สิริ เพลส จรัญฯ-ปิ่นเกล้า ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ทำออกมาเป็นสไตล์ Loft ทั้งหน้าตาบ้านและมีห้องนอนที่ได้ฝ้าเพดานสูง 3.65 m. อีกด้วยครับ นอกจากนี้พื้นที่ส่วนกลางก็น่าสนใจ ทำออกมาได้น่าใช้งานมากๆโดยเฉพาะน้องๆหนูๆทั้งหลายคงจะถูกใจไม่น้อย แต่ถ้าจะให้สรุป Highlights ของโครงการแบบง่ายๆ ก็จะมีดังนี้ครับ
- ทำเล : สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง ใกล้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก และรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนสถานีบางบำหรุ ที่อยู่บริเวณหน้าปากซอยนี่เองครับ
- พื้นที่ส่วนกลาง : มีการกระจายฟังก์ชันออกเป็น 2 จุดใหญ่ๆ เพื่อให้บ้านในแต่ละเฟสสามารถมาใช้งานได้ง่าย แต่ที่เด่นๆเลยก็คือ Educational Playground ที่มีเครื่องเล่นเยอะ พร้อมสไลเดอร์ขนาดใหญ่ที่ถูกใจน้องๆแน่นอน
- ฟังก์ชันบ้าน : มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างให้ใช้งานทั้ง 2 Type
- วัสดุ : แบบบ้านของสิริเพลสจะเด่นที่หลังบ้าน “มีการลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้าน” มาให้ เพื่อรองรับการต่อเติมเป็นครัวไทยได้ง่าย แถมบ้านในเฟสใหม่ยังมีการเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็น SPC ให้ดูสวยงามและอบอุ่นมากขึ้นอีกด้วยครับ
ข้อมูลโครงการ
Siri Place Charan – Pinklao (สิริ เพลส จรัญฯ – ปิ่นเกล้า) ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564
ชื่อโครงการ | Siri Place Charan – Pinklao (สิริ เพลส จรัญฯ – ปิ่นเกล้า) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) |
SEGMENT CLASS | MAIN – UPPER CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ถนน บางกรวย-จงถนอม ต.มหาสวัสดิ์ และ ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี |
ที่ดิน | 47 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 413 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.4 – 3.65 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 100,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2561 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | ปี 2566 |
เว็บไซต์โครงการ | https://www.sansiri.com/townhome/siri-place-charan-pinklao/th/ |
Call Center | 1685 |
ทำเลที่ตั้ง
Highlights :
- เข้า-ออกได้หลายทาง เชื่อมต่อถนนใหญ่ 3 ด้าน เข้าเมืองง่าย
- ใกล้ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก และใกล้รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน สถานีบางบำหรุ
- ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ ไปได้ทั้งแถวราชพฤกษ์และปิ่นเกล้า
พิกัด Google Maps : 13.807030, 100.468807
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
สิริ เพลส จรัญฯ-ปิ่นเกล้า ตั้งอยู่บนถนนบางกรวย-จงถนอม เป็นทำเลเชื่อมต่อของโซนนครอินทร์ ราชพฤกษ์ และปิ่นเกล้า ที่สามารถเข้าเมืองมาทางจตุจักร อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และท่าพระจันทร์ได้ง่าย เพราะอยู่ไม่ไกลจากสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามากนัก รวมถึงมีทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก และรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน เป็นตัวเลือกในการเข้าเมืองได้สะดวกอีกด้วยครับ
ส่วนเรื่องความอุดมสมบูรณ์จะอิงพวกห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้มอลล์บนถนนราชพฤกษ์เป็นหลัก อย่างเช่น The Walk HomePro และ The Crystal หรือถ้าใครเป็นสาวกของ Central ก็จะมีห้างเซ็นทรัลปิ่นเกล้าตั้งอยู่ไม่ไกลอีกด้วยครับ ส่วนถนนบางกรวย-จงถนอมที่โครงการตั้งอยู่นั้น ก็จะมีพวกสำนักงานเทศบาลบางกรวย และที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่ รอบๆเลยพอจะมีพวกร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และตลาดเล็กๆอยู่บ้าง เป็นชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ดีทีเดียวครับ
อีกหนึ่งความน่าสนใจของถนนบางกรวย-จงถนอม ที่โครงการตั้งอยู่คือ สามารถเข้า-ออกได้หลายทาง ซึ่งผมก็สรุปมาให้ทั้งหมด 5 เส้นทางหลักๆดังนี้
- สีน้ำเงิน : ไปถนนบรมราชชนนี และถนนคู่ขนานทางพิเศษศรีรัช โดยใช้ถนนบางกรวย-ไทรน้อยเป็นเส้นทางหลัก มีระยะทางประมาณ 2.4 km.
- สีแดง : ไปถนนราชพฤกษ์ โดยผ่านซอยบางขนุน 6 และซอยกำนันปิยะ ระยะทางประมาณ 3.5 km.
- สีส้ม : ไปถนนนครอินทร์และ The Walk โดยผ่านถนนบ้านคลองวัดสัก-บ้านวัดโคนอน ระยะทางประมาณ 3.6 km.
- สีเขียว : ไปถนนนครอินทร์และ Tesco Lotus โดยผ่านถนนบางกรวย-ไทรน้อย ระยะทางประมาณ 3.8 km.
- สีม่วง : ไปสะพานพระราม 7 เพื่อข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาฟรีๆ โดยผ่านถนนบางกรวย-ไทรน้อยและถนนจรัญสนิทวงศ์ ระยะทางประมาณ 6.3 km.
จุดขึ้นทางด่วนที่ใกล้ที่สุดคือ ทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอก ระยะทางประมาณ 3.3 km. สามารถใช้เข้าเมืองไปบางซ่อน-จตุจักร และไปเชื่อมต่อทางด่วนอื่นๆได้อีกครับ
นอกจากนี้ยังมี “รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน บางซื่อ-ตลิ่งชัน” ที่เพิ่งเปิดใช้งานไปเมื่อไม่นานมานี้ก็อยู่ไม่ไกลด้วยนะครับ โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ “บางบำหรุ” ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆได้ที่สถานีกลางบางซื่อ
รวมถึงอนาคตยังมีแผนจะต่อขยายไปทางศาลายา-นครปฐมอีกด้วย โดยหากเราขับรถมาที่สถานีอาจมีระยะทางที่อ้อมอยู่สักหน่อย แต่ถ้าเราใช้สะพานลอยบริเวณใกล้ๆปากซอย แล้วเดินต่อมาอีกนิดก็จะมีระยะทางที่ใกล้มากขึ้น (ประมาณ 450 m.)
การเดินทางวันนี้ผมมาจากทางพิเศษศรีรัช ซึ่งพอลงทางด่วนมาก็ให้ขับเลยมาหน่อย จะมีสะพานลอยให้ใช้กลับรถได้ (ถ้าใครมาจากทางบรมราชชนนีก็มากลับรถที่เดียวกันได้ครับ) แล้วพอลงสะพานกลับรถก็ให้ชิดซ้ายเอาไว้ เพื่อเลี้ยวเข้าสู่ถนนบางกรวย-ไทรน้อยได้เลย ขับตรงเข้ามาตามทางเรื่อยๆประมาณ 1.2 km. จากนั้นเลี้ยวซ้ายตรงวงเวียนบางกรวย-ไทรน้อย แล้วขับตรงมาเรื่อยๆประมาณ 1 km. ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการอยู่ทางซ้ายมือครับ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
บริบทรอบๆโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่ว่าง และชุมชนแนวราบทั่วไปครับ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบดี แต่เนื่องจากลักษณะที่ดินเป็นแนวยาว และมีคลองวัดสักมาคั่นกลางเอาไว้ ซึ่งคลองนี้เป็นเส้นแบ่งเขตของตำบลบางขนุน และตำบลมหาสวัสดิ์ ทำให้บ้านของโครงการสิริ เพลส จรัญฯ-ปิ่นเกล้า ทั้ง 2 เฟสจะมีทะเบียนบ้านไม่เหมือนกันนะครับ และอย่างเวลามีการเลือกตั้งก็อาจต้องไปติดต่อที่คนละเขตกันด้วย
ส่วนถนนทางเข้าด้านหน้า (สีส้ม) เดิมทีก็เคยเป็นที่ของแสนสิริเนี่ยแหละครับ แต่ตอนนี้เค้ายกให้เป็นสาธารณะไปแล้ว ซึ่งลูกบ้านก็ไม่ต้องมารับภาระในการดูแลค่าส่วนกลางในส่วนนี้ (ปล่อยให้เทศบาลเค้าเป็นคนดูแลไป) แต่ปัจจุบันทางแสนสิริก็ได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ของทางเข้าให้มีความสวยงาม ดูน่าใช้งานพอสมควรเลยครับ ส่วนทำเลรอบๆโครงการก็สามารถสรุปได้ดังนี้
- ทิศเหนือ : ทางเข้าหลักของโครงการ ติดกับถนนบางกรวย-จงถนอม
- ทิศใต้ : ติดกับที่ว่างและหมู่บ้านข้างเคียง
- ทิศตะวันออก : ติดกับที่ว่างและหมู่บ้านข้างเคียง
- ทิศตะวันตก : ติดกับที่ว่างและหมู่บ้านข้างเคียง
เรามาเดินดูรอบๆกันสักหน่อยครับ โดยทางเข้าโครงการจะตั้งอยู่ตรงข้ามกับทางเข้าวัดโพธิ์บางโอแบบนี้เลยครับ (ตัววัดอยู่เข้าไปด้านในอีก 600 m. ลึกพอสมควร)
ด้านหน้าทางเข้าจะมีป้ายของ Siri Place ติดเอาไว้ทั้ง 2 ฝั่งชัดเจน
และตลอดเส้นทางของถนนสาธารณะนี้ แสนสิริก็ได้ปรับภูมิทัศน์ใหม่ให้สวยงาม โดยการปลูกต้นไม้เพิ่มความร่มรื่น ซึ่งเดี๋ยวก็คงจะมีการเพิ่มแสงไฟในตอนกลางคืนให้ด้วย ส่วนซุ้มประตูทางเข้าโครงการจริงๆจะอยู่สุดทางด้านใน ทำให้เป็นโครงการที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว และเงียบสงบจากถนนสาธารณะด้านนอกดีทีเดียว
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด
- Tesco Lotus นครอินทร์ ~ 3.9 km.
- The Crystal ~ 4.6 km.
- The Walk ~ 4.7 km.
- Makro นครอินทร์ ~ 4.8 km.
- HomePro ~ 5.7 km.
- Central ปิ่นเกล้า ~ 8.3 km.
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลยันฮี ~ 8.3 km.
- โรงพยาบาลเจ้าพระยา ~ 11.4 km.
โรงเรียน
- ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือ ~ 8.4 km.
- รร.เซ็นคาเบรียล ~ 11.2 km.
สถานที่ราชการ
- ที่ว่าการอำเภอบางกรวย ~ 600 m.
- สำนักงานเทศบาลเมืองบางกรวย ~ 900 m.
รายละเอียดโครงการ
Highlights :
- โครงการมีขนาดใหญ่และค่อนข้างลึก แต่ก็กระจายส่วนกลางเอาไว้ 2 จุด เพื่อให้บ้านแต่ละเฟสมาใช้งานได้ง่าย
- จัดให้บ้านพักอาศัยอยู่แต่เฉพาะในซอยย่อย หลีกเลี่ยงการจัดบ้านไว้ริมถนนหลัก เพื่อให้เกิดความเป็นส่วนตัวในการอยู่อาศัยมากขึ้น
- มีการปลูกต้นไม้ใหญ่เอาไว้ริมถนนหลักเกือบตลอดทั้งเส้น บรรยากาศค่อนข้างร่มรื่นและดูดี
- Educational Playground มีขนาดใหญ่และน่าใช้งาน เหมาะกับคนที่มีลูกๆหลานๆ เพราะน่าจะถูกใจน้องๆแน่นอนครับ
สิริ เพลส จรัญฯ-ปิ่นเกล้า เป็นโครงการทาวน์โฮมขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 47 ไร่ และมีเพื่อนบ้าน 413 ยูนิต โดยจะแบ่งออกได้เป็น 2 เฟสใหญ่ๆ ซึ่งปัจจุบันเฟสแรกทางด้านหน้าขายหมด และมีคนเข้าอยู่อาศัยแล้วเรียบร้อยนะครับ ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและเปิดขายเฟสที่ 2 ด้านในอยู่
จุดที่ผมชอบในการวางผังโครงการนี้คือ “การแบ่งซอย” ที่ถึงแม้จะเป็นโครงการใหญ่ และลักษณะที่ดินจะมีความลึกก็จริง แต่เค้าก็ได้จัดให้มีถนนซอยย่อย (ที่เป็นส่วนพักอาศัยประมาณ 10 ยูนิต) แยกออกมาจากถนนหลักที่จะมีรถผ่านเข้า-ออกอยู่บ่อยครั้งกว่า เลยทำให้บ้านพักอาศัยมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
และอีกจุดหนึ่งคือ “พื้นที่ส่วนกลาง” ซึ่งเค้ากระจายฟังก์ชันการใช้งานเอาไว้ 2 จุดใหญ่ๆคือ บริเวณด้านหน้าติดที่กับซุ้มประตูทางเข้า จะเป็นสระว่ายน้ำและนิติบุคคล จุดนี้สำหรับคนที่อยู่บ้านเฟสด้านในลึกๆ แต่ชอบว่ายน้ำบ่อยๆ ก็อาจมาใช้งานไกลสักหน่อยนะครับ ส่วนอีกจุดนึงจะเป็นฟังก์ชันหลักอย่างสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น และฟิตเนส ที่หลายๆคนน่าจะได้มาใช้งานกันได้บ่อยกว่า จะมาอยู่บริเวณตรงกลางโครงการเลย ซึ่งบ้านทั้ง 2 เฟสก็จะมาใช้งานได้สะดวกพอๆกัน (แต่เฟส 2 จะสะดวกกว่านิดนึง) ส่วนทิศทางของบ้านเกือบทั้งหมดจะเป็นแนวเหนือ-ใต้ ที่รับลมได้ดี และแดดไม่ร้อนมากครับ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการจะเป็นสไตล์ Modern แบบเรียบๆนะครับ พร้อมไม้กั้นกระดกที่จะแยกทางเข้า-ออกระหว่างลูกบ้านกับ Visitor ออกจากกันชัดเจน โดยถ้าเป็นลูกบ้านก็จะใช้ระบบ RFID หรือสัญญาณ Bluetooth ที่จะเปิดให้อัตโนมัติเหมือนทางด่วนได้เลย
ส่วนถ้าเป็น Visitor ก็จะต้องแลกบัตรกับพี่ยามก่อน ซึ่งโครงการนี้ก็จะใช้ Liv-24 ที่เป็นบริการดูแลความปลอดภัยโดยศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชม. จากแสนสิริ ผ่านทางกล้องวงจรปิดในพื้นที่ส่วนกลาง และรายงานผ่าน Application บนโทรศัพท์มือถือครับ
เมื่อผ่านซุ้มประตูเข้ามาเราจะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางจุดแรกที่อยู่ด้านซ้ายมือ
บริเวณรอบๆจะมีการปลูกต้นไม้ทำสวนประดับเอาไว้รอบๆสระว่ายน้ำ เพื่อความสวยงามครับ
รอบๆสระจะมีพื้นที่นั่งเล่นประมาณ 2 – 3 ชุด ซึ่งที่เค้าจัดมาไม่เยอะ เพราะเป็นสระไม่ได้ใหญ่มากนัก และเน้นการมาใช้งานแบบส่วนตัวมากกว่า แต่ถ้ามาใช้พร้อมกันเยอะๆก็อาจไม่พอได้เหมือนกัน รอดูในอนาคตอีกทีนะครับว่าจะมีเพื่อนบ้านชอบว่ายน้ำมากน้อยแค่ไหน
ส่วนห้องด้านในจะเป็นสำนักงานนิติบุคคลครับ เวลาบุคคลภายนอกมาติดต่อธุระ ก็สามารถมาตรงนี้ได้เลย ไม่ต้องเข้าไปด้านในโครงการให้ลูกบ้านเสียความเป็นส่วนตัว
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ มีขนาดประมาณ 7 x 13 m. สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจังครับ แต่อาจต้องมาช่วงแดดร่มๆหน่อยเนอะ เพราะเป็นสระแบบกลางแจ้ง
ตัวสระมีการยกระดับให้สูงขึ้นมาจากพื้นถนนเล็กน้อย ดังนั้นเวลารถขับผ่านไป-มา จริงๆแล้วเค้าก็จะมองไม่ค่อยเห็นคนที่กำลังใช้งานอยู่สักเท่าไหร่นะครับ (ลองย้อนกลับไปดูภาพแรกได้)
แต่ในทางกลับกันจากมุมมองของคนใช้งาน เราจะเห็นรถที่ขับผ่านชัดเจนเลย ซึ่งก็อาจมีการเขินๆกันบ้าง อาจต้องรอต้นไม้ให้โตมากขึ้นกว่านี้อีกหน่อย หรือปลูกเป็นแนวรั้วต้นไม้เพิ่มเติมก็ได้ (ถ้าลูกบ้านต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ก็ลองคุยกับนิติในอนาคตได้นะครับ)
และอีกด้านหนึ่งของสระจะมีการแบ่งพื้นที่สำหรับสระเด็กไว้ด้วย
ส่วนสุดท้ายจะมีจุดล้างตัว ตู้ล็อคเกอร์ และห้องน้ำแยกชาย-หญิง ไว้คอยบริการ ซึ่งก็จะอยู่หลบสายตาคนภายนอกเข้ามาด้านใน เพื่อความเป็นส่วนตัวครับ (ไม่มีห้องอาบน้ำให้ใช้นะ)
ขยับเข้ามาดูภายในโครงการกันต่อครับ ซึ่งถนนหลักจะกว้าง 16 m. และเลนด้านข้างอาจใช้เป็นที่จอดรถของ Visitor ชั่วคราว หรืออาจใช้เป็นเลนจักรยาน และวิ่งออกกำลังกายบ้างก็ได้ เพราะความกว้างของถนนที่เหลือก็เพียงพอ ให้เราสามารถขับรถสวนทางกันได้สบายๆแล้วล่ะครับ ซึ่งการปลูกต้นไม้แบบนี้ก็ยังช่วยปรับทัศนียภาพ ให้ถนนโครงการดูร่มรื่นและน่าใช้งานขึ้นเยอะเลย
ส่วนภายในซอยที่พักอาศัยก็จะเป็นซอยตันแบบนี้ และมีความเป็นส่วนตัวไม่พลุกพล่าน ซึ่งผมจะชอบตรงท้ายซอยที่เค้าปลูกต้นไม้ให้ด้วย เลยทำให้ดูไม่แห้งแล้งและมีชีวิตชีวามากขึ้นครับ
ขับตรงเข้ามาตามถนนหลักของโครงการเรื่อยๆ เราจะเจอกับสะพานข้ามคลองขนาดใหญ่ ที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าเรากำลังจะเข้ามาสู่เฟสที่ 2 และข้ามเขตไปสู่อีกตำบลแล้ว (คลองวัดสักนี้เป็นจุดแบ่งเขตระหว่าง ต.มหาสวัสดิ์ และ ต.บางขนุน)
และเมื่อเราลงสะพานมาก็จะเจอกับพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดหนึ่ง พร้อมกับสำนักงานขายปัจจุบันก็จะอยู่บริเวณหน้าสวนนี้ด้วยครับ
โดยสวนแห่งนี้จะมีขนาดประมาณ 1 ไร่กว่าๆ รอบๆปลูกต้นไม้ดูค่อนข้างร่มรื่น และน่าใช้งานดีเลยทีเดียว
อีกทั้งยังมี Jogging Track ให้เราสามารถวิ่งออกกำลังกายรอบๆสวนได้ด้วย และตรงกลางจะเป็นสนามหญ้าที่เราสามารถไว้ให้เด็กๆเล่นเตะบอล หรือจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลต่างๆได้ครับ
นอกจากนี้ก็จะมีพื้นที่ให้นั่งพักผ่อนตามจุดต่างๆ รวมถึงมีพื้นกรวดให้เรามาเดินนวดเท้ากันได้ด้วยครับ
ขยับเข้ามาด้านในเราจะเห็นฟังก์ชันให้ใช้งานอื่นๆของสวนแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสนามเด็กเล่น สนามบาสเก็ตบอล และฟิตเนส
เริ่มกันที่ Educational Playground ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Facilities โครงการนี้เลยก็ว่าได้ครับ โดยแสนสิริได้ร่วมกับโรงพยาบาลสมิติเวช ในการออกแบบเครื่องเล่นเพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสำหรับเด็ก และใช้พื้นยางที่มีสีสันสวยงาม แต่มีความปลอดภัยช่วยลดอาการบาดเจ็บของน้องๆได้ดีนั่นเอง
ซึ่งบริเวณด้านหลังจะมีบันไดให้น้องๆได้ใช้เดินขึ้นไป เพื่อเล่นสไลเดอร์ขนาดใหญ่ได้อีกด้วย หรือบางคนอาจจะใช้วิธีค่อยๆไต่เชือกเหมือนเล่นปีนเขาจำลอง ก็ถือเป็นการออกกำลังกายอีกทางหนึ่งได้ครับ (เส้นทางไม่ได้ลาดชันเกินไปจนเป็นอันตราย ผู้ใหญ่สามารถเดินขึ้นทางลาดได้สบายๆ พื้นเป็นยางไม่ลื่นเลยครับ)
ด้านซ้ายของสนามเด็กเล่นจะเป็นสนามบาสเก็ตบอลแบบ 3 on 3 Basketball Court ที่เอาไว้เล่นออกกำลังกายแบบ 3 ต่อ 3 กับเพื่อนๆได้ครับ
ส่วนด้านขวาของสนามเด็กเล่นจะมีทางเดินไปยัง Fitness ที่อยู่ภายในอาคารได้ครับ
ด้านในก็จะมีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 5 – 6 ชิ้น ขนาดไม่ได้ใหญ่มากนัก แต่วิวสวนรอบๆนี่ดีมากเลยทีเดียว สามารถมาวิ่งออกกำลังกายหลบแดดร้อนๆ พร้อมกับชมวิวพื้นที่สีเขียวไปด้วยได้แบบชิลๆเลยครับ
สุดท้ายจะเป็น Sansiri Blackyard ซึ่งแนวคิดของแสนสิริคือ เค้าต้องการให้เป็นพื้นที่สำหรับปลูกพืชผักสวนครัว ที่ลูกบ้านในโครงการสามารถนำไปใช้งานประกอบอาหารกันได้ครับ (หลังๆเราจะได้เห็นฟังก์ชันนี้ในโครงการใหม่ๆ ของแสนสิริเกือบทุกแห่งเลย)
ปัจจุบันด้านในก็จะปลูกเป็นพวกตะไคร้ ใบกระเพรา ตำลึง อัญชัน ฯลฯ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของนิติบุคคลอีกทีนะ ว่าเค้าจะมีการแบ่ง/แจกจ่ายให้กับลูกบ้านอย่างไร หรืออาจเก็บผลผลิตไปขาย เพื่อนำรายได้มาบำรุงรักษาส่วนกลางก็ว่ากันไปครับ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 7 x 13 เมตร
- แบ่งสระเด็ก 1 สระ
- Fitness
- Jogging Track
- Educational Playground
- 3 on 3 Basketball Court
- Sansiri Blackyard
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 7 จุด
- รั้วรอบโครงการ
- ถนนหลักกว้าง 16 ม. และถนนภายในกว้าง 8 ม.
- Key Card Access ระยะไกล หรือระบบ RFID เปิดอัตโนมัติแบบทางด่วน
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก
- ระบบรักษาความปลอดภัย Liv-24 มาตรฐานจากแสนสิริ
แบบบ้าน
Highlights :
- ฟังก์ชันเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง มีลูก 1 – 2 คน ได้ฝ้าเพดานสูง 3.65 m. ที่ห้องนอนใหญ่ชั้นบน
- บ้านทั้งสองแบบมีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างให้ใช้งานทั้งคู่ สามารถปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ หรือห้องทำงานช่วง WFH แบบนี้ได้สบายๆ
- หลังบ้านเทพื้นคอนกรีต และลงเสาเข็มให้ลึกเท่ากับตัวบ้าน เพื่อรองรับการต่อเติมครัวไทยในอนาคตได้สบายๆ
- มีการเปลี่ยนวัสดุปูพื้นชั้นล่างจากกระเบื้องปกติ เป็นพื้นกระเบื้องยาง SPC ดูอบอุ่นและเป็นธรรมชาติมากขึ้น
โครงการนี้มีแบบบ้านทาวน์โฮมให้เลือก 2 แบบนะครับ ซึ่งจะมีหน้ากว้างเท่ากันคือ 5.7 m. แต่เค้าจะมีความลึกของที่ดินไม่เท่ากัน เลยทำให้การออกแบบฟังก์ชันภายใน และขนาดพื้นที่แตกต่างกันอยู่พอสมควร ประกอบด้วย
- LOFT-118 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. ที่ดินมาตรฐาน 18.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 118 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง - LOFT-133 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. ที่ดินเริ่มต้น 20.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง
บ้านโครงการนี้ทั้งหมดจะก่อสร้างด้วยระบบ Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ที่มีข้อดีในเรื่องความแข็งแรง ทนทาน และได้มาตรฐานจากโรงงานเท่ากันทุกหลัง แถมยังก่อสร้างได้รวดเร็วอีกด้วย แต่จะมีข้อจำกัดคือ ผนังส่วนใหญ่จะเป็นโครงสร้างรับน้ำหนักของตัวบ้าน ซึ่งเราไม่สามารถทุบ/เจาะ หรือต่อเติมได้เต็มที่เหมือนบ้านก่ออิฐทั่วไปนะครับ อาจทำได้เพียงเจาะ/แขวนเล็กๆน้อยๆเท่านั้น
- LOFT-118 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. ที่ดินมาตรฐาน 18.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 118 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง
เรามาเริ่มที่แบบเล็กกันก่อนนะครับ ซึ่งหน้ากว้าง 5.7 m. สามารถจอดรถได้ 2 คันสบายๆเลย จุดเด่นคือชั้น 1 จะมีห้องอเนกประสงค์ให้ใช้งานด้วย ซึ่งผมชอบตรงประตูทางเข้าห้องที่จะหลบมุมมองสายตาจาก Common Area เข้ามาด้านในเล็กน้อย ทำให้ห้องชั้นล่างมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และมีห้องน้ำให้ใช้งานได้สะดวกด้วยครับ ส่วนครัวทางโครงการจะเตรียมพื้นที่ให้ไปทำด้านหลังบ้านเลย (ซึ่งเราจะต้องต่อเติมเองนะ)
ชั้น 2 จะเป็นส่วนพักอาศัยทั้งหมด 3 ห้อง โดยห้องนอนเล็กด้านหลังจะใช้ห้องน้ำร่วมกัน ส่วนห้องนอนใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าจะมีห้องน้ำในตัว พร้อมกับระเบียงให้ใช้งานเล็กๆได้ด้วย ภาพรวมเป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง อยู่ด้วยกัน 3 – 4 คนกำลังดีครับ ซึ่งถ้าบ้านไหนมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วยก็มีห้องชั้นล่างรองรับ หรือจะปรับเป็นพื้นที่ทำงานที่บ้านเพิ่มเติมก็เหมาะกับช่วง WFH แบบนี้มากๆ
ประตูรั้วจะเป็นเหล็กบานเฟี้ยม ที่เวลาใช้งานก็จะมีกลอนที่ต้องเปิด-ปิดเยอะสักหน่อย (เวลาแดดร้อนๆหรือฝนตกก็อาจไม่สะดวกสักเท่าไหร่) มาพร้อมกับกล่องจดหมายและถังขยะหน้าบ้านแบบแขวน (เวลาเปิดประตูฝั่งที่มีตู้จดหมายแขวนอยู่ จะไปชนกับถังขยะพอดี เลยเปิดได้น้อยกว่าอีกด้านหน่อยนะครับ)
พื้นที่จอดรถกว้าง 5.7 m. สามารถจอดรถได้ 2 คันสบายๆ โดยทางโครงการจะเทพื้นคอนกรีตมาให้แบบนี้ แต่ไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้นะครับ ซึ่งเค้าก็ตัด Joint รอบๆพื้นที่จอดรถเพื่อแยกออกมาจากตัวบ้านให้แล้ว เผื่อพื้นเกิดทรุดในอนาคตจะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักของบ้านมากนัก รวมถึงถ้าใครไม่อยากจอดรถกลางแจ้ง ก็สามารถต่อเติมหลังคาจอดรถเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองนะครับ (แต่จะต้องยื่นแบบกับทางโครงการเพื่อขออนุญาตก่อนนะ)
ทางเข้าบ้านจะมีขั้นบันไดเล็กๆ เพื่อกันฝุ่น/สิ่งสกปรกไม่ให้เข้าไปในบ้าน รวมถึงใช้ถอด/ใส่รองเท้าตรงนี้ได้ด้วย (อาจเอาตู้รองเท้ามาวางไว้ที่มุมบ้านตรงนี้ได้นะครับ) ส่วนประตูทางเข้าจะเป็นกระจกบานเลื่อน 2 ตอนขนาดใหญ่ ทำให้ภายในบ้านสว่างและโปร่งโล่งมากขึ้น มาพร้อมกับตัวล็อคประตู 2 ชั้นเพื่อความปลอดภัย แต่ถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถติดม่านเพิ่มเติมแบบบ้านตัวอย่างได้นะครับ
ภายในชั้นแรกจะเป็น Common Area ขนาดใหญ่ เชื่อมต่อพื้นที่ตั้งแต่หน้าบ้านไปจนถึงหลังบ้าน (ถ้าเราเปิดประตูหน้าบ้านและหลังบ้านพร้อมกัน ก็จะมีลมพัดผ่านได้นั่นเองครับ) ซึ่งพื้นที่ส่วนแรกจะเป็นโซฟานั่งเล่นและใช้รับแขก มีระยะดูทีวีประมาณ 2.7 m. สามารถใช้ทีวี 50 นิ้วได้นะครับ ส่วนฝ้าเพดานก็จะสูง 2.4 m. เป็นมาตรฐาน
ที่น่าสังเกตุคือ วัสดุปูพื้นของชั้นนี้จะเป็นกระเบื้องยาง SPC ที่ทนน้ำและรอยขีดข่วนได้ดีกว่ากระเบื้องยางไวนิลทั่วไป แต่ยังคงได้ลวดลายไม้ที่อบอุ่นและดูเป็นธรรมชาติมากกว่าพื้นกระเบื้องธรรมดา ซึ่งบ้านในเฟสใหม่แสนสิริจะใช้สเปควัสดุนี้ทั้งหมด (ถ้าใครชอบพื้นกระเบื้องแบบปกติมากกว่า ก็ลองสอบถามกับทางเซลล์ดูได้นะครับ แต่คาดว่าตอนนี้คงเหลือไม่กี่หลังแล้วล่ะ)
ส่วนนี่เป็นไอเดียการจัด Common Area ของบ้านหลังนี้ ซึ่งผมชอบที่เค้าทำเป็นโซฟายาวแบบนี้ ทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ดูเชื่อมต่อกันดี อย่างเวลาที่เรามานั่งทานอาหารที่โต๊ะก็จะไม่รู้สึกว่าเป็นโต๊ะจริงจังมากเกินไป แต่สามารถใช้นั่งเล่นเป็นโต๊ะอเนกประสงค์ไปในตัวได้ด้วยครับ
ขนาดพื้นที่วางโต๊ะอาหารประมาณ 4 – 6 ที่นั่ง และอยู่ติดกับประตูกระจกบานเลื่อนที่เปิดออกไปยังหลังบ้าน (ซึ่งถ้าเราปลูกต้นไม้ทำสวน ก็จะได้ชมวิวต้นไม้สีเขียวๆจากในบ้านไปได้ด้วย แต่ส่วนใหญ่ก็จะทำเป็นครัวแบบนี้กันมากกว่าครับ)
หลังบ้านจะมีความกว้างตามมาตรฐานคือ 2 m. โดยทางโครงการจะมีการก่อกำแพงสูงประมาณ 3 m. พร้อมกับเทพื้นคอนกรีตและลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้านมาให้แล้ว สามารถรับน้ำหนักของหลังคาและเคาน์เตอร์ครัวที่จะต่อเติมได้สบายๆ ลดปัญหาเรื่องการทรุดตัวได้ดี ซึ่งเราไม่ต้องเสียเวลามาลงเสาเข็มเองให้ยุ่งยากเลยครับ
และนี่เป็นครัวของบ้านตัวอย่างที่ต่อเติมมาให้ดู โดยเราจะทำเป็นครัวปิดเต็มพื้นที่แบบนี้ก็ได้ หรืออาจแบ่งสัดส่วนพื้นที่ทำเป็นมุมซักรีดและสวนเล็กๆอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นไอเดียที่สามารถเห็นได้บ่อยๆช่วงนี้ ซึ่งก็น่าใช้งานดีทีเดียวครับ หรือจะลองอ่านบทความเรื่องครัวอื่นๆได้ตามนี้เลย
ส่วนบริเวณกลางบ้านจะมีทางเดินเล็กๆ ของห้องอเนกประสงค์และห้องน้ำชั้นล่าง แยกออกไปจาก Common Area ทำให้มีความเป็นส่วนตัวจากบริเวณหน้าบ้านมากขึ้น
เริ่มที่ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างเราสามารถปรับเป็นห้องอะไรก็ได้ตาม Lifestyle ของครอบครัว ซึ่งหลายๆคนก็อาจทำเป็นห้องทำงานสำหรับช่วง WFH แบบนี้ก็เหมาะเลยครับ
หรือถ้าใครมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย ก็พอที่จะทำเป็นห้องนอนเล็กๆได้นะ ซึ่งทางโครงการก็วางเตียง 3.5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง พื้นที่ใช้งานค่อนข้าง Fixed พอดีๆ (ขนาดประมาณ 2 x 2.5 m.)
โดยที่เราเรียกว่าห้องอเนกประสงค์ ไม่ได้เรียกเป็นห้องนอน เพราะขนาดพื้นที่ห้องนี้เค้ากว้างไม่ถึง 8 ตร.ม. ตามที่กฎหมายกำหนดขนาดห้องนอนขั้นต่ำไว้ แต่ในทางปฏิบัติก็ยังพอจะทำเป็นห้องนอนได้ถ้าต้องการครับ
จุดเด่นของห้องนี้คือ “ช่องแสง” ที่มีทั้งในส่วนหลังบ้านที่เป็นหน้าต่างเปิดระบายอากาศ และรับแสงธรรมชาติภายนอกได้ด้วย ส่วนอีกจุดนึงจะเป็นช่องหน้าต่างบาน Fixed ที่จะช่วยเพิ่มช่องแสงอีกด้านจากในบ้าน เพื่อให้ห้องนี้มีความโปร่งโล่งมากขึ้น (สามารถติดม่านเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้)
ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่อยู่ใต้บันได มีการลดระดับพื้นลงเล็กน้อย เพื่อให้เวลามาใช้งานฝ้าเพดานจะได้ไม่ต่ำเกินไป ขนาดพื้นที่กว้างประมาณ 0.7 – 1 m. ใช้งานได้พอดีตัว และได้สุขภัณฑ์เป็นของ American Standard ทั้งหมด
ซึ่งถ้าใครทำห้องชั้นล่างเป็นห้องนอน เค้าก็มีฟังก์ชันอาบน้ำไว้รองรับการใช้งานให้แล้วครับ (แต่อาจไม่ได้แยกโซนเปียกโซนแห้งนะ) ที่ชอบคือมีหน้าต่างให้เปิดระบายอากาศได้ด้วย ซึ่งอันนี้ถือว่าดีครับ
บันไดจะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก แข็งแรงทนทานดี เวลาขึ้น-ลงก็จะไม่มีเสียงดังรบกวน ปิดผิวด้วยไม้ยางพารา (กว้าง 1 m. ลูกตั้ง 19 cm. ลูกนอน 25 cm. ตามมาตรฐาน) แต่จะมีขั้นบันไดสามเหลี่ยมที่อาจเหยียบได้ไม่เต็มฝ่าเท้าอยู่ด้วย ทำให้ต้องใช้งานระมัดระวังสักหน่อย ดีที่เค้าทำราวจับมาให้ตลอดทางแบบนี้ก็ช่วยได้อยู่ครับ
ขึ้นมาด้านบนเราจะพามาดูห้องที่อยู่โซนหน้าบ้านกันก่อนนะครับ
ภายในคือ Master Bedroom ที่มีจุดเด่นคือ “ฝ้าเพดานสูง 3.65 m.” เลยทำให้ห้องนี้ค่อนข้างโปร่งโล่งดีมากๆ ซึ่งเราสามารถใช้พื้นที่แนวตั้งให้เป็นประโยชน์ได้ โดยอาจทำชั้นลอยเป็นแบบสไตล์ Loft เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยก็ได้ครับ
และด้วยความที่ห้องนี้กว้างเท่ากับตัวบ้านเลย ทำให้เราสามารถแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็น 2 ส่วนได้ โดยทางด้านนี้ก็เป็นพื้นที่วางเตียงนอน 5 ฟุตได้ครับ (ไอเดียบ้านตัวอย่างคือ ถ้าเราหันปลายเตียงมาด้านนี้ ก็จะสามารถติดทีวีแขวนผนังได้ด้วย)
ส่วนอีกด้านก็จะเป็นมุมแต่งตัวหน้าห้องน้ำครับ
ซึ่งที่เห็นมุมห้องสว่างๆแบบนี้ ก็เพราะอยู่ติดกับระเบียงนั่นเอง ขนาดประมาณ 2 x 0.45 m. พอจะออกไปยืนสูดอากาศชมวิวได้นะครับ โดยด้านนอกจะไม่ได้มีไฟส่องสว่างติดไว้ให้ รวมถึงพื้นระเบียงจะไม่มีรางระบายน้ำและขอบกันน้ำนะ ทำให้เวลาฝนตกน้ำตรงระเบียงจะไหลลงหน้าบ้านโดยตรงเลย ซึ่งอนาคตอาจมีคราบน้ำเกิดได้ง่ายอยู่บ้างครับ
ส่วนภายในห้องน้ำจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าห้องอื่นๆเล็กน้อย (ประมาณ 1.75 x 1.65 m.) เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ไม่ได้แยกพื้นที่ส่วนแห้งกับส่วนเปียกมาให้นะครับ ซึ่งเราอาจใช้เป็นม่านพลาสติกรูดปิดเอาก็ได้ จะได้ไม่เกะกะพื้นที่จนเกินไป
สุขภัณฑ์ทั้งหมดจะเป็นของ American Standard พร้อมทั้งเจาะช่องสำหรับวางของที่ผนังมาให้พร้อมแบบนี้เลย Junction Box สำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นก็มีให้แล้ว และถ้าเป็นทาวน์โฮมแปลงมุมก็จะมีช่องหน้าต่างด้านข้างแบบนี้ให้ด้วย (หลังแปลงปกติต้องพึ่งพัดลมดูดอากาศแทน)
ส่วนโซนหลังบ้านจะมีห้องอยู่ 3 ห้องด้วยกัน เหมาะที่จะเป็นห้องสำหรับลูกๆ แต่จะมีขนาดที่แตกต่างกันครับ
เริ่มจากห้องแรกทางขวามือ (อยู่ติดกับบันได) จะมีขนาดประมาณ 2.7 x 3.4 m. ซึ่งใหญ่กว่าอีกห้องนึงอยู่เล็กน้อย สามารถวางเตียง 3.5 – 5 ฟุตได้สบายๆ เหมาะที่จะเป็นห้องลูกคนโตครับ
ติดกันจะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กกว่านิดนึง (ประมาณ 2.8 x 2.25 m.) ซึ่งก็พอจะทำเป็นห้องนอนด้วยการวางเตียง 3.5 ฟุตได้ หรืออาจทำเป็นห้องพระ และห้องอเนกประสงค์อื่นๆก็ได้นะครับ
ส่วนห้องน้ำนี้จะใช้งานร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องครับ มีขนาดและฟังก์ชันเหมือนกับห้องน้ำของ Master Bedroom เลย
- LOFT-133 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. ที่ดินเริ่มต้น 20.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง
สำหรับทาวน์โฮมหลังนี้ถึงแม้จะมีหน้ากว้างเท่ากับหลังเล็ก แต่เค้าจะมีที่ดินค่อนข้างลึกกว่า ซึ่งผมอยากให้สังเกตที่ลักษณะของบันไดจะทำได้ยาวมากขึ้น แต่ช่วยประหยัดพื้นที่ด้านข้างลงเยอะกว่าหลังเล็ก ทำให้พื้นที่นั่งเล่นชั้น 1 และโถงบันไดหน้าห้องนอนชั้น 2 จะมีความกว้างมากขึ้น เราเลยรู้สึกว่าทาวน์โฮมหลังนี้ดูโปร่งโล่งนั่นเองครับ
นอกจากนี้ก็จะมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆอย่างเช่น ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง และห้องนอนอื่นๆจะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่ขึ้น รวมถึงยังได้ช่องแสงบริเวณโถงบันได ทำให้สว่างและโปร่งโล่งมากขึ้นด้วยครับ ซึ่งถ้าใครที่ชอบบรรยากาศสบายๆต่างจากทาวน์โฮมหลังเล็ก ก็อาจมองแบบบ้านหลังนี้เป็นตัวเลือกดูก็ได้นะ แต่แน่นอนว่าต้องแลกกับราคาที่เราจะต้องจ่ายเพิ่มประมาณ 4 – 5 แสนด้วยเช่นกัน
บริเวณรั้วและพื้นที่จอดรถหน้าบ้านจะเหมือนกับหลังเล็กเลยนะครับ คือได้รั้วเหล็กบานเฟี้ยม และเทพื้นคอนกรีตแบบไม่ลงเสาเข็ม แต่สำหรับบ้าน Type นี้เค้าจะทำหลังคาจอดรถมาให้ดูเป็นตัวอย่างด้วย
ซึ่งหลังคาจะถูกกำหนดให้ทำเป็นทรง Modern เรียบๆแบบนี้เท่านั้น เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศภาพรวมของทั้งโครงการให้เป็น Theme เดียวกัน นอกนั้นก็จะมีข้อแตกต่างเล็กๆน้อยๆจากหลังเล็กตรงประตูกระจกที่กว้างมากขึ้น ได้ช่องแสงตรงโถงบันได และมีช่องเก็บของเล็กๆเพิ่มมาด้วยครับ
และเมื่อเข้ามาภายในก็จะเจอกับ Common Area ที่กว้างมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ซึ่งก็เป็นผลมาจากการจัดฟังก์ชันของบันได ที่ผมได้อธิบายไปในแปลนก่อนหน้านี้แล้ว
โดยพื้นที่นั่งเล่นจะมีระยะดูทีวีประมาณ 4.2 m. (กว้างกว่าเดิม 1.5 m.) ทำให้สามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆ 60 นิ้วได้สบายๆเลย
และถัดเข้ามาก็จะเป็นโต๊ะทานอาหาร ที่สามารถใช้โต๊ะขนาด 6 – 8 ที่นั่งได้สบายๆ ถ้าใครมีเพื่อนหรือครอบครัวใหญ่ๆ มาทานอาหารร่วมกันบ่อยๆก็ค่อนข้างเหมาะเลยครับ
ส่วนหลังบ้านก็จะเป็นพื้นและผนังที่ลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้าน เพื่อรองรับการต่อเติมครัวได้เหมือนเดิมนะ
ถัดมาจะเป็นห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ซึ่งจะแตกต่างกับหลังเล็กตรงที่ประตูทางเข้าไม่ได้มีมุมหลบสายตาแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็กลายเป็นห้องสี่เหลี่ยมที่มีพื้นที่ใช้สอยได้เต็มที่มากขึ้น (ประมาณ 2.55 x 2.7 m.) รวมถึงได้ช่องแสงแบบกระจกเข้ามุมเพื่อความโปร่งโล่งด้วยนะครับ
ส่วนทางเข้าห้องน้ำก็จะอยู่ติดกับโถงทางเดินหลัก เลยทำให้การมาใช้งานสะดวกมากขึ้น แต่ก็อาจทำให้คนที่มาใช้มีความเป็นส่วนตัวลดลงไปบ้างนิดหน่อยนะ
ภายในห้องน้ำก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้น ฟังก์ชันครบครันสามารถใช้งานได้สบายๆ แต่จะไม่มีช่องหน้าต่างระบายอากาศเหมือนหลังเล็กแล้ว (ต้องพึ่งพัดลมดูดอากาศแทน) และเราอาจติดม่านพลาสติกเพิ่มตรงส่วนอาบน้ำ เพื่อแยกฟังก์ชันเวลาใช้งานได้นะครับ
อีกหนึ่งจุดเด่นของทาวน์โฮมหลังนี้คือ “โถงบันได” ที่จะมีช่องแสงเพิ่มเข้ามาเยอะ ทั้งตรงผนังที่อยู่ติดกับหน้าบ้าน และบนฝ้าเพดานที่ทำเป็นช่อง Skylight เลยทำให้บริเวณโถงบันไดกลางบ้านมีความสว่างและโปร่งโล่งมากกว่าปกติ (แต่นานๆทีก็ปีนขึ้นไปเช็ดฝุ่นและทำความสะอาดสักหน่อยก็ดีนะครับ ไม่งั้นช่องแสงอาจสกปรกได้)
และเช่นเดิมโซนด้านหลังบ้านจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง และมีห้องน้ำให้ใช้งานร่วมกันอยู่ตรงกลาง แต่ที่โถงทางเดินนี้จะมีพื้นที่กว้างมากขึ้น สามารถวางพวกชั้นวางของหรือตะกร้าผ้าได้ไม่เกะกะครับ
เริ่มที่ห้องนอนแรกที่อยู่ติดกับบันได จะมีขนาดที่เล็กสุด (ประมาณ 2.6 x 3 m.) สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ หรืออาจปรับเป็นห้องพระและห้องทำงานก็ได้นะครับ
ติดกันจะเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่รองมาจาก Master Bedroom (ประมาณ 2.8 x 3.5 m.) สามารถใช้เตียง 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ แถมยังมีพื้นที่รอบเตียงเหลือให้ใช้งานได้สะดวกอีกด้วย
ส่วนห้องน้ำก็จะมีฟังก์ชันครบ ไม่ได้แยกพื้นที่ส่วนเปียกกับส่วนแห้งมาให้เหมือนเดิม แต่เราก็เพิ่มม่านหรือฉากกั้นด้วยตัวเองได้ครับ
สุดท้ายคือห้อง Master Bedroom ที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน
ภายในมีขนาดที่ใหญ่และกว้างเต็มพื้นที่ 5.7 m. ของตัวบ้านเลยครับ ทำให้เราสามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานได้เป็น 2 ส่วน โดยอาจใช้ฉากกั้นหรือชั้นวางของเป็นตัวแบ่งแบบนี้ก็ได้ รวมถึงเรายังได้ฝ้าเพดานสูง 3.65 m. เลยค่อนข้างโปร่งโล่งดีทีเดียว
โดยพื้นที่รอบเตียงจะเห็นว่ามีขนาดใหญ่ขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเค้าไม่ต้องเสียพื้นที่ห้องบางส่วนให้กับบันไดเหมือนหลังเล็กแล้วนั่นเอง ก็เลยสามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุต และโต๊ะข้างเตียงเพิ่มได้สบายๆ
และอีกด้านของห้องก็จะเป็นพื้นที่แต่งตัวเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือระเบียงจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเป็น 75 cm.
ส่วนห้องน้ำคราวนี้จะมีการแยกพื้นที่ส่วนเปียกกับส่วนแห้งมาให้ชัดเจนแล้วครับ โดยมีการทำขอบพื้นเพิ่มที่บริเวณส่วนอาบน้ำ
ขนาดพื้นที่ส่วนแห้งคือ 1.4 x 1.45 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำ 90 x 95 cm. ซึ่งเราสามารถติดฉากกั้นอาบน้ำจริงจังเพิ่มเติมได้นะครับ เวลาอาบน้ำพื้นจะได้ไม่เปียกไปทั่วทั้งห้อง รวมถึงอาจต้องเพิ่มชั้นวางสบู่/แชมพูด้วย เพราะห้องนี้จะไม่ได้เจาะช่องวางของที่ผนังมาให้นะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะครับ
ราคา
สิริ เพลส จรัญฯ – ปิ่นเกล้า ราคา ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564
- LOFT-118 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. ที่ดินมาตรฐาน 18.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 118 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง
– ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท (Promotion) - LOFT-133 ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. ที่ดินเริ่มต้น 20.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง
– ราคาเริ่มต้น 4.39 ล้านบาท (Promotion) - LOFT-133 (แปลงมุม) ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 ม. ที่ดินเริ่มต้น 29.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง
– ราคาเริ่มต้น 5.05 ล้านบาท (Promotion) - จอง 5,000 – 10,000 บาท
- ทำสัญญา 15,000 – 20,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 100,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 66 บาท/ตร.วา/เดือน
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ครับ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : ถนนบางกรวย-จงถนอม ที่โครงการตั้งอยู่สามารถเข้า-ออกถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง จะไปช้อปปิ้งบนถนนราชพฤกษ์ก็ได้ หรือขึ้นทางด่วนศรีรัชเพื่อเข้าเมืองไปทางบางซื่อ-จตุจักรก็ดี รวมถึงยังมีรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนสถานีบางบำหรุอยู่หน้าปากซอยด้วย ถือว่ามีตัวเลือกการเดินทางที่สะดวกอยู่พอสมควรเลยทีเดียวครับ
ส่วนในด้านความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการจะเป็นชุมชน ตลาด และสถานที่ราชการของอำเภอบางกรวย แต่ถ้าเป็นห้างหรือแหล่งช้อปปิ้งใหญ่ๆ ก็จะมีอยู่บนถนนราชพฤกษ์เป็นหลัก อย่าง The Walk, HomePro และ The Crystal หรือจะไปเดินที่ห้าง Central ปิ่นเกล้า ก็ได้เหมือนกันครับ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : มีทางเข้า-ออกแค่จุดเดียว ทำให้พี่ยามสามารถดูแลรักษาความปลอดภัยได้ง่าย ซึ่งตรงซุ้มประตูจะมีกล้อง CCTV และระบบ RFID ที่เปิดไม้กั้นกระดกให้อัตโนมัติสำหรับลูกบ้าน รวมถึงใช้ Liv-24 ที่เป็นบริการดูแลความปลอดภัยโดยศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ 24 ชม. จากแสนสิริอีกด้วย
แต่เค้าจะดูแค่เฉพาะพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้นนะครับ หากเป็นในบ้านพักอาศัยเราอาจต้องติดตั้งเพิ่มเติมด้วยตัวเอง แต่ที่ชอบในตัวบ้านก็คือ รั้วด้านหลังบ้านที่สูงประมาณ 3 m. ซึ่งจริงๆเค้าก็ตั้งใจเอาไว้เป็นส่วนต่อเติมครัวนั่นแหละครับ แต่ก็ทำให้หลังบ้านของเรามีความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยเช่นกัน
การออกแบบโครงการ : จุดเด่นของผังโครงการอยู่ที่ “การวางตำแหน่งพื้นที่ส่วนกลาง” ที่มีการกระจายตัวอยู่ 2 จุดใหญ่ๆ คือบริเวณด้านหน้าและตรงกลางโครงการ ซึ่งฟังก์ชันหลักๆก็จะอยู่ที่ตรงกลางในส่วนของเฟสด้านในซะด้วยครับ เลยทำให้บ้านเฟสใหม่ที่กำลังเปิดขายอยู่ มีข้อได้เปรียบในเรื่องความเป็นส่วนตัว และการมาใช้งานส่วนกลางได้สะดวกกว่าบ้านเฟสแรกๆ แต่ก็ต้องแลกกับการต้องขับรถเข้าไปในหมู่บ้านค่อนข้างลึกอยู่เหมือนกัน โดยเค้าได้วางถนนหลักเอาไว้ด้านหนึ่งของโครงการ และจัดให้ตัวบ้านอยู่ภายในซอยย่อยแทน เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัยให้มากขึ้นนั่นเองครับ
การออกแบบบ้านและพื้นที่ใช้สอย : มีแบบบ้านให้เลือก 2 แบบ ซึ่งถึงแม้จะมีหน้ากว้างและจำนวนฟังก์ชันที่เท่ากัน แต่ความลึกของที่ดินที่ต่างกัน ก็ส่งผลให้ขนาดพื้นที่ใช้สอย และการจัดฟังก์ชันภายในออกมาไม่เหมือนกัน โดยถ้าเป็นบ้านทาวน์โฮมหลังเล็ก LOFT-118 จะเหมาะกับครอบครัวเล็ก ที่อาจมีลูกแค่คนเดียว และเน้นราคาจับต้องได้ง่ายเป็นหลัก
ส่วนหลังใหญ่ LOFT-133 จะเหมาะกับคนที่ชอบความโปร่งโล่ง ห้องนั่งเล่นกว้างๆ มีช่องแสงสว่างตรงโถงบันไดกลางบ้านเยอะๆ และอาจมีลูก 2 คนครับ เพราะห้องนอนชั้นบนทั้ง 2 ห้องมีขนาดใหญ่พอที่จะอยู่ได้ตั้งแต่เล็ก-โตได้ทั้งคู่เลย
โดยจุดเด่นร่วมของทาวน์โฮมทั้ง 2 แบบที่มีเหมือนกันก็คือ เค้าจะมีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างที่สามารถปรับเป็นห้องนอน หรือห้องทำงานช่วง WFH แบบนี้ได้ รวมถึงห้อง Master Bedroom บนชั้น 2 ก็จะได้ฝ้าเพดานที่สูงถึง 3.65 m. แบบสไตล์ Loft เพื่อความโปร่งโล่ง และเราสามารถใช้ประโยชน์โดยการเพิ่มพื้นที่ชั้นลอย หรือพื้นที่เก็บของในแนวตั้งได้อีกด้วยครับ
วัสดุ : โครงสร้างเป็น Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป มีความแข็งแรงทนทาน แต่มีข้อจำกัดเรื่องการทุบ/เจาะ/ต่อเติม จะทำได้ยากกว่าผนังก่ออิฐแบบทั่วไปนะครับ และถึงแม้ว่าหน้าบ้านจะไม่ได้ลงเสาเข็มตรงพื้นที่จอดรถมาให้ แต่ก็ลงเสาเข็มลึกเท่ากับตัวบ้านไว้ที่บริเวณหลังบ้านมาให้แล้ว ซึ่งตรงจุดนี้ผมมองว่าดี ช่วยเราประหยัดต้นทุนในการต่อเติมครัวในอนาคตได้เยอะเลย
ส่วนวัสดุปูพื้นชั้น 1 ที่เปลี่ยนจากกระเบื้องปกติ เป็นกระเบื้องยาง SPC ก็จะได้ความอบอุ่น และเป็นธรรมชาติของพื้นลายไม้เพิ่มเข้ามา ซึ่งถ้าใครที่อยากแต่งบ้านเป็นแนว Earth Tone หรือญี่ปุ่นนี่ก็เหมาะเลยครับ และถึงแม้ว่า SPC จะทนทานและใช้งานได้ดีกว่าพื้นไวนิล แต่ก็ยังต้องการการดูแลรักษาที่ดีกว่าพื้นกระเบื้องจริงอยู่พอสมควร เพราะหากเจอของมีคม หรือการกระแทกแรงๆก็อาจเป็นรอยได้ รวมถึงถ้าโดนแดดเลียนานๆสีก็ซีดจางได้เหมือนกัน แต่ดีหน่อยที่พื้นชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นแบบคลิกล็อก ที่สามารถถอดเปลี่ยนเฉพาะจุดที่เสียหายได้ง่ายครับ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ส่วนตัวมองว่าบรรยากาศค่อนข้างดีนะครับ คือเค้าลงต้นไม้ใหญ่ๆเอาไว้ริมถนนเยอะดี โดยเฉพาะทางเข้าก่อนถึงซุ้มประตู ที่ทุกคนคงเห็นภาพแล้วว่าร่มรื่นดีมากๆ และยังมีต้นไม้ตลอด 2 ข้างทางบนถนนหลักด้านในโครงการ กับสวนส่วนกลางก็มีมาให้เยอะค่อนข้างดูดีเลยทีเดียว
สาธารณูปโภค : จุดเด่นของ Facilities โครงการนี้คือ Educational Playground ที่มีขนาดใหญ่ และทำออกมาได้น่าใช้งานมากๆ ซึ่งผมคิดว่าถ้าใครที่มีลูกเล็กๆ ก็คงอยากพาน้องๆมาเล่นด้วยแน่นอนครับ อีกทั้งยังมีสนามบาส + Sansiri Blackyard ที่เป็นฟังก์ชันพิเศษเพิ่มเข้ามา ส่วนฟิตเนสและสระว่ายน้ำให้มาค่อนข้างมาตรฐาน แต่ก็มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งหากเทียบกับลูกบ้าน 413 ยูนิต ผมคิดว่าตอนมาใช้งานพร้อมๆกันคงจะค่อนข้างหนาแน่นอยู่เหมือนกันนะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 3 – 5 ล้านบาท, 3 สิงหาคม 2564
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – เข้า-ออกได้หลายทาง ใกล้ห้าง ใกล้ทางด่วน และรถไฟฟ้า แต่อยู่ในซอยลึกสักหน่อย
- ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก, ระบบ RFID, กล้อง CCTV และ Liv-24 จากแสนสิริ
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างทุกแบบ ฝ้าเพดานห้องนอนใหญ่สูง 3.65 m. ช่องแสงเยอะ
- วัสดุ 8.5/10 – ก่อสร้างระบบ Precast และลงเสาเข็มยาวหลังบ้านรองรับการต่อเติมครัว
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – ต้นไม้ริมถนนหลัก 2 ข้างทางเยอะดี ดูร่มรื่น
- สาธารณูปโภค 8.5/10 – สนามเด็กเล่นใหญ่น่าใช้งาน ฟังก์ชันครบ แต่การใช้งานอาจหนาแน่นอยู่สักหน่อย
- 7.85 / 10.00
สิริ เพลส จรัญฯ – ปิ่นเกล้า เหมาะกับใคร
สิริ เพลส จรัญฯ – ปิ่นเกล้า เหมาะกับคนที่มองหาทาวน์โฮมย่านฝั่งธนฯ ที่ยังสามารถเข้าเมืองได้ง่าย ใกล้ทางด่วนศรีรัชและรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน เป็นซอยที่เข้า-ออกได้หลายทาง และไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้ามากนัก เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่บรรยากาศดี มีส่วนกลางที่โดดเด่นในฟังก์ชัน Educational Playground ที่ใหญ่และน่าพาลูกๆหลานๆมาเล่นมากๆ ส่วนตัวบ้านก็มีห้องอเนกประสงค์ชั้นล่างให้ใช้งานทุกแบบ และได้ช่องแสงเยอะดี ต้องมีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 3.79 – 4.39 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 27,000 – 31,000 บาทขึ้นไป
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc