รีวิวตึกเสร็จ U Charoen Residence Town in Town คอนโดห้องใหญ่หน้ากว้าง บนถนนศรีวรา จาก U Charoen Estate [รีวิวฉบับที่ 2496]

U Charoen Residence Town in Town (อยู่เจริญ เรสซิเด้นท์ ทาวน์ อิน ทาวน์) ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566

พิกัด Google Maps : 13.766706, 100.606093
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ U Charoen Residence Town in Town ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับถนนศรีวราเข้าซอยซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคลของโครงการไปเพียง 200 เมตร เดินได้ง่าย สำหรับย่านทาวน์อินทาวน์นี้ ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ค่อยเห็นคอนโดใหม่ในย่านนี้สักเท่าไรนะ ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการบ้านหรือ Home office ซึ่งมีราคาหลักสิบล้านขึ้นไปแล้ว

โดยคอนโดที่มีอยู่ในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นคอนโด Low Rise ที่มีมานานแล้ว ทั้งจาก Developer เจ้าใหญ่ และ Local Developer เลย ส่วนคอนโดใหม่ก็มีอยู่บ้าง แต่จะเป็นโครงการที่กำลังก่อสร้างอาจจะต้องใช้เวลา 1-2 ปีถึงจะเริ่มเข้าพักอาศัยได้ ทำให้ใครที่กำลังมองหาที่พักอาศัยแบบพร้อมเข้าอยู่ในย่านนี้ และมีงบประมาณ 3-5 ล้าน (รวมตกแต่ง) คอนโด U Charoen Residence Town in Town นี้ตอบโจทย์เลยค่ะ

U Charoen Residence Town in Town ตั้งอยู่ใกล้กับถนนศรีวรา ในย่านทาวน์อินทาวน์  ซึ่งเป็นถนนเส้นสั้นๆ ที่วิ่งขนานกับถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบด่วนรามอินทรา) โดยย่านนี้จะตั้งอยู่ระหว่างถนนใหญ่ 3 เส้นทางคือ ถนนรามคำแหง, ถนนลาดพร้าว และถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบด่วนรามอินทรา) สามารถเดินทางเข้า-ออกได้จากถนนทั้ง 3 เส้นนี้เลย ถือว่าสะดวกสำหรับคนที่ใช้รถใช้ถนนเป็นประจำเลยทีเดียวค่ะ

ความอุดมสมบูรณ์ ของย่านทาวน์อินทาวน์ถือว่าสูงมาก เป็นทำเลที่มีคนอาศัยอยู่หนาแน่น และเป็นย่านชุมชนแนวราบที่มีมานาน อีกทั้งยังเป็นโซนที่มีโรงเรียนใหญ่อยู่ถึง 3 แห่ง (รร.บดินทร์1, รร.อุดมศึกษา, รร.พระยาประเสริฐ) มีร้านอาหารชื่อดัง(อบอร่อย,ต้องตาปูดอง) และ Community mall ในตัว ซึ่งจากโครงการสามารถเดินไปได้หลายแห่งเลยค่ะ หรือหากจะสั่ง Delivery ค่าส่งไม่แพงหรือว่าฟรีด้วยค่ะ เพราะระยะทางใกล้มาก

หรือขยับออกมาหน่อยก็จะมีศูนย์การค้าใหญ่อยู่หลายแห่งเลย อย่าง Central Festival East Ville และ The Crystal Park บนถนนเลียบด่วนรามอินทรา หรือจะไปโซนหน้าราม ก็จะมี Foodland กับ The Mall ที่กำลังรีโนเวทชุดใหญ่อยู่ นอกจากนั้นยังเป็นย่านที่มีการทำธุรกิจประเภท Post Production, Casting อยู่เยอะ มีคนสัญจรไปมาอยู่ตลอด อีกทั้งยังมี Community Mall และร้านค้าหลายแห่งที่เปิด 24 ชั่วโมง ทำให้ย่านนี้คึกคักทั้งกลางวันกลางคืนเลยค่ะ

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางพิเศษฉลองรัช หรือทางด่วนรามอินทรา–อาจณรงค์ สามารถใช้ไปมอเตอร์เวย์, รามอินทรา , อ่อนนุช-บางนา หรือพระราม 3 ได้ โดยจุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ด่านประชาอุทิศ ซึ่งจากถนนศรีวราก็ให้ขับย้อนกลับไปออกถนนใหญ่จากถนนอินทราภรณ์เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปกลับรถหรือไปรถติดบนถนนใหญ่ ส่วนขากลับก็สามารถลงจากทางด่วน แล้วไปกลับรถมาหน่อย ก็สามารถเลี้ยวเข้าซอยลัดมาที่ถนนศรีวราได้เลย

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ มีให้เลือกใช้ค่อนข้างหลากหลายเลย มีวินมอเตอร์ไซค์ทุกหัวมุมถนน เดินมาใช้บริการกันได้ใกล้ๆ สามารถใช้เป็นอีกตัวเลือกสำหรับการเดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วนได้ดีเลยค่ะ เพราะอย่างที่รู้กันว่าทำเลในโซนนี้รถติดเป็นประจำนะ ส่วนการเดินทางโดยรถสาธารณะอื่นๆ ก็จะมีรถสองแถว และแท็กซี่ผ่านไปมาเป็นประจำ เดินออกมาเรียกใช้บริการกันได้ไม่ยากค่ะ

การเดินทางโดยรถไฟฟ้า สำหรับปัจจุบันถ้าจะใช้รถไฟฟ้าก็จะมี Airport Rail Link รามคำแหง (4.4 กม. ) MRT ศูนย์วัฒนธรรม ( 6 กม.)  และ BTS เอกมัย( 6.2 กม.)ให้ใช้งานได้ แต่ในอนาคตทำเลนี้จะใกล้รถไฟฟ้าถึง 3 สายด้วยกัน ดังนี้

• รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี) ปัจจุบัน มีความคืบหน้าอย่างมาก คาดว่าจะ เปิดให้บริการได้ในปี 2566 นี้ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีรามคำแหง (ประมาณ 2 กม.) สามารถนั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปได้ง่ายๆ
• รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ก็กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างเช่นกัน สามารถลัดเลาะไปตามซอยได้ ที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีฉลองรัช (ประมาณ 2.7 กม.)
• รถไฟฟ้าสายสีเทา (วัชรพล-พระโขนง-สะพานพระราม 9-ท่าพระ) ยังอาจต้องรอกันต่อไปอีก แต่หากสายนี้สร้างเสร็จเรียบร้อยก็จะกลายเป็นรถไฟฟ้าที่ใกล้โครงการมากที่สุด โดยสถานีที่ใกล้โครงการจะเป็นสถานีประชาอุทิศค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ตัวโครงการจะอยู่บนถนนส่วนบุคคลของโครงการ ห่างจากถนนศรีวราประมาณ 200 เมตร เดินได้สบายๆ สภาพแวดล้อมโดยรอบส่วนมากจะเป็นอาคารพักอาศัยหรือโฮมออฟฟิศสูง 2-5 ชั้น อาจจะคาดหวังเรื่องวิวภายนอกได้ยาก ดังนั้นถ้าอยากได้วิวโล่งหน่อยจะต้องเป็นชั้น 6-7 หรือเลือกห้องที่เทควิวสวนกลาง Courtyard แทน  โดยสภาพแวดล้อมรอบข้างสามารถสรุปได้ดังนี้

• ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ติดกับ โฮมออฟฟิศสูง 4.5 ชั้น
• ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ติดกับ ถนนส่วนบุคคลของโครงการ ,โฮมออฟฟิศสูง 4.5 ชั้น
• ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ติดกับ อาคารพักอาศัย และโฮมออฟฟิศ 2-3 ชั้น
• ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ อาคารพักอาศัย และโฮมออฟฟิศ 2-4 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Makro Food Service ~ 160 m.
• ต้นซุง Avenue ~ 600 m.
• อบอร่อย ~ 650 m.
• The Scene Town in Town ~ 800 m.
• At Park Town in Town ~ 1 km.
• Lotus Express Town in Town ~ 1.1 km.
• เดอะมอลล์ รามคำแหง ~ 4.2 km.
• Central Festival East Ville ~ 4.9 km.
• Crystal Design Center ~ 5.3 km.
• The Crystal Park ~ 6.1 km.

โรงพยาบาล

• ศูนย์แพทย์พัฒนา ~ 2.1 km.
• โรงพยาบาลรามคำแหง ~ 5.3 km.
• โรงพยาบาลลาดพร้าว ~ 4.2 km.
• โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 4.2 km.
• โรงพยาบาลเวชธานี ~ 5.8 km.
• โรงพยาบาลสมิติเวช ~ 5.9 km.

โรงเรียน

• โรงเรียนอุดมศึกษา ~ 1.2 km.
• โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ~ 2.1 km.
• มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 2.1 km.
• โรงเรียนพระยาประเสริฐ ~ 2.7 km.

U Charoen Residence Town in Town เป็นโครงการ คอนโด Low Rise บนถนนศรีวรา จาก U Charoen Estate ที่เมื่อก่อนคือโครงการ TAKKA ศรีวรา แต่ได้มีการ Rebranding เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เจาะกลุ่มคนวัยทำงาน เป็นเจ้าของธุรกิจอยู่ในละแวกนี้ หรือบ้านเดิมอยู่ในย่านแต่ต้องการขยับขยาย แต่ยังต้องการอาศัยอยู่ในโซนนี้ไม่ไกลจากบ้านของครอบครัว ที่ปัจจุบันมีราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท

ตัวโครงการเป็นคอนโด Low Rise สูง 7 ชั้น 2 อาคาร  ในจำนวนไม่เยอะมาก 208 ยูนิต  แบ่งเป็นอาคาร A จำนวน 100 ยูนิต และอาคาร B จำนวน 108 ยูนิต มาพร้อมส่วนกลางพื้นฐานให้ใช้งานครบครัน โดยโครงการมาในรูปแบบ Modern Japanese Style เน้นวัสดุที่มีลวดลายธรรมชาติ เน้นใช้วัสดุลายไม้ ดูอบอุ่นสบายตาดีเลยค่ะ

Master plan เรามาเริ่มที่ผังของทางโครงการกันก่อนนะคะ โครงการมีทางเข้า-ออกอยู่จุดเดียว จากถนนส่วนบุคคลของโครงการ ส่วนทางเดินรถภายในโครงการเมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับวงเวียนก่อน สามารถแวะ Drop ส่งคนก่อนลงที่จอดรถได้สะดวก ส่วนที่จอดรถจะอยู่ชั้นใต้ดิน แยกอาคารกัน โดยลูกบ้านสามารถจอดได้ทั้ง 2 อาคารเลย แต่ใครอยู่อาคารไหนก็จอดที่ใต้อาคารนั้นจะสะดวกกว่า เพราะจอดรถแล้วก็กดลิฟต์ตรงขึ้นห้องพักได้เลย

สำหรับการวางผัง ตัวอาคารวางเอียงทำมุมไปตามรูปทรงที่ดิน ประกบกันเกิดพื้นที่ Courtyard ตรงกลาง ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียว ทำให้ได้ได้ความเป็นส่วนตัวเมื่อใช้งาน นอกจากนั้นห้องพักด้านที่อยู่ด้านในก็ได้ความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น และยังได้วิวสระว่ายน้ำและสวนด้วยเช่นกัน

ส่วนกลางภายในโครงการจะอยู่ที่ชั้น 1 ทั้งหมด ที่บริเวณ  Courtyard กลางโครงการ และที่ชั้น 1 ของอาคาร A เท่านั้น ฉะนั้นใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวก็จะเหมาะกับห้องพักอาคาร B ส่วนใครที่ชอบใช้ส่วนกลางก็จะเหมาะกับห้องพักอาคาร A ส่วนห้องพักอาศัยของโครงการนี้จะมีตั้งแต่ชั้น 1-7 โดยห้องพักที่ชั้น 1 นี้จะมีความพิเศษตรงที่มีระยะฝ้าเพดานสูงกว่าห้องชั้นอื่นๆ อยู่ที่ 2.7 เมตร ส่วนห้องในชั้นอื่นๆ ระยะฝ้าเพดานจะอยู่ที่ 2.5 เมตร เป็นมาตรฐานค่ะ

มาเริ่มกันที่ประตูทางเข้าโครงการกันค่ะ โดยซุ้มประตูนี้จะอยู่ติดกับถนนศรีวราเลย มองเห็นได้ง่าย เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับถนนส่วนบุคคลของโครงการ ซึ่งใช้ร่วมกันกับโครงการ Baan U Charoen Town in Town ซึ่งเป็นโฮมออฟฟิศอีกหนึ่งโครงการจาก U Charoen Estate เช่นกัน ตรงเข้ามาจะเจอกับทางเข้าโครงการโฮมออฟฟิศก่อนทางซ้ายมือ ส่วนโครงการคอนโด U Charoen Residence Town in Town ตรงเข้าไปอีกหน่อยค่ะ

เมื่อเข้ามาสักประมาณ 200 เมตร จากถนนศรีวรา ก็จะเจอกับประตูทางเข้าโครงการเป็นแบบไม้กั้นกระดก ระบบ Bluetooth ระยะไกล ใช้งานได้สะดวกไม่ต้องเปิดกระจกรถแตะบัตรก่อนเข้าโครงการ ส่วนซ้ายมือเป็นป้อมรปภ.ที่คอยดูแลอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงเลยค่ะ

ตรงเข้ามาแล้ว ทางเข้าโครงการจะอยู่ทางซ้ายมือเลยค่ะ เมื่อเข้ามาจะเจอกับวงเวียนก่อน แต่หากจะลงที่จอดรถชั้นใต้ดินอาคาร B ก็สามารถตรงไปได้เลย

สำหรับใครที่จะ Drop แวะส่งใครก่อนก็สามารถใช้วงเวียนวนไปจอดส่งหน้าอาคารก่อนได้ ส่วนใครที่จะลงไปยังชั้นจอดรถใต้ดินอาคาร A ต้องวนหนึ่งรอบก่อนลงเช่นกัน สำหรับพื้นถนนในโครงการตรงนี้ปูด้วยหินลักษณะเป็นแบบ cobble stone ดูสวยงามดีเลยนะ

สำหรับที่จอดรถชั้นใต้ดิน จะแยกอาคารกัน โดยลูกบ้านสามารถจอดได้ทั้ง 2 อาคารเลย แต่ใครอยู่อาคารไหนก็จอดที่ใต้อาคารนั้นจะสะดวกกว่า เพราะสามารถจอดรถแล้วก็กดลิฟต์ตรงขึ้นห้องพักได้เลย ซึ่งที่จอดรถชั้นใต้ดินจะรองรับรถที่สูงไม่เกิน 2.10 เมตร นะคะ สำหรับรถที่ยกสูงหรือมีการตกแต่งก็จะมีที่จอดรถชั้น 1 รองรับอยู่ประมาณ 12 คัน โดยที่จอดรถในโครงการเป็นแบบช่องจอดปกติทั้งหมดจำนวน 92 คัน คิดเป็น 44.2% ถือว่าไม่เยอะมากนะ

อาคารพักอาศัยภายในโครงการนี้จะมี 2 อาคารซ้ายมือจะเป็นทางเข้าของอาคาร A ขวามือจะเป็นทางเข้าของอาคาร B ค่ะ ซึ่งทั้ง 2 อาคารจะโอบล้อม Courtyard ตรงกลางไว้

Courtyard บริเวณกลางโครงการ ออกแบบไว้เป็นสระว่ายน้ำกลางแจ้ง และพื้นที่สีเขียว ซึ่งตรงนี้จะเป็นทางเดินไปยัง Pool terrace และเชื่อมต่อไปยังส่วนกลางอาคาร A ก็ได้  ส่วนทางเดินขวาสุดจะเป็นทางไปยังสวนด้านในค่ะ

ตัวอาคารพักอาศัยวางล้อมรอบพื้นที่ Courtyard ตรงกลาง ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียว ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเมื่อใช้งาน นอกจากนั้น ยังเป็นการสร้างวิวที่ดี ให้กับห้องพักที่อยู่ด้านในอีกด้วย

สระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5×18 เมตร ลึก 1.20 เมตร เป็นขนาดที่สามารถใช้ว่ายออกกำลังกายได้จริงจัง ตัวสระกรุด้วยกระเบื้องสี Turquoise ดูสดชื่นดีเลยนะ

รอบสระมี Pool terrace ปูเป็นไม้เทียม ตัวสระออกแบบมีน้ำล้นตลอดแนว คอยสร้างเสียง ambience เพิ่ม บรรยากาศความร่มรื่นให้กับพื้นที่โดยรอบได้ดียิ่งขึ้น

พื้นที่สวนด้านในจะมีทางเดิน Hard scape ท่ามกลางสวนที่ทางโครงการได้มีการลงเป็นไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไว้พอสมควรเลย มาเดินเล่น พักผ่อน ในวันที่อากาศดีๆได้ค่ะ

มาเริ่มกันที่อาคาร A กันค่ะ อย่างที่บอกไป ส่วนกลาง Indoor  ทั้งหมดจะอยู่ที่อาคาร A ซึ่งประตูทางเข้าอาคารจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลย ซึ่งทำให้บริเวณนี้จะได้ยินเสียงน้ำไหลอยู่ตลอด รู้สึกร่มรื่นตั้งแต่หน้าประตูเลยนะ

Lobby เป็นพื้นที่ต้อนรับที่จัดเป็นชุดโซฟาไว้หลายจุด มานั่งเล่นพักผ่อน หรือจะใช้รับแขกกรณีไม่สะดวกให้ขึ้นห้องก็ได้ค่ะ นอกจากนั้นยังมีเคาน์เตอร์พนักงานคอยดูแลอยู่ด้วยนะ

บริเวณ Lobby ใช้กระจกสูงเต็มบานตลอดแนว เทควิวกลางคอร์ทได้กว้าง บรรยากาศดูร่มรื่นสดชื่นดีเลยค่ะ

ถัดเข้าไปด้านในเป็นพื้นที่ Co-working Space จะเอาไว้เป็นชุดโต๊ะทำงาน 4 ชุด มีปลั๊กไฟให้เรียบร้อย ใครทำงานอยู่ในห้องเบื่อๆ ถือโน้ตบุ๊คมา เปลี่ยนที่ทำงานกันได้ค่ะ

ด้านในจะมีประตูกั้นแยกไปยังโซนพักอาศัย ซึ่งตรงนี้จะใช้ระบบ Keycard Access เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับลูกบ้านได้ดียิ่งขึ้น

เมื่อเข้ามาจะเจอ mailbox ซึ่งของแต่ละอาคารจะแยกกันเลย โดยmailbox จะตั้งอยู่บริเวณ โถงลิฟต์ สามารถหยิบจดหมายก่อนขึ้นห้องได้เลยสะดวกดี

เดินต่อมาอีกหน่อย เป็นโถงลิฟต์ ส่วนด้านในซ้ายมือจะเป็นโถงไปยังโซนห้องพักอาศัย ส่วนประตูทางด้านขวาจะไปยังพื้นที่ส่วนกลางค่ะ

บริเวณนี้ มีประตูที่เชื่อมต่อออกไปยังสระว่ายน้ำได้เลย ส่วนซ้ายมือจะเป็นโถงเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำแยกชายหญิงและห้องออกกำลังกายด้านในสุดค่ะ

ห้องน้ำรองรับพื้นที่ส่วนกลางจะเป็นห้องน้ำแยกชายหญิงชัดเจนเป็นสัดส่วน เมื่อเข้ามาภายในห้องน้ำจะเจอกับส่วนอ่างล้างมือ 2 จุด ด้านในมีห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้องโถสุขภัณฑ์ 2 ห้อง

ห้องออกกำลังกาย ภายในมีเครื่องออกกำลังกายมาให้ทั้งแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง 7 เครื่อง ด้านหนึ่งใช้เป็นผนังกระจกสูงเต็มบาน ทำให้ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดี ส่วนผนังอีกด้านหนึ่งใช้เป็นกระจกเงาเพื่อ ให้ดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

ห้องออกกำลังกายอยู่ในตำแหน่งที่ติดกับสระว่ายน้ำ ในจุดที่สามารถเทควิว สระว่ายน้ำและสวนได้กว้างบรรยากาศดีทีเดียวค่ะ

อาคาร B มาดูอีกอาคารกันบ้างค่ะ สำหรับ canopy ของอาคารนี้ค่อนข้างยาว เวลา drop ส่งคนก็จะกันแดดกันฝนได้ระดับหนึ่งค่ะ

เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับ Lobby ซึ่งมีเคาน์เตอร์พนักงานรองรับอยู่เช่นกันพร้อมมีชุดนั่งเล่นจัดไว้ให้ 1 จุด เวลาใครมาหาก็สามารถนั่งรอได้สะดวก ส่วนด้านหลังเคาน์เตอร์จะเป็นห้องนิติบุคคลของโครงการนี้ค่ะ

ส่วนของโถงลิฟต์ และโถงห้องพักอาศัย แยกจากส่วน Lobby ด้วยประตูกระจกชัดเจน ซึ่งตรงนี้จะต้องใช้ Keycard access แตะก่อนเข้าเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับลูกบ้านค่ะ

สำหรับ Corridor ไปยังห้องพักอาศัยภายในโครงการ ออกแบบให้มีช่องเปิด ช่องแสงอยู่หลายจุดเลย ทำให้บริเวณโถงได้แสงเยอะ ระบายอากาศได้ดี ดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัดเลยค่ะ

ชั้น 2-7 เป็นชั้น Typical Floor มีแต่ห้องพักอาศัย โดยอาคาร A มีจำนวนยูนิตสูงสุด 15 ยูนิต และอาคาร B มีจำนวนยูนิตสูงสุด 17 ยูนิต ความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.5 เมตร ภายในชั้นมีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 52 : 1 ถือว่ามีความหนาแน่นต่ำมาก ไม่ต้องรอลิฟต์นานเลยค่ะ ส่วนแบบห้องจะเน้น 1 Bedroom เป็นหลัก และห้อง 2 Bedroom รองลงมา ส่วนการจัดวางห้องมีจุดที่น่าสนใจหลายจุด เราขอสรุปดังนี้

ห้องสีเทาอ่อน เป็นห้อง 1 Bedroom ห้องขนาดเริ่มต้น ซึ่งที่นี่มีให้เลือกทั้งแบบเทควิวด้านนอก และวิวสระว่ายน้ำกลางคอร์ทเลย ซึ่งปกติแล้วโครงการส่วนมากจะจัดให้เป็นห้องไซส์ใหญ่ที่จะได้วิวกลางคอร์ท ทำให้สำหรับโครงการนี้ใครที่อยากได้ห้องขนาดเริ่มต้นก็จะมีตัวเลือกของตำแหน่งห้อง+วิวที่หลากหลายให้เลือกเลยค่ะ

ห้องในวงเส้นประสีแดง ห้องพักโซนด้านในได้วิวสระว่ายน้ำ และสวนภายใน ได้บรรยากาศดี และได้ความเป็นส่วนตัวดีด้วยค่ะ

ห้องในวงเส้นประสีน้ำเงิน เป็น 2 ห้องที่มีโถงทางเดินหน้าห้องเป็นแบบ Single Corridor ไม่มีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามห้องเลย อีกทั้งโถงฝั่งนี้มีเพียง 2 ห้องเท่านั้น ได้ความเป็นส่วนตัวดี โดยห้องสีครีมจะเป็นห้องขนาดเริ่มต้นห้องเดียวที่ได้ทั้งอยู่ในจุด Single Corridor และได้วิวสระว่ายน้ำอีกด้วย ส่วนห้องสีเทาเข้มก็จะเป็นห้อง 2 Bedroom ห้องเดียวที่ได้วิวสระว่ายน้ำ 

ห้องในวงเส้นประสีเขียว เป็นห้องพักที่เทควิวสวน และจะไม่ตรงกับเพื่อนเลยด้วย ได้ความเป็นส่วนตัวดี อีกทั้งยังเป็นห้องที่ติดเพื่อนบ้านฝั่งเดียว ยิ่งทำให้ได้ความเป็นส่วนตัว ใครชอบวิวต้นไม้ ชอบความเงียบสงบหน่อย ตำแหน่งนี้น่าสนใจเลยค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• สวนหย่อมที่ชั้น 1
• สระว่ายน้ำระบบ เกลือ ขนาด 5×18 เมตร ลึก 1.20 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 7 เครื่อง
• Lobby & Co-Working Space
• ลิฟต์โดยสาร 2 ตัว/อาคาร
• อัตราส่วนลิฟต์รวมทั้งโครงการ 52 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก A 50 : 1
• อัตราส่วนลิฟต์ตึก B 54 : 1
• ที่จอดรถประมาณ 92 คันคิดเป็น 44.2%
• ระบบในการเข้า-ออก (รถยนต์) Bluetooth ระยะไกล
• ระบบในการเข้า-ออก (เดินเข้าออก ขึ้นลงอาคาร) Keycard Access
• CCTV ส่วนกลาง จำนวน 100 จุด
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

โปรดักส์โครงการ U Charoen Residence Town in Town จะเน้นเป็นห้องหน้ากว้าง พื้นที่พักผ่อนอยู่ติดช่องแสง ได้แสงธรรมชาติ และระบายอากาศได้ดี ส่วนแบบห้องมีให้เลือกอยู่ 2 แบบ ซึ่งสัดส่วนจะเน้นไปที่ห้องขนาดเริ่มต้น 1 Bedroom ขนาด 34.72  ตร.ม. ซึ่งถือว่าเป็นห้องขนาดเริ่มต้นที่ใหญ่ทีเดียว นอกจากนั้นยังมีห้อง 2 Bedroom ให้เลือกอีกด้วย ส่วนรูปแบบการขาย Fully Fitted คือให้ชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เครื่องปรับอากาศ และ Home Automation ฉะนั้นจะต้องเผื่องบประมาณสำหรับตกแต่งภายใน และซื้อเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมด้วยนะคะ

• 1 Bedroom ขนาด 34.72-41.6 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
• 2 Bedroom ขนาด 50-58.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท

วัสดุภายในห้อง

• ประตูทางเข้าหลักขนาด 1.0×2.4 เมตร วัสดุ วงกบไม้จริง ประตูไม้อัดสักพ่นสี พร้อมติดตั้งตาแมว กริ่ง และ Digital door lock
• ประตูภายในขนาด 0.9×2.05 เมตร วงกบไม้จริง ประตูไม้อัดสักพ่นสี มือจับก้านโยก Hafele
• ผนังฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมบัวพื้น
• พื้นห้องนอน ห้องนั่งเล่น ปูไม้ลามิเนตหนา 8 mm.
• พื้นระเบียง เป็นปูนขัดมัน
• พื้นและผนังห้องน้ำ ปูกระเบื้องแกรนิตโต ลายหินอ่อน ขนาด 60×60 cm.
• สุขภัณฑ์จาก HAFELE / Fitting ต่างๆ จาก Hafele / เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าหินสังเคราะห์ ,อ่างล้างหน้า TOTO / ฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass
• เครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic (เฉพาะห้อง 1 Bedroom) / ระบบท่อน้ำร้อน-เย็น จาก Stiebel Eltron (เฉพาะห้อง 2 Bedroom)
• กรอบประตูหน้าต่างเป็นอะลูมิเนียม Powder Coat ผิวเนื้อทราย กระจกสีเขียวตัดแสง
• เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์สีดำ(สำหรับห้อง 1 Bedroom) และ Top หินสังเคราะห์สีขาว (สำหรับห้อง 2 Bedrooms) / อ่างล้างจาน Hob&Hood และ ไมโครเวฟ ของ MEX / Backsplash วัสดุ กระจกสี (ดำ/ขาว)
• ฝ้าเพดานสูง 2.5 ม. (ห้องชั้น2-7), 2.7 ม. (ห้องชั้น 1) ฝ้าฉาบเรียบทาสีขาว
• เครื่องปรับอากาศ Wall Type 2-3 ตัว (แล้วแต่ขนาดห้อง)
• ปลั๊กและสวิตช์ไฟ จาก ART DNA

Home Automation

• Digital door lock จาก Yale ใช้งานได้ 4 ระบบ Passcode, Finger scan, Mobile app. , Key
• Smoke Detector 1 จุด บริเวณห้องนั่งเล่น
• Home Automation สามารถควบคุมเปิด-ปิดไฟส่องสว่าง และแอร์ ผ่าน Smart Phone ได้
• Smart Mirror ในห้องน้ำ สามารถเปิดไฟส่องสว่าง และไล่ฝ้าบนกระจก พร้อมช่องชาร์ต USB จาก Focco

สำหรับห้องตัวอย่างวันนี้เราจะพาไปชมจะเป็นห้องเริ่มต้น 1 Bedroom ขนาด 34.72 ตร.ม. ซึ่งมีสัดส่วนเยอะที่สุด และห้อง 2 Bedroom ขนาด 52.75 ตร.ม. ซึ่งเราจะพาไปรีวิวกันแบบละเอียดๆ เลย ส่วนห้อง 2 Bedroom ขนาด 58.50 ตร.ม. เราจะขอลงเป็น Gallery ภาพบรรยากาศภายในห้อง พร้อมบทวิเคราะห์แปลนนะคะ ส่วนบรรยากาศภายในห้องต่างๆ จะเป็นอย่างไรเราไปชมกันเลย

1 Bedroom ขนาด 34.72 ตร.ม.

 1 Bedroom ขนาด 34.72 ตร.ม. ห้องขนาดเริ่มต้นที่มีสัดส่วนเยอะที่สุด ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.59 ล้านบาท เป็นห้องที่มีให้เลือกทั้งแบบเทควิวด้านนอก และวิวสระว่ายน้ำกลางคอร์ทเลย ส่วนการจัดฟังก์ชันภายในห้องจะเน้นให้ส่วนพักผ่อนอยู่ติดหน้าต่างได้แสงธรรมชาติ ระบายอากาศได้ดี เป็นห้องที่อยู่อาศัยได้ 2 คนสบายๆ  ส่วนฟังก์ชันที่น่าสนใจเราขอสรุปดังนี้

• Common Area ขนาดใหญ่ 5.2×2.6 เมตร ที่รวมเอา พื้นที่ครัว พื้นที่ทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่นเอาไว้ด้วยกัน ดูโปร่งโล่ง  อีกทั้งเชื่อมต่อกับระเบียง ทำให้ได้แสงธรรมชาติ ได้ลมค่อนข้างดี
• ได้เคาน์เตอร์ครัว U-shape ขนาดใหญ่ เป็นการรวมพื้นที่ครัว และ Dinning table ไว้ด้วยกัน ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี และทำให้มีพื้นที่จัดเตรียมอาหารได้เยอะ
• ห้องนอนขนาดใหญ่กั้นแยกเป็นสัดส่วน  โดยจะกั้นด้วยผนังพร้อมประตูบานทึบ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ภายในห้องสามารถวางเตียง 5-6 ฟุต+จัดเป็น Walk in closet ได้เลย สำหรับห้องชั้น 1 ภายในห้องนอนจะมีระเบียงให้ตัว ให้สามารถออกมานั่งเล่นชมวิวสระว่ายน้ำได้ แต่ถ้าเป็นห้องชั้น 2-7 จะไม่มีระเบียง แต่จะได้ห้องนอนขนาดกว้างขึ้นนะคะ
• ห้องน้ำภายในห้องนอน ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับ Walk in closet ได้ต่อเนื่องกันดีสะดวกสบาย แต่ก็ต้องแลกกับ กรณีมีเพื่อนมาหา เวลาจะใช้ห้องน้ำต้องเดินผ่านห้องนอนสักหน่อยนะคะ

มาเริ่มกันที่ตัวประตูทางเข้าหลักกันก่อนเลยค่ะ ตัวประตูมีขนาด 1.0×2.4 เมตร ประตูไม้อัดสักพ่นสี พร้อมติดตั้งตาแมว กริ่ง และ Digital door lock จาก Yale ใช้งานได้ 4 ระบบ Passcode, Finger scan, Mobile app. , Key  เป็นมาตรฐานทุกห้องนะคะ

เข้าห้องมาแล้วเราจะเจอกับห้องครัวก่อนเลยค่ะ ซึ่งมีข้อดีคือเวลาที่ซื้อของเข้ามาก็สามารถจัดเก็บของในตู้ได้เลย ซึ่งห้องครัวเป็นแบบเปิด เชื่อมต่อพื้นที่นั่งเล่นด้านใน ทำให้บริเวณนี้ค่อนข้างสว่างเลย ส่วนระยะทางเดินหน้าเคาน์เตอร์ตรงนี้จะกว้างประมาณ 1 เมตร สามารถเดินสวนกันได้สบาย หรือใครจะหาตู้วางรองเท้าเล็กๆ มาวางเพิ่มเติมตรงนี้ก็ยังพอวางได้ค่ะ

สำหรับห้องตัวอย่างนี้เป็นห้องชั้น 1 ทำให้ระยะฝ้าเพดานจะอยู่ที่ 2.7 เมตร ดูโปร่งดีเลยค่ะ ส่วนพื้นปูไม้ลามิเนตหนา 8 มม. เวลาใช้งานต้องคอยระมัดระวังอย่าให้โดนน้ำเป็นเวลานาน อาจจะบวมได้ค่ะ ส่วนผนังในห้องมาตรฐานจะฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมบัวพื้นมาให้เรียบร้อย

เมื่อเข้ามาแล้วสวิตช์ไฟ จะอยู่ผนังฝั่งขวา เปิดใช้งานได้สะดวก ฝั่งซ้ายมือตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น ซึ่งออกแบบไว้ให้เป็นพื้นที่ในผนัง ดูเรียบดีเลยค่ะ

ปลั๊กและสวิตช์ไฟที่ได้จะเป็นของ ART DNA หน้าตาแบบนี้เลย นอกจากนั้นภายในห้องยังได้ Home Automation สามารถควบคุมเปิด-ปิดไฟส่องสว่าง และแอร์ ผ่าน Smart Phone ได้ สามารถสั่งการเปิดแอร์ให้ห้องเย็นก่อนที่จะมาถึงได้เลยนะ

มาดูส่วนครัวกันบ้าง ภายในห้องจะได้เคาน์เตอร์ U-shape ขนาดใหญ่ เป็นการรวมพื้นที่ครัว และ Dinning table ไว้ด้วยกัน ใช้งานได้ต่อเนื่องกันดี และทำให้มีพื้นที่จัดเตรียมอาหารได้เยอะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร ชิมไป คุยไป สามารถพาเพื่อนมาสังสรรค์เบาๆ ที่ห้องได้เลยค่ะ

สำหรับห้องนี้จะได้เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์สีดำขนาด 2.5×1.4 เมตร ได้ตู้เก็บของชั้นล่าง และบนแบบนี้เลย พร้อมติดตั้ง Backsplash กระจกสีดำมาให้ทั้งผนังด้านหลังและด้านข้าง ทำความสะอาดได้ง่าย ส่วนที่ฝ้าเพดานจะติดตั้ง Smoke Detector ไว้ให้ 1 จุดค่ะ

เคาน์เตอร์ครัวด้านล่างตรงกลางจะเป็นเตาไฟฟ้า พร้อมไมโครเวฟด้านล่าง ฝั่งขวาเป็นอ่างล้างจาน ใช้งานได้สะดวกต่อเนื่องกันดี โดยระยะหน้าเคาน์เตอร์ตรงนี้ค่อนข้างกว้าง สามารถยืนช่วยกันทำอาหารได้สบายเลย ส่วนตู้เก็บของด้านล่างมีช่องเก็บหลากหลายขนาด พร้อมหน้าบานทึบ และมีลิ้นชักช้อน ส้อม มาให้เรียบร้อย โดยช่องเก็บของบริเวณพื้นที่ใต้อ่างล้างจานจะได้ช่องเก็บค่อนข้างใหญ่ เหมาะกับการเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด และถังขยะสำหรับทิ้งเศษอาหารได้นะ

โดยชั้นวางของด้านบนจะเป็น แบบมีหน้าบานเปิดปิด เหมาะสำหรับวางจานชาม แก้วน้ำ ซึ่งก็จะกันฝุ่นได้ระดับหนึ่ง ส่วนด้านข้างจะมีช่องวางของแบบโปร่งไม่มีหน้าบาน ซึ่งจะเหมาะสำหรับวางอุปกรณ์ต่างๆ ที่หยิบใช้งานบ่อยๆได้สะดวกนะ

เคาน์เตอร์ครัวติดตั้ง ชุดอ่างล้างจานสี่เหลี่ยม 1 ช่อง เตาไฟฟ้า 2 หัว และที่ดูดควันแบบต่อท่ออากาศออกด้านนอกอาคาร นอกจากนั้นยังได้ ไมโครเวฟ Built-in อีกด้วย ซึ่งอุปกรณ์ทั้งหมดเป็นของ MEX นะคะ

ถัดมาเป็นส่วน Living area ซึ่งระยะจากเคาน์เตอร์ครัวถึงประตูระเบียงกว้าง 2.75 เมตร สามารถวางเป็นโซฟา 2 ที่นั่งชิดประตูแล้วยังเหลือพื้นที่ด้านข้าง สามารถเลื่อนเก้าอี้ทานอาหาร เข้า-ออกได้สบายๆ เลยค่ะ

Living area อยู่ติดกับส่วนระเบียง ทำให้ได้แสงธรรมชาติค่อนข้างดีอีกทั้งยังได้ หน้าต่างกระจกสูงเต็มบาน ยิ่งทำให้ห้องนี้ดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น สำหรับพื้นที่ตรงนี้สามารถวางโซฟาชิดผนัง พร้อมโต๊ะกลางได้พอดีๆ โดยระยะตรงนี้จะสามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-55 นิ้วได้เลยค่ะ

ระเบียงขนาด 2.6×1 เมตร ตากผ้าได้เยอะ โดยทางโครงการออกแบบมาให้ด้านข้างเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าแขวน Condensing Units ไว้ด้านบน โดยมีระแนงเหล็กพรางสายตาพร้อมประตูปิดเปิดได้ดูเรียบร้อยดี ด้านในมีการวางงานระบบต่างๆ รองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้าไว้ครบ ส่วนพื้นใช้เป็นปูนขัดมัน พร้อมมีก๊อกน้ำสามารถเปิดทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งตรงนี้ต้องหมั่นทำความสะอาดหน่อย เพราะอาจเกิดคราบ ตะไคร่น้ำได้ง่าย มาพร้อมราวกันตกกระจก ดูสวยงาม เวลามองออกมาจากห้องพักก็จะไม่มีอะไรบดบังวิว

ประตูห้องนอนภายในห้องมาตรฐานจะได้ ประตูไม้อัดสักพ่นสีขนาด 0.9×2.05 เมตร มือจับก้านโยก Hafele ดูมีดีไซน์ทีเดียวค่ะ

ห้องนอน กั้นแยกด้วยผนังทึบสามารถใช้งานส่วนนั่งเล่น และห้องนอนพร้อมกันได้โดยไม่รบกวนกัน ได้ความเป็นส่วนตัวดี ภายในห้องได้ประตูกระจกบานใหญ่สูงเต็มบาน ได้แสงธรรมชาติเยอะ เปิดรับลมได้ดี

สำหรับห้องนี้มีขนาดค่อนข้างกว้างเลย 2.6×3.7 เมตร โดยห้องพักอาศัยชั้น 1 ภายในห้องนอนจะมีระเบียงในตัว ส่วนห้องชั้น 2-7 จะเป็นส่วนห้องนอนเต็มพื้นที่ซึ่งก็จะได้ห้องนอนขนาดกว้างกว่าห้องนี้เล็กน้อยค่ะ

ภายในห้องตัวอย่าง วางเตียง 5 ฟุต แบบมีทางเดินปลายเตียงและด้านข้างพอดีๆ เน้นให้พื้นที่ข้างเตียงด้านในได้พื้นที่เยอะหน่อยสำหรับจัดเป็นตู้เสื้อผ้าได้สะดวก

ตัวระเบียงในห้องนอนมีขนาด 2.6×0.6 เมตร ไม่ใหญ่มากเป็นระเบียงที่ เหมาะสำหรับออกมาชมวิวสูดอากาศได้ หรือจะวางเก้าอี้สตูลเล็กๆ สักตัวก็พอได้ค่ะ

กลับมาดูกันที่อีกฝั่งหนึ่งกันบ้าง พื้นที่ข้างเตียงตรงนี้จะเหลือค่อนข้างกว้าง ภายในห้องตัวอย่าง Built-in เป็นตู้เสื้อผ้า แล้วยังเหลือพื้นที่หน้าตู้ค่อนข้างกว้างสามารถยืนร้องชุดหมุนตัวได้สบาย อีกทั้งยังอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกันดีเลยค่ะ

ห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับส่วนอ่างล้างหน้าและกระจกตรงกลาง ฝั่งขวาเป็นพื้นที่อาบน้ำฝั่งซ้ายเป็นโถสุขภัณฑ์ ส่วนประตูทางเข้าห้องน้ำก็จะมีขอบธรณีกั้นพื้นไว้ เพื่อกันไม่ให้น้ำจากห้องน้ำไหลออกมายังพื้นที่อยู่อาศัยส่วนอื่นๆ

อ่างล้างหน้าแบบฝังในเคาน์เตอร์จาก TOTO โดยท็อปใช้เป็นหินสังเคราะห์สีขาว ด้านล่างมีช่องเก็บของมาให้เรียบร้อย ด้านบนติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำมาให้เรียบร้อย ส่วนโถสุขภัณฑ์ และ Fitting ทั้งหมดจะได้เป็นสีดำ จาก HAFELE ดูเท่ดีเลยค่ะ

ส่วนกระจกเงาภายในห้องนี้จะสามารถเปิดไฟส่องสว่าง และไล่ฝ้าบนกระจก พร้อมช่องชาร์ต USB จาก Focco

ที่อาบน้ำให้ทั้งแบบ Hand shower และ Rain shower สีดำเช่นกัน พร้อมติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น Panasonic มาให้ด้วย สำหรับพื้นที่อาบน้ำห้องนี้มีขนาด 1.15×0.93 เมตร โดยพื้นที่อาบน้ำนี้ทางโครงการออกแบบพื้นให้ Slope เอียงลาดไปทางท่อระบายน้ำแทนการลดระดับพื้น พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass มาให้เรียบร้อยเลยค่ะ

2 Bedroom ขนาด 52.75 ตร.ม. 

2 Bedroom ขนาด 52.75 ตร.ม. เป็นห้องที่มีอยู่ทั้ง 2 อาคาร มีให้เลือกทั้งแบบเทควิวสระว่ายน้ำกลาง  Courtyard หรือวิวภายนอกได้ เป็นห้องที่เหมาะสำหรับอยู่อาศัยได้ 3-4 คน ส่วนจุดที่น่าสนใจมีดังนี้

• เป็นห้องหน้ากว้าง ที่จัดให้พื้นที่พักผ่อนหลักๆอย่าง Living area และห้องนอน อยู่ติดริมหน้าต่าง ได้แสงธรรมชาติ และระบายอากาศได้ดี เหมาะต่อการอยู่อาศัย
• Common Area ขนาดใหญ่ ที่รวมเอา พื้นที่ครัว พื้นที่ทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่นเอาไว้ด้วยกัน ดูโปร่งโล่ง อีกทั้งเชื่อมต่อกับระเบียง ทำให้ได้แสงธรรมชาติ ได้ลมค่อนข้างดี
• 2 ห้องนอนกั้นแยกเป็นสัดส่วน ด้วยผนังพร้อมประตูบานทึบ ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น ภายในห้องสามารถวางเตียง 5-6 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้เลย
• โถงแยกไปยังห้องนอน มีโถงสำหรับห้องนอน และห้องน้ำแยกจากส่วน Common area เป็นสัดส่วน ทำให้ห้องนอนได้ความเป็นส่วนตัวดี

เมื่อเข้ามาแล้ว จะเจอกับส่วน Common Area ซึ่งรวมพื้นที่ทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่น เอาไว้ด้วยกัน ดูโปร่งโล่งกว้างขวาง ส่วนขวามือจะเป็นห้องครัวซึ่งเป็นแบบเปิดยิ่งทำให้ดูโปร่งโล่ง สำหรับห้องนี้อยู่ชั้น 2 ระยะฝ้าเพดานจะอยู่ที่ 2.5 เมตร ส่วนพื้นห้องนอน ห้องนั่งเล่น เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมบัวพื้นเช่นกันค่ะ

Common Area เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ 2.8×5.35 เมตร สามารถจัดเป็นพื้นที่ทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นได้สบายๆ โดยบริเวณนี้อยู่ติดระเบียง ได้ประตูกระจกสูงเต็มบาน เทควิวได้กว้าง ได้แสงธรรมชาติเยอะ

มาเริ่มกันที่ซ้ายมือสุดเลย พื้นที่ตรงนี้จะเหมาะสำหรับวางเป็นตู้เก็บของตู้เก็บรองเท้า เพราะเป็นตำแหน่งที่อยู่ข้างประตูทางเข้าพอดี จะได้เข้ามาแล้วเก็บรองเท้า เก็บข้าวของได้สะดวกดี ถัดมาจัดวางเป็นโต๊ะทานอาหาร 4 ที่นั่ง แบบวางชิดผนังด้านหนึ่ง ซึ่งตรงนี้สามารถเปลี่ยนเป็นโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งได้นะ ส่วนด้านในสามารถวางโซฟา 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ สามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-55 นิ้วได้เลยค่ะ

ระเบียงขนาด 2.6×0.9 เมตร โดยทางโครงการออกแบบมาให้ด้านข้างเป็นพื้นที่สำหรับวางเครื่องซักผ้าแขวน Condensing Units ไว้ด้านบน โดยมีระแนงเหล็กพรางสายตาพร้อมประตูปิดเปิดได้ ด้านในมีการวางงานระบบต่างๆ รองรับการติดตั้งเครื่องซักผ้าได้ พื้นเป็นปูนขัดมัน ส่วนราวกันตกเป็นแบบกระจกเช่นกันค่ะ

มาดูอีกฝั่งกันบ้าง ตรงนี้จะเป็นส่วนครัวซึ่งเป็นแบบเปิด ทำให้ห้องยิ่งดูกว้าง ส่วนด้านในจะเป็นโถงแจกไปยังห้องนอน โดยซ้ายมือจะเป็นห้องนอนรอง ขวามือเป็นห้องน้ำ ส่วนด้านในสุดเป็นห้องนอนใหญ่ค่ะ

ส่วนครัวได้เคาน์เตอร์ครัว L-shape ขนาด 1.7×1.8 ม.  มีพื้นที่สำหรับเตรียมของทำอาหารได้เยอะ โดยท็อปครัวห้อง 2 Bedroom ทั้งหมดจะเป็นหินสังเคราะห์สีขาว ส่วนตู้เก็บของจะเป็นลายไม้โทนสีอ่อน มี Built-in ตู้เก็บของทั้งด้านบนและด้านล่างแบบในรูปเลย ส่วนอุปกรณ์ครัวต่างๆ ได้เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลยค่ะ

พื้นที่ครัวตรงนี้สามารถกั้นเป็นผนังกระจกเข้ามุมเพิ่มเติมได้นะคะ สำหรับใครที่ชอบทำอาหารอยากได้ความเป็นสัดส่วนมากขึ้น

เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง มีพื้นที่เก็บของเป็นแบบบานเปิด ลิ้นชัก ส่วนพื้นที่ใต้อ่างล้างจานจะเหมาะกับการเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด และถังขยะสำหรับทิ้งเศษอาหารค่ะ ส่วนชั้นเก็บของด้านบนจะเป็นทั้งแบบบานเปิดทึบ และแบบโปร่ง เก็บของได้หลากหลาย

ห้องนอนรองมีขนาด 3.2×2.6 เมตร สามารถวางตียง 5 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้สบาย สำหรับใครที่ชอบนอนดูหนัง ดูซีรีส์ ตรงนี้สามารถติดตั้งทีวีขนาด 52-55 นิ้วได้ค่ะ ส่วนบรรยากาศภายในห้องก็ค่อนข้างสว่างดีเลย ภายในห้องได้ช่องแสง 3 บาน พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้ 1 จุด ตอนกลางวันไม่ต้องเปิดไฟก็อยู่ได้สบายค่ะ

สำหรับห้องตัวอย่าง จัดวางเป็นเตียงขนาด 5 ฟุต แล้วยังมีทางเดินเหลือโดยรอบสบายๆโดยที่ด้านข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่งยังมีพื้นที่สามารถจัดเป็นตู้เสื้อผ้าได้ด้วยค่ะ

ห้องน้ำมีขนาดค่อนข้างกว้างเลย ภายในแยกส่วนเปียก ส่วนแห้งชัดเจน การจัดวางฟังก์ชันเรียงลำดับการใช้งานเป็น อ่างล้างหน้า, โถสุขภัณฑ์ และพื้นที่อาบน้ำ เป็นตำแหน่งที่ใช้งานง่ายดี  โดยห้องน้ำภายในห้อง 2 Bedroom ทุกห้องจะเป็นระบบท่อน้ำร้อน-เย็น จาก Stiebel Eltron นะคะ

อ่างล้างหน้าแบบฝังในเคาน์เตอร์จาก TOTO โดยท็อปใช้เป็นหินสังเคราะห์สีขาว ด้านล่างมีช่องเก็บของมาให้เรียบร้อย ซึ่งส่วนเครื่องทำน้ำร้อนจะติดตั้งอยู่ใต้อ่างล้างหน้าดูเป็นระเบียบเรียบร้อย ด้านบนติดตั้งกระจกเงาที่สามารถเปิดไฟส่องสว่าง และไล่ฝ้าบนกระจก พร้อมช่องชาร์ต USB จาก Focco และติดตั้งปลั๊กไฟพร้อมหน้ากากกันน้ำมาให้เช่นกัน ส่วนโถสุขภัณฑ์ และ Fitting จาก HAFELE แบบนี้เลยค่ะ

ที่อาบน้ำให้ทั้งแบบ Hand shower และ Rain shower สำหรับพื้นที่อาบน้ำห้องนี้มีขนาด 0.93×1.15 เมตร ยืนอาบน้ำหมุนตัวได้สบาย โดยพื้นที่อาบน้ำออกแบบพื้นให้ Slope เอียงลาดไปทางท่อระบายน้ำแทนการลดระดับพื้น รองรับการใช้งานของผู้สูงอายุได้ พร้อมติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass มาให้เรียบร้อยเลยค่ะ

มาดูส่งห้องนอนใหญ่กันบ้าง เมื่อเปิดเข้าห้องมาแล้วจะเจอกับโถงเล็กๆ ก่อน ซึ่งในห้องตัวอย่างตรงนี้จัดเป็นตู้เสื้อผ้าแล้วยังเหลือทางเดินหน้าตู้ค่อนข้างกว้างเลย

ส่วนด้านในจะเป็นพื้นที่ขนาด 3.2×2.6 เมตร สามารถวางเตียง 6 ฟุต แบบมีพื้นที่ด้านข้างสามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ 2 ฝั่งเลย สำหรับใครที่ชอบนอนดูหนัง ห้องนี้จะสามารถติดตั้งทีวีแบบแขวนขนาด 52-55 นิ้วได้เลยค่ะ

2 Bedroom ขนาด 58.50 ตร.ม.

2 Bedroom ขนาด 58.50 ตร.ม. ห้องขนาดใหญ่สุดภายในโครงการ  มีเฉพาะอาคาร B ในตำแหน่งเทควิวใน Courtyard ที่มีฟังก์ชัน และการจัดแปลนคล้ายกับห้องก่อนหน้าเลย โดยเป็นห้องที่สามารถอยู่อาศัยได้ 3-4 คน ส่วนจุดเด่นคือ เป็นห้องหน้ากว้าง อยู่ในตำแหน่งมุมอาคาร ทำให้แปลนห้องมีการบิดแกน สร้างมุมมองภายในห้องให้ดูแปลกตา น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

1 Bedroom ขนาด 34.72-41.6 ตร.ม.

2 Bedroom ขนาด 50-58.50 ตร.ม.

แปลนห้อง 2 Bedroom ขนาด 50-58.50 ตร.ม.

U Charoen Residence Town in Town ราคา ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566

• 1 Bedroom ขนาด 34.72-41.6 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
• 2 Bedroom ขนาด 50-58.50 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาท
• รูปแบบการขาย Fully Fitted
• ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดาน 2.50 เมตร (เฉพาะห้องชั้น 1 สูง 2.70 เมตร)
• Kitchen & Sink / ท็อปหินสังเคราะห์
• Hob & Hood / ของยี่ห้อ MEX
• จอง 5,000 บาท
• ทำสัญญา 20,000 บาท
• ค่ากองทุน n/a บาท/ตร.ม.
• ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเล : โครงการตั้งอยู่ใกล้กับถนนศรีวรา เข้าซอยซึ่งเป็นถนนส่วนบุคคลของโครงการไปเพียง 200 เมตร เดินได้สบายๆ โดยโครงการตั้งอยู่ในย่านทาวน์อินทาวน์ ซึ่งเป็นทำเลที่มีคนอาศัยหนาแน่น และมีโรงเรียนใหญ่อยู่ถึง 3 แห่ง มีร้านอาหารชื่อดัง และ Community mall อยู่เยอะ ซึ่งจากโครงการสามารถเดินไปได้ใกล้ๆ หลายแห่งเลยด้วย หาของกินได้ไม่ยากเลยค่ะหรือขยับออกมาหน่อยก็จะมีศูนย์การค้าใหญ่อยู่หลายแห่งเลย อย่าง Central Festival East Ville และ The Crystal Park บนถนนเลียบด่วนรามอินทรา หรือจะไป The Mall รามคำแหง และ Major ก็ได้ นอกจากนั้นยังใกล้สถานพยาบาลหลายแห่งอีกด้วยนะ

การเดินทางโดยใช้รถ :  ถือเป็นทางเลือกที่สะดวกสุดของย่านนี้เลยค่ะโดยที่ตั้งโครงการอยู่ระหว่างถนนใหญ่ 3 เส้นทางคือ ถนนรามคำแหง, ถนนลาดพร้าว และถนนประดิษฐ์มนูธรรม(เลียบด่วนรามอินทรา) สามารถเดินทางเข้า-ออกได้จากถนนทั้ง 3 เส้นนี้เลย อีกทั้งยังใกล้ทางพิเศษฉลองรัช ซึ่งจากโครงการเดินทางไปจุดขึ้นทางด่วนได้โดยไม่ต้องกลับรถให้เสียเวลา แต่อาจจะต้องเผื่อเวลาในการเดินทางกันสักหน่อย เพราะทำเลแถวนี้จะรถติดพอสมควรเลย เพราะมีสถานศึกษาและร้านอาหารหลายแห่ง ส่วนที่จอดรถของโครงการแบบไม่รวมซ้อนคัน 44.2% ถือว่าไม่เยอะมากนะ

การเดินทางโดยไม่ใช้รถ : มีให้เลือกใช้ได้หลากหลายเลย มีวินมอเตอร์ไซค์ทุกหัวมุมถนน เดินมาใช้บริการกันได้ใกล้ๆ มีรถสองแถว และแท็กซี่ผ่านไปมาเป็นประจำ เดินออกมาเรียกใช้บริการกันได้ใกล้ๆเลย นอกจากนั้นในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าให้ใช้บริการอีกด้วย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโครงการเลยค่ะ

วัสดุ : ห้องพักอาศัยขายแบบ Fully Fitted ที่ให้วัสดุมาดีทีเดียว ภายในห้องจะได้เฉพาะชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ เครื่องปรับอากาศ และ Home Automation ฉะนั้นต้องเผื่องบประมาณสำหรับตกแต่งเพิ่มเติมด้วยนะคะ

ส่วนวัสดุภายในห้อง ประตูทางเข้าหลักเป็นไม้อัดสักพ่นสี พร้อมติดตั้งตาแมว กริ่ง และ Digital door lock จาก Yale ส่วนกรอบประตูหน้าต่างเป็นอะลูมิเนียม Powder Coat ผิวเนื้อทราย กระจกสีเขียวตัดแสง พื้นกรุไม้ลามิเนตหนา 8 มม. เคาน์เตอร์ครัว Top หินสังเคราะห์ อ่างล้างจาน Hob&Hood และ ไมโครเวฟ ของ MEX และ Backsplash กระจก ทำความสะอาดได้ง่าย พื้นและผนังห้องน้ำปูกระเบื้องแกรนิตโตลายหินอ่อน ขนาด 60×60 ซม. เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าหินสังเคราะห์ + อ่างล้างหน้าจาก TOTO ด้านบนมีกระจกเงาที่สามารถเปิดไฟส่องสว่าง และไล่ฝ้าบนกระจก และช่องชาร์ต USB จาก Focco ส่วนสุขภัณฑ์ และ Fitting ต่างๆ จาก Hafele พร้อมฉากกั้นอาบน้ำกระจกนิรภัย Tempered Glass นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมเปิด-ปิดไฟส่องสว่าง และแอร์ ผ่าน Smart Phone ได้อีกด้วย

การออกแบบ : โครงการ ออกแบบให้ ผังอาคารมีลักษณะเป็นรูปตัว L ประกบกัน เพื่อให้เกิดพื้นที่ Courtyard ตรงกลาง ซึ่งเป็นสระว่ายน้ำและพื้นที่สีเขียว ทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวเมื่อใช้งาน นอกจากนั้นห้องพักด้านที่อยู่ด้านในก็ได้วิวสระว่ายน้ำและสวนด้วยเช่นกัน ส่วนตัวโครงการมาในรูปแบบ Modern Japanese Style เน้นบรรยากาศร่มรื่น โดยออกแบบให้พื้นที่ส่วนกลางเทควิวสวนกลาง Courtyard ได้เต็มที่  อีกทั้งมีการใช้วัสดุภายนอกส่วนใหญ่เป็นลายไม้ ยิ่งดูสบายตา นอกจากนั้นส่วนกลางต่างๆ รวมถึงโถงทางเดินภายในชั้นพักอาศัย ออกแบบมาให้ได้แสงธรรมชาติเยอะ ดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัดเลย

ห้องพักอาศัย ทุกแบบที่นี่จะเน้นเป็นห้องขนาดใหญ่ หน้ากว้าง พื้นที่พักผ่อนอยู่ติดช่องแสง ได้แสงธรรมชาติและระบายอากาศได้ดี การจัดฟังก์ชันเน้น Common area ที่รวมเอาพื้นที่ครัว พื้นที่ทานอาหาร พื้นที่นั่งเล่นเอาไว้ด้วยกัน ดูกว้างขวาง และได้ห้องนอนที่กั้นแยกเป็นสัดส่วนทุกแบบ ความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.50 เมตร (เฉพาะห้องชั้น 1 สูง 2.70 เมตร) พร้อมหน้าต่างกระจกสูงเต็มบาน ทำให้บรรยากาศภายในห้องสว่าง ดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

สาธารณูปโภค : มีส่วนกลางตามมาตรฐานครบ โดยหลักๆ จะอยู่ที่ Courtyard กลางโครงการ ประกอบด้วย สระว่ายน้ำเกลือ5×18 เมตร ลึก 1.20 เมตร ใช้ออกกำลังกายได้จริงจัง พร้อมมีสวนให้เดินเล่นและนั่งพักผ่อนกันได้ สำหรับส่วนกลาง Indoor จะอยู่ที่ อาคาร A ทั้งหมด ประกอบไปด้วย Lobby, Co-Working Space และ Fitness ทำให้คนที่อยู่อาคาร A จะสามารถมาใช้งานได้สะดวกกว่า แต่ก็อาจจะมีผู้คนพลุกพล่านมากกว่าเช่นกัน

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเล 35%, การเดินทางโดยใช้รถ 15%, การเดินทางโดยไม่ใช้รถ 15%, วัสดุ 15%, การออกแบบ 10% และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับช่วงราคาเฉลี่ยแบบทั้งโครงการ AVG 7x,xxx – 8x,xxx บาท/ตร.ม., 1 กุมภาพันธ์ 2566

• ทำเล 7.75/10 – ทำเลทาวน์อินทาวน์ บนถนนศรีวรา อุดมสมบูรณ์สูง
• เดินทางด้วยรถ 7.75/10 – มีเส้นทางลัดเลาะหลากหลาย ใกล้ทางด่วน ไม่ต้องกลับรถ มีที่จอดรถ 44.2%
• ไม่ใช้รถ 7.5/10 – เดินมาเรียกมีวินมอเตอร์ไซค์บนถนนศรีวราได้ใกล้ๆ อนาคตมีรถไฟฟ้าใช้งานไม่ไกล
• วัสดุ 8/10 – ขายแบบ Fully Fitted ต้องแต่งเพิ่ม แต่ให้วัสดุค่อนข้างดี
• แบบ 8/10 – ความเป็นส่วนตัวสูง ห้องใหญ่หน้ากว้าง
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – ส่วนกลางหลักๆ ครบ บรรยากาศร่มรื่น ตกแต่งสวยงาม น่าใช้งาน

• MAIN CLASS
• 7.75 / 10.00

U Charoen Residence Town in Town เหมาะกับใคร

โครงการ U Charoen Residence Town in Town เหมาะกับคนที่กำลังมองหาคอนโดใหม่พร้อมอยู่ในย่านทาวน์อินทาวน์ ทำเลอุดมสมบูรณ์ และเดินทางด้วยรถส่วนตัวเป็นหลัก ชอบความเป็นส่วนตัว อยากได้ห้องพื้นที่ใช้สอยเยอะหน้ากว้าง เป็นสัดส่วน มีส่วนกลางหลักๆให้ใช้งานครบ มีงบประมาณตั้งแต่ 2.59-4.3 ล้านขึ้นไป หรือมีกำลังผ่อนตั้งแต่ 18,000-30,000 บาท/เดือนขึ้นไป ซึ่งราคานี้ต้องเผื่องบประมาณสำหรับการตกแต่งภายในเพิ่มเติมด้วยนะคะ

ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc