รีวิวฉบับที่ 1145 … สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปเกาะกระแสรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่พึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนะคะ กับคอนโดมิเนียมตึกเสร็จวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าง Rich Park @ เจ้าพระยา คอนโด High Rise โครงการที่ 3 จาก Richy Place 2002 ต่อจาก Rich Park @ บางซ่อน สเตชั่น และ Rich Park @ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ค่ะ ตัวโครงการนี้ได้ทำเลดี วิวแม่น้ำเจ้าพระยา และใกล้ MRT ไทรม้า เดี๋ยวเราตามไปดูบรรยากาศโครงการเมื่อสร้างเสร็จแล้วกันเลยดีกว่าค่ะ
Fact @ 2 August 2016
- Rich Park @ Chaophraya (ริชพาร์ค @ เจ้าพระยา)
- บริษัท ริชี่เพลส 2002 จำกัด (มหาชน)
- ECONOMY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถนน รัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี
- คอนโด High Rise 33 ชั้น 633 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 25 ยูนิต
- ที่จอดรถ คิดเป็น 40% รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 2 ไร่ 86 วา
- เริ่มก่อสร้าง : ปลายปี 2556
- แล้วเสร็จ : ปลายปี 2558
- 1 Bedroom 28 – 32 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 70,000 บาท/ตร.ม.
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่ำสุด-สูงสุด 67,294 – 88,793 บาท/ตร.ม.
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ MRT ไทรม้า ได้ที่: (คลิกที่นี่)
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-886-1817
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วครับ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างครับ
พิกัด : 13.870447,100.469418
ตัวโครงการตั้งอยู่ติดถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาเข้าเมือง บริเวณเชิงสะพานพระนั่งเกล้าฝั่งที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาแล้ว และตัวโครงการห่างจากจุดขึ้น-ลงสถานีรถไฟฟ้าไทรม้าไปประมาณ 130 ม. ค่ะ
โครงการ Rich Park @ เจ้าพระยา เป็นโครงการที่ 3 จาก Richy Place 2002 ที่เน้นเรื่องทำเลของโครงการใกล้รถไฟฟ้าอีกเช่นเคย ต่อจาก Rich Park @ บางซ่อน สเตชั่น และ Rich Park @ เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ โดยโครงการนี้จะมีจุดเด่นเพิ่มเติมคือได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาในฝั่งทิศตะวันออกด้วย สำหรับที่ตั้งโครงการนี้ตั้งอยู่ในจ.นนทบุรี บนถนนรัตนาธิเบศร์ ใกล้เชิงสะพานพระนั่งเกล้าฝั่งที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาแล้วค่ะ การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่าสะดวก เพราะอยู่ติดถนนใหญ่เลย ซึ่งหากจะเข้าตัวเมืองนนทบุรี ศูนย์ราชการ แยกแคราย ขึ้นทางด่วนก็ไปทางสะพานพระนั่งเกล้า แต่เวลาขับรถออกจากโครงการเพื่อจะข้ามฝั่งไปทางเมืองนั้นจะต้องใช้สะพานพระนั่งเกล้าเก่านะคะ เพราะระยะทางระหว่างหน้าโครงการและทางขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าใหม่ค่อนข้างกระชั้นพอสมควร สำหรับสะพานพระนั่งเกล้าเก่านี้จะมีระยะข้ามได้สั้นกว่าแต่ก็จะไปติดไฟแดงบริเวณแยกสนามบินน้ำอยู่นะคะ ส่วนแยกที่ตัดราชพฤกษ์ลงใต้จะเข้าเมืองไปทางบรมราชชนนี, เพชรเกษม, ตากสิน และสาทรได้ ระหว่างทางก็จะเป็นแหล่งรวมร้านอาหารทั้งคาวหวาน รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์ดังๆด้วย ถ้าขึ้นเหนือฝั่งราชพฤกษ์จะไปทางชัยพฤกษ์และบางบัวทอง-บางคูวัดที่ไปสุพรรณบุรีและปทุมธานีได้ค่ะ
เรื่องความอุดมสมบูรณ์ในละแวกโครงการจะไม่ได้เยอะมากนัก จะมีก็เป็นตลาดนัดเล็กๆตามหน้าหมู่บ้าน แล้วก็มินิมาร์ทอย่างพวก 7-11, Family Mart, BigC mini และ Lotus Express ส่วนใหญ่ความอุดมสมบูรณ์จะไปอยู่แถบย่านบางใหญ่หรืออีกฝั่งนึงของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างแถบสนามบบินน้ำเลยไปถึงแยกแคราย ซึ่งอยู่ในระยะที่ขับรถได้สะดวกในระยะไม่เกิน 5-6 กม. ค่ะ และยิ่งปัจจุบันที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดแล้วก็สามารถนั่งรถไฟฟ้าไปช็อปปิ้งซื้อของกันได้สบายเพียงไม่กี่สถานี
สภาพแวดล้อมฝั่งที่ข้ามสะพานพระนั่งเกล้ามาแล้วจะยังไม่คึกคักเท่าไหร่นักหากเทียบกับฝั่งที่ยังไม่ได้ข้ามสะพานมา โดยส่วนใหญ่บริเวณนี้เป็นชุมชนอยู่อาศัยแบบแนวราบมากกว่า และก็พอจะมีคอนโด Low Rise ที่เปิดมานานแล้วอย่าง dcondo รัตนาธิเบศร์จากแสนสิริ ซึ่งทำเลนี้แต่เดิมความนิยมของคอนโดยังไม่ค่อยมากนักเนื่องจากบริเวณนี้ยังมีที่ดินเปล่าที่ยังไม่ได้พัฒนาอีกมาก ทั้งถนนหลักถนนซอยนั้นมีประกาศที่ดินเปล่าอยู่เยอะ และราคายังไม่สูงมากเท่ากับฝั่งของตัวเมือง แต่ปัจจุบันพอมีระบบรางเข้ามาในย่านนี้เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น ก็ทำให้เห็นโครงการคอนโดมิเนียมจากหลาย Developer เข้ามาเกาะรางรถไฟกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในอนาคตรูปแบบการอยู่อาศัยของทำเลนี้ก็จะเริ่มเปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งความอุดมสมบูรณ์ก็จะมีมากขึ้นด้วยค่ะ
ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีม่วงเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว โดยลูกบ้านที่เน้นการเดินทางเข้าเมืองแบบไม่ใช้รถยนต์ก็จะสะดวกมากขึ้น และประหยัดเวลาในการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนได้ดีค่ะ โดยระยะห่างจากหน้าโครงการไปถึงจุดขึ้น-ลงสถานีนั้นห่างออกไปประมาณ 130 ม. เป็นระยะที่เดินได้ง่าย จะขออัพเดตรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่วิ่งเข้าเมืองในตอนนี้ก่อนนะคะ สำหรับคนที่เดินทางไปทำงานในเมืองนั้นปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะสิ้นสุดสถานีอยู่ที่เตาปูน ซึ่งการจะไปนั่งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพื่อเข้าเมืองต่อนั้นต้องนั่งรถ Shuttle Bus ไปลงรถไฟฟ้าที่สถานีบางซื่อใช้ระยะทางประมาณกิโลกว่าๆ ถึงจะไม่ไกลมากนักแต่ในช่วงระยะเวลาเร่งด่วนรถก็ติดพอสมควรนะคะ ดังนั้นก็ควรเผื่อเวลาในการเดินทางพอสมควรค่ะ
การเดินทางในวันนี้มาจากในตัวเมือง วิ่งมาจากถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าออกเมือง ตรงยาวๆเลย ข้ามแยกแครายเปลี่ยนเป็นถนนรัตนาธิเบศร์ ตรงอย่างเดียวผ่านหน้าศูนย์ราชการนนทบุรี เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และก็ข้ามสะพานพระนั่งเกล้า พอลงสะพานมาก็จะเจอ MRT สถานีไทรม้า ให้เราเบี่ยงออกทางขนานไว้เตรียมกลับรถ พอกลับรถมาแล้วให้ชิดซ้ายเอาไว้ ตรงมาอีกหน่อยก็ถึงตัวโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้เชิงสะพานพระนั่งเกล้าค่ะ
เริ่มต้นจากถนนงามวงศ์วานมุ่งหน้าขาออกจะไปรัตนาธิเบศร์ ผ่านหน้าพันธุ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วานและจุดขึ้นลงทางด่วนมาแล้ว ก็จะเจอกับแยกแคราย โดยเราชิดเลนขวาขึ้นสะพานข้ามแยกไปเลยไม่ต้องไปติดไฟแดงตรงแยกแครายค่ะ
พอลงสะพานข้ามแยกแครายมาแล้วฝั่งตรงข้ามทางขวามือจะเจอกับห้างเอสพลานาดและ Tesco Lotus ค่ะ
และก็จะเริ่มเห็นรางรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่โค้งมาบรรจบกับถนนรัตนาธิเบศร์
ผ่านสถานีศูนย์ราชการนนทุบรีครับ
สถานีถัดไปคือบางกระสอ (แต่เดิมตอนแรกตั้งว่าสถานีศรีพรสวรรค์) ทางลงสถานีมี BigC ด้วย
หลังจากนั้น จะเห็นห้างหลักของคนแถวนี้คือ เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ และ Index Living Mall อยู่ฝั่งตรงข้าม
ถ้าจะมาเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ก็ลงสถานีแยกนนทบุรี 1 ได้เลยค่ะ
เราตามป้ายบางบัวทองกาญจนาภิเษกเอาไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวจะขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
เราขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาแล้วนะคะ ทางซ้ายมือเป็นบริเวณที่ตั้งสถานีรถไฟฟ้าสะพานพระนั่งเกล้า ซึ่งเป็นสถานีบนทางรถไฟฟ้ายกระดับข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา
ช่วงกำลังจะลงสะพานจะเห็นสถานีไทรม้าอยู่ไกลๆ ทางขวามือเป็นก็จะเห็นโครงการแล้วค่ะ แต่เดี๋ยวเราลงสะพานแล้วไปกลับรถเข้าโครงการกันค่ะ
พอลงมาแล้วให้เบี่ยงซ้ายออกทางขนานเลยนะคะ
เบี่ยงออกมาเลนขนานแล้ว จะเจอกับสถานีไทรม้า ทางซ้ายมือเป็นโชว์รูม Izuzu
ผ่านหน้าปั๊ม Esso มุ่งหน้าต่อ
ทีนี้เดี๋ยวจะเจอสะพานข้ามแยกไทรม้า ให้เราชิดซ้ายไว้ไม่ขึ้นสะพาน เพื่อจะกลับรถนะคะ
กลับรถชิดขวาสุด ถ้าเลยไปนิดหน่อยจะเป็นสี่แยกไฟแดงไทรม้า
พอกลับรถลอดใต้สะพานทางซ้ายมือจะเป็นแนวอาคารพาณิชย์ ที่เป็นพวกร้านต่างๆ
ขับต่อมาอีกหน่อยจะผ่านหน้าโครงการแนวราบ perfect masterpiece
หลังจากนั้นจะเห็นตัวทางขึ้นสถานีไทรม้า ทางซ้ายมือเป็นปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส เราตรงไปอีกหน่อยกันค่ะ
และก็ถึงหน้าโครงการแล้วค่ะ มองไปฝั่งถนนกันหน่อย จะเห็นว่าที่ตั้งโครงการอยู่บริเวณเชิงสะพานพระนั่งเก้าใหม่เลย ซึ่งเวลาจะเลี้ยวแล้วขึ้นสะพานใหม่ค่อนข้างยากนะคะ ต้องพึ่งพาสะพานพระนั่งเกล้าอันเก่าแทน
บริเวณโดยรอบโครงการเป็นทำเลที่อยู่อาศัยเกือบทั้งหมดและส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านจัดสรรนะคะ จะพอเห็นอาคารพาณิชย์สูงไม่เกิน 5 ชั้น อยู่ติดริมถนนบ้าง และมีคอนโดมิเนียมให้เห็นบ้างไม่มากทั้งอาคารแบบ Low Rise และ High Rise ค่ะ บรรยากาศจะค่อนข้างเงียบ ไม่คึกคัก และมีรถใหญ่เล็กขับผ่านตลอดเวลาตามประสาโครงการติดถนนใหญ่
- ทิศเหนือ : ชุมชุนบ้านเดี่ยวสูงไม่เกิน 3 ชั้น
- ทิศตะวันออก : อาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น ขายสีทาบ้าน
- ทิศใต้ : ถนนรัตนาธิเบศร์, อาคารพาณิชย์สูง 3-5 ชั้น
- ทิศตะวันตก : ที่ดินเปล่า, ร้านขายวัสดุก่อสร้าง
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- โรงพยาบาลการุณเวช รัตนาธิเบศร์ ~ 5 กม.
- Central รัตนาธิเบศร์ + Index Living Mall ~ 5.8 กม.
- ตลาดสดดอนพรหม ~ 6 กม.
- Central Plaza Westgate ~ 7.1 กม.
- โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ ~ 7.2 กม.
- ตลาดเจ้าพระยา ~ 8 กม.
- บางใหญ่ไนท์พลาซ่า, ตลาดกลางบางใหญ่ ~8.7 กม.
- ตลาดบางบัวทอง ~ 9 กม.
- อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ~ 9.2 กม.
- The Walk, The Crystal, Home Pro (ราชพฤกษ์) ~ 9.4 กม.
- Homepro+BigC บางใหญ่ ~10 กม.
Master Plan โครงการเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบติดถนนใหญ่รัตนาธิเบศร์แล้วยาวไปจนสุดคลองด้านหลังโครงการ มีพื้นที่โครงการทั้งหมด 2 ไร่กว่า การวางผังโครงการคือวางแนวอาคารตามที่ดินมีถนนล้อมรอบอาคารวิ่งรถทางเดียว (One Way) และมีสวนด้านหน้าและด้านหลังโครงการค่ะ ภายในอาคารในชั้นล่างนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนต้อนรับด้านหน้าที่มี Lobby โถงลิฟต์ และร้านค้า 2 ร้านแบบขายขาด ส่วนด้านหลังเป็นส่วนจอดรถที่เริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 7 ค่ะ รวมที่จอดรถของโครงการทั้งหมดอยู่ที่ 40%
ด้านหน้าทางเข้ากั้นด้วยไม้กระดกอัตโนมัติ และใช้ระบบ Key Card Access ระยะใกล้ มีกล้อง CCTV ส่องหน้าคนขับ ด้านข้างมีป้อมพี่รปภ.อยู่
ตรงเข้ามาจะเป็นถนนยาวไปจนสุดทางและเลี้ยวไปยังส่วนที่จอดรถด้านใน จากนั้นก็วนรถออกมายังหน้าอาคารเพื่อออกนอกโครงการ เป็นการเดินรถแบบ One Way ซึ่งสะดวกในการสัญจรภายในโครงการดีค่ะ ส่วนด้านหน้าเป็นทางเข้าอาคารนะคะ จากที่ดูใน Master Plan อาจจะคิดว่าเป็นส่วน Drop Off แต่จริงๆ แล้วเป็นทางเข้าอาคารอย่างเดียวไม่สามารถวนจอดและวนออกได้เลยนะคะ เนื่องจากติดเสา บ่อน้ำพุ และมีวงเลี้ยวรถที่กระชั้นไปหน่อย
ตรงเข้ามาตามถนน จะเห็นว่าด้านข้างเป็นทำเป็นที่จอดรถในร่มเกือบตลอดแนวอาคาร
เกือบสุดทางสามารถตรงไปด้านหลังเพื่อวนรถออกหรือจะวนรถขึ้นไปจอดรถชั้นบนได้ค่ะ เดี๋ยวเราไปดูชั้นจอดรถกันก่อนนะคะ
เลี้ยวขวาเข้ามาด้านขวาจะเป็นทางขึ้นไปยังที่จอดรถชั้นบนและด้านซ้ายเป็นทางลงค่ะ
ที่จอดรถขนาดมาตรฐาน มีโถงลิฟต์โดยสารตรงนี้สามารถขึ้น-ลงไปยังห้องพักอาศัยได้เลย
ภายในโถงลิฟต์โดยสารตกแต่งเรียบง่ายมีหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยให้แสงสว่างเข้ามาในโถงลิฟต์ ทำให้ดูไม่มืดจนเกินไป
อีกฝั่งเป็นประตูหนีไฟและลิฟต์ Service
ออกมาด้านหลังเป็นสวนหย่อมของโครงการมีขนาดประมาณ 95 ตร.วา ปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ค่อนข้างร่มรื่นดีค่ะ
ภายในทำทางเดินและที่นั่งให้นั่งเล่นได้
เลี้ยวมาอีกฝั่งของถนนในโครงการ ด้านข้างใต้อาคารก็ทำเป็นที่จอดรถเช่นเดียวกัน
รั้วกำแพงรอบโครงการสูงประมาณ 3 ม. มีทำรั้วโปร่งให้เพิ่มขึ้นมาเฉพาะด้านหน้าโครงการ
เดี๋ยวเราเข้าไปดูภายในอาคารกันค่ะ จากด้านหน้าทางเข้าจะเป็นส่วนลานน้ำพุ ด้านขวาเป็นร้านค้าแบบขายขาด 2 ยูนิต (ตามเส้นประสีเหลือง) ปัจจุบันยังเป็นห้องสำนักงานขายนะคะ
ภายในห้องที่จะทำเป็นส่วนร้านค้านั้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้และได้ดวงโคมแบบดาวน์ไลท์
ภายในส่วน Lobby ด้านหน้าจัดให้มีชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่น สุดทางเป็นทางเข้าส่วนโถงลิฟต์โดยสาร ซึ่งต้องใช้บัตรสแกนเข้าค่ะ
อีกด้านของฝั่งที่นั่งเล่นเป็นส่วนห้องน้ำแยกหญิง/ชาย, Mail Box และห้องนิติบุคคล ซึ่งทางโครงการใช้บริษัท BM Groups มาบริหารงานด้านนิติบุคคลให้ โดยบริษัทนี้ได้บริหารงานให้กับ Rich Park ก่อนหน้านี้ทั้ง 2 โครงการด้วยค่ะ
ภายในส่วน Mail Box
ภายในห้องน้ำแยกส่วนล้างมือและห้องน้ำออกจากกัน
เข้ามาส่วนโถงด้านใน ด้านขวาเป็นโถงลิฟต์และตรงเข้าไปจะเป็นห้อง MDB หรือห้องงานระบบด้านหลังโดยทางโครงการก็ได้กั้นเป็นกระถางไม้พุ่มบังสายตาให้แบบนี้
ภายในโถงลิฟต์ในชั้นนี้ตกแต่งด้านข้างด้วยกระจกใส สุดทางเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งเช่นเดียวกันในทุกชั้นในแสงส่องเข้ามาได้ดีพอสมควร ลิฟต์โดยสารมีทั้งหมด 3 ตัว รวมแล้วมีอัตราส่วนลิฟต์อยู่ที่ 211:1 ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่นอยู่พอสมควรนะคะ
ภายในลิฟต์ตกแต่งเรียบง่าย ส่วนลิฟต์ใช้เป็นระบบลิฟต์ล็อกชั้น โดยลูกบ้านจะขึ้นได้เฉพาะชั้นของตัวเองและชั้น Facilities ค่ะ
ชั้น 2-7 เป็นชั้นที่จอดรถทั้งหมดค่ะ มีจุดวนรถ 2 ด้าน ช่วยให้สามารถขึ้น-ลงได้สะดวกมากขึ้น แต่ก็จะไปกินพื้นที่ซึ่งสามารถเป็นที่จอดรถได้มากขึ้น
ชั้น 8 เป็นชั้นพักอาศัยและ Facilities อย่างละครึ่ง ถูกแบ่งโดยโถงลิฟต์โดยสาร ฝั่งห้องพักอาศัยกั้นด้วย Double Access ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับห้องพักในชั้นนี้มากขึ้นดีค่ะ ข้อดีของห้องพักในชั้นนี้ก็คือความสะดวกในการใช้งาน Facilities สำหรับใครที่ชอบใช้ Facilities เป็นประจำ รวมทั้งจำนวนยูนิตที่น้อยกว่าในชั้นอื่นๆ แต่ก็แลกมากับความเป็นส่วนตัวน้อยหน่อยของชั้นนี้นะคะ ส่วน Facilities ของชั้น 8 ถือเป็น Facilities หลักของโครงการ ประกอบด้วยสระว่ายน้ำขนาด 12 x 22 เมตร และ 5 x 5 เมตร แยกเป็นสระเด็ก-ผู้ใหญ่ ห้องออกกำลังกาย พื้นที่นั่งเล่น สวน และห้องน้ำแยกชาย/หญิง
ลักษณะของบริเวณนี้จะเป็น Semi – Outdoor คืออยู่ในร่ม ข้อดีคือ ไม่โดนแดด ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งตลอดทั้งวัน เป็นช่องลมมีลมโกรกตลอดเวลา แต่ก็จะเสียในเรื่องของวิวที่ไม่ปังเท่าสระว่ายน้ำในชั้นดาดฟ้า ซึ่งจะได้เห็นแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วย ทำให้ลูกบ้านทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงและสัมผัสบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยาได้
จากโถงลิฟต์มาจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่ง Facilities และฝั่งห้องพักอาศัย
ฝั่งห้องพักอาศัยนี้กั้นด้วย Double Access ต้องใช้ Key Card สแกนผ่าน เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านในชั้นนี้มากขึ้น
เข้ามาฝั่ง Facilities ความสูงของฝ้าเพดานเป็นแบบ Double Floor นะคะ ทำให้ดูโอ่โถงพอสมควร
ด้านข้างมีพื้นที่นั่งเล่นวางชุดโซฟาให้ 2 ชุดใหญ่ มีหน้าต่างบานใหญ่สามารถชมวิวภายนอกได้ดี
ชุดโซฟาหน้าตาแบบนี้ ใครเบื่อๆ ห้องมานั่งทำงานหรือนั่งชิลๆ ตรงนี้ก็ได้นะคะ
ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนห้องน้ำแยกชาย/หญิง
ภายในมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำให้อย่างละ 2 ห้อง
ห้องฟิตเนสอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นและติดกับสระว่ายน้ำ เป็นห้องกระจกใสกรอบบานอลูมิเนียม
ภายในถูกแบ่งเป็น 2 ส่วนเนื่องจากตำแหน่งของเสา ในส่วนนี้มีเครื่องเล่นอยู่ 5 เครื่อง มีหน้าต่างกระจกติดให้ตลอดแนวชมวิวภายนอกได้ดี
อีกส่วนเป็นส่วนเวทเทรนนิ่งค่ะ
ถัดมาเป็นส่วนสระว่ายน้ำนะคะ โดยสระว่ายน้ำนี้จะแบ่งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ชัดเจน ลักษณะของสระเป็นสระในร่มกันแดดและฝนได้ดี สาวๆ คนไหนกลัวผิวดำนี่น่าจะชอบเพราะไม่โดนแดด เล่นน้ำได้ในตอนกลางวันสบาย
สระเด็กมีขนาด 5 x 5 ม.
ส่วนสระผู้ใหญ่มีขนาด 12 x 22 ม. เป็นขนาดที่ใหญ่พอสมควร สามารถว่ายออกกำลังกายได้ดี และรองรับจำนวนคนใช้งานได้พอสมควรค่ะ เสียดายหน่อยตรงที่ตัวสระอยู่ภายในอาคารเลยต้องมีเสาของอาคารอยู่ในสระด้วยบางส่วนจึงทำให้เสียพื้นที่ในการว่ายไปบ้างค่ะ
รอบๆ ส่วน Facilities นี้กั้นด้วยรั้วกระจกทำให้สามารถมองวิวได้ดีค่ะ บรรยากาศบริเวณนี้เย็นสบายมีลมโกรกตลอดเวลา กลับมาที่สระอีกสักนิด ตรงขอบสระมีธรณียกสูงขึ้นมาหน่อยเพื่อกั้นน้ำที่จะกระเด็นออกมาบริเวณส่วนทางเดินด้านข้างแต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้การขึ้น-ลงสระจากด้านข้างไม่สะดวกนัก ส่วนด้านข้างสระวาง Day Bed ให้นอนชิลๆ ได้ค่ะ
ตรงไปด้านหลังสุดทางเป็นพื้นที่นั่งเล่นอีกจุด แต่ปูด้วยพื้นหญ้าเทียมด้านข้างปลูกต้นไม้กระถางให้
มีชุดเก้าอี้วางได้ให้อีก 2 ชุดนั่งชมวิวเพลินๆ ได้ สำหรับวิวจากตรงนี้จะไม่ได้สูงมากนักเพราะอยู่ที่ชั้น 8 แต่ก็ยังสามารถเห็นวิวในระยะไกลได้เนื่องจากบริเวณรอบข้างโครงการส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้าน
ขึ้นมาที่ชั้นปกติจากโถงลิฟต์จะแบ่งฝั่งห้องพักเป็น 2 ฝั่ง ส่วนตรงไปเป็นบันไดหนีไฟและห้องทิ้งขยะ
ด้านข้างก่อนเข้าสู่ห้องพักกั้นด้วย Double Access ให้เฉพาะชั้น Facilities และชั้น 33 ซึ่งเป็นชั้นที่ขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้าได้
บรรยากาศบริเวณโถงทางเดิน มีความกว้างโถงประมาณ 1.5 ม. ค่ะ
ชั้น 9 – 33 เป็นชั้น Typical Floor Plan มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 25 ยูนิต โดยห้อง Type A เป็นห้องที่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นห้องหน้ากว้าง และมีห้อง Type B เป็นห้องมุมทั้งหมดของโครงการค่ะ ส่วนอีกฝั่งที่เป็นวิวเมืองหันหน้าไปทางถนนราชพฤกษ์, บางใหญ่นั้นจะเป็นห้อง Type B และ C ตำแหน่งของโถงลิฟต์นั้นอยู่เยื้องไปด้านขวาหน่อยทำให้ห้องฝั่งขวามือนั้นมีความเป็นส่วนตัวมากหน่อยและมีระยะเดินไปยังโถงลิฟต์ที่ใกล้มากกว่า
ชั้นดาดฟ้านั้นจัดเป็นพื้นที่สวนให้ทั้ง 2 ฝั่งค่ะ และด้านบนของโถงลิฟต์นี้จะเป็นที่หนีไฟทางอากาศนะคะ
ชั้นดาดฟ้าขึ้นจากบันไดหนีไฟจะเป็นโถงโล่งๆ แบบนี้ สุดทางมีประตูกระจก 2 อันด้านซ้ายเปิดไปยังทางเดินและด้านขวาเปิดไปจะเป็นส่วนสวนค่ะ
กลับหลังมาด้านขวาเป็นบันไดหนีไฟและอีกประตูหนึ่งเป็นประตูเปิดไปยังสวนอีกฝั่ง
ส่วนทางเดินนั้นเป็นทางเดินตรงไปเรื่อยๆ ไปเชื่อมเข้าสวนตรงสุดทางเดิน ความสูงของกำแพงด้านข้างประมาณ 2 ม. ทำให้มองไม่เห็นวิวอะไรเลย
บริเวณสวนจัดเป็นสนามหญ้าและปลูกไม้ยืนต้นให้ ด้านข้างเป็นกระถางไม้พุ่งเรียงตัวไปตลอดแนว ถือว่าร่มรื่นดีค่ะ แต่จากสวนก็ไม่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้นะคะ เพราะความสูงของกำแพงด้านข้างก็บังจนหมดเช่นกัน จะเห็นเพียงท้องฟ้าด้านบน
สวนอีกฝั่งนึงตกแต่งและจัดสวนเช่นเดียวกัน
เงยหน้าไปด้านบนเป็นบันไดเหล็กขึ้นไปยังที่หนีไฟทางอากาศด้านบน
เมื่อตึกเสร็จเรียบร้อยแล้วเราไปดูวิวจริงจากชั้นดาดฟ้าของอาคารกันค่ะ
ทิศ A หรือทิศตะวันออกเป็นทิศขายของโครงการ เพราะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาและสะพานพระนั่งเกล้าเลยไปจนถึงบรรยากาศของทำเลฝั่งในเมืองนะคะ
ทิศ B หรือทิศใต้ จะเป็นวิวที่อยู่อาศัยแนวราบและพื้นที่ว่างเปล่าค่อนข้างเยอะค่ะ โดยรวมเป็นวิวที่ไม่ได้หวือหวามากนัก แต่ก็ไม่ถูกบล็อกวิวและสามารถเห็นวิวในระยะไกลได้
ทิศ C หรือทิศตะวันตกเป็นทิศที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำเจ้าพระยานะคะ วิวที่ได้เป็นวิวบรรยากาศสภาพแวดล้อมของฝั่งที่ข้ามแม่น้ำมาแล้วตั้งแต่ย่านไทรม้าเลยไปจนถึงบางใหญ่ และจะเห็นรางรถไฟทอดยาวไปจนสุดสายตา
และทิศ D หรือทิศเหนือจะได้วิวที่ใกล้เคียงกับทิศใต้นะคะ แต่สำหรับห้องมุมฝั่งขวาที่มีด้านนึงติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาก็จะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 2 สระ สระผู้ใหญ่ ขนาด 12 x 22 ม. สระเด็ก ขนาด 5 x 5 ม.
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 8 เครื่อง
- สวนหย่อมด้านหลังโครงการ
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว
- อัตราส่วนลิฟท์ 211 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 40 % รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
โครงการ Rich Park @ เจ้าพระยา เป็นโครงการที่มีห้องขนาดไม่ใหญ่นักเหมาะกับการอยู่ประมาณ 1-2 คน โดยมีเพียงห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 28 – 32 ตร.ม. ส่วนรูปแบบการตกแต่งโครงการเป็นแบบ Fully Fitted สิ่งที่ได้คือ
- ชุด Pantry ครัว พร้อม Sink
- ชุดสุขภัณฑ์
ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูในวันนี้ คือ ห้อง 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 32.50 ตร.ม. เป็นห้องที่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยานะคะ ลักษณะเป็นห้องแบบหน้ากว้างเพื่อให้ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้ดี รวมทั้งมีช่องแสงจากหน้าต่างและกระจกมากกว่าห้องแบบหน้าแคบลึกทำให้แสงธรรมชาติที่เข้ามาในห้องได้ดี ห้องก็จะดูโปร่งโล่งมากขึ้น ด้านการออกแบบห้องที่เป็นห้องหน้ากว้างนี้ทำให้การจัดวางฟังก์ชันภายในทำได้เป็นสัดส่วน เข้ามาภายในห้องเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่เชื่อมกัน ด้านขวาเป็นห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกและแห้งชัดเจน สามารถเข้าได้จากทางห้องนั่งเล่นได้ และห้องนอนติดกับหน้าต่าง ภายในห้องวางเตียง 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้าได้ระดับนึง ส่วนครัวและระเบียงซักล้างจะอยู่อีกฝั่งนึง ห้องครัวเป็นแบบครัวปิดเหมาะกับการทำอาหารหนักในระดับนึง และเชื่อมกับระเบียงซักล้างเลย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะในการใช้งานดีค่ะ
ประตูใช้วัสดุเป็น HDF และกลอนประตูเป็นลูกบิดมาตรฐานค่ะ
ทางเข้าจบขอบด้วยไม้สำเร็จรูป พื้นภายในเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
เมื่อเข้าไปในห้องส่วนแรกที่เจอคือพื้นที่ทานอาหารที่จะอยู่ติดกับประตูทางเข้า โดยเป็นพื้นที่เดียวกันกับพื้นที่นั่งเล่นที่อยู่ติดกับหน้าต่างกระจก ซึ่งทำให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้ดีพอสมควร ระยะความสูงจากฝ้าเพดานมีความสูงอยู่ที่ 2.4 ม.
หันกลับหลังมาคือส่วนพื้นที่รับประทานอาหาร ขนาด 2 x 1.2 ม. สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมเก้าอี้ 2 ที่นั่งได้ ตามแบบที่ห้องตัวอย่างตกแต่งไว้ หรือจะ Built-in โต๊ะรับประทานอาหารหันหน้าเข้ากับกำแพงเพื่อให้มีระยะขยับเก้าอี้ได้มากขึ้น
ด้านข้างประตูทางเข้าเป็นส่วนห้องน้ำ
ธรณีประตูปูด้วยกระเบื้องลาย ส่วนพื้นภายในห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.
ภายในแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยห้องน้ำในห้องจริงจะได้ตามห้องตัวอย่างเลยค่ะ ยกเว้นของตกแต่ง
ส่วนอ่างล้างมือพร้อมกระจกเงาได้ตามนี้ค่ะ โดยอ่างล้างมือเป็นอ่างไฟเบอร์อะคลิลิกจาก Charmers
ขนาดอ่างมีขนาดพอสมควร ด้านข้างมีพื้นที่เล็กน้อยให้สามารถวางครีมล้างมือหรือสบู่ได้
โถสุขภัณฑ์จาก American Standard ด้ายข้างโถมีพื้นที่ว่างเล็กน้อย ซึ่งเป็นพื้นที่เหลือไม่ได้ใช้งานนะคะ อาจจะทำเป็นพื้นที่ส่วนตกแต่งอย่างการวางกระถางต้นไม้หรือวางชั้นวางของให้เก็บของได้เล็กน้อยค่ะ
Shower Box เป็นฉากฝ้าและประตูเป็นแบบบานเปิด มีน้ำหนักค่อนข้างเบา
ด้านล่างยกธรณีประตูขึ้นเล็กน้อยทับด้วยวงกบของ Shower Box ภายในพื้นที่อาบน้ำปูด้วยกระเบื้องลายไม้คนละสีกับส่วนแห้งด้านนอก ขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 70 x 70 ซม. เป็นขนาดที่กะทัดรัดพอสมควรค่ะ
ด้านข้างผนังเล็กๆ เป็นตำแหน่งของฝักบัวสายอ่อน และอีกฝั่งเป็นที่วางสบู่นะคะ ทั้งหมดจาก American Standard มีการเตรียมท่อเพื่อติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้เรียบร้อยแต่ด้วยขนาดของผนังนั้นมีพื้นที่น้อยไปหน่อยอาจจะต้องขยับมาติดอีกฝั่งแทนนะคะ
ขนาดหัวฝักบัวมีขนาดพอสมควร และส่วนมือจับนั้นจับได้ถนัดมือ แข็งแรงดีค่ะ
กลับมาที่พื้นที่นั่งเล่นกันนะคะ มีขนาด 2 x 2 ม. มีระยะของทีวีประมาณ 1.6 ม. เหมาะกับการวางทีวีขนาดประมาณ 32 นิ้ว แต่ทีวีควรจะเป็นทีวีแบบแขวนและมีต้องขยับทีวีลงมาหน่อยให้พอดีกับสายตานะคะ ส่วนหน้าต่างที่ได้นั้นเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บานใหญ่ด้านล่างเป็นกระจกบาน Fixed เสียดายที่หน้าจะได้บานหน้าต่างเต็มผนังทำให้ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้เต็มที่มากขึ้น
ด้วยขนาดพื้นที่ 2 x 2 ม. เหมาะกับการวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งและวางโต๊ะกลางขนาดกลางได้
ถัดจากส่วนพื้นที่นั่งเล่นจะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นพื้นที่ครัวกับพื้นที่นั่งเล่นไว้ ซึ่งเหมาะกับการทำครัวหนักได้มากขึ้น
พื้นที่ครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้เช่นเดียวกับพื้นด้านนอกนะคะ การปูด้วยกระเบื้องนั้นทำให้ง่ายต่อการทำความสะอาดดี และมีความกว้างของทางเดินอยู่ที่ 0.8 ม. เป็นระยะที่เดินได้นะคะ แต่เวลาทำกับข้าวหรือใช้งานจริงๆ ก็อาจจะไม่สะดวกมากนัก
ชุดครัวได้ตามห้องตัวอย่างเลยนะคะ คือได้ Pantry และตู้ลอยด้านบน ท็อปเป็น Particle ปิดผิวด้วยเมลามีน ด้านหลังปูกระเบื้องให้เรียบร้อยค่ะ สำหรับตู้ลอยด้านบนแบบนี้มีช่องใส่ไมโครเวฟได้เรียบร้อยและสามารถใช้งานไมโครเวฟได้ง่ายดี แต่ก็จะทำให้ไม่สามารถติดตั้ง Hob & Hood ได้นะคะ ต้องใช้เป็นเตาไฟฟ้าแทน
ด้านล่าง Pantry มีช่องโล่งๆ แบบนี้ให้เลย บานเปิดเป็นแบบบาดขอบเพื่อให้จับได้ง่ายขึ้นค่ะ ส่วนบานเปิดนี้ก็จะไปกินพื้นที่ทางเดินพอสมควรนะคะ
Sink หลุมเดี่ยวจาก Techno
ด้านข้าง Pantry มีช่องว่างไว้สำหรับวางตู้เย็น โดยมีขนาดพื้นที่ประมาณ 0.7 x 0.7 ม. เหมาะกับการวางตู้เย็นขนาด 13.6 คิวบิกฟุต
ถัดจากพื้นที่ตู้เย็นเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวออกไปยังระเบียงซักล้าง
มีธรณียกสูงขึ้นมานิดหน่อย พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้อง 30 x 30 ซม. ขนาดประมาณ 1.5 x 1.5 ม. ใช้งานได้จริง ส่วนราวระเบียงเป็นราวเหล็กพ่นสีขาว
CDU แอร์แบบแขวนเป่าลมร้อนเข้าระเบียง อีกด้านติดดวงโคมให้
เข้าไปในห้องนอนกันต่อนะคะ ภายในห้องนอนนี้ปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.
ภายในห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีๆ ด้านข้างได้หน้าต่างกระจกบานกระทุ้งเช่นเดียวกับส่วนพื้นที่นั่งเล่น
ด้านข้างเตียงมีพื้นที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้
ส่วนอีกฝั่งคือประตูทางเข้า ด้านข้างเป็นผนังโล่งไว้ให้แขวนทีวีได้ ด้านบนติดตั้งแอร์ให้เรียบร้อยเป่าเข้าเตียงนอน ซึ่งอาจจะหนาวไปหน่อยนะคะ จริงๆแล้วควรวางไว้ตำแหน่งด้านข้างเตียงมากกว่า
พื้นที่ทางเดินข้างเตียงมีความกว้างประมาณ 45 ซม. และฝั่งปลายเตียงกว้างประมาณ 60 ซม. สามารถเดินได้รอบเตียงค่ะ
ทางเดินอีกด้านของเตียงฝั่งที่ติดหน้าต่างมีความกว้างประมาณ 40 ซม. เดินได้อยู่แต่ไม่สะดวกมากนัก
ห้อง Type B เป็นห้องหน้ากว้างประมาณ 5.20 เมตร พื้นที่ใช้สอยประมาณ 28.0-30.0 ตร.ม. เป็นห้องฝั่งทิศตะวันตกได้วิวที่หันหน้าไปทางถนนราชพฤกษ์, บางใหญ่ ตัวแปลนเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตตุรัส การจัดวางฟังก์ชันห้องถือว่าโอเค เหมาะกับคนที่ชอบทำกับข้าวและใช้เวลาอยู่ในส่วนครัวมากหน่อย เพราะได้พื้นที่ครัวค่อนข้างกว้าง ใช้งานสะดวกกว่าห้อง Type A แต่ติดตรงที่เป็นครัวเปิดนะคะ ซึ่งจากแปลนแล้วเราสามารถกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกทำเป็นครัวปิดได้ จะเหมาะกับการทำอาหารมากขึ้น ส่วนพื้นที่นั่งเล่นนี้จะไม่ได้เน้นวิวภายนอกเท่าไหร่นะคะ เพราะถูกห้องนอนและห้องครัวบังไปเกือบหมดแล้ว ดังนั้นใครที่จะทำเป็นครัวปิดก็ควรจะใช้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกเพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาภายในบริเวณนั่งเล่นได้บ้าง สำหรับห้องนอนวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พอดีด้านข้างเซตผนังเข้าไปสามารถ Built-in หรือวางตู้เสื้อผ้าโดยไม่เกะกะเนื้อที่ทางเดิน
ห้อง Type C เป็นห้องห้องฝั่งทิศตะวันตกได้วิวที่หันหน้าไปทางถนนราชพฤกษ์, บางใหญ่ เช่นเดียวกับห้อง Type B นะคะ ลักษณะแปลนเป็นห้องหน้าแคบลึกมีความกว้างอยู่ที่ 3.8 ม.และมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 28.0 – 30.0 ตร.ม. เนื่องจากพื้นที่ห้องนี้หน้าเเคบแต่ลึกจึงทำให้พื้นที่ที่ติดกับภายนอกมีเเค่ส่วนเดียวคือห้องนอนค่ะ แต่ทางโครงการเเก้ปัญหากลัวว่าห้องจะดูอึดอัดโดยการทำผนังส่วนที่ห้องนอนติดกับพื้นที่นั่งเล่นเป็นกระจกบานใหญ่ทำให้ห้องนั่งเล่นจะเป็นวิวจากหน้าต่างห้องนอนค่ะ ส่วนครัวเป็นเเบบเปิดถ้าจะทำเป็นเเบบปิดคงยากเพราะจะทำให้ดูอึดอัดและห้องครัวเป็นส่วนแรกที่เข้ามาเจอด้วยค่ะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 2 August 2016
- 1 Bedroom Type A วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ชั้น 14 ห้อง 1405 เนื้อที่ 32.68 ตร.ม. ราคา 2.645 ล้านบาท หรือ 80,947 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Type B วิวสถานีรถไฟฟ้า ชั้น 9 ห้อง 0917 เนื้อที่ 28.90 ตร.ม. ราคา 1.9448 ล้านบาท หรือ 67,294 บาท/ตร.ม.
- 1 Bedroom Type C วิวสถานีรถไฟฟ้า ชั้น 19 ห้อง 1924 เนื้อที่ 31.33 ตร.ม. ราคา 2.258 ล้านบาท หรือ 71,923 บาท/ตร.ม.
- Fully Fitted
- ฝ้าเพดานสูง 2.4 เมตร
- Kitchen & Sink
- จอง+ทำสัญญา 5,000 บาท
- ค่ากองทุน 400 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 40 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
โครงการ Rich Park @ เจ้าพระยา เป็นโครงการคอนโดมิเนียมตึกเสร็
ทำเลย่านไทรม้านี่เป็นทำเลที่ข้
การเดินทางด้วยรถยนต์ถือว่
การเดินทางด้วยระบบสาธารณะถือว่
โครงการนี้ทำห้องขนาดไม่ใหญ่มาก โดยมีเฉพาะห้อง 1 Bedroom นะคะ มีขนาดตั้งแต่ 28-32 ตร.ม. ดังนั้นราคาแพ็กเกจของห้องจะอยู่
การออกแบบห้องพักอาศัยยังคงมีรูปแบบแปลนคล้ายคลึงกับโครงการ Rich Park ก่อนหน้านี้ สำหรับแบบห้องของโครงการนี้มีทั้งหมด 3 แบบ โดยห้องที่จัดวางฟังก์ชันได้เป็นสัดส่วนดีเหมาะกับการใช้อยู่อาศัยได้จริงคือห้อง Type A เป็นห้องหน้ากว้าง ส่วนห้อง Type B และ C จะอยู่อีกฝั่งทิศตะวันตกเป็นห้องหน้าแคบมีข้อเสียของแปลนอยู่บ้าง ซึ่งทางโครงการก็ได้มีการปรับเปลี่ยนแบบจากโครงการที่แล้วมาใช้ในโครงการนี้เพื่อแก้ไขปัญหาในบางตำแหน่งไปบ้างแล้วนะคะ
วัสดุโครงการให้
สาธารณูปโภคให้มาครบอยู่ที่ชั้น 8 ครึ่งชั้น เป็นแบบ Semi-Outdoor ทำให้เกิดเป็นช่องลม มีลมโกรกตลอดเวลาเย็นสบายดีค่ะ โดยชั้นนี้ประกอบไปด้วยสระว่
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับราคา 70,000 บาท/ตร.ม., 2 August 2016
- ทำเล 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้ MRT บรรยากาศไม่คึกคักเป็นทำเลที่พักอาศัย
- เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – ติดถนนใหญ่ ข้ามสะพานพระนั่งเกล้าเก่า มีที่จอดรถ 40%
- ไม่ใช้รถ 8/10 – ใกล้ MRT ไทรม้าในระยะเดิน เรียกรถตู้ แท็กซี่ง่าย
- วัสดุ 7.25/10 – Fully Fitted คุณภาพมาตรฐาน
- แบบ 7/10 – ความหนาแน่นมากพอสมควร ผังห้องมีบางตำแหน่งที่ยังไม่ลงตัว
- สาธารณูปโภค 7.5/10 – ได้ครบ สาธารณูปโภคหลักอยู่ชั้น 8
- ECONOMY CLASS
- 7.61 / 10.00
BOTTOM LINE
Rich Park @ เจ้าพระยา คอนโด High Rise พร้อมอยู่อาศัยในย่านไทรม้า นนทบุรี เหมาะกับการพักอาศัยไม่เกิน 2 คน ที่ต้องการขนาดห้องไม่ใหญ่มาก 28-32 ตร.ม. อยากได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาและง่ายต่อการใช้รถไฟฟ้าในระยะเดินได้ ใช้รถยนต์ได้สะดวก ชอบตกแต่งห้องเองมีงบเผื่อไว้สำหรับซื้อเฟอร์นิเจอร์ และมีงบประมาณตั้งแต่ 1.9 – 2.9 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนประมาณ 14,000 – 23,000 บาท/เดือน
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้เราหน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )