รีวิวโครงการ

รีวิวตึกเสร็จ MARU ลาดพร้าว 15 คอนโด High Rise 30 ชั้น 70 เมตร จาก MRT ลาดพร้าว จาก Major Development [รีวิวฉบับที่ 2145]

27 ตุลาคม 2020

อ่านรีวิวล่าสุด

สวัสดีครับ หลายๆคนคงเคยผ่านหูผ่านตากับชื่อโปรเจคใหม่ จากทาง Major Development กันไปบ้างแล้ว MARU (มารุ) ถือเป็น แบรนด์น้องใหม่ ที่กำลังจะเปิดตัวใกล้ๆนี้พร้อมกัน 2 ทำเล คือ ลาดพร้าว และ เอกมัย โดยทาง TOL นั้นได้เคยมี Sneak Peek แบบคร่าวๆไป แต่เห็นว่าใกล้จะเตรียมตัวเปิดตัวแล้ว วันนี้เราเลยมาลงเจาะลึกทำเลในตัว MARU Ladprao 15 กัน

ที่หน้า Official Website (คลิกที่นี่) โครงการ ณ ตอนนี้มีให้ลงทะเบียนกับแจ้งส่วนราคาเริ่มต้นเอาไว้ที่ 3.6 ล้านบาท โดยจะ Presale 23/9/2017

พิกัดที่ตั้งโครงการจาก Google Maps : 13.807702, 100.571186

ก่อนอื่นมาดูสภาพแวดล้อมทำเลที่โครงการ MARU ลาดพร้าว 15 ซึ่งตั้งอยู่ติดถนนหลักลาดพร้าวเลย อยู่ระหว่างซอยลาดพร้าว 15 และ 17 ถ้าใครเคยผ่านมาบ้างที่จะเป็นแปลงของปั๊มน้ำมัน SUSCO เก่า ทำเลนี้ถือเป็น ลาดพร้าวช่วงต้น ที่อยู่ระหว่างห้าแยกลาดพร้าว กับ แยกรัชดาฯ-ลาดพร้าว ซึ่งใครเคยผ่านไปมาตรงนี้ช่วงเลิกงานจะรู้เลยว่า “รถติดมาก”เพราะแยกใหญ่ทั้งสองเป็นจุดตัดเข้าออกเมืองย่านคนทำงานจำนวนมหาศาลเลยเป็นเช่นนี้นั้นเอง

ความอุดมสมบูรณ์หลักในละแวกนี้ มีห้าง 3 อันหลักได้แก่ 1.BigC Extra+Hompro(350ม.) 2.ยูเนียนมอลล์(1.1 กม.) 3.Central Plaza ลาดพร้าว(1.6 กม.) ด้วยระยะทางที่เดินเท้าสะดวกง่าย ถ้าเขยิบออกไปหน่อยก็จะมี Tesco Lotus, เมเจอร์ รัชโยธิน อีกทั้งยังมีตลาดเดินช้อปให้เลือกอีกคือสวนจตุจักร, ตลาด อ.ต.ก., บอง มาร์เช่ และสวนลุมไนท์ฯรัชดาที่พึ่งจะเปิดตัวไปไม่นานนี้มีร้านอาหารมาเพิ่มอีกหน่อยอยู่ฝั่งตรงข้ามใกล้ๆ รวมๆถือว่าอุดมสมบูรณ์ใช้ได้เลย

จุดเด่นอีกอย่างคือ การเดินทางโดยไม่ใช้รถ สามารถเดินไปขึ้น MRT สถานีลาดพร้าว โดยระยะทางที่เพียง 70 เมตร และอนาคตที่สถานีนี้จะเป็น Interchage กับ สายสีเหลือง “ลาดพร้าว-สำโรง” น่าจะเตรียมตัวเริ่มก่อสร้างประมาณปีหน้า และถ้าเรานั่ง MRT ไปสถานีพหลโยธิน ซึ่งก็จะเป็น  Interchange กับ BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยาย “หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต” ที่เริ่มมีการก่อสร้างแล้ว แผนเสร็จในปี 2562 และเปิดให้บริการในปี 2563 วิ่งผ่านบนถนนพหลโยธิน สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีห้าแยกลาดพร้าว ทำให้พื้นที่รอบๆโครงการ กลายเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ใช้รถไฟฟ้าได้หลากหลายมากๆ

มาดูเพื่อนบ้านในละแวกใกล้เคียงพื้นที่ย่านลาดพร้าวตอนต้นกันนิดนึงครับ บนถนนลาดพร้าวช่วงต้น หรือ ช่วงที่เลขซอยน้อยๆ ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าวมาจนถึงแยกรัชดาฯ-ลาดพร้าวนั้น ตลอดแนวถนนใหญ่ก็มีโครงการคอนโดต่างๆมาจับจองพื้นที่ขึ้นโครงการกันอยู่เรื่อยๆ มีโครงการที่สร้างมานานแล้วรุ่นบุกเบิกอย่าง The Zest, The Light, IDEO ลาดพร้าว 17 , Life@ลาดพร้าว 18 รวมถึง IDEO ลาดพร้าว 5 ด้วย  ซึ่งราคารวมๆโครงการกล่าวถึงในยุคก่อนนี้ (ประมาณ 5-6 ปีก่อน) ราคาอยู่ประมาณ 5-7 หมื่นบาท/ตร.ม. เท่านั้นเอง แต่ปัจจุบัน..ก็มีการปรับราคามือสองขึ้นไปตามราคาที่ดินตามเวลาที่ผ่านไป

ส่วนโครงการใหม่ๆ บนย่านนี้อย่าง Chapter one midtown ลาดพร้าว 24 , Whizdom Avenue รัชดา-ลาดพร้าว ราคาปรับตัวสูงขึ้นจนเกิน 120,000 – 160,000 บาท/ตารางเมตร++ ไปแล้ว(ราคาต้นปี 2017) จะเห็นได้ชัดว่า พื้นที่แถวนี้ทั้งหมดมีการปรับตัวและราคาสูงขึ้นอยู่เรื่อยๆ เพราะทั้งสองแยกนี้(ห้าแยกลาดพร้าว, รัชดาลาดพร้าว) นั้นอนาคตจะมีความสำคัญในเรื่องของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ากลายเป็น Interchange ทั้งคู่นั่นเอง

การเดินวันนี้เราจะเริ่มจาก MRT ลาดพร้าว โดยทางออกที่ใกล้ที่สุดคือประตู 3 นะครับ รูทแรกแค่เดินไปไซท์ที่ดินโครงการเพียง 70 เมตรก็ถึงแล้ว หลังจากนั้นเราจะกลับมาที่ MRT ประตู 3 อีกครั้งแล้วเดินมุ่งหน้าไปทางแยกรัชดา – ลาดพร้าว ข้ามสะพานลอยมาฝั่งตรงข้าม(ลาดพร้าวเลขคู่) และเดินดูสภาพแวดล้อมไปจนถึงซอยลาดพร้าว 18 ที่เป็นซอยที่สำคัญในย่านนี้

โดยถ้าเราออกมาจากทางออก 3 แล้วจะผ่านชุดตึกแถวร้านค้า แค่ล็อกเดียว ก็ถึงที่ดินโครงการเลย

มาเริ่มกันที่ MRT ลาดพร้าว ทางออก 3 กันครับ

ออกมาปุ๊ปเจอกับพี่วินปั๊ปเลย คือที่ สถานีลาดพร้าวนี้ “ทุกทางออก” มีพี่วินประจำอยู่หมดเลยครับ

ซูมให้ดูถึงอัตราค่าบริการของวินนี้ ถือว่าใกล้โครงการเรามากที่สุดแล้วถ้าใครทำงานอยู่รัชดาแถวศาลอาญาโซนๆนั้นแค่ 20-30 บาทเท่านั้นเอง

หันไปทางขวาเป็นริมฟุตบาท และเห็นร้านอาหาร บะหมี่บ้านโป่งเจ้แดง

เผื่อใครยังไม่รู้ บะหมี่บ้านโป่งเจ้แดง ถือเป็นอีกร้านหนึ่งใน Signature ย่านนี้ก็ว่าได้ อันดับแรกทำเลของแกอยู่ติด MRT แวะมาทานง่าย (ทำเลนี้ลงคอนโดเดินมาไม่กี่ก้าวถึงเลย)

บะหมี่บ้านโป่งเจ้แดง เปิดร้านตั้งแต่บ่าย 3 จนถึง ตี 2 !!! (ถูกแล้วครับตีสองงงง) เอาใจสายนอนดึกหรือไปแฮงเอาท์แล้วมาปิดจ็อบที่นี่ เมนูหลักๆในร้านก็ได้แก่ บะหมี่ปู, หมูแดงหมูกรอบ เส้นบะหมี่เค้าไม่เหมือนใครแถมปูยังสดๆอีกด้วย หรือถ้าใครไม่อยากกินบะหมี่ก็มี ข้าวมันไก่ ผัดซีอิ๊ว, ข้าวผัดปู, โกยซีหมี่, ต้มตีนไก่ซุปเปอร์, เกี๊ยวลวกจิ้ม, ต้มยำหม้อไฟ โอยยย เยอะมากจำไม่หมด ตัวผมเองเคยมาฝากท้องที่นี้หลายครั้งอยู่

หลังจากพ้นร้านไปแล้ว ร้านอื่นๆในตึกแถวชุดนี้จะเงียบๆหน่อย และก็เห็นแปลงที่ดินโครงการเลยครับ

เพียง 70 เมตรก็ถึงที่ดินโครงการแล้ว ปัจจุบันเคลียที่โล่งๆเรียบร้อยแล้วนะครับ ยังไม่ได้ล้อมรั้ว เดี๋ยวจะเดินเข้าไปด้านในดูรอบๆหน่อย

ภาพแสดงพื้นที่รอบข้างของโครงการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาคารพักอาศัยสูงไม่เกิน 8 ชั้น ทำให้โครงการไม่มีอาคารสูงบังวิวในระยะประชิด

เริ่มจากทางฝั่งหันไปทางทิศใต้ เป็นฝั่งที่ติดถนนลาดพร้าวนั่นเอง ฝั่งตรงข้ามเป็นแนวตึกแถว 4 ชั้นครึ่ง เยื้องไปทางขวาหน่อยๆ(ตะวันตกเฉียงใต้) จะเห็น Life ลาดพร้าว 18 อยู่ห่างออกไปราวๆ 120 เมตร

ฝั่งทิศตะวันตกในระยะประชิดก็จะเป็นตึกแถว โกดัง และอพาร์ทเมนท์ตามจำนวนชั้นที่แปะไว้ ฝั่งนี้ใกล้ๆไม่มีอาคารสูงเลยนะครับ ได้วิวค่อนข้างโล่ง มองไปทางห้าแยกลาดพร้าวเห็นพวกคอนโดเพื่อนบ้านในระยะไกลๆหน่อย

ฝั่งทิศเหนือของโครงการ ระยะประชิดจะเป็นชุมชนบ้านเดี่ยวพักอาศัยทั้งหมด วิวค่อนข้างโล่งเคลียเช่นเดียวกัน มองไปไกลจะเห็นอาคารบริเวณศาลาอาญา รัชดา

สุดท้ายฝั่งทิศตะวันออก ในระยะประชิดจะติดกับตึกแถว และอพาร์ทเมนท์ 3-7 ชั้นพวกนี้ ฝั่งนี้ใกล้ๆก็ไม่มีตึกสูงนะ วิวสูงๆหน่อยมองไปเห็นทางแยกรัชดาลาดพร้าว

ทีนี้ขอกลับมาที่ MRT ลาดพร้าว ทางออกที่ 3 อีกครั้งนึง ผมจะพาเดินไปอีกเส้นทางเดินแบบที่ 2 มุ่งหน้าไปทางแยกรัชดา – ลาดพร้าว ข้ามสะพานลอยมาฝั่งตรงข้าม(ลาดพร้าวเลขคู่) และเดินดูสภาพแวดล้อมไปจนถึงซอยลาดพร้าว 18 ที่เป็นซอยที่สำคัญในย่านนี้

บริเวณที่ทางออกนี้ยังเป็นจุดที่รอรถเมล์ Taxi อีกด้วย เลยทำให้รอบๆช่วงเย็นมีของกินเล็กๆน้อย 4-5  มาตั้งขาย ทำให้ไม่เปลี่ยว

เดินต่อมาจะเจอกับซอยแรก คือซอยลาดพร้าว 17 และทางซ้ายมือเป็นคอนโด LowRise ของอนันดาตัวแรกสุด น่าจะ 10 ปีได้ละมั้งครับ

 

ตรงนี้มีทางม้าลายสามารถข้ามถนนได้ด้วย แต่ก็ต้องระวังรถหน่อย ฝั่งตรงข้ามจะเป็นร้านโชคดีติ่มซำ กับซงฮื้อหม้อไฟพอดี

ถัดมาจะเป็นซอยลาดพร้าว 19 ซึ่งตรงนี้เป็นที่ตั้งของร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าดังในย่านอย่าง Kabocha Suhi

Kabocha Suhi สาขาลาดพร้าว 19 ปัจจุบันอยู่ในช่วง Renovate ร้านอยู่นะครับ

อันนี้เป็นรูปที่ผมเคยไปกินมาส่วนตัวที่ร้านนี้อยู่หลายครั้ง ต้องบอกว่าร้านนี้ถ้าเดินมาจากโครงการ Maru ระยะทางอยู่แค่ 180 เมตรเท่านั้น ใกล้มากๆ ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนี้มีการจัดโปรบ่อยครั้งอีกทั้งได้ของดี ของสด คุ้มค่ากับราคาทีเดียว

มองออกมาที่ถนนลาดพร้าวจะเห็นว่าช่วงเย็นๆ การจราจรเริ่มมีติดขัดบ้างแล้ว เพราะไฟแดงแยกรัชดาลาดพร้าวค่อนข้างนาน

แถวๆหน้าปากซอยลาดพร้าว 21 ไม่ค่อยมีอะไรมากเท่าไร เป็นพวกออฟฟิศ โชว์รูม

หลังจากพ้นโชว์รูม Izuzu มาแล้ว จะมีพี่วินอยู่แกงค์ใหญ่ประจำที่หน้า MRT ประตูทางออก 4 ตรงนี้

ที่ MRT ประตูทางออก 4 นั้นยังเป็นพื้นที่รองรับอาคารจอดแล้วจร โดยถ้าใครมาใช้จอดรถให้เข้าช่องซ้ายสุดตรงนี้นะ

MRT ประตูทางออก 4 ยังเป็นที่หลบฝนชั้นดี 😀 ที่ตรงนี้ยังมีพวกอาหาร เครื่องดื่ม ง่ายๆขายอยู่ด้วยนะครับ

จากนั้นเราจะเดินขึ้นสะพานลอยที่เชื่อมกับหน้าอาคารจอดแล้วจรเลย

ขึ้นมาที่สะพานลอยแล้ว มองย้อนกลับไปให้เห็นถึงพื้นที่อาคารจอดแล้วจรของ MRT สถานีลาดพร้าวนี้ ซึ่งมุมนี้แหละ อนาคตจะมีความสำคัญเกิดขึ้นมา (ดูที่รูปล่างถัดไป)

credit picture : mrta-yellowline (ภาพจำลองตัวชานชาลา สถานี รัชดา)

รถไฟฟ้าสายสีเหลือง เริ่มต้นที่จุดเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน สายเฉลิมรัชมงคล ที่แยกรัชดา – ลาดพร้าว ไปตามแนวถนนลาดพร้าวจนถึงทางแยกบางกะปิ จากนั้นแนวเส้นทางจะเลี้ยวไปทางทิศใต้ตามถนนศรีนครินทร์ เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มฯ ที่ทางแยกลำสาลี ผ่านแยกพัฒนาการ แยกศรีนุช แยกศรีอุดมสุข แยกศรีเอี่ยม จนถึงแยกศรีเทพา จากนั้นแนวเส้นทางจะเลี้ยวไปทางทิศตะวันตกตามแนวถนนเทพารักษ์ ผ่านจุดเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง – สมุทรปราการ ที่สถานีสำโรง และสิ้นสุดเส้นทางบริเวณแนวถนนปู่เจ้าสมิงพราย

ระยะทางรวม 30.4 กิโลเมตร และมีสถานีจำนวน 23 สถานี / โครงสร้างยกระดับและเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) ที่มีสมรรถนะสูง

  • สามารถขนส่งผู้โดยสารได้ 10,000– 40,000 คน/ชม./ทิศทาง ด้วยความเร็ว 80 กม./ชั่วโมง
  • ตัวรถมีน้ำหนักเบาและใช้ล้อยาง ทำให้ลดผลกระทบทางด้านเสียงและความสั่นสะเทือน
  • โครงสร้างทางวิ่งโปร่ง ทำให้ลดผลกระทบเรื่องแสงและทัศนียภาพ รวมทั้งใช้พื้นที่ก่อสร้างน้อย
  • สามารถเลี้ยวด้วยรัศมีโค้งราบน้อยที่สุด 70 เมตร (Sharp Curve)ไต่ทางลาดชั่นได้สูงถึง 6 เปอร์เซ็นต์ (Steep Grade) ทำให้แนวเส้นทางมีความยืดหยุ่นและลดผลกระทบการเวนคืนที่ดิน

**อนาคตถ้ามีการสร้างเสร็จเมื่อไร ที่แยกรัชดา-ลาดพร้าวนี้ จะเป็นอีก 1 Interchange ที่มีความสำคัญในการคมนาคมด้วยระบบสาธารณะแน่นอน

เรามาเดินบนสะพานลอยกันต่อครับ

สะพานลอยแห่งนี้เป็นลักษณะพิเศษ ที่สร้างขึ้นมาคร่อม “สี่แยกรัชดาลาดพร้าว” โดยสามารถเดินไปถึงกันได้ทุกฝั่งแบบนี้เลย แต่ว่าไม่มีหลังคากันฝนนะ

โดยตัวของสะพานลอยจะมีติดไฟส่องสว่างและกล้อง CCTV เอาไว้ (ด้านล่างมีป้อมตำรวจด้วยนะ)

มองย้อนกลับไปทางโครงการเสียหน่อยเส้นทางนี้เป็นจุดที่ “รถติดมาก” ในช่วงเวลาเลิกงาน เพราะว่ารถจะออกเมืองไปทางบางกะปิมีค่อนข้างมาก และมีไฟแดงเยอะ ทำให้ระบายไม่ค่อยทัน เลยมากระจุกตัวอยู่ตรงนี้ วันไหนพีคๆมากๆ ติดยาวไปถึงยูเนียนมอลล์เลยครับ

สวนฝั่งซ้ายมือคือถนนรัชดา (จะเห็นว่ารถติดไฟแดงไม่แพ้กัน) ส่วนพื้นที่หัวมุมขนาดใหญ่นี้คือ สวนลุมไนท์ รัชดา

เดินลงกันต่อ

เราจะผ่านทางเข้าสวนลุมไนท์รัชดา ที่ปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบร้านค้าตลาดนัดมาหลายครั้ง สิ่งที่ผมเห็น ณ ล่าสุดคือ กลายเป็นแหล่งร้านค้า ช้อปปิ้ง ร้านอาหาร ที่เน้นชาวจีน ฮ่องกง ต่างชาติซะแล้ว เพราะรองรับแขกที่มาพักโรงแรมด้านหลังไปด้วย แต่ก็มีพวกร้านกาแฟ กับฟาดฟู๊ดที่เปิดดึกๆอยู่ด้วยนะครับ

เดินกันต่อ ริมทางจะเป็นพวกร้านอาหาร ร้านค้าแบบเพิงชั้นเดียว

มาถึงที่ MRT ทางออกที่ 1 ครับ แถวนี้ค่อนข้างพลุกพล่านเล็กน้อย ฟุตบาทจะแคบๆหน่อย

แต่ว่ารูปแบบรอบๆทางออกสถานีก็จะเหมือนๆกันนะ โดยมีพี่วินกับร้านค้ารถเข็นมาประจำเต็มไปหมด

เดินมานิดนึง เจอกับร้าน The Cooking Crab ซึ่งเป็นร้านอาหารเมนูเกี่ยวกับปหลากหาย ผมยังไม่เคยมาลองเหมือนกันแหะ

ถัดมาหน่อยจะเป็น 7-Eleven ที่อยู่ติดกับปากซอยลาดพร้าว 26

เพื่อนบ้านอย่าง Chapter One ลาดพร้าว 24 ที่เรามาทำรีวิวได้ไม่นาน ตอนนี้ก็ปิดการขายไปเรียบร้อย

มาถึงบริเวณร้านโชคดีติ่ม ร้านนี้มีความพิเศษคือ “เปิด 24 ชม.” และมีที่จอดรถอยู่หลังร้าน ส่วนร้านซงฮื้อหม้อไฟที่อยู่ข้างๆ ถึงแม้ไม่ได้เปิด 24 ชม. แต่ก็เปิดอยู่จนดึกเหมือนกัน รสชาติจัดจ้านใช้ได้

เดินต่อมาจะเจอกับปากซอยลาดพร้าว 24 ครับ

ทางออก MRT 2 เราเดินมาจนครบทุกทางออกแล้วนะครับ ติดกันจะเป็นเต้นท์รถมือสองตั้งอยู่

ที่ปากซอยลาดพร้าว 22 ก็มีพี่วินอยู่เช่นเดียวกัน

ตึกแถวริมถนนแถวนี้ มีเปิดร้านบ้างอยู่ครึ่งนึง ที่เหลือก็ไม่ได้เปิดไว้ คือร้านไหนอยู่รอดแล้วก็รอดยาวเลย เพราะว่าบางช่วงทำค้าขายไม่ได้เพราะไม่มีที่จอดรถ

จากมุมนี้เราจะเห็นที่ดินของโครงการ MARU ลาดพร้าว 15  ซึ่งในอดีตใครเคยผ่านไปมาจะคุ้นหน้าปั๊มน้ำมัน Susco กับร้านกาแฟ Mezzo แน่นอน ณ วันนี้ทุกอย่างถูกเคลียผืนที่ดินเรียบร้อยแล้ว

สะพานลอยอันนี้เรียกได้ว่าอยู่ใกล้(ติด) กับหน้าโครงการเลยก็ว่าได้ ถือเป็นข้อดีนะครับ เผื่อข้ามมาใช้งานฝั่งนี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องรถ

อีกร้านนึงเก่าแก่ของย่านนี้คือ ร้านข้าวต้มเป็ดอ้วนที่มีคนมาฝากท้องมื้อเย็นเป็นจำนวนมาก เป็ดพะโล้ที่นี้อร่อยดี เมนูอื่นๆก็ราคาไม่แพงด้วย

ทีนี้ขึ้นมาบนสะพานลอยเพื่อดูสภาพกว้างๆกันหน่อย เนี่ยละครับ ตอนนี้เป็นเวลา 16.40 น. การจราจรฝั่งมุ่งหน้าแยกรัชดา-ลาดพร้าวก็เริ่มมีการกระจุกตัวบ้างแล้ว เพราะไฟแดงมันนานมาก สำหรับถ้าใครใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางเป็นหลักต้องบอกว่าประหยัดเวลาไปได้หลายเท่าเลย

กลับหลังหันมามองอีกฝั่งนึงบ้าง จากมุมนี้มองใกล้ๆเราจะเห็น “จุดกลับรถ” ซึ่งกลับได้ทั้งสองฝั่งเลยนะครับ ถ้าเรามาจากทางแยกรัชดาลาดพร้าวก็กลับรถเข้าโครงการตรงนี้ได้เลยใกล้ๆ พื้นที่ตรงนี้จะแอบมีการจราจรติดขัดเล็กน้อยเพราะนอกจากจะกลับรถได้แล้ว ยังสามารถให้รถ(ฝั่งลาดพร้าเลขคู่) เลี้ยวขวาไปเข้าซอยลาดพร้าว 15  ได้อีก

เดี๋ยวก่อนจะจบ ผมขอแวะพาไปดูซอยลาดพร้าว 18  ใกล้ๆนี้ก่อน ซอยนี้ถือเป็นอีกซอยนึงที่สำคัญมาก และอยู่ใกล้โครงการเหมือนกัน

เดินผ่านซอยลาดพร้าว 20 ที่ด้านในเต็มไปด้วยอพาร์ทเนท์หลายเจ้า

มองมาที่ถนนลาดพร้าว อย่างที่บอกไปละครับว่าซอยลาดพร้าว 15 ตัวทำรถติดเล็กน้อย ช่วงเย็นๆจะมีตำรวจจราจรมาช่วยดูแลเพิ่มครับ

ซ้ายมือก่อนปากซอยลาดพร้าว 18 หัวมุมจะเป็นที่ตั้งคอนโด Life ลาดพร้าว 18

เลี้ยวซ้ายตรงนี้เข้าสู่ซอยลาดพร้าว 18

ซอยลาดพร้าว 18 เป็นซอยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในพื้นที่นี้ เพราะเป็นซอยที่สามารถลัด 3 ถนนหลัก ที่สามารถใช้เข้า-ออกทั้งจากถนนลาดพร้าวเอง และใช้เส้นทางเลี่ยงรถติดไปออกซอยรัชดาภิเษก 19 ได้ นอกจากนั้นยังสามารถไปออกถนนวิภาวดีรังสิตได้อีกด้วย โดยบริเวณปากซอยลาดพร้าว 18 นั้นถือว่าเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ในตัวเองสูงมาก และจะไปเยอะอีกทีที่ซอยวิภาวดี16 (ซอยโชคชัยร่วมมิตร) และซอยวิภาวดี 20 , 22 (แถวตลาดลุงเพิ่ม, ตลาดจินดา) ถ้าใครขับรถก็สามารถแวะไปหาอะไรทานได้ สำหรับทางด่วนเราก็ขับรถลัดมาออกถนนวิภาวดีและไปขึ้นทางด่วนดินแดงหรือดอนเมืองโทลเวย์ได้เลย (ถ้ากรณีบนถนนลาดพร้าวมุ่งหน้าไปห้าแยกรถติด)

บริเวณปากซอยมีคิวพี่วินมอเตอร์ไซค์ตั้งอยู่ ทางขวามือเป็นพวก Minimart เจ้าต่างๆ

7-Eleven, ตู้ ATM และ CP Freshmart  ที่อยู่บริเวณปากซอย

ตัวถนนซอยค่อนข้างจะแคบหน่อย ประกอบกับด้วยร้านค้ารถเข็น ร้านอาหารริมทางต่างๆมากมายเป็นพื้นที่แหล่งจับจ่ายใช้สอยตอนเย็นมีมากมายหน้าหลายตา

ช่วงต้นของซอยลาดพร้าว 18 ณ ตอนเย็นตั้งแต่ 5 โมงจนถึง 2 ทุ่ม จะเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยในอาหารการกินเรียกว่าอุดมสมบูรณ์มากๆ เหมือนมีตลาดนัดย่อมๆเลยก็ว่าได้ มีทั้งริมทาง และเป็นตัวอาคารแบบนี้ เป็นอีกแหล่งความอุดมสมบูรณ์ใกล้ๆ

และถ้าเดินทางต่อไปนั้นจะเป็นซอยทางเชื่อม เพื่อไปลัดสู่ซอยรัชดา 19 หรือ วิภาฯ 20 เพื่อออกสู่ถนนใหญ่ทั้งสอง เพื่อหลบหลีกหนีรถติดได้ครับ

สำหรับข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ เป็นคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น จำนวนยูนิตโดยประมาณ 350 ห้อง รูปแบบห้องมีให้เลือกแบบ Studio, 1-2 Bedroom ในส่วนของชั้น Facilities ถูกดันขึ้นไว้ชั้นบนๆ เพื่อให้ชมวิวเมืองได้โดยรอบ อีกทั้งชูจุดเด่นเรื่อง Pet Friendly & Wellness Living ซึ่งจะมีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยง และมีราคาเฉลี่ยราวๆ 150,000-160,000 บาท/ตร.ม.

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับทำเลของโครงการ MARU LADPRAO 15 คอนโดแบรนด์น้องใหม่จาก เมเจอร์ ที่กำลังจะเปิดตัวในย่านลาดพร้าวตอนต้นนี้ สำหรับรีวิวฉบับเต็มที่จะเจาะลึกรายละเอียดของตัวโครงการคงต้องอดใจรอกันอีกนิด โดยโครงการจะ Presale 23-24/9/2017 นี้เมื่อสำนักงานขายเสร็จเรียบร้อยและมีรายละเอียดของโครงการที่ครบถ้วน ทางเราจะเข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิวตัวเต็มอีกทีครับ