สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปดูบ้านหลังคาจั่วสไตล์ English Gable กันกับโครงการ Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์ บ้านซีรีส์ใหม่ฟังก์ชันแน่นจากบริทาเนียค่ะ โครงการนี้อยู่ใกล้กับแยกบางคูวัด จุดเด่นของที่นี่มีดังนี้
- ความเป็นส่วนตัวที่สะดวกสบาย : ที่นี่เป็นโครงการที่อยู่ติดกับถนนใหญ่ ใกล้กับแยกบางคูวัดเดินทางสะดวก แล้วก็มีจำนวนยูนิตไม่เยอะ 122 ยูนิต (ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับโครงการติดถนนใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆกัน) ในแง่การหาของกินก็ถือว่าหาง่ายมาก เพราะเดินออกมาหน้าโครงการก็จะมีร้านอาหารให้เลือกและยังไม่ไกลจาก Community mall ที่มีชื่อว่า The Tree ด้วยค่ะ
- แบบบ้านสไตล์อังกฤษ : รูปลักษณ์ของตัวโครงการและแบบบ้านค่อนข้างแปลกเมื่อเทียบกับโครงการอื่นที่อยู่ในโซนนี้ค่ะ ตัวแบรนด์ Britania จะเป็นแบรนด์ที่สร้างชื่อมาจากสไตล์ความเป็นอังกฤษ โดยโครงการนี้ก็ยังคงกลิ่นอายนั้นอยู่พ่วงกับการดึงเอาหลังคาจั่วมาใช้เป็นจุดเด่นอีกด้วย
- ฟังก์ชันบ้าน : โครงการนี้จะมีโปรดักส์เป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ราคาเริ่มต้นอยู่ในช่วง 6-9.99 ล้านบาท ถ้าใครหาบ้านในโซนนี้อยู่ก็จะมีโครงการที่ทำราคาออกมาต่ำกว่าให้เห็น แต่โครงการนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันที่เยอะกว่าบ้านเดี่ยวในบางโครงการอีกนะคะ พื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 165-220 ตร.ม. เป็นบ้าน 3-4 ห้องนอน แทบจะไม่ต้องต่อเติมเพิ่มเพราะลงเสาเข็มหน้าบ้านหลังบ้านให้และมีครัวภายในบ้านมา นอกจากนี้ก็จะมีเทคโนโลยีและระบบรักษาความปลอดภัยให้มาพร้อมกับตัวบ้านด้วยค่ะ
รายละเอียดบ้านภายในโครงการนี้จะเป็นอย่างไร ไปอ่านรีวิวเต็มๆพร้อมกันได้เลย
ข้อมูลโครงการ
Britania Tiwanon-Ratchaphruek (บริทาเนีย ติวานนท์-ราชพฤกษ์) ณ วันที่ 17 มกราคม 2565
ชื่อโครงการ | Britania Tiwanon-Ratchaphruek (บริทาเนีย ติวานนท์-ราชพฤกษ์) |
ชื่อผู้ประกอบการ | บริษัท บริทาเนีย จำกัด |
SEGMENT CLASS | UPPER – HIGH CLASS (รายละเอียดของ Segment บ้านปี 2021 ) |
โครงการตั้งอยู่ | ต. บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี |
ที่ดิน | 23-0-14.80 ไร่ |
จำนวนยูนิต | จำนวน 122 ยูนิต |
ประเภทบ้าน |
|
ความสูงจากพื้นถึงฝ้า | 2.85 – 3 เมตร |
ราคาที่ดินเพิ่มลดตารางวาละ | 80,000 บาท |
เริ่มก่อสร้าง | ปี 2564 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ | 2565 |
เว็บไซต์โครงการ | https://briurl.com/2h8kd8ms |
โทร | 061 152 0300 |
ทำเลที่ตั้ง
พิกัด Google Maps : 13.9526829 , 100.5228345
หรือสามารถ : คลิกที่นี่
แผนที่จากทางโครงการค่ะ
- ที่ตั้งของ Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์ จะอยู่ติดกับถนนใหญ่ ซึ่งเป็นเป็นทำเลที่มีความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำใกล้ๆเป็นครบ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหน้าโครงการ / The Tree คอมมูนิตี้มอลล์ที่อยู่ใกล้เพียง 500 m. / Big C และโรงเรียนสาธิตปทุม เป็นต้น
- ใกล้กับแยกบางคูวัด ซึ่งเป็นจุดตัดที่สามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เป็นทำเลที่ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำอย่าง สะพานนนทบุรี และสะพานปทุมธานี อีกทั้งยังมีทางด่วนอุดรรัถยาด่านศรีสมานให้ใช้งานอีกด้วย
- โซนพื้นที่ใกล้เคียงอุดมสมบูรณ์มาก เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่สามารถไปเดินช้อปปิ้งได้ ไม่ว่าจะเป็นโซนศรีสมาน-ดอนเมือง / โซนรังสิต-ปทุมธานี หรือโซนราชพฤกษ์-กาญจนาภิเษก รวมถึงมีตลาด โรงเรียน มหาวิทยาลัย และสนามบินดอนเมือง เรียกได้ว่าครบครันเลย
โดยทำเลของ Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์ เราเคยทำรีวิวทำเลเอาไว้ค่อนข้างละเอียด สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมกันต่อได้ที่ >> รีวิวทำเล บริทาเนีย ติวานนท์-ราชพฤกษ์
เส้นทางการเดินทาง
สามารถรับชมบรรยากาศเส้นทางจาก gallery ทางด้านล่างได้เลยค่ะ
เราจะเริ่มต้นจากทางด่วนอุดรรัถยา ลงมาตรงทางออกถนนศรีสมานเลยค่ะ
สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ เช่น
ห้างสรรพสินค้า / ตลาด / ศูนย์แสดงสินค้า
- The Tree (Community Mall) ∼ 500 m.
- Robinson ศรีสมาน ∼ 6.1 km.
- Tesco Lotus ปทุมธานี ∼ 8.5 km.
- อิมแพค เมืองทองธานี ∼ 9.1 km.
- เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ∼ 11.9 km.
- Future Park รังสิต ∼ 14.4 km.
- เซ็นทรัล พลาซา เวสต์เกต ∼ 18.4 km.
โรงเรียน / สถานศึกษา
- รร. สาธิตปทุมธานี ∼ 4.5 km.
- รร. พระหฤทัย นนทบุรี ∼ 6.2 km.
- รร. นวมินทราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี ∼ 8.2 km.
- ม.รังสิต ∼ 12.6 km.
โรงพยาบาล
- รพ. ปากเกร็ด2 ∼ 6.6 km.
- รพ. ปทุมธานี ∼ 8.1 km.
- รพ.กรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ∼ 9.3 km.
- รพ.ปทุมเวช ∼ 12.2 km.
- รพ.World Medical Center ∼ 12.4 km.
สถานที่ราชการ / อื่นๆ
- ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ∼ 13.3 km.
- สนามบินดอนเมือง ∼ 14.3 km.
รายละเอียดโครงการ
Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์ เป็นโครงการบ้านแนวราบที่มาใน Concept “Where Privacy Meets Privilege” โดยคำว่า Privacy จะมาจากความเป็นส่วนตัวของจำนวนบ้านภายในโครงการที่มีอยู่ 122 หลัง ถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยเมื่อเทียบกับโครงการหมู่บ้านข้างเคียงที่อยู่ติดถนนใหญ่ ส่วนความ Privilege นี้ก็จะมาจากทำเล พ่วงด้วยรูปแบบโครงการและแบบบ้าน ซึ่งที่ตั้งอยู่บนทำเลที่สะดวกใกล้แหล่งความอุดมสมบูรณ์ ส่วนแบบบ้านก็ถูกออกแบบมาในสไตล์ English Gable ได้กลิ่นอายความเป็นอังกฤษ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นสำคัญของแบรนด์ Britania อยู่แล้วค่ะ
มาดูที่ Master Plan ของโครงการกันค่ะ Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดประมาณ 23 ไร่ มีทางเข้าออกจากถนนใหญ่ (ถนนหมายเลข 307) โดยตัวที่ดินจะใหญ่ขึ้นเมื่อเข้ามาภายในโครงการค่ะ โดยส่วนที่ใกล้กับถนนใหญ่จะออกแบบให้เป็น Main gate + Clubhouse และ Sale gallery + บ้านตัวอย่าง ส่วนตำแหน่งบ้านจะอยู่ถัดลึกเข้ามาทางด้านใน ทำให้ตัวบ้านตั้งอยู่ห่างจากถนนใหญ่ที่อาจจะมีเสียงดังจอแจ และมีฝุ่นควันรบกวนอยู่พอสมควร ตัวบ้านก็จะได้ความสงบมากขึ้นด้วยนะ
นอกจากอาคาร Clubhouse ที่ออกแบบมาให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับซุ้มประตูทางเข้าแล้ว บริเวณกลางโครงการจะแบ่งเป็นพื้นที่สวนสาธารณะอีก 3 จุด รวมพื้นที่แล้วมากกว่า 1 ไร่ โดยจะแบ่งเป็น
1) main park ประกอบไปด้วย basketball, playground, pavilion ให้ลูกบ้านได้มาออกกำลังกาย นั่งพักผ่อน พาลูกๆมาวิ่งเล่นที่จุดนี้ได้ค่ะ
2) herb garden เป็นสวนสมุนไพร ซึ่งทางโครงการหรือทางนิติบุคคลจะปลูกเอาไว้ให้ ลูกบ้านมาเก็บกินได้ โดยมี
กระบะปลูกเตรียมไว้ และมีศาลาโครงสร้างจั่วใช้เป็นที่สำหรับไม้เลื้อยและที่บังแดดอยู่ที่โซนนี้ด้วยค่ะ
3) park จุดนี้จะเป็นสวนหย่อมที่มีแนวทางเดินให้ลูกบ้านมาเดินเล่นเพลินๆออกกำลังกายเบาๆได้ค่ะ
โดยพื้นที่ถนนรอบๆสวนที่เป็น main park และสวนหย่อมก็สามารถใช้เป็น jogging track ได้ มีระยะทางประมาณ 470 เมตร เหมาะสำหรับคนที่มองหาที่วิ่งออกกำลังกายนะคะ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของ Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์ ณ วันที่เราไปยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อยดี เราจึงขออธิบายโดยใช้ภาพ Perspective ประกอบแทนค่ะ
ซุ้มประตูทางเข้าโครงการและ Clubhouse ตัวซุ้มประตูจะถูก Set ให้ห่างจากถนนใหญ่ระยะหนึ่ง พอให้รถสามารถจอดรอแลกบัตรได้ โดยทางด้านหน้าก็จะตกแต่งสองข้างทางเข้าด้วยป้ายชื่อโครงการและ Landscape สไตล์อังกฤษ
ตัวอาคารจะออกแบบเป็น 2 ชั้น สไตล์ English Gable คือจะผสมเอาองค์ประกอบสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษมารวมกับดีไซน์หลังคาจั่วที่นำมาเป็นจุดขายของโครงการนี้ค่ะ
ทางเข้าออกจะมีไม้กั้นกระดกและประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ ที่จัดไว้ให้เป็น night gate ทางเข้า-ออกแยกฝั่งกัน โดยมีป้อมยามและพี่รปภ.คอยดูแลอยู่ตรงกลาง
เข้ามาภายในตัวโครงการ จะเห็นว่าการจัดฟังก์ชันพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ จะวางผังเป็นรูปตัว L โดยมีสระว่ายน้ำวางแนวยาวเข้ามา ส่วนภายในอาคารจะประกอบไปด้วย Living area, Library และ Fitness ค่ะ
บรรยากาศจำลอง Living area ที่ออกแบบให้พื้นที่ตรงนี้ได้ฝ้าเพดานสูงแบบ Double Volume สูง 4 เมตร บรรยากาศดูโปร่งโล่ง สบาย
ส่วน Library จะเป็นพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น เหมาะสำหรับมานั่งอ่านหนังสือ ทำงานที่ต้องใช้สมาธิ โดยการออกแบบภายในก็จะมีการแบ่งโซนโดยใช้ฉากหรือ partition คั่นกลาง ถือเป็นการออกแบบโดยคำนึงถึง social distance รองรับการใช้งานหลังจากเราเจอกับสถานการณ์ covid-19 ค่ะ
ในส่วนของฟิตเนสจะอยู่ที่ชั้น 2 เหนือซุ้มประตูทางเข้า สามารถมองวิวได้ทั้งฝั่งถนนหน้าโครงการและในโครงการ โดยจะออกแบบให้มี Partition กั้นระหว่างเครื่องเล่นเอาไว้เช่นกันค่ะ
Main park จะเป็นพื้นที่สวนสาธารณะตรงกลาง มีขนาดมากกว่าครึ่งไร่ ประกอบไปด้วยมุมนั่งเล่น playgroung มุม basketball และ pavilion
จุดที่น่าสนใจภายในสวนอีกเรื่องคือ ภายในสวนจะมีจุดชาร์จ USB เตรียมไว้ให้ด้วย รองรับการมานั่งทำงาน หรืออาจจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่สามารถเอาโทรศัพท์มาชาร์จไปเล่นไประหว่างรอลูกๆวิ่งเล่นได้นะคะ
เป็นโครงการที่จัดฟังก์ชันใช้งานมาให้ทั้งในส่วนของ indoor และ outdoor เลยนะคะ สามารถชวนสมาชิกในบ้านมาทำกิจกรรมร่วมกันที่พื้นที่ส่วนกลางได้ค่ะ
สำหรับค่าส่วนกลางของที่นี่จะอยู่ที่ 42 บาท/ตารางวา/เดือน คำนวณคร่าวๆสำหรับบ้านแฝดจะอยู่ที่ราวๆ 1,500 – 2,600 บาท/เดือน ส่วนบ้านเดี่ยวจะอยู่ที่ประมาณ 2,600 – 4,200 บาท/เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดที่ดินด้วยนะคะ ในส่วนค่าใช้จ่ายตรงนี้ก็จะเป็นค่าดูแลความปลอดภัย ความสะอาดเรียบร้อยของโครงการโดยรอบบ้าน และค่าใช้งาน Facility ที่ให้มาค่ะ
สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก
- อาคาร Clubhouse 2 ชั้น บริเวณหน้าโครงการ
- สระว่ายน้ำ สระผู้ใหญ่ขนาด 4.4×12 เมตร และ สระเด็กขนาด 4.4×2 เมตร
- ห้องฟิตเนส
- Living area ฝ้าเพดานสูง 4 เมตร
- Library Room (เป็นพื้นที่สำหรับนั่งอ่านหนังสือ และ ทำงาน)
- พื้นที่สวนหย่อมในโครงการ 3 จุด ขนาดมากกว่า 1 ไร่
- สนาม Basketball
- สวนสมุนไพร โดยทางโครงการหรือว่านิติบุคคลจะปลูกไว้ให้ ลูกบ้านสามารถเก็บทานได้เลย
- Jogging track ยาว 470 เมตร
- ถนนหลักกว้าง 12 เมตร และถนนภายในกว้าง 8 เมตร
- Key Card Access
เทคโนโลยีและระบบรักษาความปลอดภัย
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง
- ประตูรั้วโครงการแบบ รั้วกั้นไม้กระดกและรั้วเลื่อนไฟฟ้า (night gate)
- ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ 34 จุด
- Digital Door Lock ภายในตัวบ้าน
- IP Camera x 2 ตัวที่ห้องนั่งเล่นและที่จอดรถ
- Motion Sensor ที่โถงบันไดบ้าน
- Smoke Detector ที่ห้องครัว
- Siren Alarm ที่โถงทางเดินหน้าห้องนอนชั้น 2
- ip camera, smoke detector และ siren alarm สามารถสั่งงานและควบคุมผ่านทางโทรศัพท์มือถือจาก application “HomeHuk” ได้ค่ะ
แบบบ้าน
จุดเด่นของแบบบ้านในโครงการ Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์
- พื้นที่ใช้สอยเยอะ : บ้านแฝดขนาดเริ่มต้น 165 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าบ้านเดี่ยวโครงการข้างเคียง ได้ฟังก์ชัน 3-4 ห้องนอน
- บ้านที่ไม่เน้นการต่อเติม : โครงสร้างบ้านได้ลงเสาเข็มพื้นที่จอดรถและลานซักล้างหลังบ้านไว้ให้ รวมไปถึงออกแบบฟังก์ชันครัวอยู่ภายในตัวบ้าน เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการต่อเติมในภายหลัง
- ได้เทคโนโลยีและระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน : ภายในบ้านจะให้ Digital Door Lock, IP camera x 2 ตัว, Motion sensor, Smoke detector และ Siren alarm เชื่อมต่อกับ application HomeHuk ได้ในบางฟังก์ชัน
แบบบ้านภายในโครงการ Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์ จะมีให้เลือกอยู่ทั้งหมด 3 แบบดังนี้
- Brightling บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ - Henley บ้านแฝด 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Stratford บ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
โดยรวมเป็นแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยอยู่ที่ 165 -220 ตร.ม. มีห้องนอน 3-4 ห้องนอน และที่จอดรถ 2 คัน ถ้าดูจากพื้นที่ใช้สอยเรามองว่าเหมาะกับครอบครัวขนาดกลาง พ่อ-แม่-ลูก อยู่กัน 2 generation เป็นหลัก แต่ก็มีแบบที่ตอบโจทย์ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วยเพราะมีแบบที่ได้ห้องนอนชั้นล่างเป็นตัวเลือกด้วย
ทั้งสามแบบจะรวมกันอยู่ที่ 122 หลัง โดยแบบที่มีจำนวนมากของโครงการจะเป็นบ้านแบบ Brightling และ Henley ค่ะ ซึ่งเป็นบ้านที่ได้พื้นที่ใช้สอยภายในเยอะ แต่ที่ดินไม่ได้ใหญ่มากเท่าบ้านเดี่ยว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ต้องการบรรยากาศภายในที่ดูโปร่งโล่ง มีช่องแสงจากทางข้างบ้าน แต่ก็ไม่ต้องการที่ดินบ้านขนาดใหญ่เพื่อปลูกต้นไม้เยอะหรือว่าต่อเติมนะคะ
สไตล์การออกแบบ ตั้งแต่รูปแบบของโครงการแบรนด์ Britania จะโดดเด่นด้วยสไตล์แบบอังกฤษ แต่สำหรับโครงการนี้จะนำเอารูปแบบของหลังคาจั่วมาเป็นจุดเด่นเพิ่มเติม (โครงการเรียกว่าเป็นสไตล์ English Gable) ส่วนตัวเรามองว่าน่าสนใจและแตกต่างกับสไตล์บ้านของโครงการอื่นรอบข้างพอสมควรค่ะ
ราคา ของบ้านในโครงการนี้จะเริ่มต้นที่ 6 ล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยวที่เป็นแบบใหญ่สุดจะอยู่ที่ 9.9 ล้านบาท ราคานี้ถ้าให้พูดตามตรงก็เป็นโครงการที่ราคาเริ่มต้นสูงกว่าโครงการอื่นอยู่ค่ะ แต่ด้วยพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่เริ่มต้นมาใหญ่ เป็นโครงการที่แทบจะไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม และได้ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้านมาด้วย บวกกับสไตล์บ้านที่ไม่ซ้ำใครในย่าน ก็ถือว่าเป็นปัจจัยที่สามารถเอามาคำนึงรวมกับเรื่องราคาในการจะตัดสินใจซื้อบ้านนะ
สำหรับบ้านตัวอย่างในโครงการจะมีบ้านตกแต่งให้ดูแบบตัวอย่างครบทั้ง 3 แบบเลยค่ะ แต่สำหรับรีวิวในบทความนี้เราขอเลือกบ้าน 2 แบบแรกคือ Brightling และ Henley มารีวิวให้ดูแบบละเอียด ส่วนบ้านเดี่ยวที่มีชื่อว่า Stratford เราขอทำเป็น Gallery ไว้ทางด้านล่างแทนนะคะ แต่ก่อนที่จะเข้าไปดูตัวบ้าน มาดูโครงสร้างและวัสดุที่ใช้ในโครงการกันก่อนนะ
โครงสร้างและวัสดุที่ใช้ในโครงการ
- โครงสร้างบ้าน Precast
- โครงสร้างพื้นที่จอดรถและลานซักล้าง ลงเสาเข็ม 6 เหลี่ยม ลึก 4 เมตร
- พื้นที่จอดรถ คอนกรีตขัดเรียบ
- พื้นชั้น 1 กระเบื้องยางลายไม้ SPC
- พื้นชั้น 2 พื้นลามิเนตลายไม้ หนา 8 มม.
- พื้นและผนังห้องน้ำ กระเบื้องแกรนิตโต้
- สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ Cotto
- ฝ้าเพดานสูง 2.85 – 3.0 เมตร ฉาบเรียบ
- ไฟดาวน์ไลท์ (LED)
- พื้นบันไดไม้ยางพาราประสาน ราวจับไม้จริง
- ประตูหน้าต่าง UPVC
- ชุดประตูหน้าต่างกระจก กรอบบานอลูมิเนียม ทำสี Powder coat สีดำ กระจกเขียวใสตัดแสง
**รายละเอียดของวัสดุต่างๆเช่น ยี่ห้อ และรุ่น ของจริงอาจจะเป็นรุ่นนี้หรือเทียบเท่านะคะ
ความแตกต่างระหว่างบ้านแบบ Brightling และแบบ Henley
แบบบ้านที่จะพาไปรีวิวเป็นบ้านแฝดด้วยกันทั้งคู่ค่ะ การจัดวางฟังก์ชันต่างๆภายในบ้านค่อนข้างคล้ายคลึงกัน แต่จะมีขนาดพื้นที่ใช้สอยภายในที่แตกต่างกันอยู่
จุดแต่งต่างที่เห็นได้ชัดจะมีอยู่ 2 จุดค่ะ
- Brightling ได้ห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง ส่วน Henley ได้ห้องนอนชั้นล่าง โดยแบบ Henley จะเป็นห้องที่กั้นไว้มีประตูเปิด-ปิด แต่แบบ Brightling จะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์แบบที่ไม่มีประตู (สามารถติดประตูเพิ่มทีหลังได้นะคะ) ซึ่งเราก็สามารถปรับห้องอเนกประสงค์นี้ไปเป็นห้องนอนได้เช่นกันค่ะ
- ที่ชั้น 2 แบบ Brightling ห้องนอนรอง 2 ห้องใช้ห้องน้ำร่วมกัน ส่วนแบบ Henley ห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องจะได้ห้องน้ำในตัว
**เฉพาะแบบบ้านเริ่มต้น Brightling ห้องนอนรอง 2 ห้องสามารถทุบผนังกั้นตรงกลางเชื่อมกันได้ โดยผนังตรงกลางจะใช้เป็นโครงสร้างก่ออิฐมวลเบา ทำให้บ้านแบบนี้ได้เป็น Double Master Bedroom เลยนะคะ
Brightling
บ้านแบบแรกที่จะพาไปดูเป็นบ้าน Type เริ่มต้นที่มีชื่อว่า Brightling ค่ะ
Brightling เป็นบ้านแฝดขนาด 165 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และ 1 ห้องอเนกประสงค์ ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท
ชั้น 1 เมื่อเข้ามาจะเป็นส่วนของที่จอดรถเป็นอันดับแรก โดยประตูทางเข้าบ้านจะอยู่ตรงกับส่วนที่จอดรถเลย พอเข้ามาภายในบ้านจะสังเกตได้ว่าเราจะอยู่บริเวณกลางบ้านพอดี จากตรงนี้จะแบ่งได้สองฝั่ง ฝั่งขวาซึ่งอยู่ติดกับเพื่อนบ้านจะเป็นฟังก์ชัน service อย่างบันได ห้องน้ำ ห้องครัว และมีห้องอเนกประสงค์แยกออกมาทางฝั่งหน้าบ้าน ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ Common area นั่งเล่น กินข้าว อยู่ติดกับพื้นที่สวนด้านข้างบ้านค่ะ ซึ่งพื้นที่ common area นี้ก็จะเป็นโซนที่ห่างจากผนังที่ใช้ร่วมกันกับเพื่อนบ้าน ช่วยลดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านได้พอสมควร
ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะเป็นส่วนพักผ่อน แบ่งออกเป็น 3 ห้องนอน Master Bedroom หรือห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้านกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้นนี้เลยค่ะ มีห้องน้ำในตัวและจัดมุมพักผ่อนหรือทำงานภายในห้องนอนได้เลย ส่วนห้องนอนรอง 2 ห้องจะอยู่ทางฝั่งหลังบ้าน ใช้ห้องน้ำร่วมกัน โดยระหว่างห้องนอนทั้งสองจะกั้นด้วยผนังก่ออิฐมวลเบา ซึ่งเราสามารถทุบผนังนี้ทิ้งได้โดยไม่กระทบกับผนังที่เป็นโครงสร้างของตัวบ้านค่ะ กรณีที่ทุบผนังนี้ทิ้งเท่ากับว่าเราจะได้ห้องนอนใหญ่ถึง 2 ห้องเลย เหมาะกับครอบครัวที่จำนวนสมาชิกไม่เยอะ ลูก 2 คนก็อาจจะนอนห้องเดียวกันได้ ได้พื้นที่กว้างขึ้นด้วยค่ะ
รอบตัวบ้าน
ตัวบ้านสามารถจอดรถได้ 2 คัน ประตูทางเข้าหลักจะเข้าจากทางที่จอดรถค่ะ ทางฝั่งขวามือหน้าต่างที่เห็นจะเป็นห้องอเนกประสงค์ ดูจากภายนอกจะไม่เห็นพื้นที่ภายในบ้านเท่าไหร่ ถือว่าค่อนข้างได้ความเป็นส่วนตัวเลยนะคะ
ชั้น 1
จากที่จอดรถเข้ามาสู่ตัวบ้านเราจะอยู่ตรงกึ่งกลางบ้านพอดีค่ะ เจอกับ Common Area ทางซ้ายมือ บันไดขึ้นชั้น 2 อยู่ตรงกลาง ส่วนทางขวามือจะเป็นห้องน้ำและพื้นที่อเนกประสงค์ ดูแล้วแต่ละฟังก์ชันแยกเป็นสัดส่วน คนที่เพิ่งกลับบ้านหรือจะออกไปข้างนอกไม่เดินตัดหน้าหรือรบกวนคนที่ใช้งานในแต่ละพื้นที่นะคะ
จุดน่าสนใจที่เราอยากให้สังเกตคือพื้นบ้านค่ะ บ้านจัดสรรทั่วไปจะเลือกใช้พื้นกระเบื้องที่ชั้น 1 แต่ที่นี่จะใช้เป็นพื้นกระเบื้องยางลายไม้ SPC ให้บรรยากาศบ้านดูอบอุ่นมากขึ้น ในขณะที่คุณสมบัติของพื้นก็จะทนรอยขีดข่วน น้ำ สารเคมีมากกว่าพื้นลามิเนตทั่วไปด้วย
พื้นที่นั่งเล่น/รับแขก
ส่วนแรกที่เราจะเจอเป็นพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่รับแขกค่ะ ผังของบ้านซีรีส์ใหม่นี้ค่อนข้างแปลกตา ในบ้านจัดสรรที่เราเห็นบ่อยๆ ปกติแล้วเวลาเราเดินเข้าบ้านเราจะต้องเดินผ่ากลางระหว่างโซฟากับทีวีเลย แต่บ้านนี้สามารถจัดพื้นที่ตรงนี้ให้เข้ามุมได้ ผนังทางฝั่งหน้าบ้านออกแบบให้เป็นผนังทึบวางชั้นวางทีวีได้ และเปิดช่องแสงไปทางสวนฝั่งข้างบ้านแทน ตรงนี้สามารถจัดวางโซฟาขนาด 3-5 ที่นั่งได้ มี Coffee table ตรงกลาง
Common area พื้นที่รับแขก
พื้นที่กินข้าว
ต่อเนื่องจากส่วนรับแขกมาทางฝั่งหลังบ้านจะเป็นมุมสำหรับกินข้าว ผนังทางฝั่งหลังบ้านเป็นหน้าต่าง ส่วนด้านข้างบ้านเป็นประตูบานเลื่อนกระจก ทำให้มุมนี้ดูโปร่งโล่ง ระบายอากาศได้ดี และสว่างจากแสงธรรมชาติค่ะ สามารถจัดมุมกินข้าว 4-6 ที่นั่งได้สบาย ผนังทางฝั่งด้านหลังบ้านเรามองว่าสามารถวางเฟอร์นิเจอร์อย่างชั้นวางของเตี้ยๆ ไว้ก็ได้นะคะ
Common area พื้นที่กินข้าว
จากพื้นที่ Common area ที่จัดเป็น open plan ให้สมาชิกในบ้านได้มาใช้งานร่วมกัน มองไปอีกฝั่งจะจัดให้ฟังก์ชันตรงนี้แบ่งเป็นสัดส่วนมากขึ้นค่ะ ทางซ้ายจะเป็น Pantry ที่เชื่อมต่อกับครัวได้ ตรงกลางบ้านเป็นบันไดที่มีห้องน้ำอยู่ด้านใต้ และมีพื้นที่อเนกประสงค์อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านทางขวามือ
Pantry
ก่อนที่จะเข้าไปยังส่วนครัวจะมีพื้นที่ส่วนเตรียมอาหารอยู่ค่ะ บริเวณนี้จะเป็นพื้นที่โล่งที่เดินงานระบบน้ำเอาไว้ให้ เจ้าของบ้านสามารถดีไซน์เคาน์เตอร์เองได้ตามใจชอบค่ะ อาจจะกั้นเป็นห้องปิดก็ได้ หรือจะเปิดโล่งเชื่อมต่อกับส่วนกินข้าวแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้ค่ะ เหมาะสำหรับวางตู้เย็น เครื่องทำกาแฟ ทำอาหารง่ายๆ หรือถ้าใครชอบทำขนมก็จัดส่วนนี้ให้เป็นโซนอบขนมก็น่าจะทำให้กลิ่นขนมอบโชยหอมไปทั้งบ้านเลยนะคะ
Pantry / ส่วนเตรียมอาหาร
ห้องครัว
ทุกแบบบ้านของโครงการ Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์ จะมีพื้นที่ครัวเตรียมไว้ให้ภายในบ้านเลยค่ะ ซึ่งเป็นครัวไทยในร่ม คนที่ซื้อก็ไม่ต้องเสียเวลาและกำลังทรัพย์ในการต่อเติมเพิ่มนะคะ โดยในบ้านมาตรฐานที่ขายจริงจะมีการก่อเคาน์เตอร์ปูนเอาไว้ให้ (ดีไซน์จะไม่เหมือนกับบ้านตัวอย่าง) นอกจากนั้นพื้นที่ส่วนนี้ก็จะเชื่อมต่อกับลานซักล้างที่อยู่หลังบ้านค่ะ
ห้องครัว
ก่อนที่จะขึ้นไปดูชั้น 2 มาดูอีกมุมทางฝั่งหน้าบ้านกันค่ะ ตรงนี้จะเป็นห้องน้ำและพื้นที่อเนกประสงค์ ซึ่งจะไม่ได้มีประตูกั้นโซนนะคะ
พื้นที่อเนกประสงค์
ห้องนี้เรามองว่าสามารถกั้นประตูปิดจัดเป็นห้องนอนเพิ่มอีก 1 ห้องได้ค่ะ หรือจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องออกกำลังกายที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัวก็ดีนะคะ เพราะโซนนี้จะแยกห่างจาก common area พอสมควร ไม่รบกวนกันนะ
พื้นที่อเนกประสงค์
ห้องน้ำชั้น 1
ที่ชั้น 1 จะมีห้องน้ำอยู่ 1 ห้องค่ะ ภายในจะแบ่งพื้นที่ส่วนแห้งส่วนเปียกเอาไว้ (เผื่อใครปรับห้องอเนกประสงค์มาเป็นห้องนอนก็มาใช้งานห้องน้ำตรงนี้ได้) จุดที่น่าสนใจคือจะมีผนังที่ออกแบบให้มีช่องหน้าต่าง ตรงนี้จะอยู่ติดกับห้องครัว อาจจะเปิดระบายอากาศและความชื้นภายในห้องน้ำได้นะ
ห้องน้ำชั้น 1
บันไดบ้าน
ตัวบันไดบ้านจะใช้วัสดุเป็นไม้ยางพาราประสานค่ะ ราวจับไม้เช่นกัน โทนบ้านดูบรรยากาศอบอุ่นดีนะคะ
บันไดบ้าน
ห้องนอนรอง 1
ห้องนี้มีขนาดประมาณ 3.1×3.95 เมตรค่ะ สามารถจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ แต่ถ้าใครอยู่คนเดียวแล้วอยากแบ่งพื้นที่เป็นมุมทำงานหรือมุมเก็บของแทนก็เปลี่ยนขนาดเตียงเป็น 3.5 ฟุตก็ได้นะคะ ห้องนอนรองนี้จะต้องออกไปใช้ห้องน้ำทางด้านหน้า ดังนั้นถ้าบ้านไหนสมาชิกไม่เยอะก็สามารถปรับใช้ห้องนี้ทำเป็นห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น ห้องเก็บของ หรือจะทำเป็น Walk-in closet ทั้งห้องเลยก็ได้ค่ะ
ห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 2
สำหรับห้องนี้ขนาดห้องก็ใกล้เคียงกับห้องแรกเลย แต่จะเป็นห้องที่อยู่ในตำแหน่งมุม ได้หน้าต่าง 2 ฝั่ง ตัวห้องเลยจะสว่างกว่า ลมพัดผ่านดีกว่า และมีทางเข้าออกไปยังห้องน้ำจากห้องนอนเลย ทำให้ห้องนี้เหมาะสำหรับจัดเป็นห้องนอนมากกว่านั่นเองค่ะ
ห้องนอนรอง 2
ถ้าดูจากห้องตัวอย่างจะเห็นว่าขนาดห้องก็ถือว่าอยู่สบายเลยนะคะ โดยจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตเข้ามุมห้อง ด้านข้างวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้ ปลายเตียงก็มีขนาดพอสำหรับวางชั้นวางทีวี หรือจะทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้เช่นกัน
ห้องน้ำชั้น 2
ห้องน้ำรองนี้จะพิเศษตรงที่เป็นห้องแบบ Double access เข้าได้ 2 ทาง จากโถงทางเดินหน้าห้องนอนและจากห้องนอนรองที่ 2 ค่ะ พื้นที่ภายในก็จะแยกส่วนเปียกส่วนแห้งเอาไว้ เวลาใช้งานก็จะได้ไม่เปียกไปทั่วทั้งห้อง ตรงโซนอาบน้ำเราอาจจะต้องหาฉากกั้นหรือม่านอาบน้ำมาติดเพิ่มหน่อยนะ นอกจากนี้ด้วยตำแหน่งห้องน้ำที่อยู่ชิดกับผนังภายนอกทำให้ได้ช่องแสง เพิ่มความสว่างใช้งานเวลากลางวันก็ไม่ต้องเปิดไฟ แถมยังระบายอากาศ ความชื้น ลดโอกาสการเกิดเชื้อราภายในห้องน้ำได้ค่ะ
ห้องน้ำชั้น 2
Master Bedroom
สำหรับห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้น 2 ก็ว่าได้ค่ะ
เข้ามาภายในห้องทางซ้ายมือจะเป็นส่วนพักผ่อน เห็นได้ว่ามีขนาดใหญ่พอสมควร วางเตียงใหญ่ 5-6 ฟุตสบาย ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางทีวีได้ มีทางเดินกว้าง และด้านในสุดก็ยังสามารถจัดโซฟาพักผ่อนส่วนตัวที่มองวิวระเบียงได้ด้วยค่ะ
เข้ามาภายในห้อง
มาดูอีกฝั่งของห้องกันค่ะ ตรงนี้จะได้กระจกบานใหญ่ จัดเป็นมุมแต่งตัว ตรงนี้เรามองว่าอาจจะกั้นให้เป็นห้องปิดแยกโซนออกไปได้ เผื่อใครอยากได้พื้นที่สำหรับ built-in ตู้เสื้อผ้าเพิ่มนะคะ
ห้องน้ำใน Master Bedroom
ภายในห้องนอนใหญ่ แน่นอนว่าจะต้องมีห้องน้ำส่วนตัวค่ะ โดยจะแยกพื้นที่ส่วนแห้งที่เป็นอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ไว้ทางซ้าย ใกล้กับหน้าต่าง ส่วนทางขวามือของประตูห้องน้ำก็จะเป็นพื้นที่อาบน้ำที่เป็นส่วนเปียก แยกโซนโดยมีธรณีประตูยกขอบสูงขึ้นมาค่ะ
ห้องน้ำใน Master Bedroom
Henley
บ้านตัวอย่างที่จะพาไปดูแบบละเอียดกันอีกหลังเป็นบ้านขนาดกลางของโครงการ มีชื่อว่า Henley ค่ะ
Henley นี้จะเป็นบ้านแฝดเช่นเดียวกับแบบ Brightling หน้าตาของบ้านก็ค่อนข้างคล้ายกันด้วยนะคะ แต่ว่า Henley นี้จะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าอยู่ที่ 190 ตร.ม. เป็นบ้าน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ราคาเริ่ม 6.89 ล้านบาทค่ะ
การวางฟังก์ชันใช้สอยภายในบ้านหลักๆก็จะเหมือนกับบ้านแบบ Brightling ค่ะ แต่ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากขึ้น ทำให้หน้าบ้านก็จะกว้างขึ้น พื้นที่ข้างในแต่ละฟังก์ชันก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นตาม จุดแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดจะเป็นห้องนอนชั้นล่าง ที่ได้เป็นห้องมีประตูปิดกั้นเป็นสัดส่วน ขนาดใหญ่ขึ้นสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้เลย
ในส่วนของชั้น 2 จะเป็นพื้นที่พักผ่อน โดยจะแบ่งเป็น 3 ห้องนอนเหมือนเดิม เป็นห้องนอนใหญ่ทางฝั่งหน้าบ้าน และห้องนอนรอง 2 ห้องทางฝั่งหลังบ้าน จุดที่เปลี่ยนไปจาก Brightling คือห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องจะมีห้องน้ำในตัวค่ะ จึงเหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลาง มีสมาชิกภายในบ้าน 4 คนขึ้นไป
ภาพหน้าบ้าน จะเห็นว่าจุดเด่นก็ยังเป็นหลังคาจั่วเช่นเคย แต่บ้านหน้ากว้างมากขึ้น
รอบตัวบ้าน
Henley เป็นแบบบ้านที่จอดรถ 2 คัน โดยที่จอดรถจะมีขนาด 5.2x6 เมตร
ภายในตัวบ้าน เข้ามาก็จะเจอกับใจกลางบ้าน เป็นแนวทางเดินแจกไปยังโซนต่างๆทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ค่ะ
บ้านตัวอย่าง
Common Area
หันมาทางซ้ายมือจะเป็น Common area หรือพื้นที่ใจกลางบ้านที่ให้สมาชิกมาใช้งานร่วมกัน โดยพื้นที่ตรงนี้จะเป็นพื้นที่โล่ง open plan สามารถไปจัดฟังก์ชันได้เองตามใจค่ะ ขนาดตรงนี้อยู่ที่ราวๆ 3×10 เมตร
บ้านตัวอย่าง
พื้นที่นั่งเล่น / รับแขก
ในบ้านตัวอย่างจะจัดพื้นที่ทางด้านหน้าไว้เป็นห้องนั่งเล่น / รับแขก หันชั้นวางทีวีไว้ติดกับผนังที่จอดรถค่ะ ผนังด้านข้างของโซนนี้จะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเชื่อมต่อออกไปยังสวนที่อยู่ข้างบ้านได้ ส่วนภายในบ้านก็สามารถจัดวางชุดโซฟาขนาดใหญ่ มี coffee table ตรงกลาง เหมาะกับการเป็นมุมพักผ่อน ชวนทั้งครอบครัวมาจัด movie night กันก่อนนอนมากค่ะ
พื้นที่นั่งเล่น / รับแขก
พื้นที่กินข้าว
เข้าไปทานด้านในตัวบ้าน จะเป็นมุมสำหรับวางโต๊ะกินข้าวรองรับได้ 6-8 ที่นั่งสบายๆ แต่เรามองว่าถ้าวันไหนพาเพื่อนมาจัดงานปาร์ตี้ก็สามารถวางเก้าอี้เพิ่มเป็น 10 ที่นั่งได้นะคะ โดยมุมนี้จะมีหน้าต่างอยู่ 2 ด้าน ฝั่งที่เป็นผนังข้างบ้านเว้นที่ไว้สำหรับจัดเป็นชั้นวางของหรือเคาน์เตอร์ให้เต็มผนังช่วงนี้ได้ ยาวประมาณ 3.1 เมตร เรามองว่าอาจจะทำเป็นชั้นวางหนังสือก็ได้ หรือจะทำให้เป็น Snack bar ก็ดีนะ
พื้นที่กินข้าว
จาก common area เราไปต่อยังอีกฝั่งของตัวบ้านกันบ้างค่ะ เป็นโซนสำหรับทำเป็น Pantryและครัว บันได ห้องน้ำ และห้องนอนชั้นล่าง เป็นการจัดฟังก์ชันที่เป็นห้องให้รวมไว้ในฝั่งเดียวกัน
Pantry
ส่วนเตรียมอาหารตรงนี้เป็นพื้นที่โล่ง หน้ากว้าง 3.1 เมตร มีเดินงานระบบท่อประปา ไฟฟ้าเอาไว้ให้ เราสามารถกั้นเป็นห้องปิดได้อีกจุด เผื่อใครอยากทำเป็นครัวฝรั่ง หรือมุมสำหรับวางเครื่องอบขนมก็ใช้ตรงนี้ได้นะคะ หรือจะจัดเป็น Breakfast corner / Coffee station ก็ออกแบบได้ตามใจเลย ดูจากในบ้านตัวอย่างก็สามารถทำเคาน์เตอร์ได้ 3 ฝั่ง เก็บของได้เยอะพอสมควรเลยค่ะ
Pantry หรือพื้นที่เตรียมอาหาร
ห้องครัว
สำหรับครัวของบ้านแบบนี้ก็ยังเป็นครัวปิดภายในบ้านกันแดดกันฝนได้ และมีประตูเปิดเชื่อมไปยังลานซักล้างหลังบ้านระบายอากาศที่เกิดจากการทำอาหารได้เช่นกัน ภายในครัวมีขนาด 2×3.1 เมตร จัดเคาน์เตอร์เข้ามุมเป็นรูปตัว L ได้พอดี และมีพื้นที่ทางเดินใช้งานกว้าง เดินสวนกันสะดวกค่ะ
ประตูห้องครัว เป็นประตูบานเลื่อนกระจก 2 ตอน
ออกจากครัวมาย้อนกลับมาดูฟังก์ชันทางฝั่งหน้าบ้านกันบ้างค่ะ ก่อนจะขึ้นชั้น 2 ไป จะเจอกับห้องน้ำที่อยู่ทางด้านล่างและห้องนอน 1 ห้องหลบเข้ามุมดูเป็นส่วนตัวนะคะ
ห้องนอนชั้นล่าง
ห้องนี้จะเป็นจุดที่แตกต่างจากบ้านขนาดเริ่มต้นแบบ Brightling โดยจะเป็นห้องปิดแยก สามารถจัดเป็นห้องนอนที่วางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ ภายในห้องมีขนาดประมาณ 2.8×3.45 เมตร เป็นห้องที่มีหน้าต่างอยู่ทางฝั่งด้านหน้า จุดที่น่าสนใจคือหน้าต่างตรงนี้มองไปยังสวนด้านหน้า ไม่ใช่ที่จอดรถด้วย ทำให้ห้องนี้ได้ความเป็นส่วนตัวพอสมควรค่ะ ถ้าใครไม่ได้ใช้เป็นห้องนอนก็อาจจะปรับเป็นห้องทำงาน ห้องออกกำลังกาย หรือห้องสำหรับทำงานอดิเรกอื่นๆได้นะคะ
ห้องนอนชั้นล่าง
ก่อนจะเข้าไปดูยังห้องน้ำ จะเห็นว่าพื้นที่ใต้บันไดมีห้องเก็บของอยู่ด้วยค่ะ เราอาจจะเอาไว้เก็บอุปกรณ์ช่างหรืออุปกรณ์ทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์สำรองที่ไม่ได้ใช้งานประจำได้
ห้องน้ำชั้น 1
ส่วนในห้องน้ำที่ชั้นนี้จะเป็นห้องน้ำที่ออกแบบให้มีพื้นที่อาบน้ำรองรับ การใช้งานของห้องนอนชั้นล่างเอาไว้ด้วยค่ะ แยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งจากกัน มีหน้าต่างเล็กๆ ระบายอากาศความชื้นไปยังครัวได้ ขนาดพื้นที่ต่างๆถือว่ามาตรฐาน ใช้งานได้ดีไม่ติดขัด จุดที่น่าสนใจคือในห้องน้ำทุกห้องของบริทาเนีย ปลั๊กไฟนอกจากจะได้ตัวครอบปิดกันน้ำแล้วยังจะมีจุดชาร์จ USB ให้มาด้วย เหมาะกับสมัยนี้ที่หลายอุปกรณ์ไฟฟ้ามักให้เป็นสายชาร์จ USB กันมามากขึ้นค่ะ อาจจะชาร์จแบตไปด้วยระหว่างเข้าห้องน้ำได้นะคะ
ห้องน้ำชั้น 1
บันไดขึ้นชั้น 2
บันไดจากชั้น 1 ไปชั้น 2 จะได้วัสดุปูลูกนอนพื้นบันไดเป็นไม้ยางพาราประสาน ราวจับเป็นไม้เช่นกัน ภาพรวมของตัวบ้านเลือกใช้ลายไม้เป็นวัสดุพื้นแทบทุกจุดเลยค่ะ โทนบ้านเลยดู Cozy อบอุ่นมากด้วยนะ
บันไดขึ้นชั้น 2
ห้องนอนรอง 1
มาดูห้องนอนรองห้องแรกที่ติดกับบันไดค่ะ ห้องนี้จะมีหน้าต่างอยู่ฝั่งเดียวหันออกทางหลังบ้าน พื้นที่ภายในห้องขนาด 3.1×3.5 เมตร ถือว่ากำลังดี สามารถจัดวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ มีมุมสำหรับวางตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งภายในตัว อยู่คนเดียวถือว่าสบายตั้งแต่เล็กยันโตเลยค่ะ นอกจากนี้ก็เป็นห้องที่ได้ห้องน้ำในตัว ใช้งานสะดวกดีนะ
ห้องนอนรอง 1
ห้องนอนรอง 2
สำหรับห้องนอนรองห้องต่อมาจะเป็นห้องที่อยู่ตำแหน่งหัวมุมบ้าน มีหน้าต่างอยู่ 2 ฝั่ง บรรยากาศเลยจะดูสว่างและโปร่ง ระบายอากาศได้ดีกว่าห้องนอนแรก นอกจากนี้ก็จะมีขนาดภายในห้องที่ใหญ่ขึ้น อยู่ที่ประมาณ 3.1×4.15 เมตร สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้เลยค่ะ อยู่ 1 คนก็สบาย แต่ก็รองรับการอยู่กัน 2 คนได้ด้วย โดยห้องนี้ก็จะได้ห้องน้ำในตัวเช่นกันค่ะ
ห้องนอนรอง 2
Master Bedroom
สำหรับห้องสุดท้ายของบ้านก็จะเป็นห้องนอนใหญ่หรือว่า Master Bedroom โดยกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้น 2 ทางฝั่งหน้าบ้านทั้งหมดเลยค่ะ โดยจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นหลายๆส่วน วางเตียงขนาดใหญ่ 6 ฟุตได้ มีพื้นที่ปลายเตียงกว้างวางชั้นวางทีวีได้ มีมุมสำหรับวางโซฟาพักผ่อนส่วนตัวภายในห้อง มีมุมสำหรับจัดโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้งเช่นกัน และที่สำคัญก็คือมีมุมสำหรับทำเป็นห้องแต่งตัวอยู่ทางฝั่งหน้าห้องน้ำ ใช้งานได้สะดวกค่ะ
ระยะห่างปลายเตียงกับผนังสามารถ Built-in ชั้นวางของหรือชั้นวางทีวีเพิ่มได้นะคะ
ข้ามไปดูอีกฝั่งของห้องนอนจะเป็นพื้นที่ห้องน้ำและมุมแต่งตัวทางด้านหน้า
มุมนี้จะได้หน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ เป็นจุดที่เพิ่มความสว่างให้ภายในห้องที่สำคัญ เราอาจจะวางเป็นโต๊ะทำงานหรือโซฟาพักผ่อนตรงนี้ได้นะคะ
ห้องน้ำใน Master Bedroom
ส่วนภายในห้องน้ำก็ยังคงแยกพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียกเอาไว้ให้ ดีไซน์การตกแต่งก็ยังเป็นโทนเดียวกับห้องน้ำห้องอื่นๆภายในบ้านค่ะ
ห้องน้ำใน Master Bedroom
Stratford
Stratford เป็นแบบบ้านขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ
สำหรับดีไซน์ของบ้านถ้าดูจากรูปเราอาจจะต้องบอกก่อนว่าถ้ามองจากหน้าบ้านจะดูเล็กกว่าความเป็นจริงอยู่ เนื่องจากการดีไซน์สัดส่วนของบ้านที่ได้ฝ้าเพดานสูง 2.85-3 เมตรในแต่ละชั้นทำให้ทั้งความกว้างและสูงของบ้านดูแล้วเป็น Form ของสี่เหลี่ยมจัตุรัส และตัวบ้านก็มีความลึกพอสมควร ซึ่งจะแตกต่างจากบ้านในโครงการอื่นที่ฝ้าเพดานอาจจะสูงน้อยกว่าหรือว่าตัวบ้านลึกน้อยกว่าค่ะ
ผังบ้านจะเป็นบ้านหน้ากว้างที่มีผังแตกต่างจาก 2 แบบแรกที่เราพาไปรีวิวพอสมควรค่ะ โดยทางเข้าทางหน้าบ้านจะมีอยู่ 2 จุด เข้าสู่ห้องนั่งเล่น 1 จุด และเข้าจากที่จอดรถอีก 1 จุด ที่ชั้นล่างจะแบ่งฟังก์ชันออกเป็น 2 ฝั่งมีบันไดและครัวอยู่ตรงกลาง ฝั่งที่เป็นที่จอดรถจะเป็นจุดที่ private หน่อย มีห้องนอน ห้องน้ำใกล้ๆ ส่วนอีกฝั่งจะเป็น common area ที่เป็นห้องนั่งเล่นและห้องครัวค่ะ ด้วยระยะที่ห่างกันเรามองว่าคนที่นอนหลับพักผ่อนอยู่ชั้นล่างก็ไม่ถูกรบกวนโดยคนที่นั่งดูทีวีอยู่เท่าไหร่นะคะ
ขึ้นไปที่ชั้นบนของบ้านจะเป็นห้องนอนค่ะ แต่จะมีการเล่นระดับอยู่นิดหน่อยตรงที่ห้องนอนห้องที่ 2 จะเข้าจากชานพักบันได ซึ่งห้องนี้ก็ถือว่าเป็นห้องนอนรองที่ใหญ่เทียบเคียงกับ master bedroom ได้เลย และเป็นห้องนอนที่หันด้านยาวออกสู่หน้าบ้าน ทำให้ได้วิวที่กว้างกว่าห้องนอนทางฝั่งหลังบ้านด้วย ในส่วนของชั้น 2 จริงก็จะมีห้องนอนอยู่ 2 ห้องค่ะ ทั้งคู่มีห้องน้ำในตัว วางเตียงใหญ่ได้ อยู่อาศัยได้สบาย
ชั้น 1
หน้าบ้านเดี่ยว Stratford
ชั้น 2
ห้องนอนรองที่อยู่ทางฝั่งหน้าบ้านนี้มีขนาดใหญ่พอพอกับ Master Bedroom เลยค่ะ
ราคา
Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์ ณ วันที่ 17 มกราคม 2565
- แบบบ้าน Brightling ขนาดที่ดิน 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. ราคา 6 ล้านบาท
- แบบบ้าน Henley ขนาดที่ดิน 41 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. ราคา 6.89 ล้านบาท
- แบบบ้าน Stratford ขนาดที่ดิน 62 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 220 ตร.ม. ราคา 9.99 ล้านบาท
- จอง 20,000 บาท และทำสัญญา 20,000 บาท
- ดาวน์ n/a% ผ่อนดาวน์ n/a งวด
- ที่ดินเพิ่มลด ราคาตารางวาละ 80,000 บาท
- ค่าส่วนกลาง 42 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้า 2 ปี
- ค่าจดจำนอง ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
- ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
บทสรุป
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง :
ที่ตั้งของ Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์ อยู่ติดกับถนนใหญ่ใกล้กับแยกบางคูวัด ซึ่งเป็นจุดตัดที่สามารถเข้า-ออกเมืองได้สะดวก เป็นทำเลที่ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำอย่าง สะพานนนทบุรี และสะพานปทุมธานี อีกทั้งยังมีทางด่วนอุดรรัถยาด่านศรีสมานให้ใช้งาน โดยทำเลนี้เป็นทำเลที่มีความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำใกล้ๆเป็นครบ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหน้าโครงการ / The Tree คอมมูนิตี้มอลล์ที่อยู่ใกล้เพียง 500 m. / Big C และโรงเรียนสาธิตปทุม เป็นต้น
ความปลอดภัยในโครงการและตัวบ้าน :
ทางเข้า-ออกโครงการจะมีอยู่จุดเดียวใช้ Key card access มีรั้วไม้กั้นกระดกและประตูรั้วบานเลื่อนอัตโนมัติ (night gate) ส่วนภายในโครงการก็จะมี CCTV ติดตั้งไว้รวม 34 จุด และมีรปภ.ประจำโครงการตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นในตัวบ้านจะมี IP Camera ให้มา 2 จุด มีสัญญาณกันขโมย motion sensor ที่เชื่อมต่อผ่าน Application จากทางโทรศัพท์มือถือได้ค่ะ
การออกแบบโครงการและพื้นที่ใช้สอย :
การออกแบบของโครงการนี้ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว เรื่องแรกจะเป็นรูปลักษณ์ของโครงการที่นำเอากลิ่นอายความเป็นอังกฤษมาใช้ไปจนถึงแบบบ้าน ทำให้หน้าตาบ้านจะแตกต่างจากโครงการรอบๆพอสมควร ต่อมาในส่วนผังบ้านเรามองว่าเป็นแปลนที่จัดฟังก์ชันได้ดีและไม่เคยเจอแปลนบ้านแบบนี้ที่ไหนมาก่อน โดยจุดที่เราชอบก็จะเป็นเรื่องฟังก์ชันที่ลงตัว และพื้นที่ใช้สอยในแต่ละฟังก์ชันที่ขนาดพอดี ไม่เล็กไปและไม่ใหญ่จนจัดวางเฟอร์นิเจอร์ยาก อยู่อาศัยสบายค่ะ
วัสดุ :
ในเรื่องของวัสดุต้องขออ้างอิงกับเรื่องราคาบ้านของที่นี่พ่วงด้วย ราคาของโครงการนี้ต้องบอกว่าไม่ได้ถูกสุดในย่าน แต่ก็ได้วัสดุโครงสร้างและเทคโนโลยีต่างๆที่พ่วงเข้ามาหลายรายการ เช่น พื้นบ้านจากที่เคยเห็นจะเป็นกระเบื้อง ที่นี่จะให้เป็นพื้น SPC กระเบื้องยางลายไม้ ตัวพื้นที่จอดรถและลานซักล้างก็มีลงเสาเข็มให้ แล้วยังมีครัวไทยภายในบ้านทุกแบบ เรียกได้ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องต่อเติมบ้านเพิ่มเติมเลย ส่วนเทคโนโลยีต่างๆก็ได้ IP camera, motion sensor, siren alarm, smoke detector และ usb plug หลายฟังก์ชันก็เชื่อมต่อเข้ากับโทรศัพท์มือถือ ตรวจสอบผ่าน application ได้ค่ะ
พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ :
เนื่องจากวันที่เราไปโครงการยังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้าง จึงอาจจะพูดถึงหัวข้อนี้ได้ไม่เต็มปากเต็มคำ แต่จากประสบการณ์ที่เคยไปรีวิวโครงการของบริทาเนียมา ส่วนใหญ่การออกแบบ landscape หรือพื้นที่สีเขียวของโครงการก็จะออกแบบโดยอิงกับ concept ความเป็นอังกฤษค่ะ ทำให้ภาพรวมทั้งหมดของโครงการเป็นไปในโทนเดียวกันหมดนะ
ถ้าดูจากผังเรามองว่าขนาดพื้นที่สีเขียวที่ให้มาไร่กว่าๆก็ถือว่าไม่มากไม่น้อย แต่ละจุดก็ไม่ได้ลงต้นไม้ให้อย่างเดียวแต่ก็มีดีเทลน่าสนใจแทรกเอาไว้ เช่น สวนสมุนไพรที่ลูกบ้านมาเก็บกินได้ มีสนาม basketball ขนาดย่อมให้ได้เล่นสนุก มีสนามเด็กเล่น จุดนั่งพักผ่อนและชาร์จ USB กลางสวน
สาธารณูปโภค :
ฟังก์ชันพื้นที่ส่วนกลางให้มาครบตามมาตรฐานค่ะ ได้สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พื้นที่นั่งทำงาน พักผ่อน แต่จุดที่เรามองว่าน่าสนใจคือการปรับดีไซน์การตกแต่งภายในให้ตอบรับกับการใช้ชีวิตที่เราผ่านสถานการณ์ covid-19 กันมา มีการออกแบบ partition กั้นระหว่างเครื่องเล่นในฟิตเนส หรือกั้นระหว่างโต๊ะทำงาน ในแง่การใช้งานก็เกิด Social distance และก็ยังได้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งานที่มากขึ้นด้วยค่ะ
Judgement
การให้คะแนน ให้แบบ Weight Average โดยมุ่งหาความคุ้มค่า เทียบกับราคาที่จ่ายไป โดยมีส่วนที่พิจารณาดังนี้
ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 40%, ความปลอดภัย 15%, การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 15%, วัสดุ 10%, พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 10%, และสาธารณูปโภค 10%
เทียบกับแพคเกจ 6-10 ล้านบาท, 17 มกราคม 2565
- ทำเลและความสะดวกในการเดินทาง 7.5/10 – ติดถนนใหญ่
- ความปลอดภัย 8/10 – มีให้ทั้งตัวโครงการและตัวบ้าน
- การออกแบบและพื้นที่ใช้สอย 8.5/10 – ดีไซน์เหมือนอยู่ต่างประเทศ ฟังก์ชันดีอยู่สบาย
- วัสดุ 8/10 – ให้มาค่อนข้างดี ไม่ต้องต่อเติมเพิ่ม
- พื้นที่สีเขียวและสภาพโครงการ 8/10 – มีสวน 3 จุด และออกแบบฟังก์ชันใช้งานภายในสวนไว้ด้วย
- สาธารณูปโภค 8/10 – ฟังก์ชันมาตรฐานให้มาครบครัน
- 7.84 / 10.00
Britania ติวานนท์-ราชพฤกษ์ เหมาะกับใคร?
โครงการนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหาบ้านในโซนนนทบุรี-ปทุมธานีอยู่ค่ะ หาโครงการติดถนนใหญ่ เดินทางง่าย ใกล้แหล่งของกิน แต่ภายในโครงการก็ต้องไม่วุ่นวายมาก จำนวนยูนิตไม่เยอะ ดีไซน์ของโครงการและบ้านก็ต้องดูโดดเด่น นอกจากนั้นฟังก์ชันภายในบ้านก็ต้องอยู่สบายเช่นกัน เป็นครอบครัวขนาดกลางถึงใหญ่ อยู่กัน 4-6 คน มีงบประมาณ 6-10 ล้านบาท หรือมีกำลังผ่อน 42,000-70,000 บาทต่อเดือน
ทางโครงการจะมีงาน Grand Opening ในวันที่ 5-6 มีนาคม 2565 นี้นะคะ ใครสนใจโครงการนี้ สามารถเข้าไปชมบรรยากาศจริงภายในโครงการกันได้ค่ะ
ThinkofLiving มี LINE Official Account แล้วนะ
ไม่อยากพลาดข้อมูลข่าวสารก็ Add เลย > https://lin.ee/svACOxc