รีวิวฉบับที่ 1860 … มารู้จักกันอีกสักโครงการกับ Centro วงแหวน – จตุโชติ จาก เอพี เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ในซอยวงศกร 1 เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วนฉลองรัช และด่วนกาญจนาภิเษก โดยจะเป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่เน้นพื้นที่ใช้สอย มีให้เลือกถึง 4 แบบ พร้อมที่จอดในรถ 2 – 3 ที่จอด ราคาเริ่มต้น 5.39-8.00 ล้านบาท ส่วนบรรยากาศภายในโครงการ รวมถึงหน้าตาบ้าน และคลับเฮ้าส์ จะเป็นอย่างไรบ้าง เราไปติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ
ข้อมูลโครงการ
Fact @ 8 May 2019
- Centro Wongwaen – Chatuchot ( เซนโทร วงแหวน – จตุโชติ )
- บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)
- UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
- โครงการตั้งอยู่: ซอยวงศกร 1 เขตคลองสามวา
- เนื้อที่โครงการ 59-3-74.66 ไร่ จำนวน 246 ยูนิต
- บ้านเดี่ยว SHINE พื้นที่ใช้สอย 175 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ หน้าบ้านกว้าง 5.5 เมตร
- บ้านเดี่ยว RADIANT พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถคัน หน้าบ้านกว้าง 6.5 เมตร
- บ้านเดี่ยว GLORIOUS พื้นที่ใช้สอย 227 ตารางเมตร 4ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 3 ที่จอดรถ หน้าบ้านกว้าง 7.5 เมตร
- บ้านเดี่ยว LUMINANCE พื้นที่ใช้สอย 255 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ หน้าบ้านกว้าง 7.5 เมตร
ราคาเริ่มต้น 5.39 – 8 ล้านบาท**ราคาเริ่มต้น 5.59-9 ล้านบาท (14/10/2020)- ความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.50 เมตร
- ขนาดที่ดินมาตรฐาน 50 ตร.วา
- ที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ 48,836.63 บาท
- โครงการเริ่มก่อสร้าง : พ.ย. 2561
- คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ : ธ.ค. 2564
- เวปไซต์โครงการ : คลิกที่นี่
- Call Center : 1623
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.911583, 100.695167
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยวงศกร 1 สามารถเข้าโครงการได้จาก ถนนหทัยราษฎร์ หรือทางคู่ขนานกาญจนาภิเษกฝั่งขาออกเมือง ที่สามารถเข้าออกได้ 2 ทางรวมถึงสามารถเดินทางไปรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนและรถไฟฟ้าสายสีชมพูอ่อนได้
โครงการ Centro วงแหวน – จตุโชติ ตั้งอยู่ในซอยวงศกร 1 ที่เชื่อมมาจากบนถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกฝั่งขาออกเมือง ที่สามารถตรงไปย่านรังสิตได้ รวมถึงซอยนี้จะสามารถทะลุไปออกถนนหทัยราษฎร์ ที่เชื่อมกับถนนสายไหม และถนนสุขาภิบาล 5 (แถวย่านวัชรพล) ได้ โดยรวมถือว่าเป็นทำเลใหม่ที่เพิ่งเริ่มมีการพัฒนาโครงการแนวราบ ดังนั้นความอุดมสมบูรณ์และที่อยู่อาศัยจึงยังไม่เยอะเท่าย่านรามอินทรา-วัชรพล แต่ถือว่าเป็นทำเลที่เดินทางด้วยรถยนต์ค่อนข้างสะดวก เนื่องจากอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทั้งทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ (ฉลองรัช) และด่วนกาญจนาภิเษก ทำให้สามารถเข้า-ออกเมืองได้สบาย
สำหรับการเดินทางโดยไม่ใช้รถเนื่องจากโครงการตั้งอยู่ในซอยเข้าไปประมาณ 2 กม. ไม่ได้อยู่ในระยะเดิน อาจใช้วิธีเรียกรถสาธารณะผ่าน
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวสะดวกทีเดียว เนื่องจากตัวโครงการใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน 2 จุด
- ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ (ทางพิเศษฉลองรัช) จุดขึ้นลงที่ใกล้ที่สุดจะเป็นด่านจตุโชติ ซึ่งเป็นด่านปลายสุดของทางเส้นนี้ สามารถใช้วิ่งเข้าเมืองไปลาดพร้าว-พระราม 9 ได้ หรือถ้าออกเมืองไปย่านสายไหม-ลำลูกกาได้
- ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษกรอบนอกฝั่งตะวันออก ที่สามารถเชื่อมเข้าเมืองไปทางรามคำแหง บางนา พระราม 2 หรือออกเมืองไปเขตอุตสาหกรรมอย่างบางปะอิน-อยุธยาได้ นอกจากนี้ความพิเศษของทางด่วนเส้นนี้จะมีถนนคู่ขนาน ที่เชื่อมถนนหทัยราษฎร์และรามอินทราไว้ ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงรถติดได้อีกด้วยนะคะ
สำหรับความอุดมสมบูรณ์รอบๆ โครงการถือว่ายังมีไม่เยอะเท่าไหร่เพราะเป็นทำเลเปิดใหม่ทำให้มีสิ่งอำนวยสะดวกกระจายตัวอยู่รอบๆโครงการ แต่จะไม่ได้อยู่ในระยะเดินได้ ถ้าใกล้กับโครงการสุด ก็จะมีร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ที่หน้าปากซอยหทัยราษฎร์ 2 ระยะทางประมาณ 1.6 กิโลเมตร ซึ่งร้านนี้มีที่จอดรถด้านข้างมาด้วย ถือว่าสะดวกทีเดียว หรือถ้าออกมาบนถนนหทัยราษฏร์ก็จะมีทั้ง Mini Big C และ Max Valu ที่สามารถหาซื้อของใช้ก่อนเข้าบ้านได้ นอกจากนี้ยังมีตลาดสดขนาดใหญ่อย่าง ตลาดวงศกร และถ้าใครชอบห้างสรรพสินค้าจะอิงไปถนนรามอินทรามากกว่า ได้แก่ Fashion Island, The Promenade และเซ็นทรัลรามอินทรา ซึ่งถ้าเราวิ่งจากถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกไป ก็จะสามารหลีกเลี่ยงรถติดได้ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาทีเท่านั้น
มาดูเส้นทางการเดินทางที่เราพาไปโครงการกันค่ะ วันนี้เราจะใช้เส้นทางทางด่วนฉลองรัช หรือที่เราเรียกกันว่า “ทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา”
วิ่งเข้าทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา >> ออกด่านจตุโชติ >> เบี่ยงซ้ายออกถนนจตุโชติ >> วิ่งไปเลี้ยวซ้ายเข้าถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกฝั่งขาออก >> ขับไปเรื่อยๆจะมีทางให้เบี่ยงซ้ายเพื่อเข้าซอยวงศกร 1 >> เราไปดูภาพประกอบกันดีกว่าจะได้เข้าใจกันมากขึ้นค่ะ
เรามาเริ่มต้นกันบนทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ขับมายังฝั่งขาออกเมืองนะคะ มุ่งหน้าตามป้ายถนนกาญจนาภิเษก(ลำลูกกา-บางปะอิน) ไปเลย
ขับตรงมาเรื่อยๆ จะมีทางเบี่ยงซ้ายให้ออกถนนจตุโชติ (ทางออกหมายเลข 26) ซึ่งจะออกก่อนถึงเส้นลำลูกกาค่ะ
สำหรับเส้นถนนจตุโชติเป็นถนน One Way บังคับมุ่งหน้าถนนคู่ขนานขนานกาญจนาภิเษกฝั่งขาออกค่ะ
ขับตามทางมาเรื่อยๆ จะเจอกับทางคู่ขนานกาญจนาภิเษกฝั่งขาออกเมืองตัดผ่านพอดี ให้เราเลี้ยวซ้ายนะคะ ถ้าเลี้ยวขวาจะไปแถวคู้บอน หรือแฟชั่นไอซ์เเลนด์ได้เลยนะคะ
ตรงนี้จะเป็นถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษกเเล้วค่ะ โครงการ Centro วงแหวน-จตุโชติ จะอยู่ในซอยวงศกร 1 ที่สามารถทะลุออกถนนหทัยราษฎร์-สายไหมได้ ดังนั้นเราจะเบี่ยงซ้ายตามป้าย ถนน.สายไหม-สุขาภิบาล 5 ค่ะ
เข้ามาด้านในจะมีทางให้เลี้ยวซ้าย ซึ่งตรงนี้เราจะเห็นป้ายโครงการแล้วนะคะ ถ้าตรงไปจะเป็นจุดกลับรถไปอีกฝั่งของทางด่วนค่ะ
ตรงเข้ามาภายในวงศกร 1 ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ระหว่างทางจะมีบ้านพักอาศัยและหมู่บ้านอยู่ประปราย ทำให้โดยรอบค่อนข้างสงบทีเดียว
ขับมาสักพักจะเห็นโครงการอยู่ทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าโครงการได้เลยนะคะ
**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ
สภาพเเวดล้อมรอบๆโครงการโดยทั่วไป เป็นโครงการที่มีทางเข้าติดซอยวงศกร 1 ด้านหน้ามีป้ายขนาดใหญ่เห็นชัดเจน ส่วน Main Gate จะต้องขับเข้าไปสักเล็กน้อย ทำให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วรอบโครงการจะเป็นที่ดินเปล่าของบุคคลอื่นรอการพัฒนา
- ทิศเหนือ ติดกับ ดินเปล่าสีเขียวขนาดใหญ่ของบุคคลอื่นรอการพัฒนา
- ทิศใต้ ติดกับ ซอยวงศกร 1 และที่ดินเปล่าของบุคคลอื่นรอการพัฒนา
- ทิศตะวันออก ติดกับ ที่ดินเปล่าของบุคคลอื่นรอการพัฒนา
- ทิศตะวันตก ติดกับ คลองบึงพระยาสุเรนท์
ฝั่งตรงข้ามทางเข้าโครงการ เป็นพื้นที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ของบุคคลอื่นรอการพัฒนา
ซอยวงศกร 1 จะเป็นถนน 2 เลนวิ่งสวนทางกัน เชื่อมต่อไปถนนหทัยราษฏร์ และคู่ขนานกาญจนาๅฯ ถือว่าเดินทางด้วยรถยนต์สะดวกดี ส่วนรถสาธารณะแนะนำให้ใช้ Application ช่วยค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
- 7-11 ซอย หทัยราษฎร์ 2 ~ 1.6 กม.
- ตลาดวงศกร ~ 2.3 กม.
- The Grove ~ 2.3 กม.
- รพ.สายไหม ~ 2.4 กม.
- Western University ~ 2.6 กม.
- โรงเรียนสารสาสน์วิเทศสายไหม ~ 2.6 กม.
- Big C สายไหม ~ 4.3 กม.
- Safari World ~ 8.5 กม.
- Fashion Island ~ 10.1 กม.
- เพลินนารี่มอลล์ ~ 10.3 กม.
- The Promenade ~ 10.4 กม.
- Central Plaza รามอินทรา ~ 16.1 กม.
รายละเอียดโครงการ
Centro วงแหวน – จตุโชติ เป็นโครงการจัดสรรแนวราบ ตั้งอยู่ภายในซอยวงศกร 1 บนพื้นที่ประมาณ 59 ไร่ รวมทั้งสิ้น 246 ยูนิต เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ ที่มีให้เลือกถึง 4 แบบ โดยจะเริ่มต้นที่ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 175, 195, 227 และ 255 ตร.ม. ลักษณะที่ดินของโครงการเป็นแนวยาวเข้าไปข้างใน โดยแบ่งขายออกเป็น 3 เฟส เริ่ม phase 1 เป็นตำแหน่งด้านหน้า ใกล้ประตูทางเข้า-ออก ซึ่งซุ้มประตูเชื่อมต่ออาคาร Club house พร้อมพื้นที่สวนหย่อมด้านข้าง ถนนหลักกว้าง 16 เมตร ส่วนถนนรองกว้าง 9 เมตร
การวางตำแหน่งบ้านส่วนใหญ่จะหันทางทิศตะวันออก และตะวันตก โดยแบ่งเป็นถนนซอยย่อยๆ เพื่อให้บ้านแต่ละซอยมีจำนวนไม่เกิน 6 หลัง ได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น รวมไปถึงแบบบ้านที่นี่จะคละกันไป ทำให้มีโอกาศเลือกบ้านตำแหน่งที่ชอบได้มากขึ้นด้วยนะ /ปัจจุบันกำลังเปิดขายใน phase2 ซึ่งอยู่ระหว่างพื้นที่สวนทั้ง2แห่งในโครงการ
บริเวณทางเข้าโครงการจะมีป้ายขนาดใหญ่เห็นชัดเจน ไม่ว่าจะขับรถมาจากฝั่งไหนก็สามารถเห็นป้ายได้ง่าย
ระหว่างทางไป Main Gate จะมีถนนกว้างประมาณ 16 เมตร สองฝั่งทางมีต้นไม้เรียงกันเป็นแถวยาวตามทางไปจนถึง Main Gate บรรยากาศร่มรื่นดีจังค่ะ > <
ถัดเข้ามาจะมี Main Gate ของโครงการ ที่บริเวณด้านหน้ามีน้ำพุขนาดใหญ่ พร้อมต้นไม้ขนาดใหญ่ 2 ข้างทาง ส่งผลให้บรรยากาศร่มรื่นทีเดียว การออกแบบจะเป็นสไตล์ Modern ที่เน้นโทนสีน้ำตาลและน้ำเงินเป็นหลัก ซึ่งสำหรับแบรนด์ Centro เอง จะมี Gimmick เล็กน้อย โดยซุ้มประตูทางเข้าจะเป็นรูปตัว L ที่เชื่อมเข้ากับอาคาร Club House ทำให้ได้ Main Gate ขนาดใหญ่ หน้าตาดูโอ่โถ่งทีเดียว รวมถึงฝั่งขวามือยังมีติดชื่อโครงการที่เห็นชัดเจนดี ส่วนรถที่ขับผ่านซุ้มประตู ก็จะได้ร่มเงาของอาคารไปได้ด้วย
บริเวณทางเข้าโครงการมีป้อมรปภ.อยู่ตรงกลาง ซึ่งจะดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ประตูทางเข้า-ออกแยกจากกันชัดเจน โดยทางเข้าจะอยู่ฝั่งซ้าย และทางออกจะอยู่ฝั่งขวา พื้นบริเวณนี้จะปูด้วย Concrete Stamp สวยงามทีเดียวค่ะ
แต่ละฝั่งมีไม้กั้น 2 อัน แยกทางเข้า-ออกระหว่างลูกบ้าน และผู้มาติดต่อ สำหรับทางเข้า-ออกของลูกบ้านจะใช้ระบบ Easy pass เหมือนทางด่วน / ส่วนผู้มาติดต่อต้องเเลกบัตรกับพี่รปภ.ก่อน คอยดูแลตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ยังมีประตูบานเลื่อนอัตโนมัติมาให้ เปิด-ปิดทุกครั้งที่มีรถเข้า-ออก
สำหรับเลนผู้มาติดต่อ จะมีกล้อง CCTV 2 ตัวบนล่าง ที่สามารถเก็บภาพทั้งคนขับรถและทะเบียนรถได้ รวมถึงต้องแลกบัตรเพื่อเข้าไปในโครงการทุกครั้ง ส่วนฝั่งลูกบ้านจะมีเครื่องรับสัญญาณแบบ Easy Pass ที่ส่งสัญญานให้ไม้กั้นเปิด-ปิดอัตโนมัติได้เลยไม่ต้องเปิดกระจกแตะบัตร
นอกจากนี้ยังมีการแยกทางเข้า-ออกของทางเดินคนมาให้อีกด้วย เพื่อความปลอดภัยของคนที่จะเดินเข้าโครงการค่ะ
เมื่อเข้ามาภายในโครงการจะเจอกับถนนหลักกว้าง 16 เมตร ทางขวามือจะเป็น Clubhouse และสวนขนาดใหญ่ของโครงการ ส่งผลให้บรรยากาศร่มรื่นทีเดียว
เริ่มกันที่ Clubhouse ของโครงการกันก่อน อย่างที่บอกไปตัวอาคารจะเป็นรูปตัว L เเละเป็นส่วนหนึ่งกับซุ้มประตูทางเข้า มีทั้งหมด 2 ชั้น ออกแบบด้วยสไตล์ Modern ที่เน้นโทนสีน้ำตาลและน้ำเงินเป็นหลัก ซึ่งต้องบอกว่า Club House ที่นี่จะมีฟังก์ชันเยอะกว่าที่อื่นเล็กน้อย จะมีอะไรบ้างเดี๋ยวเราไปดูกันค่ะ
ก่อนอื่นเราจะพาไปดู Lobby ของ Club House กันก่อน บริเวณด้านข้างจะมีทางขึ้นไปชั้น 2 พื้นที่ Clubhouse จะมี WIFI ให้ใช้บริการฟรีด้วยนะคะ
ภายใน Lobby กันก่อน พื้นที่ตรงนี้เป็นห้องที่มีความสูงเเบบ Double Space ได้บรรยากาศหรูหราและโอ่งโถงเลย ด้านในจะมีโซฟานั่งเล่นจัดไว้เป็นชุดๆ เวลามีแขกมาเยี่ยมก็สามารถมานั่งเล่นได้นะคะ ส่วนอีกฝั่งจะเป็นทางออกไปสระว่ายน้ำค่ะ
ออกมาด้านนอกจะเจอสระว่ายน้ำ ระบบน้ำเกลือแบบ Outdoor ขนาดใหญ่ ที่มีร่มเงาของอาคารเเละต้นไม้คอยบังเเดดให้บางส่วน โดยได้แยกสระเด็กและผู้ใหญ่มาให้เรียบร้อย สระมีขนาด 15×9.2 เมตร ลึก 1.2 เมตร แบ่งเป็นสระเด็กขนาด 4.6×4.5 เมตร ลึก 0.60 เมตร นอกจากนี้ตำแหน่งสระว่ายน้ำ จะอยู่ติดกับพื้นที่สวนหย่อมของโครงการด้านข้าง ที่มีต้นใม้ใหญ่และพื้นหญ้า บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ
นอกจากนี้ยังมีจุด Jacuzzi ขนาด 4.6×2.8 เมตร มาให้อีกด้วยค่ะ สามารถมานั่งเล่นผ่อนคลายได้นะคะ
ข้างสระจะมีพื้นที่ Indoor อยู่ ซึ่งในอนาคตทางโครงการจะมีที่นั่งเล่นมาให้ วันไหนอยากนั่งชิลล์ริมสระ แต่ไม่อยากว่ายน้ำก็มานั่งเล่นพักผ่อนได้
นอกจากด้านข้างสระ มีที่นั่งมาให้ชมวิวสวน พร้อมบันไดทางลงไปสวนหย่อมของโครงการได้
ส่วนด้านหลัง Lobby ก็จะมีทางเดินไปยังห้องน้ำและพื้นที่สำหรับล้างตัวก่อนและหลังลงสระ
ตำแหน่งของพื้นที่ล้างตัวจะเดินเข้ามาลึกหน่อย ซึ่งก็จะได้ความเป็นส่วนตัวดี พื้นที่ค่อนข้างกว้างพร้อมที่ล้างตัวถึง 2 จุด สามารถใช้งานหลายคนพร้อมกันได้สบายๆเลยนะคะ
ตรงเข้ามาสุดทางจะเป็นห้องน้ำค่ะ โดยพื้นที่ Clubhouse ทั้งหมดจะมีห้องน้ำให้บริการอยู่จุดเดียวตรงนี้ เป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง
ภายในห้องน้ำก็จะตกแต่งด้วยกระเบื้องโทนสีครีมน้ำตาลดูเรียบๆ แต่ก็มีฟังก์ชันการใช้งานให้มาครบ ทั้งอ่างล้างมือ ห้องสุขา ห้องอาบน้ำ ใครที่เล่นฟิตเนสด้านบนแล้วอยากอาบน้ำก็ลงมาใช้ห้องน้ำตรงนี้ได้
ภายในห้องน้ำชายก็ให้มาครบเช่นกันค่ะ
บันไดที่นี่ค่อนข้างสูง เนื่องจาก Club House ที่นี่จะมีชั้นลอยมาให้เพิ่มเติม สำหรับห้อง Kids Room จะอยู่ที่ชั้น 2 ดังนั้นเวลาพาเด็กๆเดินต้องระวังกันด้วยนะคะ
ก่อนที่จะขึ้นไปชั้น 2 เราขอแวะมาดูฟังก์ชันที่ชั้นลอยกันก่อนค่ะ
ชั้นลอยจะมีห้อง Co-working Space มาให้ ซึ่งปกติเราจะเห็นกันบ่อยๆในคอนโดไม่ค่อยได้เห็นในโครงการแนวราบมากนัก สำหรับห้องนี้ทางโครงการให้มาค่อนข้างใหญ่ทีเดียว มีทั้งโต๊ะสำหรับประชุมงาน และโซฟายาวที่สามารถมานั่งดูทีวีได้อีกด้วย ถ้าวันไหนนั่งอยู่บ้านเบื่อๆก็สามารถมานั่งเล่นอ่านหนังสือหรือเปลี่ยนบรรยากาศทำงานตรงนี้ได้เช่นกันค่ะ
บริเวณห้อง Co-working Space จะมีระเบียงอยู่ซึ่งสามารถมองลงมาเห็นสระว่ายน้ำที่ชั้นล่างได้
ถัดมาที่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายมือจะเป็นห้อง Kids Room ส่วนฝั่งขวาจะเป็นห้องฟิตเนสค่ะ
ภายในห้อง Kids Room ทางโครงการเตรียมของเล่นมาให้ ซึ่งถ้าใครมีลูกมีหลานก็สามารถพาเด็กๆมาเล่นกับเพื่อนบ้านตรงนี้ได้ ภายในมีการตกแต่งผนังด้วยสีสันสดใส และปูพื้นด้วยวัสดุที่เป็นกระเบื้องยาง ทำให้เวลาวิ่งเล่น หกล้ม น้องๆก็จะไม่เกิดอันตรายค่ะ
ห้องฟิตเนตขนาดใหญ่ มีเครื่องเล่นครบครัน ทั้งลู่วิ่ง เครื่องปั่น และดัมเบลถึง 2 จุด ภายใน พร้อมหน้าต่างสามารถมองวิวได้ 2 ฝั่ง ทั้งทางด้านหน้าโครงการเเละในโครงการ พื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างสูง เเละเป็นห้องที่มีกระจกขนาบสองฝั่งตามเเนวยาว ซึ่งจะได้เเสงสว่างส่องเข้ามาได้เต็มที่
ด้านข้าง Club House จะมีที่จอดรถมาให้ด้วย ถ้าบ้านใครอยู่ด้านในก็สามารถขับรถออกมาจอดบริเวณนี้ได้
ด้านข้างสระว่ายน้ำจะมีทางเดินไปสวนหย่อมของโครงการค่ะ
พื้นที่สวนหย่อมที่นี่จะมีขนาดใหญ่ เราสามารถพาเด็กหรือสัตว์เลี้ยงมาวิ่งเล่นได้ค่ะ
สำหรับสนามเด็กเล่น จัดในรูปแบบ Education Playground คือสนามเด็กเล่นที่ผ่านกระบวนความคิด เพื่อเพิ่มทักษะการเรียนรู้และประสบการณ์ไปในตัวได้ มีทั้งบ่อทรายและเครื่องเล่น มาพร้อมพื้นลวดลายสวยงาม เพื่อเสริมการเรียนรู้ของเด็กๆค่ะ
นอกจากนี้ยังมี Kid’s bike lane สำหรับพาเด็กๆมาปั่นจักรยาน
สำหรับผู้ใหญ่จะมีที่นั่งมาให้รอเด็กๆเล่นอีกด้วย ซึ่งบริเวณนี้จะมีต้นไม้ใหญ่ ให้ความร่มรื่นอยู่ ทำให้เราสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันเลยนะคะ
ตรงข้ามกับ Clubhouse ปัจจุบันจะเป็นตำแหน่ง Sales Gallery ของโครงการ ซึ่งในอนาคตเมื่อขายเสร็จบริเวณนี้จะเป็นบ้านพักอาศัยอีก 1 หลังค่ะ
บรรยากาศภายใน Sales Gallery ของ Centro วงแหวน – จตุโชติ ตกแต่งน่ารักดีค่ะ เลยนำภาพบรรยากาศมาฝากกันเล็กน้อยค่ะ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse บริเวณซุ้มประตูประกอบไปด้วย
- สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 15.00 x 9.20 เมตร ลึก 1.20 เมตร
- แบ่งสระเด็กลึกขนาด 4.60 x 4.50 เมตร ลึก 40 ซม.
- Jacuzzi
- ห้องออกกำลังกายขนาด 48 ตร.ม. มีดัมเบล 2 จุด
- Kid’s Room
- Co-working Space
- Lobby ของ Clubhouse
- Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 2 จุด รวมประมาณ 2-0-65 ไร่
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate 2 จุด
- รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
- Key Card Access แบบ Easy Pass
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดก และประตูเลื่อน
- ถนนหลักกว้าง 16 และ 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 9 เมตร
- สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง
แบบบ้าน
โครงการ Centro วงแหวน-จตุโชติ เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น รวมทั้งสิ้น 246 ยูนิต โดยจะมีแบบบ้านทั้งหมดให้เลือก 4 แบบ ซึ่งในในรีวิวนี้มีบ้านตัวอย่างให้ดูกัน 1 แบบคือแบบที่มีชื่อว่า Glorious นะคะ ส่วนบ้านแบบอื่นๆนั้น เราจะมาวิเคราะห์แปลนบ้านให้เป็นตัวเลือกในการตัดสินใจค่ะ
สำหรับโครงสร้างเป็นแบบก่ออิฐมวลเบา ส่วนที่จอดรถเเละพื้นที่ซักล้างจะเป็นโครงสร้าง Slab on Ground ซึ่งทางโครงการไม่ได้ลงเสาเข็มมาให้นะคะ ส่วนพื้นภายในจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ห้องนอนจะได้เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังให้ Wallpaper ทั้งหลัง ไฟภายในบ้านจะได้เป็น LED Downlight ถัดมาที่ห้องครัวจะก่อเคาน์เตอร์มาให้สำหรับบ้าน Radiant ขึ้นไป ตัวบันไดจะเป็นโครงสร้างเหล็ก พื้นบันไดและมือจับจะเป็นไม้ยางพาราประสาน ฝ้าเพดานฉาบเรียบทาสี ประตูภายในใช้เป็น HDF ส่วนประตูภายนอกหน้าต่างได้เป็น UPVC สีเทาเข้มและกระจกเขียวตัวเเสง 6 มม. สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำจะเป็นของ COTTO และ PREMA ภายในบ้านทุกหลังจะมีระบบ Magnetic Sensor ไว้ให้กันขโมยค่ะ
บ้านแบบที่เราจะพาไปชมนั้นมีชื่อว่า GLORIOUS เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ หน้ากว้าง 7.5 เมตร ตั้งอยู่บนที่ดินมาตรฐานขนาด 61 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 227 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 7.19 ล้านบาท
เริ่มกันตั้งแต่ประตูทางเข้ามี 3 ทางคือ หน้าบ้าน, ที่จอดรถ และส่วน Service เมื่อเข้ามาในบ้านจะเป็นพื้นที่โล่งขนาดใหญ่ ที่เชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารได้ ฝั่งขวามือเป็นตำแหน่งของบันไดขึ้นชั้น 2 ใต้บันไดมีห้องน้ำ Powder Room สำหรับแขก ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารจะเป็นพื้นที่โล่งสามารถจัดเป็น Pantry ได้ ถัดเข้าไปเป็นพื้นที่ห้องครัวปิด ป้องกันไม่ให้กลิ่นรบกวนภายในตัวบ้าน ส่วนฝั่งซ้ายมือมีห้องนอนชั้นล่างพร้อมห้องน้ำในตัว เหมาะกับผู้สูงอายุที่ไม่ต้องเดินขึ้น-ลงบ่อยๆ หรือถ้าใครอยากปรับพื้นที่ตรงนี้เป็นห้องทำงานหรือห้องดูหนังก็ได้เช่นกันค่ะ
ถัดมาชั้นที่ 2 เราจะเจอกับพื้นที่ Family Area เป็นโถงตรงกลาง ที่มีหน้าต่างขนาดใหญ่ ทำให้เเสงสว่างสามารถส่องเข้ามาตรงนี้ได้ โดยฝั่งหน้าบ้านจะเป็นตำแหน่งของ Master Bedroom ที่มาพร้อมระเบียงส่วนตัว ส่วนห้องน้ำจะสามารถทำเป็นพื้นที่ Walk in Closet ได้อีกด้วย ในเเง่การใช้งานนับว่าแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็นสัดส่วนดี ส่วนหลังบ้านจะเป็นห้องนอนเล็ก 2 ห้อง ทุกห้องนอนของบ้านนี้จะได้ห้องน้ำในตัวหมดเลย โดยตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ติดด้านนอกทั้งหมด ทำให้สามารถระบายความชื้นและกลิ่นออกด้านนอกได้ดี
พื้นที่จอดรถกว้าง 7.5 x 4.5 เมตรเท่ากัน สามารถจอดรถ 3 คันพอดีๆ ประตูเข้า-ออกเป็นบานเลื่อนเหล็ก น้ำหนักเบา / ส่วนพื้นที่จอดรถจะเป็นโครงสร้างแบบ Slab on ground แยกจากโครงสร้างบ้านออกมา มีข้อดีคือ หากเกิดการทรุดตัวของลานจอดรถ โครงสร้างหลักของตัวบ้านจะไม่ได้รับผลกระทบ และจะไม่เกิดรอยร้าวระหว่างตัวบ้านกับที่จอดรถ
สำหรับบ้าน GLORIOUS สามารถเข้าจากที่จอดรถได้ บริเวณประตูติดตัวกันกระแทกไว้ให้ และยกระดับขึ้นสามารถนั่งเปลี่ยนรองเท้าได้ ส่วนพื้นของจริงจะเป็นคอนกรีตผิวขัดมัน ด้านข้างโรยด้วยหินกรวดตกแต่งมาให้เรียบร้อย นอกจากนี้ยังมีกระจกบาน Fixed อยู่ ช่วยเพิ่มแสงให้กับพื้นที่ภายในบ้านอีกด้วย
ฝ้าเพดานเป็นฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ Downlight มาให้ 6 จุด
ด้านหน้ามีกริ่งและไฟหน้าบ้านมาให้ พร้อมตู้จดหมายที่มีบ้านเลขที่เขียนชัดเจน รวมถึงมีจุดทิ้งขยะไว้ให้เรียบร้อย
ภายในบ้านมีจุดทิ้งขยะมาให้เรียบร้อยค่ะ โดยทางโครงการจะก่อคอนกรีตเป็นลักษณะกล่องสี่เหลี่ยม โดยมีข้อดีคือภายในจะมี Floor Drain ที่ช่วยระบายน้ำที่อาจจะมาจากขยะได้
พื้นที่รอบๆจะปูหญ้าเอาไว้ให้ มีให้แท๊งก์น้ำเเละปั๊มน้ำให้มาเรียบร้อยค่ะ
ทางเข้าบ้านจะมีชานพักด้านหน้าขนาดประมาณ 4 x 1 เมตร ปูด้วยกระเบื้องเซรามิค 30 x 30 ซม. ซึ่งจะมีพื้นที่เหลือสามารถวางตู้รองเท้าหน้าบ้านได้สบายๆค่ะ
ประตูบานเลื่อน 2 ตอน ซึ่งจะเปิดได้ฝั่งเดียวเเบบในภาพ ด้านข้างเป็นกระจกบาน Fixed กรอบบานเป็น UPVC สีเทาเข้ม ยี่ห้อ Amigo พร้อมกระจกเขียวตัดเเสงที่ช่วยกันความร้อนได้ดี
ประตูมี Double lock ให้มาด้วย นอกจากนี้บริเวณขอบติดสักกะหลาดมาให้เรียบร้อย ช่วยเรื่องเสียงเปิด-ปิดบานไม่กระแทก และป้องกันฝุ่นได้อีกด้วย
เมื่อเข้ามาจะเป็นพื้นที่ Common Area สามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นต่อเนื่องไปยังพื้นที่รับประทานอาหารที่อยู่ข้างในได้ สำหรับใครที่อยากแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน ก็สามารถติดตั้งประตูบานเลื่อนเพิ่มเติมเองได้ เผื่อเวลาที่เปิดเเอร์จะได้ไม่เปลืองไฟมากนัก ชั้นที่ 1 จะมีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 2.6 เมตร ปูพื้นเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม.
ฝั่งขวามือสามารถวางชุดทีวีได้ ซึ่งทางโครงการได้เตรียมช่องเสียบสัญญาณทีวีมาให้เรียบร้อยค่ะ
ส่วนฝั่งตรงข้ามสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆ จุดเด่นคือห้องนี้ติดกับทางเข้าบ้าน และยังมีหน้าต่างที่ด้านหลังโซฟา ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศได้เต็มที่
พื้นที่บริเวณห้องนั่งเล่นห้องรับรองเเขกนี้จะมีขนาดประมาณ 3 x 4 เมตร ถือว่ากว้างพอสมควร มีพื้นที่ทางเดินหน้าทีวีเเละหน้าโซฟาค่อนข้างกว้าง ส่วนระยะดูทีวีกว้างประมาณ 3.00 เมตร สามารถเลือกทีวีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 45″- 50″ ได้สบายๆ
ถัดเข้ามามีพื้นที่ว่างประมาณ 3.00 x 3.00 เมตร ซึ่งจะเป็นตำแหน่งหน้าโถงบันไดทางขึ้นชั้น 2 ซึ่งเราสามารถจัดฟังก์ชันเพิ่มเติมเองได้นะคะ
บริเวณฝ้าเพดาน จะฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมติดไฟ LED Downlight มาให้ค่ะ
ถัดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ ซึ่งจะมีขนาดประมาณ 3.20 x 3.35 เมตร สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 6-8 ที่นั่งได้ หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีพื้นที่เดินได้รอบโต๊ะกว้างประมาณ 1.10 เมตร มีขนาดค่อนข้างกว้างเดินได้สบายๆ
บริเวณโต๊ะทานข้าวจะมีหน้าต่างมาให้ถึง 2 จุด ซึ่งจะช่วยระบายอากาศภายในบ้านได้ดีค่ะ
มาดูทางเข้าห้องครัว ด้านหน้ามีพื้นที่เหลือประมาณ 1.5 x 2.8 เมตร สามารถจัดเป็น Pantry สำหรับเตรียมอาหารและเครื่องดื่มภายในบ้าน
บริเวณฝ้าเพดานของจริง จะฉาบเรียบทาสีขาวพร้อมติดไฟ LED Downlight มาให้ค่ะ
ถัดเข้าไปในห้องครัวขนาดประมาณ 2.4 x 3.0 เมตร นอกจากนี้ยังจะมีประตูที่เปิดออกเป็นพื้นที่ซักล้างได้ ซึ่งตำแหน่งพื้นที่ซักล้างของบ้านจะอยู่ด้านข้างนะคะ
ภายในห้องครัวเราจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ฝั่ง ซึ่งทางโครงการจะก่อเคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย ส่วนบริเวณ Top เคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีดำ นอกจากนี้ยังมีหน้าต่างมาให้ระบายกลิ่นออกด้านนอกได้ สำหรับบ้านตัวอย่างจะมีการต่อเติมชั้นวางของด้านบนเเละหน้าบานเคาน์เตอร์ให้มาเป็น Idea
บริเวณฝ้าเพดาน จะฉาบเรียบทาสีขาวพร้อมติดไฟ LED Downlight มาให้ค่ะ นอกจากนี้ยังมีพัดลมระบายอากาศ ที่ช่วยระบายกลิ่นภายในห้องอีกแรงด้วยนะคะ
เปิดออกไปก็จะเป็นลานซักล้างข้างบ้าน พื้นที่ซักล้างจะเเยกโครงสร้างกับตัวบ้านออก เพื่อป้องกันการทรุดตัวที่ไม่เท่ากันเเละรอยร้าวที่อาจเกิดขึ้น รอยต่อระหว่างบ้านกับพื้นที่ซักล้างจะมีโรยหินกรวดตกแต่งมาให้เรียบร้อย
นอกจากนี้ยังติดไฟมาให้เพิ่มเติมอีกด้วยค่ะ
ถัดมาที่ห้องนอนชั้นล่างประตูทางเข้าจะอยู่ตรงข้ามครัวนะคะ
ภายในห้องนอนเป็นพื้นไม้ลามิเนตเเทนค่ะ ห้องนี้จะมีหน้าต่างอยู่ฝั่งเดียวคือทางฝั่งหน้าบ้าน ภายในห้องจะมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาด 2.8×3.75 เมตร สามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ (วางไว้ตำแหน่งโซฟาในบ้านตัวอย่าง)
ในกรณีที่เราวางเตียงไว้แทนที่โซฟาในบ้านตัวอย่างจะทำให้เราเหลือพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 60-80 ซม. สามารถเดินใช้งานสะดวก ใครที่อยากติดตั้งทีวีแบบเเขวนผนังก็ทำได้เพราะปลายเตียงจะเป็นผนังทึบพอดี หรือจะเดินออกไปใช้งานที่ห้องนั่งเล่นก็ถือว่าไม่ไกลเลย
หันกลับมาอีกฝั่งจะมีทางเข้าห้องน้ำส่วนตัวค่ะ
ห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุดของบ้าน ซึ่งภายในจะมีหน้าต่างระบายอากาศมาให้ ซึ่งสามารถช่วยระบายความชื้นออกด้านนอกได้ดี
พื้นห้องน้ำกว้างแยกส่วนเปียก-แห้งมาให้ชัดเจน พื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิค
ตัวพื้นห้องน้ำจะลดระดับลงไปเล็กน้อย
อ่างล้างหน้าจะเป็นแบบเเขวนผนังของ Cotto พร้อมกระจกเงาติดตั้งมาให้เรียบร้อย
โถสุขภัณฑ์ของ Cotto เช่นกัน ติดตั้งพร้อมที่ใส่กระดาษชำระและสายฉีดชำระ ตำแหน่งวางอยู่ข้างประตูทางเข้าห้องน้ำพอดี ใช้งานสะดวก
สายชำระสแตนเลสจับถนัดมือ มาพร้อมกับที่กันน้ำและกระดาษชำระแบบแกนเสียบค่ะ
พื้นที่ส่วนเปียกมีการลดระดับส่วนเปียกลงไปเล็กน้อย ในบ้านมาตรฐานจะไม่มีฉากกั้นกระจกติดตั้งมาให้
สำหรับบริเวณฝักบัวชั้นล่างทางโครงการจะไม่มี Junction box มาให้ อาจจะติดตั้งเพิ่มเติมเองในอนาคต นอกจากนี้ยังมีชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำหน้าตาเเบบนี้ติดตั้งมาให้ที่ผนังค่ะ
ฝักบัวแบบ Hand Shower ของ PREMA ขนาดพอดีมือ
บริเวณฝ้าเพดาน จะฉาบเรียบทาสีพร้อมติดไฟ LED Downlight 2 ตำแหน่ง
ก่อนจะขึ้นไปที่ชั้น 2 เราจะเดินไปดูห้องน้ำใต้บันไดกันก่อนนะคะ ทางเดินตรงนี้จะมีประตูที่ออกไปสู่พื้นที่จอดรถได้ รวมถึงมีหน้าต่างบาน Fixed ที่ช่วยเพิ่มเเสงสว่างภายในบ้านได้อีกด้วย
ฝ้าเพดานตรงนี้จะยกสูงหน่อยนะคะ มาพร้อมให้ไฟ LED Downlight 2 ตำแหน่ง
มาที่ห้องน้ำชั้น 1 กันบ้าง ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ใต้บันไดค่ะ
ห้องน้ำใต้บันไดจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder room คือไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำค่ะ ซึ่งจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งไว้ระบายอากาศได้ด้วย ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆก็ยังคงเป็นของ Cotto ค่ะ
ห้องน้ำตรงนี้จะมีขนาด 2.26 x 1.4 เมตร ถือว่ากว้างและใช้งานสะดวกอยู่นะคะ
ฝ้าเพดานจะเป็นฉาบเรียบทาสี พร้อมให้ไฟแบบ LED Downlight 1 ตำแหน่ง
ขึ้นไปชั้น 2 กันต่อ บันไดจะเป็นรูปตัว U ตัวบันไดจะเป็นโครงสร้างเหล็ก พื้นบันไดและมือจับจะเป็นไม้ยางพาราประสาน
ลูกตั้งสูง 18 ซม. เป็นความสูงมาตรฐานเดินได้สบาย ส่วนลูกนอน พื้นที่เท้าเหยียบกว้าง 25 ซม. ทำให้วางเท้าได้เต็มแผ่น รวมถึงบันไดมีขนาดกว้างประมาณ 1.14 เมตร ทำให้เดินสวนกันไปมาได้นะคะ
ด้านบนจะมีชานพักกว้างพร้อมหน้าต่างขนาดใหญ่ ที่ช่วยส่องแสงภายนอกเข้ามาด้านในได้ดี เป็นการประหยัดไฟอีกทางนึงนะคะ นอกจากนี้ด้านบนยังมีพื้นที่สำหรับติดตั้งโคมไฟได้ แต่ของจริงจะไม่มีมาให้นะคะ
กระจกบริเวณโถงบันไดจะเป็นบานเลื่อนพร้อม Double Lock นอกจากนี้ทางโครงการได้ติดตั้งสัญญาณ Magnetic Sensor มาให้ทุกประตูหน้าต่างภายในบ้าน เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้านค่ะ
ที่ชั้น 2 จะมีตัวควบคุม Magnetic Sensor มาให้อีกด้วย
ซึ่งเครื่องส่งเสียงจะอยู่บริเวณเพดานของโถงชั้น 2 นะคะ
ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับ Common Area ของบ้านก่อนค่ะ พื้นที่ตรงนี้มีขนาดประมาณ 2.2 x 4 เมตร ในบ้านตัวอย่างโครงการได้จำลองบรรยากาศให้ดูเป็นไอเดียได้ โดยหน้าห้องจะมีพื้นที่ว่างสามารถวาง Bean Bag มาให้นั่งเล่นสบายๆ พร้อมดูทีวีไปด้วยได้
ถัดเข้ามาก็ได้จำลองเป็นที่นั่งเข้ามุมแบบ Bay Window ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว ซึ่งสามารถแยกการใช้งานกับแขกด้านล่างได้นะคะ รวมถึงยังมีหน้าต่างที่สามารถระบายอากาศได้อีกด้วยค่ะ
มาดูกันที่ห้องนอนเล็กกันดูบ้าง สำหรับบ้านตัวอย่างจะมีการเปลี่ยนประตูทางเข้าห้องนอนเล็กทางซ้ายมือให้อยู่เข้าไปด้านใน แต่ในบ้านมาตรฐานประตูเล็กทั้ง 2 จะติดกัน (ตามเส้นปะสีแดง) ในเเง่การใช้งานเเล้วตามบ้านมาตรฐานที่ให้มาจะสะดวกกับการใช้งานมากกว่าค่ะ
เราขอเข้าไปดูที่ห้องนอนเล็กห้องเเรกใกล้บันไดที่สุดก่อน ซึ่งตำแหน่งห้องจะอยู่หลังบ้านโดยห้องนี้จะได้หน้าต่างมา 2 จุด ที่คั้นกลางด้วยผนังทึบ เรามองว่าการวางแบบนี้ทำให้จัดเฟอร์นิเจอร์ได้ง่าย เเละห้องไม่สว่างจ้ามาก เหมาะกับการพักผ่อน ห้องนี้จะมีขนาดอยู่ที่ประมาณ 3×3.55 เมตร
ภายในบ้านตัวอย่างได้วางเตียง 3.5 ฟุต มาให้ดูพื้นที่การใช้งานว่าจะมีพื้นที่เหลือรอบเตียงฝั่งหน้าต่างประมาณ 60 ซม. ซึ่งถ้าใครชอบเตียงขนาดใหญ่ ก็สามารถวางเตียง 5 ฟุต ชนิดผนังได้
ในห้องตัวอย่างก็จะจัดมุมตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ
เมื่อวางเตียงแล้ว จะเหลือพื้นที่หน้าตู้กว้างประมาณ 1.32 เมตร ทำให้เปลี่ยนเสื้อผ้าได้สะดวก รวมถึงตำแหน่งยังอยู่ใกล้ทางเข้าห้องน้ำ ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายค่ะ
ภายในห้องน้ำจะมีหน้าต่างบานกระทุ้งช่วยระบายความชื้นในห้องน้ำได้ดี มีการแบ่งเเยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งออกจากกันชัดเจน สุขภัณฑ์เป็นของ Cotto เช่นเดียวกัน
พื้นห้องน้ำลดระดับ 10 ซม. รูปแบบห้องน้ำสีเหลี่ยมผืนผ้ายาว พื้นที่ภายในห้องน้ำกว้างใช้งานได้สะดวก พื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดได้ง่าย
อ่างล้างมือและโถสุขภัณฑ์จะเหมือนกับห้องที่แล้วเลยนะคะ
พื้นที่ส่วนเปียกลดระดับพื้นมาให้ประมาณ 5 ซม. ถ้าใครกลัวน้ำกระเด็นออกไปที่อื่น เราแนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นหรือผ้าม่านเพิ่มเติมเองได้ ซึ่งห้องน้ำชั้นบนทั้งหมดทางโครงการ จะติดตั้ง Junction Box มาให้เรียบร้อยค่ะ
ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ LED Downlight 2 จุด
ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้อง ทางโครงการจัดเป็นไอเดียห้องนอนเด็กมาให้ดู ซึ่งของจริงจะมีขนาดเหมือนกับห้องที่แล้วเลยนะคะ สำหรับห้องนี้จะวางเตียงไว้ชิดริมเลย ทำให้มีพื้นที่ด้านข้างเหลือเยอะประมาณ 1.80 เมตร เด็กๆสามารถมานั่งเล่นกับพื้นได้สบายๆ
บริเวณปลายเตียงมีพื้นที่เหลือสามารถวางเป็นตู้เสื้อผ้าได้
ห้องนี้จะได้หน้าต่างเหมือนกับห้องที่แล้วเลยนะคะ แต่ในบ้านตัวอย่างมีการตกแต่งบังหน้าต่างของห้องค่ะ ตำแหน่งของหน้าต่างจะอยู่เหมือนกับในภาพเลยนะคะ
ซึ่งห้องนอนนี้จะมีห้องน้ำส่วนตัวเช่นเดียวกันค่ะ
ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ LED Downlight
ภายในห้องน้ำจะเหมือนกับห้องที่แล้วเลยนะคะ แต่จะแตกต่างกันที่สีกระเบื้องเล็กน้อย
พื้นห้องน้ำลดระดับ 10 ซม. รูปแบบห้องน้ำสีเหลี่ยมผืนผ้ายาว พื้นที่ภายในห้องน้ำกว้างใช้งานได้สะดวก พื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิคทำความสะอาดง่าย
พื้นที่ส่วนเปียกลดระดับพื้นมาให้ประมาณ 5 ซม. ซึ่งห้องน้ำติดตั้ง Junction Box มาให้เรียบร้อยค่ะ
ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 2 จุด
ถัดมาเราจะมาดูห้อง Master Bedroom กันค่ะ
มาดูที่ห้อง Master Bedroom กันบ้างค่ะ ห้องนี้จะตั้งอยู่ตำแหน่งหน้าบ้านเต็มความกว้างของหน้าบ้านเลย มีระเบียงภายในห้องด้วย เมื่อเข้ามาจะเจอกับทางออกไปยังระเบียงอยู่ด้านหน้า ทางซ้ายมือจากรูป จะเป็นตำแหน่งวางเตียงนอน ซึ่งปลายเตียงจะเป็นผนังทึบพอดี ทำให้เราสามารถติดตั้งทีวีหรือชั้นวางของได้ด้วย พื้นที่ตรงนี้จะมีขนาดประมาณ 3.3×4.5 เมตร
สามารถวางเตียงแบบ King Sizeได้สบายๆเลย มีหน้าต่างทางด้านข้างที่สามารถรับแสงภายนอกได้เต็มที่
เมื่อวางเตียงแล้ว จะเหลือพื้นที่ทางเดินรอบข้างและปลายเตียงกว้างพอสมควร อย่างฝั่งปลายเตียงมีระยะประมาณ 1.06 เมตร ซึ่งมีพื้นที่เหลือสามารถวางชุด Built in ได้สบายๆ ส่วนฝั่งที่ติดผนังมีระยะประมาณ 75 ซม. สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้อีกด้วย
บริเวณฝ้าเพดาน เป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมติดไฟ LED Downlight 4 ตำแหน่ง
ต่อมาเป็นประตูระเบียงเป็นบานเลื่อน UPVC พร้อมกระจกสีเขียวตัดแสงที่ช่วยลดความร้อนได้ดี
ธรณีประตูที่ค่อนข้างสูงเลยค่ะ ก่อขึ้นมาไม่ได้ลดระดับระเบียงลงไป ตรงนี้ช่วยให้น้ำฝนหรือฝุ่นไม่ปลิวเข้ามาภายในห้องเมื่อเปิด-ปิดใช้งานระเบียง
พื้นที่ระเบียงขนาด 1.50 x 0.90 ซม. เป็นระยะที่เดินไปมาได้สบาย พร้อมราวระเบียงกระจก มีโครงและมือจับเป็น UPVC สีเทาเข้ม เหมือนกันกับกรอบบานประตูเลยนะคะ
บริเวณหลังคาจะปูด้วยแผ่นฝ้าชายคาระบายอากาศ ซึ่งจะมีรูหรือช่องให้อากาศระบายผ่านเข้าออกได้ ที่จะช่วยระบายความร้อนบริเวณหลังคาได้ดี เป็นอีกช่องทางที่จะทำให้บ้านเย็นขึ้นด้วยนะคะ
กลับเข้ามาด้านในบริเวณหน้าห้องน้ำ มีพื้นที่วางขนาดใหญ่สามารถทำเป็น Walk-in Closet ที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าแนวยาว ส่วนด้านในก็วางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้อีกด้วย ซึ่งตำแหน่งนี้ทำให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวกทีเดียว เพราะไม่ต้องเดินผ่านบริเวณอื่นก่อนค่ะ
หลังจากวางเฟอร์นิเจอร์แล้วมีพื้นที่เหลือประมาณ 1.04 เมตร เป็นระยะที่เดินสวนกันไปมาได้สบายๆค่ะ
ฝ้าเพดานเป็นแบบฉาบเรียบทาสี พร้อมไฟ Downlight 3 จุด
มาดูที่ห้องน้ำของ master bedroom กันค่ะ พื้นที่จะมีขนาดใหญ่มากกว่าห้องที่แล้วๆ ภายในมีการแยกส่วนเปียกส่วนเเห้งจากกันชัดเจนดี
พื้นภายในห้องน้ำกว้าง พื้นและผนังเป็นกระเบื้องเซรามิค
เมื่อเข้ามาในห้องฝั่งซ้ายมือจะเป็นชุดอ่างล้างหน้าให้มาพร้อมกับกระจกเงา ในกรณีห้อง Master Bedroom ของบ้านทุก Type จะมี Built-in ชั้นวางของเพิ่มมาให้
ตัวอ่างล้างหน้าจะเป็นแบบฝังเข้าไปในเคาน์เตอร์ สามารถเก็บของได้ อ่างล้างหน้ายี่ห้อ Cotto ขนาดประมาณ 57×70 ซม. ซึ่งโดยรอบจะมีพื้นที่เหลือสามารถวางอุปกรณ์ล้างหน้าแปรงฟันบนเคาน์เตอร์ได้อีกด้วย
โถสุขภัณฑ์จะเป็นของ Cotto เช่นกันแต่ตัวรุ่นก็จะ Upgrade ให้แตกต่างจากห้องอื่นๆนะคะ
ส่วนภายในส่วนอาบน้ำจะได้เหมือนเดิมค่ะ มี Junction Box สำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เช่นเดียวกัน
ฝ้าเดานฉาบเรียบทาสีขาว พร้อมไฟ LED Downlight 2 จุด
แบบแปลน
สำหรับบ้านแปลน SHINE จะเป็นบ้านขนาดเล็กที่สุด มีพื้นที่ใช้สอย 175 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 53-59 ตร.วา มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.39 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5.59 ล้านบาท(14/10/2020)
เป็นบ้านย่อส่วนลงมาจากแบบ GLORIOUS เลย โดยจะแตกต่างกันที่ชั้นล่างจะไม่มีห้องนอนมาให้ รวมถึงที่จอดรถหน้ากว้าง 5.5 เมตร ทำให้จอดรถได้ 2 คันเท่านั้น ส่วนห้องนอนจะยกชึ้นไปชั้น 2 ทั้งหมด เพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน ซึ่งตำแหน่งการวางห้องจะเหมือนกัน แตกต่างกันที่ห้องนอนเล็กจะไม่มีห้องน้ำในตัว ถ้าจะใช้ห้องน้ำต้องออกมาใช้รวมกันด้านหน้าห้องแทนค่ะ
ถัดมาดูที่เป็นบ้าน Radiant กันบ้าง จะเป็นบ้านที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย มีพื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 54 ตร.วา มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท(14/10/2020)
จัดว่าเป็นบ้านที่ย่อส่วนลงมาจากแบบ LUMINANCE นะคะ โดยจะแตกต่างกันที่ชั้นล่างจะไม่มีห้องนอนแม่บ้านมาให้ ส่วนพื้นที่จอดรถจะมีหน้ากว้างเล็กลงประมาณ 6.5 เมตร ที่สามารถจอดรถขนาดใหญ่ 2 คันได้สบายๆ ส่งผลให้ภายในบ้านห้องนอนเล็กจะมีขนาดเล็กกว่า ส่วนที่ชั้น 2 จะไม่มีห้องนั่งเล่นมาให้ นอกนั้นฟังก์ชันอื่นๆยังอยู่ครบ คือสามารถอยู่อาศัยกัน 5-8 คนได้สบายๆ
ต่อมาเราจะมาดูบ้านหลังใหญ่ที่สุดของโครงการกับแปลนบ้าน LUMINANCE ที่มีพื้นที่ใช้สอย 255 ตร.ม. ตั้งอยู่บนที่ดินเริ่มต้น 63 ตร.วา มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
จุดเด่นคือมีห้องแม่บ้านมาให้ที่ด้านหลังบ้านใกล้กับพื้นที่ซักล้างและห้องครัว เพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ส่วนบันไดจะเปลี่ยนมาอยู่ตรงกลาง ทำให้เราสามารถแบ่งการใช้งานออกเป็นฝั่งซ้าย-ขวาได้ เริ่มกันที่ปีกขวาชั้นที่ 1 จะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นและห้องรับประทานอาหารต่อเนื่องกัน โดยบ้านหลังนี้จะมีหน้าต่างด้านข้างมาให้อีกด้วย ทำให้นั่งกินข้าวไปชมวิวไปได้ด้วย รวมถึงมีห้องน้ำแยกสำหรับแขกบริเวณใต้บันไดมาให้ด้วย ส่วนปีกซ้ายจะมีห้องนอน 1 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ที่สามารถวางเตียง King Size ได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เหลือสามารถวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานได้อีก โดยประตูทางเข้าห้องนั้นจะถูกบิดเล็กน้อย ทำให้ไม่เห็นพื้นที่ภายในห้องทั้งหมดตรงๆ ทำให้เป็นส่วนตัวเพิ่มมากขึ้น
ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่ Family Area ขนาดใหญ่ ที่มีทางออกไประเบียงได้ ซึ่งจะเป็นระเบียงที่เชื่อมกับห้อง Master Bedroom ซึ่งตำแหน่งห้องนี้จะวางไว้ที่ปีกฝั่งซ้ายมือทั้งหมด โดยห้องน้ำจะวางไว้หลังบ้าน ทำให้ระบายความชื้นได้ดี รวมถึงจะพิเศษมากกว่าแบบอื่นๆ เนื่องจากมีอ่างอาบน้ำเพิ่มเติมมาให้ ส่วนด้านหน้าห้องจะมีพื้นที่ทำ Walk in Closet โดยสามารถวางตู้เป็นรูปตัว U ได้ ซึ่งใช้งาน 2 คนได้สบายๆ ส่วนปีกขวาจะเป็นห้องนอนเล็ก ที่ตำแหน่งจะอยู่หน้าบ้านและหลังบ้าน ขนาดห้องทั้งสองเท่าๆกัน มีห้องน้ำในตัว และมีหน้าต่างทั้ง 2 ด้าน ทำให้สามารถระบายอากาศได้ดีค่ะ
ราคา
ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 8 May 2019 @ 14 October 2020
- บ้านเดี่ยว SHINE พื้นที่ใช้สอย 175 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
ราคาเริ่มต้น 5.39 ล้านบาทราคาเริ่มต้น 5.59 ล้านบาท(14/10/2020) - บ้านเดี่ยว RADIANT พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถคัน
ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาทราคาเริ่มต้น 6.19 ล้านบาท(14/10/2020) - บ้านเดี่ยว GLORIOUS พื้นที่ใช้สอย 227 ตารางเมตร 4ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 7.19 ล้านบาท
- บ้านเดี่ยว LUMINANCE พื้นที่ใช้สอย 255 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท
- Fully Fitted
- จองและทำสัญญา n/a บาท
- ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 48,836.63 บาท
- ค่าส่วนกลาง n/a บาท/ตร.วา/เดือน
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเล :
ทำเลของโครงการ Centro วงแหวน – จตุโชติ เป็นทำเลเปิดใหม่ที่เริ่มมีการพัฒนาโครงการแนวราบ สภาพแวดล้อมรอบๆโครงการจะค่อนข้างเงียบเพราะรอบๆยังเป็นที่โล่ง เหมาะกับคนที่ชอบความสงบหรือเป็นส่วนตัว ความอุดมสมบูรณ์ในระยะใกล้แบบที่เดินยังไม่มี ส่วนใหญ่จะเกาะที่ถนนหทัยราษฎร์ ซึ่งเหมาะกับการใช้รถยนต์มากกว่า หรือถ้าจะเป็นห้างใหญ่ๆส่วนมากจะอยู่บนถนนรามอินทรา ที่เราสามารถหลีกเลี่ยงรถติด
การเดินทาง :
การเดินทางโดยใช้รถเดินทางสะดวกสามารถเข้า-ออกได้ 2 เส้น ทั้งถนนหทัยราษฎร์ และถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก ถนนหน้าโครงการวิ่งสวนกันได้ รวมถึงยังใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนทั้ง 2 ทาง คือ ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ เอาไว้วิ่งไปเส้นลาดพร้าวได้ในระยะเวลาประมาณ 20 นาทีในช่วเวลาที่รถไม่ติด และถนนกาญนาภิเษกที่เอาไว้ใช้ไปโซนบางนา สนามบินสุวรรณภูมิหรือไปยังปทุมธานีได้ ทำเลนี้มีข้อดีที่รถไม่ติดเหมือนโครงการในซอยและถนนย่อยต่างๆ
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ระดับมาตรฐานทั่วไปในโครงการ มี CCTV เฉพาะทางเข้า-ออกโครงการ ได้รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร ทางเข้าโครงการมีทั้งประตูบานเลื่อน และไม้กั้น รวมถึงมีการแยกทางเข้า-ออก ระหว่างลูกบ้านและผู้มาติดต่อ เพื่อความสะดวก รวมถึงยังมีระบบ Access Card แบบ Easy Pass มาให้อีกด้วย
การวางผังโครงการ :
พื้นที่โครงการ 59-3-74.66 ไร่ จำนวน 246 ยูนิต โดยวางผังเป็นแนวยาวตอนลึกเข้าไป ถนนหลักของโครงการกว้าง 16, 12 เมตร ถนนรองกว้างประมาณ 9 เมตร มีทางเข้า-ออกจุดเดียว เพื่อความปลอดภัยของลูกบ้าน พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่บริเวณโซนด้านหน้า ข้อดีคือบ้านที่อยู่ในโซนด้านหน้าสามารถเดินไปใช้งานได้ง่าย ส่วนบ้านที่อยู่ในโซนด้านหลัง อาจจะต้องออกมาด้านหน้าซึ่งไกลหน่อย แต่จะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า ส่วนการวางผังโครงการด้านใน จะแบ่งเป็นซอยย่อยทำให้แต่ละซอยมียูนิตไม่มาก ข้อดีคือจะรถผ่านออกน้อย มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
การออกแบบ :
บ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ ที่มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก โครงการจะมีแบบบ้านให้เลือกถึง 4 แบบ ตั้งแต่ 175-255 ตร.ม. บ้านหลังใหญ่จอดรถในร่มได้ 3 คัน ตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอย พร้อมความสูง 2.60 เมตร ทำให้ภายในบ้านดูโล่งมากยิ่งขึ้น มีฟังก์ชันครบ โดยออกแบบให้ห้องน้ำทุกห้องติดกับพื้นที่ด้านนอก ทำให้มีหน้าต่างสามารถระบายอากาศได้ดี ได้ครัวปิดทุกแบบ เพื่อไม่ให้กลิ่นลอยเข้ามาในตัวบ้าน หน้าตาบ้านมีการออกแบบโดยใช้ไม้มาเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบหน้าบ้าน ทำให้ได้บรรยากาศธรรมชาติและดูอบอุ่นมากขึ้น รวมถึงบ้านตั้งแต่ RADIANT ขึ้นไปจะมีห้องนอนในชั้นล่างอีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ นอกจากนี้สำหรับบ้าน GLORIOUS จะมีห้องนั่งเล่นที่ชั้น 2 เพิ่มเติม ข้อดีคือสามารถแยกใช้งานสำหรับลูกบ้าน และแขกได้ เพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ
วัสดุ :
โครงการนี้มีการก่อสร้างแบบใช้อิฐมวลเบา ส่วนที่จอดรถเเละพื้นที่ซักล้างจะเป็นโครงสร้าง Slab on Ground ที่เเยกโครงสร้างกับตัวบ้านออกจากกัน เพื่อป้องกันการทรุดตัวที่ไม่เท่ากันเเละรอยร้าวที่อาจเกิดขึ้นได้ ส่วนรอยต่อระหว่างบ้านก็จะมีโรยหินกรวดตกแต่งมาให้เรียบร้อย พื้นภายในบ้านจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ส่วนห้องนอนจะได้เป็นพื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังติด Wallpaper มาให้เรียบร้อย ห้องครัวมีการก่อเคาน์เตอร์ให้ตั้งแต่แบบ Radiant ขึ้นไป ตัวบันไดจะเป็นโครงสร้างเหล็ก พื้นบันไดและมือจับจะเป็นไม้ยางพาราประสาน ประตูและหน้าต่างภายนอกได้เป็น UPVC สีเทาเข้มและกระจกเขียวตัวเเสง 6 มม. สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ในห้องน้ำจะเป็นของ COTTO และ PREMA ภายในบ้านทุกหลังจะมีระบบ Magnetic Sensor ไว้ให้กันขโมยค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
เน้นกระจายไว้ในโครงการเพื่อให้ลูกบ้านมาใช้งานได้ง่าย ตั้งแต่ทางเข้าโครงการจะมีต้นไม้ 2 ฝั่งข้างทางเพื่อความสวยงาม บริเวณซุ้มประตูจะมีน้ำพุและพื้นที่สีเขียวขนาบข้าง รวมถึงภายในโครงการจะให้สวนหย่อมมา 2 จุด ที่รวมกันแล้วประมาณ 2 ไร่
สาธารณูปโภค :
โครงการมี Clubhouse ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ , Lobby , Kid’s room , Co-working Space , Fitness และสวนสาธารณะขนาดรวมเเล้วประมาณ 2 ไร่ โดยโซนด้านหน้า จะมีข้อดีคือใกล้ Clubhouse ที่อยู่หน้าโครงการ ทำให้ใช้งานได้สะดวก ในขณะที่โซนด้านในจะได้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 5.39 -7.99 ล้านบาท, 8 May 2019 5.59-9 ล้านบาท, 14 October 2020
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – อยู่ในซอยวงศกร 1 ที่เชื่อมกับถนนหทัยราษฎร์และคู่ขนานกาญจนาภิเษก ใกล้ทางด่วน 2 เส้น
- ความปลอดภัย 8.0/10 – ทางเข้าโครงการมีรั้วไม้กั้นกระดกและประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ ตัวบ้านติดตั้ง Magnetic Censor
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.75/10 – มีให้เลือกหลายแบบ ตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอย มีฟังก์ชันการใช้งานครบ
- วัสดุ 7.75/10 – ได้ตามมาตรฐานของระดับนี้
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 7.75/10 – ถนนภายในกว้าง สวนหย่อมขนาดใหญ่ และกระจายในโครงการ ทำให้ใช้งานได้ทั่วถึง
- สาธารณูปโภค 8.25/10 – ให้มาครบ ขนาดเหมาะสมกับจำนวนยูนิต
- 7.74 / 10.00
BOTTOM LINE
Centro วงแหวน – จตุโชติ เหมาะสำหรับคนที่มองหาบ้านเดี่ยว 2 ชั้นในทำเลจตุโชติ ที่มีหลากหลายขนาดให้เลือก ตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอย มีห้องนอนชั้นล่าง จอดรถในร่ม 2-3 คัน มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานครบ รวมถึงราคาน่าสนใจถ้าเทียบกับขนาดที่ได้ มีงบประมาณ 5-8 ล้าน หรือมีกำลังผ่อนต่อเดือน 35,000-70,000 บาท-