THE ETERNITY VERDURE RAMA 9 – WONGWAEN (ดิ อิเธอร์นิตี้ เวอร์ดัวร์ พระราม 9 – วงแหวน) บ้านเดี่ยวสไตล์ MODERN LUXURY โครงการใหม่จากสถาพร เอสเตท ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์สมัยใหม่บนพื้นที่โครงการกว่า 16 ไร่ ในราคาเริ่มต้น 11.9 – 17 ล้านบาท ส่วนจุดเด่นหรือความน่าสนใจต่างๆสามารถสรุปได้ดังนี้
- ทำเลติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก : ตั้งอยู่บนถนนกาญจนาภิเษก สามารถเดินทางเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์ – พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา และเส้นทางอื่นๆได้หลากหลาย อีกทั้งยังใกล้รถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้างอีกด้วย
- มีความเป็นส่วนตัวสูง : โครงการมีความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนบ้าน 70 ยูนิต แยกโซนพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลางออกจากกัน
- การออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน : เน้นการออกแบบบ้านให้ประหยัดพลังงานและสามารถระบายความร้อนได้ ช่วยให้บ้านเย็น โดยใช้การก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบา ฝ้าเพดานระบายอากาศ การวางช่องเปิดของบ้านให้ลมพัดผ่าน เช่น ตำแหน่งของหน้าต่างและการวางผังบ้านในแนวทิศเหนือ-ใต้
- ฟังก์ชันรองรับหลายกิจกรรม : ออกแบบบ้านให้มีฟังก์ชันที่สามารถดีไซน์พื้นที่เองได้ว่าอยากพื้นที่โล่ง หรือเป็นสัดส่วน มีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจในตัวบ้าน รวมถึงมีพื้นที่ชั้นลอยเพื่อเพิ่มพื้นที่กิจกรรมให้กับบ้าน
- พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ : โครงการมี Clubhouse ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งในร่มและกลางแจ้ง ทุกโซนสามารถใช้งานพร้อมกับมองวิวสวนหย่อมได้ ไฮไลท์คือ Kids Playground ที่จัดเต็มเครื่องเล่นมาให้เด็กๆได้วิ่งเล่น โดยรวมแล้วถือว่าให้มาเยอะเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต
ข้อมูลโครงการ
THE ETERNITY VERDURE RAMA 9 – WONGWAEN (ดิ อิเธอร์นิตี้ เวอร์ดัวร์ พระราม 9 – วงแหวน) ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566
ชื่อโครงการ | THE ETERNITY VERDURE RAMA 9 – WONGWAEN (ดิ อิเธอร์นิตี้ เวอร์ดัวร์ พระราม 9 – วงแหวน) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด |
SEGMENT CLASS | HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | เขตสะพานสูง |
ที่ดิน | 16-2-67.9 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 70 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | ชั้น 1 – 2.8 เมตร / ชั้น 2 – 3 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 110,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | 2566 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | N/A |
เว็บไซต์โครงการ | https://se-thai.com/house/the-eternity-verdure-rama-9/?utm_source=adwords-brand-pj |
โทร | 02-007-5555 กด 6 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.739855586451686, 100.70361508197409
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
ทำเลของโครงการ THE ETERNITY VERDURE RAMA 9 – WONGWAEN (ดิ อิเธอร์นิตี้ เวอร์ดัวร์ พระราม 9 – วงแหวน) ตั้งอยู่ติดถนนกาญจนาภิเษกหรือถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อไปยังเส้นทางต่างๆได้หลากหลายทั้ง มอเตอร์เวย์ ถนนพระราม9 ถนนกรุงเทพกรีฑา ถนนรามคำแหง และถนนร่มเกล้า สามารถเดินทางเข้าและออกเมืองได้อย่างสะดวกสบาย
สำหรับมอเตอร์เวย์สามารถใช้เดินทางไปยังโซนพระราม 9, โซนรามคำแหง ได้สะดวก อีกทั้งยังสามารถเดินทางออกนอกเมืองไปยัง สนามบินสุวรรณภูมิ และ จังหวัดชลบุรีได้ง่าย พร้อมทั้งยังใกล้จุดเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้าง และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ในอนาคต) อีกด้วย
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการบนถนนกาญจนาภิเษกอาจจะยังไม่คึกคักมากนัก เพราะใช้เป็นทางสัญจรมากกว่า ต้องขยับมาหน่อยบริเวณซอยถนนพัฒนาชนบท 3 และถนนร่มเกล้าที่อยู่ใกล้เคียงจึงจะมีร้านสะดวกซื้อ ร้านค้า ร้านอาหาร และตลาดนัดหลายแห่งเลย
แต่สำหรับใครที่ชอบเดินห้าง แหล่ง Shopping, Hang out ที่ใกล้ๆ ก็จะมีอยู่บนถนนลาดกระบัง อย่าง The Paseo Mall และ Robinson Lifestyle ซึ่งห่างจากโครงการประมาณ 8 กม. เท่านั้นหรือบนถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑา-รามคำแหง) ปัจจุบันก็จะมี Market Place กรุงเทพกรีฑา รวมถึง Community Mall และร้านอาหารต่างๆ อยู่พอสมควรเลยค่ะ
รวมถึงทำเลนี้ยังใกล้สนามบินสุวรรณภูมิและรายล้อมไปด้วยสถานศึกษาชั้นนำ, ห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนนานาชาติไบร์ทตัน, โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี, โรงเรียนนานาชาติ มอนเตสเซอรี่, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า เป็นต้น
สภาพแวดล้อมรอบโครงการ
สภาพแวดล้อมรอบโครงการส่วนใหญ่จะเป็นหมู่บ้านพักอาศัยแนวราบ มีทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม สลับกับที่ดินเปล่า มีโฮมออฟฟิศและอาคารพาณิชย์อยู่บ้าง โดยโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่กาญนาภิเษกเลย ทำให้สะดวกต่อการเข้า-ออก ที่ดินมีแต่ละฝั่งของโครงการอยู่ติดกับ
- ทิศเหนือ – ที่ดินเปล่าและโฮมออฟฟิศ
- ทิศตะวันออก – คลอง ที่ดินเปล่าและหมู่บ้าน
- ทิศใต้ – ที่ดินเปล่า หมู่บ้าน
- ทิศตะวันตก – ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก (ถนนกาญจนาภิเษก)
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ศูนย์การค้า
- The Park กรุงเทพกรีฑา ∼ 6.9 กิโลเมตร
- Paseo รามคำแหง ∼ 7.8 กิโลเมตร
- The Paseo ลาดกระบัง ∼ 8.3 กิโลเมตร
- มาร์เก็ตเพลส กรุงเทพกรีฑา ∼ 8.3 กิโลเมตร
- Robinson Lifestyle ∼ 8.7 กิโลเมตร
- The Mall บางกะปิ ∼ 10.9 กิโลเมตร
- The Nine พระราม 9 ∼ 12.5 กิโลเมตร
- Seacon ศรีนครินทร์ ∼ 14.7 กิโลเมตร
- The Mall รามคำแหง ∼ 14.6 กิโลเมตร
สถานศึกษา
- โรงเรียนสารวิเทศน์วิเทศน์ ร่มเกล้า ∼ 7.2 กิโลเมตร
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ∼ 9.2 กิโลเมตร
- Brighton College Bangkok ∼ 9.2 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติ มอนเตสซอรี่ ∼ 9.7 กิโลเมตร
- โรงเรียนเทพศิรินทร์ ร่มเกล้า ∼ 9.9 กิโลเมตร
- โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดี ∼ 10.2 กิโลเมตร
- ม.อัสสัมชัญ หัวหมาก ∼ 10.7 กิโลเมตร
- โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ∼ 11.2 กิโลเมตร
- สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ∼ 11.5 กิโลเมตร
- ม.รามคำแหง ∼ 12 กิโลเมตร
โรงพยาบาล
- โรงพยาบาลวิภาราม ∼ 10.6 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ∼ 10.8 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลสิรินธร ∼ 12.7 กิโลเมตร
รายละเอียดโครงการ
THE ETERNITY VERDURE RAMA 9 – WONGWAEN (ดิ อิเธอร์นิตี้ เวอร์ดัวร์ พระราม 9 – วงแหวน) มีการออกแบบโดยพัฒนาตัวบ้านให้มีฟังก์ชันที่ครบครัน โครงการนี้เค้าจะเน้นในเรื่อง Design ,Function, Facilities เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า “FAM” (Family : Achiever : Modern Lifestyle) หรือกลุ่มครอบครัวที่มีไลฟ์สไตล์สมัยใหม่และต้องการมี Work-Life-Balance ที่ดี
โดยคำว่า THE ETERNITY มีความหมายว่า มั่นคง ยั่งยืน หรือสถาพร ตามชื่อของผู้พัฒนาโครงการ ส่วนVERDURE มีความหมายว่า เขียวขจี ซึ่งตรงกับ Concept โครงการที่เน้นพื้นที่สีเขียว การออกแบบเพื่ออนุรักษ์พลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั่นเองค่ะ
THE ETERNITY VERDURE พระราม 9 – วงแหวน ตั้งอยู่ติดถนนกาญจนาภิเษก ด้านหน้าเป็นซุ้มประตูที่มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ครบครัน โครงการมีบ้านเดี่ยวทั้งหมด 70 ยูนิต ถือว่ามีจำนวนไม่เยอะ การอยู่อาศัยจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว มีการแบ่งโซนพื้นที่ส่วนกลางและโซนพักอาศัยแยกออกจากกันกั้นด้วย Double Gate อีกชั้นหนึ่งเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ลูกบ้านที่พักอาศัยอยู่ด้านในโครงการ Facilities จะวางไว้ด้านหน้าโดยจะมี Clubhouse และสวนหย่อมขนาดใหญ่ให้ลูกบ้านได้มาใช้งาน
ถัดจากโซนพื้นที่ส่วนกลางจะเป็นบ้านพักอาศัยทั้งหมด เนื่องจากที่ดินเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบลึก ยาวตรงไปถึงท้ายโครงการแบบเส้นก๋วยเตี๋ยว บ้านทุกหลังจึงถูกวางติดถนนหลักทำให้การเดินทางเข้าออกสะดวกไม่ต้องเข้าซอย โดยตัวบ้านจะวางในแนวทิศเหนือ-ใต้ ซึ่งทิศเหนือเองเป็นทิศที่แดดไม่ร้อน ส่วนทิศใต้เป็นทิศที่ได้ลมดีในตอนบ่ายค่ะ
ด้านหน้าโครงการซุ้มประตูจะถูกดีไซน์เป็นส่วนหนึ่งกับ Clubhouse เลย ทำให้ดูโอ่โถง โดยโครงการจะออกแบบด้วยสไตล์ MODERN LUXURY ดูเรียบหรู ซึ่งเราจะเห็นตั้งแต่การออกแบบสถาปัตยกรรมบริเวณหน้าโครงการเลย
ซุ้มประตูหน้าโครงการ
ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการเป็นแบบ Double Gate Security ที่ต้องผ่านประตูรั้วกั้นแบบ 2 ชั้น มีการแบ่งช่องทางเข้ารถของลูกบ้านและผู้มาติดต่อชัดเจน พร้อมมีกล้องวงจรปิด CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
Easy Pass
หน้าโครงการจะมีระบบ Easy Pass และกล้อง CCTV เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
เข้ามาด้านในจะเจอกับ Living Well Clubhouse ที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งในร่มและกลางแจ้งทั้ง ฟิตเนส , สระว่ายน้ำ, Lobby , Kids Playground พื้นที่สำหรับเด็ก ๆ ให้ได้วิ่งเล่นเพื่อเสริมสร้างจินตนาการ, Co-Working Space โดยพื้นที่ส่วนกลางทุกส่วนจะสามารถ Take View สวนหย่อมได้ค่ะ
เรามาดูที่ Clubhouse กันก่อน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น ถ้าดูจากขนาดและความหลากหลายของ Facilities แล้วถือว่าให้มาเยอะทีเดียวเมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต ลูกบ้านสามารถมาใช้งานได้สบายๆเลยค่ะ
สระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำระบบเกลือแบ่งออกเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ สามารถว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ พร้อมกับชมวิวสวนหย่อมได้แบบเต็มตา
บริเวณด้านข้างสระจะมีทางเดินไปที่ห้องน้ำและบริเวณปลายของสระทางโครงการจัดวางที่นั่งพักผ่อนมาให้
ห้องน้ำใน Clubhouse
ชั้นล่างบริเวณข้างๆสระจะมีห้องน้ำมาให้ ซึ่งภายในจะมีทั้งห้องน้ำและห้องอาบน้ำ
Lobby
Lobby ทางโครงการดีไซน์มาสวย บรรยากาศน่านั่ง จัดที่นั่งมาให้หลากหลายทั้งมุมนั่งแบบส่วนตัวและแบบชุดโซฟานั่งได้หลายคน เราจะมานั่งทำงานพักผ่อน รอลูกหลานเล่นน้ำหรือนัดพบเพื่อนๆบริเวณนี้ก็ได้ จากห้องนี้จะสามารถมองวิวสวนหย่อมและสระว่ายน้ำได้ค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นฟิตเนส มีเครื่องออกกำลังกายและอุปกรณ์มาให้ใช้ครบครันทั้งเวทและคาร์ดิโอ ห้องนี้จะสามารถมองวิวได้ทั้งฝั่งหน้าโครงการและฝั่งสวนหย่อม สมกับชื่อ Panoramic Fitness ค่ะ
มองลงมาจากฟิตเนสก็จะเห็นสวนหย่อมและKids Playground ที่มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ตัว Clubhouse เลยค่ะ
Kids Playground
จุดที่เราชอบมากๆคือ Kids Playground หรือพื้นที่สำหรับเด็ก ๆ ที่จัดเต็มเครื่องเล่นขนาดใหญ่ให้เด็กๆได้วิ่งเล่น ปีนป่ายเพื่อเสริมสร้างจินตนาการ
บริเวณสวนหย่อมจะมี Jogging Track ให้วิ่งเล่นออกกำลังกายด้วยนะคะ
ข้างๆกันก็จะมีเครื่องเล่นให้เดินทรงตัวอีกหนึ่งชิ้นค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- Living Well Clubhouse
- Lobby
- Panoramic Fitness
- Swimming Pool
- Kids Playground
- Co-Working Space
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ
- ถนนภายในกว้าง 12 ม.
- Double Gate Security
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
แบบบ้าน
บ้านในโครงการ THE ETERNITY VERDURE RAMA 9 – WONGWAEN (ดิ อิเธอร์นิตี้ เวอร์ดัวร์ พระราม 9 – วงแหวน) ออกแบบมาในสไตล์ MODERN LUXURY มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบคือ
- ARCADIA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - IDYLLIC บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 65 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ - LUXURIANT บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 77 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 250 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
โดยแต่ละหลังจะก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบา มาพร้อมฝ้าเพดานสูง 3 เมตร และมีการออกแบบฟังก์ชันเพื่อรองรับกิจกรรมที่หลากหลายเช่น Flexible Living Room การดีไซน์พื้นที่เพื่อให้ยืดหยุ่นว่าได้พื้นที่โล่งหรืออยากได้เป็นสัดส่วนก็สามารถกั้นพื้นที่เองได้ มีพื้นที่ Chill-out Area พื้นที่พักผ่อนในบ้าน รวมถึง Sky Multifunction พื้นที่ชั้นลอย เพิ่มฟังก์ชันให้กับตัวบ้าน นอกจากนั้นโครงการยังติดตั้งไฟ 3 เฟส เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าของลูกบ้านอีกด้วย
สำหรับบ้านตัวอย่างโครงการมีมาให้ชมทั้ง 3 แบบเลย เดี๋ยวเราจะพาไปชมกันทีละแบบนะคะ
ARCADIA
ARCADIA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 55 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
บ้านรูปแบบนี้เป็น Type เล็กสุดของโครงการ ซึ่งมีจุดเด่นคือความโปร่งโล่ง อย่างชั้นล่างจะได้ช่องแสงจากประตูหน้าต่างค่อนข้างเยอะ และยังมีพื้นที่พักผ่อนบริเวณเฉลียงที่เหมือนคอร์ทกลางบ้านเชื่อมโยงพื้นที่สวนภายนอกและภายในเข้าด้วยกัน และมีพื้นที่อเนกประสงค์ที่สามารถกั้นเป็นโซนพักผ่อนหรือห้องทำงานเพิ่มได้อีกด้วย พื้นที่ส่วน Service ทั้งครัว ห้องน้ำ ซักล้างจะอยู่หลังบ้านทั้งหมดค่ะ
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนพักผ่อนทั้งหมดแบ่งออกเป็นห้องนอน 3 ห้องที่มีห้องน้ำในตัว และมุมพักผ่อนที่มีหน้าต่างมองลงไปเห็นวิวเฉลียงด้านล่าง ซึ่งช่วยให้บรรยากาศชั้น 2 ดูโปร่ง มีแสงธรรมชาติเข้ามาภายในตัวบ้านและลมพัดผ่านได้ดีค่ะ
มาเริ่มกันที่บ้านแบบ ARCADIA พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม.กันค่ะ โดยบ้านของโครงการนี้จะมีการออกแบบโดยใส่ใจในเรื่องของการประหยัดพลังงานทั้งการวางช่องเปิดของบ้านให้ลมพัดผ่านและก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบา ซึ่งนอกจากจะมีความแข็งแรงและสามารถรองรับการต่อเติมได้แล้ว ยังกันความร้อนได้ดีช่วยให้บ้านไม่ร้อน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากเครื่องปรับอากาศและลดค่าไฟฟ้าได้ด้วย
อีกหนึ่งการออกแบบที่ช่วยให้บ้านเย็นคือช่องระบายอากาศใต้หลังคา ซึ่งทางโครงการเลือกใช้ฝ้าสมาร์ทบอร์ด SCG ที่มีรูระบายอากาศ ทำให้บ้านเย็น อีกทั้งยังป้องกันแมลงด้วยตาข่ายไฟเบอร์กลาสที่มีพร้อมกับตัวแผ่น
วัสดุมุงหลังคาทางโครงการเลือกใช้เมทัลชีทซึ่งข้อดีคือไม่มีรอยต่อ ลดปัญหาน้ำรั่วและมีความแข็งแรงทนทาน อีกทั้งยังมีการใช้ฉนวน PU โฟมที่ช่วยเรื่องกันความร้อนและการดูดซับเสียง ช่วยป้องกันเสียงฝนตกกระทบกับหลังคาได้
บ้านหลังนี้จอดรถได้ 2 คัน ถัดจากที่จอดรถไปจะเป็นพื้นที่คอร์ทกลางบ้าน ซึ่งสามารถจัดเป็นมุมสวนสวยๆ หรือกั้น Partition เพื่อใช้พื้นที่แบบเป็นส่วนตัวได้ บริเวณที่จอดรถนี้จะมีประตูทางเข้าบ้านอยู่อีกจุดหนึ่งด้วยค่ะ
ส่วนทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่ด้านหน้า เป็นประตูกรอบเฟรมอลูมิเนียม บานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง แบบ 2 ตอน
เมื่อเข้ามาในบ้านเราจะรู้สึกว่ามีความโปร่ง โล่งมากๆเพราะตลอดทั้งผนังทางฝั่งขวามีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติเข้ามาเต็มๆ ฝ้าเพดานของชั้นนี้จะสูง 2.8 เมตร พื้นจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm.
ห้องรับแขกฝั่งหน้าบ้านจะได้ความสว่างจากช่องแสงทั้ง 2 ฝั่ง แถมยังวางโซฟาขนาดใหญ่ที่นั่ง 3-4 คนพร้อมโต๊ะกลางได้สบายๆ
ถัดจากห้องรับแขกมาเราจะเจอกับประตูทางเข้าจากที่จอดรถและประตูบานเลื่อนกระจกที่เชื่อมต่อไปยังคอร์ทและสวนหย่อมกลางบ้าน จึงทำให้ชั้นล่างมีช่องแสงอยู่หลายจุด ทำให้บ้านมีความสว่าง ช่วยลดการเปิดไฟเวลากลางวันและช่วยให้ลมพัดผ่านได้ดีอีกด้วย
ประตูบานเลื่อนนี้จะเชื่อมต่อไปยังเฉลียงและคอร์ทกลางบ้าน ซึ่งถ้าจัดตกแต่งสวยๆก็ใช้เป็นมุมพักผ่อนของบ้านได้ดีเลย หรือถ้ามีการจัดปาร์ตี้ก็สามารถเปิดประตูเชื่อมพื้นที่ Indoor กับ Outdoor ได้
พื้นที่ตรงนี้จะเชื่อมต่อขึ้นไปถึงชั้น 2 ด้วย
บรรยากาศบริเวณคอร์ทกลางบ้านซึ่งสามารถจัดเป็นสวนเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน หรือ จัดเป็นมุมพักผ่อนแบบ Outdoor รองรับการจัดปาร์ตี้ได้เพราะอยู่ใกล้มุมรับประทานอาหารและด้านหลังมีหน้าต่างของห้องครัว ซึ่งเราจะหาบ้านเดี่ยว 2 ชั้นระดับในราคานี้ที่มี Space แบบนี้ได้ยากนะคะ
หันออกทางฝั่งหน้าบ้านจะเชื่อมต่อกับที่จอดรถแบบนี้เลย ทางฝั่งขวาจะมีพื้นที่ให้เก็บของค่ะ
กลับเข้ามาที่ตัวบ้าน ระหว่างห้องนั่งเล่นกับมุมพักผ่อนด้านในจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารที่รองรับสมาชิกได้ประมาณ 4-6 คนเลยทีเดียว
บรรยากาศของมุมรับประทานอาหารก็ดูโปร่งมากเพราะมีหน้าต่างอยู่บริเวณนี้เช่นเดียวกัน สำหรับคนที่ชอบความโปร่งโล่ง บ้านมีหน้าต่างเยอะๆ บ้าน Type นี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ
ด้านในสุดเป็นเหมือนพื้นที่อเนกประสงค์ให้เราสามารถจัดฟังก์ชันได้เอง ไม่ว่าจะเป็นมุมทำงานเหมือนในบ้านตัวอย่าง หรือจะทำเป็นมุมพักผ่อนก็ได้ค่ะ
ถัดมาอีกฝั่งของบ้านจะเป็นครัว ห้องน้ำและบันไดทางขึ้นชั้น 2 ค่ะ
ส่วน Service ของบ้านหลังนี้อย่างครัว ห้องน้ำจะถูกจัดให้อยู่บริเวณเดียวกัน ไม่ไปรบกวนพื้นที่พักผ่อนของตัวบ้านค่ะ บริเวณใต้บันไดจะมีห้องเก็บของมาให้อีกจุดหนึ่งด้วย
ห้องครัวเราชอบที่มีหน้าต่างถึง 2 ฝั่งเพราะสามารถเปิดระบายอากาศได้ดี ทำให้ช่วยลดกลิ่นควันและความอับชื้นได้ และด้วยขนาดพื้นที่ยังสามารถ Built-in เคาน์เตอร์แบบ L-Shape ได้
ห้องครัวจะเชื่อมต่อกับลานซักล้างซึ่งสามารถเปิดประตูเพื่อระบายอากาศหรือเชื่อมต่อไปใช้พื้นที่บริเวณหลังบ้านได้ง่าย
ลานซักล้างที่ทางโครงการเตรียมไว้ให้ ถ้าครอบครัวไหนชอบทำอาหารก็สามารถทำมุมครัวไทยเพิ่มเติมได้นะคะ
ห้องน้ำแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนเปียกส่วนแห้งเป็นสัดส่วน มีบานหน้าต่างระบายอากาศมาให้ 1 จุด ที่ผนังมี Low wall สำหรับวางของใช้เล็กๆน้อยๆได้ ส่วนพื้นที่อาบน้ำเราสามารถหาฉากกั้นอาบน้ำมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ โดยพื้นและผนังห้องน้ำจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ที่เหมาะกับการใช้งาน ดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย
โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ติดตั้งมาให้พร้อมอุปกรณ์
พื้นที่อาบน้ำสามารถยืนอาบได้สบายๆ มีช่องสำหรับวางของและเตรียมงานระบบสำหรับติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้ พื้นมีการลดระดับเป็นสัดส่วน ฝักบัวได้ของ American Standard เช่นเดียวกัน
ขึ้นมาดูที่ชั้น 2 กันบ้าง บันไดลูกนอกปูทับด้วยไม้ยางพาราประสานทำสี โดยโถงบันไดก็จะได้ความสว่างจากช่องแสงทำให้ไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน
มุมพักผ่อนชั้น 2
ชั้น 2 ขึ้นมาก็จะเจอกับมุมพักผ่อน ซึ่งสามารถจัดวางม้านั่งยาวๆและ Built-in ตู้ได้แบบนี้ มุมนี้จะได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างเช่นเดียวกัน ทำให้บรรยากาศชั้น 2 ก็ดูโปร่ง โล่ง โดยพื้นชั้น 2 จะเป็น SPC ลายไม้แบบ Click Lock
มุมมองจากหน้าต่างชั้น 2
เมื่อมองออกไปจากหน้าต่างจะเห็นว่ามุมนี้เชื่อมต่อขึ้นมาจากส่วนคอร์ทกลางบ้าน การวางผังแบบนี้ทำให้ห้องต่างๆบริเวณชั้น 2 มองลงไปเห็นพื้นที่สีเขียวด้านล่าง และสามารถทำหน้าต่างเพื่อเปิดรับลมได้มากขึ้นด้วย
โดยชั้น 2 จะประกอบด้วยห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง เรามาดู 2 ห้องแรกที่อยู่ใกล้กับโถงบันไดกันก่อน
ห้องนี้จัดเป็นห้องนอนลูก จากขนาดห้องสามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ จะเห็นว่ามีหน้าต่างมาให้หลายจุดทำให้ห้องดูโปร่ง สว่าง ทุกๆห้องจะมีห้องน้ำในตัวนะคะ เวลาเร่งด่วนจะได้ใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องแย่งกัน
ภายในห้องน้ำแบ่งเป็นส่วนแห้ง ส่วนเปียก สุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆเหมือนกับห้องก่อนหน้า
ห้องนอนอีกห้องหนึ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย สามารถวางเตียงได้ 5 ฟุต สำหรับครอบครัวไหนไม่ได้ใช้เป็นห้องนอน ในบ้านตัวอย่างจัดมาให้ดูว่าสามารถจัดเป็นห้องพักผ่อนหรือห้องทำงานได้นะคะ
ห้องนี้ก็มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน
บรรยากาศและการตกแต่งห้องน้ำคล้ายกับห้องอื่นๆ แต่ห้องนี้บริเวณพื้นที่อาบน้ำจะมี Low Wall สำหรับวางของได้ด้วย
ห้องนอนใหญ่
ต่อมาคือห้องนอนใหญ่วางเตียงได้เต็มที่ 6 ฟุต ห้องนี้จะมีระเบียงด้วย บริเวณทางออกไปที่ระเบียงจะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ทำให้มีแสงธรรมชาติเข้ามาในห้องนี้ได้เยอะ
พื้นที่ข้างเตียง
ถึงแม้ว่าจะวางเตียงขนาดใหญ่ได้ บริเวณข้างเตียงก็ยังมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะข้างได้สบายๆ
THE-ETERNITY-VERDURE_M-38
ระเบียงของห้องนี้มีขนาดประมาณ 1.17 x 3.36 เมตร ความยาวกินพื้นที่เท่าตัวห้องเลย สามารถออกมายืนสูดอากาศ จัดสวนไม้กระถางเล็กๆหรือจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อนได้ค่ะ
ห้องนอนใหญ่จะมีพื้นที่จัดเป็น Walk-in Closet ได้ ในบ้านตัวอย่างจัดมาให้ดูว่าสามารถกั้นห้องด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบนี้
การกั้นห้อง Walk-in Closet ด้วยประตูกระจกบานเลื่อน สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยได้โดยที่ความโปร่งของห้องไม่ได้น้อยลง แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็สามารถกั้นด้วยผ้าม่านหรือติดฟิล์มได้นะคะ
บริเวณ Walk-in Closet จะอยู่หน้าห้องน้ำพอดี พออาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้สะดวก และโซนนี้จะได้แสงธรรมชาติซึ่งเป็นแสงที่เหมาะกับการแต่งตัวจากบานหน้าต่างด้วย
ภายในห้องน้ำจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมากว่าห้องอื่นๆหน่อย แบ่งพื้นที่เป็นส่วนแห้ง ส่วนเปียกชัดเจน
โถสุขภัณฑ์จะอยู่ทางฝั่งนี้ เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าห้องนี้จะได้ค่อนข้างยาว สามารถวางของได้เต็มที่
พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.84 x 1.48 เมตร ยืนอาบได้สบายๆ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 cm.ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำที่ได้ทั้งฝักบัวและ Rain Shower พร้อมทั้งยังมี Low Wall ให้วางของและบานหน้าต่างเอาไว้เปิดระบายอากาศด้วย
IDYLLIC
IDYLLIC บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น N/A ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
บ้าน Type นี้จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมา จอดรถได้ 3 คันแล้ว ชั้น 1 จะไม่มีคอร์ทกลางบ้านแล้วแต่จะเน้นการจัดฟังก์ชันภายในบ้านให้มีความยืดหยุ่นและสามารถใช้งานได้เต็มพื้นที่ อย่างชั้นล่างจะมีพื้นที่รับแขกที่ต่อเนื่องกับพื้นที่อเนกประสงค์ เราสามารถเลือกว่าจะกั้นห้องจัดฟังก์ชันเพิ่มเติม หรือเปิดโล่งเป็นพื้นที่ Common Area ขนาดใหญ่ได้ บริเวณรับแขกยังเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งสามารถรองรับสมาชิกได้ 6-10 คนหรือสามารถจัดพื้นที่เป็นส่วนเตรียมอาหารหน้าห้องครัวได้ ส่วน Service ทั้งหมดจะอยู่หลังบ้านเช่นเดียวกัน
ชั้น 2 แบ่งออกมาเป็น 3 ห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวได้เช่นเดียวกับ Type ก่อนหน้า แต่ขนาดห้องจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมา และจะมี Sky Multifunction หรือชั้นลอยที่สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับกิจกรรมพิเศษภายในบ้านได้ค่ะ
การออกแบบบ้าน Type IDYLLIC จะคล้ายๆกับแบบก่อนหน้า แต่มีหน้ากว้างที่มากขึ้น
ที่จอดรถสามารถจอดเรียงกันได้ 3 คันนะคะ โดยบ้านทุกหลังทางโครงการยังติดตั้งไฟ 3 เฟส เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าของลูกบ้านอีกด้วย
ประตูทางเข้าบริเวณที่จอดรถจะมี Digital Door Lock ของ HÄFELE มาให้ ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งการตั้งรหัส คีย์การ์ดและกุญแจค่ะ
ข้างๆประตูจะมีพื้นที่เก็บของมาให้ สามารถใช้ทำเป็นตู้รองเท้า เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด หรือของที่ใช้นอกบ้านได้
ห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกับพื้นที่อเนกประสงค์
เข้าบ้านมาจะเจอกับพื้นที่รับแขกที่เชื่อมต่อกับพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งบริเวณนี้เป็น Common Area ที่เราสามารถเลือกว่าจะกั้นห้องเพิ่มฟังก์ชันหรือเปิดเป็นพื้นที่โล่งทำเป็นห้องรับแขกขนาดใหญ่ก็ได้แล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัวเลยค่ะ
พื้นที่อเนกประสงค์ที่ติดกับห้องรับแขกสามารถกั้นห้องจัดฟังก์ชันทำเป็นมุมพักผ่อน ห้องทำงาน หรือห้องนอนเล็กๆได้ ถือเป็นการจัดฟังก์ชันที่ยืดหยุ่นให้แต่ละครอบครัวสามารถดีไซน์พื้นที่บริเวณนี้ได้เอง
อีกฝั่งหนึ่งของตัวบ้านจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและห้องครัว
พื้นที่รับประทานอาหารสามารถรองรับสมาชิกได้ 6-10 คนเลย หรือสามารถทำเป็นส่วนเตรียมอาหาร (Pantry) บริเวณหน้าห้องครัวได้ค่ะ
เนื่องจากผนังฝั่งหน้าบ้านถูกดีไซน์ให้เป็นกระจกอยู่หลายจุด จึงทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในตัวบ้านค่อนข้างดีค่ะ
หน้าห้องครัวมีพื้นที่มากพอที่จะทำเป็นส่วนเตรียมอาหารเพิ่มเข้ามา โดยบริเวณนี้จะมีประตูทางเข้าจากที่จอดรถด้วย ซึ่งถ้าไป Shopping มาก็สามารถถือเอาเข้ามาเก็บในห้องครัวได้สะดวก
ห้องครัวสามารถวางเคาน์เตอร์ครัวได้ 2 ฝั่ง เราสามารถแบ่งออกเป็นฝั่งเตรียมอาหารและฝั่งทำอาหาร โดยห้องนี้จะเชื่อมต่อกับลานซักล้างหลังบ้าน สามารถเปิดประตูออกไปใช้งานได้สะดวก
บริเวณเหนืออ่างล้างจานจะมีหน้าต่างสำหรับเปิดระบายอากาศมาให้ พอล้างจานแล้วสามารถวางผึ่งให้แห้งตรงนี้ได้
ส่วนห้องน้ำและห้องเก็บของจะอยู่บริเวณโถงบันไดค่ะ
ภายในห้องน้ำชั้นล่าง เป็นห้องน้ำที่รองรับทั้งส่วนพักผ่อนและส่วนห้องนอนเลย ทำให้ภายในห้องมีพื้นที่อาบน้ำมาให้ด้วย ซึ่งสะดวกดีเลยค่ะ ภายในห้องน้ำแยกโซนเปียกโซนแห้งชัดเจน ตัวพื้นมีการลดระดับลงเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อนออกมา
พื้นที่อาบน้ำสามารถยืนอาบน้ำหมุนตัวได้สบาย แนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นกระจกหรือม่านอาบน้ำเพิ่มเติม เพื่อกันน้ำไหลมายังส่วนแห้งนะคะ ฝักของได้เป็นของ American Standard พร้อมวางงานระบบรองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย
โถงบันไดทางขึ้นชั้น 2 ลูกนอกปูทับด้วยไม้ยางพาราประสานทำสี พอขึ้นมาก็จะเจอกับชั้นลอยที่ทางโครงการทำฟังก์ชันเพิ่มเข้ามาให้สำหรับกิจกรรมพิเศษของแต่ละครอบครัว
บริเวณโถงบันไดนี้จะได้ความสว่างจากบานหน้าต่าง ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟในเวลากลางวัน
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเจอกับโถงทางเดินเพื่อแจกไปยังห้องต่างๆ ซึ่งชั้นนี้จะประกอบไปด้วยห้องนอนใหญ่ 1 ห้อง และห้องนอนเล็กอีก 2 ห้อง ทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทำให้สะดวกต่อการใช้งาน พื้นจะเป็น SPC ลายไม้ค่ะ ส่วนบันไดทางฝั่งขวาจะเป็นทางขึ้นไปที่ชั้นลอย
สำหรับบ้าน Type นี้ทางโครงการทำฟังก์ชันชั้นลอยเพิ่มมาให้ซึ่งเราสามารถใช้ทำเป็นพื้นที่นั่งเล่น เก็บของสะสม มุมอ่านหนังสือหรือห้องพระก็ได้
ห้องนอนเล็กห้องแรกที่เราจะพาไปชม บ้านตัวอย่างจัดให้ดูว่าสามารถทำเป็นห้องทำงานได้นะ โดยห้องนี้จะมีบานหน้าต่างให้ความสว่างอยู่ 1 จุดและเป็นห้องที่มีห้องน้ำในตัวค่ะ
บรรยากาศภายในห้องน้ำ
ภายในห้องน้ำแบ่งพื้นที่เป็นส่วนเปียก ส่วนแห้งเป็นสัดส่วน พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆครบครัน พื้นที่อาบน้ำมีขนาดประมาณ 0.82 x 1.35 เมตร สามารถยืนอาบได้สบายๆ และมีช่องแสงระบายอากาศมาให้ 1 จุด
บรรยากาศภายในห้องนอน
ส่วนห้องนอนอีกห้องก็จัดเป็นห้องทำงานในรูปแบบ Live Studio ซึ่งถ้าวางเตียงจะวางได้ประมาณ 5 ฟุตค่ะ
ห้องนี้ก็มีห้องน้ำในตัวเช่นเดียวกัน
เข้ามาที่ห้องนอนใหญ่จะเป็นห้องหน้ากว้างกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของตัวบ้าน ฟังก์ชันจะถูกแบ่งออกเป็นมุมพักผ่อน ห้องนอนและ Walk-in Closet อย่างมุมพักผ่อนจะสามารถวางที่นั่งและทำตู้ Built-in แบบในบ้านตัวอย่างได้ มุมนี้จะเชื่อมต่อกับระเบียง เราสามารถออกไปใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัว
ระเบียงที่สามารถจัดวางสวนกระถาง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวส่วนตัวภายในห้องนอนได้ หรือจะเอาเก้าอี้มาวางเป็นมุมนั่งพักผ่อนก็ได้ค่ะ
ถัดจากมุมนั่งพักผ่อนก็จะเป็นห้องนอน
บรรยากาศห้องนอนใหญ่
ห้องนอนจะวางเตียงได้ถึง 6 ฟุตแล้วยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆอีก ส่วนพื้นที่ปลายเตียงจะสามารถ Built-in ชั้นวางทีวีหรือชั้นเก็บของได้เต็มผนังแบบนี้เลย
ห้องนี้ช่องแสงจะอยู่บริเวณหัวเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งถ้าเราอยากได้ความมืดเวลานอนกลางวันก็สามารถดีไซน์หัวเตียงให้มีฉากเลื่อนมาปิดช่องแสงได้
หน้าห้องน้ำจะเป็น Walk-in Closet ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่สะดวกต่อการใช้งาน อาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวต่อได้สะดวก มุมนี้จะได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างมาอีกจุดหนึ่งด้วย
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วย เราสามารถเลือกได้ว่าจะนอนแช่น้ำแบบชิลๆในอ่าง หรืออาบน้ำจากฝักบัว
อ่างล้างหน้าและก๊อกของ American Standard
สุขภัณฑ์ต่างๆที่ได้ในห้องน้ำเป็นของ American Standard ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำจะมีให้เลือกทั้งฝักบัวแบบมือจับและ Rain Shower ซึ่งก๊อกจะเป็นแบบปรับน้ำร้อน น้ำเย็นได้ พร้อมทั้งยังมีผนัง Low Wall ที่สามารถวางของใช้เล็กๆน้อยๆได้ค่ะ
พื้นที่อาบน้ำจะมีขนาดประมาณ 0.90 x 0.85 เมตรสามารถยืนอาบได้สบายๆค่ะ
LUXURIANT
LUXURIANT บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 77 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 250 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
สำหรับบ้านแบบสุดท้ายซึ่งเป็นบ้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ LUXURIANT หลังนี้ฟังก์ชันจะคล้ายกับแบบ IDYLLIC แต่มีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า ทำให้มีฟังก์ชันเพิ่มเติมเข้ามาอย่างเช่นชั้นล่างจะมีห้องแม่บ้าน ส่วนชั้นบนจะมีส่วนพักผ่อนเพิ่มเข้ามาค่ะ
บ้านแบบ LUXURIANT ซึ่งเป็นบ้านขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ การออกแบบตัวบ้านก็มาในสไตล์ MODERN LUXURY เช่นเดียวกับบ้าน Type อื่นๆ
ภาพบรรยากาศบ้านแบบ LUXURIANT เรารวบรวมเอาให้ดูแบบ Gallery นะคะ
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ราคา
THE ETERNITY VERDURE RAMA 9 – WONGWAEN (ดิ อิเธอร์นิตี้ เวอร์ดัวร์ พระราม 9 – วงแหวน) ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566
- ARCADIA บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินมาตรฐาน 55 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 185 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท - IDYLLIC บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 65ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ
– ราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท - LUXURIANT บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 77 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 250 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ / 3 ที่จอดรถ / 1 ห้องแม่บ้าน
– ราคาเริ่มต้น 14 ล้านบาท - จองและทำสัญญา 50,000 บาท
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 110,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
ทำเลของโครงการ THE ETERNITY VERDURE RAMA 9 – WONGWAEN (ดิ อิเธอร์นิตี้ เวอร์ดัวร์ พระราม 9 – วงแหวน) จุดเด่นคือตั้งอยู่ติดถนนใหญ่กาญจนาภิเษกหรือถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ซึ่งความสะดวกคือสามารถเดินทางเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์ – พระราม 9 – กรุงเทพกรีฑา – รามคำแหง – ร่มเกล้า และเส้นทางอื่นๆได้หลากหลาย และทำเลพระราม 9 – วงแหวน นี้ถือเป็นอีกหนึ่งโซนยอดฮิตของผู้พัฒนาโครงการที่นิยมเข้ามาทำหมู่บ้าน เนื่องจากความสะดวกสบาย เดินทางเข้าเมืองก็ได้ ออกต่างจังหวัดก็สะดวก ส่วนการเดินทางด้วยรถสาธารณะ โครงการจะใกล้จุดเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟฟ้า Airport Rail Link สถานีบ้านทับช้าง
ความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการบนถนนกาญจนาภิเษกอาจจะยังไม่คึกคักมากนักต้องขยับมาหน่อยบริเวณซอยถนนพัฒนาชนบท 3 และถนนร่มเกล้า แต่สำหรับใครที่ชอบเดินห้าง แหล่ง Shopping, Hang out ที่ใกล้ๆ ก็จะมีอยู่บนถนนลาดกระบัง อย่าง The Paseo Mall และ Robinson Lifestyle หรือบนถนนศรีนครินทร์ – ร่มเกล้า (กรุงเทพกรีฑา-รามคำแหง) ซึ่งปัจจุบันก็จะมี Market Place กรุงเทพกรีฑา รวมถึง Community Mall และร้านอาหารต่างๆ อยู่พอสมควรเลยค่ะ รวมถึงทำเลนี้ยังใกล้สนามบินสุวรรณภูมิและรายล้อมไปด้วยสถานศึกษาชั้นนำ, ห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาลอีกด้วย
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ระบบรักษาความปลอดภัยของโครงการเป็นแบบ Double Gate Security ที่ต้องผ่านประตูรั้วกั้นแบบ 2 ชั้น มีการแบ่งช่องทางเข้ารถของลูกบ้านและผู้มาติดต่อชัดเจน พร้อมมีกล้องวงจรปิด CCTV และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งโครงการจำนวนไม่เยอะเพียง 70 ยูนิตแต่มีการแบ่งโซนพื้นที่ส่วนกลางและโซนพักอาศัยแยกออกจากกัน ทำให้ดูแลรักษาความปลอดภัยได้ทั่วถึง พร้อมให้ Digital Door Lock ในตัวบ้านเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
โครงการออกแบบในสไตล์ MODERN LUXURY ซึ่งทำได้ดี มีการคุมโทนสีเขียว น้ำตาลเข้ากับ Concept ของโครงการที่ต้องการเน้นพื้นที่สีเขียว ส่วนตัวเราชอบการออกแบบต่างๆที่ทำให้บ้านเย็นและประหยัดพลังงาน อย่างการวางช่องเปิดของบ้านให้ลมพัดผ่าน เช่น ตำแหน่งของหน้าต่างและการวางผังบ้านในแนวทิศเหนือ-ใต้
ส่วนฟังก์ชันต่างๆมีการออกแบบบ้านให้มีฟังก์ชันที่สามารถดีไซน์พื้นที่เองได้ว่าอยากพื้นที่โล่ง หรือเป็นสัดส่วน มีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจในตัวบ้าน (คอร์ทกลางบ้าน) รวมถึงมีพื้นที่ชั้นลอยเพื่อเพิ่มพื้นที่กิจกรรมให้กับบ้าน
วัสดุ :
วัสดุให้มาตามมาตรฐานของโครงการระดับนี้ทั้งพื้น-ผนังกระเบื้องแกรนิตโต้ในห้องน้ำ พื้น SPC ที่ชั้น 2 สุขภัณฑ์ต่างๆของ American Standard จุดที่แตกต่างคือมีการเลือกวัสดุที่ช่วยให้บ้านเย็น ทั้งการก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบา ฝ้าเพดานระบายอากาศสมาร์ทบอร์ด SCG ที่มีรูระบายอากาศ ทำให้บ้านเย็น วัสดุมุงหลังคาทางโครงการเลือกใช้เมทัลชีทซึ่งข้อดีคือไม่มีรอยต่อ ลดปัญหาน้ำรั่ว นอกจากนั้นโครงการยังติดตั้งไฟ 3 เฟส เพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าของลูกบ้านอีกด้วย
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
โครงการมีสวนหย่อมขนาดใหญ่บริเวณ Clubhouse พร้อม Kids Playground มีการออกแบบ Landscape ต่างๆได้ดี รวมถึงมีพื้นที่สีเขียวแทรกอยู่ตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าจนถึงโซนบ้านพักอาศัย อีกทั้งในตัวบ้านยังออกแบบให้สามารถมองเห็นพื้นที่สีเขียวจากในตัวบ้านได้อีกด้วย
สาธารณูปโภค :
พื้นที่ส่วนกลางถือว่าให้มาไม่น้อยหน้าใคร แม้จะมีจำนวนยูนิตไม่เยอะ ทั้ง Living Well Clubhouse ที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายทั้งในร่มและกลางแจ้งทั้ง ฟิตเนส , สระว่ายน้ำ, Lobby , Kids Playground พื้นที่สำหรับเด็ก ๆ ให้ได้วิ่งเล่นเพื่อเสริมสร้างจินตนาการ, Co-Working Space โดยพื้นที่ส่วนกลางทุกส่วนจะสามารถ Take View สวนหย่อมได้ค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพ็กเกจ 11.9 – 17 ล้านบาท , ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 8/10 – ติดถนนใหญ่ ใกล้ทางด่วนมอเตอร์เวย์ และ ARL
- ความปลอดภัย 8/10 – รปภ.หน้าหมู่บ้าน Easy Pass CCTV Double Gate Security Digital Door Lock
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ออกแบบฟังก์ชันในตัวบ้านได้ดี มีการออกแบบเพื่อให้บ้านเย็น ประหยัดพลังงาน
- วัสดุ 7.75/10 – มาตรฐานของโครงการระดับนี้ + ดีตรงมีการเลือกวัสดุที่ทำให้บ้านเย็นเพิ่มเข้ามา
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8.25/10 – มีพื้นที่สีเขียวเยอะ ออกแบบ Landscape ได้ดี
- สาธารณูปโภค 8.25/10 – ส่วนกลางให้มาเยอะ เมื่อเทียบกับจำนวนยูนิต
- 8.10 / 10.00
THE ETERNITY VERDURE พระราม 9 – วงแหวน เหมาะกับใคร
โครงการ THE ETERNITY VERDURE พระราม 9 – วงแหวน เหมาะสำหรับครอบครัวที่มองหาบ้าน 2 ชั้น ที่สามารถจัดฟังก์ชันตามต้องการได้เช่นกั้นห้องเพิ่มหรืออยากได้พื้นที่สำหรับกิจกรรมอื่นๆของครอบครัว ชอบบ้านที่มีความโปร่งโล่งลมพัดผ่านได้ดี โดยมองหาทำเลที่เดินทางสะดวกใกล้เมือง ใช้ถนนกาญจนาภิเษก มอเตอร์เวย์ และถนนกรุงเทพกรีฑาเป็นหลัก ชอบความเป็นส่วนตัวและชอบพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 11.9 – 17 ล้านบาท
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc