สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) และ อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) โครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว ใกล้ห้างและ MRT จากแสนสิริ

หลายๆคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “Sansiri Community” กันมาบ้างแล้ว อย่างทำเลที่สร้างความฮือฮาได้มากสุดก็คงเป็น กรุงเทพกรีฑา คอมมูนิตี้ บนที่ดินขนาด 500 ไร่ ที่เป็นคอมมูนิตี้การอยู่อาศัยสุดหรูโซนกรุงเทพตะวันออก แต่จริงๆแล้วทางแสนสิริได้พัฒนาโครงการภายใต้แนวคิด Sansiri Community มาทั้งหมด 8 ทำเลด้วยกัน

โดยมีทำเลใหม่ล่าสุดก็คือ เวสต์เกต คอมมูนิตี้  ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้ และเปิดตัวมาแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) และ อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) ที่พรีเซลไปเมื่อ 18 -19 พ.ย. ที่ผ่านมา

แต่ก่อนที่เราจะไปพูดถึง 2 โครงการเปิดใหม่จาก เวสต์เกต คอมมูนิตี้ กัน เราจะมาอธิบายให้เห็นภาพมากขึ้นว่าแนวคิดของ Sansiri Community คืออะไรกันแน่

Sansiri Community เป็นคอมมูนิตี้การอยู่อาศัยของลูกบ้านแสนสิริที่รวมโครงการทาวน์โฮม บ้านแฝดและบ้านเดี่ยวหลากหลายโครงการอยู่บนที่ดินผืนใหญ่ และตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ เดินทางง่าย ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยและบริการหลังการขายตามมาตรฐานจากแสนสิริ ปัจจุบันมีทั้งหมด 8 ทำเลด้วยกัน

ข้อดีที่เราเห็นได้ชัดจากแนวคิดนี้คือการมีพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มขึ้น ได้พื้นที่ใช้งานร่วมกันภายในคอมมูนิตี้ รวมถึงสร้างบรรยากาศร่มรื่น น่าอยู่อาศัย เช่น ทะเลสาบ ซุ้มอุโมงค์ต้นไม้และ Jogging Track เป็นต้น

ทางแสนสิริก็ได้ต่อยอดแนวคิดนี้ พัฒนาที่ดินโซนกรุงเทพตะวันตกเป็น เวสต์เกต คอมมูนิตี้ บนที่ดินขนาดใหญ่กว่า 200 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate), อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) และโครงการอนาคต นั่นเอง

พิกัด Google Maps : 13.893036875032635, 100.3933548369397
หรือสามารถ :  คลิกที่นี่

ทำเลนี้เป็นย่านอยู่อาศัยใหม่ มีโครงการบ้านจัดสรรทยอยมาเปิดตัวกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งเกิดจากการขยายตัวจากสามแยกบางใหญ่ ประกอบกับการเปิดตัวห้างใหญ่อย่าง เซ็นทรัล เวสต์เกต และ IKEA บางใหญ่ ที่ทำให้บริเวณโดยรอบมีความคึกคักสูง

อีกทั้งมีแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงตัดผ่าน ที่เชื่อมไปสายสีน้ำเงิน สายสีชมพู และสายสีน้ำตาลได้ นอกจากนั้นในปัจจุบันกำลังก่อสร้างเส้นมอเตอร์เวย์ บางใหญ่ – กาญจนบุรี (M81) ที่เดินทางผ่านนครปฐมไปสิ้นสุดที่กาญจนบุรี โดยคาดเปิดบริการปี 2567 จากความเติบโตของทำเลที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งการเดินทางและความอุดมสมบูรณ์โดยรอบ จึงทำให้ทางแสนสิริได้พัฒนาเป็น เวสต์เกต คอมมูนิตี้ นั่นเอง

เวสต์เกต คอมมูนิตี้ อยู่ติดเส้นเลียบคลองถนน และ ถนนเลียบคลองบางไผ่  เชื่อมไปถนนกาญจนาภิเษก รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์และชัยพฤกษ์ รวมถึงเดินทางไปได้ทั้งโซนจังหวัดข้างเคียงอย่าง นนทบุรี / ปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ / นครปฐม-ศาลายา / ปทุมธานี และกรุงเทพ นอกจากนั้นยังใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก จึงเหมาะกับคนที่ต้องเข้าเมืองไปทางบางใหญ่-บางแค-พระราม 2 หรือถ้าใครที่ทำงานนอกเมืองโซนปทุมธานี-บางปะอินก็สะดวกเช่นกัน

มีแนวเส้น MRT สายสีม่วง เป็นตัวเลือกในการเดินทาง โดยสถานีที่ใกล้สุดจะเป็นสถานีตลาดบางใหญ่และคลองบางไผ่ค่ะ รวมถึงสถานีคลองบางไผ่ก็มีอาคารจอดแล้วจร ทำให้เราสามารถขับรถออกจากโครงการมาจอดที่อาคารนี้ เพื่อนั่งรถไฟฟ้าไปเรียนหรือทำงานได้สะดวกเหมือนกันนั่นเอง จึงถือเป็นทำเลที่เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าเลย

เวสต์เกต คอมมูนิตี้ เป็นที่ดินขนาดใหญ่อยู่ติดถนน 2 เส้น ได้แก่ ถนนเลียบคลองถนน และ ถนนเลียบคลองบางไผ่ จึงสามารถเดินทางจากเส้นกาญจนาภิเษกมาโครงการได้ทั้ง 2 เส้นทางเลย

นอกจากนั้นยังมีถนนภาระจำยอมผ่านกลางที่ดินผืนนี้ เป็นเหมือนถนนส่วนกลางของโครงการ เพื่อให้โครงการใน เวสต์เกต คอมมูนิตี้ สามารถเข้า-ออกได้ทั้ง 2 ทางเลยนั่นเอง

สภาพแวดล้อมรอบๆ เวสต์เกต คอมมูนิตี้ ส่วนใหญ่จะเป็นที่ดินเปล่าและโครงการบ้านจัดสรรหลายโครงการที่เปิดขายมาหลายปีแล้วค่ะ สำหรับบรรยากาศโดยรอบค่อนข้างเงียบสงบ จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายมากนัก แต่ก็ไม่อยากพักอาศัยอยู่ไกลจากตัวเมืองค่ะ

• ทิศเหนือ ติดกับ เส้นเลียบคลองบางไผ่ คลองบางไผ่และสนามฟุตบอล FIFA Field
• ทิศตะวันออก ติดกับ โรงเรียนกสินธรเซนต์ปีเตอร์และหมู่บ้าน
• ทิศใต้ ติดกับ เส้นเลียบคลองถนน บ่อตกปลาและหมู่บ้าน
• ทิศตะวันตก ติดกับ ที่ดินเปล่าและหมู่บ้าน

การออกแบบและตกแต่งผืนที่ดิน 200 ไร่ จะอยู่ภายใต้แนวคิด The seasonal valley เป็นแนวคิดในการออกแบบให้เวสต์เกต คอมมูนิตี้ ถูกแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาล ได้แก่ Winter Zone, Rainy Zone และ Spring Zone พร้อมประดับตกแต่งต้นไม้ตามฤดูกาล เพื่อให้สัมผัสได้ถึงบรรยากาศร่มรื่น

โดยเริ่มจากเส้นเลียบคลองถนนที่เป็น Winter Zone ใช้พวกต้นสนตกแต่งให้ได้บรรยากาศแบบยุโรป ต่อมาเป็น Rainy Zone ที่เป็นสวนส่วนกลางพร้อมบ่อบัว ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ และโซนสุดท้ายอยู่ติดกับเส้นเลียบคลองบางไผ่ จะเป็น Spring Zone ที่เน้นโทนสีสันสดใส ตกแต่งด้วยต้นไม้และดอกไม้หลากสี รวมถึงมีต้นจามจุรีขนาดใหญ่ที่เติบโตอยู่กับที่ดินนี้มาและทางแสนสิริก็ได้ออกแบบเก็บต้นนี้ไว้เป็นจุดเด่นของสวนในโครงการค่ะ

เวสต์เกต คอมมูนิตี้ จะมี Main Entrance อยู่ตรงเส้นเลียบคลองถนนและเลียบคลองบางไผ่ ในการคัดกรองบุคคลภายนอกไม่ให้เข้ามาภายในโครงการ ส่วนบริเวณด้านหน้าโครงการ สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) และ อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) ก็จะมี Main Gate ของโครงการในการคัดกรองลูกบ้านอีกทีค่ะ

สำหรับส่วนกลางก็จะมีอยู่ภายในโครงการอยู่แล้วทั้งอาคาร Clubhouse และ Main Park แต่ข้อดีของการเป็นคอมมูนิตี้อยู่อาศัยก็คือการมีส่วนกลางที่เพิ่มมานั่นเอง อย่างบริเวณถนนภาระจำยอมที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่เส้นถนนให้รถขับผ่านเฉยๆนะคะ แต่ทางแสนสิริได้ทำเป็นถนนพื้นที่สีเขียวประดับตกแต่งด้วยต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ยาวตลอดเส้นทาง เพื่อบรรยากาศร่มรื่น น่าอยู่อาศัยตลอดเส้นทางเข้า-ออกโครงการ รวมถึงมีสวนส่วนกลางที่ให้ทุกโครงการในคอมมูนิตี้นี้สามารถมาใช้งานร่วมกันได้ด้วยค่ะ

โดยถนนภาระจำยอมมีความกว้าง 18 เมตร และความยาว 1.7 กิโลเมตร ปลูกต้นไม้และมีฟุตบาทตลอดแนว ทำให้สามารถมาเดินเล่น ได้ร่มเงาของต้นไม้ตลอดทาง รวมถึงยังใช้เป็นเส้นทางวิ่งหรือปั่นจักรยานภายในโครงการ มีระยะไป-กลับ 3.4 กิโลเมตร

สำหรับสวนส่วนกลาง มีขนาดประมาณ 2 ไร่ จะประกอบด้วยสวนสาธารณะ, สนามเด็กเล่น, ลานจักรยานขาไถ, Pet Park, บ่อบัว, Backyard สวนผลไม้และที่นั่งพักในสวน โดยจะมีที่จอดรถและที่จอดจักรยานให้ลูกบ้านขับมาจอดไว้ เพื่อใช้งานสวนนี้ค่ะ

วันนี้เราจะพาไปชม สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) และ อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) ที่อยู่ใน เวสต์เกต คอมมูนิตี้ กัน

โดยเราจะเริ่มจาก สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) ที่อยู่ Winter Zone เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Farmhouse ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากยุโรป และต่อด้วย อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) โครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวสไตล์ Mediterranean ที่มีสีสันสดใส ตามแนวคิด Spring Zone ค่ะ

สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566

เราพามาดู สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) ที่เป็นโครงการ 1 ใน เวสต์เกต คอมมูนิติ้ นั่นเอง โดยโครงการนี้จะเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Farmhouse ติดกับถนนเลียบคลองถนน มีที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน ที่มีห้องนอนชั้นล่างในทุกแบบบ้าน ราคาเริ่ม 8-12 ล้านบาท

เราจะมาเริ่มที่ Master Plan ของ สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) กันก่อนเลย โดยตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Farmhouse ตั้งอยู่ติดถนนเลียบคลองถนน มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 194 ยูนิต บนเนื้อที่กว่า 43 ไร่

ส่วนทางเข้า – ออกหลักจะอยู่ติดกับถนนเลียบคลองถนน และต้องขับตามทางเข้ามาประมาณ 280 เมตร ก็จะเจอกับ Main Entrance ที่แบ่งทางเข้า-ออก ทำให้รถเข้า-ออกได้สะดวก พร้อมป้อม รปภ. ประจำ 24 ชม. พร้อมติดตั้ง CCTV ตรงซุ้มประตูและภายในโครงการด้วย

หลังจากนั้นจะต้องขับตรงเข้ามาอีกประมาณ 200 เมตร ซึ่งตามแนวถนนตั้งแต่ขับเข้าโครงการมาก็จะประดับตกแต่งต้นไม้และรูปปั้นต่างๆในธีม Winter Zone ตามแนวคิด The seasonal valley ของ เวสต์เกต คอมมูนิตี้ ค่ะ

จากนั้นเราจะเจอกับวงเวียนต้นไม้และ Main Gate ของ สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) ที่มีรั้วกั้นและ รปภ. รวมถึงระบบ CCTV ติดตั้งคอยดูแลรักษาความปลอดภัยค่ะ และเมื่อเข้ามาด้านในพื้นที่โครงการจะตกแต่งต้นไม้เรียงตามแนวถนนนำสายตาไปสู่อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการได้ดีเลย ซึ่งออกแบบในสไตล์ Modern Farmhouse ด้วยเช่นกัน รวมถึงมี Main Park ที่จะให้บรรยากาศร่มรื่นและสดชื่น

สำหรับการแยกการโซนส่วนกลางและบ้านพักออกจากกัน ทำให้ได้ความสงบและส่วนตัวขึ้น ส่วนทางด้านนิติบุคคลก็ดูแลรักษาได้ง่ายด้วยค่ะ

ตัวบ้านจะหันขนานไปตามทิศเหนือและใต้ ที่เป็นทิศยอดนิยมในการจัดวางบ้านนะคะ เพราะว่าไม่โดนแดดโดยตรงและได้ลมดี ส่วนการจัดวางแบบบ้านจะจัดแบบบ้านหลังใหญ่อยู่แปลงมุม ใกล้ถนน เข้า-ออกบ้านได้สะดวก ส่วนแบบบ้านหลังเริ่มต้นและหลังกลางจะอยู่สลับกัน แต่ส่วนใหญ่แบบบ้านหลังกลางจะอยู่แปลงมุมด้านในสุดของแต่ละซอยค่ะ ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวดีเหมือนกัน

ทางเข้าโครงการ สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) จะอยู่ติดกับถนนเลียบคลองถนน ซึ่งเราจะเห็นป้าย เวสต์เกต คอมมูนิตี้ ได้จากถนนใหญ่เลย เมื่อเลี้ยวเข้ามาแล้ว จะเป็นถนนยาวประมาณ 280 เมตร ที่ประดับตกแต่งด้วยต้นไม้และรูปปั้นกวางตามธีม Winter Zone ค่ะ

จากถนนใหญ่ขับมาตามทางประมาณ 280 เมตร ก็จะเจอกับ Main Entrance ที่เป็นซุ้มประตูทางเข้า-ออกโครงการ ที่ออกแบบเป็นอาคารสูงหลังคาทรงจั่วสีเทาเข้ม ตกแต่งผนังเป็นอิฐสีครีม ได้ฟีลเหมือนบ้านแถบยุโรป และมี รปภ. รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ช่วยคัดกรองลูกบ้านและบุคคลภายนอกค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกมาใช้ถนนภาระจำยอมภายในโครงการนี้เป็นทางลัดเพื่อไปถนนเลียบคลองบางไผ่นั่นเอง

โดยซุ้มประตูจะเป็นรั้วกั้นไม้กระดก พร้อมระบบ RFID (Easy Pass) รวมถึงมีการบันทึกทุกการเข้า-ออก ด้วยระบบ VMS (Visitor Management System) และมีระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ  ส่วนรั้วทึบรอบโครงการสูง 3 เมตร พร้อมเสริมระบบ Digital Fence บางส่วนค่ะ

โครงการยังคงเลือกตกแต่งต้นไม้และรูปปั้นในธีม Winter Zone เรียงยาวตลอดแนวถนนภาระจำยอมจนถึง Main Gate ของ สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) เลยค่ะ

สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) ถูกออกแบบอิงกับ Concept ใหญ่ของ เวสต์เกต คอมมูนิตี้ ที่เป็น The seasonal valley ค่ะ โดยโครงการนี้จะอยู่ฝั่ง Winter Zone จึงออกแบบภายใต้แนวคิด Modern Farmhouse ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านแถบยุโรป โดยใช้หลังคาทรงจั่วและหน้าต่างแบบ Bay Window ที่ทำให้ได้ความสูงโปร่งสบายและช่องหน้าต่างใหญ่ให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่นั่นเอง

Main Gate ของโครงการ ก็ออกแบบตามแนวคิด Modern Farmhouse จะเป็นหลังคาทรงจั่วขนาดใหญ่ สีเทาเข้ม มีการใช้เส้นโค้งเพิ่มลูกเล่นให้ได้ความอ่อนนุ่ม และตกแต่งเป็นผนังอิฐสีครีม

ด้านหน้าโครงการจะมีวงเวียนต้นไม้ที่ไว้ใช้กลับรถได้สะดวก รวมถึงเป็นทางเชื่อมไปพื้นที่โครงการของแสนสิริในอนาคตได้ด้วย

ส่วนระบบเข้า-ออกโครงการจะเป็นรั้วกั้นไม้กระดก พร้อมระบบ RFID (Easy Pass), ระบบ VMS (Visitor Management System) บันทึกการเข้า-ออก, ระบบ CCTV ที่ Main Gate และภายในโครงการ, รั้วทึบรอบโครงการสูง 3 เมตร เสริมระบบ Digital Fence บางส่วน
และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

ถนนหลักของโครงการกว้าง 10-20 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม. สามารถขับรถสวนกันได้สบายๆ เมื่อเราเข้ามาภายในโครงการแล้ว จะเห็นด้านข้างซุ้มประตูทางเข้าจะตกแต่งเป็นซุ้มที่นั่งพักผ่อนและต้นไม้สีเขียวยาวตลอดแนวถนนเลยค่ะ ทำให้ได้บรรยากาศร่มรื่นดีมากเลย เมื่อตรงเข้าไปเรื่อยๆจะเจอกับอาคาร Clubhouse และวงเวียนต้นไม้ไว้ให้กลับรถภายในโครงการค่ะ

อาคาร Clubhouse จะอยู่บริเวณกลางโครงการ ออกแบบในโทนสีขาว-ดำ และเป็นหลังคาทรงจั่ว พร้อมช่องหน้าต่างขนาดใหญ่ โดยทางขึ้น-ลงอาคารจะมีทั้งบันไดและทางลาด สำหรับรถเข็นเด็กและวีลแชร์นั่นเอง ส่วนบริเวณโดยรอบอาคารก็ตกแต่งทั้งสนามหญ้าและต้นไม้เล็ก-ใหญ่ เพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย

ตรงเฉลียงด้านหน้าอาคารจะมีวางชุดโซฟาให้มานั่งเล่นได้ หรือจะเดินเข้ามาภายในอาคารจะเจอกับ Co-Working Space ขนาดใหญ่ที่ออกแบบเป็นพื้นที่ Semi Outdoor มีทั้งแบบชุดโซฟา และโต๊ะยาวพร้อมเก้าอี้ วางต้นไม้ปลอมไว้ตรงกลาง ได้ฟีลเหมือนนั่งคาเฟ่เลยค่ะ ให้ลูกบ้านมานั่งเล่นพูดคุยกันหรือนั่งทำงานในบรรยากาศสบายๆ

เดินจาก Co- Working Space ออกมา จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 6 x 20 เมตร ความลึก 1.20 เมตร และแบ่งเป็นสระเด็ก ความลึก 0.50 เมตร ที่จะมีน้ำพุยิงมาที่สระเด็ก ให้เด็กได้เล่นกัน พร้อม Island Terrace ที่นั่งริมสระว่ายน้ำค่ะ ซึ่งสระว่ายน้ำนี้จะเป็นสระกลางแจ้ง ที่อาจจะร้อนหน่อยตอนกลางวัน แต่พอตกเย็นก็สามารถว่ายน้ำได้จริงจังเลยค่ะ

นอกจากนั้นด้านข้างสระว่ายน้ำจะเป็น Seating Valley สวนสีเขียวพร้อมที่นั่งพักผ่อนอีกจุด สำหรับใครที่ชอบพื้นที่นั่งเล่นแบบ Outdoor ในบรรยากาศที่เป็นกันเองมากกว่า

บริเวณด้านข้างสระว่ายน้ำก็มีพื้นที่อาบน้ำล้างตัวสำหรับก่อน-หลังว่ายน้ำ, ห้องน้ำแบ่งฝั่งชาย – หญิง ที่มีล็อกเกอร์และห้องอาบน้ำภายในห้อง รวมถึงห้องน้ำออกแบบตามหลัก Universal design ที่ติดตั้งราวจับไว้ให้ด้วยค่ะ

เราพามาดูชั้น 2 กัน จะเป็น Fitness ที่ออกแบบตัวห้องเป็นหลังคาจั่ว ประกอบกับผนังกระจกที่มองออกไปได้วิวสระว่ายน้ำด้านล่าง ก็ทำให้ได้บรรยากาศโปร่งโล่ง ส่วนอุปกรณ์ออกกำลังกายก็ให้มาอย่างครบครันทั้ง Weight Training และ Cardio

นอกจากนั้นภายในโครงการมี Main Park สวนสีเขียวขนาด 1-1-99.23 ไร่ บริเวณกลางโครงการ ออกแบบในแนวคิด Mountainous Region ที่ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ

โดยจะแบ่งพื้นที่และเรียงจากโซน Summit ที่อยู่ใกล้กับ Clubhouse จะเป็น Summit Pavilion ศาลานั่งพักผ่อน, Slope/Gracier มีเส้นทาง Jogging Trail ให้มาวิ่งออกกำลังกาย, Valley/Forest ที่มี Pine Forest Playground พร้อมเครื่องเล่นเด็ก และ Grassland/Village มีโซน Open Fitness เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง และ Sansiri Backyard สำหรับปลูกพืชผักสวนครัว นอกจากนั้นจะมีมุมนั่งพักผ่อนในสวนแทรกตัวอยู่ในมุมต่างๆค่ะ

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
• Co-Working Space
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 6 x 20 เมตร ความลึก 1.20 เมตร
• แบ่งสระเด็ก ความลึก 0.50 เมตร
• Island Terrace ที่นั่งริมสระว่ายน้ำ
• Seating Valley
• Fitness
• Main Park ขนาด 1-1-99.23 ไร่ บริเวณกลางโครงการ ประกอบด้วย
• Summit Pavilion
• Pine Forest Playground พร้อมเครื่องเล่นเด็ก
  Jogging Trail
• Open Fitness เครื่องออกกำลังกายกลางแจ้ง
• Sansiri Backyard
• ถนนหลักกว้าง 10-20 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.

แบบบ้าน

สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern Farmhouse ในโทนสีขาว-เทา มีเอกลักษณ์ตรงหลังคาทรงจั่ว ทำให้ห้อง Master Bedroom ได้ฝ้าเพดานสูง 4.2-4.5 เมตร และเป็นบ้านที่มีช่องแสงขนาดใหญ่ รวมถึงมีหน้าต่างแบบ Bay Window ด้วย สำหรับรูปแบบบ้านในโครงการมีอยู่ 3 แบบบ้าน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• ASTER (แอสเทอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 184 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8.2 ล้านบาท
• LILAC (ไลแลค)  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8.6 ล้านบาท
• MUGUET (มูเกต์)  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท

จุดเด่นหลักๆของทุกแบบบ้าน คือ ห้องนอนชั้นล่าง ทำเป็นห้องผู้สูงอายุหรือห้องทำงานได้ ส่วนตรงชานพักบันไดก็มีพื้นที่ทำมุมนั่งเล่น และพื้นที่ว่างชั้น 2 ก็จัดเป็นมุมทำงานได้อีกมุมด้วย นอกจากนั้น Master Bedroom มีฝ้าเพดานสูงตามทรงจั่วของหลังคา ได้ความโปร่งโล่ง และมี Bay Window มุมนั่งเล่นติดหน้าต่าง

นอกจากนั้นแบบบ้านแต่ละแบบก็มีความแตกต่างกัน อย่างแบบบ้านเริ่มต้น ASTER จะมีประตูทางเข้าทางเดียว, มีมุม Pantry, แบ่งฝั่งส่วน Service ห้องน้ำใกล้ห้องครัว, ห้องเก็บของใต้บันไดเปิดจากด้านนอก และ Master Bedroom มีระเบียงขนาดใหญ่

ส่วนแบบบ้าน LILAC จะมีประตูทางเข้า 2 ทาง, ตู้เก็บของบริเวณที่จอดรถ, ห้องนอนชั้นล่างมีห้องน้ำในตัว, ห้องเก็บของใต้บันไดเปิดจากในครัว, Master Bedroom ขนาดใหญ่ มีระเบียงส่วนตัว

สำหรับแบบบ้านหลังใหญ่สุด MUGUET จะมีแปลนคล้ายกับ LILAC จะมีส่วนที่แตกต่างตรงห้องนอนชั้นล่าง ที่มีหน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสงได้เต็มที่, ห้องนอนชั้น 2 มีห้องน้ำในตัว และระเบียงตรง Master Bedroom ที่เปลี่ยนเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ค่ะ

ซึ่งเราได้เก็บภาพบรรยากาศของทั้ง 3 แบบบ้านมาให้ชมกัน แต่วันนี้เราจะไปเจาะลึกกันที่แบบบ้าน LILAC นะคะ

วัสดุในบ้าน

• โครงสร้างบ้านแบบ Precast
• พื้นชั้น 1 เป็น SPC ลายไม้
• พื้นห้องครัวและห้องน้ำ เป็น กระเบื้องแกรนิตโต้
• พื้นชั้น 2 เป็นลามิเนต
• พื้นระเบียง เป็น กระเบื้องแกรนิตโต้
• โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิววัสดุด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน
• พื้นที่จอดรถ Slab on Beam เสาเข็มเท่าตัวบ้านใช้เป็นโครงสร้างบ้าน
• Breeze Panel ตรงบานหน้าต่าง
• ก่อเคาน์เตอร์ครัว Top ด้วย หินแกรนิตดำ มีช่องเก็บของด้านล่างพร้อมหน้าบาน
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก COTTO ทั้งหมด
• จัดสวนตามมาตรฐานโครงการ ปูสนามหญ้า ไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น

LILAC เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. มีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ซึ่งเป็นแบบบ้านที่มีจำนวนเยอะที่สุดในโครงการค่ะ ตัวบ้านออกแบบในโทนสีขาวตัดด้วยสีเทา โดดเด่นด้วยหลังคาทรงจั่ว ทำให้ได้ความรู้สึกคุ้นชินตาดี รวมถึงมีระเบียงส่วนตัวที่ Master Bedroom

โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Precast เป็นผนังที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักแทนเสา พร้อมลงเสาเข็ม โดยพื้นที่จอดรถเป็น Slab on Beam เสาเข็มเท่าตัวบ้านใช้เป็นโครงสร้างบ้าน ส่วนผนังบ้านเป็นผิวฉาบเรียบทาสี ซึ่งโครงสร้างบ้านแบบ Precast จะมีข้อจำกัดในการทุบหรือต่อเติมผนัง ดังนั้นใครที่อยากจะปรับเปลี่ยนผนังบ้าน จะต้องปรึกษากับทางวิศวกรก่อนนะคะ

ชั้น 1

• ที่จอดรถ 2 คันในร่ม พร้อมตู้เก็บของ
• มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
• โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีซุ้มชายคากันแดดและฝน เป็นพื้นที่วางร่มสะดวก
• Foyer โถงต้อนรับ วางชั้นรองเท้าและเก้าอี้ได้
• พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร
• ประตูด้านข้างและด้านหลังบ้าน เปิดออกไปพื้นที่รอบบ้านได้
• ห้องครัวแบบปิด มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้ และมีมุมตั้งเครื่องซักผ้าได้
• ห้องเก็บของใต้บันได เปิดได้จากในห้องครัว
• ลานซักล้าง ใช้สำหรับตากผ้า
• ห้องน้ำชั้น 1 มีพื้นที่อาบน้ำ ทำให้รองรับการใช้งานพร้อมกันได้
• ห้องนอนชั้นล่าง ทำเป็นห้องผู้สูงอายุหรือห้องทำงานได้
• ชานพักบันได มีพื้นที่ทำมุมนั่งเล่นได้

ชั้น 2

• พื้นที่ว่างชั้น 2 ตรงข้างบันได ทำเป็นมุมนั่งทำงานได้
• Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อม Walk – in Closet, ห้องน้ำ และระเบียงส่วนตัว
• มีหน้าต่างแบบ Bay Window ตรง Master Bedroom
• ห้องนอนรองสามารถวางเตียง 3.5 ฟุต และ 5 ฟุตได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าด้านข้าง
• ห้องน้ำใช้ร่วมกันสำหรับห้องนอนรอง

เริ่มจากบริเวณหน้าบ้านจะมีที่จอดรถในร่มได้ 2 คัน พร้อมตู้เก็บของสำหรับอุปกรณ์รถยนต์หรือทำสวนค่ะ

บริเวณประตูทางเข้าบ้านจะมีหลังคาเป็นซุ้มโถงทางเข้าที่กันแดดกันฝน ออกแบบเชื่อมต่อมาจากหลังคาที่จอดรถ ทำให้แสงแดดไม่ส่องเข้าบ้านตรงๆค่ะ รวมถึงตั้งชั้นวางรองเท้าและที่เก็บร่มได้ด้วย

เมื่อเข้ามาภายในตัวบ้าน จะเป็น Foyer พื้นที่ต้อนรับ ที่เราสามารถทำ Built – in ตู้รองเท้า เต็มผนังได้เหมือนบ้านตัวอย่างเลย รวมถึงตั้งชั้นวางของอย่างพวกกุญแจ บัตรหรือหมวกได้ หรือจะตั้งเป็นที่นั่งใส่รองเท้า พร้อมติดกระจกเงาไว้ส่องเช็กความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านก็ได้เหมือนกัน

ด้านข้าง Foyer จะมีทางเดินไปห้องน้ำที่มีแบ่งพื้นที่เปียกและแห้ง พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์จาก COTTO ทั้งหมด รวมถึงมีพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกันได้ด้วยค่ะ และถัดจากห้องน้ำจะเป็นห้องนอนชั้นล่างค่ะ

สำหรับห้องนอนชั้นล่าง ก็สามารถทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ เพราะว่าอยู่ใกล้กับห้องน้ำเลย หรือจะตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างที่ทำเป็นห้องนั่งเล่นอีกห้องเลย จะใช้เป็นห้องสำหรับรองรับแขก หรือเป็นห้องนั่งเล่นภายในครอบครัวก็ได้ นอกจากนั้นครอบครัวที่ไม่ได้มีสมาชิกในบ้านเยอะ ก็ใช้ห้องนี้เป็นห้องทำงานได้เหมือนกันนะคะ

สำหรับพื้นชั้น 1 จะปูเป็น SPC ลายไม้ ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและความชื้น จึงเลี้ยงน้องสุนัขหรือแมวได้โดยไม่ต้องกังวลรอยต่างๆค่ะ ส่วนผนังฉาบเรียบทาสีขาว ทำให้บ้านดูสว่าง และความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร ติดตั้งไฟแบบดาวน์ไลท์

พอผ่าน Foyer เข้าไปจะเจอกับพื้นที่ Open Plan ออกแบบพื้นที่นั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร เชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่รองด้านที่นอกจากจะทำให้ได้แสงธรรมชาติและวิวสวนรอบบ้านแล้ว ยังได้ความโปร่งโล่งของตัวบ้านด้วย

พื้นที่นั่งเล่น สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่ง โต๊ะกลางและตั้งชั้นวางทีวีได้สบายๆ เดินผ่านเข้า-ออกได้สะดวก นอกจากนั้นจะตั้งเป็นโซฟาด้านข้างเพิ่มอีกก็ได้เหมือนกันค่ะ ส่วนชั้นวางทีวี เราว่าทำ Built – in เต็มผนังไปเลยดีกว่า จะได้มีตู้เก็บของเพิ่มด้วย ช่วยเพิ่มความเรียบร้อยภายในบ้านค่ะ เพราะว่าพอเราอยู่ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะมีของใช้เพิ่มมากขึ้น ส่วนด้านข้างก็มีประตูกระจกเปิดออกไปพื้นที่ด้านข้างบ้านได้

ทางโครงการจัดส่วนรับประทานอาหาร เป็นโต๊ะพร้อมเก้าอี้ 4 ที่นั่ง แต่ก็ยังมีพื้นที่รอบโต๊ะเหลืออีกเยอะเลย เราคิดว่าตั้งเป็นโต๊ะ 6 ที่นั่งไปเลย เผื่อสำหรับรองรับแขก พาเพื่อนมารับประทานอาหารที่บ้านได้ด้วย ส่วนด้านข้างที่ติดกรอบรูปอยู่ ก็หาชั้นวางที่ไม่กว้างมากนักมาตั้ง ก็ได้พื้นที่เก็บของหรือวางของตกแต่งเพิ่มขึ้นด้วย และมีประตูกระจกเปิดออกไปทางหลังบ้านได้ด้วย

ห้องครัวจะเชื่อมต่อกับส่วนรับประทานอาหาร ทำให้สามารถจัดเสิร์ฟและเก็บจานอาหารได้ง่ายค่ะ ส่วนข้างๆห้องครัวจะเป็นบันไดขึ้นไปชั้น 2 ค่ะ

ห้องครัวออกแบบเป็นครัวปิด ป้องกันกลิ่นและควันลอยเข้าไปติดเฟอร์นิเจอร์ภายในตัวบ้านได้ค่ะ โดยทางโครงการมีก่อเคาน์เตอร์ครัว Top ด้วยหินแกรนิตดำ มีช่องเก็บของด้านล่างพร้อมหน้าบานมาให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนพื้นที่ว่างด้านข้างอีกฝั่งก็ตั้งเครื่องซักผ้าและตู้เย็น

นอกจากนั้นจะมีห้องเก็บของใต้บันไดที่เปิดได้จากในห้องครัวด้วย ซึ่งภายในห้องก็มีขนาดใหญ่ ที่สามารถเดินเข้าไปได้เลย ส่วนประตูด้านข้างห้องครัวจะเปิดออกไปลานซักล้างด้านข้างบ้านค่ะ

โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิววัสดุด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน โดยตรงชานพักบันไดออกแบบเป็นพื้นที่ว่าง ขนาดประมาณ 1.40 x 1.65 เมตร ตั้งกระถางต้นไม้หรือพวกของตกแต่งได้ หรือจะทำเป็นมุมนั่งเล่น อ่านหนังสือเหมือนทางบ้านตัวอย่างตกแต่งได้เลย

ส่วนด้านข้างก็มีกระจกทั้ง 2 ด้าน พร้อมช่อง Breeze Panel ช่วยหมุนเวียนอากาศภายในบ้าน พอเรามองไปเห็นพื้นที่หลังบ้านด้วย หากเราทำปลูกต้นไม้ ทำเป็นสวนหลังบ้าน ก็จะได้วิวสวนสวยๆของเราด้วยค่ะ

พอเราขึ้นมาชั้น 2 จะเจอกับพื้นที่ว่างข้างบันได ขนาดประมาณ 1.65 x 2.35 เมตร ที่ทำเป็นมุมนั่งทำงานหรือมุมนั่งเล่นได้เหมือนกันค่ะ ก็จะได้บรรยากาศเป็นกันเองมากขึ้นด้วย

สำหรับชั้น 2 จะปูพื้นเป็นไม้ลามิเนต ได้ความต่อเนื่องลายไม้จากพื้นชั้น 1 มาบันไดและพื้นชั้น 2 ค่ะ ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.80 เมตร แต่สำหรับ Master Bedroom จะเป็นเพดานที่มีทรงจั่วเหมือนหลังคาบ้านจึงมีความสูงประมาณ 4.20-4.50 เมตร

พอเราเดินเข้ามาจะเป็นพื้นที่ห้องนอน 3 ห้อง โดย Master Bedroom จะวางเป็นแนวยาว อยู่ทางหน้าบ้าน โดยมีพื้นที่บริเวณเตียงนอน มีขนาด 4.00 x 4.30 เมตร วางเตียง 6 ฟุตได้สบายๆ พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง และชั้นวางทีวี ส่วนฝ้าเพดานจะสูงเป็นทรงจั่วตามหลังคา ทำให้ได้ความโปร่งสบายภายในห้องดีเลยค่ะ

หน้าต่างแบบ Bay Window จะอยู่ด้านข้าง หันไปทางหน้าบ้าน ทำให้ได้มุมนั่งเล่นภายในห้อง รวมถึงได้ช่องแสงขนาดใหญ่ ส่วนประตูกระจกด้านข้างหัวเตียงเปิดออกไปเป็นระเบียงส่วนตัว ขนาด 2.30 x 3.25 เมตร ที่ตั้งโต๊ะและเก้าอี้ทำเป็นมุมนั่นเล่น Semi Outdoor ได้จริงจังเลยค่ะ รวมถึงจะตั้งกระถางต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ตัวบ้านก็ได้เหมือนกัน

ต่อมาเราจะพาไป Walk – in Closet และห้องน้ำ ที่อยู่ฝั่งเดียวกันชั้นวางทีวีค่ะ ออกแบบมีประตูกั้นปิดตรงส่วน Walk – in Closet กับเตียงนอน ไม่ให้มีพวกฝุ่นจากเสื้อผ้าและความชื้นจากห้องน้ำไปบริเวณที่เรานอนนั่นเอง โดยเราทำ Built – in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้าได้เหมือนทางบ้านตัวอย่างเลยค่ะ ส่วนด้านในสุดจะเป็นห้องน้ำ ที่ออกแบบเหมือนห้องน้ำอื่นๆ และเลือกใช้สุขภัณฑ์จาก COTTO ทั้งหมด ติดกระจกเงาบานใหญ่ ส่องกระจกได้สะดวก

ห้องนอนรอง 2 จะอยู่ทางด้านหลังบ้าน ติดกับห้องน้ำใช้งานร่วมกัน โดยตัวห้องมีขนาด 3.00  x 5.10 เมตร พอเข้ามาจะเป็นพื้นที่สำหรับแต่งตัวและโต๊ะนั่งอ่านหนังสือ มีช่องแสงจากด้านข้างและด้านหลังบ้าน

นอกจากนั้นทางโครงการได้ก่อกำแพงเล็กๆกั้นพื้นที่แต่งตัวและเตียงนอนไว้ด้วย ถ้าใครอยากได้ความเป็นสัดส่วนก็สามารถกั้นเป็นประตูได้ หรือติดเป็นผ้าม่านง่ายๆได้เลย เวลาตอนนอนค่อยปิดผ้าม่าน แต่เวลากลางวันก็เปิดไว้ได้ความโปร่งของพื้นที่ดีเลย สำหรับเตียงนอนก็วางได้ทั้ง 3.5 – 5 ฟุตเลย หากเราวางเตียง 3.5 ฟุต ก็จะได้พื้นที่รอบเตียงเพิ่มขึ้น วางชั้นวางของสะสมหรือตู้เก็บของเพิ่มได้นั่นเอง

ห้องนอนรอง3 จะอยู่ทางด้านหน้าบ้าน จะมีขนาด 3.25 x 4.10 เมตร มีขนาดเล็กกว่าห้องนอนรอง 2 จึงเหมาะวางเตียง 3.5 ฟุต มีพื้นที่ด้านข้างวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอ่านหนังสือได้ ส่วนทางบ้านตัวอย่างทำเป็นห้องนอนเด็กเล็ก ทำเป็น Built – in เตียงนอน และที่นั่งแบบ Bay Window ให้เป็นไอเดียไปปรับใช้กันค่ะ

ห้องน้ำใช้งานร่วมกันของห้องนอนรอง จะอยู่ทางด้านหลังบ้าน ติดกับห้องนอนรอง 2 เลย ส่วนการออกแบบและเลือกใช้สุขภัณฑ์ก็เหมือนกับห้องน้ำห้องอื่นๆเลยค่ะ

นอกจากนั้นทางโครงการได้ตกแต่งพื้นที่สวนหลังบ้านมาให้เป็นไอเดียนำไปปรับใช้กันได้ด้วยค่ะ

ASTERต่อมาเราพามาดูแบบบ้านเริ่มต้นของโครงการ ได้แก่ ASTER บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 184 ตร.ม. มีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ สำหรับฟังก์ชันมีจำนวนเท่ากับแบบบ้าน LILAC เลย แต่มีการจัดวางแปลนและการใช้งานบางอย่างที่แตกต่างกันนั่นเอง

อย่างประตูทางเข้าที่มีทางเดียว, มีมุม Pantry, แบ่งฝั่งส่วน Service ห้องน้ำใกล้ห้องครัว, ห้องเก็บของใต้บันไดเปิดจากด้านนอก และ Master Bedroom มีระเบียงขนาดใหญ่ค่ะ

ชั้น 1

• ที่จอดรถ 2 คันในร่ม
• มีประตูทางเข้าหลักทางเดียว
• เฉลียงหน้าบ้านเป็นแนวยาว วางเก้าอี้และที่เก็บร่มได้
• โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีซุ้มชายคากันแดดและฝน
• Foyer โถงต้อนรับ วางชั้นรองเท้าและเก้าอี้ได้
• พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร
• ประตูด้านข้างและด้านหลังบ้าน เปิดออกไปพื้นที่รอบบ้านได้
• มุม Pantry สำหรับเตรียมอาหารง่ายๆได้
• ห้องครัวแบบปิด มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้ และมีมุมตั้งเครื่องซักผ้าได้
• ลานซักล้าง สำหรับตากเสื้อผ้า
• ห้องเก็บของใต้บันได เปิดจากด้านนอกบ้าน
• ห้องน้ำชั้น 1 มีพื้นที่อาบน้ำ ทำให้รองรับการใช้งานพร้อมกันได้
• ห้องนอนชั้นล่าง เหมาะทำเป็นห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นอีกห้อง
• ชานพักบันได มีพื้นที่ทำมุมนั่งเล่นได้

ชั้น 2

• พื้นที่ว่างชั้น 2 ตรงข้างบันได ทำเป็นมุมนั่งทำงานได้
• Master Bedroom พร้อม Walk – in Closet, ห้องน้ำ และระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่
• มีหน้าต่างแบบ Bay Window ตรง Master Bedroom
• ห้องนอนรองสามารถวางเตียง 3.5 ฟุต มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าด้านข้าง
• ห้องน้ำใช้ร่วมกันสำหรับห้องนอนรอง

ภาพบรรยากาศแบบบ้าน ASTER ชั้น 1

ภาพบรรยากาศแบบบ้าน ASTER ชั้น 2

แบบบ้านสุดท้ายและเป็นบ้านหลังใหญ่สุดของโครงการก็คือ MUGUET บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม. มีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ

ซึ่งแตกต่างกับ 2 แบบบ้านก่อนหน้านี้ที่ห้องนอนชั้น 2 จะมีห้องน้ำในตัวทุกห้องนั่นเอง ส่วนหน้าตาบ้านและการจัดวางแปลนค่อนข้างคล้ายกับ LILAC เลย จะมีจุดแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือ LILAC จะมีระเบียง แต่ MUGUET จะกั้นเป็นกำแพงปิด และเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ภายใน Master Bedroom นั่นเอง

ชั้น 1

• ที่จอดรถ 2 คันในร่ม พร้อมตู้เก็บของ
• มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
• โถงทางเข้าด้านหน้าบ้านมีซุ้มชายคากันแดดและฝน เป็นพื้นที่วางร่มสะดวก
• Foyer โถงต้อนรับ วางชั้นรองเท้าและเก้าอี้ได้
• พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร
• ประตูด้านข้างและด้านหลังบ้าน เปิดออกไปพื้นที่รอบบ้านได้
• ห้องครัวแบบปิด มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้ และมีมุมตั้งเครื่องซักผ้าได้
• ห้องเก็บของใต้บันได เปิดได้จากในห้องครัว
• ลานซักล้าง ด้านข้างบ้าน สำหรับตากเสื้อผ้า
• ห้องน้ำชั้น 1 มีพื้นที่อาบน้ำ ทำให้รองรับการใช้งานพร้อมกันได้
• ห้องนอนชั้นล่าง มีหน้าต่างบานใหญ่ รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่
• ชานพักบันได มีพื้นที่ทำมุมนั่งเล่นได้

ชั้น 2

• พื้นที่ว่างชั้น 2 ตรงข้างบันได ทำเป็นมุมนั่งทำงานได้
• ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัว
• Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อม Walk – in Closet, ห้องน้ำ และพื้นที่อเนกประสงค์
• มีหน้าต่างแบบ Bay Window ตรง Master Bedroom
• พื้นที่อเนกประสงค์ภายใน Master Bedroom ทำเป็นมุมนั่งเล่นได้
• ห้องนอนรองสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าด้านข้าง และมีห้องน้ำในตัว

ภาพบรรยากาศแบบบ้าน MUGUET ชั้น 1

ภาพบรรยากาศแบบบ้าน MUGUET ชั้น 2

ราคา

สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566

• ASTER (แอสเทอร์) บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 184 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8.2 ล้านบาท
• LILAC (ไลแลค)  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8.6 ล้านบาท
• MUGUET (มูเกต์)  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 205 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท
• ค่าจอง 30,000 บาท
• ค่าทำสัญญา 100,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง : 42 + 5 (บริเวณสวนส่วนกลางตรงถนนภาระจำลอง) บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

ต่อมาเราพาไปดูโครงการที่ 2 ของ เวสต์เกต คอมมูนิตี้ กัน ได้แก่ อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) ที่จะอยู่ติดกับถนนเลียบคลองบางไผ่นั่นเอง แต่เราก็สามารถเข้ามาทางถนนเลียบคลองถนน ผ่านโครงการ สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) เพื่อมายังโครงการได้เหมือนกันค่ะ

อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566

อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) เป็นบ้านแฝดและบ้านเดี่ยวสไตล์ Mediterranean ที่มีสีสันสดใส ตามแนวคิด Spring Zone ค่ะ ติดกับถนนเลียบคลองบางไผ่ ที่มีพื้นที่ใช้สอย 149 – 184 ตร.ม. รองรับ 4 ห้องนอน ในราคาเริ่ม 6-8 ล้านบาท

ทางเข้า – ออกหลักจะอยู่ติดกับถนนเลียบคลองบางไผ่ เรามองเห็น Main Entrance ได้ชัดเจนจากถนนเลยค่ะ โดยจะออกแบบแบ่งทางเข้า-ออก รถขับเข้า-ออกได้สะดวก พร้อมป้อม รปภ. ประจำ 24 ชม. และติดตั้ง CCTV ตรงซุ้มประตูและภายในโครงการด้วย

บริเวณแนวถนนตั้งแต่ Main Entrance เข้ามาก็จะประดับตกแต่งต้นไม้และรูปปั้นต่างๆในธีม Spring Zone ตามแนวคิด The seasonal valley ของ เวสต์เกต คอมมูนิตี้ เช่นกันค่ะ

พอเราขับตรงมาอีกประมาณ 200 เมตร ก็จะเจอวงเวียนต้นไม้ที่มีดอกไม้สีสันสดใสและรูปปั้นแมลงปอ รวมถึง Main Gate ของ อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) ที่มีทั้งรั้วกั้น, ป้อม รปภ. และระบบ CCTV

เมื่อเข้ามาด้านในโครงการก็ตกแต่งต้นไม้เรียงตามแนวถนนนำสายตาไปสู่อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการเหมือนกัน โดยจะเห็นเป็น Main Park ขนาดใหญ่ด้านหน้าอาคาร Clubhouse นั่นเอง

ตัวบ้านก็จะหันขนานไปตามทิศเหนือและใต้ ที่ไม่โดนแดดโดยตรงและได้ลมดี ส่วนการจัดวางแบบบ้านของโครงการ จะจัดบ้านหลังใหญ่อยู่แปลงมุม ใกล้ถนน ทำให้เข้า-ออกบ้านได้สะดวกและใช้ส่วนกลางได้ง่าย ส่วนแบบบ้านหลังกลางจะอยู่ถัดจากบ้านหลังใหญ่ และแบบบ้านแฝดที่เป็นแบบบ้านเริ่มต้นจะอยู่ด้านในสุดของซอย ทำให้มีบ้านแฝดที่เป็นแปลงมุมด้วยค่ะ

อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) จะอยู่ติดถนนเลียบคลองบางไผ่เลย และมองเห็น Main Entrance ได้ชัดเจนจากถนนเลยค่ะ ซึ่งโครงการนี้ออกแบบอิงกับ Concept ใหญ่ของ เวสต์เกต คอมมูนิตี้ ที่เป็น The seasonal valley เหมือนกัน โดยโครงการจะอยู่ฝั่ง Spring Zone ที่เป็นฤดูใบไม้ผลิ จะเน้นใช้สีสันสดใสและเส้นโค้งให้ความอ่อนนุ่ม อย่างตัว Main Entrance ที่ออกแบบเหมือนกลีบดอกไม้ค่ะ

ส่วนด้านหน้าโครงการก็เลือกประดับตกแต่งต้นไม้เป็นไม้ดอกที่มีสีสันสดใส พร้อมรูปปั้นและที่นั่งพักผ่อน จะได้ความรู้สึกแตกต่างกับ สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) เลย ที่จะให้บรรยากาศเรียบๆ แบบยุโรป

เมื่อขับเข้ามาเรื่อยๆ จะเจอกับ Main Gate ของ อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด Mediterranean ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากบ้านพักตากอากาศริมทะเลในแถบอิตาลี สเปนและฝรั่งเศส เน้นตัวอาคารโทนสีขาว-ครีม และออกแบบมีแนวคานไม้ใต้หลังคา ทำให้ซุ้มประตูมีรายละเอียดมากขึ้น รวมถึงมีประภาคารจำลองด้วย

บริเวณด้านหน้าซุ้มประตูมีวงเวียนตกแต่งด้วยต้นไม้สีเขียวและไม้ดอกหลากสี รวมถึงรูปปั้นแมลงปอด้วยค่ะ ทำให้ได้บรรยากาศความสดใสตั้งแต่ก่อนเข้าโครงการเลย รวมถึงเป็นจุดกลับรถขับไปโครงการอื่นๆของแสนสิริได้ด้วย

วงเวียนต้นไม้จะอยู่ติดกับสนามหญ้าขนาด 1-1-74.84 ไร่ ที่เดินไปถึงอาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการได้เลย แต่เดี๋ยวเราพาเดินดูด้านนอกกันก่อนเข้าไปในอาคาร Clubhouse กันค่ะ

เมื่อเราเดินไปทางด้านซ้ายจะเป็น Amphitheatre ที่นั่งพักแบบขั้นบันได, สนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่น, Lighthouse ประภาคารจำลอง และน้ำพุพร้อมที่นั่งพักผ่อน นอกจากนั้นตรงบริเวณนี้มีต้นจามจุรีขนาดใหญ่ เป็นต้นไม้ดั้งเดิมของพื้นที่นี้ที่ทางโครงการได้รักษาเก็บไว้ และใช้เป็นพื้นที่ปีนป่ายและมุดลอดต้นไม้สำหรับเด็กๆนั่นเอง

อาคาร Clubhouse ออกแบบในโทนสีขาว-ครีม  มีการใช้ซุ้มโค้งและเหลี่ยม รวมถึงการกรุกระเบื้องลายต่างๆ เพิ่มลูกเล่นให้ตัวอาคาร Clubhouse และตัดสีตัวอาคารด้วยหลังคาทรงจั่วสีแดงเข้ม

ทางเข้า-ออกอาคารจะมีทั้งบันไดและทางลาด รองรับรถเข็นเด็กและวีลแชร์ ทำให้ทุกคนในครอบครัวทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ก็สามารถมาใช้งานส่วนกลางร่วมกันได้ เมื่อเข้ามาภายในอาคารจะเป็น Lobby พื้นที่นั่งพักผ่อนแบบ Semi Outdoor ที่มีเก้าอี้นั่งหลากหลาย ส่วนด้านหลังของ Lobby จะเป็น Kid’s Room พร้อมเครื่องเล่นให้เด็กๆมาเล่นด้วยกัน ส่วนด้านหลังอาคาร Clubhouse จะมี Sansiri Backyard พื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัวค่ะ

ด้านข้าง Lobby เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 6.75 x 23 เมตร ความลึก 1.20 เมตร ที่แบ่งเป็นสระเด็ก ขนาด 10 x 5 เมตร ความลึก 0.50 เมตร ซึ่งเป็นสระกลางแจ้ง สามารถมาว่ายน้ำได้ตลอดทั้งวัน

พื้นที่ด้านข้างสระว่ายน้ำก็มีที่นั่งให้พ่อแม่มาเฝ้าดูแลลูกๆ รวมทั้งวางกระเป๋าต่างๆตอนมาว่ายน้ำได้ด้วย ส่วนห้องน้ำก็มีแบ่งฝั่งชาย-หญิง และห้องน้ำออกแบบตามหลัก Universal Design รวมถึงมีพื้นที่อาบน้ำล้างตัวก่อน-หลังว่ายน้ำค่ะ

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 จะเป็น Co-Working Space พื้นที่นั่งพักผ่อน ส่วนฝ้าเพดานเป็นทรงจั่วเหมือนหลังคาอาคาร ทำให้ได้ความโปร่งโล่งของพื้นที่ ส่วน Fitness จะอยู่ด้านหน้าอาคาร มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ ภายใน Fitness จะมีอุปกรณ์ออกกำลังกายแบบ Weight Training และ Cardio ครบครัน

สรุปสิ่งอำนวยความสะดวก

• อาคาร Clubhouse บริเวณกลางโครงการประกอบไปด้วย
• Lobby
• Kid’s Room
• สระว่ายน้ำ 1 สระ ระบบเกลือ / สระผู้ใหญ่ ขนาด 6.75 x 23 เมตร ความลึก 1.20 เมตร
• แบ่งสระเด็ก ขนาด 10 x 5 เมตร ความลึก 0.50 เมตร
• Co-Working Space
• Fitness
• Main Park ขนาด 1-1-74.84 ไร่ บริเวณกลางโครงการ ประกอบด้วย
• สนามหญ้า
• Amphitheatre
• Lighthouse
• Playground พร้อมเครื่องเล่น
• Sansiri Backyard
• ถนนหลักกว้าง 10-18.5 ม. และถนนภายในกว้าง 9 ม.

แบบบ้าน

อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) เป็นโครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Mediterranean โดยตัวบ้านเป็นสีขาวและตัดด้วยสีจากท้องฟ้าและน้ำทะเลอย่างสีน้ำเงินและเขียว  ยังคงใช้ซุ้มโค้งและเหลี่ยมเพิ่มลูกเล่นให้ตัวอาคารด้วย โดยทุกแบบบ้านจะมีห้องนอนชั้นล่าง ส่วนรูปแบบบ้านในโครงการมีอยู่ 3 แบบบ้าน โดยมีรายละเอียด ดังนี้

• GAETA (กาเอต้า) บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• LECCE (เลชเช่)  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
• SICILY (ซิซิเลีย)  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 187 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องพักผ่อนชั้นบน / 2 ที่จอดรถ

แบบบ้านของ GAETA และ LECCE จะมีการจัดวางฟังก์ชันคล้ายกัน โดย GAETA จะเป็นบ้านแฝดมีพื้นที่ Common Area จะวางเป็นแนวยาว มีห้องนอนชั้นล่าง และมีห้องครัวแบบปิด ส่วนชั้น 2 จะแยก Master Bedroom อยู่ฝั่งเดียว ไม่มีผนังติดกับห้องอื่น จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูง และห้องนอนรอง 2 มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่

LECCE จะเป็นบ้านเดี่ยวที่มีความแตกต่าง GAETA คือ มี Foyer ตรงทางเข้ารอง รวมถึงห้องนอนชั้นล่างที่เพิ่มมาจากด้านข้างของพื้นที่ Common Area ส่วนชั้น 2 มีการจัดวางฟังก์ชันเหมือนกับ GAETA แต่จะไม่มีพื้นที่ระเบียงค่ะ

ส่วน SICILY เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุด ที่มีการจัดวางแปลนแตกต่างกับแบบบ้านอื่น จะวางพื้นที่ Common Area ตามแนวกว้าง อยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนหลังบ้านจะเป็นส่วนของ Service และห้องนอนชั้นล่าง สำหรับชั้น 2 เป็นห้องนอน 3 ห้อง ที่มีห้องน้ำในตัว รวมถึงมีห้องพักผ่อนชั้นบนเป็นพื้นที่นั่งเล่นสำหรับครอบครัว และพื้นที่ข้างโถงทางเดินทำมุมนั่งเล่นอีกจุดได้ด้วย

ซึ่งเราก็จะไปเจาะลึกรายละเอียดที่แบบบ้าน GAETA ที่เป็นบ้านแฝดกัน ส่วนบ้านเดี่ยวทั้ง LECCE และ SICILY เราก็ได้เก็บภาพบรรยากาศมาให้ชมกันด้วยค่ะ

วัสดุในบ้าน

• โครงสร้างบ้านแบบ Precast
• พื้นชั้น 1 เป็น SPC ลายไม้
• พื้นห้องครัวและห้องน้ำ เป็น กระเบื้องแกรนิตโต้
• พื้นชั้น 2 เป็นลามิเนต
• พื้นระเบียง เป็น กระเบื้องแกรนิตโต้
• โครงสร้างบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิววัสดุด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน
• พื้นที่จอดรถ Slab on Beam เสาเข็มเท่าตัวบ้านใช้เป็นโครงสร้างบ้าน
• สุขภัณฑ์ในห้องน้ำจาก COTTO ทั้งหมด
• จัดสวนตามมาตรฐานโครงการ ปูสนามหญ้า ไม้พุ่มและต้นไม้ใหญ่ 1 ต้น

GAETAเราจะมาดูแบบบ้านเริ่มต้นของโครงการกันเลย GAETA เป็นบ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม. มีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ซึ่งบ้านแฝดนี้มีเพียงผนังตรงห้องครัวที่ติดกับเพื่อนบ้าน แต่ผนังในส่วนพื้นที่พักผ่อนจะไม่ติดกับเพื่อนบ้านเลย ทำให้ช่วยลดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านด้วยนั่นเอง

ชั้น 1

• ที่จอดรถ 2 คันในร่ม
• มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
• แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน แยกส่วนพื้นที่พักอาศัยและ Service อยู่ฝั่งซ้ายและขวา
• พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร
• ประตูด้านข้างส่วนรับประทานอาหาร เปิดออกไปพื้นที่รอบบ้านได้
• ห้องเก็บของใต้บันได
• ห้องนอนชั้นล่าง ปรับเป็นห้องนั่งเล่นหรือทำงานได้
• ห้องน้ำ มีพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกัน
• ห้องครัวแบบปิด มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้
• ลานซักล้างด้านหลังบ้าน สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและตากผ้า

ชั้น 2

• แบ่ง Master Bedroom และห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องอยู่คนละฝั่ง
• Master Bedroom ไม่มีการแชร์ผนังร่วมห้องนอนอื่น ได้ความเป็นส่วนตัวสูง
• Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อม Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว
• ห้องนอนรองสามารถวางเตียง 3.5 ฟุต และ 5 ฟุตได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าด้านข้าง
• ห้องนอนรอง 2 มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ ทำมุมนั่งเล่น Outdoor ได้จริงจัง
• ห้องน้ำใช้ร่วมกันสำหรับห้องนอนรอง

เริ่มจากบริเวณหน้าบ้านจะมีที่จอดรถในร่มได้ 2 คัน และมีประตูทางเข้ารอง เปิดเข้าบ้านได้จากพื้นที่จอดรถเลยค่ะ ส่วนบริเวณประตูทางเข้าบ้านจะมีเฉลียงบ้าน ไว้วางกระถางต้นไม้ตกแต่งได้ แต่หากจะวางพวกชั้นวางรองเท้าอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ เพราะว่าไม่มีหลังคามาบังแดดและฝนตรงพื้นที่เฉลียงนี้ค่ะ

ส่วนประตูทางเข้าหลักก็ออกแบบเป็นกระจกบานใหญ่ ได้ความโปร่ง รวมถึงแสงธรรมชาติเข้าเต็มที่ ซึ่งเราก็ติดผ้าม่านบังแดดในตอนกลางวันได้เหมือนกัน มีการใช้สีเขียวน้ำทะเลมาตัดกับสีขาวของตัวบ้าน รวมถึงเส้นโค้ง ทำให้หน้าตาบ้านดูน่าสนใจมากขึ้น ไม่เรียบจนเกินไป

เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะเป็นพื้นที่ Common Area ขนาด 3.50 x 6.70 เมตร ที่เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นจากหน้าบ้าน ไปหลังบ้านที่เป็นส่วนรับประทานอาหาร โดยออกแบบมีช่องแสงอยู่ทั้ง 3 ด้านเลย มีประตูกระจกด้านข้างส่วนรับประทานอาหาร เปิดออกไปพื้นที่สวนด้านข้างบ้านได้ ทำให้เวลาเรานั่งรับประทานอาหาร ก็ได้วิวต้นไม้สีเขียวด้านนอกค่ะ

พื้นที่นั่งเล่น ตั้งโซฟา 3 ที่นั่ง โต๊ะกลาง และชั้นวางทีวีได้สบายๆ มีพื้นที่เดินผ่านเข้า-ออกได้สะดวก  รวมถึงจะตั้งโซฟาด้านข้างเพิ่มก็ยังได้ ส่วนรับประทานอาหารตั้งโต๊ะ 4-6 ที่นั่งได้ หรือจะตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างที่ใช้เป็นโซฟาเข้ามุมรูปตัว L และเอาโต๊ะ-เก้าอี้มาวางเพิ่ม ก็ใช้เป็นที่นั่งรับประทานอาหาร นั่งเล่นหรือทำงานได้ด้วย

ส่วนอีกฝั่งของบ้านจะแยกเป็นห้องนอนชั้นล่างและส่วนของ Service อย่างห้องครัวและห้องน้ำ

ส่วนวัสดุพื้นชั้น 1 จะปูเป็น SPC ลายไม้ เหมาะกับครอบครัวที่เลี้ยงเลี้ยงน้องสุนัขหรือแมวในบ้าน เพราะว่าเป็นพื้นที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและความชื้นได้ดี ส่วนผนังก็ฉาบเรียบทาสีขาว และความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.65 เมตร ติดตั้งไฟแบบดาวน์ไลท์

เราเดินมาอีกฝั่งของบ้านกัน จะเจอกับห้องนอนชั้นล่างสำหรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย อยู่ใกล้ห้องน้ำ ใช้งานได้สะดวก หรือจะปรับเป้นห้องทำงานหรือนั่งเล่นก็ได้เหมือนกัน

ส่วนของห้องน้ำออกแบบแบ่งพื้นที่เปียกและแห้ง พร้อมติดตั้งสุขภัณฑ์จาก COTTO ทั้งหมด รวมถึงมีพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกันได้ด้วยค่ะ

ห้องครัวของโครงการนี้จะได้เป็นห้องเปล่านะคะ ซึ่งเราก็ตกแต่งเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย ทั้งก่อเคาน์เตอร์ครัวเป็นตัว I มีตู้เก็บของทั้งบนและล่าง พร้อมเว้นพื้นที่สำหรับตั้งตู้เย็นและเครื่องซักผ้า และจะมีพื้นที่ยืนทำอาหารกว้างประมาณ 1 เมตรค่ะ

สำหรับห้องเก็บของใต้บันไดก็มีขนาดใหญ่ ไว้เก็บพวกอุปกรณ์ของใช้ต่างๆอย่างเช่นไม้กวาดและเครื่องดูดฝุ่น เป็นต้น

บันไดเป็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ปิดผิววัสดุด้วยไม้ยางพาราอัดประสาน มีออกแบบช่องหน้าต่างให้แสงส่องเข้ามา ทำให้โถงบันไดไม่มืด พอขึ้นมาชั้น 2 จะปูพื้นด้วยไม้ลามิเนต ได้ความเป็นลายไม้ต่อเนื่องจากชั้น 1 ส่วนความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.60 เมตร

ห้องน้ำส่วนกลางใช้งานร่วมกันของห้องนอนรอง จะเข้า-ออกจากตรงโถงชั้น 2 ส่วนภายในห้องน้ำก็ออกแบบเหมือนห้องน้ำอื่นๆเลย เลือกใช้สุขภัณฑ์จาก COTTO ทั้งหมด

Master Bedroom จะแยกอยู่คนละฝั่งกับห้องนอนรองห้องอื่นๆ ทำให้ไม่มีการแชร์ผนังห้องร่วมกับห้องนอนอื่นเลย จึงได้ความเป็นส่วนตัวสูงโดยตัวห้องจะวางเป็นแนวยาวจากหน้าบ้านไปหลังบ้าน

บริเวณของเตียงนอนจะอยู่ด้านหน้าบ้าน วางเตียง 6 ฟุต โต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง และชั้นวางทีวีได้สบายๆ มีหน้าต่างตรงหน้าบ้านที่เปิดไปเจอกับราวกันตกที่ออกแบบมาเพิ่มลูกเล่นให้หน้าตาบ้านดูน่าสนใจ รวมถึงเราแขวนกระถางต้นไม้และรดน้ำได้ด้วยนั่นเอง

ส่วน Walk – in Closet จะอยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน ที่เราทำ Built – in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะแต่งหน้าเหมือนบ้านตัวอย่างได้เลย นอกจากนั้นเราก็หาที่ติดกระจกเงาด้านข้างเพิ่มได้ด้วยค่ะ ถัดจาก Walk – in Closet จะเป็น Master Bathroom ที่ออกแบบเหมือนห้องน้ำห้องอื่นๆเลย

ห้องนอนรอง 2 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ติดกับห้องน้ำ เข้าใช้งานได้สะดวก ภายในห้องวางเตียง 3.5-5 ฟุตได้ แต่เรามองว่าวางเตียง 3.5 ฟุตดีกว่า จะได้มีพื้นที่เหลือตั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอ่านหนังสือได้สบายๆ

สำหรับจุดเด่นของห้องนี้ คือ มีระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ 2.10 x 6.70 เมตร จะมีประตูกระจกบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้จากภายในห้องเลย ทำให้เป็นพื้นที่นั่งเล่นแบบกลางแจ้งได้ ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว หรือใครที่เป็นสายปิ้งย่าง ก็ใช้เป็นมุมกินหมูกระทะของครอบครัวได้เลย

ห้องนอนรอง 3 จะอยู่ทางฝั่งหน้าบ้าน มีขนาดห้องเล็กกว่าห้องนอนรอง 2 จึงเหมาะวางเตียง 3.5 ฟุต และมีพื้นที่ด้านข้างตั้งตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอ่านหนังสือได้ นอกจากนั้นมีหน้าต่างที่มองไปเห็นพื้นที่ระเบียงส่วนตัวของห้องนอนรอง 2 ด้วย หากเราปลูกต้นไม้ที่ระเบียงนี้ ก็จะได้เป็นวิวสีเขียวให้กับห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องเลยนั่นเอง

LECCELECCE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม. มีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ เป็นบ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้นของโครงการ ห้องนอนชั้นล่างกว้างมีประตูออกส่วนสวนรอบบ้าน ให้ลูกบ้านสัมผัสธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

ชั้น 1

• ที่จอดรถ 2 คันในร่ม มีตู้เก็บของอยู่ด้านข้างบ้าน
• มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
• Foyer โถงต้อนรับตรงประตูทางเข้ารอง
• แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน แยกส่วนพื้นที่พักอาศัยและ Service อยู่ฝั่งซ้ายและขวา
• พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร
• ประตูด้านข้างส่วนรับประทานอาหาร เปิดออกไปพื้นที่หลังบ้านได้
• ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุ หรือจะปรับเป็นห้องทำงานก็ได้ มีประตูเปิดออกไปพื้นที่รอบบ้านได้
• ห้องเก็บของใต้บันได
• ห้องน้ำ มีพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกัน
• ห้องครัวแบบปิด มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้
• ภายในห้องครัว มีแบ่งพื้นที่สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าได้
• ลานซักล้างด้านหลังบ้าน สำหรับตากเสื้อผ้า

ชั้น 2

• แบ่ง Master Bedroom และห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องอยู่คนละฝั่ง
• Master Bedroom ไม่มีการแชร์ผนังร่วมห้องนอนอื่น ได้ความเป็นส่วนตัวสูง
• Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อม Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว
• ห้องนอนรองสามารถวางเตียง 3.5 ฟุต และ 5 ฟุตได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าด้านข้าง
• ห้องน้ำใช้ร่วมกันสำหรับห้องนอนรอง

ภาพบรรยากาศแบบบ้าน LECCE ชั้น 1

ภาพบรรยากาศแบบบ้าน LECCE ชั้น 2

SICILYต่อมาเป็นแบบบ้านขนาดใหญ่สุดของโครงการ ได้แก่ SICILY บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 187 ตร.ม. มีฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ จะมีการจัดวางฟังก์ชันแบ่งส่วนอยู่อาศัยและ Service เป็นฝั่งด้านหน้าและด้านหลังบ้าน แตกต่างกับแบบบ้านอื่นๆที่จะแบ่งเป็นฝั่งซ้ายและขวา

ข้อดีของการแบ่งเป็นด้านหน้าและหลังคือ ทำให้ฟังก์ชันการอยู่อาศัยได้วิวหน้าบ้านในทุกฟังก์ชันนั่นเอง รวมถึงชั้น 2 ที่นอกจากจะมี Master Bedroom ที่ได้วิวแล้ว ห้องนอนรอง 2 ก็ได้วิวที่กว้างมากขึ้นนั่นเอง

ชั้น 1

• ที่จอดรถ 2 คันในร่ม พร้อมตู้เก็บของ
• มีประตูทางเข้าหลักและประตูทางเข้ารองตรงพื้นที่จอดรถ
• แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วน แยกส่วนพื้นที่พักอาศัยและ Service อยู่ฝั่งด้านหน้าและด้านหลังบ้าน
• พื้นที่ Common Area เชื่อมพื้นที่นั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหาร
• ประตูด้านข้างพื้นที่นั่งเล่น เปิดออกไปพื้นที่รอบบ้านได้
• ห้องนอนชั้นล่าง รองรับผู้สูงอายุ หรือจะปรับเป็นห้องทำงานก็ได้ มีประตูเปิดออกไปพื้นที่รอบบ้านได้
• ห้องน้ำ มีพื้นที่อาบน้ำ รองรับการใช้งานพร้อมกัน
• พื้นที่ว่างข้างบันได ทำเป็นมุมนั่งเล่นได้
• ห้องครัวแบบปิด มีประตูกั้นทำเป็นครัวไทยได้
• ห้องซักผ้า สำหรับตั้งเครื่องซักผ้าและรีดผ้า
• ลานซักล้างด้านหลังบ้าน สำหรับตากเสื้อผ้า
• ห้องเก็บของใต้บันได เปิดจากทางหลังบ้าน

ชั้น 2

• ห้องพักผ่อนชั้นบน พื้นที่นั่งเล่น ใช้เวลาร่วมกันของครอบครัว
• พื้นที่ว่างข้างบันได ทำเป็นมุมนั่งทำงานได้
• ทุกห้องนอนมีห้องน้ำในตัว ใช้งานได้สะดวก
• Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อม Walk – in Closet และห้องน้ำในตัว
• ห้องนอนรองสามารถวางเตียง 3.5 ฟุต และ 5 ฟุตได้ มีพื้นที่วางตู้เสื้อผ้าด้านข้าง
• ห้องนอนรอง 2 มีพื้นที่ Walk – in Closet

ภาพบรรยากาศแบบบ้าน SICILY ชั้น 1

ภาพบรรยากาศแบบบ้าน SICILY ชั้น 2

ราคา

อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) ณ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566

• GAETA (กาเอต้า) บ้านแฝด 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 36 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 149 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 6 ล้านบาท
• LECCE (เลชเช่)  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 161 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 7.2 ล้านบาท
• SICILY (ซิซิเลีย)  บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 187 ตร.ม.
  – ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 1 ห้องพักผ่อนชั้นบน / 2 ที่จอดรถ
  – ราคาเริ่มต้น 8 ล้านบาท
• ค่าจอง 20,000 บาท
• ค่าทำสัญญา 30,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง : 42 + 5 (บริเวณสวนส่วนกลางตรงถนนภาระจำลอง) บาท/ตร.วา/เดือน

**ราคาที่เอามาลงในบทความเป็นราคา ณ วันที่เข้าไปเก็บข้อมูลทำรีวิว ดังนั้นราคาต่างๆอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ

สรุป

สำหรับ เวสต์เกต คอมมูนิตี้ จะตั้งอยู่โซนเวสต์เกต ที่ถือว่าอยู่ใกล้ถนนกาญจนาภิเษกและ MRT สายสีม่วงในระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตร เดินทางเข้าออกโครงการได้ 2 เส้นทาง ทั้งเส้นเลียบคลองถนนและเลียบคลองบางไผ่ ทำให้เดินทางได้สะดวกสบาย ใช้ทางด่วนก็ง่าย รวมถึงใกล้สามแยกบางใหญ่ที่เป็นใจกลางแหล่งไลฟ์สไตล์หลักของทำเลอย่าง Central Westgate และ IKEA บางใหญ่ นอกจากนั้นยังล้อมด้วยสถานศึกษาและโรงพยาบาลหลายแห่งในระยะ 5 กิโลเมตร

นอกจากการเดินทางที่ง่าย ยังมีส่วนกลางตรงเส้นถนนภาระจำยอมที่ประดับตกแต่งเป็นต้นไม้เรียงยาวตลอด 2 ข้างทาง ระยะ 1.7 กิโลเมตร เพิ่มบรรยากาศร่มรื่นและน่าอยู่อาศัยให้โครงการ รวมถึงยังใช้เป็นเส้นวิ่งออกกำลังกายและปั่นจักรยานได้ด้วย นอกจากนั้นยังมีสวนส่วนกลางที่ให้ลูกบ้านในคอมมูนิตี้มาใช้งานร่วมกันได้อีกด้วย ก็เหมือนกับเราได้ส่วนกลางเพิ่มอีกจุดเลยนั่นเอง

ในส่วนของตัวโครงการ สราญสิริ เวสต์เกต (Saransiri Westgate) เป็นบ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ หรือมีผู้สูงอายุอาศัยอยู่ด้วย เพราะมีห้องนอนชั้นล่างในทุกแบบบ้าน ชอบบ้านสไตล์ Modern Farmhouse แบบยุโรป เน้นความโปร่งโล่งของพื้นที่ โดยเฉพาะ Master Bedroom ที่มีฝ้าเพดานสูง 4.2-4.5 เมตร รวมถึงชอบมุมเล็กมุมน้อยเยอะให้เราปรับพื้นที่ตามการใช้งานได้ อย่างตรงชานพักบันได พื้นที่ว่างชั้น 2 และ Bay Window ที่ทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นหรือทำงานได้ มีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 8-12 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 48,000-84,000 บาท

ส่วน อณาสิริ เวสต์เกต (Anasiri Westgate) เป็นโครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว 4 ห้องนอน รองรับครอบครัวขนาดกลาง-ใหญ่ มีห้องนอนที่ชั้นล่าง ทำเป็นห้องผู้สูงอายุหรือห้องทำงานได้เหมือนกัน แต่ชอบเป็นบ้านสไตล์ Mediterranean ที่มีสีสันสดใส ฟังก์ชันในบ้านครบครัน และเน้นพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการที่มีขนาดใหญ่ โดยมีงบประมาณของบ้านเริ่มต้นที่ 6-8 ล้านบาทหรือมีกำลังผ่อนต่อเดือนที่ 36,000-56,000 บาท