ไม่ต้องเสียเวลาทั้งวันไล่หาข้อมูลบ้านใกล้รถไฟฟ้า เพราะเราคัดมาเน้นๆ ครบจบที่เดียว!! แบบแชร์บอกต่อให้เพื่อน ให้แฟนอ่านได้เลยกับ 6 โครงการบ้านใกล้ MRT ราคาไม่แรง เริ่ม 3.99 ล้าน!
ถ้าเรื่องตามหาบ้านที่ใช่ก็เชื่อใจ Think of Living คนนี้ได้เลย เพราะเราไม่อยากให้ทุกคนต้องเหนื่อยหาบ้านเองด้วยตัวคนเดียว จึงได้คัดของดี ของ Rare อย่างบ้านใกล้รถไฟฟ้า ราคาดีมาให้อ่านแบบเข้าใจง่าย ฟีลเหมือนเพื่อนเล่าให้ฟัง
ครั้งนี้เรารวบรวม 6 โครงการบ้านมือหนึ่งที่ยังเปิดขายอยู่ ระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตรจาก MRT สายสีน้ำเงิน เอาแบบพอเดินก็ได้ เรียกรถก็ง่าย ในงบไม่เกิน 7 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ราคาดีสุดอยู่ที่ 3.99 ล้านบาท ถือว่าราคาไม่แรงเลยค่ะ เพราะถ้าไปดูโซนใจกลางเมืองจะแตะ 20 ล้านบาท++
นอกจากจะรู้กันแล้วว่าทั้ง 6 โครงการใกล้ MRT มีที่ไหนบ้าง เราก็ขอแถมวิเคราะห์แต่ละโครงการมาให้อ่านด้วย แบบชี้ให้เห็นกันชัดๆไปเลยว่าปัง-ไม่ปังตรงไหน ถ้าอยากดูสรุปเป็นคลิปตอนระหว่างเดินทาง นั่งรถไฟฟ้ากลับบ้าน เราก็มีพาเดินชมแต่ละโครงการด้วยนะ คลิกที่นี่ได้เลยค่ะ
เราจะขอพูดถึง “รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน” กันก่อนนะ โดยรถไฟฟ้าสายนี้จะมีทั้งช่วงที่เดินรถอยู่ใต้ดินและยกระดับ มีแนวเส้นทางการเดินทางเป็นวงกลม ไม่ได้ผ่านเข้าเมืองตรงๆ แบบสายสีเขียวอ่อนและสายสีเขียวเข้ม แต่ยังผ่านจุดสำคัญๆ เช่น สีลม, อโศก, รัชดา, ลาดพร้าว โดยเน้นเชื่อมโยงไปโซนสำคัญต่างๆของกรุงเทพฯ รวมถึงไปยังฝั่งธนบุรีอย่างบางขุนนนท์ ท่าพระและยาวไปถึงหลักสองด้วย
นอกจากนั้นก็ยังมีข่าวดีเรื่อง “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ด้วย แต่ปัจจุบันยังอยู่ในระหว่างจัดทำแผนและแนวทางการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนกับเอกชน เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของ รฟม. และ ครม. ภายในเดือนสิงหาคม 2568 คาดใช้ในเดือนกันยายน 2568 ค่ะ ทำให้ถือเป็น Benefit สำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางบ่อยๆนั่นเอง
วันนี้เราจึงพามาหาโครงการบ้านจัดสรร ใกล้รถไฟฟ้าที่ถือเป็นของหายากมากๆ เพราะส่วนใหญ่ทาง Developer นิยมพัฒนาที่ดินเปล่า ทำเลใกล้รถไฟฟ้าเป็นโครงการคอนโดมิเนียมซะมากกว่า ดังนั้นในบทความนี้เราจึงจะมาช่วยทุกคนหาโครงการบ้านมือหนึ่ง ใกล้ MRT สายสีน้ำเงินในระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตร งบไม่เกิน 7 ล้านบาทกันค่ะ
จากที่สำรวจบ้านใกล้ MRT สายสีน้ำเงินในโซนกรุงเทพฯชั้นใน จะมีราคาประมาณ 20 ล้านบาทขึ้นไปเลยนะ แต่ถ้ามองหาบ้านใกล้รถไฟฟ้าสายนี้ที่มีราคาจับต้องได้ง่ายมากขึ้น จะต้องขยับมาดูโซนฝั่งธนบุรีที่มีให้เลือกหลายโครงการหน่อย ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้แล้วทั้งหมด 6 โครงการด้วยกันเป็นโครงการทาวน์โฮมทั้งหมดเลย ดังนี้
- CHER บางขุนนนท์
– ใกล้ MRT สถานีบางขุนนนท์ ~ 2.5 กม.
– ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น
– ราคาเริ่มต้น : 3.99-6.1 ล้านบาท
– Developer : Peace & Living
– ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่
– รีวิวโครงการ >> คลิกที่นี่
– VDO โครงการ >> คลิกที่นี่ - Golden Town ศิริราช-ราชพฤกษ์
– ใกล้ MRT สถานีไฟฉาย ~ 2.7 กม.
– ทาวน์โฮม 2 ชั้น
– ราคาเริ่มต้น : 3.99 ล้านบาท
– Developer : Frasers Property
– ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่ - The Metro เพชรเกษม 48
– ใกล้ MRT สถานีเพชรเกษม 48 ~ 1.2 กม.
– ทาวน์โฮม 3 ชั้น
– ราคาเริ่มต้น : 5.5-7 ล้านบาท
– Developer : Property Perfect
– ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่ - The Holmes สาทร-บางแค
– ใกล้ MRT สถานีบางแค ~ 750 ม.
– ทาวน์โฮม 3 ชั้น
– ราคาเริ่มต้น : 6.29 ล้านบาท
– Developer : Benyarat
– ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่ - The Holmes สาทร-กัลปพฤกษ์
– ใกล้ MRT สถานีบางแค ~ 1.9 กม.
– ทาวน์โฮม 3 ชั้น
– ราคาเริ่มต้น : 5.39 ล้านบาท
– Developer : Benyarat
– ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่ - The Ozone เพชรเกษม 53
– ใกล้ MRT สถานีหลักสอง ~ 2.3 กม.
– ทาวน์โฮม & โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น
– ราคาเริ่มต้น : 4.3-5.66 ล้านบาท
– Developer : T A S Property (ประชาสิริ)
– ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่
MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงถนนจรัญสนิทวงศ์
กลุ่มแรกที่เราพามาดู คือ โครงการที่อิงอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้หลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็นถนนบรมราชชนนี, สิรินธร, บางขุนนนท์, พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4, เลียบทางรถไฟและราชพฤกษ์ รวมถึงจะเข้าเมืองไปโซนดุสิต ราชวิถี และพระราม 8 ก็สะดวก หรือจะออกเมืองไปฝั่งพุทธมณฑลก็ง่าย มีทางด่วนทั้งทางพิเศษประจิมรัถยาและทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกให้เราใช้เดินทางไปโซนบางซื่อ จตุจักร ลาดพร้าวได้สะดวกด้วย
ซึ่งย่านนี้มีทั้งบ้านพักอาศัยดั้งเดิมและโครงการจัดสรรอยู่กันอย่างหนาแน่น ทำให้มีสิ่งอำนวยต่างๆ เกิดขึ้นบนทำเลนี้เยอะเลย อย่างเส้นถนนจรัญสนิทวงศ์เองก็จะมี Makro, Foodland, Indy Market, Lotus’s และ Meeting Mall ส่วนถนนบรมราชชนนีจะมีทั้ง Central ปิ่นเกล้า, The Sense และ Major Cineplex ถือเป็นห้างหลักของทำเลนี้ หรือจะไปถนนบางขุนนนท์ที่ตลอดเส้นทางจะมีร้านค้า ร้านอาหารหลากหลายที่มาแวะซื้อของกินก่อนกลับบ้านก็ได้ รวมถึงมีตลาดบางขุนศรี, ตลาดพรานนก, ตลาดวังหลังและโรงพยาบาลศิริราชอยู่ไม่ไกลด้วย จึงถือเป็นย่านที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมากๆ โดยจะมีโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT ในระยะ 3 กิโลเมตรในราคาจับต้องง่ายอยู่ 2 โครงการด้วยกัน ได้แก่ CHER บางขุนนนท์ และ Golden Town ศิริราช-ราชพฤกษ์
CHER บางขุนนนท์ | MRT บางขุนนนท์ ~ 2.5 กม.
เริ่ม 3.99-6.1 ล้านบาท
- ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่
- ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น จำนวน 196 ยูนิต
- หน้ากว้าง 5.00-5.70 เมตร
- ที่ดินมาตรฐาน 17.5-21.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 122-197 ตร.ม.
- ฟังก์ชัน 2-3 ห้องนอน / 2-4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1-2 ห้องอเนกประสงค์
- ค่าส่วนกลาง 1,500 บาท/เดือน
ภาพบรรยากาศโครงการ
ถือเป็นโครงการบ้านแนวราบที่ใกล้ MRT สายสีน้ำเงินที่มีราคาดีที่สุดในบทความเลยค่ะ เพราะมีราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาทนั่นเอง โดยตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยบางขุนนนท์ 29 ใกล้ MRT บางขุนนนท์ ในระยะ 2.5 กิโลเมตร ซึ่งในอนาคตเป็น Interchange Station ของรถไฟฟ้าถึง 3 สายทั้งสายสีน้ำเงิน, สายสีส้มและสายสีแดงอ่อน ทำให้เดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากเรื่องการเดินทางที่สะดวกมากๆแล้ว ทำเลนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์ด้วย เพราะมีร้านชื่อดังและเก่าแก่เยอะ อีกทั้งมีห้างใหญ่ๆหลายแห่งไม่ว่าจะเป็น Central ปิ่นเกล้า, The Sense, Major Cineplex, Makro จรัญสนิทวงศ์, Foodland, ตลาดบางขุนนนท์และตลาดน้ำตลิ่งชันนั่นเอง
สำหรับโครงการ CHER บางขุนนนท์ ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 19 ไร่กว่า มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 196 ยูนิต โดยออกแบบพื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านหน้าโครงการ มีมาให้ใช้งานครบครัน ซึ่งการออกแบบแยกพื้นที่ส่วนกลางออกจากโซนบ้านก็ทำให้ได้บรรยากาศการอยู่อาศัยตรงโซนบ้านที่เงียบสงบมากขึ้นค่ะ
แบบบ้าน
ทาวน์โฮม 2 ชั้น Baby Birch
ออกแบบเป็นทาวน์โฮม 2-3 ชั้น โดดเด่นด้วยโครงสร้างอิฐมอญแดง ซึ่งเป็น Signature ของทุกโครงการจากทาง Peace & Living นะคะ ทำให้เป็นทาวน์โฮมที่สามารถทุบผนังและปรับฟังก์ชันภายในบ้านได้ตามต้องการเลย นอกจากนั้นยังได้พื้นที่ใช้สอยใหญ่ 122–197 ตร.ม. ในราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท ถือว่าจับต้องได้ง่ายที่สุดในบทความนี้ค่ะ
- Baby Birch ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.0 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 17.5 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 122 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน /1 ห้องอเนกประสงค์ /2 ห้องน้ำ /2 ที่จอดรถ - Piney Pine ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 19.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 125 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน /2 ห้องอเนกประสงค์ /2 ห้องน้ำ /2 ที่จอดรถ - Oaky Oak ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.7 เมตร ที่ดินมาตรฐาน 21.2 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
สำหรับแบบบ้านเริ่มต้น Baby Birch มีพื้นที่ใช้สอย 122 ตร.ม. และพื้นที่จอดรถถึง 2 คันในราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาทที่เป็นราคาดีสุดในบทความนี้เลย (เพื่อนบ้านในบทความที่มีพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกันจะมีราคาสูงกว่า รวมถึงได้ 1 ที่จอดรถ) นอกจากนั้นแบบบ้าน Piney Pine และ Oaky Oak มีหน้ากว้างบ้านอยู่ที่ 5.70 เมตร (ส่วนใหญ่เพื่อนบ้านในบทความมีหน้ากว้างบ้าน 4-5.5 เมตร) ทำให้มีข้อดีที่นอกจากจะได้บรรยากาศภายในบ้านที่ดูโปร่งโล่งมากขึ้นแล้ว ยังสามารถจอดรถ 2 คันได้สะดวกด้วย ส่วนทาวน์โฮม 3 ชั้น Oaky Oak ก็มีความน่าสนใจตรงที่ได้พื้นที่ใช้สอย 197 ตร.ม. ซึ่งถือว่ามีพื้นที่เยอะสุดในกลุ่มบ้านราคา 5–6 ล้านบาทเลยนั่นเอง ทำให้โครงการนี้จะโดดเด่นในเรื่องความคุ้มค่าของพื้นที่ใช้สอยและราคาที่ดีค่ะ
Golden Town ศิริราช-ราชพฤกษ์ | MRT ไฟฉาย ~ 2.7 กม.
เริ่ม 3.99 ล้านบาท
- ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่
- ทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 254 ยูนิต
- หน้ากว้าง 5.20-5.40 เมตร
- ที่ดินเริ่มต้น 16.3-19.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 96-117 ตร.ม.
- ฟังก์ชัน 2-3 ห้องนอน / 2-3 ห้องน้ำ / 1-2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
- ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.วา/เดือน
ภาพบรรยากาศโครงการ
Golden Town ศิริราช-ราชพฤกษ์ เป็นอีกโครงการที่มีราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท จึงมีราคาจับต้องได้ง่ายสุดในบทความนี้เหมือนกับ CHER บางขุนนนท์ ที่เราพาไปดูกันเมื่อกี้เลย โดยตัวโครงการจะตั้งอยู่บนถนนแก้วเงินทอง สามารถเชื่อมต่อถนนสายหลักได้หลายสายทั้งถนนจรัญสนิทวงศ์, บรมราชชนนี, พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 และราชพฤกษ์ รวมถึงใกล้ MRT ไฟฉาย ประมาณ 2.7 กิโลเมตร (ถือเป็นโครงการที่มีระยะห่างจากรถไฟฟ้ามากสุดในบทความนี้ แต่ก็แลกมากับราคาที่ดีสุดในบทความนี้ค่ะ)
ส่วนความอุดมสมบูรณ์จะอิงไปเส้นราชพฤกษ์ที่มี The Circle ราชพฤกษ์ และ Food Villa ราชพฤกษ์ แต่เราแอบได้ข่าวมานะว่าที่ดินเปล่าขนาดใหญ่ข้างๆ Food Villa ราชพฤกษ์ เป็นเจ้าของเดียวกับตลาดสดธนบุรีตรงถนนบรมราชชนนี และปัจจุบันมีการล้อมรั้วที่ดินแล้วด้วย ทำให้เราคาดว่าอาจจะเป็นไปได้ที่พัฒนาทำเหมือนตลาดสดธนบุรีค่ะ นอกจากนั้นยังไปโซนปิ่นเกล้าที่มี Central ปิ่นเกล้า, Major ปิ่นเกล้า และคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง The Sense ปิ่นเกล้าและช่างชุ่ยได้เหมือนกัน
Golden Town ศิริราช-ราชพฤกษ์ เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น จำนวน 254 ยูนิตตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 26 ไร่ ออกแบบบรรยากาศโครงการในสไตล์อังกฤษที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง Frasers Property แตกต่างจากเพื่อนบ้านในบทความนี้ที่มักจะเป็นสไตล์ Modern ทำให้โครงการนี้จะตอบโจทย์กลุ่มคนที่ชอบแนว Classic โดยเฉพาะเลยค่ะ ส่วนพื้นที่ส่วนกลางก็ออกแบบมาให้ใช้งานได้ครบครันพร้อมตกแต่งบรรยากาศได้ฟีลเหมือนอยู่ในหมู่บ้านอังกฤษด้วย
แบบบ้าน
ทาวน์โฮม 2 ชั้น Saint Paul
สำหรับโครงการนี้จะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบบ้านที่โดดเด่นในสไตล์อังกฤษตามที่เราได้มีเกริ่นไปแล้วนะ ทำให้ถูกใจคนที่ชอบแนว Classic เลยค่ะ
- Saint Paul ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.20 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 16.3-16.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 96 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ - Southampton ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.40 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 21-25 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 103 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 2 ห้องน้ำ / 1 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ - Notting Hill ทาวน์โฮม 2 ชั้น หน้ากว้าง 5.40 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 19-19.6 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 117 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
ถึงแม้แบบบ้านของโครงการนี้จะมีพื้นที่ใช้สอย 96-117 ตร.ม. ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเพื่อนบ้านอื่นๆในบทความนี้ รวมถึงแบบบ้าน Saint Paul และ Southampton จะมีพื้นที่จอดรถเพียง 1 คัน แต่ก็มีราคาที่จับต้องได้ง่ายสุด เริ่มต้น 3.99 ล้านบาท แต่จุดเด่นของโครงการนี้จะเป็นการออกแบบที่มีห้องอเนกประสงค์ตรงชั้นล่างในทุกหลัง จึงเหมาะกับคนที่มีงบจำกัด แต่ต้องการพื้นที่สำหรับทำงานอดิเรกหรือรองรับกิจกรรมอื่นๆภายในบ้านได้ รวมถึงปรับเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ สำหรับครอบครัวที่อยู่อาศัยกับคุณปู่หรือคุณย่าได้ด้วยค่ะ
MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงถนนเพชรเกษม
กลุ่มต่อมาจะเป็นโครงการที่ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินที่อิงอยู่บนถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นช่วงส่วนต่อขยายที่ขยับออกนอกเมืองมาอีกหน่อย แต่ก็มีทั้งห้าง Seacon บางแคและ The Mall บางแคที่เป็นห้างหลักของคนในย่านนี้ให้มาเดินเล่นจับจ่ายใช้สอยกันได้ง่ายๆ รวมถึงมี Lotus’s บางแคและตลาดบางแคที่เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ให้มาซื้อของกิน ของใช้ในราคาย่อมเยาได้ อีกทั้งมีโรงพยาบาลชั้นนำหลายแห่งอย่างโรงพยาบาลเพชรเกษม 2, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค, โรงพยาบาลพญาไท 3 และโรงพยาบาลบางไผ่ด้วย
ในเรื่องการเดินทางก็ถือว่าสะดวก เข้าเมืองได้ง่าย จะขึ้นทางด่วนกาญจนาภิเษกก็ได้ หรือจะขับตรงยาวเข้าสาทร- วงเวียนใหญ่ก็ไม่ยาก ที่สำคัญรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินช่วงส่วนขยายนี้จะมีสถานีบางหว้าที่เป็น Interchange Station กับ BTS สายสีเขียวเข้ม ทำให้มีตัวเลือกในการเดินทางที่มากขึ้น งั้นเราไปดูกันต่อเลยว่าจะมีโครงการแนวราบมือหนึ่งที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตรที่ไหนอีกบ้าง?
The Metro เพชรเกษม 48 | MRT เพชรเกษม 48 ~ 1.2 กม.
เริ่ม 5.5-7 ล้านบาท
- ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 128 ยูนิต
- หน้ากว้าง 5.00-5.70 เมตร
- ที่ดินเริ่มต้น 16.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150-170 ตร.ม.
- ฟังก์ชัน 3-4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
- ค่าส่วนกลาง 35 บาท/ตร.วา/เดือน
ภาพบรรยากาศโครงการ
The Metro เพชรเกษม 48 เป็นโครงการที่มีระยะห่างจาก MRT เพชรเกษม 48 เพียง 1.2 กิโลเมตร ทำให้เราต่อรถไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ง่ายเลยค่ะ นอกจากนั้นยังนั่งรถไฟฟ้าถัดไปเพียงสถานีเดียวก็เป็นสถานีบางหว้า Interchange Station ของสายสีน้ำเงินและสายสีเขียวเข้ม จึงเดินทางเชื่อมต่อเข้าไปทำงานในโซนสีลม-สาทรได้สบายๆเลย
ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 48 แยก 4-7 เชื่อมไปยังถนนเพชรเกษม, ราชพฤกษ์, พุทธมณฑลสาย 1, กาญจนาภิเษก และจรัญสนิทวงศ์ 13 ได้ง่ายๆ ส่วนช่วงต้นซอยของโครงการจะมีทั้งซุ้มวินมอเตอร์ไซค์ให้เรียกรถรับ-ส่งง่าย ส่วนร้านค้า ร้านอาหารในราคาย่อมเยาก็มีให้เลือกเยอะ จึงซื้อของก่อนเข้าบ้านได้เพียบเลยค่ะ สำหรับความอุดมสมบูรณ์โดยรอบโครงการจะอิงไปทางฝั่งบางแคที่มี Seacon บางแคเป็นห้างหลักของย่านนี้ หรือจะเลยไปอีกหน่อยก็มีทั้งตลาดบางแคและ Lotus’s บางแคที่ให้เรามาจับจ่ายใช้สอยในราคาย่อมเยาได้สะดวกมากๆ
ทางโครงการออกแบบเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 128 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 13 ไร่ครึ่ง ส่วนพื้นที่ส่วนกลางก็มีมาให้ใช้งานครบทั้ง Clubhouse, Lobby, Fitness, สระว่ายน้ำและสวนสีเขียวที่อยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ เป็นการออกแบบเพื่อแยกส่วนกลางออกจากโซนบ้านพัก ทำให้พื้นที่ส่วนกลางเป็นมุมต้อนรับที่สวยงามเวลาที่มีแขกมาเยี่ยมและได้บรรยากาศโซนบ้านพักอาศัยที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เราว่าน่าสนใจที่ทางโครงการจัดโซนบ้านบางซอยมีเพื่อนบ้านประมาณ 8 หลัง น้อยกว่าซอยอื่นๆที่มีมากกว่า 20 หลัง ก็จะทำให้ได้ในเรื่องความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นค่ะ
แบบบ้าน
ภาพบรรยากาศโครงการ
The Metro เพชรเกษม 48 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นทั้งหมดและมีให้เลือกถึง 3 แบบบ้าน จึงรองรับได้ทุกไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย แต่ราคาก็จะเริ่มต้นสูงกว่าเพื่อนบ้านในบทความนี้ที่เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 5.5-7 ล้านบาทนั่นเอง
- MET 5 Plus ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.00 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 16.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - MET 5.0 V-PLUS ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.00 เมตร พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - MET 5.7 Plus ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.70 เมตร พื้นที่ใช้สอย 170 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
ด้วยตัวบ้านที่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น จึงได้ Master Bedroom ที่ชั้น 3 ขนาดใหญ่แบบ Penthouse มีพื้นที่ภายในห้องกว้างๆ อยู่อาศัยได้สบายๆเหมือนทาวน์โฮม 3 ชั้นอื่นๆในบทความนี้นะ แต่โครงการนี้จะออกแบบมีระเบียง 2 จุดภายใน Master Bedroom ด้วย นอกจากนั้นตรงชั้น 1 มีพื้นที่ให้กั้นครัวแบบปิดได้สบายๆเลยนะ ทำให้สะดวกสำหรับคุณแม่บ้านหรือคนที่ชอบทำอาหาร เพราะไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นควันจะลอยไปติดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านนั่นเอง
สำหรับแบบบ้าน MET 5 Plus และ MET 5.7 Plus มีการออกแบบและจัดวางฟังก์ชันภายในบ้านมาเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันเพียงขนาดหน้ากว้างบ้าน จึงทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยไม่เท่ากันนั่นเอง อย่างแบบบ้านเริ่มต้น MET 5 Plus จะมีหน้ากว้างบ้านอยู่ที่ 5 เมตร ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. ส่วนบ้านหลังใหญ่สุด MET 5.7 Plus จะมีหน้ากว้างบ้านอยู่ที่ 5.70 เมตร จึงมีพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่าอยู่ที่ 170 ตร.ม. และได้บรรยากาศโปร่งโล่งมากกว่าค่ะ
แต่แบบบ้านที่น่าสนใจสำหรับเรา คือ MET 5.0 V-PLUS ที่ถึงแม้จะมีหน้ากว้าง 5.00 เมตร พื้นที่ใช้สอย 150 ตร.ม. เหมือนกับแบบบ้านเริ่มต้น MET 5 Plus แต่จำนวนห้องนอนจะไม่เท่ากัน เพราะ MET 5.0 V-PLUS จะมีเพียง 3 ห้องนอน แต่ได้พื้นที่ภายในห้องนอนขนาดใหญ่และมีห้องน้ำในตัวทั้งหมดแทนนั่นเอง ทำให้เรามองว่าอยู่ได้สบายและเป็นส่วนตัวมากกว่า นอกจากนั้นยังมี Smart Home Automation ที่โครงการอื่นๆในบทความนี้ไม่มีด้วยนะ ทำให้ควบคุม-สั่งการอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้านได้สะดวกดีค่ะ
The Holmes สาทร-บางแค | MRT บางแค ~ 750 ม.
เริ่ม 6.29 ล้านบาท
- ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 34 ยูนิต
- หน้ากว้าง 5.00 เมตร
- ที่ดินเริ่มต้น 21.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 183.6 ตร.ม.
- ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
- ค่าส่วนกลาง 80 บาท/ตร.วา/เดือน
โครงการนี้เป็นโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า MRT มากที่สุดในบทความนี้ เพราะมีระยะห่างจาก MRT บางแค เพียง 750 เมตรเท่านั้น ใครที่ร่างกายฟิตๆอยู่แล้วก็เดินมาขึ้นรถไฟฟ้าได้สบายมากๆ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยวัดนิมานรดี เข้ามาจากถนนเพชรเกษมประมาณ 600 เมตรเอง จึงเดินทางเชื่อมต่อไปราชพฤกษ์, พุทธมณฑลสาย 1 และกาญจนาภิเษกได้ง่ายดี
บริเวณต้นซอยนี้จะเป็นพื้นที่ตลาดที่มีทั้งร้านค้า ร้านอาหารค่อนข้างเยอะ ถัดไปนิดนึงจะเป็นตลาดบางแคขนาดใหญ่ด้วย ส่วน Seacon บางแคและ Lotus’s บางแคก็อยู่ไม่ไกลค่ะ ทำให้สามารถซื้อของกินของใช้ก่อนเข้าบ้านได้ง่ายมากๆ แต่โดยรอบโครงการเป็นที่ดินเปล่าค่อนข้างเยอะ ทำให้ช่วงกลับบ้านตอนค่ำๆดึกๆ แนะนำให้เรียกใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ที่อยู่ใกล้ๆรถไฟฟ้าหรือ App เรียกรถต่างๆดีกว่านะคะ
The Holmes สาทร-บางแค ถือเป็นโครงการขนาดเล็กที่มีเพียง 34 ยูนิตบนที่ดินประมาณ 3 ไร่ โดยบ้านทุกหลังจะอยู่ติดกับถนนหลักของโครงการ ทำให้เข้า-ออกโครงการได้ง่าย ส่วนพื้นที่ส่วนกลางก็มีเพียงระบบความปลอดภัยภายในโครงการ ทำให้โครงการนี้เหมาะกับคนที่เน้นบ้านใกล้รถไฟฟ้ามากๆ ไม่ได้ใช้งานส่วนกลางบ่อยๆหรือชอบบรรยากาศภายในโครงการที่เงียบสงบ เป็นส่วนตัวสูง เพราะมีจำนวนเพื่อนบ้านที่น้อยที่สุดในบทความนี้นั่นเอง แต่พอมีเพื่อนบ้านที่น้อยก็อย่าลืมว่าจะมีจำนวนเพื่อนบ้านที่ร่วมหารค่าส่วนกลางที่น้อยตาม ทำให้ลูกบ้านจะต้องจ่ายค่าส่วนกลางสูงถึง 80 บาท/ตร.วา/เดือนค่ะ
แบบบ้าน
ภาพบรรยากาศภายในบ้าน
มีแบบบ้านให้เลือกเพียงแบบเดียว ได้แก่ ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 34 ยูนิต หน้ากว้าง 5.00 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 21.9 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 183.6 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ ซึ่งถือว่ามีทั้งขนาดที่ดินและพื้นที่ใช้สอยที่ใหญ่กว่าโครงการอื่นๆในบทความนี้ ก็ทำให้มีราคาเริ่มต้นสูงขึ้นไปด้วย อยู่ที่ 6.29 ล้านบาทค่ะ
โครงการนี้เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นที่ออกแบบมีจุดแตกต่างกับทาวน์โฮม 3 ชั้นอื่นๆในบทความนี้หลายจุดเหมือนกันนะ อย่างชั้น 1 จะมีการกั้นปิดห้องครัวมาให้เรียบร้อยเลย จึงไม่ต้องไปเสียเงิน เสียเวลากั้นเพิ่มเอง นอกจากนั้น Master Bedroom ตรงชั้น 3 ที่มีขนาดใหญ่แบบ Penthouse ก็สามารถแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนได้ เรียงลำดับเป็นพื้นที่เตียงนอน ถัดมาเป็นพื้นที่นั่งเล่นและโซนด้านหลังจะเป็นพื้นที่แต่งตัวและห้องน้ำ โดย Master Bathroom จะมีติดตั้งอ่างอาบน้ำมาให้ใช้งานเลย ได้ความพรีเมียมมากขึ้น ได้พื้นที่ภายในห้องน้ำมีขนาดใหญ่ แต่ก็แลกมากับพื้นที่แต่งตัวที่น้อยลงนั่นเอง
The Holmes สาทร-กัลปพฤกษ์ | MRT บางแค ~ 1.9 กม.
เริ่ม 5.39 ล้านบาท
- ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่
- ทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 58 ยูนิต
- หน้ากว้าง 5.00 เมตร
- ที่ดินเริ่มต้น 18.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 170.4 ตร.ม.
- ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
- ค่าส่วนกลาง 80 บาท/ตร.วา/เดือน
บรรยากาศโครงการ
The Holmes สาทร-กัลปพฤกษ์ ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก The Holmes สาทร-บางแค ที่เราพาไปดูกันมาก่อนหน้านี้ แต่โครงการนี้จะตั้งอยู่ติดถนนเทอดไท ค่อนมาทางฝั่งบางแค ใกล้ MRT บางแค 1.9 กิโลเมตร จึงเดินทางได้ง่ายเหมือนกัน ส่วนการเดินทางด้วยรถยนต์ก็ค่อนข้างสะดวกเพราะถนนเส้นนี้สามารถเชื่อมต่อกับถนนสายหลักอื่นๆได้อีกหลายสาย เช่น กัลปพฤกษ์, ราชพฤกษ์, สาทร, สีลม หากใครอยากใช้ทางด่วนก็สามารถไปใช้ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษกได้นั่นเอง ดังนั้นในแง่การเดินทางโดยรวมจึงค่อนข้างสะดวกเลยค่ะ
ต่อมาด้วยตัวถนนเทอดไทนี้เป็นแหล่งชุมชน มีทั้งวัดและโรงเรียนเยอะมาก ทำให้ได้บรรยากาศแบบชุมชน มีร้านค้า ร้านอาหารค่อนข้างเยอะเลย แต่ถ้าอยากไปห้างใหญ่ๆก็จะต้องไปตรงเส้นเพชรเกษมที่มี The Mall บางแค, Seacon บางแค, Lotus’s บางแคและตลาดบางแคที่เป็นตลาดสดขนาดใหญ่ที่คนในย่านนี้มาจับจ่ายใช้สอยกันค่ะ
สำหรับโครงการนี้จะมีจำนวนเพียง 58 ยูนิตบนที่ดินกว่า 5 ไร่ ถือเป็นโครงการขนาดเล็ก แต่ก็มีพื้นที่ส่วนกลางบริเวณด้านหน้าโครงการให้ใช้งานครบครันค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Clubhouse, Lobby, Fitness, สระว่ายน้ำและสวนสีเขียว ทำให้โครงการนี้เหมาะกับคนที่เน้นบรรยากาศการอยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัวสูง แต่ก็มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานได้ด้วยเหมือนกัน
แบบบ้าน
ทาวน์โฮม 3 ชั้น
The Holmes สาทร-กัลปพฤกษ์ จะมีแบบบ้านให้เลือกเพียงแบบเดียว นั่นก็คือ ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.00 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 18.1 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 170.4 ตร.ม. ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ
น่าสนใจที่มีห้องเก็บของด้านหลังพื้นที่จอดรถให้เก็บอุปกรณ์ต่างๆได้เป็นระเบียบ, ห้องนอนรองทั้ง 2 ห้องที่อยู่ชั้น 2 มีขนาดไม่ต่างกันมากนัก แต่ห้องนอนรองฝั่งด้านหน้าบ้านจะได้ระเบียงเล็กๆและเข้าใช้ห้องน้ำที่แชร์ร่วมกันได้ง่ายกว่า, Master Bedroom มีขนาดใหญ่แบบ Penthouse เน้นพื้นที่นอนหลับ-พักผ่อนขนาดใหญ่ พร้อมระเบียงที่อยู่ด้านข้าง ทำให้เวลามาใช้งานตรงระเบียงก็ได้ความเป็นส่วนตัวดี แต่ที่เราว่าดีมากๆคือติดตั้งสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic Sensor ตามประตูและหน้าต่างมาให้ด้วยนั่นเอง ทำให้ได้ทั้งเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการอยู่อาศัยดีเลยค่ะ
The Ozone เพชรเกษม 53 | MRT หลักสอง ~ 2.3 กม.
เริ่ม 4.3-5.66 ล้านบาท
- ที่ตั้งโครงการ >> คลิกที่นี่
- ทาวน์โฮม & โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น จำนวน 210 ยูนิต
- หน้ากว้าง 4.00-5.50 เมตร
- ที่ดินเริ่มต้น 16.4-44 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 145.47-195.63 ตร.ม.
- ฟังก์ชัน 3-4 ห้องนอน / 3-4 ห้องน้ำ / 1-2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์
- ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน (หากใช้งานสระว่ายน้ำหรือ Fitness ต้องซื้อจ่ายเพิ่มครั้งละ 20 บาท)
บรรยากาศโครงการ
ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 53 ห่างจากเส้นเพชรเกษมประมาณ 1.1 กิโลเมตร จึงใช้เดินทางเชื่อมต่อไปยังเส้นถนนต่างๆได้ เช่น ถนนกาญจนาภิเษก, พุทธมณฑลสาย 1-2 และราชพฤกษ์ เป็นต้น นอกจากนั้นยังอยู่ห่างจาก MRT หลักสองประมาณ 2.3 กิโลเมตร ซึ่งข้อดีของสถานีนี้ คือ มีอาคารจอดแล้วจร ทำให้ลูกบ้านสามารถขับรถมาจอดพักไว้ที่อาคารนี้แล้วต่อรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางเข้าเมืองไปทำงาน ทำธุระได้สะดวก ไม่ต้องขับฝ่ารถติดเข้าเมืองค่ะ ที่สำคัญยังอยู่ติดกับห้าง The Mall บางแคที่เป็นห้างหลักบนทำเลนี้เลยนะ หากขยับไปอีกหน่อยก็มีทั้ง Seacon บางแค, Lotus’s บางแคและตลาดบางแคให้มาเดินช้อปปิ้งกันได้ แต่ถ้าใกล้ๆตัวโครงการ บริเวณต้นซอยจะมี Cafe Amazon ร้านค้า ร้านอาหารอยู่ประปรายให้มาซื้อของกันได้ รวมถึงฝั่งตรงข้ามก็มี 7-11 และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค จึงอยู่อาศัยใช้ชีวิตได้สบายเลย
สำหรับตัวโครงการจะมีทั้งหมด 210 ยูนิต ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 19 ไร่ ออกแบบพื้นที่ส่วนกลางเป็น 2 จุดแบ่งเป็นอาคาร Clubhouse และสวนสีเขียวตรงบริเวณตรงกลางโครงการ ให้ลูกบ้านเข้าใช้งานได้ง่าย ส่วนอีกจุดจะอยู่บริเวณด้านในสุดของโครงการที่ติดคลองภาษีเจริญจะออกแบบเป็นพื้นที่สวนสีเขียวยาวขนานคลอง ทำให้ได้บรรยากาศแบบสวนริมน้ำ นอกจากนั้นยังทำหน้าที่เป็น Buffer Zone ลดเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้านโดยรอบและเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับโซนบ้านด้านในสุด รวมถึงทำให้ลูกบ้านโซนนี้มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้งานได้ในระยะใกล้ๆด้วย ถือว่าออกแบบมาใส่ใจลูกบ้านทุกโซนในโครงการให้สามารถเข้าใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ทั่วถึงดีเลยค่ะ
แบบบ้าน
ทาวน์โฮม 3 ชั้น Double Volume
จริงๆทางโครงการมีแบบบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้นให้เลือกด้วยนะ แต่ได้ Sold Out ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันจึงมีเพียงทาวน์โฮม & โฮมออฟฟิศ 3 ชั้นให้เลือกอยู่ทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน นอกจากนั้นยังเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นที่มีราคาจับต้องได้ง่ายสุดอยู่ที่ 4.3 ล้านบาท (โครงการเพื่อนบ้านที่เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นในบทความนี้ เริ่ม 5 ล้านกลางๆขึ้นไป)
- บ้าน Double Volume ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 4.00 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 16.4 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 145.47 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 1-2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ - บ้าน Double Volume ทาวน์โฮม 3 ชั้น (แปลงมุม) หน้ากว้าง 5.50 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 31.0ตร.วา (มีพื้นที่ด้านข้าง) พื้นที่ใช้สอย 160 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ / 1 ห้องอเนกประสงค์ - บ้านริมน้ำ ทาวน์โฮมพรีเมียม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.50 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 44 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 195.63 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 4 ห้องน้ำ / 2 ที่จอดรถ - Home Office 3 ชั้น (ด้านหน้าโครงการ) หน้ากว้าง 5.50 เมตร ที่ดินเริ่มต้น 20.8 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 171 ตร.ม.
– ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน / 3 ห้องน้ำ / ชั้นลอย
เราจะขอโฟกัสที่ทาวน์โฮมของโครงการนี้กันนะคะ โดยบ้าน Double Volume ทั้ง 2 แบบมีการออกแบบและจัดฟังก์ชันเหมือนกัน แต่แตกต่างกันเพียงขนาดหน้ากว้างบ้าน จึงทำให้ทาวน์โฮมหน้ากว้าง 4 เมตร มีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าและจอดรถได้เพียง 1 คัน (แต่ทางโครงการอนุญาตให้จอดรถบริเวณใกล้ๆได้อีก 1 คัน ลองสอบถามโครงการอีกครั้งนะคะ) ซึ่งทาวน์โฮมทั้ง 2 แบบนี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่ Double Volume ฝ้าเพดานสูงตรงพื้นที่นั่งเล่น ทำให้ได้บรรยากาศภายในบ้านที่โปร่งโล่งตั้งแต่เดินเข้าบ้านมาเลย จึงถือเป็น Highlight ของแบบบ้านนี้ที่ไม่มีในโครงการอื่นของบทความนี้นั่นเอง
ส่วนบ้านริมน้ำที่เป็นทาวน์โฮมพรีเมียม 3 ชั้นจะไม่ได้การออกแบบฝ้าเพดานสูงเหมือน 2 แบบแรก แต่จะได้เป็น 4 ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เราชอบมากๆเลย คือ ออกแบบพื้นที่นั่งเล่นอยู่ฝั่งด้านหลังบ้าน รวมถึงยังใช้พื้นที่ลานซักล้างด้านหลังบ้านเป็นสวนสีเขียว ทำให้เรานั่งพักผ่อนภายในบ้านได้อย่างเป็นส่วนตัวและยังมีวิวสีเขียวเพิ่มความสดชื่นได้ดีเลย นอกจากนั้นยังมีโครงสร้างบ้านแบบก่ออิฐมวลเบา จึงสามารถทุบปรับเปลี่ยนหรือต่อเติมพื้นที่ได้ตามการใช้งานด้วย ถือเป็นข้อดีอีกจุดของโครงการนี้ค่ะ
สรุป 6 ทาวน์โฮมไม่เกิน 7 ลบ. ใกล้ MRT สายสีน้ำเงินในระยะ 3 กม.
- ราคาจับต้องได้ง่ายสุด : CHER บางขุนนนท์ และ Golden Town ศิริราช-ราชพฤกษ์ เป็นทาวน์โฮม 2 ชั้นที่มีราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท ส่วนทาวน์โฮม 3 ชั้นจะเป็น The Ozone เพชรเกษม 53 ที่มีราคาเริ่มต้นดีสุดด้วยราคา 4.3 ล้านบาท
- ใกล้รถไฟฟ้า MRT มากที่สุด : The Holmes สาทร-บางแค อยู่ใกล้ MRT สถานีบางแคเพียง 750 เมตร รองลงมาจะเป็น The Metro เพชรเกษม 48 ห่างจาก MRT สถานีเพชรเกษม 48 อยู่ที่ 1.2 กิโลเมตร ทำให้ไปใช้งานรถไฟฟ้าได้สะดวกดี
- ยูนิตน้อย เน้นความเป็นส่วนตัวสูง : The Holmes สาทร-บางแค มีจำนวนเพียง 34 ยูนิต รวมถึงไม่มีพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้ได้บรรยากาศการอยู่อาศัยภายในโครงการที่เงียบสงบ รองลงมาเป็น The Holmes สาทร-กัลปพฤกษ์ มีจำนวนเพียง 58 ยูนิต
- บ้านหน้ากว้าง : CHER บางขุนนนท์ และ The Metro เพชรเกษม 48 มีแบบบ้านหน้ากว้าง 5.7 เมตรให้เลือกด้วย (แตกต่างจากโครงการเพื่อนบ้านอื่นๆที่มีหน้ากว้าง 4.00-5.50 เมตร) สำหรับคนที่อยากจอดรถได้สบายๆ แล้วได้บรรยากาศภายในบ้านที่โปร่งมากยิ่งขึ้น
- โครงสร้างบ้านทุบ-ต่อเติมได้ : จะมีอยู่ 2 โครงการด้วยกัน ได้แก่ CHER บางขุนนนท์ มีโครงสร้างบ้านเป็นการก่ออิฐมอญแดงและ The Ozone เพชรเกษม 53 จะก่อเป็นอิฐมวลเบา จึงรองรับการปรับเปลี่ยนเพื่อขยับขยายพื้นที่ในอนาคตได้สบายๆ
- Double Volume ฝ้าเพดานสูง : The Ozone เพชรเกษม 53 เป็นโครงการเดียวที่มีการออกแบบพื้นที่ฝ้าเพดานสูง โดยจะออกแบบตรงพื้นที่นั่งเล่น ทำให้ได้บรรยากาศที่โปร่งโล่งมากๆเลย
- ห้องอเนกประสงค์ รองรับกิจกรรมอื่นๆ : หลายๆโครงการจะมีห้องอเนกประสงค์ตรงชั้นล่างมาให้ในบางแบบบ้าน แต่ Golden Town ศิริราช-ราชพฤกษ์ จะเป็นโครงการเดียวที่มีห้องอเนกประสงค์ในบ้านทุกหลัง จึงรองรับกิจกรรมต่างๆหรือใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุก็ยังได้นะ
- มีการติดตั้งเทคโนโลยีภายในบ้าน : The Metro เพชรเกษม 48 จะมีติดตั้ง Smart Home Automation ให้การสั่งควบคุมอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้านมาให้ ส่วน The Holmes สาทร-กัลปพฤกษ์ จะมีติดตั้ง Magnetic Sensor ตรงประตูและหน้าต่างมาให้ด้วย ทำให้ได้ในเรื่องความปลอดภัยที่มากขึ้น
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับบทความรวมโครงการบ้านแนวราบมือหนึ่งที่ยังเปิดขายอยู่และมีระยะไม่เกิน 3 กิโลเมตรจาก MRT สายสีน้ำเงิน ในงบไม่เกิน 7 ล้านบาทที่ถือเป็นของหายากอยู่เหมือนกันนะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโครงการบ้านให้เราได้เลือกซื้อเลยค่ะ
เราได้รวบรวมมา 6 โครงการด้วยกัน โดยจะเป็นทาวน์โฮมทั้งหมดเลย มีให้เลือกทั้งแบบบ้าน 2 ชั้น อยู่กันได้พอดีๆหรือแบบ 3 ชั้นที่ได้พื้นที่ใช้สอยใหญ่ไม่แพ้บ้านแฝดหรือบ้านเดี่ยว ส่วนราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 3.99-6.29 ล้านบาท ซึ่งแต่ละโครงการก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปตามที่เราได้สรุปเป็นตารางตามภาพด้านบนเลยนะคะ ทุกคนจึงเลือกซื้อบ้านให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของแต่ละคนได้เลย ไว้ครั้งหน้าทาง Think of Living จะมีบทความน่าสนใจอะไรอีกบ้างก็รอติดตามกันต่อได้เลยค่ะ 😊