รีวิวฉบับย่อที่ 1316 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาชมคอนโดตึกเสร็จกับ โครงการ The Diplomat Sathorn (เดอะ ดิโพลแมท สาทร) คอนโด High Rise ตัวท็อป จาก KPN LAND โครงการตั้งอยู่บนทำเลใจกลางเมืองย่านสาทร ติดรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ ออกแบบด้วยแนวคิด Timeless Treasure ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่เป็นที่เรียบร้อย ภายในโครงการจะเป็นอย่างไรเราไปชมพร้อมๆกันเลยค่ะ เนื่องจากโครงการไม่สามารถให้ข้อมูลได้ในบางส่วน จึงจัดทำรีวิวนี้จึงเป็นฉบับย่อนะคะ
Fact @ 21 March 2017
- The Diplomat Sathorn (เดอะ ดิโพลแมท สาทร)
- KPN LAND COMPANY LIMITED
- SUPER LUXURY (อ่านรายละเอียดของ Segment คอนโดได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : ถนนสาทร เขตบางรัก
- คอนโด High Rise 35 ชั้น 192 ยูนิต
- ยูนิตต่อชั้นสูงสุด 7 ยูนิต
- ที่จอดรถประมาณ 100% – 192 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ที่ดินประมาณ 1-2-15 ไร่
- ปัจจุบันสร้างแล้วเสร็จพร้อมอยู่
- 1 Bedroom , 2 Bedroom , 3 Bedroom
- ขนาดพื้นที่ห้อง 40 – 205 ตร.ม.
- ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
- ราคาห้องเริ่มต้น 10 ล้านบาท
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ 240,000 บาท/ตร.ม.
- EIA (การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม) : ผ่านแล้ว
- เพิ่มเติมข้อมูลทำเลรอบๆ BTS สุรศักดิ์ ได้ที่: มองหาทำเลน่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้า : BTS สุรศักดิ์
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- โทร : 02-789-9000
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างคะ
โครงการ The Diplomat Sathorn ตั้งอยู่ติดถนนสาทรฝั่งมุ่งหน้าไปทางสี่แยกสาทร-นราธิวาสฯ ติดกับ BTS สถานีสุรศักดิ์ ทำเลที่ตั้งตรงบริเวณนี้ถือว่าอยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจสำคัญ รายล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ มีความอุมสมบูรณ์ในพื้นที่สูง ทั้งแหล่งงาน สถานทูต โรงเรียน โรงพยาบาล และที่พักอาศัย จัดเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โครงการตั้งอยู่ในฝั่งเข้าเมืองจึงทำให้สามารถเดินทางได้สะดวก หรือสามารถเลือกใช้รถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ ก็ได้เพราะทางขึ้นสถานีจะอยู่ด้านหน้าโครงการเลย ซึ่งสะดวกมากๆ ส่วนคนที่ใช้รถก็ถือว่ามีเส้นทางให้ใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย เพราะสามารถขับไปเชื่อมต่อกับถนนสายหลักรอบๆได้ ซอยประมวลที่อยู่ถัดจากโครงการสามารถลัดออกถนนสีลมและไปขึ้นทางด่วนได้
มาดูจากมุมสูงมองกันบ้างดีกว่า จะเห็นว่าโครงการนั้นอยู่ติดกับ Mode Sathorn Hotel Bangkok (อาคารสีม่วง) ตรงกันข้ามคือโรงแรม Eastin Grand และแนวรถไฟฟ้าผ่านด้านหน้าโครงการ ตำแหน่งทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ จะอยู่ด้านหน้าของโครงการพอดีเลยค่ะ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
โครงการ The Diplomat Sathorn เป็นคอนโด High Rise สูง 35 ชั้น 192 ยูนิต บนพื้นที่ 1-2-15 ไร่ เป็นคอนโดมิเนียมที่มีแนวคิดในการออกแบบที่โดดเด่นทั้งภายในและภายนอก รวมไปถึงองค์ประกอบอื่นๆ ในทุกรายละเอียดภายในโครงการ มี Concept หลักของโครงการคือ Timeless Treasure ที่หมายความว่า “เป็นสมบัติที่ไม่ตกยุคและส่งต่อไปได้เรื่อยๆ” มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตกแต่งภายในเสมือนเป็นบ้านพักของท่านทูต หรือนักเดินทาง ที่ได้เดินทางไปทั่วทุกมุมโลก และมีสิ่งของสะสมต่างๆมากมาย อีกทั้งยังออกแบบโดยเน้นพื้นใช้สอยและตอบโจทย์ของที่พักอาศัยในระดับพรีเมี่ยม
หากมองในภาพรวมของตัวอาคารจะเห็นว่ามีการออกแบบให้มีความเป็น Classic style และ Modern Style ร่วมอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว ตัวอาคารด้านล่างส่วน Podium จะมีความหรูหราแบบ Classic style มีเอกลักษณ์ด้วยการตกแต่งในรายละเอียดต่างๆ ของตัวอาคารที่ได้สัดส่วนที่สวยงามและลงตัว ส่วนด้านบนของอาคารในส่วนพักอาศัยขึ้นไปนั้นจะมีความร่วมสมัยในแบบ Modern Style ตัวอาคารใช้โทนสีฟ้าอ่อนโดยรอบตัวตึกเน้นความเรียบเท่ น่าอยู่อาศัย ซึ่งการออกแบบ แบบผสมลักษณะนี้ได้แนวคิดมาจาก Existing เดิมของโครงการที่เป็นบ้านสมัยท่านเจ้าพระยา โดยผสมความเป็นยุคสมัยใหม่เข้าไป เป็นเหตุผลที่มาของชื่อ Diplomat ของโครงการ
ตัวโครงการหันหน้าโครงการออกถนนสาทร เมื่อเข้ามาในพื้นที่โครงการจะสามารถขับรถวนรอบตัวอาคารที่ตรงกลางพื้นที่โครงการได้ จัดพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้นล่างของตัวอาคารและชั้นบนที่ชั้น 8 , ชั้น 34 และชั้น 35 โดยเริ่มมีส่วนของห้องพักที่ชั้น 9 ไปจนถึงชั้น 33 ส่วนพื้นที่จอดรถจะอยู่ในโครงการที่ชั้น 2 – 7 จัดที่จอดไว้ 100% ด้านหน้ามีพื้นที่สำหรับ Drop off เพื่อให้จอดรับส่งได้
ในส่วนห้องพักอาศัย มีทั้งหมด 4 แบบ ตั้งแต่ 1 – 3 Bedroom ไปจนถึง Penthouse จะมีการแบ่งสัดส่วนของห้องพักให้ทุกชั้นมีทั้งห้อง 1 Bed , 2 Bed และ 3 Bed จะเริ่มตั้งแต่ชั้น 9-32 ส่วนห้องแบบ Penthouse จะมีเฉพาะที่ชั้น 33 เท่านั้น ในส่วนของพื้นที่ Facility ตั้งแต่ชั้นชั้นล่างของตัวอาคาร จะประกอบ The Oval Lobby and drop off area , Mail Room ส่วนในชั้น 8 จะเป็นพื้นที่ส่วน The Diplomat Club , Outdoor Deck , Kids’ pool with rain cloud และ Kids’ room ขึ้นไปที่ชั้น 34 ประกอบด้วย Semi-indoor swimming Pool , Outdoor Deck และมีห้องน้ำ-อาบน้ำแยกชาย-หญิง ไว้ให้ ส่วนบนสุดที่ชั้น 35 จะเป็นพื้นที่ของ Panoramic Fitness Center
ในส่วน Landscape จะมีอยู่บริเวณรอบพื้นที่ส่วนกลาง ที่ชั้น 1 จะอยู่ที่บริเวณด้านหน้าของพื้นที่โครงการจากแนวระยะร่นจากแนวโครงการเข้ามา และที่ระหว่างชั้นต่างๆ ที่ชั้น 8 และ 35โดยเน้นการปลูกต้นไม้ มีพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน และตกแต่งพื้นที่สวน ด้วยงานประติมากรรมต่างๆ ช่วยเพิ่มบรรยากาศภายในโครงการ
เริ่มจากบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการ The Diplomat Sathorn ป้ายโครงการจะตั้งจะอยู่ทางด้านหน้าโครงการติดกับถนนสาทร ทางเข้าสู่ตัวโครงการมีทางเข้าเดียว เข้าจากถนนสาทร ฝั้งมุ่งหน้าไปทางแยกสาทร-นราธิวาส ทางซ้ายมือมีป้อมยามเพื่อคอยรับแลกบัตรสำหรับผู้มาติดต่อ ส่วนลูกบ้านจะใช้วิธีแสดงคีย์การ์ดของโครงการ เพื่อใช้ผ่านเข้า-ออกโครงการ และมีกล้อง cctv คอยบันทึกรถที่เข้าออกภายในโครงการ
เมื่อเข้ามาในพื้นที่ด้านหน้าโครงการหากต้องการจอดรถเพื่อ Drop off ส่งคนด้านหน้า สามารถเลี้ยวขวาจอดบริเวณประตูทางเข้าด้านหน้าได้เลย หรือจะไปจอดในพื้นที่ Drop off แบบในร่มที่อยู่ถัดไปทางซ้ายก็ได้ค่ะ
การจัดเส้นทางเดินรถออกแบบเส้นทาง ให้วนรอบอาคารตามไปทางขวามือ ตามเข็มนาฬิกา โดยจะมีตำแหน่งไม้กระดกและกล้อง CCTV กั้นการผ่านเข้า-ออก ด้านในพื้นที่โครงการอีกชั้นหนึ่งเพื่อความปลอดภัย
ตรงเข้ามาตามทางเมื่อวนรอบอาคารมาอีกฝั่ง จะเป็นทางเข้าที่จอดรถจะอยู่ทางขวามือ เป็นทางลาดเอียงเพื่อขึ้นไปที่ชั้บน ของอาคาร โดยจัดเป็นพื้นที่จอดรถไว้ตั้งแต่ชั้น 2-7 ของตัวอาคาร
ขึ้นมาบนที่จอดรถชั้นบน ด้านข้างทำเป็นผนังโปร่งสามารถรับแสงธรรมชาติตอนกลางวันได้ เส้นทางเดินรถกว้างขับสวนทางกันได้สะดวก
ที่จอดรถทุกชั้นจะมีโถงลิฟท์ ซึ่งเมื่อจอดรถแล้วสามารถใช้ลิฟท์จากชั้นที่จอดรถขึ้นไปยังส่วนพักอาศัยได้เลย
กลับลงมาด้านล่างจะมีไม้กระดกและกล้อง CCTV อีกตำแหน่งหนึ่งก่อนจะวนออกไปทางด้านหน้าโครงการ
มาทางบริเวณด้านหน้าโครงการจะเห็นทางขวามือจะมีทางเชื่อมต่อไปที่จุด Drop off แบบในร่ม ให้เราสามารถวนรถมาจอดรับ-ส่งคนตรงบริเวณนี้ได้ ไม่ต้องตากแดด หรือกรณีฝนตก
จุด Drop off แบบในร่ม ให้เราสามารถวนรถมาจอดรับ-ส่งคนตรงบริเวณนี้ได้ โดยจะมีประตูทางด้านข้างเชื่อมต่อกับวส่วน Lobby หลักของโครงการได้เลย ส่วนบริเวณจุด Drop off ใช้วัสดุเป็นหิน Silver Beige
ตรงข้ามกับตัวอาคารจะเป็นพื้นที่สวนทางด้านหน้า จะปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่น ตกแต่งพื้นที่สวน ด้วยงานประติมากรรม Unity Sculpture ช่วยเพิ่มบรรยากาศภายในโครงการ และพื้นที่ทางด้านข้างทำเป็นทางแนวทางเดินเท้าจากทางเข้าด้านหน้าโครงการ
ประตูทางเข้าสู่อาคารที่ออกแบบได้อย่างหรูหรา ตรงตามแนวคิดในการออกแบบของโครงการ และเลือกใช้วัสดุที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ใช้โทนสีเข้ม อ่อน และลวดลายของหินธรรมชาติ ทำให้ทางเข้ามีจุดเด่นเฉพาะตัว โดย Facade ผนังด้านหน้าตกแต่งด้วยหิน Limestone ส่วนบริเวณประตูทางเข้าเป็นหิน White Potoro
เข้ามาที่ส่วน The Oval Lobby ที่ออกแบบเป็นรูปวงรี ใช่วัสดุและตกแต่งสร้างบรรยากาศหรูหรา มีความเป็น Luxury และเน้นรายละเอียดในการเลือกเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งในส่วนต่างๆ เช่น เคาร์เตอร์ต้อนรับทำมาจากหนังปลากระเบน โคมไฟ Chandelier เป็นงานเป่าด้วยมือ Venetian Chandelier ภาพวาดตกแต่ง ตลอดจนพื้นภายในทั้งหมดเป็นหินแท้ ที่ให้โทนสีอบอุ่นเข้ากับ Mood & Tone ของภาพรวมโครงการ
ในพื้นที่ The Oval Lobby จะมีทางเข้าได้ 2 ทาง คือ จากทางเข้าหลักประตูทางฝั่งด้านหน้าโครงการ และประตูจากจุด Drop off ในร่มทางด้านข้างของตัวอาคาร
ถัดเข้ามาจะมีแนวทางเดินเพื่อเชื่อมต่อเข้าไปด้านในของตัวอาคาร ทางขวามือจะเป็นทางแยกไปห้องน้ำในชั้นล่าง ตรงไปเป็ทางไปยังโถงลิฟท์และส่วน Mail Room
เข้ามาในห้องน้ำหญิงที่ชั้นล่าง ซึ่งก็ได้รับการออกแบบตกแต่งตามแนวคิดของโครงการ ตัวเคาน์เตอร์ออกแบบพิเศษ Top บนเป็นหินแท้ และใช้อุปกรณ์ต่างๆ ที่เข้ากันทั้งหมด
ภายในห้องน้ำหญิงด้านในออกแบบซ่อนไฟเพื่อให้แสงภายในดูนุ่มนวลน่าใช้งาน เลือกใช้วัสดุต่างๆ ผนังห้องน้ำกรุด้วยหินแท้ คริสตอล ออนนิคส์ ที่มีลวดลายที่สวยงาม
ส่วนภายในห้องน้ำชาย ก็มีการจัดแสงภายในให้ดูนุ่มนวลน่าใช้งานเช่นกัน ผนังห้องน้ำกรุด้วยหินแท้ พาลิซาต้า บลูเอ็ดโต้ โทนสีเทา-ขาว มีลวดลายในตัว เคาน์เตอน์อ่างล้างหน้าเป็นหินสีดำ ตัดกับผนังและพื้นภายในดูโดดเด่นและมีลวดลายในตัวเช่นกัน
อีกฝั่งของห้องน้ำจะมีโถสุชภัณฑ์แยกการใช้งาน ให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม
เข้ามาด้านในตัวอาคารจะมีแนวทางเดินเชื่อมต่อไปยังส่วนประตูทางไปโถงลิฟท์ ที่ผนังก็จะมีการตกแต่งด้วยภาพวาดต่างๆ
อีกฝั่งจะเป็นส่วนของ Mail Room ทำเป็นกล่องจดหมายไม้ ที่มีการดีไซน์และการตกแต่งที่ดูเรียบหรู และเก็บรายละเอียดแทบจะทุกอย่าง กรอบรูปที่ติดบอกตำแหน่งห้องจดหมายก็ดีไซด์พิเศษ ให้เข้ากับบรรยากาศภาพรวมของพื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้
มาถึงส่วนโถงลิฟท์ของโครงการ จะมีลิฟท์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว โดยการใช้งานลิฟท์จะใช้ระบบ Key card เพื่อไปยังห้องพัก และจะล็อคชั้นที่เปิดเฉพาะชั้นพื้นที่ส่วนกลาง และเปิดเฉพาะชั้นของลูกบ้านแต่ละคนเท่านั้น ไม่สามารถไปยังชั้นที่อยู่อาศัยชั้นอื่นได้ ถ้าเราไม่ได้อยู่ชั้นนั้น ทำให้สามารถควบคุมความปลอดภัยได้ง่ายยิ่งขึ้น
ขึ้นมาที่โถงลิฟท์ชั้น 8 เป็นชั้นพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ถัดมาจากส่วนพื้นที่จอดรถ
จากโถงลิฟท์ เดินมาทางด้านหน้าของตัวอาคารจะเป็น The Diplomat Club ที่จัดเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อน หรือจะปรับเปลี่ยนใช้เป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์ จัดงานเลี้ยง หรือคุยงานต่างๆได้ หน้าต่างสูงจากพื้นจนเกือบถึงระดับฝ้าเพดาน ได้แสงธรรมชาติจากภายนอกทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง และสามารถเปิดรับลมได้เต็มที่
ภายใน The Diplomat Club จะมีส่วน Pantry ให้สามารถจัดเตรียมอาหาร กรณีจัดงานปาตี้แล้วต้องมีการซักล้าง ก็สามารถทำได้เลย
เข้ามาอีกด้านของห้อง The Diplomat Club จะจัดพื้นที่นั่งเป็นมุมส่วนตัว จัดเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งพื้นที่โดยรอบ มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ทั้ง 3 ด้านสามารถมองวิวและบรรยากาศจากภายนอกได้
จากส่วน The Diplomat Club จะมีประตูเชื่อมออกมาที่พื้นที่ Outdoor Deck ที่อยู่ทางด้านหน้าอาคารฝั่งถนนสาทร จัดเป็นพื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนได้ และตกแต่งสวนด้วยงานประติมากรรมนำ้ล้น
เดินกลับมาทางอีกฝั่งของตัวอาคารจะจัดเป็นโซนของเด็กๆ Kids’ pool with rain cloud สระเด็กที่ด้านบนทำเป็นก้อนเมฆและมีน้ำฝนตกลงมา ทำให้เด็กๆเหมือนได้เล่นกับฝนที่ตกลงมาจากฟ้าจริงๆ
ด้านข้างทำเป็นสนามหญ้ากว้างๆและมีพื้นที่ให้เด็กๆใช้วิ่งเล่นหรือทำกิจกรรมร่วมกันได้
ตรงข้ามกับ Kids’ pool with rain cloud จะเป็นห้อง Kids’ room ซึ่งต่อไปจะตั้งเครื่องเล่นต่างๆ ไว้ให้น้องๆสามารถมาเล่นกันได้ และจัดเตรียมที่นั่งสำหรับผู้ปกครองที่มาดูแลเด็กๆไว้ด้วยค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 34 จะเป็นส่วนของ Semi-indoor swimming Pool สระว่ายน้ำรูปตัว L ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพแบบมุมกว้างได้อย่างเต็มที่
ตรงกลางสระว่ายนำ้ฝั่งนี้จะทำเป็น Sunken Seat ให้นั่งพักผ่อน หรือจะนั่งริมสระน้ำก็มีเก้าอี้อาบแดดตั้งไว้ให้ใช้งาน
สระว่ายน้ำเป็นสระน้ำเกลือ แบบ Infinity Edge Pool หรือสระแบบน้ำล้น มีความยาวเท่ากับความยาวของด้านหน้าอาคารฝั่งถนนสาทร และเลี้ยวซ้ายวนไปอีกด้านของอาคาร ลักษณะเป็นรูปตัว L
มุมมองจากการแช่น้ำอยู่ในสระว่ายน้ำ หรือนั่งที่ริมสระว่ายน้ำ จะได้วิวเมืองมุมสูงเปิดกว้าง พ้นจากความวุ่นวายบนท้องถนนด้านล่าง เหมาะกับการนอนแช่น้ำพักผ่อนสบายๆ
สระว่ายน้ำออกแบบเป็นรูปตัว L จึงมีพื้นที่บางส่วนเข้ามาอยู่ภายใต้อาคาร มีร่มเงามาบังตัวสระ ทำให้สระนี้ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน
ขึ้นบันไดทางด้านข้างจะเป็นทางไปห้องน้ำและห้องอาบน้ำ แยกชาย-หญิง ทางขวามือ
ภายในมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ มีล็อกเกอร์ไว้สำหรับเก็บของใช้ส่วนตัว ไว้ให้บริการสำหรับลูกบ้านที่มาใช้ Facility ส่วนกลางในชั้นนี้
สำหรับห้องน้ำชายจะแยกส่วนการของโถสุขภัฑณ์แยกการใช้งานไว้ให้เป็นสัดส่วนเรียบร้อย
มาที่ห้องน้ำหญิงก็จะจัดไว้คล้ายกัน เข้ามาจะเป็นเคาร์เตอร์อ่างล้างหน้า มีล็อกเกอร์ไว้สำหรับเก็บของใช้ส่วนตัว อยู่ทางด้านใน
ภายในมีห้องน้ำและห้องอาบน้ำไว้ให้ใช้ ช่วยให้สามารถใช้งานได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น
อีกฝั่งของตัวอาคารจะจัดเป็นพื้นที่ Outdoor Deck มีที่นั่งด้านข้างให้สามารถมานั่งพักผ่อนได้ และตกแต่งสวนด้วยงานประติมากรรมตรงกลาง
ขึ้นมาที่ชั้น 35 จะเป็นส่วนของ Panoramic Fitness Center ที่สามารถมองเห็นวิวแบบมุมกว้างขณะออกกำลังกายได้
ขึ้นมาบนอาคารส่วนห้องพักอาศัย ทางเดินไปยังห้องพักในชั้นต่างๆ แนวทางเดินจะติดไฟแบบ Downlight สามารถระดับแสงไว้ที่ด้านบนฝ้าเพดาน ส่วนบันไดหนีไฟจะอยู่ติดกับแนวทางเดิน โดยจะเป็นบันไดแบบอัดอากาศ มีอุปกรณ์ดับเพลิงไว้ตรงข้ามกับประตูทางเข้าบันไดหนีไฟ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- The Oval Lobby and drop off area
- Mail Room
- Semi-indoor swimming Pool
- Kids’ pool with rain cloud
- Kids’ room
- The Diplomat Club
- Outdoor Deck
- Panoramic Fitness Center
- ลิฟท์โดยสาร 3 ตัว/อาคาร
- อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 64 : 1
- Service Lift 1 ตัว
- ที่จอดรถประมาณ 100% – 192 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน
- ระบบ CCTV / Access Card
- รปภ. 24 ชั่วโมง
เริ่มจากห้องตัวอย่างแบบ 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 42.5 ตารางเมตร ขายเป็นแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์และชุด Built-in ให้พร้อมใช้งาน จัดพื้นที่ภายในห้องสามารถจัดพื้นที่ให้มีการใช้งานในส่วนต่างๆได้สะดวกไม่อึดอัดจนเกินไป เหมาะกับผู้อยู่อาศัย 1-2 คน ออกแบบให้สามารถดูวิวภายนอกและรับแสงธรรมชาติได้ดี ตัวห้องแบ่งโซนพื้นที่การใช้งานหลักๆเป็น 5 โซน คือ ห้องนอน , ส่วนนั่งเล่น , ห้องน้ำ , ส่วนครัว และระเบียง เมื่อเข้ามาจะเจอกับโถงหน้าห้อง จัดพื้นที่เป็น Foyer ด้านหน้ามีตู้แบบ Built-in สำหรับเก็บของใช้ต่างๆ ถัดมาเป็นส่วนครัวมี Pantry แบบ Built-in ขนาดพื้นที่ครัว จัดพื้นที่มาเพียงพอต่อการใช้งาน เข้าไปด้านในตัวห้องจะเป็นส่วนรับประทานอาหารและส่วนพื้นที่นั่งเล่น ด้านข้างจัดพื้นที่เป็นส่วนระเบียงมีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน ถัดเข้ามาอีกฝั่งของตัวห้องจะจัดเป็นห้องนอน มี Walk in closet และห้องน้ำในตัว เพื่อเป็นส่วนตัวในการใช้งาน
** เนื่องจากทางโครงการไม่อนุญาติให้เผยแพร่รายละเอียดแปลนห้อง ด้วยเหตุผลบางประการ หากสนใจต้องการดูรายละเอียดรูปแบบห้องต่างๆ สามารถติดต่อดูได้จากโครงการโดยตรง หรือสอบถามได้จากข้อมูลติดต่อทางด้านบนของบทความค่ะ
ประตูทางเข้าห้องเป็นประตูขนาด Oversize สูง 2.4 m. ด้านหน้ามีตาแมว มือจับประตูพร้อมอุปกรณ์ Digital door lock ของ ที่ผนังด้านข้างติดป้ายบ้านเลขที่และกริ่งหน้าห้องให้พร้อมใช้งาน
จากประตูทางเข้าห้องเปิดมาจะเจอกับพื้นที่โถงด้านหน้าห้องเป็น Foyer ด้านหน้ามีตู้แบบ Built-in ที่มีความสูงตั้งแต่พื้นถึงระดับฝ้า ใช้งานแบบเต็มพื้นที่ ไว้สำหรับเก็บของใช้ต่างๆ หรือเก็บรองเท้า และช่วยแบ่งพื้นที่ทางเข้าด้านหน้าให้เป็นสัดส่วนมากขึ้น บังสายตาจากภายนอกไม่ให้สามารถมองเห็นภายในห้องได้โดยตรง
ส่วนครัวที่จัดมาให้ เป็นครัวแบบเปิด มี Pantry แบบ Built-in ชุดครัวจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าใช้งานแบบเต็มพื้นที่ผนังครัว แบ่งช่องสำหรับเก็บของไว้หลายระดับ ทางซ้ายมือเป็นตู้เย็นที่จะทำไว้ภายในชุดตู้ ช่วยให้ส่วนครัวดูเรียบร้อยดูเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด จัดพื้นที่ทำครัวมาเพียงพอต่อการใช้งานไม่เน้นทำครัวจริงจัง แต่การจัดครัวเปิดแบบนี้จะต้องระมัดระวังเรื่องกลิ่นและควันจากการประกอบอาหาร ความสูงจากพื้นถึงฝ้าตรงส่วนครัวจะสูงประมาณ 2.7 m. เพราะจะต้องลดระดับฝ้าลงมาสำหรับงานระบบปรับอากาศด้านบน
อีกฝั่งของครัว ทำเป็นชุดครัวแบบ Built-in เช่นกันแบ่งเป็นชิ้นบน-ล่าง ทำเป็นช่องมีตัวบานด้านหน้าเป็น High gloss ด้านข้างทำเป็นช่องเปิดสำหรับวางไว้โครเวฟหรืออุปกรณ์เครื่องใช้ภายในครัวต่างๆ ติดตั้งชุดเตาแบบแม่เหล็ก Hob & Hood ดูดควันของ Kuppersbusch ส่วน Top ครัวก็เหมาะสำหรับประกอบอาหาร สามารถเช็ดและทำความสะอาดได้ง่าย ให้ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ 1 ช่อง ของ Teka ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหารต่างๆได้
ถัดเข้ามาด้านในตัวห้อง จัดพื้นที่เป็นส่วนรับประทานอาหาร ออกแบบเป็นชุดเก้าอี้ Built-in ชิดผนังด้านหนึ่ง สามารถวางเก้าอี้สำหรับทาน 4 คนได้ พื้นส่วนในห้องนั่งเล่น รับประทานอาหารและครัว ทั้งหมดจะเป็นพื้นไม้ Engineer wood ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีกว่าลามิเนต วัสดุมีความแข็งแรงมากขึ้นและมีความเหมือนไม้จริง ในส่วนของผนังห้องจะติด Wallpaper ไว้ให้เรียบร้อย
เมื่อมองย้อนกลับเข้าไปในตัวห้อง จะเห็นการแบ่งพื้นที่ภายในที่เป็นสัดส่วน ทำให้พื้นที่ส่วนนั่งเล่นและรับประทานอาหารมีความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน โดยบริเวณนี้จะมีระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3 m. ห้องจึงมีความโปร่งโล่งไม่อึดอัด ติดไฟภายในห้องทั้งหมดแบบ downlight สำหรับระบบปรับอากาศในโครงการจะเป็นระบบ Conceal Type ทั้งหมด
มาที่ส่วนของพื้นที่นั่งเล่น จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร วางตำแหน่งของพื้นที่ส่วนนี้ให้อยู่ชิดริมด้านนอกทำให้รับแสงธรรมชาติได้ดี ห้องดูโปร่งมากขึ้น หน้าต่างกระจกบานใหญ่มีความสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดาน ทำให้สามารถมองเห็นวิวแบบมุมกว้างได้ ตรงกลางเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งให้สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้ พร้อมซ่อนรางผ้าม่านและติดม่านให้เรียบร้อย
พื้นที่ในส่วนห้องนั้งเล่นสามารถวางโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งได้สบายๆ พื้นที่ค่อนข้างกว้างสามารถเลือกชุดโซฟาได้หลากหลายแบบ ซึ่งชุดโซฟานี้ทางโครงการมีให้นะคะ ผนังติด Wallpaper , กรอบรูป และวัสดุตกแต่งเพื่อความสวยงาม ซึ่งกรอบกระจกช่วยสร้างมิติให้ผนังห้องมากยิ่งขึ้น
จากบริเวณส่วนห้องนั่งเล่นจะมีประตูบานเปิดเชื่อมออกไประเบียงของตัวห้องได้ จัดพื้นที่ระเบียงมาให้สามารถใช้เป็นส่วนซักล้างภายนอกได้ ผนังระเบียงด้านบนแขวน Condensing air
จากพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีทางเชื่อมต่อไปยังห้องนอน และห้องน้ำของตัวห้อง มีประตูบานเลื่อนกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานไว้ให้ โดยจะซ่อนรางบานเลื่อนไว้ด้านบน ทำให้เมื่อเดินเข้า-ออก พื้นทางเข้าจะเรียบไม่มีรางด้านล่างให้สะดุด ถือเป็นรายละเอียดที่โครงการคำนึงถึงการใช้งานจริงๆของผู้อยู่อาศัย
เมื่อเข้ามาในห้องนอนจะแบ่งพื้นที่การใช้งานเป็น 2 ส่วนหลัก คือทางขวามือเป็นพื้นที่สำหรับตั้งเตียงนอน ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่สำหรับ Walk in closet ที่จะเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำของตัวห้อง ภายในห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต หรือ King Size ได้ไม่อึดอัด มีพื้นที่เหลือโดยรอบ สามารถวางตู้หรือชั้นวางของต้านข้างได้
เหนือหัวเตียงตกแต่งด้วยรูปภาพช่วยสร้างบรรยากาศภายใน ผนังห้องติด Wallpeper สีเดียวกับห้องนั่งเล่นด้านนอก
ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่าง กว้างประมาณ 70 cm. สามารถยืนเปิดหน้าต่างได้
ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 70 cm. มีตำแหน่งปลั๊กไฟต่างๆไว้ให้สำหรับ ทีวีแขวนติดกับผนังจะได้มีพื้นที่ทางเดินปลายเตียงได้สะดวก
ระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งด้านในตัวห้อง กว้างประมาณ 50 cm.
หน้าต่างภายในห้องนอนจะได้ชุดกระจกบานใหญ่มีความสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดาน ทำให้สามารถมองเห็นวิวแบบมุมกว้างได้ ด้านข้างจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้ พร้อมซ่อนรางผ้าม่านให้เรียบร้อย
อีกฝั่งของตัวห้องทางซ้ายมือจะจัดพื้นที่เป็น Walk in closet ที่จะเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำของตัวห้อง ส่วนทางขวาจัดแบ่งพื้นที่ทำเป็นที่นั่งสำหรับใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือมุมอ่านหลังสือภายในห้องนอนได้
สำหรับชุดโต๊ะด้านข้างเตียงนั้น จะทำเป็นโต๊ะและตู้แบบ Built-in ตัวตู้มีความสูงถึงระดับฝ้าเพดานด้านในแบ่งระดับให้วางและเก็บของต่างๆได้ ส่วนโต๊ะออกแบบมาให้สามารถเปิดขึ้นมาเป็นกระจก สำหรับใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือสลับการใช้งานเป็นที่อ่านหนังสือภายในห้องนอนได้ ซึ่งชุดโต๊ะและตู้นี้ทางโครงการจะมีให้พร้อมใช้งานค่ะ
พื้นที่ Walk in closet จะอยู่ด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำ ทำเป็นชุดตู้แบบ Built-in ทั้งสองฝั่งด้านในมีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า และมีชั้นวางของไว้เก็บของและลิ้นชักทางด้านข้าง ให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม พื้นที่ในส่วนนี้จะมีกว้างพอสมควร สามารถยืนแต่งตัวได้สะดวกไม่อึดอัด
ห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง ไว้เป็นสัดส่วนง่ายต่อการใช้งาน วัสดุปูพื้นและกรุผนังเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน โทนสีอ่อนทำให้ห้องน้ำดูกว้างและสะอาดตาน่าใช้งาน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้าและมีพื้นที่สำหรับวางของให้เหนืออ่างและใต้อ่างล้างหน้า พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำ ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน
ให้ชุดอ่างล้างหน้า พร้อมกระจกติดไฟกิ่งด้านข้างให้ มีพื้นที่สำหรับวางของให้เหนืออ่างและใต้อ่างล้างหน้า ตรงข้ามอ่างล้างหน้าออกแบบทำเป็นตู้แบบ Built-in ซ่อนเก็บไว้ที่ผนัง สำหรับเก็บของใช้และอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องน้ำได้
ชุดอ่างล้างหน้าของ Villeroy & Boch อุปกรณ์ก็อกน้ำของ Kohler เหนืออ่างจะเป็นติดกระจกเงาบานใหญ่สูงถึงระดับฝ้าเพดาน ด้านล่างเคาน์เตอร์ ทำเป็นลิ้นชักสามาถเก็บของใช้ภายในห้องน้ำ ที่ผนังเหนือชุดอ่างล้างหน้ามีปลั๊กไฟแบบกันน้ำให้ 1 ตำแหน่ง สำหรับใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น เครื่องเป่าผม
ชุดโถสุขภัณฑ์ ของ Villeroy & Boch ซึ่งชุดสุขภัขภัณฑ์ที่ให้มาก็มีขนาดไม่เล็กเกินไป เหมาะสมกับการใช้งาน ติดตั้งสายชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู ไว้ที่ผนังด้านหลังให้พร้อมใช้งาน
ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส ส่วนที่ประตูกระจกตรงที่จับออกแบบให้สามารถแขวนผ้าเช็ดตัวได้
พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.45 x 0.90 m. ค่อนข้างกว้างพอสมควร และมีที่นั่งให้ด้านใน พื้นที่ส่วนอาบน้ำจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยลดระดับลงมาเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ
ชุดฝักบัวอาบน้ำ ของ Kohler สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นได้ ที่ผนังด้านข้างทำเป็นช่องแบ่งระดับ 3 ระดับสำหรับวางอุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ สำหรับอาบน้ำ
ที่ผ้าเพดานด้านบน จะติด Rain Shower ไว้ให้ ในส่วนของอุปกรณ์อื่นในห้องน้ำที่มีให้ เช่น ราวแขวนผ้าเช็ดตัว , พัดลมระบายอากาศ และให้ไฟแบบ Downlight และซ่อนไฟในบริเวณที่อาบน้ำช่วยให้แสงส่องลงมาดูสบายตามากขึ้น
———————————————————————————————————————————
มาที่ห้องตัวอย่างแบบ 2 Bedroom ขนาดพื้นที่ใช้สอย 70 ตารางเมตร ขายเป็นแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์และชุด Built-in ให้พร้อมใช้งาน ด้วยพื้นที่ของห้องที่มีขนาดใหญ่สามารถจัดแบ่งพื้นที่ให้มีการใช้งานสะดวก ออกแบบให้สามารถดูวิวภายนอกและรับแสงธรรมชาติได้ดี ตัวห้องแบ่งโซนพื้นที่การใช้งานหลักๆเป็น 5 โซน คือ ห้องนอน 2 ห้อง , ห้องน้ำ 2 ห้อง , ห้องนั่งเล่น , ส่วนครัว และระเบียง เมื่อเข้ามาจะเจอกับส่วนครัว เป็นพื้นที่ใช้งานเชื่อมต่อไปยังส่วนรับประทานอาหารและส่วนพื้นที่นั่งเล่น รับแขกได้ และมีระเบียงสามารถเปิดรับลมและแสงภายนอกได้ ถัดเข้ามาอีกฝั่งของตัวห้องจะจัดเป็นห้องนอน 1 ห้อง มีห้องน้ำ 1 ห้องใช้งานกับส่วนกลางภายในห้อง ถัดมาเป็นส่วนห้องนอน Master Bedroom จะมี Walk in closet และห้องน้ำในตัว ใช้งานเป็นส่วนตัวมากขึ้น
** เนื่องจากทางโครงการไม่อนุญาติให้เผยแพร่รายละเอียดแปลนห้อง ด้วยเหตุผลบางประการ หากสนใจต้องการดูรายละเอียดรูปแบบห้องต่างๆ สามารถติดต่อดูได้จากโครงการโดยตรง หรือสอบถามได้จากข้อมูลติดต่อทางด้านบนของบทความค่ะ
เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่โถงด้านหน้าห้องเป็น Foyer ด้านหน้ามีตู้แบบ Built-in ที่มีความสูงตั้งแต่พื้นถึงระดับฝ้าไว้สำหรับเก็บของใช้ต่างๆ หรือเก็บรองเท้า ถัดเข้ามาเป็นส่วนครัวเป็นครัวแบบเปิด มี Pantry แบบ Built-in ขนาดพื้นที่ครัว จัดพื้นที่มากว้างสามารถใช้งานได้สะดวก เคาน์เตอร์ Island ตรงกลางส่วนครัวไว้สำหรับจัดเตรียมอาหารได้ สามารถเดินรอบได้ ความสูงจากพื้นถึงฝ้าตรงส่วนครัวจะสูงประมาณ 2.7 m. เพราะจะต้องลดระดับฝ้าลงมาสำหรับงานระบบปรับอากาศด้านบน
ชุดครัวจะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าใช้งานแบบเต็มพื้นที่ผนังครัว ตัวบานด้านหน้าเป็น High gloss แบ่งช่องสำหรับเก็บของไว้หลายระดับ ทางขวามือเป็นตู้เย็นที่จะทำไว้ภายในชุดตู้ ช่วยให้ส่วนครัวดูเรียบร้อยดูเป็นชิ้นเดียวกัน โครงการจะติดตั้งชุดเตาแบบแม่เหล็ก Hob & Hood ดูดควันของ Kuppersbusch ส่วน Top ครัวก็เหมาะสำหรับประกอบอาหาร สามารถเช็ดและทำความสะอาดได้ง่าย ตรงเคาน์เตอร์ Island จะเป็นชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ 1 ช่อง ของ Teka ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับจัดเตรียมอาหารต่างๆได้
จัดวางเคาน์เตอร์ Island ตรงกลางส่วนครัวไว้สำหรับจัดเตรียมอาหารได้ สามารถเดินรอบได้โดยจะมีระยะระหว่างเคาน์เตอร์ครัวทั้งสองฝั่งอยู่ที่ประมาณ 1 m.
ด้านในตัวห้อง จัดพื้นที่เป็นพื้นส่วนในห้องนั่งเล่น รับประทานอาหารและครัว ทั้งหมดจะเป็นพื้นไม้ Engineer wood ในส่วนของผนังห้องจะติด Wallpaper ไว้ให้เรียบร้อย โดยบริเวณนี้จะมีระยะความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3 m. ห้องจึงมีความโปร่งโล่งไม่อึดอัด ติดไฟภายในห้องทั้งหมดแบบ downlight สำหรับระบบปรับอากาศในโครงการจะเป็นระบบ Conceal Type ทั้งหมด
ส่วนรับประทานอาหาร ออกแบบเป็นชุดเก้าอี้ Built-in ชิดผนังด้านหนึ่ง สามารถวางเก้าอี้สำหรับทาน 4 คนได้ ตกแต่งด้วนกรอบกระจกช่วยเพิ่มมิติให้ผนังห้องมากยิ่งขึ้น ซึ่งชุดรับประทานอาหารนี้ทางโครงการมีให้เหมือนตามในห้องตัวอย่างเลยค่ะ
มาที่ส่วนของพื้นที่นั่งเล่น จะเชื่อมต่อกับพื้นที่ส่วนรับประทานอาหาร แต่แบ่งการใช้งานไว้เป็นสัดส่วนชัดเจนไม่รบกวนกัน พื้นที่ในส่วนห้องนั้งเล่นสามารถวางโซฟาแบบ 2-3 ที่นั่งสบายๆ การวางตำแหน่งของพื้นที่ส่วนนี้ให้อยู่ชิดริมด้านนอกของอาคารทำให้รับแสงธรรมชาติได้ดี ห้องดูโปร่งมากขึ้น หน้าต่างบานเลื่อนกระจกบานใหญ่มีความสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดาน ทำให้สามารถมองเห็นวิวแบบมุมกว้างได้ เชื่อมต่อกับส่วนระเบียงสามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้ พร้อมซ่อนรางผ้าม่านและติดม่านให้เรียบร้อย
สำหรับฝั่งตรงข้ามชุดโซฟาจะทำเป็นชุดตู้ Built in ด้านบนทำเป็นชั้นวางของ และด้านล่างเป็นตู้เก็บของและแขวนทีวีได้ ผนังติด Wallpaper , กรอบรูป และวัสดุตกแต่งเพื่อความสวยงามสร้างบรรยากาศในการอยู่อาศัย
ประตูออกไปสู่ระเบียง เป็นบานกระจกกรอบอลูมิเนียมสีดำ บานใหญ่สูงถึงระดับฝ้าเพดาน ลักษณะการเลื่อนเป็นแบบ 2 ทิศทาง พื้นที่ส่วนระเบียงปูพื้นกระเบื้อง มีขนาดพื้นที่ประมาณ 2.54 x 0.9 m. ซึ่งกว้างพอสมควร สามารถใช้งานได้จริง ตัวประตูเป็นบานอลูมิเนียมกระจกใส พร้อมตัวล็อค ยกขอบสูงขึ้นมาเพื่อช่วยป้องกันน้ำฝนหรือน้ำซึมเข้ามาด้านในได้ ติดกันกับส่วนระเบียงจะแบ่งพื้นที่ไว้ มีระแนงเหล็กกั้นแบ่งพื้นที่พร้อมประตู พื้นที่ตรงนี้จะไว้ให้วาง Condensing air มีระแนงบังสายตาจากภายนอกไว้
จากพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะมีทางเชื่อมต่อไปยังห้องนอนอีก 2 ห้อง และห้องน้ำด้านใน
มากันที่ห้องนอนรอง กันก่อนค่ะ จัดวางตำแหน่งของตัวห้องไว้ด้านนอกตัวอาคาร จึงสามารถเปิดมองวิวแบบมุมกว้างและรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่ สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต หรือ Queen Size ได้ มีพื้นที่เหลือด้านข้างให้ตั้งชุดโต๊ะข้างเตียง และชุดตู้เสื้อผ้าได้ ห้องนอนห้องนี้จะไม่มีห้องน้ำในตัวนะคะ ต้องแบ่งใช้กับห้องน้ำด้านนอก
หน้าต่างภายในห้องนอนจะได้ชุดกระจกบานใหญ่มีความสูงจากพื้นถึงระดับฝ้าเพดาน ทำให้สามารถมองเห็นวิวแบบมุมกว้างได้ ด้านข้างจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งให้สามารถเปิดรับลมระบายอากาศได้ ฝ้าเพดานด้านบนจะซ่อนรางผ้าม่านให้เรียบร้อย
ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่าง กว้างประมาณ 1 m. ด้านข้างเตียงนั้น จะทำเป็นโต๊ะแบบ Built-in ส่วนโต๊ะออกแบบมาให้สามารถเปิดขึ้นมาเป็นกระจก สำหรับใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือสลับการใช้งานเป็นที่อ่านหนังสือภายในห้องนอนได้ ซึ่งชุดโต๊ะและตู้นี้ทางโครงการจะมีให้พร้อมใช้งานค่ะ
ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 50 cm. มีตำแหน่งปลั๊กไฟต่างๆไว้ให้สำหรับ ทีวีแขวนติดกับผนังจะได้มีพื้นที่ทางเดินปลายเตียงได้สะดวก
ส่วนพื้นที่ด้านข้างเตียง ฝั่งติดกับตู้เสื้อผ้า จะเหลือพื้นที่ประมาณ 50 cm.
ภายในห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้า Built-in ด้านในมีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า และมีชั้นวางของไว้เก็บของได้ ภายในห้องนอนก็จะติดตั้งระบบปรับอากาศภายในห้องเป็นระบบ Conceal Type เหมือนกับห้องนั่งเล่นด้านนอกค่ะ
ถัมาที่ห้องน้ำซึ่งจะเป็นห้องน้ำส่วนกลางของตัวห้อง ภายในห้องน้ำมีการแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้ง ไว้เป็นสัดส่วนง่ายต่อการใช้งาน วัสดุปูพื้นและกรุผนังเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน ส่วนฝ้าเพดานเป็นยิปซั่มบอร์ดกันชื้นฉาบเรียบทาสี ให้ชุดอ่างล้างหน้าและมีพื้นที่สำหรับวางของให้เหนืออ่างและใต้อ่างล้างหน้า พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำ ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน เหมือนกับในห้องตัวอย่างห้องแรกค่ะ
ให้ชุดโถสุขภัณฑ์ ของ Villeroy & Boch ซึ่งชุดสุขภัขภัณฑ์ที่ให้มาก็มีขนาดไม่เล็กเกินไป เหมาะสมกับการใช้งาน ติดตั้งสายชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู ไว้ที่ผนังด้านหลังให้พร้อมใช้งาน
ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 1.05 x 1.05 m. ใช้งานได้สะดวก พื้นที่ส่วนอาบน้ำจะมีการแบ่งพื้นที่การใช้งานโดยลดระดับลงมาเล็กน้อยเพื่อป้องกันน้ำไหลซึมมายังส่วนแห้งในห้องน้ำ
ชุดฝักบัวอาบน้ำ ของ Kohler สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นได้ ที่ผนังด้านข้างทำเป็นช่องแบ่งระดับ 3 ระดับสำหรับวางอุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ สำหรับอาบน้ำได้ค่ะ
ที่ผ้าเพดานด้านบน จะติด Rain Shower ไว้ให้ ในส่วนของอุปกรณ์อื่นในห้องน้ำที่มีให้ เช่น ราวแขวนผ้าเช็ดตัว , พัดลมระบายอากาศ และให้ไฟแบบ Downlight และซ่อนไฟในบริเวณที่อาบน้ำ
มากันที่ห้องนอน Master Bedroom ภายในห้องนอนามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุต หรือ King Size ได้ไม่อึดอัด มีพื้นที่เหลือโดยรอบ สามารถวางตู้หรือชั้นวางของต้านข้างได้ ภายในห้องนอนปูพื้นด้วยพื้นไม้ Engineer wood ผนังในห้องนอนติด Wallpaper และวัสดุตกแต่งไว้ แต่ห้องจริงจะเป็นผนังฉาบเรียบทาสี มีระดับพื้นถึงฝ้าสูง 3 m. ทำให้ห้องดูโปร่งมากขึ้น
ส่วนระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งหน้าต่าง กว้างประมาณ 60 cm.
ส่วนระยะระหว่างปลายเตียงถึงผนัง กว้างประมาณ 65 cm. มีตำแหน่งปลั๊กไฟต่างๆไว้ให้สำหรับ ทีวีแขวนติดกับผนังจะได้มีพื้นที่ทางเดินปลายเตียงได้สะดวก
ระยะระหว่างด้านข้างเตียงถึงผนังฝั่งด้านในตัวห้อง กว้างประมาณ 85 cm. ด้านข้างเตียงนั้น จะทำเป็นโต๊ะแบบ Built-in ส่วนโต๊ะออกแบบมาให้สามารถเปิดขึ้นมาเป็นกระจก สำหรับใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือสลับการใช้งานเป็นที่อ่านหนังสือภายในห้องนอนได้
ภายในห้องนอน Master Bedroom จะแบ่งพื้นที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าห้องน้ำทำเป็น Walk in closet ทำเป็นชุดตู้แบบ Built-in ทั้งสองฝั่งลักษณะตัว L ด้านในมีราวสำหรับแขวนเสื้อผ้า และมีชั้นวางของไว้เก็บของและลิ้นชักทางด้านข้าง ให้เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม พื้นที่ในส่วนนี้จะมีกว้างพอสมควร สามารถยืนแต่งตัวได้
ภายในห้องน้ำจัดพื้นที่ไว้ค่อนข้างกว้าง มีการแบ่งการใช้งานเป็นส่วนเปียกและส่วนแห้งไว้เป็นสัดส่วนน่าใช้งานวัสดุปูพื้นและกรุผนังเป็นกระเบื้องลายหินอ่อน ให้ชุดอ่างล้างหน้าของ Villeroy & Boch แบบ His & Her และมีพื้นที่สำหรับวางของเก็บของให้เหนือและใต้อ่างล้างหน้า พร้อมอุปกรณ์อาบน้ำ ชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมใช้งาน
ชุดโถสุขภัณฑ์ ของ Villeroy & Boch มีพื้นที่กว้างเหมาะสมกับการใช้งานได้สะดวก ติดตั้งสายชำระไว้ที่ผนังด้านหลัง และที่ใส่กระดาษทิชชู ไว้ที่ผนังด้านข้าง
ส่วนอาบน้ำมีบานประตูบานเปิดกระจกให้ ฉากกั้นอาบน้ำเป็นบานเปลือยกระจกนิรภัยใสพร้อมอุปกรณ์สแตนเลส พื้นที่ในส่วนเปียกสำหรับยืนอาบน้ำ มีขนาดประมาณ 0.95 x 1.85 m. และมีที่นั่งให้ด้านใน พื้นที่ใช้งานค่อนข้างกว้างสามารถใช้งานได้สะดวก ด้านในสุด ติดกับหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ห้องน้ำจึงได้แสงธรรมชาติ ทำห้องดูสว่างและโปร่งมากขึ้น มีหน้าต่างบานกระทุ้งสามารถเปิดระบายอากาศได้
ชุดฝักบัวอาบน้ำ ของ Kohler สามารถปรับอุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นได้ ที่ผนังด้านข้างทำเป็นช่องแบ่งระดับ 3 ระดับสำหรับวางอุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ ได้
ที่ผ้าเพดานด้านบน จะติด Rain Shower ไว้ให้ ในส่วนของอุปกรณ์อื่นในห้องน้ำที่มีให้ เช่น ราวแขวนผ้าเช็ดตัว , พัดลมระบายอากาศ และให้ไฟแบบ Downlight และซ่อนไฟในบริเวณที่อาบน้ำ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ภาพวิวมุมสูงจากโครงการ The Diplomat Sathorn ในชั้นดาดฟ้า ทางฝั่งทิศเหนือ จะเห็นบรรยากาศเมืองทางฝั่งย่านบางรัก
ภาพวิวมุมสูงจากโครงการ The Diplomat Sathorn ในชั้นดาดฟ้า ทางฝั่งทิศใต้ ถือว่าเป็นวิวที่ค่อนข้างเปิดโล่ง เนื่องจากพื้นที่ที่อยู่ด้านนี้จะเป็นชุมชมเก่าแก่ ส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบ อาคารพานิชย์ โรงเรียน มีอาคารสูงบ้างในด้านซ้าย ส่วนพื้นที่สีเขียวตรงกลางนั้นเป็นพื้นที่ของสมาคมแต้จิ๋ว มองไปไกลๆก็จะเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่สีเขียวของบางกระเจ้า
ภาพวิวมุมสูงจากโครงการ The Diplomat Sathorn ในชั้นดาดฟ้า ทางฝั่งทิศตะวันออก จะเห็นอาคารสูงๆต่างขึ้นเรียงตัวเกาะกลุ่มกันอย่างมากมายในย่าน CBD อย่างสีลม สาทร
ภาพวิวมุมสูงจากโครงการ The Diplomat Sathorn ในชั้นดาดฟ้า ทางฝั่งทิศตะวันตก จะเป็นวิวที่หันออกไปนอกเมือง ข้ามสะพานตากสินไปยังฝั่งธนฯ จะเห็นได้ว่าจะมีคอนโดมิเนียมขึ้นกันอย่างเรียงรายตามแนวรถไฟฟ้า
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 21 March 2017
- 1 Bedroom ขนาด 42 – 45 ตร.ม. ราคาประมาณ 10 ล้านบาท
- 2 Bedroom ขนาด 59 – 70 ตร.ม. ราคาประมาณ 14 ล้านบาท
- 3 Bedroom ขนาด 85 – 86 ตร.ม. ราคาประมาณ 21 ล้านบาท
- Fully Furnished
- ฝ้าเพดานสูง 3 เมตร
- Kitchen & Sink
- Hob & Hood
- จอง 1 Bedroom 200,000 บาท , 2 Bedroom 300,000 บาท , 3 Bedroom 500,000 บาท
- ทำสัญญา 5 %
- ค่ากองทุน 800 บาท/ตร.ม.
- ค่าส่วนกลาง 80 บาท/ตร.ม./เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้คะ
โครงการ The Diplomat Sathorn อยู่ติดถนนสาทรฝั่งมุ่งหน้าไปทางสี่แยกสาทร-นราธิวาสฯ ติดกับ BTS สถานีสุรศักดิ์ แบบสามารถเดินขึ้นสาถนีจากหน้าโครงการได้เลย อยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจสำคัญ รายล้อมไปด้วยอาคารสำนักงาน สถานทูต โรงเรียน โรงพยาบาล มีความอุมสมบูรณ์ในพื้นที่สูง โครงการตั้งอยู่ในฝั่งเข้าเมืองจึงทำให้สามารถเดินทางได้สะดวก สามารถขับไปเชื่อมต่อกับถนนสายหลักรอบๆได้หลากหลาย ซอยประมวลที่อยู่ถัดจากโครงการสามารถลัดออกถนนสีลมและไปขึ้นทางด่วนได้ เรียกได้ว่าถ้าใครทำงานในย่านนี้หรือใกล้เคียงแล้วสามารถมีที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ ทั้งการอยู่อาศัยที่เน้นความ Luxury แต่สามารถเดินทางสะดวก ใช้เวลาอันรวดเร็วคงเป็นความลงตัวในการใช้ชีวิตมากๆ
การออกแบบโครงการมีแนวคิดที่โดดเด่น มี Concept หลักของโครงการที่ชัดเจน ตัวอาคารออกแบบให้มีความเป็น Classic style และ Modern Style ร่วมอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว ภายในโครงการเน้นออกแบบพื้นใช้สอยและตอบโจทย์ของที่พักอาศัยในระดับพรีเมี่ยม จากที่ดินประมาณ 1-2-15 ไร่ จัดวางผังอาคารเว้นพื้นที่ด้านหน้าจัดเป็นพื้นที่สีเขียว สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับด้านหน้าตัวอาคารมากขึ้น แบ่งพื้นที่โครงการในส่วนต่างๆ ทั้งส่วนพักอาศัย และส่วน Facility ในโครงไว้เป็นสัดส่วนชัดเจนไม่รบกวนกัน โครงการจัดห้องได้ 192 ยูนิต เทียบดูในแต่ละชั้น จะมีจำนวนห้องสูงสุดอยู่ที่ 7 ห้องต่อชั้น จึงมีความส่วนตัวในแต่ละชั้น มีแบบห้องให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่ 1 Bedroom – 3 Bedroom ขนาดห้องเริ่มตั้งแต่ 40 – 205 ตร.ม. ถือว่าจัดพื้นที่มาให้ค่อนข้างเยอะ ทำให้สามารถจัดพื้นที่การใช้งานในส่วนต่างๆง่ายขึ้น ห้องไม่ดูอึดอัด ด้วยความสูงของตัวอาคาร ทำให้ได้วิวและมุมมองเปิดกว้าง
ในส่วนของการออกแบบและจัดพื้นที่ห้องพักอาศัย โครงการออกแบบห้องที่มีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 40 ตร.ม.ขึ้นไป จึงทำให้สามารถจัดพื้นที่ใช้งานภายในห้องได้ง่าย ด้วยความสูงพื้นถึงฝ้า 3 m. ทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัด การใช้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ทำให้รับแสงและวิวได้ดี จัดพื้นที่ใช้งานในส่วนต่างๆในห้องมีความสัมพันธ์กันดี เหมาะสมกับการใช้งาน ในส่วนของวัสดุเลือกใช้ของดีมีคุณภาพกับการใช้งาน ถือเป็นจุดเด่นของโครงการ ประตูหน้าห้องบานใหญ่พร้อม Digital door lock ห้องนั่งเล่นและห้องนอน เป็นพื้นไม้ Engineer wood ห้องน้ำใช้กระเบื้องลายหินอ่อน ทั้งผนังและพื้น สวยและดูสะอาดตาน่าใช้งาน และจัดห้องมาให้แบบ Fully Furnished ให้ครบเกือบทุกอย่าง ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ชุดตู้ Built-in ทุกจุด ชุดครัวของ Kuppersbusch เรียกว่าพร้อมเข้าอยู่ได้เลย ในส่วนห้องน้ำให้เหมือนห้องตัวอย่างทั้งหมด อุปกรณ์ชุดอาบน้ำเน้นรูปแบบที่เรียบหรู อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ ของ Villeroy & Boch และ Kohler ในส่วนของความเรียบร้อยอื่นๆภายในห้องถือว่าเก็บงานได้เรียบร้อยดี
สาธารณูปโภคของโครงการ Facility มีให้เลือกใช้หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ชั้นล่างของตัวอาคาร จะประกอบด้วย The Oval Lobby and drop off area , Mail Room จัดออกมาได้หรูหราน่าใช้งาน ส่วนกลางหลักอื่นๆ ขึ้นไปที่ชั้น 8 ประกอบด้วย The Diplomat Club , Outdoor Deck , Kids’ pool with rain cloud และ Kids’ room ที่ชั้น 34 ประกอบด้วย Semi-indoor swimming Pool , Outdoor Deck ส่วนบนสุดที่ชั้น 35 จะเป็นพื้นที่ของ Panoramic Fitness Center ที่สามารถมองชมวิวเมืองแบบมุมกว้างได้ และเน้นจัดพื้นที่เขียวและที่นั่งพักผ่อน กระจายอยู่ในชั้นต่างๆ ให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้งานได้สะดวก โครงการจัดที่จอดรถมาให้สามารถจอดรถได้ 100% ช่วยเพิ่มความสะดวกในการอยู่อาศัย ให้ลิฟท์โดยสาร 3 ตัวต่อหนึ่งอาคาร อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 64 : 1 ใช้งานแบบสบายๆ
Judgement
เนื่องจากทางโครงการไม่อนุญาตให้เผยแพร่รายละเอียดของโครงการในบางส่วน ด้วยเหตุผลบางประการ ทาง Think of Living จึงขอไม่ให้คะแนนฟันธงในรีวิวฉบับย่อ เพราะมีข้อมูลและรายละเอียดในการวิเคราะห์ไม่ครบถ้วน หากได้รับข้อมูลเพิ่มเติ่มจะทำการอัพเดตข้อมูลในส่วนนี้อีกครั้งค่ะ
BOTTOM LINE
โครงการ The Diplomat Sathorn เหมาะกับคนที่มองหาคอนโดในเมืองย่านสาทร เดินทางสะดวกสามารถใช้รถส่วนตัวหรือเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าได้ ชอบการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัย เน้นพื้นที่ใช้สอย ชอบงานตกแต่งในรายละเอียดต่างๆ วัสดุดี มี Facility ให้เลือกใช้หลากหลาย มีงบประมาณระดับ 10 – 21 ล้านบาท ขึ้นไปค่ะ
ถ้าเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจทำรีวิวถัดๆไปค่ะ
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )