รีวิว The TEAK สาทร-ลุมพินี คอนโด Low Rise 3-6 ล้าน ใกล้สาทร ยูนิตน้อยสังคมส่วนตัว จาก Teak Development [รีวิวฉบับที่ 2364]

The TEAK Sathorn – Lumpini (เดอะ ทีค สาทร – ลุมพินี) ณ วันที่ 30 มีนาคม 2565

พิกัด Google Maps : 13.718141, 100.551026
หรือสามารถ : คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ The TEAK สาทร-ลุมพินี ตั้งอยู่ในซอยศรีบำเพ็ญที่เข้าจากถนนหลักอย่างพระราม 4 ไปอีกประมาณ 800 เมตรค่ะ

ถือว่าการเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวค่อนข้างสะดวกเลยทีเดียว เพราะโครงการตั้งอยู่ในซอยศรีบำเพ็ญซึ่งเป็นชุมชนเก่าใจกลางเมืองด้านหลังซอยสาทร 1 และถนนพระราม 4 โดยถนนบริเวณนี้จะถูกใช้เป็นทางลัดเพื่อไปออกถนนนางลิ้นจี่, สาทร, สวนพลู, เกอเธ่, พระรามที่ 4, พระรามที่ 3, ถนนจันทน์, ถนนนราธิวาสฯ หรือแม้กระทั่งทางด่วน ทำให้เป็นถนนที่มีทางหนีทีไล่เยอะ เข้าออกได้หลายทาง มีทั้งทางที่รถติดมากและทางที่รถไม่ติดเลย ซึ่งถ้าใครอยากจะอยู่ในพื้นที่แถวนี้ก็ต้องเชี่ยวชาญเรื่องทางลัดทางเล็กทางน้อย ใช้ให้ครบและรู้ให้ทั่วว่าเส้นไหนจะติดเมื่อไรนะคะ

ส่วนใครที่เดินทางโดยใช้รถสาธารณะก็จะมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ให้โบกเรียกกันได้ในระยะไม่เกิน 100 เมตร หรือหากต้องการไป MRT จะมีสถานีใกล้ๆ อยู่ 2 สถานีคือ ลุมพินีและคลองเตย ซึ่งทางโครงการเองก็มี Shuttle Service คอยรับส่งที่ MRT ลุมพินีด้วยนะคะ

โดยพื้นที่รอบๆ คอนโดนี้จะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีความสงบกว่าตรงโซนเจริญกรุง และโซนถนนจันทน์ เพราะแถวนั้นเป็นย่านค้าขาย อีกทั้งพื้นที่นี้หลายๆคนคงพอเห็นบ้านหลังใหญ่ให้เห็นระหว่างทางเต็มไปหมด เป็นพื้นที่ของคนมีฐานะเก่ามาบุกเบิกเป็นที่อยู่อาศัยเอาไว้เพราะใกล้ถนนหลักหลายด้านแต่อยู่ในซอยนี่แหละ แต่หาก Zoom Out ออกมาดูพื้นที่โดยรอบอย่างที่บอกไปว่าทำเลนี้ใกล้กับย่านธุรกิจย่าน สีลม สาทร พระราม4 และอีกฝั่งจะเป็นทางออกไปถนนพระราม 3 สถานที่สำคัญรอบๆโครงการส่วนใหญ่จึงจะเป็นอาคารสำนักงานต่างๆชื่อดังหลายตึก

แต่ภายในตัวซอยเอง ก็มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งร้านอาหาร, Cafe, มินิมาร์ท, ซูเปอร์มาร์เกต และคอมมูนิตี้มอลล์ไซส์เล็กอยู่กระจายในพื้นที่ ส่วนศูนย์การค้าจะต้องออกไปตามถนนใหญ่หน่อย อาทิเช่น เซ็นทรัลพระราม 3 ใกล้ๆยังมี Community mall The Up พระราม 3, Vanilla Moon, De’ Forest, ตลาดนางลิ้นจี่, Tops Supermarket, Makro และ Tesco Lotus ให้คุณแม่บ้านพ่อบ้านจับจ่ายใช้สอย / นอกนั้นก็จะเป็นโรงเรียน โรงพยาบาล สถานทูต ส่วนสวนสาธารณะจะมีสวนลุมพินี และ สวนเบญจกิติในบริเวณใกล้ๆ ซึ่งรวมๆ แล้วก็ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากทีเดียว

ข้อดีของทำเลนี้คือ เราสามารถเข้าถึงโครงการได้จากหลากหลายเส้นทาง โดยเราสรุปเป็นแผนที่ออกมาให้ทั้งหมด 4 เส้นทาง ดังนี้

• จากถนนสาทร สามารถลัดเข้าสาทรซอย 1 ได้
• จากถนนพระราม 4 สามารถเข้าซอยงามดูพลี และซอยสุวรรณสวัสดิ์ เชื่อมมาซอยศรีบำเพ็ญได้
• จากถนนนราธิวาสฯ สามารถใช้ถนนจันทน์ เชื่อมมาถนนเย็นอากาศ ก็จะเข้าถึงซอยศรีบำเพ็ญได้
• จากถนนพระราม 3 สามารถลัดเข้าถนนนางลิ้นจี่ เชื่อมไปถนนเย็นอากาศได้

สำหรับตัวช่วยในการเดินทางอย่างทางด่วน เราลองหาจุดทางขึ้นลงทางด่วนใกล้ๆ รอบๆโครงการมาให้ดูว่ามีประมาณไหนบ้าง ก็ไม่ไกลทั้งทางด่วนเฉลิมมหานคร (ขึ้นลงทางพระราม 3) / จุดขึ้นลงทางด่วนบ่อนไก่ที่แยกพระราม 4 – คลองเตย / หรือจะไปขึ้นตรงแยกด่วนสาธุ เพื่อใช้ไปได้ทั้งสีลม-สาทร หรือดาวคะนองก็ได้ เรียกว่าเป็นทำเลที่ใช้ทางเลือกทางด่วนได้หลากหลายจริงๆ ค่ะ

เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในซอยย่อย เราจึงอยากพาเพื่อนๆ ลัดเลาะเข้าไปชมบรรยากาศรอบๆ โครงการกัน โดยจากถนนพระราม 4 เราจะเข้าซอยสุวรรณสวัสดิ์เพื่อเชื่อมมายังซอยศรีบำเพ็ญที่เป็นที่ตั้งของโครงการ รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 800 เมตรนะคะ ไปดูกันว่าบรรยากาศรอบๆ โครงการเป็นอย่างไร

หน้าตาของ Shuttle Car Service นั่งแบบหลวมๆ สบายๆ ได้ประมาณ 4 คน และมีรอบเดินรถแปะไว้ชัดเจน โดยรถจะวิ่งออกไปถนนพระราม 4 ไปส่งที่ MRT สถานีลุมพินี แล้ววนกลับเข้าซอยสาทร 1 มาที่ซอยศรีบำเพ็ญซอยโครงการค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

สำหรับสภาพแวดล้อมรอบๆโครงการส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาศัยชุมชนเก่าในละแวกนี้ มีคอนโด Low Rise และอพาร์ทเมนท์แทรกตัวอยู่บ้าง บรรยากาศค่อนข้างสงบกว่าช่วงต้นซอย ซึ่งเราสามารถสรุปได้ดังนี้

ทิศเหนือ : ด้านหน้าโครงการติดซอยศรีบำเพ็ญ และข้ามฝั่งไปเป็นที่ดินเปล่า กับบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ 3 ชั้นอยู่ติดกัน

ทิศตะวันออก : ทางขวามือติดกับบ้านพักอาศัย 1-2 ชั้น และก็ซอยเมฆสวัสดิ์ พอพ้นไปจะเป็นที่ของสถานีวิทยุทหารเรือ ซึ่งแน่นไปด้วยสวนในพื้นที่

ทิศใต้ : ฝั่งนี้จะค่อนข้างเงียบสงบนะ เนื่องจากแปลงที่ดินถัดไปนอกรั้วจะเป็นบ้านเดี่ยวที่มีที่ดินเปล่าขนาดใหญ่อยู่ในตัว ซึ่งจะมีแค่ 2-3 หลังเท่านั้นเอง

ทิศตะวันตก : ฝั่งนี้จะอยู่ติดกับคอนโดศรีบำเพ็ญ ซึ่งโครงการก็ได้คิดออกแบบให้โดนบล็อกวิวน้อยที่สุด โดยจะเห็นว่าห้องวิวฝั่งนี้มีเพียงแค่ 1 ยูนิตเท่านั้น และวางตำแหน่งให้ตรงกับสระว่ายน้ำของคอนโดศรีบำเพ็ญ (ห่างออกไปประมาณ 20 เมตร) ทำให้ห้องพักฝั่งนี้ได้วิวสระแทน เรียกว่าทำการบ้านวางตำแหน่งได้ดีค่ะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ออฟฟิศ / ห้างสรรพสินค้า / ตลาด 

• Lumpini Tower ~ 850 m.
• Q House ลุมพินี ~ 1.3 km.
• Tops Marketplace นางลิ้นจี่ ~ 1.5 km.
• One Bangkok ~ 1.6 km.
• FYI Center ~ 1.8 km.
• The Parq ~ 1.9 km.
• อาคารอื้อจื่อเหลียง ~ 2 km.
• Dusit Central Park ~ 2.3 km.
• Makro สาทร ~ 2.5 km.
• Silom Complex ~ 2.6 km.
• The Up พระราม 3 ~ 3 km.
• All Seasons Place ~ 3.2 km.
• Empire Tower ~ 3.3 km.
• Park Venture ~ 3.4 km.
• Samyan Mitrtown ~ 3.9 km.
• Vanilla Moon ~ 3.9 km.
• Central World ~ 4.3 km.
• Central Plaza พระราม 3 ~ 4.4 km.
• Central พระราม 3 ~ 4.4 km.
• Terminal 21 ~ 5 km.
• Terminal พระราม 3 ~ 7.4 km.

โรงพยาบาล

• MedPark Hospital ~ 2.1 km.
• BNH Hospital ~ 2.7 km.
• โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ~ 2.8 km.
• โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน ~ 3.2 km.
• โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ~ 3.7 km.

โรงเรียน

• Crescent International school ~ 600 m.
• โรงเรียนอนุบาลบ้านสานฝัน ~ 700 m.
• Garden International school ~ 800 m.
• วิทยาลัยเซนต์หลุยส์ ~ 3.9 km.
• โรงเรียนเซนต์หลุยส์ ~ 3.9 km.
• โรงเรียนสาธิตปทุมวัน ~ 3.9 km.
• โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ~ 4.5 km.
• จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ~ 4.6 km.

อื่นๆ

• สวนลุมพินี ~ 2.2 km.
• สวนเบญจกิติ ~ 3.2 km.
• สวนป่าเบญจกิติ ~ 3.8 km.

The TEAK สาทร–ลุมพินี เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น ตัวที่ 4 ของผู้พัฒนาโครงการ Teak Development  เป็นโครงการขนาดเล็กมีจำนวนเพียง 74 ยูนิตเท่านั้น ตอบโจทย์ผู้ที่ชอบความสงบเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย แต่ก็ให้ Facility มาครบครันไม่แพ้โครงการอื่นในละแวกนี้นะ จัดมาให้ที่ชั้น 1, 2 และ Rooftop และที่น่าสนใจคือ ขายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบ+ของตกแต่งเหมือนได้อยู่ห้องตัวอย่าง พร้อมทั้งเพิ่มตัว Home Automation มาให้ ซึ่งรูปแบบห้องที่นี่จะเน้นที่ 1 Bedroom เลยนะคะ ขนาดอยู่ที่ประมาณ 23 – 47 ตร.ม. ทำให้มี Total Package ส่วนใหญ่ราคาอยู่ในช่วงประมาณ 3 – 6 ล้านบาท หยิบจับไม่ยากจนเกินไปค่ะ

ส่วนของ Exterior หน้าตาภายนอกอาคารที่เป็นสไตล์ Modern Contemporary สมัยใหม่หน่อย ที่ตกแต่ง Facade (หน้าตาอาคาร) ด้วย Artificial Wood การใช้เส้นสายแนวตั้งที่มี Fin เฉียงช่วยบังแสงแดดและยังทำให้เฉดของแสงแดดเฉียงๆไม่เข้าห้องโดยตรง เราจะเห็นกระจกตั้งแต่งส่วนระเบียงกันตกเลย และหน้าต่างช่องแสงในห้องพักก็เป็นแบบ Full High Ceiling ที่ดูเต็มตาสะใจดีอีกด้วย

ตัวสถาปนิกที่โครงการเลือกใช้ คือ makeAscene Architect ที่มีผลงานให้เห็นมาไม่น้อยแล้วเหมือนกัน อาทิเช่น Cooper Siam / Klass Silom / FYNN Sukhumvit 31 / Savvi Pahol-Ari / Savvi Ari4 / Niche Mono Charoen Nakorn / Quarter Sukhumvit 39 อันนี้แค่ตัวอย่างนะคะ ยังมีอีกหลายที่เลย แต่ละที่ที่เอ่ยชื่อมาก็พอการันตีความสวยงามของโครงการได้ระดับนึงแล้วค่ะ

Ground Plan เข้าโครงการมาส่วนแรกทางขวามือจะเป็นส่วนของ Drop Off ซึ่งจะมีทางเดินเข้าไปในอาคาร เป็นบันไดวนไปสู่ Lobby ชั้น 2 / ส่วนทางเดินด้านนอกอาคารจะเป็นพื้นที่สีเขียวติดกับรั้วและไปขยายพื้นที่ออกตรงกลางเป็นศาลานั่งเล่น / ส่วนการเดินรถใต้อาคารเป็นแบบสวนทางกันได้ ที่จอดรถคิดเป็น 45% (รวมจอดซ้อนคัน) และมีช่องสำหรับ EV Charger 2 คันค่ะ

ระบบรักษาความปลอดภัยด้านหน้าจะมีพี่ รปภ. ดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงนะคะ ส่วนรถยนต์จะมีไม้กระดกกั้นอีกชั้นหนึ่ง

พื้นที่บนชั้น 1 จัดเป็นพื้นที่จอดรถเกือบทั้งหมด โดยมีอัตราส่วน 45% รวมจอดซ้อนคัน และมีช่องสำหรับ EV Charger ให้ไว้ 2 คันค่ะ

เมื่อจอดรถเสร็จแล้วเราก็สามารถเดินเข้าประตูไปยังโถงลิฟต์ได้เลย ซึ่งประตูนี้จะไม่ต้องผ่าน Lobby นะ ใช้ขึ้นตรงไปยังชั้นที่พักได้เลย

สำหรับประตูหลักของโครงการจะอยู่ด้านหน้าสุด เป็นประตูกระจกบานใหญ่ที่ต้องผ่านเข้าออกโดยใช้ Keycard ซึ่งเรามองว่าดีต่อความปลอดภัยของลูกบ้านมากๆ เลย ส่วนแขกที่มานัดพบอาจจะเข้าไปรอในสวนได้ ซึ่งจะต้องเดินผ่านด้านข้างอาคารที่ติดกับกำแพงเข้าไปนะคะ

พื้นที่สีเขียวสวนหย่อมด้านในตกแต่งไว้ให้บรรยากาศดูเขียวครึ้ม ได้ร่มเงาจากอาคารที่คอยบังแดดให้ทั้ง 2 ฝั่ง และภายในก็จะมีศาลานั่งเล่นพักผ่อนแบบ Semi Outdoor ด้วยค่ะ

เข้ามาด้านในอาคารบริเวณ Lobby ชั้น 1 จะเห็นได้ว่าการตกแต่งค่อนข้างดูอบอุ่น ใช้โทนสีสว่างหน่อยอย่างกระเบื้องลายหินธรรมชาติ กรุผนังตกแต่งด้วย Artificial wood และหินอ่อนสีขาว โซนนี้จะเป็นเพียง Welcome Area เท่านั้นนะคะ หากอยากนั่งพักคอยต้องขึ้นบันไดไปที่ชั้น 2 ค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 ส่วนด้านหน้าติดถนนจะเป็นส่วนกลางที่รวมพื้นที่ฟังก์ชันด้วยกันระหว่าง Lobby / Co-Working Space และติดกันมีห้อง Fitness ซึ่งโถงทางเดินส่วนพักอาศัยจะต้องแตะ Keycard เข้าไปอีกทีเพื่อยังรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของโซนพักอาศัย โดยชั้นนี้จะมีห้องพักอยู่ที่ 8 ยูนิตเท่านั้นค่ะ

Co-Working Space เป็นพื้นที่รับรองขนาดใหญ่กินพื้นที่ด้านหน้าเกือบทั้งหมด ซึ่งจะมีชุดโซฟาให้นั่งเล่น/ พักคอย / นัดพบกันได้

ติดกับ Co-Working Space จะมีห้องส่วนกลางอย่าง Fitness ซึ่งเป็นห้องกระจกเข้ามุมดูโปร่งโล่งมาก ภายในลงเครื่องเล่นเอาไว้ประมาณ 5-6 ชิ้น

ในส่วนของลิฟต์จะอยู่ด้านหน้าอาคารติดกับ Co-Working Space ลิฟต์โดยสารในโครงการนี้มีมาให้ 2 ตัว อัตราส่วนลิฟต์ถือว่าน้อยทีเดียว 37 : 1 เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าโครงการส่วนใหญ่ในละแวกนี้ ช่วงเวลาเร่งด่วนก็ไม่ต้องรอนานนัก พอลูกบ้านยูนิตไม่เยอะก็จะไม่ค่อยต้องแชร์ลิฟต์ร่วมกับใครมาก ก็ช่วยเรื่องความปลอดภัยในยุค Covid ด้วยนะคะ

ชั้น 3-5 แปลนจะเหมือนกันโดยนับว่าเป็น Typical Plan (ห้องพักอาศัยเต็มจำนวน) ซึ่งทั้งชั้นจะมีเพียง 11 ยูนิต และเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด มีแค่ตำแหน่งเดียวล่างซ้ายที่เป็นแบบ 1 Bedroom Plus (Type I ขนาด 43.72 ตร.ม. ใหญ่สุดในโครงการนี้แล้ว) และก็สลับกันที่มุมขวาบนเป็นไซส์เล็กสุดอย่าง Type A ขนาด 23.56 ตร.ม. ดูผิวเผินเหมือนจะเป็นห้องผืนผ้าตอนลึกแต่ห้องนี้มีความพิเศษคือมีหน้าต่างช่องแสงถึง 3 ด้านทีเดียว

อีกตำแหน่งที่น่าสนใจคือ ห้อง Type H ขนาด 34.45 ตร.ม. เป็นห้องหน้ากว้างที่โครงการวางตำแหน่งห้องให้หันไปทางศรีบำเพ็ญคอนโดเพียงห้องเดียวเท่านั้น และเลือกตำแหน่งห้องไปอยู่ตรงสระว่ายน้ำของศรีบำเพ็ญพอดี เป็นการออกแบบให้แก้ปัญหากับการถูกบังวิวไปเจอแต่ห้องพักอาศัยตรงๆได้ดี สำหรับใครที่อยากได้ระเบียงกว้างหน่อยใช้งานได้เต็มที่มีแนะนำเป็นห้อง Type G ขนาด 31.57 ตร.ม. ซึ่งทางโครงการจัดตำแหน่ง Condensing Unit ไว้ติดกับห้องน้ำ ทำให้ใช้งานระเบียงได้เต็มที่ และเป็นห้องที่มีอ่างอาบน้ำให้ด้วยค่ะ

ส่วนชั้น 6-7 ก็จะเป็นแปลนคล้ายๆ กันเลยต่างเพียงแค่ มีห้องเพิ่มขึ้นมาเป็น 12 ยูนิต/ ชั้นค่ะ

บรรยากาศทางเดินภายในอาคารจะได้แสงธรรมชาติผ่านช่องหน้าต่างบานใหญ่ ซึ่งใช้เปิดระบายอากาศได้ด้วย

ที่ชั้น 8 แปลนห้องพักกลับมาเป็นเหมือนกับที่ชั้น 2 อีกครั้งนึง แต่ฝั่งด้านหน้าอาคารที่เว้นว่างไว้ เพราะเป็นส่วนของงานระบบใต้ท้องสระว่ายน้ำที่ชั้น Rooptop ค่ะ

ชั้น Rooftoop ทั้งหมดจะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง โดยไฮไลท์คงเป็นเจ้าสระว่ายน้ำด้านหน้ามีขนาด 4 x 15 เมตร ลึก 1.20 เมตร อย่าลืมว่าแชร์กันใช้กับเพื่อนบ้านแค่ 74 ยูนิตเท่านั้น ถือว่าเพียงพอกับทุกครอบครัวนะคะ

เราชอบความสะดวกในการขึ้นลิฟต์มาใช้ชั้นดาดฟ้ามากเลย ซึ่งพื้นที่หน้าลิฟต์จะทำไว้เป็นผนังกระจกรอบด้าน พอเปิดลิฟต์ออกมาก็เห็นวิวสระว่ายน้ำเลยค่ะ

Highlights ของ Facility ในโครงการ เราขอยกให้สระว่ายน้ำเลยนะคะ เพราะจากที่ไป Survey มาสระว่ายน้ำของโครงการ Low Rise ส่วนใหญ่จะไม่ได้เอามาไว้บน Rooftop นะคะ แต่ส่วนมากจะวางสระไว้ชั้น 1 หรือไม่ก็ชั้น 2 แทน โดยพื้นสระจะปูด้วยหินอ่อนแผ่นชิ้นเล็กโทนสีดำ มีส่วนที่เป็น Jacuzzi และจะมีส่วนที่ให้มานอนอาบแดดริมสระด้วยค่ะ

ติดกับสระว่ายน้ำจะมีศาลานั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ให้มานั่งหลบแดดชมวิวสระได้ ให้ลูกบ้านทุกคนได้ขึ้นมาเปลี่ยนบรรยากาศรับลมชมวิวได้ค่ะ

อีกฝั่งหนึ่งบนชั้นนี้จะเป็นพื้นที่นั่งเล่น แยกโซนสองจุดเป็น Relax Area และก็สนามหญ้าที่เมื่อเดินมาจนสุดทางก็จะพบกับวิวผ่านราวกันตกกระจกได้  ซึ่งฝั่งนี้เป็นฝั่งตะวันออก ที่มองจากระยะกลางจะเห็นซอยเมฆสวัสดิ์ และถัดไปจะเป็นสถานีวิทยุทหารเรือ ซึ่งเต็มไปด้วยสวนจึงได้วิวพื้นที่สีเขียวเต็มตาเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

ชั้น 1

• Lobby
• สวนหย่อม และ Pavilion นั่งเล่นพักผ่อน
• ที่จอดรถประมาณ 45% (รวมซ้อนคัน)
• ช่องสำหรับ EV Charger 2 คัน

ชั้น 2

• Co-Working Space
• Mail Box
• Fitness

Rooftop

• สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาดประมาณ 4 x 15 เมตร ลึก 1.2 เมตร
• Pavilion
• Daybed Area
• สวนหย่อม

อื่นๆ

• ลิฟท์โดยสาร 2 ตัว
• อัตราส่วนลิฟต์ 37 : 1
• Shuttle Car Service ไป MRT ลุมพินี (ไปออกพระราม 4, ผ่านหน้า MRT ลุมพินี วนกลับสาทร 1 และเข้าโครงการ)
• ประตูเข้า-ออก ไม้กั้นกระดก
• ระบบ CCTV / Keycard Access
• รปภ. รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

โครงการนี้ มี Room Layout ที่ค่อนข้างหลากหลายนะคะ เนื่องจากแปลนของอาคารที่ไม่ใช่สี่เหลี่ยมด้านเท่า ทำให้แต่ละห้องใน 1 ชั้นนั้นแทบจะไม่เหมือนกันเลยสักแบบเลย  จึงมีแบบห้องทั้งหมด 11 แบบ ดังนี้ค่ะ

1 Bedroom 1 Bathroom

• Type A : 23.56 Sq.m.
• Type B : 29.92 Sq.m.
• Type C : 31.85 Sq.m.
• Type D : 31.32 Sq.m.
• Type E : 32.48 Sq.m.
• Type F : 33.97 Sq.m.
• Type G : 31.57 Sq.m.
• Type H : 34.45 Sq.m.

1 Bedroom Plus

• Type I : 43.72 Sq.m.
• Type J : 47.62 Sq.m.
• Type K : 47.41 Sq.m.

รูปแบบการขายดั้งเดิมของโครงการนี้คือ Fully Furnished ที่ให้มาครบเลยทั้ง Furniture  Built-In และ Loose Furniture, ทำรางผ้าม่าน+ติดตั้งม่านให้, ติดวอลเปเปอร์, ชุดครัว Hob&Hood, พื้นเป็นกระเบื้องยางไวนิล, Floor to Ceiling 2.4 เมตร ในห้องน้ำได้ของ Kohler ทั้งหมด พร้อม Home Automation ส่วนปัจจุบันก็มีการตกแต่งเพิ่มเติมให้ โดยเราจะได้ทุกอย่างเหมือนในห้องตัวอย่างเลยค่ะ ซึ่งทางโครงการเรียกรูปแบบนี้ว่าเป็น Fully Decorated คล้ายไปพักโรงแรม หรือ Boutique Apartment ที่มีของใช้มาให้ครบ ซึ่งเราสามารถสรุปวัสดุหลักๆ ได้ดังนี้

• กระเบื้องยางไวนิล
• Wallpaper
• เซาะร่องทำรางผ้าม่าน + ติดผ้าม่านมาให้ (ผ้าม่าน 2 ชั้น)

ห้องรับแขก

• Built-in ตู้เก็บรองเท้า และชั้นวางของ
• โต๊ะทานอาหาร + เก้าอี้
• ชั้นวางทีวี
• ทีวี 43 นิ้ว
• ชุดโซฟา + โต๊ะกลาง + หมอนอิง
• ของตกแต่งในห้องรับแขก เช่น ชั้นวางของตั้งโชว์, กระถางต้นไม้ปลอม, ที่คั่นหนังสือ, กล่องเก็บของ, ของตกแต่ง
• ของใช้บนโต๊ะทานอาหาร เช่น แผ่นรองจาน, ผ้าเช็ดปาก, เชิงเทียน, จาน, ชาม, แก้วน้ำ, แก้วไวน์, ช้อนส้อมมีด
• กรอบรูปติดผนัง
• พรม

ห้องครัว

• Counter ครัว + ตู้บนและเครื่องใช้ไฟฟ้า Hob, Hood, Sink
• ชั้นวางของ
• ตู้เย็น 8.4 คิว
• ไมโครเวฟ
• ของใช้ในครัว เช่น หม้อ, ทัพพี, โหลเก็บของ, ทัพเพอร์แวร์, เครื่องทำกาแฟ (บางห้อง), จาน, ชาม, แก้วเสริม
• กระจกกันเปื้อนครัว (Backsplash)

ห้องนอน

• เตียงนอน
• ฟูก + หมอน
• ผ้าปูที่นอน + ปลอกหมอน
• ผ้านวม + ปลอกผ้านวม
• หมอนอิง
• Built-in ตู้เสื้อผ้า บานตู้กระจกใส
• Built-in โต๊ะเครื่องแป้ง + เก้าอี้สตูล (บางห้อง)
• กรอบรูปติดผนัง

ห้องน้ำ

• สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำยี่ห้อ Kohler
• ฉากกั้นอาบน้ำ
• อ่างอาบน้ำ (บางห้อง)

อื่นๆ

• ไฟ LED
• Home Automation
• Digital Door Lock
• แอร์ 1-3 เครื่อง ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง

และยังมีห้องที่ขายแบบ Fully Furnished ให้เลือกด้วย ซึ่งจะ Built-in เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวให้ครบ ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าและของตกแต่งที่จะต้องซื้อเพิ่มเองนะคะ

ห้องที่เราจะพาไปชมในรีวิวนี้จะเป็นแบบ Fully Decorated ทั้งหมดนะคะ โดยโครงการจะตกแต่งมาครบถ้วน ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าและของใช้ต่างๆ ทุกชิ้น ตามแบบในห้องที่เราจะพาไปชมเลยค่ะ

1 Bedroom Type H

ห้องแรกที่จะพาไปชมคือห้อง Type H ขนาด 34.45 ตร.ม. ส่วนตัวเราเองชอบห้องแปลนนี้ที่สุด เพราะปัจจุบันเราเองก็อยู่ห้อง 35 ตร.ม. แต่การจัดวางพื้นที่ใช้สอยมันไม่ลงตัวเท่านี้อ่ะ อย่างแรกเลยคือ เป็นห้องหน้ากว้าง 9 เมตร ได้ช่องแสงกว้างมาก ซึ่งถือเป็น Rare Item นะ  เรื่องถัดมาคือเป็น 1 Bedroom แบบเดียวในโครงการที่กั้นห้องนอนด้วยประตูสวิงบานทึบ ซึ่งให้ความเป็นสัดส่วนมากกว่า Type อื่นๆ สุดท้ายคือเป็นห้องที่ได้ครัวปิด อยู่กัน 1-2 คนได้สบายๆ และด้วยความที่โครงการให้เฟอร์ฯ มาครบการจัดวางทุกอย่างเลยดูค่อนข้างลงตัวค่ะ

แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรเพอร์เฟคไปซะทั้งหมด เพราะโครงการวางตำแหน่งห้อง Type นี้ไว้อยู่ทางทิศตะวันตกซึ่งชนกับคอนโดฝั่งตรงข้ามพอดี ทางโครงการจึงวางตำแหน่งให้ห้องตรงกับสระว่ายน้ำแทน ส่วนตัวเรารับได้เพราะคอนโดไม่ได้อยู่ในระยะประชิด และคอนโดข้างๆ ก็มีความสูงพอจะบังแดดให้ได้ จึงห้องทิศตะวันตกที่ไม่ร้อนจัด อีกประเด็นหนึ่งคือคอนโดฝั่งตรงข้ามนั้นไม่ได้หันห้องพักเข้าหาเราโดยตรงนะ ห้องเราจะตรงกับทางเดินส่วนกลางพอดี จึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องมองสบตาห้องพักฝั่งตรงข้ามอยู่ตลอด แต่อย่างไรก็แนะนำให้ไปดูห้องจริง วิวจริงกันดีกว่าค่ะว่าเราโอเคมั้ย

ประตูหน้าห้องติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ พื้นห้องจะสูงกว่าโถงทางเดินภายนอกเล็กน้อย การออกแบบนี้เป็นประโยชน์ต่อลูกบ้านมากๆ ในกรณีที่เกิดเหตุว่าห้องอื่นบนชั้นเดียวกัน เปิดน้ำทิ้งไว้ทำให้น้ำไหลออกมาท่วมทางเดิน ก็จะไม่ไหลเข้ามาสร้างความเสียหายให้ภายในห้องพักของเรานะคะ

Digital Door Lock ของ Great Lock ผ่านเข้าออกได้หลายวิธี เช่น รหัส PIN, Keycard, สแกนลายนิ้วมือ, กุญแจ เป็นต้นค่ะ

เข้าประตูมาจะเจอกับ Home Automation ก่อนเลยค่ะ ซึ่งจุดเดียวก็สามารถควบคุมดวงไฟ และแอร์ได้ทั้งห้อง แต่ทางโครงการจะต่อระบบไว้เฉพาะดวงไฟทั้งห้องนะคะ ระบบแอร์ยังไม่ได้ต่อเชื่อมไว้ให้ แค่เท่านี้เวลารีบๆ ก็ไม่ต้องไล่ปิดไฟทีละดวงแล้วค่ะ แถมยังสั่งงานผ่านระบบ Applications ในมือถือได้ด้วย ซึ่งจะมีการ Set User ของแต่ละห้องให้หลังจากซื้อและโอนห้องแล้วอีกทีนะคะ

บริเวณหน้าห้องจะมีพื้นที่ทางเดินให้ใช้เป็นพื้นที่เปลี่ยนรองเท้า เปลี่ยนบรรยากาศเพื่อเข้าสู่โซนพักผ่อนด้านใน พื้นห้องปูด้วยกระเบื้องยางไวนิลลายไม้ ซึ่งนอกจากช่วยให้บรรยากาศดู Homey ขึ้นแล้ว ยังทนน้ำได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนตอีกด้วยนะคะ

โครงการ Built-in ตู้เก็บของ, ตู้เก็บรองเท้าที่วางตำแหน่งไว้ใกล้ประตูเลยด้วย พอถอดรองเท้าปุ๊บก็หยิบมาเก็บในตู้ได้เรียบร้อยเลย ส่วนตัวชอบให้มีตู้วางรองเท้าอยู่หน้าห้องเลยนะ เพราะเวลาเข้าห้องมาก็ถอดเก็บได้เลย ห้องก็จะได้ดูเป็นระเบียบดี ส่วนที่เราว่าดีคือ เค้าใช้ Fitting ตู้ของ Hafele ได้มาตรฐาน นอกจากนี้ก็จะให้ตู้วางของโชว์มาพร้อมพร็อพตกแต่งด้วยนะคะ

ห้องครัวจะถูกวางตำแหน่งไว้ด้านหน้าห้องเช่นกัน ซึ่งได้มาเป็นครัวปิดมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นจากพื้นที่ส่วนอื่นๆ เพื่อกันกลิ่นและควันไม่ให้ฟุ้งไปทั่วนะคะ ทางเดินภายในห้องครัวกว้างเกือบ 1 เมตร ให้เดินทำครัวคนเดียวได้สะดวกนะคะ และภายในครัวมีตู้เย็นของ Samsung ติดตั้งไว้ให้พร้อมใช้งานขนาด 8.4 คิวค่ะ

โครงการจะ Built-in เคาน์เตอร์ครัวมาให้ พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ต่างๆ ได้ตามนี้เลยนะคะ …Top เคาน์เตอร์ได้เป็นหินสังเคราะห์และ Backsplash เป็นกระจกจึงเช็ดทำความสะอาดง่าย ส่วนบนของเคาน์เตอร์ครัวกันบ้าง แบ่งพื้นที่ใช้งานมาได้ครบทั้งอ่างล้างจาน, เตาไฟฟ้าพร้อมเครื่องดูดควัน และมีพื้นที่โล่งอีกเล็กน้อยไว้ให้เตรียมอาหาร

ซิงค์ล้างจานของ Teka เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวของ Teka เช่นกัน มาพร้อมเครื่องดูดควันแบบต่อท่อดูดควันออกไปด้านนอก ทำให้ระบายกลิ่นและควันได้ดีกว่าระบบหมุนเวียน ประกอบกับห้องนี้เป็นครัวปิดจึงสามารถทำอาหารไทยๆ ที่มีกลิ่นฉุนได้นะคะ เคาน์เตอร์ครัวด้านบนมีตู้ช่องโล่งพร้อมติดตั้งไมโครเวฟไว้ให้ของ Electrolux ซึ่งรุ่นนี้ใช้ Grill ได้ด้วยนะคะ ส่วนตู้ใต้เคาน์เตอร์จะแบ่งมาเป็นลิ้นชักย่อยๆ ซึ่งทางโครงการใส่จานชาม, ช้อนส้อมมาให้

อีกชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจก็คือหม้อเกาหลีใบสีครีมของยี่ห้อ Neoflam รุ่น Fika จากเกาหลีค่ะ ปิดท้ายด้วยการให้ชั้นวางของเพิ่มมาด้วยตามแบบในรูปสุดท้าย มาพร้อมทัพเพอร์แวร์, โหลเก็บของต่างๆ ตามแบบในรูปเลย

Common Area ของห้องเป็นพื้นที่กว้างๆ รวม Living & Dining ไว้ด้วยกัน เวลานั่งทานอาหารก็สามารถดูทีวีไปด้วยได้

โครงการวาง Sofa Bed ไว้ให้ ขนาด 2 นั่ง 2 คนกำลังพอดี ซึ่งมุมนี้วางโต๊ะกลางได้ด้วยแหละ ส่วนชั้นวางทีวีชิ้นนี้ก็ให้มาด้วยนะ วัสดุเป็นไม้ลามิเนต ให้มาพร้อม TV ตั้งโต๊ะขนาด 43 นิ้ว พอดีๆ กับระยะดูทีวีประมาณ 2.4 m.

โต๊ะทานอาหารที่โครงการให้มาด้วยจะมาพร้อมเก้าอี้ 2 ตัว โดยจะวางตำแหน่งไว้ริมหน้าต่างพอดี ทำให้ได้วิวและแสงธรรมชาติ ซึ่งนอกจากโต๊ะ + เก้าอี้แล้ว ของใช้ต่างๆ บนโต๊ะก็ให้มาด้วยเหมือนตามในรูปเลย ข้อดีของการให้ของใช้มาครบก็คือเราไม่ต้องเลือก Match ของใช้เอง ซึ่งบางทีมันก็หลุดธีมจากกัน และช่วยประหยัดเวลาไม่ต้องออกไปช้อปปิ้งเองด้วยค่ะ

ถัดมาที่ทางเดินกลางห้องกว้าง 1.7 m. ซึ่งจะเชื่อมไปห้องนอนและห้องน้ำ เราว่าทางเดินนี้ดูสว่างมากเพราะโครงการให้กระจก Full Height ยาวไปตลอดทาง มาพร้อมม่าน 2 ชั้น ซึ่งหน้าต่างของห้องจะมีบานที่เป็นบานกระทุ้งเปิดรับลม ระบายอากาศได้ ทำให้อยู่สบายนะคะ

ห้องน้ำที่นี่มีขนาดกลางๆ ใช้งานได้สะดวก สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ได้ ก็จะได้ของ Kohler ครบตามอย่างห้องตัวอย่างเลย แถมปลั๊กไฟแบบมีฝาปิดมาให้ / ภายในห้องน้ำแบ่งแยกส่วนเปียกแห้งไว้ด้วยฉากกั้นอาบน้ำและขอบธรณี ทำให้สามารถใช้งานได้เป็นสัดส่วน พื้นและผนังปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ทั้งหมด

พื้นที่อาบน้ำมีขนาดกว้างยาวประมาณ 0.87 x 1.5 m. เป็นขนาดที่ยืนอาบน้ำแล้วพอจะหมุนตัวได้เล็กน้อย โดยฉากกั้นอาบน้ำจะอยู่บนธรณีประตูอีกที ช่วยกันน้ำไม่ให้ไหลไปส่วนอื่น มือจับฉากกั้นมีขนาดใหญ่ดี จับได้ถนัดมือ ภายในพื้นที่อาบน้ำติดตั้งฝักบัวอาบน้ำไว้ให้ ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับทำติดตั้งชั้นวางของใช้ในห้องน้ำ เช่น สบู่ แชมพู

ห้องนอนจะอยู่สุดทางเดินซึ่งให้เป็นประตูปิดบานทึบ ทำให้ได้ความเป็นสัดส่วนในการพักผ่อน

เข้ามาในห้องนอนมีพื้นที่ใช้สอยพอสมควร โครงการจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้ เห็นบรรยากาศดูโปร่งๆ ไม่อึดอัดแบบนี้ เป็นเพราะประตูระเบียงบานใหญ่ ทำให้ได้แสงธรรมชาติผ่านเข้ามาเยอะ

โดยเฉพาะเซตผ้าปูที่นอน, ปลอกหมอน 2 ใบ, ปลอกผ้านวมที่โครงการเลือกมาให้ของ pasaya รุ่น 800 เส้นด้าย เช็คราคาคร่าวๆ ก็ประมาณ 15,000 บาทนะคะ รุ่นนี้เราเคยลองใช้แล้วผ้านุ่มลื่นสบาย ไม่ร้อนนะคะ ซึ่งก็จะให้มาครบทั้งหมอนและปลอกหมอนของ pazaya และ H&M Home ค่ะ

ข้างเตียงนอนเป็นพื้นที่ที่ทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าไว้ให้ เป็นตู้บานเลื่อนกระจก 3 ตู้เลย ภายในแบ่งเป็นชั้นย่อยๆ ให้เก็บเสื้อผ้าและของใช้เยอะ และมีตู้ที่ไม่ได้แบ่งชั้นย่อย เพื่อให้เก็บเดรสยาว, กระเป๋าเดินทาง, ถุงกอล์ฟ หรือของที่มีความสูงเป็นพิเศษได้

ข้างเตียงจะมีประตูกระจกบานเลื่อนสำหรับเปิดออกไประเบียง ซึ่งใช้สเปกเป็นกระจกนิรภัยนะคะ และเป็นช่องแสงให้กับห้องนอนด้วย หากใครที่ต้องการนอนดูทีวี ก็สามารถติดตั้งแบบแขวนบนผนังปลายเตียงได้ค่ะ

พื้นที่ระเบียงขนาดกะทัดรัดประมาณ 2.2 x 0.8 m. แค่พอให้วางราวตากผ้าเล็กๆ ได้ ราวระเบียงห้องนี้ทำออกมาได้ดี เป็นราวกระจก ทำให้เราสามารถชมวิวข้างนอกได้แบบได้มีราวระเบียงเกะกะสายตาเหมาะที่จะเอาไว้ชมวิว และโครงการกั้นพื้นที่สำหรับวาง Condensing Unit มาให้เป็นสัดส่วนช่วยบังสายตา แต่ตำแหน่งของ CDU ที่หันเข้าหาระเบียงก็ทำให้พื้นที่ได้ลมร้อนอยู่ตลอด แนะนำให้ติดกริลแอร์เบี่ยงลมร้อนเพิ่มสักหน่อยค่ะ

1 Bedroom Plus Type I

ถ้าชอบห้องตกแต่งพร้อมอยู่ Size ใหญ่เราขอแนะนำห้องนี้ค่ะ แบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 43.72 ตร.ม. สิ่งที่แรกที่เห็นคือ ห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้างได้ช่องแสงเยอะ และแบ่งโซนเป็นสัดส่วน เป็นห้องทิศใต้บนชั้น 2 ได้วิวสวน วิวต้นไม้เขียวๆ ของที่ดินข้างเคียงพอดี ค่อนข้างเงียบสงบค่ะ

ด้วยตำแหน่งของห้องอเนกประสงค์ที่อยู่ตรงกลางเลย เจ้าของห้องเลยเลือกได้ว่าจะทำเป็นห้องนอนเสริม หรือห้องทำงานส่วนตัวก็ได้ และสุดท้ายส่วนของห้องน้ำประตูทางเข้าออกเป็น Double Access สามารถเข้าออกได้จากโถงรวมหรือห้องนอน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาเยี่ยม จะได้เข้าห้องน้ำโดยไม่ต้องเดินตัดมาในห้องนอนเรา ส่วนตัวเชียร์ว่าเหมาะกับการอยู่แบบ 1-2 คนในยุค Work From Home นี้ เพราะจะได้มีห้องอเนกประสงค์ไว้นั่งทำงานได้เป็นสัดส่วนไม่อึดอัด

โครงการทำตู้เก็บรองเท้าเก็บของเหมือนกับห้องแรกเอาไว้ให้เรียบร้อย แต่ทว่าพื้นที่ตรงผนังกำแพงโล่งๆ ก็ยังสามารถ Built-In เพิ่มได้อีกนะ สำหรับห้อง Type นี้เรามองว่าถ้าใครอยากเก็บรองเท้าเพิ่มหรือเก็บของชิ้นใหญ่ทรงสูงก็ทำจะได้คุ้มพื้นที่

เปิดเข้ามาจะเป็น Common Area ที่จัดฟังก์ชันรวมกันระหว่างพื้นที่ทานอาหาร + ครัวเปิด + ชุดโซฟานั่งเล่น จุดที่เป็น Highlights เลยคือห้องนี้เป็นห้องหน้ากว้าง + ประตูช่องแสงแบบ Full Height เลยทำให้ช่องแสงธรรมชาติส่องผ่านมาในห้องได้เต็มที่ ดูกว้างโปร่งโล่ง

ชุดครัวที่จะขยายใหญ่กว่าห้องแรก กลายเป็น Pantry ตัว L ที่จะได้พื้นที่เก็บของ พื้นที่เตรียมอาหารมากกว่า แต่ชุดวัสดุต่างๆจะเหมือนกับห้องแรกที่พาไปดู พวกพื้นที่ในการเตรียมอาหารเนื่องจากเป็น Pantry L Shape ก็จะทำอาหารได้สะดวกขึ้น

ข้าวของเครื่องใช้และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ได้มาครบครันเหมือนห้องที่แล้ว คือให้จานชาม, ช้อนส้อมใส่ไว้ในลิ้นชักให้ครบถ้วน พร้อมถังไวน์ด้วยนะ ส่วนที่ให้มาพิเศษขึ้นของห้อง Type นี้ก็คือเครื่องชงกาแฟ Nespresso ให้มาพร้อมกาแฟแคปซูลเลยนะคะ

ทางซ้ายมือติดกับประตูจะเป็นชุดโต๊ะทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งที่อยู่ติดกับชุดครัว ทำให้สามารถขยับขยายมาเตรียมอาหารที่โต๊ะเพิ่มได้ พื้นที่ครัวจึงดูกว้างขึ้น และจากดต๊ะทานอาหารก็สามารถนั่งดูทีวี พูดคุยกับ Roommate ที่นั่งดูทีวีอยู่ได้นะคะ

ถัดมาที่ Living Area จะใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นหรือรับแขกก็ได้ ซึ่งให้พวกชุดเฟอร์ฯ มาครบ อย่างโซฟา, โต๊ะกลาง, ชั้นวางทีวี, ทำรางม่าน+ติดม่านให้ เป็นมาตรฐานตามนี้ ระยะดูทีวีห้องนี้จะกว้างหน่อยค่ะประมาณ 3 เมตร ซึ่งระยะนี้จัดทีวี 50 นิ้วได้จะเหมาะสมกับระยะของห้องค่ะ

หน้าตาชุดโซฟา L Shape ที่โครงการมีมาให้ เหลือพื้นที่ข้างๆทางขวาอีกนิดหน่อย หาโคมไฟสวยๆมาวางเสริมประดับพื้นที่ตรงนี้ได้ ชั้นวางทีวีจะเป็นแบบ Cabinet ลอยตัวเหมือนห้องแบบแรก ซึ่งห้องนี้จะเอาทีวีแขวนผนังไม่ได้นะ เนื่องจากด้านหลังจะเป็นตำแหน่งของห้องอเนกประสงค์ที่เป็นผนังกระจกค่ะ

ด้วยรูปทรงของห้องนี้ที่ด้านนอกอาคารเป็นทรงเฉียงตัด แต่พื้นที่ของระเบียงนับว่ากว้างพอให้สามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบ Semi Outdoor ได้เลยด้วย ตัวกันตกยังเป็นกระจกนิรภัยเช่นเดียวกันทำให้ไม่มีอะไรมาเกะกะสายตาเลยนะ ทางขวามือเป็นห้องเก็บ Condensing Unit ซึ่งห้อง Type นี้จะได้แอร์ 3 ตัวนะคะ ซึ่งทางโครงการก็ละเอียดอ่อนเลือกให้แอร์รุ่นที่รวม Condensing Unit เป็นตัวใหญ่ได้ ทำให้ประหยัดพื้นที่ระเบียงไปได้อีกนะ

กลับเข้ามาที่โถงทางเดินกลางห้องจะแจกไปยังห้องนอน ห้องอเนกประสงค์ และห้องน้ำที่อยู่ด้านในเข้าไปอีกค่ะ

โดยตรงกลางสุดในห้องนี้จะเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ที่โครงการกั้นเป็นกระจกใสกรอบอลูมิเนียมสีดำทั้งหมดแบบนี้ เพื่อให้ห้องแสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาในห้องและส่งผ่านไปยังห้องอื่นๆได้ด้วย

ถ้าเราเปิดเจ้าบานเลื่อน 3 ตอนออกทั้งหมด จะได้พื้นที่ความกว้างขวางในการเดินเข้าออกประมาณ 2.2 x 2.2 m. จึงสามารถจัดเป็นห้องนอนอีกห้องหนึ่งก็ได้ หรือใช้เป็นห้องทำงานก็จะได้เฟอร์ฯ มาครบตามแบบในรูป พร้อมใช้งานได้เลยค่ะ มุมที่ชอบคือตรงโซฟายาวติดหน้าต่าง ที่มองออกไปเห็นต้นไม้เขียวๆ พอดีเลย

ผ่านประตูเข้ามาในห้องนอน โดยในห้องนี้โครงการจะให้ฐานเตียง (พร้อมตกแต่งหัวเตียง) + ฟูก + หมอน + เซตผ้าปูที่นอน ปลอกผ้านวม ปลอกหมอนของ pasaya เหมือนห้องที่แล้ว แต่คนละโทนสี + หมอนตกแต่งของ Zara Home ค่ะ  ปลายเตียงจะเหลือทางเดินราวๆ 50 ซม. เผื่อใครอยากติดทีวีแขวนผนังก็ทำได้ค่ะ

มองย้อนกลับไปอีกฝั่ง จะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าเข้ามุมรูปตัว L โดยวัสดุทางโครงการก็จะทำแบบห้องแรกที่บอกนะครับว่าจะทำเป็นบานสไลด์และหน้าบานเป็นกระจกสีใส และติดกันทางซ้ายก่อนประตูทางเข้าห้องน้ำมีโต๊ะเครื่องแป้งให้มาด้วยค่ะ

ห้องน้ำของ Type นี้จะได้เป็น Double Access สามารถเข้าออกได้ทั้งจากโถงรวมและห้องนอน ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเวลามีแขกมาเยี่ยม จะได้เข้าห้องน้ำโดยไม่ต้องเดินตัดมาในห้องนอนเราก็ได้

มองย้อนกลับไปอีกฝั่ง จะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้าเข้ามุมรูปตัว L โดยวัสดุทางโครงการก็จะทำแบบห้องแรกที่บอกนะครับว่าจะทำเป็นบานสไลด์และหน้าบานเป็นกระจกสีดำทึบ และติดกันทางซ้ายก่อนประตูทางเข้าห้องน้ำมีพื้นที่ของโต๊ะเครื่องแป้งอยู่

วัสดุ อุปกรณ์ต่างๆในห้องน้ำยังได้เป็นของ Kohler เช่นกัน ต่างกันที่ตรงชุดอ่างล้างมือเคานเตอร์กับกระจกเงาจะเล็กกว่าเท่านั้น

1 Bedroom Type A

1 Bedroom Type G

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

The TEAK สาทร-ลุมพินี ราคา ณ วันที่ 30 มีนาคม 2565

• 1 Bedroom / ชั้น 3 / เนื้อที่ 23.56 ตร.ม. / ราคา 3.29 ล้านบาท หรือ 139,643 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom / ชั้น 5 / เนื้อที่ 31.57 ตร.ม. / ราคา 4.39 ล้านบาท หรือ 139,056 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom / ชั้น 8 / เนื้อที่ 34.45 ตร.ม. / ราคา 5 ล้านบาท หรือ 145,137 บาท/ตร.ม.
• 1 Bedroom Plus / ชั้น 2 / เนื้อที่ 43.72 ตร.ม. / ราคา 6.39 ล้านบาท หรือ 146,157 บาท/ตร.ม.

• รูปแบบการขาย Fully Decorated / Fully Furnished
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.4 เมตร
• มี Shuttle Car Service ไป MRT ลุมพินี
• จอง+ทำสัญญา แบบ 1 Bedroom 10,000 บาท และ 1 Bedroom Plus 30,000 บาท
• ค่ากองทุน 600 บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : โครงการ The TEAK สาทร-ลุมพินี จัดเป็นโครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ตั้งอยู่ซอยไม่ได้ติดถนนใหญ่ แต่ก็สามารถลัดเลาะไปย่านธุรกิจอย่างสีลม, สาทร, พระราม4 และพระราม 3 ได้สะดวก ซึ่งเป็นถนนสายหลักทั้งสิ้นที่มีทั้งอาคารสำนักงานเป็นย่านธุรกิจ และโรงเรียนชื่อดัง

ภายในซอยเอง ก็มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งร้านอาหาร, Cafe, มินิมาร์ท, ซูเปอร์มาร์เกต และคอมมูนิตี้มอลล์ไซส์เล็กอยู่กระจายในพื้นที่ ส่วนศูนย์การค้าจะต้องออกไปตามถนนใหญ่หน่อย อาทิเช่น เซ็นทรัลพระราม 3 ใกล้ๆยังมี Community mall The Up พระราม 3, Vanilla Moon, De’ Forest, ตลาดนางลิ้นจี่, Tops Supermarket, Makro และ Tesco Lotus ให้คุณแม่บ้านพ่อบ้านจับจ่ายใช้สอย ส่วนสวนสาธารณะจะมีสวนลุมพินี และ สวนเบญจกิติในบริเวณใกล้ๆ ซึ่งรวมๆ แล้วก็ถือว่ามีความอุดมสมบูรณ์มากทีเดียว

การเดินทางโดยใช้รถ : จัดว่าสะดวก หากใครเชี่ยวชาญเป็นคนพื้นที่ก็จะรับทราบดีกว่าพื้นที่บริเวณนี้มีทางลัดเลาะได้เยอะมาก แม้ว่าในช่วงเวลาเร่งด่วนที่รถติดมากๆก็ยังพอมีทางหนีทีไล่ไปออกถนนต่างๆได้เกือบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นพระรามที่ 4, พระรามที่ 3, สาทร, ถนนจันทน์, ถนนนราธิวาสฯ, ถนนเชื้อเพลิง ตลอดจนจุดขึ้นลงทางด่วนพระราม 4 (บ่อนไก่) ทำให้เป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัวมากกว่าคนที่ไม่ได้ใช้รถยนต์นะคะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : อยู่ระหว่าง MRT 2 สถานีคือ ลุมพินีและคลองเคย แต่จะไม่ได้อยู่ในระยะเดินสบาย 500 เมตรนะคะ ทางโครงการจึงจัดให้มี Shuttle Service รองรับ พาลูกบ้านไปออกพระราม 4, ผ่านหน้า MRT ลุมพินี วนกลับสาทร 1 และเข้าโครงการ อีกทั้งด้านหน้าโครงการเยื้องไปหน่อยปากซอยศรีอักษร (หน้าเซเว่น) ตรงนั้นมีพี่วินมอเตอร์ไซค์ประจำอยู่ แต่ด้วยความที่ถนนซอยนั้นแคบและฟุตบาทก็ไม่ค่อยจะมี เลยต้องระวังนิดหน่อยเวลาเดินไปเรียกใช้ค่ะ

วัสดุ : รูปแบบการขายดั้งเดิมของโครงการนี้คือ Fully Furnished ที่ให้มาครบเลยทั้งเฟอร์ฯ Built-In และลอยตัว, ทำรางผ้าม่าน+ติดผ้าม่านมาให้, มีวอลเปเปอร์ให้, ชุดครัว Hob&Hood, พื้นเป็นกระเบื้องยางไวนิล, สุขภัณฑ์ อุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำได้ของ Kohler และระบบ Home Automation แต่ในปัจจุบันมีการปรับรูปแบบการขายโดยทางโครงการจะตกแต่งห้องมาให้ด้วย เรียกว่า Fully Decorated ซึ่งก็จะได้ทั้งของใช้และพร็อพเหมือนในห้องที่ตกแต่งไว้เลย คงต้องพูดกันตรงๆ ว่าโครงการบวกราคาเข้าไปใน Total Package แล้วแหละ แต่สิ่งที่ลูกค้าที่เลือกโครงการนี้จะได้รับคือการตกแต่งที่เข้าธีมกันทั้งห้อง โดยที่ไม่ต้องไปเสียเวลาเดินช้อปปิ้ง Matching สีสันกันเอง และตามที่ดูเค้าก็ให้ของคุณภาพดีนะคะ

การออกแบบ : ตัวอาคารเป็นสไตล์ Modern Contemporary สมัยใหม่หน่อย ที่ตกแต่ง Facade ได้ค่อนข้างโดดเด่นทีเดียว ได้สถาปนิกมือดีอย่าง makeAscene Architect ที่มีผลงานชื่อดังมาไม่น้อยแล้ว การใช้เส้นสายแนวตั้งที่มี Fin เฉียงช่วยบังแสงแดดและยังทำให้เฉดของแสงแดดเฉียงๆไม่เข้าห้องโดยตรง เราจะเห็นกระจกตั้งแต่งส่วนระเบียงกันตกเลย และหน้าต่างช่องแสงในห้องพักก็เป็นแบบ Full High Ceiling ที่ดูเต็มตาสะใจดีอีกด้วย

รูปแบบห้องพักที่นี่เน้นแต่ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ซึ่งขนาดอยู่ราว 23.5 – 47.6 ตร.ม. ซึ่งอาจจะดูเล็กเพราะโซนนี้มักจะขายเป็นห้องไซส์ใหญ่ แต่ก็ทำให้ราคา Package หยิบจับง่ายไปด้วยอยู่ราวๆ 3 – 6 ล้านบาท มี Layout ห้องทั้งหมด 11 แบบ ซึ่งหลักๆ หลายแบบเกินครึ่งจัดฟังก์ชันลงตัวแล้ว แต่ด้วยรูปทรงรูปด้านอาคารที่มีทรงเฉียง ทำให้ยังดูลงตัวไม่สุดค่ะ

สาธารณูปโภค : ให้มาดีทีเดียวเมื่อเทียบกับคอนโด Low Rise ในละแวกเดียวกัน แต่อาจจะไม่ยิ่งใหญ่เหมือนกับตึก High Rise เพราะถ้าเลือกที่นี่เราจะ Trade Off กับความเป็นส่วนตัวที่แชร์กันใช้งานกับเพื่อนบ้านเพียง 74 ห้องเท่านั้น แชร์การใช้งานน้อย ไม่โทรมไวและไม่วุ่นวาย แต่ด้วยฟังก์ชันหลักที่มีให้ก็ถือว่าครบถ้วน ทั้งสวนชั้น 1 และดาดฟ้า, Lobby ขนาดใหญ่ที่รวมพื้นที่กับ Co-Working Space, Fitness และ Highlights ที่จัดไว้บน Rooftop อย่างสระว่ายน้ำและพื้นที่นั่งเล่นชมวิวนะคะ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 135,000 บาท/ตร.ม., 30 มีนาคม 2565

• ทำเล 7.75/10 – ทำเลในเมืองใกล้แหล่งงาน/ แหล่งช้อปปิ้งย่านสาทร, พระราม 4
• เดินทางด้วยรถ 8/10 – เดินทางสะดวก ไม่ติดถนนใหญ่  อยู่ในซอยแต่ลัดเลาะออกง่าย ใกล้ทางด่วนหลายจุด ที่จอดรถ 45% รวมซ้อนคัน
• ไม่ใช้รถ 7.25/10 – ห่างจาก MRT ประมาณ​ 1 กิโลเมตร มีรถ Shuttle รับ-ส่ง,  ใกล้วินมอเตอร์ไซค์, เรียก Taxi ไม่ยาก
• วัสดุ 8/10 – Fully Decorated และ Fully Furnished และ Home Automation ของค่อนข้างครบ
• แบบ 7.75/10 – โครงการยูนิตน้อย เน้นความเป็นส่วนตัว แบบห้อง 1 Bed และ 1 Bed Plus เน้นครอบครัวเริ่มต้น
• สาธารณูปโภค 8/10 – ครบครัน และพิเศษกว่าที่อื่นตรงที่สระว่าน้ำอยู่บน Rooftop ด้วยค่ะ

• UPPER CLASS
• 7.78 / 10.00

The TEAK สาทร-ลุมพินี เหมาะกับใคร

The TEAK สาทร-ลุมพินี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาบ้านในเมือง ชอบทำเลโซนสาทร-พระราม 4 เป็นหลัก ในงบ 3.29 – 6.39 ล้านบาทมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 23,000 – 45,000 บาท เป็นคนที่ไม่อยากเสียเวลากับการเดินทางเข้าเมืองมาทำงาน และมองว่าทำเลห่าง MRT ~ 1 km. ไม่เป็นไร แค่มี Shuttle Service ก็พอใจ แต่ให้ความสำคัญกับทำเลที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลสะดวก, ใกล้ทางด่วน ชอบโครงการที่แต่งครบพร้อมอยู่โดยที่ไม่ต้องซื้อและตกแต่งเพิ่มเองเลย และจากระดับราคา Package ของหลายห้องที่ถือว่าไม่แพงมากหยิบจับได้ง่าย อาจจะซื้อไว้เพื่อการลงทุนหรือซื้อไว้เพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 ก็ได้ค่ะ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc