Grandio Chaengwattana – Muangthong (แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง) บ้านเดี่ยวหลังใหญ่สไตล์ European ตรงข้ามเมืองทองธานี จาก Frasers Property [รีวิวฉบับที่ 2657]

Grandio Chaengwattana – Muangthong (แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง) ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2566

Highlights :

• ใกล้เมืองทองธานีและทางด่วนศรีรัช สามารถเข้า-ออกเมืองได้ง่าย
• มีความอุดมสมบูรณ์สูง และใกล้แหล่งงานอย่างศูนย์ราชการต่างๆ
• สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ทั้งจากถนนใหญ่ติวานนท์ด้านหน้า และซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ทางด้านหลังโครงการ

พิกัด Google Maps : 13.938060, 100.525926
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

..โครงการ แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง ตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ช่วงระหว่างถนนแจ้งวัฒนะ และถนนสรงประภา ซึ่งเป็นย่านที่มีความคึกคักและอุดมสมบูรณ์สูง ไม่ว่าจะเป็นตลาดต่างๆ โลตัส บิ๊กซี โรงบินสัน และเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ

รวมถึงยังอยู่ใกล้กับเมืองทองธานี ที่เราสามารถใช้ทางลัดจากถนนบอร์นสตรีท และซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 39 เพื่อตรงเข้าสู่ใจกลางเมืองทองธานีได้เลย ซึ่งภายในก็จะมีทั้งร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ อาคารสำนักงาน และยังสามารถไปขึ้นทางด่วนศรีรัชได้อีกด้วย

จึงเป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่แถวเมืองทองธานีอยู่แล้ว หรือจะเป็นข้าราชการที่อยู่ตรงแถวๆศูนย์ราชการก็ได้ครับ รวมถึงยังเหมาะกับคนที่เน้นใช้ทางด่วนเพื่อไปทำงานในเมืองอีกด้วย และเมื่อไม่นานมานี้ยังมีการเปิดใช้งานรถไฟฟ้าสายสีชมพูบนถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกมากๆครับ

นอกจากนี้ด้วยตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ ยังสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทางจากทางซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ที่อยู่ด้านหลังได้ด้วย ซึ่งสามารถใช้เป็นทางลัดเลี่ยงรถติดไปออกถนนแจ้งวัฒนะได้อีกทางหนึ่ง และยังเหมาะกับคนที่ต้องการข้ามฝั่งไปยังราชพฤกษ์นั่งเองครับ

ทางด่วนที่ใกล้ที่สุด :

เป็นทางด่วนอุดรรัถยาที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทางด่วนศรีรัช และสามารถตรงเข้าเมืองได้สะดวกเลย โดยเราสามารถใช้ทางลัดจากถนนบอร์นสตรีท เพื่อไปขึ้นทางด่วนได้ในระยะทางประมาณ 4 km. ส่วนขากลับก็สามารถใช้เส้นทางเดิมได้เลยครับ ถือว่ามีความสะดวกมากทีเดียว

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

..โครงการ แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง ตั้งอยู่ภายในอณาจักร The Empire ของ Frasers Property ที่ภายในจะมีโครงการต่างๆของเค้าอยู่ทั้งหมด 4 แบรนด์ด้วยกัน โดยปัจจุบันถนนด้านหน้าจะเป็นถนนภาระจำยอมที่ใช้งานร่วมกัน และอนาคตจะยกให้เป็นสาธารณะของเทศบาลไปครับ

ซึ่งโครงการ แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง จะตั้งอยู่ด้านในสุดเลย โดยห่างจากถนนใหญ่ติวานนท์ประมาณ 1 km. แต่มีข้อดีคือ จะเป็นเพียงโครงการเดียวที่มีพื้นที่เชื่อมต่อกับซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ที่อยู่ทางด้านหลัง จึงทำให้มีทางเข้า-ออกได้ 2 ทาง และโดยรอบก็จะเป็นชุมชนดั้งเดิมทั้งหมดเลย จึงมีความเงียบสงบเหมาะแก่การอยู่อาศัยครับ

• ทิศเหนือ : ติดกับ บ้านพักอาศัย และเป็นทางเข้า-ออกที่ 2 ของซอยสุขาประชาสรรค์ 2
• ทิศตะวันออก : เป็นทางเข้า-ออกหลักของโครงการ ติดกับ ถนนภาระจำยอมของ The Empire และบ้านพักอาศัย
• ทิศตะวันตก : ติดกับ บ้านพักอาศัย
• ทิศใต้ : ติดกับ บ้านพักอาศัย

ภาพบรรยากาศบริเวณปากซอยที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ติวานนท์ ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือถนนบอร์นสตรีทที่สามารถตรงเข้าสู่ใจกลางเมืองทองธานี และไปขึ้นทางด่วนศรีรัชได้ครับ

เพียงแต่เราจะไม่สามารถขับรถข้ามแยกเพื่อตรงไปได้เลยนะ แต่จะต้องไปกลับรถมาก่อนเท่านั้น ซึ่งก็อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตร

และเวลาขับออกไปก็จะต้องระวังรถทางขวามือให้ดีๆด้วยนะครับ เพราะเลนช่องทางซ้ายสุดรถสามารถขับผ่านมาได้ตลอดเลยนั่นเอง

The Empire เป็นอาณาจักรของ Frasers Property ที่ภายในจะมีโครงการแบรนด์ต่างๆรวมกันอยู่หลายแห่ง และสำหรับทำเลแจ้งวัฒนะนี้ก็จะมีอยู่ 4 โครงการด้วยกัน ประกอบด้วย

• Golden City แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง
• Golden Neo แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง
• Grandio แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง (โครงการใหม่ล่าสุดที่เปิดปีนี้)
• The Grand แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง (โครงการใหม่ที่จะเปิดต้นปี 2567)

บรรยากาศภายในเป็นถนนขนาดใหญ่ 4 เลน ที่รถสามารถขับสวนทางกันได้สบายๆ อีกทั้งทาง Frasers Property ยังได้มีการปลูกต้นไม้และปรับภูมิทัศน์ระหว่างทาง ให้มีความสวยงามและร่มรื่นแบบนี้อีกด้วย

และเมื่อเราเข้ามาจนสุดทางประมาณ 1 km. ก็จะเจอกับที่ตั้งโครงการ แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง อยู่ด้านในสุดแบบนี้ครับ ซึ่งบริเวณด้านหน้าก็จะมีวงเวียนให้สามารถวนรถกลับได้สบายๆเลย

ส่วนภาพนี้จะเป็นบรรยากาศของซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ที่เป็นทางเข้า-ออกรองของโครงการครับ ซึ่งจะเป็นซุ้มประตูที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อย

โดยซอยนี้ส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนดั้งเดิม ซึ่งก็พอจะมีตลาดและร้านค้าให้มาจับจ่ายใช้สอยกันได้นิดหน่อย แต่หลักๆจะสามารถใช้เป็นทางลัดเลี่ยงรถติด เพื่อไปออกถนนแจ้งวัฒนะได้นั่นเองครับ

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น

ห้างสรรพสินค้า / ตลาด

• Mini Big C ~ 1.8 km.
• Lotus ติวานนท์ ~ 1.6 km.
• ตลาดมะลิเลียบด่วนเมืองทอง ~ 3 km.
• Robinson ศรีสมาน ~ 4.2 km.
• IMPACT Arena เมืองทองธานี ~ 4.7 km.
• Major Hollywood ปากเกร็ด ~ 5.2 km.
• ไทวัสดุ ~ 5.9 km.
• Central Plaza แจ้งวัฒนะ ~ 7.4 km.
• The Avenue แจ้งวัฒนะ ~ 7.5 km.

โรงพยาบาล

• รพ.วิภารามปากเกร็ด ~ 6.9 km.
• รพ.มงกุฎวัฒนะ ~ 7.6 km.
• รพ.เวิลด์เมดิคอล ~ 7.8 km.
• รพ.ชลประทาน ~ 8.5 km.
• รพ.จุฬาภรณ์ ~ 10.8 km.

โรงเรียน

• รร.อัมพรไพศาล ~ 2 km.
• ม.สุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) ~ 3.6 km.
• รร.เซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ~ 5.2 km.
• รร.หอวังนนทบุรี สวนกุหลาบนนทบุรี ~ 6.3 km.
• รร.นานาชาติ Rose Marie Academy ~ 7.8 km.
• รร.นานาชาติกรุงเทพ แจ้งวัฒนะ (ISB) ~ 9.2 km.
• ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ~ 9.8 km.

สถานที่ราชการ

• กรมชลประทาน ~ 7.6 km.
• กระทรวงยุติธรรม ~ 8.7 km.
• ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะฯ ~ 8.8 km.
• ศาลปกครอง ~ 9.2 km.
• กรมการกงศุล ~ 9.3 km.
• กระทรวงการต่างประเทศ ~ 9.3 km.
• ท่าอากาศยานดอนเมือง ~ 13 km.

Highlights :

• ส่วนกลางมีบรรยากาศสวยงามสไตล์ยุโรป ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่เมืองนอก
• มีทางเข้า-ออก 2 ทาง เพิ่มตัวเลือกในการเดินทางที่สะดวกให้กับลูกบ้าน
• จัดพื้นที่ส่วนกลางให้อยู่บริเวณด้านหน้าสุด ทำให้บ้านทุกยูนิตได้สัมผัสกับบรรยากาศสวยๆตอนเข้า-ออกโครงการได้ดี
• มีตัวเลือกของบ้านในซอยที่มีความเป็นส่วนตัวหลายตำแหน่ง

..โครงการ แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง เป็นบ้านเดี่ยวจัดสรร 140 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 43-0-85.3 ไร่ ถือว่ามีความเป็นส่วนตัวไม่หนาแน่นมากนัก และมีทางเข้า-ออก 2 ทาง คือจากถนนใหญ่ด้านหน้าที่เป็นวงเวียนหลัก และจากซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ที่อยู่ด้านหลัง จึงทำให้ลูกบ้านมีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้น

โดยบริเวณเฟสแรกทางด้านหน้าจะเป็นโซนบ้านใกล้พื้นที่ส่วนกลาง จึงทำให้มีความสะดวกในการมาใช้งาน และค่อนข้างมีบรรยากาศที่ดี อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นส่วนต้อนรับ และช่วยเป็นหน้าเป็นตาแก่แขกได้ด้วย ทำให้คนที่ขับรถผ่านไป-มาได้สัมผัสบรรยากาศความเป็นสไตล์ยุโรปได้ดีเลยครับ ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นแบบบ้านหลังใหญ่เป็นหลักครับ

ถัดเข้ามาเฟสด้านในจะสังเกตได้ว่า ช่วงกลางๆที่ดินจะมีเว้นระยะเผื่อไว้แนวถนนส่วนนึง ที่เป็นแนวเวนคืนจากผังเมืองนนทบุรี ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้มีแพลนประกาศสร้างอย่างเป็นทางการครับ (สามารถสอบถามรายละเอียดกับโครงการได้อีกครั้ง)

สำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวและไม่วุ่นวาย โครงการนี้ก็มีตำแหน่งให้เลือกพอสมควรเลย โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ภายในซอยแยกย่อยต่างๆ (กรอบสีแดง) จะมีเพื่อนร่วมซอยตั้งแต่ 1 – 6 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งหากใครสนใจตำแหน่งบ้านเหล่านี้ก็อาจต้องรีบสักหน่อยครับ

เริ่มกันที่ซุ้มประตูทางเข้าที่เป็นสไตล์ยุโรป ซึ่งจะรู้สึกได้ถึงความใหญ่โตและดูหรูหรามากๆ ไม่ว่าจะเป็นขนาดซุ้มที่ Oversize และยังทำโดมหอคอยทั้ง 2 ข้างอีก

ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังจะเข้าไปสู่พระราชวังกันเลยทีเดียว ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของแบรนด์ Grandio ที่ไม่เหมือนใครเลยครับ

และนอกจากจะมีการแยกทางเข้า-ออกกันชัดเจนแล้ว ยังมีการแยกช่องทางของ Owner และ Visitor ออกจากกันด้วย

ทำให้ Owner สามารถขับรถผ่านซุ้มประตูได้สะดวกด้วย Easy Pass หรือสัญญาณ Bluetooth โดยไม่ต้องเสียเวลารอ Visitor แลกบัตรกับพี่ยามก่อนนั่นเอง

เมื่อเข้ามาด้านในเราจะเจอกับวงเวียนน้ำพุขนาดใหญ่ ที่จะแยกเส้นทางออกไปยังโซนต่างๆ ซึ่งนอกจากจะดูหรูหราสวยงามแล้ว ยังทำให้สามารถวนรถได้สะดวกด้วย

บริเวณถนนหลักด้านหน้าเวลาที่ขับรถเข้า-ออก ก็จะได้ผ่านพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ซึ่งจำลองบรรยากาศมาจาก Morcote (มอโคเท่) เป็นเมืองริมทะเลสาบลูกาโน่ ที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะประภาคารริมน้ำที่โดดเด่นสวยงาม อีกทั้งยังมีเสียงน้ำเบาๆให้เราได้ผ่อนคลายอีกด้วย

นอกจากนี้ยังจำลองบรรยากาศของท่าเรือริมน้ำ ซึ่งเป็นจุดให้เราได้แวะมานั่งเล่น หรือถ่ายรูปกันได้แบบนี้ครับ

อีกด้านหนึ่งจะเป็น Pavilion หรือศาลาริมน้ำ ซึ่งนอกจากเราจะมานั่งพักชิลๆได้แล้ว ในช่วงเทศกาลลอยกระทงก็อาจใช้ตรงนี้เป็นจุดจัดกิจกรรมในหมู่บ้านได้อีกด้วยนะครับ

สำหรับสวนสาธารณะอีกด้านหนึ่งก็จะมีสะพานให้เราข้ามน้ำไปได้แบบนี้เลย

พื้นที่สีเขียวทั้งหมดมีขนาดประมาณ 1 ไร่ครึ่ง โดยจะมีทางเดินอยู่รอบๆให้เรามาเดินเล่นชิลๆกันได้ ซึ่งจะตกแต่งเป็นสวนสไตล์อังกฤษที่มีความสมมาตร และเน้นเป็นพืชหลากหลายสายพันธุ์ ถือว่ามีความสวยงามและร่มรื่นดีทีเดียวครับ

ขวามือจะมีม้าหมุนตั้งอยู่ด้านหลังประภาคาร ซึ่งสามารถใช้งานหมุนได้จริงนะครับ และเด็กๆก็น่าจะชอบกันไม่น้อย ถือเป็นอีกหนึ่ง Sixnature ที่ไม่เหมือนใครของ Frasers Property และมีอยู่เกือบทุกๆโครงการเลยทีเดียว

สำหรับประภาคารจะมีบันไดให้เดินขึ้นไปได้จาก 3 ด้านเลยครับ

ข้างในจะเป็นพื้นที่โล่งๆ และเราสามารถขึ้นมาชมวิวหรือถ่ายรูปเล่นสวยๆ ในบรรยากาศริมน้ำแบบนี้ได้นะครับ ซึ่งประภาคารนี้ก็ถือเป็น Icon สำคัญของโครงการ ที่ต้องมาถ่ายรูปเช็คอินกันให้ได้เลย

อีกด้านหนึ่งของสวนสาธารณะจะเป็นสนามพัตกอล์ฟ เรียกได้ว่าเหมือนมีสนามส่วนตัวอยู่หน้าบ้าน แบบไม่ต้องเสียเวลาขับรถออกไปด้านนอกไกลๆเลยครับ

ซึ่งก็มีให้เราเลือกเล่นอยู่ 4 – 5 หลุมกันเลยทีเดียว ถือว่าให้มาเยอะกว่าโครงการอื่นๆที่ผมเคยเห็นมาครับ แถมยังมีบรรยากาศสวยงามล้อมรอบแบบนี้อีกด้วย

มาต่อกันที่อาคาร Clubhouse โดยผมมักจะพูดเสมอว่า Clubhouse ของแบรนด์ Grandio ดูกี่ทีก็เหมือนกับพระราชวังมากๆ เพราะดูสวยงามและใหญ่อลังการดีจริงๆ

โดยจะเป็นอาคารชั้นเดียวที่มีขนาดทุกอย่าง Oversize ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นซุ้มประตูทางเข้าและฝ้าเพดานแบบ Double Volume ที่อยู่ด้านใน

รวมถึงมีการตกแต่งเป็นสไตล์ยุโรป ซึ่งถือว่าเก็บรายละเอียดได้ดีทีเดียว ส่วนด้านซ้ายมือก็จะเป็น Parking ให้ขับรถมาใช้งานได้ 4 ช่องจอดนะครับ

เมื่อเดินเข้ามาด้านในจะเจอกับโถงกลางหลัก ที่แบ่งฟังก์ชันห้องออกไป 2 ด้าน

เริ่มกันที่ด้านขวามือจะเป็น Lobby ที่เราสามารถมานั่งเล่นและใช้รับรองแขกได้ครับ เหมาะกับคนที่ไม่อยากพาแขกเข้าบ้านให้เสียความเป็นส่วนตัว (ปัจจุบันให้เป็นสำนักงานขายอยู่นะครับ)

ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นโซนใช้งานจริงสำหรับลูกบ้าน ประกอบด้วย Co-Working Space / Fitness และห้องน้ำ

โดยภายในห้องแบบ Indoor จะเป็นพื้นที่ใช้งานร่วมกันของ 2 ฟังก์ชันคือ Co-Working Space และ Fitness

เริ่มจาก Co-Working Space ที่อยู่ด้านหน้า จะมีทั้งชุดโซฟาและโต๊ะทรงสูง ให้เราสามารถมานั่งเล่นอ่านหนังสือ นั่งทำงานเล็กๆน้อยๆ หรือจะนั่งคอยเพื่อนที่ออกกำลังกายอยู่ก็ได้

ส่วน Fitness ที่อยู่ด้านในก็มีอุปกรณ์ให้ใช้งานครบครัน สามารถเล่นพร้อมๆกันได้ 5 – 6 คน

ด้านข้างจะเป็นทางเดินเชื่อมต่อไปยังห้องน้ำแยกชาย-หญิงครับ

ภายในตกแต่งดูหรูหราและกว้างขวางดี มีฟังก์ชันให้ใช้งานครบทั้งโถสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำ และตู้ล็อคเกอร์เก็บของใช้ส่วนตัว

ด้านนอกจะมีพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนริมสระ ซึ่งจะอยู่ใกล้ๆกับสระน้ำตื้นสำหรับเด็ก (ขนาด 2.5 x 6 m.) ทำให้ผู้ปกครองสามารถดูแลน้องๆได้อย่างใกล้ชิดแบบนี้ครับ

ส่วนสระว่ายน้ำหลักจะมีขนาด 9 x 33 m. เป็นสระแบบกลางแจ้งที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริงจัง ส่วนด้านข้างสระก็จะมีแนวต้นไม้ช่วยพรางสายตาจากถนน และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ได้ในระดับหนึ่งครับ

และด้านข้างของสระจะมีโถงทางเดินในร่ม ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังสวนสาธารณะก่อนหน้านี้ได้ด้วยครับ

โดยสวนบริเวณนี้จะมีการปลูกต้นไม้เยอะมาก จึงมีความร่มรื่นสวยงาม และประดับด้วยน้ำพุกับศาลาริมน้ำ เพื่อให้ได้บรรยากาศสไตล์อังกฤษ รวมถึงยังมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังส่วนอื่นๆของสวนก่อนหน้านี้ได้อีกด้วย

สุดท้ายผมจะพามาแวะดูซุ้มประตูทางเข้าที่ 2 โดยจะเป็นทางเข้ารองที่มีขนาดเล็กกว่า แต่ก็ใช้เป็นประตูเหล็กรางเลื่อนที่แข็งแรงปลอดภัย และเข้า-ออกด้วย Easy Pass เช่นเดิมครับ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse สไตล์ European
• Lobby (พื้นที่นั่งเล่น & รับแขก)
• Swimming Pool ระบบเกลือ ขนาด 9 x 33 เมตร
• Kids Pool ขนาด 2.5 x 6 เมตร
• Fitness (ห้องออกกำลังกาย)
• Co-Working Space (พื้นที่นั่งทำงาน อ่านหนังสือ)
• Putting Green (สนามพัตกอล์ฟ)
• Playground (เครื่องเล่นม้าหมุน)
• พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 1 จุด รวมประมาณ 1 ไร่ครึ่ง
• ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
• รั้วรอบโครงการสูง 2.5 เมตร
• ถนนหลักกว้าง 12 – 22 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.
• Wi-Fi ฟรีที่คลับเฮ้าส์
• Key Card Access ระยะไกลด้วยระบบสัญญาณ Bluetooth
• เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
• ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วเลื่อนไฟฟ้า 2 ตอน
• สัญญาณกันขโมย ระบบ Magnetic Sensor ทุกหลัง
• ติดตั้งระบบ Fraser Clean & Cool Air ทุกหลัง ช่วยดึงอากาศจากภายนอกเข้ามา และกรองฝุ่น PM 2.5

Highlights :

• บ้านเดี่ยวหน้ากว้างสไตล์ European มีรายละเอียด Facade ด้านหน้าดูหรูหราสวยงาม
• มีห้องนอนชั้นล่างและ Laundry ที่มีช่องแสง Skylight ทุกแบบ
• บ้านหลังกลาง-ใหญ่ได้ Floyer ที่มีฝ้าเพดานสูง Double Volume พร้อมโถงบันไดที่กว้างขวางมาก ทำให้มีบรรยากาศโอ่โถงดูหรูหรา พร้อม Double Master Bedroom ให้ใช้งาน
• บ้านหลังใหญ่สุดมีสระว่ายน้ำส่วนตัวกลางบ้าน พร้อมผนังกระจกล้อมรอบ ทำให้มองเห็นวิวสระได้ทุกฟังก์ชัน ช่วยเพิ่มความโปร่งโล่งและบรรยากาศที่ดีมากขึ้น

แบบบ้านของโครงการ แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ โดยจะเป็นบ้านเดี่ยวหน้ากว้างหลังใหญ่สไตล์ European ที่ไม่เหมือนใครในย่าน และมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดเล็ก-ใหญ่ได้สบายๆ ประกอบด้วย

• Luzern บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 320 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องซักรีด / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ + สระว่ายน้ำส่วนตัว
• Milano บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 251 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องซักรีด / 2 ที่จอดรถ
• Siena บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 65 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 216 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องซักรีด / 2 ที่จอดรถ

โครงสร้างบ้าน :

• เป็นระบบ Precast หรือผนังคอนกรีตเสริมเหล็กสำเร็จรูป มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถกันเสียงได้ดี แต่ด้วยความที่เป็นผนังรับน้ำหนัก ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นโครงสร้างบ้านในตัว เวลาทุบ/เจาะ/ต่อเติม จะทำได้ยากกว่าผนังชนิดอื่นๆ และจำเป็นต้องปรึกษาช่างก่อนนะครับ
• พื้นที่จอดรถ : Slab on Ground ไม่ลงเสาเข็ม + ปูกระเบื้องเซรามิค
• พื้นที่ซักล้าง : Slab on Ground ไม่ลงเสาเข็ม + พื้นปูนฉาบเรียบ
• บันได : โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิวไม้ประสาน
• สระว่ายน้ำ (เฉพาะบ้านหลังใหญ่) : โครงสร้าง Precast + กันซึมอีก 1 ชั้น เป็นสระระบบเกลือ พร้อมติดตั้ง Jetswim สำหรับว่ายทวนกระแสน้ำ

วัสดุหลักๆภายในบ้าน :

• พื้นชั้น 1 : กระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 cm.
• พื้นชั้น 2 และห้องนอนชั้นล่าง : SPC ลายไม้
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ : Kohler พร้อมติดตั้งฉากกั้นกระจกนิรภัยทุกห้อง
• สัญญาณกันขโมย : ระบบ Magnetic Sensor บริเวณประตู-หน้าต่างชั้น 1 ทุกหลัง
• Fraser Clean & Cool Air ดึงอากาศจากนอกบ้านเข้ามาโดยตัวกรองฝุ่น PM 2.5
• ระบบไฟในตัวบ้าน 1 เฟส 30/100 มี Junction รองรับ EV Charger ทุกหลัง

• Luzern บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 320 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องซักรีด / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ + สระว่ายน้ำส่วนตัว

บ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุดของโครงการ เป็นบ้านที่เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่ รวมถึงต้องการฟังก์ชันที่ไม่เหมือนใครอย่าง ‘สระว่ายน้ำ’ ที่อยู่ตรงกลางบ้านด้วยครับ โดยจุดเด่นของบ้านผมขอแยกอธิบายเป็นหัวข้อดังนี้

1. Private Pool : เป็นหัวใจสำคัญของบ้าน ที่นอกจากจะใช้ว่ายน้ำแบบส่วนตัวได้แล้ว ยังช่วยเพิ่มบรรยากาศของพื้นที่ชั้น 1 ได้ดีมากๆ เพราะผนังโดยรอบจะเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้ทุกๆจุดของบ้านสามารถมองเห็นผืนน้ำตรงนี้ได้ดี มีบรรยากาศที่สว่างโปร่งโล่งและผ่อนคลาย เหมาะกับการพักผ่อนฟังเสียงน้ำเพลินๆ หรือจะเปิดพื้นที่เชื่อมต่อระหว่าง Indoor + Outdoor สำหรับจัดปาร์ตี้ก็ได้นะครับ
2. มีห้องชั้นล่างถึง 2 ห้อง : ปกติเราจะเจอแต่บ้านที่มีห้องนอนชั้นล่างแค่ห้องเดียวเท่านั้น แต่พอมี 2 ห้องแบบนี้ ก็เลยทำให้มีตัวเลือกในการใช้งานได้ดีมากขึ้น แน่นอนว่าห้องหลักที่อยู่ด้านหน้าบ้านจะมีทางเข้าห้องน้ำในตัว จึงเหมาะกับใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่เดินขึ้นบันไดไม่ไหว ส่วนอีกห้องหนึ่งสามารถจัดเป็นฟังก์ชันอื่นๆได้ตามต้องการ เช่น ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย ห้องนอนแขก หรือห้องนอนพยาบาลที่จะมาดูแลผู้สูงอายุ 24 ชม. เป็นต้น
3. ห้องครัวและพื้นที่ซักล้าง : เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่บ้านหลังนี้ให้ความสำคัญมาก เพราะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ โดยเฉพาะครัวที่สามารถทำเป็นเคาน์เตอร์ตัว L หรือตัว U และเพิ่ม Island Table ตรงกลางได้สบายๆ รวมถึงยังมี Laundry ที่มาพร้อมกับช่องแสง Skylight ให้เราสามารถซัก-ตากผ้าในบ้านได้เลยอีกด้วย ส่วนพื้นที่ของแม่บ้านก็จะอยู่แยกออกไปทางด้านนอกเป็นสัดส่วนนะครับ
4. โถงบันไดบนชั้น 2 : เป็นสิ่งที่เพิ่มความแกรนด์และหรูหราให้บ้านหลังนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะขนาดพื้นที่ที่กว้างขวาง และฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume นอกจากนี้ยังมี Family Area และพื้นที่วางหิ้งพระให้ใช้งานจริงจังได้อีกด้วย
5. Double Master Bedroom : บ้านหลังนี้จะมีห้องนอนใหญ่ที่มีขนาดพอๆกันอยู่ 2 ห้อง ซึ่งถ้าเป็นห้องหลักก็จะมีทั้งระเบียงและอ่างอาบน้ำให้ใช้งานเพิ่มขึ้นมาครับ ส่วนอีกห้องหนึ่งก็สามารถใช้เป็นห้องของลูกคนโต ที่อยู่ได้ตั้งแต่เล็กจนมีครอบครัวเลยก็ได้ เพราะมีขนาดใหญ่และกว้างขวางมากๆเลยทีเดียว ส่วนห้องนอนเล็กสุดก็ใช้เป็นห้องนอนหลานในอนาคตไปก็ยังได้ครับ

อีกหนึ่งสิ่งที่ผมคิดว่าทำได้ดีเลยก็คือ Facade บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเค้าได้เก็บรายละเอียดได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการทำ Arch โค้งขนาดใหญ่ และเพิ่มลวดลายของลูกฟักและวงกบหลายชั้น

นอกจากนี้ยังมีการ Cladding ผนังด้วยกระเบื้องหินธรรมชาติ + กระเบื้องลายหินอ่อนด้วย ซึ่งหากเทียบกับบ้านสไตล์ Modern หรือบ้านแบบทั่วไปแล้ว บ้านสไตล์นี้จะมีการลงทุนที่สูงและทำได้ยากกว่ามากเลยคับ

ประตูรั้วของบ้านจะเป็นเหล็กรางเลื่อนแบบตอนเดียว โดยทางโครงการจะมี Junction ระบบไฟฟ้า สำหรับติดตั้งเป็นประตูอัตโนมัติมาให้ด้วยครับ ซึ่งผมก็แนะนำให้ติดเพิ่มนะ เพราะจะช่วยทำให้การใช้งานมีความสะดวกมากขึ้น

ซ้ายมือจะเป็นตู้จดหมายและถังขยะ ที่สามารถเปิดได้สะดวกทั้งจากด้านนอกและด้านใน

ที่จอดรถในร่มกว้าง 7.5 m. สามารถจอด 3 คันได้สบายๆ พื้นปูด้วยกระเบื้องที่มีลวดลายคล้าย Concrete Stamp ดูสวยงามดีทีเดียว แถมยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย

โดยจะเป็นโครงสร้าง Slab on Ground ที่แยก Joint ออกมาจากตัวบ้านแบบทั้งผืน เวลาที่พื้นดินเกิดการทรุดตัวในอนาตคก็จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างหลักของบ้านครับ

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบไฟอัตโนมัติ ที่สามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดเองได้ตรงพื้นที่จอดรถอีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในตอนกลางคืนได้ดีทีเดียว

และนอกจากจะมีประตูทางเข้าบ้านรองแล้ว ยังมีตู้เก็บของและ Junction ของ EV Charger ให้ใช้งานแบบนี้ด้วยครับ

ส่วนทางเข้าบ้านหลักก็จะมีทางเดินเชื่อมต่อจากพื้นที่จอดรถนี้ได้เลย โดยจะเป็นการเดินแบบในร่ม ไม่ต้องอ้อมไปโดนแดดโดนฝนด้านนอกครับ

ทางเข้าบ้านหลักจะทำเป็นซุ้มประตูทรงสูงขนาดใหญ่ ซึ่งนอกจากจะมีความสวยงามแล้ว ยังช่วยทำให้ดูหรูหรามากขึ้นอีกด้วย

ประตูจะเป็นบ้านไม้ที่เปิดได้กว้าง 2 ฝั่ง ทำให้เราสามารถขนของชิ้นใหญ่ๆเข้าบ้านได้สะดวก

เมื่อเข้ามาภายในบ้านเราจะเจอกับ Floyer ที่เป็นโถงต้อนรับแบบ Double Volume ที่มีฝ้าเพดานสูง 6.4 m. จึงทำให้มีบรรยากาศที่สูงโปร่ง และดูโออ่าหรูหรามากขึ้นครับ

โดยพื้นที่ด้านซ้ายมือจะเป็น Living Area ที่สามารถใช้รับแขก หรือเป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัวได้ แต่จุดเด่นจริงๆก็คือ เราสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำที่อยู่ด้านหลังบ้านได้ด้วยครับ จึงทำให้มีบรรยากาศที่สดชื่นเย็นสบายตาดีเลยทีเดียว

ตัวสระว่ายน้ำด้านนอกจะถูกล้อมรอบด้วยผนังกระจกทั้งหมด ทำให้พื้นที่ดูเชื่อมต่อกันระหว่างภายในกับภายนอก และยังช่วยให้บรรยากาศมีความสว่างโปร่งโล่งมากขึ้นอีกด้วย

สระว่ายน้ำมีขนาด 2 x 3.7 m. มาพร้อมกับเครื่อง Jetswim ให้เราสามารถว่ายทวนกระแสน้ำเพื่อออกกำลังกายได้ครับ

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ สระนี้จะเป็นโครงสร้าง Precast เช่นเดียวกับตัวบ้าน ที่ทางโครงการเค้าจะยกมาวางแบบทั้งชิ้นที่มีน้ำหนักกว่า 15 ตัน

ซึ่งการเคลื่อนย้ายแบบนี้จะทำได้ยากมาก แต่มีข้อดีคือจะไม่มีปัญหารั่วซึมเหมือนการหล่อในที่ แถมยังทำกันซึมเพิ่มให้อีกชั้นหนึ่งด้วยครับ

เพิ่มเติมในส่วนของบ้านจริงเราจะได้ฉากกั้นแบบนี้ด้วย เพื่อช่วยพรางสายตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวจากเพื่อนบ้านข้างๆได้ครับ

ถัดมาจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังฟังก์ชันอื่นๆ ที่จะอยู่แยกออกไปจาก Common Area เล็กน้อย เลยทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

เริ่มจากห้องแรกทางขวามือจะเป็นโซนที่อยู่ด้านหลังบ้าน อีกทั้งยังมีช่องแสงเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำก่อนหน้านี้ได้อีกด้วย

ภายในมีขนาด 2.9 x 3.3 m. สามารถจัดเป็นห้องอเนกประสงค์ได้ตามต้องการ เช่น ห้องทำงาน ห้องดูหนัง ห้องนอนแขก หรือจะทำเป็นห้องออกกำลังกายเหมือนบ้านตัวอย่างนี้ก็ได้ครับ

ตรงกลางเป็นห้องน้ำที่จะมีฟังก์ชันอาบน้ำให้ใช้งานได้ด้วย ซึ่งจะสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง เพื่อความสะดวกในการใช้งานของห้องนอนข้างๆ

สุขภัณฑ์ด้านในเป็นของ Kohlor และมีจุดเด่นอยู่ที่ผนังห้อง ซึ่งจะมีกาารต่อลายหินดูสวยงามมาก (แต่ละห้องก็จะแตกต่างกันออกไป)

อีกด้านของห้องน้ำจะเป็น Shower Box ที่กั้นด้วยผนังกระจกนิรภัย Tempered Glass มาให้เป็นมาตรฐาน และด้านในก็จะมีขนาด 95 x 95 cm. ให้ใช้งานพอดีๆ

ถัดมาจะเป็นห้องนอนที่อยู่โซนด้านหน้าบ้าน ภายในกว้าง 3.5 x 3 m. สามารถวางเตียง 5 ฟุตกับตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ โดยยังมีพื้นที่รอบเตียงให้ขึ้น-ลงสะดวก

อีกทั้งยังเป็นห้องที่ได้ช่องแสง 2 ด้าน ทั้งจากบริเวณหน้าบ้านและข้างบ้าน จึงทำให้มองเห็นพื้นที่สีเขียวได้ตลอดเวลา เหมาะที่จะเป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่อาจขึ้น-ลงบันไดไม่ไหวครับ

นอกจากนี้ยังมีประตูที่สามารถเปิดเชื่อมต่อไปยังสวนข้างบ้านได้ด้วย โดยเราสามารถจัดเป็นพื้นที่นั่งเล่น พื้นที่ปลูกต้นไม้ทำสวน หรือจะทำเป็นมุมน้ำตก เพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศเหมือนบ้านตัวอย่างนี้ก็ได้ (ขนาดสวนแตกต่างกันไปตามตำแหน่งแปลงที่ดิน)

กลับเข้ามาในบ้านอีกครั้ง ต่อไปเราจะมาดูอีกด้านหนึ่งกันบ้างครับ

เริ่มจากพื้นที่นั่งทานอาหารตรงกลางบ้าน จะมีขนาดกว้างมากพอที่จะวางโต๊ะ 6 – 8 ที่นั่งได้สบายๆ อีกทั้งยังได้ช่องแสง 2 ด้าน ทำให้สามารถมองเห็นวิวสระและสวนภายนอกได้ด้วย

นอกจากนี้เรายังสามารถเปิดประตูกระจกบานเลื่อนด้านข้าง เพื่อเชื่อมต่อกับพื้นที่สระที่อยู่ด้านนอกได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับเวลาจัดงานปาร์ตี้กับเพื่อนๆมากๆครับ

ถัดมาจะเป็นโถงทางเดินที่แยกออกมาอีกด้านหนึ่งของตัวบ้าน ซึ่งจะเป็นบริเวณเดียวกับประตูทางเข้ารองที่เปิดตรงมาจากที่จอดรถ ทำให้เราสามารถขนของเข้ามาเก็บในครัวได้สะดวก

และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ เค้าจะมีการเจาะช่องผนังทำเป็นกระจกเข้ามุม Bay Window เอาไว้ด้วย ทำให้บรรยากาศภายในมีความสว่างโปร่งโล่ง และพื้นที่นี้ก็ดูกว้างขวางมากขึ้นด้วยครับ

ตรงกลางจะเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ที่ใช้งานสำหรับแขกและพื้นที่ชั้นล่างทั้งหมด ภายในกว้าง 1.35 x 1.9 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ

เพียงแต่อาจมีระยะเดินที่ไกลจาก Living Area มากกว่าห้องน้ำของห้องนอนชั้นล่างที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนหน้านี้สักหน่อยนะครับ หรือถ้าไม่ซีเรียสมากนัก ก็สามารถเลือกใช้ตามสะดวกได้ทั้ง 2 ฝั่งได้เลย

ติดกันจะเป็นห้องครัวที่ของจริงจะเป็นพื้นที่โล่งๆ และมีท่องานระบบต่างๆเตรียมเอาไว้ ให้เราสามารถ Built-in ได้เองตามต้องการ

โดยจะมีขนาด 3.7 x 3.1 m. ซึ่งกว้างมากพอที่จะทำเคาน์เตอร์รูปตัว U และโต๊ะเตรียมอาหาร Island Table ตรงกลางเพิ่มได้สบายๆ

นอกจากนี้ยังมีช่องแสงเยอะ จึงทำให้ภายในดูกว้างขวางและโปร่งโล่งดีทีเดียว โดยด้านซ้ายมือจะเป็นช่องหน้าต่างบานเลื่อนเชื่อมต่อกับโต๊ะทานอาหาร ซึ่งเราสามารถใช้ในการรับ-ส่งอาหารผ่านทางนี้ได้สะดวก ส่วนช่องบานกระทุ้งขวามือก็เอาไว้ระบายอากาศได้ครับ

อีกด้านหนึ่งจะมีประตูกระจกบานเลื่อน ที่กั้นโซน Laundry เอาไว้เป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นของอาหารเข้าไปโดนผ้าด้านใน และกันไม่ให้ความชื้นเข้ามาสู่ตัวบ้านครับ

ภายในเป็นพื้นที่รูปตัว L กว้างด้านละ 1.6 – 1.9 m. ซึ่งเราสามารถ Built-in ตู้และราวแขวนเสื้อผ้าได้ตามต้องการครับ

จุดเด่นของฟังก์ชันนี้คือ ช่องแสง Skylight ที่แสงแดดสามารถส่องผ่านเข้ามาด้านในได้ ซึ่งเราก็อาจใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าได้แบบไม่ต้องกลัวฝนหรือฝุ่นภายนอกเลยนั่นเอง

อีกด้านหนึ่งจะเป็นประตูที่เปิดออกไปสู่ลานซักล้างหลังบ้าน โดยด้านล่างจะมีช่องระบายอากาศที่ติดมุ้งลวดกันแมลงมาให้แบบนี้เลย ซึ่งจะมีส่วนช่วยระบายความชื้นภายใน Laundry ได้นั่นเอง

ลานซักล้านจะเทพื้นคอนกรีตแบบ Slab on Ground มาให้แบบนี้ สามารถใช้ตากผ้ากลางแจ้ง หรือทำครัวไทยด้านนอกเพิ่มเติมได้ครับ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เชื่อมต่อกับส่วนของแม่บ้านข้างๆอีกด้วย

โดยภายในก็จะประกอบด้วยห้องนอนขนาด 2.1 x 1.7 m. สามารถวางเตียง 3.5 ฟุต กับตู้เสื้อผ้าเล็กๆได้ เหมาะกับการอยู่อาศัย 1 คนพอดีๆ

หรือถ้าใครที่ไม่ได้มีแม่บ้านพักอยู่ด้วย ก็อาจปรับเป็นห้องเก็บของอื่นๆไปก็ได้ครับ และติดกันจะเป็นห้องน้ำขนาด 1 x 1.75 m. มาพร้อมกับสุขภัณฑ์ให้ใช้งานครบเลย

โถงบันไดสำหรับขึ้นชั้น 2 ที่อยู่ตรงกลางบ้านในตอนแรก จะเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่ไม่มีเสียงดังรบกวนเวลาใช้งาน ปิดผิวด้วยไม้ประสาน และมีราวจับเหล็กลวดลายสวยงามตลอดทาง

สิ่งหนึ่งที่เป็นไอเดียน่าสนใจคือ เราสามารถทำห้องเก็บของใต้บันได ให้กลายเป็นตู้รองเท้าแบบบ้านตัวอย่างได้นะครับ ซึ่งนอกจากจะใช้งานได้สะดวกแล้ว ยังทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นอีกด้วย

โถงบันไดชั้น 2 มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งจะเชื่อมต่อกับพื้นที่อเนกประสงค์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมห้องพระ และมุมนั่งเล่นพักผ่อน รวมถึงพื้นก็จะเปลี่ยนเป็น SPC ที่ดูอบอุ่นเป็นธรรมชาติ และได้ฝ้าเพดานสูง 2.9 m. จึงมีความโปร่งโล่งดีทีเดียว

พื้นที่บริเวณนี้เป็น Family Area ที่มีขนาด 2.5 x 3.2 m. และยังมองเชื่อมต่อลงไปยังด้านล่างได้อีกด้วย ทำให้สามารถเห็นแขกที่มาอยู่ด้านล่างได้ตลอด และคนที่อยู่ด้านบนจะไม่ต้องเสียความเป็นส่วนตัวเลยนั่นเอง

นอกจากนี้พื้นที่ชั้น 2 ในแต่ละฟังก์ชัน ก็จะมีการติดตั้ง Fraser Clean & Cool Air ที่เป็นระบบกรองอากาศเพิ่มปริมาณออกซิเจน และลดปริมาณ PM 2.5 ในบ้านได้ด้วย

จึงมีส่วนช่วยทำให้อากาศภายในบ้านสะอาดสดชื่น และยังสามารถระบายอากาศหรือความร้อนได้อีกด้วย

ติดกับ Family Area จะเป็น Master Bedroom ที่ภายในมีขนาดใหญ่และกว้างขวาง สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้เป็นสัดส่วนตามต้องการ

โดยช่องแสงที่อยู่ทางด้านหน้าบ้าน จะสามารถเปิดออกไปเจอระเบียงเล็กๆกว้าง 30 cm. ให้เราได้ออกไปยืนสูดอากาศหรือปลูกต้นไม้เล็กๆน้อยๆได้ครับ

อีกด้านของห้องสามารถ Built-in ทำเป็น Walk-in Closet ได้แบบเต็มที่ ซึ่งจะอยู่บริเวณหน้าห้องน้ำพอดี เลยทำให้มีการใช้งานเชื่อมต่อกันได้สะดวกดีทีเดียว

ห้องน้ำของ Master Bedroom ภายในจะมีฟังก์ชันอ่างอาบน้ำ ให้เราได้เลือกใช้งานเพิ่มขึ้นมาด้วยครับ โดยจะอยู่ติดกับช่องแสงที่สามารถเปิดระบายอากาศได้เต็มที่ แต่ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่เกินไปจนรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นโถสุขภัณฑ์และ Shower Box ที่ภายในกว้าง 1.3 x 0.9 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ

ถัดมาเราจะไปดูห้องอื่นๆในอีกด้านหนึ่งของตัวบ้านกันบ้างครับ

เริ่มจากห้องนอนเล็กสุดที่อยู่ทางโซนหลังบ้าน ภายในมีขนาด 3 x 6 m. สามารถวางเตียง 5 – 6 ฟุต แล้วยังมีพื้นที่เหลือให้ทำเป็นมุมโต๊ะอเนกประสงค์ กับมุมแต่งตัวหน้าห้องน้ำได้สบายๆ

ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชันให้ใช้งานครบ และแบ่งเป็นสัดส่วนชัดเจน โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.35 x 1.8 m. สามารถใช้งานได้ตามปกติ

อีกด้านหนึ่งจะติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเป็น Shower Box มาให้แบบนี้เลยครับ ภายในกว้าง 1.35 x 0.95 m. สามารถใช้งานได้พอดีๆ

จุดเด่นที่เพิ่มเข้ามาคือ ผนังบริเวณ Shower Box จะมีการเจาะช่องทำเป็นกระจกเอาไว้ เพื่อให้ภายในห้องนอนดูโปร่งโล่ง และได้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามามากขึ้น

ซึ่งผมแนะนำให้ติดม่าน/มูลี่เพิ่มสักหน่อยจะดี เพราะช่องแสงนี้จะอยู่ตรงกับประตูห้องเลย เวลาเราอาบน้ำอยู่แล้วมีคนเปิดประตูเข้ามาจะได้ไม่เสียความเป็นส่วนตัวครับ

บริเวณหน้าห้องนอน Master Bedroom Junior จะมีพื้นที่อเนกประสงค์ขนาด 1.45 x 2.5 m. ให้เราสามารถทำเป็นมุมหิ้งพระได้ด้วยครับ

ภายในห้อง Master Bedroom Junior หรือห้องนอนใหญ่ที่ 2 มีขนาดใหญ่และกว้างขวางพอๆกับห้องนอน Master Bedroom หลักเลยครับ จึงเหมาะที่จะทำเป็นห้องนอนลูกคนโต ที่สามารถอยู่อาศัยได้ตั้งแต่เล็ก-โตแบบมีครอบครัวเลยก็ยังได้

โดยสิ่งที่แตกต่างกันเล็กน้อยก็คือ ช่องแสงด้านหน้าจะไม่มีระเบียงเล็กๆให้ออกไปด้านนอกได้แล้ว แต่จะทำเป็นราวกันตกให้เราสามารถเปิดช่องหน้าต่างขนาดใหญ่นี้ เพื่อรับลมเย็นๆภายนอกในวันอากาศดีๆได้เต็มที่นั่นเอง

ส่วนอีกด้านหนึ่งของห้องก็จะสามารถทำเป็น Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้ตามปกติครับ

สุดท้ายคือภายในห้องน้ำจะมีขนาดและฟังก์ชัน ที่เหมือนกับห้องนอนเล็กก่อนหน้านี้เลย สามารถใช้งานได้สะดวก

• Milano บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 251 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องซักรีด / 2 ที่จอดรถ

เป็นแบบบ้านไซส์กลางที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก-กลาง โดยฟังก์ชันพื้นฐานจะคล้ายๆกับของบ้านหลังใหญ่เลยครับ เพียงแต่จะลดทอนในส่วนของสระว่ายน้ำส่วนตัว ที่จอดรถ และห้องแม่บ้านออกไป

ทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในต่างๆโดยเฉพาะชั้นล่าง จะมีขนาดใหญ่และกว้างขวางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Common Area / ห้องครัว / ห้องซักรีด และห้องนอนชั้นล่าง จึงสามารถจัดฟังก์ชันได้อย่างจริงจังและใช้งานได้สบายมากขึ้น ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาบ้านกว้างๆอยู่ล่ะก็ ผมว่าบ้านหลังนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว

ที่จอดรถเป็นโครงสร้าง Slab on Ground และมีฟังก์ชันต่างๆเช่นเดียวกับบ้านหลังใหญ่เลยครับ แต่จะมีความกว้าง 5.5 m. จึงเหมาะกับการจอดรถ 2 คัน

นอกจากนี้ยังได้ทางเข้าบ้านเป็นซุ้ม Arch โค้งทรงสูงแบบนี้ด้วย จึงทำให้เป็นบ้านที่ยังดูหรูหราโอ่อ่า และสวยงามเหมือนบ้านหลังใหญ่เลย

เข้ามาภายในจะเจอ Floyer ที่เป็นฝ้าเพดานสูง Double Volume 6.4 m. จึงมีความโปร่งโล่งและดูโอ่โถงดีครับ เหมาะที่จะใช้รับแขกและเพิ่มความประทับใจกับผู้มาเยือนได้ดี

ซ้ายมือเป็น Living Area ที่เอาไว้รับแขก และเป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัว ซึ่งคราวนี้จะเน้นชมวิวจากช่องแสงด้านหน้าบ้านเป็นหลักครับ

ตรงกลางบ้านเป็นพื้นที่วางโต๊ะทานอาหารเช่นเดิม แต่เพราะไม่มีสระว่ายน้ำเหมือนหลังใหญ่แล้ว ก็เลยทำให้พื้นที่ส่วนนี้มีความกว้างขวางมากขึ้น

โดยเราอาจแบ่งพื้นที่ด้านข้างส่วนหนึ่งเป็นฟังก์ชันอื่นๆได้นะครับ เช่น เคาน์เตอร์บาร์สำหรับชงเครื่องดื่ม หรือทำเป็นครัวฝรั่งเอาไว้เตรียมอาหารเบาๆก็ได้

ด้านซ้ายมือจะเป็นโถงทางเดินที่แบ่งออกเป็นห้องต่างๆเหมือนเดิม

เริ่มกันที่ห้องนอนโซนหลังบ้าน ภายในมีขนาด 4 x 2.6 m. ซึ่งกว้างขวางมากขึ้นกว่าบ้านหลังใหญ่เยอะมาก จึงทำให้สามารถจัดเป็นฟังก์ชันอื่นๆ ที่ใช้งานแบบจริงจังได้มากขึ้น เช่น ห้องทำงาน ห้องนอนชั้นแขกล่าง ห้องทำการบ้านลูก หรือห้องดูหนัง เป็นต้น

ติดกันจะเป็นห้องน้ำที่สามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง ภายในมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน โดยมีพื้นที่ยืนอาบน้ำใน Shower Box กว้าง 80 x 80 cm.  ให้ใช้งานได้พอดีๆ

ส่วนห้องนอนที่อยู่โซนหน้าบ้านจะกว้าง 3.3 x 3.9 m. ซึ่งมีขนาดที่เล็กลงกว่าห้องแรกด้านหลังเล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถวางเตียงและตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ

รวมถึงยังมีประตูที่เปิดเข้าห้องน้ำโดยตรงได้สะดวก และมีประตูที่เปิดเชื่อมต่อไปยังสวนหน้าบ้านได้ด้วย จึงเหมาะที่จะใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ครับ

อีกด้านหนึ่งของบ้านจะมีโถงทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ ห้องครัว และประตูทางเข้าจากที่จอดรถเช่นเดิม

เริ่มที่ห้องน้ำตรงกลางจะเป็นแบบ Powder Room ที่ใช้งานสำหรับแขกและพื้นที่ชั้นล่างทั้งหมด ภายในกว้าง 2.15 x 1.25 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ

ถัดมาจะเป็นห้องครัวที่สามารถทำอาหารได้จริงจัง โดยสิ่งที่ชอบก็คือ จะมีช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ให้เราสามารถเปิดระบายอากาศได้ดีมากขึ้น

ซึ่งของจริงก็จะเป็นห้องโล่งๆที่มีท่องานระบบต่างๆให้เราได้มา Built-in เคาน์เตอร์เองครับ โดยมีขนาดกว้าง 3 x 3.2 m. สามารถใช้งานได้สบายๆ

ติดกันจะเป็น Laundry ที่กว้าง 2.2 x 3 m. มีขนาดใหญ่และพื้นที่ก็ใช้งานได้ดีมากขึ้น แน่นอนว่าฝ้าด้านบนยังคงเป็นช่องแสง Skylight ที่รับแสงได้เหมือนเดิม

แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่าเวิร์คกว่าบ้านหลังใหญ่ก็คือ บริเวณผนังทั้ง 2 ด้านจะมีหน้าต่างให้เราสามารถเปิดระบายอากาศได้ดีมากๆ จึงทำให้ห้องนี้มีอากาศถ่ายเทที่ดี และตากผ้าได้จริงจังมากขึ้น

ส่วนลานซักล้างด้านนอกก็ยังสามารถตากผ้ากลางแจ้งได้เหมือนเดิมครับ

ขึ้นมาบนชั้น 2 จะเห็นว่าเรายังคงได้โถงบันไดกลางบ้านที่กว้างขวางมากๆ จึงมีบรรยากาศที่โปร่งโล่ง และดูโอ่โถงในเวลาเดียวกัน

บริเวณหน้าห้องนอนทางขวามือจะมีพื้นที่อเนกประสงค์กว้าง 1.8 x 1.3 m. ให้สามารถทำเป็นมุมหิ้งพระได้แบบนี้ครับ

ส่วนภายในห้องนอน Master Bedroom Junior ก็จะมีขนาดใหญ่ และมีฟังก์ชันเหมือนกับบ้านหลังใหญ่ก่อนหน้านี้เลยครับ สามารถใช้เป็นห้องนอนลูกและอยู่อาศัยได้ตั้งแต่เล็ก-มีครอบครัวเลยก็ได้

อีกด้านหนึ่งของห้องจะเป็นพื้นที่ Walk-in Closet สำหรับแต่งตัวหน้าห้องน้ำแบบนี้ครับ

และภายในห้องน้ำก็จะมีการแบ่งฟังก์ชันเป็นสัดส่วน โดยพื้นที่ส่วนแห้งจะกว้าง 1.35 x 1.8 m. และพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้าง 1.35 x 1 m. สามารถใช้งานได้สะดวก

อีกด้านหนึ่งของโถงบันไดจะมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้ใช้งาน โดยจะมีขนาดกว้าง 2.4 x 3.2 m. สามารถทำเป็น Family Area ส่วนตัวด้านบนได้ครับ

ส่วนห้องนอนนี้จะเป็น Master Bedroom หลักของบ้าน ที่ภายในมีขนาดใหญ่กว่าห้องก่อนหน้านี้เล็กน้อย

รวมถึงยังมีระเบียงเล็กๆเพิ่มเข้ามาให้ใช้งานด้วย สามารถออกไปยืนสูดอากาศหรือปลูกต้นไม้เล็กๆน้อยได้ครับ

ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะมี Walk-in Closet และห้องน้ำให้ใช้งานเช่นเคย โดยขนาดและฟังก์ชันจะเหมือนกับห้องก่อนหน้านี้เลยครับ สามารถใช้งานได้ตามปกติ

สุดท้ายจะเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ตรงกลางทางโซนหลังบ้าน ภายในมีขนาด 3.5 x 3.25 m. สามารถใช้เตียง 3.5 – 5 ฟุตได้สบายๆ

และเหมาะที่จะใช้เป็นห้องนอนลูกคนเล็ก หรือถ้าใครมีลูกคนเดียวแล้วอยู่จนมีครอบครัว ก็ยังสามารถทำเป็นห้องนอนหลานในอนาคตได้อีกด้วยครับ

อีกด้านหนึ่งยังมีมุมสำหรับทำเป็น Walk-in Closet ส่วนตัว และมีห้องน้ำในตัวด้วยครับ ซึ่งขนาดและฟังก์ชันก็จะเท่ากับห้องน้ำอื่นๆเหมือนเดิมเลย

• Siena บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 65 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 216 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องซักรีด / 2 ที่จอดรถ

เป็นแบบบ้านไซส์เล็กสุดของโครงการ ที่มีจุดเด่นอยู่ตรง Family Area บนชั้นลอยของตัวบ้าน ที่ได้ฝ้าเพดานสูงกว่าห้องอื่นๆ ถือเป็นพื้นที่น่าใช้งานมากที่สุดตำแหน่งหนึ่งของบ้านเลยครับ สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นหรือมุมนั่งทำงานก็ได้ ส่วนห้องนอนชั้น 2 ก็ยังคงมีห้องน้ำเป็นส่วนตัวทุกห้องเช่นเดิม ทำให้ภาพรวมของบ้านหลังนี้เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 3 – 4 คน หรือคนที่มีงบประมาณจำกัดอยู่สักหน่อยนั่นเอง

ส่วนบรรยากาศของบ้านตัวอย่างจะเป็นอย่างไร สามารถคลิกชมใน Gallery ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะ

แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง ราคา ณ วันที่ 15 ธันวาคม 2566

• Luzern บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 320 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องซักรีด / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ + สระว่ายน้ำส่วนตัว
  – ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท
• Milano บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 57 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 251 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 5 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 1 ห้องซักรีด / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท
• Siena บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดิน 65 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 216 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องซักรีด / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาท
• ค่าจอง 50,000 บาท
• ค่าทำสัญญา 100,000 บาท
• ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ n/a บาท
• ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 3 ปี
• ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง : โครงการตั้งอยู่บนถนนติวานนท์ ช่วงระหว่างถนนแจ้งวัฒนะ และถนนสรงประภา จึงมีความอุดมสมบูรณ์สูง และเหมาะกับคนที่ทำงานอยู่ในย่านนี้ โดยเฉพาะข้าราชการตามศูนย์ราชการต่างๆ รวมถึงยังใกล้เมืองทองธานีที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งด้านในนอกจากจะมีร้านค้า ร้านอาหาร และออฟฟิศมากมายแล้ว ยังมีคอมมูนิตี้มอลล์ และมีทางลัดไปขึ้นด่วนศรีรัชเพื่อเข้าเมืองได้สะดวก

อีกสิ่งหนึ่งที่ต่างจากโครงการอื่นๆก็คือ เราสามารถเข้า-ออกได้ 2 ทาง จากซอยสุขาประชาสรรค์ 2 ที่อยู่ด้านหลังได้ด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเลี่ยงรถติดบนถนนใหญ่ เพื่อไปเชื่อมต่อกับถนนแจ้งวัฒนะได้ครับ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการออกแบบและสไตล์บ้าน ที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากเพื่อนบ้านอื่นๆอีกด้วย

ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน : ซุ้มประตูทั้ง 2 จุดจะมี รปภ. คอยดูแลตลอด 24 ชม. และเข้า-ออกด้วยระบบ Easy Pass รวมถึงยังมีกล้อง CCTV ติดตั้งให้เป็นมาตรฐานครับ ส่วนภายในบ้านจะมีระบบ Magnetic Sensor ติดตั้งให้ที่ประตูหน้าต่างชั้น 1 ทุกจุด

การออกแบบโครงการ : สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือ Style ในการออกแบบที่เป็นคอนเซ็ปต์ European ซึ่งเราจะสัมผัสถึงองค์ประกอบต่างๆที่สื่อถึงความเป็นยุโรปได้ดี ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้า ส่วนกลาง อาคารคลับเฮ้าส์ และตัวบ้านพักอาศัย อีกทั้งยังมีการวางตำแหน่ง Facilities ให้อยู่ตรงกลางโครงการ ทำให้เวลาขับรถเข้า-ออก จะได้สัมผัสบรรยากาศสวยๆได้ตลอดเวลาเลยครับ

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ โครงการนี้จะมีทางเข้า-ออก 2 ทาง ทำให้ลูกบ้านมีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้น และในเรื่องความเป็นส่วนตัวก็จัดเป็นโครงการขนาดกลาง 140 ยูนิต ที่มีเพื่อนบ้านไม่มากนัก ความหนาแน่นหรือความวุ่นวายก็จะน้อยหน่อย แต่ถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวมากๆ ก็จะมีบ้านที่อยู่ในซอยแยกย่อยเล็กๆให้เลือกครับ ซึ่งจะมีเพื่อนร่วมซอยเพียง 1 – 6 ยูนิตเท่านั้น

การออกแบบตัวบ้านและพื้นที่ใช้สอย : มีบ้านให้เลือก 3 แบบ 3 ขนาด โดยจะเป็นบ้านเดี่ยวหน้ากว้างสไตล์ European ที่แตกต่างจากเพื่อนบ้านในย่านส่วนใหญ่ที่มักจะเป็นสไตล์ Modern ดังนั้นถ้าใครที่ชอบความเป็นยุโรปและบ้านที่มีเอกลักษณ์ โครงการนี้ก็จะตอบโจทย์มากๆครับ ส่วนฟังก์ชันภายในก็สามารถรองรับครอบครัวได้ตั้งแต่เล็ก-ใหญ่เลย

สำหรับแบบบ้านทั้ง 3 จะมีจุดเด่นร่วมกันคือ มีห้องนอนชั้นล่างและ Laundry ที่มีช่องแสง Skylight ทุกแบบ จึงสามารถซัก-ตากผ้าในบ้าน และรองครอบครัวที่มีผู้สูงอายุได้ครับ ส่วนจุดเด่นที่แตกต่างกันก็จะประกอบด้วย

• Siena (หลังเล็กสุด) : จะได้ Family Area ที่เป็นฝ้าเพดานสูงตรงชั้นลอยของตัวบ้าน
• Milano (หลังกลาง) : จะได้ Floyer ที่เป็นฝ้าเพดานสูง Double Volume มีความโอ่โถงมากขึ้น อีกทั้งยังมีห้องนอนชั้นล่าง 2 ห้อง และได้ Double Master Bedroom ด้วยครับ
• Luzern (หลังใหญ่) : จะได้ Private Pool กลางบ้านเพิ่มเข้ามา ได้บรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังมีที่จอดรถ 3 คัน และมีห้องแม่บ้านให้ใช้งานครับ

วัสดุ : โครงสร้างบ้านเป็น Precast หรือผนังคอนกรีตสำเร็จรูป ซึ่งรวมไปถึงตัวสระว่ายน้ำของบ้านหลังใหญ่สุดด้วยครับ จึงทำให้หมดปัญหาเรื่องการรั่วซึมในอนาคตไปได้เยอะเลย แต่ด้วยความที่เป็นผนังรับน้ำหนักจึงทำให้การทุบ/เจาะ/ต่อเติม ทำได้ยากกว่าผนังชนิดอื่นๆ และต้องปรึกษาช่างก่อนทุกครั้งนะครับ

อีกหนึ่งสิ่งที่ผมคิดว่าให้มาดีเลยก็คือ Cladding ต่างๆตรง Facade ที่มีการเก็บรายละเอียดได้ดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นช่อง Arch โค้งและวงกบลูกฟักต่างๆ รวมถึงการกรุแผ่นกระเบื้องหินและกระเบื้องลายหินอ่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำได้ยากและมีต้นทุนที่สูงกว่าบ้านทั่วไปมากๆ

นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบ Fraser Clean & Cool Air ที่ช่วยดึงอากาศจากภายนอกเข้ามา และกรองฝุ่น PM 2.5 ด้วยครับ ส่วนวัสดุภายในบ้านอื่นๆก็ให้มาเป็นมาตรฐานตามระดับราคา และอาจต้องเผื่อเงินในการ Built-in ครัวและ Walk-in Closet เพิ่มเติมเองด้วยครับ

พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ : ถือว่าทำได้ดีเลยนะครับ โดยเฉพาะบริเวณสวนที่อยู่ตรงกลางขนาด 1 ไร่ครึ่ง ซึ่งจะมีการปลูกต้นไม้มาให้เยอะหลากหลายพันธุ์ ที่นอกจากจะสวยงามแล้วยังดูร่มรื่นดีอีกด้วย แถมบริเวณรอบๆสวนก็ยังมีผืนน้ำ ที่ได้จำลองมาจากเมืองริมทะเลสาบ รวมถึงยังมีการปลูกต้นไม้ริมถนน Main และมีวงเวียนน้ำพุขนาดใหญ่ให้ใช้งาน ส่วนภายในบ้านก็จะปลูกต้นไม้จัดสวนมาให้เป็นมาตรฐานด้วย (สอบถามโครงการอีกครั้ง)

สาธารณูปโภค : มีฟังก์ชันให้ใช้งานครบตามมาตรฐาน สิ่งที่โดดเด่นเป็นพิเศษก็คือ สนามพัตกอล์ฟที่มีให้ใช้งานเยอะถึง 4 – 5 หลุม รวมถึงยังมีม้าหมุนให้น้องๆได้เล่นสนุกกันอีกด้วย ซึ่งจัดเป็นฟังก์ชันที่หาไม่ได้ในโครงการอื่นๆของทำเลนี้อย่างแน่นอน แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ บรรยากาศของ Facilities ที่มีความสวยงามและน่าใช้งานมากๆ โดยปัจจุบันเราสามารถเข้าไปเยี่ยมชมและสัมผัสบรรยากาศของจริงกันดูได้แล้วนะครับ

Judgement

การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้

ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%,  และสาธารณูปโภค 10%

เทียบกับแพคเกจ 11 – 18 ล้านบาท, 15 ธันวาคม 2566

• ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.75/10 – ใกล้เมืองทองธานีและทางด่วน อุดมสมบูรณ์ เข้า-ออกได้ 2 ทาง และมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูอยู่ไม่ไกล
• ความปลอดภัย 7.5/10 – ประตูเหล็กรางเลื่อน / รปภ. 24 ชม. / CCTV / Easy Pass / Magnetic Sensor ทุกหลัง
• การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8/10 – บ้านเดี่ยวหน้ากว้างสไตล์ยุโรป มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบ พร้อมห้องนอนใหญ่ 2 ห้อง และโถงบันไดที่ดูโอ่อ่าหรูหรา
• วัสดุ 7.75/10 – โครงสร้าง Precast / เก็บรายละเอียด Facade ได้สวยงามดี / ติดตั้งระบบกรองอากาศภายในบ้าน
• พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.5/10 – สวนขนาด 1 ไร่ครึ่ง มีบรรยากาศสวยงามร่มรื่น
• สาธารณูปโภค 8.5/10 – ฟังก์ชันให้ใช้งานครบ บรรยากาศสวยงามสไตล์ยุโรป พร้อมสนามพัตกอล์ฟขนาดใหญ่ และม้าหมุนให้ใช้งาน
• 7.9 / 10.00

แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง เหมาะกับใคร

โครงการ Grandio Chaengwattana – Muangthong (แกรนดิโอ แจ้งวัฒนะ-เมืองทอง) เหมาะกับคนที่มองหาบ้านเดี่ยวสไตล์ยุโรปใกล้เมืองทองธานี ทำเลอุดมสมบูรณ์ และใกล้แหล่งงานต่างๆ โดยเฉพาะศูนย์ราชการแถวแจ้งวัฒนะและสรงประภา เป็นบ้านเดี่ยวหน้ากว้างที่มีห้องนอนชั้นล่างทุกแบบ และบ้านไซส์ใหญ่มีสระว่ายน้ำและ Double Master Bedroom ให้ใช้งาน ในบรรยากาศโครงการที่สวยงามเหมือนอยู่ต่างประเทศในแถบยุโรป โดยมีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 11 – 18 ล้านบาท