รีวิวโครงการ

ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น พร้อม DOUBLE VOLUME ติดถนนใหญ่ | NUE VERSE กรุงเทพกรีฑา | คิดเรื่องอยู่ EP.763

12 พฤษภาคม 2024

อ่านรีวิวล่าสุด

..โครงการ Nue Verse Krungthep Kreetha (นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา) เป็นหนึ่งในทาวน์โฮมใหม่จาก Noble ที่ผมมองว่าเค้าทำราคาออกมาได้ดี เริ่มต้นไม่ถึง 10 ล้าน กับทำเลที่อยู่ติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้าแบบนี้ครับ โดยจะเป็นดีไซน์ใหม่ที่เน้นความ Privacy ในการอยู่อาศัยอย่างมาก แถมยังมีฟังก์ชันที่ยืดหยุ่น สามารถปรับเป็นโฮมออฟฟิศสำหรับทำธุรกิจส่วนตัวได้อีกด้วย ซึ่งจุดเด่นหรือ Highlights ของโครงการที่น่าสนใจจะมีดังต่อไปนี้เลย

  • ออกแบบ Facade (หน้ากากบ้าน) ให้ช่วยพรางสายตา และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับตัวบ้าน แต่ก็ยังคงได้ในเรื่องแสงสว่างที่เพียงพอ และยังคำนึงถึงเรื่อง Ventilation (การระบายอากาศ) อีกด้วย
  • ฟังก์ชันมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเป็นโฮมออฟฟิศสำหรับทำงานได้ โดยเฉพาะหลังใหญ่สุดที่สามารถจอดรถได้ถึง 4 คัน เรียกได้ว่าสูงสุดในย่านเลยทีเดียว
  • ทำเลติดถนนใหญ่ และมีความอุดมสมบูรณ์ ใกล้คอมมูนิตี้มอลล์ โรงเรียนนานาชาติ และทางด่วนให้เข้าเมืองได้ง่าย
  • ถือว่าเป็นโครงการที่ให้พื้นที่ส่วนกลางมาเยอะกว่าเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนจำนวนยูนิตโครงการที่มีมากกว่าด้วยนั่นเอง

ข้อมูลโครงการ

Nue Verse Krungthep Kreetha (นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา) ณ วันที่ 16 มกราคม 2567

 ชื่อโครงการ   Nue Verse Krungthep Kreetha (นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา)
 ชื่อผู้ประกอบการ   บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน)
 SEGMENT CLASS   UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2023 )
 โครงการตั้งอยู่   ถนน ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า เขต สะพานสูง
 ที่ดิน  20-0-63.8 ไร่
 จำนวนยูนิต  208 ยูนิต
 ประเภทบ้าน
  • ASTRO (แอด-โทร) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 19.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 202 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท* (สอบถามอีกครั้ง)
  • NOVA (โน-ว่า) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 22.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 238 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท* (สอบถามอีกครั้ง)
  • VEGA (เว-ก้า) โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 27.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท* (สอบถามอีกครั้ง)

 ความสูงจากพื้นถึงฝ้า   ฝ้าเพดานปกติ 2.5 – 2.7 เมตร / Double Volume 5.5 – 5.7 เมตร
 ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ   N/A บาท
 เริ่มก่อสร้าง   ปี 2566
 Pre-Sale   วันที่ 2 – 3 กุมภาพันธ์ 2567
 เว็บไซต์โครงการ   https://www.noblehome.com/th/house/nue-verse-krungthep-kreetha
 โทร   02-251-9955

 

ทำเลที่ตั้ง

Highlights :

  • ติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า สามารถกลับรถเข้าเมืองหน้าโครงการได้ง่าย
  • ทำเลมีความอุดมสมบูรณ์ หาของกินง่าย มีทั้งคอมมูนิตี้มอลล์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และโรงเรียนนานาชาติ
  • มีตัวเลือกในการเดินทางเข้า-ออกเมืองได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนศรีรัช ถนนกาญจนาภิเษก และมอเตอร์เวย์

พิกัด Google Maps : 13.753578, 100.698589
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

‘ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า’ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อย่าน ‘กรุงเทพกรีฑา’ ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อประมาณ 5 – 6 ปีก่อน และหลังจากนั้นถนนเส้นนี้ก็บูมหนักขึ้นอย่างมาก เพราะเป็นทำเลที่ยังสามารถเข้าเมืองไปทางพระราม 9 – ห้วยขวางได้ง่าย อีกทั้งยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่บนถนนของตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเป็น Little Walk / Market Place และตลาดเดินเล่น รวมถึงยังมีโรงเรียนนานาชาติชื่อดังอีกหลายแห่งด้วยครับ จึงทำให้ช่วงหลายๆปีที่ผ่านมามีโครงการเปิดใหม่ในย่านนี้เยอะมาก โดยเฉพาะโครงการระดับ Luxury ที่เป็นบ้านหรูทั้งหลาย

Nue Verse Krungthep Kreetha (นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา) ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ตรงบริเวณช่วงตอนปลายก่อนจะถึงวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งด้านหน้าจะมีทางให้กลับรถเข้าเมืองได้ง่ายเลย หรือจะเลี้ยวไปทางมอเตอร์เวย์-กาญจนาภิเษกก็ได้ โดยผมมองว่าโครงการที่ตั้งอยู่ในช่วงไม่เกินวงแหวนฯแบบนี้ ไม่ว่าจะอยู่ตรงตำแหน่งไหนหรือฝั่งไหน ก็มีความสะดวกไม่แพ้กัน เพราะถนนเส้นนี้รถไม่ค่อยติดเลยครับ เป็นถนนเส้นใหญ่ 6 – 8 เลน แถมเรายังสามารถเลือกแวะซื้อของ/ทานอาหารก่อนกลับบ้านได้อีกด้วย

ตัวอย่างความอุดมสมบูรณ์ใกล้โครงการอย่าง Little Walk ที่จะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่ ภายในมีร้านอาหารชื่อดังและสิ่งอำนวยความสะดวกครบ รวมถึงยังมี Villa Market ให้เราได้เดินช้อปปิ้งซื้อของเข้าบ้านได้ด้วยครับ

ภายใน Villa Market ก็จะเหมือนซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆเลย มีทั้งของกินของใช้ ของสด และอาหารแช่แข็งครบ แต่ที่ต่างจากห้างทั่วไปก็คือ เค้าจะมีผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศขายด้วย โดยเฉพาะขนมขบเคี้ยวพวกเลย์ ชีโตส ที่ปกติมักจะหาซื้อได้ยากมากๆ แต่สามารถซื้อได้ที่นี่สบายๆเลยครับ

ทางพิเศษศรีรัช :

เป็นทางด่วนที่น่าจะมีโอกาสได้ใช้งานบ่อยที่สุด ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 8 km. ใช้เวลาประมาณ 8 – 10 นาทีก็ถึงครับ แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนอาจมีการจราจรที่ติดขัดตรงถนนศรีนครินทร์ ก็อาจต้องเผื่อเวลาเพิ่มสัก 15 นาที สามารถเข้าเมืองไปทางพระราม 9 – ห้วยขวางได้สะดวก

มอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี สายใหม่ :

บริเวณด้านหน้าโครงการจะมีทางให้เชื่อมต่อเข้าสู่ทางคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษกได้เลยครับ ซึ่งเราก็สามารถลัดมาเข้ามอเตอร์เวย์เพื่อไปทางชลบุรี-พัทยาได้สะดวกเลย

วงแหวนกาญจนาภิเษก :

เป็นอีกทางพิเศษหนึ่งที่เราสามารถไปใช้ได้ครับ เพียงแต่อาจมีเส้นทางที่ต้องวนอ้อมสักหน่อย คือถ้าเป็นทางแรกก็จะไปขึ้นตรงถนนรามคำแหงตามภาพ โดยใช้ทางคู่ขนานกาญจนาภิเษกลัดเลาะไปเรื่อยๆ มีระยะทางประมาณ 5.7 km.

ส่วนอีกทางก็จะออกไปทางถนนศรีนครินทร์ตามปกติ แล้วจะไปขึ้นวงแหวนจากทางคู่ขนานมอเตอร์เวย์แทนครับ (ขากลับก็จะต้องใช้ทางนี้ด้วยเหมือนกัน) ซึ่งถนนกาญจนาภิเษกสามารถใช้เดินทางไปยังบางนา พระราม 2 หรือรามอินทราได้นั่นเอง

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้

บริบทโดยรอบของโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นโครงการแนวราบครับ จึงมีความเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัยดี แถมบริเวณด้านหน้าก็ยังอยู่ติดกับถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้าอีกด้วย และมีจุดให้กลับรถอยู่ทางด้านหน้าเลย จึงสามารถเดินทางได้สะดวกมากๆเลยทีเดียว

  • ทิศเหนือ : ติดกับ ชุมชนแนวราบ และคลองสาธารณะ
  • ทิศใต้ : เป็นทางเข้าหลักโครงการ ติดกับ ถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า
  • ทิศตะวันออก : ติดกับ ชุมชนแนวราบ
  • ทิศตะวันตก : ติดกับ Noble Norse Krungthep Kreetha โครงการบ้านเดี่ยวเพื่อนบ้านในอนาคต

และนี่คือบรรยากาศบริเวณด้านหน้าทางเข้าโครงการครับ ซึ่งตรงวงเวียนนี้จะเป็นถนนภาระจำยอมร่วมกันระหว่าง Nue Verse Krungthep Kreetha และ Noble Norse Krungthep Kreetha 2 โครงการ ทำให้มีความเป็นส่วนตัวและปลอดภัยในการเข้า-ออก อีกทั้งยังดูสวยงามดีอีกด้วยครับ

ด้านซ้ายของโครงการจะเป็นทางที่มาจากฝั่งถนนศรีนครินทร์-พระราม 9 ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ต่างๆก็จะอยู่ทางด้านนี้แหละครับ ไม่ว่าจะเป็น Little Walk และ Market Place ที่สามารถแวะจับจ่ายใช้สอยกันก่อนกลับเข้าบ้านได้

ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นทางที่มุ่งหน้าไปยังทางคู่ขนานกาญจนาภิเษก ที่เราสามารถเลี้ยวซ้ายหรือขวาก็ได้ รวมถึงยังมีจุดให้กลับรถใต้สะพานเพื่อเข้าเมืองไปทางศรีนครินทร์-พระราม 9 ได้อีกด้วยครับ

 

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

  • Little Walk กรุงเทพกรีฑา ~ 3.1 กม.
  • The Park กรุงเทพกรีฑา ~ 4.4 กม.
  • สัมมากรเพลส รามคำแหง ~ 4.8 กม.
  • Lotus’s Go Fresh กรุงเทพกรีฑา ~ 5.1 กม.
  • Market Place สุขาภิบาล 3 ~ 5.7 กม.
  • Market Place กรุงเทพกรีฑา ~ 5.9 กม.
  • The Paseo Town รามคำแหง ~ 6.4 กม.
  • The Mall บางกะปิ ~ 8.4 กม.
  • Thanya Park ~ 9 กม.
  • The Nine Center, ตลาดเสรีมาร์เก็ต พระราม 9 ~ 10.1 กม.
  • The Mall รามคำแหง ~ 10.4 กม.
  • Lotus’s, London Street พัฒนาการ ~ 10.9 กม.
  • The Paseo Mall ลาดกระบัง ~ 10.9 กม.
  • Robinson ลาดกระบัง ~ 11.2 กม.
  • Little Walk ลาดกระบัง ~ 11.6 กม.
  • Seacon Square ศรีนครินทร์, ตลาดนัดรถไฟศรีนครินทร์ ~ 12.3 กม.

โรงพยาบาล

  • รพ.เกษมราษฎร์ รามคำแหง ~ 5.2 กม.
  • รพ.ศิริน ~ 6.2 กม.
  • รพ.รามคำแหง 2 ~ 6.9 กม.
  • รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ~ 8 กม.
  • รพ.วิภาราม พัฒนาการ ~ 8.3 กม.
  • รพ.รามคำแหง ~ 8.7 กม.
  • รพ.สิรินธร ~ 13.5 กม.

โรงเรียน

  • Ascot International School ~ 3.4 กม.
  • Wellington College International School ~ 4 กม.
  • Heathfield International School ~ 4.7 กม.
  • Brighton College Bangkok ~ 6.6 กม.
  • รร.เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ~ 6.9 กม.
  • รร.นวมินทราชินูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ~ 7.5 กม.
  • Ramkhamhaeng Advent International School (RAIS) ~ 7.6 กม.
  • สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ~ 7.7 กม.
  • International Montessori Center (IMC) ~ 7.8 กม.
  • Mandarin International School (MIS) ~ 7.9 กม.
  • Pensmith STEM International ~ 8 กม.
  • Stamford International University ~ 8 กม.
  • Assumption University Huamak Campus (ABAC) ~ 8.1 กม.
  • ม.รามคำแหง (RU) ~ 8.4 กม.
  • Bromsgrove International School ~ 8.6 กม.
  • รร.เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ~ 9 กม.
  • รร.สารสาสน์วิเทศร่มเกล้า อินเตอร์ ~ 9.9 กม.
  • Ruamrudee International School (RISM) ~ 10 กม.
  • RIS Swiss Section Deutschsprachige Schule Bangkok ~ 10 กม.
  • Traill International School ~ 10.5 กม.
  • Beaconhouse Yamsaard International School (BYIS) ~ 10.5 กม.
  • Kincaid International School ~ 10.9 กม.
  • สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) ~ 14.3 กม.

รายละเอียดโครงการ

Highlights :

  • พื้นที่ส่วนกลางมีขนาดใหญ่ และสวยงามน่าใช้งาน
  • บ้านส่วนใหญ่อยู่ติดถนน Main สามารถเข้า-ออกได้สะดวก
  • มีโซนของบ้านที่ไม่ต้องหันหน้าชนกันใครให้เลือก จึงเหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยที่มากขึ้น

โครงการ Nue Verse Krungthep Kreetha (นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา) ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 20-0-63.8 ไร่ และมีเพื่อนบ้าน 208 ยูนิต ถือว่ามีขนาดใหญ่กว่าเพื่อนบ้านย่านเดียวกันพอสมควร แต่ก็มีข้อดีคือ ทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ให้ใช้งานเยอะขึ้นตามไปด้วย

ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาโครงการทาวน์โฮมบรรยากาศส่วนกลางดีๆ และน่าใช้งานแบบนี้อยู่ล่ะก็ ลองตามไปชมบรรยากาศและรายละเอียดของโครงการนี้ไปพร้อมๆกันได้เลยครับ

Master Plan ของโครงการจะมีลักษณะเป็นเส้นตรงลึกเข้าไปด้านใน โดยจัดให้พื้นที่ส่วนกลางอย่างอาคาร Clubhouse และสวนอยู่ทางด้านหน้าเป็นส่วนต้อนรับ ส่วนโซนบ้านพักอาศัยจะอยู่บริเวณด้านใน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 โซนตาม Type บ้านดังนี้

  1. สีแดง : เป็นแบบบ้านหลังใหญ่ที่สุดของโครงการ ที่มีฟังก์ชันเอื้อต่อการทำพื้นที่ภายในให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ หรือพื้นที่ทำงานได้ โดยจะอยู่บริเวณด้านหน้าสุดเพื่อสะดวกในการเข้า-ออก (เผื่อบางทีอาจต้องรับแขกบ้าง) และยังสามารถมาใช้งานส่วนกลางได้ง่ายอีกครับ
  2. สีน้ำเงิน : เป็นแบบบ้านไซส์กลางของโครงการ จะอยู่ติดถนน Main ที่กว้างถึง 12 m. ยังคงมีความสะดวกในการเข้า-ออก ไม่ต้องเลี้ยวเข้าซอยให้ยุ่งยาก
  3. สีฟ้า : เป็นแบบบ้านไซส์เล็กสุดของโครงการ ส่วนใหญ่จะอยู่ภายในซอยคู่ขนานกับถนนหลัก ซึ่งจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพราะไม่ต้องหันหน้าบ้านชนกับใคร แต่ถ้าใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นอีก ผมแนะนำเป็นซอยเล็กๆที่อยู่ขวามือ เพราะจะมีเพื่อนร่วมซอยน้อย และไม่ค่อยมีคนผ่านไป-มาหน้าบ้านมากนักนั่นเอง

เริ่มกันที่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ จะมีไม้กั้นกระดกที่เปิด-ปิดด้วยระบบสัญญาณ Bluetooth ทำให้ลูกบ้านเข้า-ออกได้สะดวก พร้อมมีกล้อง CCTV และ รปภ. 24 ชม. ส่วนถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรก่อนตามปกติครับ

เมื่อเข้ามาภายในเราจะเจอกับอาคาร Clubhouse ที่ตั้งอยู่ทางขวามือ ซึ่งจะมีทางแยกออกไป 2 ทางคือ ทางลาดด้านซ้ายที่สามารถเดินหรือเข็นรถต่างๆขึ้นไปยังอาคาร Clubhouse ได้สะดวก และทางด้านขวาจะเป็นทางไปสวนด้านข้างครับ

ขึ้นมาดูด้านบนกันก่อนนะครับ ซึ่งเราจะเจอกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่เป็นส่วนต้อนรับ และจะมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังใต้อาคารแบบนี้

โดยพื้นที่ริมสระจะเป็นจุดให้มานั่งเล่นพักผ่อนใต้อาคารครับ จึงทำให้สามารถมาใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งจะมีทั้งชุดโซฟาขนาดใหญ่ เคาน์เตอร์บาร์ทรงสูง และเก้าอี้ Day Bed รวมถึงเรายังสามารถใช้พื้นที่นี้ในการจัด Pool Party หรือกิจกรรมอื่นๆตามวันเทศกาลในอนาคตได้อีกด้วยนะ

สระว่ายน้ำเป็นแบบกลางแจ้ง มีขนาดกว้าง 20 x 7 m. สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจังเลยครับ โดยผมแนะนำให้มาใช้งานตอนเย็นๆที่แดดร่มๆหน่อยก็จะดีนะ

ส่วนบริเวณด้านข้างก็จะมีการแบ่งเป็นสระเด็กขนาด 7.9 x 4.95 m. และยังมีบ่อ Jacuzzi ให้เรามานั่งแช่น้ำพักผ่อนกันได้อีกด้วย

อีกด้านหนึ่งของอาคารตรงทางเข้าในตอนแรก หากเราเลี้ยวไปทางซ้ายมือก็จะมีห้องนิติบุคคล ให้ได้มาติดต่อธุระต่างๆตรงนี้ได้สะดวก

ส่วนด้านในก็จะเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิงให้ใช้งาน ซึ่งตำแหน่งอาจอยู่ไกลจากสระว่ายน้ำหรือฟังก์ชันอื่นๆสักหน่อย แต่โชคดีที่สามารถเดินในร่มอยู่ใต้ชายคาได้แบบนี้ครับ

ภายในห้องน้ำจะมีฟังก์ชันให้ใช้งานครบ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำ และตู้ล็อคเกอร์ ซึ่งก็จะมีอยู่หลายห้องให้ใช้งานพร้อมๆกันได้หลายคนเลย

อีกด้านหนึ่งของอาคารจะมีทางเดินเล็กๆริมสระ เพื่อเชื่อมต่อไปยังพื้นที่สวนได้ครับ

โดยจุดแรกจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นตรงปลายสระ ซึ่งจะมีร่มเงาของต้นไม้คอยบังแสงแดดให้อยู่ตลอดเวลา ขนาดตอนช่วงใกล้เที่ยงแบบนี้ก็ยังไม่ร้อนมากเลยครับ

เมื่อเดินต่อมาอีกหน่อยเราจะวนมาเจอกับพื้นที่สวนเป็นสนามหญ้า ซึ่งจะมีจุดให้นั่งเล่น ศาลาพักผ่อน และสนามเด็กเล่นเล็กๆให้ใช้งาน

ภายในศาลาพักผ่อนจะมีชุดโต๊ะเก้าอี้ให้นั่งเล่นในร่มกันได้แบบนี้ครับ

อีกด้านหนึ่งจะเป็น Playground ประกอบด้วยสไลด์เดอร์ ม้าโยก และที่ปีนป่าย ให้น้องๆได้มาออกกำลังกายเล่นสนุกกันได้

ถัดมาเราจะขึ้นไปดูชั้น 2 ของอาคาร Clubhouse กันต่อนะครับ

โดยเมื่อขึ้นบันไดมาด้านบนก็จะเจอกับห้องให้ใช้งาน 2 ฟังก์ชัน

เริ่มกันที่ Fitness ภายในมีบรรยากาศที่สว่างโปร่งโล่งมากๆ เพราะรอบด้านจะเป็นกระจกทั้งหมด และมีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบครันเลย

เริ่มจากโซน Cardio จะประกอบด้วยลู่วิ่งและเครื่องปั่นจักรยาน ที่หันหน้าออกไปรับวิวสวนและสระว่ายน้ำที่อยู่ชั้นล่าง ทำให้มีวิวให้ได้ชมกันเพลินๆในระหว่างออกกำลังกาย อีกทั้งยังมี Facade ที่ช่วยบังแดดและพรางสายตาจากคนภายนอกได้ส่วนหนึ่งด้วยครับ

อีกด้านหนึ่งจะเป็นเครื่องออกกำลังกายยกน้ำหนัก ให้เราได้เพิ่มกล้ามเนื้อ ซึ่งก็มีให้ใช้งานหลายเครื่องอยู่ครับ สามารถออกกำลังกายได้พร้อมกัน 3 – 4 คนเลย

ถัดมาจะเป็น Business Lounge และพื้นที่ Co-Working Space ที่สามารถมาใช้นั่งทำงานอ่านหนังสือ หรือจะใช้รับรองแขกก็ได้ โดยจะมีจุดให้แยกกันนั่งได้หลายจุดเลยครับ

ส่วนห้องเล็กๆด้านในจะเป็น Meeting Room ที่จะมีประตูปิดแยกมิดชิดเพื่อความเป็นส่วนตัว จึงสามารถใช้นั่งประชุมหรือทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มได้

อีกทั้งด้านในยังมีประตูบานเฟี้ยมที่เราสามารถเลื่อนปิด เพื่อแยกออกเป็นส่วนตัว 2 ห้องได้ด้วยครับ จึงทำให้เราสามารถใช้งานฟังก์ชันนี้ 2 กลุ่มพร้อมๆกันได้นั่นเอง

ปิดท้ายกันด้วยบรรยากาศถนน Main ของโครงการที่อยู่ด้านใน ซึ่งจะกว้างถึง 12 m. และด้านซ้ายมือจะมีที่จอดรถสำหรับ Visitor + ลูกบ้านที่ขับรถมาใช้ส่วนกลางด้านหน้าด้วยครับ

ส่วนช่องว่างระหว่าง Cluster ของทาวน์โฮมในแต่ละช่วง นอกจากจะเว้นไว้เป็นจุดให้กลับรถได้แล้ว ยังเป็นตำแหน่งของการวางถังขยะรวมเอาไว้อีกด้วย

ซึ่งบ้านแต่ละหลังของที่นี่จะไม่ได้มีถังขยะหน้าบ้านเป็นของตัวเอง แต่จะมีการจัดให้มาทิ้งรวมกันไว้ในที่เดียว เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและดูแลจัดการได้ง่ายครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

  • อาคาร Clubhouse
  • Business Lounge (Co-Working Space)
  • Meeting Room
  • GYM (Fitness)
  • Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 20 x 7 m.
  • Kids Pool ขนาด 7.9 x 4.95 m.
  • Jacuzzi
  • Playground
  • Pavilion
  • พื้นที่สวนภายในโครงการ 1 จุด ขนาดรวม 0-2-42.5 ไร่
  • ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
  • รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 1.5 เมตร
  • ถนนหลักกว้าง 12 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
  • ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
  • การเข้า-ออกโครงการด้วยสัญญาณ Bluetooth เปิดอัตโนมัติระยะไกล
  • เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
  • ติดตั้ง Digital Door Lock ที่ประตูทางเข้าบ้านหลักทุกหลัง
  • หลังคาติดตั้ง Solar Cell ช่วยประหยัดพลังงานทุกหลัง

แบบบ้าน

Highlights :

  • เน้นความ Privacy ของช่องแสงต่างๆ โดยที่ยังคงมีแสงสว่างเพียงพอ และยังได้ในเรื่อง Ventilation (การระบายอากาศ) ที่ดีอีกด้วย
  • ฟังก์ชันยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนทาวน์โฮมที่เป็นที่อยู่อาศัยธรรมดา ให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศที่มีพื้นที่ทำงานภายในได้

แบบบ้านของโครงการ Nue Verse Krungthep Kreetha (นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา) จะมีทั้งหมด 3 แบบ โดยจะมีคอนเซ็ปต์ Urban Hybrid Home เป็นทาวน์โฮมที่ออกแบบมาให้มีขนาดพื้นที่+ฟังก์ชัน ที่เอื้อประโยชน์ต่อการจัดทำเป็นพื้นที่ทำงานอยู่บ้านของตัวเองได้สบายๆ และมีหน้าตา Facade ที่สุดแสนจะ Minimal ประกอบด้วย

  • ASTRO (แอด-โทร) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 19.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 202 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  • NOVA (โน-ว่า) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 22.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 238 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
  • VEGA (เว-ก้า) โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 27.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 4 ที่จอดรถ

วัสดุและโครงสร้างบ้าน :

  • โครงสร้าง : Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ที่มีความแข็งแรงและไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการรั่วซึม รวมถึงยังมีความสามารถในการป้องกันเสียงได้ดีอีกด้วย แต่จะไม่สามารถทุบ/เจาะได้นะครับ เพราะเป็นผนังโครงสร้างรับน้ำหนักในตัวเอง จะต้องปรึกษาช่างก่อนทุกครั้ง
  • พื้นที่จอดรถ : Slab on Ground ไม่ได้ลงเสาเข็ม และแยกโครงสร้างออกจากตัวบ้าน
  • พื้นที่ซักล้านหลังบ้าน : Slab on Beam ลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้าน รองรับน้ำหนักและการต่อเติมได้
  • โครงสร้างบันได : โครงเหล็กปิดผิวไม้ยางพารา
  • พื้นชั้นล่าง : กระเบื้องแกรนิตโต้ 60 x 60 cm.
  • พื้นชั้น 2 – 3 : กระเบื้อง SPC ลายไม้ธรรมชาติ
  • สุขภัณฑ์ : American Standard
  • ต้นไม้ที่ให้เป็นมาตรฐาน : ASTRO = หลิวลู่ลม, NOVA = บุหงาส่าหรี, VEGA = พุดกุหลาบ
  • ติดตั้ง Solar Rooftop ไว้บนหลังคาทุกหลัง เพื่อช่วยประหยัดค่าไฟของตัวบ้าน

  • VEGA (เว-ก้า) โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 27.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 4 ที่จอดรถ

เป็นแบบบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการ โดยเค้าจะเรียกว่าเป็น ‘โฮมออฟฟิศ’ ซึ่งแตกต่างจากแบบบ้านอื่นๆ เนื่องจากมีขนาดพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชัน ที่เอื้อประโยชน์ในการจัดทำเป็นพื้นที่ทำงานในบ้านได้ครับ จึงเหมาะกับคนที่อาจต้องการประกอบธุรกิจส่วนตัว มีพื้นที่ทำออฟฟิศเล็กๆ (พนักงาน 4 – 5 คน) พื้นที่สต็อกสินค้า และพื้นที่สำหรับอยู่อาศัยไปได้ด้วยนั่นเอง

  • แปลนชั้น 1 จะมีพื้นที่สามารถจอดรถซ้อนคันได้ถึง 4 คัน ซึ่งอาจแบ่งเป็นของเจ้าของบ้าน พนักงาน และลูกค้าที่มาติดต่อด้วยนั่นเองครับ ส่วนด้านในก็สามารถทำเป็นพื้นที่รับแขกได้ โดยอาจเป็นชุดโซฟาแบบ Living Area หรือจะเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ไว้คุยงาน และเป็น Pantry ของพนักงานก็ได้ แต่จุดเด่นจริงๆคือ Double Volume หรือฝ้าเพดานสูงที่มีความโปร่งโล่ง และยังเชื่อมต่อกับพื้นที่หลังบ้านได้ดีนั่นเอง
  • แปลนชั้นลอย เป็นพื้นที่ Family Area ที่สามารถใช้งานได้จริงจัง เพราะจะมีทั้งห้องน้ำและระเบียงให้ใช้งาน รวมถึงยังสามารถมองเชื่อมต่อลงไปยังชั้น 1 ผ่าน Double Volume ได้อีกด้วย ซึ่งเราสามารถกั้นห้องเป็นสัดส่วนเพิ่มเติมได้เลย ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องผู้จัดการ หรือห้องทำงานของพนักงานก็ได้
  • แปลนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ของ Master Bedroom แบบทั้งชั้น ถือเป็นที่อยู่หลักของเจ้าของบ้าน ภายในมีขนาดใหญ่กว้างขวาง สามารถแบ่งฟังก์ชันเพื่อใช้ชีวิตอยู่ในห้องนี้ได้ครบครันแบบ Penthouse ไปเลยก็ได้ครับ โดยจุดเด่นของชั้นนี้ก็คือ ห้องน้ำที่จะมีขนาดใหญ่+อ่างอาบน้ำแบบลอยตัวนั่นเอง
  • แปลนชั้น 3 จะแบ่งเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้องที่มีขนาดพอๆกัน และยังมีห้องน้ำแยกเป็นส่วนตัวทั้งคู่อีกด้วย สามารถใช้เป็นห้องนอนลูก 1 – 2 คนได้สบายๆ หรือถ้าใครเน้นการทำธุรกิจก็ยังดัดแปลงเป็นห้องนั่งทำงาน ห้องประชุม และห้องสต็อกสินค้าได้อีกด้วยครับ

หมายเหตุ : ‘โฮมออฟฟิศ’ ไม่ใช่ ‘อาคารพาณิชย์’ จึงไม่ต้องมีหน้าร้านหรือติดป้ายหน้านะครับ

พามาดูบ้านเปล่ามาตรฐานกันก่อนนะครับ ซึ่งบริเวณด้านหน้าจะมีประตูรั้วเหล็กบานพับสีดำ ที่เราสามารถติดตั้งเป็นประตูอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้วยตัวเองได้นะครับ

ที่จอดรถกว้าง 6.3 m. และลึกประมาณ 10 m. สามารถจอดรถซ้อนกัน 4 คันได้แบบพอดีๆ โดยที่รถด้านหน้าอาจยื่นออกมานอกชายคาสักครึ่งคัน ซึ่งถ้าใครไม่อยากจอดรถตากแดดตากฝน ก็สามารถทำหลังคาเพิ่มเติมได้ครับ (จะต้องปรึกษาและยื่นแบบกับทางโครงการก่อนอีกทีนะ)

โครงสร้างที่จอดรถเป็นแบบ Slab on Ground โดยจะเทพื้นปูนและแยก Joint โครงสร้างออกจากตัวบ้านแบบทั้งผืนเลย เพื่อที่เวลาเกิดการทรุดตัวในอนาคต ก็จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักนั่นเอง

ทางเข้าบ้านจะเป็นประตูไม้บานทึบ จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัวจากคนที่ผ่านไป-มาหน้าบ้านมากขึ้น แต่ก็ยังมีช่องแสงด้านข้างเพื่อความสว่างโปร่งโล่งครับ มาพร้อมกับติดตั้ง Digital Door Lock มาให้เป็นมาตรฐานทุกหลังด้วย

พามาดูบ้านตัวอย่างที่ตกแต่งแล้วกันครับ ซึ่งเค้ามีไอเดียการจัดพื้นที่บางจุดได้ค่อนข้างน่าสนใจ อย่างบริเวณนี้เดิมทีจะเป็นที่จอดรถธรรมดา เค้าก็มีการทุบผนังออกเพื่อขยายพื้นที่ใช้สอยภายใน ทำให้มีพื้นที่ใช้งานเพิ่มมากขึ้นได้

โดยจากการสอบถามโครงการ จริงอยู่ที่ผนัง Precast จะไม่สามารถทุบเจาะได้แบบนี้ แต่บริเวณนี้ถือเป็นตำแหน่งพิเศษ ที่ได้ออกแบบให้สามารถทำได้ ด้วยการเว้นเสาโครงสร้างเพื่อรับน้ำหนักแบบบ้านตัวอย่างไว้ 1 ต้นแบบนี้ (แต่ทั้งนี้..ก็อย่าลืมปรึกษาช่างโครงการอีกครั้งนะครับ)

ซึ่งไอเดียของบ้านตัวอย่างจะทำให้เราได้พื้นที่อเนกประสงค์ ไว้เป็นส่วนต้อนรับเพิ่มแบบนี้ครับ ยิ่งถ้าใครทำธุรกิจที่บ้านก็สามารถใช้เป็นมุม Pantry ของพนักงาน ไว้จิบกาแฟ ทานอาหาร หรือคุยงานเล็กๆน้อยๆได้สบายๆเลย

และอีกด้านหนึ่งก็ทำเป็นครัวให้ใช้งานได้ (แต่อาจต้องเดินท่องานระบบต่างๆเพิ่มเอง เพราะอย่าลืมว่าเดิมทีจะเป็นเพียงที่จอดรถเท่านั้น)

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ฝ้าเพดานสูง Double Volume 5.65 m. จึงมีความสว่างโปร่งโล่ง ซึ่งบ้านตัวอย่างก็จัดเป็น Living Area มาให้ดูเป็นไอเดีย สามารถใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนกันได้เลย

โดยของจริงบริเวณนี้จะถูกเตรียมท่องานระบบต่างๆ ไว้ที่ผนังด้านขวามือ (ฝั่งทีวี) เพื่อใช้สำหรับทำเป็นครัวหรือ Pantry และสามารถใช้เป็นโซนรับประทานอาหารของบ้านได้นั่นเองครับ ซึ่งตรงจุดนี้ก็แล้วแต่ไอเดียและ Lifestyle ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันนะ

และเมื่อเรามองขึ้นไปด้านบนก็จะสามารถเชื่อมต่อกับชั้นลอยได้แบบนี้ รวมถึงยังมีพื้นที่ให้แขวน Chandelier สวยๆได้อีกด้วย

ช่องแสงทางด้านหลังของบ้านมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งจะเป็นกรอบอลูมิเนียมพ่นทรายหยาบสีขาว และแบ่งเป็นช่องประตูเฉพาะส่วนครึ่งล่างเท่านั้น ทำให้เวลาใช้งานจะไม่มีน้ำหนักที่มากเกินไปนั่นเอง

ลานซักล้างหลังบ้านมีขนาด 6.3 x 2 m. ซึ่งจะเป็นโครงสร้าง Slab on Beam ลงเสาเข็มมาให้ลึกเท่ากับตัวบ้าน จึงสามารถรับน้ำหนักและต่อเติมเพิ่มได้สบายๆ

โดยของจริงจะเป็นพื้นปูนธรรมดาๆ และมีแทงค์น้ำขนาดใหญ่วางเอาไว้ สามารถใช้เป็นจุดซัก-ตากผ้าได้ หรือจะปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว ทำให้เวลามองออกมาจากในบ้านก็จะรู้สึกสดชื่นมากขึ้นแบบนี้ก็ได้ครับ

อีกด้านหนึ่งบริเวณด้านหลังโซฟาจะมีห้องน้ำให้ใช้งานด้วยครับ

ภายในจะมีการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน ได้สุขภัณฑ์ของ American Standard เป็นมาตรฐาน และผมชอบตรงที่มีช่องหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้โดยตรงด้วยครับ

พื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1 x 1 m. แต่จะไม่ได้มีฉากกั้นมาให้นะ ซึ่งผมมองว่าเป็นฟังก์ชันที่มีเผื่อเอาไว้สำหรับรองรับการอยู่อาศัยร่วมกันหลายๆคนได้นั่นเอง

บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน โครงสร้างเป็นเหล็กที่ปกติเวลาเดินขึ้น-ลงอาจมีเสียงดัง หรือรู้สึกโปร่งๆบ้าง แต่สำหรับโครงการนี้ผมไม่รู้สึกเลยนะ ถือว่าทำออกมาได้แน่นดีทีเดียว

ด้านบนปิดผิวด้วยไม้ยางพารา มีราวจับให้ใช้งานตลอดทาง แต่ก็อาจต้องระวังขั้นบันไดสามเหลี่ยมอยู่บ้าง เพราะจะเหยียบได้ไม่เต็มฝ่าเท้าดีนัก ส่วนใต้บันไดก็จะมีห้องเก็บของให้เราได้ใช้งานครับ

ขึ้นมาด้านบนจะเป็นชั้นลอยที่มีขนาด 5 x 4.1 m. สามารถทำเป็น Family Area / พื้นที่ทำงาน หรือจะกั้นทำเป็นห้องนอนเพิ่มอีกห้องไปเลยก็ได้ครับ

โดยความสูงฝ้าของชั้นนี้คือ 2.65 m. และเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้อง SPC ลายไม้ ที่มีความสวยงามอบอุ่นดูเป็นธรรมชาติ แต่ก็สามารถทนน้ำหรือความชื้นได้ดีกว่าพื้นไม้ลามิเนตนั่นเอง

บริเวณด้านในของตัวบ้านจะเป็นพื้นที่ Double Volume มองเชื่อมต่อลงไปยังชั้น 1 ก่อนหน้านี้ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์ของคนที่อยู่คนละชั้นได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้าใครที่อยากเพิ่มความเป็นสัดส่วนให้มากขึ้น ก็สามารถกั้นเป็นผนังกระจกเพิ่มได้ แถมยังเป็นการช่วยจำกัดโซนของการเปิดแอร์ให้แยกกัน จะได้ไม่ต้องเปลืองแอร์ด้วยครับ

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นผนังกระจกขนาดใหญ่ ที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงที่อยู่หน้าบ้านได้

ระเบียงภายนอกมีขนาด 1.5 x 6.3 m. สามารถออกมาใช้งานได้สบายๆ โดยจะมีจุดที่น่าสนใจ 2 จุดใหญ่ๆคือ

  1. บริเวณด้านหน้าบ้านจะมี Facade ที่ช่วยบังสายตาจากภายนอก ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง
  2. มีพื้นที่ให้สามารถปลูกต้นไม้ทรงสูงได้ (โครงการให้มาในกระถางเป็นมาตรฐานแบบนี้เลย) ซึ่งจะเป็น Double Volume เชื่อมต่อไปยังชั้นบนของบ้าน ได้ทั้งร่มเงาและความสดชื่นครับ

นอกจากนี้ที่ชั้นลอยก็ยังมีห้องน้ำให้ใช้งานสะดวก ทำให้เราไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบันไดให้เหนื่อยเลย แถมบริเวณด้านหน้ายังมีพื้นที่อเนกประสงค์เล็กๆ เผื่อให้ทำเป็นมุมแต่งตัวหรือมุม Pantry ได้อีกด้วย

ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันให้ใช้งานครบ แน่นอนว่าฉากกั้นอาบน้ำจะต้องติดตั้งเพิ่มเองนะ ส่วนภายในจะกว้าง 1 x 1 m. ให้ใช้งานพอดีๆ

และที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ พัดลมดูดอากาศบนฝ้าเพดาน เพราะห้องนี้จะไม่ได้มีหน้าต่างติดกับภายนอก พัดลมนี้ก็จะช่วยในเรื่องการระบายอากาศได้นั่นเองครับ

สำหรับบันไดทางขึ้นชั้น 2 จะมีความพิเศษคือ ‘ระเบียงขนาด 2 x 2 m.’ ที่จะมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ให้เปิดออกไปใช้งานได้ ซึ่งทำให้โถงบันไดมีความสว่างโปร่งโล่ง และยังช่วยในเรื่องการระบายอากาศได้อีกด้วยครับ

โดยระเบียงนี้จะมีความสูงแบบ Double Volume ที่เชื่อมต่อไปถึงชั้นบนได้ จึงทำให้เราสามารถปลูกต้นไม้ทรงสูงเพิ่มเติม เพื่อความร่มรื่นและสดชื่นของตัวบ้านให้ดีมากยิ่งขึ้นได้ครับ แถมถ้าเราเปิดประตูระเบียงทั้งหน้าบ้านและหลังบ้านพร้อมๆกัน ก็จะช่วยเรื่อง Ventilation (การระบายอากาศ) ที่ดีได้อีกด้วยนะ

เมื่อเราเดินขึ้นมาบนชั้น 2 ก็จะเจอกับห้องนอน Master Bedroom เพียงห้องเดียวของชั้นนี้ ซึ่งจะมีความเป็นส่วนตัวที่ดีทีเดียว

ภายในห้อง Master Bedroom จะมีขนาดใหญ่และกว้างเท่ากับตัวบ้าน จึงทำให้เราแบ่งพื้นที่เป็นส่วนพักผ่อนอื่นๆ และสามารถใช้ชีวิตอยู่ในชั้นนี้ได้เหมือนกับเป็น Penthouse เลยครับ

นอกจากนี้ยังมีประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ที่สามารถเปิดเชื่อมต่อออกไปใช้งานระเบียงภายนอกได้ด้วยครับ มีขนาดประมาณ 3.7 x 1.65 m.

ซึ่งตัวระเบียงจะเป็นเหล็กอย่างที่เห็นเลยครับ เนื่องจากโครงสร้างของ Facade ด้านหน้าจะไม่สามารถรับน้ำหนักของพื้นคอนกรีตได้นั่นเอง แต่เรายังพอจะสามารถปูพื้นด้วยวัสดุที่มีน้ำหนักเบาได้ เช่น พื้นไม้เทียม พื้นไม้สำเร็จรูป เป็นต้น

อีกหนึ่งจุดที่น่าสังเกตคือ Facade ของตัวบ้าน จะมีลักษณะยื่นเข้ามาตรงระเบียงเล็กน้อย จึงช่วยพรางสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี รวมถึงยังสามารถติด Condensing Unit ของเครื่องปรับอากาศให้ซ่อนอยู่ด้านหลังแบบนี้ได้อีกด้วย

อีกด้านหนึ่งของห้องจะมีพื้นที่ให้เราสามารถทำ Walk-in Closet เพิ่มเติมได้ครับ ซึ่งจะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี ทำให้สามารถออกมาแต่งตัวต่อได้สะดวกเลย

ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่และสว่างโปร่งโล่งมากๆครับ ซึ่งจะมีฟังก์ชันที่ห้องน้ำอื่นๆของตัวบ้านไม่มีหลายอย่างเลย จึงทำให้เป็นห้องที่น่าใช้งานและสะดวกมากขึ้น

เริ่มที่อ่างล้างหน้าแบบ His and Her ที่ทำให้เราสามารถใช้งานพร้อมกันแบบ 2 คนแบบสามีภรรยาได้ โดยที่กระจกเงาของจริงจะเป็นบานใหญ่ 1 ชิ้นเต็มๆ และได้ Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ (ลายจะไม่เหมือนบ้านตัวอย่างนะครับ)

ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะมีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวเพิ่มมาให้ใช้งานด้วยครับ ซึ่งจะตั้งอยู่ติดกับระเบียงแบบนี้เลย จึงทำให้ได้แสงสว่างและความโปร่งโล่งดีทีเดียว แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวนะ เพราะจะมีระแนงไม้ช่วยพรางสายตาติดมาให้แบบนี้ด้วย

ระเบียงภายนอกมีขนาด 3.85 x 0.85 m. สามารถออกมาใช้งาน เช่น ตากผ้าเช็ดตัว หรือผ้าอื่นๆได้ครับ รวมถึงเรายังสามารถจัดเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้แบบบ้านตัวอย่างนี้ก็ได้ เพื่อที่เวลามาใช้งานห้องน้ำก็จะได้มีวิวสดชื่นๆให้มองได้เพลินๆครับ

อีกด้านหนึ่งจะเป็นโถสุขภัณฑ์และ Shower ซึ่งจะมีการกั้นผนังทึบแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน แต่เราอาจต้องติดประตูกระจกเพิ่มเติมเองอีกทีนะครับ

พื้นที่ใช้งานกว้างด้านละประมาณ 1.35 x 1.1 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ ปูพื้นด้วยกระเบื้องโมเสกเล็กๆสวยงาม แถมยังช่วยกันลื่นอีกด้วย และด้านบนก็จะมีพัดลมดูดอากาศติดตั้งมาให้แบบนี้เลย

อีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญคือ ส่วนอาบน้ำทั้ง 2 จุด (อ่างอาบน้ำ + Shower) จะมีการเดินท่อน้ำร้อนมาให้ภายในผนังด้วยครับ โดยจะเชื่อมต่อมาจากเครื่องทำน้ำร้อนที่ติดตั้งอยู่ใต้อ่างล้างหน้า ทำให้เราสามารถเลือกปรับและผสมอุณหภูมิน้ำจากก็อกได้เองตามต้องการ

มาต่อกันที่ชั้น 3 ของตัวบ้านกันครับ

ด้านบนสุดจะมีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง แยกออกไปทางโซนด้านหน้าและหลังบ้าน ซึ่งถ้าใครที่มีลูก 1 – 2 คน ก็สามารถรองรับการอยู่อาศัยได้สบายๆ

เริ่มจากห้องนอนทางด้านหน้าบ้านจะมีขนาด 4.1 x 4.5 m. สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุตตรงกลางห้อง แล้วยังมีพื้นที่เหลือรอบๆให้ใช้งานได้สะดวก

แต่จุดเด่นที่น่าสนใจก็คือ มีช่องแสงขนาดใหญ่ถึง 2 จุด จึงทำให้มีบรรยากาศที่สว่างโปร่งโล่งดีทีเดียว แถมยังชมวิวภายนอกได้ดีกว่าห้องอื่นๆอีกด้วย

ขวามือจะมีทางแยกเชื่อมต่อไปยังพื้นที่หน้าห้องน้ำ ที่สามารถทำเป็น Walk-in Closet แบบส่วนตัวได้ รวมถึงยังอยู่ติดกับระเบียงที่ช่วยให้มีแสงสว่างตอนแต่งตัวได้อีกด้วย

ระเบียงกว้าง 3.5 x 0.85 m. สามารถออกมาใช้งานตากผ้าเช็ดตัวเล็กๆน้อยๆได้นะครับ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวเลย เพราะจะมี Facade ช่วยพรางสายตาให้แบบนี้ หรือใครจะปลูกเป็นต้นไม้ทรงสูงก็ได้ ซึ่งด้านบนจะมีช่องเปิดเชื่อมต่อขึ้นไปได้แบบนี้เลย

แถมอีกนิด คือตรงช่องหน้าต่างข้างๆจะมีการทำกระบะเล็กๆมาให้ด้วยครับ ซึ่งจะทำให้เราสามารถปลูกต้นไม้เพิ่มความสดชื่นให้แก่ห้องนอนนี้ได้นั่นเอง

สุดท้ายก็จะเป็นห้องน้ำที่ใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัวภายในห้อง

ฟังก์ชันด้านในจะเหมือนกับห้องน้ำที่ชั้นลอยเลยครับ โดยจะมีการแบ่งเป็นสัดส่วน พร้อมพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1 x 1 m. และจะต้องติดฉากกั้นเพิ่มเติมเองนะ

สำหรับห้องนอนเล็กด้านหลังจะมีขนาด 4.1 x 4.3 m. สามารถทำเป็นห้องนอนได้สบายๆ หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวจะเปลี่ยนเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้นะ เช่น ห้องทำงานส่วนตัว ห้องประชุม หรือห้องทำงานรวมของพนักงานก็ได้

จุดที่ผมชอบมากๆของห้องนี้ก็คือ ‘ระเบียง’ ที่จะมีการทำผนังด้านนอกให้เป็นแบบทึบ จึงช่วยในเรื่องความเป็นส่วนตัวจากเพื่อนบ้านด้านหลังได้ดี โดยแลกกับการไม่เห็นวิวกว้างๆ (ขนาดระเบียง 3.9 x 0.85 m.)

แต่ก็ไม่ได้รู้สึกมืดทึบเลยครับ เพราะด้านบนจะเป็นช่องเปิดที่เชื่อมต่อกับท้องฟ้า ทำให้มีแสงสว่างส่องผ่านลงมา และภายในห้องจะได้แสงแบบ Indirect Light ที่ไม่ได้สะท้อนเข้ามาตรงๆ ทำให้แสงมีความสว่างนวลตาและไม่ร้อนเลยครับ

สุดท้ายคือห้องน้ำที่จะมีฟังก์ชันและขนาดเหมือนกับห้องที่แล้วเลยครับ เพียงแต่จุดที่เพิ่มเข้ามาก็คือ ช่องหน้าต่างบานกระทุ้งเล็กๆด้านข้าง ที่จะช่วยในเรื่องการระบายอากาศให้ออกไปสู่ระเบียงได้นั่นเอง

นอกจากนี้ทางโครงการยังมีการแต่งบ้านอีกหลังหนึ่งให้เป็นสไตล์ Home Office แบบจริงจังด้วยครับ ซึ่งหากใครสนใจก็สามารถลองดูภาพใน Gallery ด้านล่างนี้ได้ เผื่อเป็นไอเดียในการนำไปใช้ตกแต่งบ้านได้นะ

Image 1/11

  • ASTRO (แอด-โทร) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 19.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 202 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

มาดูแบบบ้านเล็กสุดของโครงการกันบ้างครับ ซึ่งลักษณะฟังก์ชันพื้นฐานจะคล้ายๆกับหลังใหญ่อื่นๆเลย เพียงแต่ตัวบ้านจะมีความลึกน้อยลง ก็เลยมีการลดทอนฟังก์ชันบางส่วนออกไปบ้าง แต่ก็ยังคงใช้งานได้ดีตามปกติ

  • แปลนชั้น 1 จะสามารถจอดรถได้ 2 คัน และภายในเราจะได้ Double Volume บริเวณด้านหน้าบ้านครับ จึงทำให้พอเราเข้ามาก็จะรู้สึกถึงความสูงโปร่งได้ในทันที ส่วนด้านในก็จะมีความน่าสนใจตรง ‘ครัวปิด’ ที่จะมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแยกไว้เป็นสัดส่วน ทำให้เหมาะกับคนที่ชอบทำอาหารจริงจังมากขึ้น
  • แปลนชั้นลอย จะยังคงเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ที่มีส่วนเชื่อมต่อกับ Double Volume ชั้น 1 ได้ครับ เพียงแต่จะตัดในส่วนของห้องน้ำและระเบียงออกไป รวมถึงจะได้ช่องแสงจากทางหลังบ้านแทน ซึ่งก็ยังสามารถใช้พื้นที่นี้เป็น Family Area หรือห้องทำงานส่วนตัวได้นะ
  • แปลนชั้น 2 เป็นห้อง Master Bedroom แบบเต็มชั้นเหมือนบ้านหลังอื่นๆเลยครับ โดยที่ห้องน้ำจะลดฟังก์ชันอ่างอาบน้ำและระเบียงออกไป แต่ยังคงได้อ่างล้างหน้า His and Her และมีขนาดกว้างขวางกว่าห้องน้ำอื่นๆของตัวบ้าน
  • แปลนชั้น 3 มีห้องนอนเล็ก 2 ห้อง มาพร้อมกับห้องน้ำให้ใช้งานส่วนตัวได้ทั้งคู่ จึงทำให้สามารถรองรับครอบครัวที่มีลูก 1 – 2 คนได้สบายๆ แต่ที่ผมชอบจริงๆก็คือ เค้าจะมีการเพิ่มช่องแสงตรงโถงบันไดขึ้นมา ทำให้บรรยากาศมีความสว่างโปร่งโล่ง และใช้งานได้ดีมากขึ้น

เริ่มกันที่บริเวณรั้วและจุดจอดรถหน้าบ้าน จะยังคงเหมือนกับหลังใหญ่เลยครับ โดยจะมีความกว้าง 5.4 m. สามารถจอดรถ 2 คันได้พอดีๆ

สิ่งหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาก็คือ บริเวณหน้าทางเข้าบ้านจะมีช่องแสงขนาดใหญ่ด้านบน โดยจะเป็นส่วนหนึ่งของ Facade ที่ต้องการให้ยังคงมีแสงสว่างส่องเข้ามาถึงกลางบ้านมากขึ้น

แต่ของจริงทางโครงการจะทำเป็นหลังคากันสาดเพิ่มขึ้นมาให้แทน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ฝนสาดเข้ามาเปียกด้านในได้ครับ (คงต้องแลกกับความสวยงามสักหน่อย เพื่อให้การใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น)

เมื่อเข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับ Living Area และฝ้าเพดานที่สูงแบบ Double Volume 5.5 m. เป็นส่วนต้อนรับ จึงทำให้มีความโปร่งและสามารถติด Chandelier สวยๆด้านบนได้อีกด้วย

สำหรับระยะดูทีวีจะกว้าง 4.25 m. สามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆ 50 – 60 นิ้วได้สบายๆ ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้จะได้ช่องแสงจากทางหน้าต่างเท่านั้น และยังใช้ประตูทางเข้าเป็นไม้บานทึบอีก จึงเหมาะกับคนที่เน้นความเป็นส่วนตัวเป็นพิเศษนั่นเองครับ

ถัดเข้ามาในบ้านจะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารขนาด 4 – 6 ที่นั่งได้พอดี

ด้านขวามือจะเป็นห้องน้ำและครัวครับ ซึ่งของจริงจะมีการกั้นห้องครัวด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ทำให้ได้ครัวปิดที่สามารถทำอาหารได้จริงจังมากขึ้นนั่นเอง

ภายในครัวมีขนาดประมาณ 2.3 x 2 m. ของจริงจะเป็นห้องโล่งๆที่เตรียมพวกท่องานระบบต่างๆเอาไว้ให้ และเราสามารถ Built-in เคาน์เตอร์ได้เองตามต้องการ

โดยจุดที่ผมชอบก็คือ ‘หน้าต่างขนาดใหญ่’ ที่นอกจากจะให้แสงสว่างแล้ว ยังช่วยในเรื่องการระบายอากาศได้ดีอีกด้วยครับ

ประตูหลังจะเป็นไม้บานทึบเช่นเดียวกับหน้าบ้าน ซึ่งถ้าใครอยากเพิ่มความสว่างโปร่งโล่ง ก็อาจเปลี่ยนเป็นประตูกระจกหรือประตูเหล็กดัดแทนก็ได้นะ ส่วนภายนอกจะกว้าง 2 x 5.4 m. สามารถใช้ตากผ้าหรือปลูกต้นไม้ทำสวนเล็กๆก็ได้

ห้องน้ำจะมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ซึ่งจะมีการเตรียมพื้นที่อาบน้ำเอาไว้เผื่อด้วย (กรณีที่ทำชั้นลอยเป็นห้องนอน ก็สามารถลงมาใช้ห้องนี้ได้นั่นเอง) ภายในมีขนาด 1 x 1 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ

สำหรับบันไดทางขึ้นจะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน และเป็นโครงสร้างเหล็กเหมือนเดิมครับ

พื้นที่ชั้นลอยจะกว้าง 4 x 3.2 m. สามารถทำเป็นพื้นที่ Family Area หรือมุมนั่งทำงานส่วนตัวก็ได้ โดยจะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างที่อยู่บริเวณหลังบ้านแบบนี้ครับ

อีกด้านหนึ่งจะเป็น Double Volume ที่มองเชื่อมต่อไปยัง Living Area ที่อยู่ด้านล่างได้ โดยเราสามารถกั้นผนังกระจกให้เป็นสัดส่วนเพิ่มเติม หรือจะเปิดโล่งเชื่อมต่อแบบนี้ก็ได้ครับ

บันไดทางขึ้นชั้น 2 จะมีห้องเก็บของเล็กๆให้ใช้งานที่ด้านล่าง สามารถเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้ (ไม่ต้องเดินลงไปถึงด้านล่างสุด) รวมถึงยังมีช่องแสงที่ช่วยทำให้โถงบันไดสว่างโปร่งโล่ง และสามารถเปิดระบายอากาศได้อีกด้วยครับ

ขึ้นมายังชั้น 2 ก็จะเจอกับห้อง Master Bedroom เป็นส่วนตัวเพียงห้องเดียวเหมือนเดิม

ภายในมีขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่และกว้างเท่ากับตัวบ้านเลยครับ แน่นอนว่าเราสามารถจัดพื้นที่เป็นส่วนพักผ่อนเพิ่มเติมได้สบาย

ส่วนระเบียงภายนอกจะมีขนาด 3.3 x 0.8 m. สามารถออกมายืนสูดอากาศเล็กๆน้อยๆได้ ซึ่งระเบียงของโครงการนี้จะเหมือนกันหมดคือ เน้นความเป็นส่วนตัวและเปิดเพื่อระบายอากาศเป็นส่วนใหญ่ จะไม่ได้เน้นชมวิวหรือความโปร่งโล่งแบบโครงการทั่วไปนะครับ

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet เป็นสัดส่วนเพิ่มเติมได้แบบนี้เลย

ภายในเป็นห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆของบ้าน รวมถึงยังมีช่องแสงที่ช่วยในเรื่องความสว่างและการระบายอากาศอีกด้วย

สุขภัณฑ์ที่ให้มายังเป็นของ American Standard ให้ใช้งานครบ แน่นอนว่าจะได้อ่างล้างหน้า His and Her แบบนี้เลยครับ เพียงแต่ฉากกั้นอาบน้ำจะต้องติดตั้งเพิ่มเติมเอง และภายในก็จะกว้าง 1 x 1 m. ให้ใช้งานได้พอดีๆ

มาต่อกันที่ชั้น 3 ซึ่งคราวนี้จะมีช่องหน้าต่างเล็กๆตรงโถงบันไดด้วยครับ จะเห็นได้ว่าช่วยทำให้โถงบันไดนี้สว่างและใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ทำให้เราไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวัน รวมถึงยังสามารถเปิดระบายอากาศหรือความร้อนได้อีกด้วยนะ

เริ่มกันที่ห้องนอนทางด้านหลังบ้านจะกว้าง 3 x 2.75 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้พอดีๆ

ระเบียงของห้องนี้จะมีลักษณะที่เหมือนกับของบ้านหลังใหญ่เลยก็คือ จะเป็นผนังทึบสูงที่ช่วยให้ภายในห้องมีความเป็นส่วนตัว แต่ยังคงได้แสงสว่างจากช่องเปิดด้านบนอยู่ครับ ส่วนระเบียงจะกว้าง 3 x 0.9 m. สามารถออกมาตากผ้าเช็ดตัวหรือปลูกต้นไม้เพิ่มความสดชื่นได้

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นห้องน้ำให้ใช้งานส่วนตัว

ภายในมีฟังก์ชันให้ใช้งานครบ โดยพื้นที่อาบน้ำจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องอื่นๆหน่อยอยู่ที่ 1.4 x 0.75 m. จึงทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

สุดท้ายคือห้องนอนที่อยู่โซนด้านหน้าบ้าน จะมีขนาด 3.8 x 2 m. พอจะวางเป็นเตียง 3.5 ฟุตได้พอดีๆ เหมาะที่จะเป็นห้องนอนลูกคนเล็ก หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวก็อาจปรับเป็นห้องอื่นๆได้ครับ

อีกด้านหนึ่งของห้องจะมีพื้นที่เล็กๆหน้าห้องน้ำ ให้สามารถทำเป็นมุมแต่งตัวได้ รวมถึงภายในห้องน้ำก็จะมีขนาดและฟังก์ชันเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ

  • NOVA (โน-ว่า) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 22.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 238 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ

เป็นบ้านไซส์กลางของโครงการ ที่ฟังก์ชันจะผสมผสานกันระหว่างบ้านหลังเล็กและหลังใหญ่ก่อนหน้านี้ สิ่งที่โดดเด่นอย่างแรกเลยก็คือ ‘ครัวปิด’ ที่อยู่ชั้น 1 ซึ่งจะกั้นด้วยผนังทึบแยกออกไปเป็นสัดส่วนเลย รวมถึงยังมีการเพิ่มระเบียงตามชั้นต่างๆ ที่ช่วยในเรื่องแสงสว่าง การระบายอากาศ และสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวเป็น Poket Garden ตามจุดต่างๆได้นั่นเองครับ

ส่วนถ้าใครอยากชมภาพบ้านตัวอย่างของจริงว่าจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมได้ใน Gallery ด้านล่างนี้เลยครับ

Image 1/9

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะ

ราคา

Nue Verse Krungthep Kreetha ราคา ณ วันที่ 16 มกราคม 2567

  • ASTRO (แอด-โทร) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 19.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 202 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 7.9 ล้านบาท* (สอบถามอีกครั้ง)
  • NOVA (โน-ว่า) ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 22.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 238 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 2 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 9.5 ล้านบาท* (สอบถามอีกครั้ง)
  • VEGA (เว-ก้า) โฮมออฟฟิศ 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 6.5 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 27.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 310 ตร.ม.
    – ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 พื้นที่อเนกประสงค์ / 4 ที่จอดรถ
    – ราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท* (สอบถามอีกครั้ง)
  • ค่าจอง 20,000 บาท
  • ค่าทำสัญญา 100,000 บาท
  • ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
  • ค่าส่วนกลาง 72 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี (+ ค่าถนนภาระจำยอม 2 บาท/ตร.วา/เดือน)
  • ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
  • ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
  • Promotion (เปิดโครงการครั้งแรก) : ส่วนลดจองรอบแรกสูงสุด 700,000 บาท

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

บทสรุป

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ศรีนคริทร์-ร่มเกล้า สามารถกลับรถเข้าเมืองไปทางพระราม 9 – ห้วยขวางได้ง่าย รวมถึงยังมีทางพิเศษให้ใช้เข้า-ออกเมืองได้ถึง 3 สาย และยังมีความอุดมสมบูรณ์สูง ไม่ว่าจะเป็น Little Walk / Market Place และตลาดต่างๆ จึงทำให้สามารถหาของกินได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนนานาชาติอีกหลายแห่งในย่านอีกด้วยครับ

โดยหากพูดถึงย่านกรุงเทพกรีฑา ส่วนใหญ่เราก็มักจะนึกถึงบ้านระดับ Luxury ที่มีราคาหลายสิบล้านบาทขึ้น และถ้าเป็นทาวน์โฮมก็จะอยู่ในช่วงประมาณ 10 ล้านนิดๆ (ราคาปัจจุบันพุ่งขึ้นสูงจากเมื่อ 5 ปีก่อน ที่ยังขายกันอยู่ประมาณ 5 – 6 ล้านเท่านั้น) ซึ่งโครงการ Nue Verse Krungthep Kreetha เปิดตัวที่ 7.9 – 12.5 ล้านบาท ถือว่าทำราคาออกมาได้ดีและน่าสนใจ เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านทาวน์โฮมย่านเดียวกันครับ

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : เป็นโครงการที่มีรั้วรอบขอบชิด มีกล้อง CCTV ด้านหน้า และรปภ. 24 ชม. เข้า-ออกด้วยระบบสัญญาณ Bluetooth ซึ่งไม้กั้นกระดกจะเปิดให้อัตโนมัติ ส่วนภายในบ้านจะติดตั้ง Digital Door Lock ที่ประตูทางเข้าหลักมาให้เป็นมาตรฐาน แต่ระบบรักษาความปลอดภัยอื่นๆ อาจต้องหามาติดตั้งเองตามความเหมาะสม

การออกแบบโครงการ : มีเพื่อนบ้าน 208 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดค่อนข้างใหญ่กว่าเพื่อนบ้านที่เป็นทาวน์โฮมเหมือนกัน แต่นั่นก็เลยทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่และน่าใช้งานมากขึ้นตามไปด้วยครับ โดยผังโครงการจะมีการวางตำแหน่งแบบบ้านให้สอดคล้องกับการใช้งาน เช่น

VEGA ที่เหมาะจะทำเป็นโฮมออฟฟิศมากสุด และอาจต้องมีคนเข้า-ออกอยู่บ้าง ดังนั้นการที่จะอยู่โซนด้านหน้าสุดก็จะมีความสะดวก ทั้งการมาทำงาน ติดต่อธุรกิจ และการมาใช้ส่วนกลางก็ง่ายด้วยครับ ถัดมาจะเป็น NOVA บ้านไซส์กลางจะได้อยู่ติดถนนหลักที่มีความกว้างถึง 12 m. สุดท้ายคือ ASTRO จะเป็นหลักเล็กสุดที่จะอยู่ในซอยคู่ขนานอีกที แต่ข้อดีคือจะไม่มีบ้านฝั่งตรงข้ามทำให้เสียความเป็นส่วนตัวนั่นเอง

การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : จุดเด่นของทาวน์โฮมที่นี่คือ ‘ความเป็นส่วนตัว’ โดยเฉพาะช่องแสงของตัวบ้านที่จะไม่ได้เน้นการชมวิว หรือทำให้มีบรรยากาศโปร่งโล่งแบบโครงการทั่วไป แต่จะมี Facade ที่ช่วยพรางสายตา และเน้นในเรื่อง Ventilation หรือการถ่ายเทอากาศได้ดี โดยยังคงได้แสงสว่างที่ส่องเข้ามาเพียงพอต่อการใช้งานนั่นเองครับ

นอกจากนี้ยังโดดเด่นในเรื่อง ‘ความยืดหยุ่นของฟังก์ชัน’ ที่สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นได้ทั้งที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำงานแบบโฮมออฟฟิศได้ด้วยครับ โดยเฉพาะแบบบ้าน VEGA จะมีพื้นที่ใช้สอยที่เยอะ และยังสามารถจอดรถได้ถึง 4 คัน ในขณะที่แบบบ้านอื่นๆก็สามารถทำเป็นออฟฟิศส่วนตัวได้เช่นกัน แต่อาจไม่ได้มีที่จอดรถรองรับมากนัก จึงจะเหมาะกับธุรกิจส่วนตัวแบบเล็กๆ ทำกันเองในครอบครัว หรือไม่ต้องมีพนักงานหลายคนนั่นเอง

วัสดุ : โครงสร้าง Precast มีความแข็งแรงและยังสามารถป้องกันเสียงได้ดี จึงเหมาะกับโปรดักส์ที่มีผนังอยู่ติดกันแบบนี้ครับ โดยข้อจำกัดอย่างหนึ่งคือ เราจะไม่สามารถทุบผนังเชื่อมต่อห้องภายในได้อย่างอิสระนัก เพราะเป็นผนังโครงสร้างรับน้ำหนักในตัวด้วยนั่นเอง

แต่ดีตรงที่ชั้น 1 เค้าได้ออกแบบเผื่อให้เราขยายพื้นที่ใช้สอยได้แบบบ้านตัวอย่างเลยครับ นอกจากนี้ยังชอบที่ลานซักล้านหลังบ้าน มีการลงเสาเข็มยาวมาให้ลึกเท่ากับตัวบ้านเลย รวมถึงมีการติด Solar Rooftop มาให้ช่วยประหยัดพลังงานทุกหลังด้วยครับ ส่วนวัสดุอื่นๆที่ให้ก็เป็นตามมาตรฐานระดับราคา แต่อาจต้องเผื่อเงินในการ Built-in ครัวและติดฉากกั้นอาบน้ำในบ้านสักหน่อยนะ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : พื้นที่สวนมีขนาดประมาณครึ่งไร่ และบ้านแต่ละหลังจะมีการปลูกต้นไม้ตรงระเบียงชั้นบนให้เป็นมาตรฐาน 1 ต้น ซึ่งอาจไม่ได้เป็นต้นไม้ใหญ่ที่ดูสดชื่นหรือร่มรื่นมากนัก ภาพรวมดูเรียบร้อยดี แต่ถ้าอนาคตบ้านทุกหลังพร้อมใจกันปลูกต้นไม้เยอะๆ ตรงบนระเบียงของตัวเอง และโครงการก็มีการเพิ่มต้นไม้ตรงริมถนนหน้าบ้านด้วยล่ะก็ น่าจะทำให้บรรยากาศโครงการมีความสดชื่นมากขึ้นไปอีกครับ

สาธารณูปโภค : ถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของโครงการได้เลย เพราะเป็นโครงการขนาดค่อนข้างใหญ่ ก็เลยทำให้มีพื้นที่ส่วนกลางที่ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย เพื่อให้สามารถแชร์การใช้งานได้เพียงพอต่อจำนวนยูนิต ซึ่งหากเทียบกับเพื่อนบ้านโครงการอื่นๆที่เป็นทาวน์โฮมเหมือนกัน ก็นับว่ามีขนาดใหญ่กว่ามาก ฟังก์ชันการใช้งานก็ครบ สระว่ายน้ำใหญ่ว่ายออกกำลังกายได้จริง พร้อมพื้นที่นั่งทำงานให้เปลี่ยนบรรยากาศ กับสวนเล็กๆด้านข้างให้ไปเดินพักผ่อนกันได้

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 7.9 – 12.5 ล้านบาท, 16 มกราคม 2567

  • ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่ กลับรถเข้าเมืองง่าย ความอุดมสมบูรณ์สูง
  • ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วรอบโครงการ กั้นไม้กระดก CCTV  และรปภ. 24 ชม. แต่ภายในบ้านอาจต้องหาติดเพิ่มเอง
  • การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ฟังก์ชันยืดหยุ่นปรับเป็นพื้นที่ทำงานได้ เน้นความเป็นส่วนตัวของช่องแสง
  • วัสดุ 7.5/10 – โครงสร้าง Precast วัสดุภายในมาตรฐานตามราคา และต้องเผื่อเงิน Built-in ครัวกับห้องน้ำเพิ่ม
  • พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – พื้นที่สวนประมาณครึ่งไร่ และปลูกต้นไม้บนตัวบ้านมาให้ 1 ต้นทุกหลัง
  • สาธารณูปโภค 8.75/10 – มีขนาดใหญ่ตามสัดส่วนจำนวนยูนิต ฟังก์ชันครบ น่าใช้งาน
  • 8.00 / 10.00

Nue Verse Krungthep Kreetha เหมาะกับใคร

โครงการ Nue Verse Krungthep Kreetha (นิว เวิร์ส กรุงเทพกรีฑา) เหมาะกับคนหาทาวน์โฮมติดถนนใหญ่ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า สามารถเข้าเมืองไปทางพระราม 9 ได้สะดวก และมีความอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่สูง โดยจะเป็นทาวน์โฮมที่มีฟังก์ชันยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนเป็นได้ทั้งที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำงานแบบโฮมออฟฟิศได้ อีกทั้งยังเน้นความเป็นส่วนตัวของช่องแสงสูงมาก และมีส่วนกลางขนาดใหญ่ให้ใช้งานครบ โดยมีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 7.9 – 12.5 ล้านบาท


Think of Living รวบรวมมาให้แล้ว!

โครงการเปิดใหม่ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮมและคอนโดมิเนียม ในทำเลทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ในทุกๆเดือนย้อนหลัง ใครที่กำลังมองหาบ้านห้ามพลาด อาจจะมีโครงการในราคาและทำเลที่เพื่อนๆ ตามหาอยู่ก็เป็นได้นะ

เข้ามาชมบทความรายเดือนได้เลย คลิกที่นี่