,xxx บาท/ตร.ม.
- 2 Bedroom Type 2D ขนาด 56 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นประมาณ 5.4x ล้านบาท หรือประมาณ 94,xxx บาท/ตร.ม.
- รูปแบบการขาย Fully Fitted พร้อม Furniture Built-in บางชิ้นเช่นตู้เสื้อผ้า
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.45 เมตร
- Kitchen & Sink / ท็อปหินแกรนิต
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ Teka
- จอง 20,000 บาท
- ทำสัญญา 30,000 บาท
- ค่ากองทุน 500 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 58 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล : ที่ตั้งโครงการอยู่ที่ซอยจันทน์ 43 หรือว่าซอยวัดไผ่เงิน มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก มีร้านอาหาร community mall ในระยะเดินถึง มีโรงเรียน วัด บริษัทตลอดทั้งซอย โดยทำเลถนนจันทน์และสาธุประดิษฐ์ถือเป็นโซนชุมชนดั้งเดิมที่อยู่ใกล้กับสาทรมาก และมีคอนโดมิเนียมเกิดใหม่อยู่เสมอ โครงการจะอยู่ถัดเข้ามาในซอยจึงทำให้ได้เปรียนในเรื่องของราคาที่สามารถเข้าถึงและจับต้องได้ง่ายมากขึ้น แต่ยังคงจุดเด่นที่ระยะในการเดินทางที่ไม่ไกล และมีรถสาธารณะไปยังโซนธุรกิจอย่างสาทร สีลมได้ง่าย ทำให้ในแง่การเดินทางก็จัดว่าสะดวก ทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้โซนสาทรซึ่งเป็น CBD หนึ่งของกรุงเทพฯ และบนถนนสาทรเองก็จะมีโรงเรียน โรงพยาบาล และสำนักงานชั้นนำมากมาย จากโครงการสามารถเข้าถึงและอิงการใช้งานของสาทรได้เลย
การเดินทางโดยใช้รถ : จุดที่โครงการตั้งอยู่เป็นถนนจันทน์ซอยที่เชื่อมกับสาธุประดิษฐ์ได้ ทำให้มีตัวเลือกการเดินทางหลากหลาย เชื่อมต่อไปยังถนนสำคัญได้หลายเส้น เช่น ถนนสาทร ถนนเจริญกรุง ถนนพระราม 3 ถนนเจริญราษฎร์ ถนนนราธิวาสฯ เป็นต้น และยังอยู่ระหว่างทางด่วน 2 เส้น คือทางด่วนศรีรัช และทางด่วนเฉลิมมหานคร สามารถเลือกใช้งานตามจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้ ในส่วนของที่จอดรถให้มาอยู่ที่ 44% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าไม่น้อยเกินไปสำหรับคอนโดระดับนี้
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : เป็นโครงการคอนโดที่อยู่ในซอย แต่ก็เป็นซอยที่มีรถสาธารณะ(รถแดง)ผ่านหน้าโครงการ ใช้เดินทางไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าได้ ราคา 8 บาท เท่านั้น ก็สามารถเรียกใช้งานวินมอเตอร์ไซค์ได้ตลอด เพื่อไปทำงานโซนสาทร สีลม จึงไม่ต้องกังวลเรื่องรถติด หรือจะเรียกไปยังรถไฟฟ้าก็ถือว่าไม่ไกล รถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีเซนต์หลุยส์ และสถานีสุรศักดิ์ ระยะห่างประมาณ 2.4 – 2.5 กม. เท่านั้น
วัสดุ : โครงการมีรูปแบบการขายแบบ Fully Fitted มี Built-in ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางรองเท้ามาให้ ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์อื่นๆจะแถมมาให้เป็นโปรโมชัน (สอบถามโครงการอีกครั้ง) ในส่วนวัสดุที่ให้มาภายในตัวห้องอื่นๆถือว่ามาตรฐาน ได้พื้น SPC เหมาะกับการใช้งาน ผนังฉาบเรียบทาสี ติดไฟดาวน์ไลท์ ชุดครัวของ Teka ส่วนห้องน้ำจะเลือกใช้สุขภัณฑ์ของ Cotto พื้นผนังกรุกระเบื้องเซรามิก อุปกรณ์ให้มาครบที่ต้องใช้งาน และอีกจุดเด่นที่แตกต่างคือการจัดโซนพื้นที่เป็น Personal storage ได้ Locker ส่วนตัวมีพื้นที่เก็บของมาให้เพิ่มทุกห้อง ตอบโจทย์การใช้งานคอนโดที่ส่วนมากจะไม่มีพื้นที่ให้เก็บของชิ้นใหญ่ๆ
การออกแบบโครงการ : มีแนวความคิดในการออกแบบที่ชัดเจน สะท้อนออกมาในตัวโครงการทั้งสถาปัตยกรรมภายนอก การออกแบบภายใน ที่ต้องการสื่อถึงดวงดาว ทำให้บรรยากาศโดยรวมสวยงาม หรูหราน่าอยู่อาศัย จำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 154 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก ไม่หนาแน่น ได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย และที่สำคัญดูแลและจัดการได้ง่าย พื้นที่ภายในโครงการมีการจัดพื้นที่ส่วนกลางแยกส่วนกับชั้นพักอาศัยไว้เรียบร้อย แบ่งโซนแยกการใช้งานได้ดี แนวคิดเรื่อง Auto Door ในจุดเข้า-ออกต่างๆเป็น Touchless condo เข้า-ออกได้โดยไม่ต้องสัมผัส ใช้งานได้อย่างปลอดภัยตอบโจทย์การใช้งานและการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบัน
การออกแบบห้องพักอาศัย : แบบห้องตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้หลากหลาย มีแบบห้องให้เลือกหลายแบบ Studio ไปจนถึงห้องแบบ 2 Bedroom เหมาะกับอยู่คนเดียว อยู่กันเป็นคู่ ไปจนถึงครอบครัว 2-3 คน จัดรูปแบบห้องใช้งานลงตัว แยกโซนการใช้งานได้เป็นสัดส่วน ทุกห้องจะมีฟังก์ชันค่อนข้างลงตัว เลือกใช้ประตูภายในห้องเป็นบานเลื่อนใช้งานง่าย และเกิดการเชื่อมต่อกันของพื้นที่ได้ดี ช่วยทำให้ห้องโปร่งโล่งมากขึ้น มีแบบห้องห้เลือกทั้งแบบครัวเปิด ครัวปิด ครัวใกล้ระเบียงเหมาะกับคนชอบทำอาหารหมดกังวลเรื่องกลิ่นควัน ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ส่วน Condensing Unit ของแอร์จะแขวนอยู่ด้านบนช่วยทำให้ใช้พื้นที่ระเบียงได้มากขึ้น
สาธารณูปโภค : สำหรับพื้นที่ส่วนกลางถือว่าครบที่ต้องใช้งาน ออกแบบสวยแบ่งโซนไว้ดีเป็นสัดส่วนทั้ง Lobby ที่สูงแบบ Double volume มีสวนเล็กๆ มีห้องนั่งเล่นพักผ่อน ห้องประชุมหรือนั่งทำงาน ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำที่ใช้งานว่ายน้ำออกกำลังจริงจังได้ แต่ที่โดดเด่นมากๆก็คือ พื้นที่ดาดฟ้าที่จัดไว้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน หรือจะขึ้นมาชมวิวมุมสูงโดยรอบก็ได้นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันพิเศษที่ไม่ค่อยเจอในคอนโดอื่นๆเช่น จุดล้างรถ+เติมลมยาง หรือว่า Storage พื้นที่เก็บของที่ให้มาทุกยูนิต อยู่ใกล้กับโถงลิฟต์
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 86,000 – 94,000 บาท/ตร.ม., 1 เมษายน 2567
- ทำเล 7.5/10 – อยู่ในซอยที่ความอุดมสมบูรณ์สูง
- เดินทางด้วยรถ 7.5/10 – เชื่อมต่อถ.จันทน์,ถ.สาธุประดิษฐ์ได้ อยู่ระหว่างทางด่วน 2 สาย
- ไม่ใช้รถ 7.5/10 – มีรถสาธารณะผ่านหน้าโครงการ ไปใช้งานรถไฟฟ้าได้ง่าย
- วัสดุ 7.5/10 – ใช้วัสดุดีเหมาะสมกับการใช้งาน
- แบบ 8/10 – มีตัวเลือกห้องเยอะให้เลือก ออกแบบดีน่าอยู่อาศัย
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – ให้มาครบแบ่งโซนการใช้งานได้ดี ฟังก์ชันหลากหลายน่าใช้งาน
- MAIN CLASS
- 7.6 / 10.00
THANA ASTRA Sathorn-Chan (ธนา แอสทรา สาทร-จันทน์) เหมาะกับใคร?
โครงการนี้เหมาะกับ กลุ่มคนที่ทำงานในย่านสาทร มองหาคอนโดสำหรับอยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน มีห้องหลายขนาดที่ราคาเข้าถึงง่าย เดินทางไปทำงานได้ใกล้ๆประหยัดเวลา หาของกินสะดวก ถัดมาคือ กลุ่มคนที่เดิมอยู่ย่านนี้ ที่ต้องการขยับขยายจากบ้านเดิม ชอบบรรยากาศและคุ้นเคยกับทำเลนี้ดี มองหาที่อยู่อาศัยบนทำเลเดิม เป็นคอนโดที่มีพื้นที่ส่วนกลางไว้ใช้งานได้สบายๆ แถมมีตัวเลือกห้อง 2 Bedroom ให้เลือกเหมาะจะอยู่กันเป็นครอบครัวได้ มีงบประมาณเริ่มต้น 2.2x – 5.4x ล้านบาท* ยังไงก็ลองพิจารณากันดูนะคะ