รีวิวฉบับที่ 1950… มีใครกำลังมองหาคอนโดตากอากาศในโซนพัทยาอยู่รึเปล่า วันนี้เราจะพาไปดูคอนโดวิวทะเล ใกล้หาดเพียง 300 ม. กับโครงการ The Panora Pattaya จาก Mida Property ที่ตั้งอยู่บนเขาพระตำหนักซอย 5 เป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น พร้อม Facilities จัดเต็ม มีสระว่ายน้ำถึง 2 จุด ส่วนห้อง Studio-2 Bedrooms ขนาด 30.82-78.55 ตร.ม. ขายแบบ Fully Furnished + เครื่องใช้ไฟฟ้า+ตกแต่งครบ ในราคาเริ่มต้น 2.95 ล้านบาท ไปดูโครงการนี้พร้อมๆ กันเลยค่ะ > <
Fact @ 24 September 2019
- The Panora Pattaya (เดอะ พาโนร่า พัทยา)
- Mida Property Co.,Ltd
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ซอยพระตำหนัก 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
- ที่ดินประมาณ 3-0-15.1 ไร่
- คอนโด High Rise 38 ชั้น 1 อาคาร 342 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 95 คัน คิดเป็น 30%
- เริ่มก่อสร้าง : 07/2019
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : 12/2021
- Studio 30.82 ตร.ม. จำนวน 20 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 2.95 ล้านบาท
- 1 Bedroom 32.57-37.27 ตร.ม. จำนวน 313 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.55 ล้านบาท
- 2 Bedrooms 78.55 ตร.ม. จำนวน 9 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 14.48 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 2.95 ล้านบาท / หรือตร.ม.ละ 95,717 บาท
- ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 148,690 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 063-205-7755
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างค่ะ
พิกัด Google Maps : 12.910370, 100.859525
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
โครงการ The Panora Pattaya ตั้งอยู่บนเขาพระตำหนักในเมืองพัทยา ที่ตัวเมืองเองเป็นแหล่งที่ฮอตฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ด้วยบรรยากาศที่คึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติที่นิยมมาพัทยาอย่างเห็นได้ชัดคือ ชาวจีนและชาวรัสเซีย ทำให้อสังหาริมทรัพย์อย่างคอนโดติดทะเลหรือคอนโดวิวทะเลเกิดใหม่ขึ้นมาเยอะทีเดียวค่ะ
สำหรับเมืองพัทยานี้ เป็นเมืองที่มีเขตการปกครองพิเศษแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี ซึ่งมีระดับเทียบเท่ากับเทศบาลนคร คือจังหวัดที่ผู้ว่าตัดสินใจได้เองเลย ไม่ต้องผ่านขั้นตอนหลากหลายเหมือนจังหวัดอื่นๆ โดยถูกแบ่งให้เห็นชัดๆ เลยเป็น 4 ส่วน ได้แก่ พัทยาเหนือ, พัทยากลาง, พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน
- พัทยาเหนือ เป็นเส้นที่ใกล้สุดถ้ามาจากตัวเมืองชลบุรี ซึ่งเป็นเส้นที่กำลังมีการพัฒนาเรื่อยๆ เริ่มมีคอนโดขึ้นใหม่ให้เห็นบ้างแล้ว รวมถึงเป็นเส้นที่มีห้างใหญ่อย่าง Terminal 21 Pattaya มาเปิดอีกด้วยนะ
- พัทยากลาง เป็นถนนที่วิ่งตรงเข้าหาดได้เลย โดยโซนนี้จะมีปริมาณนักท่องเที่ยวเยอะ ทำให้มีทั้ง บาร์ ตลาด ร้านอาหาร โรงแรม และห้างสรรพสินค้าอย่าง Central Festival Pattaya ที่บรรยากาศดูจะวุ่นวายหน่อยๆ มีปริมาณรถหนาแน่นเลย
- พัทยาใต้ คงหนีไม่พ้น Walking Street หรือที่เราเรียกกันว่า “ถนนคนเดินพัทยา” ซึ่งเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชื่นชอบ มีทั้งร้านค้า ร้านอาหารให้เลือกใช้บริการในยามค่ำคืน รวมถึงยังเดินทางไปขึ้นเรือที่แหลมบาลีฮายได้อีกด้วย
- หาดจอมเทียน ถูกกั้นแยกออกมาด้วยเขาพระตำหนัก โดยโซนนี้ชายหาดถูกใช้บริการได้เต็มที่มากกว่า เพราะไม่มีเรือจอดนิ่งเหมือนฝั่งที่แล้ว ซึ่งเหมาะใช้เล่นกีฬาทางน้ำต่างๆ รวมถึงรถสามารถจอดลงเล่นน้ำได้เลย ทำให้บรรยากาศคึกคักทีเดียว
พัทยา จัดเป็นหนึ่งใน 3 จังหวัดร่วมกับ ระยองและฉะเชิงเทรา ที่เข้าร่วมในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งทั้ง 3 พื้นที่ดังกล่าว เดิมทีเมืองพัทยามีความพร้อมทุกด้านอยู่แล้ว ทั้งระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก เป็นแหล่งท่องเที่ยวและลงทุนของชาวต่างชาติ รวมถึงมีสนามบินอู่ตะเภาที่ใช้เวลาเดินทางจากโครงการไปประมาณ 45 นาที เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ แต่ล่าสุดพอมี Mega Project ของทางภาครัฐอย่าง EEC ที่ทำให้การลงทุนในแถบนี้น่าสนใจยิ่งขึ้น
โดย EEC จะมีส่วนในการพัฒนาเมืองและแหล่งท่องเที่ยวให้พร้อมในการอยู่อาศัย พักผ่อน และประกอบธุรกิจได้ มีสิ่งอำนวยความสะดวก มีความทันสมัย และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนในพื้นที่เดิมและผู้ที่จะเข้ามาลงทุนใหม่ ภายใต้การลงทุนร่วมภาครัฐและเอกชน ทั้งทางรถยนต์ ทางรถไฟ ทางอากาศ และทางน้ำ อาทิเช่น
- การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติหลักแห่งที่ 3 ของไทย
- การสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา)
- รถไฟทางคู่เชื่อมแหล่งอุตสาหกรรมกับท่าเรือ
- การพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง
- การพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด
- การก่อสร้างถนนมอเตอร์เวย์ 3 เส้นทาง
- การพัฒนาเมืองในจังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา
- การลงทุนด้านการท่องเที่ยว
- การพัฒนาเขตนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและลงทุนกับอุตสาหกรรมเป้าหมาย
เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับศักยภาพภายในเมืองพัทยา และตัวโครงการของเราโดยตรงเลย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและอำนวยความสะดวกสบายต่างๆ ได้มากทีเดียวค่ะ
ลองซูมเข้ามาอีกนิด เพื่อให้เห็นบรรยากาศบนเขาพระตำหนักกันดูบ้าง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการกันค่ะ ขอเกริ่นก่อนว่าเขาพระตำหนักตั้งอยู่ระหว่างหาดพัทยา และหาดนาจอมเทียน โดยมีถนนทัพพระยาเชื่อมระหว่าง พัทยาใต้-เขาพระตำหนัก-หาดนาจอมเทียนเข้าด้วยกัน มีสถานที่สำคัญอย่าง อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ “พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย” ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ให้เราสามารถมองวิวมุมสูงของเมืองพัทยาได้ นอกจากนี้ยังมีทั้งวัดเขาพระบาทพัทยาและวัดเขาพระใหญ่ ของคนเมืองให้สักการะกันอีกด้วย รวมไปถึงมีสวนเฉลิมพระเกียรติที่มีความร่มรื่นพอสมควรเลย
สำหรับภาพรวมของโซน ถือว่าน่าสนใจทีเดียว เพราะเป็นทำเลที่เงียบสงบ มีคนอยู่อาศัยระดับปานกลาง ลักษณะกายภาพเป็นเนินขึ้นไป ซึ่งช่วยทำให้มองเห็นวิวได้ดียิ่งขึ้นและอยู่ไม่ไกลจากหาด รวมถึงเป็นพื้นที่ทำเลใจกลางพัทยา ที่ยังมีพื้นที่สีเขียวลงเหลืออยู่แตกต่างจากโซนอื่นๆ เหมาะเป็นสถานที่พักผ่อนที่แท้จริง ส่วนความอุดมสมบูรณ์รอบๆ มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่มากมาย ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ สรุปแล้วเป็นทำเลที่รองรับการเติบโตทางด้านอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่ ซึ่งราคาที่ดินในย่านนี้เพิ่มขึ้นทุกปีค่ะ
สำหรับการเดินทางของเราในวันนี้
เริ่มต้นจากถนนมอเตอร์เวย์ (วิ่งตรงมาจากกรุงเทพ) > เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขุมวิท > ลอดอุโมงค์ผ่านพัทยากลาง > ขับผ่านแยกพัทยาใต้ > หลังจากนั้นให้เลี้ยวขวาเข้าถนนเทพประสิทธิ์ (หัวมุมมี Outlet Mall ) > ขับตามทางไปจนถึง 3 แยก ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนทัพพระยา > ตรงไปมีแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระตำหนัก > วิ่งเข้าพระตำหนัก ซอย 5 ขับตามทางไปเรื่อยๆ จะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือค่ะ
จากถนนมอเตอร์เวย์ (วิ่งมากจากกรุงเทพ) มุ่งหน้าพัทยา เส้นทางจะวิ่งมาสุดทางเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท เพื่อวิ่งเข้าสู่ตัวเมืองพัทยา
เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนสุขุมวิท ตามป้ายพัทยากลางไป มุ่งหน้าระยอง-สัตหีบ ส่วนถ้าเลี้ยวขวาก็จะไปทางพัทยาเหนือ, แหลมฉบัง
เมื่อเข้าถนนสุขุวิท ให้ชิดขวา เพื่อใช้อุโมงค์ลอดผ่านแยกพัทยากลางไป
หลังจากขึ้นอุโมงค์มา ให้ขับผ่านแยกพัทยาใต้ไป (ผ่าน Big C พัทยาใต้)
เตรียมชิดขวาไว้ บริเวณสี่แยกให้เลี้ยวขวาเข้าถนนเทพประสิทธิ์
บริเวณหัวมุมสังเกตง่ายๆ มี Outlet Mall Pattaya แสดงว่าเรามาถูกทางแล้วนะคะ
ขับตรงมาสุดจนเจอสามแยกแล้ว ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนทัพพระยา
หลังจากนั้นให้เตรียมชิดซ้าย พอเจอสี่แยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพระตำหนัก
ขับเข้าไปนิดนึง ให้เลี้ยวซ้ายเข้าพระตำหนักซอย 5 ที่หน้าปากซอยมี Family Mart และ 7-eleven ค่ะ
หลังจากนั้นขับตามทางมาเรื่อยๆ จะเจอทางแยกให้เราเบี่ยงซ้ายตามทางไป
ตรงมาจะเห็นทะเลอยู่ด้านหน้าแล้ว โครงการของเราอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ
สภาพแวดล้อมโดยรอบโครงการกันค่ะ ตำแหน่งโครงการตั้งอยู่บนเขาพระตำหนัก ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่คอนโดที่ติดริมหาดเดินลงไปเล่นน้ำทะเลได้เลย แต่จะเป็นคอนโดชมวิวทะเล ที่ใกล้หาดเพียง 300 ม. โดยหาดบริเวณนี้ จะเชื่อมต่อกับหาดจอมเทียน แต่เงียบสงบมากกว่า เหมือนเป็น Private Beach เลยนะ ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ชอบมานอนอาบแดด และต้องการหนีความวุ่นวาย จากพัทยาโซนอื่นๆ
เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดตากอากาศ ที่มีความสงบหน่อย ไม่วุ่นวาย เหมือนคอนโดติดชายหาดในโซนอื่นๆ รวมถึงยังหาของกินได้ง่าย มีความอุดมสมบูรณ์กระจายโดยรอบ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านยา ร้านสะดวกซื้อ ร้านคาเฟ่ในระยะที่เดินได้สบายเลย เดี๋ยวเราจะพาไปดูบรรยากาศรอบๆกันค่ะ
ขอเริ่มต้นที่บริเวณ Sales Gallery ของโครงการกันก่อน ซึ่งเป็นตำแหน่งจริงของโครงการค่ะ
เดินย้อนขึ้นมา บริเวณด้านหน้าโครงการมีตึกแถว 2 ชั้นอยู่ค่ะ
เดินมาอีกนิด มีตึกแถวสูง 4 ชั้น ที่ชั้นล่างทำเป็นร้านสะดวกซื้อ Family Mart ที่เราเดินมาซื้อของได้ตลอด 24 ชม. เลยนะ
ต้องบอกก่อนเลยว่าอาคารในซอยนี้ ส่วนใหญ่เป็นตึกแถวเรียงกันไป ตลอดแนวซอยพระตำหนักจนถึงหาดเลย ที่ชั้นล่างทำเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ให้ใช้บริการอีกด้วย
เดี๋ยวเราจะพาเดินไปดูบรรยากาศบริเวณหาดยินยอมกันค่ะ
พอเดินมาแถวๆหาด จะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 อีก 1 จุด ให้เราเลือกใช้งานได้ ข้างๆเป็นโรงแรม Centara Grand Pattaya นะคะ
สำหรับบริเวณหาดยินยอม เพิ่งมีการปรับทัศนียภาพใหม่ ซึ่งถ้าเราไม่ชอบเดิน จะขับรถมาจอดแล้วเดินลงไปเล่นน้ำก็ได้ โดยเป็นซอยเดียวในเขาพระตำหนักที่ตรงออกมาชายหาดได้เลยค่ะ
มาดูบรรยากาศหาดบริเวณนี้กัน ความรู้สึกเหมือน Private Beach เลยนะ ผู้คนไม่วุ่นว่าย บรรยากาศเงียบสงบ แตกต่างจากหาดอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนสภาพหาดก็มีการปรับทัศนียภาพให้สวยงามทีเดียว
ทะเลที่นี่จะไม่มีเรือจอดแช่ เหมือนบริเวณหาดพัทยาอีกด้วย เหมาะมานอนอาบแดด เล่นน้ำ แบบสงบ ไม่วุ่นวาย
นอกจากนี้ยังได้ทำทางเดินใหม่ ที่สามารถเดินไปเชื่อมกับหาดจอมเทียนได้เลยนะ
ก่อนเข้าไปดูโครงการ แวะไปดูตลาด Pattaya Park Night Market กัน ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 500 ม. โดยเริ่มเปิดตั้งแต่ 5 โมงเย็น เป็นต้นไป ถ้าใครแวะไปดู Sales Gallery แล้ว ลองแวะไปเดินเล่นดูนะ > <
สำหรับพื้นที่โครงการปัจจุบันเริ่มก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ
เราลองเอาแปลนใส่เข้าไปกับภาพมุมสูงแบบ Bird Eye View เพื่อให้เห็นบรรยากาศโดยรอบๆของโครงการกัน เห็นได้ชัดๆเลยว่าความเจริญในพระตำหนักซอย 5 ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ทีเดียว ซึ่งเป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ภายในโครงการเป็นที่ดินขนาดใหญ่ แต่ถูกขนาบข้างด้วยตึกแถว 2 ฝั่ง ทำให้พื้นที่โครงการไม่ได้เป็นสี่เหลี่ยมเต็มพื้นที่นะ
โครงการมีอาคารที่จอดรถแยกอยู่ด้านหลังทางทิศตะวันออก ส่วนอาคารพักอาศัยเป็น Tower เดี่ยว วางขนานกับตัวทะเล ทำให้โครงการนี้ไม่มีห้องพักบังวิวกันเองเลย รวมถึงได้ความเป็นส่วนตัว เพราะมียูนิตเพียง 342 ยูนิต ถือว่าน้อย พร้อมห้องเริ่มต้น Studio ที่ใหญ่ถึง 30.82 ตร.ม.เลยนะ โดยวิวจะได้เป็น 2 วิว 2 บรรยากาศ ห้องที่หันออกไปทาง Sea View จะมีปริมาณเยอะกว่าฝั่ง City View ที่มองไปทางเขาพระตำหนัก แม้จะไม่ได้วิวทะเลแต่ก็ยังได้เห็นพื้นที่สีเขียวอยู่ ไปดูบรรยากาศรอบๆกันค่ะ
ทิศตะวันตก – หันออกทางทะเล (Sea View) แม้ว่าจะมีคอนโดบังวิวอยู่บ้าง แต่ก็มีระยะห่างกันพอสมควรเลย ทำให้เรายังมองเห็นวิวทะเลได้อยู่นะ
ทิศเหนือ – มองออกมาเห็นเกาะล้าน พร้อมชมพระอาทิตย์ตกได้อีกด้วย ต้องบอกก่อนว่าฝั่งนี้เป็นผนังทึบ เนื่องจากหันหน้าไปทางพระราชวังของพระองค์เจ้าโสมสวลี ซึ่งมีกฏว่าให้ผนังฝั่งนี้ทึบทั้งหมด ทำให้เราอาจจะเห็นฝั่งนี้ได้ไม่ชัดมากนะคะ
ทิศตะวันออก – หันออกไปทางเขาพระตำหนัก (City View) ที่ทำให้ได้วิวพื้นที่สีเขียวแทน โดยรวมบรรยากาศก็ดูไม่แย่นะ อันนี้ก็แล้วแต่คนชอบเลย
ทิศใต้ – หันออกไปทางหาดจอมเทียน ซึ่งเราจะเห็น Pattaya Park เดิมที่เป็นสวนน้ำขนาดใหญ่แห่งแรกของคนในพื้นที่เลยนะ ตอนเด็กๆเราก็ชอบมาว่ายน้ำบ่อยๆนะ ^^
กลับมาที่ Sales Gallery จะอยู่ติดถนนเลย หาง่ายดี เราสามารถจอดรถด้านหน้าได้เลยนะ แต่ถ้าที่จอดเต็ม สามารถเลี้ยวเข้าซอยข้างๆก็มีที่จอดให้บริการเช่นกันค่ะ
ภายในจัดที่นั่งสำหรับผู้เยี่ยมชมโครงการไว้หลายชุดเลย + มีโมเดลภาพรวมโครงการให้ดูกันแล้ว พร้อมขนมและน้ำหวานเสิร์ฟ ให้ระหว่างสอบถามข้อมูลอีกด้วยนะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- หาดยินยอม ~300 ม.
- Pattaya Park Water World ~1.2 กม.
- วัดเขาพระใหญ่ ~1.4 กม.
- วัดเขาพระบาทพัทยา ~1.7 กม.
- อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ ~1.7 กม.
- แหลมบาลีฮาย ~2.8 กม.
- Central Festival Pattaya ~4.9 กม.
- Tesco Lotus พัทยาใต้ ~5.2 กม.
- Big C พัทยาใต้ ~5.9 กม.
- Termianal 21 Pattaya ~7.2 กม.
ภาพจำลองตัวโครงการ The Panora Pattaya เป็นคอนโด High Rise ตัวแรกของทาง Mida Property ที่ทาง Developer ใส่ใจรายละเอียดเป็นพิเศษ ตัวโครงการเป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น ในสไตล์ Modern Luxury บนทำเลเขาพระตำหนัก ใกล้หาดยินยอม เป็นโซนที่ชายหาดได้ความเป็นส่วนตัวสูง ส่วนตัวโครงการมี Facilities จัดเต็ม ให้มาถึง 2 ชั้นด้วยกัน ให้เลือกใช้งานได้ตามใจชอบ ข้อดีคือแม้เราจะอยู่ชั้นไม่สูงมาก หรือห้องฝั่ง City View เราก็สามารถขึ้นมาใช้พื้นที่ส่วนกลาง ชมวิวมุมสูงของโครงการได้ค่ะ
ตัวโครงการเป็น High Rise สูง 38 ชั้น ที่วางขนานไปกับทะเลเลย โดยจุดเด่นของโครงการเลยคือ Facilities จัดเต็มถึง 2 ชั้น เริ่มที่ชั้น 4 มีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องเด็กเล่น สนามเด็กเล่น และ Multi purpose area ให้ใช้งานกัน แต่ชั้นนี้ยังมองเห็นวิวทะเลไม่ค่อยชัด เหมาะเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมมากกว่า ส่วนถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย ให้ขึ้นมาที่ชั้น 29 มีสระว่ายน้ำอีก 1 จุด พร้อม Sunken Seat สำหรับนั่งพักผ่อน โดยชั้นนี้จะได้เห็นวิวมุมสูงของโครงการแล้ว นั่งชมวิวทะเลได้เต็มที่เลย
- ชั้น 1 : มี Lobby+ Drop off + พื้นที่จอดรถ
- ชั้น 4 : เป็น Facilities ของโครงการ
- ชั้น 5-28 : เป็นชั้นพักอาศัย ที่มี 12 ยูนิต/ชั้น
- ชั้น 29 : เป็น Facilities ของโครงการอีกจุด
- ชั้นที่ 30-38 : เป็นชั้นพักอาศัย ที่เริ่มมี 2 Bedrooms ให้เห็นแล้ว โดยเหลือเพียง 6 ยูนิต/ชั้น
ส่วนที่จอดรถมีอาคารแยกใช้งานอยู่ทางด้านทิศตะวันออก สูง 3 ชั้น โดยโครงการให้มาทั้งหมด 30% ไม่รวมจอดซ้อนคัน ที่ถือว่าเป็น Standard สำหรับคอนโดพักตากอากาศ ที่มีคนเข้าออกตลอดเวลา นอกจากนี้ทางโครงการยังมี Shuttle Service บริการ รับ-ส่งที่ Walking Street และถนนใหญ่อีกด้วย ส่วนรายละเอียดต้องสอบถามทางโครงการอีกที
ในส่วน Master Plan ลักษณะการวางอาคารกับที่ดิน คือ วางอาคารตรงกลาง ล้อมรอบด้วยถนนภายในโครงการ ที่เดินรถทางเดียวตามลูกศรสีแดง โดยจะมีอาคารจอดรถแยกกับตัวอาคารพักอาศัย นอกจากนี้ยังจัดสวนหย่อม + น้ำพุมาให้บริเวณทางเข้า และพื้นที่ Drop off เพื่อความสวยงาม พอเข้าภายในอาคารจะเป็นส่วน Main Lobby ที่จัดเก้าอี้รับรองแขกของลูกบ้านมาให้อีกด้วย ตรงข้ามกับโถงลิฟต์เป็นห้อง Mailbox สำหรับลูกบ้าน ส่วนลิฟต์โดยสารมีทั้งหมด 4 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ประมาณ 86: 1 เป็นปริมาณไม่หนาแน่นมาก ใช้งานกำลังดีเลยค่ะ
ภาพทัศนียภาพจำลองบริเวณซุ้มประตูทางเข้า ที่ออกแบบให้เป็นผนังทึบ ไม่ให้คนภายนอกมองเข้ามาด้านใน เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน + ชื่อโครงการขนาดใหญ่เห็นชัดเจนดี
เข้ามาภายในเจอน้ำพุลักษณะสามเหลี่ยม พร้อม Logo ของโครงการเป็น Sculpture ที่ถ้าใครมารับ-ส่งคน สามารถขับวนตรงนี้ออกได้เลย ไม่ต้องขับวนรอบโครงการค่ะ ส่วนอาคารจอดรถสำหรับลูกบ้านจะอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ
ภายใน Main Lobby สูงประมาณ 9 ม. ที่ทำให้ภายในดูโล่งดี รวมถึงได้กระจกสูงเต็มพื้นที่ ทำให้รับแสงธรรมชาติ + มองเห็นพื้นที่สีเขียวของโครงการเต็มที่เลยค่ะ
สำหรับอาคารจอดรถ จะเชื่อมกับตัวอาคารพักอาศัยเลย ซึ่งเราสามารถจอดรถแล้วเดินเข้าตัวอาคารได้เลย ซึ่งจะมีทางเข้าโถงลิฟต์อยู่ที่ชั้น 1 และ 3 ค่ะ
ถัดขึ้นมาชั้นที่ 4 เป็น Facilities ของโครงการ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 30 x 3.20 เมตร หรือเกิน Half Olympic มาเล็กน้อย ที่เราสามารถว่ายน้ำจริงจังได้เลย พร้อมแยกสระเด็กมาให้ใช้งานแล้ว รวมถึงยังมี Seating area ในสระน้ำให้นอนแช่ตัว ผ่อนคลายได้ ส่วนฝั่งขวามือมีห้อง Kids Room + ฟิตเนสอยู่ด้วยกัน ที่ล้อมรอบด้วยกระจก รับแสง+ชมวิวได้เต็มที่ นอกจากนี้ยังมีห้องน้ำแยกชาย-หญิงมาให้ ซึ่งภายในมี Sauna ให้บริการด้วยนะ ส่วน Roof Top ของอาคารจอดรถ เป็น Roof Garden ขนาดใหญ่แบบ Outdoor ที่มีฟังก์ชันทั้ง Kids Playground, Multi purpose area และ Amphitheatre รวมถึงพื้นเป็นหญ้านุ่มๆ ให้เด็กๆวิ่งเล่นได้อีกด้วย
มาดูโมเดลจำลองกันหน่อย สระว่ายน้ำยาว 30 ม. เกินขนาด Half Olympic ที่ว่ายน้ำจริงจังได้ เหงื่อออกกำลังดีเลย ส่วนสระเด็กก็แยกใช้งานมาให้ด้านข้าง จะได้ไม่รบกวนการใช้งานกัน นอกจากนี้ยังเตรียม Sun Bed มาให้นอนรับลมอีกด้วยนะ
ภาพทัศนียภาพจำลองห้อง Kids Room โครงการจัดชุดของเล่นมาให้ พร้อมชุดเก้าอี้ นั่งรอสำหรับผู้ปกครองค่ะ
เดินเข้ามาเป็นพื้นที่ Fitness ที่มีเครื่องเล่นครบครัน มีทั้ง Cardio และ Weight Training ให้ใช้บริการ รวมถึงล้อมรอบด้วยวิวกระจก ที่ออกกำลังกายไปชมวิวไปด้วยได้
มาดูโมเดลจำลอง Roof Garden ของโครงการ มาพร้อมฟังก์ชันต่างๆ ที่ใช้งานได้ครบครัน
ภาพทัศนียภาพจำลองบรรยากาศ ดูร่มรื่น น่าใช้งานดี พื้นเป็นสนามหญ้า ซึ่งเวลาเด็กๆมาวิ่งเล่นใช้งาน จะได้ไม่เจ็บตัวค่ะ
ถัดขึ้นมาชั้นที่ 29 เป็น Facilities อีก 1 จุดของโครงการ มีสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 27.55 x 5.80 ม. หรือเกิน Half Olympic มาเล็กน้อย ที่เราสามารถว่ายน้ำจริงจังได้เช่นกัน แต่ชั้นนี้จะไม่มีสระเด็กมาให้ เปลี่ยนเป็น Jacuzzi ไว้นั่งเล่นชมวิวแทนได้ มาพร้อม Sunken ถึง 2 จุด มีทั้งแบบ Blue และ Green ให้เลือกใช้งานก็ได้ตามใจชอบ
อย่างที่บอกไปตอนแรก ว่าโครงการจำเป็นต้องทำเป็นผนังทึบ 1 ฝั่ง เนื่องจากหันหน้าไปทางพระราชวังของพระองค์เจ้าโสมสวลี ทำให้เราไม่สามารถทำวิวเปิดแบบ 360 องศาได้นะคะ
เหนือชั้น Facilities มีห้องพักอีกชุดที่ชั้น 30-38 ซึ่งจะได้เห็นห้อง 2 Bedrooms กันแล้ว โดยจะถูกวางอยู่ทางทิศใต้ของตัวอาคารค่ะ
สำหรับ Facilities ชั้นที่ 29 วางยาวเกือบเท่าตัวตึกเลย โดยยื่นออกมาจากตัวอาคารด้านล่างเล็กน้อย ที่ช่วยบังแดดห้องด้านล่างได้ด้วยนะ
สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge Pool แบบ Outdoor เหมาะกับการใช้งานช่วงเช้าหรือเย็นแดดร่มแล้ว + ระเบียงกระจกใส ที่ทำให้เราชมวิวทะเลได้เต็มที่เลยนะ
ส่วน Semi Outdoor จะมีการวาง Day Bed ไว้ให้นั่งเล่นชิลๆ ริมสระ
ในส่วนของ Sunken Garden ให้คุณสัมผัสกับบรรยากาศเหมือนนั่งอยู่ในสวน พร้อมชม City View ของพัทยาได้ด้วย
ถัดมาในส่วนของ Sunken Blue ให้คุณสัมผัสกับน้ำอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น โดยตรงนี้จะได้วิวแบบ 270 องศาเลย เห็นทั้ง City View และ Sea View เลยค่ะ
กลับมาดูห้อง Typical Floor Plan กัน โดยห้องพักอาศัยเริ่มที่ชั้น 5-14 โดยตำแหน่งห้องเหมือนกันทั้งหมด มีจำนวนยูนิตสูงสุดที่ 12 ยูนิต/ชั้น ที่ไม่มากยังได้ความเป็นส่วนตัวอยู่ โดยตัวห้องเองจะถูกวางไวในทิศตะวันออก-ทิศตะวันตก ที่โดนแดดโดยตรง ซึ่งอาจจะร้อนอยู่บ้างในช่วงบ่ายๆ
ส่วนใหญ่เป็นห้อง 1 Bedroom ที่หันออกไปทาง Sea View ที่มีถึง 8 ยูนิต ส่วนห้อง City View จะมีเพียง 4 ยูนิต โดยจะเป็นห้อง Studio 2 ห้องนะ ทางเดินมีทั้งส่วนที่เป็น Single และ Double Corridor ซึ่งจะมีช่องเปิดเพียง 1 จุด ทำให้ต้องเปิดไฟช่วยตลอดทั้งวัน ที่ส่งผลกับค่าส่วนกลางในอนาคตได้
สำหรับห้องที่น่าสนใจเป็นห้อง A1 ทั้ง 4 ห้องที่ได้เป็น Single Corridor ซึ่งไม่ต้องเปิดประตูมาเจอกับใคร โดยที่ทำเส้นปะสีแดง ทางโครงการฝากบอกว่า ถ้าเราซื้อก่อนตึกเสร็จ สามารถทำเป็นห้อง Combine ได้ ซึ่งจะได้ห้องขนาดใหญ่ขึ้น เกือบเท่า 2 Bedrooms ด้านบนเลย แต่ราคาจะไม่สูงเท่านะคะ
ถัดขึ้นมาที่ชั้น 15-28 ตำแหน่งห้องคล้ายๆกัน แต่เปลี่ยนห้อง Studio เป็นห้อง 1 Bedroom ทั้งหมด โดยพอดูดีๆก็มีห้องที่น่าสนใจอีก 1 จุด คือห้องพักอาศัย A5 ซึ่งเป็นห้องมุม ที่ได้กระจก Bay Window ที่สามารถมองวิวได้ 2 ฝั่งเลย
ถัดขึ้นมาที่ชั้น 30-38 มีจำนวนยูนิตลงลดเหลือที่ 6 ยูนิต/ชั้น ที่ทางเดินมีช่องแสงมากขึน ทำให้ประหยัดไฟในชั้นนี้ได้มากขึ้น โดยมีเพียง 2 ห้องที่อยู่ตรงกัน นอกนั้นได้เป็น Single Corridor ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
ชั้นนี้เริ่มได้เห็นห้อง 2 Bedrooms กันแล้ว ซึ่งเป็นห้องหน้ากว้าง หันออกทางทิศใต้ ที่ไม่ได้รับแดดแรงในช่วงบ่ายโดยตรง รวมถึงเป็นห้องที่มองเห็นวิวได้ 270 องศา ที่สามารถนั่งชมวิว ได้ 3 ทิศทางจากในห้อง เริ่มจาก
- วิวที่ 1 บริเวณห้องนอนเล็ก หันออกทางทิศตะวันออกฝั่ง Sea View มองออกไปเห็นพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้าเป็นสีส้มๆสวยงามดี
- วิวที่ 2 บริเวณ Common Area หันออกไปทิศใต้ มองไปเห็น Pattaya Park และหาดจอมเทียน
- วิวที่ 3 บริเวณห้อง Master Bedroom หันออกไปทางทิศตะวันออกฝั่ง City View ที่ได้วิวบริเวณเขาพระตำหนัก ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวใจกลางพัทยาค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้นที่ 1
- Drop off
- Lobby Lounge
- Mailbox
- Sitting Area
- สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 3.20 x 30 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- Kids Pool ลึก 60 ซม.
- Seating area in the pool
- Kids Room
- Fitness
- Toilet + Sauna
- First Aid Room
- Roof Garden
- Multi purpose area
- Kid’s Playground
- Amphitheatre
- สระว่ายน้ำ ขนาด 5.80 x 27.55 เมตร ลึก 1.20 ม.
- Jacuzzi ขนาด 3.40 x 8.35 เมตร ลึก 90 ซม.
- Frist Aid Room
- Toilet
- Sunken Garden
- Sunken Blue
สำหรับห้องพักอาศัยของโครงการนั้นจะเริ่มมีตั้งแต่ห้อง Studio – 2 Bedrooms ขนาดห้อง 30.82-78.55 ตร.ม. ที่ขนาดเริ่มต้นใหญ่ทีเดียว โดยส่วนใหญ่แล้วจะเน้นไปที่ห้อง 1 Bedroom ความสูงพื้นถึงฝ้า 2.55 เป็นมาตรฐาน ส่วนจุดเด่นของห้องพักอาศัยที่นี่ คือขายแบบ Fully Furnished + เครื่องใช้ไฟฟ้า + ตกแต่งครบตามห้องตัวอย่าง ทั้งผนังตกแต่ง + ผ้าม่าน + แอร์แบบ Conceal Type (ฝังฝ้า) ด้วยนะ โดยภายในห้องจะไม่มี Condensing Unit วางไว้ที่ระเบียงเลย ถูกเอาไปรวมด้วยกันที่โถงลิฟต์เรียบร้อย ทำให้ใช้งานพื้นที่ระเบียงได้เต็มที่ค่ะ
ห้องตัวอย่างห้องแรกที่จะพาไปดูคือ ห้องแบบ 1 Bedroom Type A1 ที่มีพื้นที่ใช้สอย 34.85 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.55 ล้านบาท โดยตำแหน่งของห้องนี้จะอยู่ช่วงกลางๆ ที่ได้ทางเดินแบบ Single Corridor และมีจำนวนยูนิตเยอะที่สุดในโครงการด้วยนะ
ลักษณะแปลนห้องเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส ที่เน้นความโปร่งโล่งให้ห้อง ออกแบบให้พื้นที่หลายส่วนเชื่อมโยงกัน เปิดประตูเข้ามาเป็นส่องของพื้นที่ครัว ที่ได้เป็นครัวเปิด เหมาะกับคอนโดพักตากอากาศ ที่ไม่ค่อยได้ทำอาหารจริงจังอยู่แล้วนะ เน้นเตรียมอาหารเบาๆมากกว่า แต่ถ้าชอบทำอาหารจริงจัง ทางโครงการก็มี Hood ที่ช่วยดูดระบายอากาศออกนอกอาคารได้ระดับนึง หรือถ้าใครกังวลจะกั้นห้องเพิ่มในอนาคตก็ได้ แต่ต้องยอมเสียพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวไปค่ะ
ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ Living ติดกับพื้นที่ระเบียงที่รับแสงธรรมชาติ + นั่งชมวิวได้เต็มที่ ถัดไปเป็นส่วนห้องนอน ที่ถูกกั้นด้วยประตูบานเลื่อนสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ ถ้าใช้งานพร้อมกัน 2 คน ก็สามารถปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว หรือถ้าชอบนอนดูทีวีก็สามารถดูจากบนเตียงได้เลยนะ ส่วนห้องน้ำก็เข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากห้องนอนและห้องครัว ที่ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น แขกไม่ต้องเดินผ่านห้องนอนก่อน
ประตูหน้าห้องได้บานไม้ปิดผิวด้วยลามิเนต ติดตั้ง Digital Door Lock ซึ่งใช้งานได้เฉพาะ บัตรคีย์การ์ดเท่านั้น พร้อมมือจับแบบก้านโยกสวยงามดี
ส่วนธรณีประตูระดับเท่ากับทางเดินด้านนอกเลย ซึ่งฝุ่นจากภายนอกอาจจะลอดเข้ามาภายในห้องได้ แนะนำให้ติดผ้าดันฝุ่นตรงช่องว่างด้านล่างประตูก็สามารถกันฝุ่นเข้าห้องได้ดีพอสมควรแล้วค่ะ
เปิดประตูเข้ามาในห้องเจอกับพื้นที่ครัวก่อน ถัดไปเป็น Living Area ยาวจนถึงระเบียง ที่รับแสงธรรมชาติได้อยู่นะ ความสูงของฝ้าเพดานบริเวณครัวประมาณ 2.30 ม. เนื่องจากมีการ Drop ฝ้าเล็กน้อย เพื่อวางงานระบบแอร์ค่ะ
พื้นห้องเป็น Smart Vinyl แบบ Click-Lock ที่สามารถทนรอยขีดข่วนต่างๆ ได้ดีรวมไปถึงสามารถทนน้ำ/ความชื้นได้มากกว่าพื้นลามิเนตมาตรฐานทั่วไป และตัวพื้นเองมีความนุ่มเล็กน้อยเวลาเดินแล้วสบายเท้าดีค่ะ โดยหลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีพื้นที่ใช้งานประมาณ 1.06 ม. เป็นระยะที่ใช้งานพร้อมกันหลายๆคนได้สบายๆเลย
ถัดมาจะเป็นส่วนของชุดครัว ที่จะได้ตามนี้ทุกอย่างเลย รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยนะ ลักษณะเป็นครัวเปิดที่เน้นปรุงอาหารเบาๆ ส่วนชุด Built in ครัวที่ให้มามีทั้งหมด 3 ระดับนะ
เริ่มจากชั้นบนเป็นตู้เก็บของ ที่แบ่งเป็นชั้นวางของ 2 ระดับให้เก็บของเรียบร้อย ตู้หน้าบานปิดผิวลามิเนตลายไม้
Top เคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตสีดำเกล็ดทอง ที่ทนน้ำและความร้อนได้ระดับนึง + Backsplash เป็นกระเบื้องพอร์ชเลนที่เช็คทำความสะอาดได้ง่าย ป้องกันคราบสกปรกจากเศษอาหารเลอะที่ผนัง นอกจากนี้ระหว่างซิงค์ล้างจานและเตาไฟฟ้ามีพื้นที่ตรงกลางประมาณ 95 ซม. ที่พอใช้เตรียมอาหารได้
อ่างล้างจานสแตนเลสหลุมเดี่ยว ขนาด 39 x 37 ซม. แบบฝังในเคาน์เตอร์ ที่ไม่ต้องกลัวน้ำซึม เลอะเทอะ มาพร้อมก๊อกน้ำล้างจานโครเมียมทรงสูง ใช้งานง่าย ส่วนชุดเตาไฟฟ้าได้เป็นแบบ 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน ยี่ห้อ MEX แบบหมุนเวียนออกนอกอาคาร
ชุดครัวด้านล่างฝั่งซ้ายมือจะเป็นตู้ใต้ซิงค์ล้างจาน ที่สามารถวางของขนาดใหญ่ในบริเวณนี้ได้ ส่วนตรงกลางมีช่องใส่เครื่องซักผ้า ส่วนฝั่งขวามือมีช่องสำหรับวางไมโครเวฟ และมีลิ้นชักด้านล่างที่เก็บของเพิ่มเติมได้ ซึ่งเราจะได้ของตามนี้ทุกอย่างเลยนะ
- เครื่งซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อ Samsung Inverter ขนาด 8 Kg. หรือเทียบเท่า
- ไมโครเวฟ ยี่ห้อ Samsung แบบ Quick Defrost หรือเทียบเท่า
ฝั่งซ้ายมือมีช่องสำหรับวางตู้เย็น ซึ่งเราจะได้ตู้เย็นแบบเดียวกับห้องตัวอย่างเลย เป็นตู้เย็น ยี่ห้อ Samsung ขนาด 8.4 คิว หรือเทียบเท่า ที่แบ่งเป็นช่องแช่แข็งและช่องปกติค่ะ
หันกลับมาอีกฝั่งจะมีทางเข้าห้องน้ำ + โต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง พร้อมผนังกระจกสีดำ ตัดกับเส้น Rose Gold สวยงามดี
โต๊ะทานข้าว ขนาด 80 x 80 ซม. ที่ค่อนข้างใหญ่ใช้งานได้สะดวกดี มาพร้อมเก้าอี้สีดำผ้ากำมะหยี่ ลาย Dimond ที่ทำให้เก้าอี้ดูหรู + นุ่มสบาย น่านั่งดีนะ
บริเวณเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ และยังมี Sprinkler ติดตั้งมาให้ในกรณีไฟไหม้อีกด้วย
ทางเข้าห้องน้ำได้เป็นประตูบานเลื่อนที่ซ่อนไปกับผนัง ฝั่งขวามีตู้รองเท้ามาให้แบบนี้เลยนะ ซึ่งข้อดีของการมีตู้รองเท้าหน้าห้อง คือช่วยเก็บกลิ่นของรองเท้าได้ รวมถึงพื้นภายในห้องยังไม่เลอะอีกด้วยนะ แต่เวลาใช้งานต้องปิดประตูหน้าห้องก่อนเสมอค่ะ
สำหรับพื้นห้องน้ำมีการลดระดับลงประมาณ 5 ซม. ส่วนมือจับเป็นแบบเซาะร่อง ให้ใช้งานได้สะดวก พร้อมตัวล็อคแบบหมุนค่ะ
สำหรับห้องน้ำที่นี้เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ ที่แบ่งโซนเปียกและแห้งเป็นสัดส่วนด้วยฉากกั้นกระจกเรียบร้อย ผนังและพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ตามนี้เลย
ห้องน้ำสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง คือ จากห้องครัวและห้องนอน ข้อดีคือได้ความสะดวกสบายมากขึ้นอยู่ตรงไหนของห้องก็เข้าถึงได้ง่าย และแขกที่มาห้องก็สามารถเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องผ่านห้องนอน ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวอีกด้วยค่ะ โดยพื้นห้องน้ำมีพื้นที่เหลือสามารถทำเป็นชั้นวางของเพิ่มก็ได้นะ
บริเวณเหนืออ่างล้างมือ ได้กระจกใหญ่สูงเต็มพื้นที่เลย
อ่างล้างมือยี่ห้อ American Standard ด้านล่าง Built-in ชั้นวางของมาให้พร้อมหน้าบานปิด ที่สามารถเก็บอุปกรณ์ห้องน้ำได้นิดหน่อย + เครื่องทำน้ำอุ่นที่โครงการติดตั้งมาให้แล้วเรียบร้อยค่ะ
โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ American Standard เช่นกัน มาพร้อมสายชำระ และที่ใส่กระดาษทิชชู่ ซึ่งจะอยู่ผนังด้านหลัง เวลาใช้งานจริงอาจจะต้องเอียงตัวสักเล็กน้อยค่ะ
สายชำระสแตนเลสขนาดพอดีมือ มาพร้อมกับที่ใส่กระดาษทิชชู่แบบกันน้ำ ที่ป้องกันน้ำเปียกได้ระดับนึง
ฉากกั้นอาบน้ำแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส ที่ป้องกันไม่ให้น้ำไหลออกมาด้านนอก
ภายในพื้นที่อาบน้ำยกขอบธรณีขึ้นเล็กน้อยกันน้ำไหลย้อน มีพื้นที่อาบน้ำขนาด 1.10 x 0.90 ม. เป็นระยะที่ใช้งานได้สบายๆเลย
ส่วนฝักบัวอาบน้ำมีให้ทั้ง Rain Shower และ Hand Shower ยี่ห้อ American Standard ฝักบัวขนาดใหญ่อาบได้สะใจทีเดียว ปรับรูปแบบการไหลของน้ำได้หลากหลาย + ชั้นวางของรูปสามเหลี่ยมแบบเข้ามุม ซึ่งเราจะได้ตามนี้เลยนะ นอกจากนี้ยังมีที่นั่งขนาด 59 x 35 ซม. ไว้นั่งอาบน้ำด้วยนะ
ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight + พัดลมดูดอากาศมาให้
กลับออกมาด้านนอก ไปดูพื้นที่ Living Area กันต่อค่ะ
ชุดทีวี มีตู้เก็บของด้านล่างมาให้ + ทีวียี่ห้อ Samsung ขนาด 49″ ซึ่งเราจะได้แบบห้องตัวอย่างเลย ส่วนผนังด้านหลังมีทั้งผนังกระจกสีดำ + Wallpaper พร้อมเดินเส้น Rose Gold มาให้ตามนี้ ซึ่งจะเป็นโทนสีแบบนี้ทั้งห้อง เผื่อให้ตัวห้องดู Modern มากยิ่งขึ้น
โดยหน้าบานเป็นแบบเปิดที่แบ่งออกเป็น 2 ช่อง เก็บของได้เยอะดีนะ
โครงการให้โซฟาขนาด 1.45 x 0.80 ม. ที่นั่ง 2 คนได้กำลังดี + โต๊ะกลางวางของแบบห้องตัวอย่างเลยค่ะ / แต่เราจะไม่ได้หมอน + พร็อพต่างๆค่ะ
หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีระยะทีวีประมาณ 2 เมตร ซึ่งขนาดทีวีที่เหมาะกับระยะสายตาอยู่ที่ประมาณ 40″-49″ จัดว่าวางทีวีขนาดใหญ่ได้สบายเลย
ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight + แอร์แบบ Conceal Type (แบบฝังฝ้า เพื่อความเรียบร้อย ซึ่งเราสามารถปรับอุณหูภมิแอร์ได้ตามปกติค่ะ
ถัดไปมีประตูเชื่อมต่อไปยังระเบียง เป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอลูมิเนียม ยี่ห้อ Tostem ที่หนากว่าปกติ เพื่อป้องกัน Wind Load ภายในห้องพัก ( Tostem เป็นแบรนด์นำเข้าจากญี่ปุ่น วัสดุทนทานดี ) โดยมีความสูงเกือบเต็มผนัง ทำให้รับแสงธรรมชาติและวิวได้เต็มที่ + กระจกสีเขียวตัดแสง ที่ป้องกันแสง UV ได้ระดับนึง นอกจากนี้ยังได้ผ้าม่านแบบทึบและโปร่งแสง 2 ชั้นแบบห้องตัวอย่างเลย พร้อมเซาะร่องซ่อนรางผ้าม่านมาให้เรียบร้อย
ประตูบานเลื่อนสามารถเลื่อนเปิดไปมาได้ตามใจชอบเลย พร้อมตัวล็อค 2 ตอนแบบเกลียวหมุน ยี่ห้อ Tostem ค่ะ
พื้นที่ระเบียงภายนอกมีขนาด 2.65 x 1.10 เมตร พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 ซม. ได้ระเบียงกว้างที่วางอ่างอาบน้ำตามห้องตัวอย่างได้เลย ซึ่งอันนี้เป็น Option เสริมพิเศษนะ สำหรับคนที่ชอบนอนแช่ตัว + ชมวิวไปด้วย โดยตรงนี้ถ้าใครอยากได้ต้องจ่ายเงินเพิ่มค่ะ
ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสีขาว + ไฟ Downlight + ช่องระบายกลิ่นจาก Hood ครัว นอกจากนี้ยังมีปลั๊กไฟแบบกั้นน้ำ และก๊อกน้ำมาให้ใช้งาน สำหรับล้างระเบียงอีกด้วย
มองกลับเข้ามาภายในห้อง ฟังก์ชันดูต่อเนื่องกันดีนะคะ
ต่อไปมาดูห้องนอนกันค่ะ จะอยู่ด้านหลังห้องนั่งเล่น แยกส่วนกันด้วยประตูบานเลื่อน 3 ตอน แบบเลื่อนเปิดได้สุด + สูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเลย วัสดุประตูเป็นประตูบานกระจกแบบโปร่งแสง ขาวขุ่น ยี่ห้อ Tostem
ประตูบานเลื่อนมีตัวล็อคให้ใช้งานด้วย เพื่อความเป็นส่วนตัว อีกทั้งทางโครงการยังได้ฝังขอบอลูมิเนียมไว้กับพื้น ทำให้เดินได้สะดวกไม่ต้องกลัวสะดุดค่ะ
ห้องนอนเหมาะกับวางเตียงขนาด 6 ฟุต กำลังดีเลย มีพื้นที่เหลือเดินรอบเตียงได้สบายๆ พร้อมหน้าต่างที่รับแสงธรรมชาติและวิวภายนอกได้ สำหรับผนังห้องนี้มีทั้งส่วนที่เป็นกระจกสีดำและผนัง Wallpaper พร้อมเดินเส้น Rose Gold ให้โทนเดียวกับผนังด้านนอก
โครงการให้ฐานเตียง 6 ฟุต + ฟูกพร้อมนอนได้เลยนะ
โต๊ะหัวเตียงด้านข้างก็ได้ตามหัวตัวอย่างแบบนี้เลยนะ
เวลาเปิดประตูกั้นห้องก็สามารถนอนดูทีวีได้จากบนเตียง ระยะห่างจากทีวีประมาณ 4.72 เมตร ซึ่งทีวีขนาด 49″ ที่โครงการให้มาอาจจะเล็กไปหน่อย
หลังจากปิดประตูบานเลื่อน บริเวณปลายเตียงกว้าง 41 ซม. เป็นระยะเดินได้พอดี แต่ถ้าไม่มีคนอยู่แล้วเปิดประตูโล่งก็เดินได้สบายอยู่นะ ส่วนฝั่งริมหน้าต่าง มีระยะประมาณ 73 ซม. ที่วางโต๊ะหัวเตียงได้สบายๆ เหมาะกับคนที่ชอบเล่นมือถือก่อนนอน เพราะถ้าวางบนเตียงนอน มือถืออาจจะตกพื้นได้ ผู้เขียนเป็นบ่อยค่ะ อิอิ
หน้าต่างสูงเกือบเต็มผนังเลย ซึ่งจะมีบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน ที่สามารถระบายอากาศภายในห้อง ซึ่งชุดหน้าต่างเป็นของยี่ห้อ Tostem เช่นเดียวกัน
สำหรับห้องนี้ยังมี Bay Window ที่มองเห็นวิวได้กว้างกว่าปกติด้วยนะ
หันกลับมาหน้าห้องน้ำ เป็นพื้นที่แต่งตัว มีทั้งตู้เสื้อผ้า + โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งโครงการจัดมาให้เราแบบนี้เลยนะ
หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว มีพื้นที่ใช้งานประมาณ 1.00 ม. เป็นระยะที่เดินใช้งานพร้อมกัน 1-2 คนได้สบายๆเลย
โต๊ะเครื่องแป้งได้กระจกสูงเต็มผนัง + ลิ้นชักด้านล่างไว้เก็บของได้นิดหน่อย
ส่วนเก้าอี้สำหรับนั่งแต่งหน้าจะได้หน้าตาแบบนี้เลย
ตู้เสื้อผ้าสูงเต็มฝ้าเพดาน ซึ่งเราจะได้ของแบบนี้เลยนะ หน้าบานเป็นกระจกเงาสำหรับแต่งตัว ภายในแบ่งช่องมาให้ ชั้นบนไว้เก็บกระเป๋า ส่วนด้านล่างมีลิ้นชักมาให้เก็บของชิ้นเล็กๆ รวมถึงมีพื้นที่สำหรับแขวนเสื้อยาวๆได้อีกด้วยนะ
บริเวณฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ และยังมี Sprinkler ติดตั้งมาให้ในกรณีไฟไหม้อีกด้วย
หน้าตาของสวิตซ์ไฟที่ได้ค่ะ
ถัดมาเป็นห้องแบบ 2 Bedroom Type B1 ขนาด 78.55 ที่มีเพียง 9 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 14.68 ล้านบาท เป็นลักษณะห้องหน้ากว้าง ที่เห็นวิวได้ 3 ทิศทาง เพราะเป็นห้องหัวมุมที่หันหน้าออกไปทางทิศใต้ ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ภายในห้องไม่โดนแดดแรงในช่วงบ่าย
เข้ามาเป็นห้อง Common Area ขนาดใหญ่ พร้อมหน้าต่างกว้างยาวเต็มพื้นที่ + ห้องครัวเปิด ที่เน้นปรุงอาหารเบาๆ รวมถึงไม่มีห้องน้ำสำหรับแขก ถ้าจะใช้งานต้องเดินผ่านห้องนอนก่อนเสมอ ซึ่งความเป็นส่วนตัวก็อาจจะลดลงเล็กน้อย โดยห้องนี้จะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอน 2 ห้อง
ห้องนอนที่นี่มีขนาดใหญ่วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ แต่แอบเสียดายนิดนึงที่เตียงไม่ได้หันออกทางหน้าต่าง ซึ่งเป็นองศาที่เราสามารถนอนชมวิวได้จากบนเตียงเลย แต่ก็มีหน้าต่างที่กว้างเต็มพื้นที่มาให้ทดแทน ทำให้เราได้รับแสงธรรมชาติ + ชมวิวได้เต็มที่ ส่วนห้อง Master Bedroom จะมีระเบียงที่สามารถออกไปสูดอากาศภายนอกได้ สำหรับห้องน้ำจะมีให้ใช้งานภายในห้องเลย ทำให้ใช้งานได้สะดวกค่ะ
เปิดเข้าห้องมาเจอกับส่วนของ Common Area ก่อน ซึ่งห้องเป็นลักษณะหน้ากว้าง ที่ทำให้ทุกฟังก์ชันภายในห้องได้รับแสงสว่างเต็มที่
หันกลับมาดูส่วนครัวกันก่อน โดยจะได้เป็นครัวเปิดที่เน้นปรุงอาหารเบาๆ โดยวางครัวเป็นรูปตัว U ที่ทำให้มีพื้นที่เหลือขนาดใหญ่ สำหรับเตรียมอาหารด้วยนะ ส่วนฝั่งขวามีตู้เก็บของมาให้ค่ะ
มาดูภายในตู้เก็บของกันก่อน เป็นบานเปิด 2 ด้าน ที่ทำชั้นเก็บของมาให้เรียบร้อย แต่ถ้าใครอยากเก็บรองเท้าตรงนี้ แนะนำให้ทำชั้นย่อยเพิ่ม จะได้เก็บรองเท้าได้ง่ายขึ้นค่ะ
สำหรับห้องครัวได้เป็นพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ที่สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย และป้องกันความชื้นได้ดีเลย สำหรับระยะใช้งานกว้างประมาณ 98 ซม. ที่สามารถใช้งาน 1-2 คนได้กำลังดีค่ะ
โดยบริเวณเคาน์เตอร์ที่ยื่นออกมายาวๆ ข้างใต้มีลิ้นชักเก็บของมาให้ถึง 9 ช่อง ทำให้เก็บของได้เยอะทีเดียวค่ะ
ด้านบนสุดเป็นตู้เก็บของรูปตัว L ที่เวลาใช้งานตู้ริมจะเปิดพร้อมกันไม่ได้นะคะ ตู้หน้าบานเป็นลามิเนตลายไม้ เหมือนห้องที่แล้วเลยค่ะ
ภายในตู้ทำเป็นชั้นวางของ 2 ระดับ ทำให้เก็บของได้เยอะขึ้น
Top เคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตสีดำเกล็ดทอง + Backsplash เหมือนห้องที่แล้วเลย ซึ่งง่ายต่อการทำความสะอาดค่ะ
อ่างล้างจานฝังในเคาน์เตอร์เหมือนห้องที่แล้ว ส่วนชุดเตาไฟฟ้าจะได้เป็นเพิ่มมาเป็น 4 หัว พร้อมเครื่องดูดควัน ยี่ห้อ MEX แบบหมุนเวียนออกนอกอาคาร
สำหรับห้องนี้ เราจะได้เตาอบไฟฟ้ายี่ห้อ MEX เพิ่มขึ้นมาด้วยนะ ส่วนใต้ซิงค์ก็เป็นช่องขนาดใหญ่ ที่สามารถเอาของชิ้นใหญ่มาเก็บในนี้ได้นะ
เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จะได้เหมือนกับห้องที่แล้วเลยนะคะ
- เครื่งซักผ้าฝาหน้า ยี่ห้อ Samsung Inverter ขนาด 8 Kg. หรือเทียบเท่า
- ไมโครเวฟ ยี่ห้อ Samsung แบบ Quick Defrost หรือเทียบเท่า
- ตู้เย็น ยี่ห้อ Samsung ขนาด 8.4 คิว หรือเทียบเท่า
ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี พร้อมแอร์ Conceal Type (แบบฝังฝ้า) เหมือนห้องที่แล้วค่ะ
ในส่วนของ Common Area ถือเป็นจุด Highlight ของห้องนี้เลยค่ะ ขนาดพื้นหน้ากว้างประมาณ 6.5 ม. ที่ทำให้เรารับแสงธรรมชาติและชมวิวได้เต็มที่ รวมถึงตำแหน่งที่หันออกทางทิศใต้ ที่จะไม่ได้รับแดดโดยตรง ทำให้ใช้งานพื้นที่บริเวณนี้ได้ทั้งวันเลย
พื้นห้องที่เหลือเป็น Smart Vinyl แบบ Click-Lock ทั้งหมด ที่สามารถทนรอยขีดข่วนต่างๆ ได้ดีรวมไปถึงสามารถทนน้ำ/ความชื้นได้มากกว่าพื้นลามิเนตมาตรฐานทั่วไป และตัวพื้นเองมีความนุ่มเล็กน้อยเวลาเดินแล้วสบายเท้าดีค่ะ
สำหรับหน้าต่างบริเวณนี้มีกรอบอลูมิเนียม เพื่อป้องกัน Wind Load ไม่สามารถทำเป็น Window Frameless ได้ รวมถึงได้บานกระทุ้งมาถึง 4 บาน ที่ระบายอากาศภายในห้องได้ดียิ่งขึ้น โดยเป็นชุดหน้าต่างของ Tostem ทั้งหมด + กระจกสีเขียวตัดแสง
สำหรับโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 4 ที่นั่ง + เก้าอี้ผ้ากำมะหยี่ ที่เราจะได้แบบนี้เลยนะ
พร้อมโต๊ะวางของด้านหลัง ขนาด 1.38 x 0.36 ม. เราก็จะได้แบบนี้เช่นกัน
มาดูส่วน Living Area กันต่อ บริเวณนี้ได้ของตามนี้เลย ทั้งทีวียี่ห้อ Samsung ขนาด 55″ + ชุด Built-in ใต้ทีวี + โซฟา 2-3 ที่นั่ง + โต๊ะวางของด้านหลังโซฟา รวมถึงผนัง Wallpaper + เดินเส้น Rose Gold ตามนี้เลยนะ
ห้องนี้เราจะได้ตู้ Built-in ใต้ทีวีแบบนี้เลย Top เป็นสีดำเกล็ดทอง เหมือนท็อปครัว ส่วนตู้แบ่งออกเป็น 2 ช่อง ที่เก็บแยกกันได้ แต่ถ้าเราวางโต๊ะกลางแบบนี้ จะเปิดตู้ได้ไม่สุดนะ
โซฟาใหญ่กว่าห้องที่แล้วเล็กน้อย เหมาะนั่ง 2-3 ที่นั่ง ขนาดประมาณ 1.70 x 0.95 ม. + โต๊ะกลางเส้นผ่าศูนย์กลาง 60 ซม. ที่จะได้ตามนี้เลย สำหรับคนนั่งดูทีวีมีระยะประมาณ 2 ม. ไซส์ทีวีที่เหมาะสมคือประมาณ 47″-55″ นิ้ว ซึ่งทีวีที่โครงการให้มาเป็นขนาดที่ใหญ่เต็มสายตาพอดีค่ะ
บริเวณฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้
สำหรับผนังด้านข้างเป็นกระจกสีดำ + เดินเส้น Rose Gold ที่ทำให้ห้องดู Modern มากยิ่งขึ้น เดี๋ยวเราเดินไปดูห้อง Master Bedroom กันต่อค่ะ
ห้องนอนเหมาะกับวางเตียงขนาด 6 ฟุต กำลังดีเลย มีพื้นที่เหลือเดินรอบเตียงได้สบายๆ โดยฐานเตียงของห้องนี้จะมีเบาะด้านหลังให้ สามารถพิงได้นุ่มๆ ด้านข้างติดกับพื้นที่ระเบียงที่ออกไปยืนสูดอากาศได้ค่ะ
สำหรับพื้นที่ด้านข้างฝั่งด้านใน เหลือพื้นที่ประมาณ 70 ซม. ที่ทางโครงการวางโต๊ะหัวเตียงมาให้แล้วเรียบร้อย
สำหรับห้องนี้ติดเสาอาคารด้านหลังขนาดใหญ่ ซึ่งทางโครงการแก้ปัญหาด้วยการทำเป็นชั้นวางของมาให้แล้วเรียบร้อยค่ะ นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างบานกระทุ้งที่สามารถระบายอากาศภายในได้อีกด้วย
บริเวณปลายเตียงได้ทีวียี่ห้อ Samsung ขนาด 49″ พร้อมตู้ด้านล่างไว้เก็บของตามนี้เลย
บริเวณปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 65 ซม. ที่เดินใช้งานได้สบายๆเลย
ถัดไปมีประตูเชื่อมต่อไปยังระเบียง เป็นประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน กรอบอลูมิเนียม ยี่ห้อ Tostem ที่หนากว่าปกติ เหมือนห้องที่แล้วเลย นอกจากนี้ยังได้ผ้าม่านแบบทึบและโปร่งแสง 2 ชั้นแบบห้องตัวอย่างเลย พร้อมเซาะร่องซ่อนรางผ้าม่านมาให้เรียบร้อย
ความพิเศษคือห้องนี้จะได้ Bay Window ที่ทำให้เรามองเห็นวิวได้กว้างมากขึ้นด้วย
พื้นที่ระเบียงภายนอกมีขนาด 3.58 x 1.10 ม. พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 60 x 60 ซม. ระเบียงกว้าง+ ราวระเบียงกระจกหนากว่าปกติเพื่อป้องกัน Wind Load ค่ะ
สำหรับแอร์ห้องนี้ทำเป็น Conceal Type(ฝังฝ้า) ทั้งหมด เดี๋ยวเราจะพาไปดูพื้นที่ Walk-in Closet แล้วห้องน้ำกันค่ะ ซึ่งตรงนี้ถ้าใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทำประตูบานเลื่อนกั้นอีกชั้นก็ได้นะคะ
พื้นที่ Walk-in Closet อยู่หน้าห้องน้ำเลย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ใช้งานสะดวก ไม่ต้องเดินผ่านฟังก์ชันอื่นๆก่อน โดยตรงนี้เราจะได้ตามนี้ทุกอย่างเลย ยกเว้นพร็อพของตกแต่งค่ะ
หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้ว มีระยะใช้งานประมาณ 1.60 ม. ที่ค่อนข้างกว้าง ใช้งานหลายคนพร้อมๆกันได้เลยค่ะ
สำหรับชั้นบนทำตู้เก็บของมาให้ ภายในทำเป็นชั้นวางของ 2 ระดับ
ชั้นล่างมีลิ้นชักสำหรับใส่ของชิ้นเล็กๆได้ + ตู้ด้านข้างทำเป็นชั้นวางไว้เก็บของเพิ่มได้
ตู้เสื้อผ้าสูงเต็มฝ้าเพดาน หน้าบานเป็นกระจกใส่สีดำพร้อมเดินเส้น Rose Gold สวยงามดี ภายในมีลิ้นชัก + แบ่งชั้นเก็บของมาให้แล้วเรียบร้อย แต่แอบเสียดายที่ตู้นี้ไม่มีที่แขวนสำหรับเสื้อผ้ายาวๆ เหมือนห้องที่แล้วนะคะ
ประตูห้องน้ำเป็นประตูบางเลื่อนรางบนเหมือนห้องที่แล้วเลยนะคะ
สำหรับห้องน้ำที่นี้เป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวเข้าไปด้านใน ซึ่งห้องน้ำตรงนี้จะอยู่ริมอาคาร ที่เราสามารถเปิดหน้าต่างระบายความชื้น ออกด้านนอกได้ รวมถึงนั่งหรือนอนชมวิวไปด้วยได้นะ สำหรับผนังและพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ตามนี้เลย สุขภัณฑ์ต่างๆเหมือนกับห้องที่แล้วเลยนะคะ
ที่แตกต่างจากห้องที่แล้ว คือพื้นที่อาบน้ำเปลี่ยนเป็นอ่างอาบน้ำ ไว้นอนแช่ตัวได้
อ่างอาบน้ำยี่ห้อ American Standard ขนาด 1.45 x 0.53 ม. ที่สามารถนอนแช่ตัวได้สบายๆ พร้อมฝักบัวให้เรายืนอาบน้ำได้ด้วยนะ
ฝ้าเพดานมีเซาะร่องซ่อนไฟมาให้บริเวณอ่างล้างหน้า นอกนั้นได้เป็นไฟ Downlight + พัดลมดูดอากาศมาให้
กลับออกมาพื้นที่ Common Area เราเดินไปดูห้องนอนเล็กกันค่ะ
แม้จะเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ ซึ่งทางโครงการจัดมาให้เหมือนห้องที่แล้วเลย รวมถึงยังได้หน้าต่างที่สามารถนอนชมวิวทะเลได้อีกด้วย โดยหลังจากวางเตียงแล้วมีพื้นที่เหลือใช้งานได้สบายๆเลย
ข้างเตียงเหลือพื้นที่เยอะ ที่โครงการ Built-in โต๊ะนั่งทำงาน + ตู้เก็บของมาให้ค่ะ
โดยมีลิ้นชัก + เก้าอี้หนังสีครีมมาให้ตามนี้เลยค่ะ โดยมีระยะใช้งานประมาณ 91 ซม. ที่ใช้งาน ได้สบายๆเลย
บริเวณปลายเตียงได้ทีวียี่ห้อ Samsung ขนาด 49″ พร้อมตู้ด้านล่างไว้เก็บของตามนี้เลย
หน้าต่างสูงเกือบเต็มผนังเลย ซึ่งจะมีบานกระทุ้งมาให้ 2 บาน ที่สามารถระบายอากาศภายในห้องได้ดีเลย ซึ่งชุดหน้าต่างเป็นของยี่ห้อ Tostem เช่นเดียวกัน
ด้านหลังมีมุมที่เป็น Bay Window ที่ทำให้เราชมวิวได้กว้างขึ้น รวมถึง Built-in ชั้นวางของมาให้แล้วเรียบร้อยค่ะ
บริเวณฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ และยังมี Sprinkler ติดตั้งมาให้ในกรณีไฟไหม้อีกด้วย
ก่อนเข้าห้องน้ำทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เหมือนอันที่แล้ว แต่จะมีขนาดเล็กกว่ามีความกว้างประมาณ 90 ซม.
ให้ห้องน้ำมาขนาดใหญ่ทีเดียว ภายในแยกส่วนเปียกและแห้งเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยบริเวณพื้นที่อาบน้ำจะมีฉากกั้นมาให้ด้วย ป้องกันน้ำไหลออกมาส่วนแห้ง ส่วนพื้นและผนังเป็นกระเบื้อง เช็ดทำความสะอาดง่าย
ชุดสุขภัณฑ์จะเหมือนกับห้องที่แล้ว มีตำแหน่งสายชำระที่ผนังด้านหลัง เวลาใช้งานจริงคงต้องเอี้ยวตัวใช้งานเล็กน้อยค่ะ
พื้นที่อาบน้ำมีขนาด 1.56 x 0.87 ม. เป็นระยะที่ใช้งานได้สบายๆเลย โดยยกขอบประตูขึ้นมาเล็กน้อย เพื่อป้องกันน้ำไหลออกมาด้านนอกค่ะ
ส่วนฝักบัวอาบน้ำมีให้ทั้ง Rain Shower และ Hand Shower ยี่ห้อ American Standard ฝักบัวขนาดใหญ่อาบได้สะใจทีเดียว ปรับรูปแบบการไหลของน้ำได้หลากหลาย + เจาะช่องวางของมาให้เรียบร้อย เป็นตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวก
นอกจากนี้ภายในห้องน้ำมีหน้าต่างบานกระทุ้ง ไว้ระบายความชื้นได้อีกด้วยนะ
ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight + พัดลมดูดอากาศมาให้ค่ะ
แปลนห้อง Studio ขนาด 30.82 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.95 ล้านบาท ซึ่งเป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของโครงการ โดยจะได้เป็นห้อง Fully Furnished + เครื่องใช้ไฟฟ้า + ตกแต่งครบ โดยจะคล้ายกับห้อง 1 Bedrooms แต่ห้องน้ำจะปรับเป็นเข้า-ออกได้ทางเดียว รวมถึงไม่ได้มีประตูบานเลื่อนกั้นพื้นที่ห้องนอน และห้องนั่งเล่นออกจากกัน แต่ยังได้ระเบียงกว้างที่เดินออกไปใช้งานได้เต็มที่ค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 September 2019
- City View
- Studio Type C1 ชั้น 5 ห้อง 0510 พื้นที่ใช้สอย 30.82 ตร.ม. ราคา 2.95 ล้านบาท หรือ 95,717 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Type A5 ชั้น 5 ห้อง 0509 พื้นที่ใช้สอย 37.27 ตร.ม. ราคา 3.75 ล้านบาท หรือ 100,649 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Type A3 ชั้น 5 ห้อง 1510 พื้นที่ใช้สอย 32.57 ตร.ม. ราคา 4.25 ล้านบาท หรือ 130,786 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Type A1 ชั้น 5 ห้อง 0506 พื้นที่ใช้สอย 34.85 ตร.ม. ราคา 3.55 ล้านบาท หรือ 102,055 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Type A4 ชั้น 10 ห้อง 1002 พื้นที่ใช้สอย 33.81 ตร.ม. ราคา 3.988 ล้านบาท หรือ 117,971 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Type A5 ชั้น 6 ห้อง 0608 พื้นที่ใช้สอย 37.27 ตร.ม. ราคา 3.986 ล้านบาท หรือ 106,949 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Combine Type A1 ชั้น 7 ห้อง 0705+0706 พื้นที่ใช้สอย 69.70 ตร.ม. ราคา 7.55 ล้านบาท หรือ 108,353 บาท/ตร.ม.
- 2 Bedrooms Combine Type B1 ชั้น 31 ห้อง 3105 พื้นที่ใช้สอย 78.55 ตร.ม. ราคา 14.48 ล้านบาท หรือ 184,420 บาท/ตร.ม.
- รูปแบบการขาย Fully Furnished + เครื่องใช้ไฟฟ้า + ตกแต่งครบ
- ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.55 เมตร
- Kitchen & Sink / Top หินแกรนิตสีดำเกล็ดทอง
- Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
- จอง 50,000-100,000 บาท
- ทำสัญญา 15% ผ่อนดาวน์ 20%
- ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน เก็บล่วงหน้า 2 ปี
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ทำเล : The Panora Pattaya ตั้งอยู่บนเขาพระตำหนัก ที่ตัวโครงการเองไม่ได้อยู่ติดหาด แต่ถอยห่างออกมาหน่อย อยู่ในระยะที่สามารถเดินไปหาดได้ไม่ไกล ชื่อหาดยินยอม ที่เดินเชื่อมกับหาดจอมเทียนได้เลย แต่โซนนี้จะมีความ Private มากกว่า คนอยู่อาศัยในย่านนี้ไม่หนาแน่น เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวายเหมือนหาดอื่นๆในพัทยา นอกจากนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินได้สบายๆ เพราะตัวโครงการติดพระตำหนักซอย 5 ความพิเศษของซอยนี้คือ เป็นซอยเดียวที่ขับออกมาโผล่ที่หาดได้เลย ทำให้ความเจริญเกาะเส้นนี้มา มีคอนโด โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านสะดวกซื้อ แต่ถ้าอยากจะเข้าใจกลางเมืองพัทยา ต้องอาศัยการขับรถยนต์เท่านั้นนะ
การเดินทางโดยใช้รถ : การเดินมาโครงการต้องอาศัยการขับรถเป็นหลัก โดยเส้นทางที่มาโครงการมีให้เลือกหลายหลาย แต่ที่สะดวกที่สุดแนะนำให้เข้าจากถนนเทพประสิทธิ์ ที่ขับง่าย เส้นทางไม่ซับซ้อน โดยโครงการให้ที่จอดรถมา 30% ไม่รวมซ้อนคัน ที่ถือว่าเป็น Standard สำหรับคอนโดพักตากอากาศ ที่มีคนเข้าออกตลอดเวลา
การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : ไม่ค่อยสะดวกมากนัก สำหรับการอยู่ต่างจังหวัดอยู่แล้ว แต่ทางโครงการก็ยังมี Shuttle Service ให้ลูกบ้าน โดยเบื้องต้น มีไปส่งที่ Walking Street และถนนหลัก ส่วนรายละเอียดที่แน่ชัดยังไม่ออก ยังไงลองสอบถามโครงการอีกทีนะคะ ซึ่งพอมีแบบนี้ก็เพิ่มความสะดวกให้กับลูกบ้านที่ไม่ใช้รถค่ะ
การออกแบบอาคาร : ส่วนใหญ่คอนโดพักตากอากาศ คนนิยมเลือกห้องที่เห็นวิวชัดเจน ซึ่งโครงการก็ออกแบบตัวอาคารเป็น Tower เดี่ยวที่ขนานไปกับตัวหาด ทำให้ไม่มีห้องพักบังวิวกันเอง รวมถึงโครงการเอางานระบบมาไว้ด้านหลัง ทำให้ห้องส่วนใหญ่หันออกทาง Sea View และมีไม่กี่ห้องที่หันออก City View แต่ก็ไม่แย่นะ เพราะยังได้เห็นวิวพื้นที่สีเขียวของเขาพระตำหนักอยู่ นอกจากนี้ยังมีเพียง 342 ยูนิต ที่ได้ความเป็นส่วนตัวสูง บรรยากาศเงียบ สงบ เหมาะมาพักผ่อน หนีจากการทำงานที่วุ่นวายได้อย่างแท้จริง
การออกแบบห้องพักอาศัย : ห้องแต่ละห้องถูกแบ่งให้มีขนาดใหญ่ Studio เริ่มที่ 30.82 ตร.ม. ซึ่งก็ไม่ค่อยเห็นขนาดนี้ในโครงการใหม่ๆแล้ว ส่วนใหญ่ 30 ตารางเมตรก็ทำเป็น 1-Bedroom กันหมด ฟังก์ชันออกแบบมาให้พักอาศัยจริงจังได้เลยนะ แต่ติดเรื่องครัวหน่อย ที่อาจจะไม่เหมาะทำอาหารจริงจังเท่าไร
สำหรับห้อง 1 Bedroom ออกแบบมาได้ลงตัวดีนะ เหมาะอยู่อาศัย 1-2 คนกำลังดี หรือมาเป็นครอบครัวเล็ก เพราะได้เตียงใหญ่ถึง 6 ฟุต รวมถึงพื้นที่ Living Area ยังปรับเป็นที่นอนเพิ่มได้อีกนิดหน่อย จริงๆใหญ่กว่าอยู่โรงแรมอีกนะ 30 ตร.ม.เนี่ย ส่วนห้อง 2 Bedrooms เป็นลักษณะห้องหน้ากว้าง ที่เห็นวิวได้ถึง 3 ทิศทาง พร้อมฟังก์ชันภายในแบ่งลงตัวดี เหมาะมาพักผ่อนเป็นครอบครัวใหญ่ หรือถ้าใครอยู่อาศัยเอง เวลามีแขกมาบ้านต้องเดินผ่านห้องนอนก่อนใช้ห้องน้ำ ซึ่งความเป็นส่วนตัวอาจจะลดลงเล็กน้อย
วัสดุ : รูปแบบการขายแบบ Fully Furnished + เครื่องใช้ไฟฟ้า + ตกแต่งครบ พร้อมเข้าอยู่ได้เลยซึ่งคอนโดราคาระดับนี้ เมื่อเทียบกับของที่ได้ ถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียว ซึ่งสิ่งที่ให้มาภายในห้อง เป็นเกรดวัสดุที่ค่อนข้างดีเลย ทั้งพื้นไวนิล, ชุดครัว + Hob&Hood จาก MEK, โถสุขภัณฑ์ยี่ห้อ American Standard, เครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อ Samsung, ฐานเตียง 6 ฟุต + ฟูก พร้อมโต๊ะหัวเตียง และชุด Built-in ทุกอย่างตามห้องทั้งหมด เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ได้เลย หรือจะปล่อยเช่าลงทุนทำกำไรก็น่าสนใจนะ
สาธารณูปโภค : ให้มาค่อนข้างเยอะ น่าใช้งาน และเพียงพอกับยูนิต โดยมีพื้นที่ Facilities หลักๆ อยู่ 2 จุดคือชั้นที่ 4 ที่มี Swimming Pool + Kids Pool, Fitness, Kids Room, Sauna และ Roof Garden เหมาะกับกิจกรรมที่ Active หน่อย แต่ถ้าใครชอบความเงียบสงบก็มีแยกใช้งานอีก ที่ชั้น 29 ที่มี Swimming Pool + Jacuzzi, Sunken Seat ที่นั่งพักผ่อนชมวิวได้ ข้อดีของการนำ Facilities มาไว้ข้างบนคือ ถึงแม้เราจะซื้อห้องชั้นล่างๆ แต่เราก็สามารถขึ้นชมวิวมุมสูงของโครงการได้ค่ะ
Judgement
โครงการคอนโดพักตากอากาศลักษณะนี้ นอกจากจะใช้ความคุ้มค่าทางการเงินเป็นปัจจัยในการเลือกซื้อแล้ว ยังต้องอาศัยความชอบส่วนบุคคล และความคุ้มค่าทางอารมณ์ในการตัดสินใจด้วย ดังนั้นทางทีมงานจะไม่มีการให้คะแนนความคุ้มค่าในส่วนนี้ค่ะ
BOTTOM LINE
The Panora Pattaya เป็นโครงการคอนโด High Rise พักตากอากาศ เหมาะกับคนที่มองหาบ้านหลังที่ 2 สำหรับมาพักผ่อนในวันหยุดไม่ไกลจากกรุงเทพ หรือลงทุนไว้ปล่อยเช่าก็ดี ในทำเลสงบน่าอยู่อาศัย พร้อมวิวทะเล ใกล้ชายหาด ที่พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ขายแบบ Fully Furnished+เครื่องใช้ไฟฟ้า+ตกแต่งครบ ในงบประมาณเริ่มต้น 2.95 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 18,500 บาท
ติดตามพวกเราได้ที่
Website : www.thinkofliving.com
Twitter : www.twitter.com/thinkofliving
YouTube : www.youtube.com/ThinkofLiving
Instagram : www.instagram.com/thinkofliving
Facebook : ThinkofLiving