รีวิวฉบับที่ 2730 กับโครงการ ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) ทาวน์โฮมหรู 3.5 ชั้น ที่มีเพียง 3 ยูนิต บน Prime Location ใกล้ทั้งถนนใหญ่และรถไฟฟ้าในระยะเดินได้ พื้นที่ใช้สอยของบ้านเริ่มต้นที่ 469 – 485 ตร.ม. ในราคา 31.8 – 44.9 ล้านบาท* โดย Highlights ที่น่าสนใจจะมีอะไรอีกบ้าง ไปชมกันค่ะ

  • ทำเลใจกลางลาดพร้าว : โครงการตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 122 แยก 2 ใกล้ถนนลาดพร้าวและ MRT สายสีเหลืองสถานีมหาดไทยเพียง 50 เมตร เดินทางเข้า – ออกใจกลางเมืองง่าย จะไปโซนรามคำแหง , พระราม 9 , สุขุมวิทก็สะดวก
  • สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน : ติดโครงการมี Ladprao 120 Complex ที่มีทั้งร้านค้า , ร้านอาหาร , ศูนย์สุขภาพ หรือแม้แต่ฟิตเนสให้ไปใช้บริการได้ ใกล้ๆยังมีตลาดสดขนาดใหญ่ จัดเป็นทำเลที่ไม่ต้องกังวลเรื่องหาของกิน ของใช้เลย
  • การออกแบบฟังก์ชัน : จัดเป็นทาวน์โฮมที่ภายในได้บรรยากาศโปร่งโล่งมาก นอกจากชั้น 1 ที่ได้ Double Volume ถึง 2 จุด พื้นที่แต่ละชั้นยังมีการแทรกระเบียง ทำให้มองเห็นพื้นที่สีเขียวได้เกือบทุกห้อง โดยห้องนอนสามารถจัดเป็น Master Bedroom ได้ทั้ง 3 ห้อง ใช้งานสะดวก
  • รองรับโฮมออฟฟิศ : สำหรับเจ้าของธุรกิจที่มองหาโฮมออฟฟิศ ใกล้รถไฟฟ้า ตัวโครงการก็ถือว่าตอบโจทย์ เพราะเป็นทำเลที่พนักงานเดินทางมาทำงานง่าย ไปหาของกินก็สะดวก โครงสร้างบ้านเป็น Conventional ทุบปรับเปลี่ยนได้ มาพร้อมลิฟต์ในตัว สามารถจัดฟังก์ชันรองรับพนักงานได้ 20 – 30 คนเลย

ข้อมูลโครงการ

ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2567

 ชื่อโครงการ   ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท อาเบอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด
 SEGMENT CLASS   LUXURY CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ซอยลาดพร้าว 122 แยก 2 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ
 ที่ดิน   0 – 1 – 50 ไร่
 จำนวนยูนิต   3 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • SIDE UNIT (A) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8.65 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 485 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 44.9 ล้านบาท* (Fully Furnished)
  • MIDDLE UNIT (B) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 42 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 469 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 31.8 ล้านบาท*
  • SIDE UNIT (C) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8.65 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 485 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 33.3 ล้านบาท*

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   ชั้น 1 – ชั้นลอย : 2.60 เมตร / ชั้น 2 – 3 : 2.70 เมตร / Double Volume 5.40 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ                      n/a บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2565
 คาดว่าจะแล้วเสร็จ   สร้างเสร็จพร้อมอยู่
 เว็บไซต์โครงการ   คลิกที่นี่
 โทร   0839879944

 

ทำเลที่ตั้ง

พิกัด Google Maps : 13.777702 , 100.623023
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

แผนที่จากทางโครงการ แสดงตำแหน่ง ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) ที่ตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 122 แยก 2 ทางเข้า – ออกจะใช้ซอยลาดพร้าว 122 หรือซอยมหาดไทยเป็นหลัก ซึ่งเป็นซอยที่สามารถไปทะลุออกถนนลาดพร้าวและถนนรามคำแหงได้ โดยทำเลของโครงการจัดว่าอยู่ในโซนลาดพร้าว – รามคำแหง และยังใกล้กับแยกบางกะปิ ถือเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงแห่งหนึ่ง การเดินทางก็จัดว่าสะดวกสบาย เหมาะทั้งกับคนที่ใช้รถส่วนตัวและรถสาธารณะ จะไปโซนศรีนครินทร์ – นวมินทร์ก็ง่าย หรือขับเข้าเมืองไปพระราม 9 เชื่อมต่อเข้าสุขุมวิทก็สะดวก ใกล้ทางพิเศษฉลองรัช และ MRT สายสีเหลืองสถานีมหาดไทย เพียง 50 เมตร จัดเป็นจุดแข็งที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับโครงการแนวราบบนทำเลใกล้เคียงเลยค่ะ

นอกจากทำเลโครงการที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่และรถไฟฟ้าแล้ว ยังรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จากโครงการเดินไปหาของกิน ของใช้ได้สบายๆ ติดกับถนนซอยเป็น Community Mall อย่าง Ladprao 120 Complex ที่มีร้านค้า , ร้านอาหาร อย่าง Pizza Company , Burger King , วราภรณ์ และ Lotus’s go fresh ให้มาเลือกจับจ่ายกันได้ โดยความอุดมสมบูรณ์รอบนอกยังสามารถไปอิงฝั่งบางกะปิ , รามคำแหง . โชคชัย 4 และเลียบด่วนรามอินทรา ที่มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ทั้ง The Mall บางกะปิ , The Mall รามคำแหง และ Central Eastville ให้ออกมาช็อปปิ้ง ทานข้าว ดูหนังกันได้

สำหรับครอบครัวที่ที่กำลังมองหาบ้านใกล้โรงเรียนให้กับเด็กๆ ที่ตั้งของโครงการก็อยู่ใกล้โรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง ทั้งโรงเรียนนานาชาติและโรงเรียนรัฐบาล อย่าง โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) , SISB , Regent’s International School Bangkok , KIS International School Bangkok ,  ใกล้มหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ และโรงพยาบาลชั้นนำ อาทิ โรงพยาบาลลาดพร้าว , โรงพยาบาลเวชธานี , โรงพยาบาลรามคำแหง จัดเป็นทำเลที่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัว และไลฟ์สไตล์คนเมืองได้ครบครัน แต่ยังมีความสงบ ไม่พลุกพล่านเท่าใจกลางเมือง

Image 1/6
บรรยากาศความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการ ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว)

บรรยากาศความอุดมสมบูรณ์รอบโครงการ ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว)

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการ ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) ด้านหน้าอยู่ติดซอย ซึ่งเป็นถนน 2 เลน รถพอขับสวนเข้า – ออกได้ โดยจากตัวบ้านสามารถเดินไปซื้อของที่ Community Mall ได้สบายๆ หรือจะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้า ก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการเลย พื้นที่รอบข้างส่วนใหญ่เป็นที่ดินเปล่า อาคารพาณิชย์ และหอพักหลายแห่ง จัดเป็นย่านชุมชนของคนที่อาศัยอยู่ในโซนลาดพร้าว

  • ทิศเหนือ ติดกับ ซอยลาดพร้าว 122 แยก 2 , Ladprao 120 Complex
  • ทิศใต้ ติดกับ อาคารแนวราบ
  • ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่า , อาคารแนวราบ
  • ทิศตะวันตก ติดกับ หอพักสูง 5 ชั้น

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Foodland ~ 700 เมตร
  • The Mall Lifestore บางกะปิ ~ 3.9 กิโลเมตร
  • Central Eastville ~ 4.9 กิโลเมตร
  • Crystal Design Center (CDC) ~ 5.1 กิโลเมตร
  • Central พระราม 9 ~ 9.7 กิโลเมตร
  • Central ลาดพร้าว ~ 8.9 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

  • โรงพยาบาลลาดพร้าว ~ 750 เมตร
  • โรงพยาบาลเวชธานี ~ 2.3 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลรามคำแหง ~ 4.9 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 ~ 5.8 กิโลเมตร
  • โรงพยาบาลกรุงเทพ ~ 7.8 กิโลเมตร

โรงเรียน

  • มหาวิทยาลัยรามคำแหง ~ 2.8 กิโลเมตร
  • SISB  ~ 4.7 กิโลเมตร
  • Regent’s International School Bangkok ~ 4.9 กิโลเมตร
  • ABAC Hua Mak Campus ~ 5 กิโลเมตร
  • National Institute of Development Administration (NIDA) ~ 4.2. กิโลเมตร
  • KIS International School Bangkok ~ 5.9 กิโลเมตร

การเดินทาง

  • MRT สายสีเหลือง สถานีมหาดไทย ~ 50 เมตร

รายละเอียดโครงการ

ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) เป็นโครงการแนวราบโครงการแรกที่ถูกพัฒนาโดยบริษัท อาเบอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (Arbor Development) บริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งใหม่ มีจุดมุ่งหมายในการสร้างบ้านที่มีความแตกต่าง จึงใส่ใจในรายละเอียดตั้งแต่การออกแบบ การเลือกใช้วัสดุที่นอกจากจะมีความสวยงาม ยังเป็นวัสดุที่มีความยั่งยืน ดูแลรักษาง่าย คำนึงถึงผู้อาศัยให้เหมือนกับการสร้างบ้านให้ตัวเอง

สำหรับโครงการ ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) ยังชูจุดเด่นก็คือ 1. เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บน Prime Location เดินทางง่าย ใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์  2. เป็นโครงการระดับ LUXURY เลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมี่ยม 3. สร้างสังคมส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 3 ยูนิต นอกจากนี้การออกแบบยังเน้นการสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย ด้วยการแทรกพื้นที่สีเขียวลงไปภายในบ้าน เข้ากับ Concept ของ “ARBOR” ที่มีความหมายว่า “ต้นไม้” แสดงถึงแนวทางในการพัฒนาโครงการอื่นๆของ Arbor Development ซึ่งจะเห็นกันได้ต่อไปในอนาคต

ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น ได้พื้นที่ใช้สอย 469 – 485 ตร.ม. แบ่งเป็น 3 ยูนิต ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 1 งาน 50 ตร.วา อยู่ติดถนนซอยลาดพร้าว 122 แยก 2 การเข้า – ออกจะใช้ซอยมหาดไทย 1 เป็นหลัก ซึ่งจะสามารถไปเชื่อมกับถนนลาดพร้าวได้ ตัวบ้านจะหันขนานไปกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทิศที่ทำให้หน้าบ้านไม่โดนแดดโดยตรง ทำให้ภายในบ้านไม่ร้อน และยังได้ลมจากธรรมชาติอีกด้วย

ฟังก์ชันประกอบด้วย 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน และสามารถจอดรถได้ 3 คันทุกหลัง สำหรับคนที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย ก็ถือว่าเป็นทาวน์โฮมไซส์ใหญ่ ได้พื้นที่ใช้สอย 400 ตร.ม.ขึ้นไป อยู่ใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินได้ จัดเป็น Product ที่หาได้ยากในโซนนี้ หรือใครอยากจะปรับเปลี่ยนเป็นโฮมออฟฟิศก็เหมาะสมกับศักยภาพของทำเล ที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ใกล้แหล่งของกิน

แบบบ้าน

ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้นที่มีเพียง 3 ยูนิต โดยรูปแบบแปลนแบ่งเป็น SIDE UNIT พื้นที่ใช้สอย 485 ตร.ม. และ MIDDLE UNIT 469 ตร.ม.การออกแบบมาในสไตล์ Modern ใช้โทนสีเข้มของผนังหิน ตัดกับสีน้ำตาลของไม้ ช่วยเพิ่มความอบอุ่น โดยจุดเด่นจะอยู่ Facade แนวตั้งที่นอกจากจะดูสวยงาม ยังใช้เป็นแผงบังแดด บังสายตา ได้ความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากขึ้น โดยรูปแบบบ้านที่เราพาไปชมวันนี้ เป็น SIDE UNIT (A) ที่ตกแต่งมาให้ครบ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลัง ในราคา 44.9 ล้านบาท* บรรยากาศภายในจะเป็นยังไง ไปชมกันค่ะ

สรุปวัสดุภายในบ้าน

  • หลังคาทรง Flat Slab (ปูเมทัลชีท)
  • โครงสร้างบ้าน ก่อสร้างด้วยระบบ Conventional
  • พื้นส่วนที่จอดรถ (ปูด้วย Stamped Concrete) / ลานซักล้างลงเข็มมาให้
  • พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×120 เซนติเมตร
  • พื้นชั้นลอย – ชั้น 3 : ไม้ Engineering Wood
  • พื้นระเบียง : ไม้สังเคราะห์
  • ผนังตกแต่งลายหิน : แผ่นหินจริงแบบรีดบาง (Stonesurface)
  • สุขภัณฑ์ / ก็อกน้ำจาก Kohler , อ่างล้างมือ Toto , ฝักบัว Grohe , อ่างอาบน้ำ Bathroom Design / ฉากกั้นอาบน้ำ / ระบบท่อน้ำร้อน – น้ำเย็นในห้องน้ำทุกห้อง
  • เครื่องปรับอากาศ Cassette type / Wall Type จากยี่ห้อ Daikin
  • บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้โอ๊ค
  • วัสดุกรอบบานประตู – หน้าต่าง : Tostem
  • Facade : Aluminium ลายไม้ จาก Fameline
  • Built – in ครัว : ท็อปหินสังเคราะห์ / อ่างล้างจาน / เตาไฟฟ้า 4 หัว , เตาอบจากยี่ห้อ Gorenje
  • สวิตช์และปลั๊กไฟจากยี่ห้อ Schneider

เทคโนโลยีในบ้าน

  • Digital Door Lock ใช้งานได้ 5 ระบบ จำนวน 1 ตัวที่ประตูบ้าน จาก Hafele
  • VDO Door Phone จาก Akuvox
  • IP Camera จำนวน 4 ตัวที่ชั้น 1 บริเวณประตูหน้าบ้าน , โรงจอดรถ , สวน และลานซักล้าง
  • Smart Home Control Pad จาก Lifesmart (ควบคุมการเปิด – ปิดไฟ , แอร์ , สัญญาณกันขโมย , IP Camera )
  • Motion Sensor ตรวจจับการเคลื่อนไหว เปิด – ปิดไฟอัตโนมัติที่โถงบันได
  • เครื่องรดน้ำอัตโนมัติ ตั้งเวลาเปิด –  ปิดได้
  • สัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic & Shock Sensor ที่ประตู – หน้าต่างชั้น 1
  • ลิฟต์โดยสาร Mitsubishi ความจุ 4 คน รองรับน้ำหนักได้ 320 กิโลกรัม
  • มีการเดินสายสัญญาณ Internet (WiFi) เตรียมไว้ให้ทุกชั้น
  • ประตูรั้วรางเลื่อน 3 ตอน ควบคุมการเปิด – ปิดด้วยรีโมท / แอพในมือถือ
  • ระบบไฟ 3 เฟส (30/100) มีการเตรียม Junction ไว้ให้เพื่อรองรับ EV Charger
  • Solar Cell ระบบ Micro Inverter ขนาด 7.5 Kw.

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

SIDE UNIT เป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8.65 เมตร ได้พื้นที่ใช้สอย 485 ตร.ม. มาพร้อมฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ และลิฟต์ในตัว โดยจุดเด่นของแปลงมุมก็คือ พื้นที่สวนด้านข้าง นอกจากนี้โครงการยังออกแบบให้ตรงกลางเป็น Courtyard ช่วยให้สามารถดึงความร่มรื่นเข้ามาในทุกส่วนของบ้านได้ดี สำหรับฟังก์ชันชั้น 1 จะประกอบด้วย ส่วนนั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหารและครัว ที่ได้ Double Volume ขนาดใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จึงทำให้บรรยากาศภายในแตกต่างกับทาวน์โฮมทั่วไป

ชั้นลอยเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเองได้หลากหลาย จัดเป็น Family Area อีกจุดของบ้านได้ หรือทำเป็นมุมออกกำลังกายเหมือนในตัวอย่างแปลน ก็ถือว่าใช้งานพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า ส่วนชั้น 2 และชั้น 3 จะเป็นพื้นที่พักผ่อน โดยชั้น 2 แบ่งเป็น ห้องนอน 2 ห้อง กั้นกลางด้วยพื้นที่อเนกประสงค์ และชั้น 3 ที่ทำเป็นห้องนอนไซส์ใหญ่ได้ทั้งชั้น โดยห้องนอนทุกห้อง มี Walk – in Cloet และห้องน้ำแยก รองรับครอบครัวขนาด 4 – 5 คนได้ โดยเฉพาะในบ้านที่มีผู้สูงอายุ ก็สามารถใช้งานลิฟต์โดยสาร ขึ้น – ลงได้สะดวกเลย สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ภายในบ้านมีระเบียงให้ออกไปใช้งานได้ทุกชั้น รวมถึงมีต้นไม้ใหญ่มาให้หลายจุด ได้ความร่มรื่น

ส่วนเจ้าของธุรกิจที่อยากปรับเปลี่ยนเป็นโฮมออฟฟิศ มีพนักงาน 10 – 15 คน ก็สามารถใช้ชั้น 1 และชั้นลอยเป็นพื้นที่ทำงาน ส่วนชั้น 2 – 3 ใช้เป็นส่วนพักอาศัยได้ ไม่เสียความเป็นส่วนตัว หรือใครอยากจัดเป็นออฟฟิศทั้งหลัง ก็สามารถรองรับพนักงานได้ 20 – 30 คนเลย แต่ที่จอดรถมีรองรับไว้เพียง 3 คัน จึงเหมาะกับกลุ่มคนที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้ามากกว่านะคะ

เริ่มกันที่ส่วนด้านหน้าบ้าน ทางเข้า – ออกแบ่งเป็นประตูรั้วใหญ่ของรถ ได้เป็นรางเลื่อนเหล็ก 3 ตอน มีการซ่อนรางไว้ด้านบน ทำให้ไม่เกะกะพื้นที่จอด สามารถเปิด – ปิดได้ด้วยรีโมทและผ่านแอพในมือถือ ใช้งานได้สะดวก

และมีประตูเล็กสำหรับคนเดินเข้า – ออก เป็นประตูบานทึบ ด้านข้างติดตั้ง VDO Door Phone จาก Akuvox ใช้ตรวจสอบคนในการเข้า – ออก เพิ่มความปลอดภัยได้ดี

Image 1/5
บรรยากาศด้านหน้า บริเวณพื้นที่จอดรถของ SIDE UNIT

บรรยากาศด้านหน้า บริเวณพื้นที่จอดรถของ SIDE UNIT

เข้ามาด้านในเป็นที่จอดรถแบบในร่ม สามารถจอดได้ 3 คันแบบหน้ากว้าง โครงสร้างเป็น Slab on Beam ลงเข็มมาให้ ด้านบนปูด้วย Stamped Concrete นอกจากดูสวยงาม แข็งแรง ทนทานแล้ว ยังทำความสะอาดได้ง่าย โดยระบบไฟของบ้านจะเป็นแบบ 3 เฟส มีการเดินสายเตรียม Junction ไว้ให้ สำหรับติดตั้ง EV Charger เพิ่มเองได้

ประตูด้านหน้ามี 2 บาน คือประตูทางเข้าหลัก ซึ่งต้องเดินเข้าจากด้านข้าง ช่วยเพิ่มพื้นที่เฉลียงให้กว้างมากขึ้น เข้า – ออกได้สะดวก จอดรถได้เต็มที่ และมีประตูสำหรับห้องแม่บ้าน ที่มีห้องน้ำแยกใช้งานในตัว ดูเป็นสัดส่วน ด้านข้างเป็นพื้นที่สวน ซึ่งโครงการลงต้นไม้ ตกแต่งมาให้ตามนี้เลย

ส่วน Solar Cell จะติดตั้งมาให้บนหลังคา ได้เป็นระบบ ระบบ Micro Inverter ขนาด 7.5 Kw. สามารถเช็คโหลดการใช้พลังงานในบ้านและดูการผลิตไฟรายแผงแบบ real time ได้ผ่านแอพในมือถือ

ผนังด้านข้างทางขึ้น – ลง Built – in มาให้เป็นตู้เก็บของ ใช้เก็บรองเท้าและร่มได้ มีชั้นวางติดตั้งมาเรียบร้อย พร้อมใช้งาน เวลาเข้า – ออกบ้านก็หยิบเก็บได้สะดวก ส่วนพื้นเฉลียงปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 30×60 เซนติเมตร ลายหินสีเทาเข้มเข้ากับผนังตกแต่งโดยรอบ

โถงทางเข้าตกแต่งด้วยผนังหิน (Stonesurface) เป็นแผ่นหินจริงรีดบาง น้ำหนักเบา แต่ได้ความแข็งแรง และสวยงามแบบหินธรรมชาติ ประตูทางเข้าบ้านเป็นบานไม้กว้าง 1.20 เมตร ติดตั้ง Digital Door Lock มาให้ใช้งานได้ 5 ระบบ (กดรหัส , ลายนิ้วมือ , คีย์การ์ด , Bluetooth และกุญแจ) จากยี่ห้อ HAFELE

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอส่วนนั่งเล่น และโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังด้านหลังซึ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร บรรยากาศภายในชั้น 1 ดูโปร่งโล่งมาก มองเห็น Double Volume ที่ให้มาถึง 2 จุด ประกอบกับผนังด้านข้างได้เป็นกระจก Full Height ช่วยเปิดรับแสงและวิวจากธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่ แต่ไม่ทำให้ในบ้านร้อน ด้วยตำแหน่งของฝั่งที่เปิดโล่งตรงกับทิศตะวันออกพอดี

สำหรับเทคโนโลยีในบ้าน นอกจาก VDO Door Phone ก็มี Smart Home Control Pad จาก Lifesmart ใช้ควบคุมการเปิด – ปิดไฟ , แอร์ , ระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านอย่าง IP Camera ที่ให้มา 4 จุด (ประตูหน้าบ้าน , โรงจอดรถ , สวน และลานซักล้าง)

และ Magnetic & Shock Sensor ติดตั้งมาให้ทุกบานประตู – หน้าต่างที่ชั้น 1 นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมผ่านแอพในมือถือได้ด้วย ถือเป็น Smart Home ที่ได้อุปกรณ์มาครบ แทบไม่ต้องซื้อเพิ่มเลย ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟในบ้านได้ดีไซน์มาเหมือนในบ้านตัวอย่างจากยี่ห้อ Schneider

ส่วนนั่งเล่นได้ความกว้างมาประมาณ 4 เมตร วางโซฟารูปตัว L ขนาด 4 ที่นั่งได้สบายๆ โดยฝ้าเพดานได้เป็น Double Volume สูง 5.40 เมตร มองขึ้นไปด้านบนเห็นพื้นที่ใช้งานส่วนชั้นลอย มีเครื่องปรับอากาศติดตั้งมาให้พร้อมใช้งานทั้งแบบ Wall Type และ Cassette Type จาก Daikin

ซึ่งในแบบบ้านนี้ทั้งเฟอร์นิเจอร์และผนัง Built – in ต่างๆที่เห็นจะได้มาครบ ในราคา 44.9 ล้านบาท* เหมาะกับคนที่ไม่อยากเสียเงินและเวลาในการตกแต่งเพิ่ม แค่หิ้วกระเป๋ามาก็เข้าอยู่ได้เลย

ขยับเข้ามาบริเวณโถงทางเดิน ซึ่งเป็นตำแหน่งกึ่งกลางของบ้าน วัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×120 เซนติเมตร ความสูงของฝ้าเพดานปกติจะอยู่ที่ 2.60 เมตร ติดกันเป็นโถงบันไดและ Courtyard ด้านนอก มีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปใช้งานได้ โดยโครงการตกแต่งมาเป็นสวนหินสไตล์ญี่ปุ่น ได้บรรยากาศสงบ ผ่อนคลาย

Courtyard ด้านบนมีหลังคาคลุม ทั้งยังได้แผงระแนงช่วยบังแดด บังฝน มี Double Volume เชื่อมต่อไปถึงชั้นลอย ส่วนที่เราชอบก็คือนอกจากโครงการจะตกแต่งสวนมาให้ ดูน่าใช้งาน ยังมีการติดตั้งระบบรดน้ำอัตโนมัติที่สามารถตั้งเวลาเปิด – ปิดเองได้ ไม่ต้องมาคอยดูแลเองเลย

ด้านหลังเป็นส่วนรับประทานอาหารและครัวเปิดขนาดใหญ่ วางโต๊ะทานข้าว 6 – 8 ที่นั่ง พร้อม Island ตรงกลาง ใช้เป็นพื้นที่รับแขก จัดปาร์ตี้ได้สบายๆ โดยพื้นที่ส่วนนี้เรามองว่าเป็น Highlight ของบ้าน ผนัง 3 ด้านได้เป็นกระจก Full Height เสริมบรรยากาศให้ดูโปร่งโล่งเชื่อมต่อกับ Double Volume ขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ค่อยเห็นในแบบบ้านทาวน์โฮมเท่าไรนะคะ หรือใครอยากได้พื้นที่ใช้สอยแบบเต็มๆ โครงการก็ได้เตรียมโครงสร้างเผื่อไว้ให้ที่ชั้นลอย รองรับการต่อเติมเพิ่มได้

ด้านข้างเป็นเคาน์เตอร์ครัวและ Island โครงการ Built – in มาให้ครบ พร้อมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ประกอบด้วย อ่างล้างจาน , เตาไฟฟ้า , เครื่องดูดควัน และเตาอบจากยี่ห้อ Gorenje เหมาะสำหรับบ้านที่เน้นทำครัวแบบฝรั่ง ไม่ได้ทำอาหารที่มีควันหรือกลิ่นแรงมากนัก

หรือใครอยากจะต่อเติมลานซักล้างด้านหลังทำเป็นครัวไทยเพิ่ม โครงการก็ได้ลงเข็มเตรียมไว้ให้แล้วนะคะ ซึ่งความกว้างได้มาประมาณ 2 เมตร

กลับมาบริเวณตรงกลางบ้านเป็นทางเดินที่ประกอบด้วย ลิฟต์โดยสาร , โถงบันไดขึ้นชั้น 2 และห้องน้ำ ติดกันเป็นห้องเก็บของใต้บันได ใช้เก็บอุปกรณ์หรือของใช้ชิ้นเล็กๆในบ้านได้

ภายในห้องน้ำชั้น 1 ได้เป็น Powder Room มีสุขภัณฑ์มาให้ครบ ได้โถสำหรับผู้ชายติดตั้งแยกมาให้ ใช้งานได้สะดวก อีกฝั่ง Built – in เป็นเคาน์เตอร์ยาวเต็มผนัง ด้านล่างเป็นลิ้นชักใช้เก็บของได้ ส่วนด้านบนวางอ่างล้างมือจากยี่ห้อ ToTo พร้อมก็อกน้ำสีดำจาก Kohler

ในบ้านมาตรฐานรูปแบบอื่นจะไม่มีผนังกรุตกแต่งด้านหน้ามาให้ ลิฟต์โดยสารใช้ของยี่ห้อ Mitsubishi จุได้ 4 คน รองรับน้ำหนักสูงสุด 320 กิโลกรัม ใช้ขึ้น – ลงได้ตั้งแต่ชั้น 1 ถึงชั้น 3 เลย โดยความกว้างได้มาประมาณ 1.18×0.79 เมตร

บันไดได้โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวด้วยไม้โอ๊ค ความกว้าง 1.26 เมตร ลูกตั้งสูง 17 เซนติเมตร ลูกนอนกว้าง 25 เซนติเมตร ใช้งานได้ตามมาตรฐาน ราวจับด้านข้างเป็นไม้ มีการซ่อนไฟด้านล่าง นอกจากทำให้ดูสวยงามแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสว่างให้กับโถงบันไดตลอดทาง

เมื่อขึ้นมาถึงโถงชั้นบนจะมี Motion Sensor ติดตั้งมาให้ทุกชั้น สามารถตรวจจับความเคลื่อนไหว เปิด – ปิดไฟได้แบบอัตโนมัติ

จากชั้น 1 ขึ้นมาจะเป็นชั้นลอย จัดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลาย ในบ้านหลังนี้จัดเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือ มองลงไปเห็นพื้นที่ชั้น 1 และสวนด้านข้างตัวบ้าน ให้ความรู้สึกเชื่อมต่อ โปร่งโล่ง

วัสดุพื้นปูด้วย Engineering Wood เป็นแผ่นไม้จริงที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อความชื้นได้มากกว่าพื้นไม้สังเคราะห์ทั่วไป ทั้งยังให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะกับการใช้ในพื้นที่ๆเป็นส่วนพักผ่อนของบ้าน

ถัดมาอีกฝั่งจัดเป็น Family Area เวลาที่ส่วนนั่งเล่นชั้นล่างต้องใช้รับแขก สมาชิกคนอื่นๆในบ้านก็สามารถขึ้นมาพักผ่อนด้านบนได้ โดยด้านข้างยังเชื่อมต่อกับระเบียงขนาดใหญ่ จะชมวิวสวนสีเขียวจากด้านใน หรือออกไปยืดสูดอากาศด้านนอก ก็ได้ความรู้สึกผ่อนคลายไปอีกแบบ

บรรยากาศบริเวณทางเดินตรงกลาง เชื่อมต่อกับ Double Volume ของส่วนนั่งเล่น ผนังด้านข้างเป็นบาน Fix กระจกแบบ Frameless ได้ความรู้สึกเปิดโล่ง มองวิวด้านนอกได้แบบเต็มตา และทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในบ้านได้อย่างทั่วถึง

ระเบียงหน้าบ้านเป็นรูปตัว L รับกับกระจกแบบเข้ามุมของ Family Area พื้นด้านนอกปูด้วยไม้สังเคราะห์ ให้ผิวสัมผัสเหมือนไม้จริง แต่มีความแข็งแรง ทนทานมากกว่า ด้านข้างมีกระบะต้นไม้ขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มความสดชื่นและร่มเงาให้กับตัวบ้าน ด้านหน้าระแนงแนวตั้ง วัสดุเป็นอลูมิเนียมลายไม้ ช่วยบังแดด และเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยได้ดี

ซึ่งเรามองว่าการแทรกระเบียงและพื้นที่สีเขียวในแต่ละชั้น นอกจากออกแบบมาเพื่อให้เกิดความโปร่งโล่ง อยู่สบาย ยังทำให้ส่วนพักอาศัยไม่โดนแดดโดยตรง จึงทำให้ภายในบ้านไม่ร้อนนั่นเอง

ขึ้นมาชั้น 2 พื้นที่ใช้งานจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ได้เป็นห้องนอนขนาดใหญ่ ออกแบบมาให้เป็นห้องนอนสำหรับลูกๆ ตรงกลางในโครงการจัดมาให้เป็นส่วนนั่งเล่น กว้างประมาณ 3.48 เมตร เชื่อมต่อกับลิฟต์และโถงบันไดขึ้นชั้น 3 ติดกันเป็นระเบียง มีประตูบานเลื่อนกระจกให้เปิดออกไปใช้งานได้ โดยความสูงจากพื้นถึงฝ้าของชั้น 2 – 3 จะเท่ากันที่ 2.70 เมตร

ระเบียงด้านนอกเป็นแบบโปร่งโล่ง แต่ด้านบนยังมีหลังคาระแนงคลุม ความยาวได้มาเท่ากับส่วนนั่งเล่น ช่วยให้โถงกลางของบ้านดูสว่าง ไม่อึดอัด ส่วนความกว้างได้มาประมาณ 1.33 เมตร เอาเก้าอี้มาวางจัดเป็นมุมพักผ่อน ออกมานั่งเล่นในวันอากาศดีๆได้แบบสบายๆ

ฟังก์ชันหลักของชั้นนี้อยู่ที่ห้องนอนขนาดใหญ่ ที่สามารถจัดเป็น Master Bedroom ได้ถึง 2 ห้อง เริ่มจากห้องด้านหน้า จัดเป็นห้องนอนลูกชาย แปลนจะเป็นแบบหน้ากว้าง ไม่มีการกั้น Walk – in Closet แยกเป็นสัดส่วน แต่ก็ Built – in ตู้เสื้อผ้าให้สูงถึงฝ้า เหมาะกับคนที่ชอบห้องแบบโปร่งโล่ง ไม่เน้นใช้งานระเบียง อยากได้พื้นที่ใช้สอยในห้องแบบเต็มที่

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำและห้องอเนกประสงค์ จัดเป็นมุมนั่งทำงานส่วนตัวได้ ด้านหน้ายังได้หน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ ใช้เปิดรับลม รับแสงและระบายอากาศภายในห้องได้ดี

Image 1/7
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำชั้น 2 ห้องนอนด้านหน้าบ้าน

พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำชั้น 2 ห้องนอนด้านหน้าบ้าน

ห้องน้ำได้ติดตั้งอุปกรณ์มาให้ครบเป็นมาตรฐาน มีฉากกั้นอาบน้ำและระบบท่อน้ำร้อน – น้ำเย็นเตรียมไว้ให้ทุกห้อง พื้นที่ใช้งานแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งชัดเจน อ่างล้างมือเป็นแบบฝังเคาน์เตอร์จาก Toto ด้านล่างมีลิ้นชักไว้เก็บของได้ ด้านหลังยังมี Low Wall ใช้วางอุปกรณ์อย่างสบู่ แปรงสีฟัน หยิบใช้งานได้สะดวก

โถสุขภัณฑ์พร้อมสายฉีดชำระได้จากยี่ห้อ Kohler ส่วนอาบน้ำได้มาขนาด 0.95×2.1 เมตร ฝักบัวติดตั้งมาให้ทั้ง Hand Shower และ Rain Shower จาก Grohe เลือกใช้งานได้ตามชอบเลย

ห้องนอนด้านหลังบ้านได้มาเป็นหน้ากว้างเช่นเดียวกัน การตกแต่งมาในโทนสีน่ารัก ดูอบอุ่น เหมาะกับเป็นห้องนอนของลูกสาว โดยการใช้งานจะแบ่งเป็นส่วนพักผ่อน และ Walk – in Closet ที่อยู่ติดกับห้องน้ำ แยกใช้งานอีกฝั่ง ด้านหลังเป็นพื้นที่ระเบียง ออกไปใช้งานได้

Walk – in Closet มีการกั้นผนังแยกห้องมาให้ดูเป็นสัดส่วน ภายใน Built – in ตู้เสื้อผ้ามาให้ครบ ใช้งานได้ทั้ง 2 ฝั่ง ด้านข้างอยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำ พออาบน้ำเสร็จ ก็เดินออกมาแต่งตัวได้เลย

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำชั้น 2 ห้องนอนด้านหลังบ้าน

พื้นที่ใช้งานภายในห้องน้ำชั้น 2 ห้องนอนด้านหลังบ้าน

ห้องน้ำจะได้อุปกรณ์มาเหมือนกับในห้องนอนที่อยู่ด้านหน้า แตกต่างกันที่ตำแหน่งเล็กน้อย โดยส่วนอาบน้ำได้มากว้างประมาณ 1.00×1.78 เมตร เราชอบตรงที่ผนังด้านข้างทุกห้องจะมีการทำช่องไว้สำหรับวางของได้ จะวางสบู่ ยาสระผม ก็หยิบใช้งานได้สะดวก

ชั้น 3 จัดเป็น Master Bedroom ขนาดใหญ่แบบเต็มชั้น ได้บรรยากาศเหมือน Penthouse โดยฟังก์ชันแบ่งเป็นห้องนอนด้านหน้า มีการกั้นผนังพร้อมประตูบานเลื่อนมาให้ ใช้เปิด –  ปิด เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ ตรงกลางเป็นโถงอเนกประสงค์เชื่อมต่อกับ Walk – in Closet และ ห้องน้ำที่อยู่ด้านหลัง

ภายในห้องนอน นอกจากจะสามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตพร้อมโต๊ะหรือตู้ข้างเตียงได้แล้ว ปลายเตียงยังเหลือพื้นที่ให้วางโซฟาไว้นั่งเล่นได้อีกจุด แยกใช้งานกับส่วนด้านนอกได้ ด้านข้างเป็นประตูบานเลื่อนกระจก เปิดออกไปใช้งานระเบียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง

เราชอบที่ผนังเกือบทุกห้อง ออกแบบมาให้มีกระจกแบบเข้ามุม ตรงกลางไม่มี Frame บดบังสายตา ช่วยเปิดมุมมองภายในห้องได้กว้างมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้สามารถมองเห็นวิวต้นไม้แทรกอยู่ในทุกส่วนของบ้าน ได้บรรยากาศร่มรื่น สบายตา

ระเบียงมีต้นไม้ใหญ่ปลูกในกระบะมาให้ 1 จุด พื้นที่ใช้งานได้ความกว้างประมาณ 1.64 เมตร ราวกันตกได้เป็นบานกระจกเปลือย ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่ง มองออกไปเห็นวิวด้านนอกได้เต็มตา ไม่มีอะไรบดบัง

Walk – in Closet และห้องน้ำ จะอยู่แยกอีกฝั่ง เวลาใช้งานต้องเดินผ่านส่วนนั่งเล่น ถ้าอยากเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน ก็อาจต้องลุกเดินมาไกลหน่อย แต่ถ้ามีแขกมาที่ห้อง ก็จะไม่ต้องเดินเข้าไปในห้องนอน ได้ความเป็นส่วนตัว

Walk – in Closet โครงการ Built – in ตู้เสื้อผ้า , โต๊ะเครื่องแป้งมาให้ครบ รวมถึงเคาน์เตอร์ตรงกลาง ใช้เก็บ Accessories เล็กๆอย่างเนคไท , นาฬิกาได้ โดยตำแหน่งจะไม่ได้อยู่ติดกับประตูทางเข้าห้องน้ำเลย แต่จะมีโถงตรงกลางคั่น เป็นการออกแบบมาเพื่อป้องกันความชื้น ไม่ให้เข้าไปในห้อง

สำหรับคนที่เก็บกระเป๋าแบรนด์เนมหรือเครื่องประดับต่างๆที่ต้องระมัดระวังในการเก็บรักษาเป็นพิเศษ ก็น่าจะชอบนะคะ

Image 1/6
พื้นที่ใช้งานของห้องน้ำใน Master Bedroom บนชั้น 3

พื้นที่ใช้งานของห้องน้ำใน Master Bedroom บนชั้น 3

ห้องน้ำอยู่ฝั่งตรงข้าม เดินเชื่อมต่อใช้งานจาก Walk – in Closet ได้ง่าย ภายในแยกพื้นที่ใช้งานได้เป็น 2 ฝั่ง ตรงกลางเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือขนาดใหญ่ ได้มาเป็นแบบ His&Her ใช้งานพร้อมกัน 2 คนได้ ด้านข้างเป็นพื้นที่วางโถสุขภัณฑ์ได้มาเป็นแบบอัตโนมัติจาก Kohler

อีกฝั่งเป็นพื้นที่อาบน้ำ มีทั้งส่วน Shower และอ่างให้เลือกใช้งาน โดยโครงการติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำแยกมาให้เป็นสัดส่วน เรียบร้อย

Image 1/5
พื้นที่ใช้งานของห้องน้ำใน Master Bedroom บนชั้น 3

พื้นที่ใช้งานของห้องน้ำใน Master Bedroom บนชั้น 3

ส่วนยืนอาบได้กว้างประมาณ 1.27×1.55 เมตร ฝักบัวมีให้เลือกทั้ง Hand Shower และ Rain Shower จาก Grohe ส่วนอ่างอาบน้ำจะอยู่ด้านใน ได้มาเป็นแบบฝังจากยี่ห้อ Bathroom Design เราชอบที่มีการทำพื้นที่นั่งอาบมาให้ ผู้สูงอายุใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องก่อเองเพิ่ม

ซึ่งจุดเด่นในห้องนี้ นอกจากขนาดห้องและอุปกรณ์ที่ติดตั้งมาให้ครบครันแล้ว ยังมีช่องแสงมาให้หลายจุด ทั้งหน้าต่างบานกระทุ้ง และประตูบานเลื่อนที่เปิดออกไปใช้งานระเบียงได้ โดยได้มาขนาด 1.65×0.96 เมตร จะใช้เป็นส่วนซักล้าง , ทำความสะอาดหรือตากผ้าก็สะดวก

MIDDLE UNIT จะได้หน้ากว้างประมาณ 6.7 เมตร น้อยกว่า SIDE UNIT เล็กน้อย แต่ภายในออกแบบมาได้ดูโปร่งโล่งไม่แพ้กันเลย ฟังก์ชันจะประกอบด้วย 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 3 ที่จอดรถ และ 1 ห้องแม่บ้าน ชั้น 1 จะวางส่วนนั่งเล่นไว้ตรงกลาง ติดกับครัวและพื้นที่รับประทานอาหาร มี Double Volume ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อกับเฉลียงด้านหลัง

ชั้นลอยได้แสงธรรมชาติแบบเต็มที่ทั้ง 2 ฝั่ง ด้านหน้ายังมีระเบียงให้ออกไปใช้งานได้ ซึ่งโครงการออกแบบมาให้เป็นตัว L ช่วยเปิดช่องแสงด้านข้างให้กับบ้านได้ดี ส่วนชั้น 2 และชั้น 3 จะจัดคล้ายกับแปลงมุม ประกอบด้วยพื้นที่อเนกประสงค์และห้องนอนขนาดใหญ่ 2 ฝั่ง โดย Highlight จะอยู่ที่ Master Bedroom ชั้น 3 ที่ได้ Court กลางขนาดใหญ่ในห้องนอน ได้บรรยากาศไม่เหมือนใคร

Image 1/10
บรรยากาศภายในบ้านมาตรฐาน MIDDLE UNIT พื้นที่ใช้สอย 469 ตร.ม.

บรรยากาศภายในบ้านมาตรฐาน MIDDLE UNIT พื้นที่ใช้สอย 469 ตร.ม.

ราคา

ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) ณ วันที่ 5 กรกฎาคม 2567

  • SIDE UNIT (A) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8.65 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 485 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 44.9 ล้านบาท* (Fully Furnished)
  • MIDDLE UNIT (B) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.7 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 42 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 469 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 31.8 ล้านบาท* (Soldout)
  • SIDE UNIT (C) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8.65 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 485 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องอเนกประสงค์ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
    – ราคาเริ่มต้น 33.3 ล้านบาท* (Soldout)
  • จองและทำสัญญา n/a บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :

ที่ตั้งของ ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) เป็นจุดแข็งที่ทำให้โครงการโดดเด่นจากโครงการเพื่อนบ้านบนทำเลเดียวกัน นอกจากจะอยู่ใกล้ถนนลาดพร้าวฝั่งขาเข้าเมือง ในซอยยังใช้ทะลุไปออกถนนหลักได้อีกหลายสาย เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในโซนลาดพร้าว – รามคำแหง – พระราม 9 หรือจะเดินทางเข้าใจกลางเมืองไปโซน CBD ก็ง่าย อีกทั้งยังมีตัวเลือกในการเดินทางอย่าง MRT สายสีเหลือง ที่อยู่ห่างจากโครงการเพียง 50 เมตรอีกด้วย

ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ ติดกับโครงการเป็น Community Mall ที่มีร้านค้า , ร้านอาหารและ Hypermarket ให้ออกไปจับจ่ายใช้สอยในระยะเดินได้ รอบๆโครงการเชื่อมต่อกับแหล่งความอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่ ทั้งในโซนลาดพร้าว , รามคำแหง , บางกะปิ และเลียบด่วนรามอินทรา อาทิ ห้าง The Mall Lifestore บางกะปิ , The Mall รามคำแหง , Central Eastville , DCD , Central ลาดพร้าว ก็อยู่ห่างจากโครงการในระยะแค่ 10 กิโลเมตร นอกจากโครงการยังอยู่ใกล้โรงพยาบาล , โรงเรียนนานาชาติ และมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่งเลยค่ะ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :

รูปแบบโครงการเป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น จำนวนเพียง 3 ยูนิต อยู่ติดถนนซอย จึงไม่ได้มีรั้วรอบหรือเจ้าหน้าที่คอยรักษาความปลอดภัย แต่อุปกรณ์ภายในบ้านเราก้ถือว่าติดตั้งมาให้ครบครันเลยนะคะ ตั้งแต่ประตูทางเข้าที่ได้ VDO Door Phone ช่วยคัดกรองคนในการเข้า – ออก , Digital Door Lock ที่สามารถใช้งานได้ 5 ระบบ ,  IP Camera 4 จุดรอบตัวบ้าน และที่ประตู – หน้าต่างชั้น 1 ทุกจุด จะมี Magnetic & Shock Sensor ติดตั้งมาให้ด้วย

การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :

โครงการเน้นการอยู่อาศัยแบบเป็นส่วนตัว จึงมีจำนวนยูนิตน้อย รูปแบบเป็นทาวน์โฮม 3.5 ชั้น ได้ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ มีห้องแม่บ้านและสามารถจอดรถได้ 3 คันทุกหลัง โดยพื้นที่ใช้สอย 469 – 485 ตร.ม. ก็จัดว่าค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับโครงการทาวน์โฮม – โฮมออฟฟิศบนทำเลลาดพร้าว ในราคาเริ่มต้น 31.8 ล้านบาท* หากขยับมาดูบนโซนทาวน์อินทาวน์ – เลียบด่วนรามอินทรา ก็อาจมีราคาที่ย่อมเยากว่า แต่จะไม่ได้ทำเลใกล้ถนนใหญ่และรถไฟฟ้าในระยะเดินได้แบบนี้นะคะ

จุดเด่นของการออกแบบเรามองว่าอยู่ที่ความโปร่งโล่ง ชั้น 1 ในบ้านแปลงมุมได้ Double Volume มาถึง 2 จุด สูง 5.4 เมตร ฟังก์ชันแต่ละห้องได้มาขนาดใหญ่ ใช้สอยได้สะดวก อย่างห้องนอนก็จัดเป็น Master Bedroom ได้ทั้ง 3 ห้อง แต่ละชั้นยังมีการออกแบบพื้นที่ระเบียงให้ออกมาใช้งานได้โดยรอบ พร้อมมีการลงต้นไม้มาช่วยเพิ่มความร่มรื่น จากภายในบ้านสามารถมองเห็นได้เกือบทุกจุด สำหรับเจ้าของธุรกิจที่อยากปรับเปลี่ยนเป็นโฮมออฟฟิศ ก็ทำได้ง่าย ภายในบ้านมีลิฟต์ส่วนตัวมาให้ทุกยูนิต และมีห้องน้ำรองรับอยู่ทุกชั้น สามารถแบ่งพื้นที่ชั้น 1 ชั้นลอยเป็นออฟฟิศ และชั้น  2 – 3 เป็นส่วนพักอาศัยได้

วัสดุ :

โดยรวมให้มาเหมาะสมกับการใช้งาน และได้มาตรฐานของระดับราคา โครงสร้างบ้านเป็น Conventional รองรับการทุบต่อเติมได้ วัสดุปูพื้นชั้น 1 เป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×120 เซนติเมตร ตั้งแต่ชั้นลอย – ชั้น 3 ปูด้วย Engineering Wood บานประตู – หน้าต่างใช้ของ Tostem อุปกรณ์ในห้องน้ำติดตั้งมาให้ครบชุดจาก Toto , Kohler และ Grohe มีการเตรียมระบบท่อน้ำร้อน – น้ำเย็นมาให้ทุกห้อง มีลิฟต์โดยสาร , แอร์ติดตั้งมาให้พร้อมใช้งาน ทั้งระบบ Cassette type และ Wall Type จาก Daikin

สิ่งที่น่าสนใจคือเทคโนโลยีในบ้านที่ติดตั้งมาให้ เริ่มต้นแต่ประตูรั้วบ้านที่ได้มาเป็นแบบอัตโนมัติ เปิด – ปิดได้ผ่านรีโมทและแอพในมือถือได้ มี Junction เตรียมไว้รองรับการติดตั้ง EV Charger เองได้ ภายในบ้านมีระบบรักษาความปลอดภัยครบครัน ควบคุมได้ผ่าน Smart Home Control Pad และยังใช้เปิด – ปิดไฟ , แอร์ รวมถึง Add อุปกรณ์เพิ่มเติมอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าไปได้ สำหรับพื้นที่สวนก็มีระบบรดน้ำอัตโนมัติ บนหลังคาติดตั้ง Solar Cell ขนาด 7.5 Kw. จัดว่าเป็น Smart Home ที่ออกแบบมารองรับคนรุ่นใหม่ ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการอยู่อาศัยได้ดี

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :

ลักษณะของโครงการเป็นทาวน์โฮมจำนวนเพียง 3 ยูนิต ไม่มีสวนหย่อมหรือพื้นที่ส่วนกลาง เราจึงขอพูดในแง่ของการออกแบบพื้นที่สีเขียวในบ้าน ที่จัดมาให้ใช้งานได้หลายจุด ทุกชั้นมีการลงต้นไม้มาให้ เพิ่มบรรยากาศให้ดูร่มรื่น น่าอยู่อาศัย โดยเฉพาะชั้นล่าง ที่โครงการลงต้นไม้มาให้ครบ ไม่ต้องตกแต่งเองเพิ่ม

สาธารณูปโภค :

โครงการ ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) เป็นทาวน์โฮมแบบ Stand Alone มีเพียง 3 ยูนิต จึงไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง ได้ข้อดีก็คือ ทำให้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในแต่ละเดือนภายหลัง แต่ไม่เหมาะกับคนที่ชอบรั้วรอบ ขอบชิด มีเจ้าหน้าที่รปภ. หรือเน้นใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 31.8 – 44.9 ล้านบาท , 5 กรกฎาคม 2567

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – ใกล้ถนนลาดพร้าวและ MRT มหาดไทยเพียง 50 เมตร
  • ความปลอดภัย 8/10 – มี VDO Door Phone , Magnetic & Shock Sensor ที่ประตู – หน้าต่างชั้น 1 ทุกจุด พร้อม IP Camera 4 ตัวรอบบ้าน
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ได้ Double Volume 2 จุด , ห้องนอนจัดเป็น Master Bedroom ได้ทุกห้อง 
  • วัสดุ 8/10 – เหมาะสมกับการใช้งานและมาตรฐานของระดับราคา
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – มีการแทรกพื้นที่สีเขียวเข้าไปในบ้าน สามารถมองเห็นได้จากเกือบทุกห้อง โครงการลงต้นไม้มาให้ครบ ไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม
  • สาธารณูปโภค 7/10 – เป็นโครงการขนาดเล็ก จำนวนเพียง 3 ยูนิต จึงไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง
  • 8.00 / 10.00 

ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) เหมาะกับใคร

โครงการ ARBOR URBAN Ladprao (อาเบอร์ เออเบิน ลาดพร้าว) เหมาะกับคนที่กำลังมองหาทาวน์โฮมไซส์ใหญ่เพื่ออยู่อาศัย ชอบทำเลติดถนนหลัก ใกล้รถไฟฟ้า เดินไปหาของกินเองได้ง่าย ชอบฟังก์ชันที่ได้ Double Volume ในบ้าน ห้องนอนสามารถจัด Walk – in Closet และมีห้องน้ำแยกใช้งานในตัวทุกห้อง อยากได้ทาวน์โฮมที่ดูโปร่งโล่ง ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเองได้หลากหลาย สำหรับเจ้าของธุรกิจก็สามารถทำเป็นโฮมออฟฟิศได้ มีงบประมาณเริ่มต้นอยู่ที่ 31.8 – 44.9 ล้านบาท*

 


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่