Delight @ Scene วัชรพล-จตุโชติ บ้านเดี่ยว 2 ชั้นติดจุดขึ้น-ลงทางด่วนด่านจตุโชติ จากพฤกษา [รีวิวฉบับที่ 801]

รีวิวฉบับที่ 801 สวัสดีค่า วันนี้จะพาไปชมโครงการ Delight @ Scene วัชรพล-จตุโชติ บ้านเดี่ยวสไตล์ Tropical Modern ตั้งอยู่บนถนนจตุโชติ ใกล้กับจุดขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ด่านจตุโชติ และใกล้กับจุดบรรจบกับวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ที่สามารถออกไปยังนอกเมืองได้ทั้งลำลูกกา รังสิต จนถึงอยุธยา หรือจะเข้าเมืองไปยังมักกะสัน ลาดกระบัง หรือสนามบินสุวรรณภูมิ ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีบ้านทั้งหมด 3 แบบ บนที่ดินเริ่มต้น 54.4 ตารางวา ในราคาเริ่มต้น 4.77 ล้านบาท

Facts @ 10 March 2015

• Delight @ Scene วัชรพล-จตุโชติ (ดีไลท์ แอทซีน วัชรพล-จตุโชติ)
• Developer : บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จํากัด (มหาชน)
• Segment : MAIN-UPPER CLASS (อ่านรายละเอียดของ Segment บ้านได้ที่นี่)
• โครงการตั้งอยู่ในเขต : สายไหม
• เนื้อที่โครงการ 73-1-70.75 ไร่ จำนวน 291 ยูนิต
• บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 แบบ รวม 291 หลัง
• The Mist ขนาดที่ดิน 54.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. หน้ากว้าง 10 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• The Forest ขนาดที่ดิน 61.6 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. หน้ากว้าง 12 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• The Arise ขนาดที่ดิน 76.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 232 ตร.ม. หน้ากว้าง 14 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• ที่ดินแปลงมาตรฐาน 54.4, 61.6 และ 76.3 ตร.วา
• ที่ดินเพิ่มลด ตารางวาละ 58,000 บาท
• ราคาเริ่มต้น 4.77 ล้านบาทหรือ 87,700 บาท/ตร.วา
• โครงการเริ่มก่อสร้าง ต้นปี 2558
• คาดว่าแล้วเสร็จทั้งโครงการ ต้นปี 2560
• http://www.pruksa.com/บ้านเดี่ยว?search_by_type_project=1&project_brand=37
• โทร 1739

เพียงแค่การกด Like ก็เท่ากับการสนับสนุนข้อมูลเชิงลึกจาก Think of Living แล้วค่ะ

สามารถเลือกอ่านตามหัวข้อต่างๆได้โดยกดปุ่มด้านล่างนะ

• ทำเล
• โครงการ
• ห้องตัวอย่าง
• สรุป

เจาะลึกเรื่องทำเลที่ตั้ง

พิกัด : 13.900476, 100.688075

ที่ตั้งของโครงการ Delight @ Scene วัชรพล-จตุโชติ ตั้งอยู่บนถนนจตุโชติมุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก โครงการอยู่ทางซ้ายมือ โดยอยู่ระหว่างจุดตัดถนนจตุโชติกับถนนสุขาภิบาล 5 และถนนกาญจนาภิเษก ใกล้กับทางขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ด่านจตุโชติ ใกล้กับทางเชื่อมไปยังวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก หรือทางพิเศษหมายเลข 9

Delight @ Scene วัชรพล-จตุโชติ ตั้งอยู่ในเขตสายไหม ตัวโครงการอยู่ติดกับถนนจตุโชติ เป็นทางเข้า-ออกทางเดียวของโครงการ ถนนจตุโชติถือว่าเป็นถนนเส้นที่แยกออกมาจากถนนสุขาภิบาล 5 ที่สะดวกในการเดินทางเข้าเมือง หรือใช้เส้นวัชรพลแล้วมาออกถนนรามอินทราเข้าถนนพหลโยธินก็ได้ ความสามารถของทำเลไปได้ทั้งรังสิต ลำลูกกา รามอินทรา บางนา ส่วนปัญหาทั้งขาเข้าและขาออกเมืองคือการจราจรค่อนข้างติดขัดทั้งเส้นพหลโยธินและสุขาภิบาล 5 รวมถึงเส้นวัชรพลและรามอินทรา โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน ส่วนเส้นทางเข้าถึงโครงการที่สะดวกมากๆอีกทางหนึ่งคือจากทางด่วน ที่มีทางลงอยู่ก่อนถึงโครงการเพียง 500 เมตร

ความอุดมสมบูรณ์ของย่านนี้มีพอสมควร ตามสองข้างทางตลอดถนนเพิ่มสินมีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆให้เห็นเป็นระยะ พอให้เราได้พึ่งพาอาศัยได้ไม่ต้องขับออกมาไกลมากๆ แต่ร้านก็ธรรมดาๆจะไม่หรูหราแบบในเมือง ส่วนตลาดใกล้ๆก็จะมีตลาดออเงิน และตลาดวงศกรตรงเส้นสุขาภิบาล5 ถัดมาอีกหน่อยมี Big C Market เป็น Community Mall เล็กๆ ถ้าไปเส้นพหลโยธินก็จะมีตลาดยิ่งเจริญเป็นตลาดชื่อดังย่านนี้เลย ส่วนถ้าจะเดินห้างเย็นๆ มี Lotus วัชรพล , Lotus หลักสี่ , Big C สะพานใหม่ , เซ็นทรัล พลาซ่า รามอินทรา ระยะทางประมาณ 5-12 กิโลเมตร

ความสามารถในการเดินทางที่เป็นจุดเด่นของทำเลโครงการเลยคือใกล้กับทางขึ้นลงทางด่วนมาก โดยทางลงทางด่วนด่านจตุโชติห่างกันโครงการไม่เกิน 500 เมตร แล้วเบี่ยงซ้ายออกมายังถนนจตุโชติมุ่งหน้าวงแหวนรอบนอกตะวันออก โครงการอยู่ทางซ้ายมือ ส่วนการขึ้นทางด่วนนั้น เพียงออกจากโครงการ ไปกลับรถที่จุดยูเทิร์นใต้ทางด่วนมายังถนนจตุโชติอีกด้านหนึ่ง จะมีทางเบี่ยงขวาไปยังด่านเก็บเงินจตุโชติ

ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์มีจุดเชื่อมต่อไปยังวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก หรือ ถนนกาญจนาภิเษก ชื่อเต็มๆเลยคือ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 9 เพียงขับรถไปตามเส้นทาง ถ้าขึ้นเหนือ สามารถไปถึงปทุมธานี อยุธยา หรือว่าจะเข้าเมืองด้วยการลงใต้ไปยังถนนเพชรบุรี  ส่วนถ้าไปทางตะวันตกบนทางด่วนจะผ่านแยกวัชรพลไปยังลาดพร้าวและพระรามสี่

ส่วนเส้นทางที่เราจะพาไปในวันนี้คือเส้นทางแนวราบ มาจากถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าที่ถนนวัชรพลไปตามทางแล้วเข้าซอยลัด ก่อนจะถึงแยกวัชรพล แล้วตรงไปเรื่อยๆตามถนนสุขาภิบาล 5 ยาวๆ 4 กิโลเมตร จนไปเลี้ยวขวาเข้าที่ถนนจตุโชติ ตรงไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

เร่ิมต้นการเดินทางกันที่ถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรี เป็นถนน 8 เลน สวนกันฝั่งละ 4 เลน มีเกาะกลางและไฟที่ถนน มีปริมาณรถมากตลอดวัน ฝั่งซ้ายด้านหน้ามี Foodland สาขารามอินทราตั้งอยู่ ส่วนใหญ่สิ่งปลูกสร้างบนถนนใหญ่รามอินทราเป็นประเภทตึกแถว หรือเปิดเป็นสถานที่บริการอย่างร้านอาหาร ศูนย์บริการลูกค้า และปั้มน้ำมัน

ตรงไปเรื่อยๆบนถนนรามอินทราจะมีทางลัดไปยังถนนสุขาภิบาล 5 ในซอยซ้ายมือ ซอยรามอินทรา 39 มีร้านค้าคึกคักมากขึ้น เป็นที่จับจ่ายใช้สอยย่อยๆ แต่เดี๋ยวเราจะตรงไป พาไปชมทางเดินรถหลักกันต่อ

ฝั่งซ้ายมือคือการเคหะ เคหะชุมชนรามอินทรา มีป้ายรถเมล์อยู่ทั้งสองข้างทาง และสะพานลอยคนข้ามอยู่เรื่อยๆ

ตรงมาเรื่อยจนเกือบถึงแยกรามอินทรา จะมีป้ายบอกทางคือตรงไปมุ่งหน้ามีนบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนวัชรพล ถ้าขึ้นสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายจะขึ้นวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก และถ้าขึ้นสะพานแล้วแยกขวาไปจะเป็นทางด่วนไปยังพระราม 9-เอกมัย หรือบางนา-ดาวคะนอง

ขับมาเรื่อยๆจะถึงทางแยก เราจะเบี่ยงซ้ายตรงนี้เพื่อเข้าต้นถนนวัชรพล ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเข้าซอยรามอินทรา 47

บนถนนวัชรพลจะเริ่มบีบความกว้างของถนนเหลือฝั่งละ 2 เลน มีป้ายบอกทางขึ้นทางด่วนและสะพานลอยสำหรับคนขึ้นรถเมล์ทั้งสองฝั่ง

ตามทางมาเรื่อยๆจะมีป้ายอีกเช่นกัน ว่าถ้าเลี้ยวซ้ายไปตามทางจะยังอยู่บนถนนวัชรพล หากกลับรถจะสามารถแก้ตัวไปยังถนนมีนบุรีได้หากเลี้ยวผิด และป้ายทางลัดเข้าถนนสุขาภิบาล 5

มาดูทางแยกกันใกล้ๆ ทางซ้ายยังอยู่บนถนนวัชรพล ตรงไปจะเป็นทางแยกเช่นกันว่าจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวัชรพล หรือเลี้ยวขวาเพื่อกลับไปยังแยกเมื่อสักครู่ และทางกลับรถด้านขวาคือกลับไปทางถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรี

เราเลี้ยวซ้ายตามทางมาเรื่อยๆจนอยู่บนถนนวัชรพลมุ่งหน้าแยกวัชรพลแล้วค่ะ สภาพถนน 4 เลน ข้างละ 2 เลน ไม่มีเกาะกลาง มีทางเดินเท้ากว้างๆอยู่ทั้งสองข้างทาง ฝั่งซ้ายมือถือ Tesco Lotus วัชรพล เราจะตรงไปเรื่อยๆตามทาง

ตรงมาจะเจอเสถียรธรรมสถานอยู่ทางซ้ายมือ มีทางม้าลาย ปริมาณรถวิ่งเรื่อยๆ ด้านขวาสิ่งปลูกสร้างเป็นตึกแถวสูง 3-4 ชั้น ด้านล่างเปิดเป็นร้านบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเปิดเป็นที่จอดรถของบ้านพักธรรมดา เพราะไม่ใช่พื้นที่ชุมชน

ตรงมาเรื่อยๆจนถึงสามแยก ถนนด้านหน้าที่ตัดขวางก็เป็นชื่อถนนวัชรพล เราจะเลี้ยวขวากันที่ตรงนี้

เมื่อเลี้ยวขวามาแล้วจะเจอตลาดวัชรพล มีปั้มน้ำมันและร้านขายของ ตรงไปเรื่อยๆจะเริ่มเป็นเขตชุมชนที่ถนนแถวนี้นิยมมาจับจ่ายใช้สอยกันแล้วค่ะ

เลยตลาดวัชรพลมาก็เป็นตลาดถนอมมิตร เร่ิมมีความเป็นชุมชนมากขึ้น มีร้านรวงเปิดให้บริการมากมาย มีป้ายทางลัดทางด้านขวาเข้าซอย ตัดไปยังถนนสุขาภิบาล 5 เลี่ยงรถติดที่แยกวัชรพล เราจะเลี้ยวซ้ายกันตรงนี้เข้าซอยทางลัดกันค่ะ

หลังจากเลี้ยวเข้ามาในซอยทางลัดจะเจอสะพานข้ามคลอง ถนนเป็นแบบ 2 เลนสวนกันได้แบบพอดีๆ รอบข้างส่วนใหญ่เป็นร้านอาหารขนาดเล็ก บ้านพักอาศัย และที่ดินว่างเปล่า

มาถึงปากทางออกของทางลัดเป็นทางสามแยก ด้านหน้าเป็นถนนสุขาภิบาล 5 เราจะเลี้ยวขวาเข้ามุ่งหน้าแยกวัชรพล

ตรงมาตามถนนสุขาภิบาล 5 จะมีถนนวัชรพลตัดอยู่ที่ด้านหน้า ทางยกระดับที่เห็นคือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์

มุ่งหน้าเข้าห้าแยกวัชรพล ตามป้ายคือเลี้ยวซ้ายไปยังถนนพหลโยธิน เลี้ยวขวากลับไปที่ถนนรามอินทรา หรือตรงไปไปยังถนนสายไหม โดยมีอีกป้ายบอกทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ

มาถึง 5 แยกวัชรพล เราจะตรงไปบนถนนสุขาภิบาล 5

บนถนนสุขาภิบาล 5 เป็นถนน 4 เลนสวนกันอย่างละ 2 เลน สองข้างทางเร่ิมไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้าง ส่วนใหญ่เป็นที่ว่างเปล่า และอาคารชั้นเดียวแบบสร้างเอง

ตรงมาเรื่อยๆจะเจอการก่อสร้างสะพานข้ามแยก เราจะเบี่ยงซ้ายไปตามทาง เลียบข้างสะพานข้ามแยกไปเรื่อยๆ

ทางเลี้ยวซ้ายจะแยกไปทางโรงพยาบาลเซ็นทรัลเยนเนอรัล ตรงไปเป็นถนนสุขาภิบาล 5 เรื่อยๆ จะเห็นว่าถนนยังไม่ค่อยเรียบร้อย เพราะยังอยู่ในช่วงก่อสร้างค่ะ

หลังจากเลียบสะพานข้ามแยกมาแล้วก้ยังอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 เช่นเคย ตรงไปซ้ายมือจะมีทางขึ้นทางด่วนไปยังถนนกาญจนาภิเษก และบางนา-ดาวคะนอง หรือตรงไปมุ่งหน้าสายไหม

ขึ้นสะพานข้ามแยกกันอีกสะพานหนึ่ง มุ่งหน้าสายไหม

ตรงมาเรื่อยๆจนมาอยู่ที่ถนนสุขาภิบาล 5 บนถนน 4 เลนสวนกันไปมา ทางด้านขวามือเป็น BigC Market เป็น Community Mall ที่ใกล้ที่สุดของโครงการ มีร้านอาหารอยู่บ้าง รวมไปถึงร้านค้าต่างๆ

ฝั่งซ้ายคือตลาดสดออเงิน, mini BigC และ 7-11 มีสะพานข้าม และป้ายรถเมล์อยู่ถัดไปจากสะพานลอย ตรงจุดนี้ถือว่าคึกคักในย่านนี้

จากทางแยกไฟเขียวไฟแดงด้านหน้า เราจะเลี้ยวขวาเข้าถนนจตุโชติกันค่ะ

ถนนจตุโชติถือเป็นถนนขนาดไม่ใหญ่มาก เป็นทางผ่านระหว่างทางขึ้น-ลงทางด่วนด่านจตุโชติและถนนสุขาภิบาลๆ 5 ทำให้ปริมาณรถมีเรื่อยๆตลอดวัน แม้สองข้างทางจะไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างสำคัญๆ ส่วนใหญ่จะเป็นออฟฟิสเล็กๆ หรือพื้นที่ว่างเปล่า

ตรงมาเรื่อยๆก็ยังเหมือนเดิมคือไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างมาก จากแยกขวามือที่เลี้ยวเข้ามาบนถนนจตุโชติ เราจะตรงมาเรื่อยๆ กว่าจะถึงโครงการก็ 2.5 กิโลเมตรนะคะ

ตรงมาเรื่อยๆ ซ้ายมือเป็นโครงการวรารมณ์ มีทางลงทางด่วนอยู่ด้านซ้าย สามารถเลือกอยู่บนถนนจตุโชติมุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษก หรือจะเลี้ยวออกไปยังสามแยกที่ตัดกับถนนสุขาภิบาล 5 เมื่อกี้

ตรงมาเรื่อยๆด้านหน้าเป็นทางที่ถนนจตุโชติและทางลงทางด่วนมาบรรจบกัน ทันเข้าโครงการพอดี

ตรงมาอีกนิดเดียว ซ้ายมือจะเป็นทางเข้าโครงการ มีป้ายติดบอกทางเรียบร้อย

ทางเข้าโครงการ แบ่งออกเป็น 2 ช่องทางเข้า-ออก มีสะพานข้ามคลองเล็กๆก่อนถึงซุ้มโครงการ

มาดูรอบๆโครงการกันหน่อยนะคะ บนถนนจตุโชติมุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษกมีหมู่บ้านจัดสรรจับจองอยู่หลายเจ้าก่อนหน้า ทำให้สองข้างทางเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบซะเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น ส่วนตัวถนนจตุโชติหน้าโครงการเป็นถนน 2 เลนขนาดกว้างๆ ส่วนกันได้สะดวก มีรถผ่านไปมาเยอะพอสมควร ที่พิเศษขึ้นมาคือทางขึ้น-ลงทางด่วนด่านจตุโชติที่อยู่หน้าโครงการ นอกนั้นก็เป็นพื้นที่ว่างเปล่ารอการพัฒนา โดยมีเส้นทางคลองหน้าโครงการวิ่งไปเรื่อยๆตามรูปร่างแปลงที่ดิน

**รูปนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เห็นภาพรวมของโครงการแบบคร่าวๆไม่สามารถใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการได้นะคะ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

• โรงเรียนนวมินทราชินูญทิศเบญจมราชาลัย 2.8 กิโลเมตร
• สำนักงานเขตสายไหม 3.2 กิโลเมตร
• โรงเรียนนานาชาติไทย – อเมริกา 3.5 กิโลเมตร
• BigC Market 4.2 กิโลเมตร
• วัดอยู่ดีบำรุงธรรม 4.5 กิโลเมตร
• ตลาดวงศกร 5.7 กิโลเมตร
• โรงเรียนสาสน์วิเทศสายไหม 6.2 กิโลเมตร
• โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภช 6.2 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลสายไหม 6.2 กิโลเมตร
• วัดพระยาสุเรนทร์ 6.3 กิโลเมตร
• ซาฟารีเวิลด์ 7.2 กิโลเมตร
• ตลาดวัชรพล 7.5 กิโลเมตร
• เสถียรธรรมสถาน 8 กิโลเมตร
• แฟชั่นไอซ์แลนด์ 9.1 กิโลเมตร
• เซ็นทรัล พลาซ่า รามอินทรา 13.5 กิโลเมตร
• สนามบินดอนเมือง 14 กิโลเมตร

 

เจาะลึกตัวโครงการ

ทางเข้าโครงการ Delight @ Scene วัชรพล-จตุโชติ นั้นใหญ่โตมากๆค่ะ ถนนหน้าโครงการกว้างถึง 19 เมตร ฝั่งซ้ายของซุ้มทางเข้าโครงการ คือป้ายชื่อโครงการ ส่วนฝั่งขวาคือทางเข้า-ออกรถ แบ่งช่องทางเดินรถชัดเจน มีป้อมพี่ยามคั่นอยู่ตรงกลางเพื่อดูแลระบบรักษาความปลอดภัย

หันออกมายังทางเข้าโครงการที่มาจากถนนจตุโชติกันบ้าง มีสะพานข้ามคลอง มีไม้พุ่มเล็กๆเป็นเกาะกลาง สองฝั่งซ้ายขวา Landscape ตกแต่งด้วยพื้นที่สีเขียว

กลับมาที่ป้อมยามกันบ้างนะคะ ซุ้มทางเข้าเป็นลายไม้สีน้ำตาลอ่อนความสูงไม่น้อยกว่า 5 เมตร ที่เพดานมีไฟติดห้อยลงมาเพื่อเปิดเวลากลางคืน ทางเข้ารถมีจุดสแกนบัตร Key Card Access ระยะใกล้ เพื่อยกไม้กั้นอัตโนมัติขึ้น

ฝั่งซ้ายเป็นจุดแสกนบัตร Key Card Access ระยะใกล้ที่ยังไม่ได้ใส่เครื่องจริงๆนะคะ แค่วางตำแหน่งเฉยๆ ตอนนี้ยังใช้ระบบคนนอกใช้บัตรประชาชนหรือใบขับขี่แลกเป็นบัตรโครงการที่ต้องประทับตราไปก่อน ส่วนรูปด้านขวาเป็นกล้องวงจรปิดที่จับไปที่ทะเบียนรถและหน้าต่างคนขับ

ด้านหน้าเป็นไม้กั้นอัตโนมัติ ด้านหลังคือรั้วประตูเลื่อนสูง 2.5 เมตร กั้นอีกทีเป็นขั้นที่ 2 ก่อนจะเข้าสู่ตัวโครงการ

รั้วประตูเลื่อนเป็นแบบ 2 ชั้น สามารถเลื่อนเก็บไว้ที่ด้านข้างซุ้มทางเข้า

ผ่านระบบรักษาความปลอดภัยกันมาแล้วก็มาถึงส่วนภายในโครงการกันค่ะตรงไปจะเป็นถนนใหญ่กว้าง 16 เมตร เพื่อเข้าไปยัง Sales Office, บ้านตัวอย่าง, Clubhouse และบ้านพักอาศัยจริงๆ ส่วนด้านขวาตรงต้นไม้ใหญ่เป็นที่จอดจักรยานและมอเตอร์ไซค์ โดยมีรั้วโปร่งกั้นพื้นที่กับคลองข้างโครงการ ด้านขวาที่เป็นพื้นไม่ได้เทคอนกรีตเรียบคือ ทางเข้า-ออกของพื้นที่ก่อสร้าง เป็นทาง Service สำหรับรถขนส่ง รถผู้รับเหมา กล่าวคือจะมีการก่อสร้างโดยเข้าไปทางถนนฝั่งซ้าย พร้อมๆกับการดำเนินการขายโดยเข้าทางด้านขวาในเวลาเดียวกัน

ส่วนที่ไม่ได้เทคอนกรีตเรียบเป็นทาง Service ของส่วนก่อสร้างตรงลึกเข้าไป ส่วนหลังรั้วทึบด้านซัายเป็นบ้าน 3 หลังที่อยู่คนละแปลง คนละเจ้าของ แต่ทาง Developer ได้สร้างบ้านให้เพื่อรักษาความเรียบร้อยของพื้นที่รอบโครงการ

พื้นที่จอดจักรยานและมอเตอร์ไซค์ข้างต้นไม่ใหญ่

มาถึงตรงถนนกลางกันบ้างค่ะ อย่างที่กล่าวไปว่ากว้างถึง 16 เมตร บ้านที่เห็นอยู่ทางซ้ายมือคือบ้านตัวอย่าง มีพื้นที่สีเขียวต้อนรับอยู่ทางด้านหน้า และรั้วโปร่งหันหน้าออกไปคือถนนจตุโชติอยู่ทางด้านซ้าย

บ้านตัวอย่าง 3 หลัง ตั้งแต่หลังเล็กสุด The Mist ทางด้านซ้าย ไล่มาเป็นหลังกลาง คือ The Forest และหลังขวาสุดที่เปิดเป็น Sale Office อยู่บนพื้นที่ชั้นล่างคือหลังที่ใหญ่ที่สุดคือ The Arise เดี๋ยวเราจะพาไปชมภายในบ้านกันที่ช่วง Product Walkthrough นะคะ ตอนนี้เดินดูพื้นที่ในโครงการกันต่อ

เราชะโงกหน้าออกมายังรั้วโปร่งที่อยู่โครงการทางด้านซ้ายนะคะ มองย้อนไปทางหน้าโครงการ จะเห็นซุ้มโครงการและต้นไม้ใหญ่ ด้านข้างของแปลงพื้นที่โครงการคือคลองขนาดเล็กที่มีผักตบชวาบ้างผักอื่นๆบ้างลอยอยู่บนน้ำ

มองลึกเข้ามาข้างโครงการอีกด้านหนึ่งก็ยังเป็นคลองไปเรื่อยๆตามพื้นที่แปลง ด้านหน้าเป็นพื้นที่ว่างเปล่าข้างถนนจตุโชติ และมองไกลๆจะเห็นวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออกที่เชื่อมต่อกับทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์หน้าโครงการ

เดินเรื่อยๆเข้ามาจะเจอพื้นที่ก่อสร้างของ @ Scene Club หรือ Club House ของโครงการนั้นเอง ส่วนกลางยังอยู่ในช่วงเร่ิมก่อสร้างนะคะ ไว้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจะพามาอัพเดตอีกทีหนึ่ง

พามาดูส่วนทางเข้าของ Club House มีรถบรรทุกส่งของและกองทรายกันอยู่ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนผูกเหล็กเพื่อเตรียมเทพื้นค่ะ

ภาพบรรยากาศจำลองเมือง Clubhouse เสร็จจะออกมาประมาณนี้ มีสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 5.7 x 19.3 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร พร้อมพื้นที่ข้างสระที่เป็นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor และอาคารทางซ้ายมือเป็นแบบ 2 ชั้น มีพื้นที่นั่งเล่นอยู่บนชั้นล่าง และห้องออกกำลังกาย ขนาด 5.80 x 6.55 เมตร อยู่บนชั้น 2

กลับมาต่อที่ถนนหลักค่ะ เลี้ยวซ้ายไปจะเป็นทางเข้าบ้านตัวอย่างทั้ง 3 หลัง ตรงไปจะเป็นทางเข้าของซอยต่างๆของบ้านพักอาศัยจริง

บ้านตัวอย่าง 3 หลัง ที่เป็น Sales Office และรถกอล์ฟรับ-ส่ง

เราตรงเข้ามาดูบ้านจริงกันที่ด้านในนะคะ ทางซ้ายคือซอยย่อยเพื่อเข้าบ้านพักอาศัย ทางโครงการนี้จะเปิดการขายพร้อมการโอนไปเรื่อยๆ ไล่ตั้งแต่ส่วนหน้าโครงการไปยังส่วนหลัง ตอนนี้บ้านพักที่พร้อมโอน 7 หลังแรกในซอยแรกนี้ กำลังจะโอนได้ภายในเดือนหน้า และจะทยอยโอนไปเรื่อยๆเมื่อสร้างและเก็บความเรียบร้อยสมบูรณ์

ซอยแรกบ้าน 7 หลังที่กำลังจะพร้อมโอน ปลูกสร้างลงต้นไม้เรียบร้อย กำลังอยู่ในช่วงเก็บความเรียบร้อยขั้นสุดท้าย มีทางเดินเท้าข้างถนนภายในโครงการ เสาไฟฟ้าที่ดึงจากถนนภายในโครงการเข้าไปยังบ้านต่างๆทางหน้าบ้าน มองไปที่สุดซอยจะเป็นกำแพงกั้นระหว่างบ้านพักหลังริมและถนน Service ของส่วนก่อสร้าง

ภาพใกล้ๆของบ้านที่กำลังจะโอนค่ะ สภาพเรียบร้อยสมบูรณ์ดี

ส่วนด้านในก็จะเป็นส่วนที่ยังก่อสร้างกันอยู่ มีรั้วกั้นและพื้นที่ยังไม่ได้เทคอนกรีตเรียบ ไม่แน่ใจเช่นกันว่าหลังจากการโอนแล้วจะต้องมีการตกแต่งภายใน กินเวลาซักระยะหนึ่งแล้วจึงเข้าอยู่ แต่ด้วยสภาพโครงการที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี ทั้งส่วนกลาง Clubhouse และการก่อสร้างบ้านพักที่เหลือบนพื้นที่ด้านหลัง จะทำให้ลูกบ้านส่วนหนึ่งที่โอนไปก่อนแล้วจะเข้ามาอยู่จะทำให้สภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยน่าอยู่รึเปล่า เพราะยังมีลูกค้าบางส่วนแวะเวียนเข้ามาชมโครงการ ทำให้ความเป็นส่วนตัวก่อนโครงการจะสร้างเสร็จน้อยลงไประยะหนึ่ง

แอบพามาดูด้านในหลังประตูกั้นค่ะ การก่อสร้างเป็นแบบ Pre-Cast คือการทำผนังมาแล้วจากโรงงาน มาต่อกันที่ไซท์โครงการให้เป็นรูปเป็นร่าง แล้วจึงตกแต่งส่วนหน้าต่าง ประตูและช่องเปิดต่างๆทีหลัง ทำให้งานก่อสร้างเร็วขึ้น ทันใจลูกบ้าน จะได้โอนและเข้าอยู่ได้เร็วๆค่ะ กำหนดเสร็จสมบูรณ์ของโครงการอยู่ที่ต้นปี 2560

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• @ Scene Club House
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ ขนาด 5.7 x 19.3 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร
• ห้องออกกำลังกาย 1 ห้อง ขนาด 5.80 x 6.55 เมตร
• สวนสาธารณะ 2-1-92.89 ไร่
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการรวม 46 จุด
• รั้วรอบโครงการสูงรวมรั้วโปร่งต่อเพิ่มสูง 2.5 เมตร
• Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
• Key Card Access ระยะใกล้
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการมีทั้งแบบรั้วกั้นไม้กระดกใช้ในช่วงกลางวัน และแบบเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอนใช้ช่วงกลางคืน
• ถนนทางเข้าโครงการกว้าง 19 เมตร ถนนหลักกว้าง 16 เมตร และถนนภายในซอยกว้าง 9 เมตร

 

Product Walkthrough

บ้านเดี่ยวของโครงการนี้จะมีทั้งหมด 3 แบบนะคะ แบบแรกที่เป็นบ้านตัวอย่างด้วยคือ The Mist เป็นบ้านขนาดเล็กที่สุด เป็นแบบที่มีจำนวนยูนิตเยอะที่สุด ขนาดที่ดินเริ่มต้น 54.4 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 165 ตร.ม. หน้ากว้าง 10 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ  ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถ รอบบ้านตกแต่งด้วยหญ้าจริง ไม้พุ่ม และไม้ยืนต้นรอบตัวบ้าน สามารถเข้าถึงตัวบ้านได้จากหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นส่วนจอดรถเปิดเข้าตัวบ้านจะเจอส่วนกลางบ้าน ใกล้ครัวฝรั่งและห้องน้ำชั้น 1 ส่วนประตูหน้าบ้านหลักเปิดไปเจอห้องรับแขก และส่วนหลังบ้านจากลานซักล้างจะเจอครัวไทย โดยช่องเปิดรอบบ้านก็ยังมีอยู่เป็นหน้าต่างธรรมดาจากห้องทำงาน หรือบานเลื่อนเปิดหน้าบ้านจากห้องทานข้าว มีบันไดอยู่กลางบ้านเป็นตัวแบ่งพื้นที่ 

บนชั้น 2 เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอพื้นที่นั่งเล่นอยู่ซ้ายมือมือ นอกนั้นแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอน 3 ห้องโดยห้องนอนใหญ่จะอยู่ด้านขวา มีพื้นที่เยอะหน่อยสำหรับวางโซฟาหรือโต๊ะทำงานข้างเตียง มีห้องน้ำในตัว และมีระเบียงออกไปยังหน้าบ้าน ส่วนทางเดินด้านซ้ายมีห้องนอนเล็ก และกลาง ห้องเล็กจะไม่ติดกับห้องน้ำ แต่ห้องนอนกลางสามารถเข้าถึงห้องน้ำได้เลย แต่มีประตูอีกบานที่สามารถเปิดเข้าได้จากส่วนนั่งเล่นบนชั้น 2 ทั้งสองห้องไม่มีระเบียงเป็นของตัวเอง

ภายนอกของบ้านแบบ The Mist จะเน้นดีไซน์เรียบง่าย ตกแต่งด้วยสีครีม-ขาว ตัดด้วยกระจกเขียวตัดแสงสีออกฟ้าๆ จากภายนอกจะเห็นที่จอดรถ 2 คันอยู่ด้านขวาของหน้าบ้านมีประตูด้านหลังเข้าตัวบ้าน ส่วนหน้าต่างบานเลื่อนตรงกลางคือกึ่งหน้าต่างกึ่งประตูจากห้องรับแขก ประตูบานเลื่อนซ้ายสุดเป็นทางเข้าหลัก เปิดเข้าไปเป็นห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น ส่วนหลังคาของพื้นที่จอดรถ ไม่ได้ปกคลุมกันแดดกันฝนให้รถทั้งคัน แค่ส่วนหน้ารถเท่านั้นที่หลังคาจะบังถึง บนชั้น 2 หน้าต่างและประตูที่เห็นอยู่ทั้งสามบานคือจากห้องนอนทั้งสามห้อง มีห้องซ้ายสุดเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีระเบียงและหลังคายื่นออกมา

เริ่มกันจากประตูรั้วหน้าบ้าน ถ่ายจากบ้านพักจริงที่จะโอนภายในเดือนหน้านะคะ เป็นประตูเลื่อนแบบไม่อัตโนมัติปกติทั่วไป ไม่ได้เดินสายไฟไว้สำหรับให้ลูกบ้านทำประตูเลื่อนอัตโนมัติ ความสูงอยู่ที่ประมาณ 2.4 เมตร ลักษณะรั้วโปร่งซี่ห่างๆ ไม่กันสายตา ใช้เป็นแค่เหมือนการแบ่งพื้นที่ และเลื่อนประตูเข้า-ออกสำหรับรถยนต์ส่วนตัวเฉยๆ ไม่มีประตูเล็กเข้า-ออกสำหรับคนเดิน

ส่วนตัวรั้วหน้าบ้าน ครึ่งล่างเป็นแบบบล็อกอิฐขัดกันให้เป็นลาย และครึ่งบนเป็นรั้วโปร่งแบบเดียวกับประตูเลื่อน ส่วนรั้วข้างบ้านและรั้วหลังบ้านเป็นแบบบล็อกอิฐขัดกันเป็นลายสีน้ำตาลอ่อนรอบตัวบ้าน

ส่วนเสาบ้านของประตูรั้วด้านซ้ายติดกริ่งกดออด ส่วนด้านขวาเป็นไฟหน้าบ้านที่สาดความสว่างองศาลงต่ำ และที่เก็บขยะปิดมิดชิดอยู่ด้านล่าง

กลับมาที่บ้านตัวอย่างแบบหลังเล็กสุด The Mist เราจะพาชมรอบๆตัวบ้านกันก่อนที่จะเข้าตัวบ้านนะคะ

เร่ิมที่ทางเข้าหลักของบ้าน ด้านหน้าจะมี Slope เป็นเนินเทลาดลงมาหน้าบ้าน ตกแต่งทางเดินด้วยบล็อกหินขนาดใหญ่ แซมพื้นที่ด้วยพื้นหญ้า จากทางเดินสามารถเดินเข้าไปที่ชานทางเข้าบ้านที่เป็นประตูบานเลื่อน หรือจะเลี้ยวขวาไปที่จอดรถ

พื้นที่จอดรถขนาด 4.9 x 7.3 เมตร จอดรถเล็กๆ 2 คันสะดวก แต่ถ้ารถใหญ่ พื้นที่เปิดประตูจะน้อยลง ปูพื้นด้วยหญ้าเทียม แต่ของจริงเป็นพื้นคอนกรีตขัดเรียบ จากเงาของแสงจะเห็นว่า หลังคาไม่ได้คลอบคลุมความยาวตัวรถทั้งหมด แต่คลุมแค่ตัวหน้าของตัวรถ แดดและฝนเข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นล้างรถบ่อยหน่อยนะคะ ด้านหลังจะเห็นประตูที่เข้าสู่ตัวบ้านได้อีกจุดหนึ่ง

ผ่านพื้นที่จอดรถมาถึงข้างบ้านกันบ้าง ที่พื้นจะปูด้วยหญ้าจริง มีท่อระบายน้ำบ้าง ระยะรั้วบ้างถึงตัวบ้านอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร ตัวบ้านมีช่องแสงขนาดเล็กจากพื้นที่ใช้งานด้านในและไฟสนาม ส่วนฝั่งรั้วบ้านมีการปลูกไม้พุ่มซ้อนรั้วกำแพงบ้านอีกชั้นหนึ่ง

ส่วนหลังบ้านมีพื้นที่ซักล้างเทเป็นพื้นคอนกรีตขนาด 2.5 x 3.5 เมตร ยกพื้นสูงขึ้นมาประมาณ 10 เซนติเมตร ด้านซ้ายเป็นประตูจากในบ้างออกมาสู่หลังบ้าน

ประตูแรกซ้ายมือคือประตูจากห้องครัวไทย บานประตูคือบาน UPVC มีไฟอยู่เหนือตัวประตู

พื้นที่ถัดมาคือพื้นที่เว้าเข้าไปในตัวบ้านขนาด 0.9 x 1.3 เมตร สำหรับการวางเครื่องซักผ้า เตรียมผ้าก่อน-หลังซัก มีปลั๊กไฟและช่องแสงจากส่วนครัวฝรั่งภายในบ้านเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเล็กๆ

ประตูต่อมาเป็นประตูบานเล็ก สูงเพียง 1.5 เมตร เป็นประตูของห้องใต้บันได ที่สามารถเข้าได้จากหลังบ้านเท่านั้น ไว้สำหรับเก็บของใช้ต่างๆ บานประตูคือบาน UPVC เช่นกัน

หลังบ้านระหว่างบ้านทั้งสองหลัง ตัวบ้านมีระยะห่างพอสมควร ประมาณ 4 เมตร เป็นที่วาง Compressor แอร์ เสาไฟฟ้าโยงเข้าตัวบ้านแต่ละหลัง และช่องแสงที่แสงเข้าได้ในปริมาณไม่มาก เนื่องจากหลังคาบ้านห่างกันไม่มาก ทำให้องศาแดดเข้าสู่หลังบ้านได้ไม่ค่อยดี ยกเว้นในช่วงเที่ยงๆบ่ายๆ เป็นข้อดีของห้องนอนที่มีช่องแสงอยู่หลังบ้าน จะไม่ร้อนและสะสมอุณหภูมิ แต่เป็นข้อเสียสำหรับลานซักล้าง ที่ทำให้เสื้อผ้าที่ตากหลังบ้านไม่โดนแสงแดด

พื้นที่ข้างบ้านก็ยังปูด้วยพื้นหญ้า ช่องแสงของบ้านอย่างหน้าต่างชั้น 1 มีขนาดใหญ่กว่าหน้าต่างชั้น 2 ไม่มีชาน ไม่มีระเบียง ดีไซน์ดูเรียบง่าย ไม่มีผนังอาคารที่ยุบเข้าหรือยื่นออกมากนัก

ต่อไปเราจะเข้าไปในตัวบ้านกันบ้างนะคะ เร่ิมจากทางเข้าหลัก ประตูบานเลื่อนเป็นแบบกรอบอลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง มีเฉลียงหน้าบ้านขนาด 1.0 x 3.5 เมตร ยกพื้นขึ้นสูง 15 เซนติเมตร ปูด้วยกระเบื้อง 30 x 30 เซนติเมตร แบบด้านสีอ่อน เสาหน้าบ้านทั้งสองฝั่งมีไฟสนามส่องลง และไฟเฉลียงหนัาบ้านฝังฝ้าอยู่ด้านบน

กรอบประตูเลื่อนอลูมิเนียมวางอยู่บนปูนก่อสูง 5 เซนติเมตร ก่อนที่จะเป็นพื้นกระเบื้องขนาด 60 x 60 เซนติเมตร แบบเงาสีอ่อน

ในบ้าน ห้องแรกที่เปิดเข้ามาเจอ คือห้องนั่งเล่น ที่มีชุดโซฟาอยู่ทางซ้ายมือ ชั้นวางทีวีอยู่ทางขวามือ และลึกเข้าไปเป็นห้องอเนกประสงค์ที่ทางโครงการจัดไว้ทำเป็นห้องทำงาน ไม่กั้นห้องทึบ ส่วนด้านขวาเป็นส่วนทานข้าว อยู่ด้านหน้าบันได และครัวฝรั่ง

ห้องนั่งเล่นขนาด 3.25 x 3.45 เมตร ผนังด้านหนึ่งวางชุดโซฟาขนาดเล็ก แบบสองที่นั่งอยู่ตรงกลางโดดๆ ที่มุมห้องวางเป็นโคมไฟตกแต่ง หน้าโซฟาเป็นโต๊ะกลางแบบกลม และ Bean Bag นั่งเล่น แม้ว่าด้วยขนาดพื้นที่จะไม่เอื้อให้วางโซฟาแบบรูปตัว L แต่ก็สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่กว่านี้ได้ ส่วนจะวางเก้าอี้เดี่ยวไว้ที่ริมด้านในด้านหนึ่งของโซฟายาว จะทำให้การเดินเข้า-ออกพื้นที่นั่งเล่นยากขึ้น

ฝั่งตรงข้ามกับโซฟาเป็นชั้นวางทีวีแบบลอย ติดกำแพง สามารถวางทีวีขนาด 42 นิ้วที่ไม่ใหญ่มากได้ และส่วนเหนือขึ้นไปที่ทำเป็นกำแพงโปร่งแบบตาราง ถือว่าเป็นความคิดที่ดีเพราะหากปิดทึบไปเลยจะทำให้พื้นที่ทางเข้าดูแคบลงทันที หลังจากส่วนกำแพงโปร่งจะเป็นพื้นที่ทานข้าว ผนังด้านนี้อาจจะทำเป็นที่วางทีวี ที่ผนังบางส่วนหมุนได้ เพื่อพลิกทีวีไปยังส่วนทานข้าวได้ด้วย

หันหน้าออกไปยังหน้าบ้านประตูทางเข้า ฝ้าชั้น 1 สูง 2.6 เมตร ส่วนประตูบานเลื่อนสูง 2 เมตร มีราวม่านติดอยู่สูงใกล้ฝ้า ทำเป็น 2 ราว คือผ้าม่านโปร่งแสงและทึบแสง ส่วร Wallpaper เป็นรูปลายอิฐก่อสีขาว แต่บ้านพักเปล่าที่ขายจริงๆจะเป็นผนังผิวเรียบทาสีขาวธรรมดา

มองเข้าไปด้านในเป็นห้องเอนกประสงค์ที่ไม่ได้กั้นพื้นที่ไว้ให้ เผื่อจะทำเป็นห้องยาวๆ ที่ตกแต่งมาเป็นโต๊ะทำงานวางตัวเดียวโดดๆ พร้อมเก้าอี้สีใส ลึกเข้าไปเป็นชั้นวางของหรือชั้นวางหนังสืออยู่ทั้งสองด้านของหน้าต่างบานเลื่อนหลังบ้าน

ห้องตรงนี้อาจจะทำเป็นห้องทำงานอย่างที่ได้ตกแต่งไว้ หรือจะทำเป็นห้องนั่งเล่น ที่เปลี่ยนห้องด้านหน้าเป็นห้องรับแขกแยกส่วนกัน หรือจะทำเป็นห้องนอนบนชั้น 1 สำหรับผู้สูงอายุก็ได้

หน้าต่างบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียม สามารถเลื่อนไปมาได้ทั้งสองด้าน ลูกฟักเป็นกระจกตัดแสงสีเขียวหนา 5 มิลลิเมตร เหนือหน้าต่างเป็นตำแหน่งแอร์ติดผนัง

ที่จับหน้าต่างเปิด-ปิด สังเกตุว่าจะไม่มีตัวล็อกที่ล็อกกับกรอบหน้าต่าง

การล็อกหน้าต่างเปิด-ปิดไม่ใช่การเลื่อนขึ้นลงที่กรอบหน้าต่างด้านข้างเหมือนปกติทั่วไป แต่เป็นการล็อกที่ตัวกรอบประตูตรงกลาง หมุนบิดซ้ายขวาเพื่อล็อกประตู ให้ความรู้สึกที่แน่นกว่าเวลาหมุนบิดปิด

มองย้อนกลับมาที่ห้องนั่งเล่นด้านหน้า ห้องทำงานห้องนี้แต่ให้เต็มพื้นที่กว่านี้ได้นะคะ การตกแต่งบ้านตัวอย่างพื้นที่ตรงนี้ค่อนข้างโล่งไปเยอะ

เดินมาส่วนกลางของบ้านกันบ้าง ด้านในเป็นบันได ครัวฝรั่ง ประตูทางซ้ายคือประตูเข้าห้องครัว ด้านขวาคือห้องน้ำ และมีประตูที่ออกไปยังส่วนจอดรถได้ด้วยอยู่ที่ผนังอีกฝั่งหนึ่ง และด้านขวาสุดเป็นส่วนทานข้าว

พื้นที่ทานข้าวขนาด 2.80 x 3.45 เมตร จัดโต๊ะทานข้าวและเก้าอี้แบบ 4 ที่นั่งมาเป็นแบบไม่มีพนัก 1 ตัวยาว และเก้าอี้แบบมีพนัก 2 ตัว ความจริงจัดแบบมีพนักทั้งหมดเลยก็ได้นะคะ น่าจะนั่งสบายกว่า และยังมีพื้นที่เหลือหัวท้าย สามารถเพิ่มได้เป็น 6 ที่นั่ง ผนักด้านขวาติดเป็นกระจกเงา ที่ช่วยให้ทำให้บ้านดูกว้างขึ้น และผนังส่วนหน้าบ้านเป็นช่องเปิดกึ่งหน้าต่างกึ่งประตูบานเลื่อน

คือหน้าต่างบานเลื่อนมีความสูงอยู่ที่ระดับ 2 เมตร แต่วางกรอบประตูอยู่บนปูนก่อสูงถึง 45 เซนติเมตร เป็นการบอกกลายๆว่าไม่ใช่ประตูเข้า-ออกอย่างเป็นทางการ แต่เป็นช่องแสงบานใหญ่เฉยๆ

ส่วนครัวฝรั่งมีเคาท์เตอร์บนและล่างอยู่ติดผนังส่วนหลังบ้าน ประกอบด้วยตู้เก็บของ อ่างล้างจาน และพื้นที่เตรียมอาหาร ไม่มี Hob and Hood สไตล์ครัวฝรั่ง ด้านข้างมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนขนาดเล็กหลังบ้าน เหนือเคาท์เตอร์บนขึ้นไปเป็นตำแหน่งแอร์ติดผนัง

พื้นที่ครัวขนาด 3.30 x 3.85 เมตร หน้าเคาท์เตอร์หลักที่ชิดผนังหลังบ้าน มีทางเดินตรงกลางคั่นระหว่างเคาท์เตอร์เตรียมอาหารอยู่อีกจุดหนึ่ง สามารถนำเก้าอี้สูงมาวางได้ 2 ตัวด้านหน้า สำหรับการทานอาาหารเช้าแบบง่ายๆ

ประตูทางด้านขวามือประตูในสุดคือทางเข้าไปยังห้องครัวไทย

ห้องครัวไทยขนาด 2.5 x 2.9 เมตร พื้นเปลี่ยนเป็นแบบกระเบื้อง 40 x 40 เซนติเมตร สีเข้มแบบเงา ไม่ลดระดับพื้น

มีช่องแสงจากด้านข้างบ้านเป็นบานหน้าต่างเลื่อน เพื่อช่วยระบายกลิ่นและอากาศ ตำแหน่งเจาะช่องแสงพอดีกับตำแหน่งเหนือเคาท์เตอร์ทำอาหาร เว้นพื้นที่มุมด้านในสำหรับการวางเคาท์เตอร์ครัว สวิสซ์ไฟฟ้าและท่อน้ำ ส่วนด้านซ้ายมือคือประตู UPVC เพื่อเปิดออกไปยังหลังบ้าน

ประตูเปิดออกไปเจอลานซักล้างส่วนหลังบ้าน พื้นลงระดับลงไปประมาณ 15 เซนติเมตร

มองจากมุมห้องครัวด้านในออกไปยังส่วนกลางบ้าน

ห้องต่อไปเป็นห้องน้ำชั้น 1 ขนาด 1.4 x 2.5 เมตร ปิดด้วยบานประตู UPVC มีเกล็ดระบายอากาศอยู่ด้านล่าง พื้นห้องน้ำไม่ลดระดับจากส่วนกลางบ้าน ปูด้วยกระเบื้องขนาด 20 x 40 เซนติเมตร สลับหว่าง

การจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในห้องน้ำเป็นแบบสามส่วนทั่วไป ไล่จากด้านนอกเข้าไปด้านในคือ อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ พร้อมกระจกขนาดใหญ่ด้านบน และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำพร้อมฉากกั้น สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard

อ่างล้างหน้าจาก American Standard วางอยู่บนเคาท์เตอร์เก็บของแบบไม่มีบานประตูปิด ไม่ได้ก่อปูนเคาท์เตอร์ข้างเผื่อการวางของใช้ ทำให้การวางของใช้ภายในห้องน้ำจะต้องวางอยู่บนอ่างล้างหน้าเล็กๆ

โถสุขภัณฑ์จาก Mogen มีสายชำระและที่ใส่ทิชชู

พื้นที่เปียกสำหรับการอาบน้ำแบบยืน มาพร้อมกับฉากกั้นอาบน้ำสูง 2 เมตรแบบประตูเลื่อน ขนาดพื้นที่อาบน้ำอยู่ที่ 0.8 x 1.4 เมตร

ฉากกั้นอาบน้ำวางอยู่บนปูนก่อกั้นพื้นที่เปียกและพื้นที่แห้ง รวมสูงประมาณ 5 เซนติเมตร

ฝักบัวอาบน้ำพร้อมที่วางสบู่ 1 จุด ไม่มีเจาะช่องสำหรับการวางของใช้ในห้องน้ำ

ฝักบัวอาบน้ำ

มีหน้าต่างบานเลื่อนขนาดเล็กอยู่ข้างส่วนพื้นที่อาบน้ำ ลูกฟักเป็นกระจกแบบขุ่น การล็อกเปิด-ปิดเป็นแบบบานเลื่อนเหมือนห้องทำงาน เพื่อการเปิดระบายอากาศและกลิ่นไปในส่วนข้างบ้าน

ออกมาส่วนพื้นที่กลางบ้าน ด้านขวาของทางเข้าประตูห้องน้ำชั้น 1 มีประตูที่สามารถเปิดออกไปยังหน้าบ้านส่วนที่จอดรถ เป็นบานประตู UPVC แบบคันโยกและล็อก

ความสูงระหว่างพื้นที่ในตัวบ้านและพื้นที่จอดรถไม่เท่ากัน โดยพื้นที่จอดรถอยู่ระดับต่ำกว่าประมาณ 30 เซนติเมตร

กลับมาที่ส่วนกลางบ้านด้านหลังที่เป็นตำแหน่งของบันไดขึ้นไปยังชั้น 2 ลูกตั้งเป็นการทาสีขาวธรรมดา แต่ลูกนอนทำจากพื้นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาลเข้ม มีช่องแสงแบบบาน Fix ที่ตำแหน่งเหนือชานพักบันได

บันไดเป็นรูปตัว L แต่มีขั้นที่หัวมุมเป็นชิ้นสามเหลี่ยม 2 ขั้น ทำให้เดินขึ้น-ลงค่อนข้างยากนะคะ ประกอบกับฝั่งซ้ายมือของบันไดไม่มีราวจับที่ติดกับผนังด้วย

หลังจากชิ้นสามเหลี่ยมตรงหัวมุมแล้วยังต้องเดินอีก 3 ขั้น จึงจะถึงชานพักสี่เหลี่ยม แล้วก้าวอีก 2 ก้าวถึงจะถึงพื้นบนชั้น 2

เมื่อขึ้นมาบนชั้น 2 ฝั่งซ้ายสุด คือห้องนอนใหญ่ และห้องนอนเล็กสุดที่ซ้ายมือ

ส่วนฝั่งซ้ายของพื้นที่บนชั้น 2 คือมีห้องนอนกลางอยู่ทางด้านขวามือ มีประตูทางเข้าห้องน้ำอยู่ตรงกลางที่สามารถเข้าได้จากทั้งห้องนอนกลางและจากพื้นที่นั่งเล่นทางซ้ายมือสุด

พื้นที่นั่งเล่นประกอบไปด้วยชุดโซฟา พร้อมเก้าอี้กลางและตู้เก็บของหน้าห้องน้ำ เป็นพื้นที่นั่งเล่นของชั้น 2 ตรงส่วนกลางของบ้าน

ช่องแสงส่วนกลางบ้านบนชั้น 2 ออกไปยังหลังบ้าน มีด้วยกัน 3 จุด บาน Fix สองบานซ้ายมือ เป็นช่องแสงสำหรับโถงบันไดในช่วงกลางวัน ขนาดบานไม่ใหญ่เกินไปที่จะเสียความเป็นส่วนตัวระหว่างบ้าน ส่วนบานขวาเป็นบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมในส่วนนั่งเล่น

ห้องต่อไปเป็นห้องน้ำชั้น 2 ปิดด้วยบานประตู UPVC มีเกล็ดระบายอากาศอยู่ด้านล่าง พื้นห้องน้ำไม่ลดระดับจากส่วนกลางบ้าน ปูด้วยกระเบื้องลายขนาด 40 x 40 เซนติเมตร

ห้องน้ำขนาด 1.5 x 2.5 เมตร การจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในห้องน้ำเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง เป็นแบบสามส่วนทั่วไป ไล่จากด้านนอกเข้าไปด้านในคือ อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ พร้อมกระจกขนาดใหญ่ด้านบน และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำพร้อมฉากกั้น สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard

ห้องนอนกลาง ปิดด้วยบานประตู UPVC พื้นลามิเนตลายไม้ต่อเนื่องเข้ามาจากโถงกลาง

ด้านในเข้ามาจะเจอตู้เสื้อผ้า, โต๊ะทำงาน, เตียงนอน และพื้นที่ข้างเตียงด้านขวาเหลือเป็นมุมนั่งเล่นภายในห้องแบบไม่มีพนัก ตำแหน่งแอร์อยู่ที่หัวเตียงระหว่างหน้าต่างบานเลื่อนทั้งสอง

ตู้เสื้อผ้าแบบบานปิดแบ่งออกเป็นช่องบนและล่าง ด้านข้างเป็นโต๊ะทำงานขนาดเล็กพร้อมเก้าอี้ ที่สามารถใช้เป็นโต๊ะข้างเตียงไปด้วยในตัว มีช่องแสงแบบบาน Fix อยู่เหนือโต๊ะทำงาน เป็นแสงธรรมชาติเบาๆจากข้างบ้าน

พื้นที่ด้านข้างเตียงด้านซ้ายยังเหลืออยู่มากกว่า 2 x 2 เมตร

ปลายเตียงเหลือพื้นที่พอเดินได้ แต่ถ้าจัดเตียงที่ใหญ่กว่านี้ จะทำให้พื้นที่เดินเหลือน้อยลง ฝั่งตรงข้ามของเตียง บ้านตัวอย่างจัดเป็นชั้นวางหนังสือ แต่ความจริงแล้วสามารถจัดเป็นทีวีแบบติดผนังได้ ระยะการดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.8 เมตร

พื้นที่ด้านข้างเตียงด้านขวายังเหลือนิดหน่อย ไม่ได้ใส่โต๊ะข้างเตียงมาด้วย แต่มีมุมนั่งเล่นให้แทน มีช่องเก็บของด้านใต้เป็นลิ้นชัก

ผนังฝั่งหน้าบ้านของห้องนอนกลางเป็นบานเลื่อนเปิดได้ 2 ด้าน จัดพื้นที่เป็นมุมนั่งเล่น สามารถเหยียดขายาวๆอ่านหนังสือได้ พื้นที่ด้านขวายังจัดเป็นที่วางของ ชั้นหนังสือ รวมถึงตู้โชว์แบบไม่มีบานปิด ความสูงของชั้น 2 อยุ่ที่ 2.6 เมตร ผ้าม่านติดอยู่ใต้ฝ้า สามารถทำเป็นได้ทั้งแบบรูดจากสองด้านแล้วมีที่เก็บม่าน หรือจะทำเป็นแบบดึงจากล่างขึ้นบนก็ได้

ห้องต่อมาเป็นห้องนอนเล็ก ที่ไม่มีห้องน้ำในตัว พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตแบบต่อเข้าไปจากโถงทางเดิน บานประตูเป็นแบบบาน UPVC

ภายในห้องนอนเล็กขนาด 2.95 x 3.40 เมตร จัดเป็นห้องนอนเด็กเล็กที่มุมด้านขวา แต่มุมด้านซ้ายจัดเป็นโต๊ะทำงานหรืออ่านหนังสือ ที่มีชั้นวางตกแต่งแบบเต็มผนัง มีหน้าต่าง 2 บานจากส่วนหน้าบ้าน เป็นแบบบานเลื่อนเปิด โดยมีช่องแสงแบบบาน Fix อยู่ด้านล่าง

ผนังด้านหนึ่งจัดเป็นโต๊ะทำงาน ชั้นวางของและวางหนังสือแบบเต็มผนัง พร้อมเก้าอี้และโคมไฟ มีตำแหน่งแอร์ติดอยู่ที่ผนังด้านทางเข้า

อีกมุมหนึ่งจัดเป็นที่วางของเล่นของเด็กเล็ก

สุดท้ายแล้วกับห้องนอนใหญ่ของบ้าน พื้นเป็นพื้นไม้ลามิเนตเรียบจากโถงทางเข้าเหมือนปกติ บานประตู UPVC

ห้องนอนใหญ่ขนาด 3.0 x 4.6 เมตร จัดเตียงนอน King Size อยู่ตรงกลางห้อง ขนาบด้วยโต๊ะข้างเตียงและโต๊ะทำงาน มีช่องแสงบานเลื่อนอยู่ทั้งสองด้าน มีระเบียงเป็นของตัวเองได้วิวหน้าบ้าน และมีห้องน้ำอยู่ทางขวามือ

พื้นที่ข้างเตียงด้านขวา จัดเป็นโต๊ะข้างเตียงกลมขนาดเล็ก เก้าอี้เอนนั่งอ่านหนังสือพร้อมที่วางขา มีช่องแสงเป็นแบบบานเลื่อนทรงสูง และทางเข้าห้องน้ำในตัวด้านขวามือ

ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางทีวี แบบมีลิ้นชักอยู่ด้านใต้ เหลือพื้นที่เดินได้ประมาณ 40 เซนติเมตร

ข้างเตียงด้านซ้ายเหลือพื้นที่วางโต๊ะทำงานขนาดเล็กพร้อมเก้าอี้ มีช่องแสงแบบบาน Fix อยู่ในส่วนข้างบ้าน แต่ขนาดโต๊ะทำงานเต็มพื้นที่มากขนาดว่าการเก็บม่านยังทำไม่ได้ แนะนำเป็นโต๊ะข้างเตียงขนาดที่เล็กกว่า ม่านจะได้รวบเก็บตรงมุมได้อย่างเรียบร้อย

ส่วนผนังหน้าบานเป็นบานประตูเลื่อนเปิด-ปิด มีรางม่านอยู่ใต้ฝ้า ม่านเป็นแบบรางคู่คือม่านโปร่งแสงและม่านทึบแสง เปิดบานเลื่อนออกไปเป็นระเบียง

บานประตูเลื่อนมีล็อกจากด้านใน กรอบอลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักคือกระจกตัดแสงสีออกเขียวๆ

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องลายขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ไม่ลดระดับพื้นลงไปจากพื้นห้องนอน แต่ก่อปูนเพิ่มรวมความสูงของกรอบประตูเลื่อนด้วยอยู่ที่ประมาณ 3 เซนติเมตร

ระเบียงหน้าบ้านมีราวกันตกสูง 1.1 เมตร มีท่อน้ำทิ้งอยู่ที่มุมระเบียง

ระเบียงห้องนอน

มองจากระเบียงหน้าบ้านเข้ามาในห้องนอนใหญ่ มีตำแหน่งแอร์วางอยู่ข้างหัวเตียงด้านผนังห้องน้ำ

พื้นห้องน้ำไม่ลดระดับลงจากส่วนห้องนอน ปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 เซนติเมตร ลายตารางสีน้ำตาล

ภายในห้องน้ำจะแบ่งพื้นที่ใช้งานค่อนข้างแตกต่างจากห้องอื่นๆและโครงการอื่นๆ คือด้านหน้าเมื่อตรงเข้าไปจะเจออ่างล้างหน้าและกระจกบานเล็ก ฝั่งขวาจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่อยู่ภายในห้องน้ำแบบเต็มผนัง ส่วนมุมในซ้ายมือหลังฉากกั้นจะเป็นพื้นที่อาบน้ำแบบยืน มีการก่อปูนกั้นส่วนเปียกส่วนแห้งให้ด้วย ส่วนหลังฉากกั้นด้านซ้ายมือสุดที่อยู่ใกล้กว่าคือโถสุขภัณฑ์

ตู้เสื้อผ้าเต็มผนังหนึ่งของห้องน้ำ แบ่งออกเป็นสี่ส่วน มีทั้งแบบมีบานปิดและไม่มีบานปิด มีกระจกเต็มตัวให้ด้วย

แต่ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบลอย คือก็ป้องกันการกระเด็นของน้ำจากส่วนอาบน้ำมายังส่วนแห้งด้วย

อ่างล้างหน้าจาก American Standard แบบไม่มีตู้เก็บของด้านล่าง มาพร้อมกับกระจกบานเล็กๆ

พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.8 x 1.0 เมตร มีก่อปูนขึ้นมา 5 เซนติเมตร ฉากกั้นส่วนอาบน้ำสูง 2 เมตร และหน้าต่างบานเลื่อนขนาดเล็กกระจกฝ้าในส่วนข้างบ้าน มีท่อน้ำทิ้งอยู่ที่มุมด้านใน

ฝักบัวมีทั้งแบบมือถืออาบ และส่วน Shower ใหญ่จากด้านบน ไม่มีช่องวางข้าวของเครื่องใช้ในการอาบน้ำมาให้

ฝักบัว

ข้างฉากกั้นพื้นที่อาบน้ำก็เป็นส่วนฉากกั้นของโถสุขภัณฑ์เช่นกัน โดยทั่วไปส่วนพื้นที่ใช้งานโถสุขภัณฑ์ไม่จำเป็นต้องมีฉากกั้นสีขุ่น แต่ด้วยการย้ายเอาตู้เสื้อผ้ามาไว้ในห้องน้ำ ทำให้การใช้งานจากปกติใช้เพียงคนเดียวทำธุระ ห้องน้ำขนาดใหญ่ขึ้น กลายเป็นพื้นที่สำหรับ 2 คน ทางที่ดีควรจะย้ายตู้เสื้อผ้าไปไว้ส่วนแห้งปกติหรือจัดเป็น Walk-in Closet ที่เป็นสัดเป็นส่วนกว่านี้ จะได้ไม่มีภาวะที่น้ำกระเด็นโดนและแก้ไขด้วยการยกตู้เสื้อผ้าขึ้น และจะได้ไม่มีฉากกั้นมาบังพื้นที่ เพราะทำให้ห้องน้ำดูเล็กลงและน่าอึดอัด

พื้นที่หลังฉากกั้นส่วนโถสุขภัณฑ์ขนาด 0.8 x 1.0 เมตร เป็นฉากกั้นแบบไม่มีที่ปิด กั้นแค่ส่วนพื้นที่ใช้งานเฉยๆ

โถสุขภัณฑ์จาก Mogen มีสายชำระและท่อน้ำทิ้งอยู่ที่มุมห้อง

บ้านตัวอย่างแบบที่สองคือคือ The Arise เป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สุด ขนาดที่ดินเริ่มต้น 76.3 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 232 ตร.ม. หน้ากว้าง 14 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถ มีพื้นที่สีเขียวรอบบ้าน สามารถเข้าถึงในบ้านได้จากหลายทาง หลังส่วนจอดรถจะมีประตู เปิดไปเจอส่วนครัวฝรั่ง ประตูหลังบ้านทางห้องครัวไทย ประตูหลักหน้าบ้านเปิดไปเจอส่วนกลางบ้านที่สามารถเดินตรงไปยังบันไดชั้นสองที่อยู่กลางบ้าน หรือแยกไปทางขวาเป็นห้องรับแขกและห้องอเนกประสงค์ด้านหลัง ส่วนด้านซ้ายเป็นห้องครัวฝรั่งและที่ทานข้าว และห้องครัวไทยอยู่ทางด้านหลัง โดยช่องเปิดรอบบ้านก็ยังมีอยู่เป็นหน้าต่างธรรมดาจากห้องอเนกประสงค์ หรือบานเลื่อนเปิดจากห้องทานข้าว จากพื้นที่ซักล้างด้านหลังมีห้องแม่บ้านและห้องน้ำแม่บ้าน

บนชั้น 2 เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอพื้นที่นั่งเล่นอยู่ซ้ายมือ และแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอน 3 ห้องโดยห้องนอนใหญ่จะอยู่ด้านขวา มีพื้นที่กว้างมากพอสำหรับวางโซฟารูปตัว L หรือโต๊ะทำงานส่วนหน้าเตียงได้เลย มี Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวขนาดใหญ่ ข้างเตียงยังมีระเบียงออกไปยังส่วนหน้าบ้าน สำหรับทางเดินด้านซ้ายมีห้องนอนเล็กที่มีห้องน้ำในตัว ไม่มีระเบียง และห้องนอนขนาดกลางอยู่ริมอีกด้านหนึ่ง พื้นที่ห้องนอนเป็นแบบยาว มีพื้นที่ส่วนนั่งเล่น หรือจะวางโต๊ะทำงาน มีห้องน้ำในตัวอีกเช่นกัน มีระเบียงยื่นออกไปส่วนหน้าบ้านด้วย บนชั้น 2 ของบ้านหลังนี้ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด

ภายนอกของบ้านแบบ The Arise จะเน้นดีไซน์เรียบง่ายเช่นกัน ตกแต่งด้วยสีน้ำตาล-ขาว ตัดด้วยกระจกสีออกฟ้าๆ จากภายนอกจะเห็นที่จอดรถ 2 คันอยู่ด้านซ้ายของหน้าบ้าน มีหลังคาคลุมไม่บังตัวรถทั้งหมด น่าจะได้ประมาณครึ่งคันหน้า แต่เยอะกว่าแบบบ้านหลังอื่นๆ มีประตูด้านหลังเข้าตัวบ้าน ส่วนหน้าต่างบานเลื่อนคือช่องแสงจากพื้นที่ทานข้าว เขยิบไปประตูบานเลื่อนตรงกลางคือประตูทางเข้าหลัง และขวาสุดที่เป็นช่องกึ่งหน้าต่างกึ่งประตูคือจากห้องรับแขก บนชั้น 2 หน้าต่างและประตูที่เห็น 2 บานขวามือ ที่มีระเบียงและฉากกั้นบังแดดคือจากห้องนอนใหญ่ ส่วนระเบียงจะออกมาได้จากประตูบานเลื่อนที่อยู่ข้างเตียง และส่วนที่เป็นหน้าต่างพร้อมฉากบังแดด คือจากส่วนโซฟาในห้องนอน หน้าต่างบานเล็กตรงกลางสองบานคือจากห้องนอนเล็ก และระเบียงทางขวามือคือของห้องนอนขนาดกลาง

เร่ิมต้นที่พื้นที่จอดรถขนาด 5.75 x 6 เมตร จอดรถ 2 คันสะดวกทั้งรถเล็กและรถใหญ่ บ้านจริงจะปูพื้นด้วยคอนคอนกรีตขัดเรียบ จากเงาของแสงจะเห็นว่า หลังคาไม่ได้คลอบคลุมความยาวตัวรถทั้งหมด แต่คลุมแค่ส่วนกลางรถ แดดและฝนเข้าถึงได้ง่าย ด้านหลังจะเห็นประตูที่เข้าสู่ตัวบ้านไปยังส่วนทานข้าวได้อีกจุดหนึ่ง

ผ่านพื้นที่จอดรถมาถึงข้างบ้านกันบ้าง ที่พื้นจะปูด้วยหญ้าจริงและทางเดินลายไม้ มีท่อระบายน้ำบ้าง ที่จริงจะมีรั้วข้างบ้านกั้นระหว่างบ้านแต่ละหลัง ระยะรั้วบ้างถึงตัวบ้านอยู่ที่ประมาณ 3 เมตร

ตัวบ้านมีช่องแสงขนาดเล็กจากพื้นที่ใช้งานด้านในทั้งแบบบานเลื่อน, บาน Fix และไฟสนาม ประตูข้างบ้านคือประตูจากห้องครัว

หลังบ้านมีช่องเปิด คือจากห้องแม่บ้านที่มีเพิ่มเติมในบ้านแบบหลังใหญ่และหลังกลาง, ห้องน้ำแม่บ้าน และห้องใต้บันได เพื่อกั้นความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้าน และความสะดวกในการทำความสะอาดของแม่บ้าน ทั้งสามประตูเปิดออกมาจะเจอกับส่วนซักล้าง ยังมีช่องแสงบานไม่ใหญ่มากจากพื้นที่ใช้สอยภายใน และเป็นที่วางแท๊งค์น้ำ, Compressor แอร์ และเสาไฟที่จ่ายเข้าภายในบ้าน

เช่นกันกับข้างบ้าน มีช่องเปิดเป็นหน้าต่าง ที่วาง Compressor และไฟสนาม

ส่วนหน้าบ้านทำ Landscape เป็นต้นไม้ต้นเล็กๆรวมถึงทางเดินตลอดหน้าบ้านจากส่วนประตูบานเลื่อนของห้องรับแขก, ประตูหลักเข้าบ้านที่อยู่ตรงกลาง จนไปถึงที่จอดรถ

เราจะเร่ิมเข้าไปในบ้านกันที่ส่วนประตูหลักหน้าบ้านที่อยู่ตรงกลางนะคะ ด้านหน้าทำเป็นทางเดินกระเบื้องแบบด้าน มีพื้นหญ้าและไม้ดอกแซมเล็กน้อย ก่อนจะเข้าถึงตัวบันไดที่ปูด้วยกระเบื้อง

บันไดปูด้วยกระเบื้องขนาดเล็กแบบด้านเพื่อความง่ายต่อการทำความสะอาด ก่อนจะถึงเฉลียงหน้าบ้านขนาด 2.5 x 2.7 เมตร

ประตูหน้าบ้านแบบบ้านเปิด-ปิดดึงเข้าและผลักออก กรอบประตูอลูมิเนียมวางอยู่บนปูนก่อยกขึ้นมาสูงเล็กน้อย ก่อนที่จะเป็นพื้นกระเบื้องขนาด 60 x 60 เซนติเมตร แบบเงาสีอ่อน

เข้ามาจากประตูหลัก ขวามือเป็นห้องรับแขกหรือจะเป็นห้องนั่งเล่น ขนาด 3.60 x 4.15 เมตร สามารถวางโซฟาตัวยาวมากได้เต็มพื้นที่ มีเก้าอี้เดี่ยวและโต๊ะกลางได้อีก ฝั่งตรงข้ามเป็นชั้นวางทีวี ที่จริงแล้วสามารถทำให้ระยะดูทีวีใกล้กว่านี้โดยการเขยิบเข้าไปใกล้โซฟาหน่อยแล้วประกบด้านหลังฝั่งทางเข้าเป็นตู้โชว์ชั้นวางของที่สวยงามได้ เพราะการตกแต่งที่เห็นด้านหลังของทีวีเมื่อก้าวแรกออกจากตัวบ้าน ไม่ค่อยเรียบร้อยสวยงามเท่าไรนัก

ส่วนลึกเข้าไปด้านในของห้องรับแขกปัจจุบันเป็นพื้นที่ของ Sales แต่สามารถทำเป็นห้องเอนกประสงค์ได้ ไม่ว่าจะเป็นห้องทำงาน หรือห้องพักผ่อนขนาดเล็ก ขนาดห้องเอนกประสงค์อยู่ที่ 3.0 x 3.6 เมตร

ฝั่งด้านหน้าของห้องรับแขกเป็นบานประตูเลื่อนแบบเต็มผนัง กรอบอลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักคือกระจกตัดแสง

รอยต่อระหว่างพื้นกระเบื้องด้านใน กรอบประตูบานเลื่อนและพื้นระเบียงลายไม้ด้านนอก ลดระดับลงไปประมาณ 5 เซนติเมตร

ประตูบานเลื่อนเป็นแบบเปิด-ปิดได้จากด้านใน

หันหลังกลับไปส่วนที่เป็นห้องอเนกประสงค์ กั้นด้วยบานประตูเลื่อนแบบ 3 ตอนวางอยู่บนพื้น ไม่ได้ลดระดับ ทำให้ขรุขระหน่อยเวลาเดินผ่าน มีแอร์อยู่ที่ตำแหน่งนั่งโซฟาที่ผนังด้านนอก ส่วนด้านในห้องเอนกประสงค์ปูด้วยพื้นกระเบื้องแบบเงาสีอ่อน ขนาด 60 x 60 เซนติเมตรเช่นกัน

หันกลับเข้าหาส่วนกลางของตัวบ้านชั้น 1 กันบ้าง อย่างที่กล่าวไปว่าฝั่งตรงข้ามของโซฟาเป็นชั้นวางทีวีแบบครึ่งเดียวด้านล่าง  ส่วนที่เดินจากประตูตรงเข้ามาเลยเป็นส่วนของชั้นวางของตู้โชว์ วางดอกไม้ตกแต่งได้ ลึกเข้าไปด้านซ้ายเป็นพื้นที่ทานอาหาร และประตูเปิดออกไปยังส่วนจอดรถ สุดทางเดินเป็นห้องครัวพร้อม Island ด้านขวาถัดจากส่วนชั้นวางดอกไม้เข้าไปเป็นพื้นที่หลุบเข้าไป เป็นพื้นที่ทางเข้าห้องน้ำ และบันไดขึ้นชั้น 2

บันไดขึ้นชั้น 2 อยู่ขวามือข้างทางเข้าห้องน้ำของชั้น 1 เดี๋ยวจะมาลงรายละเอียดกันตอนจะขึ้นชั้น 2 นะคะ

ถัดจากบันไดมาทางด้านขวา คือห้องน้ำชั้น 1 ขนาด 1.4 x 3.0 เมตร ปิดด้วยบานประตู UPVC มีเกล็ดระบายอากาศอยู่ด้านล่าง

พื้นห้องน้ำไม่ลดระดับจากส่วนกลางบ้าน ปูด้วยกระเบื้องขนาด 20 x 40 เซนติเมตร สลับหว่าง

การจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในห้องน้ำเป็นแบบสามส่วนทั่วไป ไล่จากด้านนอกเข้าไปด้านในคือ อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ พร้อมกระจกขนาดใหญ่ด้านบน และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำพร้อมฉากกั้น สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard

อ่างล้างหน้าจาก Mogen วางอยู่บนเคาท์เตอร์เก็บของแบบไม่มีบานประตูปิด ไม่ได้ก่อปูนเคาท์เตอร์ข้างเผื่อการวางของใช้ ทำให้การวางของใช้ภายในห้องน้ำจะต้องวางอยู่บนอ่างล้างหน้าเล็กๆ

โถสุขภัณฑ์จาก Mogen มีสายชำระและที่ใส่ทิชชู

พื้นที่เปียกสำหรับการอาบน้ำแบบยืน มาพร้อมกับฉากกั้นอาบน้ำสูง 2 เมตรแบบประตูเลื่อน ขนาดพื้นที่อาบน้ำอยู่ที่ 1.0 x 1.4 เมตร

ฉากกั้นอาบน้ำวางอยู่บนปูนก่อกั้นพื้นที่เปียกและพื้นที่แห้ง รวมสูงประมาณ 5 เซนติเมตร

ฝักบัวอาบน้ำพร้อมที่วางสบู่ 1 จุด ไม่มีเจาะช่องสำหรับการวางของใช้ในห้องน้ำ

ออกมาที่ส่วนกลางบ้านกันต่อ ด้านหน้าเป็นส่วนครัวฝรั่งรูปตัว L ที่มีโต๊ะทานข้าวแบบง่ายๆตรงกลางขนาด 4 ที่นั่ง ด้านซ้ายคือประตูออกไปยังส่วนจอดรถ และประตูด้านขวาคือออกไปยังครัวไทยที่อยู่หลังบ้าน

ระหว่างพื้นที่ทานข้าวและครัว มีประตูที่สามารถเปิดออกไปยังหน้าบ้านส่วนที่จอดรถ เป็นบานประตู UPVC แบบคันโยกและล็อก ความสูงระหว่างพื้นที่ในตัวบ้านและพื้นที่จอดรถไม่เท่ากัน โดยพื้นที่จอดรถอยู่ระดับต่ำกว่าประมาณ 30 เซนติเมตร

ส่วนครัวจัดเป็นรูปตัว L มีทั้งแบบตู้ทั้งบานเต็มความสูง และที่แบบเป็นเคาท์เตอร์ด้านล่างธรรมดาพร้อมที่ปิด

อีกด้านก็เป็นครัวแบบลิ้นชัก มีตู้เก็บอาหารแห้ง เครื่องครัวและเครื่องปรุง มีช่องแสงแบบบ้านเลื่อนเล็กๆออกไปยังข้างบ้านอยู่ตรงกลางเหนืออ่างล้างจาน เพื่อระบายอากาศและให้ช่องแสงธรรมชาติผ่านเข้าได้ไม่มากเกินไป ไม่มี Hob and Hood และตู้เย็น เพราะจะอยู่ส่วนครัวไทยหลังบ้านนะคะ ความจริงน่าจะแบ่งพื้นที่ให้ตู้เย็นนิดนึงก็ได้นะคะ แค่หยิบน้ำหยิบเครื่องดื่มจะได้สะดวก

ประตูทางเข้าห้องครัวไทยเป็นบานประตู UPVC แบบคันโยก ขนาดห้องคือ 2.5 x 3.2 เมตร

พื้นเปลี่ยนเป็นแบบกระเบื้อง 40 x 40 เซนติเมตร สีเข้มแบบเงา ไม่ลดระดับพื้น ปัจจุบันเป็นห้อง Service ของ Sales และแม่บ้านโครงการนะคะ ขออนุญาตผ่านไปสำหรับพื้นที่ด้านในของห้องนี้

มองจากโต๊ะทานข้าวแบบง่ายๆเข้าไปยังส่วนกลางบ้านนะคะ เดี๋ยวเราจะไปต่อกันที่ชั้น 2

ส่วนกลางบ้านด้านหลังที่เป็นตำแหน่งของบันไดรูปตัว U ขึ้นไปยังชั้น 2 ลูกตั้งเป็นการทาสีขาวธรรมดา แต่ลูกนอนทำจากพื้นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาลเข้ม แต่มีขั้นที่หัวมุมเป็นชิ้นสามเหลี่ยม 2 ขั้น ทำให้เดินขึ้น-ลงค่อนข้างยากนะคะ ทั้งยังไม่มีราวจับที่ติดกับผนังทั้งสองด้าน

ขึ้นมาบนชั้น 2 มีพื้นที่นั่งเล่นอยู่ทางด้านขวา ประตูที่อยู่ใกล้กันคือห้องนอนกลาง และประตูด้านซ้ายมือคือห้องนอนเล็ก

พื้นที่เอนกประสงค์ขนาด 2.5 x 3.6 เมตร สามารถวางชุดโซฟาได้ทั้งแบบรูปตัว I และ L มีโต๊ะกลางอยู่ด้านหน้า และด้านหลังยังตกแต่งเป็นชั้นวางของและชั้นวางหนังสือได้ ฝั่งด้านซ้ายมีช่องแสงแบบบานหน้าต่างเลื่อนเปิด-ปิด สามารถติดม่านได้ทั้งแบบรวบซ้าย-ขวา และแบบม้วนขึ้น-ลง

มีช่องแสงแบบบาน Fix ที่ตำแหน่งโถงบันได 2 จุด จากหลังบ้าน

ห้องนอนแรกที่จะไปดูกันคือห้องนอนที่อยู่ซ้ายสุดจากบันได คือห้องนอนใหญ่ของบ้าน ปิดด้วยบานประตู UPVC พื้นลามิเนตลายไม้ต่อเนื่องเข้ามาจากโถงกลาง

ห้องนอนใหญ่ขนาด 3.25 x 5.90 เมตร เข้ามาด้านในะมีทั้งส่วนเตียงและส่วนพักผ่อน โดยจัดส่วนเตียงและโต๊ะข้างเตียงไว้ด้านใน มีเก้าอี้รูปตัว L อยู่ด้านหน้า ฝั่งตรงข้ามของผนังคือชั้นวางทีวี และมีช่องเปิดบานเล็กส่วนหัวนอนทั้งสองข้าง และบานใหญ่จากส่วนหน้าบ้าน ทั้งที่เป็นหน้าต่างบานเลื่อนและแบบประตูบานเลื่อน แอร์วางอยู่ตำแหน่งตรงหัวเตียง

ส่วนด้านซ้ายเป็นทางเข้าของ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัว

พื้นที่ฝั่งตรงข้ามของเตียงนอนเป็นตู้วางทีวี และสามารถทำเป็นชั้นวางของแบบเต็มผนังได้

ชุดโซฟารูปตัว L อยู่หน้าเตียง พร้อมเก้าอี้กลางทรงกลม

พื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายมีโต๊ะข้างเตียงและช่องแสงจากส่วนข้างบเานเป็นแบบบานเปิด

ช่องเดตียงด้านขวาก็เช่นเดียวกัน มีโต๊ะข้างเตียงและช่องแสงจากส่วนข้างบเานเป็นแบบบานเปิด ส่วนด้านขวาเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน

ส่วนผนังหน้าบานเป็นบานประตูเลื่อนเปิด-ปิด มีรางม่านอยู่ใต้ฝ้า ม่านเป็นแบบทึบแสง กรอบอลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักคือกระจกตัดแสง เปิดบานเลื่อนออกไปเป็นระเบียง

ระเบียงขนาด 0.8 x 3.6 เมตร พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องลายขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ไม่ลดระดับพื้นลงไปจากพื้นห้องนอน แต่ก่อปูนเพิ่มรวมความสูงของกรอบประตูเลื่อนด้วยอยู่ที่ประมาณ 3 เซนติเมตร

ระเบียงหน้าบ้านมีราวกันตกสูง 1.1 เมตร มีท่อน้ำทิ้งอยู่ที่มุมระเบียง

ระเบียงห้องนอนใหญ่

มองจากระเบียงหน้าบ้านเข้ามาในห้องนอน ต่อไปเราจะไปดูห้องน้ำในห้องนอนใหญ่กันบ้างค่ะ

ห้องน้ำในตัวของห้องนอนใหญ่เป็นประตูที่ต้องเปิดเข้าไปจากส่วน Walk-in Closet อีกทีหนึ่ง ส่วน Walk-in Closet มีตู้เสื้อผ้าอยู่ทั้งสองด้าน มีช่องแสงจากหลังบ้านเป็นบานหน้าต่างเลื่อนทรงสูง มีประตูบานเลื่อนแบบรางบนกั้นส่วน Walk-in Closet และส่วนห้องนอนประตูห้องน้ำอยู่ด้านในขวามืออีกทีหนึ่ง

ส่วน Walk-in Closet ด้านซ้าย ไม่มีบานประตูปิด จัดช่องพื้นที่การใช้งานเป็นสัดส่วน

ส่วนด้านขวาเป็นพื้นที่เก็บเสื้อผ้าแบบไม่มีบานปิดเช่นกัน และอีกครึ่งหนึ่งคือประตูห้องน้ำในตัว

พื้นห้องน้ำไม่ลดระดับลงจากส่วนห้องนอน ปูด้วยกระเบื้องขนาด 40 x 40 เซนติเมตร ลายตารางสีน้ำตาล

ห้องน้ำขนาด 2.95 x 3.4 เมตร แบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็น 4 ส่วน จากด้านขวามือ คืออ่างล้างหน้าแบบ His and Her หลังฉากกั้นคือส่วนโถสุขภัณฑ์ และฝั่งตรงข้ามคือฉากกั้นอาบน้ำสูง 2 เมตร และอ่างอาบน้ำแบบมีปูนก่อเป็นที่นั่งด้วยอยู่ซ้ายมือ

อ่างล้างหน้าแบบ His and Her American Standard แบบไม่มีตู้เก็บของด้านล่าง มาพร้อมกับกระจก

พื้นที่หลังฉากกั้นส่วนโถสุขภัณฑ์จาก Mogen เป็นฉากกั้นแบบไม่มีที่ปิด กั้นแค่ส่วนพื้นที่ใช้งานเฉยๆ

อ่างอาบน้ำแบบก๊อกผสม พร้อมปูนก่อและกระเบื้องสีอ่อนขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ด้านข้างเป็นหน้าต่างบานเลื่อนออกไปยังหลังบ้าน กรอบอลูมิเนียมสีขาว ลูกฟักเป็นกระจกสีขุ่น

ฉากกั้นส่วนอาบน้ำสูง 2 เมตร เป็นแบบดึงออก และหน้าต่างบานเลื่อนขนาดเล็กกระจกฝ้าในส่วนข้างบ้าน มีท่อน้ำทิ้งอยู่ที่มุมด้านใน

พื้นที่อาบน้ำขนาด 0.8 x 1.3 เมตร มีก่อปูนขึ้นมา 5 เซนติเมตร

ฝักบัวมีทั้งแบบมือถืออาบ และส่วน Shower ใหญ่จากด้านบน ไม่มีช่องวางข้าวของเครื่องใช้ในการอาบน้ำมาให้

ห้องต่อมาเป็นห้องนอนเล็ก มีห้องน้ำในตัว พื้นห้องเป็นพื้นไม้ลามิเนตแบบต่อเข้าไปจากโถงทางเดิน บานประตูเป็นแบบบาน UPVC

ห้องนอนเล็กชมพูหวานแหววเป็นห้องลูกสาว มีเตียงตั้งอยู่ตรงกลางพร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้งสองข้าง ข้างเตียงด้านซ้ายวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ส่วนฝั่งตรงข้ามคือชั้นวางทีวี หนังสือ และข้าวของเครื่องใช้ ตำแหน่งแอร์อยู่ที่ข้างปลายเตียง

พื้นที่ข้างเตียงเหลือด้านซ้ายเยอะมากนะคะ สามารทำประตูตู้เสื้อผ้าเป็นแบบบานเลื่อนแล้วเลื่อนให้ติดประตู แล้วใส่โต๊ะทำงานเล็กๆจัดตั้งแต่มุมห้องถึงส่วนข้างเตียงแทนโต๊ะข้างเตียงเข้าไปได้

ตู้เสื้อผ้าแบบปิดพร้อมกระจกเต็มตัว, ชั้นวางของแบบไม่มีบานและโต๊ะเครื่องแป้งแบบไม่มีเก้าอี้

ห้องนอนเล็กมีช่องแสง 2 ช่องใหญ่ๆ คือเป็นบานหน้าต่างเลื่อนอยู่ด้านบน และแบบบาน Fix อยู่ด้านล่าง ได้วิวหน้าบ้าน

พื้นที่ปลายเตียงแม้จะวางตู้วางทีวีแล้วก็ยังมีพื้นที่เหลือพอเดิน

ฝั่งตรงข้ามเตียงคือมีตู้วางเตียงเล็กๆอยู่ตรงกลางระหว่างหน้าต่างบานเปิดทรงสูงเพื่อออกไปส่วน Compressor แอร์ และประตูห้องน้ำในตัว

หน้าต่างทรงสูงเป็นบานที่เปิดออกได้พอที่จะระบายอากาศหรือสำหรับช่างซ่อม พื้นที่ด้านนอกเป็นลายกระเบื้องสี วาง Compressor แอร์ และมีส่วนระแนงสีขาวกั้นการมองเห็นจากหน้าบาน

ด้านบนเป็นช่องหน้าต่างบานเลื่อนขนาดเล็กจากห้องน้ำในตัว

ห้องน้ำมีบานประตู UPVC มีเกล็ดระบายอากาศอยู่ด้านล่าง พื้นห้องน้ำไม่ลดระดับจากส่วนกลางบ้าน ปูด้วยกระเบื้องสีอ่อนขนาด 40 x 40 เซนติเมตร

ห้องน้ำขนาด 1.4 x 2.5 เมตร การจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในห้องน้ำเหมือนห้องน้ำชั้นล่าง เป็นแบบสามส่วนทั่วไป ไล่จากด้านนอกเข้าไปด้านในคือ อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ พร้อมกระจกขนาดใหญ่ด้านบน และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำพร้อมฉากกั้น สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard

ห้องนอนกลาง ปิดด้วยบานประตู UPVC พื้นลามิเนตลายไม้ต่อเนื่องเข้ามาจากโถงกลาง

ด้านในแบ่งพื้นที่การใช้งานออกเป็นส่วนทำงานที่มีโต๊ะและเก้าอี้พร้อม และส่วนเตียงนอนทีมีโต๊ะข้างเตียง อีกด้านมีชั้นวางทีวีอยู่ ด้านในมือประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงหน้าบ้าน และขวามือของทางเข้าห้องนอนคือห้องน้ำในตัว

ห้องนอนกลางขนาด 3 x 5 เมตร โดยมีพื้นที่ทำงานเกือบๆ 2 เมตร โดยมีโต๊ะขนาดใหญ่และเก้าอี้ พร้อมตู้เสื้อผ้า 1 แบบดึงออกทั้งสองด้านอยู่ข้างเก้าอี้ทำงานหน้าทางเข้าห้องน้ำ

พื้นที่ข้างเตียงด้านขวาเป็นพื้นที่ปล่อยโล่ง ไม่ได้ใส่โต๊ะข้างเตียงไว้ให้ แต่ก็มีปลั๊กรองรับ

ปลายเตียงเป็นลิ้นชักวางของที่สามารถวางทีวีได้ ระยะดูทีวีอยู่ที่ประมาณ 2.5 เมตร

พื้นที่ข้างเตียงด้านซ้ายเป็นโต๊ะข้างเตียงทรงกลม วางได้หลวมๆ

เหนือส่วนเตียงขึ้นไปเป็นตำแหน่งแอร์ติดผนังอยู่ตรงกลาง ขนาบด้วยช่องแสงจากส่วนข้างบ้าน ทั้งที่เป็นแบบหน้าต่างบานเปิดด้านขวาพร้อมม่านจากด้านบน และแบบบาน Fix จากด้านซ้ายของข้างเตียง

ส่วนฝั่งหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนออกไปยังระเบียงวิวหน้าบ้าน มีม่านอยู่ใต้ฝ้า

ระเบียงขนาด 1.1 x 3.0 เมตร พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องลายขนาด 30 x 30 เซนติเมตร ไม่ลดระดับพื้นลงไปจากพื้นห้องนอน แต่ก่อปูนเพิ่มรวมความสูงของกรอบประตูเลื่อนด้วยอยู่ที่ประมาณ 3 เซนติเมตร

ระเบียงหน้าบ้านมีราวกันตกสูง 1.1 เมตร มีท่อน้ำทิ้งอยู่ที่มุมระเบียง

ชะโงกออกไปเป็นตำแหน่งวาง Compressor แอร์ของห้องนอนกลาง มีตำแหน่งให้น้ำไหลผ่านไปในส่วนข้างบ้านด้วย

อีกด้านหนึ่งของระเบียง ความสูงราวกันตกอยู่ที่ 1.2 เมตร

ส่วนด้านข้างของระเบียงเป็นส่วน Compressor แอร์ของห้องนอนเล็ก ที่สามารถปีนราวกันตกห้องนอนกลางไปเปิดซ่อมบำรุงได้

เผื่อพื้นที่ยืนและเปิด-ปิดในการซ่อมแอร์ของห้องนอนเล็ก

มุมระเบียงมองเข้ามายังห้องนอน ต่อไปห้องสุดท้ายเราจะไปจบกันที่ห้องน้ำในตัวของห้องนอนกลาง

พื้นห้องน้ำไม่ลดระดับลงจากส่วนห้องนอน ปูด้วยกระเบื้องขนาด 20 x 40 เซนติเมตร ลายสีน้ำตาล

การจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในห้องน้ำเป็นแบบสามส่วนทั่วไป ไล่จากด้านนอกเข้าไปด้านในคือ อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ พร้อมกระจกขนาดใหญ่ด้านบน และพื้นที่เปียกสำหรับอาบน้ำพร้อมฉากกั้น สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำจาก American Standard

บ้านตัวอย่างแบบกลางคือ The Forest ขนาดที่ดินเริ่มต้น 61.6 ตร.วา มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 203 ตร.ม. หน้ากว้าง 12 เมตร 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ผ่านรั้วบ้านเข้ามาจะเป็นพื้นที่จอดรถ มีพื้นที่สีเขียบๆรอบๆบ้าน หน้าบ้านสามารถเข้าได้สองทางคือ ส่วนจอดรถเปิดไปเจอส่วนทานอาหาร และประตูหลักหน้าบ้านเปิดไปเจอห้องรับแขก หลังบ้านจากบริเวณซักล้างคือห้องครัวไทย ส่วนหน้าบ้านไล่มาตั้งแต่ห้องรับแขก ลึกเข้าไปเป็นห้องอเนกประสงค์ ตรงกลางเป็นส่วนทานข้าว ลึกเข้าไปเป็นห้องแม่บ้านที่เข้าได้จากส่วนซักล้าง ห้องน้ำแม่บ้านและบันไดตรงกลางบ้าน

บนชั้น 2 เมื่อเดินขึ้นมาจะเจอพื้นที่นั่งเล่นอยู่ซ้ายมือ นอกนั้นแบ่งพื้นที่เป็นห้องนอน 3 ห้อง คล้ายกับแบบบ้านที่ใหญ่ที่สุด โดยห้องนอนใหญ่จะอยู่ด้านขวา มีพื้นที่สำหรับวางโซฟาหรือโต๊ะทำงานส่วนข้างเตียง มีห้องน้ำในตัว ข้างเตียงยังมีระเบียงออกไปยังส่วนหน้าบ้าน สำหรับทางเดินด้านซ้ายมีห้องนอนเล็กที่มีห้องน้ำในตัว ไม่มีระเบียง และห้องนอนขนาดกลางอยู่ริมอีกด้านหนึ่ง พื้นที่ห้องนอนเป็นแบบยาว มีพื้นที่ส่วนนั่งเล่น หรือจะวางโต๊ะทำงาน มีห้องน้ำในตัวอีกเช่นกัน มีระเบียงยื่นออกไปส่วนหน้าบ้านด้วย บนชั้น 2 ของบ้านหลังนี้ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัวทั้งหมด

ภายนอกของบ้านแบบ The Forest ตกแต่งด้วยสีครีมออกเหลือง-น้ำตาล ตัดด้วยกระจกสีออกฟ้าๆ จากภายนอกจะเห็นที่จอดรถ 2 คันอยู่ด้านขวาของหน้าบ้านมีประตูด้านหลังเข้าตัวบ้าน ส่วนหน้างต่างบานเลื่อนตรงกลางคือจากห้องทานอาหาร ประตูบานเลื่อนซ้ายสุดเป็นทางเข้าหลัก เปิดเข้าไปเป็นห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น บนชั้น 2 หน้าต่างและประตูที่เห็นอยู่ทั้งสามบานคือจากห้องนอนทั้งสามห้อง มีห้องขวาสุดเป็นห้องนอนใหญ่ที่มีระเบียงและหลังคายื่นออกมา ห้องนอนกลางที่อยู่ด้านซ้ายสุด ขนาดห้องนอนพอๆกับห้องนอนใหญ่ ต่างกันแค่ขนาดห้องน้ำที่เล็กกว่าเท่านั้น ส่วนห้องนอนเล็กอยู่ตรงกลาง ไม่มีระเบียงเป็นของตัวเอง

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ

ราคาและเงื่อนไขการขาย @ 10 March 2015

• The Mist ขนาดที่ดิน 54.4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. ราคา 4.77 ล้านบาท หรือ 86,700 บาทต่อตารางวา
• The Forest ขนาดที่ดิน 61.6 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 203 ตร.ม. ราคา 5.66 ล้านบาท หรือ 90,900 บาทต่อตารางวา
• The Arise ขนาดที่ดิน 76.3 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 232 ตร.ม. ราคา 7.47 ล้านบาท หรือ 97,900 บาทต่อตารางวา

• จองพร้อมทำสัญญา 50,000 บาท
• ดาวน์ 200,000 – 350,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 58,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง 25 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

เจาะลึกรวบยอด

Delight @ Scene วัชรพล-จตุโชติ ตั้งอยู่บนถนนจตุโชติที่แยกออกมาจากถนนสุขาภิบาล 5 ตั้งอยู่ในทำเลชานเมือง รอบๆโครงการส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่าและหมู่บ้านขนาดใหญ่ สามารถเข้าออกเมืองเลือกได้ 2 เส้นทางคือจะใช้เส้นพหลโยธินหรือสุขาภิบาล 5 ซึ่งทั้ง 2 เส้นเป็นเส้นหลักไปเชื่อมกับถนนเส้นอื่นๆอีกหลายเส้น ความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้ก็จะออกแนวชานเมืองร้านค้าต่างๆมีให้เห็นตาม 2 ข้างทางถนนสุขาภิบาล 5 เป็นระยะ รวมทั้งร้านสะดวกซื้อแต่จะไม่เยอะมาก ระยะไม่ได้อยู่ไกลเท่าไหร่ พวกร้านอาหารจะไม่ได้หรูหรา ติดแอร์เหมือนในเมือง ตลาดสดใกล้ๆก็จะอยู่เส้นสุขาภิบาล 5 มีตลาดออเงิน และตลาดวงศกร หรืออยากจะไปฝั่งพหลโยธินก็มีตลาดยิ่งเจริญ มี Big C Market เป็น Community Mall ระยะจากโครงการประมาณ 5 กิโลเมตร ส่วนถ้าจะไปห้างใหญ่ๆก็จะเกาะตามเส้นพหลโยธิน รามอินทรา และวัชรพลมี Big C, Lotus, และเซ็นทรัล แต่ก็เป็นระยะตั้งแต่ 8 กิโลเมตร ขึ้นไป

การเดินทางโดยใช้รถ ตั้งอยู่บนถนนจตุโชติที่แยกออกมาจากถนนสุขาภิบาล 5 สามารถเข้ามาจากทั้งใช้เส้นวัชรพล, ถนนรามอินทรา หรือถนนพหลโยธิน จุดเด่นของทำเลโครงการอยู่ที่ใกล้กับทางขึ้น-ลงทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ด่านจตุโชติ และใกล้กับจุดบรรจบกับวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ที่สามารถออกไปยังนอกเมืองได้ทั้งลำลูกกา รังสิต จนถึงอยุธยา หรือจะเข้าเมืองไปยังมักกะสัน ลาดกระบัง หรือสนามบินสุวรรณภูมิ

วัสดุของโครงการนี้ใช้แบบมาตรฐานผนังเป็น Pre-Cast หรือผนังสำเร็จรูปและผนังก่อ ผนังเป็นแบบฉาบปูนเรียบทาสีทั้งหลัง พื้นจะได้พื้นไม้ลามิเนต รวมถึงลูกนอนของบันไดด้วย พื้นระเบียงและพื้น-ผนังภายในห้องน้ำจะได้กระเบื้องเซรามิคขนาดต่างๆกันไปปูถึงฝ้าเพดาน แต่การเลือกสีและลายของกระเบื้องภายในห้องน้ำบ้านตัวอย่างทำได้ไม่ค่อยลงตัว พื้นส่วนใหญ่เป็นพื้นลายที่ไม่คลาสสิก ฉากกั้นอาบน้ำแบบขุ่นที่เป็นสีออกเขียวๆทำให้ห้องน้ำดูเล็กลงทันที หน้าต่างและประตูบานเลื่อนเป็นกระจกสีเขียวตัดแสง กรอบอลูมเนียมสีขาว ประตูห้องนอนและห้องน้ำเป็น UPVC มือจับเป็นลูกบิดทั้งหมด ชุดสุขภัณฑ์ของ American Standard และ Mogen

การออกแบบของตัวบ้านแต่ละหลังค่อนข้างกว้าง จัดแบ่งพื้นที่โครงการได้ดี ในแต่ละซอยมีจำนวนบ้านไม่ถึง 10 หลัง แต่ส่วน Landscape ที่สวยๆ และส่วนกลางจะอยู่ส่วนหน้าของโครงการ ทำให้ลูกบ้านด้านหลังเข้าถึงยาก พื้นที่สีเขียวหน้าบ้านมีทั้งที่เป็นสนามหญ้าและลงต้นไม้ใหญ่ให้ ภายในบ้านจัดพื้นที่เปล่าๆได้โอเค แต่บ้านตัวอย่างจัดโล่งไป มองไม่เห็นภาพที่ควรจะเป็น บ้านหลังกลางและใหญ่มีห้องนอนและห้องน้ำของแม่บ้านอยู่ที่ส่วนหลังบ้าน ทำให้ไม่ต้องเข้าออกเกี่ยวข้องกับเจ้าของบ้านมานัก บันไดมีทั้งชิ้นสามเหลี่ยมและขั้นน้อยๆก่อนจะถึงชั้นสอง ทำให้เดินยาก ทั้งยังไม่มีราวบันไดให้มา แบบบ้าน The Mist ชั้น 2 พื้นที่ห้องน้ำในตัวของห้องนอนใหญ่ที่มีตู้เสื้อผ้าอยู่ในห้องน้ำแปลกมาก เพราะการออกแบบทำให้มีฉากกั้นในส่วนที่ไม่ควรมี ทำให้ห้องน้ำดูอึดอัด แต่แบบบ้าน The Arise ไม่มีปัญหานั้น และมีห้องน้ำในตัวของทุกๆห้องด้วย ช่องเปิดรอบตัวบ้านจะเป็นช่องใหญ่ที่ส่วนหน้าบ้าน แต่ข้างบ้านและหลังบ้านเป็นช่องแสงบานเล็กๆ เพื่อไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของทั้งตัวบ้านเองและพื้นที่บ้านข้างๆ

สาธารณูปโภค จากซุ้มหน้าโครงการถือว่าใหญ่มากๆ มีป้อมพี่ยามและไม้กั้นอัตโนมัติกระดกเปิด-ปิดในช่วงกลางวัน และมีบานประตูเลื่อนสูงมากั้นอีกทีหนึ่งในเวลากลางคืน การเปิด-ปิดเป็นแบบ Key Card Access ระยะใกล้ มีระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการรวม 46 จุด เข้าพื้นที่โครงการมาด้านขวาเป็น @ Scene Clubhouse มีสระว่ายน้ำขนาด 5.7 x 19.3 เมตร ถือว่าไม่ยาวมาก, ฟิตเนส และ Wi-Fi ฟรี และมีสวนภายในโครงการขนาด 2-1-92.89 ไร่

 

Judgement

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 5 – 10 ล้านบาท, 10 March 2015

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7/10 – ที่ตั้งอยู่ลึกมาก เหมาะกับคนขึ้น-ลงทางด่วนเป็นประจำ
• ความปลอดภัย 7.5/10 – รั้วกั้นไม้กระดก ประตูเลื่อนหน้าโครงการ ไม่มีสัญญาณกันขโมย
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 7.5/10 – แบ่งพื้นที่ดินและจำนวนห้องสมราคา แต่แบ่งการใช้สอยในรายละเอียดยังไม่ดี
• วัสดุ 7.25/10 – มาตรฐานของราคาระดับนี้
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – Landscape ส่วนหน้าโครงการดี บ้านพร้อมโอนมีการลงต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านให้ด้วย
• สาธารณูปโภค 7.5/10 – โครงการใหญ่แต่มีส่วนกลางจุดเดียว มีสวนขนาด 2 ไร่
• 7.33 / 10.00 

BOTTOM LINE

Delight @ Scene เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดใหญ่ จำนวนยูนิตเยอะ ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำเลที่สะดวกในการขึ้น-ลงทางด่วนทั้งเข้าเมืองและออกนอกเมือง มีงบประมาณ 5-8 ล้านบาท

ถ้ามีความเห็นว่ารีวิวตัวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด LIKE หน่อยนะคะ จะได้มีกำลังใจในการทำรีวิวต่อไป

สมัครสมาชิก www.thinkofliving.com พร้อมรับข่าวสารเพิ่มเติม คลิกที่นี่ https://thinkofliving.com/register/