รีวิวโครงการ
The Sneak EP.33 – Nirvana Beyond พระราม2
13 กรกฎาคม 2019
รีวิวฉบับที่ 1085 สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปชมโครงการ Beyond พระราม ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางสมุทรสาคร ระหว่างตัดกับถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลและ Tesco Lotus พระราม2 ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น มีบ้านทั้งหมด 5 แบบ บางแบบมีลิฟท์ในบ้าน บางแบบมีสระว่ายน้ำมาให้พร้อม บนที่ดินเริ่มต้น 50.7 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท
Facts @ 18 May 2016
- Beyond Rama2 (บียอนด์ พระราม2)
- บริษัท เนอวานา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด
- LUXURY – SUPER LUXURY CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่ในเขต : บางขุนเทียน
- เนื้อที่โครงการประมาณ 42 ไร่ จำนวน 137 ยูนิต
- แบบบ้าน Keen ขนาดที่ดิน 50.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 311 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
- แบบบ้าน Niche ขนาดที่ดิน 52.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 317 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 2 ที่จอดรถ
- แบบบ้าน Live ขนาดที่ดิน 61.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 357 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
- แบบบ้าน Most ขนาดที่ดิน 71.2 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 418 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
- แบบบ้าน Pride ขนาดที่ดิน 89.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 550 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ 1 ลิฟท์ 1 สระว่ายน้ำ
- ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น) หรือ 464,601 บาท/ตร.วา
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : เดือนธันวาคม ปี 2558
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : คาดว่าจะแล้วเสร็จบางส่วนเดือนมิถุนายน ปี 2560
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1787
เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ
สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ
พิกัด : 13.652220, 100.425768
แผนที่โครงการ
โครงการบ้านเดี่ยว Beyond พระราม2 ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางสมุทรสงคราม หรือที่เป็นทางผ่านจากกรุงเทพไปชะอำ-หัวหิน โดยทำเลฝั่งพระราม 2 ถือว่าเป็นทำเลฝั่งธนทางตอนใต้หน่อยที่แต่ก่อนจะเป็นพื้นที่ว่างเปล่าและโรงงานซะเยอะ แต่ในปัจจุบันจะมีการพัฒนาเป็นอสังหาฯประเภทที่อยู่อาศัย โดยส่วนมากจะเป็นแนวราบ ตั้งแต่ townhouse ขนาดพื้นที่เล็กหน่อย ขยับมาที่บ้านแฝด และบ้านเดี่ยวขนาด 50 ตารางเมตรขึ้นไปจนถึงมากกว่า 100 ตารางเมตร โดยโครงการที่ติดถนนพระราม 2 โดยตรงจะถือว่าเป็นพื้นที่ Prime area ขึ้นโครงการบ้านเดี่ยวหลักเกินสิบบ้าน โดยราคาและผลิตภัณฑ์จะลดหลั่นกันลงไปตามถนนหลัก ถนนรอง และย่อยๆ เช่นถนนพระราม 2 ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะเป็นถนนขนาดใหญ่มีทางคู่ขนาน มีศูนย์การค้าและโรงพยาบาลหลายแห่ง รองลงมาจะเป็นเส้นวงแหวนฝั่งใต้ที่จะมีโครงการแนวราบเยอะ และย่อยๆตามเส้นบางขุนเทียน-ชายทะเลและตามซอยท่าข้ามและพุทธบูชา
ทางเข้าโครงการ Beyond พระราม2 ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ระหว่างทางแยกไปถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลที่มี BigC อยู่ตรงหัวมุมและ Tesco lotus พระราม 2 ตำแหน่งของโครงการสามารถเข้าได้จากทางคู่ขนานพระราม 2 หรือถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางคู่ขนาน ถ้ามาจากถนนเอกชัยจะต้องข้ามสะพานข้ามแยกมาอยู่บนถนนบางขุนเทียนแล้วไปกลับรถเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นพระราม 2 โดยถ้ามาจากทางด่วน ข้ามสะพานพระราม 9 มาแล้ว สามารถลงที่ทางลงสมุทรสาครจะมาลงบนถนนพระราม 2 พอดี จากนั้นก็ตรงยาว หรือถ้ามาจากเส้นวงแหวนกาญจนาฝั่งใต้สามารถลงที่ถนนพระราม 2 เลยแต่ต้องไปใช้สะพานกลับรถตรงก่อนถึงจุดตัดถนนบางขุนเทียน
บริเวณพระราม 2 ถือว่าเริ่มมีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆในพื้นที่ ตั้งแต่ Tesco lotus ที่อยู่เลยโครงการไปหน่อย ด้านหน้าจะมีตลาดและอาคารพาณิชย์ ชั้นล่างเปิดเป็นร้านค้า ร้านทอง ร้านแว่น ฝั่งตรงข้ามคือ Central พระราม 2 ก็มีตลาดนัดอยู่ด้านหน้าเช่นกัน ส่วนที่เปิดสดๆใหม่ๆเลยคือ The bright ที่อยู่ใกล้โรงพยาบาลบางมด ภายในจะมีร้านอาหารญี่ปุ่น Starbuck เข้าได้จากเส้นคู่ขนาน ส่วนโรงพยาบาลมีหลากหลายที่ขนาดใหญ่คือโรงพยาบาลบางปะกอก9 และโรงพยาบาลนครธน ส่วนที่ขนาดเล็กลงมาหน่อยคือโรงพยาบาลพระราม 2 ส่วน โรงเรียนสวนกุหลาบธนบุรีที่คอร์สแบบอินเตอร์ด้วย โตไปหน่อยจะมีสถาบันพระจอมเกล้าธนบุรีอยู่ตรงถนนประชาอุทิศ
สำหรับคนไม่ใช้รถ บนถนนพระราม 2 ที่เป็นถนนขนาดใหญ่มีหลายเลนทำให้มีรถเมล์ รถตู้ รถสองแถวจำนวนมาก แต่ยังไม่มีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกและสมัยใหม่อย่างเส้นทางรถไฟฟ้าหรือรถใต้ดินต่างๆ แต่สถานีที่ใกล้ที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็นสถานี BTS ตลาดพลู และวงเวียนใหญ่ ที่ต้องต่อรถอีกทีเข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินตรงมาเข้าถนนสุขสวัสดิ์ ส่วนการเรียกรถ Taxi แถวหน้าโครงการถือว่าสะดวกดี
เส้นทางที่เราจะเดินทางกันวันนี้ คือเส้นทางด่วนจากในเมือง เลี้ยวขวามาทางดาวคะนอง ข้ามสะพานพระราม 9 แล้วมาลงที่ทางลงสมุทรสาครจะมาลงบนถนนพระราม 2 พอดี ตรงมาเรื่อยๆเมื่อเห็น BigC พระราม 2 ให้เริ่มเบี่ยงซ้ายออกทางคู่ขนานพระราม2 ผ่านแยกที่ตัดกับถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ก่อนจะถึง Tesco lotus จะเจอทางเข้าโครงการอยู่ทางซ้ายมือพอดี
เริ่มจากบนทางด่วนจากในเมือง เลี้ยวขวามาทางดาวคะนองเรียบร้อย กำลังข้ามสะพานพระราม 9 เพื่อเข้าฝั่งธนบุรี
ข้ามสะพานมาจนจะถึงทางลงสะพานพระราม 9 เราจะชิดขวาไปทางดาวคะนอง
ตรงมาอีกเรื่อยๆจะเจอป้ายโครงการทางซ้ายมือ Nirvana beyond ให้ชื่นใจว่ามาถูกทางแล้ว
ตรงมาอีกหน่อยจะเจอทางแยกอีกครั้ง โดยเราจะเลือกไปทางขวาหรือสมุทรสาครเพื่อจะไปลงที่ถนนพระราม 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางตัวเมืองสมุทรสาคร ส่วนถ้าชิดซ้ายไปลงดาวคะนองจะอยู่บนถนนพระราม 2 เช่นกันแต่จะมุ่งหน้าไปทางสุขสวัสดิ์-ราษฎร์บูรณะ
เราลงทางด่วนมาบนถนนพระราม 2 กว้าง 4 เลน โดยทางซ้ายจะมีทางคู่ขนานอีก 3 เลน โดยถ้าตรงไปจะไปเข้าจังหวัดสมุทรสาคร ตรงไปเรื่อยๆจะเป็นเพชรบุรีเข้าชะอำ หรือหัวหินที่เราไปกันบ่อยๆ ส่วนถ้าจะกลับรถจะต้องออกไปทางคู่ขนานทางซ้ายมือจะมีทางกลับรถบ้างจะเป็นทางลอดใต้สะพาน บ้างจะเป็นสะพานกลับรถ
สะพานกลับรถแบบกลับจากทางคู่ขนานพระราม 2 จากอีกฝั่งไปอีกฝั่ง โดยสะพานลอยคนข้ามจะข้ามยาวๆทั้ง 14 เลนยาว
ทางซ้ายมือจะเป็นศูนย์การค้าเปิดใหม่คือ The bright พระราม 2 อยู่ก่อนถึงซอยอนามัยเจริญงาม โดยภายในจะมีร้านค้าต่างๆตั้งแต่ Starbuck ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านขายเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์แต่งบ้าน มี burger king โดยมีทั้งส่วนที่อยู่ภายในแอร์และส่วน Outdoor
จากตรงนี้เราจะเริ่มหาทางออกไปคู่ขนานทางซ้ายมือ
ประมาณทุกๆ 3 กิโลเมตรจะมีทางออกไปยังทางคู่ขนานเพื่อเลี้ยวเข้าซอยพระราม 2 ย่อยต่างๆหรือเข้าศูนย์การค้าที่มีอยู่ตามทาง
เข้าทางคู่ขนานมาก็จะเจอกับ homepro เลยไปหน่อยจะเป็น BigC ส่วนฝั่งตรงข้ามคือ Central พระราม 2
Central พระราม 2 จะมีสะพายลอยข้ามไปมา โดย Central ที่นี้จะมีแปลนที่ต่างจากที่อื่นคือเป็นรูปตัว U โดยตรงกลางตัว U จะเป็นอาคารพาณิชย์ที่เปิดเป็นร้านค้าต่างๆ
เราวิ่งรถมาจนเจอสะพานกลับรถ โดยสะพานกลับรถนี้สามารถขึ้นไปแล้วเข้าพื้นที่ของ Central ได้เลย แต่จะมีทางลงไปถนนพระราม 2 อีกฝั่งนึงด้วย ส่วนเราจะตรงไปเรื่อยๆบนถนนพระราม 2 ก่อนนะคะ
ตรงมาอีกหน่อยจะเจอโรงพยาบาลนครธนอยู่ฝั่งตรงข้าม
ตรงมาก็จะเริ่มเข้าใกล้ทางแยกที่จะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ส่วนทางขวามือที่เห็นคือสะพานกลับรถจากถนนพระราม 2 อีกฝั่ง
มาถึงแยกคือถ้าเราตรงไปก็จะยังอยู่บนถนนคู่ขนานพระราม 2 ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายจะเจอถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล สามารถเข้าเส้นวงแหวนกาญจนาทางใต้ได้รวมถึงเส้นเลียบวงแหวนด้วย ส่วนสะพานด้านบนคือสะพานข้ามแยกจากถนนบางขุนเทียน-ชายทะเลไปยังถนนเอกชัยทางเหนือ
ตรงมาบนถนนพระราม 2 จะเจอกับอาคารพาณิชย์ต่างๆไล่มาเรื่อยๆจนมาเจอร้านขายกระเบื้องขนาดใหญ่
ถัดจากร้านขายกระเบื้องขนาดใหญ่มาก็จะเป็นทางเข้าโครงการ Beyond พระราม 2 อยู่ทางซ้ายมือค่ะ
เรามาดูเพื่อนบ้านใกล้เคียงกันนะคะ ทางทิศเหนือของทางเข้าโครงการคือถนนพระราม 2 และถนนคู่ขนานพระราม 2 รวมกันประมาณ 10 เลน โดยมีทางกลับรถและสะพานกลับรถเป็นระยะ ทางตะวันออกช่วงทางเข้าโครงการเป็นร้านขายกระเบื้องขนาดใหญ่ ลึกเข้ามาเป็นบ้านพักอาศัยแนวราบในซอย ส่วนทางตะวันตกริมถนนพระราม 2 คืออาคารพาณิชย์สูง 4-5 ชั้น และเป็นบ้านพักอาศัยรวมถึงพื้นที่ว่างเปล่าผืนใหญ่ ส่วนทางใต้เป็นบ้านพักอาศัยที่เข้าได้จากถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- Tesco Lotus พระราม 2 – 900 เมตร
- โรงพยาบาลพระราม 2 – 3.6 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลนครธน – 5.4 กิโลเมตร
- Central พระราม 2 – 6 กิโลเมตร
- โรงเบียร์ฮอลแลนด์ – 6.1 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลบางมด 1 – 8.7 กิโลเมตร
- โรงเรียนสวนกุหลาบ ธนบุรี – 8.8 กิโลเมตร
- The bright พระราม 2 – 9.3 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลบางปะกอก 9 – 10.2 กิโลเมตร
- Homepro พระราม 2 – 10.5 กิโลเมตร
- BigC พระราม 2 – 10.7 กิโลเมตร
- The mall ท่าพระ – 16.3 กิโลเมตร
- สถาบันพระจอมเกล้าธนบุรี – 17.1 กิโลเมตร
โครงการ Beyond พระราม2 เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น รวมจำนวนทั้งหมด 137 ยูนิต บนเนื้อที่โครงการประมาณ 42 ไร่ สามารถเข้าถึงได้ทางเดียวจากถนนพระราม 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางสมุทรสาคร ปัจจุบันเป็นโครงการที่แล้วเสร็จในส่วนหน้าหรือบ้านตัวอย่างปนระมาณ 10 หลังหรือคิดเป็น 7% แต่ยังมีหลังที่กำลังก่อสร้างเป็น Backlog อีกนิดหน่อย บวกกับพื้นที่ Clubhouse ส่วนหน้า โครงการ ยังอยู่ในช่วงเปิดการขายทำให้ยังไม่มีลูกบ้านเข้าอยู่ภายในโครงการนะคะ
การจัดสัดส่วนของโครงการจากทางเข้าก็จะมีซุ้มโครงการที่มีป้อมพี่ยามตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางเข้า-ออก ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นแบบ Remote access ระยะไกลแบบ Easy pass ที่จะเลื่อนประตูหน้าโครงการเพื่อให้รถเข้าไปได้ ด้านหน้ามี CCTV ตรงด้านหน้า 2 จุด ผ่านซุ้มทางเข้าไปจะเป็นถนนตรงกลางกว้าง 13 เมตร ฝั่งขวามือจะเป็น Clubhouse ของโครงการสูง 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะมีห้องฟิตเนส พื้นที่นั่งเล่น ห้องพนักงานและห้องน้ำ ส่วนเดินบันไดขึ้นไปชั้น 2 จะมีสระว่ายน้ำ Outdoor และ Sunken seat ทรงสี่เหลี่ยม พื้นที่ล้างตัวและห้องน้ำ จากถนนด้านหน้าเข้าไปเรื่อยๆทางขวาก็จะมีสระน้ำขนาดใหญ่ที่มีน้ำพุ ทางซ้ายเป็นส่วนหย่อม สองฝั่งมีทางเท้าพร้อมไฟตลอดทางเดินทั้งแบบโคมและแบบส่องพื้น เข้าไปจะเจอกับประตูเลื่อนอีกจุดหนึ่งเปิดด้วย Remote censor เช่นกัน ทำให้โครงการนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double gate secuity
จากประตูเลื่อนบานที่ 2 เข้ามาก็จะเป็นบ้านแบบต่างๆทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา โดยจะมีแบบรวมกันทั้งหมด 5 แบบ ตั้งแต่ 50 ตารางวาเป็นต้นไป ตรงเข้าไปอีกหน่อยจะเจอกับวงเวียน ถ้าตรงไปจะมีทางเข้าซอยด้านหลังไปอีก ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายหรือไปทางตะวันตกจะมีสะพานข้ามคลอง ตรงเข้าไปจะเจอกับวงเวียนอีกจุดที่อยู่ด้านหน้าสระน้ำขนาดใหญ่และสวนสาธารณะ มีถนนอีก 3 เส้นภายในโครงการ โดยปัจจุบันนโยบายของ Nirvana จะมีการปรับเปลี่ยนบางส่วนหลังจากที่ Singha estate เข้ามาถือหุ้น โดยจะปรับเป็นแบบสร้างเสร็จก่อนขายบางส่วน แต่ถ้าอยากจะปรับวัสดุตามแบบ Nirvana ที่สามารถเลือกวัสดุ เพิ่มการใช้งานหรือลดบางส่วนจะต้องเลือกแปลงที่ดินที่ยังไม่มีการก่อสร้าง แต่ส่วนที่เป็น Backlog สร้างเสร็จแล้วก็จะขายตามแบบที่สร้างไปเลย
ซุ้มทางเข้าโครงการทำเป็นแบบครอบตัวทางเข้า-ออกไปทั้งหมดเป็นหลังคา ดูยิ่งใหญ่ ขวามือเป็นป้ายชื่อบริษัท และตรงกลางคือชื่อโครงการ ใต้ซุ้มโครงการจะเป็นประตูเลื่อนออกซ้าย-ขวา ไม่มีการแบ่งช่องเข้า-ออก โดยป้อมพี่ยามจะอยู่ทางขวาใกล้กับประตูเล็ก
ส่วนทางซ้ายของทางเข้าโครงการจะเป็นพื้นที่สีเขียวและป้ายชื่อโครงการขนาดใหญ่
ประตูหน้าโครงการจะเป็นประตูชั้นแรก โดยจะถูกเปิดออกได้โดยระบบ Remote access ระยะไกลแบบ Easy pass ที่จะเลื่อนประตูหน้าโครงการออกซ้าย-ขวา เพื่อให้รถเข้าไปได้
ด้านหน้ามี CCTV ตรงด้านหน้า 2 จุดจับป้ายทะเบียนรถและใบหน้าผู้ขับ โดยจะมีเสารับสัญญาณของ Remote access ตั้งอยู่
ผ่านประตูเลื่อนหน้าโครงการเข้ามาก็จะเจอกับถนนหลักของโครงการกว้าง 13 เมตร ทางขวามือจะเป็น Clubhouse สูง 2 ชั้น มีรถกอล์ฟจอดอยู่ริมถนน
หันมาให้ดู Clubhouse หน้าโครงการกันชัดๆ โดยชั้นล่างผ่านเข้าไปจะเป็นที่จอดรถประมาณ 6 คัน ด้านในจะมีการแบ่งห้องออกเป็นห้องฟิตเนส ห้องรับรองที่มีโซฟาและทีวี ห้องพนักงาน ห้องน้ำ และส่วนที่เป็นสนามหญ้ามีเก้าอี้วางหันหน้าเข้าหาบ่อน้ำ ส่วนชั้น 2 จะขึ้นบันไดที่เห็นด้านหน้าอาคารนี้ มีสระว่ายน้ำและ Sunken seat รวมถึงพื้นที่ล้างตัวและห้องน้ำ
เดินเข้ามาอยู่ในพื้นที่จอดรถ ทางขวามือจะเป็นห้องของพนักงาน หลักๆคือพนักงานขายประจำโครงการ ส่วนทางซ้ายมือเป็นห้องรับรองที่เวลามีลูกค้าเข้ามาเยี่ยมชมโครงการจะพามายังห้องนี้ ตรงกลางจะมีทางเดินออกไปที่เก้าอี้สนาม ได้วิวบ่อน้ำขนาดใหญ่ด้านหน้า
ภายในห้องพนักงาน
ห้องรับรองทางขวามือจะดูโปร่งกว่า
ภายในห้องรับรองจะมีทีวีเปิด Concept ของโครงการและบริษัทวนไปค่ะ
ห้องรับรองอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนทางขวามือเป็นห้องฟิตเนส ตรงกลางทางเดินเป็นทางเข้าห้องน้ำ
ภายในห้องฟิตเนสประกอบไปด้วยเครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
ระหว่างห้องรับรองและห้องฟิตเนสจะมีทางเดินไปยังห้องแม่บ้านและห้องน้ำแยกชาย-หญิง
ภายในห้องน้ำชั้นล่างจะมีอ่างล้างมือและห้องน้ำ 2 ห้อง โดยไม่มีส่วนห้องอาบน้ำ ซึ่งจะอยู่ที่ชั้น 2 ใกล้กับสระว่ายน้ำค่ะ
บริเวณหน้าห้องฟิตเนสและห้องรับรองจะมีเก้าอี้จัดเป็นชุดให้นั่ง มีทั้งแบบภายในร่มและแบบกลางแจ้งด้านนอกเดินออกไปอีกหน่อย
เดินออกมาที่ที่นั่งกลางแจ้ง มองผ่านบ่อยน้ำทางขวามือไปจะเป็นประตูเลื่อนชั้นที่ 2 ของเส้นทางรถ แล้วจึงจะเป็นแบบบ้านเรียงเข้าไปสองฝั่งซ้ายกว่า ด้านบนของบ่อน้ำเป็นสายไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่าน ด้วยกฎข้อบังคับทำให้ใต้สายไฟต้องเป็นพื้นที่สีเขียวและห้ามปลูกสร้างอาคารใต้บริเวณ
จากพื้นที่นั่งเล่นด้านนอกหันหน้าเข้าไปหา Clubhouse ที่สูง 2 ชั้น โดยชั้นบนที่เห็นเป็นพื้นที่โล่งไม่มีหลังคาจะเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำแบบ Outdoor
ทางที่จะขึ้นชั้น 2 จะต้องวนมาด้านหน้าขึ้นบันไดนี้กันนะคะ
ขึ้นมาถึงด้านบน หันไปทางขวาก็จะเจอกับสระว่ายน้ำที่ยกพื้นสูงขึ้นไปหน่อย ทางขวามือมีบันไดขึ้นไปยังพื้นที่นั่งเล่นในร่ม
สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 8 x 20 เมตรจะแบ่งออกเป็น 2 สระ ทางใกล้กับทางเดินทางขวามือจะเป็นสระเด็กลึก 0.6 เมตร ส่วนสระที่อยู่ใกล้กับพื้นที่นั่งเล่นข้างสระทางซ้ายมือจะลึก 1.2 เมตร
พื้นที่นั่งริมสระว่ายน้ำ จะมีทั้งแบบเป็นโซฟาตัวยาวด้านหลังและแบบ Daybed ที่สามารถนอนได้
วิวจากพื้นที่ข้างสระมองเข้าไปด้านในโครงการ
จากบันไดทางขึ้นชั้น 2 หันมาทางซ้ายมือจะเจอกับพื้นที่นั่งเล่นหรือ Sunken seat ที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมขุดลึกลงไปหน่อย จะเป็นพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งบนชั้น 2 ตอนเย็นๆที่ไม่มีแดดได้ดี
วิวจาก Clubhouse บนชั้น 2
จากสระว่ายน้ำถ้าเราเดินอ้อมมาทางซ้ายมือจะเจอกับทางเดินเข้าไปยังพื้นที่ล้างตัวและห้องน้ำ
พื้นที่ล้างตัวจะอยู่ด้านนอก มีจุดเดียว ส่วนห้องน้ำจะมีทางเดินทางขวาเข้าไปแยกชาย-หญิง
ออกจาก Clubhouse กลับมาที่ถนนหลักโครงการกว้าง 13 เมตร เราจะเดินตรงเข้าไปยังประตูเลื่อนชั้นที่ 2 ที่เห็นอยู่ด้านหน้า เพื่อเข้าไปดูบ้านด้านในกันนะคะ
ก่อนจะถึงประตูบานเลื่อน ทางซ้ายมือจะมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่เรามองเห็นจากวิว Clubhouse ทั้งสองชั้น ที่ริมถนนหลักจะมีทางเดินเท้าพร้อมไฟส่องตอนกลางคืนเป็นระยะๆ
ไฟที่ทางโครงการใช้จะมีหลากหลายแบบ แต่ในส่วนที่เป็นพื้นที่ Outdoor จะมี 3 แบบทั้งแบบสองพื้นทางเดินเพื่อให้เดินสะดวกในเวลากลางคืน หรือแบบเสาที่มีดวงโคมส่องลงมาเพื่อพื้นที่ในระยะกว้างหน่อย และแบบ LED ประหยัดหลังงาน
เราก็เดินมาถีงประตูเลื่อนชั้นที่ 2 ทำให้โครงการนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double gate secuity โดยประตูใหญ่จะถูกเลื่อนจากสัญญาณของ Remote access เหมือน Easypass ของทางด่วน ส่วนประตูเล็กจะมีทั้งสองฝั่ง จากประตูมองเข้าไปด้านในจะเห็นบ้านเรียงสองฝั่งซ้าย-ขวาคู้กับถนนหลักของโครงการที่ยังกว้าง 13 เมตรอยู่ แต่ในซอยย่อยๆจะลดลงเหลือ 9 เมตร
ปัจจุบันมีบ้านที่สร้างเสร็จแล้วประมาณ 10 ยูนิต ไล่สร้างตั้งแต่หน้าโครงการเข้าไปเรื่อยๆ หลักพุ่มไม้ที่เห็นด้านหน้าไกลหน่อยจะเป็นส่วนพื้นที่ก่อสร้างของโครงการแล้วค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 8 x 20 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
- ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ใส่เครื่องออกกำลังกายประมาณ 6 เครื่อง
- สวนสาธารณะ n/a ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตรและรั้วโปร่งต่อเพิ่ม 3 เมตร
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- Remote access แบบระยะไกลคล้าย Easy pass ทางด่วน
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ เลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic ทุกหลัง
- ถนนหลักกว้าง 13 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
บ้านเดี่ยวของโครงการมีทั้งหมด 5 แบบ แบบที่เป็นบ้านตัวอย่างคือ Pride เป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ ขนาดที่ดินมาตรฐาน 89.3 ตร.วา บ้าน 3 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 550 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ 1 ลิฟท์ 1 สระว่ายน้ำ โดยผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถและมีพื้นที่สีเขียวรอบบ้านรวมถึงต้นไม้ใหญ่ลงให้ข้างบ้าน จากผังสามารถเข้าถึงในบ้านได้จากหลายทางมากๆทั้งจากหน้าประตูบ้านชั้น 1 จากบันไดหน้าบ้านขึ้นไปเข้าประตูข้างสระว่ายน้ำชั้น 2 หรือจะเดินไปข้างบ้านเพื่อไปเข้าประตูเลื่อนตรง Court กลางบ้าน หรือจะไปเข้าที่ห้องครัวไทยข้างบ้านอีกฝั่งหนึ่ง
จากทางเข้าหลักหน้าบ้านที่ชั้น 1 เปิดเข้ามาจะเจอกับส่วน Foyer หรือส่วนที่วางตู้รองเท้า ก่อนจะมี Step เล่นระดับไปที่ทางเดิน ขวามือคือห้องทานข้าวและห้องครัวที่วางเป็นเคาท์เตอร์รูปตัว L ส่วนทางซ้ายจากทางเดินจะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 และลิฟท์โดยสารที่ติดในในแบบบ้าน Pride เท่านั้น ตรงกลางถ้าเดินเข้าไปจากทางเดินจะมีห้องครัวไทย ห้องน้ำแบบ Powder room อยู่ทางขวา ส่วนสุดทางเป็นห้องนอนชั้นล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องเอนกประสงค์อื่นๆได้ โดยแบบบ้านของโครงการนี้จะเน้นเป็นรูปตัว U ทำให้มี Court กลางบ้านต่อเนื่องไปที่ข้างบ้าน ล้อมด้วยประตูบานเลื่อน ทำให้สามารถเปิดรับลม แสงเข้าสู่ตัวบ้าน และทำให้บ้านไม่ดูทึบ โดยตัว Court ตรงกลางจะสามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้งได้ แต่ในบ้านตัวอย่างจะเป็นพื้นที่โล่งและมี Vertical garden นิดหน่อยและสร้างที่นั่งขนาดใหญ่ไว้ข้างบ้าน
ชั้น 2 จะเลือกใช้การขึ้นบันไดในตัวบ้าน การขึ้นลิฟท์หรือการเดินบันไดมาจากบันไดหน้าบ้านก็ได้ โดยพื้นที่หลักจะเป็นพื้นที่รับแขกขนาดใหญ่ โดยมีประตูเปิดออกไปหน้าบ้านที่ปกติแล้วจะเป็นระเบียงที่ไม่ได้ใช้งานแต่ทางโครงการปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นกว่าปกติและสร้างสระว่ายน้ำเข้าไปที่หน้าบ้านชั้น 2 พร้อมกับมีการลงกระถางต้นไม้เพิ่มความเขียว ส่วนจากห้องรับแขกด้านหลังจะมีบันไดขึ้นไปยังชั้น 3 และมีทางเดินเชื่อมผ่าน Court ตรงกลางบ้านไปยังห้อง Master bedroom ที่อยู่ด้านหลังบ้าน ภายในจะมีพื้นที่วางเตียงนอน โซฟาขนาดใหญ่ กั้นเป็นห้องทำงาน พื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวที่ให้อ่างอาบน้ำมาให้ด้วย
เดินจากบันไดหรือขึ้นลิฟท์มาบนชั้น 3 ก็จะเจอกับพื้นที่เอนกประสงค์ทางขวามือที่ในบ้านตัวอย่างทำเป็นชั้นวางหน้าสือติดกับผนังก่อนจะมีทางเดินเข้าไปยังห้องนอนใหญ่ที่อยู่หลังบ้าน ส่วนด้านหน้าบ้านก็จะมีห้องนอนที่ขนาดเล็กลงมาหน่อย 2 ห้อง โดยห้องนอนทุกห้องของบ้านจะมีห้องน้ำในตัวเรียบร้อย และสามารถใส่ Walk-in closet ได้สบายๆ
ถือว่าการขยับจากบ้านเดี่ยว 2 ชั้นแบบ Luxury class เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น นอกจากจะได้พื้นที่ใช้สอยโดยรวมเยอะขึ้นแล้ว พื้นที่ภายในห้องต่างๆยังมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มห้องนอนที่อยู่หลังบ้าน แต่ถ้าไม่มีผู้ใหญ่อาศัยสามารถปรับเป็นห้องเอนกประสงค์หรือห้องทำงานได้ แล้วก็ดันห้องรับแขกมาอยู่บนชั้น 2 ระเบียงก็เพิ่มสระว่ายน้ำ จำนวนห้องนอนมากที่สุดคือ 5 ห้องและมีห้องน้ำภายในตัวทั้งหมด ซึ่งเป็นข้อดีของความสะดวกในการอยู่อาศัย ที่เพิ่มฟังก์ชั่นอื่นๆเข้ามาอีก
งานดีไซน์ภายนอกของบ้านออกเรียบง่ายใช้สี่เหลี่ยมเป็นองค์ประกอบไปซะหมด จุดสังเกตแรกเลยคือตัวบ้านดูสูงแปลกจากปกติ เพราะเป็นบ้าน 3 ชั้น จุดต่อมาคือระเบียงที่ชั้น 2 จะไม่ใช่ระเบียงกว้าง 1 เมตรเหมือนทั่วไปแต่มีบันไดที่สามารถขึ้นไปที่ระเบียงชั้น 2 ได้ โดยมีสระว่ายน้ำกรุด้วยหินอ่อนรอบสระเป็นจุดเด่นของบ้าน ตกแต่งตกแต่งด้วยสีขาวตัดด้วยสีวัสดุทั้งจากประตู, finishing ลายไม้ และหินอ่อน หน้าต่างและประตูบานเลื่อนทุกบานที่อยู่รอบนอกบ้านลูกฟักเป็นกระจกเขียวตัดแสงสีออกเขียวๆ
เริ่มที่ทางเข้าบ้าน จากหน้าบ้านจะมีด้วยกันสองทางคือจากประตูบานไม้ชั้น 1 เปิดเข้าไปจะเจอกับ foyer ทางเดินก่อนเข้าไปสู่ตัวบ้าน และทางที่สองคือบันไดหินอ่อนจากหน้าบ้านขึ้นไปที่ข้างสระว่ายน้ำชั้น 2
ทางขวาของประตูบ้านชั้นล่างจะเป็นพื้นที่จอดรถในร่มที่สามารถจอดภายในพื้นที่ได้ 3 คัน ตามเสาจะมีกล่องปลั๊กไฟกันน้ำเผื่อเหลือเผื่อขาด ด้านหลังติดกับผนังจะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนจากห้องทานข้าว
โดยระดับของตัวบ้านจะยกขึ้นสูงกว่าระดับของพื้นถนนหลักโครงการด้านหน้า แล้วเทพื้นความต่างของระดับให้เป็นทางลาดต่อกัน
ทางขวาของประตูบ้านจะเป็นจุดทิ้งขยะและมิเตอร์น้ำ
พื้นที่ข้างบ้านทางด้านขวาจะปูด้วยพื้นหญ้าและมีพุ่มไม้ริมรั้ว รวมถึงลงต้นไม้ใหญ่ให้บางส่วน ส่วนพื้นที่ที่ต่อกับ Court ตรงกลางบ้านสร้างเป็นที่นั่งรับลมได้ หรือสามารถเอาโต๊ะมาวางแล้วปารตี้กับครอบครัวและเพื่อนได้
โดยที่นั่งรูปตัว U นี้เป็นการก่อปูนขึ้นมาแล้วเอากระเบื้องปิดให้เรียบร้อย พร้อมมีที่กันแดดกันฝนด้านบน ซึ่งส่วนนี้บ้านตัวอย่างทำออกมาให้ดูเป็นไอเดียนะคะ บ้านจริงที่ขายจะไม่มีตรงจุดนี้
นั่งบนตรงกลางเก้าอี้แล้วหันหน้าเข้าหา Court ตรงกลางบ้านก็จะเจอกับประตูบานเลื่อนทั้ง 3 ฝั่งที่ชั้น 1 โดยฝั่งซ้ายคือห้องทานข้าว ตรงกลางคือทางเดินไปยังห้องน้ำชั้นล่างและห้องครัวไทย ส่วนขวามือคือห้องนอนด้านล่างที่อยู่หลังบ้าน สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องเอนกประสงค์ได้ โดยพื้นที่ตรงกลางนี้สามารถจัดเป็นสวน วางเก้าอี้ ขุดบ่อปลาหรือเททรายให้ลูกเล่นก้ได้นะคะ
พื้นที่มุมด้านในของข้างบ้านก็ยังเหลือพื้นที่ว่างปลูกต้นไม้ใหญ่ได้และสามารถเดินอ้อมหลังบ้านไปยังข้างบ้านอีกฝั่งหนึ่งได้แต่ทางจะแคบหน่อย
กลับมาที่หน้าบ้านนะคะ เราจะเดินไปอีกฝั่งของข้างบ้านกันค่ะ
ข้างบ้านฝั่งซ้ายมือก็จะมีการปลูกหญ้า ลงต้นไม้ใหญ่ และมีพุ่มไม้ที่ตามแนวรั้วโดยรอบ โดยฝั่งนี้ของตัวบ้านจะเป็นส่วนห้องครัวไทย พื้นที่เก็บของ พื้นที่ซักล้างที่จะมีพื้นปูด้วยกระเบื้องให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และห้องแม่บ้านที่แยกออกจากพื้นที่ภายในบ้าน
ช่องเปิดข้างบ้านฝั่งขวา ทั้งในส่วนของบานประตูเข้าบ้านส่วนครัวไทย ตู้เก็บของที่หันหลังให้กับลิฟท์ภายในบ้าน ทางเข้าห้องแม่บ้านจะมีประตูเปิดเข้าเป็นพื้นที่ใต้บันได ส่วนหน้าต่างบานเลื่อนทางซ้ายมือสุดคือช่องแสงจากห้องนอนชั้นล่าง
พื้นที่มุมด้านหลังบ้านก็จะที่วางปั้มน้ำและแท๊งค์น้ำ
พื้นที่ด้านหลังบ้านก็จะมีการเทหินหยาบ การวางพุ่มไม้ และ Compressor แอร์ ซึ่งสามารถเดินอ้อมไปยังข้างบ้านอีกฝั่งได้
จบจากพื้นที่รอบบ้านกันไปแล้ว เราจะเร่ิมเข้าไปข้างในบ้านกันบ้างนะคะ โดยเราจะเข้าทางที่ปกติที่สุดคือประตูไม้หน้าบ้านชั้นล่าง ที่ติด Digital doorlock ไว้กับตัวบาน
Digital doorlock จาก Samsung เป็นแบบมาพร้อมกับมือจับ โดยสามารถกดได้ทั้ง code หรือแตะบัตร โดยถ้ากดผิดเกิน 5 ครั้งก็จะมีการระงับการเปิดไว้ซักพักนึง
ดึงประตูไม้ออกมาก็จะเจอกับ foyer เป็นทางเดินก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน พื้นจะปูเป็นกระเบื้องลายไม้ มีการ Built-in ชั้นวางรองเท้าแบบเต็มความสู่พร้อมกับม้านั่งใส่รองเท้าข้างๆกันด้วย
พื้นที่ใส่รองเท้าจะอยู่ข้างๆกับประตู โดยมีช่องแสงด้านหลัง ที่เสาจะมีสวิสซ์เปิด-ปิดติดผนังอยู่
งานระบบเยอะค่ะโครงการนี้ ก็จะมีทั้งแอร์และไฟจุดต่างๆ บางจุดก็สามารถ dim ไฟให้ค่อยๆสว่างน้อยลงได้
ถัดจากม้านั่งก็จะเป็นตู้ใส่รองเท้าและชั้นวางของด้านบน สามารถวางกุญแจรถ กุญแจฉุกเฉินต่างๆได้ที่ทางเข้า-ออกจัดเป็นสัดส่วน
หันหลังเข้ามาภายในตัวบ้านกันบ้าง รูปภาพด้านบนจะเป็น Island ของส่วนเคาท์เตอร์ครัวที่สามารถวางเก้าอี้สตูลทานข้าวเช้าแบบง่ายๆได้ ถัดจาก Island ครัวเข้าไปด้านในก็จะเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานข้าว พร้อมกับเคาท์เตอร์ครัวรูปตัว L ทางขวามือ ตรงกลางจะเป็นทางเดินเข้าไปยังห้องครัวไทย ห้องน้ำชั้นล่างและห้องนอนชั้นล่าง ส่วนทางขวาจะเป็นบันไดภายในบ้านขึ้นชั้น 2 และลิฟท์ที่อยู่ข้างกัน
โต๊ะทานข้าววางอยู่ตรงกลางห้องทานข้าว จัดมาให้ดูแบบกลมพร้อมเก้าอี้ 8 ตัว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบ้านคนจีนที่ชอบทานบนโต๊ะหมุนๆจะได้ทั่วถึง เพราะพื้นที่ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องวางโต๊ะสี่เหลี่ยมเพียงอย่างเดียว รอบๆตัวห้องเป็นเคาท์เตอร์ครัวรูปตัว L
โดยภายในครัวก็จะมีทั้งอ่างล้างจาน พื้นที่เตรียมอาหาร พื้นที่เก็บของวางของใช้ภายในครัวได้อย่างกว้างขวาง
ขยับมาหน่อยก็จะเป็น Hob and hood แบบ 4 หัว พื้นที่ข้างๆสามารถวางเครื่องปรุงได้สบายๆไม่เบียด
ด้านล่างเคาท์เตอร์มีทั้งแบบประตูบานเปิดด้านในแบ่งเป็นชั้นเก็บของ และแบบลิ้นชักที่แบ่งพื้นที่การใช้งานไว้ให้แล้ว
โดยที่เสาภายในห้องทานข้าวก็จะมีลำโพงติดอยู่ด้านบน โดยจะเป็น Sound system ที่เพิ่มเข้ามาในทุกๆโครงการของ Beyond โดยเป็นลำโพงจาก Bose และงานระบบจาก Sonos โดยจะสามารถปรับการเปิดเพลงภายในบ้านได้ทั้งหมด 5 จุด เช่นริมสระว่ายน้ำชั้น 2 ห้องทานข้าว ห้องรับแขก เป็นต้น โดยแต่ละจุดสามารถแยกเปิดเพลงได้หรือจะเปิดเพลงเดียวกันทั้งบ้านเลยก็ได้ ถือว่าเป็นของเล่นที่ทางโครงการเพิ่มเข้ามาให้
ข้างๆกับโต๊ะทานข้าวก็จะมีประตูบานเลื่อนแบบ 2 บานซ้าย-ขวา โดยบานทางขวาสุดจะเป็นบาน Fixed เปิดออกไปเจอ Court ตรงกลางบ้านที่ในบ้านตัวอย่างจะเป็นการปูพื้นกระเบื้องและปลูกต้นไม้แบบ vertical garden บนผนัง
ล็อกของประตูบานเลื่อนจะเป็นแบบเกี่ยวระหว่างบาน โดยวัสดุคือเป็นกรอบอลูมิเนียมสีชา ลูกฟักคือกระจกตัดแสงสีออกเขียวๆ
ด้านบนจะมีการเว้นร่องเผื่อม่านแบบคู่ไว้ให้นะคะ แต่ตัวม่านและรางจะไม่ได้อยู่ในรายการการขาย
ระดับพื้นของพื้นที่ Court ตรงกลางจะลดระดับลงมาจากพื้นที่ภายในตัวบ้านนิดหน่อยนะคะ กรอบประตูเป็นแบบฝั่งเข้าไปด้านล่าง ทำให้เวลาเดินจะเรียบ ไม่มีสะดุด
มองไปทางข้างบ้านด้านขวาก็จะเห็นม้านั่งรูปตัว U ส่วนเงยขึ้นไปด้านบนก็จะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างห้องรับแขกชั้น 2 และห้องนอน Master bedroom ด้านหลังบ้าน ที่ใต้สะพานจะแอบเห็นว่ามีลำโพง Bose ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Sound system จาก Sonos อีกหนึ่งจุดนะคะ
เงยหน้าขึ้นไปจนสุดก็จะเห็นว่าพื้นที่ Court ตรงกลางนี้ไม่ได้กันแดดกันฝน ก็ดีคือแสงธรรมชาติและลมจะเข้าในตัวบ้านได้ดีมากกว่า แต่ข้อเสียคือเมื่อฝนตกหนักๆพื้นที่ตรง Court อาจจะมีน้ำเอ่อๆขึ้นมาหน่อย
จากพื้นที่ห้องทานข้าวหันไปอีกฝั่งก็จะเห็นบันไดทางขึ้นชั้น 2 และลิฟท์ โดยเฉพาะแบบบ้าน Pride หลังใหญ่สุดเท่านั้นที่จะมีลิฟท์ให้นะคะ ส่วนบันไดค่อนข้างเล่น Step พอสมควรทำให้อาจจะเดินยากหน่อย
ภายในลิฟท์ก็จะเป็นพื้นลายไม้ การกดลิฟท์คือกดปุ่มด้านหน้า 2 ที ทีแรกคือการเรียก ส่วนกดครั้งที่สองคือการบอกให้เปิดลิฟท์ออกมา
ด้านในก็จะมีปุ่มกดชั้น ปุ่มเปิด และกริ่งพร้อมด้วยโทรศัพย์เผื่อฉุกเฉิน
ออกมาจากลิฟท์ ทางขวามือก็จะมีทางเดินยาวๆเข้าไปส่วนด้านหลังบ้าน
โดยทางเดินก็จะปูด้วยกระเบื้องขนาด 60×60 เซนติเมตร จะมีห้องทางซ้ายมือ 2 ห้องคือห้องครัวไทย และห้องน้ำแบบ Powder room ส่วนด้านหน้าจะเป็นประตูเข้าไปยังห้องนอนชั้นล่างที่อยู่หลังบ้าน ทางขวามือเป็นประตูบานเลื่อนเปิดออกไปเจอ Court ตรงกลาง
ทางเข้าครัวไทยจะเป็นประตูบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียม ลูกฟักเป็นกระจกธรรมดา เลื่อนเปิดได้ทั้งสองฝั่ง ภายในก็จะมีเคาท์เตอร์ครัวอยู่ฝั่งขวาฝั่งเดียว ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นที่วางตู้เย็น โดยห้องครัวไทยจะเหมาะสำหรับการทำอาหารที่มีกลิ่นแรง หรือส่วนผสมอย่างกระเทียม กะเพรา พริกแห้งที่ต้องกันกลิ่นออกจากพื้นที่ส่วนใหญ่ภายในบ้านและต้องรีบระบายออกไปให้เร็วที่สุด
มีช่องแสงขนาดความสูงพอดีเคาท์เตอร์เป็นแบบบาน Fixed และมีประตูออกไปด้านข้างบ้านเป็นแบบคันโยก ล็อกด้วยกุญแจ
ต่อมาเป็นห้องน้ำที่อยู่ข้างๆห้องครัว โดยจะเป็นห้องน้ำแขกแบบ Powder room คือมีแค่ส่วนที่เป็นอ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์ โดยพื้นและผนังของห้องน้ำห้องนี้และห้องน้ำภายในห้องนอน Master bedroom บนชั้น 2 จะเป็นแบบ upgrade ขึ้นมาหน่อยคือปูด้วยหินอ่อนทั้งหมด
อ่างล้างมือทรงสี่เหลี่ยมที่ด้านล่างจะมีตู้เก็บเครื่องใช้ภายในห้องน้ำด้วยจาก Kohler
โถสุขภัณฑ์แบบชิ้นเดียวจาก Kohler เช่นกัน ส่วนอุปกรณ์ภายในห้องน้ำอย่างสายฉีดชำระหรือที่ใส่ทิชชูจาก Cotto หรือ grohe
โดยภายในห้องน้ำก็จะไม่ลืมที่จะมีปูนก่อยื่นออกมาเพื่อวางของตกแต่งหรือหนังสือ ด้านบนจะเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเล็กสำหรับการระบายอากาศ
ต่อมาเป็นห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ด้านหลังบ้านกันค่ะ พื้นห้องนอนจะปูเรียบไปกับห้องอื่นๆภายในชั้น 1 คือปูด้วยกระเบื้องขนาด 60 x 60 เซนติเมตร
ห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่มาก โดยบ้านตัวอย่างจะจัดมาให้วางเตียงอยู่ตรงกลาง หันหน้าเข้าหาทีวี ฝั่งด้านในจะเป็นโต๊ะทำงานและม้านั่งตัวยาว ส่วนด้านในจะมีมุมครัวเล็กๆที่มีอ่างล้างจาน มีที่วางเครื่องทำกาแฟ และใต้เคาท์เตอร์สามารถใส่ตู้เย็นขนาดเล็กได้ด้วย เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ของบ้าน ส่วนข้างๆประตูบานเลื่อนออกไปข้างบ้านก็จะเป็นชุดเก้าอี้จิบกาแฟ
โดยมุมด้านในข้างเตียงจัดเป็นชุดเก้าอี้ที่สามารถวางโซฟาได้จริงๆบวกกับเก้าอี้รวมเป็น 4 ที่นั่งได้ ข้างๆเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังข้างบ้านได้ ทำให้มีแสงจากธรรมชาติเข้ามาภายในห้องได้ดี
จากพื้นที่ชุดเก้าอี้ภายในห้องนอนมองไปยังอีกฝั่ง ใต้แอร์ก็จะมีม้านั่งตัวยาวแบบไม่มีพนัก ถ้าเป็นผู้ใหญ่ที่มีพยาบาลประจำตัวก็จะกลายเป็นที่นอนของพยาบาลไป ข้างๆกันมีพื้นที่ที่สามารถจัดเป็น Walk-in closet ได้ทางขวามือ ตรงกลางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งและทางขวามือเป็นทางเข้าห้องน้ำในตัว
ตู้เสื้อผ้าภายในบ้านตัวอย่างจัดมาแบบ Built-in ที่เป็นบานดึงออก สามารถปรับเป็นแบบบานเลื่อนได้ หรือจะเป็นบานกระจกเพื่อส่องได้เต็มตัว ตรงกลางเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ด้านหลังกระจำเป็นช่องเปิด ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามา แต่งหน้าได้ง่ายขึ้น ส่วนทางขวาเป็นห้องน้ำในตัวของห้องนอน
ห้องน้ำนี้ก็ขนาดใหญ่มากๆเช่นกัน ภายในห้องน้ำประกอบด้วยโถสุขภัณฑ์แบบ 2 ชิ้นทางซ้ายมือ ขวามือคือเคาท์เตอร์ และมีอ่างล้างหน้าแบบฝั่งลงไปในเคาท์เตอร์ พร้อมกระจกบานใหญ่มาก ด้านหลังจะเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบยืน
โถสุขภัณฑ์จะเปลี่ยนจากชิ้นเดียวอย่างภายในห้องน้ำ Powder room เป็นแบบสองชิ้น พื้นก็จะปูด้วยกระเบื้องชิ้นเล็กๆเป็นแบบ Mosaic และผนังปูด้วยกระเบื้องลายไม้แผ่น 60 x 60 เซนติเมตร
อ่างล้างหน้าเป็นแบบฝังเข้าไปในเคาท์เตอร์ ชิ้นเดียว ซึ่งน่าจะเพียงพอถ้ามีผู้ใหญ่อาศัยภายในห้องคนเดียว แต่ถ้ามีสองคนก็สามารถเพิ่มเป็นแบบ His and hers ได้
พื้นที่อาบน้ำแบบยืนกั้นด้วย Tempered glass โดยเป็นประตูแบบผลักเข้า ซึ่งพื้นจะลดระดับลงไป ขนาดของพื้นที่อาบน้ำค่อยข้างเล็กเมื่อเทียบกับพื้นที่ห้องน้ำโดยรวม สามารถขยายได้อีกเยอะ
ฝักบัวอาบน้ำจะเป็นแบบมือจับจาก Grohe หรือเทียบเท่า มีการก่อปูนขึ้นมาเป็นที่นั่งให้ผู้ใหญ่นั่งอาบน้ำได้สบายๆ มีช่องแสงด้านบนเป็นหน้าต่างบานเลื่อน
จากพื้นที่ชั้น 1 เราจะเดินบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 กันนะคะ โดยลูกนอนของบันไดจะปูด้วยไม้ผิวปาเก้ เดินวนขึ้นไปเป็นรูปตัว U
เดินขึ้นมาตามทางตรงชานพักก็จะมีช่องแสงแบบบาน Fixed จากหน้าบ้าน สามารถห้อยโคมไฟจากโถงบันไดนี้ได้ หรือบางบ้านชอบ Chandelier แบบหลุยส์ๆก็ประโคมเข้าไปค่ะ
หันหน้ามาให้ดูฝั่งทางขึ้นบันไดและลิฟท์ก็จะยังอยู่ข้างกัน ทางขวาจัดเป็น Built-in ชั้นวางหนังสือที่สามารถทำให้ชั้นห่างกันกว่านี้ทำเป็นตู้โชว์ก็ได้
หันมาทางพื้นที่ด้านในอีกฝั่งจะเป็นห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่วางโซฟาตัว L แล้วก็ยังไม่เต็มพื้นที่ หันหน้าเข้าหาทีวีและชั้นวางของรวมถึงช่องแสงจากหน้าบ้าน
หันมาทางขวาหน่อยก็จะเจอกับบานประตูเพื่อออกไปยังระเบียงของชั้น 2 ที่จะมีสระว่ายน้ำและทางขึ้นได้จากชั้น 1 หน้าบ้าน
ประตูจะเป็นแบบคันโยกโดยจะต้องมีการเปิดล็อก 2 จุดก่อนจะเปิดออกไปได้ โดยทุกๆจุดของประตูและหน้าต่างจะมีแผ่น Magnetic ที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบกันขโมยติดมาให้ สังเกตว่าถ้ามีการเปิดประตูหรือหน้าต่างจะต้องมีเสียงร้องออกมาจากงานระบบ
เปิดประตูออกมาด้านนอกของพื้นที่ชั้น 2 หันไปทางซ้ายมือก็จะเป็นบันไดขึ้นไปยังพื้นที่ข้างสระว่ายน้ำ และมีสระว่ายน้ำ รวมถึงบันไดลงสระอยู่ด้านหน้า
การขึ้นไปยังพื้นที่ระเบียงชั้น 2 ที่มีสระว่ายน้ำสามารถเดินได้จากบันไดหน้าบ้านตรงนี้ที่ปูด้วยหินอ่อนทั้งหมด
เดินบันไดขึ้นมาหันมาทางขวาก็จะเจอกับสระว่ายน้ำขนาดประมาณ 3 x 4 เมตร โดยจะปูพื้นรวมถึงกรุผิวรอบๆทั้งหมดด้วยหินอ่อน ยกเว้นที่พื้นที่ข้างสระที่ยกระดับขึ้นไปจะปูด้วยไม้เทียมเพื่อความคงทนในการโดนน้ำที่ดีกว่า
บันไดทางขึ้นปูด้วยกระเบื้อง ข้างสระปูด้วยไม้เทียม และรอบตัวสระปูด้วยหินอ่อน ในสระเหมือนปกติเป็นกระเบื้องขนาดเล็กๆต่อๆกัน
เงยหน้าขึ้นไปด้านบนของพื้นที่ข้างสระจะเห็นว่าจะมีลำโพงที่เป็นส่วนหนึ่งของ Sound system ติดอยู่ และระบบป้องกันการขโมยเป็นกล่องสีขาวๆและสัญญาณ
จากพื้นที่ข้างสระมองเข้าไปภายในหมู่บ้าน คือบรรยากาศโดยรวมก็ดูดี แต่ก็อาจจะแอบเขินนิดหน่อยที่มาแช่น้ำกันหน้าบ้าน เพราะจากมุมนี้ก็สามารถมองเห็นได้จากชั้น 2-3 ของบ้านเพื่อนบ้านเช่นกัน
หันหน้าไปยังพื้นที่หน้าโครงการ
กลับเข้ามาที่ห้องรับแขกกันต่อ อย่างที่บอกไปว่าสามารถวางโซฟาตัวยาวมากได้ สามารถจัดแบ่งพื้นที่เป็นโต๊ะพูลด้วยฝั่งหนึ่งสำหรับเพื่อนๆแวะมาเล่นด้วยก้ได้หรือจะเป็นกิจกรรมอื่นๆ
ถ้าเรานั่งบนโซฟา มองขึ้นมาเหนือทีวีก็จะมีหน้าต่างบานเลื่อน ถ้าเปิดม่านออกก็จะได้วิวสระว่ายน้ำจากภายในห้องรับแขก
ปุ่มเปิด-ปิดไฟ แอร์ ม่านแบบอัตโนมัติก็จะซับซ้อนหน่อย
เดินเข้ามาจนสุดห้องรับแขกก็จะมีบันไดขึ้นไปยังชานพัก ถ้าเราเดินตรงไปข้ามสะพานก็จะเป็นส่วนของห้องนอน Master bedroom หลังบ้าน หรือถ้าเราเลี้ยวซ้ายเดินขึ้นบันไดก็จะเป็นพื้นที่ชั้น 3 หรือเราจะขึ้นลิฟท์ก็ได้ค่ะ สบายๆ
วิวจากสะพานเชื่อมระหว่างห้องรับแขกและห้องนอน Master bedroom ก็จะเห็น Court ตรงกลางได้พอดี ถ้าลูกๆเล่นกันอยู่ก็สามารถสอดส่องได้
พื้นของตัวสะพานจะปิดด้วยไม้เทียม และลดระดับลงจากพื้นของห้องนอนหน่อย ภายในห้องนอนจะปูด้วยไม้ปาร์เก้พร้อมบัวลายไม้
ภายในห้องนอน Master bedroom ก็จะมีขนาดใหญ่พอๆกับห้องนอนชั้นล่างเช่นกัน โดยภายในห้องนี้จะมีเตียงอยู่ตรงกลางห้อง พื้นที่ด้านหน้าจะจัดเป็นโซฟานอนดูทีวีได้ยาวๆ
พื้นที่ด้านหน้าเตียงจัดเป็นพื้นที่ดูหนังได้สบายๆ สามารถใส่โซฟาตัว L ได้แล้วดันไปชิดผนังอีกฝั่งหนึ่ง
พื้นที่ข้างเตียงก็จะเป็นพื้นที่ทางเดินเข้าไปยังห้องทำงานทางซ้ายมือ หรือพื้นที่ Walk-in closet ทางขวามือ ด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำในตัวของห้องนอน
พื้นที่ทำงานภายในห้องนอน สามารถจัดเป็นโต๊ะทำงาน หรือพื้นที่ทำงานอดิเรกได้สบายๆ หรือจะทำเหมือนห้องนอนชั้นล่างทีมีเคาท์เตอร์ครัวเล็กๆเผื่อหิวตอนกลางคืน
ตรงข้ามกับพื้นที่ทำงาน ด้านหลังของเตียงก็จะกั้นเป็น Walk-in closet ขนาดใหญ่มาก เพียงพอสำหรับทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงโดนที่ไม่ต้องแย่งกัน
ในสุดจะเป็นทางเข้าห้องน้ำภายในตัว กั้นพื้นที่ด้วยประตูบานเลื่อนแบบใส ทำให้แอบจะเป็นเหมือนห้องน้ำแบบ Sexy bath ของคอนโด
ภายในห้องน้ำแบ่งออกเป็น 4 ส่วนคืออ่างล้างหน้า 2 อ่างแบบ His and hers เธอใช้อัน เราใช้อีกอัน ด้านในตรงกลางกั้นผนังเข้ามาเพื่อความเป็นส่วนตัว ห้องซ้ายคือห้องอาบน้ำแบบยืน มีก่อปูนออกมาเป็นม้านั่ง ส่วนห้องทางขวาเป็นโถสุขภัณฑ์ ทั้งคู่มีประตูปิดทั้งคู่ ส่วนขวามือที่กินพื้นที่สุดคืออ่างอาบน้ำ
ห้องน้ำนี้จะเป็นสเปกเดียวกับห้อง Powder room ชั้น 1 คือพื้นและผนังปูด้วยหินอ่อนทั้งหมด ก๊อกน้ำจะสวยงาม อ่างล้างมือฝังลงไปในเคาท์เตอร์ กระจกบานใหญ่เต็มผนัง
อ่างอาบน้ำจาก kohler แบบทรงกลมจริงๆ
มีช่องแสงภายในห้องน้ำเป็นแบบบาน Fixed ส่วนด้านบนเป็นแบบบานกระทุ้ง ต้องหามูลี่มาติดหน่อยนะคะ
ข้างๆอ่างอาบน้ำจะมีฝักบัวมาให้
พื้นที่อาบน้ำแบบยืนก็จะมีทั้งฝักบัวอาบน้ำและ Rain shower ข้างๆมีการก่อปูนออกมาเป็นที่นั่ง
ฝักบัวอาบน้ำจาก grohe หรือเทียบเท่า
ส่วนห้องข้างๆจะวางเป็นสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวจาก Kohler มีสายฉีดชำระและที่ใส่ม้วนทิชชู
จากห้องรับแขกที่อยู่ส่วนด้านหน้า เราจะเดินบันไดทางซ้ายมือไปยังชั้น 3 กันนะคะ
ลูกนอนของบันไดเป็นไม้ผิวปาเก้ บันไดจะเป็นทางยาวขึ้นไปเรื่อย จะมีชานพักนิดหน่อยระหว่างทาง ส่วนที่เห็นอยู่บนชั้น 3 คือลิฟท์ที่ขึ้นได้จากทั้งชั้น 1-2
ยืนบนชานพักบันได ก็จะมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนยาวๆอยู่อีกจุดหนึ่งเพื่อให้แสงสามารถเข้าถึงตัวบ้านได้ทุกจุด
ขึ้นบนชั้น 3 มองไปทางขวามือจะเจอกับพื้นที่เอนกประสงค์ที่ภายในบ้านตัวอย่างจัดเป็นชั้นวางของ เดินตรงไปอีกหน่อยจะเจอกับทางเข้าห้องนอนใหญ่บนชั้น 3 ที่หลังบ้าน ส่วนถ้าเดินไปทางซ้ายหน้าบ้านจะเจอกับห้องนอนเล็ก 2 ห้อง โดยทุกๆห้องนอนจะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด
ภายในห้องนอนใหญ่ก็จะจัดพื้นที่เป็นเตียงนอนแบบญี่ปุ่นที่วางอยู่บนแผ่นไม้ยาวๆ ซึ่งทำเก๋ขึ้นไปอีกคือต่อกับโซฟารูปตัว L หันหน้าออกไปยังระเบียงข้างบ้าน โดยห้องนี้จะสูงกว่าห้องอื่นๆเนื่องจากมี Slope ของหลังคาเข้าไปด้วยทำให้ความสูงอยู่ที่ 2.6 เมตร ++
ความยาวระเบียงก็เท่ากับความกว้างของห้องนอน ปูด้วยกระเบื้องลายไม้ มีจุดน้ำทิ้งสำหรับน้ำฝนหรือการซักล้างเล็กน้อยๆ
จากพื้นที่ระเบียงหันหน้าเข้าหาห้องนอนใหญ่ ด้านหลังเตียงก็จะมีมุมโต๊ะทำงาน Walk-in closet และห้องน้ำในตัว
มุมทำงานหรือทำการบ้านสำหรับลูกๆ โดยการแบ่งความยาวของห้องจัดเป็นพื้นที่อื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นตู้โชว์ วางของเล่นก็ว่าไป
ด้านหลังของห้องนอนจะมีตู้เสื้อผ้า ตรงกลางเป็นชั้นวางของที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ มีหน้าต่างบานเลื่อนรับแสงจากภายนอก และทางเข้าห้องน้ำทางขวามือ
ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วนคือโถสุขภัณฑ์ทางขวามือ ตรงกลางคืออ่างล้างหน้าแบบมีตู้ด้านล่างไว้เก็บของใช้ในห้องน้ำ และทางซ้ายมือคือพื้นที่อาบน้ำแบบยืน โดยพื้นห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องลายไม้และกรุผนังด้วยกระเบื้องสีขาว
พื้นที่อาบน้ำแบบยืนกั้นด้วย Tempered glass เป็นแบบประตูดึงออก ด้านในลดระดับพื้นลงจากพื้นที่แห้งนิดหน่อยตามปกติ
กลับมาอีกฝั่งหนึ่ง ถ้าเราขึ้นบันไดมาแล้วหันมาทางซ้ายจะเจอกับทางเข้าห้องนอนเล็กฝั่งหน้าบ้าน 2 ห้อง พื้นปูด้วยไม้ปาร์เก้ยาวเข้าไป
เรามาเริ่มที่ห้องนอนเล็กทางขวามือกันก่อนนะคะ ภายในตกแต่งแบบแมนๆลูกผู้ชายแน่ๆ วางเตียงชิดผนังทางซ้ายมือ เหลือพื้นที่ข้างเตียงทั้งสองฝั่งวางโต๊ะข้างเตียง ด้านใน Built-in เป็นม้านั่งตัวยาว
จากมุมม้านั่งตัวยาวก็จะเห็นว่าปลายเตียงสามารถทำเป็นชั้นวางของได้ สามารถนำทีวีมาตั้งโต๊ะได้ แล้วก็จะมีพื้นที่ด้านหลังที่จะเป็นทางเดินเข้าห้องน้ำ ตลอดทางก็สามารถ Built เป็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้อีก คือห้องนอนเล็กก็ไม่ได้เล็กเลยนะคะ
เดินมาอยู่ด้านหลังของชั้นวางของ ฝั่งซ้ายมือคือตู้เสื้อผ้า ด้านหน้าจัดเป็นโต๊ะทำงานตัวใหญ่เรียบๆ หันหน้าเข้าหาหน้าต่างบานเลื่อนเพื่อรับแสงธรรมชาติ
หันหลังกลับมาก็จะเป็นทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอน
ห้องน้ำแบ่งเป็น 3 ส่วนเหมือนปกตินะคะ ทางขวามือเป็นอ่างล้างหน้า ลึกเข้าไปเป็นโถสุขภัณฑ์และทางซ้ายมือเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบยืน
พื้นที่อาบน้ำแบบยืน
ต่อมาเป็นห้องนอนทางซ้าย ลูกชายอีกคนค่ะ ภายในห้องทางขวามือสามารถวางเตียงไซส์ King ได้ แล้วก็ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือๆทั้งสองฝั่ง ตรงข้ามเตียงเป็นชั้นวางของ สามารถวางทีวี หนังสือ เกม อะไรก้ได้ และมีโต๊ะทำงานตัวใหญ่อยู่ข้างๆ ทางซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องน้ำภายในห้องนอน
ช่องแสงของห้องนอนนี้จะใหญ่นิดนึงคือเป็นบานหน้าต่างแบบเลื่อน ด้านล่าง ข้าง และบนเป็นแบบบาน Fixed
จากปลายเตียงมองไปทางประตูทางเข้าห้องนอน สามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน โต๊ะเครื่องแป้งได้ก่อนจะถึงทางเข้าห้องน้ำ
ห้องน้ำแบ่งการใช้งานออกเป็น 3 ส่วนตามปกติ คืออ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์และพื้นที่อาบน้ำด้านใน
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 18 May 2016
- แบบบ้าน Keen ขนาดที่ดิน 50.7 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 311 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาทหรือ 355,000 บาท/ตร.วา
- แบบบ้าน Niche ขนาดที่ดิน 52.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 317 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 19 ล้านบาทหรือ 361,900 บาท/ตร.วา
- แบบบ้าน Live ขนาดที่ดิน 61.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 357 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 22 ล้านบาทหรือ 358,900 บาท/ตร.วา
- แบบบ้าน Most ขนาดที่ดิน 71.2 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 418 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 26 ล้านบาทหรือ 365,160 บาท/ตร.วา
- แบบบ้าน Pride ขนาดที่ดิน 89.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 550 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 35 ล้านบาทหรือ 391,900 บาท/ตร.วา
- จอง 50,000 บาท
- ทำสัญญา 550,000 บาท
- ดาวน์ 20% ผ่อนดาวน์ 11 งวด
- ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.วา จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่ากองทุนส่วนกลางเก็บครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ 30,000 บาท
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าอากรแสตมป์และค่าพยานในส่วนของผู้จะซื้อ
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
Beyond พระราม2 ตั้งอยู่บนถนนพระราม 2 ฝั่งมุ่งหน้าไปทางสมุทรสาคร หรือเส้นที่จะต้องผ่านเวลาไปชะอำ-หัวหินเป็นฝั่งที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเทพ ในปัจจุบันจะมีการพัฒนาเป็นโครงการบ้านแนวราบจำนวนมาก ตั้งแต่ townhouse บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว โดยโครงการที่ติดถนนพระราม 2 ส่วนมากจะเป็นโครงการที่มูลค่าโครงการสูง โดยราคาและผลิตภัณฑ์ก็จะลดหลั่นกันลงไปตามถนนหลัก ถนนรอง และย่อยๆ ซอยท่าข้าม ซอยอนามัยเจริญงาม หรือถนนประชาอุทิศถึงจะเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยเดิม บนถนนพระราม 2 จะมีทั้ง Tesco lotus, BigC, Central รวมถึง The bright นอกจากนั้นก็จะมีตลาดที่อยู่ตามอาคารพาณิชย์บนถนนใหญ่ มีโรงพยาบาลทั้งรพ.นครธร, รพ.พระราม 2, รพ.บางปะกอก 9 รวมถึงโรงเรียนอย่างสวนกุหลายและสถาบันพระจอมเกล้าธนบุรีอยู่ตรงถนนประชาอุทิศ
การเดินทางโดยใช้รถ โครงการอยู่บนถนนพระราม 2 ระหว่าง Tesco lotus พระราม 2 และจุดตัดแยกซ้ายไปทางถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล ซึ่งสามารถเข้าได้จากเส้นพระราม 2 โดยตรง, เส้นบางขุนเทียน-ชายทะเลหรือเส้นเลียบวงแหวนกาญจนาตอนใต้แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าพระราม 2 หรือจากเส้นเอกชัยข้ามสะพานข้ามพระราม 2 มาลงบนเส้นบางขุนเทียน-ชายทะเล ส่วนการขึ้น-ลงทางด่วนจะมีทั้งจากสะพานพระราม9 ลงทางลงสมุทรสาครจะมาลงบนถนนพระราม2 วิ่งตรงมาเลย หรือจะลงที่ Major hollywood เข้าเส้นเลียบวงแหวนกาญจนาฝั่งใต้ หรืออีกจุดถ้ามาจากวงแหวนกาญจนาคือมาลงที่จุดตัดกับพระราม 2 ที่เลยโครงการมาแล้วหน่อยนึงทำให้ต้องไปกลับรถวนมาอีกที โดยทางเข้าโครงการค่อนข้างหาง่ายและอยู่บนถนนใหญ่
การเดินทางโดยไม่ใช้รถถ้าจะตามสมัยในเรื่องของ BTS และ MRT เห็นจะยังไม่มาในเร็วๆนี้ แต่การอยู่บนถนนใหญ่ทำให้มีตัวเลือกอื่นๆในการเดินทางเพิ่มขึ้นมาหน่อยไม่ว่าจะเป็นการเรียกแท๊กซี่บนถนนคู่ขนานพระราม 2 ที่ทำได้ง่ายมาก หรือการจะเรียกพี่วิน รถตู้ รถสองแถวก็ทำได้ไม่ยาก โดยถ้าจะไปขึ้น BTS ที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีตลาดพลู และวงเวียนใหญ่ ที่ต้องต่อรถอีกทีเข้าถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินตรงมาเข้าถนนสุขสวัสดิ์
การออกแบบโครงการถือว่าเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่ 137 ยูนิต มีทั้งหมด 5 แบบ เร่ิมต้นที่ 50 ตารางวา โดยเริ่มสร้างตั้งแต่หน้าโครงการเข้าไปด้านในเรื่อยๆตาม Masterplan โดยสร้างเสร็จไปในช่วงโครงการประมาณ 10 ยูนิต, Clubhouse สูง 2 ชั้นและ facility หน้าโครงการ โดยปกติแล้วตามนโยบายของ Nirvana จะมีการโอนกรรมสิทธิ์ส่วนของที่ดินก่อนแล้วสร้างบ้านปรับตามแบบที่ลูกบ้านเลือก แต่เมื่อมีการเข้าถือหุ้นของ Singha estate จะมีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยคือจะมีการสร้างบ้านเสร็จก่อนแล้วขายส่วนหนึ่งเป็น Backlog ซึ่งสามารถเข้าอยู่ได้เลยเหมือนกับโครงการทั่วไป แต่ถ้าจะต้องการปรับเปลี่ยนเลือกวัสดุตามแนวทางปกติของ Nirvana ก็จะต้องเลือกแปลงที่ยังไม่มีการสร้างแล้วเสร็จเพื่อที่จะได้มีการปรับเปลี่ยนวัสดุหรือเพิ่มเติมฟังก์ชั่นต่างๆได้ทัน
บ้าน 3 ชั้น มีทั้งหมด 5 แบบ โดยสองแบบเล็กจะเป็นบ้านทรงสี่เหลี่ยมหน้ากว้างปกติ แต่สามแบบใหญ่จะเป็นบ้านทรง U-shape ทำให้มี Court ตรงกลางบ้านต่อเนื่องกับพื้นที่ข้างบ้านฝั่งนึง มีพื้นที่เปิดโล่งเพิ่มมากขึ้น แสงธรรมชาติ ลม และการมองเห็นภายในตัวบ้านก็จะทำได้ดีกว่าบ้านทรงสี่เหลี่ยมที่จะเน้นเรื่องพื้นที่ใช้สอย โดยบ้านแบบที่ใหญ่ที่สุดหรือ Pride ก็จะมีลิฟท์อยู่ข้างๆกับบันไดภายในบ้านและมีสระว่ายน้ำบนชั้น 2 ในทุกหลังตรงระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานจากปกติที่ระเบียงหน้าบ้านจะเป็นพื้นที่รับแสงเข้าห้องนอนหน้าบ้านเท่านั้น การเข้าถึงตัวบ้านทำได้จากหลายทางทั้งหน้าบ้าน ข้างบ้าน บันไดหน้าบ้านขึ้นห้องรับแขกและตรงประตูเลื่อนของ Court ตรงกลางซึ่งจะเป็นข้อดีของการใช้งาน แต่ก็จะต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยทั้งของหมู่บ้านและตัวบ้านเองที่ดีมากๆ โดยโครงการมีระบบสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic ที่จะติดอยู่ทุกบานเปิดของตัวบ้าน
วัสดุภายในบ้านเริ่มตั้งแต่พื้นก็จะเป็นกระเบื้องขนาด 60×60 เซนติเมตรที่ชั้นล่างของบ้าน แต่พอขึ้นเป็นชั้น 2-3 จะปูด้วยพื้นไม้ปาร์เก้ ส่วนผนังจะเป็นแบบฉาบเรียบทาสีปกติ ครัวจะได้ในส่วนที่เป็นรูปตัว L ภายในห้องทานข้าวและครัวไทยข้างบ้าน ห้องน้ำจะมีการตกแต่ง 2 แบบคือที่ห้อง Powder room ชั้น 1 และห้องน้ำของ Master bedroom ชั้น 2 จะเป็นแบบ Upgrade คือปูพื้นและผนังด้วยหินอ่อนทั้งหมด แต่ถ้าเป็นห้องน้ำอื่นๆจะปูด้วยกระเบื้องลายไม้และ Mosaic สีขาวแทน สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจะมีทั้งจาก Grohe, Kohler และ Cotto ส่วนพื้นสะพานเชื่อมจะปูด้วยไม้เทียมเช่นเดียวกับริมสระว่ายน้ำบนชั้น 2 เพื่อให้ง่ายต่อการทำความสะอาด และทนต่อน้ำได้มากกว่า ส่วนที่แปลกเพิ่มขึ้นมาคือ Sound system ที่จะมี 5 จุดภายในบ้านจาก Bose และ Sonos ระบบไฟสามารถเปิด-ปิดได้จากสวิสซ์แบบ Compact และม่านบางจุดสามารถเปิด-ปิดแบบอัตโนมัติ
สาธารณูปโภค จากทางเข้าโครงการก็จะระบบการเข้าออกแบบ Remote access เหมือน Easy pass ผ่านประตูเลื่อนแรกเข้าไปก็จะเจอ Clubhouse สูง 2 ชั้นอยู่ทางซ้ายมือ ภายในก็จะมีที่จอดรถ ห้องรับห้อง ฟิตเนส ห้องพนักงานและห้องน้ำ ส่วนชั้น 2 จะเป็นแบบเปิดโล่งคือมีสระว่ายน้ำขนาด 8 x 20 เมตร มีทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ รวมถึงมีพื้นที่นั่งแบบ Sunken จาก Clubhouse ก็จะมีถนนหลักโครงการกว้าง 13 เมตรตรงกลาง ทางขวามือจะมีบ่อน้ำขนาดใหญ่ มีทางเท้าทั้งสองฝั่งมุ่งหน้าเข้าหาประตูบานเลื่อนที่ 2 ซึ่งจะมีระบบเปิด-ปิดแบบ Remote access เหมือนกันทำให้เป็นระบบ Double gate secuity เปิดอีกทีจะเป็นส่วนของบ้านแบบต่างๆด้านในทั้งซ้าย-ขวามือ ถนนย่อยภายในโครงการกว้าง 9 เมตร
Judgement
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 18 – 40 ล้านบาท, 18 May 2016
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8.5/10 – ติดถนนพระราม 2 มีทางขึ้น-ลงทางด่วนไม่ไกล แต่ไม่มี BTSหรือMRT ในระยะใกล้ มีศูนย์การค้าเยอะ
- ความปลอดภัย 9/10 – Double Gate Security เปิดด้วย Remote access มี CCTV ในบ้านมีระบบกันขโมยแบบ Magnetic
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.75/10 – ออกแบบบ้าน U-shape ทำให้บ้านโปร่ง บ้าน 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยเหลือเฟือ
- วัสดุ 8.5/10 – พื้นไม้ปาร์เก้และกระเบื้อง ได้เคาท์เตอร์ครัว L ครัวไทย และสุขภัณฑ์ห้องน้ำ บางแบบได้ลิฟท์และสระว่ายน้ำ
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.25/10 – มีความเป็นส่วนตัวสูง แต่พึ่งเปิดโครงการทำให้ยังไม่เรียบร้อยนัก
- สาธารณูปโภค 7.75/10 – Clubhouse 2 ชั้น ภายในมีห้องนั่งเล่น ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนสาธารณะด้านใน แต่ขนาดและความหลากหลายของกิจกรรมน้อยไปหน่อยสำหรับราคาบ้านขนาดนี้
- 8.61 / 10.00
BOTTOM LINE
Beyond พระราม2 ถือเป็นโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมาก มีความเป็นส่วนตัวเพราะจำนวนยูนิตไม่เยอะทางฝั่งตะวันตกของกรุงเทพ แบบบ้านเหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่เพราะมีการออกแบบที่ค่อนข้าง Modern ต้องการขยายครอบครัวหรือทำงานในแถบนั้นหรือใช้ทางด่วนบ่อย สำหรับคนที่สนใจส่วนใหญ่คงจะต้องมีเงินในกระเป๋าอยู่แล้วประมาณ 18-40 ล้านบาท หรือคิดเล่นๆคือมีกำลังผ่อนต่อเดือนประมาณ 126,000 – 280,000 บาท
ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE ให้หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป
สมัครสมาชิกพร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม (คลิกที่นี่ )