รีวิวโครงการ
รีวิว The TEAK สาทร-ลุมพินี คอนโด Low Rise 3-6 ล้าน ใกล้สาทร ยูนิตน้อยสังคมส่วนตัว จาก Teak Development [รีวิวฉบับที่ 2364]
30 มีนาคม 2022
รีวิวฉบับที่ 1638 … The Teak สาทร-ลุมพินี เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ตัวที่ 4 แล้วนะครับจากผู้พัฒนาอย่าง Teak Development ตัวโครงการอยู่ในซอยศรีบำเพ็ญ ทำเลใจกลางเมืองใกล้สาทรเเละพระราม 4 ที่มีจุดเด่นคือมียูนิตเพียง 78 ยูนิต พร้อมจัดเต็มกับ Facility และขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบให้เลยด้วย พร้อมทั้งเพิ่มตัว Home Automation มาให้ และมี Package ราคาอยู่ในช่วงประมาณ 3-5 ล้านบาท ไปชมกันครับ
Fact @ 24 July 2018
- THE TEAK SATHORN – LUMPINI (เดอะ ทีค สาทร – ลุมพินี)
- บริษัท ทีค ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด
- HIGH CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ยานนาวา
- คอนโด Low Rise 8 ชั้น 1 อาคาร 78 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 12 ยูนิตที่อาคาร
- ที่จอดรถประมาณ 28 คันคิดเป็น 36% (ไม่ซ้อนคัน)
- จอดซ้อนคันเพิ่มได้อีกประมาณ 7 คัน คิดเป็น 44%
- มีช่องสำหรับ EV Charger 2 คัน
- ที่ดินประมาณ 0-2-64 ไร่
- เริ่มก่อสร้าง : พฤศจิกายน 2018
- คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ธันวาคม 2019
- Presale : กลางเดือน สิงหาคม 2018
- แบบห้อง 1 Bedroom ขนาดตั้งแต่ 25.1 – 35.1 ตร.ม.
- แบบห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 44.3 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 2.50 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 3.33 ล้านบาท หรือคิดเป็น
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ Average 136,000 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : รูปแบบโครงการไม่ต้องขอ EIA
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 095-746-9891 / 094-697-1616 / 02-611-2900
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด Google Maps : 13.718142, 100.551027
แผนที่จากทางโครงการ TEAK Sathorn-Lumpini ตั้งอยู่ในซอยศรีบำเพ็ญ ถนนพระรามสี่ เดินทางได้สะดวกสบายสำหรับการใช้รถยนต์ และรถสาธารณะ ใกล้ MRT สถานีลุมพินีและคลองเตย เป็นทำเลในซอยที่สามารถออกถนนหลักสำคัญได้หลายเส้นอย่างพระราม 4, เชื้อเพลิง, สาทร โดยรอบๆจะไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้า Community malls สถานการศึกษาทุกระดับชั้น โรงพยาบาล โรงภาพยนตร์ สถานบันเทิงและสวนสาธารณะที่เป็นปอดของกรุงเทพฯ อย่างสวนลุมพินีก็อยู่ไม่ไกล
The Teak สาทร-ลุมพินี ตั้งอยู่ติดซอยศรีบำเพ็ญ ซึ่งเป็นตัวเมืองอันเป็นชุมชนเก่าด้านหลังซอยสาทร 1 และถนนพระราม 4 โดยถนนบริเวณนี้จะถูกใช้เป็นทางลัดเพื่อไปออกนางลิ้นจี่ สาทร สวนพลู เกอเธ่ พระรามที่ 4 พระรามที่ 3 ถนนจันทน์ ทางด่วนหรือแม้กระทั่งถนนนราธิวาสฯ ทำให้เป็นถนนที่มีทางหนีทีไล่เยอะ เข้าออกได้หลายทาง มีทั้งทางที่รถติดมากและทางที่รถไม่ติดเลย ซึ่งถ้าใครอยากจะอยู่ในพื้นที่แถวนี้ก็ต้องเชี่ยวชาญเรื่องทางลัดทางเล็กทางน้อย ใช้ให้ครบและรู้ให้ทั่วว่าเส้นไหนจะติดเมื่อไรครับ
ในพื้นที่ย่าน สาทร-ศรีบำเพ็ญ-เย็นอากาศ-นางลิ้นจี่ รอบๆโครงการจะค่อนข้างเงียบสงบ สิ่งปลูกสร้างเป็นพักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ แต่ถ้าดูพื้นที่โดยรอบอย่างที่บอกไปว่าทำเลนี้ใกล้กับย่านธุรกิจย่าน สีลม สาทร พระราม4 และอีกฝั่งจะเป็นทางออกไปถนนพระราม 3 สถานที่สำคัญรอบๆโครงการส่วนใหญ่จึงจะเป็นอาคารสำนักงานต่างๆชื่อดังหลายตึก
แต่ภายในตัวซอยเอง ก็มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งร้านอาหาร, Cafe, มินิมาร์ท, ซูเปอร์มาร์เกต และคอมมูนิตี้มอลล์ไซส์เล็กอยู่กระจายในพื้นที่ ส่วนศูนย์การค้าจะต้องออกไปตามถนนใหญ่หน่อย อาทิเช่น เซ็นทรัลพระราม 3 ใกล้ๆยังมี Community mall The Up พระราม 3, Vanilla Moon และ De’ Forest ยังมีตลาดนางลิ้นจี่, Tops Super, แม็คโคร และ Tesco Lotus ให้คุณแม่บ้านพ่อบ้านจับจ่ายใช้สอย / นอกนั้นก็จะเป็นโรงเรียน โรงพยาบาล สถานทูต ส่วนสวนสาธารณะจะมีสวนลุมพินี และ สวนเบญจกิติในบริเวณใกล้ๆ ซึ่งรวมๆแล้วก็ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์พอสมควร
จะเห็นว่าตำแหน่งของที่ดินโครงการ นั้นอยู่ในเหล่าซอยเหมือนรวงรังผึ้งบริเวณนี้ที่ออกถนนหลักรอบๆได้หลายเส้นเลย ทั้งพระราม 4 / เชื้อเพลิง / พระราม 3 / สาทร / นราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งเป็นถนนสำคัญทั้งสิ้น ซึ่งในแอเรียพื้นที่รอบๆนี้จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีความสงบกว่าตรงโซนเจริญกรุง จันทน์เพราะแถวนั้นเป็นย่านค้าขาย อีกทั้งพื้นที่นี้หลายๆคนคงพอเห็นบ้านหลังใหญ่ให้เห็นระหว่างทางเต็มไปหมด เป็นพื้นที่ของคนมีฐานะเก่ามาบุกเบิกเป็นที่อยู่อาศัยเอาไว้เพราะใกล้ถนนหลักหลายด้านแต่อยู่ในซอยนี่แหละ
การเดินทางโดยใช้รถ สามารถใช้เส้นทางไปลัดออกถนนต่างๆได้หลากหลาย ทั้งถนนเย็นอากาศ ถนนนางลิ้นจี่ ถนนสาทร ถนนพระราม4 ถนนจันทน์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่มีทั้งอาคารสำนักงาน และโรงเรียนชื่อดัง แต่ถ้าใช้เส้นทางออกมาทางถนนนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ ถนนพระราม 3 การจราจรจะติดขัดน้อยกว่า สำหรับสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยชุมชนเก่าในละแวกนี้ มีคอนโด Low Rise และอพาร์ทเมนท์แทรกตัวอยู่บ้าง บรรยากาศค่อนข้างสงบกว่าช่วงต้นซอย ส่วนบริเวณโดยรอบทำเลนี้จะว่าไปก็ใกล้กับย่านธุรกิจย่านสาทร สีลม อโศก สามารถเดินทางไปได้สะดวกแต่จำเป็นที่จะต้องใช้รถ ข้อดีคือใกล้กับทางขึ้นและลงทางด่วน มีเส้นทางลัดเลาะภายในซอยเยอะ สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถก็สามารถเรียกรถสาธารณะต่างๆได้
นี่ครับ ผมลองไปหาจุดทางขึ้นลงทางด่วนใกล้ๆ รอบๆโครงการมาให้ดูว่ามีประมาณไหนบ้าง ก็ไม่ไกลทั้งทางด่วนเฉลิมมหานคร(ขึ้นลงทางพระราม 3) / จุดขึ้นลงทางด่วนบ่อนไก่ที่แยกพระราม 4 – คลองเตย / หรือจะไปขึ้นตรงแยกด่วนสาธุ เพื่อใช้ไปได้ทั้งสีลม-สาทร หรือดาวคะนองก็ได้ เรียกว่าเป็นทำเลที่ใช้ทางเลือกทางด่วนได้หลากหลายจริงๆ
โดยเส้นทางที่ผมเลือกมาในวันนี้ก็เป็นแบบ เส้นสีน้ำเงินในแผนที่นี่แหละครับ มาจากในตัวเมืองสุขุมวิทใช้ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร มุ่งหน้าลงใต้ ตามป้าย พระราม 3 มาเรื่อยๆไปดูกัน
(เสริมนิดนึง จริงๆแล้วถ้าดูจากแผนที่เส้นทางสีแดงจะใกล้กว่านะครับ ถ้าใครต้องการทำความเร็วกว่าแนะนำใช้เส้นทางนี้ แต่ผมไปเส้นสีน้ำเงินเพื่อต้องการให้เห็นสภาพแวดล้อมความอุดมสมบูรณ์ในเรื่องอาหารการกิน ความเจริญบนถนนนางลิ้นจี่ เย็นอากาศ และศรีบำเพ็ญครับ)
ผมอยู่บนทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร มุ่งหน้าลงใต้ออกเมือง ตามป้าย ดาวคะนองมาต่อเนื่องนะครับ ซึ่งพอหลังๆจะมีป้าย “พระราม 3” มาแทรก ให้เราอิงจุดนี้ เพราะเราจะลงบนเส้นพระราม 3 ก่อนครับ
พอลงจากทางด่วนมาแล้ว เราจะมาบรรจบเชื่อมกับถนนพระราม 3 นั่นเอง
ซึ่งพอเราเข้าสู่ถนนพระราม 3 แล้ว ให้เราค่อยๆชิดขวาไปเรื่อยๆนะ ไม่ต้องรีบปาดหน้าอะไร ทยอยๆเปลี่ยนเลนไปชิดขวา เพราะอีกไม่ไกล เราจะต้องเลี้ยวขวาที่แยกนางลิ้นจี่ด้านหน้า
มาถึงที่แยกนางลิ้นจี่แล้ว ตรงนี้ชิดขวา 2 เลน เพื่อสามารถเลี้ยวขวาได้
พอเราเลี้ยวขวามาแล้ว จะเข้าสู่ถนนนางลิ้นจี่ล่ะ ก็ให้เราตรงยาวๆไปเลย
ตรงนี้จะเป็นแยกไฟแดงที่เราต้องวิ่งตัดผ่านถนนรัชดาภิเษก รอสัญญาณไฟ และลิดใต้ทางด่วนเฉลิมมหานครที่มาตอนแรกด้วย
หลังจากข้ามแยกไฟแดงมาแล้ว เราจะเจอไฟแดงที่สอง ซึ่งตรงนี้ซ้ายมือเราจะเห็นถนนจันทร์เก่า(สามารถไปออกสู่ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ได้) และขวามือเป็นซอยอมร(สามารถไปออกถนนพระราม 3 ได้) แต่เรายังตรงต่อไปอีกนิดหน่อยครับ
ตรงโซนนี้ริมตึกแถวด้านขวาคือโซนด้านหน้าของตลาดนางลิ้นจี่ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์เก่าแก่ของพื้นที่ มีลักษณะอาหารการกินเป็นสตรีทฟู๊ดซึ่งคงเอกลักษณ์ของพื้นที่ตรงนี้อยู่ มีอาหารอร่อยๆให้เลือกเพียบ
หลังจากนั้นเลยตลาดมานิดเดียว ขวามือเราจะเห็นซอยนางลิ้นจี่ซอย 3 ที่ผมแคปภาพมาให้ดูเพราะว่า เมื่อก่อนใครๆย่านนี้ก็จะมาพึ่ง “Tops Market นางลิ้นจี่” ที่อยู่ข้างหน้าใช่ไหมล่ะ แต่ตอนนี้เค้าย้ายมาอยู่ในซอยนี้แล้วนะ
แปลงที่ดินของ “Tops Market นางลิ้นจี่” ที่เมื่อก่อนเคยอยู่หัวมุมสามแยกตัดกับถนนเย็นอากาศตอนนี้มีการล้อมรั้วพื้นที่ใหม่แล้ว ซึ่งกำลังก่อสร้างเป็น Community Life Style Mall แห่งใหม่ครับ ซึ่งถ้ามีร้านสวยๆ อาหารดีๆเพิ่มขึ้นมาก็ดีแก่คนแถวนี้ ตรงนี้ให้เราเลี้ยวขวาเลยครับ
หลังจากเลี้ยวขวามาแล้วเราก็จะเข้าสู่ซอยเย็นอากาศ โอ้.. เห็นป้ายบอกย้ายท็อปไปแล้วคนแถวนี้แอบใจหายเล็กๆ ยังดีแค่ย้ายไปใกล้ไม่ได้หายไป ทีนี้เราก็ตรงกันต่อเลย วิ่งไปให้สุดซอยเย็นอากาศไปเลยนะครับจะเจอกับสามแยก
หลายๆคนก็คงทราบกันแล้วว่าโซนนางลิ้นจี่ เย็นอากาศพวกนี้ เป็นย่านของกลุ่มที่มีมีบ้านแนวราบกำลังทรัพย์สูงหลายหลังที่มาอยู่อาศัยบุกเบิกพื้นที่ เพราะฉะนั้นเราจะเห็นสภาพแวดล้อมที่เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่อยู่ริมทางสองฝั่ง และมีต้นไม้ปลูกร่มรื่นแบบนนี้ระหว่างเดินทางสลับๆกันไป
วิ่งเข้ามาได้เลยครึ่งทางนิดนึงนะครับ ตรงนี้จะเจอสามแยกกับซอยเย็นอากาศ 2 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติ Garden อยู่ด้วย
ถัดมาจะเจอกับร้าน Infusion Eatery & Bar ร้านนี้ดังพอสมควรนะ เป็นร้านอาหารสไตล์โฮมเมด แนวฟิวชั่น ที่บรรยากาศร้านสงบๆหน่อย แต่ราคาก็สูงขึ้นมานิดนึงตามวัตถุดิบครับ
สิ้นสุดซอยเย็นอากาศแล้วนะครับ จะเป็นสามแยก ซึ่งตรงนี้ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะไปออกได้ทั้งพระราม 4 และก็สาทร แต่เราเลี้ยวขวาตรงนี้นะครับ
ในซอยศรีบำเพ็ญนี่ถือว่าเป็นซอยที่ไม่เปลี่ยวนะครับ มีแหล่งร้านอาหารตามสั่งริมทางให้เห็นเป็นระยะๆเลย รวมไปถึงมินิมาร์ทก็หาไม่ยาก จะติดก็ตรงฟุตบาทเดินเท้ามันแคบเดินค่อนข้างยากหน่อยนั่นเอง
ในซอยศรีบำเพ็ญสิ่งที่เห็นชัดหน่อยก็คือเป็นแหล่งรวม “พื้นที่พักอาศัย” ที่มีทั้งอพาร์ทเมนท์ คอนโด Hostel บ้านเดี่ยว เต็มไปหมด อย่างคอนโดข้างหน้าทางขวามือเป็นของลุมพินีที่มาเปิดตั้งหลายปีมากๆแล้ว(สมัยนั้นยังสร้าง 9 ชั้นได้อยู่เลย)
หลังจากที่เราเลี้ยวขวาตรงสามแยกเย็นอากาศมาเพียง ประมาณ 220 เมตรเท่านั้น ก็ถึงที่ตั้งแปลงที่ดินโครงการแล้วครับ ซึ่งกำลังเตรียมรื้อถอนอาคารพาณิชย์เก่าด้านหน้าติดถนน (ด้านในหลังตึกรื้อออกหมดแล้ว)
แต่ไม่ต้องตกใจไปนะครับว่าไหนละ Sale Gallery ห้องตัวอย่าง โดยเลยจากโครงการไปนิดเดียวเท่านั้น เราจะเห็นซอยเมฆสวัสดิ์ ให้เราเลี้ยวขวาแล้วตรงเข้าไปจนเจอสามแยกแรก(เชื่อมกับซอยประสาทสุข) ก็ถึง Sale Gallery ทางซ้ายมือแล้วครับ หรือพิกัด Google Maps 13.717100, 100.551382
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Garden International school
- โรงเรียนอนุบาลบ้านสานฝัน
- โรงแรมไอบิส สาทร
- Crescent International school
- Tops Market Nanglinchee
- โรงแรมสุโขทัย
- สวนลุมพินี
- โรงพยาบาล BNH
- โรงพยาบาล, โรงเรียน กรุงเทพคริสเตียน
- โรงพยาบาล, โรงเรียน, วิทยาลัย เซนต์หลุยส์
- Central Plaza Rama 3
- The Up Rama 3
- Vanilla Moon
- Makro สาทร
ที่ด้านหน้า Sale Office Gallery ที่ตั้งอยู่ในซอยเมฆสวัสดิ์ ใกล้ๆกับแปลงที่ดินโครงการนะครับ หน้าตา Facade จะมี Mood & Tone ที่ใกล้เคียงกับตัวอาคารจริงบางส่วน อย่างเช่นการใช้ Artificial Wood มาตกแต่งที่ผิวหน้าอาคารพร้อมตัดกับวัสดุของเฟรมอลูมิเนียมและกระจกด้านในตัวอาคาร
เข้ามาที่ด้านในแล้วการตกแต่งค่อนข้างดูอบอุ่น ใช้โทนสีสว่างหน่อยอย่างกระเบื้องลายหินธรรมชาติ กรุผนังตกแต่งด้วย Artificial wood และหินอ่อนสีขาว ด้านในเป็นพื้นที่รองรับค่อนข้างกว้างนะ มีโมเดลตั้งอยู่ใกล้ๆกับหน้าจอแสดง Presentation โครงการต่างๆ พร้อมสอบถามเซลล์ได้เลย
The Teak สาทร–ลุมพินี เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ตัวที่ 4 แล้วนะครับจากผู้พัฒนาอย่าง Teak Development (ซึ่งผู้พัฒนาแจ้งว่าจากนี้จะเห็นแบรนด์นี้อีกหลายตัวในปีนี้และปีหน้า ในพื้นที่ตัวเมืองต่างๆ) ซึ่งตัวโครงการมียูนิตเพียง 78 ยูนิตเท่านั้น เนื้อที่ดินประมาณ 0-2-64 ไร่
ถึงแม้จะเป็น Low Rise นะครับ แต่ส่วน Facility ก็ไม่ได้ดูน้อยหน้าจัดมาให้ที่ชั้น 2 และ Rooftop และที่น่าสนใจคือ ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมทั้งเพิ่มตัว Home Automation มาให้ ซึ่งรูปแบบห้องที่นี่จะเน้นที่ 1 Bedroom เลยนะครับ ขนาดอยู่ที่ประมาณ 25 – 44 ตร.ม. ทำให้มี Total Package ส่วนใหญ่ราคาอยู่ในช่วงประมาณ 3.3-5 ล้านบาท หยิบจับไม่ยากจนเกินไป
จากภาพ Perspective เราจะเห็นส่วนของ Exterior หน้าตาภายนอกอาคารที่เป็นสไตล์ Modern Contemporary สมัยใหม่หน่อย ที่ตกแต่ง Facade (หน้าตาอาคาร) ด้วย Artificial Wood การใช้เส้นสายแนวตั้งที่มี Fin เฉียงช่วยบังแสงแดดและยังทำให้เฉดของแสงแดดเฉียงๆไม่เข้าห้องโดยตรง เราจะเห็นกระจกตั้งแต่งส่วนระเบียงกันตกเลย และหน้าต่างช่องแสงในห้องพักก็เป็นแบบ Full High Ceiling ที่ดูเต็มตาสะใจดีอีกด้วย
ตัวสถาปนิกที่โครงการเลือกใช้ คือ makeAscene Architect ที่มีผลงานให้เห็นมาไม่น้อยแล้วเหมือนกัน อาทิเช่น Cooper Siam / Klass Silom / FYNN Sukhumvit 31 / Savvi Pahol-Ari / Savvi Ari4 / Niche Mono Charoen Nakorn / Quarter Sukhumvit 39 ยังมีอีกนะครับ นับไม่ไหวแล้ว 😀 แต่ออกแบบมาหลายโครงการขนาดนี้ก็พอการันตีได้ระดับนึงแล้วครับ
ด้านหน้าติดกับรั้วโครงการจะมีป้อมรปภ.อยู่ทางซ้ายมือ เข้ามาแล้วทางขวามือจะเป็นส่วนของ Drop Off นะครับ (สำหรับลูกบ้านก็กลับรถตรงนี้ได้) ในส่วนของชั้น Ground จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด ที่จอดรถประมาณ 28 คันคิดเป็น 36% (ไม่ซ้อนคัน) ถ้าจอดซ้อนคันเพิ่มได้อีกประมาณ 7 คัน คิดเป็น 44% และมีช่องสำหรับ EV Charger 2 คัน
จากมุมนี้ใน Model ด้านหน้าอาคารติดถนน ที่ชั้น 2 เราจะเห็นห้องรับรองขนาดใหญ่กินพื้นที่ด้านหน้าเกือบทั้งหมด เป็นพื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วย Lobby / Co-Working Space ด้านในนี้จะมีเจ้า Smart Locker ที่เอาไว้รับฝากได้ด้วย(แบบเจ้าตู้เหลืองรับฝากของที่ตาม MRT) เอามารองรับให้ลูกบ้านด้วย
ที่ชั้น 2 ติดกับส่วนของ Co-Working Space จะมีห้องส่วนกลางอย่าง Fitness อยู่ติดกัน ถ้าดูจากรูป Perspective ก็จะลงเครื่องเล่นเอาไว้ประมาณ 5-6 ชิ้น
ที่ด้านหลังอาคาร ฝั่งนี้ทิศใต้จะค่อนข้างเงียบสงบนะ เนื่องจากแปลงที่ดินถัดไปนอกรั้วจะเป็นบ้านเดี่ยวที่มีที่ดินเปล่าขนาดใหญ่อยู่ในตัว ซึ่งจะมีแค่ 2-3 หลังเท่านั้นเอง
ส่วนฝั่งสุดท้ายคือฝั่งทิศตะวันตก ที่ชั้น Ground จะมีทางเดินมาจาก Drop Off ด้านหน้ามายังพื้นที่สีเขียวสวนหย่อมด้านใน และเชื่อมมายังศาลานั่งเล่นพักผ่อนแบบ Semi Outdoor
ขึ้นมาที่ชั้น Rooftoop ทั้งหมดจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง โดยไฮไลท์คงเป็นเจ้าสระว่ายน้ำด้านหน้า ซึ่งขนาด 4 x 15 เมตร ลึก 1.20 เมตร อย่าลืมว่าเทียบกับจำนวนยูนิตแค่ 78 ยูนิตก็ถือว่าให้มาดีพอสมควรนะครับ ตัวพื้นสระจะปูด้วยหินอ่อนแผ่นชิ้นเล็กโทนสีดำ / และจะมีส่วนที่ให้มานอนอาบแดดได้ หรือมีศาลานั่งเล่นแบบ Semi Outdoor อยู่ติดกัน
ที่ด้านหลังจะเป็นพื้นที่นั่งแยกโซนสองจุดเป็น Relax Area และก็สนามหญ้าที่เดินมาสุดทางเดินก็มาชมวิวตรงผนังกระจกกันตกได้ ฝั่งนี้เป็นฝั่งตะวันออก มองไประยะกลางจะเห็นซอยเมฆสวัสดิ์ พอพ้นไปจะเป็นที่ของสถานีวิทยุทหารเรือ ซึ่งแน่นไปด้วยสวนในพื้นที่ สีเขียวเต็มตาหน่อย
Ground Plan โดยถ้าเราเข้ามาในพื้นที่แล้ว ทางขวามือจะเป็นส่วนของ Drop Off ซึ่งจะมีทางเดินเข้าไปในอาคาร เป็นบันไดวนไปสู่ Lobby ชั้น 2 / ส่วนทางเดินด้านนอกอาคารจะเป็นพื้นที่สีเขียวติดกับรั้วและไปขยายพื้นที่ออกตรงกลางเป็นศาลานั่งเล่น / ลิฟต์โดยสารในโครงการนี้มีมาให้ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ถือว่าน้อยทีเดียว 39:1 เท่านั้น / ส่วนการเดินรถใต้อาคารเป็นแบบสวนทางกันได้ ที่จอดรถประมาณ 28 คันคิดเป็น 36% (ไม่ซ้อนคัน) ถ้าจอดซ้อนคันเพิ่มได้อีกประมาณ 7 คัน คิดเป็น 44% และมีช่องสำหรับ EV Charger 2 คัน
ขึ้นมาที่ชั้น 2 ส่วนด้านหน้าติดถนนจะเป็นส่วนกลางที่รวมพื้นที่ฟังก์ชันด้วยกันระหว่าง Lobby / Co-Working Space ด้านในนี้จะมีเจ้า Smart Locker ที่เอาไว้รับฝากได้ด้วย(แบบเจ้าตู้เหลืองรับฝากของที่ตาม MRT) เอามารองรับให้ลูกบ้านด้วย และติดกันมีห้อง Fitness ออกกำลังกาย ซึ่งโถงทางเดินส่วนพักอาศัยจะต้องแตะคีย์การ์ดเข้าไปอีกที ที่ชั้นนี้มีห้องพักอยู่ที่ 9 Unit เท่านั้น
ชั้น 3-7 แปลนจะเหมือนกัน โดยนับว่าเป็น Typical Plan (ห้องพักอาศัยเต็มจำนวน) โดยมี 12 Unit/Floor จะเห็นว่าโครงการนี้มีแต่ห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด มีแค่ตำแหน่งเดียวล่างซ้ายที่เป็นแบบ 1 Bed Plus (ขนาด 44.3 ตร.ม. ใหญ่สุดในโครงการนี้แล้ว) และก็สลับกันที่มุมขวาบนเป็นไซส์เล็กสุดอย่าง 25.1 ตร.ม. ดูผิวเผินเหมือนจะเป็นห้องผืนผ้าตอนลึกแต่ห้องนี้มีความพิเศษคือมีหน้าต่างช่องแสงถึง 3 ด้านทีเดียว
อีกตำแหน่งที่ผมกล่าวไปในตอนโมเดลคือ ห้อง Type H ตำแหน่ง 310 (ตะวันตก) ที่โครงการวางตำแหน่งห้องให้หันไปทางศรีบำเพ็ญคอนโดเพียงห้องเดียวเท่านั้น และเลือกตำแหน่งห้องไปอยู่ตรงสระว่ายน้ำของศรีบำเพ็ญพอดี เป็นการออกแบบให้แก้ปัญหากับการถูกบังวิวไปเจอแต่ห้องพักอาศัยตรงๆได้ดี
ที่ชั้น 8 แปลนห้องพักกลับมาเป็นเหมือนกับที่ชั้น 2 อีกครั้งนึง และส่วนฝั่งด้านหน้าอาคารที่เว้นว่างไว้เพราะเป็นส่วนของงานระบบใต้ท้องสระว่ายน้ำที่ชั้น Rooptop นั่นเอง
Rooftop ดาดฟ้า จัดเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด โดยไฮไลท์คงเป็นเจ้าสระว่ายน้ำด้านหน้า ซึ่งขนาด 4 x 15 เมตร ลึก 1.20 เมตร อย่าลืมว่าเทียบกับจำนวนยูนิตแค่ 78 ยูนิตก็ถือว่าให้มาดีพอสมควรนะครับ ตัวพื้นสระจะปูด้วยหินอ่อนแผ่นชิ้นเล็กโทนสีดำ / และจะมีส่วนที่ให้มานอนอาบแดดได้ หรือมีศาลานั่งเล่นแบบ Semi Outdoor อยู่ติดกัน และที่ด้านหลังจะเป็นพื้นที่นั่งแยกโซนสองจุดเป็น Relax Area และก็สนามหญ้าที่เดินมาสุดทางเดินก็มาชมวิวได้
มาดูบริบทรอบๆตัวอาคารโครงการกันบ้างนะครับ อย่างที่กล่าวตอนทำเลแล้วว่าในซอยศรีบำเพ็ญนั้นเต็มไปแหล่ง “พักอาศัย” เสียมากกว่าทั้งคอนโด อพาร์ทเมนท์ บ้านเดี่ยวพวกนี้ โดยเริ่มจาก
ทิศเหนือ : ด้านหน้าโครงการติดซอยศรีบำเพ็ญ และข้ามฝั่งไปเป็นที่ดินเปล่า กับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ 3 ชั้นอยู่ติดกัน
ทิศตะวันออก : ทางขวามือติดกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น และก็ซอยเมฆสวัสดิ์ พอพ้นไปจะเป็นที่ของสถานีวิทยุทหารเรือ ซึ่งแน่นไปด้วยสวนในพื้นที่
ทิศใต้ : ฝั่งนี้จะค่อนข้างเงียบสงบนะ เนื่องจากแปลงที่ดินถัดไปนอกรั้วจะเป็นบ้านเดี่ยวที่มีที่ดินเปล่าขนาดใหญ่อยู่ในตัว ซึ่งจะมีแค่ 2-3 หลังเท่านั้นเอง
ทิศตะวันตก : ฝั่งนี้จะอยู่ติดกับคอนโดศรีบำเพ็ญ แต่โครงการก็มีการคิดออกแบบเรื่องทำยังไงให้ดีผลดีที่สุด คือ จะเห็นว่าห้องวิวฝั่งนี้มีเพียงแค่ 1 Unit เท่านั้น อีกทั้งจัดตำแหน่งการวางให้ตรงกับตำแหน่งสระว่ายน้ำของคอนโดศรีบำเพ็ญด้านข้าง(ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร) ด้วย เรียกว่าทำการบ้านวางตำแหน่งได้ดี
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- ชั้น 1 : ส่วนที่จอดรถประมาณ 28 คันคิดเป็น 36% (ไม่ซ้อนคัน)
- จอดซ้อนคันเพิ่มได้อีกประมาณ 7 คัน คิดเป็น 44%
- มีช่องสำหรับ EV Charger 2 คัน
รูปแบบการขายโครงการนี้คือ Fully Furnished ที่ให้มาครบเลยทั้งเฟอร์ Built-In และลอยตัว, ทำรางผ้าม่านให้, มีวอลเปเปอร์ให้, ชุดครัว Hob&Hood, พื้นเป็นกระเบื้องยางไวนิล, Floor to Ceiling 2.50 เมตร และในห้องน้ำได้ของ Kohler ทั้งหมด
ห้องตัวอย่างแบบแรก เป็น 1 Bedroom ขนาด 31.72 ตร.ม. ด้วยความที่เป็น Fully Furnished ให้เฟอร์มาครบการจัดวางทุกอย่างเลยดูค่อนข้างลงตัวนะ แต่ว่ามุมโต๊ะทานอาหารใน Layout Plan ของจริงโครงการแจ้งจะเป็นเป็นชุดโต๊ะยาว แบบผนังชนผนัง(ดูในห้องตัวอย่าง และดูว๊าวกว่า) ความพิเศษของห้อง Type นี้คือสามารถกั้นพาร์ทิชั่นโซนตรงกึ่งกลางระหว่างห้องนั่งเล่นกับห้องนอน เผื่อไว้กรณีมีแขกมาไม่ต้องไปรบกวนส่วนของห้องนอน และเวลาเปิดไว้ปกติจะได้การเชื่อมต่อสเปซที่ดูกว้างและได้แสงธรรมชาติส่องผ่านถึงกันได้ / จริงๆ Layout นี้ถ้าใครทำอาหารกินเองบ่อยๆจริงจังสามารถกั้นครัวปิดได้ด้วยครับ
เปิดประตูเข้ามาจะเห็น Common Area หรือโถงรวมที่เชื่อมพื้นที่ฟังก์ชันต่างๆ ที่มองเห็นด้วยสายตาทั้ง ครัว นั่งเล่นรับแขก และรับประทานอาหารครับ โดยห้องนี้ Floor to Ceiling 2.50 เมตร และตัวพื้นเป็นกระเบื้องยางไวนิล ที่ไม่กลัวน้ำเหมือนลามิเนตและคงทนต่อแรงขีดข่วนมากกว่าเช่นกัน
โดยเปิดประตูมาทางซ้ายมือจะเจอกับเฟอร์ฯชิ้นแรกอย่างเจ้าตู้เก็บรองเท้า Built-In หน้าตาเช่นนี้สูงจรดฝ้าเพดาน ซึ่งตำแหน่งง่ายต่อการใช้งานดีครับ
เจ้าตู้เก็บรองเท้า เหมือนจะแบ่งชั้นวางระหว่างชั้นห่างไปหน่อย อาจจะไปแบ่งชั้นเพิ่มเอง หรือไม่ก็เก็บรองเท้าใส่กล่องเอาครับ โดยตรงกลางเป็นชั้นแบบที่ไม่มีหน้าวางปิด ทำให้ง่ายต่อการวางพวกของใช้ติดตัวประจำวันอย่างกระเป๋าเงิน พวงกกุญแจ อะไรพวกนี้
ตรงประตูหน้าห้องมีศูนย์แผงรวมสวิทช์สั่งไฟตรงนี้ (หรือไปเปิดปิดตามจุดปกติก็ได้) และโครงการมีการแถมเจ้าระบบ Home Automation ให้เป็นมาตรฐานทุกห้องด้วย ซึ่งสั่งงานผ่านแอพพลิเคชั่นได้ระหว่าง เปิดปิด ไฟ, แอร์, ม่าน
ส่วนทางขวามือเวลาเปิดประตูเข้าห้องมาขวามือสุดเป็นพื้นที่วางตู้เย็น และติดกับเป็นชุดครัว Pantry รูปตัว I ได้ตามนี้มาตรฐานเลยนะ
ด้านบนหลังตู้เย็นยังเหลือพื้นที่อีกนิดหน่อย สามารถไปบิวท์เพิ่มเองอีกได้นะ ส่วนชุดตู้แขวนผนังด้านบนมีทั้งแบบหน้าบานปิดลามิเนต และก็ช่องวางไมโครเวฟ
ที่ผนังด้านหลังมีการกรุ Back Splash เป็นแผ่นกระจกสีดำมาให้เรียบร้อยเลย และก็เราจะได้ Hob&Hood&Sink ของยี่ห้อ TEKA ครับ ส่วนของท๊อปครัวเป็นหินสังเคราะห์สีขาวมาตัดกัน
พื้นที่ด้านล่างจะเป็นส่วนของชุดตู้เก็บของใต้อ่างทั้งหมด ทางฝั่งขวาจะเป็นลิ้นชัก 3 ตอน ซึ่งเอาไว้เก็บของชิ้นเล็กหน่อยพวกช้อนส้อม ฯลฯ
ส่วนที่ติดกันของครัว ทางห้องตัวอย่างไม่ได้จัดเฟอร์มาตำแหน่งตรงนี้ ซึ่งเอาจริงๆแล้วถ้าใครทำอาหารแบบบ่อยจริงจังในการอยู่ เราสามารถกั้นพาร์ทิชั่นตรงนี้ให้เป็นครัวปิดได้เลยด้วยนะครับ / ส่วนผนังในห้องมาตรฐานจริงๆแล้วจะติดวอลเปเปอร์มาให้
ส่วนถัดมาเป็นส่วนของพื้นที่นั่งเล่น หรือรับแขก ซึ่งความพิเศาของห้องนี้คือมีการเชื่อมพื้นที่ระหว่างโซนรับแขกกับห้องนอน ทำให้เวลามองไปแบบนี้ เราจะเห็นว่าช่องแสงจากทั้งสองห้องส่องผ่านแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องแบบเต็มที่ และทำให้ห้องปลอดโปร่งดูโล่งกว้าง
แต่ว่าในกรณีถ้าเราอยู่กันสองคนกับพี่น้องหรือแฟน มีเพื่อนมาเยี่ยม ก็สามารถปิดตัวประตูไม้บานเลื่อน 3 ตอนขนาดใหญ่(ทำรางบนไว้ให้ด้วยนะ เดินไม่ต้องกลัวสะดุด) ทำให้เราได้ความเป็นส่วนตัวเวลาต้องการเฉพาะๆแบบนี้แหละ
แต่ถ้าไม่มีแขกมาเยี่ยม ผมว่าก็คงจะเปิดเชื่อมพื้นที่แบบนี้ไว้ตลอดเวลา ดูสบายตากว่าเยอะ
ซึ่งระยะทางเวลานั่งดูทีวีห่างประมาณ 2.30 เมตร ก็จัดทีวีไซส์ประมาณ 40 นิ้วได้ โดยโครงการให้ชุดชั้นวางทีวีแบบลอยตัวมา ตรงนี้แล้วแต่ใครจะ Built-In ชุดตู้แขวนผนังด้านบนเพิ่มก็ได้ จะได้ใช้พื้นที่ใช้สอยแนวตั้งให้คุ้มๆหน่อย
ส่วนทางซ้ายมือ ที่อยู่ติดกับช่องแสงธรรมชาติ เจ้าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้แหละที่ไม่เหมือนกับใน Layout Furniture Plan ห้อง โดยโครงการปรับมาให้ใหม่เป็นชุดโต๊ะแบบยาวจากผนังถึงผนังไปเลย ซึ่งมันออกมาดูดีนะ เป็นทั้งโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งหรือเป็นได้ทั้งโต๊ะทำงานในตัว การที่อยู่ติดช่องแสงทำให้มันน่าใช้งานขึ้นนั่นเอง
ให้ดูอีกมุมชัดๆครับ ตรงนี้มีหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดออกได้บานนึง ซึ่งพอดูความสูงของกระจกเรียกว่าให้มาจัดเต็มทั้งกว้างชนผนังและจากพื้นเกือบจรดฝ้าเพดานเลยครับ (ส่วนชุดตู้ชั้นวางของทางขวามือสุดโครงการไม่ได้มีให้นะครับ)
เอาล่ะ เดี๋ยวเราไปดูส่วนของห้องนอนกันต่อ อ้อมโซฟาทางซ้ายไป
ในส่วนของห้องนอน โครงการจัดฐานเตียงกับหัวเตียง Queen Size มาให้เลยครับ โดยข้างๆเตียงจะมีประตูกระจกบานเลื่อนเพื่อออกไประเบียงด้านนอกได้
ด้านเดินไปด้านข้างเตียงฝั่งขวาจะเหลือพื้นที่น้อยหน่อยราวๆ 25 ซม.เท่านั้น จะต้องเดินตะแคงๆหน่อยนะ ถ้าจะออกไประเบียง
พื้นที่ระเบียงถ้าเทียบกับขนาดห้อง 31 ตร.ม. ถือว่าไม่เล็กไม่ใหญ่ครับ กลางๆกำลังดี ซึ่งก็สามารถใช้ได้ทั้งออกไปยืนสูดอากาศ ตากผ้าได้ ทำสวนกระถางได้
แถมโครงการจะให้ตัวกันตกเป็น Tempered Glass (กระจกนิรภัย) ที่รวมสูงแล้ว 1.10เมตรครับ ปกติมักจะเห็นระเบียงระแนงเหล็ก
ส่วนทางขวามือที่พื้นด่านล่างสามารถวางเครื่องซักผ้าได้นะ ด้านบนเป็นที่แขวนคอมแอร์ฯ 2 ตัว และมีการทำประตูกับระแหนงเหล็กปิดไว้เป็นสัดส่วนบังสายตาจากการมองเห็นให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ยืนจากพื้นที่ระเบียง มองกลับเข้าไปในห้องนอนตรงไป จะเห็นส่วนของพื้นที่แต่งตัว โครงการจะให้ตู้เสื้อผ้า Built-In 2 ฝั่ง เสมือน His & Her อยู่ตรงกลางระหว่างประตูทางเข้าห้องน้ำ
หน้าตาของชุดตู้เสื้อผ้า Built-In สองฝั่งซ้ายขวา ตรงจุดนี้โครงการแจ้งอัพเดท 2 จุดนะครับคือ 1.หน้าบานของจริงจะเป็นบานสไลด์แทนบานสวิง(จะได้ไม่ติดตัวแอร์) 2.หน้าบานของจริงจะเป็นกระจกสีดำทึบ(จะได้ไม่มองเห็นของใช้ส่วนตัวได้ความเป็นส่วนตัว)
เข้ามาดูในส่วนของห้องน้ำ แยกพื้นที่ส่วนแห้งและเปียกเป็นสัดส่วนครับ โดยตรงหน้าเราจะเจอกับกระจกเงาขนาดใหญ่อยู่เหนือเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ (ด้านหลังไม่มีตู้นะครับ)
ตัวอ่างล้างมือและก๊อกเป็นของ Kohler นะครับ แต่ว่าเคาน์เตอร์เป็นไฟเบอร์แบบเต็มความกว้างชนผนัง ทำให้เก็บของใช้ในห้องน้ำได้พอสมควร รวมถึงมีชุดตู้ใต้อ่างอีกสามจุดด้วย
หันไปมองทางซ้ายเป็นส่วนของสุขภัณฑ์ซึ่งเป็นของ Kohler เช่นกัน จากมุมนี้เราจะเห็นว่าพื้นกับผนังจะเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว
แต่ในส่วนของพื้นที่อาบน้ำ เจ้าพื้นกระเบื้องลายหินอ่อนจะมาตัดคอนทราสท์โทนขาวดำแบบนี้
ในส่วนพื้นที่อาบน้ำแยกส่วนเปียก (ในห้องของจริงจะมีการทำธรณีกั้นโซนนี้เอาไว้นะ) ได้กระจกนิรภัยฉากกั้นอาบน้ำ พื้นที่อาบน้ำค่อนข้างกว้างพอสมควรเลยประมาณ 1.0 x 1.35 เมตร / โดยผนังด้านในมีการเซาะร่องไว้วางของได้อีก(ตรงนี้ไปทำชั้นวางเป็นชั้นๆเพิ่มได้นะ) และตัวชุดฝักบัวก็จะได้ของ Kohler(หรือเทียบเท่า) พร้อมมีชุด Rain Shower
ห้องตัวอย่างอีกห้องนึงเป็นไซส์ที่ใหญ่ที่สุดในโครงการนี้แล้ว คือ 1 Bedroom Plus ขนาด 44.3 ตร.ม. โดยสิ่งที่แรกที่เห็นคือเป็นห้องหน้ากว้าง และก็แบ่งโซนเป็นสัดส่วนหน่อย โดยค่อนข้างจะให้น้ำหนักไปทาง Living Area ที่เชื่อมกันทั้งครัวและทานอาหาร ด้วยความเป็นห้อง Plus ห้องอเนกประสงค์ตรงกลางเจ้าของห้องเลยเลือกได้จะทำเป็นห้องนอนเสริม หรือห้องทำงานส่วนตัวก็ได้ และสุดท้ายส่วนของห้องน้ำประตูทางเข้าออกเป็น Double Access สามารถเข้าออกได้จากโถงรวมหรือห้องนอน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาเยี่ยม จะได้เข้าห้องน้ำโดยไม่ต้องเดินตัดมาในห้องนอนเรา
เปิดเข้ามาจะเป็น Common Area ที่มองเห็นฟังก์ชันรวมกันรับประทานอาหาร ครัว และนั่งเล่นรับแขก
ซึ่งพอลองเข้ามาในห้องแล้วหันกลับไปมองทางประตูทางเข้านะครับ จริงๆโครงการทำตู้เก็บรองเท้าเก็บของเหมือนกับห้องแรกเอาไว้แล้วมองตรงๆทางเข้า แต่ว่าพื้นที่ทางขวามือตรงนี้จริงๆยังสามารถ Built-In เพิ่มได้อีกนะ สำหรับห้องไซส์นี้ผมว่าถ้าใครอยากเก็บรองเท้าเพิ่มหรือเก็บของชิ้นใหญ่ทรงสูงก็ทำจะได้คุ้มพื้นที่
หน้าตาชุดตู้ Built-In เหมือนกับห้องแรกเป๊ะเลย ลองเปิดหน้าบานให้ดูสักหน่อย
หันไปมองทางซ้ายเนื่องจากเป็นห้องหน้ากว้าง บวกกับตัวประตูช่องแสงทำสูงเกือบฝ้าเพดาน เลยทำให้ช่องแสงธรรมชาติส่องผ่านมาในห้องแบบเต็มและดูกว้างโปร่ง
ทางซ้ายมือติดกับประตูจะเป็นชุดโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งที่อยู่ติดกับชุดครัวครับ
ชุดครัวที่จะขยายใหญ่กว่าห้องแรก กลายเป็น Pantry ตัว L ที่จะได้พื้นที่เก็บของ พื้นที่เตรียมอาหารมากกว่า
แต่ชุดวัสดุต่างๆจะเหมือนกับห้องแรกที่พาไปดู พวกพื้นที่ในการเตรียมอาหารเนื่องจากเป็น Pantry L Shape ก็จะทำอาหารได้สะดวกขึ้น
ถัดมาเป็นส่วนของ Living Area หรือเป็นพื้นที่รับแขกก็ได้ ซึ่งพวกชุดเฟอร์อย่างโซฟา โต๊ะกลาง ชั้นวางทีวี ทำรางม่านให้ เป็นมาตรฐานตามนี้ ระยะดูทีวีห้องนี้จะกว้างหน่อยครับประมาณ 3 เมตร ซึ่งระยะนี้จัดทีวี 50 นิ้วได้จะเหมาะสมกับระยะหน่อย
หน้าตาชุดโซฟา L Shape ที่โครงการมีมาให้ เหลือพื้นที่ข้างๆทางขวาอีกนิดหน่อย หาโคมไฟสวยๆมาวางเสริมประดับพื้นที่ตรงนี้ได้
ชุดชั้นวางทีวีจะเป็นแบบ Cabinet ลอยตัวเหมือนกัน ซึ่งห้องนี้จะเอาทีวีแขวนผนังไม่ได้นะ เนื่องจากด้านหลังจะเป็นตำแหน่งของห้องอเนกประสงค์ที่เป็นผนังกระจก
ด้วยรูปทรงของห้องนี้ ที่ด้านนอกอาคารเป็น Oblique Shape ทรงเฉียงตัด แต่พื้นที่ของระเบียงนับว่ากว้างมากสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ได้เลยด้วย ตัวกันตกยังเป็นกระจกนิรภัยเช่นเดียวกันแต่จะแผ่นใหญ่กว่า
ทางขวามือเป็นห้องเก็บคอมแอร์ฯ ซึ่งห้องนี้ Type จะได้แอร์ 3 ตัวนะครับ แต่ก็แลกกับคงวางเครื่องซักผ้าไว้พื้นที่ตรงนี้ไม่ได้เพราะติดระยะตัวคอมแอร์ฯตัวล่างสุด
นี่ครับถ้าเรามองจากด้านนอกอาคารก็จะเห็นรูปด้านเป็นแบบนี้ และเห็นช่องแสงขนาดใหญ่ 3 ส่วนทั้งห้องนั่งเล่น ห้องอเนกประสงค์ และห้องนอนครับ
กลับเข้ามาในห้องโถงทางเดินตรงกลางห้องจะแจกทางไปยังห้องที่เหลือ
โดยตรงกลางสุดในห้องนี้จะเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ที่โครงการกั้นเป็นกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำทั้งหมดแบบนี้ เพื่อให้ห้องแสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาในห้องและส่งผ่านไปยังห้องอื่นๆได้ด้วย
นี่ครับถ้าเราเปิดเจ้าบานเลื่อน 3 ตอนออกทั้งหมด จะได้พื้นที่ความกว้างขวางในการเดินเข้าออกประมาณนี้ และมุมกล้องกดทำให้เห็นพื้นที่ต่างๆในห้องนี้ด้วย
ซึ่งห้องอเนกประสงค์นี้เป็นห้องเดียวที่ทางโครงการจะไม่ได้แถมเฟอร์นิเจอร์ให้เลยนะครับ เนื่องจากว่าต้องการให้ลูกบ้านจัดฟังก์ชันเองตามความต้องการคของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน
ออกมาจากห้องอเนกประสงค์แล้ว ตรงไปจะเป็นส่วนของห้องนอนครับ ทางซ้ายมือผมคือห้องน้ำที่ประตูทางเข้าออกเป็น Double Access สามารถเข้าออกได้จากโถงรวมหรือห้องนอน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาเยี่ยม จะได้เข้าห้องน้ำโดยไม่ต้องเดินตัดมาในห้องนอนเราก็ได้
พ้นประตูเข้ามาในห้องนอน มองตรงๆไปจะเห็นส่วนของวางเตียงอยู่ทางขวามือ เอาไปชิดกับหน้าต่างช่องแสง และทางซ้ายมือเป็นส่วนของพื้นที่แต่งตัว
โดยในห้องนี้โครงการจะให้ฐานเตียง(พร้อมตกแต่งหัวเตียง) เป็นแบบ King Size ด้วย และจะเหลือทางเดินที่ปลานเตียงราวๆ 50 ซม. ซึ่งยังเอาทีวีแขวนผนังได้ครับ แต่เอาชั้นวางมาคงไม่ได้
ถ้าใครชอบนอนดูทีวีก็แขวนเอาแบบนี้นะ ส่วนตำแหน่งของแอร์อยู่ที่เหนือปลายเตียงตรงนี้ (แอบเป่าตรงเข้าหน้าไปหน่อยแหะ)
พื้นที่ด้านข้างเตียงฝั่งชิดกับผนังช่องแสงเดินเข้ามาได้ไม่ยาก เผื่อเปลี่ยนผ้าปูที่นอน ถึงแม้จะเป็นรูปทรงเฉียงแต่ก็สามารถติดตั้งผ้าม่านแบบนี้ก็ได้ครับ
มองย้อนกลับไปอีกฝั่ง จะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าเข้ามุมรูปตัว L โดยวัสดุทางโครงการก็จะทำแบบห้องแรกที่บอกนะครับว่าจะทำเป็นบานสไลด์และหน้าบานเป็นกระจกสีดำทึบ และติดกันทางซ้ายก่อนประตูทางเข้าห้องน้ำมีพื้นที่ของโต๊ะเครื่องแป้งอยู่
สุดท้ายเป็นส่วนของห้องน้ำ ซึ่งเป็นรูปทรงผืนผ้า จัดวางตำแหน่งการใช้งานเรียงตัวกันง่ายๆ อ่างล้างมือ สุขภัณฑ์ (ส่วนแห้ง) และด้านในสุดเป็นพื้นที่อาบน้ำ (ส่วนเปียก)
วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำยังได้เป็นของ Kohler เช่นกัน ต่างกันที่ตรงชุดอ่างล้างมือเคานเตอร์กับกระจกเงาจะเล็กกว่าเท่านั้น
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
1
เนื่องจากโครงการนี้ มี Room Layout ที่ค่อนข้างหลากหลายเพราะด้วยรูปด้านของอาคาร เลยไม่ได้วิเคราะห์แปลนห้องทั้งหมดนะครับ แต่จะแปะเอาไว้ให้ดู Layout แบบไหนบ้างครับ
- Type A 25.1 Sq.m. 1 Bedroom 1 Bathroom
- Type B 28.8 Sq.m. 1 Bedroom 1 Bathroom
- Type C 31.72 Sq.m. 1 Bedroom 1 Bathroom
- Type D 31.40 Sq.m. 1 Bedroom 1 Bathroom
- Type E 32.35 Sq.m. 1 Bedroom 1 Bathroom
- Type F 34.00 Sq.m. 1 Bedroom 1 Bathroom
- Type G 31.9 Sq.m. 1 Bedroom 1 Bathroom
- Type H 35.1 Sq.m. 1 Bedroom 1 Bathroom
- Type I 44.3 Sq.m. 1 Bedroom Plus 1 Bathroom
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 24 July 2018
- ราคาห้องเริ่มต้น 3.33 ล้านบาท
- ช่วงราคา 1 Bed ห้องอื่นๆขนาด 28.8 – 35.1 ตร.ม. ประมาณ 3.9 – 4.5 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ Average 136,000 บาท/ตร.ม.
- Presale : กลางเดือน สิงหาคม 2018
- Fully Furnished / เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินและลอยตัว / แอร์ทุกห้อง
- ฝ้าเพดานสูง 2.50 เมตร
- Kitchen & Sink + Hob & Hood
- Shuttle Bus (ไปออกพระราม 4, ผ่านหน้า MRT ลุมพินี วนกลับสาทร 1 และเข้าโครงการ)
- จอง 20,000 บาท / ทำสัญญา 5% บาท / ผ่อนดาวน์ 15 งวด 8%
- ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน
- ลงทะเบียนเวปไซต์โครงการเพื่อรับรายละเอียด : คลิกที่นี่
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
ทำเล โครงการ The Teak สาทร-ลุมพินี จัดเป็นโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง อยู่ในตำแหน่งของทำเลซอยที่ไม่ใช่ถนนใหญ่ หากใครเชี่ยวชาญเป็นคนพื้นที่ก็จะรับทราบดีกว่าพื้นที่บริเวณนี้มีทางลัดเลาะได้เยอะมาก แม้ว่าในช่วงเวลาเร่งด่วนที่รถติดมากๆก็ยังพอมีทางหนีทีไล่ไปออกถนนต่างๆได้เกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นพระรามที่ 4, พระรามที่ 3, สาทร, ถนนจันทน์, ถนนนราธิวาสฯ, ถนนเชื้อเพลิง ตลอดจนจุดขึ้นลงทางด่วน ทำให้เป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวมากกว่าคนที่ไม่ได้ใช้รถยนต์นะครับ
การใช้รถยนต์ส่วนบุคคล จัดว่าสะดวก สามารถใช้เส้นทางไปลัดออกถนนต่างๆได้หลากหลาย ทั้งถนนเย็นอากาศ ถนนนางลิ้นจี่ ถนนเชื้อเพลิง ถนนพระราม 4 ถนนสาทร ซึ่งเป็นถนนสายหลักทั้งสิ้นที่มีทั้งอาคารสำนักงานเป็นย่านธุรกิจ และโรงเรียนชื่อดัง ข้อดีอีกอย่างคือใกล้กับทางขึ้นและลงทางด่วน ทั้งสองสายอย่างเฉลิมมหานครและด่วนศรีรัช
การเดินทางแบบไม่ใช้รถยนต์นั้น ทางโครงการจัดให้มี Shuttle Service รองรับ พาลูกบ้านไปออกพระราม 4, ผ่านหน้า MRT ลุมพินี วนกลับสาทร 1 และเข้าโครงการ อีกทั้งด้านหน้าโครงการเยื้องไปหน่อยปากซอยศรีอักษร(หน้าเซเว่น) ตรงนั้นมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ประจำอยู่ แต่ด้วยความที่ถนนซอยนั้นแคบและฟุตบาทก็ไม่ค่อยจะมี เลยต้องระวังนิดหน่อยเวลาเดินไปเรียกใช้
วัสดุ ที่รูปแบบการขายโครงการนี้คือ Fully Furnished ที่ให้มาครบเลยทั้งเฟอร์ Built-In และลอยตัว, ทำรางผ้าม่านให้, มีวอลเปเปอร์ให้, ชุดครัว Hob&Hood, พื้นเป็นกระเบื้องยางไวนิล, Floor to Ceiling 2.50 เมตร และในห้องน้ำได้ของ Kohler ทั้งหมด และระบบ Home Automation เรียกว่าให้มาสมกับราคา
การออกแบบ ตัวอาคารเป็นสไตล์ Modern Contemporary สมัยใหม่หน่อย ที่ตกแต่ง Facade ได้ค่อนข้างโดดเด่นทีเดียว ได้สถาปนิกมือดีอย่าง makeAscene Architect ที่มีผลงานชื่อดังมาไม่น้อยแล้ว การใช้เส้นสายแนวตั้งที่มี Fin เฉียงช่วยบังแสงแดดและยังทำให้เฉดของแสงแดดเฉียงๆไม่เข้าห้องโดยตรง เราจะเห็นกระจกตั้งแต่งส่วนระเบียงกันตกเลย และหน้าต่างช่องแสงในห้องพักก็เป็นแบบ Full High Ceiling ที่ดูเต็มตาสะใจดีอีกด้วย | รูปแบบห้องพักที่นี่เน้นแต่ 1 Bedroom เท่านั้น ซึ่งขนาดอยู่ราว 25-44 ตร.ม. มี Layout ห้องทั้งหมด 9 แบบ ซึ่งหลักๆหลายแบบเกินครึ่งจัดฟังก์ชันลงตัวแล้ว แต่ด้วยรูปทรงรูปด้านอาคารที่มีทรงเฉียง ทำให้บางห้องแบบยังดูลงตัวไม่สุด
สาธารณูปโภค อาจจะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนกับตึก High Rise อยู่แล้ว เพราะเราจะเลือกอยู่ในสังคมที่ต้องการความเป็นส่วนตัวยูนิตน้อยเพียง 78 ห้องเท่านั้น แชร์การใช้งานน้อย ไม่โทรมไวและวุ่นวาย แต่ด้วยฟังก์ชั่นที่มีให้ก็ถือว่าโอเค ทั้งสวนชั้น 1 และดาดฟ้า, Lobby ขนาดใหญ่ที่รวมพื้นที่กับ Co-Working มีการจัดเอา Smart Locker มาให้ลูกบ้านด้วย, Fitness และไฮไลท์ชั้นไว้ที่ Rooftop อย่างสระว่ายน้ำและพื้นที่นั่งเล่นชมวิว
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคาประมาณ AVG ทั้งโครงการ 136,000 บาทต่อตารางเมตร, 24 July 2018
- ทำเล 7.75/10 – ทำเลในเมืองใกล้สาทร พระราม4 ไม่ติดถนนใหญ่ อยู่ในซอยแต่ลัดเลาะออกง่าย มีทางหนีทีไล่เยอะ
- เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางสะดวก ลัดเลาะได้หลากหลาย ใกล้ทางด่วนหลายจุด และมีที่จอดรถเยอะ
- ไม่ใช้รถ 7.25/10 – ห่างจาก MRT ประมาณ 1 กิโลเมตร มีรถ Shuttle รับ-ส่ง
- วัสดุ 8.25/10 – Fully Furnished และ Home Automation ของค่อนข้างครบ
- แบบ 7.5/10 – หน้าตาอาคาร Modern ดูสวยดี แบบห้องมีแต่ 1 Bed เน้นครอบครัวเริ่มต้น ห้องหลักๆหลายห้องฟังก์ชันดีแล้ว แต่ด้วยรูปทรงรูปด้านอาคารที่มีทรงเฉียง ทำให้บางห้องแบบยังดูลงตัวไม่สุด
- สาธารณูปโภค 8/10 – ค่อนข้างให้มาโอเคสำหรับจำนวน 78 ยูนิต มีห้อง Lobby กว้าง ใส่ Smart Locker มาให้ EV Charger และเอาสระกับสวนไว้ที่ดาดฟ้า
- HIGH CLASS
- 7.78 / 10.00
BOTTOM LINE
The Teak สาทร-ลุมพินี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาบ้านในเมือง ชอบทำเลโซนสาทร-พระราม 4 เป็นหลัก ไม่ต้องการคอนโดใกล้ MRT มากนัก แต่ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน ที่ไม่อยากเสียเวลากับการเดินทางเข้าเมืองมาทำงาน และด้วยระดับราคาถือว่าไม่แพงมากหยิบจับได้ง่าย อาจจะซื้อไว้เพื่อการลงทุนหรือซื้อไว้เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 มีงบประมาณ 3.3 – 5.9 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 23,000-42,000 บาท