The Key สาทร-ราชพฤกษ์ (21)

สวัสดีครับ Mr.Oe ส่งการบ้านรีวิวฉบับที่ 158 … The Key สาทร-ราชพฤกษ์ ที่จะเปิดตัวสำหรับลูกค้าเก่าที่ลงทะเบียนล่วงหน้าไว้ ในวันนี้ 05/05/55 ยังเป็นรีวิวที่ยังไม่จบในตอนเดียวนะครับ เพราะยังขาดข้อมูลห้องตัวอย่าง และราคาพร้อมโปรโมชั่น ซึ่งถ้าโครงการมีข้อมูลออกมาแล้ว เราจะทำการ Update ข้อมูลรีวิวให้เป็นฉบับที่สมบูรณ์อีกครั้งครับ

Fact @ 05/05/55

  • The Key Sathorn-Ratchapreuk (เดอะ คีย์ สาทร-ราชพฤกษ์)
  • Land & Houses, Plc.
  • MAIN CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
  • คอนโด 23 ชั้น 7 ชั้น และ  3 ชั้น พร้อมอาคารจอดรถ 7 ชั้น
  • รวม 834 Units
  • จอดรถ 48% ประมาณ 403 คัน
  • ที่ดินประมาณ 7-2-57.5 ไร่
  • 1 Bedroom – 2 Bedrooms – Combine ( 2 Bed )
  • พื้นที่ใช้สอย 30.5 – 63 ตารางเมตร
  • ราคาเริ่มต้น 1.73 ล้านบาท (05/05/55)
  • ราคาต่อตารางเมตรเริ่มต้น 57,600 บาท
  • คาดว่าเริ่มสร้าง 06/2012 สร้างเสร็จ 03/2014
  • www.lh.co.th

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

 

แผนที่ The Key สาทร-ราชพฤกษ์ อยู่ใกล้กับ BTS ส่วนต่อขยาย สถานีวุฒากาศ โครงการอยู่ติดถนนใหญ่ ถนนราชพฤกษ์ ถ้ามาจากสาทรก็ตรงอย่างเดียวเลย แต่เลี้ยวเข้าโครงการไม่ได้ มีรายละเอียดที่จะต้องค่อยๆอธิบายให้ฟังนะครับ

ตำแหน่งที่ตั้ง จาก Google

ตำแหน่งที่ตั้งโครงการ อยู่ห่างจากบันไดทางขึ้น BTSสถานี วุฒากาศ ที่คร่อมคลองอยู่ ประมาณ 260 เมตร

ทำเลที่ตั้ง เป็นที่ดินเปล่า ยังไม่เคยมีอาคารใดๆ ตามผังที่ดินที่ร่างไว้ให้แบบนี้ ทำให้ดูคร่าวๆนะครับ แค่ใกล้เคียงแต่ไม่เป๊ะ เอาไปอ้างอิงอย่างเป็นทางการไม่ได้เน้อ 🙂 รอบๆเป็นชุมชนบ้านพักเล็กๆ ด้านหลังยังมีสวนมะพร้าวอยู่เลย ทำเลรายรอบระยะเดินสะดวกจัดว่าเข้าขั้นกันดาร คือมีร้านอาหารทะเลด้านหน้าร้านเดียว ไม่มีร้านค้า ร้านอาหารที่พอจะพึ่งพิงได้เลย ต้องใช้รถสถานเดียว โดยต้องอาศัยย่านวงเวียนใหญ่ เพชรเกษม เจริญนคร ส่วนถ้าไม่ใช้รถ ก็คงต้องรอใช้รถไฟฟ้าเข้าเมืองเอานะครับ ถ้าไม่พึ่งรถไฟฟ้า ก็ลำบากครับ แถวนี้หารถยาก จุดขึ้นลงรถ ลำบากมาก

การเดินทางโดยรถส่วนตัวไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควรทั้งๆที่อยู่ติดถนนใหญ่แท้ๆ เพราะว่ามีการกั้นเลนนอกเลนใน เป็นเกาะกลางคอนกรีต ทำให้เวลาข้ามสะพานมาจากในเมือง ยังไงก็ปาดเข้าดครงการไม่ได้ ต้องวิ่งวนตามลูกศรเขียว ดังรูปข้างบน โดยเริ่มจากเมื่อขับรถลงสะพานมาก็จะเจอโครงการอยู่ซ้ายมือ ต้องทำใจขับผ่านมันไป ชิดซ้ายไว้ จะไปเจอจุดที่ต้องระวัง (ลูกศรสีม่วง) จุดที่ 1 ต้องอยู่เลนสองจากซ้าย เพื่อไปขึ้นสะพานวนมุ่งหน้าเพชรเกษม พอจะลงสะพานวน จะเจอจุดที่ต้องระวังจุดที่2 ให้ชิดซ้ายปาดเข้าซ้ายสุด (อย่าเผลอขับชิดขวาตรงไปล่ะ กลับลำบากเลยล่ะ) เพื่อไปยูเทิร์น ตรงจุดที่ต้องระวังจุดที่ 3 ให้ชิดขวาไว้ เพื่อเข้าเลนยูเทิร์น พอยูเทิร์นแล้ววิ่งย้อนกลับมาเรื่อยๆ เจอจุดที่ 4 ให้ชิดซ้ายไว้ (ถ้าเผลอชิดขวา ได้วิ่งกลับสาทรเลยนะจ๊ะ ระวังหน่อย) ชิดซ้ายไปเรื่อยๆ จะบังคับยูเทิร์นตรงสะพานข้ามคลอง วนกลับมาที่หน้าโครงการพอดี รวมระยะทางที่วนๆกันเนี่ย 3 กิโลเมตรพอดี ตอนแรกงง งง หน่อย ขับๆไปเดี๋ยวก็ชิน แต่ต้องยอมรับว่า ไม่สะดวกอย่างมาก  อดไม่ได้ที่จะชายตามองคอนโดย่านเพชรเกษมใกล้ๆกันเป็นตัวเทียบได้เลย

มาจากในเมืองจะกลับบ้าน เห็นบ้านแล้ว แต่ต้องไปวน 3 กม. ส่วนตอนเช้า ถ้าจะขับรถเข้าเมืองไปทำงาน ก็ต้องวนเหมือนกันเลย แต่จุดที่ต้องระวังต่างกันตรงจุดที่4 อันนี้ให้ชิดขวา ยิงยาว ไปสาทรได้เลย

(ขอบคุณ พี่เล็ก BB  สำหรับคำแนะนำเรื่องเส้นทางการวนรถนะครับ 🙂 )

มาดูการเดินทางของจริงกันครับ ผมมาจากสาทร ขับตรงมาเรื่อยๆครับ

เจอสองพี่น้อง Parkland TT และ Parkland Grand ชิดขวาเตรียมขึ้นสะพานข้ามแยกได้เลยครับ

บนสะพานข้ามแยก ที่ยาวมากเพราะเป็นทางยกระดับ มาลงตรงหน้าโครงการพอดี สังเกตุรางรถไฟฟ้าด้านซ้ายเขียวๆนั่นแหละ จุดสร้างสถานี วุฒากาศ

พอลงสะพานมาปุ๊บ มองซ้าย เห็นป้ายโครงการสีดำๆมั้ย นันแหละครับ The Key สาทร ราชพฤกษ์ ขับตรงไปครับอย่าได้แคร์ เดี๋ยวได้วนมาเจอกัน

ถึงจะไม่มีเกาะกลางกั้นแบบนี้ ก็ปาดเข้าโครงการไม่ได้อยู่ดี เพราะมันอยู่ใกล้จุดทางลงสะพานมาก อันตรายครับ

เนี่ยครับ ข้างหน้ารถตุ๊กๆทางขวาที่จอดอยู่โคนเสา BTS คือทาง เข้า The Key ลงสะพานมาระยะกระชั้นเกินกว่าจะเลี้ยวเข้าโครงการได้อยู่แล้ว แม้จะรื้อเอาเกาะกั้นที่ลูกศรชี้อยู่ออกไป ก็เลี้ยวเข้าไม่ได้ อันตรายมาก

ขับเลยโครงการมาเรื่อยๆ จะเห็นแนวรถไฟฟ้าตีโค้งออกขวา แต่เราต้องขับออกซ้ายนะครับ ตรงนี้คือจุดที่ต้องระวังจุดแรก

ชิดซ้ายมาเรื่อยๆ พอเจอป้ายนี้ ให้ชิดขวา เพื่อขึ้นสะพานวน

สะพานวน มุ่งหน้าเพชรเกษม แต่เราอาศัยวิ่งไปกลับรถ

ลงสะพานวนมา ต้องระวังแล้วครับ ให้เริ่มชิดซ้ายได้ มุ่งหน้าเทอดไท

ตรงนี้เป็นจุดที่ต้องระวังจุดที่ 2 ให้ปาดเข้าซ้ายสุดครับ

จุดที่ต้องระวัง 3 ชิดขวาไว้ครับ เพื่อยูเทิร์น

ยูเทิร์นแล้ว ขับย้อนกลับไป ตรงอย่างเดียว

ชิดซ้ายไว้ครับ อย่าหวั่นไหวต่อแยกใดๆ ข้างหน้าตรงรถเก๋งคันหน้า มีทางเข้าทางหลักเพื่อขึ้นสะพานยกระดับกลับเข้าเมืองไปสาทร (จุดระวังที่ 4)

เราไม่เข้าทางหลัก ให้ชิดซ้ายไว้

ตรงไปเรื่อยๆครับ

ตรงไป บังคับยูเทิร์นทุกคัน เพราะข้างหน้าเป็นคลอง

พอยูเทิร์นแล้ว ให้ตรงไปเรื่อยๆ โครงการอยู่ข้างหน้านู่นแล้ว

สภาพชุมชน บ้านเรือนเพื่อนบ้านริมถนน ดูเหมือนรกๆหน่อย แต่มีบ้านคนอยู่ตลอดแนวนะครับ แต่ตอนกลางคืน เปลี่ยวพอสมควรเลย

*** 05/05/55 ได้รับแจ้งจากทางโครงการว่า มีแผนปรับภูมิทัศน์ตั้งแต่หน้าโครงการไปจนถึงทางขึ้นรถไฟฟ้า และจะมีการเพิ่มไฟส่องสว่างข้างทาง รวมถึงมีจุดตรวจของตำรวจอยู่ระหว่างทางนี้ด้วย

ตรงมาอีกนิด ก็เจอ โครงการแล้ว

ย้อนกลับไปดูตรงยูเทิร์น เพราะเป็นจุดที่จะเป็น สถานีรถไฟฟ้า ด้านขวาคือฟุตบาทที่ต้องเดินไปนะครับ เห็นป้ายแดงลิบๆนั่นแหละครับ ทางขึ้น BTS ส่วนฟุตบาททางเท้าจะมีการปรับใหม่ให้น่าเดินและดูปลอดภัยขึ้น

กำลังก่อสร้างอยู่เลย

สภาพคลอง ที่สถานี BTS คร่อมอยู่

 

เจาะลึกโครงการ

ด้านหน้าโครงการ ดูดีแตกต่างจาก The Key โครงการอื่นๆ มีการปรับเปลี่ยนโลโก้ The Key และปรับธีมสีและรูปแบบอาคาร แตกต่างจาก The Key รุ่นพี่ที่ผ่านมาพอสมควร เดี๋ยวค่อยๆดูรายละเอียดกันนะครับ

ตัวโครงการ The Key สาทร- ราชพฤกษ์  เป็นโครงการที่ผสมผสานความแตกต่างของอาคาร High rise 23 ชั้น + Low rise 7 ชั้น + อาคาร Exclusive 3 ชั้น โดยแยกเอาอาคารจอดรถรวมขนาด 7 ชั้นไว้ต่างหาก ใครชอบ Facility ครบครัน วิวสวยๆ เลือก High Rise ใครไม่ชอบอาคารสูง ชอบมุมสงบๆไม่วุ่นวายเลือก Low Rise ใครชอบอารมณ์อยู่บ้านมีที่จอดรถ Fix เลือกอาคาร 3 ชั้น ทั้งนี้ข้อมูลที่ออกมาในตอนนี้ มีแค่ของตึก 23 ชั้น เราจึงขอเจาะเฉพาะตึกนี้ก่อนนะครับ ตึกอื่นเมื่อมีข้อมูลแล้วเดี๋ยวมา Update กันอีกที ข้อดีของการออกแบบโครงการลักษณะนี้ คือความสงบ และได้พื้นที่สำหรับพักอาศัยเป็นสัดส่วน แยกกันชัดเจน ข้อเสียคือความไม่สะดวกที่ต้องใช้อาคารจอดรถแยกครับ เชื่อว่าคนที่พักอาศัยที่นี่ ต้องซื้อของใส่รถเข้ามาเรื่อยๆ เพราะแถวนี้ไม่มีที่ให้ซื้อ ดังนั้นการถือของขึ้นลงสองตึก คงไม่สนุกเท่าไร และวันที่เหนื่อยๆ รีบๆ หรือฝนตกนี่ คงจะลำบากน่าดู

ผังอาคารต่างๆ ที่โครงการให้มามันดูไม่ค่อยชัด ผมเลยลากเส้นคร่าวๆให้ดูนะครับ เวลาเข้ามาในโครงการ จะเจออาคาร C 3 ชั้น ก่อน แล้วจึงเจออาคาร A ด้านหลังอาคาร A ที่มีเส้นประสีเหลืองๆ คือคลองเล็กๆ โครงการทำสะพานข้ามไปพื้นที่ด้านหลัง และจัดวางอาคาร B Lowrise 7 ชั้น และอาคารจอดรถ 7 ชั้น ไว้ด้านหลังโครงการ จอดรถได้ประมาณ 403 คัน หรือ 48% ซึ่งน้อยมาก สำหรับทำเลที่ต้องใช้รถแบบนี้

โมเดลโครงการ ส่วนทางเข้าครับ มีคลองเล็กๆอยู่ด้านหน้าโครงการ ก็ต้องทำสะพานข้ามไป

ตึกแรกที่จะเห็นเมื่อเข้าโครงการมาแล้ว คือตึก C เป็นตึกเล็กๆ 3 ชั้น

ตึก C เป็น ตึกที่มี 3 ชั้น 6 Units เท่านั้น ชั้นล่างจอดรถ  6 คัน ค่อนข้างจะแยกตัวออกมาจากตึกอื่นๆ แต่ด้านซ้ายของตึกจะอยู่ติดกับอาคาร 4 ชั้น ที่เค้าทำเป็นห้องเช่า ไม่ได้ดูโล่งๆแบบในโมเดลนะครับ

ด้านหลังตึก  C

ตึก A อาคาร High Rise 23 ชั้น

สระ สวน Fitness และร้านค้าอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด

ลูกศรสีเหลืองชี้คือ Fitness นะครับ

สภาพบรรยากาศของ Fitness

เนื่องจากอาคารจอดรถ เป็นอาคารแยกออกไปต่างหาก ตามรูปข้างบนคือตึก 7 ชั้นที่มีรถวิ่งอยู่ด้านบน มีคลองเล็กๆ กั้นระหว่าง อาคาร A และ อาคารจอดรถ พอจอดรถเสร็จ ต้องเดินข้ามสะพาน มาขึ้นตึก ตรงตำแหน่งลูกศรสีเหลืองชี้นะครับ

อีกด้านหนึ่ง ก็เป็นอาคาร B Low rise 7 ชั้น

อาคาร B มีสวน และสนามหญ้าของตัวเอง อยู่หน้าอาคาร พื้นที่ ที่ติดคลองมีกำแพงกั้นเรียบร้อย

ตึก B รถจอดใต้อาคาร และวนจอดรอบๆอาคารได้ ถ้าไม่อยากจอดที่อาคารจอดรถ ส่วนดาดฟ้า โครงการยังไม่ฟันธงว่าจะทำสวนให้หรือเปล่านะครับ ในเบื้องต้น ให้ยึดเป็นโล่งๆแบบนี้ไปก่อน

ด้านหลังโครงการ ซ้ายมือคืออาคารจอดรถ ขวามือคือตึก B

พื้นที่พักผ่อน สวยๆ ในโครงการ มี WiFi ให้เล่นให้ใช้ด้วย

สระว่ายน้ำ ที่ตึก A

ตึก B เป็น Low Rise 7 ชั้น  อยู่ด้านหลังสุด

ทางเดินในสวน

สวนหน้าตึก B

ตึก A ผังชั้น 1 มี Facility หลัก สระ สวน Lobby Fitness และร้านค้า 1 ร้านค้า อยู่ที่ชั้นนี้ มีที่จอดรถใต้อาคาร และมี Unit ขาย 4 units ที่คงจะพิเศษมากคือเปิดหน้าต่างเจอสระสวนเลย แต่คงวุ่นวายหน่อย มีลิฟท์โดยสาร 4 ตัว ต่อ ประมาณ 700 ห้อง (32 ห้อง ต่อชั้น) ถือว่าแน่นไปหน่อย ในชั่วโมงเร่งด่วน คงคอยกันนาน

ผังชั้น 2 เป็น Unit พักอาศัยล้วนๆ 32 ห้องต่อชั้น ค่อนข้างแน่น ผังเป็นตัว L วิวห้องด้านทิศเหนือ หันไปด้านถนนหน้าโครงการ ทิศใต้ หันไปด้านหลังโครงการซึ่งมีแต่สวนมะพร้าว ได้วิวแปลกไปอีกแบบ วิวด้านทิศตะวันออก หันไปด้านในเมือง ทิศตะวันตกหันไปด้านนอกเมือง วิวระยะใกล้ไม่มีอะไรบัง ยังค่อนข้างโล่งและเป็นพื้นที่สีเขียว ห้องด้านที่เด่นที่สุดน่าจะเป็นแนวเหนือใต้ ปลอดภัยไม่ร้อน ส่วนใครชอบวิวเมืองเลือกชั้นสูงๆของทิศตะวันออก น่าจะพอไหว ห้องเด่นๆที่เป็นห้องมุม ถูกทำเป็็นห้องใหญ่หมดเลย ส่วนใครอยาก Combine ห้อง ต้องเลือกห้องด้านที่มีห้องLiving Room ชนกันเท่านั้น

ชั้น 3 – 23 คล้ายชั้น 2

ไปดูทำเลจริง พื้นที่จริงกันนะครับ 🙂

ด้านหน้าโครงการ มีทำสะพานชั่วคราวเพื่อเอารถเข้าไปปรับพื้นที่ดินบ้างแล้ว

สภาพพื้นที่โครงการ ด้านซ้าย ด้านขวา ด้านหลังมีแต่บ้านสองชั้น และสวนมะพร้าว ไม่มีอะไรบังวิว แต่วิวออกแนวชนบทหน่อยนะครับ.. บ้านสีฟ้านี่สีแจ่มได้ใจจริงๆ

ลากเส้นขอบเขตโครงการให้ดูคร่าวๆ

สภาพแวดล้อมและวิวด้านขวา

สภาพแวดล้อมและวิวด้านซ้าย

ด้านหน้าโครงการ มีทางสัญจรเล็กๆของชาวบ้าน พาดเข้าไปลึกถึงพื้นที่ด้านใน

ตรงที่คนขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาเป็นทางชาวบ้าน ส่วนของโครงการอันใหญ่

ทางสัญจรชาวบ้านด้านขวา คือสุดเขตของโครงการ

บ้านชาวบ้านชุมชนด้านขวา

ขอบกำแพงนี้สุดเขตโครงการด้านขวา กำแพงโครงการที่จะทำใหม่ สูง 5 เมตรนะครับ

จริงๆแล้วเมื่อก่อน จะมีทางเชื่อม ระหว่างชุมชนทั้งสองฝั่งของโครงการ ปัจจุบัน ถมดินปิดทางหมดแล้ว ชาวบ้านต้องอ้อมล่ะทีนี้

ชุมชนฝั่งซ้ายโครงการ

 

สำนักงานขาย และ Show room ห้องตัวอย่าง ตอนนี้มาแปะอยู่ที่ที่ตั้งโครงการ The Room วงเวียนใหญ่ชั่วคราว

สำนักงานขายอยู่ทางขึ้นทางลง BTS สถานีวงเวียนใหญ่เลย อยู่ฝั่งขาออกนะครับ

สถานีวงเวียนใหญ่

ภายในสำนักงานขาย กว้างขวาง สบายๆ

ภายในสำนักงานขาย

บันไดขึ้นไปดูห้องตัวอย่างซึ่งอยู่ชั้น 2

สิ่งอำนวยความสะดวก

  • ห้องออกกำลังกาย
  • Wifi Internet ที่ Lobby และสระว่ายน้ำ
  • สระว่ายน้ำระบบเกลือ 10×30 เมตร
  • ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว (ตึก A )
  • สวน
  • Lobby
  • ที่จอดรถ 48% หรือ 403 คัน
  • รั้วโครงการสูง 5 เมตร
  • ระบบ CCTV / Access Card
  • ร้านค้า มินิมาร์ท ร้านอาหาร ร้านซักรีด


Product Walkthrough

ล่าสุดผมแวะมาเก็บห้องตัวอย่างแล้วนะครับ 12/07/2012  มีห้องให้ดู 2 ห้อง จาก ตัวผังห้องออกมาเฉพาะของตึก A มีทั้งหมด 12 แบบ

ห้อง 12 แบบ ประกอบไปด้วย

  •  1 Bed room Type A-AA-B-BB-C-D-F-G-H ขนาด 30.5 – 49 ตรม
  • 2 Bed room Type I ขนาด 50 ตรม
  • 2 Bed room Combine ขนาด 61 – 63 ตรม

แบบแรก 1 Bedroom ขนาด 30.5 – 33 ตรม มีหลายแบบหลายขนาด จัดเหมือนกันเพียงแต่ขนาดต่างกัน หรือสลับด้านกันแค่นั้นเอง ห้องนี้หน้ากว้าง 5.85 เมตร สูง 2.6 เมตร ตัวห้องเปิดมาเป็น Living Room ส่วนครัว และโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆที่วางชิดผนัง เครื่องซักผ้าออกแบบให้วางในห้องนี้ด้วย ไม่มีระเบียง โดยเอาระเบียงไปวางในห้องนอนแทน ตัวประตูกั้นห้องนอนเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ได้ความโล่งโปร่ง แต่แลกมาด้วย พื้นที่วางทีวีห้องนั่งเล่นที่ไม่ Center กับโซฟา และไม่มีที่วางทีวีตรงปลายเตียงในห้องนอน ตำแหน่งการวางระเบียงที่เอาไปไว้ในห้องนอน ทำให้เวลาซักผ้าตากผ้า อาจไม่สะดวก และดูไม่เป็นสัดส่วนเท่าไร

Living Room กั้นห้องนอนด้วย ประตูกระจกเลื่อน หน้าตาประมาณนี้

อีกมุม จะเห็นเครื่องซักผ้า วางแปะอยู่กับตู้ใส่รองเท้าตรงขวามือของประตู ทางเข้าห้อง

ห้อง 2 Bedroom มีขนาดเดียวแบบเดียวคือ 50 ตรม แต่ละชั้นมีแค่ 3 ห้องและเป็นห้องมุมทั้งหมด ห้องหน้ากว้าง 9 เมตร ระยะพื้นถึงฝ้าสูง 2.6 เมตร จัดมาค่อนข้างลงตัวและสวยพอสมควร โดย Living Room จัดได้ลงตัวแล้ว Side Board วางทีวียาวเต็มผนัง ห้องน้ำมีห้องเดียว ห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่มีระเบียงส่วนตัว และมีระเบียงเล็กอเนกประสงค์ อีก หนึ่งระเบียง ห้องนอนเล็ก ปรับเป็นห้องทำงานได้ มีระเบียงส่วนตัวเช่นกัน

Living Room

ห้องนอนเล็ก

ห้อง 2 Bedroom แบบ Combine นี้ สามารถเชื่อมห้องได้เฉพาะห้องที่มี Living Room ติดกันเท่านั้น ได้สิทธิจอดรถ 2 คันด้วย ตัวห้องหน้ากว้าง 10.8 เมตร สูง 2.6 เมตร เป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องนอนหลักมีห้องน้ำในตัว ห้องนอนอีกห้อง ใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องรับแขก ห้องนอนทั้งคู่มีระเบียงส่วนตัว ส่วน Living Room ใหญ่ สบาย คล้ายบ้านแนวราบ มีทั้งส่วนครัวและรับประทานอาหาร ชุดโซฟาดูทีวี และ โต๊ะทำงาน เนื่องจากเป็นห้องหน้ากว้าง ผนังกระจกห้องนั่งเล่น เลยได้ยาวแบบเต็มๆไปด้วย

Living Room

ห้องนอนหลัก

มาดูห้องตัวอย่างของจริงกันครับ ผมแวะมาเก็บภาพ 12/07/2012

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom 30.50 ตรม ผมมีวิเคราะห์ผังห้องไว้ด้านบนแล้ว แต่จะขอสรุป Spec ของที่ได้ ก่อนไปดูห้องกัน

  • พื้นห้องนอน ห้องรับแขก ห้องครัว เป็น ลามิเนตหนา 8 มม
  • พื้นห้องน้ำ พื้นระเบียง ปูกระเบื้อง 30×30 ซม
  • ประตูทางเข้าห้อง และประตูห้องน้ำ วงกบ Aluminium Powder coated บานประตูไม้ HDF สีพ่น มือจับและอุปกรณ์ของ Colt
  • ประตูห้องนอนบานกระจกเขียวตัดแสง วงกบและบาน UPV สีขาว
  • หน้าต่างและประตูออกระเบียง วงกบและบาน UPV สีขาว กระจกเขียวตัดแสง
  • โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ American Standard
  • ก๊อกและอุปกรณ์ Hafele
  • ประตูและฉากกั้นอาบน้ำของ Cristina
  • ชุดครัว Index
  • ตู้เสื้อผ้า Index
  • ไฟดาวน์ไลท์
  • พัดลมดูดอากาศในห้องน้ำ

ทางเข้าห้อง รอยต่อวัสดุสวยงาม ธรณีเรียบกริบ

ประตูหน้าห้อง

มือจับของ Colt

เปิดประตูมาเจอส่วนครัวและ Living Room

ขวามือ เป็นครัว โต๊ะอเนกประสงค์ และโซฟา

ตำแหน่งวางตู้เย็น

Pantry สวยดี ออกแบบบานลิ้นชักไม่ใช่สวยอย่างเดียว หยิบจับเปิดง่ายไม่หนีบมือ ตำแหน่งวางไมโครเวฟสูงหน่อย สาวๆในกลุ่ม “เมตรครึ่ง” นี่จะหยิบของร้อนๆลำบาก มันสูง

หน้า Top Counter ครัว เป็นลามิเนตชนิดอัดแรง ทนร้อน และน้ำดีกว่าลามิเนตพื้นนะ แต่สู้พวกหินสังเคราะห์ หรือแกรนิต ไม่ได้เรื่องความคงทน

เฟอร์นิเจอร์ Built in หน้าตาดี เข้าชุดกันทั้งห้อง ตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าจัดให้วางตรงนี้ ต้องระวังหน่อย เพราะพื้นมันเป็นลามิเนต โดนน้ำและความชื้นจะไม่ไหวเอา

หน้าตาตู้วางรองเท้าและใส่ของจุกจิก

ตู้และชั้นวางของ เหนือเครื่องซักผ้า

การจัดวางแบบนี้ทำให้มีพื้นที่ยืนสะดวกดี แต่ไม่เป็นสัดส่วนเท่าที่ควร

โต๊ะอเนกประสงค์ วางคู่กับโซฟา

ทีวี

โซฟาและระยะดูทีวี พอได้ๆ

ประตูกระจกบานเลื่อน กั้นห้องนอน ข้อดีคือจะเปิดก็โล่ง จะปิดก็เป็นสัดส่วน ข้อเสียคือเป็นกระจก ขาด Privacy ถ้ามีแขกมา ไม่งั้นต้องติดม่านหรือมู่ลี่อีก ข้อเสียอีกสองข้อคือ บอบบางไม่กันแอร์เท่าไรเปลือง และมันทำให้ติดทีวีแขวนผนังที่ปลายเตียงไม่ได้

ห้องนอน

หัวเตียง มีโต๊ะข้างเตียงให้วางพวกโคมไฟนาฬิกาปลุก ผมถ่ายมุมนี้เพื่อให้ดูระยะข้างเตียง ที่เหลือพื้นที่น้อยพอจัดเตียงได้เท่านั้นเอง

ตู้เสื้อผ้า ขนาดแค่นี้ ท่าจะไม่พอใส่ 🙂

ระยะห่างจากเตียงพอดีเปิดตู้ได้เป๊ะเลย

ระยะปลายเตียง และอย่างที่เห็น ปลายเตียงเป็นกระจกบานเลื่อน จึงไม่สามารถแขวนทีวีได้ และระยะก็แคบเกินกว่าจะวางชั้นวางทีวีได้ด้วย

ระยะข้างเตียง และระเบียงห้อง

มีธรณีก่อสูงกั้นระหว่างระเบียงกับห้องนอน

คอมแอร์แขวนคู่เลย ลมร้อนเป่าออกข้างนอก

ใต้คอมแอร์ยังพอมีพื้นที่วางของได้

ระเบียงค่อนข้างแคบยาว จะซื้อที่ตากผ้าก็อย่าลืมวัดขนาดระเบียงห้องตัวเองไปด้วยนะพี่น้องง เด๋ววางไม่ได้แล้วจะหาว่า Mr.Oe ไม่เตือนนนนน

ห้องนอนมองออกไป Living Room

ห้องน้ำมีธรณีก่อ ระวังจะสะดุดตอนดึกๆนะฮับ

อ่างล้างหน้า และกระจกเงา… อ่างล้างหน้าโอเครับได้ แต่กระจกกับที่วางของตรงกระจกมันดูบอบบาง และเล็กไปหน่อย ที่วางของน้อยว่างั้นเถอะ

โถสุขภัณฑ์ American Standard หน้าตาดีใช้ได้

Shower Box

ฝักบัว

 

ต่อด้วยห้อง 2 Bedroom 50 ตรม มีวิเคราะห์ผังห้องไว้แล้วด้านบนๆ

เปิดประตูให้ดูธรณีและรอยต่อวัสดุ ทำมาดี

มือจับ Colt

ครัวและห้องนั่งเล่น

Pantry

Pantry อีกมุม

เครื่องซักผ้าและตู้ Built In

โต๊ะทานข้าววางติดกับ Pantry

ส่วนครัวและรับประทานอาหาร

โซฟานั่งเล่น

ทีวี … ชอบตู้วางทีวี ยาวเต็มพื้นที่ดี

ระยะดูทีวี กว้างพอได้

โถงทางเดินไปห้องนอน

ห้องนอนใหญ่

ปลายเตียง

ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแป้ง

ทางออกระเบียง

กระจกเข้ามุมตรงหัวเตียง

ระเบียงแคบยาววว

คอมแอร์แขวนหลบเรียบร้อย

สวิทช์ไฟหน้าตาสามัญ

ห้องนอนเล็ก

ปลายเตียง

ตู้เสื้อผ้าเล็กๆ ออกแบบน่ารักดี

ธรณีกั้นห้องนอนกับระเบียง สูงมากๆ

คอมแอร์แขวนหลบ

ระเบียงยาวเช่นกัน

ธรณีก่อระวังสะดุด

อ่างล้างหน้า

โถสุขภัณฑ์

Shower Box

ฝักบัว

 

Price

ราคา และเงื่อนไขการขาย ณ.วันที่ 05/05/55 มีราคาออกมาเฉพาะตึก A นะครับ ราคานี้ขายแบบ Fully Fitted มี Pantry+สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำ+ ตู้เสื้อผ้า

  • 1 Bedroom 30-33 ตรม ชั้น 2-3 City View ราคา 1.73 – 1.95 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 30-33 ตรม ชั้น 2-3 Pool View ราคา 2.25 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 30-33 ตรม ชั้น 9-12 City View ราคา 1.84 – 2.01 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 30-33 ตรม ชั้น 9-12 Pool View ราคา 2.28 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 30-33 ตรม ชั้น 16-18 City View ราคา 1.94 – 2.04 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 30-33 ตรม ชั้น 16-18 Pool View ราคา 2.30 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 30-33 ตรม ชั้น 21-22 City View ราคา 2.09 – 2.13 ล้านบาท
  • 1 Bedroom 30-33 ตรม ชั้น 21-22 Pool View ราคา 2.35 ล้านบาท

ราคาต่อตารางเมตร ห้อง 1 Bedroom 57,600 – 71,200 บาท

  • 2 Bedroom 50 ตรม ชั้น 2-3 Pool View ราคา 3.49 – 3.59 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 50 ตรม ชั้น 9-12 Pool View ราคา 3.55 – 3.65 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 50 ตรม ชั้น 16-18 Pool View ราคา 3.60 – 3.70 ล้านบาท
  • 2 Bedroom 50 ตรม ชั้น 21-22 Pool View ราคา 3.65 – 3.75 ล้านบาท

ราคาต่อตารางเมตร ห้อง 2 Bedroom 69,800 – 75,000 บาท
1 Bed room จอง 20,000 ทำหนังสือจอง 30,000 ผ่อนดาวน์ 14 งวด รวม 200,000 บาท
2 Bed room จอง 20,000 ทำหนังสือจอง 30,000 ผ่อนดาวน์ 14 งวด รวม 340,000 บาท

  • ค่าส่วนกลาง 38 บาท ต่อ ตรม ต่อเดือน
  • เงินกองทุน 400 บาท ต่อ ตรม

เจาะลึกรวบยอด

The Key สาทร-ราชพฤกษ์ เป็นโครงการผสมผสานรูปแบบตึก ทั้ง Low Rise และ High Rise ได้ค่อนข้างสวยงามดีใครชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น ตัวทำเลโครงการจัดอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างเหมาะกับ Local Demand  ของคนฝั่งธน ความอุดมสมบูรณ์ของโครงการในระยะเดินเท้า 300 เมตร จัดอยู่ในระดับกันดาร คือแถวนั้นไม่มีร้านรวงให้พึงพาด้วยการเดินไปใกล้ๆเลย ต้องอาศัยใช้รถส่วนตัว หรือนั่งรถไป

การเดินทางโดยใช้รถส่วนตัว ไม่ค่อยสะดวกในการเข้าออกโครงการ ต้องไปวนไปยูเทิร์นไกล ลำบากหน่อย แต่การเดินทางเข้าสาทร สีลม ไม่ไกลเท่าไหร่ เป็นทำเลส่วนต่อขยายของสาทร-ธนบุรี-วงเวียนใหญ่ และตากสิน ส่วนการเดินทางโดยไม่ใช้รถต้องใช้รถไฟฟ้าสถานเดียว ไม่มีพี่วิน เรียก Taxi ยากลำบากแน่นอน เพราะพี่ Taxi เขาจะขับเลยโครงการไปเลย มันเบียดเข้ามาไม่ได้ ติดเกาะกลาง.. การเดินมาขึ้นรถไฟฟ้าก็มีข้อจำกัด ระยะทางจากหน้าโครงการไปรถไฟฟ้า 260  เมตร แม้ว่าโครงการจะติดตั้งไฟส่องสว่างเพิ่มให้ แต่ผมแนะนำให้ท่านที่สนใจ แวะไปดูทำเลด้วยตัวเอง และลองเดินจากหน้าโครงการไปว่าที่สถานีรถไฟฟ้า ตามแผนที่ที่ผมทำไว้ให้ ลองดูนะครับว่าสภาพแถวนั้นมันพอจะรับได้หรือไม่ได้ เพราะรับรองว่า ได้พึ่งพารถไฟฟ้าเป็นหลักแน่ๆ ถ้าคุณไม่มีรถส่วนตัวนะ

การออกแบบโครงการ ทำได้สวย ในหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ตกม้าตายตรงที่จอดรถ ทั้งๆที่โครงการมีที่ดินมากมาย การแยกตึกจอดรถออกไปต่างหาก แถมไปอยู่ในสุด ทำให้ไม่สะดวกอย่างมาก เนื่องจากว่าข้าวของเครื่องใช้ต้องซื้อติดกลับมาบ้านเพราะแถวๆนี้มันไม่มีร้านค้าดีๆให้พึ่งพิง การเดินถือของเยอะๆขึ้นลงตึกจอดรถ และเดินกลับมาที่ตึกตัวเอง มันไม่หนุกเรยย โดยเฉพาะวันไหนที่รีบๆ ของเยอะๆ ฝนตก หรือดึกๆดื่นๆ โครงการมีที่จอดรถแค่ 48% ถ้ากลับมาดึกแล้วไม่มีที่จอดนี่ สาหัสแน่นอน… นอกจากนี้การออกแบบหลายจุดทำได้สวย แต่ฟังค์ชั่นการใช้งานอาจจะไม่ดีไม่เหมาะกับหลายคน เช่นประตูกระจกบานเลื่อนกั้นห้องนอนกับห้องนั่งเล่น ทำให้ห้องนอนติดทีวีในตำแหน่งที่เหมาะสมไม่ได้เป็นต้น

วัสดุอุปกรณ์ที่ให้มา ก็ค่อนข้างเหมาะสมกับระดับราคา แต่ห้องที่ระดับราคาแตะ หกหมื่นปลายขึ้นไป วัสดุที่ได้อาจจะดูไม่ค่อยคุ้มละ ทำเลแบบนี้ ราคาแบบนี้ น่าจะได้วัสดุที่เยอะหรือดีกว่านี้ครับ น่าเสียดายที่โครงการเอาเครื่องซักผ้าไว้ในห้องแต่วัสดุพื้นในส่วนซักผ้าน่าจะเป็นกระเบื้อง เพราะลามิเนตมันจะไม่ชอบน้ำและความชื้นเท่าไร

สาธารณูปโภค ค่อนข้างให้มาครบ แต่อาจจะน้อยไปพอสมควร ที่จอดรถ 48% กับทำเลที่คนน่าจะต้องใช้รถส่วนตัวกันเยอะ ลิฟท์ 4 ตัวต่อ 700 ห้อง (ตึก A) 175 ห้องต่อลิฟท์ 1 ตัว รอนานแน่ในเวลาเร่งด่วน (มาตรฐาน 100 ต่อ 1) สระว่ายน้ำ ฟิตเนส และอื่นๆ ก็ต้องแชร์ใช้ร่วมๆ 800 ห้อง ก็คงต้องบริหารจัดการกันดีๆ โดยเฉพาะเรื่องที่จอดรถ… เรื่องน่าเสียดายอย่างที่สุดคือร้านค้า เนื่องจากทำเลตรงนี้มันกันดารหาร้านขายของกินของใช้แทบไม่มีแต่โครงการจัดพื้นที่ร้านค้ามาให้สามร้านเอง ซักรีด ร้านค้า มินิมาร์ท ร้านอาหารยังไม่รู้เลยว่ามีไหม ทำให้การพักอาศัยจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไร

 

Judgement

การให้คะแนน คิดแบบ Weight Average ให้คะแนนความคุ้มค่าของโครงการ เทียบกับเม็ดเงินที่เราจ่ายไป โดยให้น้ำหนักของเกณฑ์ต่างๆ ไม่เท่ากัน ดังนี้ครับ

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับราคาเฉลี่ยประมาณ  65,000 บาทต่อตารางเมตร, 05/05/55

  • ทำเล  6.75/10 – ทำเลเดินทางมาสาทรสีลมไม่ไกลก็จริง แต่ตำแหน่งที่ตั้งไม่สะดวก และค่อนข้างกันดารไม่อุดมสมบูรณ์หาร้านค้าร้านอาหารไม่ค่อยมี ต้องรอเวลาให้มีชุมชนขึ้นแถวๆนั้นมากกว่านี้
  • เดินทางด้วยรถ 6.75/10 – เข้าเมืองไม่ไกล ออกเมืองไม่ไกล แต่ไปมาไม่สะดวก ที่จอดรถน้อย และเป็นตึกจอดรถแยกต่างหาก คนใช้รถไม่ค่อยสะดวก ถ้าที่จอดรถเต็มจะล้นออกมาจอดข้างนอกก็ลำบาก
  • ไม่ใช้รถ 7/10 – ใกล้รถไฟฟ้าในระยะพอเดินได้ แต่พี่วิน พี่แท็กซี่ และการขึ้นลงรถเมล์ ไม่สะดวกมากและจะหารถได้ยาก…. ถ้าคนไม่ใช้รถไฟฟ้า คะแนนส่วนนี้จะต่ำกว่านี้อีก
  • วัสดุ 7.5/10 – คุณภาพวัสดุใช้ของที่เหมาะสมพอใช้ได้ แต่ห้องที่ราคาใกล้ 70,000 บาท ต่อตารางเมตรขึ้นไป ควรได้วัสดุที่ดีหรือแถมมาเยอะกว่านี้
  • แบบ 8/10 – แบบตึกทำออกมาสวยดี แต่ภายในห้อง สวยแต่ function ไม่ได้สำหรับ Lifestyle ของหลายๆคน เช่นห้องนอนติดทีวีไม่ได้
  • สาธารณูปโภค 7.5/10 – มีให้ครบ แต่ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับจำนวน Unit และระดับราคา

  • MAIN CLASS
  • 7.10 / 10.00

BOTTOM LINE

The Key สาทร-ราชพฤกษ์ เป็นโครงการที่เหมาะกับคนย่านฝั่งธน หรือคนทำงานย่านสีลม สาทร ชอบโครงการที่สงบ ไม่วุ่นวาย อยู่กับธรรมชาติ ใช้รถบ้างใช้ รถไฟฟ้าบ้าง ไม่ค่อยนั่งรถเมล์ เลือกซื้อของชอบมองเจ้าของร้าน เลือกโครงการขอแบบมี Brand Name มีงบประมาณ ระดับ 2 – 4 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนเดือนละ 14,000 – 28,000 บาท

 

ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้ผมหน่อยนะครับ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปครับ